ติดตามสถานะการณ์

ปอกเปลือก ทรราช
ใกล้แล้ว! ยูเครนจัดซ้อมรบด้วยขีปนาวุธใกล้ชายแดนไครเมีย กองเรือรบของรัสเซียในทะเลดำประจำตำแหน่งทางตะวันตกของไครเมีย
------------

วันที่ 1 ธ.ค.59 TASS ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "ยูเครนเริ่มซ้อมรบด้วยขีปนาวุธใกล้ชายแดนไครเมีย" (Ukraine begins exercises with missile tests close to border with Crimea)

พล.อ.อ. Vladimir Kryzhanovsky แม่ทัพกองทัพอากาศภาคใต้ของยูเครนกล่าวว่า "การซ้อมรบด้วยขีปนาวุธกำลังดำเนินการไปตามแผนงาน การซ้อมรบในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศและด้วยการสังเกตการณ์และกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด กรุงเคียฟไม่ได้รับปฏิกิริยาตอบสนองใดๆจากรัสเซีย คาดว่าจะมีการตอบโต้ใดๆจากรัฐบาลกลางของรัสเซีย... ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น"

รายงานข่าวบอกว่า ก่อนหน้านี้องค์การขนส่งทางอากาศของรัสเซีย (Russian Federal Air Transport Agency) ได้รายงานว่ายูเครนได้ตัดสินใจแต่เพียงฝ่ายเดียวในการทดลองขีปนาวุธระหว่างวันที่ 1-2 ธันวาคม ในน่านฟ้าที่เป็นอธิปไตยของรัสเซียใกล้ไครเมีย ซึ่งเป็นเส้นทางการบินของอากาศยานทั้งของพลเรือนและของรัฐ

พล.อ.อ. Vladimir Kryzhanovsky กล่าวอีกว่า ขีปนาวุธจะอยู่ใกล้กับน่านฟ้าของไครเมียเพียงแค่ 30 กิโลเมตรเท่านั้น RT รายงาน

วันเดียวกันนี้ Sputnik พาดหัวข่าวว่า "ยูเครนเริ่มยิงขีปนาวุธในภาคใต้ของประเทศ"​ (Ukraine Starts Missile Launches in Country's South)

Sputnik รายงานว่า กองเรือประจำทะเลดำของรัสเซีย (Russian Black Sea Fleet) ได้เข้าประจำตำแหน่งตามแนวชายฝั่งของไครเมียเพื่อปกป้องน่านฟ้าในภูมิภาค ในช่วงที่ยูเครนกำลังจัดซ้อมรบด้วยขีปนาวุธเป็นเวลาสองวันนี้ แหล่งข่าวไม่ประสงค์ออกนามในไครเมียกล่าวกับสำนักข่าว RIA Novosti

"เรือรบของกองเรือทะเลดำ ได้เข้าร่วมกับระบบป้องกันภัยทางอากาศของมณฑลทหารภาคใต้ เข้าประจำตำแหน่งนอกชายฝั่งทางตะวันตกของไครเมีย ระหว่างที่มีการซ้อมยิงขีปนาวุธของยูเครนตามกำหนดการ 1-2 ธันวาคมนี้" แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ลูกเรือระบบป้องกันภัยทางอากาศได้เข้าประจำหน้าที่สู้รบระดับสูง และปฏิเสธว่าเรือรบเหล่านั้นอาจจะอยู่ในระดับการเตือนให้ตอบโต้ฉับพลัน (hair-trigger alert)

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วองค์การขนส่งทางอากาศของรัสเซีย (Rosaviatsia) ได้กล่าวว่าการตัดสินใจแต่เพียงฝ่ายเดียวในการจัดซ้อมรบด้วยขีปนาวุธของยูเครนใกล้ Simferopol เป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ

เมื่อวันพุธนี้ กระทรวงคมนาคมของรัสเซียได้กล่าวว่า องค์การการบินของรัสเซียได้แจ้งให้องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization) ทราบถึงคำเตือนของยูเครนในการออกข้อจำกัดครั้งใหม่สำหรับการบินเหนือทะเลดำใกล้ไครเมีย

ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงคมนาคมของรัสเซียบอกว่า รัสเซียยังไม่ได้รับปฏิกิริยาใดๆจากยูเครนเกี่ยวกับหนังสือแจ้งถึงการปล่อยขีปนาวุธในน่านฟ้าใกล้ไครเมีย

[ครั้งที่แล้ว จากความขัดแย้งภายในของยูเครนที่เชื่ออียูและสหรัฐในการโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีวิกเตอร์ ยานูโควิช (Viktor Yanukovych) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557 โดยอ้างเหตุผลว่าต้องการจะให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกของสภาพยุโรป จนนำไปสู่จลาจลและการเผาบ้านเผาเมือง และสงครามกลางเมืองที่แคว้นลูฮานส์กและโดเน็ทส์กในยูเครนตะวันออก จนป่านนี้ยูเครนก็ยังไม่ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของอียู

ผลที่ตามมาก็คือยูเครนเสียไครเมียให้กับรัสเซียด้วยไม่ต้องสู้รบ และแคว้นลูฮานส์กและโดเน็ทส์กก็กำหนดเขตปกครองตนเองออกจากรัฐบาลกลางของยูเครนด้วยการสนับสนุนจากรัสเซีย โดยสรุป ยูเครนได้สูญเสียพื้นที่ 3 จังหวัดให้กับรัสเซียไปแล้ว และเกิดความบาดหมางระหว่างยูเครนกับรัสเซียอย่างหนัก เพียงเพราะหลงเชื่อขี้ปากของพวกนักล่าอาณานิคมตะวันตกนำโดยสหรัฐและอียูในการดำเนินนโยบายต่อต้านรัสเซีย

ณ วันนี้ยูเครนยังไม่สำนึก ยังพยายามโยนความผิดทั้งหมดให้รัสเซีย หากเกิดการสู้รบหรือสงครามในภูมิภาคทะเลดำขึ้นมาอีกระหว่างยูเครนกับรัสเซีย คาดว่ายูเครนอาจจะเสียดินแดนให้กับรัสเซียเพิ่มอีกแน่นอน และที่รัสเซียกำลังหมายตาไว้ก็น่าจะเป็นภูมิภาคหรือแคว้น Odessa ซึ่งอยู่ติดทะเลดำ เป็นเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เมืองหนึ่งของยูเครน และเพื่อเป็นการเปิดทางให้กับเขตปกครองตนเองทรานส์นิสเทรีย (Transnistria) ซึ่งอยู่ระหว่างมอลโดวาและยูเครน ไม่มีพื้นที่ติดทะเล ซึ่งจะสะดวกต่อการจัดส่งการสนับสนุนต่างๆเข้าไปในทรานส์นิสเทรียได้โดยง่าย

และถ้ารัสเซียสามารถยึดดินแดนที่อยู่ติดทะเลดำทั้งหมดของยูเครนได้ งานนี้ยูเครนก็จบเห่ สหรัฐ อียู และนาโต้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ โง่เองที่ไปหลงเชื่อคำยุยงของสหรัฐและอียูให้เป็นปฏิปักษ์กับรัสเซีย เป็นมิตรกันดีๆไม่ชอบ - ผู้แปล]

ล่าสุดนาย Dmitry Peskov โฆษกทำเนียบเครมลินกล่าวว่ารัสเซียอาจจะยิงขีปนาวุธของยูเครนให้ตกก็ได้ ในกรณีที่ขีปนาวุธเหล่านั้นเป็นภัยคุกคาม Sputinik รายงาน

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
01/12/2559
------------
https://sputniknews.com/military/201612011048038307-ukraine-missile-launch/
https://www.rt.com/news/368780-ukraine-missiles-drills-crimea/
TASS: World - Ukraine begins exercises with missile tests close to border with Crimea
https://sputniknews.com/military/201612011048040174-russia-ukraine-crimea-drills/

 

ปอกเปลือก ทรราช
ในขณะที่กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรโดยการสนับสนุนของรัสเซียกำลังมีชัยชนะเหนือพวกผู้ก่อการร้ายในอะเลปโปตะวันออกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พวกลูกพี่ผู้ก่อการร้ายก็ออกมาเล่นละครกล่าวหารัสเซีย ล่าสุดรมว.ต่างประเทศของเยอรมันกล่าวหารัสเซียว่าก่ออาชญากรรมสงครามในซีเรีย เรียกร้องให้มีการแซงชั่นรัสเซียกรณีกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและรัสเซียได้รับชัยชนะเหนือพวกผู้ก่อการร้ายและพวกกบฏในอะเลปโปตะวันออกและได้ให้ความช่วยเหลืิอประชาชนชาวซีเรียได้เป็นจำนวนมาก และรัสเซียยังส่งโรงพยาบาลสนามจากรัสเซียเข้าไปในพื้นที่ด้วย รัสเซียรับผู้อพยพชาวซีเรียจากอะเลปโปตะวันออกไปดูแลชั่วคราวที่ฐานทัพอากาศของรัสเซียในจังหวัดลาตะเกีย นับว่าเป็นยุคที่การเมืองของพวกตะวันตกเล่นสกปรกและตกต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมา (29 พ.ย.59)
-------------
[ame]https://youtu.be/hrsmhFruHgE[/ame]
.

