จริต ๖ เพื่อฝึกกรรมฐานที่เหมาะสม

ใช่ครับสอบ กสพท. เหมือนกันครับ ขอบคุณครับ คุณก็สู้ๆนะครับ ขอให้ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติกรรมฐานและเอาชนะคู่แข่งด้วยความเพียรเช่นกันครับ
สาธุครับ

 

คุณ NONGLLL มีราคะจริต เวลาจ้องอาจารย์ใหญ๋ กำหนดเป็นอสุภะกรรมฐานไปเลย

 

purilap คนที่ ๒๐๔​

ท่านมีพุทธิจริต ปัญญาวิมุตติ
ชาตาของท่านน่าสนใจค่ะ
เพราะเส้นทางเดิมท่านมาด้วยมหากุศล กิจของท่านในภพนี้ชาตินี้
ต้องเจริญเมตตาให้มาก ธรรมะเดิมจะกลับมาหากท่านได้กรรมฐานที่ตรงจริตท่าน
การเผยแพร่ธรรม ท่านค่อยศีกษาไปนะคะ
อันใดที่ดิฉันเขียนไว้เกี่ยวกับท่าน อย่าได้ละเลย
หากท่านได้เรียนศาสตร์แห่งสุวรรณโคมคำ ความเข้าใจจะเพิ่มพูนขึ้น

ขอท่านจงเจริญสูงสุด
สาธุการ

แสนสวาท​

 

อยากทำให้มาก เจริญให้มาก ศึกษาให้มากคับ ขอให้ตัวเองได้มีโอกาสได้ทำคับ อนุโมทนาสาธุ

 

ถามได้ค่ะ ไม่มากเกินไป หากท่านจะเริ่มปฏิบัติได้ โดยติดต่อทางอินเตอร์เนท
ดิฉันก็นับว่าเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่งในการเผยแพร่ธรรมของพุทธองค์
การสมาทานพระกรรมฐาน คือการตั้งจิต ก่อนเริ่มต้นเจริญกรรมฐาน
อยากให้สมาทานช่วงแรก ก่อนค่ะ จะได้ไม่ลืมว่าคำสมาทาน
หากวันหนึ่งที่ท่านต้องแนะนำใครให้ปฏิบัติ ท่านจะได้บอกเขาได้ ไม่ต้องกลับมาดู

หากท่านรู้ว่าท่านกำลังจะโกรธเมื่อใด ตอนนั้นกรรมฐานกองนั้นก็เริ่มต้นทำงานแล้ว อย่าลืมแผ่เมตตาโดยไม่มีประมาณนะคะ

ที่จริง หากท่านสามารถฝึกอะไรได้ จะไม่ถือว่าอีกกองยากง่ายกว่ากัน
หากแต่ว่า ท่านควรตัดสินใจเองที่จะฝึกอะไร ทั้งหมดบอกมาแล้ว
เหลือคือพิสูจน์ว่าดิฉันพยากรณ์ท่านได้ถูกต้องหรือไม่ในเรื่องกรรมฐาน

เรื่องเรียน คงไม่ได้ยากเกินไปหรอกค่ะ เดี๋ยวนี้มีการติวให้คล่องกันเยอะที่

สาธุการค่ะ
แสนสวาท

 

จริต ๖ เพื่อฝึกกรรมฐานที่เหมาะ​

ขอให้.....เหล่าพุทธวงศ์.....จงเห็นข้าฯ
เพียรกายา...สร้างความดี
แนะกรรมฐาน...เหมาะสมกับที่
จริตแต่ละท่านมี....แต่เดิมมา

นำท่านได้....ทิพยเนตร​

คุณวิเศษ...ของนัยนา
ด้วยกรรมฐาน....ขององค์พระสัมมา
สอดคล้องด้วย...จริตตน





แก้ไข 13.21 จันทร์ ที่ 8 ตุลาคม 2555 แรม 8 ค่ำ เดือน10

 

อนุโมทนาบุญครับผม
ใช่ครับผมก็คิดอยู่ว่าถ้าได้เรียนหมอได้อยู่กับอาจารย์ใหญ่อยู่กับตับไตใส่พุง
อวัยวะในร่างกายมนุษย์ได้ทั้งความรู้ได้ทั้งธรรม อสุภกรรมฐานพิจารณาขันธ์ 5
จะได้ไม่ยึดติดกับร่างกายและสิ่งสวยงามเป็นสิ่งที่ประเสริฐมากๆเลยครับผม:d

 

