ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,850
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FB_IMG_1736557405066.jpg

    โปรดติดตามอย่างใกล้ชิด จ้องตาไม่กระพริบ! สรุปโดนไม่โดน อีกไม่กี่อึดใจได้รู้กัน!
    สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่ารัฐบาลอเมริกาของ โจ ไบเดน จ่อทิ้งทวนแบบ "ประทับใจ" ด้วยการควบคุมการส่งออกชิป AI ของ "เอ็นวิเดีย" ขั้นสุดยอด --- ย้ำว่าควบคุมขั้นสุดยอดอย่างไม่เคยมีมาก่อน
    ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมจะไม่แจกแจงรายละเอียดมาก เพราะนี่ยังไม่ใช่รัฐบาลประกาศเอง แต่เป็นข่าวรายงานว่า "เตรียม" ประกาศ ดังนั้น รอของจริงอีกนิด (ถ้าเกิดจริง)
    แต่คร่าวๆ คือ การจัดเทียร์ทั่วโลก เป็น 3 เทียร์
    ก่อนจะว่ากันต่อ ต้องย้ำอีกทีว่าก่อนๆ นี้ ที่ห้าม Nvidia (และบริษัทอเมริกาอื่นๆ) ด้วยมาตรการต่างๆ นั้น คือห้ามเฉพาะสำหรับที่ส่งออกไปจีนเท่านั้น แต่นี่จะต่างออกไปโดยสิ้นเชิงเลย เพราะจะไล่ทำบัญชีทั้งโลก
    สีฟ้าคือตามสบายจ้ะ เท่าไหร่เท่ากัน จะส่งแค่ไหนก็ตามใจ
    สีชมพูคือห้ามเด็ดขาด ไม่มีให้เล็ดลอดไปได้สักนิด
    สีเหลือง นี่แหละ "เทียร์2" คือส่งได้ แต่จำกัด มีควบคุม (ซึ่งรายละเอียดว่าเท่าไหร่ยังไง รอของจริงดีกว่า)
    ก็เห็นเด่นชัดนะครับว่าไทยแลนด์เราอยู่ในสีเหลือง
    ฉะนั้น ที่ใครดีลอะไรกับ Nvidia ไว้ก็มีตกอกตกใจล่ะครับ และไม่ใช่แค่ดีล Nvidia แต่กับบริษัทต่างๆ นานา อาทิ Google และ Microsoft เป็นต้น ก็กระทบเช่นกัน เพราะดาต้าเซ็นเตอร์ AI ย่อมเลี่ยงไม่ได้ ต้องซื้อ GPU ของ Nvidia มาใช้อยู่แล้ว ... นั่นก็ประการหนึ่ง
    แต่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือบริษัทอย่าง Google และ Microsoft ก็จะถูกควบคุมเช่นกันว่าไปตั้งอยู่ไหนได้เท่าไหร่
    ตามข่าว สีฟ้า แน่ล่ะ จะเท่าไหร่ก็เท่ากัน แต่ถ้านอกสีฟ้า นั่นห้ามเกิน 25% (รายละเอียด รอยืนยัน ถ้ารัฐบาลเอาจริง แล้วจะมีแถลงการณ์ออกมา)
    ซึ่งนอกสีฟ้า ก็หมายถึงสีเหลืองเท่านั้น เพราะสีชมพูห้ามเด็ดขาด
    และสีเหลืองประเทศใดๆ ก็ตั้งได้ไม่เกิน 7% (สำหรับประเทศหนึ่งๆ)
    เท่ากับว่านโยบายใดๆ ก็ต้องกลับมาทบทวนใหม่ เพราะบริษัทจะไปซี้ซั้วไม่ได้ --- ถ้าจะไปประเทศสีเหลืองไหน ก็ต้องเน้นๆ จริงๆ ว่าเกิดประโยชน์โพดผลงอกงาม
    เรื่องนี้ย้ำว่าต้องติดตามอย่างใจจดใจจ่อจริงๆ
    ซึ่งปกติแล้ว ถ้าข่าวระดับบลูมเบิร์กออกมาอย่างนี้ ย่อมไม่พลาด น่าจะลงมือจริง (ตามข่าวบอกว่าอาจเป็นวันศุกร์นี้เลย) แต่พวกรายละเอียดอาจมีคลาดเคลื่อนไป รอลุ้นล่ะครับ
    มีผลกับไทยโดยตรง
    https://www.bloomberg.com/news/arti...chip-exports-in-final-push?srnd=homepage-asia
    https://www.facebook.com/share/p/18SDdZmeak/
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,850
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FB_IMG_1736566759813.jpg

