ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

เรื่องเล่าจาก facebook
กลุ่ม : มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้าน ต่อต้านการยุบสภา
topic : อ่านแล้วอยากร้องไห้
โดยคุณ Gene Lee Wine รักในหลวง
วันที่ 25 เมษายน 2553
อ้างอิงจาก : Patcharawan Ning Noobanyang

เหตุเกิดที่สนามบินในยุโรป

สนามบินในยุโรปเปิดให้เครื่องขึ้นลงได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 20 เมย. 2553 หลังจากปิดไปเนื่องจากเถ้าถ่านจากภูเขาไฟในไอซ์แลนด์รบกวนการบิน
เมื่อคืนก่อน เราทำงานอยู่ที่สนามบิน ด้วยสถานการณ์ที่ค่อนข้างวุ่นวาย เพราะเป็นวันที่สนามบินทางยุโรปเริ่มเปิด...
มีผู้โดยสารตกค้างมากมายที่ต้องการเดินทางกลับบ้าน ได้มีผู้โดยสารชาวสวิสคนหนึ่งเดินทางในชั้นธุรกิจ แต่มาเข้าแถวที่ชั้นประหยัด
ขณะทำการตรวจบัตรโดยสาร เราแอบสังเกตุว่าเหมือนเขามีอะไรในใจ เหมือนมีอะไรอยากพูด ได้แต่จ้องหน้าเรา แล้วไม่พูดอะไร
จนเสร็จขั้นตอนการตรวจเอกสาร หลังจากเราคืนบัตรที่นั่งไป ผู้โดยสารท่านนั้นก็ยังไม่เดินจากไป
เขากลับจ้องที่หน้าอกเรา แล้วบอกว่า

"No matter what happen, please take care of ..YOUR KING.."

เราแทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ขอบคุณเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก
หลังจากเขาจากไปแล้ว เรานึกขึ้นได้ว่า เพราะเราติดเข็มกลัดสัญลักษณ์ครองราชย์ 60 ปีไว้ที่หน้าอกนี่เอง เขาจึงกล้าพูดกับเรา
เราจึงได้แต่ตอบในใจว่า

"With my LIFE"
phidawan@hotmail.com


*ขอขอบคุณทุกแหล่งที่มาและ <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“อ๊อฟ พงษ์พัฒน์” ชักธงรบสู้ศึกล้มเจ้า เตรียมนำดาราเผยแพร่ความดีในหลวง โดย ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 18พ.ค.53 : ข้อคิดเห็นที่ 256</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left></TD><TD class=date vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่านที่มีต่อชาติไทยและปวงชนชาวไทย ด้วยความจงรักภักดีเป็นล้นพ้น พระพุทธเจ้าข้าขอรับ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

 

ขออนุโมทนากับคุณ suchato ครับ

ในยามที่ชาติบ้านเมืองอยู่ในภาวะที่คับขันอย่างนี้ นอกจากเราจะต้องมีสติแล้ว
ยังควรต้องมีความเข้าใจให้ชัดเจนถึงภาระและหน้าที่ของความเป็นคนไทย เป็น
ส่วนหนึ่งของสังคมที่จะต้องหวงแหน ช่วยกันปกป้องชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ขออนุญาตทางเว็บที่ได้นำข้อความนี้มาถ่ายทอด ด้วยพิจารณาเห็นว่ามีเนื้อหาสาระที่มีความชัดเจนเข้าใจได้ อีกทั้งทางเว็บเองก็ได้
แสดงให้เห็นเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนในการเทิดทูนและปกป้องสถาบัน



... กองทัพต้องเป็นหลักให้กับบ้านเมือง ทำหน้าที่รักษารัฐไทย ไม่ใช่รัฐบาล.....
.....เพราะระบบทุกอย่างในบ้านเมืองได้ถูกฉีกทิ้งไปหมดแล้ว โดยมีแผนให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงประเทศไทยในฐานะ “รัฐล้มเหลว”

ผู้นำเหล่าทัพต้องอย่าละล้าละลัง หรือกลัวความสูญเสีย เพราะการต่อสู้ในวันนี้มีชาติบ้านเมืองและสิ่งที่คนไทยทั้งชาติหวงแหน คือ สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเดิมพัน

อภิสิทธิ์ และ กองทัพไทย ไม่มีสิทธิ์ล้มเลิก หรือ ล้มเหลวในภารกิจนี้

ขณะเดียวกันสังคมต้องร่วมกันแสดงออกให้กองทัพเห็นชัดเจนว่า มีแต่การเดินหน้าปกป้องบ้านเมืองอย่างเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยวเท่านั้นจึงจะนำชาติผ่านพ้นวิกฤติร้ายแรงครั้งนี้ไปได้

อย่าปล่อยให้ อภิสิทธิ์ และกองทัพ โดดเดี่ยว ท่ามกลางการบิดเบือนข่าวสารที่พยายามทำให้รัฐบาล และทหารตกเป็นจำเลยสั่งฆ่าประชาชน เราต้องให้กำลังใจส่งเสียงดัง ๆ สนับสนุนให้รัฐบาลและกองทัพทำในสิ่งที่ถูกต้อง ปกป้องชาติ บ้านเมืองต่อไป

สังคมไทยและรัฐไทยต้องเป็นหลักซึ่งกันและกัน เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่า คนไทยจะไม่ยอมให้มีการล้มรัฐไทยเพื่อสถาปนารัฐไทยใหม่ ตามแผนชั่วของ .........

Politics - Manager Online

 

ท่านขุนน้อย ได้ระบุถึง "ปฏิบัติการสังคม" ไว้ในหนังสือพิมพ์ ไทยโพสต์ฉบับ

วันที่ 19 พ.ค. 53 คือวันนี้ ไว้ตอนหนึ่งว่า..

...ความจำเป็นที่จะต้องอาศัย ปฏิบัติการทางสังคม เพื่อสร้างแรงกดดันตอบโต้กับขบวนการก่อการร้ายเหล่านี้ จึงมีความสำคัญอย่างฉกาจฉกรรจ์เอามากๆ เหมือนอย่างที่นักศึกษาและประชาชนชาวรามคำแหง ได้ร่วมมือ ร่วมใจ พังทลายเวทีของพวกเสื้อแดงให้ราบคาบลงไป ก่อนหน้าที่จะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือชิ้นใหม่ แบบฉับพลันทันทีนั่นเอง ถ้าหากประชาชนอันเป็นเสมือน น้ำ พร้อมใจกันเดือดปุดๆ ไม่ปล่อยให้ ปลาเน่าๆ มีโอกาสแหวกว่ายทำลายบ้านเมืองต่อไปได้โดยเสรี แม้จะไม่ถึงกับต้องออกมา ฝ่าห่ากระสุนปืน ฝ่าดงระเบิด ก็ตาม แต่เพียงแค่พร้อมที่จะอดทน อดกลั้น เป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ใช้สติ ปัญญา ในการแยกแยะผิด-ถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่พยายามที่จะ เอาตีนราน้ำ ไม่ว่าจะด้วยความไร้เดียงสา หรือ ไม่ไร้เดียงสาก็ตาม ทั้งๆ ที่ไม่ได้หยิบพาย จ้วงพาย เอาเลยแม้แต่น้อย...เพียงแค่นี้ โอกาสที่ความสงบเรียบร้อยจะสามารถกลับคืนมาสู่บ้านเมือง ย่อมไม่ใช่เป็นสิ่งที่อยู่ห่างไกลเกินไปนัก....
-------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก แฮนสัน ดับเบิลยู บัลด์วิน...ไม่มีศักยภาพกำลังรบใดๆ ของประเทศ...ที่เหนือไปกว่ากำลังใจอันมุ่งมั่นของพลเมือง...

ขอขอบคุณแหล่งที่มา :ปฏิบัติการสังคม | ไทยโพสต์

 

สืบเนื่องจากคำกล่าวของ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ เมื่อค่ำวันที่ 16 พ.ค.53

คุณสำราญ รอดเพชร นักเขียนและนักการเมือง ชื่อดังท่านหนึ่งกล่าวว่า

คำพูดของคุณอ๊อฟ น่าจะเป็น "คำพูดแห่งปี" ทั้งนี้คุณสำราญ ได้บรรยาย

ไว้ในข้อความตอนหนึ่งว่า.....

...สำคัญที่สุด ผมขอเป็นอีกหนึ่งเสียงหนึ่งหัวใจคารวะความคิด ความรู้สึก ความจริงใจความกล้าหาญของคุณอ๊อฟ

ยอมรับว่าดูคลิปภาพ-เสียงที่คุณอ๊อฟพูดแล้วผมก็เหมือนกับคุณฉัตรชัย เปล่งพานิช นั่นล่ะ ยกแว่นปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว ด้วยความซาบซึ้งตรึงใจ..

ต่อให้ตระเตรียมความคิด คำพูด รวบรวมความตั้งใจมาก่อนว่าจะพูดถึงเรื่องของ “พ่อ” แต่ถ้าไม่มีความรู้สึกนึกคิดจากส่วนลึกจริงๆ ยากที่จะพูดได้อย่างมีชีวิต มีวิญญาณ มีพลัง..เป็นธรรมชาติ

คำพูดของคุณอ๊อฟน่าจะเป็น “คำพูดแห่งปี” งดงามทั้งรูปแบบและเนื้อหา แม้จริงๆ แล้วอาจจะช้าไปบ้าง แต่ยังพอจะกล่าวได้ว่า สอดคล้องสัมพันธ์กับสถานการณ์บ้านเมืองที่ยังปกคลุมอยู่ด้วยหมอกควันแห่งความแตกแยกแตกต่าง หน้ามืดตามัวด้วยกิเลส ความโลภ ความเห็นแก่ตัวของคนบางจำพวก ..คนที่มองไม่เห็นหัวพ่อ คิดจะไล่พ่อออกจากบ้าน..!!...

เพื่อนผมหลายคนพูดกันเล่นๆ ว่า ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ว่าพูดเก่งพูดคมก็ยากที่จะพูดได้เหมือนคุณอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ และคุณอ๊อฟเองพูดใหม่อีกกี่ครั้งก็ไม่งดงามมีพลังเหมือนครั้งนี้อีกแล้ว

ขณะเขียนต้นฉบับผมเข้าไปดูในข่าวบันเทิงของผู้จัดการออนไลน์ ณ เวลา ประมาณ 09.30 น.ของวันที่ 18 พ.ค. 53 ปรากฏว่ามีผู้เข้าไปอ่าน–แสดงความเห็นนี้กัน 3 แสนกว่าครั้งแล้ว หนึ่งในจำนวน 3 แสนกว่านั้นมีผู้ใช้นามว่า “รักพ่อ” ได้โพสต์ให้ข้อมูลว่า คุณอ๊อฟ พงษ์พัฒน์เคยพูดถึงพ่อเมื่อต้นปี แต่ไม่ชัดเจนเหมือนครั้งนี้ ลองไปดู..

