ติดตามสถานะการณ์

สหรัฐ :รัฐออริกอน LouisVuitton สาขา พอร์ตแลนด์ ม๊อบได้เข้าไปช๊อปปิ้งเกลี้ยง

 

อินเดีย : รัฐอุตตรประเทศ
ฝูงลิงได้เขาไปชิงหลอดเลือดตัวอย่างผู้ป่วยโควิด
ขณะที่เจ้าหน้าที่ขนย้ายระหว่างห้องแลป ลิงได้เข้าไปแย่ง 3หลอดจาก 4 หลอด แล้วหนีปีนขึ้นต้นไม้ แกะหลอดเลือตัวอย่าง และโยนลงมา เจ้าหน้าที่คุมโรคได้เข้าไปกำจัดเชื้อ ชาวบ้านกลัวลิงเป็นพาหะนำโรคโควิดมาแพร่ระบาดสู่คน
แอดมินเอาคลิปวีรกรรม ลิงอินเดียมาให้ชม
คลิปที่ 1 ขโมยตัวอย่างเลือดตามข่าว
คลิปที่ 2 ต้นเดือนงัดตู้ ATM แอบดูเจ้าหน้าที่ขนเงินแล้วทำตาม เสียงเตือนปล้นธนาคารดัง เจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูพบเป็นลิง
คลิปที่ 3 ใส่กุญแจรถเป็น จำได้แม่นมาก

https://m.facebook.com/groups/220900739128637?view=permalink&id=254900105728700

 

สหรัฐ : การชุมนุมประท้วงได้กระจายออกไปหลายรัฐ โดยเฉพาะในกลุ่มคนผิวสี และผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง ม๊อบได้บุกทำเนียบขาว สำนักงาน CNN หลายแห่งในหลายรัฐ
ปะทะกับเจ้าหน้าที่รวมทั้งเจ้าหน้าที่ใช้สเปรย์พริกไทย ใช้กำลังเพื่อสลายม๊อบ สหรัฐเสริมกำลังในหลายพื้นที่
# ใครอยู่เบื้องหลังแหล่งเงิน ม๊อบ
มีข่าวลือแหล่งเงินลงขันในกลุ่มคนผิวสี และ
พ่อมดทางการเงิน จอร์จ โซรอส แม้กระทั้งมหาอำนาจอีกราย ที่กำลังต่อรองดีลกัน รวมทั้งขั่วการเมืองอีกขั่วที่กำลังใช้ไวรัส และม๊อบโค่นกัน
แต่ยังไม่ฟันธงว่าใครอยู่เบื้องหลังที่แท้จริง
# สหรัฐ ต้องเจอทั้งโควิดระบาดคนตาย คนตกงานจำนวนมาก พายุเฮอริเคนกำลังมา และปีนี้คาดว่าหนักกว่าทุกปี ม๊อบผิวสีที่กำลังก่อตัวในหลายเมือง จะจบลงด้วยสันติหรือวิธีใดน่าติดตาม

 

สถานการณ์ม๊อบใน เทกซัส

สหรัฐ : แดลลัส / ฮิวสตัน
รัฐเทกซัส ม๊อบที่มาส่วนหนึงจงใจที่จะมาปล้นร้านค้า ใช้ช่วงชุมนุมพังร้านเพื่อเข้าไปเอาสินค้าในร้าน

 

โอมาน : เมือง Sadah ฝนตกหนักทำให้น้ำป่าไหลหลาก หลายพื้นที่ทะเลทรายแต่น้ำท่วม
# โอมาน ซาอุ uae ในบางพื้นที่เจอพายุตอนนี้
คลิปเพิ่ม
https://m.facebook.com/groups/220900739128637?view=permalink&id=254973562388021

 

#ข่าวสั้น (30 พ.ค.) ทรัมป์ประกาศยุติความสัมพันธ์กับองค์การอนามัยโลก (WHO) และจะนำเงินที่เคยให้ WHO ไปให้กับที่แห่งอื่นทั่วโลกที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินทางด้านสาธารณสุขเร่งด่วน

————-

✒️อันนี้ข้อมูลแถม
ญี่ปุ่นเพิ่งประกาศบริจาคให้กับ WHO ไปเพิ่มอีก 270 ล้านเหรียญสหรัฐ (3 หมื่นล้านเยน) เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา
และในวันที่ 26 พ.ค. ผ.อ. WHO ก็ออกมาประกาศว่าญี่ปุ่น “ประสบความสำเร็จ” ในการจัดการโรคโควิด-19
✒️ก็สำเร็จจริง ๆ นะคะ ถ้าเทียบกับอเมริกา และ อังกฤษ แต่ถ้าหันมามองในเอเชีย.......