คนที่ ๒๐๗​

คนที่ ๒๐๗
คุณปุณ
เกิดพุธ ๖ สค
จริต ๒ จันทร์ มารยาจริต ที่มาจากพระเกตุ หรือจุติ เคลื่อนมาจากแดนสวรรค์
แฝงด้วยโทสะจริต

นิสัยจันทร์คือ เรียบง่าย อ่อนน้อม ไม่แสดงออกมากนัก
มีพื้นฐานของเดิมทางเส้นทางแห่งดวงตาเห็นธรรมมาก่อน
ได้มาบ้างแล้วในอดีตกาล ท่านสัมผัสได้ตั้งแต่เล็ก ๆ
ในภพชาตินี้ ท่านปฏิบัติแล้วจะได้สื่อสารได้เหมือนตามองเห็นด้วยตาทั้งมีอิทธิ​

ในช่วงอายุย่าง 38 นี้ ตั้งจิตให้ดี จากกรรมฐานเคลื่อนไหว
เดินจงกรม การใช้ลูกประคำ ล้วนประกอบกิจกรรมฐานให้เพิ่มพูนความสามารถ หนึ่งปี ถึงวันเกิด
แผ่เมตตาโดยไม่มีประมาณ เมตตาทั้งคนรักและเคยชัง ​

ท่านจะเดินด้วยวรรณกสิณก็ทำได้
กสิณดิน เริ่มต้น ต่อด้วยกสิณไฟ ทั้งหมดนี้ ของง่ายของท่าน
ท่านต้องประกาศประธรรมของพุทธองค์ต่อเนื่องไปตามจิตที่คิดอยากทำ
เพื่อสร้างบริวารบริวารเพิ่มได้มากเท่าไร กุศลเกิดขึ้น เพิ่มพูน​

พึงคำนึง จรณะ ๑๕ ไว้ตลอด และธรรมที่ทำให้ท่านเข้าสู่แดนอริยะได้คือ
อนุตตริยะ ๖​

ที่เหลือไปเรียนแล้วรู้เพิ่มในคอร์สเบื้องต้นค่ะ​

อนุโมทนาสาธุการ
แสนสวาท​

 

ขออนุญาตภามเพิ่มหน่อยนะครับ
1.แผ่เมตตาโดยไม่มีประมาณนี่เป็นไงหรอครับ แล้วทำยังไงอะครับ
2.สำหรับคนฝึกใหม่ควรทำวันละกี่รอบครับ แล้วรอบละประมาณกี่นาทีดีครับ
3.ผมว่าจะตัดกิ่งมาเพ่งในห้องอะครับ คือ พอตอนเพ่งเสร็จแล้วหลับตานี้ควรทำยังไงต่ออะครับ นึกภาพใบไม้ที่ไหว แล้วก็เอาอารมณ์ตามรู้สิ่งใดครับ

ขอบคุณครับ

ปล.ผมลองปฏิบัติแล้วครับ ทำไมรู้สึกเครียดจัง สงสัยผมจะปฏิบัติผิดอย่างจัง : (

 

กราบขอบพระคุณคุณแสนสวาทที่ให้ความกระจ่างด้วยความปราณีตและประกอบด้วยเมตตากรุณาอย่างแท้จริง

ทั้งหลายทั้งปวงหากสิ่งเหล่านี้สำเร็จด้วยธรรมอย่างแท้จริง กระผมเองนั้นย่อมที่จะต้องตอบแทนพระคุณองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเต็มกำลัง

มีข้อสงสัยอยู่เหตุหนึ่งคือ ทำไมต้องสร้างบริวาร หรือต้องมีบริวารให้มากครับ สิ่งเหล่านี้มีประโยชน์ในทางธรรมเช่นไรครับ

ขอฝากความหวังส่วนหนึ่งไว้ที่คุณแสนสวาทด้วยครับ
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญด้วยครับ ^_^

 

แผ่เมตตาโดยไม่มีปประมาณ ก็ให้ทั้งญาติและมิใช่ญาติ
และแผ่เมตตาบ่อย ๆ ๆๆๆๆๆๆๆ ไม่มีประมาณ นับไม่ได้ว่ากี่ครั้ง

