ติดตามสถานะการณ์

โรค มือ เท้าปาก เด็ก ในเวียดนามมีผู้ป่วย 2 รายใหม่
อายุประมาณ 2.5 ปี หลังจากเปิดเมืองเด็กๆมาเจอกัน โรคชนิดนี้เป็นโรคติดต่อในเขตร้อน ทานอาหาร ช้อนเดียวกัน แก้วเดียวกัน ใกล้ชิดกันอาจติดเชื้อในกลุ่มเด็กๆ ผู้ป่วยมีไข้ และผื่นขึ้นตามตัว ผู้ป่วยของเวียดนาม 2ราย ป่วยหลังจากเปิดเมือง เด็กๆไปเรียน
ผู้ปกครองแจ้งว่าเห็นลูกผ่านกล้อง ครู ได้ให้เด็กๆทานอาหาร มีการทานชามเดียวกัน ใกล้ชิดกัน ในกลุ่มเด็ก และต่อมาป่วยรักษาที่บ้านไม่หายจนนำส่งโรงพยาบาล

# แม่ๆไทยดูแลเด็กๆด้วย
ข้อมูลบางส่วนจาก. VTC
https://vtc.vn/benh-va-thuoc/an-chung-bat-tre-de-mac-tay-chan-mieng-ar548869.html

 

สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง ได้รับรายงานว่าอาจมีเหตุการณ์ชุมนุมประท้วง ที่จะเกิดขึ้นในวันศุกร์ที่ 29 วันเสาร์ที่ 30 และวันอาทิตย์ที่ 31 พ.ค. 63 รายละเอียด ดังนี้

1. วันศุกร์ที่ 29 พ.ค. 63
การชุมนุมประท้วงในเขต New Territories ที่สถานีรถไฟ MTR City One - exit B (Sha Tin) ระหว่างเวลา 17.00 - 19.00 น.

2. วันเสาร์ที่ 30 พ.ค. 63
การชุมนุมประท้วงในเขต New Territories ที่สถานีรถไฟ MTR Hang Hau - exit B (Tseung Kwan O) ระหว่างเวลา 12.00 - 14.00 น. และที่สถานีรถไฟ MTR City One - exit C (Sha Tin) ระหว่างเวลา 14.00 - 16.00 น.

3. วันอาทิตย์ที่ 31 พ.ค. 63
3.1 การชุมนุมและเดินประท้วงในเขต Hong Kong Island จาก Southorn Playground (Wan Chai) ไปยัง Liaison Office of the Central People's Government ประจำฮ่องกง (Sai Ying Pun) ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป
3.2 การชุมนุมประท้วงในเขต New Territories ที่สถานีรถไฟ MTR Fanling - exit B ระหว่างเวลา 11.00 - 13.00 น. และสถานีรถไฟ MTR Sheung Shui - exit A4 ระหว่างเวลา 14.00 - 16.00 น.

ในการนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ขอให้คนไทยในฮ่องกงโปรดหลีกเลี่ยงการเดินทางหรือเข้าใกล้สถานที่ที่มีการชุมนุมประท้วง และใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษหากมีการประท้วงในบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งโปรดงดถ่ายภาพเหตุการณ์ประท้วง ผู้ประท้วง และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงการกระทำอื่นๆ ในระยะใกล้ที่อาจเป็นการยั่วยุผู้ประท้วง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนไทยทุกคน นอกจากนั้น โปรดเผื่อเวลาในการเดินทาง ทั้งทางรถยนต์และรถไฟ MTR

คนไทยในฮ่องกงสามารถติดตามข่าวสาร สถานการณ์ภาพรวมได้ที่ website สำนักงานตำรวจฮ่องกง ที่ https://www.police.gov.hk/ppp_en/index.html
สามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทางโดยรถไฟ MTR ได้ที่ http://www.mtr.com.hk/en/customer/main/index.html

ทั้งนี้ หากต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน (+852) 6821-1545 หรือ (+852) 6821-1546 และ Call Center กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ (+66) 2-572-8442

 

#ข่าวสั้น (29 พ.ค.) วันนี้ฝูงบินผาดแผลง Blue Impulse บินเหนือฟ้าโตเกียวขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์

ขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนค่า
♪ o(≧▽≦)o ♪ありがとｯ

Blue Impulse บินเหนือน่านฟ้าโตเกียวเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์
1964 : Tokyo Olympic
2014 : ลาก่อนสนามกีฬาแห่งชาติ (เก่า)
2020 : ขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์

ภาพ NNN / NTV

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #COVID19 #โควิด19

 

#ข่าวด่วน (29 พ.ค.) เมืองคิตะคิวชู จ. ฟุกุโอกะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 26 ราย เป็น 69 รายแล้วในช่วงเวลา 7 วัน

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #COVID19 #โควิด19

 

(29 พ.ค.) ญี่ปุ่นออกกฎใหม่ยกเลิกตรวจ PCR คนออกรพ. / วิเคราะห์เหตุมีผู้เสียชีวิตน้อยกว่าฝั่งอเมริกาหรือยุโรป

ผลประชุมผู้เชี่ยวชาญวันนี้

ที่ผ่านมาต้องตรวจ PCR 2 ครั้งว่าเป็นลบแล้วจึงให้ออกโรงพยาบาล -> ไม่ต้องตรวจ PCR ก็ได้ หากอาการดีขึ้นแล้วเวลาผ่านไปช่วงหนึ่งแล้ว ออกได้เลย

✒️ เห็นจากรายการอื่นว่า มีงานวิจัยบอกว่า หลัง 10 วันผ่านไป เชื้อแทบจะไม่แพร่แล้วค่ะ