✒️ส่วนตัวแอดมองว่า การเมืองระหว่างประเทศ
ทรัมป์ก็พยายามหาศัตรูนอกประเทศ เพื่อบ่ายเบี่ยงที่ตัวเองจัดการได้ไม่ดี ด่าจีน บ้าง ด่า WHO บ้าง
ส่วนญี่ปุ่นก็ต้องการคนมาสนับสนุนตนเอง ก็ต้องใช้เสียงจากองค์การอนามัยโลก เพราะโดนวิพากษ์วิจารณ์หนักจากสื่อนานาชาติถึงความน่าฉงน จนต้องออกงบ PR มาพร้อมงบฉุกเฉินเลยทีเดียว

แต่ไม่ว่าจะทางไหน... ก็ขอให้เงินไปถึงประเทศที่สาธารณสุขพื้นฐานไม่ดี และช่วยเค้าจริง ๆ ก็พอค่ะ

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวต่างประเทศ

ภาพ: BBC Twitter

 

#ยานSpaceXรุ่นทดลองระเบิด!

มีข่าวด่วนเข้ามาว่า ยานขนส่งของ SpaceX Starship รุ่น Prototype เกิดระเบิดเป็นจุณขณะที่ทำการทดลองที่ฐานปล่อยจรวดที่เขต Boca Chica ในเท็กซัส

แรงระเบิดทำให้จรวดขนาดยักษ์สูง 394 ฟุต หายวับไปกับตาทันที แต่ยังไม่มีรานงานว่ามีใครได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้

ภาพการระเบิดยาน Prototype ของ SpaceX

จรวด Protoype รุ่นนี้ อีลอน มัสค์ ตั้งใจจะใช้เป็นยานขนส่งสินค้า และมนุษย์ ไปสู่ดวงจันทร์ และ ดาวอังคารในอนาคต หากพัฒนาสำเร็จ แต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน และยังไม่มีรายงานว่าเกิดจากอะไร

แต่ทาง SpaceX ยืนยันว่าจรวดรุ่นนี้ ไม่ใช่รุ่นเดียวกับยาน Falcon 9 ที่กำลังจะได้ฤกษ์ปล่อยยานที่ศูนย์วิจัยเคนเนดี้ในฟลอริด้า ช่วงบ่าย 3 โมงครึ่งของวันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคมนี้ในเวลาสหรัฐ พร้อมนักบินอวกาศของนาซ่าถึง 2 คน คือ บ๊อบ เบห์นเคน และ ดัก เฮอร์เลย์ เพื่อมุ่งหน้าสู่สถานีอวกาศนานาชาติที่นอกโลก และนี่จะเป็นครั้งแรกที่จะมีนักบินของนาซ่า บินกับยานของ SpaceX ด้วย

ซึ่งตามกำหนดเดิม เที่ยวบินครั้งประวัติศาสตร์ของ SpaceX จะปล่อยยานเมื่อวันพุธที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา เสี่ยอ่าง โดนัลด์ ทรัมพ์ ยังอุตส่าห์เคลียร์คิว ควงศรีภรรยาคนสวย เมลาเนีย ทรัมพ์ มาดูด้วยกัน แต่ปรากฏว่า ทางนาซ่าตัดสินใจเลื่อนอย่างกะทันหัน เพราะสภาพอากาศไม่เป็นใจ ทำเอาเสี่ยทรัมพ์เสียเส้น ต้องบินกลับ

พอมาวันเสาร์นี้ กำลังจะปล่อยยาน ก็ปรากฏว่า จรวดรุ่น Prototype ของ SpaceX ดันมาระเบิดตูมตามเอาก่อนวันปล่อยยาน Falcon 9 แค่วันเดียวอีกต่างหาก

ถึงแม้ว่านี่อาจจะไม่ใช่ยาน Prototype ลำแรกที่ SpaceX เคยเสียไป สำหรับอีลอน มัสค์ อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ก็ดันมาระเบิดเอาช่วงใกล้ปล่อยยานจารึกประวัติศาสตร์ของบริษัทซะนี่