“ความคิดเห็นที่ 2207 +4
ขออนุญาตเอาข้อความตอนที่พี่อ๊อฟรับรางวัล ไนน์ เอ็นเตอร์เทนเมื่อต้นปีมาให้อ่านครับ พูดถึงพ่อได้ดีมากมาย

“ขอบคุณสำหรับ ไนน์ เอ็นเตอร์เทน ครับ ขอบคุณช่อง 3 ขอบคุณ น้องดา (หทัยรัตน์ อมตวณิชย์) ผู้จัด ขอบคุณ บี้ (สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) ถ้าลูกชายเล่นไม่ดี พ่อก็ไม่ได้รางวัลหรอกครับ เป็นรางวัลที่ได้รับจากบทบาทของผู้ที่เป็นพ่อ พ่อทุกคนรักลูกทั้งนั้นแหละครับ ในชีวิตจริงพ่อเลี้ยงลูกไม่ได้หวังรางวัลอะไรเลย เพียงแค่ลูกเป็นคนดี ลูกรักกันไม่ทะเลาะกัน ก็เป็นรางวัลอันยิ่งใหญ่ของผู้ที่เป็นพ่อแล้ว พ่อของเราเสียเหงื่อ เสียน้ำตา ใครก็ตามที่คิดไม่ดีกับพ่อ ไปลงนรกได้เลยครับ”

ตอนถ่ายทอดช่อง 9 ตอนท้ายถูกตัดไป ใครมีภาพข่าวเต็มๆ แปะให้หน่อยครับ อันนี้หาได้มาจากรายงานข่าวครับ / www.siamzone.com/movie/news/?id=4983“รักพ่อ”

...............

แหล่งที่มา Daily News - Manager Online

 

ความสำคัญของพระมหากษัตริย์


.... พระพุทธศาสนาได้ให้ความสำคัญต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้มาก ดังที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกหลายแห่ง เช่น
ราชา รัฏฐัสสะ ปัญญาณัง. พระราชาเป็นสง่าแห่งแว่นแคว้น.
ราชา มุขัง มนุสสานัง. พระราชาเป็นประธานของหมู่มนุษย์.
และว่าเมื่อโคทั้งหลายว่ายข้ามแม่น้ำไป ถ้าโคหัวหน้าฝูงว่ายคด โคทั้งหมดก็ย่อมว่ายคดไปตามกัน ในมนุษย์ทั้งหลายก็เหมือนกัน ผู้ใดได้รับสมมติแต่งตั้งให้เป็นใหญ่ ถ้าผู้นั้นประพฤติไม่เป็นธรรม ประชาชนนอกนี้ก็ประพฤติไม่เป็นธรรมโดยแท้ ถ้าพระราชาผู้เป็นใหญ่ตั้งอยู่ในธรรม รัฐก็ย่อมอยู่เป็นสุขทั่วกัน
สัพพัง รัฏฐัง สุขัง โหติ ราชา เจ โหติ ธัมมิโก ถ้าพระราชาเป็นผู้ทรงธรรม ราษฎรทั้ง
ปวงก็เป็นสุข.
สรุปความว่า ในทรรศนะของพระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์มีความสำคัญ มิใช่เพียงผู้นำในทางการเมืองเท่านั้น แต่เป็นศูนย์กลางที่สำคัญที่สุดของสังคม เป็นแกนให้เกิดความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงทางสังคม เช่นเดียวกับดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางสุริยจักรวาล แม้แต่การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ เช่น ความวิปริตทางดินฟ้าอากาศ ทุพภิกขภัย หรือภัยพิบัติต่างๆ ก็เชื่อกันว่าอยู่ในความรับผิดชอบของพระมหากษัตริย์ด้วย
ในทางรัฐศาสตร์ก็ถือว่า พระมหากษัตริย์มีความสำคัญในฐานะเป็นประมุขแห่งรัฐ แม้ว่าในปัจจุบันจะมีรูปแบบประมุขของรัฐรูปแบบใหม่ คือ ประธานาธิบดี เป็นประมุขตามวิวัฒนาการทางการเมืองก็ตาม และแม้ว่าพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยจะต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ (Constitutional Monarchy) ก็ตาม ฝ่ายที่เห็นว่าพระมหากษัตริย์ดีกว่าประธานาธิบดี ก็ได้ให้เหตุผลไว้หลายประการ คือ
1.นักรัฐศาสตร์บางท่านกล่าวว่า พระมหากษัตริย์เป็นที่มาแห่งเกียรติศักดิ์ (Fountain of Honours) กล่าวคือ ด้วยการมีราชตระกูลสูง และทรงสืบราชสันตติวงศ์โดยไม่ทรงเกลือกกลั้วกับการเมือง ทำให้ทรงเป็นที่มาแห่งเกียรติศักดิ์ ทั้งในสังคมแห่งรัฐนั้นเองและในสังคมนานารัฐ ทั้งพสกนิกรและนักการเมือง ตลอดจนรัฐต่างประเทศย่อมให้ความไว้วางใจ และศรัทธาในพระองค์ สมดังคำกล่าวที่ว่า "ราชาเป็นสง่าแห่งแว่นแคว้น"
2.พระมหากษัตริย์ทรงเป็นกลางในการเมือง อันต่างกับประมุขของรัฐแบบอื่นๆ ซึ่งต้องเกลือกกลั้วอยู่กับการเมือง เพราะต้องพะวักพะวนอยู่กับคะแนนเสียงที่ตนจะได้รับในการเลือกตั้ง ในขณะที่พระมหากษัตริย์สืบราชสันตติวงศ์ตามกฎหมายโดยไม่ต้องเลือกตั้ง ทำให้ทรงวางพระองค์เป็นกลางทางการเมือง ไม่สนับสนุนพรรคการเมือง และเป็นที่ยอมรับของนักการเมืองทุกฝ่าย อันเป็นผลให้ทรงเป็นผู้ประสานความขัดแย้ง ระหว่างนักการเมืองได้ดี
3.พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขถาวร จึงทำให้ทรงมีพระปรีชาสามารถในฐานะประมุข ดีกว่านักการเมืองซึ่งได้รับเลือกตั้งมา
4.พระมหากษัตริย์ทรงเป็นศูนย์รวมแห่งความเป็นชาติ และความสามัคคีแห่งคนในชาติ ในขณะที่นักการเมืองไม่อาจกระทำได้ เพราะถ้ามีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างน้อยที่สุดต้องมีความคิดขัดแย้งกันในทางการเมืองได้
เมื่อวิเคราะห์เหตุผลทั้งสองฝ่าย จะเห็นได้ว่าการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข น่าจะมีผลดีกว่าการปกครองแบบประธานาธิบดี หรือประมุขของรัฐรูปอื่นเป็นประมุข ดังคำกล่าวของนายวอลเตอร์ ลิปแมน ชาวอเมริกันที่ว่า
"ระบอบประชาธิปไตยซึ่งมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดีกว่าระบอบประชาธิปไตยซึ่งมีประธานาธิบดีเป็นประมุข เพราะเท่าที่ผ่านมาระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 นี้ เมื่อประเทศอยู่ในภาวะคับขัน พระมหากษัตริย์ทรงแก้ไขวิกฤตการณ์ได้ดีกว่าประธานาธิบดี เช่น อังกฤษ สวีเดน เดนมาร์ค นอร์เวย์ เป็นต้น
เนื่องจากทรงมีพระบารมีและพระปรีชาสามารถสูง ประกอบกับทรงได้รับความจงรักภักดีจากพสกนิกรโดยทั่วถ้วน ทั้งพระองค์ก็ทรงปราศจากอคติทางการเมืองด้วยประการทั้งปวง เพราะทรงอยู่เหนือการเมือง
ส่วนประเทศที่มีการปกครองแบบสาธารณรัฐ เช่น ฝรั่งเศส เยอรมัน และอิตาลีนั้น ประธานาธิบดีเกลือกกลั้วอยู่กับการเมือง ย่อมตกเป็นเป้าของการวิพากษ์วิจารณ์ได้ แม้จะมีอิทธิพลในทางการเมืองอย่างไร ก็ไม่เท่ากับพระบารมีที่พระมหากษัตริย์มีต่อประชาชน"
เท่าที่กล่าวมานี้จะเห็นได้ชัดว่า พระมหากษัตริย์ทรงมีความสำคัญต่อการปกครองตลอดมาทุกยุคทุกสมัย.


ขอขอบคุณ ความสำคัญของพระมหากษัตริย์ | ไทยโพสต์

 

อาหารทิพย์ ในยามชาติมีวิกฤติ

ในขณะที่บุคลากร รพ.จุฬาฯที่ปฏิบัติงานกันในช่วงนี้
ไม่สามารถซื่ออาหารจากที่ไหนได้
เพราะร้านอาหารไม่กล้ามาเปิด
ของกินในร้าน 7-11 ก็ถูกซื้อหมดจนร้านต้องปิด!
ของสดในแผนกโภชนาการของ รพ.เองก็ไม่รู้ว่าอยู่ได้ถึงเมื่อไหร่
พวกเขาก็ได้รับพระราชทานสิ่งของเหล่านี้
ซึ่งมันเป็นยิ่งกว่าเครื่องยังชีพมาก
มันคือขวัญและกำลังใจที่สูงสุดแล้ว

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

รูปภาพของแฟนจากเรารัก "สมเด็จพระเทพฯ" : Our BeLoved Princess Maha Chakri Sirindhorn | Facebook#!​

 

พ่อ

ทรงพระเจริญ​

 

มาอ่านบทความนี้เพื่อจะได้เข้าใจในเหตุการณ์สามารถมองเห็นการพัฒนาของสถานการณ์ไปสู่ขั้นตอนและเหตุการณ์ต่างๆ โดย พ.อ.ดร.ธีรนันท์ นันทขว้าง
ในหัวข้อ...





<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=626 align=center border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD class=text5 width=626 bgColor=#537ee4 height=97>สลายราชประสงค์จบ เข้าสู่"จลาจลกลางเมือง" </TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=626 border=0><TBODY><TR><TD width=14 bgColor=#537ee4></TD><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=599 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=599><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width=599 border=0><TBODY><TR><TD class=text4>20 พค. 2553 06:43 น.

