ช้างเผือกในป่าอีสาน หลวงตาสมหมาย วัดป่าสันติกาวาส คำสอน/ประสบการณ์/วัตถุมงคล/ (ช่างชิต)

"เหรียญในหลวง รุ่น บารมีล้นแผ่นดิน"
.
....วัตถุประสงค์
คณะ ส.บารมี ศิษย์หลวงตา สร้างถวายให้หลวงตาไว้แจกญาติโยมและส่วนหนึ่งทางผู้สร้างจะมอบเป็นสินน้ำใจผู้ที่ร่วมบุญในงานต่างๆของกลุ่ม
.
รายละเอียดจำนวนการสร้าง
เหรียญ 50 = 1898 เหรียญ
เหรียญ 25 = 1200 เหรียญ(โดยประมาณและไม่ตอกโค้ด)
เหรียญ 2522 = 31 เหรียญ
เหรียญ 2525 = 19 เหรียญ
เหรียญ 2517 = 14 เหรียญ
เหรียญในหลวงพิเศษ = 3 เหรียญ
เหรียญราชินีพิเศษ = 10 เหรียญ
เหรียญในหลวงหลังพรหม = 1 เหรียญ
ทุกเหรียญ(ยกเว้น25สตางค์)ตอกโค้ด "ส.บารมี" ส่วนเหรียญพิเศษจะตอก "999" เพิ่ม
.
.....พุทธคุณ
....ตามที่หลวงตาท่านได้บอกไว้ นอกจาก "ผีกลัวแล้ว" ในหลวงท่านยังเป็นพระอนิตยโพธิสัตว์ "บารมีท่านเต็มแผ่นดิน" บวกกับ พระอริยะเจ้าอธิฐานจิตแบบโลกุตระ ฉะนั้น พุทธคุณครอบจักรวาล
.
.....ทางทีมงานมีเจตนาชัดตรง และกราบเรียนหลวงตาไม่ได้จะทำเป็นแบบเหรียญขวัญถุง แต่ต้องการให้ผู้ที่ได้รับเอาไป แขวนบูชาให้ความเคารพแบบวัตถุมงคลรูปเคารพ
.
.....พี่ๆน้องๆที่อยากได้ไว้บูชาเป็นขวัญกำลังใจ ตอนนี้เหรียญอยู่กับหลวงตาแล้ว หลังออกพรรษานี้ เตรียมรับแจกจากหลวงตาได้เลยนะครับ

 

...."บอกก็แล้ว สอนก็แล้ว ว่าก็แล้ว ถ้าไม่เชื่อก็แล้วไปเท่านั้นตั้ว"
.
#หลวงตาสอนช่างชิตถึงเรื่องเวลามีลูกศิษย์ไปทำอะไรที่ไม่เหมาะสม
#ในรูปหลวงตาเปิดให้ช่างชิตดูภาพเก่าๆ

 

......"พระพุทธเจ้าท่านไม่เคยสอนให้พึ่งดวง พึ่งเทพพระเจ้า พึ่งโชคชะตา แม้แต่ตัวท่านเองท่านก็ไม่ได้ให้เรามาพึ่งมากราบไหว้ร้องขอ. ท่านสอนให้เราพึ่งตัวเอง ท่านแค่มาบอกวิธีการเฉยๆ"
.
#รูปเก่าสมัยหลวงตาบวชใหม่ๆ251กว่าๆ
#ใครอยากsaveเชิญครับช่างชิตไม่ใส่เครดิตในภาพเพราะการันตีว่าภาพคลาสสิกแบบนี้มีไม่กี่คนแน่นอน

 

" วันแห่งความทรงจำ "
ประวัติหน้าหนึ่งของชาวลานธรรมแม่กลอง บรรยากาศงานถวายที่ดินธรณีสงฆ์ให้กับหลวงตาสมเกียรติ วัดป่าถ้ำเทพนิมิตและทอดผ้าป่าซื้อที่ดินเพิ่มเติมที่ลานธรรมแม่กองวันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคมพ.ศ. 2559
.
พ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่มาร่วมงานเป็นประธานและสักขีพยานร่วมอนุโมทนา
ลป ไม
ลต สมหมาย
ลต เฉลิม
ลต สมเกียรติ
พอจ พเยาว์
เป็นต้น
.
...ช่างชิตแม้ตัวอยู่ไกลแต่ส่งใจร่วมอนุโมทนากับพี่ชายใจดีอีกหนึ่งท่านที่สร้างบารมีมากมายเหลือเกิน เอาภาพสวยๆจากพี่สัญญามาฝากพี่ๆน้องๆร่วมอนุโมทนาด้วยครับ