———-

วิเคราะห์สาเหตุที่คนป่วยหนัก/เสียชีวิตน้อยกว่าทางฝั่งอเมริกาและยุโรป

ระบบประกันสุขภาพทั่วหน้าสำหรับทุกคน (70:30) เป็นระบบ Co-Pay
⚠️ ของโควิด-19 จ่ายเฉพาะค่าตรวจ 70:30 ค่ารักษาเท่าที่ทราบส่วนกลางออกหมดค่ะ (เห็นมีบางเคสอาจมีต้องออกก่อนขอคืนทีหลัง)

การแพทย์มีเลเวลสูง
>> ทำให้ไปถึงผู้ติดเชื้อตั้งแต่ต้น
รวมไปถึงปัจจัยเรื่อง ลักษณะนิสัยของคนญี่ปุ่น และการป้องกันคลัสเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #COVID19 #โควิด19

Credit : Every

 

กลัวที่ไหนละ
.
ทวิตเตอร์ บล๊อคทวิตของประธนาธิบดี ทรัมป์ โดยผู้เข้ามายังอ่านได้ มองเห็นพร้อมคำเตือน
แต่ออกความเห็นในทวิตไม่ได้ แต่สามารถรีทวิตได้แบบใส่ข้อคิดเห็น
ซึ่งด้วยวิธีนี้คนจะเห็นทวิตน้อยลง
ปล. ทรัมป์เพิ่ขู่เลนงานโซเซี่ยวออนไลน์นะนั้น

 

ที่พักคนงานต่างชาติในสิงคโปร์กำลังเป็นประเด็น
.
สิงคโปร์กำลังถูกกล่าวหาในระดับนานาชาติจากหลายๆประเทศถึงเรื่องการจัดการแรงงานต่างชาติในประเทศจากกรณีของการระบาด โควิด19 ไม่ว่าจะเป็นการปิดหอพักคนงานแอพไม่แจ้งเตือนความแออัดของหอพักและอื่นๆจนทำให้การระบาดลุกลาม จากนี้ยังกล่าวถึงสวัสดิภาพของคนงานในสิงคโปร์ ว่าสิงคโปร์เอาแต่ได้ กอบโกยจากพวกเขาแต่เมื่อมีการระบาดก็ดูแลไม่ดี
เรื่องนี้ทำให้ทางสิงคโปร์ต้องออกชี้แจงผ่านเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำสหรัฐอเมริกาโดยกล่าวเกี่ยวกับการระบาดของโรค Covid-19 ในหอพัก เป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้องทางสาธารณสุขในแง่ของการป้องกันการระบาดและมีการฆ่าเชื้อหอพักและมีการจัดการอื่นๆที่เหมาะสมกับแรงงานธาตุต่างๆที่อยู่ในสิงคโปร์
เรื่องปัญหาการระบาดในหอพักของคนงานต่างชาติในสิงคโปร์ กลายเป็นประเด็นจับตาของโลก นอกจากนี้นักสิทธิมนุษยชนยังกล่าวถึงการละเมิดสิทธิ์ในแง่คุณภาพชีวิตของแรงงานต่างชาติในที่พักเรานั้นด้วย แล้วบรรดาที่พักคนงานต่างชาติเหล่านั้นก็มีความแออัดเกินกว่ามาตรฐานด้วย

 

Nissan Motor ปิดโรงงานที่ สเปนและอินโดนีเซีย เนื่องจากขาดทุนอย่างหนักจำเป็นต้องปิดโรงงานและย้ายฐานการผลิตโดยอินโดนีเซียนั้นได้ปิดและย้ายฐานกลับมายังประเทศไทย
ส่วนสเปนนั้น Nissan ปิดโรงงานที่บาร์เซโลน่าทำให้เกิดความไม่พอใจกับชาวสเปนจึงมีการนำยางรถยนต์มาเผาหน้าโรงงาน เนื่องจากการปิดโรงงานครั้งนี้ทำให้คนงานชาวสเปน ว่างงานจำนวน 3,000 คน

 

#TravelNews : สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว วอนรัฐน ให้ช่วยปลดล็อคประเทศที่ตัวเลขติดเชื้อน้อย เช่น เวียดนาม ไต้หวัน นิวซีเเลนด์ ✈️
.

#เนื้อหาข่าวจาก :"khaosod" https://bit.ly/3dacmQF
.
วันที่ 28 พ.ค. นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) เปิดเผยว่า สมาคมฯจะส่งหนังสือยื่นข้อเสนอถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในวันจันทร์ที่ 1 มิ.ย.นี้ ให้พิจารณาเปิดประเทศเดือน ก.ค.นี้ เริ่มต้นด้วยประเทศที่สามารถบริหารจัดการโรคโควิด-19 ได้ดี หลังหลายประเทศมีจำนวนผู้ติดเชื้อศูนย์รายต่อวัน ระหว่างวันที่ 26 เม.ย.-25 พ.ค.ที่ผ่านมา เช่น จีน 23 วัน ฮ่องกง 21 วัน ไต้หวัน 25 วัน เวียดนาม 21 วัน นิวซีแลนด์ 16 วัน ขณะที่ญี่ปุ่น 1 วัน และเกาหลี 1 วัน

วันที่ 28 พ.ค. นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) เปิดเผยว่า สมาคมฯจะส่งหนังสือยื่นข้อเสนอถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในวันจันทร์ที่ 1 มิ.ย.นี้ ให้พิจารณาเปิดประเทศเดือน ก.ค.นี้ เริ่มต้นด้วยประเทศที่สามารถบริหารจัดการโรคโควิด-19 ได้ดี หลังหลายประเทศมีจำนวนผู้ติดเชื้อศูนย์รายต่อวัน ระหว่างวันที่ 26 เม.ย.-25 พ.ค.ที่ผ่านมา เช่น จีน 23 วัน ฮ่องกง 21 วัน ไต้หวัน 25 วัน เวียดนาม 21 วัน นิวซีแลนด์ 16 วัน ขณะที่ญี่ปุ่น 1 วัน และเกาหลี 1 วัน