ฝึกกสิณ เริ่มต้น ๑๐ นาทีก่อน แล้วค่อยเป็น ๑๕ นาที

มองความไหวเป็นอารมณ์กรรมฐาน เห็นไม่เห็นไม่ต้องคาดหวัง
พอคาดหวังก็เลยไม่เห็นนิมิต

ทำกรรมฐานแล้วต้องโปร่งสบาย หากเจริญกรรมฐานแล้วเครียด อาจเป็นเพราะ
สัปปายะทีนั่งฝึกไม่เหมาะกับตน กสิณที่เพ่งหรือที่ได้เป็นกสิณโทษ
เพ่งเอาเป็นเอาตายก็ทำให้เครียดได้ เรียกว่าตั้งใจเกินไป
หรือช่วงเวลานั้นไม่เหมาะในการเจริญกรรมฐานกองนี้
อันนี้ก็เป็นสาเหตุได้เช่นกัน
คราวหน้าลองจดเวลาตอนออกจากรรมฐานมาบอกด้วยนะคะ
จะได้บอกได้ว่าเพราะอะไร เวลาเป็นเรือ่งสำคัญเช่นกันค่ะ

ดื่มน้ำสักหนึ่งแก้วก่อนเจริญกรรมฐาน
สมาทานพระกรรมฐาน แผ่เมตตา แล้วจึงเพ่ง
ลองทำอีกครั้งนะคะ หากยังเครียดอยู่

ตามรู้ รู้ว่าทำอะไรอยู่ คือเพ่งเความไหว จะบริกรรมร่วมด้วยก็ดี ว่า วาโยกสิณัง

 

สร้างบริวาร คือการสร้างบารมี

บารมีเต็มแล้วก็นำไปสู่การบรรลุธรรมได้ง่ายเข้า
บารมีของคุณเกิดในพุทธศาสนา

บารมี คือกำลังใจเต็ม

สร้างบ่อย ๆ ก็ไม่หวั้นไหวสั่นคลอน
ยิ่งสร้างก็ยิ่งเพิ่มพลังให้ตนเอง

คุณลองศึกษาหลายท่านดู ปฏิบัติกรรมฐานไม่ก้าวหน้า
หลายปีก็ย่ำอยู่ พอได้อธิษฐาน(หนึ่งในบารมีสิบทัศ) ว่า
ได้มอบกายถวายชีวิต หากไม่สำเร็จจะไม่ลุกขึ้นแม้เลือดในกายจะแห้งเหือดหมด
หากไม่สำเร็จ จะไม่ลุกขึ้น ตายเป็นตาย ไม่เสียดายชีวิต
การอธิษฐานนี้ ทำให้บารมีเต็ม
กรรมฐานมีพลังมาก จึ่งสำเร็จ

หากคิดว่าตนเองอธิษฐานเช่นนี้ แล้ว ก็เลิกล้ม
บารมีของผู้นั้นก็ยังไม่เต็ม

ไม่รู้พอได้คำตอบไหมคะ

 

ขอบคุณครับ

ผมว่าจะลองเปลี่ยนเป็นกสินสีเขียวดีกว่าครับ เพราะผมคิดว่าผมคงไม่น่าจะเข้ากับกสินลม อยากทราบว่าเราสามารถสร้างดวงกสินขึ้นมาเองได้มั้ยครับ แบบปริ้นมาแล้วเอามาติดกับผนัง แล้วขนาดนี้สำคัญมั้ยครับ

ปล. ผมตาบอดสีเขียว-แดง คงไม่น่าเป็นอุปสรรคใช่มั้ยครับ ?

 

กราบขอบพระคุณคุณแสนสวาทที่ได้ชี้แจงในธรรมที่กระผมเองนั้นยังไม่เข้าใจจนได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เวลานี้ก็นับถอยหลังวันที่จะเข้าไปฝึกอบรม จะตั้งใจปฏิบัติให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ ^_^
ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

รู้จริต เพื่อการเจริญกรรมฐานสู่การบรรลุธรรม


จริตมนุษย์นี้ ไซร์สำคัญนัก

แจ้งประจักษ์ ให้รู้อุปนิสัย

โกรธ วิตก โลภ หรืออย่างไร

บอกได้ง่าย ได้ชัดนิสัยเดิม




หลงไปแล้ว หรือจิตมีศรัทธา

มี ปัญญา แก้ไข ไม่ตื้นเขิน

รู้จริตรู้กรรมฐาน รู้กาลเพลิน

ละตัวตนเมินได้ เข้าสู่ธรรม ......จากเวปพลังใจ Absolute<!-- google_ad_section_end -->

 

