ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

.........

พระเจ้าอยู่หัวทรงศึกษาเรื่องสมาธิ ด้วยการรวบรวมและประมวลคำสอนของครูบาอาจารย์ทุกท่านแล้ว ก็ทรงพระกรุณาพระราชทานประมวลคำสอนนั้นแก่ผู้ที่ทรงทราบว่ากำลังปฏิบัติสมาธิอยู่ ครั้งหนึ่ง ทรงพระกรุณาพระราชทานแถบบันทึกเสียงของ สมเด็จพระญาณสังวรฯ ให้ผม รับสั่งว่า เป็นบันทึกเสียงการแสดงธรรมเรื่องฉฉักกสูตร (คือพระสูตรว่าด้วยธรรมะ หมวด ๖ รวม ๖ ข้อ ซึ่งอธิบายความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ และความไม่มีตัวมีตนของสิ่งต่างๆ มีอายตนะภายนอก อายตนะภายใน วิญญาณ ผัสสะ เวทนา และตัณหา พระสูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ศึกษาและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน) และทรงแนะนำให้ผมฟังธรรมบทนั้น

ผมรับพระราชทานแถบบันทึกเสียงม้วนนั้นมาแล้ว ก็เอาไปใส่เครื่องบันทึกเสียงและเปิดฟัง ฟังไปได้ไม่ทันหมดม้วนก็ปิด แล้วก็เก็บเอาไว้ไม่ได้ฟังอีก หลังจากนั้นไม่นานนัก ได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแสรับสั่งถามว่า ฟังเทปของสมเด็จฯ แล้วหรือยัง เป็นอย่างไร ผมไม่อาจจะกราบบังคมทูลความอันเป็นเท็จได้ ต้องกราบบังคมทูลตรงๆ ว่าฟังได้ไม่ทันจบม้วนก็ได้หยุดฟังเสียงแล้ว

ตรัสถามต่อไปถึงเหตุผลที่ผมไม่ฟังให้จบ และผมก็จำเป็นต้องกราบบังคมทูลตรงๆ ว่า สมเด็จฯ ท่านเทศน์ฟังไม่สนุก พูดขาดเป็นวรรคๆ เป็นห้วงๆ เนื่องจากสมเด็จฯ พิถีพิถันในการใช้ถ้อยคำและประโยคเทศน์ของท่านนั้น ถ้าเอามาพิมพ์ก็จะอ่านได้สบายกว่าฟัง

พระเจ้าอยู่หัวตรัสถามว่า ที่ฟังสมเด็จฯ เทศน์ไม่รู้เรื่องนั้นก็เพราะคิดไปก่อนหรือไม่ว่า สมเด็จฯ ท่านจะพูดว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ครั้นท่านพูดช้ากว่าที่คิด หรือพูดออกมาแล้วไม่ตรงกับที่คาดหมายจึงเบื่อ เมื่อผมนิ่งไม่กราบบังคมทูลตอบ ก็ทรงแนะนำว่าให้กลับไปฟังใหม่ คราวนี้อย่าคิดไปก่อนว่าสมเด็จฯ จะพูดว่าอย่างไร สมเด็จฯ หยุดก็ให้หยุดด้วย

ผมกลับมาทำตามพระราชกระแสรับสั่ง เปิดเครื่องบันทึกเสียงฟังเทศน์ของสมเด็จฯ จากแถบบันทึกเสียงม้วนนั้นใหม่ตั้งแต่ต้น ฟังด้วยสมาธิ สมเด็จฯ หยุดตรงไหน ผมก็หยุดตรงนั้น และไม่คิดๆ ไปก่อนว่า สมเด็จฯ จะพูดว่าอย่างไร คราวนี้ผมฟังได้จนจบและเห็นว่าจริงดังพระราชดำรัส แถบบันทึกเสียงม้วนนั้น เป็นม้วนที่ดีที่สุดม้วนหนึ่ง


สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ-พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ณ พระตำหนักบัญจบเบญจมา เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๙


ครั้งหนึ่ง หลังจากที่นั่งสมาธิแล้ว ผมได้มีโอกาสเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทและกราบบังคมทูลประสบการณ์ที่ได้ขณะทำสมาธิ ผมกราบบังคมทูลว่า ขณะที่นั่งสมาธิครั้งนั้น รู้สึกว่าตัวเองลอยขึ้นจากพื้นสูงประมาณศอกหนึ่ง ทีแรกก็ยังไม่รู้สึกอะไรแต่ครั้นหัวเริ่มคล้อยลงไปข้างหน้า ทำท่าเหมือนจะตีลังกา ผมก็ตกใจและต้องเลิกทำสมาธิ

พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชวิจารณ์ว่า ถ้าหากสติยังอยู่ ยังรู้ตัวว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่ควรจะเลิก แต่ควรจะปล่อยให้เป็นไปตามสภาพนั้น

อีกครั้งหนึ่ง หลังจากทำสมาธิแล้ว ผมกราบบังคมทูลว่า พอจิตสงบผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังเลื่อนต่ำลงไปในท่อขนาดใหญ่ และที่ปลายท่อข้างล่างผมแลเห็นแสงสว่างเป็นจุดเล็กๆ แสดงว่าท่อยาวมาก กลัวจะหลุดออกจากท่อไป ผมก็เลยเลิกทำสมาธิ

รับสั่งเช่นเดียวกันว่า หากยังรู้ตัว (มีสติ) อยู่ ก็ไม่ควรเลิก ถึงหากจะหลุดออกนอกท่อไปก็ไม่เป็นไร ตราบเท่าที่สติยังอยู่และรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับตน ต่อมาภายหลังจากการศึกษาคำสอนของครูบาอาจารย์ทุกท่าน และโดยเฉพาะของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ตรัสสอนให้ “ดำรงสติให้มั่น” ในเวลาทำสมาธิ

