ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมืองฮิโรชิมามีแนวโน้มที่จะจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงานพิธีรำลึกประจำปีนี้ เนื่องในวันครบรอบ 75 ปีที่สหรัฐทิ้งระเบิดปรมาณูลงที่เมืองฮิโรชิมา

    มาตรการดังกล่าวจะเป็นแนวทางป้องกันไม่ให้ผู้คนติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยจะเว้นพื้นที่ไว้ให้เกิดระยะห่างระหว่างกัน

    แหล่งข่าวที่แจ้งข้อมูลระบุว่า เจ้าหน้าที่จะเตรียมที่นั่งประมาณ 800 ที่นั่งสำหรับพิธีดังกล่าว ซึ่งน้อยกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนที่นั่งปกติ

    นายมัตสึอิ คาซูมิ นายกเทศมนตรีเมืองฮิโรชิมากล่าวว่า เขาหวังว่าผู้รอดชีวิตและญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดปรมาณูจากทั่วประเทศจะมาเข้าร่วมในพิธีนี้

    พิธีดังกล่าวจะจัดขึ้นในสวนอนุสรณ์สันติภาพเมืองฮิโรชิมาในวันที่ 6 สิงหาคม

    ทั้งนี้ เมืองฮิโรชิมาจะตัดสินใจรายละเอียดต่าง ๆ ภายในต้นเดือนมิถุนายน

    ติดตามรายละเอียดของข่าวอื่น ๆ ได้ที่นี่
    https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจ้าหน้าที่ทางการกรุงโตเกียวกำลังเร่งดำเนินการเป็นขั้นตอนเพื่อกลับมาเปิดเมืองอีกครั้ง โดยได้ตัดสินใจจะผ่อนคลายข้อจำกัดเพื่อรับมือเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มเติมตั้งแต่วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน

    นางโคอิเกะ ยูริโกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว ได้กล่าวในการแถลงข่าวในวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคมว่า “จะดำเนินการขั้นใหม่ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน”

    มาตรการที่เปลี่ยนแปลงนี้จะอนุญาตให้สถานที่ออกกำลังกาย โรงภาพยนตร์ โรงละคร และร้านค้าจำหน่ายสิ่งของที่นอกเหนือจากสินค้าจำเป็น กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง แต่จะมีการร้องขอให้ร้านอาหารและร้านกาแฟงดให้บริการอาหารและเครื่องดื่มหลังเวลา 22.00 น.

    ทั้งนี้ เมื่อนับจนถึงช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม จำนวนผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นที่ได้ยืนยันแล้วมีมากกว่า 16,700 คน และมีผู้เสียชีวิตราว 880 คน

    ติดตามรายละเอียดของข่าวอื่น ๆ ได้ที่นี่
    https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข่าวใหญ่ที่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ และอาจจะทำให้บรรดาลิเบอรัลอาจต้องตั้งคำถามใหม่ถึงเรื่องแทรกแซงการแสดงออกทางความคิดผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ เพราะวันนี้ (29 พ.ค. 63) ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามคำสั่งพิเศษนฐานะประธานาธิบดี ลดความคุ้มครองทางกฎหมายบางประการของบริษัทผู้ประกอบการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแล้ว หลังจากที่ผู้นำสหรัฐแสดงความไม่พอใจทวิตเตอร์กรณีที่ข้อความที่ตนทวีต ถูกทางทวิตเตอร์ติดแท็กเตือน fact-check

    โดยคำสั่งที่ทรัมป์ลงนามได้สั่งการให้คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารสหรัฐ หรือ FCC ทบทวนเนื้อหาในมาตรการ 230 ของกฎหมาย "Communications Decency Act" ซึ่งเป็นกฎหมายที่ให้บรรดาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้รับการยกเว้นทางการกฎหมาย ในกรณีที่ผู้ใช้งานโพสต์ข้อความไม่เหมาะสมลงบนแพลตฟอร์มของตน

    ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า คำสั่งนี้จะนำไปสู่การเข้มงวดต่อบรรดาบริษัทโซเชียลมีเดียที่ทำการเซนเซอร์หรือกระทำการใดๆ ที่มีแรงจูงใจทางการเมืองนั้น ไม่สามารถได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายดังกล่าวได้อีกต่อไป

    ผู้นำสหรัฐซึ่งนิยมใช้ทวิตเตอร์ในการสื่อสารการเมืองหลายครั้งและมีผู้ติดตามกว่า 80 ล้านบัญชี ได้กล่าวว่าทวิตเตอร์มีพฤติกรรมแอบแฝงทางการเมือง จึงถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องปกป้องสิทธิเสรีภาพในการพูด

    ความคืบหน้านี้มีขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ทวีตข้อความในประเด็นการใช้บัตรลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผ่านทางไปรษณีย์ (Mail-In Ballots) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีท่ามกลางสถานการณ์ไวรัสระบาดที่จะมีขึ้นช่วงปลายปีนี้ โดยทรัมป์กล่าวว่า บัตรรูปแบบดังกล่าวสามารถก่อให้เกิดการทุจริตและบิดเบือนผลการเลือกตั้งได้

    แต่เรื่องดังกล่าวถูกทางทวิตเตอร์ติดป้ายแท็ก fact-check หรือเตือนการตรวจสอบเพื่อป้องกันการแพร่ข้อมูลเท็จ พร้อมกับนำข้อมูลอีกด้านซึ่งเป็นข้อมูลที่ระบุว่ายังไม่มีการพบการโกงผลคะแนนเลือกตั้งจากการลงคะแนนรูปแบบดังกล่าว แต่ผู้นำสหรัฐได้โจมตีทวิตเตอร์ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการที่โซเชียลมีเดียเลือกปฏิบัติต่อบรรดานักการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยมพื่อเซ็นเซอร์การหาเสียงเลือกตั้งปี 2020

    https://www.reuters.com/article/us-...protects-social-media-companies-idUSKBN2340MW
    https://www.dailymail.co.uk/news/ar...tml?ito=push-notification&ci=16642&si=1642235

    #RoundtableThailand
    roundtablethailand.com

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    28 พฤษภาคม 2563 เวลา 10.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ร่วมกล่าวถ้อยแถลงในรูปแบบวีดิทัศน์ในกิจกรรม High-level Event on Financing for Development in the Era of COVID-19 and Beyond สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

    นายกรัฐมนตรีกล่าวถ้อยแถลงถึงการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพ วิถีชีวิต และเศรษฐกิจ เพื่อแก้ปัญหานายกรัฐมนตรีได้เสนอ 3 ประเด็น ที่สำคัญต่อการฟื้นตัวจากวิกฤตครั้งนี้

    1. ความพร้อมของระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง งบประมาณด้านสาธารณสุข (health financing) หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Universal Health Coverage) ประเทศไทยมีระบบอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมประสิทธิภาพการควบคุมการแพร่ระบาดในไทย ทั้งนี้ การพัฒนาวัคซีนและยารักษา COVID-19 ควรเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ ที่ทุกประเทศควรจะได้รับสิทธิในการเข้าถึงอย่างเท่าเทียมกัน

    2. สภาพแวดล้อมทางการค้าและการลงทุนที่เป็นมิตร และการยึดมั่นในระบบการค้าพหุภาคีที่เปิดกว้าง เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้ ไทยต้องการเห็นการดำเนินการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่หยุดชะงักไป (restart) ปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจ (reboot) เพื่อฟันฝ่าวิกฤต และปรับการเชื่อมต่อระหว่างกันใหม่ (reconnect) เพื่อเศรษฐกิจและสังคมที่เข้มแข็งและยั่งยืนกว่าเดิม ในประเด็นนี้ นายกรัฐมนตรีหวังให้องค์การระหว่างประเทศและสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา และประเทศพัฒนาน้อยด้วย

    3. การวางแผนเพื่อการฟื้นตัวอย่างยั่งยืน รองรับความ “ปรกติใหม่” คือ เรื่องของการดูแลสภาพแวดล้อม และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

    ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมความร่วมมือจากประชาชนไทย ที่ส่งผลให้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ของไทยประสบความสำเร็จ ได้รับฟังความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้าน ต่าง ๆ เพื่อวางมาตรการรับมือกับวิกฤต และเตรียมมาตรการฟื้นฟู เพื่อความเป็นอยู่ของประชาชนในอนาคตที่ดียิ่งขึ้น รวมทั้งได้ย้ำความพร้อมที่จะร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศในการจัดการกับ วิกฤตเศรษฐกิจ และบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เพื่อฟื้นฟูความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจโลก และสร้างสังคมที่ยั่งยืนขึ้นกว่าเดิม

    ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีแคนาดา นายกรัฐมนตรีจาเมกา และเลขาธิการสหประชาชาติสำหรับความริเริ่มในการจัดกิจกรรมนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะร่วมกันหาแนวทางเพื่อรับมือ และส่งเสริมให้เกิดการฟื้นตัวจากวิกฤตของการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รศ.ดร.อรพรรณ โตสิงห์ รองคณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวในการแถลงข่าวเปิดตัว 2 หลักสูตรรองรับคนตกงานช่วงวิกฤตโควิด-19 และตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุในประเทศไทย ว่า ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็น รพ.ขนาด 400 เตียง ในอนาคตจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนบุคลากรทางด้านสุขภาพให้เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ช่วยพยาบาล

    จึงได้จัดตั้งหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาลขึ้น เพื่อผลิตผู้ช่วยพยาบาลเพื่อดูแลในกลุ่มผู้สูงอายุ ทั้งในสถานพยาบาลและในชุมชน ให้ได้รับการช่วยเหลือดูแลให้ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันขั้นพื้นฐานได้ ส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และรองรับการขยายตัวของ รพ.จุฬาภรณ์ในอนาคต

    นอกจากนี้ ยังเปิดหลักสูตรประกาศนียบัตรพนักงานให้การดูแลผู้สูงอายุ เพราะปัจจุบันสัดส่วนของผู้สูงอายุในไทยเพิ่มมากขึ้น โดยหลักสูตรดังกล่าวเป็นหลักสูตรเร่งด่วนระยะเวลา 6 เดือน จะมีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ จากประสบการณ์การปฏิบัติในสภาพจริงด้วยศาสตร์ที่หลากหลาย เพื่อสร้างสมรรถนะ ทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ เน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ให้มีความรู้ความเข้าใจผู้สูงอายุในทุกมิติ มีทักษะการช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุขั้นพื้นฐานทั้งที่บ้านและในชุมชน สื่อสารกับทีมสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ที่สำเร็จการอบรมสามารถทำงานได้ทั้งในสถานบริการการดูแลผู้สูงอายุทั้งภาครัฐและเอกชน หากศึกษาต่อในหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาลก็สามารถเทียบโอนหน่วยกิตได้อีกด้วย

    สำหรับหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลนั้นจะรับผู้จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 100 คน เรียนฟรี เมื่อจบแล้วก็สามารถทำงานที่ รพ.จุฬาภรณ์ได้เลย ตอนนี้รับมาแล้ว 60 คน ส่วนหลักสูตรพนักงานให้การดูแลผู้สูงอายุ จะรับผู้จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 100 คนเช่นกัน ซึ่งผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดและสมัครได้ที่เว็บไซต์ของ รพ.จุฬาภรณ์

    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com

    ที่มา https://www.dailynews.co.th/politics/776934

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการเปิดภาคเรียน ว่า กรมอนามัย ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ในการจัดทำคู่มือการเปิดภาคเรียนเพื่อควบคุมป้องกันการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในโรงเรียน โดยเน้นย้ำ 6 มิติ คือ
    1.ความปลอดภัยจากการแพร่เชื้อโรค
    2.การเรียนรู้ อาจจะต้องทำรูปแบบที่เหมาะสมทั้งที่ห้องเรียนและออนไลน์ ทุกคนต้องฝึกการดูแลตัวเอง เช่น รับประทานอาหารอย่างไร เข้าแถวอย่างไร ใช้หน้ากากอย่างไร เป็นต้น
    3.ต้องคำนึงถึกเด็กทุกคน ต้องออกแบบให้เหมาะสม รวมถึงเด็กที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เช่น หน้ากากอนามัยบางคนไม่มีก็เตรียมไว้เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้มาโรงเรียนตามปกติ
    4.เรื่อง สวัสดิภาพและการคุ้มครอง การเจ็บป่วยในโรงเรียน โดยเฉพาะโควิด-19 หรือครอบครัวมีคนป่วยจะทำอย่างไรให้เด็กได้รับการดูแล ไม่ถูกรังเกียจ
    5.นโยบาย นโยบายร่วมกระทรวงสาธารณสุข และศึกษาฯ ซึ่งต้องลงลึกไปในระดับพื้นที่ ทุกพื้นที่ จะต้องออกแบบถึงระดับโรงเรียน ในการบริหารจัดการจัดชั้นเรียนใหม่ เติมอุปกรณ์ที่จำเป็นให้เด็กเพิ่มเติม จัดจุดล้างมือเพิ่ม โรงอาหารทำฉากกั้นเพื่อให้เด็กใช้งานได้
    และ 6.บริหารการเงินเพราะต้องมีการจัดชั้นเรียนใหม่และการเติมอุปกรณ์จำเป็นที่มากขึ้นด้วย จึงต้องวางแผนบริหารทรัพยากรก่อนเปิดเรียน
    พร้อมเผยผล ทดลองเปิดเรียนใน รร.อนุบาลพิบูลเวช ย่านสุขุมวิท 1,000 คน พบว่าเด็กให้ความร่วมมือในการสวมหน้ากากอนามัยดี การล้างมือเดิมจะล้างเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร ก็จะเพิ่มการล้างมือก่อนเข้าห้องเรียน ก่อน-หลังแปรงฟัน ล้างเมื่อเปลี่ยนการทำกิจกรรม

    ส่วนเรื่องห้องเรียนซึ่งมีทั้งปรับอากาศและไม่ปรับอากาศ เฉลี่ย 1 ห้องเรียนเด็กมี 40 คน เมื่อทดลองจัดเว้นระยะห่าง1 เมตรจะเหลือประมาณ 25 คน ส่วนที่เหลืออาจผลัดกันเรียน หรือเรียนออนไลน์

    อธิบดีกรมอนามัย กล่าวด้วยว่า ขอให้โรงเรียนประเมินตัวเองผ่าน thaistopcovid รวมถึงผู้ปกครองร่วมประเมินด้วย เพื่อให้สามารถจะทำแผนและส่งคืนไปยังจังหวัดใช้ประเมิน และออกแบบวิธีการในพื้นที่ของตน ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือการเตรียมความพร้อมและการสื่อสารระหว่างโรงเรียนและหน่วยงานด้านสาธารณสุข ผู้ปกครอง ที่ต้องทำงานร่วมกันมากขึ้น

    ส่วนรถโรงเรียนต้องมีผู้ดูแลสุขอนามัย และคนขับ ต้องประเมินความเสี่ยงคนขับเป็นระยะ ระหว่างโดยสารต้องเว้นระยะพอสมควร สวมหน้ากากอนามัยตลอด ล้างมือบ่อยๆ ก่อนเข้าเรียน

    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Hapybot หุ่นยนต์ช่วยลดการติดเชื้อCOVID-19 ในการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์

    มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และบริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) แถลงข่าว “ความสำคัญของเทคโนโลยีการใช้หุ่นยนต์ทางการแพทย์และนโยบายของมหาวิทยาลัยมหิดล ในการสนับสนุนการใช้ Robot ในสถานการณ์ปัจจุบัน” ณ ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ อาคารเฉลิมพระเกียรติ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล โดยมีศาสตราจารย์นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ รักษาการแทน อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานการแถลงข่าว พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ ประธานคณะกรรมการวิชาการและเทคนิคเพื่อรองรับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) ศาสตราจารย์นายแพทย์ ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์วีระพษ์ ภูมิรัตนประพิณ คณบดีคณะเวชศาสตร์เขตร้อน รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ธีระ กลลดาเรืองไกร ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก และ นายพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) ในโอกาสนี้ได้มีพิธีรับมอบหุ่นยนต์ Hapybot หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัจฉริยะผู้ช่วยแพทย์ จำนวน 3ตัว เพื่อนำไปใช้งานจริงภายในโรงพยาบาลสังกัดมหาวิทยาลัยมหิดล 3แห่ง คือ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล

    The post Hapybot หุ่นยนต์ช่วยลดการติดเชื้อCOVID-19 ในการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บ่ายนี้ ลุ้นบอร์ดบินไทยชุดใหม่ ขยายเวลาลดเงินพนักงาน 10-50% ต่ออีกเดือน