“การเปิดท่องเที่ยวแบบนี้ต้องทำ 2 ฝั่ง ไม่ใช่เราพร้อมรับฝ่ายเดียว คนจะมาต้องให้เขารับรู้ด้วย ซึ่งในตอนเริ่มต้นจะยังไม่มีการเดินทางผ่านมาเป็นกลุ่มบริษัททัวร์ คงจะมีแต่นักธุรกิจ หรือนักท่องเที่ยวแบบเดินทางด้วยตัวเอง ที่สำคัญขอว่าจะต้องไม่มีการกักตัว 14 วัน ไม่เช่นนั้นไม่มีใครมา แต่จะต้องวางหลักเกณฑ์ให้มีใบรับรองแพทย์ที่ตรวจโควิด-19 มาแล้ว ไม่ใช่แค่ใบรับรองแพทย์ธรรมดา ในภาวะปกติมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาเดือนละ 3 ล้านคน ถ้าเปิดช่วงเดือนก.ค.เป็นต้นไป หากมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเดือนละ 100,000 คนก็สร้างรายได้เข้าประเทศ 5,000 ล้านบาท ถ้าเข้ามา 1 ล้านคน ก็สร้างรายได้ 50,000 ล้านบาท ซึ่งการเริ่มขยับเปิดในเดือนก.ค.นี้ จะทำให้ภาคเอกชนท่องเที่ยวมีเวลาเตรียมตัวและเริ่มต้นไปโรดโชว์ในต่างประเทศได้ในเดือน ส.ค.-ก.ย. เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เป็นกรุ๊ปทัวร์กลับมาได้ในเดือน ต.ค.

นายวิชิต กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นการตัดสินใจเปิดประเทศเดือนก.ค.จะทำให้เป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติที่รัฐบาลปรับลดลงจาก 40 ล้านคน มาอยู่ที่ 14-16 ล้านคนก็เป็นไปได้ จากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 6 ล้านกว่าคนที่มาเข้ามาตอนต้นปี ส่วนนักท่องเที่ยวจีนตลอดปีนี้อาจจะได้ 4 ล้านคน จากที่มีอยู่แล้ว 1.2ล้านคนที่เข้ามาตอนต้นปี

.
.
.
#Travel #News #ข่าวท่องเที่ยว #ข่าว

 

ถ้าไม่มีโควิด19ก็ยินดีรับกลับ
.
รัฐมนตรีอาวุโส Datuk Seri Ismail Sabri Yaakob กล่าวกับสื่อ เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาว่าอินโดนีเซียและบังคลาเทศยินดีรับกับแรงงานที่ไม่มีเอกสารหากเขานั้นได้รับการตรวจแล้วว่าปลอดจากเชื้อโควิด19
ปัจจุบันหลายๆประเทศไม่สามารถส่งกลับแรงงานผิดกฎหมาย ไปยังประเทศต้นทางได้มาเลเซียก็เป็นหนึ่งในนั้นโดยประเทศต้นทางเอกสารและอื่นๆ แต่เป็นที่เข้าใจพร้อมกันว่ามาจากการที่พวกเขาไม่อยากรับภาระจากคนเหล่านั้นซึ่งอาจติดโควิด 19 มาแล้ว การเจรจาหาทางกลับจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเรื่องหนึ่ง
ปัจจุบันไทยเราเองก็มีแรงงานต่างชาติเหล่านี้และไม่สามารถส่งตัวกลับได้ตกค้างในประเทศไทยจำนวนมากเช่นกัน และประเทศต้นทางปฏิเสธรับกลับด้วยเหตุผลต่างๆนานาเช่นกัน

 

รถไฟฟ้าล้อยางไร้คนขับขบวนแรกถึงไทย 10 มิ.ย.นี้ พร้อมนำขึ้นโรงจอดลอยฟ้าสถานีกรุงธนบุรี ความคืบหน้าโครงการภาพรวม 88% เปิดให้บริการประชาชนภายใน ต.ค.นี้

เมื่อวันที่ 28 พ.ค.63 นายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) วิสาหกิจของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการระบบขนส่งมวลชนขนาดรองสายสีทองช่วง สถานีกรุงธนบุรี-สถานีสำนักงานเขตคลองสาน (รถไฟฟ้าสายสีทอง) ว่า หลังจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้กำหนดการจัดส่งขบวนรถไฟฟ้าในโครงการรถไฟฟ้าสายสีทองต้องเลื่อนจากเดือนเมษายน 2563ที่กำหนดไว้เดิม ล่าสุดขณะนี้ทางบริษัทผู้ผลิตในจีน ได้จัดส่งขบวนรถไฟฟ้าในเส้นทางดังกล่าวมาแล้ว โดยขบวนรถจะมาถึงไทย ในวันที่ 10 มิถุนายน 2563 นี้ โดยจัดส่งมาก่อน 1 ขบวนมี 2 ตู้โดยสาร จากจำนวนที่จัดซื้อทั้งหมด 3 ขบวน โดยขบวนที่เหลือจะจัดส่งมาภายหลัง

