คำเตือนจาก "ดร.อาจอง" ไม่สร้างเขื่อนกั้นอ่าวไทยต้องย้ายกทม.ใน 6 ปี

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สัตบุรุษ, 6 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736
    ขอบคุณครับ

    ตั้งแต่ติดตามข่าวมา ยังไม่เห็นภาครัฐออกมาชี้แจง
    หรือมีมาตรการดำเนินการในเรื่องนี้สักครั้งเลย เศร้าใจจัง
     
  2. hi5

    hi5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +701
    เมืองหลวงย้ายไปอยู่แถวอิสานก็ดีนะ
    อิสานก็จะเจริญ คนมีการศึกษาขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้น
    นักการเมืองอิสานก็จะมีคุณภาพขึ้นทันตา
    ประชาธิปไตยก็จะเป็นแบบสากล เป็นการเมืองเพื่อประชาชนทั้งประเทศ

    แนวคิดนี้ก็ดีนะ..
    น่าจะช่วยให้ได้คนดีเข้ามานั้นในสภาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    ส.ส. เลือกมาจากสภาวิชาชีพ ๗๐% เพราะนี่คือชีวิตการงานของเรา ก็ต้องให้น้ำหนักมากหน่อย
    ส.ส. ในพื้นที่อีก ๓๐% ถ่วงดุลกันอยู่ ประชาชนหนึ่งคน ก็เลือก ๒ ส.ส.
    ส.ส. ก็มีหน้าที่ คือ ประชุมสภาเท่านั้น
    การบริหารประเทศ ต้องอาศัยมืออาชีพจริง ๆ จะเป็นเทพประทานได้ยิ่งดี มีวิสัยทัศน์ มีความซื่อสัตย์ กล้าหาญ และไม่สะสม

    พอแล้ว ไม่เอาอีกแล้ว การเมืองแบบเอื้อให้กลุ่มนักธุรกิจการเมืองจำนวนน้อย ๆ ได้ครองประเทศแต่ผู้เดียว อันเปนการเมืองที่ปัญญาชนร้องยี้ และนานาอารยประเทศไม่รับรอง ประเทศไทยรับวิบากกรรมจากการเมืองแบบนี้มาตลอดแปดสิบปีแห่งความขมขื่น อดสู มองอนาคตไม่เห็น ทรัพยากรของชาติสมบัติของส่วนรวมต่าง ๆ ถูกล้างผลาญไปอย่างน่าเศร้าใจ แทนที่จะถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของประชาชน

    ก็ต้องฝากชาวอิสานไว้ด้วย เพราะเปนคนที่หัวอ่อน และชอบตอบแทนบุญคุณนักการเมืองประสาซื่อ จะเลือกใครมาก็ต้องดูผลกระทบ และศักดิ์ศรีของประเทศชาติโดยรวมด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2009
  3. NCK2046

    NCK2046 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    628
    ค่าพลัง:
    +3,793
    หัดว่ายน้ำกันได้แล้วครับ พี่น้อง

    หรือไม่ก็หัดพายเรือให้คล่องๆ ถ้ารักจะอยู่ กทม กันต่อไป
     
  4. kwamawauyo

    kwamawauyo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    499
    ค่าพลัง:
    +64
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ดิฉันเป็นคนต่างจังหวัดสนใจข่าวนี้มาก แต่พอเล่าให้พี่สาวฉันที่อยู่กรุงเทพฯฟัง เค้าไม่สนใจค่ะ ไม่สนใจไม่เท่าไหร่ หาว่าเพ้อเจ้อ ไม่มีทางเกิดแน่นอนค่ะ
     