<DD>




<DD>วิเคราะห์สถานการณ์ หลังสลาย ราชประสงค์ ซึ่ง พ.อ.ดร.ธีรนันท์ นันทขว้าง รองผู้อำนวยการกองการศึกษากองบัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองบัญชาการกองทัพ กล่าวว่าเหตุการณ์ เผาไหม้ตามจุดต่างๆ ถือเป็นการตกค้างทางอารมณ์ที่เขาเก็บเอาไว้นาน สิ่งที่เราจะพบคือการก่อวินาศกรรมหลายจุด ตามพื้นที่เป้าหมาย และใครที่ไม่เป็นธรรมกับเขาคือเป้าหมาย ทั้งการเผาอาคาร หลังจากนั้น ประสงค์ร้ายต่อตัวบุคคล ทั้งเจ้าหน้าที่ ผู้สื่อข่าว และสถานที่เป็นสัญลักษณ์ เสี่ยงต่อการถูกทำลาย ภาวะแบบนี้ต้องใช้กำลังทหารเข้าควบคุมอย่างเด็ดขาด ซึ่งก็อาจจะทำให้เกิดการปะทะ และติดอาวุธ ลอบทำลายเจ้าหน้าที่




<DD>"สงครามกองโจรยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงนี้อาจจะ 1 ปี หรือ 2 ปี เพราะจะต้องผ่านการ ฝึกฝนอบรม การเข้าสู่สงครามจะเป็นกระบวนการช่วงสุดท้าย หากขณะนี้ รัฐไม่สามารถสถาปนาอำนาจขึ้นมาได้ เพื่อจัดการกับกลุ่มที่แตกออกไป แนวโน้มคือแย่ๆ ไปเรื่อย




<DD>พ.อ.ดร.ธีรนันท์ บอกว่า ภาวะแบบนี้เรียกว่าเขตความสามารถควบคุมไม่ได้ อาจจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ หรือไม่อาจจะยาว ภาวะแบบอยู่ในขั้นที่ 7 คือสถาปนาอำนาจรัฐไม่ได้




<DD>"ตอนนี้ สิ่งที่ท้าทาย คือควบคุมไม่ได้เป็นสภาพช็อก คือบริหารช็อก เช่นเดียวกับสหรัฐ คิดว่าหยุดราชประสงค์แล้วจบ อาจจะ ไม่มีแผนสำรองในการควบคุม ดังนั้น รัฐจะต้องสถาปนาอำนาจขึ้นให้ได้"




<DD>สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย พ.อ.ดร.ธีรนันท์ ได้เขียนในบทความ สงครามกลางเมือง - ความแตกแยกของคนในชาติ - ฉากทัศน์แห่งความรุนแรงที่ไม่อยากให้ไปถึง โดยประเทศไทยอยู่ในขั้นตอนที่ 7 โดย สถานการณ์ขั้นที่ 1 เปิดฉากด้วยการลวง : การเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันไม่ใช่สิ่งที่เพิ่งปรากฏ แต่เป็นสิ่งที่ก่อตัวและเกิดขึ้นมานานหากแต่ยังไม่มีข้อยุติ การขับเคลื่อนเพื่อให้ได้ชัยชนะของกลุ่มทุนใหม่นั้นมีกรอบเวลาเหลือไม่มากนัก เพราะฉะนั้นการขับเคลื่อนในสถานการณ์ปัจจุบันเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายนักหากจะเปิดสถานการณ์ด้วยความรุนแรง อาจจะทำให้เกิดการต่อต้านจากสังคม ดังนั้นการสื่อสารกับสังคมให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มทุนใหม่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มที่ใช้ความรุนแรง แสดงให้เห็นว่าแตกแยกกันเองแต่มีปรากฏว่าบุคคลที่แตกแยกกันขึ้นเวทีปราศรัยเดียวกัน นอกจากนี้ยังสร้างความเคยชินในการเคลื่อนย้ายมวลชนที่ไม่ก่อให้เกิดความรุนแรง




<DD>สถานการณ์ขั้นที่ 2 ขับเคลื่อนด้วยเงื่อนไข : การขับเคลื่อนการเคลื่อนไหวมวลชนจากกลุ่มทุนใหม่ นั้นจะขับเคลื่อนโดยการใช้เงื่อนไขที่สำคัญๆ ดังนี้ 1) การยึดทรัพย์ของอดีตนายกรัฐมนตรี 2) การยุบพรรคประชาธิปัตย์ และ 3) การมีหลายมาตรฐานที่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรม สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะถูกใช้เป็นประเด็นในสื่อสารระหว่างชนชั้นนำ ชนชั้นกลาง และชนชั้นรากแก้ว และยังสามารถใช้สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นเงื่อนไขในการกำหนด วัน ว.เวลา น. (ศัพท์ทางทหารหมายถึง วันและเวลาที่ใช้เริ่มปฏิบัติการทางทหาร) ในการเคลื่อนย้ายมวลชนให้สอดคล้องระหว่างกลุ่มต่างๆ ที่เป็นไปตามขั้นตอนที่ได้วางแผนไว้ ซึ่งคาดว่าจะมีมวลชน 2 ระลอก ได้แก่ 1) มวลชนระลอกแรกที่เคลื่อนออกมาก่อน และ 2) มวลชนสมทบที่ตามออกมาหลังจากระลอกแรกประสบความสำเร็จในขั้นที่ 3 คือยั่วยุด้วยความรุนแรง




<DD>สถานการณ์ขั้นที่ 3 จุดชนวนด้วยความรุนแรง : สถานการณ์ขั้นนี้จะเกิดขึ้นหลังจากใช้เงื่อนไขต่างๆ ในการกำหนดวันเวลาในการเคลื่อนย้ายแล้ว กลุ่มทุนใหม่มีแนวโน้มที่จะยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ซึ่งหากการยั่วยุประสบความสำเร็จจะส่งผลให้สถานการณ์เคลื่อนไปในขั้นที่ 4 ต่อไป โดยการยั่วยุที่ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นนั้นมีความเป็นไปได้ใน 2 ลักษณะคือ 1) การเผชิญหน้ากันระหว่างเจ้าที่ของรัฐที่ออกมารักษาความสงบเรียบร้อยกับมวลชนระลอกแรก ในความเป็นไปได้นี้จะสัมฤทธิผลโดยเร็วหากเจ้าหน้าที่ที่ออกมารักษาความสงบเรียบร้อยถูกสั่งให้ออกมาพร้อมกับอาวุธปืน ในลักษณะเดียวกันกับเหตุการณ์สลายผู้ชุมนุมที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ถนนวิภาวดีรังสิตเมื่อ 13 เม.ย.2552 ที่ผ่านมา เพราะจะมีผู้สร้างสถานการณ์กับมวลชนระลอกแรกโดยกลุ่มที่นิยมความรุนแรงทำการการยิงเข้าสู่มวลชน ซึ่งหาเกิดลักษณะนี้จริงจะส่งผลให้การขับเคลื่อนมวลชนระลอก 2 ออกมาสมทบได้โดยง่าย ส่วนความเป็นไปได้ในแนวทางที่ 2) สถานการณ์ก่อนเคลื่อนย้ายมวลชนหรือระหว่างเคลื่อนย้ายมวลชนมีทิศทางจะเกิดความรุนแรงขึ้น กองทัพได้ตัดสินใจทำการปฏิวัติก่อนเพื่อควบคุมสถานการณ์ หากเป็นไปตามความเป็นไปได้นี้จะส่งผลให้เกิดการระดมมวลชนออกมาสมทบระลอกแรกอย่างง่ายดาย เพราะเหตุการณ์มีบริบทไม่เหมือนกับการทำรัฐประหารเมื่อ 19 ก.ย.2549 ซึ่งความเป็นไปได้ทั้ง 2 แนวทางจะส่งผลให้เกิด สถานการณ์ในขั้นที่ 4 คือ ขยายผลแห่งความสำเร็จด้วยมวลชน




<DD>สถานการณ์ขั้นที่ 4 ขยายผลแห่งความสำเร็จด้วยมวลชน : เมื่อความรุนแรงได้เกิดขึ้นตามสถานการณ์ขั้นที่ 3 คือยั่วยุด้วยความรุนแรงประสบความสำเร็จ สถานการณ์ต่อมาคือ การขยายผลแห่งความสำเร็จด้วยมวลชน ความเป็นไปได้ในสถานการณ์นี้คือ การระดมมวลชนในระลอกสมทบ ซึ่งกลุ่มที่นิยมความรุนแรงจะแฝงตัวเข้ามากับมวลชนระลอกสมทบ เพื่อทำหน้าที่เป็นส่วนเจาะหรือเริ่มเปิดสถานการณ์เมื่อสถานการณ์ไปถึงในระดับที่จะแตกหัก โดยเป้าหมายของการระดมมวลชนนั้นจะเคลื่อนเข้าปิดล้อมพื้นที่สำคัญ เช่น ทำเนียบรัฐบาล ศาลากลางจังหวัด และ สถานที่ที่เป็นสัญญาลักษณ์ของศูนย์กลางอำนาจ สถานการณ์ในขั้นนี้จะประสบความสำเร็จถ้าสามารถระดมมวลชนระลอกสมทบมาได้จำนวนมาก แล้วเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ในการรักษาความสงบเคลื่อนเข้ารักษาพื้นที่สำคัญ




<DD>สถานการณ์ขั้นที่ 5 เปลี่ยนแปลงด้วยการเปลี่ยนขั้ว : สถานการณ์ในขั้นนี้เป็นขั้นที่สำคัญอีกขั้นหนึ่ง เพราะมีความเป็นไปได้ 2 แนวทางคือ 1) เจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยปฏิบัติตามคำสั่งของกลุ่มทุนเก่าอย่างเคร่งครัดทำให้มีความเสี่ยงที่จะปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ฯ กับ มวลชน ซึ่งการปะทะกันครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดความสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย แน่นอนเพียงแต่จะสูญเสียมากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กับคำสั่งผู้บังคับบัญชาในแต่ละระดับ และจำนวนมวลชนในระลอกสมทบ และถ้ามีมวลชนระลอกสมทบจำนวนมากเข้าร่วมและผสมผสานกับกลุ่มนิยมความรุนแรงที่อาจจะมีการติดอาวุธจึงมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการเข้าปลดอาวุธเจ้าหน้าที่ สถานการณ์ก็จะขยับเข้าสู่ขั้นต่อไป ส่วนความเป็นไปได้ของแนวทางที่ 2 คือ เจ้าหน้าที่ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ฯ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา เปิดทางให้มวลชนระลอกสมทบเคลื่อนที่ผ่านเข้าไปยึดสถานที่สำคัญ ในแนวทางนี้มีความเป็นไปได้ว่าเจ้าหน้าที่ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ฯ อาจจะเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมกับมวลชน ก็ได้แต่จะเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมสถานการณ์จะขยับเข้าสู่ขั้นต่อไป เพราะขั้วอำนาจหนึ่ง (กองทัพในฐานะเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย) เริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมคือ เปิดทางให้มวลชน หรือ เข้าร่วมมวลชน หรือ พ่ายแพ้มวลชน




