ติดตามสถานะการณ์

วันนี้ มีรายงานจากสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือ ว่า " คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ปรากฎตัวต่อหน้าสาธารณะชนอีกครั้ง ในการเป็นประธานประชุมคณะกรรมการกรมการเมือง (โปลิตบูโร) แห่งพรรคคนงานเกาหลีเหนือ ครั้งที่ 13 พร้อมประกาศเตรียมยกเครื่องเศรษฐกิจประเทศ หลังโควิด-19
.
ในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการหารือเรื่องฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการผลักดันอุตสาหกรรมทางเคมี ให้ประเทศได้มีการพัฒนาระบบเศรษฐกิจในการพึ่งพาตัวเองมายิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับมาตรการการคว่ำบาตรจากสหรัฐอเมริกา รวมถึงนานาชาติ และยังเป็นการเดินหน้าเพื่อเผชิญวิกฤตเชื้อไวรัสโควิด-19
.
ขณะนี้เกาเหลีเหนือ กำลังยกระดับความสามารถของตัวเอง โดยเฉพาะในภาคของประชาชน ทั้งเรื่องของการผลิตปุ๋ย การก่อสร้างบ้านเรือนต่างๆ ให้ดีขึ้นกว่าเดิม อย่างที่ทราบกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ย่ำแย่ลง หลังเกาหลีเหนือประกาศจะถอนตัวจากสำนักงานติดต่อประสานงานระหว่างเกาหลี เนื่องจากเกาหลีใต้ไม่ได้ดำเนินการอย่างเพียงพอที่จะหยุดยั้งกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่โปรยใบปลิวต่อต้านรัฐบาลเปียงยางเข้าไปในดินแดนของเกาหลีเหนือ
.
ก่อนหน้านี้ คิม โย จอง น้องสาวของคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้ประกาศเตือนรัฐบาลเกาหลีใต้ว่า เกาหลีเหนือจะปิดสำนักงานติดต่อประสานงาน หรือถอนตัวจากข้อตกลงทางทหารระหว่างเกาหลีเมื่อปี 2561 หากเกาหลีใต้ไม่จัดการอย่างรวดเร็วกับพฤติกรรมที่ไม่เป็นมิตร เช่น การส่งใบปลิวต่อต้านรัฐบาลเปียงยางเข้าสู่เกาหลีเหนือ
.
ด้านนายโย ซัง-คี โฆษกของกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ เปิดเผยในวันนี้ว่า ทางเกาหลีเหนือไม่ตอบรับโทรศัพท์ประสานงานประจำวันจากเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ หลังมีการขู่จะปิดสำนักงานดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การแลกเปลี่ยนระหว่างสองเกาหลีอาจต้องหยุดชะงักลงเนื่องจากหลายปัจจัย แต่เกาหลีใต้ยังคงมุ่งมั่นทำตามข้อตกลงของ 2 เกาหลี และพยายามทำในสิ่งที่ทำได้เพื่อส่งเสริมสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี
.
ต้องถือว่านี่คือการปรากฏตัวเป็นต่อสาธารณะชนเป็นครั้งที่ 2 ของ คิม จอง อึน นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 หลังจากเขาหายไปจากมอนิเตอร์นานกว่า 20 วัน กระทั่งปรากฎตัวในการเปิดโรงงานปุ๋ย เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางข่าวลือว่า เขาเสียชีวิต หรือบางกระแสบอกว่า ป่วยหนักจนเป็นผักไปแล้ว

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.reuters.com/article/nor...omy-at-a-politburo-meeting-kcna-idUSL4N2DK0GY

https://www.channelnewsasia.com/news/asia/north-korea-kim-jong-un-economy-politburo-meeting-12814298

https://www.bangkokbiznews.com/news...medium=internal_referral&utm_campaign=foreign

https://www.naewna.com/inter/497865

-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjH

 

เอเอฟพี - สภาบริหารเมืองมินนีอาโปลิสมีมติยุบสำนักงานตำรวจเพื่อเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปครั้งใหญ่เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.) หลังการเสียชีวิตของหนุ่มผิวสี ‘จอร์จ ฟลอยด์’ กลายเป็นชนวนให้ชาวอเมริกันทั่วสหรัฐฯ ลุกฮือประท้วงพฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติในหมู่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย
.
ฟลอยด์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 พ.ค. หลังถูก ดีเร็ก ชอวิน (Derek Chauvin) ตำรวจมินนีอาโปลิส ใช้เข่ากดที่ลำคอไว้เป็นเวลานานเกือบ 9 นาที ซึ่งต่อมานายตำรวจผิวขาวผู้นี้ถูกตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน (second-degree murder) และมีกำหนดขึ้นศาลในวันนี้ (8)
..
“เราจะยุบสำนักงานตำรวจมินนีอาโปลิส และจะตั้งหน่วยงานรักษาความสงบเรียบร้อยรูปแบบใหม่ที่จะทำให้ชุมชนของเราปลอดภัยอย่างแท้จริง” ลิซา เบนเดอร์ ประธานสภาบริหารเมือง ให้สัมภาษณ์ต่อซีเอ็นเอ็น
.
เจค็อบ เฟรย์ นายกเทศมนตรีมินนีอาโปลิส ไม่เห็นด้วยกับแผนยุบสำนักงานตำรวจ ขณะที่ บ็อบ ครอลล์ ประธานสหภาพตำรวจของเมืองแห่งนี้ ก็เคยปรากฏตัวบนเวทีปราศรัยร่วมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อปีที่แล้ว
.
มติเสียงส่วนใหญ่ของสภาบริหารเมืองมินนีอาโปลิสมีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่ เฟรย์ ถูกผู้ประท้วงซึ่งเดินขบวนไปที่บ้านพักของเขาโห่ไล่ ซึ่งต่อมา เฟรย์ ให้สัมภาษณ์ยืนยันกับเอเอฟพีว่า ตน “สนับสนุนให้มีการปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อแก้ไขปัญหาการเหยียดเชื้อชาติอย่างเป็นระบบ” แต่ไม่ใช่การยุบสำนักงานตำรวจทิ้งไปเลย
.
คลิปวิดีโอจากผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งเผยวินาทีที่ ฟลอยด์ ร้องเรียกหาแม่และพูดว่า “หายใจไม่ออก” ปลุกเร้าชาวอเมริกันทั่วประเทศให้ลุกขึ้นมาประท้วงการตายของเขา ทว่าเมื่อวานนี้ (7) กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งในวอชิงตัน, นิวยอร์ก และเมืองวินเทอร์ปาร์ก รัฐฟลอริดา เริ่มเบนเป้าหมายไปสู่การเรียกร้องให้มีการปฏิรูปตำรวจและส่งเสริมความยุติธรรมทางสังคม
.
การที่ ทรัมป์ เลือกใช้วิธีรุนแรงปราบปรามเหตุจลาจลทำให้อดีตนายพลวันเกษียณหลายคน ซึ่งโดยปกติแล้วจะไม่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีพลเรือน ถึงกับอดรนทนไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือ พล.อ.คอลิน เพาเวลล์ อดีตประธานเสนาธิการทหารร่วมและอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งวิจารณ์ ทรัมป์ ว่าทำอะไร “ไม่แคร์รัฐธรรมนูญ” และทำให้สถานะของอเมริกาย่ำแย่ลงในสายตาชาวโลก ทั้งยังประกาศด้วยว่าตนจะไปโหวตเลือก โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ในเดือน พ.ย.นี้
.
ฝ่านบริหารท้องถิ่นบางแห่งได้เริ่มปฏิรูปการทำงานของตำรวจ โดยห้ามใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางกับผู้ชุมนุมประท้วง ขณะทื่ บิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก ให้สัมภาษณ์วานนี้ (7) ว่าจะหั่นงบอุดหนุนสำนักงานตำรวจ และผันเงินทุนบางส่วนไปใช้อุดหนุนกิจกรรมของเยาวชนและงานบริการทางสังคมแทน
-------------------------------
แหล่งข่าว
- https://mgronline.com/around/detail/9630000059107
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