ไม่รู้ว่าเจ้าพ่อไอรอนแมน อีลอน มัสค์ แกจะเชื่อเรื่องฤกษ์ยาม โหราศาสตร์แบบบ้านเราหรือเปล่านะคะ แต่ถ้าเป็นพี่ไทยนี่คือเสียฤกษ์สุดๆ ต้องทำบุญสะเดาะเคราะห์ก่อน แล้วหาฤกษ์ใหม่ดีๆ นักบินอวกาศเขาจะได้ไม่เสียวนะค้า

แต่ก็หวังว่านี่จะเป็นการฟาดเคราะห์แล้ว ก็ขอให้เที่ยวบินที่กำลังจะเดินทางถึงที่หมาย แล้วกลับมาอย่างปลอดภัยนะค้า

แหล่งข้อมูล
https://www.theguardian.com/science/2020/may/29/spacex-starship-rocket-prototype-explodes-test

https://www.theverge.com/2020/5/29/...p-prototype-rocket-explosion-static-fire-test

https://www.pbs.org/newshour/nation/watch-live-trump-delivers-remarks-after-space-x-launch

 

#ทรัมพ์ถล่มจีนไม่ยั้งกลางงานแถลงข่าว
#ประกาศตัดสัมพันธ์WHO

เมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา เวลา 2 ทุ่มของสหรัฐ เสี่ยอ่าง โดนัลด์ ทรัมพ์ของเรา ปล่อยระเบิดลูกใหญ่เป็นชุด กลางงานแถลงข่าวประจำวันหน้าทำเนียบ ถล่มจีนไม่ยั้ง สารพัดเรื่องขุดมาด่า พร้อมทั้งประกาศตัดสัมพันธ์กับองค์การอนามัยโลกด้วย

วันนี้เรียกได้ว่า เป็นวันปล่อยผีของท่านเสี่ยทรัมพ์ที่แท้ทรู ทันที่ได้ขึ้นโพเดี่ยมจับไมค์แถลงข่าวต่อหน้าสื่อ แกกับเปิดฉากถล่มจีนทันที ด้วยการเกริ่นนำว่า

"วันนี้ผมจะขอมาพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ กับจีนเสียหน่อย อย่างที่ทราบกันว่า ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา จีนนั้นละเมิดข้อตกลงหลายอย่าง และพยายามโจมตี ท้าทายสหรัฐอย่างที่ไม่เคยมีชาติไหนในโลกกล้าทำกับเรามาก่อน"

แล้วแกก็ร่ายยาวมาตั้งแต่เรื่องที่สหรัฐต้องสูญเสียรายได้นับพัน นับหมื่นล้าน ที่ปล่อยให้จีนเข้ามากอบโกยจากสหรัฐ โดยเฉพาะในยุคของรัฐบาลที่แล้ว (ยังขอให้ได้แขวะโอบาม่าอีก)

เสี่ยทรัมพ์กล่าวหาว่าโรงงานจีนในต่างประเทศมาแย่งงานคนสหรัฐ ละเมิดข้อตกลงองค์การการค้าโลก (WTO) หาว่าจีนทำตัวเป็นสายลับ มาแอบขโมยข้อมูลเทคโนโลยีของสหรัฐ รุกรานน่านน้ำในย่านแปซิฟิค และยังผิดสัญญาข้อตกลงเรื่องระบบการปกครองในฮ่องกง

และที่สำคัญที่เสี่ยแกไม่ลืมเน้นย้ำ ไฮไลท์ 5 เส้น คือการแพร่ระบาดของเชื้อโรคจากอู่ฮั่น ที่ทำให้คนอเมริกันเสียชีวิตไปแล้วเกินแสนคน และร่วมล้านคนทั่วโลกแล้ว ยังไม่รวมเศรษฐกิจที่พังวินาศสันตะโร เพราะจีนปกปิดข้อมูล และกดดันองค์การอนามัยโลกไม่ให้เปิดเผยความจริงให้โลกรู้

"ดีนะที่ผมแบนคนจีนไม่ใช้เข้าสหรัฐได้ก่อน ถึงตอนนั้นจะมีคนไม่เห็นด้วย แต่แล้วความคิดของผมก็ถูกต้อง 100% "

