ติดตามสถานะการณ์

นี่อาจเป็นข่าวดีล่าสุดจากวงการแพทย์ ในช่วงวิกฤตแห่งมวลมนุษยชาติอย่างโควิด-19 เมื่อวัคซีนป้องกันโรคจะเป็นคำตอบเดียวในการหยุดการระบาดของโรคร้ายนี้ได้ ล่าสุดสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า
.
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของอิตาลีได้กล่าวว่า ยุโรปก้าวมาอยู่ในแนวหน้าของโลกด้านการพัฒนาวัคซีนต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และผลการวิจัยที่กำลังก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องอาจนำไปสู่วัคซีนโดสแรกภายในช่วง “ฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว
.
ยุโรปแซงหน้าสหรัฐฯ ในเรื่องวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้ว เรากำลังเตรียมพร้อมที่จะดูแลการผลิตในอิตาลี วอลเตอร์ ริชชีอาร์ดิ ที่ปรึกษาด้านการรับมือโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอิตาลี
.
ซึ่งเป็นผู้อำนวยการกรมสาธารณสุข รองหัวหน้าคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยพระหฤทัยคาธอลิกแห่งกรุงโรม และตัวแทนจากอิตาลีในคณะกรรมการบริหารขององค์การอนามัยโลก อธิบายว่า เราเคารพต่อเวลา ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เราอาจมีวัคซีนโดสแรกในยุโรปและอิตาลีช่วงฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาวนี้
.
โครงการวิจัยวัคซีนของห้างหุ้นส่วนแองโกลอิตาลีนั้น ดำเนินการโดยบริษัทเอกชนแอดเวนต์-ไออาร์บีเอ็ม โดยโครงการทดลองวัคซีนนี้กำลังอยู่ในช่วงการพัฒนาที่ก้าวหน้ากว่าโครงการอื่นๆมาก แอดเวนต์-ไออาร์บีเอ็มยังระบุต่อด้วยว่า หากสถานการณ์เป็นไปด้วยดีตามคาด วัคซีนที่มีศักยภาพน่าจะพร้อมใช้งานสำหรับมนุษย์ในช่วงเดือนกันยายน

-------------------------------
แหล่งข่าว

http://www.xinhuanet.com/english/2020-06/10/c_139129336.htm

https://www.naewna.com/inter/498578
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

รัสเซียรับอาจใช้เวลาหลายปีกำจัดน้ำมันรั่วแม่น้ำอาร์กติก

 

โสมขาว พบติดเชื้อกลางกรุงอีก หวั่นระบาดอีกระลอก

 

อินเดียยังหนัก ติดเชื้อวันเดียวเกือบหมื่นหวั่นโรงพยาบาลรับไม่ไหว

 

ผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอินโดนีเซียเพิ่มเป็นอย่างน้อย 2,000 คนแล้ว ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสอง

 

สิงคโปร์ติดเชื้อ “โควิด” เพิ่มอีกเกือบครึ่งพัน ยอดสะสมใกล้แตะ 4 หมื่น

 

#สหรัฐรุกอังกฤษ
#ยื่นข้อเสนอสร้างโรงงานนิวเคลียร์แลก5G

หลังจากที่ไม่ได้ออกสื่อมานาน ปล่อยให้ลูกพี่ทรัมพ์โดนยำอยู่คนเดียวช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในประเด็นการประท้วงในสหรัฐ วันนี้ ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสายเหยี่ยวดุ คู่ใจท่านเสี่ย ได้ออกมาประกาศว่า สหรัฐพร้อมจะยืนข้างอังกฤษ เรื่องที่โดนจีนขู่จะถอนโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ออก หากอังกฤษไม่ยอมบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายเรื่องสัญญา 5G กับ Huawei

แต่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ก็มีข่าวออกมาว่า ทั้งธนาคาร HSBC และ Standard Chartered ธนาคารอังกฤษ ในฮ่องกงออกมาสนับสนุนกฏหมายความมั่นคงใหม่ของจีน ทำให้ท่านรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เป็นเดือด เป็นแค้น แทนอังกฤษ
- เฮ้! ยูว์! ทำไมปล่อยให้จีนมาขู่อย่างนั้นเล่า -

ไมค์ ปอมเปโอ จึงประกาศออกสื่อว่า สหรัฐพร้อมที่จะอยู่ข้างอังกฤษ เพื่อต่อต้านจีน เพราะเราเป็นเพื่อนกัน คนที่เป็นเพื่อนกัน ต้องไม่มาขู่กัน ใช่ไหม?

ส่วนเรื่องที่จีนจะถอนโปรเจคโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ก็ช่างมันครับ สหรัฐจะเข้าไปทำต่อให้เอง

และยังคงย้ำหนักๆ ขีดบรรทัด 5 เส้นว่า สหรัฐหวังว่า อังกฤษจะทบทวนนโยบายเรื่อง 5G ของ Huawei การดูแลระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลในกลุ่มประเทศชาติตะวันตก ควรจะอยู่ในระบบเนตเวิร์คของชาติตะวันตกด้วยกัน

และข้อมูลของสหรัฐ จะต้องส่งผ่านในระบบที่ปลอดภัยของสหรัฐเท่านั้น!!

ที่ผ่านมา สหรัฐล็อบบี้อังกฤษหนักมากในเรื่องสัญญา 5G ของ Huawei ถึงขั้นบอกว่าจะทบทวนการนโยบายเรื่องการแลกเปลี่่ยนข้อมูลราชการลับด้านความมั่นคงกับอังกฤษ หากอังกฤษยืนยันว่าจะยังใช้บริการ 5G ของจีน

ในตอนแรก ทางอังกฤษก็ตัดสินใจแล้วที่จะลองใช้อุปกรณ์สัญญาณ 5G ของ Huawei โดยมีลิมิทไว้ที่ 35% ของการบริการ แต่ปรากฏว่า อังกฤษเกิดจะเปลี่ยนใจขึ้นมา เพราะตราบใดที่สหรัฐ กับ จีน ยังทะเลาะกันหนัก การเลือกที่จะใช้ 5G ของ Huawei ก็จะรังแต่จะนำความยุ่งยาก ปวดหัวมาให้ ไม่ได้หยุด ได้หย่อน

เมื่ออังกฤษตัดสินใจว่าจะถอนสัญญา จีนจึงขู่ว่า งั้นโปรเจคโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ อั๊วก็จะไม่ทำให้