วันนี้ได้มีความคืบหน้าเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. ว่าในอนาคตจะเป็นไปในทิศทางใด โดยศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ซึ่งมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม
.
โดยได้มีการเห็นชอบหลักการ การปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โดยมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณารายละเอียดเพื่อให้สามารถเดินแผนฟื้นฟูให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และทำให้ ขสมก. สามารถฟื้นกลับมามีกำไร และเป็นองค์กรที่น่าภาคภูมิใจได้สำเร็จ โดยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
.
สำหรับหลักการการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. โดยมีกรอบการดำเนินการ ครอบคลุมทั้งการจัดหารถโดยสารปรับอากาศ ปรับรูปแบบให้เป็นสินทรัพย์เอกชน ลดภาพต้นทุนในการดูแล มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ ปรับปรุงเส้นทางเดินรถไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน เชื่อมโยงระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ เช่น รถไฟฟ้า เรือ เป็นต้น มีการพัฒนาพื้นที่เชิงธุรกิจโดยดึงภาคเอกชนร่วมลงทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางของผู้ใช้บริการ
.
ทั้งนี้ ผลสัมฤทธิ์คาดหวังว่า ในระยะยาวรัฐบาลจะไม่ต้องรับภาระหนี้ของ ขสมก. ลดปัญหาจราจร และมลพิษทางอากาศ ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน และประชาชนสามารถเดินทางได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ขสมก. สามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน องค์กรสามารถเลี้ยงของตนเองได้ พนักงานมีความภาคภูมิใจในหน่วยงานและเป็นองค์กรที่ยั่งยืน
.
โดยนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำ ถึงแนวทางของรัฐบาลในการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. โดยให้ยึดหลักการสำคัญ ได้แก่ มองประชาชนเป็นหลัก ลดภาระและสร้างเพิ่มความพึงพอใจในการใช้บริการ สามารถบริหารจัดการภาระหนี้สินได้โดยไม่กระทบหลักการงบประมาณ องค์การมีความสามารถในการชำระหนี้ เพิ่มความคล่องในการจราจร เชื่อมโยงระบบคมนาคมทั้ง รถ ราง เรือ สร้างความสะดวกสบายในการเดินทางของประชาชนมากยิ่งขึ้น
.
รวมทั้งเพิ่มเติมอุตสาหกรรมใหม่ๆ ภายในประเทศ เช่น การต่อรถ เป็นต้น ที่สำคัญต้องไม่ลืมดูแลลูกจ้าง พนักงาน และท้ายที่สุด สินทรัพย์ที่มีมูลค่าจะต้องมีการบริหารจัดการที่ดีภายใต้ระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน แนวทางทั้งหมดนี้จะให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพขององค์กร และบุคลากร ความเป็นมืออาชีพ เพราะทุกการดำเนินการจะย้อนกลับไปสู่ประชาชน ที่จะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งเป็นหลักการสำคัญในการแก้ปัญหารัฐวิสาหกิจของรัฐบาลชุดปัจจุบัน

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.thaipost.net/main/detail/68116

https://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=A&id=OXpDWlJTRkYrak09
https://www.thaipost.net/main/detail/68116
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