ในส่วนที่เกี่ยวกับพระสมาธิของพระเจ้าอยู่หัว เคยตรัสเล่าให้ผมฟังว่า ครั้งหนึ่งขณะที่กำลังทรงทำสมาธิอยู่ พระจิตสงบและเกิดนิมิต ในนิมิตนั้นพระเจ้าอยู่หัวทรงทอดพระเนตรเห็นพระกร (แขนท่อนล่าง) ลอกออกทีละชั้นๆ ตั้งแต่จากพระตจะ (หนัง) ลงไปจนถึงพระอัฐิ (กระดูก)

พระเจ้าอยู่หัวทรงประยุกต์พระสมาธิในการประกอบพระราชกรณียกิจทุกอย่างทั้งน้อยและใหญ่ จึงทรงสามารถเผชิญกับพระราชภาระอันหนักในตำแหน่งพระมหากษัตริย์ได้โดยไม่ทรงสะทกสะท้านหรือหวั่นไหว ไม่ทรงคาดการณ์ล่วงหน้าไปไกลๆ อย่างเลื่อนลอยและเปล่าประโยชน์ ไม่ทรงอาลัยอดีตหรืออนาคต ไม่ทรงเสียเวลาหวั่นไหวไปกับความสำเร็จหรือความล้มเหลว อันเป็นเรื่องที่ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ทรงจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน ทรงสนพระราชหฤทัยอยู่แต่กับพระราชกรณียกิจเฉพาะพระพักตร์เท่านั้น

ในฐานะที่เกิดมาเป็นพลเมืองของประเทศที่มีพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นี้เป็นพระประมุข และในฐานะที่ทุกคนมีหน้าที่ในการทำนุบำรุงเมืองไทยนี้ให้เป็นที่ร่มเย็นของเรา และของลูกหลานของเรา จึงสมควรที่เราจะเจริญรอยประพฤติตามพระยุคลบาทด้วยการศึกษาและปฏิบัติสมาธิกันอย่างจริงจัง และนำสมาธิมาประยุกต์ในการดำเนินชีวิตเช่นเดียวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา


พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน
ประทับในพระตำหนักปั้นหยา เมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๙



...............................................................................

คัดลอกมาจาก ::
����ѡ����ǧ �;��ͧ���ç������ԭ | ��Ǿط�ԡ��Ҥ���觻��������� Tel : 0-2455-2525 Fax:0-2413-3131


แหล่งที่มา :: �ҹ�����ѡ� :: :: ��ҹ - �����ҸԢͧ�������������� (��.�.�.���ɰ പ�ح��)

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top><HR>


พึงระลึกอยู่เสมอว่า การขาดความสามัคคีก็คือการขาดกำลัง การแตกสามัคคีก็คือการแตกแยกกัน ซึ่งไม่ใช่ของดีทั้งมวล ความสามัคคีกันก็คือการรวมกำลังกัน อะไรก็ตามเมื่อยังรวมกันด้วยดีย่อมใช้ประโยชน์ได้ดี

เมื่อเริ่มร้าวเริ่มแตก ประโยชน์ย่อมจะเริ่มลดลงตามๆ กัน เมื่อแตกแยกจากกันจริงๆ เช่นหม้อแตก ถ้วยแตก เป็นต้น ย่อมขาดประโยชน์ในการใช้สอยทันที ด้วยเหตุนี้ ความสามัคคีจึงมีพลังและคุณค่ามหาศาล ไม่มีอะไรจะมีกำลังเทียบเท่าได้

จึงขอได้โปรดตระหนักในความสามัคคีว่าเป็นรากฐานแห่งความมั่นคงทุกด้าน นับจากส่วนย่อยไปถึงส่วนใหญ่ มีความสามัคคีเป็นพลังยึดเหนี่ยวไว้ทั้งสิ้น ถ้าขาดความสามัคคีเพียงอย่างเดียว อะไรจะหนาแน่นเพียงใดย่อมสลายตัวลงได้อย่างไม่มีปัญหา จึงขอฝากธรรมสามัคคีไว้กับทุกท่านได้พากันเทิดทูนรักษา อย่าให้เสื่อมคลายสลายไปได้

ชะตาของทุกสิ่งทุกอย่าง มีชาติไทยของเราเป็นต้น จะยืนนานไปได้ก็ด้วยความสามัคคีแห่งคนในชาติเป็นสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด เพราะเรื่องใหญ่ก็ได้แก่คนของชาติจะเป็นผู้รักษาเทิดทูนหรือทำลายมากกว่า จึงกรุณาระลึกข้อนี้ไว้ และช่วยกันเทิดทูนชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ด้วยความจงรักภักดีและความสามัคคีเถิด ชื่อว่าพวกเรารักษามหาคุณของชาติไว้ด้วยดี

สิ่งที่ผู้หวังความเจริญมั่นคงจะยึดเป็นหลักปฏิบัติต่อกันนั้น ได้แก่กฎหมายข้อบังคับ ขนบธรรมเนียมประเพณีและศีลธรรม นี่เป็นหลักที่จะทำความสงบสุขให้แก่ส่วนรวมทั้งส่วนย่อยส่วนใหญ่ ซึ่งต้องอาศัยหลักความถูกต้องดีงามเป็นเครื่องดำเนิน กฎหมายบ้านเมืองที่มีไว้ก็เพื่อรักษาหมู่ชนให้อยู่ด้วยความผาสุกร่มเย็น ไม่ให้เบียดเบียนซึ่งกันและกัน เป็นต้น

