ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย จงรักภักดี, 28 เมษายน 2009.

  1. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ลีลาคชยุทธพระนเรศวรมีชัย ท่าที่ ๖ คชสารประสานงา

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 0080_resize.jpg
      0080_resize.jpg
      ขนาดไฟล์:
      152 KB
      เปิดดู:
      1,139
  2. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ลีลาคชยุทธพระนเรศวรมีชัย ท่าที่ ๗ บาทาลูบพักตร์

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 0081_resize.jpg
      0081_resize.jpg
      ขนาดไฟล์:
      167.1 KB
      เปิดดู:
      1,130
  3. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ลีลาคชยุทธพระนเรศวรมีชัย ท่าที่ ๘ หักคอเอราวัณ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 0082_resize.jpg
      0082_resize.jpg
      ขนาดไฟล์:
      143.1 KB
      เปิดดู:
      1,108
  4. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ลีลาคชยุทธพระนเรศวรมีชัย ท่าที่ ๙ โค่นเขาพระสุเมรุ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 0083_resize.jpg
      0083_resize.jpg
      ขนาดไฟล์:
      147.8 KB
      เปิดดู:
      1,106
  5. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ลีลาคชยุทธพระนเรศวรมีชัย ท่าที่ ๑๐ เถรกวาดลาน

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 0084_resize.jpg
      0084_resize.jpg
      ขนาดไฟล์:
      153.2 KB
      เปิดดู:
      1,138
  6. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ลีลาคชยุทธพระนเรศวรมีชัย ท่าที่ ๑๑ บั่นเศียรทศกัณฑ์

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 0085_resize.jpg
      0085_resize.jpg
      ขนาดไฟล์:
      153.8 KB
      เปิดดู:
      1,005
  7. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ลีลาคชยุทธพระนเรศวรมีชัย ท่าที่ ๑๒ ประหารราชสีห์

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +3,210
    <TABLE class=tborder id=post2991882 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->vacharaphol<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2991882", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Oct 2005
    ข้อความ: 9,919
    Groans: 1
    Groaned at 38 Times in 31 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 32
    ได้รับอนุโมทนา 30,613 ครั้ง ใน 5,868 โพส
    พลังการให้คะแนน: 3021 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_2991882 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><CENTER><!-- google_ad_section_start -->ดญ.ยอดกตัญญู เลี้ยงยาย85 กินข้าวก้นบาตร<!-- google_ad_section_end -->

    </CENTER>
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-2576485761337625";/* 250x250, created 31/01/09 */google_ad_slot = "7252767143";google_ad_width = 250;google_ad_height = 250;//--> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 250px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 250px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 250px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 250px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><IFRAME id=google_ads_frame1 style="LEFT: 0px; POSITION: absolute; TOP: 0px" name=google_ads_frame marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-2576485761337625&output=html&h=250&slotname=7252767143&w=250&lmt=1266610510&flash=10.0.32.18&url=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff11%2F%E0%B8%94%E0%B8%8D-%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B9-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A285-%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3-228074.html%23post2991882&dt=1266610510187&correlator=1266610510187&frm=0&ga_vid=126053453.1248417257&ga_sid=1266609537&ga_hid=573202279&ga_fc=1&ga_wpids=UA-7034934-1&u_tz=-480&u_his=20&u_java=1&u_h=720&u_w=1280&u_ah=690&u_aw=1280&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1259&bih=530&ref=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2F&fu=0&ifi=1&dtd=31&xpc=Evmi3MFVa5&p=http%3A//palungjit.org" frameBorder=0 width=250 scrolling=no height=250 allowTransparency></IFRAME></INS></INS>
    ดญ.ยอดกตัญญู เลี้ยงยาย85 กินข้าวก้นบาตร


    [​IMG]
    พบ ด.ญ.ที่เพชรบูรณ์วัย 11 ขวบถูกทิ้งให้อยู่กับยายวัย 85 ปีในกระต๊อบผุพังตั้งแต่แบเบาะ โชคดีหลวงตาผ่านมาเห็นเอานมกระป๋องมาเลี้ยงจน 3 ขวบ ต้องหิ้วปิ่นโตตามพระบิณฑบาต รอข้าวมาเลี้ยงดูยาย..