เผย "วันเฉลิม" ลักลอบปลูกกัญชาในเขมร
ชาวโซเชียลวิจารณ์ อาจเป็นอีกสาเหตุที่หายตัว
-------------------------------
จากเหตุ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมชาวไทย ที่หลบหนีหมายจับอยู่ในกัมพูชา ถูกกลุ่มคนร้ายลักพาตัวไปจากหน้าโรงแรมที่พนมเปญนั้น
.
ในวันนี้ในสื่อโซเชียลได้มีการเผยภาพ ของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ว่ามีการลักลอบปลูกต้นกัญชา โดยนายวันเฉลิมเองก็ได้โพสรูปต้นอ่อนกัญชาในเฟซบุ๊กของตัวเองเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมาว่า
.
"ความซับซ้อนของต้นไม้มันก็ไม่มีอะไรมาก เพาะเมล็ดและอนุบาลโดยมิตรสหาย เอามาพักไว้แล้วก็ส่งไปให้มิตรสหายของมิตรสหายปลูกอีกทีนึง อีกสี่ห้าเดือนค่อยว่ากันใหม่ถ้ามันมีดอกผลอ่ะนะ #รักษ์โลก #ส่งต่อต้นไม้ #เราปลูกและเราแจก #ดอกผลมันจะกลับมา"
.
และในวันต่อมา (3 มิถุนายน) นายวันเฉลิม ก็ได้โพสสเตตัส เล่าถึงปัญหาความขัดแย้งเรื่องธุรกิจ โดยขอบคุณ"ผู้ใหญ่บางคน" ที่ยื่นมือมาช่วยเหลือไม่ให้เสียเครดิต โดยระบุว่าจะระมัดระวังตัวเองให้มากขึ้น ดังนี้
.
"ขอบคุณพี่ท่านนั้น ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ทำให้ผมมีที่อยู่ที่ยืนในสังคมที่ผมทำงานอยู่ ซึ่งเกี่ยวข้องระดับเบิ้มๆ ทั้งนั้น พี่ท่านนั้นเค้ามาช่วยเหลือทำให้ไม่เสียเครดิตกับธุรกิจที่กำลังดีลอยู่ ว้าวๆ คืนนี้คงนอนหลับแล้วหลังจากนอนไม่หลับเครียดมา 4 เดือนแน่ะครับ ❣️ และก็รู้ว่า มีพี่ๆอีกกลุ่มหนึ่งที่รับรู้เรื่องราวและคอยเป็นกำลังใจให้อยู่ ได้รับรู้ว่าห่วงใยแม้แสดงออกมากไม่ได้ แต่ผมก็รับรู้ว่าพี่ๆ ห่วงอยู่ ต่อไปผมก็จะระมัดระวังให้มากครับ เด้อๆ"
.
และในวันต่อมา (4 มิถุนายน) นายวันเฉลิม ก็ถูกกลุ่มคนกัมพูชาดักอุ้มไปจากหน้าโรงแรม
.
จึงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดียว่า จริงๆแล้ว นายวันเฉลิม ทำธุรกิจอะไร? กับใคร? ในกัมพูชา ซึ่งถ้าหากเกี่ยวพันกับเรื่องยาเสพติด ก็มีโอกาสเป็นไปได้ว่า นายวันเฉลิม อาจจะไปขัดผลประโยชน์กับมาเฟียเจ้าถิ่นอยู่ก็ได้
.
ในส่วนของยาเสพติดนั้น ทางกัมพูชาก็ได้เพิ่มโทษผู้ค้ายาเสพติดให้รุนแรงขึ้น และได้ปราบปรามอย่างจริงจังมาตลอด และเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทาง องค์กรนิรโทษกรรมสากล หรือแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล (Amnesty International) ได้ออกประนาม และจี้ให้กัมพูชา เลิกสงครามยาเสพติด ที่ใช้ความรุนแรงในการจับกุมและทรมานผู้กระทำผิด
.
กัมพูชาเห็นชอบ ก.ม.ปราบปรามค้ายาเสพติดฉบับใหม่
-----------------------------------
รัฐสภากัมพูชามีมติด้วยคะแนนเสียง 78 เสียง จากที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 79 คน ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายปราบปรามการค้ายาเสพติดฉบับใหม่ เพื่อนำมาใช้เแทนกฎหมายฉบับเดิม ที่บังคับใช้มาตั้งแต่เดือนมกราคม 2540
.
ประธานหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติของกัมพูชา กล่าวว่า ในปัจจุบัน ปัญหาการค้ายาเสพติดรุนแรงมาก ขณะที่กฎหมายฉบับเก่ามีบทลงโทษที่เบาเกินไป แต่กฎหมายฉบับใหม่จะมีบทลงโทษผู้กระทำผิดแรงกว่าเก่าถึง 2 เท่า โดยผู้ค้ายาเสพติดที่มียาเสพติดในครอบครองมากกว่า 80 กรัมขึ้นไปจะต้องได้รับโทษถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งบทลงโทษดังกล่าวสอดคล้องกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค
.
'แอมเนสตี้'จี้กัมพูชาเลิก'สงครามยาเสพติด'
เผยจับเหวี่ยงแห'ผู้เสพ-คนจน'แถมมีทารุณกรรมอื้อ
----------------------------------
วันที่ 13 พฤษภาคม 2563 องค์กรนิรโทษกรรมสากล หรือแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล (Amnesty International) เผยแพร่รายงานเรื่อง “การใช้สารเสพติด: ผลกระทบต่อประชาชนจากการปราบปรามยาเสพติดในกัมพูชา (Substance abuses: The human cost of Cambodia’s anti-drug campaign)” ระบุว่า นโยบายสงครามปราบปรามยาเสพติด ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาใช้มานานถึง 3 ปี นอกจากจะไม่สามารถแก้ปัญหายาเสพติดแพร่ระบาดได้แล้ว ยังก่อปัญหาอื่นๆ เพิ่มขึ้นด้วยทั้งด้านสิทธิมนุษยชนและสาธารณสุข
.
นิโคลัส เบเคลัง ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า สงครามปราบปรามยาเสพติดของกัมพูชาเป็นหายนะที่ไม่รับการบรรเทา เป็นรูปแบบการปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบ และเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมที่มีรายได้น้อย สามารถทุจริตได้อย่างแพร่หลาย โดยที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดต่อการสาธารณะสุขและความปลอดภัย ซึ่งนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา ได้เริ่มรณรงค์ปราบปรามยาเสพติดตั้งแต่เดือน ม.ค. 2560
.
โดยสอดคล้องกับแนวทางของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์ ที่ไปเยือนกัมพูชาเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านั้น ผู้นำทั้งสองต่างประกาศความร่วมมือต่อต้านยาเสพติด จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่รัฐ การรณรงค์ครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อลดการเสพและอันตรายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในกัมพูชา ทั้งนี้โดยการจับกุมผู้เสพยาเสพติดจำนวนมาก เมื่อเดือน มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา ซาร์เข่ง รัฐมนตรีมหาดไทยเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับผู้เสพยาและผู้ค้ายารายย่อยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสพและการจำหน่ายทุกคน
.
รายงานฉบับดังกล่าวของแอมเนสตี้ฯ กล่าวถึงการพูดคุยกับเหยื่อการปราบปรามยาเสพติดอย่างไร้มนุษยธรรมของกัมพูชาหลายสิบคน พวกเขาบอกว่า ต้องตกเป็นเหยื่อของระบบการลงโทษที่คู่ขนานกัน บางส่วนถูกควบคุมตัวโดยพลการและไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆ ในศูนย์บำบัดยาเสพติด ส่วนคนอื่นถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดตามระบบยุติธรรมทางอาญา และถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ
.
ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องและชัดเจน ระหว่างการละเมิดกระบวนการอันควรตามกฎหมาย อันเป็นเหตุให้บุคคลถูกคุมขัง กับแนวทางที่ปราศจากเอกภาพในการพิจารณาว่า บุคคลใดควรถูกดำเนินคดีอาญา หรือถูกส่งตัวเข้าศูนย์บำบัดยาเสพติด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งในบางครั้งมีการรับเงินสินบน สามารถใช้ดุลพินิจตัดสินใจเองว่า ใครจะต้องถูกปฏิบัติอย่างไร
.
"วันเฉลิม" จะเป็นอย่างไร
------------------------------
ในส่วนของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นั้น ได้หลบหนีคดีพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และขออาศัยอยู่ในกัมพูชา โดยมีข้อตกลงว่า จะไม่เคลื่อนไหวทางการเมือง แต่นายวันเฉลิมได้ละเมิดข้อตกลงมาโดยตลอด และยังแอบลักลอบปลูกกัญชา ซึ่งเป็นยาเสพติดต้องห้ามในประเทศกัมพูชาอีกด้วย ซึ่งถ้าถูกพบตัว ก็จะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาค้ายาเสพติดในประเทศกัมพูชา เช่นกัน เนื่องจาก กัมพูชา ไม่ได้อนุญาตให้คนต่างชาติสามารถปลูกกัญชาในประเทศ
-------------------------------
แหล่งข่าว
-
- กัมพูชาเห็นชอบ ก.ม.ปราบปรามค้ายาเสพติดฉบับใหม่
https://mgronline.com/uptodate/detail/9540000150914
- 'แอมเนสตี้'จี้กัมพูชาเลิก'สงครามยาเสพติด'
https://www.naewna.com/inter/492611
- การปราบปรามยาเสพติดกัมพูชาไม่เป็นที่รับรู้กันท่ัวไป
https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parliament_parcy/ewt_dl_link.php?nid=43082
- กัมพูชา ห้ามคนต่างชาติปลูกกัญชาในประเทศ
https://th.yourtripagent.com/why-phnom-penh-cambodia-is-new-marijuana-hotspot-6490
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

ข่าวดี! สัปดาห์นี้รอเคาะ เตรียมเปิดเที่ยวอุทยานแบบ New Normal ห้ามวอล์คอิน ต้องจองออนไลน์ จำกัดจำนวน แบ่งอุทยาน 3 ส่วน ป้องกันโรคระบาด ลดกระทบสัตวป่า

นาย วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เผยถึงความพร้อมเปิดท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ 127 แห่ง หลังสถานการณ์ COVID ว่าภายในสัปดาห์นี้จะสามารถแจ้งได้ว่าอุทยานไหนจะเปิดได้บ้าง และเปิดเมื่อไหร่
•
โดยเบื้องต้นจะแบ่งการเข้าถึงเป็น 3 ประเภท คือ