หลังจากเล่นจีนจนพอใจแล้ว แกก็มาต่อที่ WHO หาว่าโดนจีนครอบงำ ขนาดที่เสี่ยแกส่งจดหมายให้ปฏิรูปองค์กรซ่ะ แต่ไม่เห็นเขาจะทำอะไร

(แต่จดหมายของท่านเสี่ย เพิ่งจะส่งไปตอนงานประชุมสมัชชาองค์การอนามัยโลกเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเอง แล้วเสี่ยก็ให้เวลา 30 วันไม่ใช่เหรอค้า ผ่านมาแค่อาทิตย์เดียวเองนา)

เมื่อเขาไม่ทำอะไร และยังยอมอยู่ภายใต้การควบคุมของจีนโดยสมบูรณ์แบบนี้ ทั้งๆที่จีนให้เงินบริจาคแค่ 40 ล้านเหรียญ ถ้าเทียบกับเรา ที่จ่ายให้ถึงปีละ 450 ล้านเหรียญ ถ้าเป็นดังนั้น ผมก็จะประกาศตัดสัมพันธ์กับองค์การอนามัยโลกนับจากนี้ไป และจะโอนเงินบริจาคไปให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขที่อื่นแทนดีกว่า

นอกจากนี้ทรัมพ์ยังพูดถึงการแบนชาวจีนที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐเข้าประเทศ แบนบริษัทจีนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ

ซึ่งก็มีข่าวว่าทีมทรัมพ์ กำลังพิจารณาเพิกถอนวีซ่านักเรียนจีนบางคนที่กำลังเรียนในระดับมหาวิทยาลัยในสหรัฐ ที่พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน หรือฝ่ายกองทัพของจีน ที่อาจทำให้นักศึกษาจีนกว่า 5,000 คนต้องถูกส่งตัวกลับประเทศทันที และอาจส่งผลกระทบกับมหาวิทยาลัยทั่วทั้งสหรัฐ ที่มีนักศึกษาจีนลงทะเบียนอยู่เป็นจำนวนมากอีกด้วย

ก็นับว่าเป็นงานแถลงข่าวที่ดุเดือดเลือดพล่านจริงๆ ที่ไม่รู้ว่าเสี่ยทรัมพ์แกกินยา Hydroxy เข้าไปมากเกินไปหรือเปล่า วันนี้เลยจัดเต็ม อัดไม่ยั้ง แบบชาตินี้ ไม่คิดจะเผาผีกันแล้ว

และคิดว่าเดี๋ยวทางจีนคงส่งตัวแทนออกมาตอบโต้อย่างแน่นอน กลายเป็นศึกน้ำลายข้ามโลก ที่คงไม่มีใครฟังแล้วสบายใจ เพราะแค่นี้เศรษฐกิจก็แย่มากแล้ว 2 ชาติมหาอำนาจยังจะมาชนกันเอาเวลานี้อีก แล้วจะได้ฟื้นกันเมื่อไหร่หล่ะค้า

แหล่งข้อมูล

https://thehill.com/homenews/administration/500161-trump-us-terminating-relationship-with-who#

https://www.msn.com/en-us/news/poli...terminating-relationship-with-who/ar-BB14Mlot

https://www.reuters.com/article/us-...inese-graduate-students-sources-idUSKBN2342AX

 

คนฮ่องกงแห่แลกเงินยูเอสดอลล่าร์
คนฮ่องกงแห่แลกเงินฮ่องกงดอลล่าร์เป็นยูเอสดอลล่าร์ จนบู๊ธแลกเงินไม่มีเงินพอให้แลก หลังจากที่นายไมค์ ปอมเปโอ รมว ต่างประเทศสหรัฐบอกว่า ฮ่องกงจะไม่สามารถรักษาสถานภาพการเป็นเขตปกครองตัวเองได้ เนื่องจากปักกิ่งเตรียมผ่านกฎหมายความมั่นคงเพื่อบังคับใช้กับฮ่องกง

ตอนนี้คนฮ่องกงกลัวที่สุดคือ กฎหมายความมั่นคงที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของฮ่องกง และอาจจะนำไปสู่การยกเลิกระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่ (currency board) ที่ผูกค่าเงินฮ่องกงดอลล่าร์กับยูเอสดอลล่าร์อย่างเหนียวแน่น เพราะว่าถ้าหากมีการแห่แลกฮ่องกงดอลล่าร์เป็นเงินสกุลอื่นมากๆ จะทำให้ธนาคารกลางของฮ่องกงไม่สามารถรักษาระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่ได้