นั่นเลยเป็นที่มาของการโชว์ป๋า ของไมค์ ปอมเปโอ ว่า สหรัฐจะรับงานสร้างโรงงานนิวเคลียร์ให้เอง

แต่ตอนนี้ยังเป็นสัญญากันปากเปล่าไปก่อน ยังไม่ได้เซ็นเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่มีการระบุว่าจะเข้ามาสร้างได้เมื่อไหร่ อย่างไร

และไมค์ ปอมเปโอ ยังกล่าวเย้ย ท่าทีของผู้บริหาร HSBC ในฮ่องกง ที่ออกมาสนับสนุนกฏหมายความมั่นคงของจีนว่า ไปหมอบราบคาบแก้วให้กับจีน อย่านึกว่าจีนจะยังสนับสนุนธุรกิจ HSBC นะ อย่าลืมว่า คนที่ส่งข้อมูลด้านการเงินของ Huawei ให้สหรัฐ ที่ใช้เล่นงาน เมิ่ง เวินโจว ลูกสาวของเจ้าของ Huawei ก็คือ HSBC นั่นเอง

อ้าว! มีแฉกลับอีกเนาะ

โดยไมค์ ปอมเปโอ เคยกล่าวว่า หลังจากที่อังกฤษ Brexit ออกจาก EU แล้ว จะต้องพึ่งพาสหรัฐมากขึ้น และสหรัฐก็ยินดีที่จะทำทุกอย่าง ให้อังกฤษพึ่งพาจีนน้อยลง

แต่ทั้งนี้ ทางรัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษก็ออกมาให้ความเห็นว่า ถึงแม้อังกฤษจะออกจาก EU ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่คบค้าสมาคมกับชาติสมาชิก EU เสียเมื่อไหร่ และอังกฤษก็ไม่ได้จะต้องไปพึ่งพาสหรัฐขนาดนั้น ทุกประเทศเขาก็มีจุดยืนของตัวเอง

เท่าที่ดูจากสถานการณ์ กลายเป็นว่าอังกฤษ ตกที่นั่งลำบาก (ใจ) โดนบีบจากทั้ง 2 ด้านเลย ปวดหัวน่าดู

แต่หากพ่อนายกฯ ผมทอง Boris The Blonde กลุ้มใจ ก็ลองเอาภาพยนตร์อังกฤษเรื่องดัง Love Actually มาดูแก้เครียด โดยเฉพาะท่อนสุนทรพจน์ของนายกฯอังกฤษในเรื่อง ช่างจับใจ และอาจพูดแทนใจชาวอังกฤษทั้งประเทศได้เลย

"We may be a small country, but we're a great one, too. The country of Shakespeare, Churchill, The Beatles, Sean Connery, Harry Potter. David Beckham's right foot. David Beckham's left foot, come to that.

And a friend who bullies us is no longer a friend. And since bullies only respond to strength, from now onward I will be prepared to be much stronger. And the president should be prepared for that."

-- Love Actually - 2003

แหล่งข้อมูล

https://www.theguardian.com/busines...-hsbc-for-corporate-kowtow-to-china-hong-kong

https://time.com/5851139/mike-pompeo-china-hsbc-uk/

https://www.cnbc.com/2020/06/10/hsb...-over-support-for-hong-kong-security-law.html

https://techcrunch.com/2020/05/23/u...course-on-huaweis-involvement-in-5g-networks/

https://fortune.com/2020/06/08/huawei-china-uk-5g/

https://www.newcivilengineer.com/la...china-threatens-to-remove-support-09-06-2020/

 

นอร์เวย์พบติดเชื้อโควิดใหม่เพิ่มสามเท่า หลังคลายล็อกไม่นาน

 

