ติดตามสถานะการณ์

World Forum ข่าวสารต่างประเทศ

ฝรั่งเศส : เมือง Ajaccio ฝนตกหนักน้ำป่าไหลท่วมเมืองเสียหายหนัก

 

เช็คกิจการ กิจกรรม ที่ได้รับการผ่อนคลายล็อกดาวน์ เฟส 4
.
ในกลุ่มสถาบันการศึกษา, กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตและกิจกรรมด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ หรือ สันทนาการ ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของโควิด-19 สูง
.
อ่านต่อได้ที่: https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/884802

 

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (11 มิ.ย.) ทรุดตัวลงกว่า 8% ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และภาวะน้ำมันล้นตลาด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 3.26 ดอลลาร์ หรือ 8.2% ปิดที่ราคา 36.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวลง 3.22 ดอลลาร์ หรือ 7.7% ปิดที่ 38.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
.
ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 6.5% ในปีนี้ ขณะที่อัตราการว่างงานจะพุ่งแตะระดับ 9.3%
.
ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล
.
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (เอพีไอ) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 8.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
.
อีไอเอ ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล
.
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดัน หลัง 3 ชาติโอเปกประกาศยุติการสมัครใจปรับลดกำลังการผลิตมากกว่าที่ระบุไว้ในข้อตกลง
.
อ่านต่อได้ที่: https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/884737

 

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (11 มิ.ย.) ดิ่งลงกว่า 1,800 จุด ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 1,861.82 จุดหรือ 6.9% ปิดที่ 25,128.17 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 ร่วงลง 188.04 จุด หรือ 5.89% ปิดที่ 3,002.1 จุดและดัชนีแนสแด็ก ร่วงลง 527.62 จุด หรือ 5.27% ปิดที่ 9,492.73 จุด
.
การดิ่งลงในวันนี้ ส่งผลให้ดาวโจนส์ทำสถิติปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันเป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน และเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดภายในหนึ่งวันนับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.
.
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ยังถูกกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 6.5% ในปีนี้ ขณะที่อัตราการว่างงานจะพุ่งแตะระดับ 9.3%
.
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น สายการบิน ค้าปลีก และธุรกิจเรือสำราญ ต่างก็ปรับตัวลงในการซื้อขายวันนี้
.
ทั้งนี้ นักลงทุนพากันวิตกต่อการที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้กลับเพิ่มขึ้นในบางรัฐ หลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยรัฐเท็กซัส เปิดเผยจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 สูงเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นวันที่ 3 จำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลแตะระดับ 2,153 รายเมื่อวานนี้ หลังจากอยู่ที่ระดับ 2,056 และ 1,935 รายเมื่อวันอังคารและวันจันทร์ตามลำดับ ขณะที่เคาน์ตี 9 แห่งของรัฐแคลิฟอร์เนียต่างก็รายงานการพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19
.
อ่านต่อได้ที่: https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/884736
.

 

ภาวะ 'เงินฝืด' ไทย...วันนี้มีไหม?

11 มิถุนายน 2563 | โดย ดร.บุญธรรม รจิตภิญโญเลิศ | คอลัมน์ มุมคิดธนกิจ

ส่องปัจจัยบ่งชี้"เศรษฐกิจไทย" เข้าข่าย "ภาวะเงินฝืด" แล้วหรือยัง? หลังจากที่แบงก์ชาติประเมินผ่านนิยามภาวะเงินฝืดของธนาคารกลางยุโรป พบว่าอัตราเงินเฟ้อไทยติดลบมาเพียง 3 เดือน และมองว่าปีหน้าจะกลับเป็นบวกได้ จึงชี้ว่าไทยยังไม่เข้าข่ายภาวะเงินฝืดนั่นเอง

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้อ้างอิงนิยามภาวะเงินฝืดของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งต้องเข้าเงื่อนไข 4 ข้อดังนี้

1.อัตราเงินเฟ้อติดลบเป็นเวลานานพอสมควร (prolonged period)

2.อัตราเงินเฟ้อติดลบกระจายในหลายๆ หมวดสินค้าและบริการ

3.การคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาว (ปกติดูที่ระยะ 5 ปี) ต่ำกว่าเป้าหมายระยะปานกลางอย่างมีนัย และ

4.อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจติดลบและอัตราว่างงานมีแนวโน้มสูงขึ้น

ทางแบงก์ชาติประเมินว่า หากพิจารณาตามเงื่อนไขดังกล่าว พบว่าอัตราเงินเฟ้อไทยติดลบมาเพียง 3 เดือน แม้ประมาณการล่าสุดของ ธปท.จะให้อัตราเงินเฟ้อทั้งปีนี้ติดลบ แต่ยังมองว่าปีหน้าจะกลับเป็นบวกได้ อีกทั้งเป็นการติดลบจากราคาพลังงานเป็นสำคัญ