นายมานิต กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง จะใช้รถ รุ่น Bombardier Innovia APM 300 ซึ่งผลิตจากเมืองอู่หู มณฑลอานฮุย สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อรถมาถึงและผ่านพิธีการทางศุลกากรแล้วจากนั้นจะมีการนำขบวนรถไฟฟ้ายกขึ้นสู่โรงจอดและซ่อมบำรุงที่สถานีกรุงธนบุรี เพื่อเตรียมการทดสอบระบบในช่วงเดือน มิถุนายนถึงกันยายน และทดสอบการเดินรถเสมือนจริง (Trial Running) ในเดือนกันยายน ก่อนเปิดให้บริการในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2563 นี้ซึ่งกำลังเร่งรัดงานในส่วนที่ล่าช้าจากผลกระทบโควิด-19

“สำหรับรถไฟฟ้ารุ่น Bombardier Innovia APM 300 มีความพิเศษคือ เป็นระบบที่ใช้เป็นรถไฟฟ้ารูปแบบไร้คนขับโดยใช้รางนำทาง มีผิวสัมผัสระหว่างล้อและทางวิ่งเป็นยาง ซึ่งจะทำให้เกิดความนุ่มนวลและก่อให้เกิดเสียงรบกวนต่ำ ความเร็วการทำงานสูงสุดที่ 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขบวนรถที่ใช้ในระบบมีทั้งหมด 3 ขบวน ขบวนละ 2 ตู้ โดยใช้รับส่งผู้โดยสารจำนวน 2 ขบวน และสำรองไว้ในระบบ 1 ขบวน ความจุผู้โดยสาร 137 คน/ขบวน รถไฟฟ้ามีความกว้าง 2.8 เมตร ความยาว 12.75 เมตร ความสูง 3.5 เมตร ประตูมีความกว้าง 1.9 เมตร ความสูงของพื้นรถ 1.1 เมตร น้ำหนัก 16,300 กิโลกรัม”

นายมานิต กล่าวต่อด้วยว่า สำหรับความคืบหน้างานก่อสร้างโรงจอดและซ่อมบำรุง รวมถึงสถานีกรุงธนบุรี (G1) สถานีเจริญนคร (G2) และสถานีคลองสาน (G3) ความก้าวหน้าภาพรวม 88 % แบ่งออกเป็นความก้าวหน้างานโยธา 93% และความก้าวหน้างานระบบการเดินรถ 81%

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่และการท่องเที่ยวย่านฝั่งธนบุรี โดยจะมีสวนพระปกเกล้าสกายปาร์ค แลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ และโครงการยังเชื่อมต่อการเดินทางของเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย

#รถไฟฟ้าสายสีทอง
#กรุงเทพธนาคม

 

#India ไม่ได้เจอแต่ โควิด19 ตอนนี้พวกเขาเจอภัยแล้งและการขาดน้ำรวมถึงคลื่นความร้อนที่ปกคลุมไปทั่วประเทศ
นับเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดของอินเดีย

 

เกาหลีใต้เผชิญการระบาดระลอก 2?
.
เกาหลีใต้มีความกังวลว่าตัวเองกำลังเข้าสู่การระบาดระลอก 2 เนื่องจากพวกเขาเจอผู้ป่วยในวันเดียวถึง 79 ราย ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนเป็นต้นมา
โดยปัจจุบันเกาหลีใต้เริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ซึ่งหากเป็นการระบาดระลอก 2 แล้ว พวกเขา อาจต้องกลับไปปิดประเทศอีกครั้งซึ่งนั่นสร้างความเสียหายอย่างยับเยินให้เศรษฐกิจ
#COVID19 #โควิด19 #coronavirus #SouthKorea

 

ห้าม Grab ใช้ลิฟท์
.
ไม่ได้เกิดที่เมืองไทย แต่เกิดที่สิงคโปรเมื่อผู้พักอาศัยในคอนโดแห่งหนึ่งไม่สบายใจที่จะใช้ลิฟท์ร่วมกับลูกบ้าน ทางนิติบุคคลเลยให้บรรดาผู้จะมาส่งอาหาร....ใช้บันได
ลองดูตัวอาคารเอาเถอะ

 

มาเลเซียเตรียมเปิดการท่องเที่ยวอีกครั้ง
.
การท่องเที่ยวมาเลเซีย Matta ได้เริ่มประกาศขั้นตอนการปฏิบัติงานมาตรฐาน (SOP) ใหม่เพื่อให้ได้มาตรฐานใหม่สำหรับการท่องเที่ยวที่ถูกสุขอนามัยในยุคการระบาด Covid-19 มาตรการใหม่นี้อาทิเช่นจำนวนที่นั่งบนรถนำเที่ยวหรือจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ท่องเที่ยวรวมถึงร้านอาหารและอื่นๆ
โดยมาตรการนี้จะมีขึ้นเพื่อให้การท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งปลอดภัยที่สุด

 

พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ปทุมธานีเตรียมกลับมาเปิดให้บริการวันที่ 6มิ.ย.นี้ เปิดเฉพาะเสาร์อาทิตย์ก่อนที่ก.ค.จะเปิดทุกวันตามปกติ พร้อมปรับรูปแบบเข้าลดจำนวนผู้เข้าชมอาคารลูกเต๋ารับได้ไม่เกิน200 คนต่อรอบต้องจองคิวก่อน &เข้มค.สะอาดหากจุดสัมผัสใดเสี่ยงมากก็จะปิดให้งดสัมผัสไปก่อน @TNAMCOT

 

#เยียวยา5000 ใกล้จบ! คืบหน้า 99.5 %
.
มีผู้ได้รับสิทธิ 15.1 ล้านราย คงเหลือระหว่างทบทวนสิทธิ 1.1 แสนราย แบ่งเป็น
- ผู้พิทักษ์สิทธิจะลงพื้นที่ 11,000 ราย
- ผู้ได้รับ sms 97,000 ราย โปรดติดต่อสาขาธนาคารกรุงไทยที่ใกล้ที่สุดภายใน 29 พ.ค. 63