ข้อมูลนี้น่าสนใจ – ตอนที่ 1 :
ประเทศในแอฟริกาและประเทศกำลังพัฒนา บริหารจัดการวิกฤตโควิด-19 ได้ดีกว่า
.
1/ 4 ใน 5 ของผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 อยู่ในกลุ่มประเทศซีกโลกเหนือ และล้วนแต่เป็นประเทศพัฒนาแล้ว
.
2/ สหรัฐฯ อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส อังกฤษ มีประชากรรวมกัน 7.5% ของโลก แต่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ถึง 2 ใน 3 ของโลก
.
3/ มีผู้กล่าวว่า ประเทศพัฒนาแล้วล้มเหลวในการบริหารจัดการกับวิกฤตสาธารณสุข ในขณะที่ประเทศซีกโลกใต้ ซึ่งล้วนแต่เป็นประเทศกำลังพัฒนา กลับบริหารจัดการได้ดีกว่า
.
4/ ธนาคารโลกเปิดเผยข้อมูลล่าสุด กลุ่มประเทศกำลังพัฒนามีประชากร 85% ของโลก แต่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพียง 21%
.
5/ ปลายเดือนพฤษภาคม ประเทศแถบแอฟริกาตะวันตกที่มีประชากรรวมกันมากกว่าสหรัฐฯทั้งประเทศ มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพียง 654 ราย ในขณะที่สหรัฐฯมีผู้เสียชีวิตทะลุ 100,000 รายไปนานแล้ว
.
6/ ครั้งหนึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ เคยใช้คำว่า Shithole Countries เรียกแทนประเทศในแอฟริกา ซึ่งคำว่า Shithole แปลตรงตัว หมายถึง รูขี้ แต่เวลาใช้ประกอบคำอื่นจะหมายถึง แย่ สกปรก เหม็น
.
7/ เป็นที่รับรู้กันว่าไวรัสโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก ไม่มีประเทศไหนรอด แต่ประเทศที่ทรัมป์บอกว่า แย่ สกปรก เหม็น นี่แหละ มีจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตน้อยกว่าสหรัฐฯซะอีก
.
●● เพราะอะไร ‘ประเทศกำลังพัฒนา’ ถึงเผชิญวิกฤตไวโควิด-19 ไม่หนักหนา? ●●
.
1/ ชารลส์ เคนนี่ เจ้าหน้าที่อาวุโส Center for Global Development บอกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศกำลังพัฒนาเดินหน้าพัฒนาตัวเองกันขนานใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา ประกันสุขภาพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน
.
2/ การพัฒนาประสบความสำเร็จแบบที่เหล่าประเทศพัฒนาแล้วไม่ทันสังเกต
.
3/ การพัฒนาขนานใหญ่นี่แหละที่ทำให้รับมือกับวิกฤตโควิด-19 ได้ดี
.
●● แล้วทำไมเหล่าประเทศพัฒนาแล้วไม่ทันสังเกต? ●●
.
1/ เพราะโลกของเรามีค่านิยมมองประเทศพัฒนาแล้ว สำคัญ บริจาค สนับสนุน อะไรๆต่อโลกมากมาย ใช่ครับ! น่าชื่นชม! แต่โลกลืมมองไปที่ประเทศกำลังพัฒนาที่กำลังมุ่งเน้นพัฒนาประชากรในประเทศ พาประชาชนหลุดพ้นความยากจน และมีนโยบายเพื่อประชาชนอะไรๆอีกมากมาย
.
2/ การบริหารจัดการวิกฤตโควิด-19 ของเหล่าประเทศกำลังพัฒนาจึงมีความแตกต่างจากประเทศพัฒนาแล้ว ความแตกต่างสำคัญคือ ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ บวกกับรัฐบาลจริงจัง
.
3/ เดือนมกราคม ขณะที่สหรัฐฯพบผู้ติดเชื้อยังไม่มากราย โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศ “ไม่น่าห่วง จำนวนผู้ติดเชื้อจะเหลือศูนย์ในเร็ววัน” แต่ประเทศเซเนกัลประกาศปิดพรมแดนประเทศ เตรียมโรงพยาบาลพร้อมรับมือแล้ว
.
4/ เดือนกุมภาพันธ์ ประเทศในยุโรปเริ่มมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น มองโกเลียประกาศยกเลิกงานเฉลิมฉลองตรุษจีน และเตรียมบุคลากรมากกว่า 800 คนเตรียมรับมือ
.
5/ เดือนมีนาคม สหรัฐฯเยียวยาประชาชนด้วยเม็ดเงินน้อยนิด แต่หมู่เกาะคุ้ก (Cook Islands) ประเทศขนาดเล็ก กลับเยียวยาประชาชนด้วยงบประมาณ 11% ของจีดีพีประเทศ ให้เงินเยียวยาผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ และยกเว้นค่าไฟฟ้าทุกบ้านเป็นเวลา 3 เดือน
.
6/ เซเนกัลคือประเทศที่ต้องขอชื่นชมอีกครั้ง เพราะเซเนกัลเป็นประเทศที่เรียกได้ว่า มีเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยสะดวกสบายนัก เช่นระบบขนส่งที่ไม่เอื้ออำนวย ทั้งประเทศมีความสามารถรองรับผู้ป่วยไอซียูได้เพียง 86 เตียง แต่เมื่อเกิดภาวะโรคระบาด รัฐบาลเตรียมทั้งบุคลากรและงบประมาณฉุกเฉินไว้ 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
.
7/ ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นับถึงวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน เซเนกัลมีรายงานผู้เสียชีวิต 47 ราย ในขณะที่รัฐเพนซิลวาเนียของสหรัฐฯ รัฐที่มีจำนวนประชากรเท่าๆกับเซเนกัล กลับมีผู้เสียชีวิตมากถึง 5,931 ราย
.
8/ เมื่อไปถามเซเนกัลว่า ทำได้อย่างไร? อ่านต่อในตอนที่ 2 นะครับ
.
ขอบคุณบทความและภาพจาก https://www.huffpost.com/entry/developing-countres-coronavirus-united-states-global-south_n_5edaa785c5b6dc3de7b94546?from=singlemessage&isappinstalled=0&fbclid=IwAR0ug1pcMN-ceIb4wJBne1dgcyZ5wM6eQnhGDrfAgrP6iglXeqEOnF0XNuo
.

 