  5. พิศวัสต์

    พิศวัสต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2007
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +431
    ไม่ดีแน่นอนครับ ผมขอค้าน เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เท่ากับว่าคนที่เรียนด้านปกครองมาก็เหมือนกับใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย หรือแทบจะกตำรา ฉีกทฤษฎีทิ้งเลย มันแหวกกฏเกณฑ์การปกครอง จำกัดสิธิเสรีภาพของคนซึ่งอุดมการณ์คือทุกคนมีสิทธิเสรีภาพอย่างเท่าเทียมกัน แต่นี่เหมือนจะทำใหเบทบาท ความเลื่อมล้ำทางสังคมนั้นเพิ่มมากขึ้น ผู้คนหันมาจับกลุ่มทางการเมืองกันมากขึ้น มีการแข่งขันเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจมากขึ้นเพราะไปจำกัดว่าอาชีพนี้จะได้เป็นส.ส.เท่าไหร่ อาชีพไหนจะได้เป็นส.ส.มากที่สุด ก็ไปประกอบอาชีพนั้น ทำให้อาชีพในสังคมไทยมีน้อยลง ความคิดสร้างสรรค์ในการหาหนทางประกอบอาชีพจึงมีน้อยลง เพราะฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการเมืองใหม่ ตามที่ท่านปราถนากัน ถ้าเป็นเช่นนั้นทฤษฎีที่เรียนมา ก็ใช้ไม่ได้กับการเมืองใหม่ครับ.....
     
  6. พิศวัสต์

    พิศวัสต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2007
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +431
    อีกอย่างครับ การทำแบบนี้เท่ากับขัดรัฐธรรมนูญ ขัดการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่กำหนดว่า ประชาธิปไตยเป็นของคนไทยทุกคน การกระทำแบบนี้เป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของกลุ่มคนจน เกษตรกร เพราะว่าจะมีแต่คนที่เป็นชนชั้นกลาง หรือปัญญาชนเท่านั้นที่เข้ามาทำหน้าที่ในสภา โดยที่ชาวบ้านแปลกใจว่า ไอ้นี่เป็นไคร ทำไมไม่รู้จักเลย แล้วสภาก็ไม่ได้รับความไว้วางใจให้ทำงานต่อไปได้ มีม็อบชาวนา ม็อบ เกษตรกรต่างๆ มีหวังได้ออกมาประณามการกระทำของรัฐอยู่เรื่อยไป เพราะส.ส. ในสภาขาดการเอาใจใส่ดูแลทุกข์สุขของประชาชนอย่างแท้จริง ยิ่งถ้าเป็นภาคธุรกิจด้วยแล้วหากเข้ามา ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงการเมืองให้เป็นธุรกิจการเมือง ต่อไป เพราะฉะนั้น อย่าคิดว่า การเมืองใหม่นั้นจะดี แต่ผมมองว่าจะเป็นการนำการเมืองของประเทศเปลี่ยนไปสู่ยุคอมาตยาธิปไตยครับ สิ่งเหล่าควรระวัง......
     
  7. หล่อลำน้ำ

    หล่อลำน้ำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    487
    ค่าพลัง:
    +40
    แน่นอนครับ ไม่มีใครสนใจหรอก .. สะใจดีแท้ สะใจสะใจ

    ที่ท่านได้เคยทำนายว่าเขื่อนเมืองกาญจน์จะแตก (เขื่อนใหญ่เมืองกาญจน์ ทั้งสองจะแตก) ในฤดูน้ำหลากของปี พศ.2551 และท่านผู้ทำนายคนนี้ก็โดนฟ้องด้วยนี่ครับ หลายล้านนี่ครับ

    มันไม่มีทางเกิดหรอก กะอีแค่เขื่อนร้าวเล็กๆ เขื่อนที่ไหนก็เป็นครับ และวิศกรเขามีวิธีซ่อม ไปดูที่เขื่อนใหญ่ๆที่ประเทศจีน เมื่อคราวที่เกิดแผ่นดินไหวสิครับ ร้าวอย่างมากมาย แต่ก็ซ่อมได้หมด

    มีแต่ประเทศไทยนี่แหล่ะ โง่เขลาเบาปัญญา เชื่อหมอดู เชื่อไปหมด

    แล้วเป็นยังไงรึ? เขื่อนแตกตายไปกี่คนแล้วหล่ะท่าน?
    น้ำทะลักเข้านครหลวง ต้องอพยพโดยด่วน เป็นไง??