 

ปอกเปลือก ทรราช
สื่อฯเยอรมันเปิดเผย มีเครือข่ายของพวกสมาชิกไอซิสแฝงตัวอยู่ในหน่วยข่าวกรองของเยอรมัน กรรม! ก่อนหน้านี้ก็พบว่ามีพวกไอซิสเข้าไปร่วมฝึกอยู่ในกองทัพเยอรมัน วันนี้พบว่ามีอยู่ในหน่วยข่าวกรองด้วย เยอรมันนี่ชักจะล้ำหน้าสหรัฐเกินไปหรือเปล่านิ? (30 พ.ย.59)
-------------
[ame]https://youtu.be/Hv9riIzagZM[/ame]
.

 

ปอกเปลือก ทรราช
ทหารรัสเซียและซีเรียกำลังให้ความช่วยเหลือประชาชนชาวซีเรียที่ได้รับการปลดปล่อยจากพวกผู้ก่อการร้ายและพวกบฏนักฆ่าตัดหัวในอำเภอ Hanano ของอะเลปโปตะวันออก ไหนหละทหารอเมริกันและนาโต้? (1 ธ.ค.59)
---------------
[ame]https://youtu.be/L4JaZ38Cv4o[/ame]
.

 

ปอกเปลือก ทรราช
อัพเดทสถานการณ์การสู้รบในอะเลปโปตะวันออก พวกผู้ก่อการร้ายและพวกกบฏซีเรียกำลังถูกปิดล้อมและถูกโจมตีอย่างหนัก ใกล้แตกแล้ว ส่วนพวกอียูลูกพี่ใหญ่ของพวกไอซิสก็ออกมาเรียกร้องให้มีการประชุมเร่งด่วนที่ UNSC อ้างเรื่องการให้ความช่วยเหลือด้านมุษยธรรม (แก่พวกผู้ก่อการร้ายมั๊ง เพราะว่ารัสเซียและกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนชาวซีเรียไปแล้ว และกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้อย่างต่อเนื่องด้วย) ส่วนนายจอห์น แคร์รี่ สงสัยเมาควันกัญชาของโอบามาอย่างหนัก จึงออกมาแสดงความคิดเห็นด้วยการตั้งข้อสงสัยว่าจะมีหนทางที่ปลอดภัยในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในอะเลปโปหรือไม่? ไร้สาระน่าแคร์รี่ แหกตาดูความเป็นจริงๆซะบ้าง อย่าไปอ่านจาก CNN และ BBC มาก หัดอ่านข่าวทางเลือกบ้างหูตาจะได้สว่างมากขึ้นนะครัชชชชช รัสเซียจวกกลับทันทีว่า ยูเอ็นกับสหรัฐนั่นแหละที่ล้มเหลวในการให้ความช่วยเหลือประชาชนชาวซีเรียที่ประสบภัยสงครามในอะเลปโปตะวันออกจำนวน 90,000 กว่าคน คนเหล่านี้ฝ่ายรัฐบาลซีเรียและรัสเซียช่วยเหลือเอาไว้ได้ (30 พ.ย.59)
-------------
[ame]https://youtu.be/dJ0v3CAxf4k[/ame]
https://sputniknews.com/middleeast/201612011048035494-usa-doubts-aleppo-aid-delivery/
https://sputniknews.com/world/201611301047993872-unsc-aleppo-emergency-meeting/
https://sputniknews.com/middleeast/201611301047993757-aleppo-aid-un-us-ministry/

 

ปอกเปลือก ทรราช
คลิปตอนที่พวกผู้ก่อการร้าย (/พวกกบฏฝ่ายค้านซีเรีย) ลูกกระเป๋งของสหรัฐและอียูส่งมอบยานเกราะต่อต้านอากาศยานสองคันคืนให้กองทัพซีเรียก่อนย้ายออกจากพื้นที่อะเลปโปตะวันออกอย่างมีชีวิต (30 พ.ย.59)
--------------
[ame]https://youtu.be/vLsgR2Djikk[/ame]
.

 

ปอกเปลือก ทรราช
กองทัพซีเรียและรัสเซียให้ความช่วยเหลือประชาชนชาวซีเรียโดยย้ายไปอยู่ในที่ปลอดภัยจากพื้นที่สู้รบในอะเลปโปตะวันออกหลังจากที่กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียสามารถขับไล่พวกผู้ก่อการร้ายและพวกกบฏนักฆ่าตัดคอให้ออกไปจากพื้นที่ได้แล้ว แต่เยอรมันและสหรัฐกลับเรียกร้องให้มีการแซงชั่นรัสเซียว่าแทรกแซงอะเลปโป (29 พ.ย.59)
---------------
[ame]https://youtu.be/8ydYnZ6ETdY[/ame]
.

 

ญี่ปุ่นกระอัก! ค่าใช้จ่ายในการกำจัดรังสี “ฟูกูชิมะ” พุ่ง 2 เท่า แตะ 6.4 ล้านล้านบาท!
เผยแพร่: 1 ธ.ค. 2559 14:42:00 ปรับปรุง: 1 ธ.ค. 2559 14:55:00 โดย: MGR Online

เอเอฟพี - ค่าใช้จ่ายในการจัดการปัญหานิวเคลียร์รั่วไหลที่ฟูกูชิมะเมื่อปี 2011 อาจพุ่งทะยานไปถึง 180,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.4 ล้านล้านบาท) ซึ่งสะท้อนถึงภาระค่าใช้จ่ายมหาศาลที่รัฐบาลญี่ปุ่นต้องแบกรับเพื่อยุติวิกฤตนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ที่สุดของโลก ถัดจากเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลระเบิดเมื่อ 30 ปีก่อน

วันนี้ (1 ธ.ค.) สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคได้เผยแพร่ข้อมูลจากแหล่งข่าวในรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 20 ล้านล้านเยน หรือมากกว่านั้น ในการจัดการวิกฤตฟูกูชิมะ โดยตัวเลขนี้รวมเงินชดเชย ค่าปลดพนักงาน และค่าใช้จ่ายในการกำจัดรังสีปนเปื้อน

ตัวเลขที่เอ็นเอชเครายงานเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากที่เคยมีการประเมินกันไว้เพียง 11 ล้านล้านเยน เมื่อ 3 ปีก่อน

เจ้าหน้าที่กระทรวงเศรษฐกิจ พาณิชย์ และอุตสาหกรรมซึ่งกำกับดูแลด้านนิวเคลียร์ ยังปฏิเสธที่จะยืนยันรายงานชิ้นนี้ แต่ยอมรับว่ารัฐบาลกำลังประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ ขณะที่ทีมผู้เชี่ยวชาญก็กำลังหารือว่าจะดึงบริษัท โตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ โค (TEPCO) ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงไฟฟ้า และองค์กรอื่นๆ เข้ามาร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายได้อย่างไรบ้าง

“การหารือคงจะดำเนินไปจนถึงปีหน้า” เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเผย

แผ่นดินไหวใต้ทะเลขนาด 9.0 เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ปี 2011 ได้ก่อคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ซัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายไม่ต่ำกว่า 18,500 คน และยังทำให้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 3 หน่วยที่โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะเกิดการหลอมละลาย

เหตุการณ์นี้ถือเป็นภัยพิบัติร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นกับญี่ปุ่นในยุคหลังสงคราม และยังเป็นวิกฤตนิวเคลียร์ที่เลวร้ายที่สุดของโลก ถัดจากเหตุโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลระเบิดเมื่อปี 1986

ค่าใช้จ่ายในการปิดโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะซึ่งทางเท็ปโกจะต้องรับผิดชอบเอง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าจากตัวเลข 8 ล้านล้านเยนที่เคยประเมินไว้เบื้องต้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการปลดพนักงานและเงินชดเชยอื่นๆ ก็คาดว่าจะพุ่งขึ้นอีกหลายล้านล้านเยนเช่นกัน เอ็นเอชเคระบุ

เท็ปโก ต้องแบกรับภารกิจสำคัญในการเคลื่อนย้ายแท่งเชื้อเพลิงใช้แล้วออกจากเตาปฏิกรณ์ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดอาจใช้เวลาดำเนินการนานถึง 40 ปี

เท็ปโก ยังต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ชาวบ้านใกล้โรงไฟฟ้าที่ต้องละทิ้งบ้านเรือน โดยรัฐบาลจะช่วยอุดหนุนค่าใช้จ่ายบางส่วนในการกำจัดรังสี และสร้างสถานที่กักเก็บซากปรักหักพังที่ปนเปื้อนรังสี

Manager Online
.