ข้อมูลนี้น่าสนใจ – ตอนที่ 2 :
ประเทศในแอฟริกาและประเทศกำลังพัฒนา บริหารจัดการวิกฤตโควิด-19 ได้ดีกว่า
.
●● ครั้งหนึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ เคยใช้คำว่า Shithole Countries เรียกแทนประเทศในแอฟริกา ซึ่งคำว่า Shithole แปลตรงตัว หมายถึง รูขี้ แต่เวลาใช้ประกอบคำอื่นจะหมายถึง แย่ สกปรก เหม็น
.
เป็นที่รับรู้กันว่าไวรัสโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก ไม่มีประเทศไหนรอด แต่ประเทศที่ทรัมป์บอกว่า แย่ สกปรก เหม็น นี่แหละ มีจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตน้อยกว่าสหรัฐฯซะอีก ●●
.
1/ ประเทศเซเนกัลเป็นประเทศที่มี ‘การเมือง’ มั่นคงมากที่สุดประเทศหนึ่งในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก และเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในแอฟริกาที่ไม่เคยมีเหตุการณ์ปฏิวัติรัฐประหาร
.
2/ ในห้วงวิกฤตโควิด-19 เซเนกัลบริหารจัดการได้ดี / รัฐบาลเซเนกัลทำอย่างไร?
.
3/ อามินาตู ซา ผู้อำนวยการโครงการ PATH องค์กรไม่แสวงหากำไรด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ บอกว่า ไม่ใช่เรื่องของความโชคดี การรับมือกับวิกฤตโรคระบาดระดับโลกครั้งนี้ ‘เซเนกัลไม่เอาการเมืองมาเกี่ยวข้อง’ มีแต่การทุ่มเทและร่วมมือร่วมใจกันของชาวเซเนกัล
.
4/ เซเนกัลมีบทเรียนสำคัญมาจากปี 2014 ที่โรคอีโบลาระบาด ทำให้หลังจากนั้นเซเนกัลพัฒนาระบบสาธารณสุขและระบบต่างๆอย่างจริงจัง เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
.
●● ประเทศไหนตื่นตัวต่อข่าวไวรัสเร็วกว่า ประเทศนั้นชนะ ●●
.
1/ อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ประเทศขนาดเล็กหรือประเทศที่ไม่ได้ร่ำรวยใช้รับมือกับโรคระบาดคือ ความรวดเร็ว เช่นออกมาตรการปิดประเทศ ล็อกดาวน์ประเทศ ประกาศเคอร์ฟิว ให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน ประเทศเหล่านี้ทำรวดเร็วกว่าสหรัฐฯและยุโรป เพียงแต่ไม่ได้เป็นข่าว
.
2/ ทรินิแดดแอนด์โทเบโก-ประกาศล็อกดาวน์ประเทศตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อรายแรก รวันดา-ระงับเที่ยวบินพาณิชย์ทุกเที่ยวภายใน 5 วันหลังพบผู้ป่วย หมู่เกาะคุ้ก-ประเทศที่มีรายได้มาจากการท่องเที่ยวเท่านั้น ประกาศยกเลิกทุกเที่ยวบินขาเข้า ก่อนจะพบผู้ติดเชื้อรายแรกเสียอีก
.
3/ แอลเบเนีย-ประเทศคู่ค้าสำคัญกับอิตาลี / อิตาลีเผชิญวิกฤตโควิด-19 หนักหนาสาหัส แม้แอลเบเนียจะมีจำนวนเตียงในโรงพยาบาลน้อยมาก มีความกังวลว่าจะเกิดวิกฤตแบบอิตาลี แต่ไม่ใช่เลย!
.
4/ 8 มีนาคม พบผู้ติดเชื้อรายแรกในแอลเบเนีย รัฐบาลสั่งปิดพรมแดนเชื่อมต่ออิตาลี / 2 วันต่อมา มีคำสั่งที่เข้มงวดที่สุดในกลุ่มประเทศยุโรป นั่นคือ ประชาชนที่ฝ่าฝืนออกจากบ้านจะถูกปรับเป็นเงินจำนวนมหาศาลและติดคุก นอกจากนี้ยังมีประกาศปิดระบบขนส่งสาธารณะ ห้ามรวมกลุ่มคน และแม้ชาวแอลเบเนียจะมีรถส่วนตัว ก็ต้องได้รับอนุญาตก่อนจึงจะขับได้
.
5/ ต้นเดือนมิถุนายน แอลเบเนียมีผู้เสียชีวิต 33 ราย น้อยกว่าเยอรมนีและอิตาลีหลายเท่าตัว ดังนั้น การวัดประสิทธิภาพของการบริหารจัดการวิกฤตสาธารณสุขครั้งนี้ ไม่ได้วัดที่ประเทศรวยหรือจน แต่วัดกันที่ความสามารถล้วนๆ
.
6/ อาร์เมเนียและจอร์เจีย ประเทศยุโรปเหมือนกัน พวกเขาไวกว่าหลายๆประเทศในยุโรป รัฐบาลประกาศระงับเที่ยวบินจากอิตาลีตั้งแต่มกราคมแล้ว และยังมีมาตรการคัดกรองที่สนามบินเข้มงวด
.
7/ รัฐบาลของ 2 ประเทศนี้ นำแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาออกอากาศทางทีวี ให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับไวรัสและการป้องกัน จากนั้น 6 มีนาคม ประกาศล็อกดาวน์ประเทศ
.
8/ ต้นเดือนมิถุนายน จอร์เจียมีผู้ติดเชื้อ 800 ราย อาร์เมเนีย มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 10,000 ราย น้อยกว่าประเทศยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายเท่าตัว
.
9/ ประเทศที่ประสบความสำเร็จในการบริการจัดการกับวิกฤตโควิด-19 ไม่ได้พึ่งพา ‘Social Distancing – การเว้นระยะห่างทางสังคม’ เท่านั้น แต่ ‘Social Trust – ความเชื่อใจกันและกัน’ ต่างหากที่เป็นพระเอก
.
10/ ‘Social Trust – ความเชื่อใจกันและกัน’ คืออะไร? อ่านต่อในตอนที่ 3 ตอนสุดท้ายแล้วครับ
.
ขอบคุณบทความและภาพจาก https://www.huffpost.com/entry/developing-countres-coronavirus-united-states-global-south_n_5edaa785c5b6dc3de7b94546?from=singlemessage&isappinstalled=0&fbclid=IwAR0ug1pcMN-ceIb4wJBne1dgcyZ5wM6eQnhGDrfAgrP6iglXeqEOnF0XNuo
.

 