    พวกนี้ยิ่งแก่ยิ่งเลอะเลือน หัวมีไว้คิด ไม่ใช่มีไว้ตัดผม

    ว่ามา พวกตาขาว พวกกระต่ายตื่นตูมส์ ลิงน้อยตกมันส์

    ขำอย่างมากมาย พวกนี้แก่แล้วแก่เลยนี่ครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
     
  8. ZOMZARN

    ZOMZARN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +950
    ซึนามิที่ภาคใต้เมื่อปี2548 ย้อนหลังไป6-7ปีก็ถูกกล่าวหาว่า เป็นเรื่องเพ้อเจ้อ จนทำให้ดร.สมิธ เข้าเกาะภูเก็ตไม่ได้เพราะถูกต่อต้านจากชาวภูเก็ตว่า ให้ข่าวที่ทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวเสีย
    จึงไม่มีใครเตรียมตัวในการระวังภัย
    พอซึนามิเกิดขึ้นจริงใน7ปีถัดมา มีคนตายมากมาย พวกที่หาว่าเพ้อเจ้อไม่เห็นมีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบเลยซักคน
     
  9. 1redstar

    1redstar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,366
    การยึดติดกับความเชื่อเดิมๆ ตำราเดิมๆ ที่นับถือต่อๆกันมา
    มิอาจเข้าถึงแก่นแท้ของหลักการอันถูกต้องแท้จริงได้
    อุปสรรคของการเรียนรู้และพัฒนาการต่างๆคือความยึดมั่นถือมั่น
    อาจจะยึดมั่นถือมั่นในหลักคำสอนของครูอาจารย์ที่ตนเองนับถือ
    หากหลักคำสอนของครูอาจารย์ตนเองถูกต้อง
    แสดงว่าหลักคำสอนของครูอาจารย์ที่คนอื่นนับถือล้วนเป็นสิ่งที่ผิด

    http://palungjit.org/showthread.php?t=130045&page=7
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2009
  10. ZOMZARN

    ZOMZARN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +950
    ก่อนอื่นเราควรแยกประเด็นของนักพยากรณ์
    นักพยากรณ์มี2ประเภท
    1.หมอดู
    2.นักวิทยาศาสตร์
    หมอดูอาจใช้หลักวิชาโหราศาสตร์ไทย/สากล ไพ่ยิปซี เลข7ตัว นั่งทางใน หมอเดา ฯลฯ
    นักวิทยาศาสตร์ใช้หลักวิชาการและข้อมูลข้อเท็จจริงที่รวบรวมได้ เช่นการพยากรณ์อากาศ การพยากรณ์แผ่นดินไหว
    ดร.อาจองท่านเป็นนักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่หมอดูและหมอเดา ท่านใช้หลักวิชาและข้อมูลในการพยากรณ์
    ท่านเคยเดินทางไปประชุมเรื่องน้ำของโลกที่รัสเซียหลายครั้ง

    โลกของเราเคยผ่านร้อนผ่านหนาวสลับกันไป มาแล้วมากมายนับสิบนับร้อยครั้งนับตั้งแต่โลกได้ก่อกำเนิดขึ้นมา
    ถ้าโลกหนาวเย็น น้ำในมหาสมุทรจะย้ายถ่ายเทขึ้นไปเป็นน้ำแข็งบนแผ่นดิน ด้วยกระบวนการการระเหยของน้ำแล้วตกลงมาเป็นหิมะ
    ถ้าโลกร้อน น้ำแข็งบนแผ่นดินจะละลายไหลลงสู่มหาสมุทร ทำให้ระดับน้ำทะเลและมหาสมุทรสูงขึ้นทั่วโลก
    ดังนั้นด้วยวัฏฏะจักรดังกล่าว จึงมีพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลกที่เคยประสบภาวะแห้งและภาวะน้ำท่วมสลับกันไปตลอดระยะเวลายาวนานหลายร้อยล้านปี
    ซึ่งในแต่ละวัฎฎะจักรต้องใช้ระยะเวลาเป็นหมื่นหรือแสนปี

