ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศาลปกครอง สั่งไม่รับคำขอไต่สวนฉุกเฉินของสมาคมเกษตรปลอดภัย ที่ขอให้ระงับการแบนพาราควอต–คลอร์ไพริฟอส วันที่ 1 มิ.ย.ไว้ก่อน

    อ่านต่อ >https://news1live.com/detail/9630000055231
    ............................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตื่นตา! ปลาตีนนับพัน ผลดีจากโควิด ทำให้ทะเลสะอาดขึ้น น้องๆปลาตีนร่าเริงสดใส

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สิงคโปร์ประกาศมาตรการกระตุ้นครั้งที่ 4 อีดฉีดอีก 23,000 ล้านดอลลาร์: สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานอ้างประกาศจากรัฐบาลสิงคโปร์ ในวันนี้ (26 พ.ค 2020) ระบุว่ารัฐบาลเตรียมอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นอีกราว 23,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ซึ่งนับว่าเป็นมาตรการกระตุ้นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19

    โดย “เฮ็ง สวี คีต” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า การอัดฉีดเม็ดเงินจากรัฐบาลจำนวนมากเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อรับมือกับวิกฤตที่สาหัสในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยหากรวมแผนกระตุ้นครั้งนี้พบว่าสิงคโปร์ได้อัดฉีดเงินแล้วกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 20% ของจีดีพี

    ในส่วนของรายละเอียดของมาตรการเบื้องต้น ประกอบด้วย การช่วยเหลือค่าจ้างพนักงานกับธุรกิจที่ยังคงไม่สามารถกลับมาดำเนินการได้หลังรัฐบาลเริ่มคลายการล็อคดาวน์, การยกเว้นค่าเช่าแก่ธุรกิเอสเอ็มอี, การคืนเงินภาษีแรงงานต่างชาติในบางอุตสาหกรรม เป็นต้น

    ซึ่งจากการกระตุ้นเศรษฐกิจคาดว่าจะส่งผลให้สิงคโปร์มีงบประมาณขาดดุลที่ระดับ 52,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 15.4%ของจีดีพี นอกจากนี้รายงานยังระบุอีกว่าสิงคโปร์จะใช้ทุนสำรองของประเทศที่คาดว่ามีหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจ

    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
    https://www.prachachat.net/world-news/news-469485

    - Singapore plans $23.2 billion fourth stimulus package to support coronavirus-hit economy: https://www.cnbc.com/2020/05/26/sin...ulus-package-for-coronavirus-hit-economy.html

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เหมือนจะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่าตลาดหุ้นยังเดินหน้าต่อหรือเปล่า?

    เพราะตอนนี้ราคาทองร่วงลงมาต่ำกว่า $1,700 ไปแล้ว หลังค่าเงิน Dollar ก็อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลหลักๆสกุลอื่นๆ

    แถมสองวันมานี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯก็แสดงอาการไม่เหมือนกับ 2 เดือนที่ผ่านมา คือ ตลาดเลือกที่จะลากหุ้น Value Stock จำพวก Industrial , Financial, Consumer ขึ้น แทนที่จะเป็นฝั่ง Growth Stock อย่าง Tech

    ซึ่งในมุมของนักลงทุนส่วนหนึ่ง ก็เฝ้ามองกันอยู่ว่า ขาขึ้นรอบนี้มันหลอกเรารึเปล่า เพราะลากหุ้นอยู่แค่ไม่กี่ตัวในกลุ่มเทคฯขึ้นมา

    การที่ตลาดเลือกลากหุ้น Value ขึ้นตามในรอบนี้ ก็ตีความได้สองทาง คือ 1. หุ้นเทคแพงไปแล้ว ไปเอาตัวอื่นบ้าง เพราะมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะฟื้นได้ หรือไม่ก็ 2. เป็นพวก Short Covering หรือกองแช่ง (ผมก็เคยอยู่ camp นั้น) ที่ยอมมอบตัวแล้วซื้อหุ้นกลับ

    สัญญาณที่เหมือนจะยืนยันว่า อยู่ในภาวะ Risk On อีกตัว ก็หันมามองที่ทองคำนี่ละครับ เพราะช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา วิ่งพร้อมหุ้นได้จาก คนไม่แน่ใจว่าจะขึ้นจริง ก็เลือกกระจายความเสี่ยงเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ก่อน

    แต่การร่วงของทองที่หลุด $1,700 รอบนี้ ถ้ากลับมายืนไม่ได้ภายในวันศุกร์ ก็บอกได้เลยว่า "เจ้ามือ" เขาอยากให้หุ้นขึ้น

    ส่วน Fundamental GDP จะติดลบขนาดไหน, อัตราว่างงานจะสูงปรี๊ดอีกนานเท่าไหร่, เพดาน QE จะพุ่งไปถึงดวงจันทร์หรือเปล่า ... ก็ต้องบอกว่า ตลาดไม่แคร์ครับ

    คราวนี้ก็อยู่ที่เราแล้วละ ว่าจะแคร์หรือเปล่า?

    หรืออยู่ดีๆตลาดกลับมาแคร์เรื่องพวกนี้ ผมว่ามันก็มีสิทธินะ การเคลื่อนไหวของตลาดมันชี้นำเหตุผลได้

    ลงทุนด้วยความระมัดระวัง และงงๆหน่อยนะครับช่วงนี้

    Mr.Messenger รายงาน

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ด่วน! ศาลล้มละลาย รับฟื้นฟู “การบินไทย” พักชำระหนี้ทันที

    ด่วน! ศาลล้มละลายรับฟื้นฟู “การบินไทย” เเล้วได้พักการชําระหนี้ (automatic stay) ทันที นัดไต่สวน 17 ส.ค. หากเจ้าหนี้คัดค้าน ยื่นก่อนนัดไต่สวน 3 วัน

    เมื่อช่วงเช้า วันที่ 27 พ.ค. ที่ศาลล้มละลายกลาง ถนนเเจ้งวัฒนะ ศาลได้มีคำสั่งคดีดำ ฟฟ 10/2563 ในคำร้องขอฟื้นฟู ที่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเดินทางมายื่นคำร้องขอทำแผนฟื้นฟูกิจการ เพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมาโดยเเนบเอกสารท้ายฟ้องจำนวน 1 ปึก

    ในวันนี้ ศาลพิจารณาเเล้วมีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ เเละนัดไต่สวนวันที่ 17 ส.ค.เวลา 9.00 น.เเละให้ประกาศคำสั่งรับคำร้องขอ และวันเวลานัดไต่สวนในหนังสือพิมพ์รายวันที่แพร่หลายอย่างน้อยหนึ่งฉบับไม่น้อยกว่าสองครั้งห่างกัน ไม่เกิน 7 วัน

    กับให้ส่งสำเนาคำร้องขอแก่เจ้าหนี้ทั้งหลายตามบัญชีรายชื่อเจ้าหนี้และแก่นายทะเบียนหุ้นส่วน บริษัท หรือนายทะเบียนนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง กรมบังคับคดี และให้ส่งให้แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตามมาตรา 90/9 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483

    และให้ประกาศวันเวลานัดไต่สวนโดยวิธีลงโฆษณาทางสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศอีกทางหนึ่งหากเจ้าหนี้ประสงค์คัดค้านให้ยื่นคำคัดค้านก่อนวันนัดไต่สวนนัดแรกไม่น้อยกว่า3วันมิฉะนั้นถือว่าไม่คัดค้าน



    The post ด่วน! ศาลล้มละลาย รับฟื้นฟู “การบินไทย” พักชำระหนี้ทันที appeared first on ข่าวสด.