ขณะที่การคาดการณ์เงินเฟ้อระยะ 5 ปีอยู่ที่ 1.8% ต่อปี ถือว่าใกล้เคียงกับกึ่งกลางของช่วงเป้าหมายเงินเฟ้อของ ธปท.ที่ 1-3% ต่อปี จึงยังไม่เข้าข่ายเงินฝืดตามนิยามของการดำเนินนโยบายการเงิน อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเงินฝืดได้ หากเศรษฐกิจไทยหดตัวลึกหรือฟื้นตัวช้ากว่าที่ประเมินมาก

ผมขอแชร์ความเห็นในมุมมองวิชาการล้วนๆ สำหรับประเด็นภาวะเงินฝืดของไทย ดังนี้



โดยนอกเหนือจากอีซีบีที่เคยให้นิยามของภาวะเงินฝืดแบบชัดเจน ยังมีธนาคารกลางอีกน่าจะเพียงแห่งเดียวที่เคยให้นิยามว่าด้วยภาวะเงินฝืดแบบชัดเจน ได้แก่ ธนาคารกลางของไอซ์แลนด์ที่ต่อยอดงานศึกษาของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งศึกษาเรื่องภาวะอัตราเงินฝืดแบบละเอียดกว่า 35 ประเทศที่ครอบคลุมจีดีพีรวมกว่า 90% ของโลก อีกทั้งศึกษากลไกการส่งผ่านของภาวะเงินฝืดในเศรษฐกิจจีนอีกด้วย

ทั้งนี้ งานศึกษาของไอเอ็มเอฟนั้น สะท้อนภาวะเงินฝืดทั้งในมิติของระดับราคาโดยรวม ระดับผลผลิต อัตราการขยายตัวของสินเชื่อ ตัวแปรทางการเงินต่างๆ รวมถึงภาวะตลาดหุ้น และได้นิยามของภาวะอัตราเงินฝืดโดยแบ่งเป็น 11 ดัชนี ไว้ดังนี้

1.อัตราเงินเฟ้อแบบรายปี ซึ่งวัดโดยอัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนี CPI ต่ำกว่า 0.5% หรือไม่?

2.อัตราเงินเฟ้อแบบรายปี ซึ่งวัดโดยอัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนี GDP deflator ต่ำกว่า 0.5% หรือไม่?

3.อัตราเงินเฟ้อแบบรายปี ซึ่งวัดโดยอัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนี Core CPI (ไม่รวมราคาพลังงาน) ต่ำกว่า 0.5% หรือไม่?

4.ผลต่างระหว่างอัตราการเติบโตของจีดีพีของเศรษฐกิจแบบที่เกิดขึ้นจริงๆ กับอัตราการเติบโตของจีดีพีของเศรษฐกิจแบบเต็มศักยภาพ (Potential GDP) ได้ถ่างกว้างขึ้นเกินกว่า 2% ในรอบ 4 ไตรมาสที่ผ่านมาหรือไม่?

5.ผลต่างระหว่างอัตราการเติบโตของจีดีพีของเศรษฐกิจแบบที่เกิดขึ้นจริงๆ กับอัตราการเติบโตของจีดีพีของเศรษฐกิจแบบเต็มศักยภาพ (Potential GDP) ในขณะนี้ กว้างกว่า -2% หรือไม่?

6.อัตราการเติบโตของจีดีพีของเศรษฐกิจแบบที่ไม่คิดผลจากอัตราเงินเฟ้อ (Real GDP Growth) ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มีค่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ Real GDP Growth ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาหรือไม่?

7.ดัชนีตลาดหุ้นของไทยในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ลดลงเกินกว่า 30% หรือไม่?

8.อัตราการแลกเปลี่ยนที่คำนึงถึงระดับราคาเฉลี่ยสินค้าของต่างประเทศและไทย (Real Effective Exchange Rate) แข็งค่ามากกว่า 4% ในรอบ 4 ไตรมาสที่ผ่านมาหรือไม่?

9.อัตราการขยายตัวของสินเชื่อภาคเอกชนต่ำกว่าอัตราการเติบโตของจีดีพี ในรอบ 4 ไตรมาสที่ผ่านมาหรือไม่?

10.อัตราการขยายตัวของสินเชื่อภาคเอกชนเมื่อคิดสะสมในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา เติบโตต่ำกว่า 10% หรือไม่?