    สาเหตุหลักที่ทำให้โลกร้อนหรือหนาวเย็น
    1.Magmaจากใต้เปลือกโลกไหลขึ้นมาตามรอยแตกของเปลือกโลกในหลาย ๆ ส่วนของโลก ส่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมหาศาลขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกอย่างรวดเร็ว ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้เคยเกิดขึ้นเมื่อประมาณ250ล้านปีก่อน
    2.Magmaได้พุ่งขึ้นสู่รอยแตกใต้พื้นมหาสมุทร ทำให้น้ำทะเลร้อนขึ้นเป็นอาณาบริเวณกว้างไกล ส่งผลให้ก๊าซมีเทน(CH4)แช่แข็งจำนวนมหาศาลที่เกิดจากซากพืชและสัตว์ที่สะสมทับถมกันอยู่ใต้พื้นมหาสมุทร ระเหยขึ้นสู่ผิวน้ำและลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกที่รุนแรงและครอบคลุมไปทั่วโลก ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้เคยเกิดขึ้นเมื่อ55ล้านปีก่อน
    ก๊าซมีเทนจะส่งผลให้เกิดภาวะเรือนกระจกมากเป็น20เท่าของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณที่เท่ากัน
    ปัจจุบันโลกของเรามีก๊าซมีเทนสะสมอยู่ทั้งหมดประมาณ10ล้านล้านตัน
    3.การพุ่งชนของดาวหางที่มีมวลมหาศาลของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แข็งเมื่อประมาณ11,700ปีก่อน ทำเกิดภาวะเรือนกระจกอย่างฉับพลัน
    4.การเปลี่ยนแปลงวงโคจรของโลกทุก ๆ หนึ่งแสนปี อันเนื่องมาจากอิทธิพลแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์และดาวเคราะห้ขนาดใหญ่ในระบบสุริยะจักรวาล
    ถ้าโลกโคจรเป็นวงกลม โลกจะได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์มาก โลกก็จะร้อนขึ้น
    ถ้าโลกโคจรเป็นวงรี โลกจะได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์น้อย โลกก็จะเย็นลง
    ปัจจุบันโลกโคจรเป็นวงรี แต่กลับร้อนเพราะได้รับอิทธิพลจากการทำลายสิ่งแวดล้อมของมนุษย์
    5.ความผันผวนของปฏิกริยาเทอร์โมนิวเคลียร์บนดวงอาทิตย์
    ถ้าปฏิกริยาภายในรุนแรงก็จะเกิดจุดดับอันเนื่องมาจากสนามแม่เหล็กพลังงานสูงที่พุ่งออกมาจากภายใน
    ดังนั้นหากเมื่อใดที่เกิดจุดดับบนดวงอาทิตย์มาก แสดงว่าดวงอาทิตย์ปลดปล่อยพลังงานความร้อนมากขึ้นกว่าตอนที่ไม่มีจุดดับ และโลกย่อมได้รับอิทธิพลความร้อนดังกล่าวนี้ด้วย
    ดวงอาทิตย์จะเข้าสู่ภาวะ Solar Maximum ในปี2011ที่จะถึงนี้
    ซึ่งโลกของเราจะได้รับอิทธิพลทั้งความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้น พายุสุริยะ รังสีcosmic,utravioletที่รุนแรงขึ้น ฯลฯ
    6.การระเบิดของภูเขาไฟขนาดใหญ่มาก ที่สามารถพ่นเถ้าถ่านฝุ่นละอองจำนวนมหาศาลขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ปกคลุมไปทั่วโลก ทำให้แสงแดดไม่สามารถส่องลงมาถึงพื้นโลกได้
    พืชต่าง ๆ ก็จะตาย สัตว์กินพืชก็จะตาย สัตว์กินสัตว์ก็จะตายเพราะห่วงโซ่อาหารได้ขาดลง
    เป็นเหตุให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ และเกิดยุคน้ำแข็งย่อย
    ปัจจุบันภูเขาไฟ Yellow Stone ในสหรัฐอเมริกา เป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพที่จะทำให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ได้ และมันมีวัฏฏะจักรของการระเบิดทุก6หมื่นปี ขณะนี้ได้เลยเวลาของวัฏฏะจักรดังกล่าวมาแล้วประมาณ2พันปี(6.2หมื่นปี) ซึ่งหมายความว่า มันอาจจะระเบิดขึ้นเมื่อใดก็ได้
    7.การทำลายสิ่งแวดล้อมของมนุษย์
    8.โลกเปลี่ยนแกนหมุน