 

“อัลจาซีรา” ฉาว!! จัดฉากแต่งหน้าเด็กหญิงชาวซีเรียกุข่าวเท็จ โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - 1 ธันวาคม 2016

alalam – ผู้ใช้ทวิตเตอร์ได้มีการแพร่ภาพการจัดฉากของช่างแต่งหน้าสำนักข่าวอัลจาซีรา ของประเทศกาตาร์ ที่กำลังแต่งหน้าเด็กหญิงชาวซีเรียเพื่อสร้างข่าวเท็จว่าเป็นฝีมือการทำร้ายของกองทัพซีเรีย

การเผยแพร่ภาพครั้งใหม่ล่าสุด กรณีที่มีการใช้ครีมตบแต่งบนใบหน้าเด็กหญิงชาวซีเรีย โดยช่างแต่งหน้าสำนักข่าวอัลจาซีรากาตาร์ เป็นเรื่องอื้อฉาวครั้งใหม่สำหรับสำนักข่าวอัลจาซีราที่ที่เป็นเครือข่ายรายใหญ่ที่ให้การสนับสนุนการก่อการร้าย

ในภาพมีการเผยแพร่ถึงขั้นตอนในการใช้ครีมแต่งหน้าเด็กหญิงชาวซีเรีย เพื่อให้สำนักข่าวอัลจาซีรา กาตาร์นำเสนอภาพข่าวเหยื่อเคราะห์ร้ายที่เป็นฝีมือของรัฐบาลและทหารซีเรีย

ในช่วงสามวันล่าสุดบรรดาผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์มีการแสดงปฏิกิริยาต่อการสร้างภาพดังกล่าวอย่างกว้างขวาง และถือว่าเป็นการการเต้าข่าวสื่อต่างๆ ที่ต่อต้านรัฐบาลซีเรียซึ่งสื่อเหล่านี้ได้รับเงินสนับสนุนจากชาเขา

เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่
บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากผู้เขียน

“อัลจาซีรา” ฉาว!! จัดฉากแต่งหน้าเด็กหญิงชาวซีเรียกุข่าวเท็จ | abnewstoday
.

 

ผู้เชี่ยวชาญด้านก่อการร้าย ชี้ เกาะมินดาเนาของฟิลิปปินส์จะเป็นศูนย์กลางไอซิสแห่งใหม่ในปี 2017 โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - 1 ธันวาคม 2016

alalam – นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญการก่อการร้ายเผยว่า เกาะมินดาเนา ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์จะเป็นศูนย์กลางการปกครองของไอซิสแห่งใหม่ในปี 2017 หลังจากที่พ่ายแพ้ในอิรักและซีเรีย !!!

Otsu Aihui นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญของสถาบันระหว่างประเทศ Jane กล่าววิเคราะห์กรณีการเคลื่อนไหวผู้ก่อการร้ายเมื่อวันพุธที่ 30 พฤศจิกายน ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่กลุ่มก่อการร้ายไอซิส จะประกาศจัดตั้ง “รัฐการปกครอง”ของตนในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ หลังจากที่พ่ายแพ้อย่างหนักในอิรักและซีเรีย

เขาย้ำกล่าวว่า ประชาชนจำนวนหนึ่งในประเทศฟิลิปปินส์ได้ให้คำมั่นว่าจะจงรักภักดีต่อกลุ่มก่อการร้ายไอซิส นำโดยกลุ่มก่อการร้ายอาบู ซายัฟ ( Sayyaf) เกาะมินดาเนา ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นหลักของกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวในการดำเนินการเคลื่อนไหว และมีค่ายฝึกอบรมและจะมีการวางแผนจากที่นั่นเพื่อทำการโจมตี
ความไม่มั่นสงบและการไร้ความสามารถของกองกำลังความมั่นคงและสถาบันของรัฐในการควบคุมเกาะมินดาเนานั้น มันเป็นโอกาสที่เหมาะสมและสถานที่ที่ดีที่สุดที่จะกลายเป็นรัฐการปกครองของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส

เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่
บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากผู้เขียน

ผู้เชี่ยวชาญด้านก่อการร้าย ชี้ เกาะมินดาเนาของฟิลิปปินส์จะเป็นศูนย์กลางไอซิสแห่งใหม่

 

สุดเหี้ยม!! กลุ่มก่อการร้ายในซีเรียสังหารชาวบ้านขณะหนีจากอาเลปโป เสียชีวิต-บาดเจ็บ 70 กว่าคน โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - 1 ธันวาคม 2016

Alalam – กลุ่มก่อการร้ายอันนุศราฟรอนด์ ได้ก่ออาชญากรรมครั้งใหม่ที่โหดเหี้ยมด้วยการยิงใส่ชาวบ้านขณะกำลังหนีออกจากเมืองอาเลปโปทำให้พลเรือนเสียชีวิตและบาดเจ็บ 70 กว่าคน เมื่อวันพุธที่ 30 พฤศจิกายน
กลุ่มก่อการร้ายฟัตฮุชาม (FSA) เดิมเป็นกลุ่มก่อการร้ายอันนุศราฟรอนด์ ได้สังหารหมู่พลเรือนซีเรียด้วยการยิงปืนครกใส่ชาวบ้านขณะกำลังหนีออกจากเมืองอาเลปโป

รายงานระบุว่า การก่ออาชญากรรมดังกล่าว ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 45 คน บาดเจ็บ 30 คน และที่เหลือถูกผู้ก่อการร้ายจับกุมตัว

เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่
บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากผู้เขียน

สุดเหี้ยม!! กลุ่มก่อการร้ายในซีเรียสังหารชาวบ้านขณะหนีจากอาเลปโป เสียชีวิต-บาดเจ็บ 70 กว่

 

สหรัฐไม่ได้เข้าเยเมนเพื่อไปปราบอัลกออิดะห์ทำไม ในเมื่อพวกนี้เป็นลูกน้องของสหรัฐ แต่เข้าไปในเยเมนเพื่อไปปราบฮูติ ซึ่งเป็นศัตรูของซาอุดิอาระเบีย

ทหารสหรัฐฯ เข้าเยเมนแล้ว อ้างปราบอัลกออิดะห์
โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ -29 พฤศจิกายน 2016

presstv – รายงานระบุว่า กองกำลังทหารของสหรัฐอเมริกาได้เข้าสู่เมืองท่าเอเดนแล้ว ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของเยเมน

สถานีโทรทัศน์อัลมัยซาเราะห์ ได้แพร่ภาพทหารของอเมริกาที่ได้เข้าสู่เมืองเอเดนเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

ตามรายงานระบุว่า เป็นไปได้ที่ทหารจำนวนดังกล่าวเข้ามาเพื่อเข้าร่วมสมทบกับกองกำลังทหารของอเมริกาที่ได้เข้ามาประจำการในฐานทัพอากาศ อันอันด์ ก่อนหน้านี้

การส่งกองกำลังทหารของอเมริกาเข้าไปยังเยเมนครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า วอชิงตันกำลังแสวงหาผลประโยชน์ของตนในประเทศที่กำลังเกิดวิกฤติสงคราม อีกทั้งเพื่อขยายการปรากฏตัวของกองกำลังทหารของตนในเยเมนให้มากขึ้น

ในการบุกรุกเยเมนของซาอุดีอาระเบีย เพนตากอนให้การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์และการข่าว

ในเดือนพฤษภาคม สถานีโทรทัศน์อัลมัยซาเราะห์ ได้รายงานกรณีที่กองกำลังพิเศษของสหรัฐได้เข้ามาในภาคใต้ของเยเมน

การกลับเข้ามาอีกครั้งของทหารสหรัฐในเยเมนมีขึ้นหลังจากหนึ่งปีที่ได้ถอนตัวออกประเทศอาหรับที่ยากจน

ในวันที่ 21 มีนาคม 2015 “เพราะสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยที่ทวีความรุนแรงขึ้น” อเมริกาได้ถอนกำลังออกจากฐานทัพอากาศอันอันด์ Alnd

อนึ่ง นับจากที่ซาอุดิอาระเบียบุกโจมตีเยเมน มีพลเรือนเยเมนได้เสียชีวิตแล้ว 11,400 คน

ซาอุดิอาระเบีย ในช่วงเดือนที่มีการโจมตีเยเมนทางอากาศ ได้มีการกำหนดเป้าหมายโจมตี โรงเรียน โรงพยาบาล พื้นที่อยู่อาศัย ถนนตลาดและระเบิดค่ายผู้ลี้ภัยซ้ำหลายซ้ำแล้ว และในบางครั้งยังใช้อาวุธต้องห้ามเช่นระเบิดดาวกระจาย


เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

ทหารสหรัฐฯ เข้าเยเมนแล้ว อ้างปราบอัลกออิดะห์ | abnewstoday

 

“กาตาร์” ลั่น หนุนกลุ่มก่อการร้ายตักฟีรีในซีเรียต่อ
โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - 28 พฤศจิกายน 2016

เพรสทีวี – กระทรวงการต่างประเทศของกาตาร์ออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ว่ารัฐบาลโดฮาจะเดินหน้ามอบความสนับสนุนด้านยุทโธปกรณ์ให้แก่กองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียต่อไป แม้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไป จะยุตินโยบายความร่วมมือกับตะวันออกกลางในเรื่องนี้ก็ตาม

โมฮัมหมัด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล-ธานี รมว.กระทรวงการต่างประเทศของกาตาร์ กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ 26 เป็นการตอบโต้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไปที่จะยุตินโยบายความร่วมมือกับตะวันออกกลาง

กาตาร์ถือเป็นประเทศที่ให้ความสนับสนุนด้านอาวุธแก่ฝ่ายกบฏซีเรีย และ “กลุ่มกบฏสายกลาง” ในระดับที่มากเทียบเท่ากับซาอุดีอาระเบีย ตุรกี และประเทศตะวันตกอีกหลายแห่ง โดยเป็นความร่วมมือภายใต้โครงการที่ดูแลโดยสำนักข่าวกรองกลาง ( ซีไอเอ ) ที่นอกจากให้ความช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าวแล้วยังมีการจัดฝึกอบรมการใช้อาวุธด้วย โดยอาศัยฐานทัพของหลายประเทศในตะวันออกกลางที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐ อาทิ จอร์แดน