ข้อมูลนี้น่าสนใจ – ตอนที่ 3 :
ประเทศในแอฟริกาและประเทศกำลังพัฒนา บริหารจัดการวิกฤตโควิด-19 ได้ดีกว่า
.
●● ครั้งหนึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ เคยใช้คำว่า Shithole Countries เรียกแทนประเทศในแอฟริกา ซึ่งคำว่า Shithole แปลตรงตัว หมายถึง รูขี้ แต่เวลาใช้ประกอบคำอื่นจะหมายถึง แย่ สกปรก เหม็น
.
เป็นที่รับรู้กันว่าไวรัสโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก ไม่มีประเทศไหนรอด แต่ประเทศที่ทรัมป์บอกว่า แย่ สกปรก เหม็น นี่แหละ มีจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตน้อยกว่าสหรัฐฯซะอีก ●●
.
1/ ประเทศที่ประสบความสำเร็จในการบริการจัดการกับวิกฤตโควิด-19 ไม่ได้พึ่งพา ‘Social Distancing – การเว้นระยะห่างทางสังคม’ เท่านั้น แต่ ‘Social Trust – ความเชื่อใจกันและกัน’ ต่างหากที่เป็นพระเอก
.
2/ ในขณะที่ประเทศยากจนได้รับการเป็นห่วงว่า จะจัดการกับวิกฤตได้ไม่ดี แต่ประเทศเหล่านี้กลับมีข้อดี
.
3/ อามินาตู ซา ผู้อำนวยการโครงการ PATH องค์กรไม่แสวงหากำไรด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ บอกว่า ประเทศร่ำรวย ประเทศพัฒนาแล้ว ล้วนหันไปสนใจโรคไม่ติดเชื้อเช่น มะเร็ง โรคหัวใจ แต่ประเทศกำลังพัฒนายังคงให้ความสำคัญกับโรคเหล่านี้ เช่น มาเลเรีย เอชไอวี
.
4/ การเผชิญกับวิกฤตอีโบลาเป็นประสบการณ์สำคัญให้กับเซเนกัล / เซเนกัลเป็นประเทศที่มีเครือข่ายประชาชนที่คอยเผยแพร่ทุกข่าวสารความเคลื่อนไหว มีคลื่นวิทยุภาษาท้องถิ่นคอยกระจายข่าว ผู้นำชุมชนเอาใจใส่ดูแลลูกบ้านทุกคน แม้กระทั่งนักร้องยังแต่เพลงเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ นี่คือภาคประชาชนที่เข้มแข็ง
.
5/ นี่คือสิ่งที่เรียกว่า ‘Social Trust – ความเชื่อใจกันและกัน’ ไม่มีข่าวปลอม ไม่มี Fake News แน่นอน
.
6/ เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นหรือรัฐบาลออกมาตรการอะไร ประชาชนจะรู้ไวมาก เห็นได้จากชาวเซเนกัลใส่หน้ากากอนามัยกันแต่เนิ่นๆ การแพร่ระบาดจึงไม่เกิด
.
7/ บริจิตต์ ซีม ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยนอร์ธแคโรไลน่า ผู้ทำการวิจัยในประเทศมาลาวีและแซมเบีย บอกว่า ประเทศเหล่านี้มี Social Trust สูงมาก นำไปสู่โครงสร้างพื้นฐานทางสุขภาพที่เยี่ยมมาก
.
8/ เมื่อรัฐบาลต้องการให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ พวกเขาจะฟังและปฏิบัติตาม นี่คือสิ่งที่ดี รัฐบาลไม่ต้องใช้ทรัพยากรหรืองบประมาณอะไรให้สิ้นเปลือง
.
●● จัดการกับวิกฤตโควิด-19 ได้ดีแค่ไหน รัฐบาลคือส่วนสำคัญ ●●
.
1/ วิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ ประเทศกำลังพัฒนาประสบความสำเร็จชัดเจนในการบริหารจัดการกับโรคระบาด รัฐบาลคือส่วนสำคัญ
.
2/ ขอยกตัวอย่าง ‘เวียดนาม’ / รัฐบาลเวียดนามสั่งตรวจและกักตัวประชาชนกลุ่มเสี่ยงทันที ออกข่าวประชาสัมพันธ์รวดเร็วให้ประชาชนล้างมือบ่อยๆ สวมใส่หน้ากากทุกครั้งเวลาออกนอกบ้าน
.
3/ เมื่อโรคเริ่มระบาดมีการส่ง sms ไปยังประชาชนทุกคน ปิดชุมชนปิดเมืองทันทีเมื่อพบผู้ติดเชื้อ
.
4/ นู หงวน เจ้าหน้าที่ PATH องค์กรไม่แสวงหากำไรด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศประจำเวียดนาม บอกว่า เป็นประสบการณ์จากเมื่อตอนโรคซาร์สระบาด รัฐบาลเวียดนามจึงลงทุนในระบบสาธารณสุขเป็นระยะเวลา 10 ปีแล้ว เพื่อเตรียมพร้อมกับวิกฤตครั้งใหม่
.
5/ สรุปแล้ว ประเทศกำลังพัฒนาประสบความสำเร็จมากกว่าประเทศพัฒนาแล้วในการบริหารจัดการกับวิกฤตโควิด-19 ทั้งนี้เพราะประสบการณ์และภาคประชาชนให้ความร่วมมือ
.
6/ ประเทศกำลังพัฒนาเตรียมพร้อมระบบสาธารณสุขแบบเงียบๆ เมื่อโควิด-19 ระบาด พวกเขาจับตาดูใกล้ชิดและเตรียมพร้อมรับมือแบบเงียบๆ เช่นกัน
.
ขอบคุณบทความและภาพจาก https://www.huffpost.com/entry/developing-countres-coronavirus-united-states-global-south_n_5edaa785c5b6dc3de7b94546?from=singlemessage&isappinstalled=0&fbclid=IwAR0ug1pcMN-ceIb4wJBne1dgcyZ5wM6eQnhGDrfAgrP6iglXeqEOnF0XNuo
.

 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงหนัก ถอยมารับ หรือ ถอยมาทับ?

เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวร่วงหนักทุกดัชนี โดย Dow Jones ปิดที่ระดับ 25,128.17 จุด ปิดลบไป -1,861.82 จุด หรือ คิดเป็น -6.90% ขณะที่ S&P 500 ปิดที่ระดับ 3,002.10 จุด ปิดลบไป -188.04 จุด หรือ คิดเป็น -5.89% สุดท้าย ดัชนี NASDAQ ปิดลบไป -527.62 หรือ คิดเป็น -5.27% หลังจากไปยืนเหนือ 10,000 จุด ได้เพียงแค่วันเดียว

ทั้งนี้ การลบระดับนี้ ถึงแม้จะดูหนัก แต่เมื่อเทียบกับคลื่นลูกแรกของการระบาดในสหรัฐฯช่วงตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค. แล้ว การร่วงระดับนี้ ยังไมได้ทำสถิติหนักสุดของปีนะครับ โดยมีอีก 5 วันทำการที่ Dow Jones ร่วงแรงกว่าเมื่อคืนนี้ (คือวันที่ 9 , 12 และ 16 มี.ค.)

ปัจจัยอะไรที่ถูกปล่อยออกมาผ่านสื่อในช่วงที่ตลาดปรับฐานบ้าง

1. สื่อทุกสำนักรายงานตรงกันว่า หลักๆมาจากปัจจัยเรื่องการเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทำจุดสูงสุดใหม่ในหลายๆรัฐของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น Texas, Florida, North Carolina และ Arizona โดยเฉพาะที่ Texas ที่จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นทะลุ 1,500 รายต่อวันไปแล้ว ทำให้แผนการเปิดเมืองที่เพิ่งจะทำกันไป พอเจอทั้งการประท้วงกรณี การเสียชีวิตของคุณ George Floyd และการระบาดระลอก 2 นักลงทุนมองว่า โอกาสปิดเมือง กลับมา Lockdown อีกครั้งสูงขึ้นทันที

2. จริงๆ ตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงหุ้นไทย ปรับฐานล่วงหน้าไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน โดนแรงขายนั้นก็มาจากการที่ Valuation เริ่มตึงตัวมากๆ รวมถึงผลการประชุมเฟดเมื่อคืนวันพุธ ที่เฟดเลือกเพียงแค่จะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% มองว่าจะคงดอกเบี้ยต่อไปอย่างน้อยอีกปีครึ่ง แต่ยังไม่ส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆเพิ่มเติม ในขณะที่มีมุมมองว่า GDP Growth ในปี 2020 จะติดลบ -6.5% ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ และหากเป็นจริงเช่นนี้ เศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวแบบ U Shape มากกว่า V Shape

3. OECD ได้เตือนเมื่อวันเช้าวันพุธว่า การระบาดของ COVID-19 จะทำให้เกิดเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบ 100 ปี โดยมองว่า หากคลื่นลูกที่ 2 ของการระบาดเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง มีโอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะหดตัวถึง -7.6% พอรวมกับปัจจัยในข้อ 1. กับ ข้อ 2. แน่นอนว่า ก็มีนักลงทุนที่ห่อกำไรมาตั้งแต่เดือนมี.ค. จะลดพอร์ต ขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงออกไปบ้าง