11.อัตราการเติบโตของมาตรวัดปริมาณเงินแบบ M3 (เงินสดนอกแบงก์รวมกับเงินฝากทุกประเภท) เติบโตช้ากว่าปริมาณฐานเงิน base money (เงินสดนอกแบงก์รวมกับสำรองที่แบงก์พาณิชย์ฝากไว้ที่ธนาคารกลาง) เมื่อคิดแบบรายปี มากกว่า 2% หรือไม่เมื่อคิดย้อนหลังไป 8 ไตรมาสที่ผ่านมา? ทั้งนี้เมื่อได้วิเคราะห์ตัวเลขของประเทศไทยพบว่าเป็นดังนี้ (ตาราง)



โดยทางธนาคารไอซ์แลนด์และไอเอ็มเอฟได้นิยามว่า หากตัวเลขของเศรษฐกิจใดก็ตามที่ตอบคำถามข้างต้นว่า "ใช่" ตั้งแต่ 6 ข้อเป็นต้นไปเข้าข่ายว่าเกิดภาวะเงินฝืด

ซึ่งของประเทศไทยตอบว่า "ใช่" อยู่ 7 ข้อ ซึ่งผมขอบอกว่าข้อที่ 6 นั้นตัวเลขที่คำนวณออกมาถือว่าใกล้เคียงกันมากระหว่างจะตอบว่า "ใช่" หรือ "ไม่ใช่" กระนั้นก็ดี ก็ยังต้องถือว่าหากอ้างอิงตามนิยามของธนาคารไอซ์แลนด์และไอเอ็มเอฟได้เกิดภาวะเงินฝืดขึ้นแล้วในเศรษฐกิจไทย แต่ก็ต้องบอกว่าเกิดแบบเฉียดฉิว

ทีนี้มาดูว่าประเทศต่างๆ ทั่วโลกสมัยที่นิยามนี้เกิดขึ้นมาใหม่ๆ ว่าเป็นอย่างไรกันบ้างดังนี้





ซึ่งผลปรากฏว่าประเทศไทยก็เฉียดๆ จะเกิดภาวะเงินฝืดเมื่อปี 2003 อยู่เหมือนกัน สำหรับการที่จะคิดกันต่อสำหรับมุมมองของนโยบายการเงินของไทยในอนาคตนั้น เมื่อมีบางนิยามที่ชี้ชัดออกมาว่าเมืองไทยก็น่าจะเสี่ยงเกิดภาวะเงินฝืดอยู่เหมือนกันคงอาจต้องมีการเตรียมการเผื่อนโยบายการเงินแบบที่เป็นยาแรงไว้กระตุ้นเอาไว้ใน Menu List สักหน่อยก็ถือว่าน่าจะไม่เลวเหมือนกันครับ

https://www.bangkokbiznews.com/news...HlFyADbNPrS8W4y3oOGdibpByMjVdmRjQhqQ0KYLGFcDc

 

คลายอีกล็อก! ไฟเขียว นักธุรกิจ-คนป่วย เข้าไทย เปิด 4 เกาะใหญ่ให้เที่ยว



ศบค.ไฟเขียว! รับ “นักธุรกิจ-คนป่วย” เข้าไทย-ลุ้น 1ก.ค. ดำเนินการได้ก่อน เปิด 4 เกาะ “สมุย-พะงัน-ภูเก็ต-กระบี่” รับช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว
วันนี้ (12 มิ.ย.) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเป็นประธาน เห็นชอบในหลักการ ให้เปิดท่องเที่ยวแบบจับคู่เดินทางเฉพาะประเทศที่ควบคุมการระบาดของโควิด-19 (Travel bubble) ได้ดี
โดยให้ตั้งคณะทำงานร่วม 4 กระทรวง คือ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย เพื่อนำรายละเอียดและวิธีปฏิบัติ เสนอ ศบค.ชุดเล็กในวันพุธที่ 17 มิ.ย.
สำหรับประเทศหรือพื้นที่เป้าหมายที่จะนำร่อง Travel bubble จะเป็นประเทศในกลุ่มที่ควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ดีใกล้เคียงกับไทย มีดังนี้ จีน ฮ่องกง มาเก๊า ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ลาว พม่า ไต้หวัน เวียดนาม กัมพูชา ตะวันออกกลางบางประเทศ เป็นต้น
โดยนักท่องเที่ยวที่จะให้ทำ Travel bubble จะเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มนักธุรกิจ ที่ต้องมีหนังสือเชิญเดินทางมาเมืองไทยจากบริษัทในประเทศไทย ต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันการปลอดจากโควิด-19 ที่มีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมง เมื่อเข้ามาประเทศไทยก็ปลอดการกักตัว 14 วันทั้งขาเข้า และขาออก
นอกจากนี้อีกกลุ่ม คือ ผู้ป่วยที่ต้องเดินทางมารักษาตัวในประเทศไทย กลุ่มนี้ต้องมีใบนัดหรือหนังสือรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษา กลุ่มนี้ต้องไม่เข้ามาเพื่อรักษาโควิด-19 ต้องมีใบรับรองแพทย์โควิด-19 ไม่เกิน 72 ชั่วโม
โดยทั้งกลุ่มนักธุรกิจและผู้ป่วย เมื่อเข้าเกณฑ์มีเอกสารครบ สามารถนำเอกสารไปขอวีซ่าเพื่อเดินทางเข้าประเทศไทยได้เลย
“การดำเนินการเพื่อ Travel Bubble คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณ 1 กรกฎาคม ใช้เวลาทดลองดำเนินการ 1 เดือน โดยไทยสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 1,000 คนต่อวัน จากนั้น 1 เดือนหากไม่มีปัญหา ก็จะเปิดกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่จะทำ Travel Bubble คือกลุ่ม ไฮเอ็น เพื่อให้เข้ามาเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่ต่างชาตินิยม อาทิ ภูเก็ต สมุย กระบี่ พะงัน เป็นต้น เพื่อให้สามารถเข้ามาเที่ยวประเทศไทยได้ในเดือนสิงหาคม”
The post คลายอีกล็อก! ไฟเขียว นักธุรกิจ-คนป่วย เข้าไทย เปิด 4 เกาะใหญ่ให้เที่ยว appeared first on ข่าวสด.
Source : #Khaosod #KhaosodOnline #ข่าวสด

