หมดแล้ว จองพระพิราพปางปาฏิหาริย์ ไฟเบอร์ 5 นิ้ว 999 บาท บรรจุมวลสาร จากเวียงนาคราช ภาพสวย

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ransang, 27 พฤษภาคม 2012.

  1. วรัท

    วรัท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    505
    ค่าพลัง:
    +2,387
    ขอจองขนาด 5 นิ้ว 1 องค์ครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  2. phatford

    phatford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    770
    ค่าพลัง:
    +452
    ขอจอง
    องค์ท่านปู่พระพิราพ ปางปาฏิหาริย์บันดาลทรัพย์
    ขนาด 5 นิ้ว 1 องค์ ครับ
     
  3. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    ขอขยายความเพิ่มเติมที่ว่า

    ผมและอาจารย์ไม่คิดจะอธิฐานพระเองได้แต่ขอบารมีพระท่านและสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาทำให้โดยผ่านท่านอาจารย์ครับ

    ... เรื่องการอธิษฐานจิตไม่ว่าในงานพิธีต่างๆ ผมเคยถามอาจารย์ว่าวิธีการหรือแนวปฎิบัติของอาจารย์เป็นแบบไหน ท่านบอกว่า"ตามแบบหลวงปู่ปานสิ...ต้องขออัญเชิญบารมีครูบาอาจารย์ เทพพรหมมาอนุเคราะห์สงเคราะห์" เคยอ่านประวัติท่านหรือไม่ตอนที่หลวงพ่อเล็กท่านอธิษฐานพระแล้วยกมาให้หลวง ปู่ปานท่านพิจารณา.....กว่าหลวงปู่ปานบอกว่าใช้ได้ เล่นเอาหลวงพ่อเล็กยกไปกลับหลายเที่ยว แล้วตัวเราเป็นใครละมีความดีสักเสี้ยวเท่ากับท่านหรือเปล่า...." ท่านพูดต่อ "เราต้องปฎิบัติจิตของเราเองก่อนว่า มีศีล สมาธิ ลดละวางได้มากน้อยเพียงใด จะเก็บกดมัน หรือค่อยๆ สลายรู้เท่าทันมันไปเรื่อยๆๆๆ ก้อขึ้นอยู่แต่ละวิธี แต่บุคคล มันไปห้ามเค้าไม่ได้ แล้วอย่าคิดแทนเค้า เสมือนว่า เราเปิดประตูให้กว้างมากเท่าใดพลังงานจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยิ่งมากเท่านั้น เส้นทางประตูที่เปิดสะอาดมากน้อยเพียงใด พลังงานก้อจะใสสว่างเย็นสูงขึ้นเท่านั้น" มันเป็นปัจจตัง...

    เพราะ เรื่องนี้อาจารย์ได้เล่าให้ฟังว่า "ท่านโดนหลวงปู่วัดเทพศิรินทร์(นั่งอยู่ที่กุฏิเจ้าคุณนรในสมัยนั้น) หลวงปู่ท่านมีเจโตฯไวมาก สมัย 17-18 ปีก่อนที่เพิ่งสนใจมาทางนี้และมีเหตุได้มากราบรู้จักหลวงปู่ ชอบนำพระมาถวายหลวงปู่...ก้อโดนเท่าเอ็ดตะโรยกใหญ่ว่า "ใช้ไม่ได้" เล่นเอาจิตตกไปหลายวัน ตั้งแต่นั้มาลองหาวิธีการต่างจนกระทั่งปฎิบัติตามแนวหลวงพ่อฤาษีและ หลวงปู่ปาน...จนกระทั่งได้การปฎิบัติกรรมฐานวิปัสสนาญาณแนว "หนอ" ของท่านอาจารย์หลวงปู่เมฆ หลวงปู่ท่านก้อจะบอกว่า "ใช้ได้ มีพลังด้านนี้ด้านโน้น" แต่ไม่วายโดนเอ็ดเรื่องไปยุ่งชาวบ้านมากเกินคือ เรื่องตั้งศาลพระภูมิ" เป็นต้น
     
  4. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    ข้อความจากกระโถนข้างธรรมมาสน์ [​IMG][​IMG]
    http://www.grathonbook.net/book/58.2.html