    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ก.พ. ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำ จ.เพชรบูรณ์ ได้รับทราบว่า ที่วัดลาดน้อย หมู่ 13 ต.พุทธบาท อ.ชนแดน มีเด็กหญิงกตัญญูฐานะยากจนไม่มีพ่อแม่ อาศัยอยู่กับยายในกระต๊อบไม้ไผ่เก่าๆ ผุพัง ฝาบ้านใช้ไม้ไผ่สับตีกั้นบังแดดบัง ลม ส่วนอุปกรณ์เครื่องครัว ไม่มีแม้แต่ชิ้นเดียว ไม่มีไฟฟ้าใช้

    เมื่อเดินทางไปถึงพบ นางสนิท กลั่นทอง อายุ 85 ปี ตาฝ้าฟางมองไม่ค่อยเห็น เดินไปไหนมาไหนยากลำบาก เล่าว่า อาศัยอยู่ในกระต๊อบกับหลานเพียงลำพัง 2 คน คือ ด.ญ. สุวันดี หรือ น้องแหม่ม กลิ่นปิ่น อายุ 11 ขวบ โดยน้องแหม่ม เกิดมาไม่เคยพบหน้าทั้งพ่อและแม่ ถูกทิ้งตั้งแต่ลืมตาดูโลกได้ไม่กี่วัน ส่วนพ่อไม่รู้ว่าเป็นใคร ทุกวันนี้ ตอนเช้าน้องแหม่มจะไปที่วัด ช่วยหิ้วปิ่นโตตามพระออกบิณฑบาต ส่วนเวลาเย็นไปเก็บกวาดเช็ดถูศาลาการเปรียญ และพระจะเก็บอาหาร เมื่อกลางวันที่ฉันเพลแล้วไว้ให้

    [​IMG]

    ผู้สื่อข่าวตามไปถึงวัดลาดน้อย พบ ด.ญ.สุวันดี หรือ น้องแหม่ม กำลังทำหน้าที่เป็นลูกศิษย์วัด จัดอาหาร ประเคนให้พระฉัน อย่างแคล่วคล่อง และนั่งพนมมือรอรับใช้อยู่ข้างๆ พระ โดยน้องแหม่มเล่าว่า ทุกเช้า ต้องตื่นแต่ตีห้า ออกหิ้วปิ่นโตบิณฑบาตกับพระ หลังพระฉันเสร็จก็จะล้างจานถูศาลา นำเศษอาหารใส่ปิ่นโตถือมากินกับยาย ถ้าเหลือก็จะห่อข้าวใส่ปิ่นโต ไปโรงเรียน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านเท่าใดนัก ปฏิบัติอย่างนี้ตั้งแต่อายุได้ 3 ขวบ พร้อมทั้งเปิดเผยความรู้สึกว่าอยากมีพ่อมีแม่เหมือนคนอื่นเขา

    ด้านนางสนิท กลั่นทอง ผู้เป็นยาย น้องแหม่ม เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ ปี 2540 ลูกสาวของตน ชื่อ น.ส.ศิวภา หรือ ส้ม กลั่นทอง ไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพ ฯ และท้องกลับมาที่บ้าน โดยไม่บอกว่าใครเป็นพ่อ จนกระทั่งคลอดลูกแล้วก็ทิ้งไว้ให้ตนเลี้ยงดู และหนีเข้ากรุงเทพฯ หายสาบสูญ ไปจนกระทั่งทุกวันนี้ ไม่ส่งข่าวคราวมาเลย กว่า 10 ปีแล้ว จนกระทั่ง พระประเสริฐ สิริปัญโญ หรือหลวงตาอุ้ย อายุ 77 ปี พระลูกวัดลาดน้อย บิณฑบาต ผ่านมาเห็นร้องไห้อยู่ในกระท่อมสงสาร นำเอานมกระป๋อง ขนมมาให้ทุกวัน จนน้องแหม่มอายุได้ 3ขวบ ก็เข้าไปช่วยหลวงตาเก็บกวาดศาลา และหิ้วปิ่นโตตามหลังทุกเช้า หลังพระฉันเสร็จก็จะเอาอาหารใส่ปิ่นโต กลับมากินกับยายที่บ้าน และห่อข้าวโดยใส่ปิ่นโตไปโรงเรียน