 

วัตถุมงคลที่หลวงตาท่านแจก ต้องไปที่วัดหลังออกพรรษาถึงจะได้ร่วมทำบุญและบูชาใช่ไหมครับ

 

ครับพี่

 

....วันนี้นำประสบการณ์ที่หลวงตาถ่ายทอดเอาไว้กับพี่พยาบาลคนหนึ่งที่มากราบท่านที่วัดใหม่เสนาเมื่องานหลวงปู่หลอดที่ผ่านมา.
....เป็นเรื่องราวสมัยปี 251กว่าๆ เกี่ยวกับ "แรงสัจจะอธิฐาน"ตอนหลวงตาติดตามหลวงปู่ไปกรุงเทพ เรื่องมี2ตอน ช่างชิตจดบันทึกมาให้พี่ๆน้องๆอ่านกัน วันนี้ตอนที่1ก่อน เรื่องราวจะเป็นยังไงลองติดตามกันเลยนะครับ
.
......”อย่างสมัยก่อนหลวงตาลงมากับหลวงปู่ที่กรุงเทพ มาบ้านคุณ...(ขออภัยจำไม่ได้)....พอดีมีโยมคนหนึ่งมากราบหลวงปู่ เขาปวดหัวมากทำยังไงก็ไม่หายกินยายังไงก็ไม่หาย ทรมานมาก หลวงตาเห็นแล้วสงสารเลยเรียกเขาเข้ามาหา พูดถามซักหน่อยก็ให้ก้มหัวลง หลวงตาก็อธิฐานขอสัจจะบารมีที่สร้างมา ถ้ามีวาสนาจะช่วยเขาได้ขอให้เขาหายด้วยเถอะ แล้วก็ว่าคาถาพระเจ้าห้าพระองค์เป่าไปที่หัวเขา ก็ถามว่าเป็นไงบ้าง เขาบอกพอเป่าไปมันเย็นไปทั้งหัว หายเดี้ยวนั้นเลย นี้ละพลังของการอธิฐานมันก็มีผล มันก็ทำได้อยู่เหมือนกันนะ”
.
.....เมตตาของครูบาอาจารยไม่มีประมาณ สาธุครับ
#รูปหลวงตาสมัยไปสร้างวัดโคกใหญ่
#กุฏิหลังแรก
#กุฏิหลวงตา

 

"ถ้าไม่อยากมีลูก มีลูกแล้ววุ่นวายมีลูกแล้วทุกข์ ก็มาบวช มาบวชก็จะไม่มีลูก มีแต่ลูกศิษย์ ขนาดมีแค่ลูกศิษย์ก็ยังวุ่นวายเลยเห็นไหม"
หลวงตาว่าแล้วท่านก็ยิ้ม ....
.
...ช่างชิตบ่นกับหลวงตาเรื่องการมีครอบครัว
.
#ภาพหลวงตากับเด็กๆน่ารักๆครับ

 

....สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกท่าน วันนี้ช่างชิตไม่เขียนอะไรมากยังอินกับบอลทีมชาติไทยอยู่ 5555++.
.
....เลยเอารูปน่ารักๆมาฝากพี่ๆน้องๆกันครับเป็นรูปหลานสาวช่างชิตเอง ลูกน้องชายครับ
.
รูปที่1 เป็นรูปวันที่ครอบครัวพาไปให้หลวงตาตั้งชื่อให้ เพื่อความเป็นสิริมงคล
รูปที่2 ล่าสุดเมื่อเช้า ครบ 6 เดือน พาไปให้หลวงตาเป่าหัวให้ครับ
.
....เรื่องราวดีๆยังมีอีกเยอะครับ ช่างชิตเขียนเก็บเอาไว้พอสมควร. แต่พอดีช่วงนี้งานยุ่งๆเลยไม่ได้เอามาลงปะติดปะต่อกัน ยังไงพรุ่งนี้ติดตาม เรื่อง "แรงสัจจะอธิฐานตอน2" กันต่อนะครับ อย่าพลาดกันเชียว!!!