1. อุทยานแห่งชาติที่เปิด 100 % เช่น ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
2. อุทยานแห่งชาติที่เปิดให้บริการเพียงบางส่วน
3. อุทยานแห่งชาติที่ยังไม่เปิดให้บริการ
•
ซึ่งเผยว่าการเปิดแบบ New Normal วิถีใหม่นี้อาจไม่สะดวกเหมือนที่เคย จะมีการจำกัดควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยว เพื่อป้องกันโรคระบาด และลดผลกระทบสัตว์ป่า เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีสัตว์ป่าออกมาจำนวนมากในช่วงปิดอุทยานไม่มีผู้คนมารบกวน
•
โดยเตรียมเปิดแบบห้ามวอล์คอิน แต่จะเป็นการจองทางออนไลน์เท่านั้น
•
ถือเป็นสัญญาณคลายล็อก เปิดเที่ยวอุทยานที่ดี และคำนึงถึงผลกระทบต่อสัตว์ รวมถึงการแพร่ระบาดไวรัส โดยก่อนหน้านี้รมว.ทส. เตรียมเสนอให้มีการปิดอุทยานทุกๆปี ปีละ 3 เดือน เพื่อฟิ้นฟูธรรมชาติอีกด้วย
•
เมื่อทุกอย่างกำลังกลับมาเป็นปกติมากขึ้น อยากให้ทุกท่านใช้ชีวิตอย่างคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และรักษาตัวด้วยนะ
•
ร่มธรรม ขำนุรักษ์
•
ที่มา

https://news.thaipbs.or.th/content/293357





https://www.bangkokbiznews.com/news...sTTTQaZDVn_8ZhE3SylHX0-Sng4Gw0FAWgXYjciOJRDU4

 

ก.คลังจับมือ ก.ท่องเที่ยว งัดมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ แจกเงิน 3 พัน ให้คนเที่ยวเมืองไทย คาดจะเริ่มใช้มาตรการตั้งแต่เดือน ก.ค. เป็นต้นไป

อ่านต่อ >https://news1live.com/detail/9630000059313
............................................
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

ชาวฮ่องกงได้เฮ! รัฐบาลแจกเงินคนละ 40,000 บาท จับจ่ายใช้สอยกระตุ้นเศรษฐกิจ
.
1/ วันนี้ชาวฮ่องกงได้รับทราบข่าวดี เมื่อนายพอล ชาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแห่งฮ่องกงแถลงอย่างเป็นทางการว่า รัฐบาลฮ่องกงเตรียมแจกเงินช่วยเหลือประชาชนคนละ 10,000 เหรียญฮ่องกง ประมาณ 40,000 บาทไทย
.
2/ เงินช่วยเหลือนี้ รัฐบาลต้องการให้ประชาชนนำไปจับจ่ายใช้สอยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคอาหารและเครื่องดื่ม
.
3/ ใครจะได้รับเงินช่วยเหลือ 40,000 บาทนี้บ้าง?
.
4/ กระทรวงการคลังฮ่องกงชี้แจงเงื่อนไขว่า ผู้อาศัยที่พำนักถาวรในฮ่องกง อายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถยื่นสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือได้
.
5/ การยื่นสิทธิ์ต้องทำผ่านระบบออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายนนี้ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคมปีหน้า เงินงวดแรกจะถึงมือในวันที่ 8 กรกฎาคม ด้วยความร่วมมือจากธนาคาร 21 แห่ง
.
6/ สำหรับประชาชนที่ไม่ถนัดการลงทะเบียนทางออนไลน์ สามารถติดต่อโดยตรงกับธนาคารหรือสำนักงานไปรษณีย์ที่จะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก
.
7/ การช่วยเหลือเยียวยาครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลฮ่องกงที่ต้องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ชาวฮ่องกงได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 จนทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
.
8/ นโยบายนี้ มีมาตั้งแต่การแถลงงบประมาณเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยกระทรวงการคลังจะจัดสรรงบประมาณ 71,000 ล้านเหรียญฮ่องกง (288,590 ล้านบาท) ช่วยเหลือประชาชน 7 ล้านคน คนละ 10,000 เหรียญฮ่องกง
.
ยินดีกับชาวฮ่องกงด้วยครับ!
.
ที่มา: https://www.scmp.com/news/hong-kong...ng-kong-permanent-residents-can-apply-hk10000
.
ขอบคุณภาพจาก https://www.chinadailyasia.com/hknews/2017-03/07/content_15582365.html
.

 

ใครเจ็บปวดตรงสีน้ำเงินลองกดที่ x ดูแล้วจะหายเจ็บปวด ได้ลองดูแล้ว รู้สึกดีขึ้นครับ

 

...ดวงชะตา "จอร์จ ฟลอยด์"...

การเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ ก่อให้เกิดการประท้วงใหญ่ (และจลาจล) ไปทั่วอเมริกาและอีกหลายประเทศในยุโรป

ความตายของคนธรรมดาอย่างจอร์จ ฟลอยด์ ทำไมก่อให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่ระดับโลกตามมา ?

นี่คือคำถามสำคัญที่นักโหราศาสตร์ควร "ฉุกคิด" และหาคำตอบ

ฟลอยด์เกิด 14 ตุลาคม 1973 ที่เมือง Fayetteville รัฐ North Carolina ไม่มีข้อมูลเวลาเกิด

เมื่อเห็นวันเกิด ธนูเกณฑร์นึกถึงเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ทันที

ใช่แล้ว จอร์จ ฟลอยด์เกิดวันนั้น ดวงเขาแรงทีเดียว

รูปดาวยืนยันชัดเจน เพราะ (1) อังคารพักรในเมษ ที่ 11:29 องศา (2) อังคารทำมุม 150 สนิทกับพลูโตกันย์และเนปจูนพิจิก (3) อาทิตย์กุมมฤตยูดับในกันย์ ที่ 29:48 องศา

ที่สำคัญสุดคือ (4) T-square ของเสาร์เมถุน-ราหูธนู-พลูโตกันย์ ที่เข้ามุม 90 และ 180 กันสนิท

เพราะไม่รู้เวลาเกิด จึงต้องเดา แต่เดาอย่างมีหลักการและเหตุผลทางโหราศาสตร์

จุดเริ่มต้นและจุดสำคัญสุดอยู่ที่ "ความตาย" ของจอร์จ ฟลอยด์ก่อให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่ระดับโลก

เหตุการณ์ใหญ่ระดับโลกจะสัมพันธ์กับจุดเมษ (Aries Point) หรือ 0 องศาราศีเมษ

ดาวที่สัมพันธ์กับจุดนี้ มีเพียงอาทิตย์มฤตยูที่เล็ง 180 สนิท

(อาทิตย์มฤตยูนี้เกาะวรโคตมนวางค์-เข้มแข็งมาก อาทิตย์คือชื่อเสียง มฤตยูคือฉับพลันทันใด ฟลอยด์จะมีชื่อเสียงใหญ่อย่างคาดไม่ถึง)