    น้องแหม่ม เล่าเพิ่มเติมว่าไม่ค่อยได้ไปโรงเรียนมากนัก เพราะต้องคอยดูแลยายที่แก่ชรามากแล้ว บางครั้งก็ไม่มีอาหารกินและเสื้อผ้านุ่งไปโรงเรียน จึงขาดเรียนบ่อยมาก หลังเลิกเรียนก็จะแวะที่วัดเก็บกวาดศาลาและเอาอาหารหลังพระฉันเพล จะเก็บ ไว้ให้ใส่ปิ่นโตนำกลับมาบ้านกินกับยาย จากนั้นจะเก็บกวาดบ้านซักเสื้อผ้าชุดนักเรียนที่มีกับเขาอยู่ 1 ชุด ต้องซักทุกวัน แล้วก็จะเอาถุงปุ๋ย ออกเดินไปตามถนนเก็บขวดพลาสติก กระดาษของเก่าตามข้างถนน นำไปขายเอาเงินมาซื้อยารักษาโรคให้ยาย และซื้อของใช้ประจำวัน

    ผู้ใจบุญท่านใดสงสารมีเมตตา ติดต่อได้ที่เบอร์ โทรศัพท์ 087-200-90817 หรือโอนเงินเข้าบัญชี กองทุนเพื่อการศึกษา ของ ด.ญ. สุวันดี กลิ่นปิ่น ธนาคารออมสิน สาขาชนแดน จ.เพชรบูรณ์ 0 2 0 0096580461.
    ดญ.ยอดกตัญญู เลี้ยงยาย85 กินข้าวก้นบาตร - ข่าวไทยรัฐออนไลน์




    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    เห็นความกตัญญู ของเด็กคนนี้ แล้วอดสงสารไม่ได้ค่ะ

    หากท่านใดมีกำลังทรัพย์ โปรดช่วยกันบริจาค เงินเพื่อช่วยเหลือเขาหน่อยนะคะ

    ผลของความกตัญญู จะส่งผลทำให้ชีวิตเด็กหญิงคนนี้ เจริญยิ่งๆขึ้นๆ

    เอาใจช่วยค่ะ

    อนุโมทนา

    ขอบคุณแหล่งที่มา และ คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->vacharaphol<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2991882", true); </SCRIPT> ขออนุโมทนา ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2010
  9. ศรัทธา_พิสุทธิ์

    ศรัทธา_พิสุทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +205
    อนุโมทนากับน้องโมเย ค่ะ ได้อ่านเรื่องของด.ญ.สุวันดี หรือน้องแหม่ม แล้ว

    อึ้งไปหมดเลยค่ะ สงสาร และซาบซึ้งในความกตัญญูรู้คุณของเด็กตัวน้อย คิด

    อยากจะช่วยเหลือ ช่วยแบ่งเบา ด้วยการแบ่งปันตามกำลัง ส่วนตัวได้ตั้งใจว่า

    จะโอนเงินไปร่วมสมทบเป็นทุนค่ะ ก็ขอเรียนเชิญท่านที่ได้อ่านพบได้โปรดยื่น

    มือกันให้ความช่วยเหลือกันตามกำลังนะคะ ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วย

    ค่ะ
     
  10. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
  11. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top width="16%" rowSpan=2>srisiam ชมพูพาน
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    ตอบ: 169




    </TD><TD vAlign=top width="85%" height="100%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อ 07 ก.ย. 09, 00:59


    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20></TD></TR></TBODY></TABLE><HR style="BACKGROUND-COLOR: #adadad">น. ณ ปากน้ำกล่าววัดบ้านน้อยไว้ใน "ไปพิสูจน์เจดีย์ยุทธหัตถีที่ดอนเจดีย์"ในนิตยสารชาวกรุง เล่ม 7 ประจำเดือน เมษายน 2516 ว่า......ถ้าจะดูให้เห็นชัดก็ให้ไปดูที่วัดบ้านน้อย ซึ่งอยู่ห่างจากเจดีย์ยุทธหัตถีเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น ที่นั่นศิลปการก่อสร้างเป็นแบบอยุธยาอย่างชัดเจน เจดีย์ระฆังคอดกว่าส่วนบน เป็นเจดีย์รุ่นเดียวกับปรางค์ยอดบานดังว่า แสดงว่าสร้างในยุคสมัยเดียวกัน ที่วิหารหลังเจดีย์พบกระเบื้องลอน และกระเบื้องเชิงชายแบบอยุธยา ซุ้มประตูมีลวดลายเป็นเครือเดียวอันปรากฎที่ปรางค์ใกล้เจดีย์ยุทธหัตถี ด้วยพระพุทธรูปประธานในวิหาร ทำด้วยหินทรายแดงแบบอยุธยาตอนกลาง เสาประดับที่ซุ้มประตู เป็นเสาแปดเหลี่ยม บัวกลุ่มเป็นกลีบ เป็นเสาอยุธยา