    Source : #Khaosod #KhaosodOnline #ข่าวสด

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บราซิลตายเป็นพัน ติดโควิดอีกกว่า 1.6 หมื่น ชี้อาจทะลุ 1.25 แสนศพ ต้นส.ค.
    บราซิลวิกฤติหนัก พบผู้เสียชีวิตด้วยโควิด วันเดียวกว่าพันศพ ติดเชื้อเพิ่มกว่า 1.6 หมื่น ม.วอชิงตันชี้เหยื่อโควิดอาจทะลุกว่า 1.25 แสนศพในอีกสองเดือนข้างหน้า เมื่อถึงต้นสิงหาคม
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผวาออสเตรเลียยอดพุ่งอีกเมื่อพบติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อน

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    0 จ้า ไม่ต้องสงสัย เหลือผู้ป่วยแค่ 15 ราย แต่ยังคงยืนยันเปิดตุลาคมเหมือนเดิม ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลง รายละเอียดปลีกย่อยแต่ละขั้นออกมาเพิ่ม แอดจะมารายงานให้ทราบนะคะ

    วันนี้รายงานช้าหน่อย มัวแต่ทำครัว‍ทำความสะอาดเป็นแจ๋วเลย

    ยอดสะสม 441

    เสียชีวิตรวม 7

    หายดี 419

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พิษโควิด‼️ โรงแรมMadarin oriental Taipei ปิดให้บริการห้องพักชั่วคราว เริ่ม 1 มิ.ยนี้

    พิษโควิดทำธุรกิจทั่วโลกหยุดชะงัก หลายธุรกิจถดถอย บางรายถึงกับล้มละลายจนต้องเลิกกิจการ ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวอ่วมหนักทุกราย และล่าสุดที่เป็นข่าวเมื่อสักครู่คือ

    โรงแรมหรูหราห้าดาวที่โด่งดังทั่วโลกอย่างแมดารินโอเร็นเตล ไทเป ก็ยื้อไม่อยู่ เนื่องจากไม่มีการจองห้องพักมาเนิ่นนาน เดิมทีลูกค้าส่วนใหญ่นอกจากลูกค้าปลีกชาวไต้หวันเอง ก็มักจะเป็นชาวฮ่องกง เกาหลี และจีน แต่เมื่อเกิดโควิด การท่องเที่ยวหยุดชะงัก โรงแรมเล็กๆจนไปถึงใหญ่ล้วนต่างเริ่มปิดตัวชั่วคราว บางรายโรงแรมเก่าแก่ถึงกับต้องปิดกิจการอย่างถาวร

    วันนี้ โรงแรมแมนดาริน โอเร็นเตล ไทเป ได้ประกาศทางการออกมาว่า ตั้งแต่ 1 มิถุนายนนี้ ขอปิดให้บริการฝ่ายห้องพักชั่วคราวไม่มีกำหนด แต่ในส่วนพื้นที่ห้องอาหาร บาร์ และห้องเลี้ยงงานแต่ง ยังคงเปิดให้บริการปกติ

    การปิดบริการในส่วนของห้องพักนั้นทำให้ต้องมีการจัดการด้านบุคคลากรมากกว่าครึ่ง บางรายย้ายถ่ายโอนไปแห่งอื่น แต่ส่วนใหญ่คาดว่าจะถูกไล่ออก เพราะจากการสัมภาษณ์ฝ่ายโรงแรมได้พูดถึงว่ามีการปรับโครงสร้างพนักงานใหม่ และเป็นที่น่าเสียดายที่เราต้องเสียบุคคลากรดีๆของเราจำนวนมาก

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วาทะเด็ด 'สี จิ้นผิง' จากการประชุมครั้งสำคัญของจีน
    .
    1/ ศุกร์ที่ 22 และเสาร์ที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา สี จิ้นผิง ผู้นำจีน เข้าร่วมการประชุมครั้งสำคัญ นั่นคือ การประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน ชุดที่ 13 ครั้งที่ 3
    .
    2/ ปกติการประชุมจะต้องจัดขึ้นในเดือนมีนาคม แต่เนื่องจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้การประชุมจำต้องเลื่อนออกไปราว 2 เดือน
    .
    3/ การประชุมทั้ง 2 วันเป็นที่จับตามองของชาวจีนและชาวโลก เพราะนโยบายที่ออกมาจากการประชุมจะมีผลอย่างสำคัญต่ออนาคตจีนและอนาคตโลก
    .
    4/ แม้ว่าการประชุมจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่วาทะของสี จิ้นผิง ที่กล่าวไว้ในที่ประชุม ยังคงเป็นที่กล่าวถึงและประทับใจชาวจีน โดยเฉพาะในประเด็นวิกฤตโควิด-19 และเศรษฐกิจของจีนหลังวิกฤตโควิด
    .
    5/ 23 พ.ค. สี จิ้นผิง เข้าร่วมการพิจารณาตรวจสอบรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลกับคณะผู้แทนจากมณฑลหูเป่ย
    .
    6/ สี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนทั่วทั้งประเทศยังต้องเสริมการเฝ้าติดตาม เตือนภัย และรับมือกับภาวะฉุกเฉินของโรคระบาดต่อไป อีกทั้งยังต้องปรับปรุงระบบช่วยชีวิตและรักษาผู้ป่วยให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นและต่อเนื่อง
    .
    7/ สี จิ้นผิง ย้ำ 'แม้จะเล็กเท่ารูเข็ม ก็มิอาจนิ่งนอนใจ ต้องเฝ้าระวังไวรัสโควิดอย่างต่อเนื่อง'
    .
    8/ บ่ายวันที่ 22 พ.ค. สี จิ้นผิง เข้าร่วมการอภิปรายของสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนจากเขตมองโกเลียใน ในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ชุดที่ 13 ครั้งที่ 3
    .
    9/ หลังรับฟังความเห็นของบรรดาสมาชิก สี จิ้นผิง กล่าวต่อที่ประชุม มีใจความสำคัญว่า...
    .
    -ประชาชนเป็นรากฐานของพรรคคอมมิวนิสต์จีน สายเลือดของพรรค อยู่กับประชาชน พรรคต้องยืนหยัดแนวคิดการพัฒนา ที่ถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง
    .
    -ไม่ว่าจะเผชิญกับความท้าทายใหญ่หลวงเพียงไรและแบกรับแรงกดดันหนักเท่าใด ไม่ว่าจะต้องเสียสละมากแค่ไหนหรือสูญเสียต้นทุนไปเท่าไหร่ พรรคจะรักษาแนวคิดสำคัญนี้ไว้และไม่สั่นคลอนโดยเด็ดขาด
    .
    -ประชาชนจีนสำคัญที่สุด ชีวิตมีค่าสูงกว่าทุกสิ่ง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและสุขภาพของประชาชน พรรคยอมนำทุกสิ่งทุกอย่างไปแลกได้
    .
    10/ ในการประชุมกับคณะผู้แทนของเขตปกครองมองโกเลียใน สี จิ้นผิงกล่าว ‘จีนจะไม่ใช้ GDP เป็นพระเอก’
    .
    11/ เพราะหากไม่มีการระบาดของไวรัสโควิด เป้าหมายการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนปีนี้คือ ราว 6% แต่ไวรัสโควิดทำให้เศรษฐกิจโลกเผชิญความไม่แน่นอน จีนจึงงดตั้งเป้าหมาย GDP ของปีนี้
    .
    12/ นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี ที่จีนไม่ประกาศเป้าหมายการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ สะท้อนถึงผลกระทบอย่างหนักหน่วงจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
    .
    13/ ถึงแม้รัฐบาลจีนไม่ประกาศเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า ผลกระทบจากโควิด-19 จะทำให้จีนมีขยายตัวเศรษฐกิจเพียงแค่ 1.2% ในปีนี้ เป็นระดับต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์
    .
    14/ สี จิ้นผิง กล่าว จีนกำลังจะเผชิญหน้ากับเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยอย่างหนัก การค้าและการลงทุนลดลง ตลาดการเงินโลกปั่นป่วน การติดต่อระหว่างประเทศถูกจำกัด
    .
    15/ บางประเทศกำลังใช้การปกป้องทางการค้า และถือตัวเองเป็นใหญ่ ทำให้การเมืองโลกเผชิญความเสี่ยงอย่างมาก จีนต้องค้นหาโอกาสจากวิกฤต ท่ามกลางภาวะโลกที่ไม่แน่นอน
    .
    16/ สี จิ้นผิงยอมรับว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างที่ถูกซ้ำเติมด้วยวิกฤตโควิด แต่จีนยังโชคดีที่มีโครงสร้างอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และกำลังการผลิตที่มากที่สุดในโลก
    .
    17/ จีนมีตลาดในประเทศขนาดใหญ่ด้วยพลังผู้บริโภคกว่า 1,400 ล้านคน มีผู้ที่จบการศึกษาระดับสูง มีทักษะทางวิชาชีพกว่า170 ล้านคน
    .
    18/ จีนกำลังเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมใหม่ ยุคสารสนเทศ เกษตรกรรมสมัยใหม่ การพัฒนาที่รุดหน้า จีนจึงมีความต้องการด้านการลงทุนมหาศาล
    .
    19/ การระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ทำให้จีนเผชิญกับปัจจัยที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาประเทศ แต่รัฐบาลจีนจะยังคงตั้งเป้าหมายเพิ่มงานใหม่มากกว่า 9 ล้านตำแหน่ง ตรึงอัตราการว่างงานให้อยู่ที่ร้อยละ 6 (ปีที่แล้ว อยู่ที่ร้อยละ 5.5)
    .
    20/ นอกจากนี้ จีนยืนยันเป้าหมาย ‘ขจัดความยากจน’ ในกลุ่มประชาชนชนบท รัฐบาลจีนจะรับประกันราคาธัญพืช และสินค้าการเกษตรที่สำคัญให้เกษตรกร
    .