#เราไม่ทิ้งกัน #คลังตอบ #mofthnews #โฆษกคลัง

 

LIBRA 2.0 กับ CENTRAL BANK DIGITAL CURRENCY การเปลี่ยนแปลงจากคู่แข่งเป็นพันธมิตร ได้ผลหรือไม่ : นายศรชัย สุเนต์ตา กรรมการผู้จัดการ Chief Investment Officer บริษัท หลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด ได้เขียนบทความเรื่อง “LIBRA 2.0 กับ CENTRAL BANK DIGITAL CURRENCY การเปลี่ยนแปลงจากคู่แข่งเป็นพันธมิตร ได้ผลหรือไม่” โดยมองว่า

การกลับมาของ LIBRA ที่ร่วมมือกับทางรัฐบาลมากขึ้น
ที่ผ่านมาประมาณเกือบปีกับการเปิดตัวโครงการ Libra ที่ Facebook เป็นผู้ผลักดัน ซึ่งช่วงแรกดูเหมือนจะได้รับความนิยมและมีพันธมิตรเข้าร่วมมากมาย ทั้ง Visa, Master Card หรือ Paypal โดยมีภารกิจที่จะเป็น “สกุลเงินของโลก” ซึ่งบริหารงานโดยองค์กรอิสระที่ชื่อ “Libra Association” แต่จากช่วงที่ผ่านมาโครงการ Libra ก็เผชิญปัญหาในหลายด้านจากหน่วยงานภาครัฐในสหรัฐฯ เองหรือการถอนตัวจากพันธมิตรเอกชนต่างๆ

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงการ Libra ไม่สำเร็จลุล่วงอย่างที่วางแผนไว้ ไม่ใช่อุปสรรคด้านเทคโนโลยี ความน่าเชื่อถือแต่มันคือการที่สกุลเงิน Libra จะทำให้อำนาจรัฐ และธนาคารกลางถูกลดบทบาทลง รวมถึงความน่าเชื่อถือของเอกชนในการสร้างเงิน Digital เพื่อเป็นตัวกลางของเงินให้มีความเป็นกลางมากที่สุด

แม้ Libra จะบอกว่าตัวเองเป็น Stable Coin ที่มีสินทรัพย์จริงหนุนหลังเป็นเงินของสกุลประเทศนั้นก็ตาม แต่ลองคิดภาพว่าแต่ละประเทศอนุญาตและใช้เงินสกุล Libra จริง แสดงว่าต้องมีการพึ่งพิงระบบของ Libra เสมือนเป็นการยืมจมูกคนอื่นหายใจ และหมายความว่านอกจากรัฐบาลแล้ว Libra ก็จะรู้ถึงข้อมูลการใช้-จ่ายเงินของผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบัน Customer Data เป็นข้อมูลที่มีค่ากับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างมาก

แต่ทาง Libra ก็กลับมาในชื่อ Libra 2.0 ที่มีการประนีประนอมกับทางฝั่งรัฐบาลและธนาคารกลางมากขึ้น โดย Libra Coin แบบที่ให้ธนาคารกลางทั่วโลกเข้ามาสร้างเงินสกุลดิจิทัลเองได้ โดยเริ่มแรกมี 4 สกุลเงินคือ USD, EUR, GBP และ SGD โดยต้องมีเงินสำรองในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 โดยเก็บไว้ในบัญชีธนาคารของ Libra และมีการปรับปรุงระดับความปลอดภัย และกฏเกณฑ์อื่นเพิ่มเติม แต่อย่างไรก็ตามอาจจะไม่ตอบโจทย์นี้เรื่อง ความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งานที่จะไม่ถูกนำไปหาประโยชน์เรื่องอื่นๆ

หันกลับมาดูทางเอเชียกันบ้าง
ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันนั้นทางธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนก็ได้ออกข่าวความคืบหน้าในการใช้เงิน Digital Yuan หรือ Digital Currency Electronic Payment (DC/EP) โดยเป็นการเริ่มทดลองใน 4 เมือง ได้แก่ เซิ่นเจิ้น ซูโจว เฉิงตู และสงอัน โดยมีการร่วมมือกับร้านค้าอย่าง Starbucks และ McDonald’s โดย Digital Yuan จีนนั้นจะสามารถใช้กับ App ของตนเองหรือใช้ร่วมกับระบบ Wepay, Alipay ก็ได้

ประเทศจีนยังคงมีการ Block Facebook และยิ่งในช่วงปัจจุบันเริ่มมีประเด็นสงครามการค้าระหว่าง สหรัฐฯ-จีน ที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงเลือกตั้งสหรัฐฯ ในปลายปีนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ไม่มีทางที่จะเข้าร่วม และใช้เงินสกุล Libra อย่างแน่นอน

สำหรับประเทศไทยเองนั้นคุ้นชินกับ Digital Money มาสักพักแล้ว เช่น Rabbit Line pay หรือ True wallet ที่ใช้แค่ในระบบปิดของตนเองอย่างซื้อของใน 7-11 หรือชำระค่าโดยสาร แต่ก็ยังต้องทำการชำระเงินบาทเข้ามาในระบบก่อน และยังไม่สามารถนำไปชำระหนี้ได้ตามกฏหมาย

แต่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็มีการพัฒนา “โครงการอินทนนท์” ที่เป็นเงินสกุลดิจิทัลของธนาคารกลาง หรือ Central Bank Digital Currency (CBDC) ที่นำเทคโนโลยี Distributed Ledger Technology (DLT) หรือระบบ Blockchain มาประยุกต์ใช้ โดยความคืบหน้าล่าสุดผลการทดสอบโครงการอินทนนท์ระยะที่ 3 สามารถโอนเงินข้ามประเทศระหว่างธนาคารสมาชิกได้แบบ Real-time โดยได้ทดสอบกับธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) และสำเร็จไปได้ด้วยดี