    ดังนั้น ความเป็นไปได้ในเรื่องที่น้ำอาจท่วมแผ่นดินในหลายส่วนของโลกจึงเป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินจริง...
     
  11. Little Raccoon

    Little Raccoon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +89
    ผมเห็นด้วยกับการย้ายเมืองหลวง ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลด้วยเรื่องน้ำจะท่วมหรือไม่ท่วม

    เพราะทุกวันนี้กรุงเทพฯมีสภาพแออัด ผู้คนทั่วทุกสารทิศเข้ามาทำมาหากินอยู่ในกรุงเทพฯ อัตราการเพิ่มประชากรของกรุงเทพฯเนื่องมาจากการอพยพย้ายถิ่นฐานมากกว่าเนื่องมาจากการเกิด

    ดังนั้นผมจึงคิดว่าการกระจายความเจริญไปยังส่วนต่างๆของประเทศให้มากที่สุดจะดีกว่า ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมความเป็นอยู่ ยิ่งเมืองใหญ่แออัดกันมากเท่าไร่ ปัญหาสังคมก็ยิ่งใหญ่ขึ้นซับซ้อนอย่างที่เราเผชิญอยู่ในกรุงเทพฯทุกวันนี้

    สิ่งที่ทำได้คือเราอาจจะย้ายเมืองหลวง โดยย้ายสถานที่ราชการทั้งหมดออกไปก่อน แล้วให้กรุงเทพเป็นเหมือนเมืองท่าหรือเมืองสำคัญทางเศรษฐกิจ แล้วไปพัฒนาการเติบโตที่เมืองหลวงใหม่ต่อไปจะเป็นการช่วยระบายความแออัดภายในกรุงเทพ และทำให้คุณภาพชีวิตของคนที่อาศัยอยู่ในกรุ่งเทพเพิ่มขึ้นด้วย

    ความจริงแล้วไม่ว่าน้ำจะ่ท่วมหรือไม่ท่วมผมก็คิดว่าน่าจะถึงเวลาในการทบทวนบทบาทของเมืองหลวงที่มีต่อประเทศไทย หากไม่สามารถสร้างเมืองใหม่ที่มีผลทางเศรษฐกิจและการจ้างงานให้เหมือนเมืองหลวงเพิ่มขึ้นมาอีกได้ วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือย้ายเมืองหลวงออกไป เพื่อให้ความเจริญย้ายไปยังภูมิภาคใหม่ที่ตั้งขึ้นนั้น

    เว้นแต่จะมีวิธีการสร้างเมืองใหม่ที่สามารถพัฒนาให้เจริญเติบโตก้าวหน้าได้ทัดเทียมกับกรุงเทพเพื่อช่วยกระจายความเจริญของประเทศได้

    ขอโทษที่ความเห็นอาจไม่ตรงกับหัวข้อกระทู้มากนัก แต่เห็นเป็นเรื่องการย้ายเมืองหลวง เลยอยากแสดงความคิดเ็ห็นสนับสนุน
     
  12. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    ไม่เห็นด้วยกับการสร้างเขื่อน

    เพราะ......