ความตายคือภพ 8 (มรณะ) ดังนั้น ดาวคู่นี้ต้องสัมพันธ์กับภพมรณะ

มี 2 ทางที่เป็นไปได้คือ (1) อาทิตย์เป็นดาวเจ้าเรือนมรณะ (2) ทั้งคู่กุมจุดศูนย์กลางภพมรณะพอดี

ถ้าเป็นกรณีที่ 1 ลัคน์อยู่มังกร ถ้าเป็น 2 ลัคน์อยู่กุมภ์

ลัคน์มังกรจะโดนเสาร์พักรเล่นงาน เสาร์เดิมอยู่เมถุน-ภพ 6 (อริ) ก็เป็นไปได้มาก ส่วนลัคน์กุมภ์ ก็จะโดนอังคารกุมภ์ที่ 90 อาทิตย์พฤษภเล่นงาน อาทิตย์อังคารเดิมก็ให้โทษ มันเป็นไปได้เหมือนกัน

ลองใช้โปรแกรมไล่ดูเวลาเกิด แล้วเทียบกับวันตายของเขา (เป็นข้อมูลเดียวที่มีอยู่) พบว่าเวลา 16:45 น. เหมาะสมที่สุด

เราได้ลัคน์กุมภ์ ที่ 14:20 องศา ทศมลัคน์ที่ 23:14 องศาพิจิก และอาทิตย์มฤตยูกุมจุดศูนย์กลางภพมรณะพอดี

จุดที่น่าสังเกตคือ ศุกร์เนปจูนที่กุมกันสนิทพอดีที่ 12:38 องศาพิจิก-ภพ 10 มันบอกถึงความสนุกสนานร่าเริง เมื่อรวมกับจันทร์พฤษภในภพ 4 (ภพเกณฑ์ทั้งคู่)

ฟลอยด์จึงมีสมญานามว่า Gentle Giant

ศุกร์ทำให้เขาเป็นนักร้อง Hip-hop จันทร์ (ที่เล็งภพ 10) ทำให้เขาทำงานดูแลลูกค้าและฝันอยากเปิดร้านอาหารของตนเอง

อังคารเมษโยคหน้า 60 องศาพอดี เขาชอบเล่นบาสเกตบอลเป็นชีวิตจิตใจ

พฤหัสเดิมอยู่มังกร เป็นนิจจ์-อ่อนแอ พฤหัสเป็นดาวเจ้าเรือนภพ 2 และ 11 ซึ่งเกี่ยวกับการเงิน ฟลอยด์มีปัญหาด้านการเงินโดยตลอด พฤหัสยัง 90 อังคารเมษพักร ถึงหาเงินมาได้ ก็จ่ายออกอย่างรวดเร็ว

เสาร์เป็นดาวเจ้าเรือนลัคน์ (แบบอินเดีย) และดาวเจ้าเรือนภพ 12 (วินาศ - ปกปิด / กักขัง / จองจำ) ถูกราหูเล็งและ 90 พลูโต ชี้ถึงการติดคุกถึง 4 ปี

อันที่จริง ฟลอยด์ดวงตกนานแล้ว ตั้งแต่เสาร์จรเข้าธนูกุมพลูโตและเล็งราหูเมถุน บาปเคราะห์ทั้ง 3 เบียน T-square เดิมที่ให้โทษหนักในพื้นดวง (แม่เสียชีวิตเมื่อ 18 เดือนก่อน)

เสาร์ที่ยกเข้ามังกร 24 มกราคม 2563 ทับพฤหัสเดิม ฟลอยด์ยิ่งมีปัญหาการเงินหนัก เพราะตกงานเนื่องจากโควิด

เสาร์เดิมอยู่เมถุน เมถุนคือการหายใจ เสาร์แปลว่าบีบคั้น ปิดกั้น กดดัน ราหูเมถุนทับเสาร์และเล็งราหูเดิม ราหูจึงให้โทษหนัก

มันเป็นที่มาของประโยคสะท้านโลกที่ว่า I can't breath (ผมหายใจไม่ออก)

ในวันเกิดเหตุ อังคารกุมภ์ทับลัคน์สนิทและ 90 ศุกร์เนปจูนเดิมสนิท อาทิตย์ (อาทิตย์เดิมตกมรณะ) 90 ลัคน์สนิทด้วย

มฤตยูจรเมษทับอังคารเดิมสนิทอีกที

พลูโตพักรที่ 0:38 องศามังกร ทำมุม 90 อาทิตย์มฤตยูเดิมที่กุมจุดศูนย์กลางภพมรณะสนิท

เสาร์พักรมังกร 150 เสาร์เดิมสนิท ราหูเมถุนเล็ง 180 ราหูเดิมสนิท (ราหูเมถุนทับอังคารเดิมในดวงตำรวจ-ดิเรค ชอวินสนิทด้วย)

จอร์จ ฟลอยด์เสียชิวิต 25 พฤษภาคม ซึ่งอยู่ในข่ายหน้า 10 วันของจันทรคราส 5 มิถุนายน ที่ 21:26 องศาพิจิก ซึ่งจันทรคราสนี้ทับทศมลัคน์พอดี

คราสมีกำลังสูงสุดภายในหน้า 7 หลัง 7 วัน แต่สามารถส่งผลก่อนหน้าได้ถึง 30 วัน ภายใน 10 วันก็ยังส่งผลแรงมากอยู่

ที่สำคัญคือ จันทรคราสนี้ยังทับเนปจูนพิจิกที่ 20:26 องศาและทำมุม 90 กับพุธกุมภ์ที่ 23:36 องศาในดวงดิเรค ชอวิน-ตำรวจที่กดเข่าทับคอฟลอยด์สนิทด้วย

(คราสเบียนพุธ 90 เนปจูนในดวงชอวิน บอกถึงความสับสน / เข้าใจผิด / เห็นผิดเป็นชอบ อันเป็นเหตุให้เขาทำร้ายฟลอยด์)

ข้อสังเกตคือ ในวันเกิดเหตุ ศุกร์พักรในพฤษภ ที่ 24:12 องศา เล็งทศมลัคน์ / ถูกจันทรคราสเล็ง 180 / ถูกเกณฑ์ 4 จากอังคาร พฤษภคือคอ ฟลอยด์ถูกแรงกดดัน-แรงกระแทก (อังคาร) ที่คอ

อาทิตย์จรพฤษภด้วย อาทิตย์ทำมุม 90 สนิทกับอังคาร อาทิตย์คือระบบโลหิต เลือด (ในเส้นเลือดใหญ่ที่คอ) ไม่เดิน
ทำให้ฟลอยด์หายใจไม่ออกและเสียชีวิต

(เขาถูกเขากดคอ 20:20 น. นาน 8 นาที 46 วินาที หลังจากนั้นถูกส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลา 21:25 น.)

ทั้งหมดคือการเดาดวงชะตาของจอร์จ ฟลอยด์

ถูกหรือผิดไม่ใช่เรื่องใหญ่

ที่สำคัญ มันแสดงถึงการใช้ความรู้และการให้เหตุผลทางโหราศาสตร์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์มหาศาลแก่ผู้สนใจและผู้เรียนต่อไปในอนาคต

เรื่องราวของจอร์จ ฟลอยด์บอกให้เรารู้ว่า...