บ้านใดเมืองใดก็ตาม ถ้าไม่มีขอบเขต ไม่มีกฎหมายเป็นข้อบังคับไม่มีขื่อมีแป ไม่มีขนบธรรมเนียมอันดีงามเป็นเครื่องประพฤติปฏิบัติ บ้านเมืองนั้นจะเป็นบ้านเมืองที่เจริญรุ่งเรืองและสงบสุขไปไม่ได้ ตรงข้ามจะมีแต่ความเดือดร้อนระส่ำระสาย มีแต่การฉกลักปล้นจี้ฆ่าฟันรันแทงชิงดีชิงเด่นกัน เป็นงานประจำแผ่นดินถิ่นมนุษย์ บ้านเมืองกว้างแคบเพียงไร ย่อมจะกลายเป็นกองเพลิงเผาผลาญกันโดยถ่ายเดียว

เพราะฉะนั้น มนุษย์ที่อยู่รวมกันจำต้องมีกฎข้อบังคับเป็นขื่อเป็นแป เพื่อเป็นหลักยึดและปฏิบัติตาม จะเว้นสิ่งดังกล่าวเสียมิได้

: หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=1959&CatID=2


คัดลอกจาก ::

 

เมื่อวานเสาร์ ๕ ได้ถวายบันทึกเรื่องราวส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์กับพระอาจารย์สิงห์ทนแล้ว

โชคดีไปทันไปก่อนเที่ยงเล็กน้อย ท่านกำลังจะออกเดินทางไปพบหลวงปู่ละมัย

หลวงพี่วัลลภท่านบอกว่า ตอนนี้การขับเคลื่อนของกายทิพย์ทั้งหลายก้าวหน้าไปเรื่อยๆ

หลักฐานความเชื่อมโยงของพระราชวงศ์พระร่วงกับพระราชวงศ์จักรีเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่ง

คนที่สัมผัสได้ เขาเชื่อว่าวัดนี้เป็นวัดวรเชษฐ์ กันมานานแล้ว แต่เมื่อไม่มีหลักฐานคนทั่วไปจึงไม่เชื่อ

ดังนั้นหลักฐานจึงสำคัญที่มาสนับสนุนให้คนทั่วไปเชื่อว่าวัดนี้เป็นวัดวรเชษฐ์หรือวัดป่าแก้วแห่งกรุงศรีอยุธยาได้

เมื่อวานวันดี ได้สมเด็จนางพญางิ้วดำมาอีกหนึ่งองค์ แต่เป็นท่านผู้ใหญ่ที่นับถือกันให้มา เป็นพระกรุเก่า หลวงปู่ครื้น วัดสังโฆษิตาราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ท่านสร้างไว้ ทางสายธาตุตั้งใจจะเลี่ยมทองแล้วอาราธนาขึ้นคอ เพราะสวย ส่วนสมเด็จทรงครุฑจะเก็บไว้หน้าหิ้งบูชา บูชาไว้ไม่กล้าเอาขึ้นคอ หลวงปู่สิงห์ทนบอกว่าเป็นพระที่สมเด็จพระอาจารย์โต วัดระฆังสร้างถวายสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ขอเก็บไว้อย่างดี ไม่อาราธนาขึ้นคอค่ะ

 

แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์นัก พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกๆพระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่เพื่อประโยชน์สุขของอาณาประชาราษฎร์และทรงอุทิศพระราชกุศลนั้นถวายเป็นพุทธบูชา แผ่นดินทองแผ่นดินธรรมผืนนี้จึงเป็นดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา

ในหลวงทรงเป็นพระราชาที่ดีเลิศที่สุดในโลก รู้สึกสำนึกรักในพระองค์โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือยามที่บ้านเมืองไม่สงบ จิตใจจะจดจ่อไปที่พระองค์ กษัตริย์อันเป็นที่รักของประชา พระภัทรมหาราช พระองค์ทรงเป็นพระสยามเทวาธิราชในใจของประชาชน รักในหลวงมากๆ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

 

<TABLE class=tborder id=post757881 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 15-10-2007, 06:42 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->santosos<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_757881", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Nov 2004
ข้อความ: 654
Groans: 0
Groaned at 1 Time in 1 Post
ได้ให้อนุโมทนา: 38
ได้รับอนุโมทนา 3,009 ครั้ง ใน 470 โพส
พลังการให้คะแนน: 315


</TD><TD class=alt1 id=td_post_757881 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><CENTER><!-- google_ad_section_start -->รูปหลวงปู่ละมัย และประวัติท่าน<!-- google_ad_section_end -->

</CENTER>
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-2576485761337625";/* 250x250, created 31/01/09 */google_ad_slot = "7252767143";google_ad_width = 250;google_ad_height = 250;//--> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 250px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 250px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 250px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 250px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><IFRAME id=google_ads_frame1 style="LEFT: 0px; POSITION: absolute; TOP: 0px" name=google_ads_frame marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-2576485761337625&output=html&h=250&slotname=7252767143&w=250&lmt=1269248019&flash=10.0.22.87&url=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff2%2F%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B9%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A2-%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2597%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2599.95877/&dt=1269248019277&correlator=1269248019277&frm=0&ga_vid=142345740.1268295855&ga_sid=1269247324&ga_hid=1192953225&ga_fc=1&ga_wpids=UA-7034934-1&u_tz=420&u_his=8&u_java=1&u_h=800&u_w=1280&u_ah=740&u_aw=1280&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1259&bih=546&ref=http%3A%2F%2Fwww.google.co.th%2Fsearch%3Fsourceid%3Dnavclient%26hl%3Dth%26ie%3DUTF-8%26rlz%3D1T4GZEF_thTH350TH350%26q%3D%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%259b%25e0%25b8%25b9%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%25a2&fu=0&ifi=1&dtd=16&xpc=gW45s5XOMx&p=http%3A//palungjit.org" frameBorder=0 width=250 scrolling=no height=250 allowTransparency></IFRAME></INS></INS>
http://www.yimwhan.com/board/show.ph...topic=2&Cate=1