    รายงานข่าวจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้ (29 พ.ค.) ช่วงประมาณ 13.00 น. บริษัท การบินไทยมีการนัดประชุมบอร์ดวาระพิเศษครั้งที่ 1 ภายหลังแต่งตั้งกรรมการ ใหม่ 3 คนคือ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาคนายบุญทักษ์ หวังเจริญ และนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์

    โดยการบินไทยจะนำเสนอให้ บอร์ดพิจารณาอนุมัติให้มีการขยายระยะเวลามาตรการปรับลดเงือนเดือนรวมค่าตอบแทนแบบ ขั้นบันได รวมถึงมาตรการอื่น ๆ ตามประกาศบริษัทที่ 043/2563 ต่อไปอีก 1 เดือนตั้งแต่วันที่ 1-30 มิ.ย. 63 เนื่องจากบริษัทคาดว่าโรคไวรัสโควิด-19ยังคงแพร่ระบาดอยู่ และสถานการณ์การควบคุมโรคระบาดดังกล่าวทั้งในและต่างประเทศยังไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร ส่งผลให้บริษัทยังไม่สามารถกลับมาทำการบินได้ตามปกติภายในกำหนด

    โดยล่าสุดค้องประกาศหยุดบินต่ออีก 1เดือน คือระหว่างวันที่ 1-30 มิ.ย.2563 ดังนั้น เพื่อให้บริษัทกำหนดมาตรการเกี่ยวกับการปฏิบัคิหน้าที่ และการจ่ายเงินเดือนรวม ค่าตอบแทนของพนักงานสอดล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และเพื่อประโยชน์ ร่วมกันของบริษัทและพนักงานทุกคน จึงเตรียมขอความเห็นชอบจากบอร์ดให้มีการขยาย ระยะเวลามาตรการปรับลดเงินเดือนรวมค่าคอบแทนแบบขั้นบันได ระหว่าง 10-50% รวมถึงมาตรการอื่นๆ ตามประกาศบริษัทที่043/2562ต่อไปอีก 1เดือน ตั้งแต่วันที่ 1-30มิ.ย. 63

    The post บ่ายนี้ ลุ้นบอร์ดบินไทยชุดใหม่ ขยายเวลาลดเงินพนักงาน 10-50% ต่ออีกเดือน appeared first on ข่าวสด.

    Source : #Khaosod #KhaosodOnline #ข่าวสด

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แคมเปญระดมทุนช่วยโครงการ Covid Relief Bangkok เราจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน

    สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบเกือบทุก ๆ ด้านต่อผู้คนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นด้านการใช้ชีวิต ด้านสุขภาพ รวมไปถึงด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนยากจนหรือผู้ที่มีรายได้น้อยที่ขาดแคลนและเข้าไม่ถึงการช่วยเหลือต่าง ๆ ไม่มีแม้กระทั่งโอกาสในการอยู่บ้านเพื่อป้องกันหรือดูแลตัวเอง ไม่ใช่ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ต้องการที่จะไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์หรือฝ่าฝืนข้อบังคับที่สังคมกำหนดขึ้น เช่น การอยู่บ้าน การใส่หน้ากากอนามัย หรือการรักษาความสะอาด แต่ด้วยข้อจำกัดของการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน แสดงให้เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดนั้นได้ บางคนอาจจะขาดกำลังทรัพย์ที่จะซื้อหน้ากากอนามัยหรือแม้แต่สบู่เพื่อทำความสะอาดร่างกาย ส่งผลให้คนกลุ่มนี้ต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดด้วยการประกอบอาชีพนอกบ้านในรูปแบบหาเช้ากินค่ำ ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะต่อชีวิตเพื่อหารายได้มาเลี้ยงดูครอบครัว การออกไปทำงานและการดำเนินชีวิตที่เกือบจะปกติในสังคมตอนนี้ของกลุ่มคนหาเช้ากินค่ำ จึงเป็นการดิ้นรนเอาตัวรอดจากความอดอยากมากกว่าความกลัวต่อการติดโรคระบาดดังกล่าว

    ด้วยสาเหตุนี้จึงเป็นที่มาของโครงการ Covid Relief Bangkok ซึ่งเกิดขึ้นจากการรวมตัวของกลุ่มองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรและสถาบันทางสังคม ในการใช้ทั้งความรู้และความเชี่ยวชาญรวมไปถึงศักยภาพทั้งหมดที่มีเพื่อช่วยเหลือกลุ่ม เป้าหมายเปราะบางเหล่านั้นให้ผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยกัน ซึ่งทางโครงการเปิดรับบริจาคสิ่งของอุปโภคและบริโภคเพื่อจัดทำถุงยังชีพ ภายในถุงยังชีพจะประกอบไปด้วยสิ่งของจำเป็น ยกตัวอย่างเช่น หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ทําความสะอาดมือ เจลล้างมือ สบู่ ผงซักฟอก อาหารกระป๋อง ข้าวสาร วัตถุดิบในการปรุงอาหาร ถุงมือ หน้ากากคลุมหน้า ชุดอนามัย เป็นต้น โดยผู้ที่สนใจสามารถร่วมบริจาคและร่วมแบ่งปันเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 นี้ไปด้วยกัน โดยโครงการมีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย คนยากจน และผู้สูงอายุที่เดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานครฯ โดยมีศูนย์บริการสาธารณสุขในแต่ละชุมชนที่จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการกระจายความช่วยเหลือ ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานกับอาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) ในชุมชนเพื่อให้ทีม อสส.ที่เป็นผู้มีความคุ้นเคยกับคนในชุมชนและพื้นที่ของชุมชนนั้น ๆ เป็นผู้ดำเนินการแจกจ่ายถุงยังชีพ มากไปกว่านั้นทางโครงการยังดำเนินการเก็บข้อมูลเพื่อที่จะสามารถให้ความช่วยเหลือด้านการประกอบอาชีพ หรือเพื่อหนทางการช่วยเหลืออื่น ๆ ได้ในอนาคต

    ปัจจุบันโครงการ Covid Relief Bangkok ได้ดำเนินการแจกจ่ายถุงยังชีพกว่า 4,000 ถุง ครอบคลุมใน 5 พื้นที่ ได้แก่ ศูนย์บริการสาธารณสุข 20 ธนาคารนครหลวงไทย, ศูนย์บริการสาธารณสุข 42 ถนอม ทองสิมา, ศูนย์บริการสาธารณสุข 65 รักษาศุข บางบอน, ศูนย์บริการสาธารณสุข 40 บางแค และศูนย์บริการสาธารณสุข 30 เอิบ-จิตร ทังสุบุตร ซึ่งมีลำดับการแจกจ่ายให้แก่ชุมชนในพื้นที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 33 วัดหงส์รัตนาราม เป็นพื้นที่ในลำดับถัดไป นอกเหนือจากการช่วยเหลือผู้คนในชุมชนแล้วทางโครงการ Covid Relief Bangkok ยังให้ความช่วยเหลือในเรื่องของการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ของศูนย์บริการสาธารณสุข เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิอินฟาเรด หน้ากาก N95 เป็นต้น โดยหวังว่าครัวเรือนหรือชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนและบุคลากรทางการแพทย์ที่ทุ่มกำลังแรงกำลังใจทำงานช่วยเหลือในสถานการณ์โรคระบาดดังกล่าวนี้จะสามารถผ่านไปได้พร้อมทั้งฟื้นฟูได้ในเร็ววัน

    การให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากภาครัฐ บริษัทเอกชน และองค์กรอิสระ เพื่อให้ทุกภาคส่วนก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน จึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่างสองธุรกิจ ไลฟ์สไตล์แห่งอนาคต SWAG EV รถไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์รักษ์โลก และ Socialgiver แพลตฟอร์มออนไลน์ที่นำเสนอรูปแบบการช็อปและช่วยไปด้วยกัน ให้คุณใช้ไลฟ์สไตล์ที่โดนใจและยังสามารถส่งต่อความสุขสู่ภาคสังคม จัดกิจกรรม “ทำดี ได้ของดี” โดยทุกการช็อปดีล “ทำดี ได้ของดี ลุ้นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารักษ์โลก SWAG EV” ผ่านเว็บไซต์หรือแอพลิเคชัน Socialgiver ราคา 100 บาท ลูกค้าจะได้รับ E-cash voucher มูลค่า 100 บาท เพื่อใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าและบริการจากแบรนด์ชั้นนำบนเว็บไซต์หรือแอพลิเคชัน Socialgiver และยังได้ร่วมสนุกลุ้นเป็นผู้โชคดีรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารักษ์โลก จาก SWAG EV จำนวน 2 รางวัล รวมมูลค่ากว่าหนึ่งแสนบาท ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 4 มิถุนายน 2563