    ถาม: ...............................................
    ตอบ: คือว่าพระรอดรุ่นนี้ หลวงปู่ครูบาชัยวงศ์ท่านสร้างขึ้น พระรอดที่ดังมากจนกระทั่งเป็นเบญจภาคีในจำนวนพระเครื่องสุดยอด ๕ องค์ ก็จะมีสมเด็จวัดระฆัง พระรอดลำพูน พระซุ้มกอกำแพงเพชร พระนางพญาสุโขทัย แล้วก็ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นพระผงสุพรรณใช่มั้ย ๕ องค์ ?
    พระรอดลำพูนสร้างขึ้นโดยฤๅษีวาสุเทพผู้เป็นอาจารย์ของพระนางเจ้าจามเทวี ปรากฏว่าหลวงปู่ครูบาชัยวงศ์ ท่านหลับ ๆ ตื่น นึกขึ้นมาได้ว่า ท่านเคยเกิดเป็นฤๅษีวาสุเทพ ท่านก็เลยสร้างพระใหม่ซะอีกยกหนึ่ง อย่าลืมว่าดินลำพูนแพงที่สุดนะ แค่นิ้วมือแค่นี้ตั้งหลายล้านนั่นแหละดินที่สร้างพระรอด ตอนนี้พระรอดองค์หนึ่งหลายล้าน สมัยโน้นอาจจะไม่เก่งพอ สมัยนี้สะสมบารมีต่อมาเก่งกว่าเดิม สร้างของเก่าก็คงจะดีกว่าเดิม
    ถาม : ทำไมสมเด็จวัดระฆังถึงได้ศักดิ์สิทธิ์ ?
    ตอบ: ทำไมถึงได้ศักดิ์สิทธิ์ ? พระถ้าหากว่าเป็น บารมีพระพุทธเจ้าจริง ๆ ศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ เพียงแต่ว่าใครจะสามารถอาราธนาพระพุทธเจ้ามาเพื่อทำพิธีปลุกเสกของได้เท่า นั้น
    ส่วนใหญ่สมัยก่อนเขาจะใช้กำลังของสมาธิสมาบัติเฉพาะตัวของครูบาอาจารย์แต่ละ องค์ แต่ว่าหลวงพ่อวัดระฆังท่านเชิญพระมา มาถึงสมัยหลวงปู่ปานวัดบางนมโค ท่านให้หลวงพ่อเล็กปลุกเสกวัตถุมงคล หลวงพ่อเล็กก็ จัดแจงเล่นสมาบัติแปดต่อเนื่องกัน ๓ เดือนเต็ม ๆ ครบ ๓ เดือนยกไปถวาย หลวงปู่ปานบอกใช้ไม่ได้ เอาไปทำใหม่ หลวงพ่อเล็กก็ดูก็ได้แค่นี้ แล้วจะทำยังไงอีกล่ะ นึกไปนึกมา อ๋อ อาราธนาพระดีกว่า จัดแจงตั้งเครื่องบวงสรวงอาราธนาพระมาเสก หลวงปู่ปานบอกเออใช้ได้แล้วยกมา ปล้ำอยู่ ๓ เดือน สู้พระทำแป๊บเดียวไม่ได้ เพราะว่ากำลังของเราเนี่ยมันไม่พอ ได้อภิญญาได้สมาบัติก็จริง มันจะจำกัดด้วยเวลาและกฎของกรรม แต่ถ้าหากว่าเป็นเรื่องของพระ เรื่องของเทวดาท่านสงเคราะห์ อายุเทวดาอย่างต่ำ ๆ ชั้นจตุมหาราชก็ต้อง ๒๐๐ ปีทิพย์ ๑๐๐ ปี หรือ ๒๐๐ ปีทิพย์ ๒๐๐ ปีทิพย์มั้ง ชั้นจตุมหาราช แล้วก็วันหนึ่งของท่านเท่ากับ ๕๐ ปีมนุษย์ เอาแค่อายุ ๒๐๐ ปีทิพย์ของท่านก็พอ ให้ท่านเฝ้าไปเสียจนไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่กว่าจะตายเสียที แต่ถ้าเราทำเอง แป๊บเดียวเราตายแล้ว
    เพราะฉะนั้นการอาราธนาพระ ถ้าหากว่าเป็นเรื่องสำคัญหรือว่าเหมาะสม พระพุทธเจ้าท่านจะเสด็จเอง ดังนั้นก็ถือว่าสูงสุดยอดไปเลย ถ้าพระพุทธเจ้าไม่เสด็จก็ให้พระอรหันต์องค์ใดองค์หนึ่ง อย่างพระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตรมาเป็นประธานในงาน ถ้าอย่างไม่มีไม่มีก็ได้ท้าวสหัมบดีพรหมหรือพระอินทร์มาก็เหลือเฟือแล้ว
    ถาม : พระพุทธเจ้าเสกแว็บเดียวก็ศักดิ์สิทธิ์ ?
    ตอบ: จริง ๆ มีหลายที ถึงเวลากำหนดใจนึกถึงท่านปุ๊บ ท่านบอกเสด็จนานแล้ว ต้องดูตัวอย่างชาวบ้านที่ตาคลีไปกราบหลวงปู่แหวนที่ดอยแม่ปั๋ง ตอนนั้นหลวงปู่แหวนยังอยู่ ยังไม่มรณภาพ หลวงปู่แหวนก็บอกว่า มาจากไหนกันล่ะ บอกมาจากตาคลี โอ้ยมาจากตาคลี แล้วทำไมต้องมาถึงนี่ ที่ตาคลีน่ะอาจารย์ของฉันอยู่ที่นั่น ชาวบ้านก็ถามว่าใคร บอกหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุนนาคน่ะ อาจารย์ฉันเอง บอกว่าหลวงปู่สีไม่ค่อยจะเสกของให้ เอาอะไรไปก็เอามือแปะ ๆ ๓ ที หรือไม่ก็เอามือกอบ ๆ ๒-๓ ที ก็ส่งคืนให้ หลวงปู่แหวนบอกว่าองค์นั้นกอบ ๓ ทีดีกว่าฉันเสก ๓ เดือน เป็นยังไง มันสำคัญอยู่ที่กำลังใจของท่าน ถ้าเข้าถึงความบริสุทธิ์อยู่เป็นปกติแล้ว คิดอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว มันยังต้องไปเสียเวลาอะไร