ชีวะประวัติขององค์หลวงปู่ละมัย นั้นยังคงเป็นปริศนาอยู่ทุกวันนี้
ว่าท่านเป็นใคร มาจากที่ไหน เนื่องจากไม่สามารถสืบค้นประวัติที่แท้จริงของท่านได้
จากการที่รู้คร่าวๆ ท่านเป็นพระอริยะสงฆ์องค์หนึ่ง ที่อยู่กระทำกิจบางอย่าง
เพื่อสืบทอดและปกป้องพระพุทธศาสนา ท่านเคยเล่าว่า ท่านเคยอยู่เขมร30ปี ลาว30ปี
ไทยเลย30ปี ไม่มีที่ไหนที่ท่านไม่เคยไป ท่านไปมาแล้วทุกที่
พออ่านแล้วได้ฟังตอนนี้น่าคิดในความหมายของหลวงปู่ที่ท่านพูด
ว่าท่านไม่ใช่พระธรรมดา แบบปรกติทั่วๆไป เพราะการไปของท่านในสมัยก่อน
ไม่มีรถรา ไม่มีเครื่องบิน แต่เป็นการเดินธุดงค์ ด้วยเท้าเปล่าๆ
ไปทั้งศรีลังกา จนได้เจอครูบาอาจารย์ของท่าน ปัจจุบัน ครูบาอาจารย์ของท่านก็ยังคง
ทรงสังขารอยู่ที่ศรีลังกา อายุไม่ต้องไปพูดถึง เพราะมันเป็นปัจจัตตัง
และท่านมีความผูกพันธุ์กับหลวงปู่เทพโลกอุดร ตั้งแต่ยังเป็นเณร
อีกทั้งสำเร็จลุนพระอริยะสงฆ์ที่สองฝั่ง ไทยลาว ให้การนับถือทั้งอิทธิฤทธิ์ และบุญฤทธิ์ และธรรมะ
ปัจจุบันหลวงปู่ละมัยท่านยังทรงสังขารอยู่ และยังเป็นมิ่งขวัญ
ที่สำคัญในการการปกป้องพระพุทธศาสนาและพี่น้องชาวไทย
ใครได้ไปกราบท่านสักครั้ง คงจะไม่สามารถลืมพระแบบท่านได้อีก
ท่านมีทั้งคุณธรรมขั้นสูง จนบรรดาพระเกจิดังๆหลายๆองค์ต้องเดินทางไปกราบท่าน
เช่น หลวงพ่อรวยวัดตะโก หลวงปู่ใหญ่ พิษณุโลก หลวงพ่อคูณก็เป็นศิษย์ของท่าน หลวงปู่น๊ะ วัดหนองบัว
หลวงพ่อบุญลือวัดคำหยาด และหลวงปู่เปรี่ยมวัดกำแพง และหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน(มรณะแล้ว) และอีก
มากมาย ที่เคารพในคุณธรรมของท่านว่า
จะหาพระแบบท่านไม่ง่ายเลย นับเป็นบุญกุศลยิ่งนัก
ด้วยความเคารพในองค์หลวงปู่อย่างสุดซึ้ง

<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ถ้าจับวันเดือนปีและศิลปะที่ใช้ในการสร้างวัดไชยวัฒนารามเป็นเครื่องแบ่ง จะพบว่า
วัดวรเชษฐ์ สร้างก่อนวัดไชยวัฒนาราม
วัดเชษฐาราม (วรเชษฐาราม) ในเกาะ สร้างหลังวัดไชยวัฒนาราม

ถ้าจับหลักการได้มั่นแล้ว จะไม่สับสนเรื่องชื่อวัดเลย

วัดวรเชษฐ์ (นอกเกาะ) สร้างก่อนการสร้างวัดไชยวัฒนาราม สร้างครั้งแรกตั้งแต่สร้างกรุงศรีฯ บูรณะและใช้เป็นสถานที่ทำรัฐพิธี พระเจ้าแผ่นดินเสด็จพร้อมข้าราชบริพารมาบำเพ็ญกุศลบ่อยๆ บันทึกวัน วลิตกล่าวไว้ว่า พระเจ้าปราสาททองก็ทรงนำข้าราชบริพารมาบำเพ็ญกุศล เจริญวิปัสสนาที่วัดนี้ ซึ่งเทียบกับพงศาวดารที่บอกว่า วัดวรเชษฐ์ เป็นวัดที่สมเด็จพระเอกาทศรถทรงสร้างและทรงมาบำเพ็ญพระราชกุศลพร้อมๆกับข้าราชบริพารจำนวนมาก ก็น่าจะเป็นวัดวรเชษฐ์แห่งนี้

ส่วนวัดเชษฐาราม (วรเชษฐาราม ในเกาะเมือง) สันนิษฐานว่าสร้างโดยพระเจ้าปราสาททอง อุทิศถวายพระเชษฐาธิราช พระโอรสองค์โตของพระเจ้าทรงธรรม

 

หลังจากส่งงานถวายหลวงปู่ไปแล้ว ทางสายธาตุก็จะออกมาอยู่ส่วนสนับสนุนวัดต่อไป คงทำงานอยู่เบื้องหลังไปจนกว่าความจริงจะถูกเปิดเผยค่ะ

หลวงปู่ท่านคงอยากให้ลูกไทยหลานไทยได้กระทำเซ่นสรวงได้อย่างถูกต้องและด้วยจิตน้อมถวายความจงรักภักดี

คนไทยกับคนจีนก็ไม่ต่างกัน การบูชาและสำนึกในพระคุณของบรรพบุรุษถือเป็นคุณธรรมกตัญญูที่สำคัญมาก จะนำความสุขความเจริญมาสู่ลูกหลานผู้ที่บูชาพระคุณของบรรพบุรุษ

 

อนุโมทนา สาธุครับ ปกติหลวงปู่ละมัยท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดใดครับ เคยทราบ

ว่าอยู่ที่เพชรบูรณ์ แต่ที่แน่นอนท่านมียาสมุนไพรดีๆหลายขนานนะครับ(ทราบ

ว่า) ขอถือโอกาสสอบถามจากท่านผู้รู้ด้วยครับ

 