    ศิลปของวัดบ้านน้อยมีความเกี่ยวพันกับกลุ่มเจดีย์ใกล้กับเจดีย์ยุทธหัตถีแทบเป็นอันเดียวกัน แสดงให้เห็นว่า เมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงสร้างเจดีย์ยุทธหัตถีแล้ว ก้ได้สร้างกลุ่มเจดีย์ ซึ่งมีปรางค์เป็นประธาน สำหรับสวมพระมหาอุปราชากับเจ้าชายพม่าที่สิ้นพระชนม์ครั้งนั้น และก็ได้ทรงสร้างวัดขึ้นด้วยในอาณาบริเวณเดียวกันเป็นการล้างบาป ด้วยสงครามครั้งนี้ผู้คนช้างม้าล้มตายเหลือคณนานับ แม้บัดนี้ชาวบ้านก็ยังขุดเอากระดูกอันเกลื่อนสมรภูมิขึ้นมาเผาทุกปี ก็ยังไม่หมดง่ายๆ ไม่ว่าเดินไปทางไหนจะพบแต่ชิ้นกระดูกทั้งนั้น
    วัดบ้านน้อย จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราสามารถกำหนดอายุสมัยของพระเจดีย์สมัยอยุธยาตอนกลางให้เชื่อมโยงถึงกันได้โดยตลอด ซึ่งแต่เดิมหมวดหมู่เจดีย์รุ่นนี้ขาดหายไป แม้ในอยุธยาก็พังเสียหมดไม่ปรากฎ คงห็นแต่ในภาพเขียนเท่านั้น เมื่อมาปรากฎอยู่บริบูรณ์ ณ วัดบ้านน้อยเช่นนี้ จึงเป็นลาภอันประเสริฐในการศึกษาศิลปกรรมของชาติ .....................////.........ทุกวันนี้บ้านเมืองฟั่นเฝือไป ก็เพราะว่าบุคคลบางคนเช่นนักประวัติศาสตร์ สำคัญตนผิด อวดรู้ว่าเป็นนักปราชญ์ทางศิลป ไปเที่ยวชี้โน่นชี้นี่ ว่าใช่หรือไม่ใช่ เป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก ของอย่างนี้มิใช่มาศึกษากันเล่นๆเพียงวันสองวันแรก จะต้องลูบคลำกินนอนอยู่กับมันเป็นแรมปี จึงจะเข้าใจวิญญาณของศิลปเหล่านั้น ข้าพเจ้าถ่ายรูปงานเหล่านี้ส่งให้อวบ สานะเสน ซึ่งเคยไปจำเจอยู่ในอยุธยาเป็นเวลานาน เพียงมองปราดเดียวก็เห็นว่าเป็นศิลปอยุธยา นั่นเขาชำนาญงานมามากเพียงเห็นก็รู้ สมพงษ์ สมใจเจริญ ซึ่งเคยไปชลุกอยู่อยุธยามานาน พอไปเห็นวัดบ้านน้อย เขาก็อุทานออกมาว่า เป็นศิลปอยุธยาอย่างชัดๆ...........

    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิงข้อมูลมาจาก ใบเสมาใหม่ล่าสุด เปิดตัวแล้ว
     
  12. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top width="16%" rowSpan=2>srisiam ชมพูพาน
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    ตอบ: 169



    </TD><TD vAlign=top width="85%" height="100%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ความคิดเห็นที่ 75 เมื่อ 08 ก.ย. 09, 11:47