    อย่างหลวงพ่อเนียม วัดน้อย เจ๊กในตลาดบางปลาม้า เอาน้ำใส่โถไปให้ท่านเสกทำน้ำมนต์ ท่านกำลังก่อสร้างอยู่บนหลังคา เอ้อ เอาไปเหอะ ใช้ได้แล้ว ไอ้เจ๊กมันก็ยัวะ อะไรวะไม่ได้เสกซักกะจึ๋ง บอกใช้ได้แล้ว พอเดินพ้นรั้ววัด มันก็จะเททิ้ง ปรากฏว่าน้ำมันแข็งหมดทั้งขวด ก็เลยหลุดมือตกโป๊ะลงไปกลายเป็นน้ำรูปขวด เลยต้องเอาผ้าขาวม้าห่อกลับบ้าน คราวนี้ก็เลยเชื่อว่าใช้ได้แล้ว
    แต่หลวงพ่อเนียมท่านทำยิ่งกว่านั้นอีก มีปลัดอำเภอคนหนึ่ง อยากจะเลื่อนเป็นนายอำเภอ ไปหาหลวงพ่อเนียม บอกขอรดน้ำมนต์หน่อย หลวงพ่อเนียมท่านกำลังเลี้ยงแมวเลี้ยงหมาท่านอยู่ โน่นน่ะ ไม่ต้องรดหรอกโดดลงไปท่าน้ำหน้าวัดใช้ได้ ปลัดอำเภอคนนั้น ก็โดดตูมลงไปท่าน้ำหน้าวัด อาบซะยกใหญ่แล้วก็ขึ้นมา หลวงพ่อก็บอกเออ ๆ ใช้ได้จริง ๆ ด้วย เลื่อนเป็นนายอำเภอ ปรากฏว่าตอนหลังที่เขาขุดลอกแม่น้ำหน้าวัด เขาขุดได้แผ่นยันต์ ไม่รู้หลวงพ่อเนียมเอาไปฝังไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ตกลงแม่น้ำหน้าวัดใช้ได้หมดเลย คนได้ก็คงไม่ยอมให้ใครหรอก ใครมาเอาได้ดีกันแน่
    สมัยก่อนพอเขาผ่านหน้าวัดน้อย เขาจะวักน้ำมนต์พรมหัวเรือ ขอให้ขายของดี ๆ ขายหมดจริง ๆ ก็ท่านเล่นเสกเอาไว้แล้ว ลงผ้ายันต์ฝังไว้ใต้แม่น้ำเลย กำลังใจท่านที่ถึงแล้ว ก็เหมือนกับไฟฟ้าเป็นหมื่น ๆ โวลต์ แตะเมื่อไหร่ก็ถึงปั๊บเลย
    ถาม : (ไม่ชัด)
    ตอบ: ลักษณะนี้ เพราะว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำท่านเข้าถึงธรรมกาย ท่านสามารถพบพระพุทธเจ้าได้
    ถาม : (ไม่ชัด)
    ตอบ: ต้องดู อย่างว่าบางอย่างท่านเจตนา อย่างสมเด็จคำข้าว สมเด็จคำข้าวของหลวงพ่อนี่ พระท่านให้เสกข้าวถึง ๔ เดือนด้วยกัน ทุกวันก่อนจะกินต้องนั่งเสกข้าว แล้วก็แยกออกมาถึงเวลาก็ตากแห้งเก็บเอาไว้ทำผง
    สมัยก่อนเขาตากแห้งแล้วก็ตำทำผงกัน สมัยหลวงปู่ปานท่าน ก็ใช้วิธีนี้แหละ ท่านเสก ๓ เดือน สมัยหลวงพ่อเจอไป ๔ เดือน เสก ๓ เดือนเสร็จตำเป็นผง จ้างช่างมาปั้นได้พระหน้าตักซัก ๕ นิ้ว องค์หนึ่ง แล้วทำพิธีบวงสรวง หลวงปู่ปานท่านบอกว่า ถ้าข้าไม่อยู่ เวลาอดอยากกันขึ้นมา คือพระเยอะ สมัยหลวงปู่ปาน อยู่วัดบางนมโค พระหลายร้อยนะ ท่านบอกเฉพาะพระนักเรียนที่ไปเรียนบาลีนั่งร่วม ๓๐๐ องค์ ท่านบอกว่า ถ้าหากว่าอดขึ้นมาให้จุดธูปขอกับหลวงพ่อคำข้าว แต่ปรากฏว่าไม่ทันอดหรอก แต่หลวงพ่ออยากลอง ท่านก็จุดขอ วันนี้เอาบ้านเหนือ พรุ่งนี้เอาบ้านใต้ มะรืนเอาหน้าวัด มะเรื่องเอาหลังวัด ได้กินทุกวัน หลวงปู่ปานกลับมาท่านด่าซะหูตูบไปเลย บอกว่าได้เป็นทาสของลิ้นยังงั้นจะหาเรื่องลงนรกแล้ว หลวงพ่อท่านบอกผมอยากลองดูครับ หลวงปู่บอกเออ ถ้าลองไม่เป็นไร ขอขมาพระซะ ขออะไรได้อย่างนั้น
    มาสมัยของท่าน ท่านสร้างเป็นองค์เล็ก อย่างสมเด็จคำข้าวที่เราใช้กันอยู่น่ะ ต้องนั่งเสกแล้วเสกอีก หลวงพ่อท่านเคยปรารภอยู่วันหนึ่งว่า ถ้าแกจะเรียนวิธีทำพระคำข้าวจากข้า ข้าก็ไม่รู้จะถ่ายทอดให้ยังไง คือตอนนั้นวิชาก้นหีบหลวงพ่อมีเท่าไหร่ เราควานมาจนเกลี้ยง มันเหลืออยู่อย่างเดียวก็คือวิธีทำพระคำข้าวนี่แหละ ท่านบอกถ้าแกจะเรียนวิธีทำพระคำข้าวจากข้า ข้าก็ไม่รู้จะถ่ายทอดให้ยังไง เพราะว่าพอถึงเวลาจะฉัน พระท่านก็มายืนเอาข้าวตรงนี้ เอากับอย่างนี้ เสกด้วยคาถาบทนี้ แล้วก็แยกเอาไว้ รุ่งเช้ามาอีกละ เอาข้าวตรงนี้ เอากับตรงนี้ เสกด้วยคาถาบทนี้ บางทีก็คาถาบทเดียวกัน ๆ วันต่อวัน อีกวันหนึ่งกลายเป็นอีกคาถาหนึ่งแล้ว ท่านก็เลยบอกว่าไม่รู้จะทำยังไง มีอยู่อย่างเดียวก็คือว่ารอ รอให้พระท่านมาสั่งเอง ของเราก็กราบเรียนหลวงพ่อว่า ไม่เป็นไรครับ หลวงพ่อทำไว้เยอะ ๆ แล้ว แล้วพอถึงเวลาพวกผมเอาไปขายเอง หลวงพ่อท่านก็หัวเราะ ท่านบอก เออดีเหมือนกันนะ เอาซัก ๕ ล้านองค์ดีมั้ย ปรากฎว่าพระปลัดวิรัชท่านเห็นว่าหลวงพ่อพูด ท่านก็ไปตีความว่าหลวงพ่อเอาจริง ๆ ก็สั่งปั๊มมาซัก ๕ ล้าน นึกว่าจะเหลือ หมดเหมือนกัน