<TABLE class=tborder id=post3103155 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->พระที่12<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3103155", true); </SCRIPT>
นักบวช



วันที่สมัคร: Nov 2006
สถานที่: -
ข้อความ: 1,360
Groans: 0
Groaned at 26 Times in 22 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 12,707
ได้รับอนุโมทนา 22,839 ครั้ง ใน 1,737 โพส
พลังการให้คะแนน: 476



</TD><TD class=alt1 id=td_post_3103155 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><CENTER><!-- google_ad_section_start -->เทวดาทำบุญได้<!-- google_ad_section_end -->

</CENTER>

<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->บุญกิริยาวัตถุ 10 ในเทวดา

1.ทานมัย บุญที่สำเร็จด้วยการบริจากทาน เทวดาสามารถ ใส่บาตรได้ ช้วยคนได้(พระมหาชนก)ปรากฎในพระไตรปิฎก

2.สีลมัย บุญที่สำเร็จด้วยการรักษาศีลเทวดาสามารถ เลือกรักษาศีล 5,8 2-10 และ227


3.ภาวนามัย บุญที่สำเร็จด้วยการเจริญภาวนา เทวดาสามารถ ภาวนาได้ ในกรรมฐาน 38 ชนิด ลดหลั่นกันไป ที่ทำกรรมฐานไม่ได้ 2 กอง
มีอาหาเรปฎิกูล 1 และอสุภะกรรมฐาน 1 เพราะไม่มีซากสัตว์และอาหารหยาบให้พิจารณาบนสวรรค์

4.อปจายนมัย บุญที่สำเร็จด้วยการแสดงตนเป็นคนอ่อนน้อม เทวดาแต่ละวิมานมี พ่อ แม่ ลูก บริวารรับใช้ ลุงป้า น้าอา เคารพกันตามฐานะ อาทิ..เกิดจุติบนที่นั่ง เป็นสามีภรรยา เทวดาจุติบนตักเป็นบุตร จุติในบริเวรปราสาทเป็นบริวารรับใช้เจ้าของวิมาร

5.ไวยยาวัจจมัย บุญที่สำเร็จด้วยการขวานขวายช่วยในกิจการที่ชอบ เทวดาสามารถ ดูแลพุทธสถาน ฯลฯ

6.ปัตติทานมัย บุญที่สำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ ทำบุญฟังธรรมก็ ป่าวประกาศบุญให้ท่านอื่นได้อนุโมทนา

7.ปัตตานุโมทนามัย บุญที่สำเร็จด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญเทวดาสามารถ อนุโมทนาบุญได้

8.ธัมมสวนมัย บุญที่สำเร็จด้วยการฟังพระสัทธรรม เทวดาฟังธรรม ณ เทวสภาทุกวันพระที่ดาวดึงส์เทวโลกได้ ฯลฯ

9.ธัมมเทสนามัย บุญที่สำเร็จด้วยการแสดงพระธรรมเทศนา พระอินทร์เทศนาสอนเทวดาในบางโอกาส ฯลฯ

10.ทิฏฐุชุกรรม การกระทำความรู้ความเห็นแห่งตนให้ตรง (เชื่อว่า บาป-บุญมี ,นรก-สวรรค์มี ,ชาตินี้-ชาติหน้ามี , เชื่อหลักไตรลักษณ์ อนิจจัง-ทุกข์ขัง-อนัตตา) เทวดาสามารถพิจารณาฟังธรรมและบรรลุธรรมเป็นพระอริยะได้ จึงชื่อว่ามีความเห็นตรง ฯลฯ

สรุปเทวดาก็สามารถประกอบกุศลได้ดังนี้


เจริญพร<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พระที่12 : เมื่อวานนี้ เมื่อ 07:30 PM

</TD></TR></TBODY></TABLE>

๐คัดลอกจากกระทู้ "เทวดาแต่ละชั้นมีโอกาศสร้างบุญอย่างไรครับ" โดย noom8a ขอขอบคุณ

 

<TABLE class=tborder id=post3110201 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> วันนี้, 12:54 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->นักเดินธรรม<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3110201", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: ที่ที่พร้อมรอรับกรรม
อายุ: 23
ข้อความ: 660
Groans: 12
Groaned at 45 Times in 34 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 70
ได้รับอนุโมทนา 1,143 ครั้ง ใน 330 โพส
พลังการให้คะแนน: 131



</TD><TD class=alt1 id=td_post_3110201 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><CENTER><!-- google_ad_section_start -->อยากให้คนไทยทุกคนได้อ่านครับ, ในหลวงของเราทุกคน<!-- google_ad_section_end -->

</CENTER>
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-2576485761337625";/* 250x250, created 31/01/09 */google_ad_slot = "7252767143";google_ad_width = 250;google_ad_height = 250;//--> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript><!--zone = "13";url = "http://ads.palungjit.org";//--></SCRIPT><SCRIPT src="http://ads.palungjit.org/show.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript src="http://ads.palungjit.org/show.php?z=13&w=0&pl=0&ad_type=0&shape=0&c_border=0&c_background=0&c_text1=0&c_text2=0&c_text3=0&c_text4=0&c_text5=0&c_text6=0&c_text7=0&c_text8=0&c_text9=0&c_text10=0&code=1269411893246"></SCRIPT><STYLE type=text/css>#amp_slide_in_div { BORDER-TOP-WIDTH: 0px; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px; Z-INDEX: 50000; LEFT: -347px; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 314px; BOTTOM: 0px; PADDING-TOP: 0px; POSITION: absolute; HEIGHT: 363px; BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px}</STYLE><STYLE type=text/css>#amp_slide_in_div { }</STYLE><LINK href="http://ads.palungjit.org/files/slide_in/styles.css" type=text/css rel=stylesheet>
เป็นบทความที่ส่งทางอีเมล์ต่อๆ กันครับ ลองให้เพื่อนอ่านกัน
วันที่ในหลวงเสด็จกลับวังสวนจิตรลดา เรากะพ่อนั่งดูทีวีกัน
ภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราทอดพระเนตร สายน้ำเจ้าพระยาเบื้องหน้า
ข้างพระองค์มีคุณทองแดงสุนัขทรงเลี้ยงที่แสน ซื่อสัตย์
ภาพนั้นเราจะจำไม่ลืม...พลันก็มีเสียงพ่อพูดเบาๆ เล่าเรื่องบางเรื่องที่ทำให้เราอยากส่งต่อ

พ่อเล่าถึงเรื่องของ เพื่อนรักคนหนึ่งที่นั่งคุยกันระหว่างจิบเบียร์ในคืนที่ฝนตกพรำๆ
เพื่อน รักของพ่อคนนั้นเล่าว่า...