 

น้องชายนายช่างมีลูกแซงหน้าไปแล้ว แล้วเมื่อไหร่นายช่างจะมีบ้าง หรือว่ายังหาแม่พันธุ์ยังไม่ได้
ถ้าอย่างไรก็กลับมาบวชใหม่อยู่กับหลวงตาอีกครั้ง สืบสานเจตนาปฏิปทาหลวงตาเป็นศิษย์รุ่นต่อๆไป
เพื่อตัดภพชาติจบกิจในพระพุทธศาสนาโดยไว

 

555555++ เดี้ยวดูไปเรื่อยๆครับพระอาจารย์

 

บทความของสหายฌานครับเอามาฝากกัน
.
เมื่อวันศุกร์ไปกราบหลวงตา เจอน้องชายและคุณแม่ลูกศิษย์หลวงตา สวมแหวนแสงแวววาวเข้าตาเลยขออนุญาตเชยชม และถ่ายรูปมาฝากให้สมาชิกในกลุ่มเราดูกันหน่อย เผื่อไปเจอที่ไหนจะได้ไม่ปล่อยผ่านนะครับ อิอิ แต่ว่าสองวงนี้คุณแม่และน้องเค้าเอาไปเลี่ยมทองหุ้มตัวแหวนสวยงามครับ....ว่าแต่รุ่นนี้ผมก็ลืมถามหลวงตาว่าแจกปีไหนครับ..รบกวนแอ๊ดใหญ่หรือผู้รู้ด้วยครับ

 

..."ถ้าสอนผิด คนรู้ก็จะรู้ผิดๆ แล้วก็จะทำผิดๆต่อๆไป เหมือนองคุลิมาลเชื่ออาจารย์ที่สอนผิด บอกว่าฆ่าคนครบ1000คนจะสอนสุดยอดวิชาให้ คนเชื่อก็เชื่อแบบผิดๆจึงได้ไล่ฆ่าคนแบบนั้น"
.
...หลวงตาสอนช่างชิตเกี่ยวกับปัจจุบันมีหลายที่หลายสำนักสอนผิดแปลกแต่งเติมออกนอกลู่นอกทางจากแนวทางของพระพุทธเจ้า
.
#หลวงตาที่วัดภูทอกปี252กว่าๆ

 

...สวัสดีครับพี่ๆน้องๆ ติดกันไว้สองวันก่อนวันนี้ช่างชิตนำมาเล่าสู่กันฟังพร้อมภาพเก่าหาชมยากแล้วนะครับ เป็นเรื่องที่หลวงตาเล่าให้ช่างชิตฟัง เกี่ยวกับ "แรงสัจจะอธิษฐาน" เรื่องราวจะเป็นยังไง ติดตามกันเลย
..............
"แรงสัจจะอธิษฐานตอน2"
.
.....”มีครั้งหนึ่งตอนหลวงปู่ไม่สบายมาพักที่โรงพยาบาล(ในกรุงเทพประมาณปี2520 หรือเปล่าช่างชิตจำไม่ได้) ท่านไอตลอดกินยาอะไรก็ไม่หาย โยมหมอที่ดูแลเอายาอะไรให้กินก็ไม่หาย วันหนึ่งโยมหมอก็มายืนพนมมือปลายเตียงหลวงปู่ ในมือก็ถือขวดยาด้วย"
" ซักพักโยมหมอก็เอายาในขวดมาให้หลวงปู่กิน ปรากฏว่าจากที่ไอๆทุกวัน หลวงปู่หายเลย หลวงตาก็ถามเขาว่า "นั้นยาอะไร"?? เขาก็ไม่บอก บอกแต่ว่า "เขาอธิฐานขอให้ความตั้งใจที่เขาจะรักษาหลวงปู่ขอให้หลวงปู่หายจากอาการไอด้วยเถอะ" ก่อนจะเอาให้หลวงปู่กิน"
"หลวงตามารู้ตอนหลังว่า ยาที่ให้หลวงปู่กินมันก็ยาตัวเดิมนั้นละที่กินๆอยู่ แต่คราวนี้คุณหมอเขาอธิฐานไปด้วย หลวงปู่ก็หายจริงๆ นั้นเห็นไหมพลังแห่งการอธิฐาน”
.
#รูปถ่ายหมู่สุดคลาสสิกที่วัดสมัยนั้นหลวงตาน่าจะเป็นเณรด้วยซ้ำ (ผิดพลาดขออภัย)
#ใครจำหลวงตาได้บ้างครับว่าท่านนั่งอยู่ตรงไหน