    ตัดก่อนตาย ขายก่อนวายวอด! เทรดเดอร์ขาย CALL option หุ้นจีน ตัดใจเจ๊งยับ 3.5พันล้านบาท! เก็งผิดขา! #หุ้นจีน ร่วงหนัก ไหลไม่หยุด

    สั้นๆ ละกันนะครับ เคยอธิบายยาวๆ บ่อยแล้ว
    ซื้อ option ก็คล้ายๆ ประกันแบบหนึ่ง คือซื้อ "สิทธิ์ที่จะทำอะไร" --- แต่เมื่อถึงเวลา จะทำหรือไม่ทำก็ได้
    ถ้า call option ก็ สิทธิ์ที่จะซื้อ ส่วนถ้า put option ก็ สิทธิ์ที่จะขาย
    เราจะซื้อ call option ก็ต่อเมื่อ ตลาดกำลังเป็นขาขึ้น แล้วตัวเราจำเป็นต้องซื้อครับ
    หมายความว่า หมูปิ้ง ราคาสัปดาห์ก่อน 5 บาท แต่วันนี้ 7 บาทแล้ว เราเสียวว่าสัปดาห์หน้า จะพุ่งไป 10 บาท ซึ่งเราจำเป็นต้องซื้อไง เพราะเราจะกินหมูปิ้ง ไม่กินอย่างอื่น
    ทางหนึ่ง เราซื้อล่วงหน้าได้ ซื้อหมูปิ้งของสัปดาห์หน้า (ตลาดฟิวเจอร์ส)
    แต่อีกทาง เราไม่ซื้อ แต่ซื้อ "สิทธิ์ที่จะซื้อ" : เรายอมเสีย 50 สตางค์ตอนนี้ เพื่อที่ว่าถ้าสัปดาห์หน้า ราคาหมูปิ้งเป็นไงไม่รู้ล่ะ แต่เราจะซื้อได้ ที่ราคา 8.50 บาท
    หมายถึงแบบนี้ครับ หมายถึงว่าถ้าสัปดาห์หน้า ราคาหมูปิ้งในท้องตลาด ปาเข้าไป 10 บาท ก็ยิ้มเลย เราซื้อได้ที่ 8.50 บาทจ้า ยิ้มกว้างเลย
    แต่กลับกัน ถ้าราคาวันนั้นมันแค่ 7.50 บาท เราก็ไม่ต้องใช้สิทธิ์นี้ ทิ้งไปเปล่าๆ ปลี้ๆ เพราะเดินไปซื้อตามตลาดได้เลย (ขืนใช้สิทธิ์ก็บ้าสิ เพราะตามสิทธิ์จะซื้อแพงกว่า ที่ 8.50 บาท)
    นี่คือ call option ครับ ความถูกแพงขึ้นอยู่กับ strike price --- สมมติตัวอย่างตะกี้ ถ้าเราซื้อ "สิทธิ์ที่จะซื้อ" ที่ 8 บาท ก็ย่อมจะเสียค่า call option มากกว่า 50 สตางค์แน่
    และก็เวลาข้างหน้าในการ exercise สิทธิ์ด้วยครับ ที่มีผลต่อความถูกแพง
    วกเข้ามาที่ข่าวนี้ คือ ก่อนๆ นี้ หุ้นจีนเป็นขาขึ้นค่อนข้างแรงครับ ก็มีเทรดเดอร์ที่ไปซื้อ call option พอสมควร ซึ่งหุ้นจีนมันขึ้นแรงทีเดียวนะครับ แบบนี้ call option ก็จะยิ่งแพง --- ซึ่งแรกๆ ผลตอบแทน mark-to-market มันดีเลยล่ะครับ
    (ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเล่นท่าไหน คุณไม่จำเป็นต้องกินหมูปิ้ง คุณก็เข้ามาเล่นในตลาด option ได้ --- ซื้อๆ ขายๆ เฉพาะตัว option เลย)
    แต่พอมาถึงต้นปีนี้ โอ้โห หุ้นจีนมันดิ่งชอบกลๆ ซึ่งก็ไม่แน่ เดี๋ยวมันอาจจะขึ้นก็ได้นะครับ เวลามีอีกแยะ แต่เทรดเดอร์พวกนั้นเห็นท่าไม่ดี ยอมตัดใจขาดทุนดีกว่าครับ ขาย call option ทิ้ง (ปิด position) ซึ่งก็ทำให้ปลิวไปกับตา รวมกันเกิน 100 ล้านดอลลาร์เลยล่ะครับ

    https://www.bloomberg.com/news/arti...hina-etfs-swing-from-gain-to-100-million-loss

    https://www.facebook.com/share/18KitfecCQ/
     

แชร์หน้านี้

Loading...