<DD>สถานการณ์ขั้นที่ 6 สิ้นสุดด้วยการยอมจำนน : สถานการณ์ในขั้นนี้มีความเป็นไปได้ 2 แนวทางคือ 1) รัฐบาลลาออก ซึ่งจะส่งผลให้สถานการณ์ขยับไปสู่สถานการณ์ขั้นต่อไปทันที สำหรับแนวทางที่ 2 คือ รัฐบาลไม่ลาออก ในสถานการณ์ลักษณะนี้รัฐบาลและกลุ่มอำนาจสามารถเลือกได้ 2 แนวทางคือ ยุบสภา แล้วเป็นรัฐบาลรักษาการต่อ หรือไม่ยุบสภาตัดสินใจใช้อำนาจตามกฎหมาย แต่ทั้งสองแนวทางจะนำไปสู่ความพยายามที่จะรวบรวมกำลังทั้งในส่วนทหารในฐานะเจ้าหน้าที่รักษาความสงบที่ยังปฏิบัติตามคำสั่งรัฐบาล และระดมมวลชนเข้าปะทะกับมวลชนอีกกลุ่มหนึ่ง เพื่อทำการตีโต้ตอบ เพราะมีความเชื่อว่ามีกำลังเพียงพอที่จะเอาชนะได้ สถานการณ์ในขั้นนี้เป็นขั้นที่เกือบจะเป็นสงครามกลางเมือง หรือเข้าสู่สถานการณ์สงครามกลางเมืองอย่างเต็มรูปแบบ แต่ไม่ว่าผลจะเป็นลักษณะไหน กลุ่มทุนไหนจะประสบชัยชนะ ผู้สูญเสียคือ ประชาชน เจ้าหน้าที่รักษาความสงบ และประเทศจะเสียหายเสี่ยงอยู่ในสภาวะรัฐล้มละลาย และง่ายต่อการแทรกแซงจากต่างชาติ สถานการณ์ก็จะขยับไปสู่สถานการณ์ขั้นสุดท้าย




<DD>สถานการณ์ขั้นที่ 7 สุดท้ายด้วยสุญญากาศ : สถานการณ์ในขั้นนี้มีความเป็นไปได้ 2 แนวทางคือ 1) สามารถสถาปนาอำนาจรัฐได้ ในแนวทางนี้มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มผลประโยชน์ทุกกลุ่มหันหน้าเข้าเจรจากัน มีความเป็นไปได้ว่าทุกกลุ่มจะยอมรวมกันจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ แต่การดำเนินในลักษณะดังกล่าวจะขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าขัดต่อรัฐธรรมนูญ คงมีความเป็นไปได้ที่ต้องที่การล้มล้างรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจจะไม่พ้นต้องให้ทหารดำเนินการรัฐประหาร ซึ่งทุกฝ่ายจะเห็นด้วยหรือไม่ ส่วนแนวทางที่ 2 คือ ไม่สามารถสถาปนาอำนาจรัฐได้ สถานการณ์ขั้นนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไม่สามารถตกลงร่วมกันได้แต่ละฝ่ายต่างเลือกที่จะยังคงเผชิญหน้ากันอยู่ ที่เลวร้ายที่สุดคือการแตกแยกเป็นกลุ่มย่อยๆ เช่น กลุ่ม...กลุ่ม....กลุ่ม.... กลุ่ม......กลุ่ม.....กลุ่มกรุงเทพ เป็นต้น ซึ่งแนวทางนี้จะเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดเพราะจะแตกออกเป็นก๊กเป็นเหล่า สิ่งเหล่านี้คือสภาพสุญญากาศทางอำนาจที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย ...(ยังมีต่อ)<DD><DD>



</DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY>

 

.....

<DD>ข้อเสนอแนะตามฉากทัศน์

<DD>ข้อเขียนที่ปรากฏในบทความนี้เป็นสิ่งที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงและคงไม่มีบุคคลใดที่ปรารถนาให้เกิดขึ้นจริง และจะเป็นไปได้หากทุกฝ่ายไม่ยอมละทิฐิและลดความเป็นอัตตาที่มีอยู่ สังคมไทยเคยอยู่กันด้วยความสงบสุขกันมาช้านาน ข้อเสนอแนะต่อไปนี้คงเป็นไปได้ยาก เพราะได้มีผู้เสนอแนวเหล่านี้มาเป็นจำนวนมากแต่ไม่สัมฤทธิผล ยังไงก็ตามบทความนี้ขอนำมาตอกย้ำให้กับสังคมไทยอีกครั้งหนึ่ง

<DD>4.1 บทบาทของกองทัพ กองทัพจะเป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญยิ่งในสถานการณ์เหล่านี้ เพราะหากกองทัพมีบทบาทในทางที่เหมาะสมแล้ว สถานการณ์โดยรวมจะคลี่คลายมากขึ้น สิ่งที่สำคัญที่จะทำให้กองทัพเป็นสถาบันที่ควรจะเป็นคือ การเป็นสถาบันหลักแห่งหนึ่งของชาติที่มีความเป็นทหารอาชีพ หากกองทัพยึดมั่นในความเป็นทหารอาชีพแล้ว ย่อมจะส่งผลดีในภาพรวม ซึ่งเป็นสิ่งที่กองทัพได้รับความชื่นชมหลังจากเหตุการณ์ใน พ.ค.2535 เพราะกองทัพกลับไปยืนอยู่ในจุดที่ควรจะเป็นคือไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ถ้ากองทัพมีความเป็นทหารอาชีพอย่างเพียงพอแล้ว ไม่ไปเกี่ยวข้องกับการเมือง พร้อมทั้งท่าทีที่เหมาะสม การเมืองก็คงไม่ก้าวเข้ามาวุ่นวายในกองทัพ และจะทำให้ได้รับความเชื่อถือจากทุกฝ่าย และเป็นสถาบันที่ทุกฝ่ายให้ความเกรงใจ การจะแสดงท่าทีต่างๆ ของกองทัพจะทำให้ทุกฝ่ายรับฟัง เพราะฉะนั้นความเป็นทหารอาชีพคือ เกราะป้องกันตัวที่ดีที่สุดที่จะไม่ทำให้กองทัพตกต่ำ และสถานการณ์โดยรวมดีขึ้น อีกประการหนึ่งการเข้าปะทะโดยตรงกับมวลชนเป็นบทเรียนที่มีมาตั้งแต่ในอดีตว่าเป็นสถานการณ์ที่นำพาไปสู่ความตกต่ำ เพราะกองทัพเป็นสัญญาลักษณ์ของความรุนแรง ประชาชนไม่มีทางที่จะสู้ได้ การวางตัวที่เหมาะสมคือบทบาทของกองทัพที่พึงกระทำ

<DD>4.2 กลุ่มผลประโยชน์ กลุ่มการเมือง และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด : วันนี้สังคมไทยนั้นหลายกลุ่มหลายพวก ขาดจิตสำนึกสาธารณะ เพราะทุกคนคิดแต่ประโยชน์ส่วนตนและกลุ่มของตนจนลืมมองไปว่าสังคมส่วนรวมเราจะอยู่กันอย่างไร สังคมจะล่มสลายหรือไม่คนหลายคนไม่เคยคิด เพราะไม่สามารถมองเห็น หากทุกฝ่ายมองเห็นประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้งแล้ว ทุกอย่างมีความเป็นไปได้ว่าสังคมไทยจะดีขึ้นกว่านี้ หากเราคนไทยทุกคนหันไปมองรอบตัวสักนิดจะพบว่าประเทศรอบๆ บ้านกำลังจะเป็นเพื่อนเราที่ก้าวไปข้างหน้าพ้นเราไป ต่างชาติทั้ง รัฐ และบรรษัทข้ามชาติกำลังเล็งที่จะเข้าแทรกแซงและตักตวงผลประโยชน์ภายหลังเสถียรภาพภายในประเทศสั่นคลอน เพราะฉะนั้นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดควรที่จะพยายามหันหน้าเข้าหา เปิดประตูการเจรจา สร้างการยอมรับร่วมจากทุกฝ่าย น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

<DD>4.3 ประชาชนทุกหมู่เหล่า : ประชาชนคนไทยถือได้ว่ามีเป็นส่วนที่สำคัญมากที่สุด เพราะจะถูกใช้เป็นเครื่องมือจากกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ ทางออกที่ดีที่สุด ณ วันนี้ของประชาชนคือ หนักแน่น มีวิจารณญาณ ไม่หลงเชื่ออะไรง่ายๆ ไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจว่าควรที่จะทำอย่างไร การศึกษาอาจจะมีส่วนสำคัญที่ทำให้พิจารณาอย่างรอบคอบขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ การเชื่อในคุณงามความดีมากว่าเชื่อในวัตถุ การมีจิตสำนึกสาธารณะที่ดี เอื้ออาทรต่อกัน สังคมไทยคงสงบสุขและก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน

<DD>สถานการณ์ความขัดแย้งยังคงดำรงอยู่ท่ามกลางความเบื่อหน่าย ความเหนื่อยกับคนไทยจำนวนมาก คำถามที่มักจะปรากฏขึ้นในใจกับคนส่วนใหญ่ว่า เมื่อไหร่เรื่องเหล่านี้จะยุติ เมื่อไหร่หลายๆ คนไทยจะมีโอกาสได้ทำมาหากินกันตามปกติ สิ่งเหล่านี้ยังคงไม่มีคำตอบ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นของใคร ชนชั้นนำคือกลุ่มทุน (อนุรักษนิยม) และกลุ่มทุน (ก้าวหน้า) ที่ครอบครองผลประโยชน์ส่วนใหญ่ของประเทศ หรือเป็นปัญหาของคนส่วนใหญ่ของประเทศ คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่เราคนไทยทุกคนต้องหาคำตอบกันเอง สำหรับฉากทัศน์ที่ได้วาดภาพขึ้นในบทความนี้ ถือได้ว่าเป็นเพียงภาพที่ถูกเขียนมาจากการฝันร้าย ถ้าตื่นขึ้นมาทุกอย่างยังคงเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้นเอง ขอให้ประเทศไทยสงบสุขสถาพร

���Ǵ�ǹ : �����Ҫ���ʧ�쨺 �������"��Ҩš�ҧ���ͧ"
<DD>
</DD>

 

คุณูปการของ เสธแดง ที่หลายคนอาจจะคลางแคลงใจ แต่มั่นใจเถอะ เสธแดง คือทหารของพระเจ้าแผ่นดินตัวจริง ที่สละชีพเพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์

ยอมโดนคนด่า ยอมเป็นคนเลวในสายตาประชาชน หากที่จริงแล้ว เสียสละทั้งครอบครัวทั้งชีวิต

ทั้งหมดจากคุณ Vihok นะครับ ที่เหลือก็สุดแต่แล้ววิจารณญาณทุกท่านครับ

แจ้ง"นายอินทร์"ร่วมกันแพร่ข่าวเส ธ.แดงให้โลกรู้ เพื่อให้เขาเป็นวีรชนอย่างสมเกียรติ และเพื่อหยุด การใช้ศพเสธ.แดงมาปลุกแดงฆ่า ทหาร....