 

เย็นพรุ่งนี้ (พฤหัสฯที่ ๘ กันยายน ๕๙)
ขอเชิญทุกท่านร่วมสวดมนต์ และฟังการแสดงธรรม
โดย พระครูเมตตากิตติคุณ (หลวงพ่อสมหมาย อตฺตมโน) วัดป่าสันติกาวาส จ.อุดรธานี ในวันพฤหัสฯที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๙ เวลา ๑๘.๐๐-๒๐.๐๐ น.
ณ ห้องพระชั้น ๓ มูลนิธิบ้านอารีย์ ซ.อารีย์ ๑ ใกล้ BTS อารีย์
ชมถ่ายทอดสดการแสดงธรรม ได้ที่
LIVE STREAMING [Baanaree]

 

....สวัสดีครับพี่ๆน้องๆทุกท่าน. วันนี้เลิกงานเหนื่อยๆมานั่งอ่านบทความที่เคยเขียนไว้ตอนกราบเรียนถามหลวงตาในปัญหาต่างๆ อ่านแล้วก็อยากนำมาฝากพี่น้องให้ได้อ่านกันอีก (เพราะไปค้นหาในกระทู้คงไม่เจอละ)
.
.....บทความใหม่ๆก็มีอีกเยอะ บทความเก่าๆก็น่าสนใจ เอาเป็นว่าช่างชิตจะเอาสลับมาให้พี่ๆน้องๆได้อ่านกันนะครับ แซมกับข่าวสารและบอกบุญเล่าวัตถุมงคลกันไป แต่บทความเก่าๆ ของช่างชิตจะ "เน้น ชัด จัดจริง"
.
.....คนไทยยุคนี้ดัน "ดราม่าง่ายเกิน" เลยขอตัดต่อบทความบางส่วนออกและสงวนนามบุคคลที่สามไว้นะครับ ให้เราโฟกัสไปที่ประโยชน์ที่จะได้จากบทความพอ เรื่องนี้เขียนมาหลายปีแล้ว เป็นคำถามคาใจช่างชิตตอนนั้น เลยกราบเรียนถามท่านไป จะเป็นยังไงติดตามกันเลยครับ
........................................
"นรก สวรรค์"
.
ชช "หลวงตาครับ ออยไปอ่านประวัติ...........ไม่เห็นท่านสอนเรื่อง นรก สวรรค์ ผีสาง เทวดา เลยละครับ"
.
ลต "ท่านไม่สอนไม่ใช่ท่านปฎิเสธไม่ใช่หรอ พระพุทธเจ้าท่านเองก็บอกว่ามี"
.
ชช "แต่บางบทความที่ออยอ่าน เขาว่าท่านปฏิเสธเลยนะครับหลวงตา ท่านเขียนในหนังสือของท่านประมาณว่า พระพุทธเจ้าก็แค่เอออาตามความเชื่อเดิมของพวกพราหมณ์เฉยๆเพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยากในการสอนธรรมะครับ"
.
........ทันใดนั้นเองหลวงตาก็พูดตัดบทออกมาด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปแบบชัดเจนและเน้นมากขึ้น
.
ลต "ไม่ใช่แล้ว วางตำราให้หมด แม้พระไตรปิฏกก็ต้องวางนะ แล้วปฏิบัติเองจะได้รู้เองเห็นเอง อยากรู้จริงๆต้องปฏิบัติเอง พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านก็อยากรู้ว่ามีจริงไหม ท่านก็ปฏิบัติเอง ปฏิบัติจริงๆจังๆจน รู้เอง เห็นเอง แล้วท่านเมตตามาบอกมาสอนพวกเรา"
" ออยว่าครูบาอาจารย์ท่านมาโกหกไหมละ ใครที่ไม่ได้ลองปฏิบัติ แล้วบอกว่า นรก สวรรค์ ไม่มีจริง ก็ต้องบอกว่า "ไม่ถูกต้อง เห็นผิด" เหมือนมีคนบอกว่า "บาปมีแต่บุญไม่มี" ของมันมีมันคู่กันจะให้มีหนึ่งและไม่มีอีกหนึ่งได้ไง ของแบบนี้มันรู้ได้เฉพาะตน ไม่มีใครนำพาไปไม่ได้ เราต้องทำเอง"
หลวงตาอธิบายด้วยสีหน้าที่จริงจังน่าดู
.
ชช "ครับๆ สรุป คือ มีใช่ไหมครับ หลวงตา" ช่างชิตหน้าด้านถามอีก
.
ลต "ก็ปฏิบัติตามที่หลวงตาสอนๆมาสิ แล้วจะรู้ ไม่ต้องไปถามใคร" คราวนี้หลวงตาพูดแล้วยิ้มแบบ ประมาณว่า หึหึ กล้าไหมละ
.
ชช "ครับๆ มีแน่นอนครับ 555555"
ช่างชิตหายสงสัยละ
...........
*(โปรดติดตามบทความย้อนยุคครั้งต่อไป)
.
#ภาพเก่าหลวงตาถ่ายที่ศาลา