    “ทำดี ได้ของดี” SWAG EV ร่วมกับ Socialgiver จัดแคมเปญระดมทุนช่วยโครงการ Covid Relief Bangkok

    กำไร 100% จากการช็อปดีลนี้มอบให้โครงการ Covid Relief Bangkok เพื่อสนับสนุนการแจกจ่ายผลิตภัณฑ์สุขอนามัยและของใช้จำเป็น เช่น หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ทําความสะอาดมือ เจล สบู่ รวมถึงอาหารสําเร็จรูป เป็นต้น ให้แก่ผู้ที่มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งโครงการนี้ดำเนินการภายใต้ความร่วมมือของกลุ่มพันธมิตร ได้แก่ มูลนิธิสติ, มูลนิธิ Scholars of Sustenance Thailand, Urban Studies Lab, FREC, ศูนย์บริการสาธารณสุข (กรุงเทพมหานคร), และ Socialgiver นับได้ว่าเป็นการรวมตัวของธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ที่ตั้งใจสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีทางสังคม

    สำหรับท่านใดที่สนใจร่วมสนุกเพื่อส่งมอบสิ่งดี ๆ และเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายก้าวผ่านวิกฤตไปด้วยกัน สามารถร่วมกิจกรรมผ่านเว็บไซต์หรือแอพลิเคชัน Socialgiver เพื่อรับสิทธิ์ลุ้นรางวัลมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารักษ์โลก จาก SWAG EV จำนวน 2 รางวัล ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 4 มิถุนายน 2563 และประกาศผลผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลในวันที่ 5 มิถุนายน 2563 สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook page: SWAGEV และ Socialgiver

    The post แคมเปญระดมทุนช่วยโครงการ Covid Relief Bangkok เราจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทรัมป์หัวร้อนไม่เลิก บอกไวรัสโคโรนาเป็น “ของขวัญที่เลวร้ายมากจากจีน”
    .
    ในข้อความที่เผยแพร่ผ่านทางทวิตเตอร์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เรียกไวรัสโคโรนาว่า เป็น “ของขวัญที่เลวร้ายมากจากจีน” และเสริมว่าไวรัสดังกล่าว “เคลื่อนทัพ” ไปทั่วโลก
    .
    ในวันเดียวกัน ผู้นำสหรัฐยังโพสต์อีกข้อความหนึ่งว่า ยอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐมีมากกว่า 100,000 คน “น่าเสียใจอย่างยิ่ง”
    .
    เมื่อวันพุธที่ 27 พฤษภาคม จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐเพิ่มขึ้นทะลุ 100,000 คน
    .
    เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม ประธานาธิบดีทรัมป์เคยบอกว่า ถ้าจำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ต่ำกว่า 100,000 คนนั้นก็เท่ากับว่า “เราทุกคนดำเนินการได้อย่างดีเยี่ยม”
    .
    ขณะนี้ 50 รัฐของสหรัฐได้กลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นบางส่วน ทว่ายอดผู้เสียชีวิตรายวัน ยังคงอยู่ที่ประมาณ 500 คน

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #จีน จับกุมประชาชนกว่า 3,700 คน ฝ่าฝืนมาตรการสกัด #โควิด
    .
    อัยการสูงสุดของจีนเปิดเผยว่า มีประชาชนกว่า 2,500 คนถูกดำเนินคดีอาญาในช่วงที่ทั้งประเทศรับมือการติดเชื้อไวรัสโควิด รายงานการทำงานของสำนักอัยการประชาชนสูงสุด ที่แถลงในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติระบุว่า ได้อนุมัติการจับกุมประชาชน 3,751 คนในคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน และในจำนวนดังกล่าว มีผู้ถูกดำเนินคดี 2,521 คน
    .
    อัยการจีนไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่า ผู้ที่ถูกจับกุมและดำเนินคดีอาญาทำความผิดอะไร? แต่กล่าวว่าได้ดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อการกระทำของคนเหล่านั้น เช่น ทำร้ายเจ้าหน้าที่การแพทย์ ขัดขวางการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่รัฐ และฝ่าฝืนมาตรการควบคุมโรคระบาด เป็นต้น.

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แรงงานจีน กุลีกองทัพสัมพันธมิตร ในมหาสงคราม
    .
    ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง อังกฤษและฝรั่งเศส ได้นำเข้าแรงงานจากอาณานิคมไปแนวหน้า ทว่าแรงงานสนับสนุนที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งไม่ได้มาจากอาณานิคมของจักรวรรดิ แต่มาจากประเทศจีน

    ชายฉกรรจ์จีนกว่า 140,000 คน เดินทางข้ามมหาสมุทรจากประเทศจีน เข้าร่วมฝ่ายสัมพันธมิตรในมหาสงคราม พวกเขาไม่ได้มีความสามารถในการรบ ไม่ได้รับยศทหาร ส่วนใหญ่เป็นชาวนาที่ไม่รู้หนังสือจากประเทศจีนตอนเหนือ ไปเป็นกุลีแรงงานในกองทัพอังกฤษ ฝรั่งเศส ... ในจำนวนนี้หลายหมื่นคนตายระหว่างถูกยิงเรือจมขณะเดินทางข้ามมหาสมุทร
    .
    จุดเริ่มจากความขัดแย้งเล็กๆ ในพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป ได้ยกระดับขึ้นเป็นสงครามระหว่างจักรวรรดิต่างๆ ในยุโรป และเมื่อจักรวรรดิอังกฤษเข้าร่วม ก็กลายเป็นมหาสงคราม ขยายครอบคลุมไปทั่วอาณานิคมดินแดนจักรวรรดิอังกฤษที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน ... ตลอด ทวีปแอฟริกาและตะวันออกกลาง

    .
    นักประวัติศาสตร์เผยว่า มหาสงครามเป็นสงครามที่จีนไม่ได้เกี่ยวข้อง ทว่าคนจีนไร้นามเหล่านี้ มีบทบาทสำคัญในชัยชนะของกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรอังกฤษ และฝรั่งเศส ทำงานอยู่หลังแนวรบด้วยค่าแรงต่ำ แบกถุงดินถุงทราย ขนกระสุน ลากซุง ส่งเสบียงอาวุธและอาหาร เก็บกวาดถางพื้นที่ งานส้วมโรงทหาร ฯลฯ แต่ไม่เคยได้รับเกียรติยศแม้แต่การทำพิธีศพรำลึกใดๆ หรือกระทั่งการเอ่ยอ้างถึงในข้อมูลประวัติศาสตร์มหาสงคราม

    .
    ผ่่านล่วงนับศตวรรษ จนไม่กี่ปีนี้เอง ที่มีการศึกษาเหตุการณ์นี้และนำเรื่องราวพวกเขาที่หล่นหายไปจากประวัติศาสตร์มาเปิดเผยและรำลึกถึง
    ..........

    ภาพ/ข้อมูล -
    1. Strangers on the Western Front, Chinese Workers in the Great War - Xu Guoqi.
    2. WORLD WAR I: 100 YEARS LATER
    The Surprisingly Important Role China Played in WWI
    3. France honours 'forgotten' Chinese labourers who helped war effort a century ago

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐ ผมจะปกป้องสิทธิในการพูดอย่างเสรี (Freedom Of Speech) ให้ทุกคน !"