ขณะที่ชีค โมฮัมหมัด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล-ธานี รมว.กระทรวงการต่างประเทศของกาตาร์ กล่าวในเวลาต่อมา ว่าโครงการนี้ต้องดำเนินต่อไป โดยจะยุติต่อเมื่อมีการเรียกร้องจากชาวซีเรียเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ชีคโมฮัมหมัดกล่าวเป็นนัยว่า กาตาร์ “จะไม่ฉายเดี่ยว” และแม้กองกำลังฝ่ายต่อต้านสูญเสียการยึดครองพื้นที่ในจังหวัดอาเลปโป ทุกฝ่ายที่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเชื่อมั่นว่ากลุ่มกบฏจะสามารถแย่งชิงพื้นที่กลับมาได้อีกครั้ง หลังองค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย ( เอสโอเอชอาร์ ) รายงานว่ากองทัพซีเรียสามารถยึดเขตมาซาเคน-ฮานาโน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดอเลปโป เพิ่มความสะดวกในการขีด “เส้นเล็งยิง” เพื่อใช้โจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏที่อยู่โดยรอบ

เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่
บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากผู้เขียน

“กาตาร์” ลั่น หนุนกลุ่มก่อการร้ายตักฟีรีในซีเรียต่อ | abnewstoday

 

เออร์โดกาน ลั่น เป้าหมายของเราคือการโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด
โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - 1 ธันวาคม 2016

presstv – ประธานาธิบดีตุรกีกล่าวว่าเป้าหมายของการปรากฏตัวของทหารตุรกีในซีเรียเพื่อโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์อัสซาด

เว็บไซต์ Hurriyat ตุรกี ราญับ ตอยยิบ เออร์โดกาน กล่าวในที่ประชุมในอิสตันบูลว่า ตามประมาณการของผม เกือบหนึ่งล้านคนถูกฆ่าตายในซีเรีย โดยที่ผู้หญิงเด็กๆและผู้ชายและยังคงถูกฆ่าตาย แล้งสหประชาชาติอยู่ที่ไหน? กำลังทำอะไร? อยู่ในอิรักหรือ ? ไม่ ! เราอดทนมากพอแล้ว แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถทนต่อสถานการณ์เช่นนี้ และในที่สุดเราได้ส่งกองทัพเข้าร่วมกับและกองทัพปลดปล่อยซีเรีย

เออร์โดกาน กล่าวเสริมว่า ทำไมเราต้องเข้าไปยังซีเรีย? เราไม่ได้มีเจตนาที่จะยึดครองซีเรีย แต่เพื่อจะคืนซีเรียให้กับเจ้าของเดิม นั่นหมายความว่า เราปรากฏตัวในซีเรียเพื่อสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้น เราเข้าไปยังประเทศซีเรียเพื่อยุติระบอบการปกครองของอัสซาด

ถ้อยแถลงของเขามีขึ้นในขณะที่ตุรกีเข้าเริ่มปฏิบัติการที่เรียกว่า “โล่ยูเฟรติส” ในภาคเหนือของซีเรียเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เมื่อวันอังคารที่ 29 กองทัพตุรกี ออกมาอ้างว่า ในการปฏิบัติการของเครื่องบินรบตุรกีในวันจันทร์ที่ 28 นั้นสามารถยิงโจมตีและทำลายแหล่งกบดานของกลุ่มก่อการ้ายไอซิสสี่แห่งในภาคเหนือของซีเรีย

ตามคำประกาศดังกล่าว เครื่องบินรบไอพ่นของตุรกีสามารถสังหาร ผู้ก่อการร้ายไอซิสตาย 11 คน และทำลายรถหุ้มเกราะสองคัน

รัฐบาลอังการ่า ถือว่า การส่งกองกำลังทหารในนามปฏิบัติการโล่ยูเฟรติสนั้นเพื่อให้การสนับสนุนกลุ่มปลดปล่อยซีเรีย ซึ่งก่อนหน้านี้การปฏิบัติการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายไอซิสและกบฏชาวเคริด์

ทั้งนี้ตุรกีถูกกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนผู้ก่อการร้ายไอซิส และได้ประกาศอีกว่าการปฏิบัติการเพื่อทำลายล้างกลุ่มก่อการร้ายทั้งหมด และการปฏิบัติการนี้จะยังคงดำเนินการต่อไป

เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่
บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากผู้เขียน

เออร์โดกาน ลั่น เป้าหมายของเราคือการโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด | abnewstoday

 

นักการทูตเสนอฟ้องศาลโลก 'ซูจี' ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงญา 1 ธันวาคม 2559

นักการทูตเสนอ ฟ้องศาลโลก ซูจีฆ่าล้างเผ่าพันธ์โรฮิงญา อดีตเลขาธิการอาเซียน ชี้รัฐบาลเมียนมาต้องจริงใจแก้ปัญหาร่วมกับนานาชาติ
นักการทูตเสนอฟ้องศาลโลก 'ซูจี' ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงญา

นายโคฟี่ อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ และประธานคณะกรรมาธิการสอบสวนกรณีรัฐยะไข่ เมียนมา ได้ลงพื้นที่รัฐยะไข่ ที่เกิดสถานการณ์ความรุนแรงจากทหารเมียนเข้ากวาดล้างชนกลุ่มน้อยโรฮิงญา มีการสังหารผู้บริสุทธิ์ เผาบ้านเรือนราษฎรและขับไล่ออกนอกพื้นที่ เพื่อหาข้อสรุปถึงปัญหาและแนวทางการแก้ไขเสนอต่อรัฐบาลเมียนมาและสหประชาชาติ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นายอันนัน ได้เดินทางเข้าพื้นที่หลังจากก่อนหน้านี้ถูกทางการเมียนกีดกัน
การทำงานของนายอันนัน ได้ประสานความร่วมมือกับหลายภาคส่วน อาทิ รมว.ต่างประเทศอาเซียนบางประเทศ รวมทั้งดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน เพื่อขอคำปรึกษาและหาทางออกในการแก้ปัญหา
รายงานจากนักการทูตแจ้งว่า กระแสจากประเทศต่างๆ ได้กดดันมายังอินโดนีเชียและมาเลเซีย ในฐานะประเทศมุสลิมในอาเซียนให้ดำเนินการกดดันเมียนมายุติการกวาดล้างชาวโรฮิงญา ซึ่งมาเลเซียได้มีปฏิบัติต่อเรื่องนี้ค่อนข้างรุนแรง รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย ได้เชิญทูตเมียนมาสอบถามและยื่นข้อเรียกร้อง
“ที่น่าสนใจคือ คือท่าทีของนาจิ๊บ ราซัค ที่ออกมาพูดค่อนข้างรุนแรงว่า พฤติกรรมของเมียนมาในการกวาดล้างชาวโรฮิงญา เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และบอกว่า จะไม่กระทำตามกฎของอาเซียนที่ห้ามแทรกแซงประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเห็นการก่ออาชญากรรมอยู่เบื้องหน้า” แหล่งข่าวจากนักการทูต กล่าว และให้ความเห็นว่า ท่าทีของมาเลเซียได้เปลี่ยนแนวทางของประเทศอาเซียนค่อนข้างชัดเจนกรณีการไม่แทรกแซงประเทศเพื่อนบ้าน และคำพูดว่า ทหารเมียนมาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงญานั้น สามารถฟ้องร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศได้ เพื่อให้สอบสวนนำตัวคนผิดมาลงโทษ ซึ่งกระบวนการฟ้องร้องสามารถดำเนินการได้แม้เมียนมาไม่ลงสัตยาบรรณก็ตาม หากศาลอาญาระหว่างประเทศรับคำร้อง ก็จะส่งอัยการมาสอบสวนกรณีที่เกิดขึ้น
ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน กล่าวว่า ได้ประสานอย่างใกล้ชิดกับคณะของนายโคฟี่ อันนัน เพื่อหาทางยุติปัญหาในรัฐยะไข่เพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหา ซึ่งต้องให้ทุกฝ่ายเข้ามาร่วมมือกัน
“สมัยเป็นเลขาธิการอาเซียน เกิดวิบัติภัยนากีส ทางการเมียนมาไม่ยอมให้ความช่วยเหลือจากภายนอกเข้าไป ก็ได้ประสานจนได้ข้อยุติให้มีกรรมการ 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายเมียนมา สหประชาชาติ และอาเซียน ได้ทำงานร่วมกัน มีเมียนมาเป็นประธาน ทำให้สามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบได้ ซึ่งกำลังมีการประสานให้เกิดแนวทางในลักษณะนี้เพื่อแก้ปัญหา โดยนายโคฟี่อันนัน ได้นัดหมายหารือกับผม ในการสัมมนา เรื่องประชาธิปไตยที่บาหลี อินโดนีเชีย ในต้นเดือนธันวาคม ซึ่งจะได้หารือกันเพื่อหาทางออก” ดร.สุรินทร์ กล่าว และว่า ขณะนี้มีความพยายามผลักดันให้มีการประชุมรมว.ต่างประเทศอาเซียนเพื่อมีมติในกรณีนี้
อดีตเลขาธิการอาเซียน กล่าวว่า การแก้ปัญหาโรฮิงญารัฐบาลเมียนมาจะต้องจริงใจ และร่วมมือกับนานาชาติ สิ่งแรกแรกที่ต้องทำก็คือ การยุติการใช้ความรุนแรงกับชนกลุ่มน้อยโรฮิงญาและชนกลุ่มน้อยกลุ่มอื่น 2. เปิดให้มีการเข้าไปสอบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใส และเปิดให้เข้าไปบรรเทาทุกข์ผู้ได้รับผลกระทบ

M TODAY | เอ็มทูเดย์

นักการทูตเสนอฟ้องศาลโลก 'ซูจี' ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงญา

 

ฟิลิปปินส์เตือนภัยก่อการร้ายสูงสุด เผยพวกวางระเบิดใกล้สถานทูตมีแผนบึ้มสวนสาธารณะด้วย โดย MGR Online 1 ธันวาคม 2559 20:47 น.