 

....วันนี้มีเรื่องจะทำการชี้แจ้งพี่น้องๆที่เคารพรักหลวงตาทุกๆท่านทุกกลุ่มทุกที่นะครับ เนื่องจากวันสองวันก่อนมี เพจในเฟสเพจหนึ่งได้กล่าวพาดพิงว่า "กระทู้ช่างชิตที่เขียนในโลกโซเชียลขายพระหลวงตากิน" เพราะแอดมินเพจไปครอปภาพหน้าเวปไซด์มา เรื่องของเรื่องเขาจะเอาภาพพวกลงขายพระมาเขียนด่าเรื่อง "คนที่หากินขายพระกับพวกพระเกจิอาจารย์" แต่คงถึงคราว"ซวย" กระทู้ที่ช่างชิตเขียนดันเป็น "กระทู้นิยมคนอ่านมาก" มันจึงไปโชว์ในหน้าแนะนำของเวปไซด์ เลยติดภาพมาด้วย
.
.....พอแอดมินเอามาลง ก็มีลูกศิษย์ที่รักและเคารพหลวงตาเข้าไปต่อว่าแอดมินเพจว่า "หลวงตาไม่ได้เป็นพระแบบเกจิอาจารย์อะไรแบบนั้น" ในระหว่างนั้น ก็มีกัลยาณมิตรอินบ็อกมาบอกช่างชิตว่าโดนพาดพิงอยู่ ช่างชิตจึงรีบเข้าไปดู
.
.....พอเข้าไปดูเสร็จ ตอนแรกก็จะเฉยๆไม่โต้ตอบ เพราะเนื้อหาในกระทู้ของช่างชิตไม่เคยทำอะไรแบบนั้น ปรากฏว่าอยู่ดีๆแอดมินเพจดันไปเอา "ภาพรูปหล่อหลวงตา" ที่เปิดขายในเวปไซด์อื่นมาบอกว่า "เจอข้อมูลแบบนี้ในกระทู้ช่างชิต!!!!" ช่างชิตก็คิดเลยว่า "ไม่ใช่ละ" มันเป็นการใส่ร้ายชัดๆ ถ้าไม่รีบไปชี้แจ้งจะมีปัญหาตามมาแน่ๆ เพราะคนไทยสมัยนี้ "อ่านน้อยและไม่ค่อยคิดพิจารณาอะไร" ข้อมูลจริงข้อมูลลวงไม่สนใจ ขอให้ "ถูกใจตัวเอง" เชื่อไปก่อน ด่าก่อนทันที
.
....ช่างชิตจึงสงบสติอารมณ์แล้วเข้าไปชี้แจงอย่างสุภาพ(*ตามภาพประกอบ) ไปชี้แจงทุกประเด็นอย่าง"ผู้มีวุฒิภาวะ" ควรทำ ตรองแล้วตรองอีกและมั่นใจในข้อมูลและ "ความจริง" ก็หวังว่าแอดมินเพจนั้นจะรับฟังและหยุดการโพสในข้อมูลเท็จ
.