    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20></TD></TR></TBODY></TABLE><HR style="BACKGROUND-COLOR: #adadad">...ลองย้อนรำลึกนึกถึงบรรยากาศคราเสร็จศึกสงครามยุทธหัตถีครั้งนั้น...หลังจากขับไล่ทำลายอริราชศัตรูที่เป็นผู้รุกรานล้มตายมากกว่ายี่สิบพันในวันเดียว...บรรยากาศผ่อนคลายจากการได้ชัยชนะเหนือพม่า..เสร็จจากการดูแลรักษาผู้บาดเจ็บ..และเก็บเผาศพเหล่าวีรชนคนกล้าทั้งหลาย...ก็เป็นวาระของการบูรณะสร้างบ้านแปงเมืองในชายขอบ..เนื่องด้วยต้องคงปราการด่านหน้าอันสำคัญนี้ไว้..ทหารผ่านศึกที่ยังคงบาดเจ็บต้องรักษาเป็นเพลานาน..คงตัดสินใจลงหลักปักฐานในย่านนี้..เกิดเป็นชุมชนใหม่ใหญ่กว่าเดิม..ที่บ้านหนองขาว...พนมทวน..การบวชอุทิศเหล่าวีรชนมิตรร่วมรบที่เสียสละ...ก็เกิดขึ้น..พร้อมเป็นการล้างบาป...ทหารผ่านศึกจำนวนมหาศาล....คงบวชพร้อมกันในวันเดียว..เป็นนาคหลวงในพระบรมราชานุเคราะห์แห่งพระองค์ดำ..ในพรรษานั้น..การสร้างวัดในย่านทุ่งกระพังกรุก็ก่อเกิดการประชันขันแข่งในฝีมือ...เฃิงช่างหลากหลาย...ก็ทะลักทะลายออกมาให้ปรากฎ...อวดเด่นเป็นสง่าอวดสายตาเอ็งข้าอยู่..ตราบวันนี้..
    ทนหน่อยพี่น้อง...ของมันขึ้น..มิได้อวดรู้...แต่ด้วยความเคารพบูชาฝีมือช่างบรมครูแต่ปางบรรพ์...เมื่อผันมาเห็นเจดีย์ระฆังคอดองค์งามนี้...ก็อดมิได้ที่จะออกอาการเพื้อเจ้อละเมอกลางวัน...ฝัน...ฝัน..เล่นๆว่าแรงจูงใจอันใดฤๅ..เป็นพลังผลักดันให้ท่านรังสรรค์งานได้วิจิตรบรรจง....อันสุโขทัยนั้นรู้อยู่...ว่าท่านนฤมิตรงานได้ปานสวรรค์สร้างเพราะความเจริญรุ่งเรืองสูงสุด..แห่งพระพุทธศาสนาและพระบารมี..แรงขับเคลื่อนจึงน่าจะมาจากศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นปัจจัยหลัก...แต่ยุคสมัยองค์พระนเรศ..นั้นแผ่นดินที่เพิ่งตกอยู่ใต้อุ้งตีนพม่ามานานหลายปี...มาพลิกฟื้นคืนกลับมาดีได้ก็ด้วยพระมหาฤทธานุภาพแห่งพระองค์ท่าน...พวกซ้ายตกขอบกรุณาอย่าเอ่ยอ้างว่าประชาชนนั้นมีส่วนสร้าง ไม่เถียงเอ็งดอก...แต่อย่าบ้าลัทธิสิทธิมนุษยชนและปัจเจกชนนิยมจอมปลอมจนลืมรากเหง้าของเราเอง.....พล่ามมายาว..ได้โปรดอย่าถือสา...แรงบันดาลใจมาจากระฆังคอดองค์นี้องค์เดียว...จริงๆ...โปรดสังเกตุความอวบอิ่มชั้นกลีบบัวหงายล้อกับอวบอ้วนแห่งระฆังคอด..อัตราส่วนความสูงโดยเปรียบเทียบของทั้งสองช่วงนี้...ไม่เหมือนองค์อื่น..มีเสน่ห์ไปอีกแบบ..เชื่อด้วยส่วนตัวว่านี่คือการประชันขันแข่งแห่งฝีมือและเชิงช่างโดยยังอยู่ในกรอบแห่งศิลป์สมัยสไตล์อยุธยาตอนกลางในสภาวะบรรยากาศผ่อนคลายแห่งการฉลองชัย....ขออภัยอีกครั้งในความไม่สงบแห่งอารมย์
    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top width="16%" rowSpan=2>srisiam ชมพูพาน
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    ตอบ: 169



    </TD><TD vAlign=top width="85%" height="100%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ความคิดเห็นที่ 127 เมื่อ 06 ธ.ค. 09, 00:12