วันหนึ่งนั่งรถแท็กซี่ แท็กซี่ก็พูดเรื่องราวต่างๆ มากมายอย่างที่แท็กซี่สมัยนี้ชอบพูดกัน
เพื่อน พ่อนั่งฟังอยู่สักพักก็บอกกับคนขับว่า ขอพูดอะไรสักอย่างได้ไหม
ผมไม่ใช่ สีอะไร หรือเสื้อสีอะไรทั้งนั้น แต่แค่สงสัยว่าคนไทยเป็นอะไรกัน..

ครั้ง หนึ่งมีคนกลุ่มหนึ่งไปแย่งอำนาจการปกครองมา
มีครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่งที่แสนจะธรรมดาหลบหลีกความวุ่นวายขณะนั้น
ไปใช้ชีวิตเรียบ ง่ายสมถะ ณ แดนไกล
อาศัยอยู่ตามอัตภาพในประเทศเล็กๆ ประเทศหนึ่ง
จาก นั้นเมื่อคนกลุ่มที่ได้อำนาจตกลงกันไม่ได้ก็ตามให้ครอบครัวนั้นกลับมา
แล้ว คนในครอบครัวเล็กๆ ธรรมดานั้นก็ทำงานให้คนไทยมาตลอดทั้งชีวิต อย่างทุ่มเท
แล้ว พอวันเวลาผ่านไป...จู่ๆ ก็มีคนมาไล่คนๆ นั้นที่ทำงานอย่างไม่เคยอยากได้อะไรตอบแทน
คุณจะให้เขาไปอยู่ที่ไหน เมื่อเขามีอายุมากขนาดนี้
ถ้าเป็นผมครบ 60 ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องมาตรากตรำทำงานอีก
ผมเองนี่ก็ใกล้แล้ว นอนอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ดีกว่าหรือ
คุณจะให้เขาไปอยู่ไหน...
คนไทยเป็น อะไรกันไปแล้ว...

ความคิดที่ไม่ซับซ้อนของเพื่อนพ่อ และการเล่าเรื่องที่ฟังง่ายๆ
แต่เราว่ามันลึกซึ้งเหลือเกินในความรู้สึก

เรา คิดว่าคงไม่ใช่แค่คนขับแท็กซี่หรอกที่นิ่งอึ้งไป
เราก็รู้สึกเหมือนมี ก้อนสะอื้นอะไรสักอย่างอยู่ในลำคอ
คุณก็คงเหมือนกัน...ถ้าคุณยังพอมีความ ทรงจำเกี่ยวกับท่านอยู่บ้าง
ท่านที่ทรงงานหนักเพื่อคนไทย
ท่านที่ใคร มาบอกว่าร่ำรวยที่สุดในเอเชียอะไรนั่น (คุณคิดเช่นนั้นหรือ)
ท่านผู้ทรง ไม่เคยใช้ชีวิตอย่างเศรษฐีเหมือนที่หลายคนทำ
ท่านที่ทรงเป็นพระผู้ให้คน ไทยมากว่า 60 ปี
ท่านผู้ทรงมีพระชนมายุกว่า 80 พรรษา
คุณอยากได้อะไร จากท่านอีกหรือ
คุณเคยทำอะไรให้ใครเท่าท่านผู้นี้หรือไม่... :'(

<!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->พญาปักษี...สีขาวพิสุทธิ์ จะนำทางแก่คนดี<!-- google_ad_section_end -->

</TD></TR></TBODY></TABLE>

อ่านแล้วอดมีน้ำตารื้นๆไม่ได้ค่ะ

 

หลวงปู่ละมัย

<TABLE class=tborder id=post760041 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 16-10-2007, 04:11 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#5 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->นาคา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_760041", true); </SCRIPT>

สมาชิก ​

​

วันที่สมัคร: Oct 2006


ข้อความ: 1,160


Groans: 0


Groaned at 2 Times in 2 Posts


ได้ให้อนุโมทนา: 4,704


ได้รับอนุโมทนา 14,726 ครั้ง ใน 1,160 โพส


พลังการให้คะแนน: 815 ​

​

</TD><TD class=alt1 id=td_post_760041 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->ขออนุโมทนาบุญ ครับ กับ ข้อมูล หลวงปู่ ท่าน

หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน ปฏิบัติธรรม ที่ สวนป่าสมุนไพร อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ​

ท่านใด้สร้างบารมี ที่สำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดาร ที่ภูเก็ต เมื่อไม่นานมานี้ ครับ โดยญาติธรรมใด้ร่วมสร้างศาลามณฑฎ ( ไม่แน่ใจ ว่าจะพิมพ์ ผิดไหม ) ครอบ รอยพระพุทธบาท ที่พระพุทธองค์ประทับใว้ บนหิน ข้างตลิ่งน้ำในทะเล .. ตามประวัติ ที่จารึกใว้ ที่ฐานพระพุทธปางลีลา พระพุทธองค์ สัมมา ท่านประทับรอยใว้ โดยมี ท่านพญามุจจะลินทร์นาคราช ดูแล ​