    คำขู่ปิด Social Media ของทรัมป์กำลังลามจาก Twitter ไป Facebook และบริษัทอื่นๆอีกมากมาย ! โดยทรัมป์ได้สั่งให้มีการทบทวนกฎหมายป้องกันสิทธิในการพูดเสรีคืนนี้และเตรียมลงโทษเหล่า Social Media ต่างๆ

    จากที่เราได้รายงานไปเมื่อคืนนี้ว่า ทรัมป์ได้ขู่สั่งปิด Twitter ! หลังจากที่ Twitter ได้สร้างระบบการตรวจข้อเท็จจริงจากทวีตต่างๆ จนข้อความทวีตของทรัมป์นั้นโดนติดแท็กขึ้นมาว่าอาจเป็นข่าวปลอมอยุ่หลายข้อความ ! สร้างความไม่พอใจให้ทรัมป์เป็นอย่างมาก และการขู่จะปิดบริษัท Twitter ลงนั้นทำให้หุ้น Twitter ตกลงไปถึง -3% เมื่อคืนนี้

    ผ่านมาวันนี้เหตุการณ์ตึงเครียดขึ้นหลังทรัมป์ได้ทวีตออกมาว่า "Twitter is completely stifling FREE SPEECH, and I, as President, will not allow it to happen!"

    หรือแปลได้ว่า "Twitter กำลังยับยั้งสิทธิการพูดอย่างเสรีและผมในฐานะประธานาธิบดีจะไม่อนุญาตให้มันเกิดขึ้น !" ทรัมป์ยังได้ทวีตต่ออีกว่า Twitter จงใจแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐในปีนี้ให้เขาเสียเปรียบด้วย

    คืนนี้ทางทรัมป์ก็ได้สั่งให้ทีมกฏหมายเร่งทบทวนสิทธิในการพูดเสรีเพื่อที่จะเตรียมลงโทษเหล่า Social Media ต่างๆซึ่งจะรวมไปถึง Facebook ด้วย

    อย่างไรก็ตามทาง Mark Zuckerberg CEO ของ Facebook ก็ได้ออกมาประกาศโดยทันทีว่า ทาง Facebook เห็นด้วยกับประธานาธิบดีทรัมป์ โดยตัวเองไม่เห็นด้วยกับระบบเช็คของ Twitter และเชื่อว่าโซเชียลมีเดียไม่ควรเป็นผู้ตัดสินว่าข้อความไหนเป็นจริงหรือเท็จ

    ล่าสุดเวลา 19.37 น. ทรัมป์ได้ทวีตต่อว่า

    “This will be a Big Day for Social Media and FAIRNESS!” หรือ วันนี้จะเป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับวงการโซเชี่ยลมีเดียและความยุติธรรม !

    อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ

    ทางทรัมป์นั้นได้ย้ำตลอดเวลาว่าเขาไม่ชอบข่าวปลอมหร่อ Fake News ต่างๆบน Social Media แปลว่าจริงๆแล้วระบบ Fact check ล่าสุดในการตรวจจับข้อความที่ไม่มีที่มาใน Twitter นั้นกำลังเป็นสิ่งที่ทรัมป์ควรจะต้องการด้วยซ้ำ

    แต่ไม่แน่ใจว่าท่านประธานาธิบดีกำลังคิดอะไรอยู่... ติดตามชมกันต่อไปครับว่าเรื่องนี้จะจบเช่นไร เพราะหลายฝ่ายก็กำลังรอให้ทรัมป์ย้ายจาก Twitter ไป TikTok อยู่

    Cr: OilTradingKP
    www.theguardian.com
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‍♂️‍♂️ เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ที่สหรัฐแบบไม่สน Social Distancing ! หลังตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดคอชายผิวดำจนเสียชีวิตระหว่างจับกุม แม้ชายคนนั้นจะขอร้องให้ปล่อยเพราะเขาหายใจไม่ออก... ทำให้ประชาชนออกมาประท้วงเรื่องการ #เหยียดสีผิว ครั้งยิ่งใหญ่ในสหรัฐ และน่าจะมีผลกระทบต่อการเลือกตั้งสหรัฐในปีนี้ด้วย

    เป็นอีกข่าวใหญ่ที่ทางเราขอหยิบมาแชร์นะครับ เพราะข่าวนี้เป็นเรื่องใหญ่ในสหรัฐที่อาจจะบานปลายได้ แม้แต่ทางเลอบรอน เจมส์ (LeBron James) นักบาส NBA ผู้ซึ่งคนผิวสีในสหรัฐถือว่าเป็นบุคคลผิวสีที่มีอิทธิพล (Influencer) ที่สุดคนนึงยังต้องออกมาแสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก และเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้คนผิวสีในสหรัฐ

    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จอร์จ ฟลอยด์ (George Floyd) ชายผิวดำอายุ 46 ปี ได้ถูกตำรวจ 4 ผิวขาวนายควบคุมตัวจับกดลงพื้นข้อหาสงสัยว่าใช้ธนบัตรปลอม โดยมีตำรวจ 3 คนกดฟลอยด์ไว้ลงที่พื้น โดยเฉพาะตำรวจนายหนึ่งที่ใช้เข่ากดที่คอของฟลอยด์ ผู้ไม่มีสภาพที่จะหนีไปไหนได้ไว้นานกว่า 5 นาที น้ำหนักตัวของตำรวจนั้นกำลังลงไปที่คอขอเขา จนฟลอยด์ต้องร้องขอชีวิตว่า "#ผมหายใจไม่ออก"

    หากดูคลิปที่ทางเราแนบไว้ให้จะได้ยินเสียงของฟลอยด์ชัดมาก... แต่สุดท้ายทางตำรวจก็ไม่ฟัง... ยังคงใช้เข่ากดลงบนคอเขาอย่างน่าโหดร้าย... จนสุดท้ายเสียงของฟลอยด์ค่อยๆเงียบลงไป และก็หมดสติอย่างแน่นิ่งอยุ่บนพื้น จนสุดท้ายพบว่าฟลอยด์ได้เสียชีวิตไปแล้ว (คลิปแนบในคอมเม้นท์)

    ข่าวนี้สร้างความไม่พอใจต่อกลุ่มคนผิวสีในเมืองมินนีอาโปลิส (Minneapolis) อย่างมาก จนได้ออกมาประท้วงการกระทำ #เหยียดสีผิว (Racist) ครั้งใหญ่อย่างที่เราได้เห็นในภาพ

    ถึงแม้ตำรวจทั้ง 4 นายที่เกี่ยวข้องจะถูกไล่ออกแล้ว แต่ชาวอเมริกันจำนวนมาก โดยเฉพาะคนผิวสี ต้องการให้ดำเนินคดีพวกเขาฐานฆาตกรรม เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในคลิปวิดีโอนั้นถือว่าโหดร้ายมากและทุกคนต้องการความเป็นธรรม

    #การเหยียดสีผิวในสหรัฐนั้นยังคงมีจริงๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีการพูดถึงอย่างเป็นทางการ

    เหตุผลที่เหตุการณ์นี้อาจบานปลายได้ เพราะว่าเหล่าบุคคลผิวสีที่มีอิทธิพล (Influencer) ต่างๆในประเทศสหรัฐไม่ว่าจะเป็น นักร้อง นักแสดง นักกีฬาชื่อดัง ต่างก็ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมและก็ต้องการยุติการเหยียดสีผิวในสหรัฐ

    ในกรณีนี้ผมขอยกตัวอย่างภาพที่ทางเลอบรอน เจมส์ (LeBron James) นำมาลง Instagram (แนบในคอมเม้นท์) คือภาพของนายตำรวจที่ใช้เข่ากดคอของฟลอยด์ เทียบกับภาพโคลิน เคเปอร์นิค (Colin Kaepernick) อดีตควอเตอร์แบ็คทีม San Francisco 49ers ผู้ซึ่งเคยเป็นข่าวฉาวในปี 2016 เพราะการเพราะการนั่งคุกเข่าประท้วง ปฏิเสธที่จะลุกขึ้นยืนเคารพเพลงชาติสหรัฐ เพื่อต่อต้านการเหยียดสีผิวในสหรัฐจนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก

    ทาง Lebron ได้เขียนแคพชั่นของภาพไว้ว่า "This is why... Do you understand NOW ?!?!?!? Or is it Still Blurred to you."

    หรือแปลได้ว่า "นี่คือเหตุผลที่โคลิน เคเปอร์นิคต้องคุกเข่าไม่ยืนเคารพเพลงชาติสหรัฐ... พวกคุณเข้าใจกันแล้วไหมตอนนี้ ?!?!? หรือว่าพวกคุณยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีก"

    Lebron ได้เป็นตัวแทนชาวผิวสีทั้งสหรัฐ พยายามจะส่งข้อความต่อประชาชนทั้งประเทศว่าการเหยียดสีผิว #นั้นยังมีอยู่จริงๆ แต่หากฝ่ายผิวสีเป็นผู้เรียกร้องจะกลับกลายเป็นประเด็นใหญ่ อย่างเช่นเมื่อครั้งโคลิน เคเปอร์นิค นั้งคุกเข่าประท้วงไปนั้น ทำให้เขาต้องสูญเสียอนาคตในวงการกีฬาไปเลย และยังโดนประนามต่อว่าอีกมากมาย

    การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐกำลังเข้าใกล้มาแล้วและน่าจะโดนกระทบจากประเด็นนี้ !