    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20></TD></TR></TBODY></TABLE><HR style="BACKGROUND-COLOR: #adadad">อัพเดท วัดบ้านน้อย...ล่าสุด
    ค้นพบจารึกวัดบ้านน้อย...บนแผ่นอิฐ โดยนายปติสร เพ็ญสุต นักศึกษาปริญญาโท ภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ขณะสำรวจและเก็บข้อมูลในวัดบ้านน้อยเมื่อ 23 สิงหาคม 2552

    เป็นข้อความภาษาไทย 4 บรรทัด สมัยอยุธยา - ไม่เก่ากว่าอยุธยาตอนกลาง

    ภาพจารึกและรายละเอียด ดูได้ที่ ประวัติวัฒนธรรมลุ่มน้ำทวน-จระเข้สามพัน (เรื่องเล่าจากสุจิตต์ วงษ์เทศ) ศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมสัญจร www.is-trip.com/

    และจารึกวัดบ้านน้อย ที่พนมทวน จ.กาญจนบุรี คอลัมน์ สยามประเทศไทย - www.sujitwongthes.com/cms/index.php?option=com...

    ปติสร เพ็ญสุต ถ่ายภาพ
    </TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
  15. ลูกพ่อขุน

    ลูกพ่อขุน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +10
    ขอบคุณครับ...คุณโมเยที่จะหาดูรูปให้ ผมพอจำได้บ้างละว่าเคยเห็นที่ไหน ผมเคยเห็นในหนังสือพงศาวดาร แต่จำไม่ได้ว่าเล่มไหนที่มีรายการหนึ่งออกว่าเจ้าปู่ทำยุทธหัตถีที่ไหน ผมก็ไม่ถามปู่แต่กลับบ้านไปผมจะลองถามปู่ดู ว่าเรื่องราวเป็นมาไงบ้าง เจดีย์ปู่ทั้งสี่มุมแต่ละมุมจะเพชร พลอย เงิน ทอง ผืนแต่ละมุมที่มีเสี่ยงจะดังแปลกจากผืนโดยลอบ ส่วนรูปผมกลับบ้านสินเดือนจะขอเอามาลงให้ดูกันได้เปล่าครับ คุณโมเยแต่งเพลงแต่ละเพลงนานเปล่าครับถ้าผมขอให้โมเยแต่งเพลงสักเพลงจะได้เปล่าครับ เพราะไม่เคยมีใคร่แต่งเพลงเกี่ยวเลยได้แต่พูดถึง ทั้งๆทีรับใช้ศาสนามานาน เรื่องราวของปู่ถ้าถามปู่แล้วจะมาเล่าให้ฟังกัน เป็นการบอกเล่าสู่กันฟัง...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2010
  16. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    เรื่องราวของปู่ถ้าถามปู่แล้วจะมาเล่าให้ฟังกัน เป็นการบอกเล่าสู่กันฟัง

    สวัสดีค่ะ น้องโมเยกับคุณลูกพ่อขุนคุยอะไรกันมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ รอฟังค่ะ

    ------------------------------------------

    ถ้าตามหมายกำหนดเดิมวันนี้ต้องอยู่เชียงใหม่เจอน้องโมเยแล้ว

    -------------------------------------------

    เรื่องราวของมหาราชผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยได้คุยกับคุณอ่อนหัดธรรม

    ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ
    -----------------------------------------------------------------------

    พี่น้ำฝนเนี่ยจำบางคนได้ เพื่อนทางสายธาตุไปบวงสรวงสมเด็จฯที่ เจดีย์ยุทธหัตถีที่ อ.พนมทวน

    พี่น้ำฝนถึงกับไม่เป็นผู้บรรยายเลย ให้เด็กๆบรรยายแทน พี่เขาเดินตามหาเพื่อนคนนี้เพราะพี่เขาว่าเห็นแล้วจำได้ อยากทัก

    เป็นเรื่องเฉพาะตัวเฉพาะตน ปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตนเท่านั้นที่พี่น้ำฝนกับเพื่อนรู้กันว่ารู้จักกันมาก่อน

     
  17. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    จากด่านเจดีย์สามองค์ ตั้งทัพรับศึกที่ ตระพังตรุ จ. กาญจนบุรี มีความเป็นไปได้สูงกว่า