ทุกชีวิตมีค่าเท่ากัน เราทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงโลกนี้ได้

แด่จอร์จ ฟลอยด์ บุรุษธรรมดาผู้เปลี่ยนอเมริกาและโลกใบนี้

ธนูเกณฑร์ (8/6/2020)

 

จีนแอบสร้างเขื่อน Tuoba กั้นแม่น้ำโขงแห่งที่ 12 (ที่ตั้งเขื่อนในแผนที่คือเขื่อนที่ 3 นับจากบนสุด) โดยไม่เคยให้ข้อมูลกับประเทศท้ายน้ำ เขื่อนแห่งนี้หากสร้างเสร็จจะมีศักยภาพในการกักเก็บน้ำ 3.6 ลูกบาศก์กิโลเมตร ถือเป็นลำดับที่ 4 ของเขื่อนทั้งหมดที่กั้นแม่น้ำโขงในจีน

หากเขื่อนแห่งนี้เสร็จ น้ำก็จะถูกควบคุมโดยเขื่อนจีนมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อท้ายน้ำในลุ่มน้ำโขงอย่างหนักโดยเฉพาะแถบเชียงแสน เชียงของ เวียงแก่น จ.เชียงร้าย

ส่วนล่างลงมา เขื่อนที่สร้างเสร็จแล้วคือเขื่อนไซยะบุรีที่คอยควบคุมน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้าอีกที

ทั้งเขื่อนในจีนและเขื่อนไซยะบุรีได้ส่งผลกระทบอย่างหนักกับแม่น้ำโขงบริเวณพรมแดนไทย-ลาว แถบภาคอีสานลงไปจนถึงกัมพูชาและเวียดนาม

 

#ทรัมพ์ผู้ตกขบวนรถไฟสายประวัติศาสตร์

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างที่เรารู้กันว่า ที่สหรัฐมีการเดินขบวนครั้งใหญ่เพื่อแสดงพลังต่อต้านการเหยียดสีผิว โดยเฉพาะกลุ่มคนผิวดำที่ถูกกดขี่ในสหรัฐอเมริกามาช้านาน

ไม่น่าเชื่อว่าจากเหตุคดีของจอร์จ ฟลอยด์ สามารถจุดกระแสสังคมในสหรัฐ และลามไปทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว และร้อนแรง มีผู้ร่วมเดินขบวนเมื่อวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมาทั่วอเมริกาไม่ต่ำกว่าหลักแสนคน ที่ต้องถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของสหรัฐ

แต่เหตุการณ์สำคัญขนาดนี้ กลับไม่มีการปรากฏตัวของผู้นำประเทศ อย่าง ท่านเสี่ยอ่าง โดนัลด์ ทรัมพ์
และดูเหมือนตัวของทรัมพ์ ถูกทิ้งให้ตกขบวนรถไฟสายประวัติศาสตร์อยู่คนเดียว ในทำเนียบขาว

และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เป็นเช่นนี้ ตั้งแต่ท่านเสี่ยทรัมพ์ ขึ้นมาเป็นเจ้าเมืองมะกัน แกทำสหรัฐอเมริกาพลาดโอกาสขึ้นรถไฟสายประวัติศาสตร์มาแล้วหลายขบวน

หลายคนอาจจะสงสัย ว่ามันจะสำคัญอะไรนักหนา เพียงแค่มีชื่อติดอยู่ในสารานุกรม ในเมื่อท่านเสี่ยก็มีข่าวขึ้นหน้าหนึ่งอยู่แล้วทุกวัน

แต่ด้วยศักดิ์ศรีระดับประเทศมหาอำนาจเบอร์ 1 ของโลกอย่างสหรัฐอเมริกานั้้น ถ้าเป็นเมื่อก่อน อย่าว่าแต่ตกขบวนเลย แค่ว่าจะขอแค่มีชื่อเกาะขบวน ติดกระแสตามๆเขาไปยังไม่ได้เลย สำหรับสหรัฐคือ ต้องเป็นหนึ่งในหัวรถไฟเท่านั้น

วันนี้เราลองมาทบทวนกันหน่อยว่า ท่านเสี่ยทรัมพ์ได้ทำสหรัฐตกรถไฟสายประวัติศาสตร์ขบวนไหนบ้าง

รถไฟขบวนแรก: กระแสภาวะโลกร้อน

ที่คนทั้งโลกกำลังตื่นตัวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม อุณหภูมิโลกร้อนขึ้นจนทำให้เด็กมัธยมชาวสวีเดนอย่างเกรต้า ธุนเบิร์ก ต้องยอมขาดเรียนเพื่อออกมารณรงค์ประท้วง และหลายประเทศตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และพยายามผลักดันให้กลายเป็นวาระของโลก

แต่ท่านเสี่ยทรัมพ์ แกสวนกระแสด้วยการถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงปารีส ในปี 2017 ไม่สนเรื่องวาระโลกร้อน เพราะต้องการรักษาอุตสาหกรรมถ่านหินในประเทศ ทิ้งให้เจ้าภาพอย่างฝรั่งเศส ยืนเหวออยู่กลางทุ่งโอโซน ตามข่าวรายงานว่า ขุ่นป้า อังเกล่า แมร์เคิล แม่เมืองเยอรมัน ถึงขั้นต่อสายตรงไปหาทรัมพ์ เพื่อถามเหตุผล แต่ก็ได้รับคำตอบว่าสหรัฐออกแน่ ไม่ต้องมาง้อ

ส่วนประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง หรือ พ่อมาการ็องของเรา ก็ยืนยันว่า นโยบายลดภาวะโลกร้อนยังคงเดินหน้าต่อ และฝรั่งเศสยินดีที่จะเป็นผู้นำอย่างเต็มตัวในเรื่องนี้ และมีหลายประเทศร่วมด้วย ไม่เว้นแม้แต่จีน ที่ประกาศตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้ได้อย่างน้อย 60% ภายในปี 2030 และหลายประเทศในโลกเดินหน้าไปในทิศทางนี้ โดยทิ้งสหรัฐไว้ข้างหลัง

ซึ่งหลายรัฐในอเมริกาก็กลัวจะตกขบวนไปกับทรัมพ์ด้วย เลยรวมกลุ่มกันตั้งเป็น United States Climate Alliance โดยใช้เป้าหมายตาม Paris Agreement นั่นแล แต่ให้รู้ว่าบางรัฐ ในสหรัฐยังร่วมขบวนสิ่งแวดล้อมอยู่นะ ส่วนที่เสี่ยทรัมพ์ประกาศ ก็อย่าไปพูดถึงเลยละกัน

รถไฟขบวนที่สอง: 5G

หนึ่งในปัญหาจุดประเด็นให้กลายเป็นสงครามการค้าที่ตึงเครียดระหว่างจีน กับ สหรัฐอยู่ในขณะนี้นั้น ก็คือ การที่จีนสามารถพัฒนาเทคโนโลลี 5G และพร้อมติดตั้งได้ก่อนสหรัฐ

เทคโนโลยี 5G อาจจะมีการพัฒนามานานแล้ว แต่สำหรับชาวโลกส่วนใหญ่น่าจะมาเริ่มรู้จักกันในยุคของท่านเสี่ยทรัมพ์นี่แหล่ะ ที่มาไล่บี้บริษัท Huawei ตัดเทคโนโลยี ตัดซอฟท์แวร์ ตัดช่องทางการตลาด เล่นงานลูกสาวผู้บริหาร และกดดันพันธมิตรสหรัฐไม่ให้ใช้ 5G ของ Huawei

แต่การเล่นใหญ่ของท่านเสี่ยทรัมพ์ ทำให้ Huawei กลายเป็นที่รู้จักของคนทั้งโลก เหมือนโฆษณาให้เลยว่า 5G ต้อง Huawei ตอนนี้ชาวโลกรู้แล้วว่า จีนมี 5G คุณภาพเป็นอย่างไร ไว้ใจได้หรือไม่ ไม่รู้ แต่รู้ว่ามี

แต่ทำไมสหรัฐถึงยังไม่มี?