https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_4301917

 

จีนพร้อมสู้ เตรียมรับมือน้ำท่วมหนัก คร่ากว่าหลายสิบชีวิต
ทางการจีนเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยน้ำท่วมหนัก หลังเกิดฝนตกหนัก ส่งผลให้หลายพื้นที่ในทางตนใต้และตอนกลางของประเทศเกิดน้ำท่วมหนัก



Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

https://www.thairath.co.th/news/for...tOkpSDDH-V8--JPCtZQqKDk2aoHdkm3WCjPKIhPV7OZgs

 

ศบค.โยน ครม. เคาะวันหยุดชดเชยสงกรานต์ ผุดแผนหยุดเดือนละวัน!



ศบค. ชุดใหญ่ประชุม ปลดล็อกมาตรการควบคุมโควิด ระยะ 4 โยน ครม.เป็นผู้ตัดสินใจ กำหนดวันหยุดชดเชยสงกรานต์ หลังคาดว่าจะหยุด ก.ค.นี้
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ได้ประชุมและมีการสรุปทบทวนสถานการณ์โควิด หลังจากพบว่า สถานการณ์ในประเทศดีขึ้นเป็นลำดับ โดยไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศนานถึง 18 วันแล้ว และตามเกณฑ์ของการระบาดจะนับระยะเวลา 1 เท่าจากอัตราการฟักตัวของโรค 14 วัน คือ 28 วันจะถือว่าสถานการณ์การระบาดอยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้มีการพิจารณาปลดล็อก ระยะ 4
โดยที่ประชุมมีมติที่สำคัญ คือ ให้ ยกเลิกเคอร์ฟิว โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.เป็นต้นไป ทั้งนี้ให้มีการเฝ้าระวัง หากมีการระบาดอีกครั้ง ก็สามารถนำกลับมาประกาศใช้ได้อีก ส่วน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังคงประกาศใช้อยู่เช่นเดิม ส่วนมาตรการในระยะ 4 จะแบ่งเป็นกิจการต่างๆ คือ 1.การผ่อนผันการใช้สถานที่ของโรงเรียน สถานบันการศึกษา 2.กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต และ 3.กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ หรือสันทนาการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของวันหยุดสงกรานต์นั้น ในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ยังไม่มีการพูดถึงแต่อย่างใด แต่ให้เป็นพิจารณาและตัดสินใจ โดย คณะรัฐมนตรี (ครม.) เอง และในเย็นนี้ นายกรัฐมนตรี งดการแถลงออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยมอบหมายให้ โฆษก ศบค. และคณะเป็นคนชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดแทน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ว่า ในที่ประชุมศบค. วันเดียวกันนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุปวันหยุดชดเชยสงกรานต์
เบื้องต้นจะพับแผนที่จะให้วันหยุดติดต่อกัน 3 วันในเดือน ก.ค.ไปก่อน โดยจะพิจารณาทยอยให้วันหยุดทีละวันให้ติดกับวันหยุดของแต่ละเดือน จนครบ 3 ครั้ง เพื่อไม่ให้หยุดยาวทีเดียวพร้อมกัน 6 วัน ซึ่งเป็นการแบ่งวันหยุดที่ยืมจากประชาชนมาใช้คืนให้ ซึ่งยังมีเวลาถึงเดือน ธ.ค.
The post ศบค.โยน ครม. เคาะวันหยุดชดเชยสงกรานต์ ผุดแผนหยุดเดือนละวัน! appeared first on ข่าวสด.
Source : #Khaosod #KhaosodOnline #ข่าวสด

https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_4301765

 

พิษโควิด คนว่างงานพุ่ง อย่าท้อ งานรออยู่ รีบสมัครเกือบแสนอัตรา
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งไทย คาดกันว่าจะมีนักศึกษาจบใหม่ประมาณ 5-7 แสนคน จะได้รับผลกระทบ และต้องแย่งชิงหางานทำกับกลุ่มแรงงานบางส่วน



Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

https://www.thairath.co.th/news/loc...HwMGRuKMwliE_V4-G7FVgGQYcuXhYKpXoxJC4SnVoStRY

 

โรคหัวใจ โรคประจำตัวที่หากไม่รักษาต่อเนื่อง อาจมีผลเสียต่อสุขภาพ



ในสภาวะวิกฤตของโรคระบาดโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงกักตัวอยู่บ้าน แม้จะมีการผ่อนคลายมาตรการลงบ้างแล้วก็ตาม และหลายคนมีความกังวลกับการมารักษาโรคประจำตัวที่โรงพยาบาลตามแพทย์สั่ง สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอย่าง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไต โรคตับ โรคปอด อาจมีความลำบากในการใช้ชีวิตในสถานการณ์นี้ เพราะหากไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง อาจมีผลเสียต่อสุขภาพและมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
นพ.ศิรพัชร์ พูนวุฒิกุล อายุรแพทย์โรคหัวใจ ประจำศูนย์หัวใจโรงพยาบาลนครธน กล่าวว่า ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง อาจมีอัตราความเสี่ยงในการเสียชีวิตมากกว่าปกติ ดังนั้น ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวควรมีการตรวจและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไต โรคตับ โรคปอด ซึ่งโรคเหล่านี้เป็นโรคเรื้อรังที่มีอาการค่อนข้างชัดเจน จำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังอาการ รวมถึงระวังภาวะแทรกซ้อนของโรคอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งภาวะแทรกซ้อนของโรคอาจจะยังไม่เห็นชัดในตอนนี้ แต่จะส่งผลใน 1 ปี หรือ 4-5 ปีข้างหน้า
โรคหัวใจ เป็นโรคประจำตัวที่ควรได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้ป่วยอาจมีอาการเปลี่ยนแปลงได้ทุกวัน จำเป็นต้องปรับตัวยาเพื่อการรักษาอย่างเหมาะสม เช่น การปรับยาค่าแข็งตัวของเลือด ในคนไข้ที่เป็นหัวใจเต้นผิดจังหวะ มีโอกาสเกิดลิ่มเลือดขึ้นมาในหัวใจได้ อาจทำให้ไปอุดตันที่สมองหรือส่วนอื่นๆ
เมื่อก่อนแพทย์จะให้กินยา วาฟาริน (Warfarin) คือ ยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือที่เรียกกันว่า ยาละลายลิ่มเลือด ใช้เพื่อช่วยลดการแข็งตัวของเลือด ซึ่งการใช้ยาวาฟารินจำเป็นต้องได้รับการวัดระดับค่าแข็งตัวของเลือดเป็นประจำ นอกจากนี้วาฟารินยังอาจตีกับยาตัวอื่นหรือแม้แต่อาหารที่รับประทานได้ค่อนข้างบ่อย รวมถึงอาจเกิดการแพ้ยา จำเป็นต้องเปลี่ยนยาเป็นตัวอื่นตามความเหมาะสม เพราะฉะนั้นควรต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด
สถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดตอนนี้ อาจทำให้ผู้ป่วยมีความกังวลในการเดินทางมารักษา โรงพยาบาลจึงมีการใช้ระบบ Telemedicine เป็นบริการพบแพทย์ตามนัด รักษาต่อเนื่องผ่านวิดีโอคอล และสำหรับผู้ป่วยที่ต้องมีการเดินทางมาเจาะเลือด โรงพยาบาลจะมีบริการเจาะเลือด ณ จุดตรวจพิเศษเฉพาะบุคคล และสามารถรอรับผลเลือดได้ที่บ้าน
นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังมีบริการจัดส่งยาถึงบ้านในกรณีที่แพทย์มีการสั่งยา เพื่อลดเวลาการอยู่ในพื้นที่สาธารณะ ลดความเสี่ยงการรับหรือแพร่เชื้อ และหนึ่งในวิธีการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งบริการนี้จะช่วยตอบโจทย์เรื่องการรักษาโรคให้หัวใจให้กับผู้ป่วยในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 เป็นอย่างดี
สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน แนะนำให้เดินทางมารักษาที่โรงพยาบาลดีที่สุด โดยเฉพาะถ้าเกิดอาการ เช่น เหนื่อย วูบ ใจสั่น หน้ามืด เจ็บหน้าอก นอนราบไม่ได้ เป็นต้น ซึ่งผู้ป่วยควรมาพบแพทย์ทันที เพราะอาการเหล่านี้มีความเสี่ยงที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตได้
ผู้ป่วยโรคหัวใจ มีโอกาสติดโรคโควิด-19 เหมือนคนทั่วไป แต่อาจส่งผลรุนแรง และอาจมีอัตราความเสี่ยงการเสียชีวิตสูงกว่าคนปกติ ดังนั้นผู้ป่วยต้องดูแลตนเองทั้งในโรคประจำตัวและโรคโควิด-19 โดยปกติแพทย์จะมีคำแนะนำให้ผู้ป่วยดูแลตนเองเมื่ออยู่บ้าน ทั้งในเรื่องการลดอาหารหวาน มัน เค็ม และออกกำลังกายตามความเหมาะสม
ด้านของการป้องกัน เช่น การฉีดวัคซีนในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว แพทย์จะแนะนำวัคซีนป้องกันไว้ก่อนอยู่แล้ว โดยวัคซีนควรฉีดเกือบทุกคนที่มีโรคประจำตัว คือ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งควรฉีดเป็นประจำทุกปี เพราะสายพันธุ์ของไข้หวัดใหญ่เปลี่ยนไปทุกปี และถ้าเป็นผู้ป่วยที่มีภาวะจำเพาะ เช่น สูงอายุมาก ไม่เคยมีเรื่องของงูสวัดเลย อาจจะแนะนำให้ฉีดป้องกันงูสวัด หรือวัคซีนในเรื่องของ IPD ที่ป้องกันการเป็นปอดบวมแบบขั้นรุนแรง
นอกจากนี้ โรงพยาบาลนครธนยังมีบริการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังในสถานการณ์โควิด-19 เช่น Drive Thru Test COVID-19 เป็นบริการตรวจหาเชื้อ Covid-19 ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. ทุกวัน รวมถึงสร้างภูมิคุ้มกันในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วย Vaccine @Home บริการฉีดวัคซีนถึงบ้าน โดยแพทย์สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมาโรงพยาบาล และยังมี Vaccine Community Unit บริการหน่วยฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ถึงหมู่บ้านอีกด้วย เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง โดยแพทย์และพยาบาลเฉพาะทางตามมาตรฐานโรงพยาบาล
The post โรคหัวใจ โรคประจำตัวที่หากไม่รักษาต่อเนื่อง อาจมีผลเสียต่อสุขภาพ appeared first on SpringNews.
Source : #Springnews #สปริงนิวส์