    [​IMG]
    จุด A คือด่านเจดีย์สามองค์ เขียวๆคือเทือกเขา ดังนั้นทัพพม่าคงเดินมาตามรอยเส้นถนน (โดยส่วนใหญ่ถนนสร้างตามรอยทางเดินโบราณนั่นเอง) จะมาเจอกับทัพสมเด็จพระนเรศวร รับที่ อ. พนมทวน จ.กาญจนบุรี​

    หากไปตั้งรับที่ดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นระนาบเดียวกับ จ.อ่างทอง พม่าคงไม่น่าจะเดินอ้อมไปทางนั้น เพราะตรงเข้าโจมตีกรุงศรีฯอยุธยาโดยตรงจะดีกว่า​

    จึงเชื่อว่าสมรภูมิรบน่าจะเป็นที่ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี นี่เอง ​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
    เมื่อสักครู่ได้ฟังคำอธิบายเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องดินอ่อน ดินแข็ง จากหลวงพี่ พระมหาฤทธิชัย กัลยาโน ค่ะ

    ที่ทางสายธาตุไปคาดว่าพม่าจะยกเข้าตีกรุงศรีฯได้โดยผ่าน อ.สองพี่น้อง สุพรรณบุรี

    ผ่านบางซ้าย ผ่านเสนา บางไทร อยุธยา เข้าตีกรุงศรีอยุธยานั้น ทำไม่ได้ เพราะเป็นช่วงปลายฝน

    ทัพช้าง ทัพม้า เดินไม่ได้ ติดหล่ม ต้องเดินไปตามที่เนิน ซึ่งต้องขึ้นไปทาง อ.ดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี แนวนี้แหละที่เป็นแนวเดินทัพ

    สมเด็จพระนเรศวรทรงยกทัพหลวงออกจากกรุงศรีฯ มาถึงวัดท่าสุทธาวาส จ.อ่างทอง จะมีคอคอดของแม่น้ำตื้นพอให้ช้าง ม้าเดินข้ามแม่น้ำได้ โดยไม่ต้องว่ายน้ำไป

    ไปขึ้นอีกฝั่ง เป็นฝั่งที่ วัดป่าโมก ตั้งอยู่ แล้วไประดมกำลังทัพใหญ่ ที่หนองสาหร่าย จ.สุพรรณบุรี

    ทัพมหาอุปราชน่าจะตั้งที่เชิงเขาเมื่อออกจากไทรโยคมา ส่วนพระนเรศวรทรงระดมพลที่ หนองสาหร่าย จ สุพรรณบุรี

    จากนั้นทั้งฝ่ายพระมหาอุปราชและสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก็ยกทัพเพื่อมาเผชิญหน้ากัน คงจะพบกันครึ่งทาง คือที่ อ. พนมทวน จ. กาญจนบุรี (ก่อนสมัยรัชกาลที่สาม อ.พนมทวน ขึ้นกับเมืองสุพรรณบุรีมาก่อน)

    ก่อนวันยุทธหัตถี กองทัพหลวงแห่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชตั้งมั่นอยู่ที่ บริเวณที่ดอน มีหนองสาหร่ายเป็นแหล่งน้ำกินน้ำใช้ เดินทัพอีกสามวัน ไปทางพนมทวน เจอกับทัพของพระมหาอุปราชา

    ที่พนมทวนจึงเป็นสนามรบใหญ่ในสงครามยุทธหัตถีค่ะ

    เก็บมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2010
  19. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,922
    ค่าพลัง:
    +6,434
  20. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +3,210
    อนุโมทนา
    จะรอชมภาพ ที่คุณลูกพ่อขุน นำมาให้ชมหนะค่ะ

    การแต่งเพลง แต่ละเพลง ที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์

    ที่โมเยเคยแต่งมา ยาก จริงจริง ทุกเพลงค่ะ

    เพราะจะต้องใช้ทั้งกำลังภายนอก และเรื่องของกำลังภายในจิต

    เพราะ สิ่งที่กล่าวถึงนั้น คือบูรพมหากษัตริย์
    ที่โมเยแต่งขึ้นนี้ แต่งตามวาระ หน้าที่ของตนเองด้วยค่ะ



    หากคุณลุกพ่อขุนมีเรื่องราวดีดี อะไร หรือสิ่งไหน เชิญ เล่าสู่กันฟังได้นะคะ

    ยินดีที่ได้รู้จัก ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...