@pookemประวัติศาสตร์ ไทยต้องจารึกเสธ.แดงมิใช่แค่ทหารแต่เขาคือ"วีรบุรุษ"ที่เสียสละตัวเองเพื่อ แฝงตัวอยู่ในเหล่าทรราชของแผ่นดินเขานั้น

รักในหลวง
เคยสังเกตุไหม ! วันนี้การต่อสู้เกิดขึ้นระหว่างคนเอาเจ้ากับไม่เอาเจ้า แต่เวปไซค์เสธ.แดงมีภาพในหลวงทรงรถัง นั้นหมายถึงเขาเอาสถาบันมาโดยตลอด...

ประวัติ เสธ.แดง เป็นทหารติดตามของไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกฯพรรคประชาธิปัติย์ เขียนนส.โจมตีแม้วมาตลอด

เคยสังเกตุไหม ! ทุกครั้งที่เสธ.แดงบอกว่าจะเกิดระเบิด มันก็เกิด ทุกคนคิดเพียงว่าเขาทำ ทั้งที่ "คนพูดไม่ได้ทำ คนทำไม่ได้พูด"

เคยสังเกตุไหม ! เสธ.แดงเสี่ยงที่จะบุกไปทุกจุดที่แม้วอยู่ เพื่อถ่ายภาพนำหลักฐานมาแฉ แล้วปท.นั้นๆก็จะไล่แม้วทุกครั้ง มิใช่ ฤา

เคยสังเกตุไหม ! เสธ.แดง เอาลูกคนเดียวที่รักที่สุดมาเป็นตัวประกันไว้ที่พธม.ขณะชุมนุม และตัวเองต้องเสียสละเพื่อชาติไปเป็นไส้ศึก....

RT @poj_t พี่โต้งคิดว่ารัฐบาลและศอฉจะคิดถึงเสธแดงในแง่เดียวกับพี่หรือเปล่า // @vihok พยัคฆ์ เขารู้ตั้งแต่แรกแล้วครับ

RT @ifew:อย่าบอกว่าเสธแดงเป็นไส้ศึกoะครับ?!?! // @vihok นั้นคือสาเหตุที่แม้วต้องยิงทิ้ง

RT @sivaporn_yuu:งั้นเสธ.แดง เป็นหนึ่งในนายอินทร์ด้วยสิคะ พอแม้วรู้เลยสั่งเก็บ // @vihok หัวใจคือความลับ

RT @janoinarak:แล้วถ้าเข้าถึงตัวทักษิณได้ เสธแดงจะเป็นไส้ศึกทำไมให้เสียเวลาครับ // @vihok "ในเรามีเขา ในเขามีเรา"

RT @poj_t @ifew เรื่องเสธแดงนี่ลับลวงพรางสุดๆ//@vihok ชัยชนะของแผนคือการปกปิด

RT @taweekunฟังคุณวิหคเล่าแล้วทำให้นึกถึง จิงเคอมือสังหารจิ๋นซี// @vihok ใช่ครับ อดทน อดกลั่น แฝงตัว

RT @ThaiShortNews RT @wannasiri_tv: "ทหารเข้ามาที่นี่ไม่ได้หรอก" เสียงสุดท้ายในชีวิตของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล (โธมัส ฟุลเลอร์ สัมภาษณ์)

RT @wannasiri_tv: คุณกฤษณะ เคยสัมภาษณ์น้องเดียร์ กับเสธ.แดง น้องเดียร์ว่า "เวลาไปชุมนุมก็โทรหากันตลอด ชอบแหย่พ่อ เอามือตบไปแกล้งตีพ่อ"

RT @wannasiri_tv: กฤษณะล้วงลูก เคยพาไป'ห้องนอนเสธ.แดง' นอกจากรูปถ่ายภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้ว ห้องนี้ยังเต็มไปด้วยตุ๊กตาที่เสธ.แดงสะสม

RT @ThekornZA อ่านทวิตเตอร์ของคุณเสธ.แดงคือไส้ศึกให้รัฐบาล เอ้า! เรื่องกลับตาลปัตรหรือไงครับ!!?// @vihok นี้คือสงครามที่ต้องมีไส้ศึกมิแปลก

RT @sukeng คุณโต้ง แล้วทำไมลูกน้องเสธแดงยังป่วนเมืองให้แม้วอยู่อีกละคะ?//@vihok ถ้าไม่มีเสธแดงคุม ไว้ ป่านนี่พิธีเผาพระโกฎพระพี่นางคงทำไม่ได้

จำได้ไหม ! งานพระราชพิธีพระพี่นางที่สนามหลวง ขณะที่แดงเริ่มประกาศล้มเจ้า เสธ.แดงมิใช่เหรอ ที่คอยเฝ้าจุดทำพิธี กันคนทำลาย...

การเมือง ก็คือสงคราม การเมืองไทยมันลึกซึ้ง...สลับซับซ้อน... บางคนอาจจะเรียกกรณีเสธ.แดงว่าลับลวงพราง แต่ผมขอเรียกว่า"วีรชน"

แล้วหลังจากนี้ ! เขาก็จะเอากรณีเสธแดงตาย มาปลุกระดมปชช.ให้มาฆ่าทหาร ถ้าต้องการหยุด... ต้องแพร่ความจริงเรื่องเสธ.แดงให้โลกรับรู้....

RT @aehlive:แล้วทำไมตอนเปิดทางให้ รพ.จุฬา เสธ.แดงถึงไม่ยอมคะ // @vihok เขามิใช้เหรอที่คุมแดงไว้ให้พระเทพเสด็จเข้าจุฬา เคยคิดไหม...

RT @jarusarunhad:มีคนวางแผนจะทำลายงานพระราชพิธีเลยรึครับ // @vihok ก็วันนี้สู้กันระหว่างคนเอาเจ้ากับไม่เอาเจ้ามิใช่เหรอครับ...

RT @Garcon2020: เสียงสุดท้าย"ทหารเข้ามาที่นี่ไม่ได้หรอก"//@vihok ลองคิด ย้อน เขามิใช่เหรอคอยบอกแผนว่าแดงจะทำอะไรทุกครั้งเช่นกัน...

RT @iBabe: สรุป เสธ.แดงแฝงตัวไปเพื่อช่วยชาติหรือครับ งี๊คนที่ฆ่าเสธ.แดงเป็นใครกันแน่พี่โต้ง//@vihok เมื่อเขารู้ว่าเป็นไส้ก็รอโอกาส ยิงทิ้ง..

RT @Garcon2020: แต่ก็เป็นไปได้ที่เสธแดงเป็นคนเอาเจ้า แต่ไม่เอารัฐบาลนี้ก็ได้นะครับ//@vihok เขาคือเลขาไตรรงค์ มิใช่ ฤา

RT @tiogail: เรื่องเสธ.แดง คือพี่รู้มาตั้งแต่แรกเลยเหรอคะ //@vihok ครับ

RT @PingJune:สรุปว่า เสธ.แดง ยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์เหรอคะ// @vihok ไม่ผิดครับ..

ผมเคยย้ำ ! บอกพวกเรา"นายอินทร์ ผู้ปืดทองหลังพระ" มานานว่า สงครามมิได้เอาชนะด้วยศาสตราวุธแต่เอาชนะด้วยสติปัญญา....

RT @jarusarunhad: ถ้าเช่นนั้นเสธแดงคือนายพลที่กล้ายิ่งกว่ากล้าของกองทัพไทยครับ //@vihok มิผิดดอก...

RT @Garcon2020: ขอถามเล่น ๆ ครับว่าถ้าเสธแดงยังอยู่ สถานการณตอนนี้หน้าจะเป็นอย่างไงครับ//@vihok มันคงจบไวขึ้นครับ

RT @iBabe:พี่โต้งครับ แล้วทำไมถึงมีข่าวเสธ.แดงจะยื้อม๊อบต่อไปถ้าสามเกลอลงอ่ะครับ// @vihok ถ้าสลายผกค .ก็จะกระจาย ซุกปัญหาไว้ใต้พรหม

RT @janoinarak: แล้ว ผบ.ทบ. ลับลวงพรางหรือไม่อย่างไรครับ //@vihok เขาเพื่อนเสธแดงครับ....

RT @tutornano: ขอถามนะคะท่านนายกทราบทุกเรื่องใช่ไหมคะ? //@vihok :ไม่ทุกเรื่อง แต่กรณีเสธแดง ทราบครับ

RT @GeorgePrachaya: ถึงว่าถามเรื่อง เสธ.แดง พี่ไม่ขอพูดถึง //@vihok ครับ

RT @iBabe: แสดงว่าเสธ.แทรกซึมเข้าไปเพื่อบอกความเคลื่อนไหวใช่ไม๊ครับ แล้วทำไมเขาไม่สื่อถึงทหารโดยตรงล่ะครับ//@vihok มันลึกกว่านั้น

RT @mataskii: RT : แล้วไมต้องยิง M79 ใส่ม๊อบ พธม.คะ //@vihok เขายิง เพราะต้องการให้หวาดกลัวแล้วสลาย แต่พธม.เขานักสู้..

RT @tutornano ::ขอถามอีคำถามนะคะตกลงว่าแม้วยังมีชีวิตอยู่และส่ังการตลอด? //@vihok จอดเครื่องไว้ฮ่องกงตัวอยู่สิงคโปร..

RT @Garcon2020: โทษครับ เหวง กับ เมธี ตอนไหนครับ //@vihok เหวงเคยร่วมกับพธม. เมธีฝั่นตัวหลังเวทีพธม.ตลอดครับ...

RT @aehlive: แล้วทำไมเสธ.แดงถึงฝึกกองทัพพระเจ้าตากและการ์ด นปช.คะ //@vihok ไว้คุมครองพระราชพิธีสนามหลวงครับ

RT @ie_pf: เสธแดงไปพลาดตรงไหน ทักสินถึงรุ้ แล้วทำไมกล้ายิงต่อหน้านักข่าว//@vihok ถ่ายรูป แฉแผน ประกาศตั้งแกนนำรุ่น2

RT @GeorgePrachayaแล้วทำไมหลังที่เสธ.แดงพูดว่า จะมีการระเบิดที่ไหน ทำไมไม่มีการป้องกันครับ// @vihok มันยากที่จะป้องกัน

RT @thanawan_zz: ไม่น่าพลาดเลย ท่านเสธ.แดง ทำไมทักษิณ ถึงได้ใจคอโหดจังเลย//@vihok ถล่มใต้ทุกวันคิดว่าใครทำ...