อัตราแลกเปลี่ยนฮ่องกงดอลล่าร์ต่อยูเอสดอลล่าร์ล่าสุดอยู่ที่ HK$7.75ต่อUS$1 โดยอัตราแลกเปลี่ยนมีการเคลื่อนไหวน้อยมาก เพราะว่าMonetary Authority of Hong Kongจะแทรกแซงให้ค่าเงินอยู่ในกรอบที่แคบมากๆ เพื่อรักษาความเชื่อมั่นในค่าเงิน

นายEddie Yue Wai-man ผู้ว่าของHong Kong Monetary Authorityได้ออกมาให้คำมั่นว่า ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่จะยังคงเป็นเสาหลักที่สำคัญของระบบการเงินฮ่องกง โดยย้ำว่าไม่ต้องห่วงเพราะว่าฮ่องกงมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมากถึงUS$440,000ล้าน
https://www.scmp.com/news/hong-kong...sh-us-dollars-hong-kong-forces-money-changers

แต่ถ้าหากมีการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฮ่องกง ที่มุ่งปราบปรามผู้ที่คิดแยกรัฐอิสระ และผู้ที่ดึงเอามหาอำนาจตะวันตกเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกง อาจจะนำไปสู่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนมากยิ่งขึ้น จนอาจจะถึงขั้นแซงชั่นจีน และอาจจะมีผลทำให้เงินทุนไหลออกจากฮ่องกงอย่างฉับพลัน

ถ้าเงินทุนไหลออกมาก จะทำให้Hong Kong Monetary Authority มีแรงกดดันที่ต้องขายยูเอสดอลล่าร์เพื่อซื้อเงินฮ่องกงดอลล่าร์เพื่อปกป้องเงินฮ่องกงดอลล่าร์ไม่ให้แครชออกจากระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่ ถ้าถึงจุดๆหนึ่งที่ปกป้องค่าเงินฮ่องกงดอลล่าร์ไม่ไหว ธนาคารกลางฮ่องกงอาจจะปล่อยให้ค่าเงินฮ่องกงลอยตัวก็ได้ ซึ่งจะทำไปสู่การอ่อนตัวของค่าเงินฮ่องกงจากการถูกแรงเทขาย

นี่คือเหตุผลว่า ทำไมคนฮ่องกงจึงแห่ไปแลกฮ่องกงดอลล่าร์เป็นยูเอสดอลล่าร์ จนบู๊ธไม่มีเงินให้แลก เพราะกลัวว่าทางการฮ่องกงจะไม่สามารถรักษาค่าเงินฮ่องกงให้มีสเถียรภาพได้เหมือนเดิม ท่ามกลางอนาคตที่ง่อนแง่นของฮ่องกงที่กำลังถูกปักกิ่งดัดหลัง

30/5/2020

 

สถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในเวลานี้ กำลังระอุพร้อมปะทุตลอดเวลา ล่าสุดประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แถลงโจมตีจีนอย่างหนักอีกครั้งโดยระบุว่า
.
จีนขโมยความลับทางอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ และอ้างสิทธิเหนือดินแดนในมหาสมุทรแปซิฟิกอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นภัยคุกคามต่อการเดินเรือเสรี รวมถึงโจมตีจีนเรื่องการออกกฎหมายความมั่นคงสำหรับฮ่องกง ว่าเป็นการบ่อนทำลายการปกครองตนเองของฮ่องกง พร้อมประกาศว่าสหรัฐฯ จะยกเลิกการให้สถานะพิเศษทางการค้าต่อฮ่องกง และจะถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก
.
โดยอ้างว่าองค์การอนามัยโลก ถูกจีนครอบงำอย่างเบ็ดเสร็จ และถูกจีนกดดันจนทำให้องค์การอนามัยโลกให้การชี้นำอย่างผิดๆ แก่ประชาคมโลก เกี่ยวกับต้นกำเนิดในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งสหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังกล่าวหลังการแถลงว่า เขารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ในเวลานี้
.
นอกจากนี้ ยังประกาศมาตรการตอบโต้จีนซึ่งทำให้ความสัมพันธ์เลวร้ายลงไปอีก ซึ่งทรัมป์กล่าวว่าเป็นเพราะ จีนได้กระทำการชั่วร้ายต่อสหรัฐฯ อย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.click2houston.com/news/...announces-unprecedented-action-against-china/

https://www.mcot.net/viewtna/5ed1d9cee3f8e40af944e127
https://www.naewna.com/inter/496104