ซึ่งก่อนหน้านี้ พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ( พระครูพิศิษฐ์อรรถการ )แห่งวัดสวนขัน ท่านใด้รวมสร้างบารมี ใว้ แต่เนื่องจาก ทั้ง ลม แสงแดด และพายุ ทำให้ สิ่งศาสนะ ผุพังตามกาลเวลา ( โดยเท่าที่ทราบ หลวงปู่ ทวด ท่านใด้มาโปรด ที่เกาะแก้วพิสดารแล้ว ..)​

เมื่อไม่นานมานี้ หลวงปู่ละมัย ท่านใด้ ถวายพระพุทธบาทจำลองให้กับ หลวงปู่สุภา กันตสีโล แห่ง วัดสีลสุภาราม ที่ ภูเก็ต ​

( 17 กย.2550 หลวงปู่สุภา อายุ ครบ 113 ปี ครับ ) , ร่างกาย ยังแข็งแรง ดี ครับ ..​

เมือ่หลวงปู่ละมัยและหลวงปู่นะได้ถวายพระบรมสารีริกธาตุให้หลวงปู่สุภาเมื่อเช้าวันนี้ 01-05-2007, 08:31 PM ​

<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>หลวงปู่ละมัยหลวงปู่นะและคณะ ได้ถวายพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธบาทจำลองแกะจากหินพระธาตุเขาสามร้อยยอด ให้หลวงปู่สุภาเมื่อเช้าวันนี้ที่วัดใหม่หลวงปู่สุภา ภูเก็ต ขอทุกท่านร่วมโมทนาบุญและชมภาพครับ สาธุ


​

หลวงปู่นะ​

หลวงปู่สุภา กันตสีโล แห่ววัดสีลสุภาราม ภูเก็ต​

สาธุ สาธุ สาธุ ในมหากุศลที่ได้กราบหลวงปู่ทั้งสาม​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

​

คุณชานนคนไทยเคยพบหลวงปู่ค่ะ คุณชานนบอกว่าตอนที่ท่านมาทำสวดมนต์ที่วัดวรเชษฐ์ เคยได้กราบท่านค่ะ

 

[MUSIC]http://audio.palungjit.org/attachment.php?attachmentid=48359[/MUSIC]

เพลงบรรเลง กู่เจิ้ง ศากยมุนี พุทธะ

ฟังให้ใจร่มเย็น

​

 

เจ้าหญิงของประเทศไทย พระทูลกระหม่อมแก้ว

เจ้าฟ้าหญิงของคนไทย ทรงพระเจริญ

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=mjL30xVDqV8&feature=player_embedded"]YouTube- ?????????? ??????? ????????????[/ame]

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 68 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 67 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>Fort_GORDON </TD></TR></TBODY></TABLE>



ขออนุโมทนากับทุกๆท่าน ครับ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 46 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 45 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>ทางสายธาตุ </TD></TR></TBODY></TABLE>

วันนี้คนเยอะจัง ขออนุโมทนาค่ะ

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 75 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 74 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>ทางสายธาตุ </TD></TR></TBODY></TABLE>

เก็บสถิติ ณ. เวลา 21:25 นาที วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2553

คนเข้าชมเยอะที่สุดเท่าที่เคยเก็บสถิติมาเลยค่ะ


<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 82 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 81 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>ทางสายธาตุ </TD></TR></TBODY></TABLE>

เก็บสถิติ ณ.เวลา 21:30 ^^

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 85 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 84 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>ทางสายธาตุ </TD></TR></TBODY></TABLE>

หากมีเวลาขอเชิญชวนไปกราบสักการะสมเด็จพระนเรศวร ณ วัดวรเชษฐ์ให้ได้สักครั้งในชีวิตนะคะ เก็บสถิติ ณ.เวลา 21:35


<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 99 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 98 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>ทางสายธาตุ </TD></TR></TBODY></TABLE>

เก็บ ณ เวลา 21:42 ขอเก็บสถิติไว้ดูหน่อยนะคะ จะร้อยแล้ว บ้านเล็กสุดซอยอย่างนี้ยังมีคนหาเจอ ^^

 

ทางสายธาตุรู้ว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นที่วัดวรเชษฐ์นั้นมีมาก
แต่ความตั้งใจเดิมก็คือ วัดวรเชษฐ์ก็คือวัดวรเชษฐ์ ไม่เปลี่ยนแปลง
ตราบใดที่คนยังไม่รู้จักสถานที่สำคัญแห่งนี้ จะขอรณรงค์ไปเรื่อยๆ

ความจริงแห่งความเป็นวัดป่าแก้วแห่งกรุงศรีอยุธยานี้ดำรงอยู่เหนือความขัดแย้งใดๆ

วัดวรเชษฐ์ ก็คือ วัดวรเชษฐ์ ไม่ใช่ วัดวรเชต

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 101 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 100 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>ทางสายธาตุ </TD></TR></TBODY></TABLE>

เกินร้อยแล้ว ไปไหว้สมเด็จพระนเรศวรกันให้ได้นะคะ

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 106 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 105 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>ทางสายธาตุ </TD></TR></TBODY></TABLE>

หรือตัวนับเลขของเวปไซด์จะรวนกันนะ ??? คนเยอะผิดธรรมดา

 

* ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดดอกนะครับ คงจะเป็นเพราะเหตุปัจจัยเสียมาก

กว่ากระมังครับ เพราะนี่ก็ใกล้จะถึงวันที่ 3 เมษายน และวันที่ 25 เมษายน

กันอีกแล้ว บรรดาไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินที่มีความจงรักภักดีต่อพระองค์ดำ ที่เคยได้

หลั่งเลือดโลมดิน ทอดกายถวายชีวิตเป็นราชพลีเพื่อปกป้องชาติและแผ่นดิน

ไทย ไม่ว่าท่านจะสามารถรำลึกได้หรือไม่ก็ตามจึงได้เริ่มมีการเคลื่อนไหวโดย

ที่หลายๆท่านก็อาจจะไม่รู้ถึงต้นสายปลายเหตุ ก็อาจจะเป็นไปได้นะครับ เอา

เป็นว่าท่านใดที่ได้มีความรำลึกถึงสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้า ถ้ามีโอกาส

หรือมีเวลาว่างก็ขอเชิญไปกราบสักการะรำลึกถึงพระองค์ท่านที่วัดวรเชษฐ ที่

อยุธยา ตามอัธยาสัยกันนะครับ จะในวันที่ 3 เมษายน หรือวันที่ 25 เมษายน

หรือจะในวันอื่นๆที่ท่านสะดวก เผื่อบางทีท่านอาจจะได้พบพาน...