RT @Garcon2020:เลว จริง ๆ ภาคใต้นี่ก็เพราะมันหรอ เลวเหนือคำบรรยายจริง ๆ สำหรับคนๆนี้// @vihok วันนอฯอยู่พรรคไหนหละ

RT @Deer_Sophieที่เสธแดงยื้อให้แดงชุมนุมต่อ ก็เพื่อเรียกซึนามิมาล้างให้สิ้นซากสิคะ//: @vihok มิผิดครับ

RT @tutornano: ซึนามิคือข่าวร้าย หลังจากนั้นจะเหมือนเดิม? //@vihok : ขยะมันมากแล้ว เขาคงต้องทำความสะอาด เราแค่ผู้ชม

มันยากที่เจะเชื่อ ! ว่าเสธแดงคือ"วีระชน" เมื่อถึงเวลาความจริงจะปรากฎ

RT @Jirapat911:มีคนบอกว่า เสธ.แดงถูกใบสั่งจากนักธุรกิจแถบรปส. โดย import นักฆ่าจากเมืองนอกจริงเปล่าคะ??// @vihok คนไทยฆ่าสั่งจากนอก

RT @GeorgePrachaya:แม้วเป็นคนไปด่าโจรภาคใต้ แล้วมีคดีมัสยิดกือเซะอีก แล้วทำไมโจรภาคใต้ไปช่วยแม้ว// @vihok วันนอฯอยู่พรรคไหนครับ

RT @sukeng: คุณโต้ง หากเสร็จภาระกิจ นายกและกองทัพจะสดุดีเสธแดง และให้คนไทยรู้ความจริงไหมคะ?//@vihok แน่นอน

RT @NuchChaBa: ต้องรบกวนคุณวิหค เขียนเรื่องราวดีๆของท่านผู้นี้ ที่หลับชั่วนิรันดร์,เรื่องต่างที่คนทั่วไปไม่รู้ //@vihokครับ

RT @natpikit:ถ้าอย่างนั้นทำไมรัฐบาลไม่ออกมาประกาศเรื่องเสธ.แดงเลยล่ะครับ// @vihok กำลังช่วยเขาทำนี้ไงครับ

RT @iinGFahh: แล้วยังมีอย่างคุนเสธแดงอยุในดงแดงอีกป่าวคะ//@vihok. เฟียบ

เป็นธรรมชาติ ที่คนฝั่งพธม.จะต้องรู้สึกชังเสธ.แดง และมิผิดที่ยากจะให้เข้าใจว่า เขาคือ"วีรชน"แห่งกองทัพไทย...

RT @iinGFahh: แล้วแม้วจะรู้มั๊ยคะ กลัวถูกสอยเหมือนคุนเสธแดง //@vihok. กรรมใครใครก่อ กรรมนั้นจะคืนสนอง...

RT @chackinthehat: ถ้าเสธแดงเป็นอย่างที่คุณโต้งว่าไว้จริง ดิฉันคงต้องเกลียดตัวเองไปตลอดชีวิต //@vihok ถ้าไม่เกลียดเขาซิจะทำให้เขาทำงานลำบาก

RT @auuee:เรื่องเสธ.แดงพี่รู้จริงหรือว่าปะติดปะต่อ วิเคราะห์เอาเองคะ// @vihok ไม่ได้เดา ไม่ได้ทาย ไม่ได้วิเคราะห์ แต่มันเรื่องจริง

RT @iamnopparat:แล้วรัฐบาลทราบนานหรือยังครับว่า เสธ.แดง เป็น Spy หรือ มีคนในกองทัพเพียงไม่กี่คนที่รู้// @vihok ใช่ครับ

RT @tutornano:เราเผยแพร่ข่าวสารนี้ได้แค่ไหนคะ? // @vihok : ถ้ามต้องการหยุดแดงเอาศพเสธแดงไปปลุกคน ควรเผยแพร่ครับ

RT @auuee: ไม่ได้เดา ไม่ได้ทาย ไม่ได้วิเคราะห์ แต่มันเร่ื่องจริง//หมายถึงเสธ.แดงบอกพี่เอาไว้หรือคะ //@vihok ทหารเสื่อพระราชา

RT @dia_diadia:แม่บอกว่านายกคือคนที่เสียสละมากที่สุด อย่างทีพี่บอกเลย // @vihok มิผิด เขาจะเป็นฮีโร่...

หากอยากรู้ว่าเราเป็นใคร พวกเราคือ "ทหารเสือพระราชา" นายอินทร์ ผู้ปิดทองหลังพระ ทำความดีเพื่อความดี YouTube - vihok radio1ทหารเสือพระราชา

RT @tiogail:นี่คือแผนของใครคะ เสธ.แดงเอง กองทัพ หรือรัฐบาล // @Vihok กองทัพแห่งผู้ภักดี

แปลกไหม ! พวกเราที่นี้ปกป้องราชาอยู่แนวหน้าเจ็บตายจำนวนมาก ไม่ได้เป็นญาติเสธแดง มาเปิดเผย นั้นแสดงว่า"วีรชน"ต้องควรยกย่อง...

RT @pukmoo:คนตปทสั่งเก็บเสธแดง เพราะต้องการสร้างสถานการณ์ป้ายสีรบ. หรือรู้ว่าเป็นไส้ศึกคะ// @vihok ทั้ง2สาเหตุ ปลุกคนสู่ตปท.ต่อต้านรบ.

RT @tiogail: RT @vihok: RT @tiogail:นี่คือแผนของใครคะเสธ.แดงเอง กองทัพ หรือรัฐบาล//งั้นหมายความว่ารัฐบาลก็ไม่รู้เรื่องนี้เหรอคะ/ @Vihok รู้

หน่วย BSC. คือองค์กรลับ สมัยสงครามโลกครั้งที่2 ที่สามารถกำหนดยุทธศาสตร์ให้สัมพันธมิตร สามารถเอาชนะฮิดเลอร์ ทำให้โลกสงบในที่สุด

ในหลวง ได้แปลเรื่องราวของเขาเหล่านั้น และขนานนามเขาเหล่านั้นว่า "นายอินทร์ ผู้ปิดทองหลังพระ"

RT @Kitanjali: RT อีกอย่างถ้าเสธแดงเป็นไส้ศึกแล้วจะอธิบายเรื่อง M79 ว่าอย่างไร?//@vihok: เขาคอยเตือน

RT @tiogail: แล้วทำไมนายกถึงบอกว่าเสธ.แดงคือคนที่ไม่เอาปรองดองล่ะคะ หรือว่านี่ก็คือแผนอีก//@vihok เนียนไหมครับ

RT @jarusarunhad: ผมพอเข้าใจแล้วทำไมเสธแดงถึงต้องใส่ชุดทหารตลอดเวลาแกพร้อมตายในหน้าที่และเครื่องแบบตลอดเวลาแกอยู่แนวหน้ามาตลอด//@vihok มิผิด

RT @PingRobby: RT @vihok: RT @Kitanjali: RT: อีกอย่างถ้าเสธแดงเป็นไส้ศึกแล้ว M79 ว่าอย่างไร?// เขาคอยเตือน //ตกลงเสธแดงเป็นคนดี/ @vihokดีมาก

RT @tiogail: มาก ๆ ค่ะ แล้วนายกหรือกองทัพจะออกมาบอกความจริงนี้มั้ยคะ //@vihok เมื่เวลาเหมาะสม

RT @jumbolife9: ผมเริ่มเข้าใจแล้ว แต่สงสัยประการเดียว ทำไมเสธ.แดงต้องยิง สนธิ ลิ้ม //@vihok เขาไม่ได้ยิง เพราะเขาไม่มีกำลัง มีแต่ใจสู้

RT @KV99: รูปถ่ายคู่ออกอากาศที่ดูไบ เสธ. เอาเสียอยู่หมัดเลย //@vihok ใช่ครับ

RT @PuiFaiCM:แล้วใครยิง // @vihok เด็กแม้วม ทีมพล.อ.พรชัย

RT @sivaporn_yuu:วันนั้นเฮียลิ้ม เขาบอกเหมือนว่าเสธ.แดงรู้ว่าใครสั่งยิงเขา // @vihok คนใกล้มักสับสนในเหตุการณ์ คนไกลมักแจ้ง

RT @noojaree:สนธิ ลิ้ม รู้เรื่องเสธแดงมั้ยคะ // @vihok ไม่ครับ

RT @savadeeaey: แล้วทำไมเสธแดงต้องไปซื้อบ้านไว้ที่่ต่างประเทศล่ะคะ //@vihok ข่าวลือครับ

RT @dia_diadia:ก่อนโดนยิงเสธแดงรู้มั้ยว่าโดนแน่? // @vihok ข้อดีคือ เขากล้า บ้าบิ่น

RT @HookBB: RT @vihok: RT @jumbolife9: ทำไมเสธ.แดงต้องยิง สนธิ ลิ้ม //เขาไม่ได้ยิง เพราะเขาไม่มีกำลัง มีแต่ใจสู้/แล้วใครยิงครับ/@vihokทีมญาติแม้ว

ถ้าคุณรักชาติ ศาสตร์กษัตริย์ จงเชื่อมั่นในทหารเสือพระราชา นำข่าวเสธแดงวีรชนไปแพร่ แดงจะสับสน ทหารจะฮึกเหิมช่วยชาติ.....