    กระแสปลุกระดมชาวอเมริกาครั้งนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน ? จะมีผู้คนที่ยอมรับความจริงและอยากเปลี่ยนแปลงสังคมในอเมริกาหรือไม่ ?

    เป็นที่รู้กันว่าเหล่าฐานเสียงของทรัมป์และพรรครีพับลิกันจากนโยบาย America First นั้นส่วนมากจะเป็นชาวผิวขาวผู้มีฐานะดีกว่าชาวผิวดำซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต โดยเฉพาะทางทรัมป์เป็นผู้ได้ชื่อว่าเป็น #ประธานาธิบดีที่เหยียดสีผิว อยู่แล้ว หากทางทรัมป์ไม่ออกมาให้ความเป็นธรรมในเรื่องนี้ จะส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียงการเลือกตั้งอย่างแน่นอน

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดจากทีมงาน แนะนำให้กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของทีมเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ

    #OilTradingKP

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตลาดหุ้นสหรัฐกำลังกลับมาแตะระดับต้นปีแล้ว #เสมือนไวรัสระบาดไม่เคยเกิดขึ้น ! สหรัฐยังมีคนตกงานเพิ่มอีก 2.12 ล้านคนในคืนนี้ แต่ตลาดหุ้นทะลุระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนไปแล้ว !

    อาทิตย์นี้ถือเป็นอาทิตย์ที่ 10 ติดต่อกันแล้วที่ยอด Initial Jobless Claim หรือผู้ขอสวัสดิการตกงานประจำอาทิตย์ของสหรัฐออกมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยหากรวมตัวเลขในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีคนตกงานทะลุ 40 ล้านคนไปแล้ว !

    แต่ตลาดหุ้นสหรัฐกลับยังคงไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกันอย่างต่อเนื่อง ดัชนีหลักๆในสหรัฐที่เป็น Indicator หุ้นหลักของโลกไม่ว่าจะเป็น Dow Jones ยังคงยืนเหนือระดับ 25,000 จุด หรือ S&P500 ยังคงอยู่เหนือ 3,000 จุด

    ดัชนีหุ้นสหรัฐได้ดีดกลับขึ้นมาเกือบเท่าระดับที่เริ่มต้นปีแล้ว โดยตอนนี้กลายเป็นเหลือร่วงลงไปจากต้นปีเพียงแค่

    ดัชนีหุ้น S&P500 ลง -3% จากเริ่มปีที่ 3,140 จุด คืนนี้อยู่ที่ 3,040 จุด

    ดัชนีหุ้น Dow Jones ลง -8% จากเริ่มปีที่ 28,000 จุด คืนนี้อยู่ที่ 25,613 จุด

    ดัชนีหุ้น Nasdaq นั้น +9% ด้วยซ้ำ ! จากเริ่มปีที่ 8,600 จุด คืนนี้อยู่ที่ 9,430 จุด

    ตลาดนั้นยืนอยู่ได้ #ถึงแม้ว่า

    1️⃣ จริงอยู่ว่าตัวเลขคงตกงานในคืนนี้นั้นออกมาเท่าๆกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้จึงไม่ได้ทำให้ตลาดหุ้นโดนเทขาย...

    2️⃣ จริงอยู่ว่าเรื่องคนตกงานเป็นเรื่องที่ตลาดรับรู้ไปถึงอนาคตและหลายฝ่ายเชื่อว่าจะยังมีคงตกงานไปเรื่อยๆจนแตะระดับ 20-30% ของประเทศ (ตัวเลขคนตกงานจะประกาศอาทิตย์หน้าตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 20% แล้ว...

    3️⃣ จริงอยู่ว่าทุกวันนี้ด้วยการอัดฉีดเงินและสภาพคล่องของธนาคารกลางต่างๆทั่วโลก ดอกเบี้ยต่ำติดติดจนกลายเป็นลบอยู่หลายที่แล้วด้วย ทำให้นักลงทุนไม่แน่ใจว่าจะนำเงินไปไว้ที่ไหนนอกจากในตลาดหุ้นเพราะนั้นเป็นสิ่งเดียวที่กำลังให้ผลตอบแทนในตอนนี้

    #แต่หากเรามองย้อมมาดูในชีวิตจริง บริษัทที่โดนซื้อหุ้นไปเหล่านั้นจะสามารถทำกำไรได้ตามราคาที่นักลงทุนหลังหรือป่าว ? ตราบใดที่ผู้คนยังตกงานและไม่มีเงินมาใช้จ่ายได้เหมือนแต่ก่อน รายได้ของบริษัทจะมาจากไหนจริงๆ ? จะมีเงินกลับมาปันผลไหม ?

    #ตลาดหุ้นกับโลกของความเป็นจริง จะยังคงสวนทางกันได้อีกนานแค่ไหน ?

    หรือนี่คืออีกหนึ่ง "New Normal" ที่กำลังเกิดขึ้นในโลกที่มีสภาพคล่องและเงินเหลือล้นในตลาดมากเกินไป ?

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดจากทีมงาน แนะนำให้กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของทีมเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ

    #OilTradingKP

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ซาอุดิอาระเบียและบางประเทศในกลุ่มโอเปกอยากจะขยายเวลาในการลดกำลังการผลิตออกไปจนถึงสิ้นปี ! เพราะราคาน้ำมันกำลังเด้งกลับมาได้ดี แต่ทางรัสเซียยังไม่ได้ตอบตกลงกับข้อเสนอนี้ !

    ราคาน้ำมันดิบ Brent ได้ทยอยปรับตัวสูงขึ้นมาเรื่อยๆตั้งแต่ต้นเดือนนี้ ไต่ขึ้นมาจาก 22 เหรียญช่วงต้นเดือน ขึ้นมาประมาณ +68% ก่อนที่จะมาเจอแนวต้านที่ 37 เหรียญและไม่สามารถผ่านไปได้ในอาทิตย์ที่ผ่านมา

    2 ปัจจัยสำคัญที่กำลังกำหนดชะตาของตลาดน้ำมันเวลานี้คือ

    1️⃣ #ด้านอุปสงค์ - การทยอยกลับมาเปิดเมืองต่างๆทั่วโลกจะกระตุ้นการใช้น้ำมันได้เร็วแค่ไหน หรือไวรัสโควิดจะมีการระบาดระยะที่ 2 หรือไม่ ?

    2️⃣ #ด้านอุปทาน - ทางกลุ่มโอเปกจะมีการปรับเปลี่ยนโควตาการผลิตไปในทิศทางใด ? จะลดหรือเพิ่มมากกว่าปัจจุบัน ?

    แต่สิ่งที่ตลาดกำลังจดจ้องมากกว่าตอนนี้คงเป็นด้าน #อุปทาน เพราะทางกลุ่มโอเปกกำลังจะมีการประชุมกันวันที่ 9 มิถุนายนนี้ และคงจะมีการตกลงกันว่าจะคงการผลิตตามแผนหรือว่าจะลดกำลังการผลิตมากไปกว่านี้ ?