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไขข้อข้องใจ ‘พ.ร.ก.กู้เงิน’ 1 ล้านล้าน กู้แล้วไปไหน ประชาชนต้องรับหนี้ด้วยไหม?
    750x422_882530_1590570474.jpg
    27 พฤษภาคม 2563 | โดย ทีมกรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    เปิดรายละเอียด "พ.ร.ก.กู้เงิน" 1 ล้านล้านของรัฐบาล "พล.อ.ประยุทธ์" กู้ไปทำอะไรบ้าง แล้วหนี้สาธารณะ ที่กลายเป็นภาระของประชาชนจริงหรือไม่

    การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 มีการพิจารณาวาระเรื่องสำคัญของ พ.ร.ก.เยียวยาผลกระทบจาก COVID-19 ทั้งหมด 3 ฉบับ วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท ประกอบไปด้วย พ.ร.ก. 3 ฉบับ ได้แก่

    1. พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อการเยียวยาและดูแลเศรษฐกิจ วงเงิน 1 ล้านล้านบาท
    2. พ.ร.ก.ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทยออก Soft Loan เพื่อดูแลภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs วงเงิน 5 แสนล้านบาท
    3. พ.ร.ก.ดูแลเสถียรภาพภาคการเงิน วงเงิน 4 แสนล้านบาท

    “กรุงเทพธุรกิจ” พาไปไขข้อข้องใจกรณี "พ.ร.ก.กู้เงินวงเงิน 1 ล้านล้านบาท" ที่รัฐบาลจะกู้ยืมจากหลายเครื่องมือทางการเงิน ซึ่งหลายคนแสดงความกังวลว่า เงินกู้เหล่านี้จะกลายเป็นภาระที่หนักอึ้งของประชาชนในระยะยาวหลังจากการช่วยเหลือเยียวยาจบลง เพราะการกู้เงินของรัฐบาล คือการกู้เงินของประเทศ ที่จะเป็น "หนี้สาธารณะ" ซึ่งเท่ากับว่าเป็นหนี้ของทุกคนในชาติ


    • รัฐกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท มาจากไหน?
    รัฐบาลมีเครื่องมือในการกู้เงินทั้งเครื่องมือระยะยาว เช่น การขายพันธบัตร ตั้งแต่อายุ 5-50 ปีให้นักลงทุนสถาบัน การขายพันธบัตรออมทรัพย์ให้ประชาชน การกู้จากองค์การระหว่างประเทศหรือสถาบันการเงินระหว่างประเทศ และเครื่องมือระยะสั้น เช่น การออกตั๋วเงินคลัง การกู้เงินผ่านสถาบันการเงินในรูป PN หรือ Term loan ซึ่งภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทนี้ ก็จะกระจายการกู้เงินไม่ให้กระจุกตัวอยู่ในเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งเป็นการเฉพาะ


    • หนี้สาธารณะ เกี่ยวกับประชาชนอย่างไร
    สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ให้ความหมายของ “หนี้สาธารณะ” หมายถึง การกู้ยืมเงินของรัฐบาลเมื่อรัฐบาลมีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย จึงจําเป็นต้องกู้เงินมาใช้จ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลของประเทศกําลังพัฒนา แต่เดิมเรามักมีความรู้สึกเกี่ยวกับการก่อหนี้ยืมสินไปในทางที่ไม่ดี ครัวเรือนใดมีหนี้สินล้นพ้นตัวแสดงว่าฐานะการเงินไม่ดี สังคมอาจไม่ยอมรับนับถือ ประเทศใดมีหนี้สินอยู่มากแสดงว่าฐานะทางเศรษฐกิจไม่มั่นคงและอาจจะล้มละลายได้