-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

ในที่สุดปมการตายของ จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจในมินนิอาโปลิสจับกุมด้วยความรุนแรงจนเสียชีวิต สร้างประเด็นที่ก่อให้เกิดการชุมนุมประท้วงเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม และจลาจลไปทั่ว
.
ซึ่งขณะนี้กรณีการใช้อำนาจของรัฐกับประชาชนในสหรัฐฯ ได้กลายมาเป็นประเด็นทางการเมืองที่ร้อนจนไฟแทบลุก ขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ใกล้เข้ามาถึงในอีกไม่นาน
.
ล่าสุดนักร้องสาวซ่าตัวแม่ของวงการเพลงอเมริกัน และคนทั้งโลกอย่าง เทย์เลอร์ สวิฟต์ ได้ออกมาร่วมเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชายผิวสีที่ตกเป็นเหยื่อการใช้ความรุนแรงของตำรวจ พร้อมตอกกลับทวีต ของทรัมป์ ที่ยุยงตำรวจให้ยิงผู้ก่อจลาจล
.
เทย์เลอร์ สวิฟต์ ได้โพสต์ข้อความดังกล่าวบนทวิตเตอร์ส่วนตัวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 พ.ค.) พุ่งเป้าโจมตีไปที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยตรง ข้อความดังกล่าวตอนนี้มีการรีทวีตเกินกว่า 2.6 แสนครั้ง และได้ยอดการกดไลค์เกิน 1 ล้านครั้ง โดยเนื้อหาในโพสต์ระบุว่า
.
“หลังจากที่คุณเพิ่มไฟให้คุกรุ่นเรื่องชาตินิยมผิวขาวและการเหยียดเชื้อชาติมาตลอดวาระการเป็นประธานาธิบดี คุณยังกล้าจะมาพูดเรื่องคุณธรรมแบบปลอมๆ ก่อนจะข่มขู่ด้วยประโยคว่า ถ้าการโจรกรรมเกิดขึ้นก็เริ่มยิงได้ ด้วยเหรอ? พวกเราจะโหวตคุณออกในเดือนพฤศจิกายนนี้”

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.cbsnews.com/news/taylor-swift-trump-protest-tweet/

https://www.independent.co.uk/arts-...-reactions-twitter-george-floyd-a9539756.html

https://www.thansettakij.com/conten...m_medium=internal_referral&utm_campaign=world
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

• ขณะนี้อินเดียตอนเหนือกำลังเผชิญอากาศร้อนที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งก็ว่าได้หลังเข้าสู่ฤดูร้อน สาเหตุจากคลื่นความร้อนที่หนักหน่วง บางแห่งมีอุณหภูมิสูงถึง 50 องศาเซลเซียสเข้าไปแล้ว

• กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดียกำลังร้อนระอุที่สุดในรอบเกือบ 2 ทศวรรษของเดือน พ.ค. และคาดว่าอุณหภูมิร้อนระอุจะปกคลุมตอนเหนือของอินเดียไปอีกหลายวัน

• แต่ที่สาหัสที่สุดคือเมืองจูรู (Churu) พื้นที่ทะลเทรายในรัฐราชสถาน อุณหภุมิสูงถึง 50 องศาเซลเซียส กลายเป็นเมืองที่ร้อนที่สุดในโลกประจำวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 ตามปกติแล้วอุณหภูมิเฉลี่ยที่เมืองจูรูจะอยู่แค่ 41.7 องศาเซลเซียสในเดือนพฤษภาคม

• และจากข้อมูลของเว็บไซต์ El Dorado ในบรรดา 15 เมืองที่ร้อนที่สุดในโลกในวันที่ 26 - 27 พ.ค. 2563 มี 10 เมืองอยู่ในอินเดียที่เหลืออยู่ในประเทศใกล้เคียง เช่น ปากีสถาน

• เมื่อปีที่แล้วมีคนตายถึง 184 ในรัฐพิหารและอีก 25 รายในรัฐอื่นๆ จากคลื่นความร้อน ทำให้แหล่งน้ำแห้งผากกระทบต่อชีวิตผู้คนหลายล้าน ถนนยางมะตอยถึงกับละลาย เมืองจูรูเคยร้อนถึง 51.0 องศาเซลเซียสเมื่อปีที่แล้ว (สถิติตลอดกาลของอินเดียคือ 51.0 องศาเซลเซียส สถิติโลกคือ 56.7 องศาเซลเซียส)