โดยข้อดีของ Digital Currency ของธนาคารกลางเองนั้น นอกจากจะทำให้ต้นทุนของการเพิมเงินในระบบลดลงแล้ว ยังสามารถตรวจสอบเส้นทางการเงิน ในระบบได้อย่างทั่วถึง รวมถึงการดำเนินการชำระเงิน Settlement ก็จะรวดเร็วขึ้นเป็นการประหยัดต้นทุนทั้งด้านเวลา และค่าใช้จ่ายให้กับระบบการเงินของประเทศ

Digital Currency นั้นมาแน่ แต่ LIBRA จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ?
การเข้ามาของ Digital Currency คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยธุรกิจแบบเดิมอย่าง ร้านแลกเงินต่างๆก็อาจจะมีบทบาทน้อยลงไปบ้าง เพราะปัจจุบันการชำระเงินสกุลต่างประเทศ หรือการพกเงินไปเที่ยวต่างประเทศ สามารถชำระผ่านช่องทางที่ไม่ใช่เงินสดเช่น Credit Card, Paypal หรือบัตรเดบิตท่องเที่ยว

ในอนาคตเมื่อ Digital Currency สามารถใช้ได้อย่างเป็นทางการ การโอนเงินชำระค่าสินค้าระหว่างประเทศสำหรับภาคธุรกิจก็จะรวดเร็ว ถูกต้อง และมีค่าใช้จ่ายที่ลดลง

จะเห็นได้ว่าธนาคารกลางในแต่ละประเทศนั้นได้มีโครงการพัฒนา Digital Currency เป็นของตนเองขึ้นมา แม้จะมีเทคโนโลยีที่แตกต่างกันบ้าง เช่น ประเทศจีนที่กล่าวว่าไม่ได้ใช้เทคโนโลยี Blockchain ต่างกับประเทศไทยเรา แต่ก็ทำให้โครงการ Libra นั้นมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จอย่างที่วางแผนไว้น้อยลง

โดยสื่อชื่อดังอย่าง Financial Times ได้เรียกว่าเป็นแค่ PayPal อันใหม่เท่านั้นเอง หมายความว่า Libra ก็จะเป็นแค่ระบบการชำระเงินออนไลน์ หรืออย่างมากก็เป็นเพียง E-wallet หรือ Digital Money อีกประเภทเท่านั้น ซึ่งเราก็คงต้องรอจับตาดูและปัจจัยที่สำคัญคือจะมีธนาคารกลางประเทศใดที่จะให้ Libra เป็น Digital Currency แทนที่จะพัฒนาเอง

Source: ThaiPublica
https://thaipublica.org/2020/05/libra-2-0-central-bank-digital-currency/

 

แสนสิริ x ลงทุนแมน
กรณีศึกษา ความปลอดภัยของที่อยู่อาศัย สำคัญต่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่างคอนโดสักห้องหรือบ้านสักหลัง
บางคนซื้อมาเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา และบางคนซื้อมาเพื่อปล่อยเช่า

ซึ่งปัจจัยที่คนส่วนใหญ่ใช้ในการพิจารณา ก็คือ ทำเลและราคา
แต่จริงๆ แล้ว การคำนึงเพียงปัจจัยเหล่านั้น อาจไม่เพียงพอสำหรับการลงทุนในระยะยาว
และทำให้การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของเรา อาจไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร

แล้วเราควรลงทุนอย่างไรเพื่อให้การลงทุนของเราคุ้มค่าที่สุด?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

รู้หรือไม่ว่า เรื่องของความปลอดภัยเป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ต่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อ หรือ เช่าที่อยู่อาศัย แต่โครงการที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี มีมาตรฐานจะสามารถสร้างความมั่นใจได้

แสนสิริ ให้ความสำคัญกับ “บริการทั้งก่อนและหลังการขาย” มาโดยตลอด
ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ แสนสิริ คงความเป็นผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์

โดยเฉพาะระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานใหม่ Sansiri Security System
ซึ่งถือเป็นบริการที่โดดเด่นของแสนสิริ ที่เข้ามาตอบโจทย์ทุกความต้องการเรื่องความปลอดภัย เพิ่มความอุ่นใจในการอยู่อาศัยของทุกโครงการ

เรื่องนี้จึงนับเป็นโอกาสที่น่าจับตามองเพื่อต่อยอดการลงทุนในระยะยาว ทั้งเพื่อการเก็งกำไรและอยู่อาศัยเอง

ความพิเศษของ Sansiri Security System นั้นอยู่ที่การพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

ซึ่งโดยปกติเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของแสนสิริจะต้องได้รับการฝึกอบรมขั้นพื้นฐาน รวมถึงมีการตรวจสอบการทำงานผ่าน Sansiri Security Inspection (SSI) ให้เป็นทีมรักษาความปลอดภัยที่มีคุณภาพ เชี่ยวชาญรอบด้าน และ นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมด้านการทำงานที่สนับสนุนให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่กับโครงการแสนสิริในระยะยาว

เราจึงมั่นใจได้ว่าทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จะสามารถดูแลโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกโครงการ

อีกจุดเด่นสำคัญของ Sansiri Security System ที่ช่วยให้ลูกบ้านใช้ชีวิตได้อย่างอุ่นใจ และนอนหลับได้อย่างสนิทใจทุกค่ำคืน นั่นคือการทำงานที่ผสานระหว่างเทคโนโลยีและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คอยดูแลลูกบ้านตลอด 24 ชั่วโมง