https://www.springnews.co.th/alive/lifestyle/673304

 

แพทย์ผ่าตัดเปลี่ยนปอด 2 ข้าง ให้ผู้ป่วย โควิด ความหวังใหม่มนุษยชาติ!



ความหวังใหม่มวลมนุษยชาติ! แพทย์ ได้ทำการ ผ่าตัดเปลี่ยนปอด 2 ข้าง ให้ผู้ป่วย โควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา และกลายเป็นคนไข้รายแรก
ทีมแพทย์เปิดเผยว่าหญิงที่มีอายุในช่วง 20 ปีรายหนึ่ง กลายเป็นคนไข้รายแรกในสหรัฐที่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนปอดทั้ง 2 ข้าง หลังล้มป่วยด้วยโรคโควิด-19 ซึ่งสร้างความหวังใหม่ให้กับผู้ป่วยหนักเนื่องจากติดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ส่งผลให้ปอดของคนไข้ถูกทำลายลง
คนไข้รายนี้อยู่ในหอผู้ป่วยหนักของโรงพยาบาลนอร์ธเวสเทิร์น เมมโมเรียล ในนครชิคาโกของสหรัฐเป็นเวลา 6 สัปดาห์แล้ว โดยใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อช่วยพยุงหัวใจและปอด ซึ่งทำให้เธอให้ยังมีชีวิตอยู่
ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ปอดของเธอเสียหายอย่างหนักจนทำให้การผ่าตัดเปลี่ยนปอดกลายเป็นความหวังเดียวที่จะรอดชีวิต หลังแพทย์พบว่ามีพังผืดขึ้นในปอด และยังพบรูรั่วขนาดใหญ่ในปอดข้างซ้าย ซึ่งเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อมากขึ้น
การผ่าตัดเปลี่ยนปอดทั้งสองข้างให้กับคนไข้รายนี้ซึ่งเป็นสตรีเชื้อสายฮีสแปนิกผ่านพ้นไปได้ด้วยดี จนทำให้แพทย์คิดและหวังว่าจะสามารถทำการผ่าตัดเปลี่ยนปอดเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 รายอื่นที่มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจเนื่องจากปอดถูกทำลายอย่างถาวร
ขณะนี้ผู้ป่วยรายดังกล่าวกลับมามีสติอีกครั้งและได้พูดคุยกับสมาชิกในครอบครัวผ่าน FaceTime แม้จะยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และยังคงต้องหายใจผ่านท่อที่ใส่เข้าไปในหลอดลมผ่านการเจาะคอเพื่อให้อากาศผ่านเข้าสู่หลอดลมและปอดโดยตรงก็ตาม โดยแพทย์คาดว่าหลังการพักฟื้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ ผู้ป่วยรายนี้น่าจะสามารถกลับบ้านได้
ขอบคุณมติชน
The post แพทย์ผ่าตัดเปลี่ยนปอด 2 ข้าง ให้ผู้ป่วย โควิด ความหวังใหม่มนุษยชาติ! appeared first on ข่าวสด.
Source : #Khaosod #KhaosodOnline #ข่าวสด

https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_4300118

 