• มาถึงปีนี้สถานการณ์น่ากลัวกว่าปีที่แล้ว เพราะแม้แต่ฤดูหนาวยังร้อนผิดปกติ โดยเดือน ม.ค. 2563 เป็นเดือนมกราฯ ที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยเก็บสถิติกันมา ตามด้วย ก.พ. มี.ค. และ เม.ย. 2563 ก็เป็นเดือนที่ร้อนที่สุดอันดับต้นๆ ในสถิติ

• นี่ไม่ใช่เรื่องปกติเพราะเมื่ออุณหภูมิของโลกสูงขึ้น คลื่นความร้อนก็กลายเป็นภัยคุกคามประจำของอินเดียโดยเฉพาะในเดือนพ.ค. และ มิ.ย. จนหวั่นเกรงกันว่าบางทีบางพื้นที่ของอินเดียอาจจะร้อนเกินกว่ามนุษย์จะอยู่อาศัยได้แล้ว

• ตามปกติแล้วคลื่นความร้อนในอินเดียมักจะเกิดขึ้นระหว่างเดือน มี.ค.และ ก.ค. จากนั้นจะบรรเทาเมื่อฤดูมรสุมมาถึง แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคลื่นความร้อนรุนแรงขึ้น บ่อยขึ้น และยาวนานขึ้น

• อุณหภูมิในประเทศอินเดียเพิ่มอย่างน้อย 1.2 องศาเซลเซียสในศตวรรษที่ 20 และยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นการเพิ่มขึ้นที่สูงมากเทียบกับอัตราเฉลี่ยทั่วโลกที่ประเมินไว้โดยคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ที่ 0.85 องศาเซลเซียสในศตวรรษที่ 20

• เมื่ออากาศร้อนขึ้น ผู้คนที่พอจะมีเงินก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการซื้อเครื่องปรับอากาศ และภายในปี 2565 คาดว่าอินเดียจะมีเครื่องปรับอากาศมากถึงหนึ่งในสี่ของทั้งโลก ซึ่งจำนวนเครื่องปรับอากาศขนาดนี้จะยิ่งทำให้อุณหภูมิยิ่งร้อนขึ้นไปและเผาผลาญพลังงานหนักเข้าไปอีก

• ที่น่ากลัวก็คือในอนาคตมันจะเลวร้ายกว่านี้มาก ทุกวันนี้คลื่นความร้อนจะเกิดขึ้นในภาคเหนือเป็นหลัก ส่วนภาคใต้จะมีอากาศชื้นมากกว่าคล้ายกับภูมิอากาศทางภาคใต้ของไทย แต่ AK Sahai และ Sushmita Joseph จากสถาบันอุตุนิยมวิทยาเขตร้อนของอินเดียกล่าวในเมืองปูเนบอกกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า คลื่นความร้อนในอนาคตมีแนวโน้มที่จะกลืนกินทั่วทั้งอินเดีย

ข้อมูลจาก
• India wilts under heatwave as temperature hits 50 degrees Celsius (https://www.channelnewsasia.com/)
• Rajasthan's Churu sizzles at 50 degrees Celsius, tops list of 15 hottest cities in world (https://zeenews.india.com/)
• Temps Have Topped 120 In India. How Are They Coping With The Heat Wave? (https://www.npr.org/)
• Are parts of India becoming too hot for humans? (https://edition.cnn.com/)
ภาพจาก
NASA, Earth observatory

 

เหตุการณ์ชุมนุมประท้วงเหยียดสีผิว ในแคลิฟอร์เนีย

 

‘ทำเนียบขาว’ ล็อกดาวน์ หลังเหตุประท้วง ‘จอร์จ ฟลอยด์’ ลุกลามยันเมืองหลวง

คลิปวิดีโอบนโลกออนไลน์เผยภาพกลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคนรวมตัวกันที่สวนสาธารณะลาฟาแยต ด้านนอกทำเนียบขาว พร้อมชูข้อความ “ไม่มีความยุติธรรม ไม่มีวันสงบสุข” ระหว่างการประท้วง ซึ่งแผ่ขยายวงกว้างไปทั่วสหรัฐฯ และก้าวเข้าสู่วันที่ 4 แล้ว

https://www.xinhuathai.com/inter/110186_20200530

 

นายพลกอเซ็ม สุไลมานี ถึงอเมริกาแล้ว.....!!!!