เอเจนซีส์ - ฟิลิปปินส์ได้เพิ่มการเตือนภัยก่อการร้ายไปอยู่ที่ระดับสูงสุด หลังจากเพิ่งหยุดยั้งการระเบิดใกล้สถานทูตสหรัฐฯ เพราะทางตำรวจระบุว่า มีกลุ่มติดอาวุธที่เชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) วางแผนระเบิดสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง

โรนัลด์ เดลา โรซา ผู้บังคับการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า แผนดังกล่าวถูกเปิดโปงโดยชาย 2 คนที่ถูกจับกุมจากคดีวางระเบิดใกล้สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงมะนิลา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

"ชายสองคนนี้มีแผนจุดระเบิดในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง แต่ล้มเหลว จากนั้นพวกเขาเลยไปวางระเบิดอีกลูกใกล้กับสถานทูตสหรัฐฯ" เดลา โรซา กล่าวในการแถลงข่าว โดยมีชาย 2 คนในชุดนักโทษสีเหลืองยืนอยู่ข้างๆ

เขายังบอกด้วยว่า ยังมีอีก 3 คนที่เป็นพวกเดียวกับคนร้าย เป็นคนของกลุ่มติดอาวุธมุสลิมหัวรุนแรงทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งหลบหนีการจับกุมไปได้

"ผมขอแนะนำให้สาธารณะชนเฝ้าระวัง ไม่ประมาท แต่อย่าตื่นตระหนก ขอให้มีความสุขกับคริสต์มาส" เขากล่าว พร้อมทั้งบอกด้วยว่า จะมีการตั้งจุดตรวจรอบเมืองหลวง รวมถึงดำเนินการบุกตรวจค้นตามสถานที่ต้องสงสัยว่าเป็นรังของพวกกลุ่มก่อการร้าย

เดลา โรซา บอกว่า เมื่อช่วงรุ่งสางวันจันทร์ โทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งที่มีสายต่อเข้ากับกระสุนปืนครกขนาด 81 มิลลิเมตร ถูกพบโดยพนักงานกวาดถนนที่บริเวณใกล้กับสถานทูตสหรัฐฯ โดยทางตำรวจได้จุดระเบิดเพื่อทำลายทิ้งอย่างปลอดภัย แต่คนบงการยังพยายามจะทำให้มันระเบิดด้วยการโทรเข้าไปยังโทรศัพท์เครื่องนั้น

ตำรวจได้ตามรอยหมายเลขโทรศัพท์ของคนร้ายไปจนถึงจังหวัดทางเหนือของกรุงมะนิลา แล้วทำการจับกุม ส่วนคนร้ายรายที่สองที่ขับรถไปวางระเบิดใกล้กับสถานทูตสหรัฐฯ ได้ถูกจับกุมแล้วเช่นกัน

ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ ได้เคยเตือนว่าพวกคนของกลุ่มรัฐอิสลามอาจกำลังหาทางเข้ามาตั้งหลักในประเทศของเขา หากพวกนั้นถูกขับไล่ออกจากอิรักและซีเรีย

ภาคใต้ของฟิลิปปินส์เป็นรังของพวกกลุ่มติดอาวุธมุสลิมมานานนับทศวรรษแล้ว แต่ที่ผ่านมามีวาระขับเคลื่อนจากภายในเป็นส่วนใหญ่

 

กบฏซีเรียตั้ง “กลุ่มพันธมิตรใหม่” หวังพลิกสถานการณ์ในอะเลปโป โดย MGR Online 1 ธันวาคม 2559 18:46 น. (แก้ไขล่าสุด 1 ธันวาคม 2559 18:59 น.)

รอยเตอร์ - กลุ่มกบฏในอะเลปโปเห็นพ้องที่จะก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรใหม่เพื่อเสริมศักยภาพการป้องกันส่วนต่างๆ ของเมืองนี้ที่พวกเขาควบคุมอยู่จากการจู่โจมอย่างรุนแรงโดยรัฐบาลและพันธมิตร เจ้าหน้าที่จากกลุ่มกบฏ 2 กลุ่ม กล่าวในวันนี้ (1 ธ.ค.)

การโจมตีของรัฐบาลซีเรียที่ได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังพันธมิตรได้ผลักดันกลุ่มกบฏออกจากกว่า 1 ใน 3 ของพื้นที่ที่พวกเขายึดครองทางตะวันออกของอะเลปโป เสี่ยงต่อการทำลายการก่อกบฏในที่มั่นเขตเมืองที่สำคัญที่สุดของพวกเขา

การแข่งขันในหมู่กลุ่มกบฏถูกมองว่าเป็นหนึ่งในจุดอ่อนสำคัญของพวกเขาตลอดช่วงสงครามนี้

เจ้าหน้าที่สองคนที่พูดจากตุรกีกล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรใหม่จะมีชื่อว่า “กองทัพอะเลปโป” (Aleppo Army) และจะถูกนำโดยผู้บัญชาการขิงกลุ่มกบฏจับฮา ชามิยา หนึ่งในกลุ่มหลักที่ต่อสู้อยู่ในภาคเหนือของซีเรียภายใต้ร่มธงของกลุ่มกองทัพปลดแอกชาวซีเรีย (Free Syrian Army)

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่อยู่กับกลุ่มกบฏกลุ่มที่สองยืนยันว่า อาบู อับเดลเราะห์มาน นูร์ ของกลุ่มจับฮา ชามิยา ได้รับเลือกเป็นหัวหน้า ในการให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นูร์เรียกร้องการสนับสนุนมากกว่านี้จากรัฐต่างชาติที่สนับสนุนฝ่ายต่อต้าน

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งในกลุ่มจับฮา ชามิยา บอกกับรอยเตอร์ว่า กลุ่มพันธมิตรใหม่จะช่วยทำให้การตัดสินใจมารวมอยู่ที่ศูนย์กลาง

กลุ่มจับฮา ชามิยา หรือที่รู้จักในชื่อภาษาอังกฤษว่ากลุ่มเลเวินท์ฟรอนต์ได้รับการสนับสนุนจากตุรกีและรัฐอื่นๆ ที่ต้องการให้ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียถูกโค่นล้มจากอำนาจ

 

ตึงเครียด! ยูเครนเริ่ม “ทดสอบขีปนาวุธ” ใกล้ไครเมีย กระตุ้นรัสเซียเตรียมกำลังป้องกันทางอากาศ โดย MGR Online 1 ธันวาคม 2559 17:22 น. (แก้ไขล่าสุด 1 ธันวาคม 2559 18:56 น.)

รอยเตอร์ - ยูเครนเริ่มการทดสอบขีปนาวุธเป็นเวลา 2 วันใกล้ไครเมียในวันนี้ (1 ธ.ค.) ความเคลื่อนไหวที่สร้างความไม่พอใจให้แก่รัสเซียซึ่งจัดให้กองกำลังป้องกันภัยทางอากาศเตรียมพร้อมขั้นสูงสุดและเคลื่อนกองเรือรบในทะเลดำ

ความขัดแย้งนี้เป็นสถานการณ์ล่าสุดในความตึงเครียดระหว่างอดีตพันธมิตรทั้งสองซึ่งความสัมพันธ์พังลงในปี 2014 หลังจากรัสเซียยึดไครเมียและสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนโปรรัสเซียที่ต่อสู้ในภาคตะวันออกของยูเครน

โวโลดีมีร์ คริซฮานอฟสกี เจ้าหน้าที่กองทัพยูเครนกล่าวว่า การทดสอบครั้งนี้ซึ่งกำลังเกิดขึ้นในแคว้นเคอร์สันทางใต้ของยูเครนติดพรมแดนไครเมียได้เริ่มต้นขึ้นแล้วและทุกอย่างกำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น

“การทดสอบนี้ถูกจัดขึ้นตามกฎหมายระหว่างประเทศ” คริซฮานอฟสกี บอกกับช่อง 112 TV

การทดสอบนี้ซึ่งจะจัดตั้งแต่วันที่ 1-2 ธันวาคมกำลังเกิดขึ้นห่างจากน่านฟ้าของไครเมียอย่างน้อย 30 กิโลเมตร เขากล่าว

“ดังนั้นมันจึงไม่ถูกต้องที่จะตำหนิยูเครน” เขากล่าว

มอสโกตอบสนองด้วยการจัดให้กองกำลังทางอากาศบนบกและบนเรือในไครเมียอยู่ในขั้นเตรียมพร้อมระดับสูงและแหล่งข่าวรัสเซียกล่าวหาว่ายูเครนพยายามสร้าง “สถานการณ์ตึงเครียด”
เรือรบจากกองเรือทะเลดำของรัสเซียประจำตำแหน่งนอกชายฝั่งตะวันตกของไครเมียในวันนี้ (1) เพื่อช่วยเสริมการป้องกันภัยทางอากาศของคาบสมุทรแห่งนี้ แหล่งข่าวทางทหารในไครเมียบอกกับสำนักข่าวอาร์ไอเอโนวอสติ
“หน่วยป้องกันภัยทางอากาศของเรือถูกจัดให้อยู่ในสถานะเตรียมพร้อมขั้นสูงขึ้น” แหล่งข่าวระบุ “ร่วมกับหน่วยป้องกันภัยทางอากาศบนบกบนคาบสมุทรแห่งนี้ เรือได้ตั้งแนวป้องกันที่ขีปนาวุธของศัตรูไม่อาจผ่านเข้าไปได้”

ยูเครนระบุว่า เป้าหมายของการทดสอบครั้งนี้คือเพื่อสร้างเสริมศักยภาพการป้องกันของประเทศ

เมื่อวานนี้ (30) โฆษกเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เขาไม่รู้ว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้สั่งให้กระทรวงกลาโหมเตรียมการตอบสนองทางทหารต่อการทดสอบของยูเครนหรือไม่

เขาตอบคำถามเกี่ยวกับรายงานของสื่อยูเครนที่ระบุว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียบอกกับผู้แทนทางทหารของยูเครนว่า มอสโคจะยิงขีปนาวุธใดๆ ก็ตามและทำลายเครื่องปล่อยหากเคียฟทดสอบยิงขีปนาวุธในน่านฟ้าใกล้ไครเมีย

“ในเครมลินเราไม่ต้องการที่จะเห็นการกระทำใดๆ ของฝ่ายยูเครนที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและที่อาจสร้างสภาพแวดล้อมที่อันตรายสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศเหนือดินแดนของรัสเซียและพื้นที่ใกล้เคียง” เปสคอฟกล่าว

คริซฮานอฟสกีกล่าวว่า กองทัพยูเครนพร้อมสำหรับ “พัฒนาการใดๆ ก็ตาม”

เมื่อเดือนกันยายนรัสเซียจัดการซ้อมรับขนานใหญ่ทั่วเขตทหารทางใต้ที่รวมถึงไครเมีย

 

ปอกเปลือก ทรราช
กรุงดามัสกัสและกรุงมอสโคว์จวกกลับแอร์โดกันหลังอ้างว่ากองทัพตุรกีในซีเรียเพื่อโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด
------------

วันที่ 30 พ.ย. 59 สำนักข่าว SANA ของซีเรียพาดหัวข่าวว่า "กระทรวงต่างประเทศ: ซีเรียจะไม่อนุญาตให้ทรราชแอร์โดกันแทรกแซงกิจการต่างๆของซีเรีย" (Foreign Ministry: Syria will not allow the tyrant Erdogan to interfere in its affairs)

กระทรวงต่างประเทศของซีเรียได้ยืนยันว่า แถลงการณ์ของประธานาธิบดีรีเซป ถ่อยยิบ แอร์โดกัน (Recep Tayyip Erdogan) เมื่อวันอังคารนี้ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงเป้าหมายที่แท้จริงของการรุกรานจากตุรกีต่อซีเรียด้วยกองทัพ โดยการยืนยันว่าซีเรียจะไม่อนุญาตให้ถ่อยยิบ [เปลี่ยนเป็น "ถ่อยชิบ" น่าจะเหมาะกว่านะ? - ผู้แปล] แทรกแซงกิจการต่างๆของซีเรีย และว่าซีเรียจัดตัดมือของพวกที่พยายามยื่นเข้ามาทำร้ายซีเรีย

แหล่งข่าวอย่างเป็นทางการจากก.ต่างประเทศของซีเรียกล่าวกับสำนักข่าว SANA เมื่อวันพุธนี้ว่า ถ้อยแถลงของนายแอร์โดกันได้พิสูจน์แล้วว่าเขาเป็นจอมโกหก (he is a liar) และได้เปิดเผยแล้วว่าการรุกรานของตุรกีในซีเรียนั้นเป็นผลจากความฝันและภาพมายา (a result of the dreams and delusions) ที่ขับเคลื่อนให้จอมทรราชย์สุดโต่งคนนี้เปลี่ยนประเทศตุรกีให้เป็นฐานทัพของพวกผู้ก่อการร้าย (turned Turkey into a base for terrorists) ซึ่งบ่อนทำลายความมั่นคงและเสถียรภาพในซีเรียและอิรัค และก่อให้เกิดความทุกข์ยากแก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลตุรกี

"มันเป็นเรื่องที่น่าขบขันที่จอมทรราชอย่างอย่าง (ถ่อยยิบ) แอร์โดกันจะพูดถึงประชาธิปไตยในขณะที่เขาได้เปลี่ยนให้ตุรกีเป็นคุกขนาดใหญ่สำหรับทุกคนที่คัดค้านนโยบายของเขา บางอย่างที่เผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากประชาคมนานาชาติ" แหล่งข่าวจากก.ต่างประเทศของซีเรียกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า "ประชาชน กองทัพ และผู้นำซีเรียจะไม่ปล่อยให้ทรราชที่จองหองรายนี้แทรกแซงกิจการต่างๆของซีเรีย และจะตัดมือที่พยายามทำร้ายซีเรีย ขณะนี้ซีเรียกำลังต่อสู้กับพวกเบี้ยและตัวแทนของทรราช พรุ่งนี้ก็จะเป็นอีกวันหนึ่ง"

ซีเรียเรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติยุติพฤติกรรมและการแทรกแซงของแอร์โดกันในกิจการของประเทศต่างๆในภูมิภาค ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและขัดแย้งกับมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับการต่อต้านขบวนการก่อการร้ายทั้งในระดับภูมิภาคและสากล นับตั้งแต่รัฐบาลของ (ถ่อยยิบ) แอร์โดกันได้ให้การสนับสนุนทุกรูปแบบแก่พวกผู้ก่อการร้ายกลุ่มต่างๆ แหล่งข่าวสรุป

[ในแถลงการก่อนหน้านี้ จิ้งจอกเฒ่าถ่อยยิบ แอร์โดกันผายลมทางปากว่า อัสซาดเป็นทรราชเข่นฆ่าประชาชนชาวซีเรียและสนับสนุนขบวนการก่อการร้าย ตุรกีส่งกองทัพของตนเองเข้าไปในซีเรียก็เพื่อโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีอัสซาด ตุรกีไม่ได้จ้องจะฮุบแผ่นดินของซีเรียเลย ตอแหละทั้งเพ ถามจริงเถอะถ่อยยิบแอร์โดกัน นายคืนแผ่นดินซีกตะวันออกให้กับประชาชนชาวไซปรัสที่กองทัพตุรกียึดไปตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 1974 แล้วหรือยัง? อันนี้ไม่เรียกว่ายึดใช่ไหม? รัฐบาลและประชาชนชาวอิรัคต่างก็พากันขับไล่ให้ตุรกีถอนทหารของตนเองออกจากอิรัค ถ่อยยิบแอร์โดกันก็ยังหน้าด้านอยู่ต่อและเสริมกำลังเข้าไปเพิ่มอีกต่างหาก นั่นเรียกว่าอะไร? - ผู้แปล]

เมื่อวันที่ 16 พ.ย.59 ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีอัสซาดแห่งซีเรียได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับจิ้งจอกเฒ่าถ่อยยิบแอร์โดกันว่า (แอร์โดกัน) เป็นผู้ป่วย (sick person) และเป็นพวก 'ลุ่มหลงตัวเองแบบเพ้อฝัน' (megalomanic)

"คุณกำลังพูดถึงคนป่วย เขาเป็นประธานาธิบดีที่ลุ่มหลงตัวเองแบบเพ้อฝัน เขาไม่ปรกติ เขาติดอยู่ในยุคจักรวรรดิ์อ็อตโตมาน เขาไม่ได้มีชีวิตอยู่ในสมัยปัจจุบัน ไม่ได้สัมผัสกับความเป็นจริง" ประธานาธิบดีของซีเรียกล่าว

("You’re talking about sick person; he’s megalomaniac President, he is not stable. He lives during the Ottoman era, he doesn’t live in the current time. He’s out of touch with the reality," the Syrian President stated.)

ต่อมานาย Dmitry Peskov โฆษกของทำเนียบเครมลินได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อถ้อยแถลงของจิ้งจอกเฒ่าถ่อยยิบแอร์โดกันว่า "จริงๆแล้วแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นการแจ้งข่าว นี่ถือว่าเป็นแถลงการที่จริงจังมากฉบับหนึ่ง มันขัดแย้งกับ [แถลงการณ์ต่างๆ] ก่อนหน้านี้ และทำให้พวกเราเข้าใจสถานการณ์ด้วย"

"เราหวังว่าในอนาคตอันใกล้นี้จะมีคำอธิบายในเรื่องนี้จากเหล่าหุ้นส่วนชาวตุรกีของพวกเรานะครับ รัสเซียเป็นเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่มีกองทัพของตนเองอยู่ในซีเรียบนบรรทัดฐานของความชอบธรรมทางกฎหมาย - ตามคำร้องขอโดยตรงจากทางการของซีเรีย" โฆษกของทำเนียบเครมลินกล่าว

ในการตอบคำถามว่าแถลงการณ์ของนายถ่อยยิบแอร์โดกันจะมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ด้านต่างๆระหว่างกรุงมอสโคว์และกรุงอังการาหรือไม่?