ว่างงานอ่านทางนี้! กรมการจัดหางานเผยตำแหน่งว่างต้องการรับสมัครกว่า 5,000 อัตรา



นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์การจ้างงานล่าสุดพบว่า ทางกรมฯ ได้รับแจ้งตำแหน่งงานที่ต้องการรับสมัครในลักษณะงาน Part-Time ที่ต้องการในขณะนี้คือ
แรงงานด้านการผลิต 716 อัตรา
เจ้าหน้าที่สำนักงานอื่นๆ จำนวน 696 อัตรา
แรงงานในด้านการผลิตต่างๆ ,แรงงานทั้วไป จำนวน 596 อัตรา
พนักงานบริการลูกค้า จำนวน 289 อัตรา
พนักงานจัดส่งสินค้าอื่นๆ จำนวน 215 อัตรา
พนักงานขายสินค้าอื่นๆ ประจำร้าน ,พนักงานขายของหน้าร้าน จำนวน 145 อัตรา
พนักงานขาย และผู้นำเสนอสินค้าอื่นๆ จำนวน 141 อัตรา
พนักงานบริการอื่นๆ จำนวน 126 อัตรา
ช่างอัญมณี และช่างประดิษฐ์เครื่องประดับอื่นๆ จำนวน 109 อัตรา
พนักงานขับรถยนต์ จำนวน 101 อัตรา
รวมทั้งสิ้น 4,396 อัตรา
ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการมัครงานแบบ Part-Time สามารถทำการสมัครได้ตามช่องทางดังนี้
สมัครงานด้วยตนเอง ฯ อาคาร 3 ชั้น หน้ากระทรวงแรงงาน หรือ ณสำนักงานจัดหางานทั้วประเทศ
สมัครงานด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ http://smartjob.doe.go.th
นอกจากนี้ประชาชนที่สนใจจะดูตำแหน่งงานว่าง Part-time ยังสามารถติดตามได้ที่ Facebook Fanpage :“เสิร์ฟงานด่วน” ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้ผู้ต้องการมีงานทำได้มีโอกาสค้นหาตำแหน่งงานว่างพาร์ทไทม์ได้สะดวกยิ่งขึ้น หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงานโทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน” นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว
ข้อมูลจาก : ฐานเศรษฐกิจ
The post ว่างงานอ่านทางนี้! กรมการจัดหางานเผยตำแหน่งว่างต้องการรับสมัครกว่า 5,000 อัตรา appeared first on SpringNews.
Source : #Springnews #สปริงนิวส์
https://www.springnews.co.th/economics/677972

 

“สายการบินตุรกี” มอบส่วนลดตั๋วเครื่องบิน 40% ให้ “บุคลากรการแพทย์” ทั่วโลก



สำนักข่าวซินหัวเผยว่า เมื่อวันจันทร์ (8 มิ.ย.) ที่ผ่านมา เตอร์กิชแอร์ไลน์ สายการบินประจำชาติของตุรกี ประกาศแผนการมอบส่วนลดบัตรโดยสารร้อยละ 40 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลก
“สายการบินตุรกี แอร์ไลน์ส ริเริ่มแคมเปญใหม่สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่เสียสละทำงานต่อสู้กับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)” สายการบินฯ แถลง “แคมเปญนี้มีเป้าหมายให้บุคลากรทางการแพทย์ทั่วโลกสามารถเดินทางโดยได้รับส่วนลดร้อยละ 40”
บุคลากรทางการแพทย์สามารถซื้อบัตรโดยสารลดราคาให้ตนเองและผู้ร่วมเดินทางอีก 3 คน ครอบคลุมทุกเที่ยวบินและบัตรโดยสารทุกประเภท โดยผู้ที่ต้องการเข้าร่วมแคมเปญนี้ ซึ่งจะมีผลถึงวันที่ 31 พ.ค. 2021 จำเป็นต้องยื่นข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ของสายการบินฯ
The post “สายการบินตุรกี” มอบส่วนลดตั๋วเครื่องบิน 40% ให้ “บุคลากรการแพทย์” ทั่วโลก appeared first on SpringNews.
Source : #Springnews #สปริงนิวส์

https://www.springnews.co.th/global/677971

 

ชาวสกลนครฮือฮา ภาพพายุงวงช้าง โผล่ทิ้งตัวลงแผ่นดินกลางหนองหาร



ทำฮือฮาไปทั้งโซเชียลของชาวสกลนคร เมื่อเกิดพายุงวงช้างโผล่กลางหนองหารทางทิศตะวันออกของตัวเมืองสกลนคร โดยมีคนจำนวนหนึ่งสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ เบื้องต้นไม่มีรายงานความเสียหายหรือสูญเสีย
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

https://www.thairath.co.th/news/loc...P_velN-Z4KblvcnuKhUVmpOMJAQ-Ct0rzvLjQzknQY8MI