อเมริกาต้องการลบชื่อนายพลกอเซ็มสุไลมานีออก ด้วยการลอบสังหารท่าน.....แต่มาวันนี้ ชื่อของท่าน กลับดังกึกกัองในแผ่นดินอเมริกา

ในเหตุการณ์เดินชุมนุมประท้วง กรณีที่ตำรวจอเมริกาใช้เข่ากดคอชาวผิวสีจนเสียชีวิต บรรดาผู้ชุมนุมได้ชูภาพของชะฮีด นายพล กอเซ็ม สุไลมานและ ชะฮีด อบูมุฮันดิส และกล่าวตะโกน "อัลลอฮ ฮุ อักบัร" กู่ก้องในแผ่นดินอเมริกา

 

อเมริกา ล้มเหลวการทดสอบเครื่องยิงขีปนาวุธดาวเทียม

สื่อของสหรัฐรายงาน ถึงความล้มเหลวของการทดสอบ เครื่องยนต์ยิงขีปนาวุธดาวเทียม Starship SN4 ของนาซ่า (NASA) ซึ่งมันเกิดระเบิดขึ้นหลังจากที่มีการยิงทดสอบได้ไม่กี่วินาที เมื่อวานนี้ (ศุกร์)

 

นักบินอวกาศคนแรกในภารกิจ “ ยูเนี่ยน- อพอลโล่ “

๓๐ พฤษภาคม เป็นวันครบรอบวันเกิด ๘๖ ปีของนักบินอวกาศ Alexey Leonov เขาเป็นบุคคลแรกที่ขึ้นไปบนอวกาศและมีส่วนร่วมในภารกิจในตำนาน "ยูเนี่ยน - อพอลโล"

นอกจากนี้ Leonov ยังเป็นศิลปินอีกด้วย ภาพเขียน ๒ ภาพของเขา ที่ถูกนำไปสะสมใน Tretyakov Gallery เป็นความประทับใจในอวกาศและจินตนาการของ Alexey Leonov

May 30 marks the 86th anniversary of the birth of astronaut Alexey Leonov. He became the first person to enter the open space and participated in the legendary mission "Union - Apollo". In addition, Leonov was an artist, two paintings of which took into his collection of the Tretyakov Gallery. Space impressions and fantasies of Alexey Leonov

© Source : РИА НОВОСТИ
© Photo : РИА НОВОСТИ

 

ด่วนมาก
เริ่มปะทะกันแล้ว มีรายงานข่าวเครื่องบินรบรัสเซียสอยโดรนของสหรัฐตก2ลำเหนือน่านฟ้า ซีเรีย
นอกจากนั้นรัสเซียได้ประกาศให้พื้นที่ชายแดนซีเรียตลอดฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นพื้นที่ห้ามบิน
ใครแหลมเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโอกาสถูกสอย

 

ด่วน เรื่ิองแปลกปรากฎ!!!
ม้อบผิวดำในสหรัฐ ชูภาพ นายพลกอซิม สุไลมานี อดีตผู้บัญชาการกองทัพกุสแห่งอิหร่านที่ถูกลอบสังหาร
พร้อมกับตะโกนอัลเลาะห์อักบัร!!!
สิ่งที่ควรทราบก็คือหลังจากแคชเซียสเคลย์แชมป์มวยโลก เปลี่ยนศาสนาไปนับถือศาสนาอิสลามในชื่อมูฮัมหมัดอาลีแล้ว
ต่อมามีการช่วงชิงกันระหว่างมัสฮับ(นิกาย)ในอิสลามในการเปยแะร่ศาสนา และเรื่องก็เงียบไป
การที่ม้อบผิวดำที่ก่อจลาจลในขณะนี้ชูรูปท่านนายพลและตะโกนเช่นนี้สะท้อนว่าพวกเขาอาจจะนับถือนิกายชีอะห์แล้ว
ถ้าเช่นนั้น ก็หมายความว่าเอื้อมมือของอิหร่าน ได้ปรากฏขึ้นในที่นั่นแล้ว

 

เจ๊งรอบ 2 สาหัสวินาศยิ่งกว่าระบาดในฝันรอบ 2