    ไม่มีเวลา และ ป้องกันไม่ได้

    อีก.... ไม่กี่ปี

    มันจะเกิดเร็วมาก รุนแรงมาก

    การย้ายเมืองไป เพชรบูรณ์ตั้งแต่บัดนี้ น่าจะมีผู้รอดมากสุด
     
  13. littleweb_cs

    littleweb_cs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    567
    ค่าพลัง:
    +1,241
    อนุโมทนา จ้า

    เคยได้ฟังท่านบรรยาย หลายรายการ ให้ข้อมูล ลึก และน่าเชื่อถือมาก

    ถ้าน้ำท่วมในอีกไม่กี่ปี คนกรุงเทพจะไปอยู่ไหน กันหนอ น่าคิด......

    จิงๆ ก้น่าจะสร้างเขื่อนไว้เนอะ สร้างความปลอดภัยไว้ก่อน

    เงินที่ใช้สร้างเขื่อน มากมายมหาศาล แต่ถ้าเทียบกับชีวิตคนกรุงเทพทั้งหมด มันก้เกินคุ้ม

    แต่ย้ายเมืองหลวง ก้น่าจะดี เพราะกรุงเทพ แออัดเหลือเกิน รถ ก้ติดมากด้วย

    ศูนย์รวมมลพิษ ทั้งหลาย ไม่จำเปน ก้ไม่อยากเข้าไปเรย เจริญ แต่อากาศสู้บ้านนอกไม่ได้ ฮา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2009
  14. kingkaewmath

    kingkaewmath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +773
    ท่านกระจายข่าวให้ทราบ บางทีรอรัฐบาลจัดการอาจจะสายเกินไป คงต้องต่างคนต่างย้ายออกคนที่ไม่เชื่อ ไม่ย้าย ไม่หนี หรือย้ายหนีไม่ได้ ก็ถือว่าเป็นเคราะห์กรรมของเขาที่จะได้รับ ถ้าหากเกิดเหตุการเช่นนั้นจริง คล้ายๆกับเหตุการณ์สึนามิ ที่ก่อนหน้านั้นเคยมีผู้มาเตือนไว้แล้ว แต่กลับไม่มีคนเชื่อและไม่มีการป้องกันใดๆ รอจนกระทั่งมันเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมาก่อน นั่นก็หมายถึงรอให้มีการสูญเสียเกิดขึ้นก่อน
    ถึงจะมีคนเชื่อ เหตุการณ์นี้ก็เช่นเดียวกัน
     
  15. 1redstar

    1redstar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,366
    ubuntu เปน free os ใช้แทน ms windows ได้

    ubuntu มี applications ให้ดาวโหลดไปใช้เยอะมาก

    https://help.ubuntu.com/community/UbuntuScience

    จะว่าไป ubuntu ก็คือปรัชญาเศรฐกิจพอเพียง คือ ยอมทำงานอุทิศให้สังคม ตนเองยอมรวยน้อย เพื่อให้สังคมได้รวยมาก

    ส่วน ms windows คือ ปรัชญาทุนนิยม คือ มือยาว สาวได้สาวเอา ยิ่งเก่งยิ่งรวย พอรวยมาก ก็ต้องการรวยถาวรด้วยการทำให้คู่แข่งเจ๊งและจน ยิ่งตนเองรวยมากมาก สังคม/ธรรมชาติก็ยิ่งจนลงมาก สุดท้ายเศรษฐกิจก็ล่มจม ธรรมชาติก็วิบัติ เพราะความรวยที่กระจุกอยู่กับเศรษฐีไม่กี่ราย ประชาชนส่วนที่เหลือยากจนหมดเลย ความจริงอันนี้ เมกา ไม่ยอมรับ

    บางทีพวกที่ยิ่งรวยมากมากก็ต้องการรวยถาวรด้วยการทำการเมืองให้ก็เลยกลายเป็นธุรกิจไป ซะงั้น

    ปัญหาต่าง ๆ แก้ไขได้ คือต้อง win-win
    win-win ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์
    win-win ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ

    คือ อยู่ด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
    บางคนก็ชอบอ้างสิทธิเสรีภาพ ชอบอ้างประชาธิปไตย แต่สิทธิเสรีภาพต้องมากับหน้าที่ควรรับผิดชอบ
     