    ปัจจุบัน แนวความคิดเหล่านี้เริ่มเปลี่ยนไป ผู้ที่ดําเนินธุรกิจเพียงเท่าที่มีทุนธุรกิจอาจไม่เจริญก้าวหน้า แต่ถ้ากู้เงินธนาคารมาลงทุนขยายกิจการตามโครงการอย่างรอบคอบแล้ว กิจการก็อาจจะเจริญก้าวหน้าจนสามารถชําระหนี้คืนและขยายกิจการให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ประเทศชาติก็ทํานองเดียวกัน รัฐบาลอาจมีความจําเป็นต้องใช้จ่ายเงิน เพื่อพัฒนาประเทศลงทุนสร้างถนนหนทางไฟฟ้า ประปา และพลังงานต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนขยายการลงทุนในกิจการต่างๆ ทําให้ประชาชนมีงานทํา มีรายได้สูงขึ้นเมื่อรายได้ประชาชาติเพิ่มสูงขึ้น รัฐบาลจะสามารถเก็บภาษีเงินได้จากประชาชนเพิ่มขึ้นเพื่อชําระหนี้คืน

    รัฐบาลของประเทศต่างๆ ทั้งที่พัฒนาแล้ว และกําลังพัฒนาต่างก็มีหนี้สาธารณะอยู่เป็นจํานวนไม่น้อย หนี้สาธารณะนี้เราจะมองได้ทั้ง 2 ด้าน คือเมื่อรัฐบาลยืมเงินเข้ามาก็จัดเป็นรายรับของรัฐบาลทางหนึ่ง และเมื่อหนี้ถึงกําหนดชําระรัฐบาลก็ต้องตั้งเป็นงบประมาณรายจ่ายเพื่อชําระหนี้การก่อหนี้สาธารณะของรัฐบาลจึงมีผลต่อเศรษฐกิจส่วนรวมของประเทศ



    • สถานะหนี้สาธารณะของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร หลังกู้เงิน 1 ล้านล้าน
    สถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 ของประเทศไทย มีจํานวน 7,018,731.44 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 41.28 ของ GDP โดยแบ่งเป็นหนี้รัฐบาล 5,807,898.90 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจ 887,573.08 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ทําธุรกิจในภาคการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 315,231.04 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 8,028.42 ล้านบาท

    159057277878.png


    หากถามว่า เมื่อกู้ครบ 1 ล้านล้านบาทแล้ว สภาวะหนี้ของรัฐบาลจะเป็นอย่างไรต่อไป แพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวเกี่ยวกับ พ.ร.ก.กู้เงินของรัฐบาลในครั้งนี้ไว้ว่า

    จากการประมาณการ หากต้องกู้เงินครบ 1 ล้านล้านบาท ภายใน 30 กันยายน 2564 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่จะสามารถกู้ได้ตามพ.ร.ก. ฉบับนี้ คาดว่าหนี้สาธารณะของไทย ณ 30 กันยายน 2564 จะอยู่ที่ 57.96% ของ GDP ซึ่งยังอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังที่ประกาศกำหนด Debt/GDP ไว้ที่ 60%

    อย่างไรก็ดี Debt/GDP ที่ระดับ 60% นี้ เป็นระดับหนี้พึงมีในสภาวการณ์เศรษฐกิจที่ปกติ แต่ในสภาวการณ์ที่ไม่ปกติ หากมีความจำเป็นต้องมีเงินเพื่อดูแลประชาชนและเศรษฐกิจเพื่อให้เดินต่อไปได้ และสามารถกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และอาจทำให้หนี้สาธารณะเกินระดับ 60% ไปบ้างก็ไม่ใช่เรื่องที่โลกจะถล่ม ประเทศจะทลาย ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจกลับมาเจริญเติบโต สัดส่วนดังกล่าวก็จะกลับมาอยู่ในภาวะปกติ

    สมัยวิกฤติต้มยำกุ้ง เป็นช่วงที่หนี้สาธารณะสูงที่สุด คือ 59.9% และเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นประกอบกับการมีวินัยในเรื่องหนี้ที่ดี ทำให้ในปัจจุบัน หนี้สาธารณะอยู่ในระดับเพียง 41.4% ของ GDP



    • 1 ล้านล้าน เมื่อไหร่จะใช้หมด?
    อายุเฉลี่ยของหนี้สาธารณะในปัจจุบันอยู่ที่ 10 ปีกว่าๆ โดยหนี้ที่อายุยาวที่สุดคืออายุ 50 ปี ทั้งนี้ ในการชำระหนี้ รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณเพื่อชำระหนี้ไว้ในงบประมาณทุกปี ซึ่งจากการศึกษาพบว่าอัตราการชำระหนี้ที่เหมาะสมในแต่ละปี ควรจะจัดสรรงบประมาณไม่ต่ำกว่า 3% ของงบประมาณทั้งหมดเพื่อใช้ในการชำระเงินต้น

    ดังนั้นการจะตอบว่าประเทศไทยจะชำระหนี้ก้อนนี้หมดเมื่อไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย คงไม่สามารถตอบเป็นจำนวนปีที่ชัดเจนได้ อย่างไรก็ดี หากเศรษฐกิจดี ประเทศไทยจัดเก็บรายได้ได้มากขึ้น และได้รับการจัดสรรงบชำระหนี้อย่างเหมาะสม จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยทำให้ชำระหนี้ก้อนนี้ให้หมดได้เร็วขึ้น

    https://www.bangkokbiznews.com/news...cations&utm_campaign=1&utm_content=&utm_term=
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2020
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สถานทูตไทยในมาเลฯ แจ้งปิดด่านปาดังเบซาร์ 3 วันพลเมืองกลับไทยให้ใช้ด่านสะเดาแทน

    &w=500&h=261&url=https%3A%2F%2Fspcdn.springnews.co.th%2Fwp-content%2Fuploads%2F2020%2F05%2Fmalay.jpg

    สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้แจ้งข่าวการปิดด่านปาดังเบซาร์ ในฝั่งมาเลเซีย (รัฐเปอร์ลิส) เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ ทำให้ด่านปาดังเบซาร์ฝั่งไทยต้องปิดด้วยเช่นกัน และเจ้าหน้าที่ไทยจำเป็นต้องงดอำนวยความสะดวกให้คนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศที่ด่านปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 28-30 พ.ค.63 รวม 3 วันทำการ จากนั้นจะเริ่มอำนวยความสะดวกให้คนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศอีกครั้งที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.เป็นต้นไป
    ในการนี้จึงขอให้คนไทยที่ลงทะเบียนและได้รับหนังสือรับรองเพื่อเดินทางกลับเข้าไทยที่ด่านปาดังเบซาร์ ระหว่างวันที่ 28-30 พ.ค.63 ใช้หนังสือรับรองฉบับเดิมเดินทางกลับเข้าไทยที่ด่านสะเดาในวันที่ 31 พ.ค.แทน โดยไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่ ส่วนผู้ใดที่ขอใบรับรองแพทย์ไว้แล้ว และจะมีอายุเกิน 72 ชั่วโมงก่อนถึงวันที่ 31 พ.ค. สามารถขอใบรับรองแพทย์ใหม่ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ดังนี้
    1. ในวันศุกร์ที่ 29 พ.ค. ระหว่างเวลา 09.00-13.00 น. ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์
    2. ในวันศุกร์ที่ 29 พ.ค. ระหว่างเวลา 09.00-12.00 น. ที่ร้านอาหาร Chokdee Thai Restaurant เมืองยะโฮร์บารู (จุดขึ้นรถบัสของสถานเอกอัครราชทูตฯ)
    สำหรับคนไทยที่มีหนังสือรับรองการเดินทางกลับเข้าประเทศที่ด่านอื่นๆ ได้แก่ ด่านท่าเรือตำมะลัง ด่านวังประจัน จ.สตูล ด่านเบตง จ.ยะลา และด่านสุไหงโกลก จ.นราธิวาส ยังคงใช้เอกสารและเวลาการเดินทางเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
    การแจ้งเปลี่ยนแปลงกำหนดการเดินทางและจุดผ่านแดนสำหรับเข้าประเทศไทยครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 พ.ค. มีนักศึกษาไทยจำนวน 39 รายเดินทางกลับจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ผ่านช่องทางด่านถาวรปาดังเบซาร์ ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย และพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 6 ราย ทำให้ทางการมาเลเซียสั่งปิดด่าน ขณะที่ฝั่งไทย นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ก็ได้ออกคำสั่งปิดด่านปาดังเบซาร์ ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.เป็นต้นไป และแจ้งเปลี่ยนจุดผ่านแดนถาวรในพื้นที่ จ.สงขลา สำหรับคนไทยเดินทางกลับสู่ราชอาณาจักร เป็นจุดผ่านแดนถาวรสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.เป็นต้นไป
    จริงๆ แล้วจุดผ่านแดนถาวรสะเดา ถูกเลือกให้เป็นช่องทางหลักในการรับคนไทยกลับจากประเทศมาเลเซียอยู่แล้ว ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.63 ที่รัฐบาลอนุญาตให้คนไทยตกค้างกลับเข้าราชอาณาจักรได้เป็นกรณีพิเศษแบบจำกัดจำนวน แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สะเดา ติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ผู้ว่าฯสงขลาสั่งปิดด่านเมื่อวันที่ 22 เม.ย.63 และย้ายช่องทางข้ามแดนของคนไทยจากมาเลเซียไปที่ด่านปาดังเบซาร์แทน แต่สุดท้ายก็มีผู้ติดเชื้อโควิดเดินทางเข้าประเทศจนต้องสั่งปิดด่านอีกรอบ และกลับมาใช้ด่านสะเดาเช่นเดิม (อ่านประกอบ : โควิดทำพิษกัก 144 ชีวิตต้องปิดด่านสะเดา คนไทยข้ามแดนย้ายไปปาดังเบซาร์)
    สำหรับนักศึกษาไทยจากซาอุดิอาระเบีย เดินทางข้ามจากมาเลเซียเข้าไทยผ่านด่านปาดังเบซาร์ เมื่อวันที่ 25 พ.ค. จำนวน 39 คน และพบติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 6 คน ในจำนวนนี้มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ปัตตานี 1 คน จ.ยะลา 1 คน และ จ.นราธิวาส 1 คน จึงส่งต่อไปยังจังหวัดภูมิลำเนาของแต่ละคน ส่วนสงขลารับดูแล 3 คน เป็นชาวสงขลา 2 คน และผู้มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดภาคใต้อีก 1 คน (อ่านประกอบ : 2 ใน 5 นศ.ไทยจากซาอุฯติดโควิด มีภูมิลำเนาปัตตานี-ยะลา)
    การที่นักศึกษาจากซาอุฯ ที่ติดเชื้อโควิด-19 มีภูมิลำเนาอยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จังหวัดละ 1 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันของแต่ละจังหวัดเพิ่มขึ้นจังหวัดละ 1 คนด้วยเช่นกัน โดยในส่วนของ จ.นราธิวาส มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมเพิ่มเป็น 41 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นชายอายุ 33 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.รือเสาะ เพิ่งเดินทางกลับมาจากเมืองริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยกลับถึง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 25 พ.ค.
    เจ้าหน้าที่ได้นำชายคนนี้เข้ากักตัวที่ศูนย์กักกัน (Local Quarantine) ซึ่งตั้งอยู่ภายในสนามกีฬาของสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา บริเวณศูนย์ราชการ อ.เมือง จ.นราธิวาส และตรวจยืนยันว่าพบเชื้อโควิด-19 ซึ่งล่าสุดขณะนี้ได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยรายใหม่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกัลยาณิวัฒนาการุณย์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนามของมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์แล้ว
    สำหรับผู้ป่วยยืนยันของ จ.นราธิวาส ทั้งหมด 41 ราย รักษาหายแล้วจำนวน 36 ราย เสียชีวิต 1 ราย นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม 1 ราย และโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ 3 ราย
    ข้อมูลจาก : กงสุลไทย กัวลาลัมเปอร์
    The post สถานทูตไทยในมาเลฯ แจ้งปิดด่านปาดังเบซาร์ 3 วันพลเมืองกลับไทยให้ใช้ด่านสะเดาแทน appeared first on SpringNews.
    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

    https://www.springnews.co.th/global/671510
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คัดข่าว

    =https%3A%2F%2Fcdn.cnn.com%2Fcnnnext%2Fdam%2Fassets%2F200526151559-renault-cars-0525-super-tease.jpg

    ฝรั่งเศสพยุงอุตสาหกรรมยานยนต์ประเทศ
    .
    ประธานาธิบดีฝรั่งเศส Emmanuel Macron ประกาศมอบเงินช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศจำนวน 8.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ( 26 400 ล้านบาท)
    โดยอุตสาหกรรมยานยนต์ฝรั่งเศสย่ำแย่ลงมากตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด 19 โดยมียอดตกลงถึง 80 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน และมีรถใหม่ค้างสต๊อคขายไม่ออกกว่า 4 แสนคัน

    https://t.co/rP8OiJouhR?fbclid=IwAR1SVdPd0Z_AhpDUsGyC1YOljaB8TfLHWHCiLByWedrgll9VjDC61_XXPpI
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในสหรัฐฯ ทะลุ 100,000 คน ในวันพุธ (27 พ.ค.) แม้ยอดตายเฉลี่ยรายวันลดลง ส่วนภาคธุรกิจกลับมาเปิดทำการ และรัฐต่างๆ ทั่วประเทศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000055392