    ในปัจจุบันนั้นทางโอเปกมีแผนที่จะลดกำลังการลิตร่วมกันกับพันธมิตรทั่วโลกที่ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ก่อนที่จะลดปริมาณการผลิตลงมาเป็น 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไปจนถึงสิ้นปี เพราะคาดว่าการใช้น้ำมันจะเริ่มทยอยกลับมาแล้วจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องลดกำลังการผลิตไปมากกว่านี้

    แต่ล่าสุดนั้นทาง Reuters รายงานว่า จากการที่ราคาน้ำมันนั้นกำลังดีดขึ้นกลับมาอย่างเป็นที่น่าพอใจสำหรับกลุ่มโอเปกเพราะการลดกำลังการผลิตที่ได้ผลนี้ ทางพี่ใหญ่ของกลุ่มอย่างซาอุดิอาระเบียและบางประเทศในกลุ่มโอเปกจึงต้องการจะขยายเวลาในการลดกำลังการผลิตที่ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันนี้ออกไปจนถึงสิ้นปี #หากเป็นแบบนั้นจริงราคาน้ำมันจะขึ้นอย่างต่อเนื่องแน่ๆ

    อย่างไรก็ตามทางรัสเซียยังไม่ได้ตอบตกลงกับข้อเสนอนี้ โดยส่วนมากแล้วรัสเซียจะเป็นประเทศที่ไม่อยากลดกำลังการผลิตหากไม่จำเป็น และอย่าลืมนะครับว่าทางรัสเซียเป็นฝ่ายที่ไม่ยอมลดกำลังการในการประชุมเดือนมีนาคมและเดินออกจากห้องประชุมไปกลางคัน จนเป็นเหตุให้ทางซาอุดิอาระเบียต้องเริ่มสงครามราคาในเดือนมีนาคมเพื่อเตือนทุกๆประเทศผู้ผลิตน้ำมันในโลกอีกครั้งว่าชะตาของราคานั้นอยู่ในมือซาอุแต่เพียงผู้เดียว

    ผลการประชุมจะเป็นอย่างไร ? มาติดตามผลการวิเคราะห์อย่าง #ทันตลาด ไปกับเราได้ โดยการกด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของทีมเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ

    #OilTradingKP

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐและจีนยังเดือด ! คืนนี้สหรัฐได้ประกาศรับรองว่า #ฮ่องกงไม่ได้เป็นเมืองอิสระทางการเมืองจากจีน อีกต่อไปและจะถอนสถานะการค้าพิเศษที่สหรัฐมอบให้ฮ่องกงอยู่ !

    Mike Pompeo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการต่อหน้าสภาว่า

    “Hong Kong does not continue to warrant treatment under United States laws in the same manner as U.S. laws were applied to Hong Kong before July 1997. No reasonable person can assert today that Hong Kong maintains a high degree of autonomy from China, given facts on the ground.”

    หรือแปลได้ว่า “ฮ่องกงจะไม่ได้รับประกันรักษาภายใต้กฎหมายของสหรัฐอเมริกาในลักษณะเดียวกับที่กฎหมายของสหรัฐเคยมอบให้เมื่อเดือนกรกฎาคม 1997 อีกต่อไป เพราะไม่มีบุคคลที่สามารถยืนยันได้ในวันนี้ว่า #ฮ่องกงยังคงมีเอกราชทางการเมืองจากจีนอยู่"

    การประกาศครั้งนี้ทำให้นักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนมากขึ้น ! เพราะทางจีนประกาศชัดแล้วว่าจะไม่ยอมให้สหรัฐใช้เรื่องการค้าเข้ามากดดันแน่นอน

    ตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มโดนเทขายแล้วและราคาทองดีดกลับขึ้นมาบวกเหนือ 1,700 เหรียญ ความตึงเครียดนี้ยังเป็นปัจจัยที่ #ตลาดต้องติดตามอย่างใกล้ชิดที่สุด

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดจากทีมงาน แนะนำให้กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของทีมเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ

    #OilTradingKP

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อวสานม็อบตี๋ม็อบหมวย

    ในวันที่ 28 พฤษภาคมสภานิติบัญญัติของจีนได้โหวตรับมติร่างกฎหมายความมั่นคงสำหรับบังคับใช้ในฮ่องกง โดยเป้าหมายในเบื้องต้นจะจัดการอย่างเด็ดขาดกับม็อบฮ่องกง และผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่คอยจ่ายท่อน้ำเลี้ยง และดึงเอามหาอำนาจตะวันตกเข้ามาแทรกแซงการเมืองจีน

    กฎหมายความมั่นคงจะมีผลบังคับใช้ผ่านภาคผนวก Annex III ของกฎหมายBasic Law ที่ถือว่าเป็นกฎหมายรัฐธรรมนูญของฮ่องกง หลังจากจีนรับมอบฮ่องกงคืนจากอังกฤษในปี1997 รัฐบาลจีนได้อนุญาตให้ฮ่องกงปกครองตัวเองผ่านสถานภาพของการเป็นเขตปกครองพิเศษ (Special Administrative Region) ผ่านกฎหมายBasic Lawที่เชื่อมโยงอำนาจของรัฐบาลกลางปักกิ่งและฮ่องกง

    ปักกิ่งได้ตั้งเงื่อนไขในมาตรา23ของกฎหมายBasic Lawว่า รัฐบาลฮ่องกง ซึ่งมีอิสระในการปกครองตัวเอง มีสิทธิพิเศษเหนือเมืองอื่นๆของจีนตามกรอบหนึ่งประเทศสองระบบ จะต้องผ่านกฎหมายความมั่นคง เพื่อป้องกันและปราบปรามการก่อการร้าย การบ่อนทำลายความมั่นคงของรัฐ การก่อกบฎ การแยกรัฐอิสระ การแทรกแซงจากภายนอก

    แต่ปรากฎว่ารัฐบาลฮ่องกงเตะถ่วงการผ่านกฎหมายความมั่นคงมาตลอด โดยอ้างว่าจะทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจในระบบนิติรัฐ และอนาคตการเป็นศูนย์กลางทางการเงินของฮ่องกง เมื่อไม่มีกฎหมายความมั่นคง เจ้าหน้าที่ฮ่องกงจึงไม่สามารถจัดการกับม็อบฮ่องกงที่มีการประท้วงในช่วงที่ผ่านมาเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และที่สำคัญการเป็นการอิสระจากอิทธิพลของรัฐบาลกลางจีน เวลาม็อบตี๋ม็อบหมวยถูกตำรวจจับกุม ขึ้นโรงขึ้นศาลถูกปรับไม่กี่ร้อยเหรียญฮ่องกง และถูกขังไม่กี่วันก็ต้องปล่อยตัว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฮ่องกงไม่สามารถรวบตัวแกนนำ หรือผู้สนับสนุนม็อบที่อยู่เบื้องหลังได้ เพราะว่ากฎหมายฮ่องกงในปัจจุบันไม่ให้อำนาจมากพอ

    จะบอกว่าส่วนหนึ่งรัฐบาลฮ่องกง หรือเจ้าหน้าที่ฮ่องกงอาจจะรู้เห็นเป็นใจ หรือเห็นอกเห็นใจม็อบฮ่องกงก็ได้ การปราบปรามในช่วงที่ผ่านมาจึงดูหน่อมแน้ม เหมือนกับการเล่นดราม่าเพื่อให้ฮ่องกงเป็นข่าวใหญ่ระดับโลก เพื่อเป็นข้ออ้างให้มหาอำนาจอังกฤษและสหรัฐสามารถดำเนินนโยบายต่างประเทศในลักษณะที่แทรกแซงฮ่องกง หรือกดดันรัฐบาลปักกิ่งได้ สร้างความแตกแยกในมณฑลอื่นๆของจีน

    หลังจากกฎหมายความมั่นคงมีผลยังคับใช้แล้ว ซึ่งทางปักกิ่งน่าจะรีบเร่งให้ผ่านสภาโดยเร็ว สิ่งที่จะตามมาคือ

    1. หน่วยงานทางความมั่นคงของจีนจะไปตั้งหน่วยงานความมั่นคงสาขาฮ่องกงเพื่อดูแลการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงให้เป็นไปตามทำนองคลองธรรม

    2. จะมีการสร้างกลไกในการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคง ทั้งระดับรัฐบาลกลางจีน และระดับรัฐบาลฮ่องกงในการป้องกันและปราบปรามการกระทำใดๆที่ถือว่าบ่อนทำลายความมั่นคงของฮ่องกง และของจีนโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมประท้วงที่ใช้ความรุนแรง การก่อการร้าย หรือการดึงเอาต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเมืองภายใน

    3. กฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างฮ่องกง จีนและไต้หวันที่ม็อบฮ่องกงประสบความสำเร็จในการบล็อคปีที่แล้วถือว่าเป็นน้ำจิ้มเมื่อเทียบกับกฎหมายความมั่นคง ม็อบฮ่องกงอ้างว่ากฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนถ้าปล่อยให้ผ่าน จะไม่มีหลักประกันความยุติธรรมสำหรับชาวฮ่องกงเป็นลาถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปขึ้นโรงขึ้นศาลที่จีน ตอนนี้ม็อบฮ่องกงเจอศึกกฎหมายความมั่นคงที่ครอบคลุม และมีโทษหนักกว่ากฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเทียบกันไม่ได้