ทั้งนี้ สันนิษฐานของนักวิเคราะห์และสื่อทุกสำนักที่บอกว่า ตลาดหุ้นปรับฐานเพราะกลัว Wave 2 นั่น ก็มีส่วนจริงอยู่เยอะ เพราะหากไปมองที่หุ้นรายตัวในสหรัฐฯ จะพบว่า หุ้นกลุ่มที่โดนเทหนักๆคือ Airlines, Cruise Operators, Retailers, Banking และ Energy ซึ่ง Sensitive กับ Lockdown มากกว่าหุ้นกลุ่ม Technology

และหุ้นที่บวกได้เมื่อคืน ก็เป็นหุ้นที่พิสูจน์แล้วว่า นักลงทุนพยายามเก็งกำไรในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกักตัวอยู่บ้าน และ Work From Home อย่าง Zoom ที่ยังอุตส่าห์ปิดบวกไปได้ตัวเดียวใน NASDAQ 100 ที่ +0.48% ขณะที่หุ้น Netflix ก็ลบน้อยที่สุดติดอันดับ 5 โดยลบแค่ -2.05% เมื่อเทียบกับดัชนีที่เฉลี่ยแล้วลบ -5.27%

ทั้งนี้ ช่วงก่อนเที่ยงคืน นาย Steven Mnuchin รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ CNBC ว่า การปิดเมืองรอบสอง ไม่ได้เป็นทางเลือกที่ทำเนียบขาวจะทำ และบอกว่า ยินดีที่จะเข้าไปขออนุมัติผ่านสภาคองเกรสอีกรอบเพื่อกระตุ้นด้วยมาตรการทางการคลังเพิ่มเติมหากจำเป็น
แต่ก็ดูเหมือนว่า คำพูดของ Mnuchin จะไม่ได้ทำให้ตลาดสบายใจขึ้นได้เลยนะครับ

ไปดูสินทรัพย์ประเภทอื่น ก็สะท้อนว่า ตลาดเข้าสู่ Risk Off Mode เพราะ ราคาทอง Spot Gold จากที่หลุด $1,690 ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาวันนี้กลับมายืนเหนือ $1,727 ได้ พร้อมๆกับ US Treasury อายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป Yield ไหลลงมากันหมด ขณะที่ US Treasury ตัวระยะสั้นกว่า 5 ปี Yield เด้งขึ้น แสดงว่ามีแรงขายโยกจากตราสารหนี้ระยะสั้นเข้าตราสารหนี้ระยะยาว

ด้านค่าเงินดอลล่าร์ ก็แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อมองผ่าน Dollar Index จากหลุด 96 ก็ขยับขึ้นมาที่ 96.77 จุด

วันนี้ตอนเช้าเปิดมาตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นไทยเหนื่อยแน่ๆครับ

*******************************

เพื่อตอบคำถามว่า ที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงหนักเมื่อคืน มันคือการถอยมารับ หรือ ถอยมาทับ? ไป

ดูมุมมองทางเทคนิคกัน

1. ดัชนี Dow Jones ภาพไม่สวย เพราะแท่งเทียนเมื่อวานหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และได้ Sell Signal จาก MACD รวมถึง RSI ปักหัวลงมาจาก Overbought Zone ด้านที่น่าสนคือ ลงมาชน Uptrend Line ในกราฟ Day พอดี

2. ดัชนี S&P 500 อาการคล้ายๆ Dow Jones แท่งเทียนยังไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน สิ่งที่เหมือน Dow Jones ก็คือ ได้ Sell Signal จาก MACD ไปแล้ว แต่ที่น่ากังวลกว่า คือ หลุด Uptrend Line ในกราฟ Day ไปเรียบร้อย

3. NASDAQ ยืนเกาะเส้นค่าเฉลี่ย 20 วันพอดี แต่เจอ Sell Signal บน MACD รวมถึง RSI ปักหัวลงมาจาก Overbought Zone แต่ก็หลุด Uptrend Line ไปแล้ว (เพราะรอบขาขึ้น พี่ลากซะชันเหลือเกิน)

ขณะที่กราฟรายสัปดาห์ยังบอกอะไรไม่ได้มากว่า ตลาดหุ้นอเมริกากำลังเปลี่ยนแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลงแล้วหรือยัง แต่ถ้าไปดูหุ้นรายตัวใน Technology Sector ที่เป็น Leader Stock จะพบว่าการขึ้นเริ่มชะลอมา 2 สัปดาห์ก่อนแล้ว เพราะหลีกทางให้กับพวก Cyclical Sector ได้วิ่งขึ้นมาก่อนจะโดนทุบเละเทะภายในไม่ถึงเดือน ก็ต้องมาดูหุ้นกลุ่มนี้ในสัปดาห์หน้าว่าจะปฎิบัติอย่างไร สมกับเป็นผู้นำในรอบที่ผ่านมาขนาดนั้นรึเปล่า

แต่จนถึงตอนนี้ ตลาดจะเริ่มกลับมา Sensitive กับข่าวร้าย โดยเฉพาะตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 สิ่งที่ Mr.Market ทำเป็นไม่เห็นและมองข้ามมาตลอด มาตอนนี้ อยู่ดีๆก็ให้น้ำหนักมันซะอย่างงั้น

ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะมันขึ้นมาแรงเกินไป เลยต้องย่อบ้าง แต่เพราะความคาดหวังต่อ Unlimited QE มันสูง ความผันผวนของตลาดมันเลยสุดโต่งแบบที่เราเห็น

ส่วนตัว ยังเชื่อว่า เงินท่วมโลกยังมีอิทธิพลอยู่สูง เมื่อตลาดลงมาถึงจุดหนึ่ง เงินเหล่านี้ก็จะกลับเข้าตลาดหุ้นอีกรอบอยู่ดี
ยกเว้นก็แต่ว่า ถ้าเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะสหรัฐฯมันทรุดหนักจนเกินจะเยียวยาจริงๆ เจอแบบนั้น ผมก็คงต้องหนีไปทองแทนละครับ

Mr.Messenger รายงาน

 