    ถ้าสามารถอาราธนาพระมาได้ ศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้น เพราะพุทโธ อัปมาโณ ธัมโมอัปมาโณ สังโฆอัปมาโณ คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ประมาณไม่ได้ หลวงปู่ปานท่านทำพระองค์เล็ก ๆ แล้วก็สั่งทำบายศรี บวงสรวงชุดใหญ่เลย หลวงพ่อบอกว่าพระองค์เล็กนิดเดียว ทำไมต้องทำบายศรีบวงสรวงชุดใหญ่ขนาดนั้นด้วย หลวงปู่ปานบอกว่าพระพุทธเจ้ามีเล็กเหรอวะ ? หลวงพ่อบอกได้ยินนี่ยกมือไหว้ท่วมหัว ต้องไปขอขมากันอุตลุดเลย ลืม ก็แบบเดียวกับพระของขวัญ ของหลวงพ่อวัดปากน้ำไง องค์นิดเดียว ประมาณนิ้วมือแค่นั้นเอง แล้วเสร็จแล้วก็มีโยมคนหนึ่งว่าพระองค์แค่นี้จะไปคุ้มครองอะไรได้ ปรากฏว่าตอนกลางคืนโยมคนนั้นฝัน เห็นพระของขวัญลอยมาแล้วโตขึ้น โตขึ้น ๆ เต็มไปทั้งจักรวาลเลย แล้วถามว่า แค่นี้พอหรือยัง พุทธานุภาพ อย่าลืม พุทโธอัปมาโณ หาประมาณไม่ได้
    พระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ของพระอินทร์น่ะ บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์นี่ยาว ๖๐ วา แล้วพระพุทธเจ้าเองตามที่หลวงพ่อท่านบอกว่าสูง ๘ ศอก ถ้าหากว่าตามอรรถกถาบอกว่า ๑๘ ศอก ๑๘ ก็ ๑๘ เถอะ เทียบกับ ๖๐ วา มันก็กะติ๊ดเดียวใช่ไม๊ ? ท่านก็ว่านั่งไปแล้วจะไม่สมพระเกียรติ ลักษณะก็คงเหมือนกับตุ๊กตาวางอยู่บนโต๊ะตัวใหญ่ ๆ พระพุทธเจ้าท่านทราบความคิดพระอินทร์ว่านั่งบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์แล้วอาจจะดู แล้ว คนอื่นอาจจะเห็นว่าท่านองค์เล็กก็เลยไม่น่าเลื่อมใส พระพุทธเจ้าท่านโยนผ้าสังฆฏิไป ปรากฏว่าคลุมบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ทั่วพอดี พอเสด็จขึ้นไปนั่งแล้วพอเหมาะพอดี เหมือนยังกับบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์เล็กลงหรือองค์ท่านใหญ่ขึ้น ถึงได้บอก พุทโธอัปมาโณ ขึ้นชื่อว่าคุณพระพุทธเจ้าประมาณไม่ได้
    อสุรินทราหู ก็คือพระราหูนั่นแหละ เป็นเทวดา เทวดาที่ตัวใหญ่ อัตภาพปกติขนาดทั่ว ๆ ไปของเทวดาคือ ๓ คาวุต คาวุตหนึ่งนี่ ๑๐๐ เส้น คือ ๔ กิโลเมตร ๓ คาวุต ก็ ๑๒ กิโลเมตร เดินมาซักองค์หนึ่งวิ่งกันตับแลบ สูง ๑๒ กิโลเมตร นั่นขนาดเล็กสุดน่ะ มีแต่ใหญ่กว่านั้น อสุรินทราหู แกใหญ่เป็นพิเศษ ประเภทอังเดร เดอ ไจแอนท์รึ เปล่าก็ไม่รู้ นักมวยปล้ำตัวเท่าตึก อยากจะไปกราบพระพุทธเจ้าใจจะขาด แต่ด้วยความที่เคารพพระพุทธเจ้ามากเป็นพิเศษ ก็ว่าตัวเราใหญ่เหลือเกิน ถ้าไปพบพระสมณโคดมแล้วต้องก้มลงมอง มันจะเป็นการไม่เคารพ พระพุทธเจ้าท่านทราบความคิดก็เลยเสด็จไปหา พอเสด็จไปหาอสุรินทราหูแล้วท่านก็นอนลักษณะสีหไสยาสน์ ปรากฏว่าสูงเลยหัวอสุรินทราหูไปไม่รู้กี่เท่า นี่ขนาดนอนนะ อสุรินทราหูท่านก็เลยยอมกราบลงตรงนั้นแหละ พระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดท่าน