    4. สำหรับเรื่องความมั่นคงของฮ่องกงต่อไป จะอยู่ภายใต้การกำกับ การดูแล การบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานความมั่นคงที่รัฐบาลจีนกลางจะไปตั้งที่ฮ่องกง หมายความว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจของฮ่องกงจะถูกลดบทบาทลง คนของปักกิ่งจะเข้ามาดูแลเรื่องนี้แทน

    5. ผู้นำฮ่องกง (Chief Executive) จะต้องรายงานความคืบหน้าในการดูแลบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงให้รัฐบาลปักกิ่งทราบเป็นระยะๆ

    6. หลังจากกฎหมายความมั่นคงมีผลบังคับใช้แล้ว มีหน่วยงานความมั่นคงของจีนมากำกับ มีกลไก และบุคคลากรทางความมั่นคงมาดูแลกฎหมาย ม็อบฮ่องกงจะสูญพันธุ์ เพราะว่าผู้ชุมนุมประท้วงจะโดนกวาดเรียบและจะโดนโทษหนัก อาจจะติดคุกขี้ไก่20-30ปี ส่วนแกนนำอาจจะถูกลงโทษประหารชีวิตได้

    ชั่วโมงนี้แกนนำอย่างจิมมี่ ไหล มาร์ติน ลี โจชัว หว่องฯลฯคงจะนอนไม่หลับ ถ้านอนหลับ แสดงว่าไม่เข้าใจกำลังจะถูกเชือดจากดาบอาญาสิทธิ์ของกฎหมายความมั่นคงของปักกิ่งที่กำลังถูกนำมาใช้กับฮ่องกง เพื่อจัดการกับม็อบฮ่องกงอย่างเด็ดขาด และเพื่อที่จะตัดการแทรกแซงของมหาอำนาจตะวันตกในฮ่องกงที่ต้นเหตุ

    จับตาดูกฎหมายความมั่นคงฮ่องกงว่าจะผ่านสภาจีนเมื่อใด ซึ่งน่าที่จะแล้วเสร็จในเร็ววันนี้ เพราะว่าปักกิ่งต้องการเร่งเครื่องปิดเกมฮ่องกงไม่ให้เป็นหอกข้างแคร่ในขณะที่จีนกำลังเผชิญหน้ากับสหรัฐในสงครามเย็น

    ไมค ปอมเปโอ รมว ต่างประเทศของสหรัฐฯพูดไม่ผิดที่บอกกับสภาคองเกรซว่ากฎหมายความมั่นคงจะนำไปสู่การสิ้นสภาพของการปกครองตัวเองของฮ่องกง

    เมื่อม็อบฮ่องกงสูญพันธุ์ และแกนนำถูกรวบตัวหมด ความมั่นคงในฮ่องกงจะกลับคืนมาระดับหนึ่ง ขั้นตอนต่อไป จีนจะผนวกเอาฮ่องกงกลับคืนสู่แผ่นดินใหญ่ให้เป็นส่วนหนึ่งของมณฑลกวางตุ้ง โดยจะยกเลิกสถานภาพเขตปกครองพิเศษก่อนกำหนดในปี 2047 เพราะว่าฮ่องกงเป็นม้าพยศที่ต้องกำหราบไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

    จีนจะส่งเสริมเสินเจิ้น และเกาะไหหลำขึ้นมาเป็นศูนย์กลางทางการเงิน การค้า การท่องเที่ยวแทนฮ่องกงเพื่อกำจัดบทบาทของฮ่องกงที่มีรากเหล้าของอิทธิพลของอังกฤษ และพวกเจ้าสัวชังชาติให้เด็ดขาด

    กฎหมายความมั่นคงจะมีความรุนแรงถึงขนาดไม่ให้สัญชาติแก่ผู้ต้องหาม็อบที่โดนข้อกล่าวหาบ่อนทำลายความมั่นคง เพราะว่าหลังจากผนวกเอาฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลกวางตุ้ง กฎหมายBasic Lawของฮ่องกง รวมท้ังกฎหมายลูกต่างๆ จะถูกยกเลิกไปโดยปริยาย ทำให้บัตรประจำตัว ใบขับขี่ หนังสือเดินทางฮ่องกง เงินสกุลฮ่องกง สัญญาต่างๆภายใต้กฎหมายฮ่องกงกลายเป็นหมันไป

    ม็อบฮ่องกงที่ท้าทายกฎหมายความมั่นคงจะกลายเป็นบุคคลไร้สัญชาติทันที ถึงตอนนั้นจะลี้ภัยไปอยู่ประเทศใดก็ต้องดูกันอีกที หรืออาจจะเป็นพวกโรฮิงญาถาวรก็ได้

    29/5/2020

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อังกฤษเตรียมมอบสัญชาติให้คนฮ่องกง300,000คน

    อังกฤษออกมาโปรยยาหอม ด้วยการประกาศว่าจะมอบสัญชาติBritishให้คนฮ่องกงที่ถือหนังสือเดินทาง British National Overseas จำนวน300,000กว่าคน

    แต่ประชากรฮ่องกงมี6.7ล้านคน แล้วที่เหลืออังกฤษจะเอาไปปล่อยเกาะที่ไหน?

    นายDominic Raab รมว ต่างประเทศอังกฤษออกมาแย้มว่าจะให้สัญชาติคนฮ่องกงที่เกิดก่อนปี 1997 หรือปีส่งมอบคืนเกาะฮ่องกง ที่ถือหนังสือเดินทาง British National Overseas เพื้อที่จะกล่อมขวัญคนฮ่องกง ในขณะที่จีนเตรียมออกกฎหมายความมั่นคงเพื่อจัดการกับม็อบแบ่งแยกดินแดน

    หนังสือเดินทางBritish National Overseas ที่คนฮ่องกงถืออยู่300,000กว่าคน คล้ายกับใบผ่านด่านมากกว่า เพราะสามารถเดินทางเข้าอังกฤษ และอยู่ได้6เดือน แต่ไม่สามารถตั้งหลักแหล่ง หรือหางานทำได้

    ที่ผ่านมา คนฮ่องกงต่อสู้เพื่อเรียกร้องเรื่องสัญชาติกับอังกฤษมาตลอด แต่อังกฤษบ่ายเบี่ยง มีแต่คนฮ่องกงที่มีเงินได้ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ต่างประเทศก่อนการส่งมอบฮ่องกง โดยส่วนมากย้ายไปอยู่อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย

    ท่ามกลางบรรยากาศความตึงเครียดของฮ่องกง อังกฤษกลับมาพิจารณาเรื่องสัญชาติให้คนถือหนังสือเดินทาง British National Overseas แต่จุดยืนของอังกฤษไม่ชัดเจนว่า จะเอายังไงกับประชากรฮ่องกงที่เหลืออีก6ล้านกว่าคนที่มีสถานภาพเป็นคนฮ่องกงเขตปกครองพิเศษ

    อังกฤษจะลอยแพคนฮ่องกงหรือไม่ ?

    ในจำนวนคนฮ่องกง6ล้านกว่าคน ประมาน60%ถึง70%ไม่เอาปักกิ่ง

    เมื่อคนฮ่องกงไม่เอาปักกิ่ง ปักกิ่งก็ไม่รู้ว่าจะเก็บพวกนี้เอาไว้ทำไม

    นี่คืออีกหนึ่งประเด็นที่มืดมนของคนฮ่องกงที่อาจจะกลายเป็นเรฟิวจีไร้ชาติ

    29/5/2020

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,797
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อภ.เผยผลทดสอบ "วัคซีนไข้หวัดใหญ่" ที่ผลิตเอง พบกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี มีความปลอดภัยในช่วง 28 วัน เตรียมติดตามให้ครบ 1 ปี ในช่วง ส.ค.นี้ คาดขึ้นทะเบียนกับ อย.ได้ปลายปี 63 พร้อมผลิตล็อตแรก 1 แสนโดส ระบุไทยผลิตเองได้ ช่วยลดนำเข้าวัคซีนปีละ 400 ล้านบาท พร้อมพัฒนาวัคซีนหวัดใหญ่แบบ 4 สายพันธุ์ และวัคซีนไข้หวัดนก

    อ่านต่อ >https://news1live.com/detail/9630000056112
    ............................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     

แชร์หน้านี้

Loading...