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คอร์รัปชันสูงลิ่ว
    กักตุนหน้ากาก - โกงงบภัยพิบัติ
    ซ้ำเติมวิกฤต ‘โควิด-19’ ละตินอเมริกา
    .
    .
    หลังจากที่องค์การอนามัยโลกออกมาประกาศว่า “ละตินอเมริกา” เป็นศูนย์กลางการระบาดใหม่ของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 จากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พุ่งทะยานไม่หยุด ในหัวงเวลาที่ศูนย์กลางการระบาดเดิมอย่างยุโรปสงบลง
    .
    ที่ต่างกัน “สุดขั้ว” กับยุโรปก็คือประเทศแถบนี้ส่วนใหญ่เป็นประเทศยากจน คุณภาพชีวิตประชากรไม่ได้ดีนัก แต่กลับเจอวิกฤตที่ใหญ่หลวง ไม่ว่าจะเป็น เม็กซิโก โคลอมเบีย เปรู ชิลิ เวเนซุเอลา บราซิล เอกวาดอร์ ล้วนประสบปัญหาแบบเดียวกันหมด คือมีผู้ติดเชื้อ “ล้นทะลัก” เกินกว่าขีดความสามารถที่โรงพยาบาลจะรับได้ มิหนำซ้ำการ “ล็อคดาวน์” ก็ยังซ้ำเติมประชาชนที่ยากจนอยู่แล้ว ให้ลำบากยากแค้นกว่าเดิมอีก
    .
    ยกตัวอย่างเช่นใน “เปรู” ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อถึง 1.2 แสนคน และมีผู้เสียชีวิต 3,788 คนนั้น แม้ประธานาธิบดี มาร์ติน วิซคาร์รา จะ “ทำถูก” มาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน การล็อคดาวน์สถานที่ – ห้ามจัดกิจกรรมหมู่ หรือการบังคับให้ทุกคนที่มาจากต่างประเทศต้องเข้าสถานที่ควบคุมโรคของรัฐ แต่ความ “ยากจน” ซึ่งตัวเลขล่าสุดระบุว่ามีครอบครัวเปรูเพียง 49% เท่านั้น ที่มี “ตู้เย็น” ที่บ้าน ก็ทำให้ชาวเปรู หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ต้องออกนอกบ้านมาหาข้าวกิน หาเลี้ยงชีพ ทำให้ติดเชื้อกันเป็นวงกว้าง เมื่อไม่สามารถหาหน้ากากอนามัย และไม่สามารถเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing ได้
    .
    ปัญหาอีกอย่างที่ซ้ำเติมสถานการณ์โรคระบาดในละตินอเมริกาให้แย่ไปกว่าเดิม ก็คือการ “คอร์รัปชัน” หลายประเทศแถบนี้ “ขึ้นชื่อ” อยู่แล้วว่ามีการฉ้อราษฎร์บังหลวงของเจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับ เริ่มตั้งแต่รัฐบาลท้องถิ่น ตำรวจ ทหาร ไปจนถึงรัฐบาลกลาง
    .
    เมื่อมี “สถานการณ์ฉุกเฉิน” ซึ่งให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐอย่างเต็มที่ สิ่งที่ตามมาก็คือการจัดซื้อสิ่งของหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น หน้ากาก เครื่องช่วยหายใจ ชุด PPE และอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ ล้วนมีการหัก “หัวคิว” ตลอดทาง เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเอี่ยวกับบริษัทจัดหาอุปกรณ์ กลายเป็น “พ่อค้าคนกลาง” จนมีหลายคนที่ “ร่ำรวย” จากการจำหน่ายอุปกรณ์หายากเหล่านี้
    .
    วันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา ที่บราซิล ตำรวจในรีโอ เดจาเนโร เมืองใหญ่ของบราซิล บุกบ้านของผู้ว่าการรัฐ วิลสัน วิทเซล หลังถูกกล่าวหาว่าเขาพัวพันกับการทุจริตงบประมาณฉุกเฉินกว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 460 ล้านบาท) ในการจัดสร้างโรงพยาบาลสนาม
    .
    อย่างไรก็ตาม วิทเซล นั้นเป็นศัตรูตัวฉกาจของ ประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนารู ที่วิพากษ์ประธานาธิบดีมาตลอดว่าจัดการล่าช้า นั่นทำให้วิทเซล ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการคอร์รัปชันทั้งหมด และยืนยันว่าการที่ตำรวจบุกบ้านเขานั้น เป็นการ “กำจัด” ศัตรูทางการเมืองของประธานาธิบดี
    .
    ส่วนในโคลอมเบีย ผู้ว่าการรัฐ 14 คน จาก 32 คน อยู่ภายใต้การสอบสวนว่าเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อเวชภัณฑ์ “วิธีพิเศษ” ไม่ผ่านการประมูล และในบัวโนส ไอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินา อัยการ กำลังอยู่ในระหว่างทำคดีทุจริตจัดซื้อหน้ากาก N95 หมดอายุ มากกว่า 1.5 หมื่นชิ้น ซึ่งแพงกว่าราคาปกติถึง 10 เท่า ที่สำคัญก็คือหน้ากากเหล่านั้น เป็นหน้ากากที่ “หมดอายุ” แล้วด้วย
    .
    เรื่องอื้อฉาวที่สุด เกิดขึ้นที่ประเทศโบลิเวีย เมื่อ รมว.สาธารณสุข ถูกจับ ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าซื้อเครื่องช่วยหายใจ 170 เครื่อง ในราคาสูงถึงเครื่องละ 2.8 หมื่นเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8.92 แสนบาท) ทั้งที่ราคาจริง อยู่ที่เครื่องละ 6,500 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.07 แสนบาท) เท่านั้น ขณะเดียวกัน เครื่องดังกล่าว ยังถูก “จับโป๊ะ” ได้ทีหลังอีกด้วยว่า ไม่เหมาะกับสภาพการใช้งานจริง
    .
    ขณะที่ โรเบอโต เดอ มิเชล ผู้เชี่ยวชาญด้านความโปร่งใส ประจำธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งสหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว AP ระบุว่า โดยปกติ 10 – 25% ของงบประมาณด้านสาธารณสุขของประเทศแถบนี้ “หล่นหาย” ระหว่างทางจากการคอร์รัปชันอยู่แล้ว และยิ่งมีภัยพิบัติ ที่ต้องเร่ง “เบิกจ่าย” และมีอุปกรณ์บางอย่างขาดแคลน หาซื้อไม่ได้ แม้จะมีเงิน รวมถึงรัฐใช้วิธีแก้ โดยใช้กลไกของรัฐ เข้าไปจัดซื้อ จัดหา แทนกลไกปกติ ยิ่งเปิดโอกาสให้มีการทุจริตสูง
    .
    การสำรวจล่าสุดโดยองค์กรความโปร่งใสสากล พบว่า ละตินอเมริกา เป็นภูมิภาคที่มีการคอร์รัปชันสูงที่สุดติดดอันดับโลก 1 ใน 5 ของประชากรที่สำรวจ ยอมรับว่าจ่าย “สินบน”" ให้กับเจ้าหน้าที่รัฐตลอดปีที่ผ่านมา และยังมีการคอร์รัปชันโดยเจ้าหน้าที่รัฐเรียก “เงินทอน” จากงบประมาณอาหารกลางวันเด็ก ขณะที่ข่าวการจับกุม “กระเป๋าเอกสาร” ที่เต็มไปด้วยเงินสด และข่าวโยกย้าย “คนรัก” หรือ “ชู้รัก” ไว้ในตำแหน่งงานที่ “สบายกว่า” จากผู้มีอำนาจ ปรากฏอยู่บ่อยครั้งในทีวี
    .
    อย่างไรก็ตาม โรเบอโต ยังเชื่อว่า “กระแสสังคม” จะกดดันให้นักการเมือง และเจ้าหน้าที่รัฐเหล่านี้ “ระวังตัว” มากขึ้น หลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในบราซิล เมื่อ 4 ปีก่อน เมื่อนักธุรกิจบราซิล ยอมรับว่าจ่าย “ส่วย” ให้กับผู้นำทั่วละตินอเมริกา มากกว่า 788 ล้านเหรียญ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา (ประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท) นำไปสู่การจับกุมอดีตประธานาธิบดีเปรู และอดีตประธานาธิบดีบราซิล
    .
    เขายังยกตัวอย่าง ปารากวัย อีกหนึ่งประเทศในอเมริกาใต้ ซึ่งรัฐออก “แพลตฟอร์ม” ให้ประชาชนสามารถเข้าไปตรวจจับการใช้เงินกองทุนฉุกเฉินโควิด – 19 มูลค่า 26 ล้านเหรียญสหรัฐ ว่านำไปใช้กับอะไรบ้าง ซึ่ง รมว.คลัง ระบุว่า จะทำให้ภาคประชาชน ตรวจสอบการใช้เงินของรัฐได้ทุกบาททุกสตางค์
    .
    ทั้งหมดนี้ เราต่างก็รู้ว่าไม่ได้เกิดขึ้นในละตินอเมริกาที่เดียว งบประมาณเงินกู้ที่ใช้เพื่อการจัดการโควิด – 19 ในบางประเทศแถวนี้ กำลัง “หวานหอม” และถูก “รุมทึ้ง” โดยนักการเมือง ข้าราชการ –เจ้าหน้าที่รัฐ เช่นกัน
    .
    น่าเสียดายที่กระบวนการตรวจสอบประเทศแถวนี้ จับได้แต่ปลาซิวปลาสร้อย และปล่อยให้เรื่องเงียบหายเมื่อเวลาผ่านไป หากจะสาวถึง “ตัวใหญ่” ได้ ก็น้อยครั้งมาก...