นาย Peskov ได้เน้นย้ำว่า ตุรกีเป็นหุ้นส่วนของกรุงมอสโคว์ และดังนั้นจะต้องมีคำอธิบายถึงจุดยืนของตุรกีก่อนที่ทางการของรัสเซียจะกระทำการตัดสินใดๆ

"ก่อนที่จะตัดสินใดๆ พวกเราคาดหวังว่าจุดยืนนี้จะได้รับการอธิบาย" นาย Peskov กล่าว

รายงานข่าวบอกว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้สนทนาทางโทรศัทพ์กับนายถ่อยยิบ แอร์โดกันเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรียเมื่อวันพุธนี้ โฆษกทำเนียบเครมลินกล่าว

[แปลว่าอะไร? ก็แปลว่าหลังจากที่จิ้งจอกเฒ่าถ่อยยิบแอร์โดกันหางโผล่บอกว่าต้องการจะโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด ปูตินก็ยกหูโทรศัพท์ฮึ่มใส่แอร์โดกันทันที งานนี้รัสเซียเดินเกมแบบบุ๋น ไม่ตอบโต้ผ่านสื่อฯด้วยท่าทีที่รุนแรงจากการยั่วยุของบุคคลที่เป็นพวก "megalomanic" ยังถือว่ารัสเซียให้เกียรติและช่วยรักษาหน้าให้กับตุรกี แต่ถ้าถ่อยฯยังกล้าซ่าอีกต่อไป งานนี้จบไม่สวยแน่

ก่อนหน้านี้ตุรกีเสแสร้งว่า พี่ปูตินคร้าบบบบ กระผมอยากจะได้ระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ที่ทันสมัยสุดๆของท่านที่เหลือกัน ช่วยขายให้ตุรกีหน่อยเถอะนะครับ ถ้าจะให้ดี ขอผลิตเองที่ตุรกีนะครับถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ตุรกีด้วยนะครับ (ชาติหน้าตอนบ่ายๆเหอะถ่อยฯ) รัสเซียก็แกล้งเล่นเกมตามตุรกีไปว่า อ้อ… เราเองก็มีความสนใจที่จะร่วมมือด้านความมั่นคงกับตุรกีเช่นกัน แต่รัสเซียยังไม่ได้บอกว่าจะขายอะไรให้กับตุรกีบ้าง

ถ่อยยิบแอร์โดกันถือว่าตัวเองกำลังได้เปรียบรัสเซียเพราะว่ายังไงซะโครงการท่อแก๊สสาย Turkish Stream ของรัสเซียที่จะส่งไปกรีซและยุโรปตะวันตกก็ต้องผ่านตุรกีอยู่ดี แม้ว่าจะหยุดไปพักหนึ่งหลังจากที่ตุรกีส่ง F-16 ไปลอบยิง Su-24 ของรัสเซียตกในซีเรียเมื่อปีที่แล้ว แต่ต่อมาหลังจากที่ตุรกีถูกสหรัฐและอียู ซึ่งเป็นนาโต้ด้วยกันหักหลังโดยการพยายามก่อรัฐประหารในประเทศ ถ่อยยิบแอร์โดกันก็ได้ยอมขอโทษปูตินและรัสเซียกรณี Su-24 และหันไปซบปีกรัสเซียอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ตุรกีก็บอกว่าต้องการจะซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศ HQ-9 ของจีน ได้มีการลงนามใน MOU กันหลายฉบับ หลังจากที่จีนจับได้ว่าตุรกีและสหรัฐอยู่เบื้องหลังของพวกหัวรุนแรงอุยกูร์ในซินเจียงที่ก่อเหตุไล่แทงชาวบ้านทั่วไปทั้งในจีนและในตุรกี เกิดความตึงเครียดขึ้นระหว่างจีนกับตุรกี เรื่องการจัดซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศ HQ-9 จากจีนก็เงียบไป

วันนี้ตุรกีใช้ลูกไม้เดิมกับรัสเซียอีกว่า อยากจะได้ S-400 ของรัสเซีย แต่มีข้อแม้ว่ารัสเซียจะไม่แทรกแซงกรณีตุรกียึดพื้นที่ภาคเหนือบางส่วนของซีเรีย หมากตะนี้ตื้นเขินเกินไป ถ้ารัสเซียทำอย่างนั้น แล้วใครจะเชื่อถือในรัสเซียอีกต่อไปโดยเฉพาะรัฐบาลของซีเรีย ยังไงซะงานนี้รัสเซียก็ต้องเข้าข้างซีเรียอย่างเต็มที่ เพราะว่ารัสเซียได้ทั้งฐานทัพอากาศและฐานทัพเรือในซีเรียไปแล้ว - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
01/12/2559
------------
https://www.rt.com/news/368739-erdogan-syria-assad-russia/
Farsnews
https://www.almasdarnews.com/article/assad-slams-erdogan-turkish-army-incursion-syria/
TASS: Russian Politics & Diplomacy - Lavrov: Ankara understands Russia not implicated in deaths of Turkish soldiers week ago
https://sputniknews.com/politics/201611301048011223-erdogan-comments-assad-ministry/
https://sputniknews.com/middleeast/201612011048046276-turkey-erdogan-syria/
Foreign Ministry: Syria will not allow the tyrant Erdogan to interfere in its affairs – Syrian Arab News Agency
[ame]https://youtu.be/kgBSfyRY6gs[/ame]

 

ปอกเปลือก ทรราช

ป้ดธ่อนึกว่าจะแน่! แอร์โดกันพลิกลิ้นอีกรอบ: ปธน.แอร์โดกันแห่งตุรกีกล่าวว่าจุดมุ่งหมายของตุรกีในซีเรียเพื่อต่อสู้ขบวนการก่อการร้ายเท่านั้น ไม่ใช่ต่อต้านประเทศหรือบุคคลใด หลังคุยโทรศัพท์กับปธน.ปูติน ฮิ้วววววว
------------

วันที่ 1 ธ.ค. 59 RT พาดหัวข่าวว่า "แอร์โดกันถอยกลับเกี่ยวกับเป้าหมายในซีเรียหลังคุยโทรศัพท์กับปูติน โดยกล่าวว่ามีแต่พวกผู้ก่อการร้ายเท่านั้นที่เป็นเป้าหมาย" (Erdogan backtracks on Syria goals after call with Putin, says terrorists are only target) [หมดราคาเลยท่่านถ่อยยิบผู้นำที่หยิ่งยโสเจ้าเล่ห์เพทุบายแห่งตุรกี ไก่งวงริจะหือกับพญาหมี ซ่าผิดที่แล้วน้องเอ๋ย - ผู้แปล]

ปฏิบัติการทางทหารของตุรกีในภาคเหนือของซีเรียไม่ได้มีเป้าหมายที่ประเทศหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งทั้งนั้น และมีจุดมุ่งหมายเพียงที่กลุ่มก่อการร้ายเท่านั้น ประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan แห่งตุรกีกล่าว ก่อนหน้านี้นายแอร์โดกันกล่าวว่า ตุรกีในซีเรียเพื่อ "โค่นล้มการปกครองของอัสซาดผู้โหดร้าย"

"จุดมุ่งหมายของยุทธการ Euphrates Shield [ในภาคเหนือของซีเรีย] ไม่ได้อยู่ที่ประเทศหรือบุคคล แต่อยู่ที่องค์กรก่อการร้ายทั้งหลายเท่านั้น" (The aim of the Euphrates Shield Operation [in northern Syria] is not any country or person, but only terrorist organizations.) ปธน.แอร์โดกันกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ อ้างข่าวโดยหนังสือพิมพ์ Hurryiet Daily News ของตุรกี

แอร์โดกันกล่าวต่ออีกว่า "ไม่ควรมีใครตั้งข้อสงสัยในเรื่องนี้ที่พวกเราได้เปล่งเสียงครั้งแล้วครั้งเล่า และไม่ควรมีใครแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ในท่าทีอื่นหรือพยายามที่จะทำให้ไขว้เขว"

การแสดงความคิดเห็นครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในลักษณะที่ตรงกันข้ามกับแถลงการณ์ของปธน.แอร์โดกันที่ได้พูดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เมื่อแอร์โดกันกล่าวว่า "ปฏิบัติการของตุรกีในซีเรีย ซึ่งเริ่มขึ้นในปลายเดือนสิงหาคมนั้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อโค่นล้มการปกครองของ [ประธานาธิบดี] อัล-อัสซสาดทรราชแห่งซีเรีย ซึ่งก่อการร้ายทั่วประเทศ" [ก็เมื่อวานซืนนี้ คุณพูดแบบนี้ แล้วจะให้ผู้ฟังเข้าใจว่าอย่างไร? วันนี้คุณกลับพูดอีกอย่าง สมแล้วที่ชื่อ "ถ่อยยิบ/ถ่อยชิบ" - ผู้แปล]

ท่าทีนี้ได้สร้างความประหลาดใจให้กับรัสเซีย ซึ่งได้เรียกร้องให้ทางตุรกีตรวจสอบการแสดงความคิดเห็นดังกล่าว