  16. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    ปี 2012 (2555) พายุจะเข้า กทม. ตอนตี 3 กำลังหลับมันๆ เลย
    มาทางปากน้ำผ่านสะพานแขวน เสยไปถึงประตูน้ำ วกไปจบที่บางกะปิ
    กทม.จมแน่ๆ และหลังจากนั้นอีกหลายปีจะเจอแผ่นดินไหวด้วย (ยังจำได้
    ไหมว่ามีแขนงของรอยเลื่อนอยู่ใต้ นนท์-กรุงเทพ-นครนายก-สมุทรปราการ)
    ฟังจาก อ.ปริญญา จากรายการข้างล่างนี้

    ขอแนะนำให้ดู - ฟัง รายการสำนึกรักแผ่นดิน 18.00-20.00 น. ทุกวันจันทร์
    ทางทีวีช่องสุวรรณภูมิ http://www.suwannabhumi.tv/index.html
    วิทยุฟังสดๆ FM.92.25
    ดำเนินรายการโดย ปิยะฉัตร กรุณานนท์, ประมวล รุจนเสรี
    และ อ.ปริญญา ตันสกุล
    ;aa53
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2009
  17. Guu3

    Guu3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,520
    ค่าพลัง:
    +722
    วิทยาศาสตร์ กับศาสนา อยู่ร่วมกันบนโลกได้

    พรุ่งนี้วันออกพรรษา เอาเสียงบทสวดเพราะๆมาฝากครับ บุญรักษา<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  18. tamm16

    tamm16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +466
    ผมพอจะเข้าใจเลยว่าทำไม ประชาชนจะเหลือ 20% ของโลก คงเพราะ ไม่มีใครเชื่อเรื่องที่จะเกิดขึ้นและก็เตรียมรับมือไม่ทันแล้วก็ตายเป็นเบือ กันไป อย่างเช่น ซึนามิแบบที่ท่านก่อนเล่ามา

    ผมจึงไม่แปลกใจ แค่เตรียมรับมือไว้ก่อน ก็ไม่เสียหายอะไร มันไม่เกิดก็ดีไป มันเกิดแล้วคนที่ไม่เชื่อจะเสียใจ

    อีกอย่าง สภาวะโลกปัจจุบันก็น่าจะเห็นแล้วนี่ครับ พายุถล่มหลายประเทศ แผ่นดินไหวมีผลไปทั่วโลก แค่นี้ก็คงพอแล้วนะครับ ว่ามันน่าจะใกล้มากขึ้นแล้ว

    แต่ผู้ใดไม่เชื่อก็สิทธิเค้าเพราะมันเป็นชะตากรรมส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับตัวผู้บอกกล่าวเตือน
     
  19. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    แผ่นดินกรุงเทพและปริมณฑลเป็นที่ดินตะกอนจากปากแม่น้ำไหลมาทับถมกัน ความแน่นหนาไม่พอที่จะรองรับตึกสูงๆ ได้ดี สมัยที่ยังเป็นเด็กคอซอง นักรู้ทั้งหลายวิเคราะห์ว่า แผ่นดินกรุงเทพทรุดลงทุกปี เข้าใจว่าปีละ ๕ เซ็นติเมตร หรือ ๕ นิ้ว จำไม่ได้ ตอนนั้นก็เลยถามอาจารย์ว่า มีทางแก้ไขไหม อาจารย์ไม่ได้บอก เราก็ไปหาหนังสือในห้องสมุดดูว่าประเทศอื่นเขาทำอย่างไร เพราะสมัยนั้นไม่มีไซเบอร์ ห้องสมุดก็พอมีให้ดู ก็เลยรู้ว่า ที่เนเธอแลนด์ อยู่ใต้ระดับน้ำทะเล เขาเป็นที่ราบ แต่สร้างเขื่อกั้นน้ำทะเล น้ำทะเลเคยเยอะจนเขื่อนแตก ก็ทำให้เมืองนั้นท่วมใหญ่ คนตายก็มี แต่มันก็ไม่เสียหายมาก ไม่ทำให้คนสิ้นเผ่าพันธุ์ เหมือนสึนามิพัดมาแล้ว ตายมากแต่ไม่หมด คนเหลือมากกว่า และไม่ได้มาทุกๆ เดือน ไปภูเก็ตที่ผ่านมา เขาก่อสร้างได้ทันใจจริงๆ หลายคนลืมภาพความหายนะไปสิ่้น