Jun 12 , 2020 ศบค.ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวเริ่ม 15 มิ.ย.นี้ แต่ยังห้ามเดินทางเข้าประเทศ
.
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. เปิดเผยว่า ที่ประชุมศบค. ชุดใหญ่มีมติ ยกเลิกเคอร์ฟิว เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 4 โดยเริ่มตั้งแต่ 15 มิ.ยนี้
.
แต่ยังคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้อยู่เช่นเดิม พร้อมยังห้ามเดินทางเข้าราชอาณาจักรทั้งทาง บก น้ำ อากาศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19
.
ส่วนการใช้แอปพลิเคชันไทยชนะยังคงมีความจำเป็นเช่นเดิม เพื่อให้การติดตามโรคมีมาตรฐาน
.
#ไวรัสโควิด19 #ศบค #เคอร์ฟิว #Misterban

 

Jun 12 , 2020 ราชกิจจานุเบกษาประกาศฐานะการเงินไทยมีหนี้รวมกันถึง 6.1 ล้านล้านบาท
.
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงการคลังเรื่อง รายงานฐานะการเงินประจําสัปดาห์ ของธนาคารแห่งประเทศไทยทุนสํารองเงินตรา และกิจการธนบัตรเพื่ออนุวัติตามมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย พุทธศักราช 2485 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2551 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ประกาศรายงานฐานะการเงินประจําสัปดาห์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ทุนสํารองเงินตรา และกิจการธนบัตร งวดประจําสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ.2563 และงวดประจําสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2563 แนบท้ายประกาศนี้ประกาศ ณ วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 นายลวรณ แสงสนิท ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
.
โดยภายในประกาศดังกล่าวระบุว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ทุนสำรองเงินตราและกิจการธนบัตรเป็นหนี้รวมมากถึง 6.1 ล้านล้านบาท
.
#ไทย #ฐานะการเงิน #มีหนี้ #Misterban

 

June 12, 2020 ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศ 18 วัน !! ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เผยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 ราย ส่งผลให้ยอดรวมอยู่ที่ 3,129 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม
.
โดยขณะนี้มีผู้ป่วยในโรงพยาบาล 84 ราย รักษาหายแล้ว 2,987 ราย เสียชีวิต 58 ราย รวมไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อในประเทศ 18 วัน
.
โดยผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง 4 ราย อยู่ในพื้นที่ State Quarantine
.
รายที่ 1 หญิงไทยอายุ 39 ปี อาชีพแม่บ้าน ตรวจหาเชื้อในวันที่ 9 มิ.ย. 2563 ตรวจพบเชื้อไม่มีอาการ
.
รายที่ 2 - 4 เป็นชายไทยอายุ 31และ 53 ปี อาชีพรับจ้าง และหญิงไทยอายุ 44 ปี อาชีพพนักงานนวด ตรวจหาเชื้อวันที่ 10 มิ.ย.2563 ตรวจพบเชื้อไม่มีอาการ
.
#ศบค #ติดเชื้อ #ไวรัสโควิด19 #Misterban

 

Jun 12 , 2020 “อนุทิน ชาญวีรกูล”หนุนเปิดสนามบินภูเก็ต พร้อมเปิดจับคู่บินข้ามประเทศ เริ่มจากนักธุรกิจก่อน
.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงข้อเรียกร้องให้เปิดสนามบินนานาชาติภูเก็ตว่าตนจะนำเสนอในที่ประชุม ศบค.ในวันเดียวกันนี้ เพราะมีผู้ประกอบการการท่องเที่ยว รวมทั้งอีกหลายฝ่ายเรียกร้องมา ส่วนตัวคิดว่าควรจะต้องเปิดสนามบินนานาชาติภูเก็ตได้แล้วเพราะขณะที่สนามบินสุวรรณภูมิเองก็ยังเปิดให้บริการแล้วเช่นกัน
.
ส่วนจะเปิดภายในเดือนนี้หรือเริ่มในเดือนกรกฎาคม ยังไม่สามารถระบุได้ชัด แต่จะเปิดให้เร็วที่สุด เนื่องจากขณะนี้ไม่มีการติดเชื้อภายใน ประเทศมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว อีกไม่กี่วันก็จะครบ 28 วัน ซึ่งเมื่อถึงเวลาดังกล่าวก็ถือว่ามีเหตุผลเพียงพอในการที่จะคลายล็อคต่างๆ
.
ส่วนการเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศจะสามารถเริ่มได้ในเดือนกรกฎาคมนี้หรือไม่ นั้น เรื่องนี้ขอให้ใจเย็น ขณะนี้มีความคิดที่จะให้มีการจับคู่เดินทางระหว่างประเทศ โดยประเทศของเราก็จะไปดูประเทศที่มีมาตรฐานในการควบคุมกลุ่มโรคที่อยู่ระดับเดียวกัน หรือประเทศที่สามารถควบคุมการติดเชื้อได้ดี ลดการแพร่ระบาดไปได้มาก เป็นลักษณะทำความตกลงจับคู่กัน โดยประเทศทั้งสองฝ่ายจะต้องทำมาตรการในการคัดกรองผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศของตัวเอง ซึ่งวันเดียวกันนี้ตนจะเสนอรูปแบบดังกล่าวให้ที่ประชุม ศบค.และนายกรัฐมนตรีพิจารณา
.
โดยจะเป็นลักษณะของแนวทางการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด หรือ Travel Bubble และไม่ใช่การเปิดเดินทางโดยเสรี เพราะทั้งสองประเทศต้องมานั่งหารือกันถึงมาตรการคัดกรองบุคคลที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศ ขณะนี้เอกอัครราชทูตประเทศต่างๆได้เสนอเรื่องนี้เข้ามา และตอบรับแนวคิดดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยอาจเริ่มต้นให้ธุรกิจเข้ามาก่อนส่วนนักท่องเที่ยวยังคงต้องรอขั้นตอนต่อไป
.
ส่วนที่ยังพบผู้ติดเชื้อในสถานที่กักกันของรัฐนั้น ทั้งหมดก็เป็นคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ซึ่งเมื่อพบการติดเชื้อก็นำไปรักษาตัวทันที ไม่มีไม่มีหลุดไปไหน
.
ไทยต้องทำให้ระบบเศรษฐกิจเดินหน้า ธุรกิจไปต่อได้ แม้จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อบ้าง แต่ถ้ายังมีระบบการคัดกรองและระบบการรักษาที่ดีก็มั่นใจได้ว่าเรายังสามารถคุมสถานการณ์ได้ จึงต้องพยายามคืนสู่สภาพปกติให้ได้เร็วที่สุด
.
#อนุทิน #ไวรัสโควิด19 #บินข้ามประเทศ #Misterban