Yury Ushakov คนใกล้ชิดทำเนียบเครมลินกล่าวว่า ท่าทีล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียได้สนทนากันกับผู้นำของตุรกีทางโทรศัพท์เมื่อวันพุธนี้

"ผมสามารถบอกได้เพียงว่าการสนทนากันทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีของพวกเรากับแอร์โดกันเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ และเป็นการพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของการปรากฎของตุรกีในซีเรีย ใช่ครับ เขา [แอร์โดกัน] ได้ให้คำอธิบายแล้ว" Ushakov กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีนี้โดยไม่ได้พูดถึงรายละเอียด

เมื่อวันพฤหัสบดีนี้ นาย Mevlut Cavusoglu รมว.ต่างประเทศตุรกีกล่าวว่า ปฏิบัติการของตุรกีในซีเรียมีจุดมุ่งหมายที่การต่อสู้พวกขบวนการก่อการร้ายไอซิส และกลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธอื่นๆ (เคิร์ด)

"ปัจจุบันนี้ ในกรอบของปฏิบัติการ Euphrates Shield นั้น พวกรเราเจาะจงไปที่การทำงานร่วมกับหุ้นส่วนและพันธมิตรของพวกเรา เป้าหมายหลักของพวกเราก็คือทำให้ซีเรีย ภูมิภาคแห่งนี้ปลอดจากพวกดาอิช ปลอดจากพวกผู้ก่อการร้ายต่างๆ และพวกกบฏอัลนุสราฟรอนท์ด้วย (รัสเซียและสหรัฐเรียกพวกอัลนุสราฟรอนท์ว่าเป็นขบวนการก่อการร้าย ตุรกีเรียกพวกนี้ว่า กบฏ/insurgents)" นาย Cavusoglu กล่าวในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนพร้อมกับนาย Sergey Lavrov รมว.ต่างประเทศของรัสเซียในเมือง Alanya คาบสมุทรเมดิเตอร์เรเนียน

รวม.ต่างประเทศของตุรกีกล่าวอีกว่า "นโยบายของตุรกีในซีเรียจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง พวกเราร่วมมือกับประเทศอื่นๆ แต่พวกเราก็คิดว่าความร่วมมือที่ใกล้ชิดของพวกเรากับรัสเซียจะให้ผลประโยชน์ที่มากกว่า"

นั่นคือการกลับคำและการตอแหลสไตล์ตุรกีแบบที่หนึ่ง พลิกลิ้นเห็นๆ คราวนี้มาดูอีกกรณีหนึ่งบ้าง

วันที่ 1 ธ.ค. 59 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "กรุงอังการากล่าวว่า การตั้งข้อสังเกตของนายลาฟรอฟเกี่ยวกับการโจมตีใส่กองทัพของตุรกีในซีเรียเป็นการแปลผิด" (Ankara Says Lavrov's Remark on Syrian Strike on Turkish Army Wrongly Translated)

ก.ต่างประเทศของตุรกีได้กล่าวเมื่อวันพุธนี้ว่า ได้มีการแปลที่ผิดพลาดเกี่ยวกับการตั้งข้อสังเกตของนาย Sergey Lavrov รมว.ต่างประเทศของรัสเซียเกี่ยวกับการไม่มีส่วนร่วมของกองทัพอากาศซีเรียในการโจมตีทางอากาศใส่ทหารของตุรกีที่เมือง al-Bab ในซีเรีย และได้เรียกร้องให้สื่อฯแก้ไขให้ถูกต้องด้วย

[เขาไม่ได้บอกว่ารมว.ต่างประเทศของรัสเซียตีความผิดพลาด หรือแปลผิด เขาพยายามที่จะปัดความผิดของตนเองไปให้สื่อฯแทน - ผู้แปล]

วันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สื่อฯตุรกีรายงานว่า มีทหารตุรกีจำนวน 3 นายเสียชีวิต (และได้รับบาดเจ็บอีก 10 นาย) จากการโจมตีใก้เมือง al-Bab ในการสู้รบกับพวกดาอิช ต่อมาเสนาธิการของกองทัพตุรกียืนยันการเสียชีวิตของทหารตุรกีทั้งสามนาย และได้กล่าวอ้างว่า การโจมตีครั้งนี้ดำเนินการโดยเครื่องบินรบของซีเรีย

สำนักข่าวรอยเตอร์สของแคนาดาพาดหัวข่าวเมื่อวันที่ 24 พ.ย.59 ว่า ตุรกีจะแก้แค้นหลังสงส้ยว่าการโจมตีทางอากาศของซีเรียสังหารทหารตุรกีจำนวนสามนาย และมีทหารตุรกีได้รับบาดเจ็บอีก 10 นาย

24 พ.ย.59 อัลจาซีร่า (สื่อฯขายตัวของตะวันออกกลาง) พาดหัวข่าวว่า "ทหารตุรกีถูกสังหารโดยการโจมตีทางอากาศของซีเรีย: กองทัพกล่าว" (Turkish soldiers killed by Syrian air strike: Military)

24 พ.ย.59 Press TV ของอิหร่านพาดหัวข่าวว่า "ตุรกีกล่าวอ้างว่าการโจมตีทาอากาศของซีเรียได้สังหารทหารตุรกีจำนวน 3 นาย" (Turkey claims Syrian airstrike killed 3 soldiers)

สื่อฯกระแสหลักของตะวันตกและตะวันออกกลางต่างการรายงานข่าวไปในลักษณะเดียวกันว่าเป็นฝีมือของเครื่องบินรบของกองทัพอากาศฝ่ายรัฐบาลซีเรีย และพยายามที่จะพาดพิงถึงรัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของซีเรียด้วย

ในวันเดียวกันนั้น นายลาฟรอฟ ได้กล่าวว่า ทั้งรัสเซียและซีเรียไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าวเลย อย่างไรก็ตามสื่อฯตุรกีก็ยังแปลการตั้งข้อสังเกตุอย่างผิดพลาด (แปลผิด) โดยการเผยแพร่แถลงการณ์ถึงการมีส่วนเกี่ยวข้องของซีเรียในการโจมตีต่อกระทรวง (ต่างประเทศของรัสเซีย)

"เป็นที่น่าสังเกตว่า ระหว่างการแถลงข่าวในเมือง Alanya เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ซึ่งมีรัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียและตุรกีเข้าร่วมแถลง ได้มีข้อผิดพลาดในการแปล นายลาฟรอฟกล่าวว่า 'ไม่ใช่ทั้งรัสเซียและซีเรียมีส่วนร่วมในการโจมตีเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ได้สังหารบุคคลากรทางทหารของตุรกีจำนวนสามนาย' (Neither Russia nor Syria is involved in November 24 attack that killed the Turkish military personnel.' There was no statement 'the attack was committed by the Syrian regime.) เพื่อแก้ไขความผิดพลาดที่ร้ายแรงนี้ ซึ่งเกิดขึ้นจากการแปลที่ไม่ถูกต้อง พวกเราขอให้สมาชิกต่างๆของสื่อนมวลชนทำการแก้ไขข้อความของพวกท่านด้วย" แถลงการณ์จากกระทรวงกล่าวซึ่งได้รับโดยสำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซีย

[ก่อนหน้านี้กรุงดามัสกัสก็ได้ออกมาปฏิเสธข่าวนี้เช่นกัน โดยกล่าวว่ากรุงดามัสกัสไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางอากาศใส่ทหารตุรกีทางภาคเหนือของซีเรียตามที่ตุรกีกล่าวอ้าง แถวนั้นมีแต่เครื่องบินรบของตุรกีและพันธมิตรนำโดยสหรัฐเท่านั้นที่ปฏิบัติการทางอากาศ ไม่เกี่ยวกับรัสเซียหรือหรือซีเรียเลย

แต่ตุรกีตัวแสบรีบโวยวายว่าเป็นฝีอมือของซีเรีย (และรัสเซีย) พอถูกรัสเซียจี้เข้า ไหนมีหลักฐานอะไรที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของเครื่องบินรบของซีเรีย ตุรกีร้อง แบะๆ อุ๊ยยยยย! เป็นเรื่องเข้าใจผิดครับ สื่อฯแปลผิดเอง หนูไม่ได้พูดแบบนั้นซะหน่อย ไอ้พวกกระล่อนทอง! เคยได้ยินแต่คำว่า "ปลาหมอตายเพราะปาก" ในไม่ช้าเราคงจะได้เห็น "ไก่งวงตายเพราะปาก" บ้างหละ - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
01/12/2559
------------
https://www.rt.com/news/368863-erdogan-syria-backtracks-putin/
Operation in Syria only targets terror, Erdoğan clarifies - MIDEAST
https://sputniknews.com/politics/201612011048057949-turkey-lavrov-syria-translation/
Turkish soldiers killed by Syrian air strike: Military - News from Al Jazeera
Three Turkish soldiers killed in IS attack in northern Syria: report | i24news - See beyond
PressTV-Turkey claims Syrian airstrike killed 3 soldiers
Turkey to retaliate after suspected Syrian air strike kills soldiers | Reuters
PressTV-Turkish warplanes bomb Syrian city of al-Bab
3 Turkish soldiers fighting Daesh killed in Syria - Daily Sabah
https://sputniknews.com/politics/201612011048057949-turkey-lavrov-syria-translation/