โดยมี LIV-24 ศูนย์สังเกตการณ์ระบบรักษาความปลอดภัยที่เชื่อมต่อกับเทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัยที่โครงการสามารถตรวจสอบและสั่งการแบบ Real-time โดยเชื่อมต่อกับอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยในโครงการ

CCTV-Video Analytics ระบบที่สามารถวิเคราะห์ความผิดปกติของเหตุการณ์ต่างๆ
Digital fence ที่จะส่งสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุบุกรุก จากบริเวณรั้วรอบโครงการ
Real-time Guard Tour ตรวจสอบสถานะการเดินตรวจตามจุดของรปภ. แบบ Real-time

โดยระบบเหล่านี้จะ ส่งสัญญาณเข้ามาที่ LIV-24 เมื่อเกิดเหตุผิดปกติ โดยจะมีการประสานเข้าไปที่โครงการ เพื่อเข้าตรวจสอบเหตุการณ์อย่างรวดเร็ว

และเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ New Normal ในเรื่อง ไร้การสัมผัส
ลูกบ้านสามารถลงทะเบียนล่วงหน้า ว่าจะมีผู้มาติดต่อเข้าพบ แบบไม่ต้องแลกบัตร ผ่านฟีเจอร์ Visitor Pass บน Home service Application

ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก็จะสามารถตรวจสอบรายชื่อในระบบได้ตั้งแต่ตอนเข้าโครงการและเก็บข้อมูลบัตรได้เลย ส่วนทางนิติบุคคลของโครงการก็จะได้รับข้อมูลชุดเดียวกัน ทำให้สามารถลดการสัมผัสกันได้แบบ 100%

นอกจากนั้น ถ้าเรามีเพื่อนมาหาที่คอนโด เราสามารถดูผ่านกล้อง VDO Phone และส่ง Smart Access QR code ให้เพื่อน เพื่อเข้าอาคารโดยไม่ต้องลงไปเปิดประตูเอง

เรื่องนี้ทำให้เข้าใจได้ว่า ระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี ต้องเกิดจากการผสานการทำงานกันระหว่างตัวเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเทคโนโลยีที่ทันสมัย อย่าง Sansiri Security System ทั้งหมดก็เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้ชีวิตสูงสุดแก่ลูกบ้าน

หากมองว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ตอนนี้ เชื่อว่าแสนสิริต้องเป็นหนึ่งในตัวเลือกการลงทุนที่คุ้มค่าแน่นอน นั่นเป็นเพราะบริการที่แตกต่างที่มอบให้กับลูกบ้านทุกคน นับตั้งแต่วันที่คุณเข้ามาเป็นลูกค้าก่อนเข้าอยู่จนถึงหลังการขายในวันที่คุณเป็นลูกบ้านแล้ว

ถ้าเราเลือกได้ว่าอยากจะลงทุนกับอะไร ลอง #เลือกให้แสนสิริดูแล #MadeForLife #MadeForYou #SansiriSecuritSystem

รายละเอียดบริการอื่นๆ จาก แสนสิริ http://siri.ly/KXXvFN5

 

อุตสาหกรรมแฟชั่น ทำลายโลกมากกว่าที่เราคิด /โดย ลงทุนแมน
รู้หรือไม่ “อุตสาหกรรมแฟชั่น” สร้างผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมมากเป็นอันดับ 2 ของโลก
ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเราทิ้งเสื้อผ้าที่เราซื้อมาบ่อยครั้งเพียงสาเหตุเดียว
แต่กระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมแฟชั่นกำลังเป็นตัวปัญหา
ซึ่งจริงๆ แล้วเราสามารถทำให้มันดีขึ้นได้

เรื่องนี้มีที่มาเป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

“น้ำ ดิน อากาศ”
3 สิ่งนี้คือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นลำดับแรกๆ

เรามาเริ่มกันที่ผลกระทบต่อ “น้ำ”

รู้หรือไม่ว่า การผลิตเสื้อยืดเพียง 1 ตัว เราจะต้องใช้น้ำมากถึง 2,700 ลิตร
ซึ่งเป็นปริมาณที่มากพอสำหรับคนๆ หนึ่งจะบริโภคได้ถึง 3 ปี

เหตุผลที่ต้องใช้น้ำมากขนาดนี้ก็เป็นเพราะเสื้อยืดทำมาจาก “ฝ้าย”
และฝ้ายเป็นพืชที่ต้องใช้น้ำในปริมาณที่สูงมากในการปลูก

ในขณะที่ อินเดียซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการปลูกฝ้าย
และทำอุตสาหกรรมแฟชั่นรายใหญ่ของโลก

ต้องใช้น้ำจืดถึง 85% ของปริมาณการใช้ทั้งหมด ในการปลูกฝ้าย
แต่คนอินเดียกว่า 100 ล้านคนกลับไม่สามารถเข้าถึงน้ำดื่มได้

นอกจากนี้ ในกระบวนการ “ฟอกย้อมสีผ้า”
ยังต้องใช้น้ำ และสารเคมีเป็นจำนวนมหาศาล
กระบวนการนี้จะทำให้น้ำสะอาด กลายเป็นน้ำที่มีการปนเปื้อนในทันที..

ถัดมาก็คือ ผลกระทบต่อ “ดิน”

ปุ๋ยและสารเคมีที่ใช้สำหรับการปลูกฝ้ายในหลายแห่งจะทิ้งสารตกค้างไว้ในดิน
ซึ่งในบางกรณีจะทำให้ดินเสียหายและเสื่อมคุณภาพไปในที่สุด

นอกจากนี้ใน 1 ปีจะมีเสื้อผ้าเก่า และของเสียจากอุตสาหกรรมแฟชั่น
ถูกโยนทิ้งในพื้นที่เปล่า หรือ พื้นที่ฝังกลบ มากกว่า 10 ล้านตันต่อปี

น่าเสียดายที่ของเสียเหล่านี้ถูกนำไปรีไซเคิลไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำ

ส่วนผลกระทบต่อ “อากาศ”
รู้หรือไม่ 10% ของการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลก มาจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ

โดยการผลิตเสื้อผ้า 1 ตัว
กระบวนการผลิตจะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ สูงถึง 3 - 4 กิโลกรัม
ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหา “ภาวะเรือนกระจก” และ “ภาวะโลกร้อน” ตามมาอีกด้วย

ดังนั้นถ้าเราไม่รีบแก้ปัญหานี้
ทุกอย่างอาจจะสายเกินแก้..