ในขณะที่เสี่ยทรัมพ์พุ่งเป้าเล่นงานจีน แต่กลับไม่ให้ความสำคัญที่จะให้ชาวโลกรับรู้ว่า เฮ้ย! สหรัฐก็กำลังมีนะ 5G หรืออาจจะก้าวกระโดดไป 6G แซงหน้าไปเลยก็ได้ พวกยูว์รอก่อนนะ

เพราะถ้าเรามาพูดกันตรงๆ ถ้าให้เลือกระหว่าง 5G ของจีน กับของสหรัฐ คิดว่าส่วนใหญ่น่าจะเลือกใช้ของอเมริกา แต่ในเมื่อในตลาดตอนนี้มีแต่ของจีนให้ใช้ และมีคนกล้าเสี่ยงที่จะลองใช้ มันก็เป็นสิทธิ์ของเขานะยูว์ จะไปห้ามเขาได้อย่างไร

แล้วยิ่งเสี่ยแกออกมาโวยวาย กีดกันเท่าไหร่ ก็ยิ่งเน้นชัดในสิ่งที่สหรัฐยังไม่มี และชวนให้สงสัยว่า ฤาสหรัฐจะตกขบวน

รถไฟขบวนที่สาม: Covid-19

อันนี้ไม่ได้หมายความว่าสหรัฐจะโดนประเทศอื่นแซงหน้าเรื่องระบาดก่อน หายก่อน แต่เป็นเรื่องที่หลายประเทศเริ่มวิจารณ์สหรัฐในแง่ของบทบาทด้านสาธารณสุขของโลก

เมื่อเกิดภาวะการระบาดระดับโลก ไม่ว่าจุดเริ่มต้นจะมาจากที่ใด แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ทั่วโลกคาดหวังจะได้เห็นคือบทบาทของชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐในการออกมาเป็นผู้นำ ที่ช่วยกอบกู้วิกฤติ หรือกำหนดทิศทางให้ประเทศอื่นๆในการป้องกันไวรัส ถึงจะช่วยไม่ได้ทั้งหมด แต่ภาพลักษณ์ของประเทศพี่ใหญ่คือ มีความพร้อมในทุกด้าน ก็น่าจะเป็นเสาหลักในเรื่องนี้ได้มากกว่านี้

แต่กลับกลายเป็นว่า สหรัฐเป็นผู้ประสบภัยเสียเอง แถมต้องนำโมเดลจากประเทศอื่นมาใช้เพื่อแก้ปัญหา เช่นของเกาหลีใต้ หรือ ไต้หวัน แล้วทรัมพ์ยังตัดสัมพันธ์กับ WHO จำกัดบทบาทสหรัฐในงานด้านสาธารณสุขของโลกเข้าไปอีก ท่ามกลางพายุวิกฤติไวรัสโคโรน่าในประเทศที่ยังควบคุมไม่ได้ ทำให้บทบาทสหรัฐถูกกลืนหายไปยืนงงๆอยู่กลางดง Covid

รถไฟขบวนที่สี่: กระแสต่อต้านการเหยียด

จากกระแสของกลุ่ม Black Lives Matter ที่ออกมาต่อต้านการเหยียดสีผิวในสหรัฐ ที่กระจายกว้างออกไปทั่วโลก แต่ก่อนหน้านี้ มีกระแสรณรงค์ในเรื่องต่อต้านการเหยียดมาแล้วมากมาย ตั้งแต่ LGBT #MeTOO Islamophobia ที่เหยียดชาวมุสลิม หรือ Xenophobia ที่เหยียดผู้อพยพต่างชาติ

แต่รู้สึกว่าท่านเสี่ย แกจะตกรถไฟทุกขบวนที่ว่ามาเลย ด้วยนโยบาย American First ของแก ไม่เอาคนต่างชาติ สร้างกำแพงเม็กซิโก ไม่รับผู้อพยพ เนรเทศอาจารย์ชาวอิหร่าน ถอนวีซ่านักศึกษาจีน เมียไม่ยอมเดินจูงมือด้วย จนล่าสุดทวิตเตอร์ด่ากราดเหมารวมกลุ่มผู้ประท้วง เป็นพวกหัวรุนแรงอีก เขาก็เลยพร้อมใจกันทิ้งเสี่ย ให้อยู่เฝ้าทำเนียบ เล่นทวิตเตอร์เงียบๆอยู่คนเดียว

รู้สึกจะตกหลายขบวนเกินไปแล้วนะคะเสี่ยขา เหลือเวลา 5 เดือนกว่าจะถึงวันเลือกตั้งใหม่ เลยจะขอฝากเพลงให้ท่านเสี่ยทรัมพ์เสียหน่อยนะคะ

เสียง.....รถด่วนขบวนสุดท้าย
แว่วดังฟังแล้วใจหาย
หัวใจน้องนี้แทบขาด....

แหล่งข้อมูล

https://www.theguardian.com/environ...thdraw-paris-climate-deal-world-leaders-react

https://edition.cnn.com/2020/06/08/...unity-joe-biden-2020-election-race/index.html

https://www.thebalance.com/donald-trump-immigration-impact-on-economy-4151107

https://en.wikipedia.org/wiki/United_States_withdrawal_from_the_Paris_Agreement

https://www.nbcnews.com/politics/wh...will-be-terminating-relationship-who-n1218441

 

คาราวานเรือน้ำมันของเราเดินทางกลับถึงบ้านแล้ว หลังเสร็จสิ้นภารกิจจากเวเนซุเอลา นั่นหมายถึงยุทธศาสตร์ “การรับมือเชิงรุก” นั้นบรรลุผล และพวกตัวตลกที่พยายามปิดล้อมเรา ขณะนี้เขากำลังถูกปิดล้อมโดยอำนาจของอิหร่าน ซึ่งข้อเรียกร้องของทรัมป์และไบรอัน ฮุคเพื่อขอเจรจากับอิหร่านนั้น คือข้อพิสูจน์ของสิ่งนี้

อาลี ชัมกอนี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติอิหร่าน

 

อิรักไม่ต้องการกองกำลังต่างชาติเพื่อต่อสู้กับการก่อการร้าย

โฆษกของผู้บัญชาการกองทัพอิรักได้เน้นย้ำถึงความสามารถของประเทศในการต่อสู้กับการก่อการร้ายและกล่าวว่าอิรักไม่ต้องการกองทัพต่างชาติ