    เพราะฉะนั้นปางไสยาสน์ ถ้าหากว่าลืมพระเนตรเขาเรียกว่า พระปางโปรดอสุรินทราหู อสุรินทราหูนี่ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ ความใหญ่ของร่างกาย ท่านบอกไม่ถูก เขาบอกรอยต่อระหว่างคิ้วท่านกว้างโยชน์หนึ่งพอดี โยชน์หนึ่งนี่ ๑๖ กิโลเมตร แล้วตัวท่านใหญ่แค่ไหน หลวงพ่อถามว่าทำไมไปอมดวงจันทร์ล่ะ ราหูท่านบอกว่าจ้างผมก็ไม่ไปอมขี้ดินเล่น ดวงจันทร์ในสายตาท่านก็ก้อนดินก้อนหนึ่งใช่มั้ย ? แล้วถามท่านว่า แล้วมาเพื่ออะไร ? ท่านบอกว่าท่านเป็นพระโพธิสัตว์อยู่แล้ว พระโพธิสัตว์เขาถือว่าเป็นพวกกันหมด เป็นเพื่อนกันหมด มีอะไรจะให้ช่วยบ้างมั้ยล่ะ หลวงพ่อก็เลยให้ช่วยสงเคราะห์เกี่ยวกับกำลังใจของญาติโยมที่จะเข้าถึงธรรม อสุรินทราหูนี่ในภัทรกัปป์หน้าจะตรัสรู้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีนามว่า นารทะ สมเด็จพระพุทธนารทะทศพลสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คืออสุรินทราหูนี่แหละ
    ถาม : ที่ได้พยากรณ์มีกี่พระองค์ ?
    ตอบ: ได้พยากรณ์มีกี่พระองค์ ต้องบอกว่าพระโพธิสัตว์ที่ได้รับการพยากรณ์แล้ว มีกี่พระองค์นับไม่ถ้วน นับไม่ถ้วน
    ถาม : พระพยากรณ์....(ไม่ชัด)
    ตอบ: อยู่ในอเวจีมหานรกจ้ะ นิยตโพธิสัตว์ไม่ได้ หมายความว่าจะพ้นนรก นิยตโพธิสัตว์ คือพระโพธิสัตว์ที่มีคติแน่นอนแล้ว หมายความว่าได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าแล้วว่าจะไปตรัสรู้เมื่อไหร่ โตไทยพราหมณ์ แกตรัสรู้ภัทรกัปหน้า แต่ปัจจุบันนี่แกยังอยู่ในอเวจีมหานรก
    ถาม : ท่านอยู่กัปใกล้ ๆ นี่เอง
    ตอบ: ก็จะถึงนี่แหละ โตไทยโยนรสีหโก ธนปาโลติสโสนามะ ปาลิไลยะ สุมังคะโล สามองค์สุดท้าย ถ้านับจากข้างหลังนั่นก็เป็นองค์ที่ ๓ จากข้างท้าย ธนปาโลติสโสนามะ ช้างธนบาลนาฬาคีรี จะเป็นพระพุทธเจ้ามีนามว่า ติสสะ ปาลิไลยะสุมังคะโล ช้างปาลิไลยกะ จะเป็นสมเด็จพระพุทธสุมังคะละสัมมาสัมพุทธเจ้า เสียดายท่านเป็นคนไทยด้วยโตไทยพรามหณ์ พราหมณ์คนไทยชื่อนายโต ชัดมั้ย ?
    โบราณเขาไม่มีนามสกุล ในเมื่อไม่มีนามสกุลก็เลยต้องใช้วิธีว่า หาสัญลักษณ์อะไรที่ให้เข้าใจ จะมีลักษณะเหมือนกับเป็นฉายา อย่างเช่น ภัททิยะศากยะราชา ภัททิยะผู้เป็นราชา ของศากยะ เขาก็จะรู้ว่าองค์นี้ นกุลกะภัทฑิยะ ท่านภัททิยะหลังค่อม ก็จะได้รู้ว่าเป็นองค์นั้น โตไทยพราหมณ์ บอกชัด ๆ เลย พราหมณ์คนไทยชื่อนายโต
    ถาม : (ไม่ชัด)
    ตอบ: เสีย ไอ้เทยยะ ภาษาบาลี ของไทยเราออกเสียไทยะ จำไว้อย่างเวไนยะ ก็เขียนเวเนยยะ เสียเอยยะ เอยกับไอติดกัน คนละครึ่ง เอยยะ เอยยุง
    ถาม : พระพุทธเจ้าความสามารถเสมอกันหมดทุกพระองค์ ?
    ตอบ: ความสามารถเสมอกันหมดทุกพระองค์มั้ย ? ก็ตอบได้ว่าเสมอกันหมดทุกพระองค์ แต่ว่าการสร้างบารมีต่างกัน ต่างกันนี่ทำให้บริวารท่านแตกต่างกัน พระพุทธเจ้าที่เป็นปัญญาธิกะ สร้างบารมี ๔ อสงไขยกับแสนมหากัป บริวารของท่านมีดี มีชั่ว มีรวย มีจน มีสวยงาม มีอัปลักษณ์ ปะปนกันไป
    พระพุทธเจ้าที่เป็นศรัทธาธิกา สร้างบารมี ๘ อสงไขยกับแสนมหากัปนะ บริวารของท่านดี สวย รวย เสมอกันหมด ในเขตที่ท่านประกาศศาสนาคนชั่วจะเข้าไม่ได้ พระพุทธเจ้าที่เป็นวิริยาธิกะสร้างบารมี ๑๖ อสงไขยกับแสนมหากัป บริวารท่านดี สวย รวย เสมอกันหมด โลกในยุคนั้น คนชั่วเกิดไม่ได้ เพราะฉะนั้นท่านทำเพื่อบริวารตัวเอง ก็เลยนานไปหน่อย
    ถาม : (ไม่ชัด).....สัตว์มาเกิด
    ตอบ: มี แต่ห้ามชั่ว อยากรู้อีกล้านปีข้างหน้าไปเกิดได้ สมเด็จพระศรีอาริยะเมตไตยป็นพระโพธิสัตว์แบบวิริยาธิกะ
    ถาม : พระโพธิสัตว์ไปเกิดในยุคของพระพุทธเจ้าวิริยาธิกะ ?
    ตอบ: ทำไม เยอะแยะไป ท่านที่จะต้องรับคำพยากรณ์ จะต้องไปเกิดอยู่แล้ว ไม่ว่าในยุคไหนสมัยไหนก็ตามเอาแค่ว่าคิดเป็นพระพุทธเจ้า ถ้าเป็นพระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ จะพบพระพุทธเจ้า ๒๕๐,๐๐๐ พระองค์ แล้วในแต่ละชาติที่คิดว่าจะเป็น ถ้าเป็นพระพุทธเจ้าที่เป็นศรัทธาธิกะก็เจอเข้าไป ๕๐๐,๐๐๐ องค์ ถ้าเป็นพระพุทธเจ้าที่เป็นวิริยาธิกะก็ล่อไป ๑,๐๐๐,๐๐๐ องค์พอดี จะเป็นอย่างละเท่าหนึ่ง เพราะฉะนั้นถ้าหากว่ายิ่งต้องไปรับการพยากรณ์แล้ว ก็ยิ่งต้องเกิด
    ถาม : พยากรณ์แล้ว....แน่นอน (ไม่ชัด)
    ตอบ: ก็แน่นอนว่าจะต้องได้เป็นเมื่อนั้นเมื่อนี้แน่ แต่ไม่ใช่คติแน่นอนว่าจะไม่ลงนรกแน่
    ถาม : (ไม่ชัด)
    ตอบ: ก็ต้องมีสิ ถ้าหากว่ายังไม่พ้น ก็ไม่ได้รับ โดยเฉพาะว่าอย่างพระพุทธเจ้าของเราได้รับการพยากรณ์ครั้งแรกสมัยสมเด็จพระ สัมมมาสัมพุธเจ้า มีนามว่าพระพุทธทีปังกร เมื่อ....สี่อสงไขยกับแสนมหากัปล่วงแล้วโน่น แต่ว่าท่านสร้างมาก่อนหน้านั้นเยอะ การบำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นพระโพธิสัตว์ จะมีมโนปณิธานคิดว่าเราจะเป็นพระพุทธเจ้า ถ้าแบบปัญญาธิกะก็ ๙ อสงไขยกับแสนมหากัป พูดว่าเราจะเป็นพระพุทธเจ้าเรียกว่า วจีปณิธาน นี ๗ อสงไขยกับแสนมหากัป ล่อไป ๑๖ แล้ว ยังไม่ได้ลงมือทำเลย แล้วเสร็จก็ตั้งหน้าตั้งตาทำเพื่อความเป็นพระพุทธเจ้าเรียกว่า กายะวจีปณิธาน อีก ๔ อสงไขยกับแสนมหากัป ถึงได้ต้องเจอพระพุทธเจ้ากันทีหนึ่ง เยอะขนาดนั้น
    ถาม : (ไม่ชัด)
    ตอบ: ประมาณ ๑ ล้านปีมนุษย์ สมเด็จพระศรีอาริยะเมตไตยจะ มาตรัสรู้ เกิดมั้ย สมัยนั้นคนอายุตั้งหลายหมื่นปี สมเด็จพระศรีอาริยะเมตไตย จะมีพระวรกายสูง ๘๘ ศอก อย่าคิดว่าใหญ่นะ วันก่อนว่าอะไร สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านามว่า นารทะ สูง ๙๐ ศอกไม่ใช่นะ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีนามว่าทีปังกร มาจนถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคตมะของ เรา รวมแล้ว ๒๕ พระองค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีนามว่าสุมนะ สูงใหญ่ที่สุด ๙๐ ศอก รองลงมาก็มี ๘๘ ศอก ๘๐ ศอก ๗๐ ศอก ๖๐ ศอก ไล่ลงมาถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีนามพุทธกัสสปก็ ๒๐ ศอก องค์ปัจจุบันของเรานี่ในอรรถกถามธุรัตถวิลาสินี ขุทกนิกายพุทธวงศ์ท่านบอกว่า ๑๘ ศอก
    แต่หลวงพ่อท่านบอกว่า ๘ ศอก ก็กลายเป็นว่าท่านเล็กที่สุด อะไรที่ควรจะได้ก็เลยน้อยที่สุด อะไรที่ควรจะลำบากก็เยอะที่สุด องค์อื่น ๆ ท่านบอกว่า ประธานคือความเพียรเพื่อบรรลุมรรคผล มี ๗ วัน ๑๕ วัน ๑ เดือน ๓ เดือน ๕ เดือน ๖ เดือน ๗ เดือน ๑๐ เดือน มีของพระพุทธเจ้าของเรานานที่สุด ๖ ปี
    ถาม : จะรู้ได้อย่างไรว่าได้รับพุทธพยากรณ์รึยัง ?
    ตอบ: ได้รึยัง ? ส่วนใหญ่แล้วในยุคสมัยของท่าน ถ้าหากว่าเป็นนิยตโพธิสัตว์ ก็มักจะเป็นผู้ได้อภิญญาสมาบัติทั้งนั้น ถ้าถามว่ารู้ได้ยังไงนี่ไม่ต้องเสียเวลาหรอก รู้แหง ๆ อยู่แล้ว ทำไปเหอะ อีกนาน
    ถาม : ก่อนได้รับพุทธพยากรณ์นานมากมั้ย ?
    ตอบ: นานมากมั้ย ? ต่ำสุดก็ ๑๖ อสงไขยกับแสนมหากัป เพราะว่าของปัญญาธิกะคิดว่าจะเป็นมัน ๗ พูดว่าจะเป็นมัน ๙ ตั้งหน้าตั้งตาทำเพื่อให้ได้เป็น ๔ กว่า เพราะฉะนั้น ๗ กับ ๙ มันก็ล่อไป ๑๖ แล้ว คิดว่าจะเป็น ๗ พูดว่าจะเป็น ๙ รวมแล้ว ๑๖ เสร็จ แล้วก็ทำเพื่อให้ได้เป็นอีก ๔ เพราะงั้นต่ำสุดก็ ๒๐ อสงไขยกะ ๓ แสนมหากัป นอนกนั้นก็เพิ่มเท่าตัวจาก ๒๐ ก็เป็น ๔๐ เป็น ๘๐ ไม่เห็นต้นไม่เห็นปลายเลยใช่มั้ย ? เปลี่ยนใจได้นะ
     
  5. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    มีคำถามที่น่าสนใจทาง pm นำมาให้พิจารณาครับ...........

    อยากรบกวนถามว่า พระพิราพปางนี้ท่านประธานทรัพย์ทางมหาโชค เป็นพระโพธิ์สัตว์ไปแล้วใช่หรือไม่?
    พลังทางมหาเทพเจ้าจะยังอยู่หรือไม่ ?
    คนที่รู้ตัวว่ามีองค์ หรือมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้าน เช่นขันธ์ เทวรูป ยันต์ หรือผีบ้านผีเรือน ผีบรรพบุรุษ จะได้รับผลกระทบหรือไม่?

    โปรดไขข้อข้องใจแก่ผมด้วยนะครับ.........


    คำตอบจากท่านอาจารย์

    จริงๆๆแล้วท่านเป็นพระโพธิสัตว์ครับ.....เป็นองค์มหาเทพมีบารมีทางโลกียะ สูง(โลกียะและโลกุตระ) การที่จะได้รับผลกระทบนั้น 1.เกิดจากพลังคนละด้านกับองค์ท่าน(มืด/สว่าง)....ที่เข้ามากระทบกัน 2.เกิดจากรองรับบารมีไม่ไหว เช่นคนที่มีน้ำหนักปกติ50 กก. แต่เมื่อมารับน้ำหนัก 70 กก.ขึ้นไปก้อจะแบกรับไม่ไหว (มีวิธีแก้ไขต้องปฎิบัติเพื่อเพิ่มพูนกำลังของเราให้เพียงพอต่อการรับ น้ำหนักนั้น)

    สำหรับผมสัมผัสได้ว่าท่านมีเมตตาสูง จะมาช่วยเรื่องทางโลกและความตั้งใจผมจะเผยแผ่บารมีท่านให้ได้มากที่สุดที่จะทำได้


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2012
  6. chevy55

    chevy55 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +7
    ขอจอง 5นิ้ว 1องค์ครับ
     
  7. chevy55

    chevy55 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +7
    ขอจอง 5นิ้ว 1องค์ครับ
     
  8. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    รายชื่อผู้จององค์ปู่พระพิราพ ปางปาฏิหาริย์บันดาลทรัพย์ ขนาด 5 นิ้ว

    freedomk 1 องค์
    sauce_pan 1 องค์
    sayank 1 องค์
    ทำความดี 1 องค์
    jairlinethai 1 องค์
    seekerpunch 1 องค์
    กิตติภพ 1 องค์
    SCUBA 1 องค์
    ชาวประมง 1 องค์
    รักษ์พระ 3 องค์
    วรัท 1 องค์
    phatford 1 องค์
    chevy551 องค์
     
  9. jarawoot

    jarawoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,762
    ค่าพลัง:
    +6,940
    รุ้ง 7 สีกับหัวใจพินทุ

    ไหนๆๆๆก้อไหนๆๆแล้ว ขอเล่าเรื่องเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่เกิดขึ้นตัวผมเองในค่ำคืนนี้ดีกว่า หลังจากที่ผมทานข้าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...ถึงเวลาที่ไอ้เจ้าลูกชายตัววุ่นวาย(หมาพันธุ์บางแก้ว) จะต้องร้อง "อิ๋งๆๆๆๆ" ให้พาออกไปเดินเล่นทุกวัน

    ระหว่างที่ผมกำลังจะใส่สายจูงอยู่นั้น...พลันไปคิดถึง "ปู่พระพิราพ"ที่เห็นในนิมิตระหว่างนอนกรรมฐานอยู่นั้นขึ้นมาเมื่อ 2 คืนที่แล้ว ที่ปู่ท่านได้แสดงปาฏิหาริย์ให้เห็นอะไรบ้างอย่าง...เล่นเอาทำให้ขนลุกซู่ทันที่ (เป็นเรื่องอะไรจะขอเล่าสู่กันช่วงปลายปี 55 นะครับ)

    ระหว่างที่พาเดินเล่นอยู่นั้นท้องฟ้าเริ่มมืดลงพร้อมอากาศเย็นออกชื่นๆนิดๆ หันกลับไปมองท้องฟ้าทิศตะวันออกทางบ้าน ปรากฏเห็น "รุ้งกินน้ำที่มีสีครบทั้ง 7 สีอย่างชัดเจน สวยมาก" เลยอาศัยโอกาสนี้ถือว่าเป็นวาระพิเศษ ได้อธิษฐานต่อเบื้องบน...โดยมีพระพุทธเจ้าเป็นประธานและปู่พระพิราพเป็นที่ตั้ง