เรื่องจริงที่ไม่มีใครรู้


อ่านดูนะคะ หากไม่เหมาะสม PM มาค่ะ จะเข้ามาลบให้

อ้างอิง ความเห็นที่ 660 ของเวปนี้

Entertainment - Manager Online

 

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ - โกศแปดเหลี่ยม เสธ.แดง

พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เครื่องประกอบเกียรติยศ ประกอบด้วย โกศ 8 เหลี่ยม ฉัตรเบญจา ตั้งประดับ ปี่กลองชนะประโคม ตอนพระราชทานน้ำอาบศพ ในเวลา 17.30 น. และ พระราชทานพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม ศพ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กำหนดเวลา 3 คืน ระหว่างวันที่ 17-19 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 18.30 น. ทั้งนี้ ในเวลา 16.00 น. ได้มีการเคลื่อนศพ พล.ต.ขัตติยะ จากโรงพยาบาลวชิรพยาบาล มาถึงที่ศาลา 9 วัดโสมนัสราชวรวิหาร ทั้งนี้ศพของเสธ.แดง ได้แต่งชุดทหารลายพราง ซึ่งเป็นชุดประจำด้วย

อย่าง ไรก็ตาม ภายในวัดโสมนัสราชวรวิหาร มีบุคคลมีชื่อเสียงมาร่วมงานด้วย อาทิ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 11 เป็นต้น รวมทั้งมีประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดง เดินทางมาร่วมอาลัยจำนวนมาก ขณะที่มีผู้ส่งพวงหรีดมาร่วมงานแล้วนับ 100 พวง อาทิ จากกองทัพน้อยที่ 1 รร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่น 22 กลุ่มเพื่อนตท.22 บ้านเลขที่ 111 ไทยรักไทย และท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล



ความรู้เรื่องโกศแปดเหลี่ยม
โกศแปดเหลี่ยม(พระราชาคณะชั้นหิรัญบัฏ,จอมพล, ผู้รับได้เครื่องราชชั้นปฐมจุลจอมเกล้าแต่ไม่ได้รับราชการขณะอนิจกรรม ,ชั้นปถมาภรณ์ช้างเผือก ชั้นมหาวชิรมงกุฏและชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก,หญิงที่ได้รับเครื่องราชชั้น ทุติยจอมเกล้าวิเศษ นายกรัฐมนตรี องคมนตรี อนิจกรรมเมื่อพ้นจากตำแหน่งแล้ว ท่านอดีตนายกสมัคร ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ใช้โกศชนิดนี้)

เส ธแดงได้รับโกศชั้นสูงเทียบเท่าองคมนตรีเลย


อ่านทั้งสองความเห็นแล้วตัดสินใจด้วยตัวท่านเองค่ะ

 

หลับให้สบายนะครับเสธ.

 

Wake รักในหลวง ......อู๋หม่าจือถามม่อจื้อว่า "แม้ว่าท่านจะรักบ้านเมืองหนักหนา แต่บ้านเมืองก็ไม่เห็นได้ประโยชน์จากท่าน แม้ว่าข้าพเจ้าจะไม่รักบ้านเมือง แต่บ้านเมืองก็ไม่เคยได้รับผลร้ายอะไรจากข<WBR></WBR>้าพเจ้า ต่างไม่มีผลเหมือนกัน แล้วทำไมท่านจะต้องนึกอยู่เรื่อยว่า ความคิดของท่านเป็นความคิดที่ถูกต้อง ความคิดของข้าพเจ้าเป็นความคิดที่ผิด?"

Wake รักในหลวง
......ม่อจื้อตอบว่า "สมมติว่าเวลานี้ มีคน ๆ หนึ่งมาวางเพลิงที่นี่ แล้วก็มีคนอีกคนหนึ่งรีบหิ้<WBR></WBR>วน้ำเตรียมจะมาช่วยดับไฟ ขณะเดียวกันก็มีคนอีกคนหนึ่<WBR></WBR>งถือเชื้อเพลิงเตรียมจะมาโห<WBR></WBR>มไฟให้แรงขึ้น การตั้งท่าของคนสองคนนี้ต่า<WBR></WBR>งไม่มีผลอะไรต่อเพลิงที่กำล<WBR></WBR>ังลุกไหม้ แต่ในความรู้สึกของท่าน ท่านคิดว่าคนสองคนนี้ ใครดีกว่ากัน?"

Wake รักในหลวง ......อู๋หม่าจือตอบว่า "ข้าพเจ้าคิดว่าคนที่หิ้วน้<WBR></WBR>ำเตรียมจะช่วยดับไฟนั้นมีเจ<WBR></WBR>ตนาที่ถูกต้อง ส่วนคนที่ถือเชื้อเพลิงเตรี<WBR></WBR>ยมกระพือไฟให้ลุกแรงนั้นมีเ<WBR></WBR>จตนาที่ไม่ถูกต้อง"
......ม่อจื้อกล่าวว่า "เหตุผลเดียวกัน ข้าพเจ้าก็รู้สึกว่าเจตนาขอ<WBR></WBR>งข้าพเจ้านั้นถูกต้อง และเห็นว่าเจตนาของท่านนั้น<WBR></WBR>ไม่ถูกต้อง"



อ่านเจอในFB เห็นว่ามีคติเตือนใจที่ดีค่ะ ขอนำมาเก็บและเผยแพร่ไว้ในกระทู้นี้ค่ะ

 

เรื่องราวของความจงรักภักดี ...คุณอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ยังไม่จบครับ



...ขอสดุดีและสรรเสริญอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง นักธุรกิจบันเทิง ผู้กำกับการแสดง และนักร้องนักแสดง ที่แสดงจุดยืนของตนเองอย่างประจักษ์ชัดถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ด้วยการประกาศความเป็น “พ่อแห่งแผ่นดิน” ของในหลวง ซึ่งคนไทยทุกคนจะต้องจงรักภักดีเทิดทูนและปกป้อง โดยอ๊อฟประกาศถวาย “ศีรษะ” เป็นราชพลีต่อหน้าผู้มีเกียรติ นักแสดง สื่อมวลชน และผู้ที่อยู่ในวงการบันเทิง ในวันงานประกาศผลมอบรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 1 ณ หอประชุมกองทัพเรือ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก่อนวันมหาอุบาทว์ผีนรกผุดจากกองขี้เถ้านครแห่งเทพ 3 วัน

คำพูดของ อ๊อฟ กลั่นจากหัวใจอันแข็งแกร่งเยี่ยงเพชรของเขา เพราะ ณ วันนั้น เวลานั้น เหตุการณ์กลางกรุงจะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ กองทัพคนเสื้อแดง อันธพาลแดง และผู้มีอิทธิพลแดงในวงการบันเทิงและสื่อมวลชน จะคิดกับเขาอย่างไร แต่ อ๊อฟ ไม่สนใจและได้ประกาศไล่คนที่ไม่ต้องการ “พ่อแห่งแผ่นดิน” ออกจากแผ่นดินของพ่อไปให้หมด

จึงขอสดุดีในไหวพริบปฏิภาณ ความกล้าหาญ และความเป็นเพชรน้ำหนึ่งในวงการบันเทิงที่ อ๊อฟมีครบทั้ง 4C – Clarity ความบริสุทธิ์ใจที่เกิดมาเป็นคนไทย มีกตัญญูกตเวทีต่อแผ่นดินและพ่อของแผ่นดิน Colour สีแห่งหัวใจที่ขาวสะอาดต่อสังคมไทย วงการบันเทิงไทย และพระมหากษัตริย์ Cut การเจียระไนจากครอบครัว ครู ผู้ที่อบรมให้เขาต่อสู้อย่างซื่อสัตย์สุจริตและยุติธรรม และ Carat เป็นน้ำหนักแห่งความดี อุดมการณ์ที่เชื่อมั่นในความสุจริต เป็นธรรมและสถาบันพระมหากษัตริย์...


Daily News - Manager Online

 

<EMBED src=http://www.youtube.com/v/uG0OOAOb31w&rel=0&color1=0xb1b1b1&color2=0xd0d0d0&hl=en_US&feature=player_embedded&fs=1 width=640 height=385 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always">

ขอมอบให้ทหารเสือพระราชาทุกคน​

</EMBED></EMBED>

 

คนเราเกิดมาต่างกัน

วันศุกร์ ที่ 21 พฤษภาคม 2553 เวลา 0:00 น





มีคำถามเกิดขึ้นค่อนข้างมากว่า ทำไม คนเราจึง เกิดมาต่างกัน

บางคน เกิดมาจน บางคน เกิดมารวย บางคน เกิดมารูปงาม บางคน เกิดมารูปอัปลักษณ์ บางคน ทำงานหนัก บางคน ทำงานเบา บางคน ทำอะไรมีแต่โชคช่วย บางคน ทำอะไรไม่เคยได้ดี ไม่ได้ดีซ้ำยังได้ผลร้ายกลับมาเสียด้วย เข้าทำนองว่าไม่ทำเสียเลยยังดีกว่า

ที่ กำลังฮิต อยู่ขณะนี้คือ “ไพร่” กับ “อำมาตย์”

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าสนใจว่า ทำไม คนเราจึงเกิดมาต่างกัน

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน “จุฬกัมม วิภังคสูตร” ว่า “กรรมจำแนกจึงทำให้สัตว์แตกต่างกัน”

ถ้าถามว่า ทำไมคนเราเกิดมา มี อายุสั้น

คำตอบคือ เพราะ ชาติปางก่อน เป็นคนชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิตและไม่มีศีล 5

คนที่เขาเกิดมาอายุยืน เพราะเมื่อชาติก่อนโน้นเขาเป็นคนดี มีศีลธรรม เมื่อเขาตายจากโลกมนุษย์แล้วก็ไปเกิดที่ดีมีความสุข เช่น เกิดในสวรรค์ เมื่อพ้นภูมิแล้วมาเกิดเป็นมนุษย์ บุญของเขายังหนุนอยู่ ทำให้อายุยืน

ถ้าถามว่า ทำไมบางคนเกิดมา มีโรคภัยไข้เจ็บ มาก

คำตอบคือ เมื่อชาติก่อน เขาเป็นคน ชอบเบียดเบียนสัตว์ทรมานสัตว์ กักขังสัตว์ คือทำร้ายให้เดือดร้อน เมื่อตายไปก็ตกนรก เมื่อพ้นจากนรกแล้วกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ เศษกรรมยังมีอยู่ ทำให้เขาเจ็บป่วย ไม่ค่อยมีความสุข

คนที่เกิดมาไม่ค่อยมีโรคภัยไข้เจ็บ เพราะชาติก่อนเขาเป็นคน มีเมตตา ต่อสัตว์ ไม่เบียดเบียน สัตว์นั่นเอง

ถ้าถามว่า ทำไมบางคนเกิดมา รูปไม่สวย

คำตอบคือ เพราะเขา ขี้โกรธ มีความโกรธเป็นเจ้าเรือน เมื่อตายไป เกิดในสถานที่ลำบาก เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์จึงเป็นคนหน้าตาไม่สวยงาม

ส่วนคนที่เกิดมารูปสวย เพราะชาติก่อน เป็นคนมีเมตตากรุณา ไม่ขี้โกรธ

ถ้าถามว่า ทำไมบางคนเกิดมา มีวาสนาน้อย ไม่มียศไม่มีตำแหน่งกับเขา และเป็นคนต้อยต่ำ

คำตอบถือ เพราะเมื่อชาติก่อน เขาเป็นคน ชอบริษยาคนอื่น เมื่อใครเขาได้ดีทนอยู่ไม่ได้ เอาแต่ริษยาเขา เมื่อเกิดในชาติปัจจุบัน จึงเป็นคนมีศักดิ์ต่ำ