....ในใจตอนนั้นก็นึกว่า "เออ ใครไม่ชอบเรา ใครไม่รู้จักเรา ใครเกลียดเรา ปล่อยไป แต่เรารู้ตัวเราดี หลวงตาก็รู้ทุกอย่าง เพราะเราไม่เคยโกหกท่าน พูดบอกหลวงตาทุกเรื่อง ฟ้ามีตา ศิษย์มีครูบาอาจารย์ ขอให้ปัญหาพวกนี้จบลงด้วยดี" ก็ได้แต่นึกก่อนจะชี้แจง ซึ่งจริงๆตอนนึกนิไม่ได้ใช่คำว่า "เรา" แทนตัวช่างชิตนะครับ มัน"เพราะ"เกินไปกับการนึกถึงตัวเอง
.
.... ปรากฏว่าชี้แจงไปแล้ว เหมือนว่า"บารมีครูบาอาจารย์ยังคุ้มหัวอยู่"
แอดมินเขาก็ "เปิดใจ" รับฟัง เข้าใจ "รู้จักแยกแยะ" ยังมีเหตุมีผลอยุ่ ก็คุยกันรู้เรื่องก็ตกลงว่าจะลบโพสออก (*ตามภาพประกอบเลยครับ)
.
.....แต่..ช่างชิตนึกแล้วว่ามันจะไม่จบเพราะ "คนไทยชอบดราม่า" จึงตัดสินใจเซฟภาพที่คุยกับแอดมินเพจนั้นไว้เป็น"หลักฐาน" เดี้ยววันหนึ่งจะต้องมีคนเอาประเด็นนี้ไปพูดแน่ๆ ฉะนั้น ก็ขอชี้แจงก่อนเลยนะครับ "ก่อนที่จะมีคนเอาไปพูดต่อเสียๆหายๆที่สำคัญไม่ใช่ความจริงด้วย"
.
.....คือ อยากเปิดใจหน่อยนะครับ ช่างชิตเป็นลูกศิษย์หลวงตามา 14 ปี บวชกับท่านมา 2 ครั้ง แต่ก่อนเมาเข้าวัดประจำ กิน เที่ยว เล่น เอาหมด แต่กลับตัวกลับใจได้ก็เพราะ หลวงตา กินไม่ได้ขี้ไม่ออก แม้กระทั้งอกหักก็ยังมา กราบคุยกับหลวงตา จะบอกว่ารักท่านมากแค่ไหน ถ้ามีมิเตอร์มาวัดได้จะวัดจนมิเตอร์พังคามือให้ดู ช่างชิตนับถือหลวงตาเหมือน "พ่อ" ไม่มีลูกที่"ไม่เลวมาก"คนไหนมา "ขายพ่อตัวเองกินหรอกครับ" ที่บอกว่า "ไม่เลวมาก" เพราะไม่กล้าบอกว่าตัวเองดีมัน "อายปาก"
.
.....ขอชี้แจงเพียงเท่านี้ หลายๆท่านที่รู้จักช่างชิตและไม่รู้จักก็ตามแต่ อ่านแล้วจะเชื่อก็ดีไม่เชื่อก็ดี ไม่เป็นไรครับ สงสัยว่าโกหกตอแหลไม่ต้องเชื่อ ลองเข้าไปอ่านในกระทู้เอง หรือมีอะไรติดใจ อยากรู้ความจริงไม่ต้องไปถามคนอื่น คนชอบก็จะบอกอีกอย่าง คนเกลียดก็จะบอกอีกอย่าง ไม่มีใครมารู้ดีเท่าช่างชิตหรอกครับ ถามช่างชิตได้เลย ขอบพระคุณครับที่สละเวลาอ่านและไตร่ตรองจนจบ