 

เห็นว่าบทความของคุณชานนคนไทยที่ได้ร้อยเรียงไว้เมื่อตอนต้นๆของกระทู้

ล้วนมีเนื้อหาสาระที่ยังทันสมัยสมควรจะหยิบยกมากล่าวถึงกันอีกครั้งหนึ่ง



<TABLE class=tborder id=post2085011 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 06-05-2009, 04:13 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#19 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ชานนคนไทย<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2085011", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Aug 2007
อายุ: 44
ข้อความ: 746
Groans: 4
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 13,725
ได้รับอนุโมทนา 5,440 ครั้ง ใน 736 โพส
พลังการให้คะแนน: 269




</TD><TD class=alt1 id=td_post_2085011 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->สวัสดีครับเพื่อนสมาชิกทุกท่าน...ที่รักและเคารพพระองค์ท่านพระนเรศวรมหาราชของเราชาวไทยและชาวไทยใหญ่ทุกเผ่า...ทำไมผมต้องใส่ชาวไทยใหญ่และชาวเขาทุกเผ่าเพราะในอดีตกลุ่มคนกลุ่มนี้ได้มีส่วนร่วมช่วยพระองค์ท่าน(พระนเรศวรมาหาราช)ในการทำศึกและร่วมรบถ้าท่านไปแถวเชียงใหม่,เชียงรายและถ้าเข้าบ้านชาวเขาจะเห็นรูปอยู่2รูป...รูปแรกรูปพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน...และรูปที่2รูปพระนเรศ(พระนเรศวรมาหาราช)ชาวเขาและชาวไทยใหญ่จะรักพระองค์ท่านมากถ้าอยากรู้ถามเขาดูก็จะรู้ว่าทำไมเขาถึงรักและจงรักษ์ภักดีมากเท่าชีวิต..และพวกเขาก็มีหน้าป้องกันชายแดนไทยไม่ให้ข้าศึกมาทำร้ายคนไทย(พม่า)เรื่องนี้มีมานานมากคนรุ่นเก่าจะรู้...ถ้าไปเชียงใหม่ไปที่วัดศรีสามรักษ์ถามหาหลวงพ่อบัญดิฐ...หรึอไปที่วัดถ้ำเมืองนะขอสนทนาธรรมกับหลวงตาม้าก็จะรู้ครับ.....มาเข้าเรื่องวัดวรเชษฐ์ที่โดนวางเพลิงเผากุฏิพระอ.ดร.สินทนเมื่อวันจัดพิธีสำคัญวันคล้ายวันสรรคต(25เมย52)ของพระองค์ท่าน(พระนเรศวรมาหาราช)ช่วงเช้าไม่มีใครอยู่บนกุฏิเลยร่วมทั้งหลวงพ่อเพราะอยู่ที่งานหมด...แต่ได้มีคนเข้าไปงัดกุญแจด้านหลังประตูกุฏิและวางเพลิง(ท่านเล่าให้ฟังวันที่1พ.ค52เวลา12.00น.)ดูจากเหตุการณ์ความเสียหายมีผนังไหม้เกือบหมดร่วมฝ้าและของใช้เสียหมด...ยกเว้นจีวรของท่านที่ไม่ไหม้...ทางตำรวจได้มาดูแต่ก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆ...ก็ปรึกษาท่านๆก็ว่าให้โทรหาพี่ภาวิโตว่าช่วยด้านใดได้บ้าง...ส่วนตัวผมคิดว่าใครทำอะไรไว้เขาก็รู้อยู่แก่ใจของเขา..เราก็ต้องอโหสิกรรมไป...ยังไงเขาก็หนีกฏแห่งกรรมที่เขาทำไว้ไม่ได้ครับ...ทุกอย่างเป็นการพิสูจน์เรื่องกำลัง(จิตใจ)ว่าท่านและเรามีกำลังใจเป็นเช่นไร...ถ้าเราจะทำงานใหญ่เพื่อแผ่นดินต้องยอมรับทุกเหตุการณ์ที่เกิด...คนเราถ้าจะสร้างความดีก็จะมีมารมาทดลองจิต...ขอให้เรายึดมั่นในความดีที่เราตั้งใจทำครับ...ผมก็ปรึกษากับพี่ภาวิโตกับพี่แหม่มว่าจะนัดกันไปที่วัดและดูว่าจะช่วยอะไรท่านได้บ้างถ้าเพื่อนๆท่านใดจะร่วมช่วยกันคนละไม้คนละมือคงสำเร็จด้วยดีผมเองบารมีไม่พอต้องอาศัยพี่ๆ,เพื่อนๆ,และน้องช่วยกันครับ...ติดต่อที่เบอร์ผมได้ตลอดครับ086-342-7086...ขอทำเพื่อชาติและศาสนา,พระมหากษิตย์และแผ่นดินไทยถึงจะตายก็ยอมครับ....สวัสดีครับ<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ชานนคนไทย : 06-05-2009 เมื่อ 04:24 PM




</TD></TR></TBODY></TABLE>
ขออนุโมทนา สาธุ กับคุณชานนคนไทย อีกครั้งหนึ่งครับ