มีการคาดการณ์ว่า
- ในอีก 10 ปีข้างหน้า ของเสียจากอุตสาหกรรมแฟชั่นในออสเตรเลียจะเพิ่มขึ้นจนสามารถนำวางเรียงเป็นแนวราบได้เต็มพื้นที่ทั้งประเทศออสเตรเลีย

- ในอีก 30 ปีข้างหน้า โลกจะเหลือปริมาณน้ำสะอาด 75% ของปริมาณน้ำทั้งหมด

- ในอีก 60 ปีข้างหน้า โลกจะเหลือปริมาณน้ำสะอาดเพียง 50% ของปริมาณน้ำทั้งหมด

จากน้ำสะอาดที่เหมือนเป็นของราคาถูกในตอนนี้ มันอาจจะกลายเป็นของหายากในรุ่นลูกรุ่นหลานของเรา

แล้วเราจะแก้ปัญหานี้ โดยไม่ให้กระทบกับการเติบโตของอุตสาหกรรมแฟชั่นได้อย่างไร?

เราลองมาดูวิธีการแก้ปัญหาของแบรนด์ต่างๆ กันครับ

เริ่มกันที่แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง “ZARA” ที่ได้มีการประกาศว่า
ภายในปี 2025 แบรนด์จะหันมาใช้ผ้าฝ้าย และผ้าลินินแบบออร์แกนิก ซึ่งจะช่วยลดสารพิษตกค้างในสิ่งแวดล้อมลงได้

นอกจากนี้ ZARA จะหันมาใช้ผ้าโพลีเอสเตอร์ ที่ทำมาจาก “วัตถุดิบรีไซเคิล” แทนการใช้วัตถุดิบที่ผลิตใหม่

ตามมาด้วยแบรนด์ Adidas และ H&M ก็ได้ประกาศว่าจะหันมาใช้ “ผ้ารีไซเคิล” เช่นกัน

ตอนนี้หลายคนอาจจะเริ่มสงสัยว่า “ผ้ารีไซเคิล” คืออะไร
เราลองมาทำความรู้จักผ้าชนิดนี้กัน

ผ้ารีไซเคิล คือ ผ้าที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ อย่างเช่น ขวดน้ำที่นำไปเข้ากระบวนการต่างๆ จนสามารถนำไปทอผ้าได้ หรือเสื้อผ้าเก่าที่นำไปแปรสภาพเป็นเส้นใยและทอเป็นผ้าใหม่

วิธีนี้เป็นวิธีที่น่าสนใจ
เพราะไม่เพียงแค่เราจะสามารถลดปริมาณขยะพลาสติกและขยะเสื้อผ้าเก่าที่มีอยู่เดิม
แต่ยังช่วยลดการผลิตวัสดุต่างๆ ขึ้นใหม่ได้

ดังนั้น ถ้าเรานำของเดิมที่มีอยู่กลับมาใช้ใหม่ และมีการผลิตเพิ่มขึ้นใหม่น้อยลง
โลกของเราจะสามารถแก้ปัญหาขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

และสำหรับผู้บริโภค มันคงจะดีไม่น้อย ถ้าในอนาคตเราจะสามารถซื้อเสื้อผ้าใหม่ได้โดยไม่ต้องรู้สึกผิดกับโลกใบนี้..

<AD>
แล้วในไทย เรามีการผลิตผ้ารีไซเคิลแล้วหรือยัง?

- SC GRAND “แบรนด์ผ้ารีไซเคิล”

เป็นหนึ่งในโรงงานผลิตผ้ารีไซเคิลในไทย โดยการนำเสื้อผ้าเก่า และของเสียที่อยู่ในอุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอ มารีไซเคิลเป็นผ้าใหม่หรือเรียกว่า ผ้ารีไซเคิลคอทตอนและผ้ารีไซเคิลโพลีเอสเตอร์

โดยทางโรงงานของ SC GRAND จะใช้ “ระบบการผลิตแบบหมุนเวียน (Circular Fashion)”
ระบบนี้จะเป็นกระบวนการผลิตผ้ารีไซเคิล จากวัตถุดิบที่มีอยู่แล้ว อย่างเช่น

- เศษผ้าที่เหลือจากการตัดเย็บ
- เสื้อผ้าเก่าที่ถูกทิ้ง
- ของเสียจากอุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอ

ซึ่งระบบนี้จะมีแค่ที่โรงงานของ SC GRAND เท่านั้น (Zero waste and closed loop system)

ต่อจากนี้ถ้าแบรนด์แฟชั่นต่างๆ หันมาใช้ผ้ารีไซเคิลมากขึ้น นั่นหมายความว่า โลกของเราก็จะดีขึ้นเช่นกัน

References
- www.circularoem.com
- www.sustainyourstyle.org/en/whats-wrong-with-the-fashion-industry
- https://www.businessoffashion.com/articles/intelligence/
- https://www.dezeen.com/2019/07/18/zara-sustainable-fabrics-cotton-polyester-2025/
- https://ourworldindata.org/water-accessd
- https://www.businessinsider.com/
- http://riverbluethemovie.eco