 

ประท้วงเหยียดผิวมุ่งรื้อสัญลักษณ์สหพันธรัฐ



ผลพวงจากเหตุตำรวจผิวขาวจับกุมและใช้เข่ากดคอสังหารนายจอร์จ ฟลอยด์ หนุ่มผิวสี วัย 46 ปี ที่เมืองมินนิแอโพลิส รัฐมินเนโซตา เมื่อ 25 พ.ค. จนก่อเกิดกระแสประท้วงทั่วอเมริกาและลุกลามไปทั่วโลก
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline
..
ส่วนสถานการณ์ประท้วงในสหรัฐฯสืบเนื่อง จากการเสียชีวิตของนายฟลอยด์ยังเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยมีรายงานว่าผู้ประท้วงได้โค่นล้มอนุสาวรีย์คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ผู้ค้นพบทวีปอเมริกา ซึ่งถูกตั้งอยู่ที่เมืองเซนต์ ปอล รัฐมินเนโซตา และอนุสาวรีย์อดีตประธานาธิบดีเจฟเฟอร์สัน เดวิส ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย นอกเหนือจากอนุสาวรีย์คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ในอีกหลายแห่งก็ถูกทำลายเสียหายด้วย ทั้งมีความพยายามทำลายสัญลักษณ์สหพันธรัฐแห่งอเมริกาเพื่อประท้วงสภาวการณ์เหยียดผิวครั้งนี้ด้วย.

https://www.thairath.co.th/news/for...fvE9pOX3rJ5YNJIRJoJFlV0i0G09C5z59qhi021wXnh1M

 

บราซิลยอดติดโควิดทะลุ 800,000 ราย ป่วยใหม่เกิน 3 หมื่นคน 3 วันติด



ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศบราซิลทะลุ 8 แสนรายแล้ว โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 3 หมื่นรายติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตก็เกิน 4 หมื่นศพแล้ว
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

https://www.thairath.co.th/news/for...a4r6XcJYJMXA9YKH--IRSW_2ynsy6M2EBiGaQMEyGxPy0

 

กฎหมายอี-เซอร์วิสลุยเก็บภาษีแวต



นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ โฆษกกรมสรรพากรกล่าวว่า ขณะนี้ กรมสรรพากรได้พูดคุยกับตัวแทนจากบริษัทผู้ให้บริการยักษ์ใหญ่ด้านดิจิทัลต่างประเทศแล้วหลายบริษัท ซึ่งทุกบริษัทพร้อมดำเนินการ
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

https://www.thairath.co.th/news/bus..._F3grnCj7J4PE_tMy5K3wdh6trQ2xylALKeJQxEfrPZmI

 

ออมสินอ่วมโควิด-19 หนี้เสียพุ่ง ปีนี้กำไรลดหดเหลือ 1 หมื่นล้าน



นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากผลกระทบโควิด-19 ที่เกิดขึ้น คาดว่าปีนี้ธนาคารจะมีกำไรลดลง เหลือเพียง 10,000 ล้านบาทเท่านั้น จากที่ผ่านมามีกำไร
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

https://www.thairath.co.th/news/bus...fuTGqJvEkLGr1oHGzGpOzms1bzf2PPGigd1dSTPqyZu6U

 

งานวิจัยสหรัฐฯ ชี้ “ไทย-สิงคโปร์-ฮ่องกง” ทำงานที่บ้านยิ่งเครียด



งานวิจัยสหรัฐฯ พบพนักงานบริษัทในไทย สิงคโปร์และฮ่องกง มีภาวะเครียดมากขึ้นเมื่อต้องทำงานที่บ้านในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 เพราะต้องตื่นตัวตลอดเวลา
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

https://www.thairath.co.th/news/for...mDL_j26_SZre4ZjuI5iVUCxSTZOsnUA98CCfkn01zVbuQ

 

“บินไทย” สู้ประกาศพร้อมบิน กรุงไทยสำรองหนี้เสีย 6 พันล้าน



แบงก์กรุงไทย จ่อตั้ง สำรองหนี้ “บินไทย” เต็มจำนวนกว่า 6 พันล้านบาทภายในไตรมาส 2 เร่งช่วยลูกค้า–ลดหนี้เสียไม่ให้พุ่งจนรับไม่ไหว ด้าน “พีระพันธุ์” ระบุบินไทยพร้อมกลับมาให้บริการตลอดเวลา
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

https://www.thairath.co.th/news/bus...AaTUoeeM19NuVLs-buow6bS9lsLNyqST2bgj1MJVUWBps