 

......เคยถามหลวงตาเรื่องคนที่นั่งสมาธิแล้วเห็นนั้นเห็นนี่
.
ชช " เห็นหลวงปู่ดู่วัดสะแกบอกว่า "ถ้าอยากรู้ว่าสิ่งที่เห็นนั้นเป็นของจริงไหม(พวกกายละเอียดกายทิพย์)ให้ลองดูเงินในกระเป๋าเพื่อนเรา(สมมุติเพื่อนอยู่ใกล้ๆ)"
"ถ้าเราเห็นจริงทายจำนวนเงินถูก แสดงว่าที่เราเห็น ไปนู้นไปนี่ก็เป็นจริง แต่ถ้าเราแค่ทายเงินในกระเป๋าเงินเพื่อนไม่ถูก แสดงว่า เราจินตนาการเอาเอง เพราะท่านว่า แค่ของหยาบยังไม่เห็นจริง นับประสาอะไรกับของละเอียด ผีสาง เทวดา นรก สวรรค์ จะเห็นได้" ท่านว่างั้นอะครับ"
.
ลต "ก็ถูกของท่านว่า..."
.
...กระจ่างนะครับ

 

....วันนี้มากราบหลวงตา 2 ครั้ง
เช้า มีคณะพระอาจารย์กาญจน์ วัดป่าเชตวัน พระอุปัฏฐากหลวงปู่เนยกับญาติโยม มากราบขอข้อวัตรกับหลวงตา
เย็น หลวงตาพาทำวัตรเย็น.
....ใกล้บุญกฐินวัดหลวงตาแล้ว พี่ๆน้องๆที่อยากร่วมบุญ สามารถร่วมบุญกับทางวัดได้โดยตรง แต่ถ้าอยากให้ช่างชิตเป็นสะพานบุญให้ เดี้ยวช่างชิตขอคุยรายละเอียดกับหลวงตาก่อน แล้วจะแจ้งนะครับ แต่บอกก่อนเลยว่า พี่ๆน้องๆที่จะร่วมบุญในกลุ่มเราช่างชิตมี"พิเศษๆ" แน่นอน
.....เอาภาพวันนี้มาฝากทุกท่าน. สาธุครับ

 

...."สมัยพุทธกาล ชาวบ้านอดอยากขาดแคลน ไม่มีอยู่มีกิน พระโมคัลลานะ ท่านก็สงสาร ท่านเลยจะใช้อิทธิฤทธิ์พลิกแผ่นดิน ให้เกิด*ง้วนดินขึ้นอีกครั้ง คนจะได้ไม่อดไม่อยาก"
"แต่พระพุทธเจ้าท่านห้ามไว้ ท่านตรัลว่า "ดูก่อนโมคัลลานะ ความอดอยากของสรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนเกิดมาจากกรรมของตัวเขาเอง จงปล่อยให้เป็นไปตามกฏแห่งกรรมของเขาเถอะ" นั้นละ แม้กระทั้งพระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ฝืนกฏแห่งกรรม"
.
......หลวงตากล่าวเสร็จก็หันมายิ้มให้ช่างชิต ที่กำลังเช็ดเท้าให้ท่านตอนสรงน้ำท่านเสร็จ
.
...*ง้วนดิน. = ตามในพระไตรปิฏก เมื่อเกิดการล้างภพภูมิทั้งหมดสิ้น เหลือแต่ ชั้นพรหมบางชั้น ชั้นไหนบ้างจำไม่ได้ จนเมื่อเริ่มภพภูมิขึ้นมาใหม่ ง้วนดินเป็นพืชสมัยโลกก่อตัวขึ้น งอกมาแล้วกินได้เลย อิ่มอร่อย จนพรหมที่อยู่บนชั้นที่เหลืออยู่ลงมากิน กินแล้วก็ชอบ อร่อยติดใจ และก็เป็นต้นกำเนิดกิเลสและวัฏจักรสงสารทั้งหมด ประมาณนั้นนะ ช่างชิตจำไม่ค่อยได้ ผิดตรงไหนก็ขออภัย 5555++. ที่เหลือไปหาข้อมูลเอานะครับ