ถ้าถามว่า ทำไมบางคน เกิดมายากจน

คำตอบคือ เพราะชาติก่อนเขาเป็นคน ตระหนี่ถี่เหนี่ยว ไม่รู้จักบริจาคทาน จึงเกิดมายากจน

คนที่ เกิดมารวย เพราะชาติก่อนเขาเป็นคนที่บริจาคทาน ไม่ตระหนี่ถี่เหนียว

ถ้าถามว่า ทำไมบางคนเกิดมาใน สกุลต่ำ

คำตอบคือ เพราะชาติก่อน เขาเป็นคน ไม่อ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ เป็นคนแข็งกระด้าง เมื่อตายไปเกิดในนรก เมื่อ กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ จึงเกิดในสกุลต่ำ ลำบากเดือดร้อน

ถ้าถามว่า ทำไมบางคน เกิดมาโง่

คำตอบคือ เพราะเมื่อ ชาติก่อน เป็นคน ไม่ชอบ เข้าไปไต่ถามหาความรู้ต่อสมณพราหมณ์ ต่อผู้ประพฤติดี ผู้รู้คุณธรรม จึงเป็นคนโง่ ชาติปัจจุบันจึงเป็นอย่างนั้น

ส่วนคนที่เกิดมามีปัญญาฉลาด เพราะเขาทำตรงกันข้ามกับคนโง่ เขาจึงเกิดมา มีปัญญาที่ดี

และ ถ้าถามว่า ทำไมบางคนเกิดมา มีทุกข์แสนสาหัส

คำตอบคือ เพราะเมื่อชาติก่อนเขาชอบฆ่าชอบทำลายผู้อื่น ไม่ฆ่าเอง ไม่ทำลายเอง ก็เป็นคนสั่งฆ่าเขา

ดังนั้นเมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ จึงหาความสุขไม่ได้ เลย

ดังนั้น ชาตินี้จะเป็นอย่างไร อย่าน้อยอกน้อยใจพยายามสร้างบุญ สร้างกุศลเอาไว้ ชาติหน้าจะได้เกิดมาเป็นคนดี คนมีโชค

เดี๋ยวนี้ กรรมเวร สนองเร็วยิ่งกว่าจรวด เสียอีก ยังไม่ถึงชาติหน้า ก็เห็นดำเห็นแดงเสียแล้ว ว่าตัวจะต้องรับใช้กรรม อย่างไรบ้าง

ใครทำดีได้ดี ใครทำชั่วได้ชั่ว จึงเป็นสัจธรรมที่ไม่ต้องพิสูจน์อะไรเลย.

อนุภพ






Daily News Online > หน้าบทความ > เห็นมาอย่างไร เขียนไปอย่างนั้น > คนเราเกิดมาต่างกัน

 

บางครั้ง โลกก็เผชิญกับศัตรูที่ “ไร้ยางอาย” และ “ไร้ศักดิ์ศรี”

สหรัฐอเมริกา ต้องเผชิญกับการก่อการร้ายโดยเอาเครื่องบินชนตึก “เป้านิ่ง” ทำร้ายประชาชนบริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวข้อง และไม่มีทางต่อสู้มากมาย

อังกฤษต้องเผชิญกับการก่อการร้ายโดยการวางระเบิดรถไฟใต้ดินหลายจุด

ขนาดประเทศที่เป็นผู้นำเช่นนั้น ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น กลับถูกถล่มขนาดนั้น

หากคิดกันแบบตื้นๆ คิดกันแบบเห็นแก่ตัว คิดกันแบบมักง่าย ก็อาจจะรู้สึกว่า “ทำไมผู้นำของเราจึงอ่อนแออย่างนี้?” “ไม่มีแผนป้องกันเลยหรือ ?” “ทำไมไม่จัดการบินลาเดน หรือ อัฟกานิสถาน ก่อนหน้านี้ ?”

แต่สิ่งที่ชาวอเมริกันได้ทำกันในทันทีคือ การสนับสนุนผู้นำของเขา สื่อทุกสื่อ ประชาชนทุกคนที่มีหัวใจ “อเมริกัน” เขาก็ยืนหยัดสนับสนุนผู้นำทันที

เพราะในยามที่ชาติมีศัตรู...สิ่งที่คนในชาติไม่อยากเห็นที่สุด คือ การแตกความสามัคคี การไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และ การไม่เดินหน้าด้วยกันไปกับผู้นำ...


Daily News - Manager Online

 

ในระยะนี้ได้ปรากฏว่ามีผู้ใช้ทั้งที่เป็นคำพูด และข้อเขียนเกี่ยวกับคำว่า "รัฐล้ม

เหลว" หรือ Failed State กันบ่อยครั้ง เพื่อความเข้าใจอันดี ขอคัดลอกบท

ความบางตอนจาก TORTAHARN.NET มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นความรู้..

วิกฤตการณ์ของประเทศไทยที่ผ่านมาได้สร้างความสั่นคลอนให้กับมิติความมั่นคงของชาติ จนกระทั่งมีการกล่าวถึงคำว่า Failed State หรือมีหลายท่านใช้ศัพท์ภาษาไทยว่า รัฐล้มเหลว หรือบางท่านอาจจะใช้คำว่า รัฐล้มละลาย แต่ไม่ว่าเราจะใช้คำว่าอะไรต่างฟังแล้วมีผลในเชิงลบทั้งสิ้น และที่สำคัญในปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2550) ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับจาก ศูนย์วิจัยรัฐที่อยู่ในช่วงวิกฤต (Crisis States Research Centre) ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยของ วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน ( The London School of Economics and Political Science) ให้เป็นประเทศที่มีความสุ่มเสี่ยงที่จะกลายเป็นรัฐล้มเหลว โดยจัดอันดับให้เป็นลำดับที่ 89 (อันดับ 1 – 35 จะเป็นรัฐล้มเหลว 36 – 127 เป็นรัฐที่ใกล้หรือเสี่ยง 128 – 162 รัฐธรรมดาๆ และ 163 – 177 เป็นรัฐที่มีความยั่งยืน) จึงทำให้เกิดคำถามขึ้นในใจกับหลายๆ ท่านว่า “เรา (ประเทศไทย) นั้นจะล้มเหลวหรือล้มลายจริงหรือ” ซึ่งการที่เราจะสามารถตอบคำถามหรือยอมรับในคำดังกล่าวนั้น เราคงต้องเริ่มต้นกันที่ความหมายหรือหาคำจำกัดความของรัฐล้มเหลวก่อน

ความหมายของคำว่ารัฐล้มเหลวหรือรัฐล้มละลายใน เว็บ Global Policy Forum [1] ได้ให้ความหมายไว้ว่า “Failed states can no longer perform basic functions such as education, security, or governance, usually due to fractious violence or extreme poverty. Within this power vacuum, people fall victim to competing factions and crime, and sometimes the United Nations or neighboring states intervene to prevent a humanitarian disaster. However, states fail not only because of internal factors. Foreign governments can also knowingly destabilize a state by fueling ethnic warfare or supporting rebel forces, causing it to collapse.”

หรือจะถอดเป็นใจความเป็นภาษาไทยได้ว่า
“รัฐที่ไม่สามารถดำรงหน้าที่พื้นฐานไว้ได้ เช่น การศึกษา ความมั่นคง หรือ การบริหารจัดการ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะหมายถึงการเผชิญต่อความรุนแรงที่กระจัดกระจายในที่ต่างๆ ของรัฐหรือประเทศ โดยในสภาพสุญญากาศนี้ ประชาชนจะตกอยู่ในสภาวะที่มีความรุนแรงหรืออาชญากรรม และในบางรัฐหรือบางประเทศที่ล้มเหลวนี้จะถูกแทรกแซงโดยองค์การสหประชาติ กลุ่มประเทศ หรือ ประเทศ อื่นๆ เพื่อเข้าไปหยุดการกระทำที่ละเมิดต่อมนุษยธรรม อย่างไรก็ตามรัฐที่ล้มเหลวนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะปัญหาความไม่สงบที่เกิดจากปัจจัยภายในรัฐแต่ยังรวมถึงปัจจัยที่เกิดจากการแทรกแซงหรือคุกคามจากปัจจัยภายนอกรัฐเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะนำไปสู่รัฐล้มเหลว เช่น การสนับสนุนกลุ่มก่อความไม่สงบจากประเทศภายนอก”

การกล่าวถึงรัฐล้มเหลวนั้นมักจะเป็นมุมมองหรือข้ออ้างจากประเทศที่มีสภาพมั่นคงหรือมีเสถียรภาพกว่าที่มองไปยังประเทศที่ด้อยกว่า เพื่อประโยชน์หรือข้ออ้างในการเข้าแทรกแซงหรือแสวงประโยชน์ โดยทั่วไปแล้วจะใช้เรื่องของมนุษยธรรมมาเป็นข้ออ้างหรือสร้างความชอบธรรมในเรื่องต่างๆ ที่เป็นผลประโยชน์ของชาติตน ซึ่งในปัจจุบันจะมีหน่วยงานชื่อ ศูนย์วิจัยรัฐที่อยู่ในภาวะวิกฤต (Crisis States Research Centre) ของมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน (The London School of Economics and Political Science) [2] ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูล แล้วทำการจัดลำดับ โดยใช้เงื่อนไขคือตัวชี้วัดด้านสังคม เศรษฐกิจ และ การเมือง มีตัวชี้วัดทั้งหมด 12 ตัว [3] สามารถแบ่งแยกได้ดังนี้
..........
รายละเอียดเพิ่มเติมหาอ่านได้จาก http://tortaharn.net/contents/index.php?option=com_content&task=view&id=154&Itemid=75


ขอขอบคุณแหล่งที่มา

 

โปรดช่วยกันรักษาประเทศไทยอันสวยงามของเราให้พ้นจากมือผู้ทำลาย

ถ้าคนไทยตกหลุมพลางคนที่กำลังพยายามทำลายประเทศแล้วไซร้ พวกเราอาจจะต้องเศร้าไปตลอดกาลเหมือนชาวอิหร่านท่านหนึ่งที่เข้ามาให้กำลังใจคนไทยด้วยข้อความที่เขียนไว้ใน youtube ของคุณพงษ์พัฒน์ วชิระบรรจงที่พูดในงาน นาฏราช โดยเขียนไว้ว่า

ชาวอิหร่านไม่สามารถเข้าไปแก้ไขอะไรในอดีตได้อีกแล้วเขาจึงเตือนให้พวกเราโปรดช่วยกันรักษาประเทศไทยและราชวงศ์ไทยของเราให้พ้นจากมือผู้ทำลาย

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=6xYfbUIGqW4]YouTube - อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ - OFF PongPat with English Subtitle[/ame]