โฆษกของกองบัญชาการกองทัพอิรักกล่าวว่า เขตแดนระหว่างประเทศและซีเรียอยู่ภายใต้การควบคุม และการรักษาความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกองกำลังร่วม

ในการให้สัมภาษณ์กับ Al-Mayadin นายพลจัตวา Yahya Rasool กล่าวเสริมว่า :เราให้ความสำคัญกับการรักษาชายแดนกับซีเรีย และกองกำลังอิรักได้ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการปฏิบัติการรุกคืบและจับกุมและสังหารผู้นำ ISIS

เขากล่าวเสริมว่า: "หากกลุ่มก่อการร้ายพยายามแทรกซึมอิรักผ่านชายแดนซีเรียพวกเขาจะเผชิญกับการตอบโต้ที่รุนแรง"

Yahya Rasool กล่าวว่า กองกำลังทหารของ ISIL หมดสิ้นแล้ว แต่ยังเหลือแค่สมาชิกบางส่วนที่สามารถปฏิบัติการประปรายได้ และ การต่อสู้กับ ISIS ในวันนี้เป็นการต่อสู้ทางข้อมูลข่าวสาร

โฆษกของกองบัญชาการกองทัพอิรักย้ำว่าการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างฝ่ายอิรักและฝ่ายซีเรียเป็นเรื่องสำคัญและจะช่วยให้ทั้งสองประเทศดำเนินการต่อต้านผู้ก่อการร้าย

นอกจากนี้เขายังกล่าวว่า อิรักมีกองกำลังที่ปลดปล่อยประเทศ และสามารถรักษาอำนาจอธิปไตยของตนและอิรักไม่ต้องการกองกำลังต่างชาติเพื่อต่อสู้กับการก่อการร้าย

https://www.mehrnews.com/news/4943940/عراق-برای-مبارزه-با-تروریسم-به-هیچ-نیروی-خارجی-نیاز-ندارد

 

สหรัฐอเมริกา ส่ง รถบรรทุกทหาร 50 คันจากอิรักไปยังซีเรีย

สำนักข่าวของทางการซีเรียรายงานว่า กองทัพสหรัฐฯได้ส่งรถบรรทุก 50 คันซึ่งบรรทุกอุปกรณ์ทางทหารและขนส่งจากอิรักไปยังดินแดนซีเรีย

สำนักข่าวทางการของซีเรีย (SANA) รายงานว่า ทหารสหรัฐเดินทางมาถึงซีเรียในวันอาทิตย์ พร้อมขบวนรถที่บรรทุกอุปกรณ์ทางทหารจากอิรัก

ตามรายงานระบุว่า ขบวนรถดังกล่าวเข้าสู่ดินแดนซีเรียผ่านชายแดนที่ผิดกฎหมาย

https://www.mehrnews.com/news/4943912/آمریکا۵۰کامیون-تجهیزات-نظامی-را-از-عراق-واردسوریه-کرد

 

อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ สหรัฐฯ ชี้ : ทรัมป์ ละเมิดรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา

อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในสมัยของ "จอร์จ ดับเบิลยู บุช" ผู้ซึ่งเป็นสมาชิกของพรรครีพับลิกันย้ำการสนับสนุนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งปี 2020 พร้อมกับประกาศว่า : "ทรัมป์ ละเมิดรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา"

"Politiko" รายงานว่า "โคลิน พาวเวลล์" อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในสมัยของ "จอร์จ ดับเบิลยู บุช" ผู้ซึ่งเป็นสมาชิกของพรรครีพับลิกัน ได้กล่าวย้ำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปีนี้ เขาจะสนับสนุน "โจ ไบเดน" ผู้ท้าชิงของพรรคเดโมแครต

โคลิน พาวเวลล์ ได้กล่าวในเรื่องนี้ว่า : “ ผมมีความใกล้ชิดกับ โจ ไบเดน มากในประเด็นทางสังคมและการเมือง ผมได้ทำงานร่วมกับเขามาเป็นเวลา 35 ถึง 40 ปี ซึ่งตอนนี้เขาเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและผมจะลงคะแนนให้เขา”

ตามรายงานของซีเอ็นเอ็น โคลิน พาวเวลล์ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า : "ทรัมป์ เบี่ยงเบนออกจากรัฐธรรมนูญ"
https://www.mehrnews.com/news/4943834/ترامپ-قانون-اساسی-آمریکا-را-نقض-کرده-است

 

เยอรมนี ชี้ : จีนจะเป็นมหาอำนาจในอนาคต / ยุโรปจำเป็นต้องขยายความสัมพันธ์กับปักกิ่ง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมันกล่าวว่า "จีนจะเป็นมหาอำนาจในอนาคต โดยเน้นย้ำว่ายุโรปจำเป็นต้องขยายความสัมพันธ์กับปักกิ่ง

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไฮโคมอส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมันเรียกจีนว่า "มหาอำนาจในอนาคต" และกล่าวว่าสหภาพยุโรปไม่ควร จำกัด ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้ากับประเทศนี้

เขากล่าวว่า “ จีนเป็นมหาอำนาจในอนาคตและเยอรมนีก็เป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศนี้ด้วย ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร การสนทนาระหว่างปักกิ่งและเบอร์ลินไม่ควร จำกัด เฉพาะประเด็นทางการค้าและเศรษฐกิจเท่านั้น เราต้องการวิธีแก้ปัญหาแบบยุโรปทั่วไปเพื่อสนับสนุนค่านิยมเสรีของเรา

https://www.mehrnews.com/news/4943892/آلمان-چین-ابرقدرت-آینده-است-لزوم-گسترش-روابط-اروپا-با-پکن

 

พยาบาลจริงกระชากหน้ากาก สาวอ้างตัวเป็นพยาบาลหลอกตร.แต่งงาน
พยาบาลสาวกระชากหน้ากาก สาวเชียร์เบียร์อ้างตัวเป็นพยาบาลวิทยาลัยดัง รุ่น 9 หลอกชายในเครื่องแบบแต่งงาน
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

ผลการศึกษาชี้ ล็อกดาวน์ลดอัตราการตายจากโควิด-19 ในยุโรปถึง 3 ล้านราย
ผลการศึกษาวิจัยจากอังกฤษ และสหรัฐฯ ระบุ การล็อกดาวน์ของหลายประเทศในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีประสิทธิภาพช่วยลดอัตราการตายจากโควิด-19 ได้มากกว่า 3 ล้านคน
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

ปธน.แทนซาเนียอ้าง สวดภาวนาได้ผล ประเทศปลอดโควิดแล้ว
ผู้นำแทนซาเนียอ้าง ประเทศปลอดเชื้อโควิด-19 แล้ว ขอบคุณประชาชนที่ช่วยกันสวดภาวนา จนกำจัดไวรัสตัวนี้ได้
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

WHO เผยทั่วโลกติดโควิดวันเดียว 1.36 แสนราย มากสุดตั้งแต่เริ่มระบาด
องค์การอนามัยโลกเผยว่า เมื่อวันอาทิตย์ทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ถึง 1.36 แสนราย ทำลายสถิติมากที่สุดในวันเดียวนับตั้งแต่เริ่มการระบาด แต่หลายประเทศเริ่มส่งสัญญาณที่ดีขึ้น
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline