ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เฝ้าระวัง 7 ประเทศทั่วโลก
    แหล่งระบาด “โควิด – 19”
    ที่ยังไม่จบง่ายๆ
    .
    .
    วันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา เทดรอส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ระบุว่า สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด – 19 ทั่วโลกยังอยู่ในขั้น “เลวร้าย” และมีทีท่าจะแย่ลง แม้จำนวนประเทศที่ระบาดหนักก่อนหน้านี้ ทั้งในยุโรป และในเอเชีย ส่วนใหญ่จะ Flattening the Curve หรือ “ลดความชัน” กราฟได้สำเร็จ
    .
    วันอาทิตย์ที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา ถือเป็นวันที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุดถึง 1.36 แสนคน เป็นตัวเลขที่สูงที่สุด หากนับจากจุดเริ่มต้นการระบาดเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว
    .
    เพราะฉะนั้น ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก จึงออกคำเตือนว่าช่วงเวลานี้ ไม่ใช่เวลาที่จะ “ผ่อนคันเร่ง” และทั่วโลก ยังคงต้องตั้งการ์ดสูงต่อไป ตราบใดที่ยังไม่เจอวิธีรักษา และยังไม่เจอวัคซีน
    .
    สำนักข่าว Vox สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา ให้ตั้งข้อสังเกตถึง 7 ประเทศที่การระบาดของโคโรนาไวรัส 2019 ยังคงรุนแรง และยังไม่มีทีท่าจะจบลงง่ายๆ พร้อมกับย้อนมองสาเหตุ ปัญหา และความน่าจะเป็นหลังจากนี้
    .
    .
    1.อินเดีย
    ติดเชื้อ 3 แสน
    เสียชีวิต 8,500
    จำนวนเทสต์ 3.9 ต่อ 1,000 ประชากร
    .
    .
    สัปดาห์ที่แล้ว อินเดีย ประเทศที่มีประชากร 1,300 ล้านคน มากเป็นอันดับที่ 2 ของโลก เพิ่งประกาศ “ผ่อนปรน” ล็อคดาวน์ โดยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเดินหน้าได้บ้าง เพราะการหยุดชะงักตลอด 2เดือนที่ผ่านมา สร้างปัญหาอย่างหนัก โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรที่ยากจน
    .
    ปัญหาก็คืออินเดียนั้นมี “ชุมชนแออัด” จำนวนมาก หลายคนเข้าไม่ถึงระบบสาธารณสุข และไม่มีการตรวจที่ทั่วถึง ประชากรจำนวนมาก ไม่ได้ผ่านการ “เทสต์” ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่สูงนั้น แท้จริงอาจยังตกหล่นอีกจำนวนมาก
    .
    หลังปลดล็อคดาวน์ 1 สัปดาห์ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พีคที่สุดในวันที่ 7 มิ.ย. ที่วันละ 1 หมื่นราย จนผู้ติดเชื้อรวมแซงสเปน ขึ้นเป็นอันดับที่ 5 ของโลก ตามหลังสหรัฐฯ บราซิล รัสเซีย และอังกฤษ
    .
    แต่ก็ยังมีข่าวดีอยู่บ้าง คือประชากรอินเดียที่ติดเชื้อส่วนมากอายุน้อย และดูจะมี “ภูมิคุ้มกัน” ที่ดีกว่าชาติอื่น ทำให้อัตราการเสียชีวิตต่ำ
    .
    หากอินเดียสามารถผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ไป อาจทำให้อินเดียบรรลุการมี “ภูมิคุ้มกันหมู่” หรือ Herd Immunity เป็นชาติแรกของโลก
    .
    .
    2.บราซิล
    ติดเชื้อ 8 แสน
    เสียชีวิต 4.1 หมื่น
    จำนวนเทสต์ 6.4 ต่อ 1,000 ประชากร
    .
    .
    หากเปรียบเทียบกับรัฐบาลทั่วโลกแล้ว รัฐบาลบราซิล อาจจัดการกับโคโรนาไวรัส 2019 ได้ “แย่” ที่สุดในโลก เริ่มจากการที่ประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนารู ประกาศตั้งแต่ต้นว่าโรคนี้เป็นเพียงไข้หวัดเล็กน้อย รวมถึงเห็นว่าการ “ล็อคดาวน์” เป็นเรื่องไร้สาระ และ “ตื่นตูม” เกินไป
    .
    ซ้ำรัฐบาลบราซิลยังใช้ รมว.สาธารณสุข ได้เปลืองที่สุด ในช่วงการระบาด โดยโบลโซนารู ปลดรัฐมนตรีไป 1 คน เพราะเห็นว่าควรล็อคดาวน์ ซึ่งขัดแย้งกับ “ความเชื่อ” ประธานาธิบดี และรัฐมนตรีอีก 1 คน ก็ลาออก หลังรับตำแหน่งได้ไม่ถึง 1 เดือน เพราะเห็นแย้งกับโบลโซนารู เรื่องการใช้ยาไฮดรอกซีคลอโรควินเพื่อรักษาโรคนี้ ทั้งที่ผลวิจัย ชี้ว่าอาจส่งผลอันตรายกับผู้ป่วยมากกว่าจะรักษาโรคนี้ได้ ทำให้บราซิลใช้รัฐมนตรีสาธารณสุขรวม 3 คน กับการจัดการโรคนี้
    .
    สัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลยังสั่งให้นำตัวเลข “ผู้ป่วย” ออกจากเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข เพราะเห็นว่าสร้างความตื่นตระหนกมากเกินไป กระทั่งทีมแพทย์ – พยาบาล ออกมาประท้วง ว่าการปกปิดความจริงไม่ได้ช่วยอะไรในเรื่องนี้ เหตุและปัจจัยดังกล่าว ทำให้ปัญหาโควิด – 19 ในบราซิลย่ำแย่ลงต่อไป เมื่อผสมกับจำนวนเทสต์ที่ต่ำมาก อัตราตายที่สูงมาก ตอนจบที่บราซิล จึงยังเลือนรางต่อไป
    .
    .
    3.แอฟริกาใต้
    ติดเชื้อ 5.8 หมื่น
    เสียชีวิต 1,284
    จำนวนเทสต์ 17 ต่อ 1,000 ประชากร
    .
    .
    ปัญหาสำคัญของแอฟริกาใต้ก็คือกราฟตัวเลขผู้ป่วยนั้น “ชัน” จนน่ากลัว โดยตัวเลขผู้ป่วยนั้น เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้ากว่า 105% สูงกว่าทั้งบราซิล ทั้งอินเดีย
    .
    แต่ในช่วงเวลาที่ผู้ป่วยสูงลิ่ว และกำลังเข้าสู่ “ฤดูหนาว” ที่ว่ากันว่า “อันตราย” ที่สุดสำหรับโรคนี้ รัฐบาลแอฟริกาใต้ กลับเลือกที่จะผ่อนปรนล็อคดาวน์ เพื่อเรียกคืนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แบบเดียวกับประเทศที่ลดความชันกราฟได้สำเร็จ
    .
    นอกจากนี้ สิ่งที่น่ากังวลก็คือ แอฟริกาใต้ มี “ชุมชนแออัด” และมีความเหลื่อมล้ำสูง รายงานล่าสุดก็คือ เริ่มมีการระบาดมากขึ้นในชุมชนแออัด ซึ่งหากไม่ระมัดระวัง และยังปล่อยให้ใช้ชีวิตปกติมากเท่าไหร่ ก็มีโอกาสสูงที่ประเทศนี้จะ “ระเบิด” เข้าสักวัน
    .
    .
    4.อิหร่าน
    ติดเชื้อ 1.7 แสน
    เสียชีวิต 8,281
    จำนวนเทสต์ 12 ต่อ 1,000 ประชากร
    .
    .
    หากจำกันได้ อิหร่าน ถือเป็นประเทศแรกๆ ของโลก ที่มีการระบาดอย่างหนัก ช่วงเวลาใกล้เคียงกับอิตาลี และเกาหลีใต้ รวมถึงเป็นแหล่งกระจายเชื้อไวรัสไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง
    .
    ในขณะที่ประเทศอื่น สามารถลดความชันกราฟได้สำเร็จ ตัวเลขล่าสุด ผู้ป่วยของอิหร่านยังคงเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าอย่างต่อเนื่องมากกว่า 28%
    .
    ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่อิหร่าน ได้เผชิญหน้ากับ Second Wave แล้ว หลังมีการระบาดมากขึ้นในเมือง “คูร์เซสถาน” เพิ่มเติมจากศูนย์กลางเดิมอย่างเตหะราน และเมืองกอม
    .
    ปัญหาของคูร์เซสถานก็คือ เมืองนี้มีระบบสาธารณสุขที่ค่อนข้างเปราะบาง และชาวเมืองมีความ “ไม่ไว้ใจ” รัฐบาลสูง ทำให้ไม่เชื่อมั่นคำแนะนำ หรือมาตรการจากรัฐ ซึ่งอาจทำให้การตรวจโรค การควบคุม – กักกันโรค เป็นไปอย่างยากลำบาก จนทำให้การระบาดในประเทศอาหรับนี้ ยังไม่จบลงง่ายๆ
    .
    .
    5.เม็กซิโก
    ติดเชื้อ 1.82 แสน
    เสียชีวิต 8,659
    จำนวนเทสต์ 2.2 ต่อ 1,000 ประชากร
    .
    .
    ในขณะที่ทั่วโลกเริ่มมีการระบาดของโรคนี้ แต่รัฐบาลเม็กซิโกกลับ “ขยับตัว” ได้ช้า กลางเดือน มี.ค. เวลาเดียวกับที่มีการระบาดไปทั่วในประเทศข้างเคียงอย่างสหรัฐอเมริกา ในเม็กซิโก ยังคงมีการแข่งขันฟุตบอล และยังอนุญาตให้จัดคอนเสิร์ต ว่ากันว่าในเวลานั้น เริ่มมีการระบาดในเม็กซิโกแล้ว แต่เพราะ “ตรวจน้อย” จึง “เจอน้อย”
    .
    เมื่อเจอช้า ปัญหาของประเทศนี้จึงดูไม่จืด และยิ่งมีปัญหาความยากจน – ความเหลื่อมล้ำ และอาชญากรรมจากแก๊งค้ายาเสพติดพ่วงเข้าไปด้วย จึงทำให้การ “ล็อคดาวน์” ไม่มีผลอะไร ในที่สุด รัฐบาลต้องผ่อนปรนล็อคดาวน์มากขึ้น ในช่วง
    .
    ปลายเดือน พ.ค. ท่ามกลางตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ ซึ่งยังคงไต่ระดับขึ้น โดยล่าสุดเพิ่มจากสัปดาห์ก่อนหน้าถึง 44% ซ้ำยังมีปัญหาเรื่อง “ความโปร่งใส” เนื่องจากหลายคน เชื่อว่าตัวเลขดังกล่าว ไม่ใช่ตัวเลขจริง และน่าจะมีผู้เสียชีวิตอีกมาก
    .
    เพราะในชนบทของเม็กซิโกนั้น ไม่มีทั้งเครื่องช่วยหายใจ ไม่มีทั้งเตียงไอซียูที่เพียงพอ แต่การเสียชีวิตนอกโรงพยาบาลนั้น ไม่ได้ถูกนับรวมจากตัวเลขทางการ ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิต ต่ำกว่าความเป็นจริง
    .
    .
    6.รัสเซีย
    ติดเชื้อ 4.67 แสน
    เสียชีวิต 6,715
    จำนวนเทสต์ 97 ต่อ 1,000 ประชากร
    .
    .
    แม้จะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อที่สูงลิ่ว แต่จำนวนผู้เสียชีวิตที่รัสเซียนั้นต่ำมาก จนหลายคนสงสัยว่าเป็นตัวเลขริงหรือไม่ รายงานจากนิวยอร์กไทมส์ล่าสุด พบว่ามีความ “ผิดปกติ” โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากสาเหตุ “อื่นๆ” นอกเหนือจากโควิด – 19 เฉพาะในมอสโคว์ เมืองหลวงของรัสเซียนั้น สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกัน 5 ปีก่อนหน้า ถึง 1,700 ราย ซึ่งเป็นไปได้ว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นโยนสาเหตุการเสียชีวิตให้เป็นสาเหตุอื่น เพื่อกดให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตรวมต่ำลง และในเมืองอื่นทั่วรัสเซีย ก็น่าจะเป็นไปในแบบเดียวกัน
    .
    ผู้ติดเชื้อรายใหม่ของรัสเซียนั้นลดลง 9% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ก็มี “สตอรี” คล้ายกับสหรัฐอเมริกา คือตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ ยังสูงถึง 9,000 ราย
    .
    .
    7.สหรัฐอเมริกา
    ติดเชื้อ 2 ล้าน
    เสียชีวิต 1.16 แสน
    จำนวนเทสต์ 69 ต่อ 1,000 ประชากร
    .
    .
    สัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ มีการชุมนุม Black Lives Matter เกิดขึ้นทั่วประเทศ ทำให้ความสนใจเรื่องการระบาดของโรคโควิด – 19 จางหายไปจากหน้าสื่อ แต่กระนั้นเอง ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวัน และผู้เสียชีวิต ก็ยังคงสูงลิ่วอยู่ดี
    .
    ตัวเลขวันอาทิตย์ที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา อเมริกา ยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 1.8 หมื่นคน แม้จะลดจากสัปดาห์ก่อนหน้ากว่า 5% แต่ก็ยังไว้ใจไม่ได้
    .
    เพราะการชุมนุมที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ และการผ่อนปรนล็อคดาวน์ให้กิจการหลายอย่างกลับมาเปิดเป็นปกติ ก็อาจทำให้ผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นได้ใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า
    .
    ในเวลาเดียวกัน แม้ตัวเลขระดับชาติจะลดลง แต่ในรัฐอย่างเท็กซัส และนอร์ธแคโรไลนา กลับมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้น Hot Spot ใหม่ๆ ยังคงเกิดขึ้นประปรายในรัฐทางใต้ และรัฐมิดเวสต์ ซึ่งการเปิดประเทศให้เดินทางเสรี อาจทำให้ยังคงเกิดการระบาดต่อเนื่องไปไม่รู้จบ
    .
    นั่นทำให้ประเทศที่ “มั่งคั่ง” ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่างอเมริกา ยังไม่สามารถเจรจาเปิดประเทศ คิดแผนทำ Travel Bubble ได้แบบประเทศอื่นๆ ในยุโรป หรือในเอเชีย และจากอัตราการติดเชื้อที่ยังสูงลิ่วขนาดนี้ อาจทำให้อเมริกาต้องใช้เวลานานถึง 2-3 เดือน กว่าจะติดเชื้อลดลงเหลือหลักร้อยแบบในยุโรป

    #COVID19 #โควิด19

    อ้างอิงจาก

    https://www.cnbc.com/2020/06/08/who...tion-as-mass-gatherings-resume-worldwide.html

    https://www.vox.com/2020/6/8/21284315/coronavirus-cases-update-us-india-brazil-south-africa

    https://www.financialexpress.com/li...shtra-mumbai-delhi-corona-cases-news/1983747/

    https://www.nytimes.com/2020/05/11/world/europe/coronavirus-deaths-moscow.html

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินเดียรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายวันในวันศุกร์(12มิ.ย.) สูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดและก้าวขึ้นมาเป็นชาติที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก เพิ่มความเป็นไปได้ที่ต้องหวนคืนสู่มาตรการล็อกดาวน์ ทั้งที่เพิ่งยกเลิกไปไม่กี่วัน

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000061165
    ………………………………
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หักเปอร์เซ็นต์บริษัทยาเข้า รพ.
    ความบิดเบี้ยวระบบสาธารณสุข
    ที่ “ซุก” อยู่ใต้เตียง
    .
    .
    ดูเหมือนเกมใหม่ของ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ คือการ “ลาก” โรงพยาบาลทั่วประเทศ ให้ตกอยู่ที่นั่งเดียวกับ นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล โรงพยาบาลขอนแก่น ในเรื่องการ “หักเงิน” “เรียกเงิน” หรือ “ดึงเงิน” จากบริษัทยา 5% เพื่อเข้าไปอยู่ในกองทุนสวัสดิการข้าราชการ – พนักงานโรงพยาบาล
    .
    ข้อมูลล่าสุดจากที่ นพ.สุขุม เชิญ “นักวิชาการอิสระ” มาชี้แจง พบว่าทั่วประเทศ มีการเรียกเงินลักษณะนี้ มากถึง 186 โรงพยาบาล และใช้จ่ายกันอย่างต่อเนื่อง แต่ “กระทรวงสาธารณสุข” ที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาล กลับ “ไม่มีข้อมูล” พวกนี้เลย
    .
    ที่สำคัญก็คือ หากนับกันจริงๆ น่าจะมีเกิน 186 โรงพยาบาล และจำนวนเงินก็น่าจะมากกว่านี้มาก เสียงลือเสียงเล่าอ้างก็คือ หลายครั้งไม่ได้จ่ายให้โรงพยาบาลเพียงอย่างเดียว แต่จ่ายให้หมอ จ่ายให้ผู้บริหารโรงพยาบาลในนามส่วนตัว จ่ายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ไปจนถึงจ่ายให้คณะแพทยศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยในรูปของ “เงินบริจาค” เพื่อใช้ในกิจกรรมต่างๆ
    .
    เรื่องพวกนี้ “บริษัทยา” ก็ไม่อยากพูดมากให้เจ็บคอ เพราะระบบอุปถัมภ์ไทยๆ ต่างก็ต้องเป็นไปในรูปแบบ “น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า” ถ้าไม่จ่าย ก็ขายของไม่ได้ ส่วนโรงพยาบาลก็ยินดีอ้าแขนรับ เพราะถือว่าเป็น “ธรรมเนียม” อยู่แล้ว ที่จะต้องมีเงินบริจาคเล็กน้อย จากการจัดซื้อแต่ละที
    .
    แต่หากถามว่า นี่เป็นเรื่อง “ผิดระเบียบ” หรือไม่ ก็ต้องตอบเหมือนปลัดสุขุมว่าผิด เพราะทั้งกฎหมาย ทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน “ไม่อนุญาต” ให้โรงพยาบาล รับเงิน “นอกบัญชี” ในลักษณะนี้ และการจัดซื้อยา ก็ควรจะเป็นไปตามระเบียบราชการ ไม่ใช่มีการหักค่าคอมมิชชัน หักส่วนลด หรือหักค่าการตลาด
    .
    เมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งทำหน้าที่จัดซื้อยาราคาแพง – ยาจำเป็น ทั่วประเทศ จากองค์การเภสัชกรรม และได้รับเงินส่วนลด 5% จากองค์การเภสัชฯในการจัดซื้อ เพื่อใช้เป็นกองทุนสวัสดิการ แบบเดียวกับที่โรงพยาบาลได้ ก็เคยถูกทักท้วงจากทั้งฝ่ายตรงข้าม จากทั้ง สตง. และกระทรวงยุติธรรมว่า “ไม่มีอำนาจ” รับเงินส่วนนี้ จนต้องตัดเงินดังกล่าวทิ้งไป และเป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้การจัดซื้อยารวม – การต่อรองราคายา ซึ่ง สปสช.เคยทำหน้าที่ กลายเป็นอำนาจของ “โรงพยาบาลราชวิถี” แทน เพื่อลดปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย
    .
    แต่เรื่องการตรวจสอบแบบนี้ กลับไม่เคยเกิดขึ้นในโรงพยาบาลทั่วประเทศ ย้อนหลังกลับไปหลายสิบปี ยังคงมีการหักเปอร์เซ็นต์จากบริษัทยาอย่างน้อย 5% ถ้าบริษัทยาใหญ่มาก ซื้อมาก และเงินเหลือมากก็เกินกว่านั้น
    .
    หากดีหน่อย ก็มีใบเสร็จชัดเจน ฝ่ายการเงินลงรับว่านำไปใช้จ่ายช่วยเหลือพนักงาน ปรับปรุงอาคาร สร้างลานจอดรถ หรือเอาไปช่วยผู้ป่วย นอกเหนือจากที่สามารถเบิก “เงินหลวง” จากงบบัตรทอง จากงบกระทรวงสาธารณสุขได้ แบบเดียวกับที่ นพ.มงคล ณ สงขลา อดีต รมว.สาธารณสุข ไลฟ์สดเล่าถึงความจำเป็น และ “ความยากลำบาก” และความจำเป็นในการหาเงิน “อื่นๆ” เพิ่มจากเงินหลวงไปเมื่อวันก่อน
    .
    ข้อกล่าวหา ที่ นพ.ชาญชัย บอกว่า “ฉ้อราษฎร์บังหลวง” นั้น ก็มาจากเรื่องนี้ คือการรับเงินจากบริษัทยา เพื่อนำไปเข้ากองทุนสวัสดิการ ซึ่ง Gossipสาสุข เล่าไปแล้วว่าเรื่องนี้ เป็น “เรื่องขี้หมา” และใครก็ทำกัน
    .
    อย่างไรก็ตาม ในด้านที่เป็น “แดนสนธยา” นั้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า มีการโอนเงินเข้าบัญชีผู้บริหาร เข้าญาติพี่น้องของผู้ที่เกี่ยวข้อง หลายครั้งรับกันเป็นซอง ไม่ต้องลงบัญชี ไม่ต่างอะไรกับการ “คอร์รัปชัน” เรียกเงินทอน เรียกเปอร์เซ็นต์ จากการจัดซื้อ-จัดจ้าง ในระบบราชการอื่นๆ ที่กัดกินประเทศไทยมายาวนาน และในวงการหมอ แม้จะไม่ได้เน่าเหม็น ลงรากลึกไปทุกระดับแบบหน่วยงานอื่น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีอยู่
    .
    มาถึงเวลานี้ สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ มีการรับเงินจากบริษัทยาจริงอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าสิ่งที่ปลัดกระทรวงจะหาคำตอบนั้น คำตอบสุดท้ายจะออกมาแบบไหน
    .
    ทั้งหมดนี้ น่าหาคำตอบว่าทั้งปลัด รองปลัด และผู้ตรวจราชการ ซึ่งล้วนผ่านระบบนี้มา อาจจะเคยมีเอี่ยว หรืออาจจะมีประสบการณ์หลับตาข้างหนึ่ง มองไม่เห็นการจ่ายไปจ่ายมานั้น “กล้า” จริงหรือไม่ ที่จะสาวไปถึงคนที่หาประโยชน์จากเงินบริษัทยา
    .
    หรือในที่สุด จะยอมรับเพียงว่า มีการจ่ายจริง รับจริง แต่เงินที่ใช้นำไปเพื่อ “ประโยชน์” ของโรงพยาบาล และสวัสดิการพนักงานเท่านั้น ไม่มีหลุดรั่วเลยแม้แต่บาทเดียว
    .
    เรื่องพวกนี้ คนกระทรวงสาธารณสุขรู้ดี แต่อยู่ในสถานะ “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก” เพราะถ้ายอมบอกว่าการรับเงินเปอร์เซ็นต์ ที่บริษัทยาเสนอให้ เป็นเรื่อง “ผิดกฎหมาย” นั้น สถานะทางการเงินของหลายโรงพยาบาลอาจสั่นคลอน โดยเฉพาะโรงพยาบาลจังหวัดใหญ่ๆ อาจไม่มีเงินไปพัฒนาโรงพยาบาลเพิ่ม หลายโรงพยาบาลอาจ “ติดลบ” ด้วยซ้ำ
    .
    หากทั้งหมดนี้ นำไปสู่การปรับระเบียบ เพื่อให้รับเงิน ลงไปใช้ในสวัสดิการเจ้าหน้าที่ ใช้เพื่อประโยชน์โรงพยาบาลอย่างแท้จริง นพ.สุขุม ก็จะได้รับการชื่นชม
    .
    แต่หากเป็นไปในทางตรงกันข้าม นำเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อ “แก้เกี้ยว” ลดเสียงบริภาษจากบุคลากร จากผู้หลักผู้ใหญ่ของกระทรวงในอดีต และไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใดๆ เลยนั้น
    .
    รับรองว่า ปลัดฯ อาจเกษียณอายุราชการไปแบบ “อยู่ไม่สุข” แน่ๆ

    #กระทรวงสาธารณสุข #หักเปอร์เซ็นต์บริษัทยา

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ถ้าไม่เหลืออะไร “ฉุกเฉิน”
    ก็ถึงเวลายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้แล้ว
    .
    .
    นับเป็นเวลานานเกือบ 3 สัปดาห์ที่ไทยปลอดผู้ติดเชื้อโควิด – 19 ในประเทศ มีเพียงแต่เคส “นำเข้า” จากต่างประเทศ ซึ่งแน่นอน ไม่มีโอกาสแพร่เชื้อต่อ คงเหลือผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาลเพียง 82 ราย
    .
    ศูนย์โควิดฯ ลดการแถลงข่าวลง หยุดแถลงข่าววันเสาร์ – อาทิตย์ รมว.สาธารณสุข เริ่มกลับมาเดินหน้าเรื่องกัญชาต่อ กระทรวงสาธารณสุขเริ่มกลับมา “ทะเลาะ” กันเหมือนเดิม และพรรครัฐบาลเตรียมขยับปรับคณะรัฐมนตรี
    .
    หากตัวเลข หากสถานการณ์เป็นไปตามนี้ ก็เชื่อว่าประเทศไทย เข้าสู่สภาวะ “สงบ” อยู่ในระยะฟื้นฟูเศรษฐกิจที่กระทบหนักตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นภาคท่องเที่ยว ภาคบริการ และกระตุ้นการใช้จ่ายเพื่อดึงกราฟตัวเลข ไม่ให้ดิ่งไปมากกว่านี้
    .
    แต่อยู่ดีๆ กลับมีสัญญาณจากวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการต่อการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 จากเดิมซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย. ออกไปอีกระยะ
    .
    ด้วยเหตุที่ว่า พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 นั้น ไม่ได้ให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐฝ่าย “ทหาร” และ “พลเรือน” ในการบูรณาการ ทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะสถานที่ควบคุมกักกันโรค ที่รับผู้ที่มาจากต่างประเทศ หรือ State Quarantine ในค่ายทหารนั้น
    .
    หากใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ ซึ่ง รมว.สาธารณสุขเป็นประธานนั้น และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจเต็มในพื้นที่ของตัวเองนั้น ต้องสั่งงานกัน “หลายทอด” ต่างจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่มี “อำนาจพิเศษ” สั่งการจากรัฐส่วนกลางลงไปได้เต็มที่
    .
    ขณะเดียวกัน รองฯวิษณุ ก็ยังให้เหตุผลว่ายังมีความ “หวาดระแวง” เรื่องการระบาดรอบ 2 หลังจากโรงเรียนเปิดวันที่ 1 ก.ค. แล้ว อาจเกิดการระบาดแบบ Second Wave แล้วจะไม่มีอำนาจพิเศษอะไรควบคุม
    .
    สะท้อนชัดว่า “ผี” เรื่องการระบาด Second Wave ยังคงปกคลุม “ผู้มีอำนาจ” ในรัฐบาล ทั้งที่อันที่จริง โรคโควิด – 19 ทั่วโลกขณะนี้ ยังไม่มีสิ่งที่เรียกว่า Second Wave ที่กราฟพุ่งโด่งขึ้น หลังจากรอบแรกสงบไปแล้วอยู่จริง
    .
    ในญี่ปุ่น การระบาดที่เกิดขึ้นรอบหลังนั้น เป็นผลพวงจากการ “ตรวจน้อย” ในรอบแรก ในสิงคโปร์ ก็เป็นเรื่องการละเลยแคมป์คนงานชาวต่างชาติ และในเกาหลี ที่พยายามตีปีกกันว่าเกิดการระบาดหนักจากผับย่านอีแทวอน หรือจากโกดังขนส่งสินค้านั้น ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างมาก การติดตามเส้นทางการระบาด และการควบคุมกักกันโรค จากประสบการณ์การระบาดรอบแรก ยังคงได้ผลเป็นอย่างดี
    .
    ที่สำคัญก็คือ ประเทศที่ผู้ติดเชื้ออยู่หลักสิบ – หลักร้อย ทั่วโลกนั้น แทบจะไม่มีประเทศไหนประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้อำนาจพิเศษอีกต่อไป เพราะในทางเศรษฐกิจนั้น การยังคงมี “อำนาจพิเศษ” ครอบประเทศไว้นั้น ย่อมไม่เป็นผลดีต่อการค้า การลงทุน การส่งออก และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การท่องเที่ยว ที่ต้องฟื้นฟูขนานใหญ่หลังจากนี้
    .
    เพราะฉะนั้น เหตุผลเรื่อง “สถานการณ์ฉุกเฉิน” จึงแทบไม่มีน้ำหนักอะไรให้คุมสถานการณ์ต่อ ในเมื่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แทบไม่มีเรื่องอะไรฉุกเฉินเลย
    .
    สิ่งเดียวที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินให้อำนาจมาก ก็คือการประกาศ “เคอร์ฟิว” ซึ่งยังคงอยู่ที่ 5 ทุ่ม – ตี 3 ซึ่งหลายคนตั้งคำถามตรงกันว่า ในเมื่อไม่มีผู้ติดเชื้ออีกแล้ว จะยังใช้ “ยาแรง” ไปทำไม
    .
    ที่น่าสนใจก็คือ “เคอร์ฟิว” นั้น สามารถยกเลิกได้ทันที ไม่จำเป็นต้องรอประชุม ระยะ 3 ระยะ 4 เพราะในเมื่อผับ สถานบันเทิงปิด ในเมื่อร้านอาหาร ร้านข้าวต้ม ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะใช้วิธีนี้ควบคุมการเดินทาง การสัญจรของคนทั่วไป
    .
    แล้วยิ่งเมื่อยังมีการบังคับให้ทุกคนที่มาจากต่างประเทศ ต้องเข้า State Quarantine (ซึ่งมีข่าวก่อนหน้านี้ว่ามีคนเรียกรับ “หัวคิว” และเงียบไปแล้ว) ซ้ำยังมีการ “ตรวจเชื้อ” ทั้งระหว่างช่วงที่กักตัว และช่วงที่ปล่อยกลับบ้าน ก็ยิ่ง “ปลอดภัย” เข้าไปใหญ่ เพราะนั้นหมายความว่า จะไม่มีการแพร่เชื้อจากต่างประเทศ เข้ามาในคนไทยอย่างแน่นอน หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ “ระบบ” นั้นคงที่แล้ว
    .
    ว่ากันตามตรง ทั้ง State Quarantine ทั้งการสั่งกันพื้นที่ การงดให้เที่ยวบินจากบางประเทศที่มีการระบาดหนักเข้าไทย การสั่งปิดสถานที่ที่มี “ความเสี่ยง” สูง หรือการให้อำนาจเจ้าพนักงานนั้น พ.ร.บ.โรคติดต่อ นั้น สามารถจัดการได้ทั้งหมด แม้แต่จะใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ไม่อนุญาตให้ชุมนุม รวมกลุ่ม หรือ “จัดม็อบ” นั้น ด้วยเหตุผลเรื่องโคโรนาไวรัส ก็สามารถทำได้
    .
    แต่สิ่งที่ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ต่างจากโควิดก็คือ ผู้ใช้อำนาจคือ รมว.สาธารณสุข ซึ่งมาจากพรรคร่วมรัฐบาล และผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่ใช่นายกฯ
    .
    ขณะเดียวกัน การจัด “องคาพยพ” ที่ผ่านมาหลายชุด โดยเฉพาะในชุดที่มี “ทหาร” เป็นประธาน และมีสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งมีเลขาธิการเป็นทหารเช่นเดียวกัน ก็จะต้องสลายตัวไปด้วย เพราะการตั้ง อาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
    .
    และที่สำคัญ ใน พ.ร.บ.โรคติดต่อ ประชาชนมีสิทธิ์ “เอาผิด” เจ้าหน้าที่ได้ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ไม่ได้ให้อำนาจ “กว้าง” ไปถึงการ “คุมสื่อ”
    .
    ด้วยเหตุนี้ ในมุมมองด้านความมั่นคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงยังคง “จำเป็น” อย่างยิ่ง ในช่วงเวลาแบบนี้ เพราะยิ่งมีไว้ ก็ยิ่งรู้สึกอุ่นใจ
    .
    ส่วนผี “โควิด” นั้น น่าจะยังคงอยู่ต่อไปเรื่อยๆ เพราะโดยธรรมชาติ การมีศัตรูตัวฉกาจนั้น ไม่ว่ารัฐจะง่อนแง่นได้แค่ไหน รัฐก็มี “ความชอบธรรม” ที่จะใช้ “ยาแรง” ได้เต็มที่

    #COVID19 #โควิด19

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นอร์เวย์จะอนุญาตให้นักเดินทางจากฟินแลนด์, ไอซ์แลนด์และเกาะกอตแลนด์ เดินทางเข้าออกประเทศนับตั้งแต่วันจันทร์(15มิ.ย.)เป็นต้นไป แต่ยังคงข้อจำกัดด้านการเดินทางต่อสวีเดน สืบเนื่องจากมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธฺุ์ใหม่(โควิด-19) ในระดับสูง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดระลอกสอง

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000061170
    ………………………………
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โจชัว หว่อง หนึ่งในนักเคลื่อนไหวเพื่อปลดปล่อยฮ่องกงจากการเป็นส่วนหนึ่งของจีน โวยวาย เลบรอน เจมส์ ซูเปอร์ตาร์นักบาสเก็ตบอลเอ็นบีเอ ว่าเป็นพวกเสแสร้งไม่จริงใจ ต่อกรณีออกมาสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านเหยียดผิว แต่ที่ผ่านมาเคยแสดงความเคลือบแคลงสงสัยในเหตุผลการประท้วงของพวกผู้ชุมนุมฝักใฝ่ประชาธิปไตยฮ่องกง

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000061156
    ………………………………
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ในบราซิล แซงหน้า สหราชอาณาจักร สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลกแล้วในวันศุกร์(12มิ.ย.) หลังตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 41,828 คน แต่องค์การอนามัยโลกยังเชื่อระบบสาธารณสุขของประเทศแห่งนี้ยังทานแรงกดดันไหว

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000061183
    ………………………………
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เศรษฐกิจถดถอย!!!

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เที่ยวสวนสัตว์วิถีใหม่ 6 แห่ง ทั่วประเทศฟรี ระหว่าง 15-30 มิ.ย.นี้ โดยจะจำกัดจำนวนผู้เข้าชมสวนสัตว์ วันละไม่เกิน 2,000 คน แบ่งเป็นช่วงเช้า 08.00 -12.00 น. ช่วงบ่าย 12.00 -17.00 น. และต้องจองการเข้าชม ล่วงหน้า ผ่านทางโทรศัพท์ หรือ แอพพลิเคชั่น ของสวนสัตว์

    อ่านต่อ >https://news1live.com/detail/9630000061031
    ............................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปธ.คปอธ. ยกพลนำคณะประชิดหน้าทำเนียบ ยื่นจม. "ประยุทธ์" ทบทวนย้ายผอ.รพ.ศูนย์ขอนแก่น ให้ความเป็นธรรม "อนุทิน" ยันไม่สนิทกับใคร ระบบราชการไม่ใช่บริษัทส่วนตัว

    อ่านต่อ >https://news1live.com/detail/9630000061080
    ............................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กองปราบโต้ลูก"ทนาย บัญชา"ยันทำคดีฮุบที่ดินมูลนิธิฯ 3.8 พันไร่เพื่อส่วนรวม เนื่องจากได้มาจากเงินบริจาคของปชช.- ด้านองค์กรพุทธฯ มอบกระเช้าดอกไม้ขอบคุณ

    อ่านต่อ >https://news1live.com/detail/9630000061091
    ............................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทางการอังกฤษ เริ่มลงมือรื้อถอน อนุสาวรีย์ - รูปปั้น ที่เป็นสัญลักษณ์ของการเหยียดผิว เพื่อเก็บเข้าพิพิธภัณฑ์ หลังกระแสเรียกร้องให้เกิดเปลี่ยนแปลง แบบถอนรากถอนโคน ได้ลุกลาม ไปทั่วสหรัฐ และข้ามฝั่งอย่างรวดเร็ว ไปยังหลายประเทศในยุโรป จนทำให้เกิดภาพทุบทำลายอนุสาวรีย์ และสถานที่สำคัญหลายแห่ง ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การบังคับสวมหน้ากากป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ในหลายๆพื้นที่ซึ่งเป็นศูนย์กลางของโรคระบาดใหญ่ อาจช่วยป้องกันประชาชนจากการติดเชื้อได้หลายหมื่นคน จากข้อบ่งชี้ของผลการวิจัยใหม่ที่เผยแพร่เมื่อวานนี้(12มิ.ย.)

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000061181
    ………………………………
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวอินเดียตะลึง น้ำในทะเลสาบโลนาร์ อายุ 5 หมื่นปี แปรเปลี่ยนเป็นสีชมพูอย่างปัจจุบันทันด่วน ขณะที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญยังไม่รู้สาเหตุแท้จริง ทำไมน้ำในทะเลสาบเปลี่ยนสี

    เมื่อ 12 มิ.ย.63 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานชาวอินเดียตกตะลึงและสงสัยไปตามๆ กัน เมื่อจู่ๆ สีของน้ำในทะเลสาบโลนาร์ ซึ่งเป็นทะเลสาบหลุมอุกกาบาตอายุราว 50,000 ปี ที่รัฐมหาราษฎระ ได้เปลี่ยนเป็นสีชมพูในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้น้ำในทะเลสาบโลนาร์ เปลี่ยนสีอย่างปัจจุบันทันด่วนเช่นนี้ ดูเหมือนมาจากระดับความเค็มในน้ำที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากระดับน้ำในทะเลสาบลดลง ประกอบกับน้ำมีอุณหภูมิที่อุ่นขึ้น ขณะเดียวกันก็อาจมาจากสาหร่ายในทะเลสาบ ทำให้น้ำเปลี่ยนสี

    นายกาจานัน คารัต นักภูมิศาสตร์ในพื้นที่ ได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในทวิตเตอร์ของการท่องเที่ยวรัฐมหาราษฎระ พร้อมกับระบุว่าเคยเกิดเหตุการณ์น้ำในทะเลสาบโลนาร์เปลี่ยนสีมาก่อน แต่จะเกิดขึ้นแบบไม่ถาวร เพียงแต่ปีนี้ สีของน้ำค่อนข้างเป็นสีแดง เนื่องจากความเค็มของน้ำในทะเลสาบโลนาร์มากขึ้น ขณะที่ปริมาณน้ำลดน้อยลง จนทำให้ทะเลสาบตื้นมากขึ้น