จริตของมนุษย์ ซ้ำ ๆ กัน ทุกชาติ
​

ฟังดูก็น่าจะเปลี่ยนได้นะคะ
ดิฉันอ่านจากข้อมูลที่ พระ ท่านกล่าวไว้
ว่า คนเราสั่งสมนิสัย มาหลายภพชาติ ที่เคยคิด แล้วยังไม่ทำ
กลับมาคิดปรุงแต่งซ้ำ แล้วซ้ำอีก
รอจนแสดงพฤติกรรม เป็นอุปนิสัย ซึ่งแก้ไขยาก

ดิฉันเคยตั้งดวงชาตาของคนที่ระลึกชาติได้
ชาติที่เขาเกิดใหม่ กับชาติก่อน ห่างกันหลายปี
เมื่อผลปรากฏออกมาคือ เขามีจุติ หรือจริต เหมือนเดิม

จึงพอทำความเข้าใจได้ว่า
หากท่านมีจริตใด ก็ได้สั่งสมอุปนิสัยเช่นนั้นมานาน
นานมาก นานมากกกกกกก
จนเปลี่ยนยากเสียแล้ว

 

สะพานบุญ
หากเป็นสะพานบุญ กุศลส่งมหาศาล
ให้ท่านมากบริวาร เพื่อนำพาบารมี
ขอท่านบอกเพื่อนต่อ อาจช่วยโลกได้เร็วรี่
ให้มนุษย์เร่งทางดี รู้ชัดที่จริตตน
​

ก่อนส่งรายละเอียดวันเดือนปีเวลาเกิดและวันเกิด ทำกติกาด้วยค่ะ
กติกา เพื่อขอดูจริต

บริจาคกับวัดพระบาทน้ำพุ 1 ครั้ง
น้อมจิตเพื่อบูชาครูก่อนนะคะ
หมุน 1900 2222 00 กด 1
ครั้ง ละ 15 บาท
สาธุ
แสนสวาท<!-- google_ad_section_end -->

 

คนที่ ๒๐๘​

peerakul
ท่านเปลี่ยนภพมาด้วย โมหะจริต
เดินทางเดิมมาด้วยเจโตวิมุตติ
สัปปายะคือ ห้องพระ ห้องกรรมฐาน ศาลาวัด วัด หากโคนไม้ก็เป็นไม้มีผลหน่อยนะ

กรรมฐานเหมาะกับท่านคือ อานาปานสติ
ธรรมะของท่านคือ อนุนตริยะ ๖

กสิณกรรมฐานที่เหมาะกับท่านคือ กสิณลม
หากจะฝึกกสิณน้ำก็เป็นทีหลังได้
หาอ่านได้ที่ห้องคัมภีร์เวปพลังใจนะคะ
รวมทั้งคำสมาทานด้วย

เวลาท่านฝึกกรรมฐานอะไรก็ตาม ควรที่จะบริกรรมนะคะ เพราะจะลดความฟุ้งของจิตได้อย่างดี

 

อนุตตริยะ ๖

ภาวะอันยอดเยี่ยม สิ่งที่ยอดเยี่ยม ​

๑. ทัสสนานุตริยะ - การเห็นอันเยี่ยม ได้แก่ การเห็นพระตถาคต และตถาคตสาวกรวมถึงสิ่งทั้งหลายที่จะให้เกิดความเจริญงอกงามแห่งจิตใจ

๒. สวนานุตตริยะ - การฟังอันเยี่ยม ได้แก่ การสดับธรรมของพระตถาคต และ ตถาคตสาวก

๓. ลาภานุตตริยะ - การได้อันเยี่ยม ได้แก่ การได้ศรัทธาในพระตถาคตและตถาคตสาวก หรือการได้อริยทรัพย์

๔. สิกขานุตตริยะ - การศึกษาอันเยี่ยม ได้แก่ การฝึกอบรมในอธิศีล อธิจิต และอธิปัญญา

๕. ปาริจริยานุตตริยะ - การบำเรออันเยี่ยม ได้แก่ การบำรุงรับใช้พระตถาคตและตถาคตสาวก

๖. อนุสสตานุตตริยะ - การระลึกอันเยี่ยม ได้แก่ การระลึกถึงพระตถาคต และตถาคตสาวก

โดย สรุปคือ การเห็น การฟัง การได้ การศึกษา การช่วยรับใช้ และการรำลึกที่จะเป็นไปเพื่อความบริสุทธิ์ ล่วงพ้นโสกะปริเทวะ ดับสูญทุกข์โทมนัส เพื่อการบรรลุญายธรรม ทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน

 

อนุโมทนาสาธุการค่ะ
แสนสวาท