    #covid19 #โควิด19

    อ้างอิงจาก

    https://edition.cnn.com/2020/05/25/americas/peru-covid-hotspot-why-intl/index.html

    https://apnews.com/a240ff413fb23220aff30c6d6e6aba4c
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    MisterBan

    May 28, 2020 ติดโควิด-19 พุ่งเฉียด 80 คนในวันเดียว เจอหั่นดอกเบี้ยต่ำเตี้ยครั้งประวัติศาสตร์ทันที เศรษฐกิจเกาหลีใต้ไม่ฟื้นชัดเจน
    ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งเกาหลีใต้ KCDC เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 กลับมาพุ่งสูงใน 1 วันครั้งใหม่ เมื่อเวลา 8.30 น.(เวลาไทย) พบผู้ติดโรคโควิด-19 พุ่งขึ้น 79 ราย ซึ่งในจำนวนดังกล่าว 68 รายมาจากกลุ่มพนักงานในศูนย์ธุรกิจโลจิสติกส์ชื่อดังของเกาหลีใต้ที่เมืองพูซอนชี ซึ่งถือว่าเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ ส่วนอีก 11 ราย เป็นการติดเชื้อจากนอกประเทศ นอกจากนี้ นับเป็นการพบจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นมากที่สุดใน 53 วันที่ผ่านมา
    ด้านธนาคารกลางเกาหลีใต้ ประกาศปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นจากเดิมที่ระดับ 0.75% ลงแตะที่ระดับ 0.5% ทำสถิติดอกเบี้ยระยะสั้นต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ของเกาหลีใต้ สาเหตุจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่แพร่ระบาดทั่วโลกและในเกาหลีใต้ สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจเกาหลีใต้ที่ดำดิ่งหนักสุดในรอบ 20 ปี หรือตั้งแต่ปี 1998 นอกจากนี้ ปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้อีกครั้งเหลือ 0.2% จากเดิมที่ปรับลดลงจาก 2.3% เหลือ 2.1% เมื่อเดือนมกราคมปีนี้
    ด้านตลาดส่งออกในเดือนเมษายนตกต่ำอย่างรุนแรง -24.3% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว เหลือเพียง 36,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.22 ล้านบาท ทำให้เกาหลีใต้เกิดภาวะขาดดุลการค้าครั้งแรกในรอบ 99 เดือน
    ทั้งนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ทยอยเปิดภาคเศรษฐกิจ สถานที่สาธารณะ โรงเรียนในช่วงกว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากประสบความสำเร็จในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อเหลือเพียงเลขหลักเดียวต่อวันมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ เศรษฐกิจเกาหลีใต้เคยตกต่ำครั้งรุนแรงถึง -5.5% ในปี 1998 ซึ่งเป็นผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจสถาบันการเงินในเอเชียล่มสลายปี 1997 ที่เกิดขึ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจไทยเป็นประเทศแรก หรือเรียกกันว่า วิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 2540
    #เกาหลีใต้ #โควิด19 #ลดดอกเบี้ย #covid19
    #korea #misterban

    soEf2PgxoOxr9kHrpW4iXEc42Mu5yIh8T2I00WvHzzQA&_nc_ohc=qUIhe1Q41HwAX8i_3zW&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    OkiB8iAMFPb20pEKqA46xVzNP0-M8FECtZ3-QROi60De&_nc_ohc=ZTVqAVUMdrMAX8R17Fc&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    lIWcDBrEIaxIy4pWogXGYO79apVF6lOmYJGJUCohrRHo&_nc_ohc=LOZ2iGYYAMMAX8QCraJ&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    kv6bpM32Ridu0gEWEk8PLyCuuOgrlxxOKdQdfsOXw_IX&_nc_ohc=oj5OH2HitLsAX96U6bY&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ล้างมือแล้ว ควรเช็ดให้แห้งทันทีด้วยกระดาษหรือผ้าสะอาด เพื่อกำจัดและลดการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 เพราะเชื้อโรคจะแพร่กระจายบนพื้นผิวที่เปียกชื้นได้ง่ายกว่าพื้นผิวแห้งค่ะ
    .
    #ล้างมือ #ทำความสะอาด #การแพร่เชื้อไวรัส #การป้องกัน #ไวรัส #Covid19 #โควิด19 #MisterBan

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    MisterBan

    May 28, 2020 บราซิลหยุดไม่อยู่ ติดเชื้อวันเดียวเกือบ 20,000 เม็กซิโกตายเบียดขึ้นอันดับ 9 ของโลก ดันยอดติดโควิด-19 ทั่วโลกไปต่อกว่า 5.7 ล้านคน The Covid-19 infected globally toll surpassed 5.7 million
    เวลา 6.50 น. รายงานสถานการณ์จำนวนผู้ติดโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก เพิ่มเป็น 5,781,606 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรกของโลก คือ สหรัฐอเมริกา 1,745,647 ราย บราซิล 411,821 ราย รัสเซีย 370,680 ราย สเปน 283,849 ราย สหราชอาณาจักร 267,240 ราย อิตาลี 231,139 ราย ฝรั่งเศส 182,913 ราย เยอรมนี 181,895 ราย ตุรกี 159,797 ราย และอินเดีย 158,086 ราย
    สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มเป็น 356,825 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 102,094 ราย สหราชอาณาจักร 37,460 ราย อิตาลี 33,072 ราย ฝรั่งเศส 28,598 ราย สเปน 27,118 ราย บราซิล 25,598 ราย เบลเยียม 9,364 ราย เยอรมนี 8,533 ราย เม็กซิโก 8,134 ราย และอิหร่าน 7,564 ราย
    ในส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อในอาเซียน และเสียชีวิต(ตัวเลขในวงเล็บ) พบว่า สิงคโปร์ 32,876 ราย(23) อินโดนีเซีย 23,851 ราย(1,473) ฟิลิปปินส์ 15,049 ราย(904) มาเลเซีย 7,619 ราย(115) ไทย 3,054 ราย(57) เวียดนาม 327 ราย เมียนมา 206 ราย(6) บรูไน 141 ราย(2) กัมพูชา 124 ราย และลาว 19 ราย
    #ไวรัสโคโรนา #ไวรัสอู่ฮั่น #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 #โรคปอดอักเสบ #ไวรัสโควิด19 #covid19 #Misterban #coronavirus #pneumonia #btimes #money360

    flK94xebtS__HQA3KUSLjwv1R-iRsC2VWGjNbuyv5TTZ&_nc_ohc=Z6OVeWHkOxkAX8J_vFX&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    5BzINIk9hfpTDcIsogd3xFMU6eXGLEh46Mn_eDosbfC0&_nc_ohc=8pDg17MLaoEAX_qEGv8&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    s4xROzSrXf4Bc1CW8VxaJ_FQSzbxW2b5IiwsoYK13VJM&_nc_ohc=akuP9kt5YlcAX9QOXfI&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    r6-c4-pt2vFQ4-vtUu0SOH1nIUVhPJpjjKVZfpK2PB--&_nc_ohc=4X35EghS-mYAX8M-2VP&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    MisterBan