    ด้วยผลบุญอานิสงส์ที่ปู่ได้มาเกื้อกูลมีบุญสัมพันธ์กันมาและได้เมตตาอนุเคราะห์ที่จะช่วยเหลือให้ลูกหลาน....พ้นจากความลำบากและอุปสรรคทางโลกที่ทำให้เกิดทุกข์ จนสามารถที่จะมีขวัญกำลังใจในการสร้างสมความดี เพื่อให้มีสติและปัญญาก่อเกิดมรรคผล....ตามกำลังบุญวาสนาบารมี....ลูกขอบูชาคุณและเผยแผ่บารมีปู่ให้ได้มากที่สุดที่กำลังพึงจะทำได้....เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ลูกหลานด้วย..เทิด

    หลังจากนั้นเข้ากลับมาในบ้านประมาณ 1 ชม.กว่าๆ มีโทรศัพท์ที่ไม่รู้จักโทรเข้ามา...เสียงคุ้นๆแต่จำไม่ได้ จนต้องถามไถ่กันจึงรู้ว่าเป็น "พี่เปี๊ยกแก่งคอย"ลูกศิษย์หลวงเตี่ย วัดบุดดา จ.สิงห์บุรี นานๆพีเปี๊ยกจะโทรมาคุยสักครั้ง..."ผมไปค้นคว้าเรื่องพินทุมา จนเจอหัวใจหลักพินทุ ผมลองมาท่องดูมีผล...ทำให้มีกำลังของวัตถุมงคลเพิ่มขึ้น...เบี้ยแก้ของคุณนะผมเอามาท่องด้วยหัวใจหลักพินทุ..มีพลังเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และพี่เปี๊ยกก้อบอกตัวคาถามาให้ผมจด ระหว่างที่ฟังพร้อมจดนั้น...ผมเกิดนิมิตเห็นยักษ์ขึ้นมา...รู้ทันทีเลยว่า...ปู่พระพิราพท่านสงเคราะห์ในเรื่อง...การสร้างวัตถุมงคลโดยเฉพาะของท่าน....ผมได้บอกพี่เปี๊ยกไปว่าเห็นยักษ์ขึ้นมา...คงเป็นสายบารมีทางกำลัง..?(เว้นไว้ฐานเข้าใจนะครับ) พี่เปี๊ยกก้อหัวเราะ..ไม่พูดอะไรมากและพูดคุยเรื่องต่าง...

    ผมนั่งพิจารณา...มันไม่ใช่เป็นเหตุบังเอิญแต่เป็นเหตุที่สอดคล้องจากคำอธิษฐานต่อ "สายรุ้ง" ที่ปรากฎและอาจเห็นได้ว่า..ณ.ช่วงเวลานี้จะต้องใช้กำลังสายเทพที่มีกำลังทางโลกียะ...ที่สามารถดลบันดาลและสัมผัสได้อย่างชัดเจนกับคนส่วนใหญ่...ที่จะแสดงผลให้ปรากฏขึ้น..........ก้อถือว่าเป็นการเล่าสู่กันฟังนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2012
  10. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    ส่วนเลขที่บัญชีนั้นจะลงให้ทราบอีกสักระยะนะครับ
     
  11. ใจ พเนจร

    ใจ พเนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +1,174
    ขอ อนุโมทนา กับท่าน ransang ด้วยน๊ะครั๊บ เป็นข้อธรรมที่ดีเลยครั๊บ..
     
  12. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    ผมขออนุญาตผู้ถามมาลงเพราะคิดว่าคงมีหลายท่านสงสัยครับ
     
  13. ชาวประมง

    ชาวประมง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    4,657
    ค่าพลัง:
    +22,538
    ถามอาจารย์ครับ วัดท่านุ่นกับวัดป่าท่านุ่น เป็นเเห่งเดียวกันไหมครับว่าจะเข้าไปหน่อยครับ
     
  14. jarawoot

    jarawoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,762
    ค่าพลัง:
    +6,940
    เป็นวัดเดียวกันครับ..ที่อยู่ติดถนนที่มุ่งหน้าขึ้นสะพานไปฝั่งเกาะภูเก็ตครับ...ท่านป็อกเป็นเจ้าอาวาส...ท่านส่งเสริมเยาวชนเล่นกีฬา....รายการคนค้นคน..เพิ่งออกอากาศคืนวันอังคาร ที่ 29 พฤษภาคม 2555 นี้เอง

    วันที่ถวายองค์พระปัจเจกองค์ปฐมต้น ปิดทองคำ....และภาพรูปหล่อหลวงปู่ทวดที่ถวายที่วัดท่านุนครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2012
  15. ชาวประมง

    ชาวประมง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    4,657
    ค่าพลัง:
    +22,538
    รู้ที่แล้วเดี๋ยวจะเเวะไปกราบพระบ้างครับ
     
  16. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    ขณะนี้ทราบว่าองค์ต้นแบบขนาด 5 นิ้วกำลังถอดพิมพิ์ยางซิลิโคนอยู่พร้อมกับยอดจองทั้งจากในกระทู้และการจองจากด้านอื่น ๆ ก็ทะยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องรวมประมาณ ๆ 50 องค์แล้วครับ และคาดว่าวันจันทร์น่าจะนำภาพความคืบหน้าของงานมาให้ชมได้อีกบางส่วนครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2012
  17. passion9

    passion9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +107
    ขอจองขนาด 5 นิ้ว 1 องค์ครับ
    ขอบคุณครับ
     
  18. B2K32

    B2K32 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +507
    ขอจอง 5 นิ้ว 1 องค์ด้วยครับ
     
  19. MooDam

    MooDam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,604
    ค่าพลัง:
    +4,845
    ขอจอง องค์ปู่พระพิราพ ปางปาฏิหาริย์บันดาลทรัพย์ ขนาด 5 นิ้ว จำนวน 1 องค์ ครับ
     
  20. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +2,244
    รบกวนจองขนาด 5 นิ้ว 1 องค์นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...