    และไปอ่านเจอว่าญี่ปุ่นมีทะเลล้อมรอบ เขาเป็นเขตแผ่นดินไหวมากที่สุด บ้านเรือนเขาสร้างเพื่อการป้องกันการสั่นสะเทือนอย่างดีที่สุด และอ่านเจอว่า เขาเป็นเกาะและที่ดินแคบมาก จึงทำการทำที่ดินเทียม เกาะเทียม และแน่นอนเขามีกำแพงกันแนวคลื่นด้วย

    ถ้าเราจะทำเขื่อนรอบแนวที่มีทะเลนั้นนะคะ มันใช้งบประมาณสูงมากทีเดียว แต่ถ้าถามว่าหากมันเกิดขึ้น มันคุ้มไหม ตอบว่าคุ้ม เพราะเราไม่ต้องไปสร้างเมืองใหม่

    แต่จริงๆ แล้วกรุงเทพแออัดมากๆ มาเลเชียเขายังย้ายเมืองใหม่ได้ทันใจและงดงาม เขาทำไม่นานก็สำเร็จ

    เรายึดว่านี่คือเมืองเทพเทวา สถานที่สำคัญที่นี่นมากมาย ยายผีป่ายังไม่อยากให้ย้ายเลย งั้นมีวิธีการเดียวก็คือ แต่ละเขตการปกครองให้จัดสันงบประมาณทำแนวหินทิ้งเทปูนกั้นการทรุดหรือกันการกัดเซาะ การไหลทะลักของน้ำกันไปเรื่อยๆ บ้านไหนอยากสร้างบ้านริมน้ำ ก็หาเงินมาทำกันเอา
     
  20. ลูกหลานหลวงปู่

    ลูกหลานหลวงปู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    550
    ค่าพลัง:
    +3,589
    เรื่องเขื่อนที่กั้นน้ำทะเล

    ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับพระอาจารย์ท่านหนึ่งท่านได้กล่าวไว้เรื่องเขื่อนที่กั้นน้ำทะเลของอ่าวไทย ท่านได้มีข้อคิดดีๆที่น่าพิจารณาดังนี้
    สิ่งที่ต้องคำนึงถึง
    1.งบประมาณ
    2.แผนภูมิ แผนผังการดำเนินการ
    3.บุคคลากร
    4.แรงงาน
    5.ประโยชน์ที่จะได้รับ

    ข้อที่1. งบประมาณ งบประมาณแผ่นดิน
    ข้อ2.สร้างถนนแปดเลนสูง 20 เมตร ระยะแรก 10 เมตร พาด จากพัทยาไปประจวบฯ เป็นเขื่อนกั้นน้ำทะเล
    ข้อ3.
    ข้อ4. แรงงานจากนักโทษที่ต้องขังในเรือนจำ แรงงานต่างชาติ กรรมกรรับจ้าง เครื่องจักรต่าง
    ข้อ5. กระตุ้นเศรษฐกิจการใช้จ่ายของคนในประเทศและต่างประเทศ(ที่ร่วมลงทุนสร้าง) กู้สินทรัพย์ที่ตกค้างในเขตรอบในของเขื่อน สร้างความสามัคคีในบรรดานักการเมืองทั้งในและต่างประเทศ(ผลประโยชน์จะลงตัว เพียงพอที่จะแบ่ง) มีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ลดระยะเดินทางจากตะวันออกไปสู่ภาคใต้ ลดอันตรายจากคลื่นน้ำทะเลต่อมรดกแห่งวัฒนธรรมในเขตกรุงเทพและปริมณฑล
     

แชร์หน้านี้

Loading...