    May 28, 2020 กระทิงดุคึกคักขวิดดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดทะยานกว่า 550 จุด ราคาน้ำมันดิบดิ่งแรงเกือบ 5% ส่งราคาไนเม็กซ์ปิดต่ำกว่า 33 ดอลลาร์ ราคาทองคำตลาดโลกพลิกดิ่งกว่า 13 ดอลลาร์
    เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม(ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 25,548 จุด +553 จุด หรือ +2.21% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,036 จุด +44 จุด หรือ +1.48% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 9,412 จุด +72 จุด หรือ +0.77% สาเหตุจากความคาดหวังในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังการยกเลิก หรือผ่อนคลายภาคธุรกิจต่อเนื่อง ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่กลับเพิ่มขึ้น เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคชาวอเมริกันในพฤษภาคม ยอดขายบ้านใหม่เดือนเมษายน
    ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 32.81 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.54 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -4.48% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 34.74 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.43 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ -3.95% สาเหตุจากสหรัฐอเมริกาเตรียมกดดันขั้นรุนแรงกับรัฐบาลฮ่องกง และรัฐบาลจีนที่ผลักดันกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ การจับกุมผู้ประท้วงในฮ่องกงที่ขัดต่อกฎหมายเสรีภาพ และท่าทีรัสเซียในการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ไม่ชัดเจน
    ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,691.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -13.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติราคาทองคำต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์ สาเหตุจากการทยอยเปิดภาคธุรกิจในแต่ละประเทศทั่วโลก ทำให้ลดความเสี่ยงอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
    #ลงทุน #สตาร์ทอัพ #การเงิน #หุ้น #ทองคำ #น้ำมัน #ตลาดหุ้น #เล่นทอง #ราคาทอง #ดิจิทัล #markets #business #stock #gold #oil #investment #misterban #เศรษฐกิจ #เล่นหุ้น #btimes

    iCGzDPzWgNJe3JeLvHtvJc-2NtsdzVnVAd8QZp6_-3KL&_nc_ohc=ZWt2QocBoZoAX992KYb&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    9L0p2xjm3tlrheO0EqvHnDiWunifiilcMKhrnN2aELpA&_nc_ohc=x1MXqI6p4l4AX85Kmfh&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    I-dgB2yJqKV0jxbkXj7S9ra0wsqHv_LP41OMkZfhg1LE&_nc_ohc=MF18CdRgiUgAX96XPIR&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    uLUgU0RRX6f4oMtIdSr-Afer1MAv3G7ChIUT2JZk9BvI&_nc_ohc=NWkuUuxB3XAAX95ais7&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,855
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข่าวฮ่องกง

    รวมภาพการชุมนุมวานนี้ที่ฮ่องกง
    ***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***
    https://www.facebook.com/119537452088669/posts/494989721210105/?d=n
    Source : HK free press, stand news, rthk
    #ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

    rR67U-rTfV6KaSqftn1etky_PG3kM0Wk5Fuhp_cCDety&_nc_ohc=ZfppcHaZfMYAX8skSE6&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    kznrS0Lx62CUCC2ci8qu-GGbngmfxkiEBZnKMtXHmFI3&_nc_ohc=AjfMsUK5CoQAX9XqdFl&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    X_5Gsu5Oxajt_Mg4cNUyZkRZSVLy0CrkF1yYtvm6NF8Q&_nc_ohc=-t9VOeVnr_YAX8Pza87&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    gL5K3FZSTUr7HUv5yvuApy8bY8bR775xOpKvBxXypzJo&_nc_ohc=wLqmpBrwyFwAX_PBh3L&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    DJ_xamqm1-2fkcu6y9pj3nWAdjofNcjcs-w978ly0Zoo&_nc_ohc=HljvAAtCafgAX8fg8Yx&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    -dskhcawoUAudtXYW5dyJ9BHgDS-1sBj1_yYrZCJOAk8&_nc_ohc=d1afoEq47cUAX9WhAlR&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    UvEfKHRz8L0WUj7vlOk4MftzmVcYeZMI5Drdcrz9Qwo5&_nc_ohc=6hCrHmq8usMAX_DSjpz&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    eZD8XN_sCOjCHpIywujA8GfcX-lZ8xrHWPhnSL6ahtlI&_nc_ohc=gOZFYXXeJ14AX-XCu_K&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    9CO0xH4GYbEeAH6wATfdkLyrASa4l_sO94eZ0K02iwgB&_nc_ohc=ik-QfKjptfgAX_7Zuzz&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    9UxcnJdn5qqVyw49I37chAmcrXy0Ddkqx4Nx_MM6Sk3l&_nc_ohc=d6vPv_GU2ckAX8X0I9o&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    L7IIxxvGnpmKzr49-fbT5hG518_lU9hyjLF7MPX_Mnbx&_nc_ohc=cNsoAwmP-cIAX86XBEg&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    cLRz7riNWMppSTL_WvHiy-r2EQbfuuXhfe5ib1Fm8KjO&_nc_ohc=5Qu_xfH2U0kAX8uDr9w&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    2UxWyQ5ApRE9eVna-QODJrh9WXnwfipc5H7CBeWfHhsQ&_nc_ohc=NS3yM2DvRtQAX8gaiCL&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    4jNyuDxbP8mczAOzDJ3oA_yIR8QRodsg0vrM6RiWbZ56&_nc_ohc=AYa30aC_FoMAX-0YMMv&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    pDLfzR5UkiXg5alO0p_9vlGTWyUusSnXcxeVFeayDCWP&_nc_ohc=oiF0oRHXLdEAX_PtAOK&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    ut_8zGce2amrTeORr2o1N035rfa93DNPtU5waITswIlH&_nc_ohc=W8aFgIOWrO8AX92jx1f&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    5tttZFqGkcJTdSQ0o6T3td3z5S3kkpDkgt7L0Y2GGk6d&_nc_ohc=bGlEZ3QX4NIAX_Q4msF&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    ztYKr1yFuaEB17ZaVWjF1g6D7ko1TDqKbAGShosR3T12&_nc_ohc=L-tXPX1FQ68AX93mF1-&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    qDJyGBMj54FsSOUunUOaXNbN0yy1vmJPiAJ2sy5sLMXn&_nc_ohc=xDCwBdorhAcAX93WcM6&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...