 

Jun 12 , 2020 บอร์ดรฟม.อนุมัติยืดเวลาลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงจ่าย 20 บาท ตลอดสาย ถึงสิ้นเดือนก.ย.63
.
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา คณะกรรมการหรือ บอร์ดรฟม. มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการดำเนินมาตรการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม หรือ MRT สายสีม่วงออกไปอีก 3 เดือน จากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย. ขยายไปจนถึงสิ้นเดือนก.ย. 2563 เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชนในการเดินทาง จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
.
ทำให้ผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ยังคงได้รับสิทธิ์ตามโปรโมชั่นค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 14 บาท และจ่ายสูงสุด 20 บาทตลอดสาย จากอัตราปกติคือ จ่ายสูงสุด 42 บาท ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2563
.
สำหรับผู้ที่เดินทางเชื่อมต่อ 2 สาย ระหว่างรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง และสายสีน้ำเงิน จะจ่ายค่าโดยสารร่วมสูงสุดเพียง 48 บาท (เดินทางได้ถึง 53 สถานี) จากอัตราค่าโดยสารร่วมปกติคือ จ่ายสูงสุด 70 บาท ตลอดการขยายระยะเวลาโปรโมชั่นดังกล่าวด้วยเช่นกัน
.
นอกจากนี้ ผู้โดยสารที่ได้รับสิทธิ์ส่วนลดพิเศษ ได้แก่ ส่วนลดค่าโดยสาร 50% สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 14 ปี ที่มีความสูงระหว่าง 91-120 ซม. และผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และส่วนลดค่าโดยสาร 10% สำหรับนักเรียน/นักศึกษาที่มีอายุไม่เกิน 23 ปี
.
#รถไฟฟ้า #สายสีม่วง #Misterban #ลดราคา

 

June 12, 2020 วันเดียวเท่านั้น! มูลค่า 5 ยักษ์ธุรกิจไอทีระดับโลกเสียหายกว่า 8 ล้านล้านบาท
.
สถานการณ์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ที่ถูกนักลงทุนถล่มเทขายหุ้นอย่างรุนแรงตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา โดยเฉพาะดัชนีหุ้นดาวโจนส์ทรุดหนักถึงกว่า 1,800 จุดนั้น ส่งผลให้มูลค่าของบริษัทในธุรกิจไอที และอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ระดับโลกทั้ง 5 แห่งเสียหายรวมกันเป็นจำนวน 269,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 8.6 ล้านล้านบาท
.
ไมโครซอฟท์เป็นบริษัทที่มีมูลค่าเสียหายมากที่สุด เนื่องจากราคาหุ้นตกต่ำกว่า 5% ทำให้มูลค่าไมโครซอฟท์หายไปกว่า 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.56 ล้านล้านบาท เช่นเดียวกันกับเฟสบุ๊คที่มีราคาหุ้นลดลงกว่า 5% ด้านแอปเปิลมีราคาหุ้นร่วงกว่า 4.8% อัลฟาเบธ(กูเกิล) ถูกเทขายลดลง 4.29% และอเมซอนมีราคาหุ้นลดลง 3.38%
.
สาเหตุจากนักลงทุนเกิดความกังวลในสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 รอบที่ 2 ในสหรัฐ ที่กลับมามีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 สะสมมากกว่า 2.08 ล้านคน ผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็นกว่า 116,000 คน
.
#ไอที #ทรุด #ทั่วโลก #ไวรัสโควิด19 #ระลอกสอง #Misterban

 

June 12, 2020 พร้อมบินต่างประเทศเป็นชาติแรกในอาเซียนสิ้นเดือนมิถุนายน หรือ 1 กรกฎาคม เวียดนามแอร์ไลน์เดินหน้าเปิดบินเข้า 5 ประเทศ
.
สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ เปิดเผยว่า ในต้นเดือนกรกฎาคมนี้ได้เตรียมความพร้อมในการเปิดบริการเส้นทางบินระหว่างประเทศไปยัง 5 ประเทศในเอเชียและอาเซียน ได้แก่ จีนแผ่นดินใหญ่(เมืองกว่างโจว) ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสปป.ลาว หน่วยงานการบินของเวียดนาม เปิดเผยว่า หลักเกณฑ์ในการเลือกประเทศจุดหมายปลายทางที่จะทำการบินระหว่างประเทศนั้น อยู่ที่ประเทศปลายทางต้องไม่มีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 เป็นเวลา 30 วันติดต่อกัน
.
รัฐบาลเวียดนามกล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดทำการบินระหว่างประเทศในครั้งนี้ จะเริ่มทยอยเปิดอย่างต่อเนื่องโดยไม่ระบุวันที่ชัดเจน ซึ่งคาดว่าอย่างเร็วที่สุด จะเริ่มให้บริการในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน หรือต้นเดือนกรกฎาคม โดยผู้โดยสารในช่วงแรก จะเป็นผู้โดยสารประเภทนักธุรกิจ หากสามารถทำการบินเส้นทางระหว่างประเทศได้เร็วที่สุดในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ จะทำให้สายการบินเวียดนาม แอร์ไลน์ เป็นสายการบินแรกในกลุ่มอาเซียนที่กลับมาเปิดบริการบินระหว่างประเทศเป็นที่แรกในภูมิภาค
.
ทั้งนี้ การรีบเปิดการบินระหว่างประเทศของเวียดนาม เพื่อเป็นการฟื้นภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างรุนแรงจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเวียดนามคิดเป็น 9.2% ของจีดีพีประเทศเวียดนาม ซึ่งนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเสียหาย 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 224,000 ล้านบาท กระทบธุรกิจที่เกี่ยวข้องมากกว่า 40,000 ราย และมีผลกับการจ้างงานในอุตสาหกรรมดังกล่าวกว่า 4.5 ล้านคน
.
#สายการบิน #เวียดนามแอร์ไลน์ #Misterban

 

โรคเปลี่ยนโลก! โควิดสร้างชีวิตรูปแบบใหม่รับยุค New Normal ด้านพฤติกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยี ที่จะต้องมีการปรับให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะด้านการช่วยเหลือต่างๆ ที่จะต้องสะดวกและปลอดภัย สร้างความสบายใจให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้น

#NewNormal #ความปกติใหม่ #เทคโนโลยี #ข่าวสาร #เศรษฐกิจ #ไวรัส #Covid19 #โควิด19 #MisterBan