    ทะเลสาบโลนาร์ ขณะที่น้ำในทะเลสาบยังมีสีปกติ
    นายคารัต ยังเปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ บรรดานักวิจัยกำลังตรวจสอบถึงสาเหตุที่ทำให้น้ำในทะเลสาบโลนาร์เปลี่ยนสีว่ามาจากสาหร่ายแดงหรือไม่ โดยได้ส่งตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบที่ห้องแล็บหลายแห่งแล้ว

    ทั้งนี้ ทะเลสาบโลนาร์ อยู่ห่างจากเมืองมุมไบ เมืองเศรษฐกิจสำคัญที่สุดของประเทศอินเดียไปทางตะวันออกราว 500 กิโลเมตร เป็นทะเลสาบจากหลุมอุกกาบาตที่พุ่งชน เมื่อประมาณ 50,000 ปีก่อน ต่อมาได้กลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่มีทัศนียภาพธรรมชาติสวยงามล้อมรอบจนทำให้กลายเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมและยังทำให้นักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกเดินทางมาศึกษา

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บราซิล-จีน จับมือทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 กับอาสาสมัครในบราซิล 9 พันคน
    บริษัทเวชภัณฑ์จีนเตรียมทดลองวัคซีนโควิด-19 ในอาสาสมัครบราซิล 9,000 ราย คาดพร้อมใช้จริงกลางปีหน้า
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คำสั่งด่วน! รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี ภายใน60วัน

    ความคืบหน้า กรณีชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่อ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี นำเรือมากกว่า50ลำมาปิดบริเวณปากอ่าวบ้านดอน เพื่อทวงถามความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทที่เกิดขึ้น จนทำให้จนท.ทีมศรชล.ต้องเข้าเจรจานานกว่า6ชั่วโมงก็ได้ข้อยุติขอเวลา2เดือนในการแก้ไขปัญหาทำให้ชาวประมงพอใจและยอมสลายตัว

    ล่าสุด ได้มีประกาศจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรื่อง ให้หรือถอนสิ่งปลูกสร้างอาคาร (ขนำเป้าหอยและโฮมสเตย์) หรือสิ่งใดๆที่ได้ก่อสร้างหรือติดตั้งในที่จับสัตว์น้ำบริเวณอ่าวบ้านดอนจังหวัดสุราษฎร์ธานี

    โดยอาศัยมาตรา 103 แห่งพระราชกำหนดประมง 2558 และแก้ไขเพิ่มเติมที่ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้ผู้สร้างหรือติดตั้งรื้อถอนสิ่งนั้นออกจากที่จับสัตว์น้ำในระยะเวลาที่กำหนด 60วัน นับจากวันที่ออกประกาศลงวันที่ 12 มิถุนายน 2563 ลงนามโดยนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี

    The post คำสั่งด่วน! รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี ภายใน60วัน appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    June 12, 2020 สัญญาณชัดเจนจากไอเอ็มเอฟ ตัวเลขเศรษฐกิจทั่วโลกปีนี้ยังย่ำแย่ลงได้อีก เตือนความตึงเครียดสหรัฐ-จีน มีผลต่อการฟื้นตัว หลังโควิด-19 ผ่อนคลาย

    นางสาว กิต้า โกปินาธ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ ไอเอ็มเอฟจะเปิดเผยมุมมองภาวะการขยายตัวเศรษฐกิจโลกปี 2020 ซึ่งมีความเป็นไปไม่ได้อย่างมากที่จะปรับลดตัวเลขเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจแต่ละประเทศลดต่ำลงจากประมาณการเดิมที่ย่ำแย่อยู่แล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา สาเหตุจากเศรษฐกิจโลกต้องเผชิญกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากภาวะโรคระบาดโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวที่ยากลำบากในอนาคต

    กิต้า โกปินาธ กล่าวว่า ไม่เพียงแต่ปัจจัยโรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้การประเมินภาวะเศรษฐกิจโลกต้องตกต่ำลงอีก แต่ยังมีปัจจัยด้านความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ จีน และฮ่องกง ซึ่งอาจมีน้ำหนักต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ถึงแม้ว่าวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 จะผ่อนคลายลงไป

    หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า หลากหลายปัจจัยที่มีผลต่อการปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ ได้แก่ วิกฤตสุขภาพที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ซึ่งกลายเป็นปัญหาที่หยั่งลึก การจัดสรรแรงงาน การใช้จ่ายของผู้บริโภค และภาวะล้มละลาย

    ทั้งนี้ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้น รายงานมุมมองภาวะการขยายตัวเศรษฐกิจโลกปี 2020 ได้ประเมินภาวะเศรษฐกิจตกต่ำบนสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 เช่น ในกรณีพื้นฐาน อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกปี 2020 จะทรุดลง -3% ในขณะที่การระบาดของโรคโควิด-19 จะเกิดขึ้นต่อเนื่องทั้งปีนี้ ทำให้ระยะเวลาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจะเกิดในปี 2022

    #ไอเอ็มเอฟ #เศรษฐกิจโลก #โควิด19 #misterban #covid19 #imf

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    June 13, 2020 นักลงทุนย้อนกลับซื้อปิดส่งท้ายสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ฟื้นพุ่งปิดกว่า 470 จุด ราคาน้ำมันดิบเงียบเหงา ส่งราคาไนเม็กซ์ปิดใกล้ 37 ดอลลาร์ ราคาทองคำตลาดโลกยังปิดเหนือกว่า 1,740 ดอลลาร์

    เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 25,605 จุด +477 จุด หรือ +1.90% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,041 จุด +39 จุด หรือ +1.31% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 9,588 จุด +96 จุด หรือ +1.01% สาเหตุจากนักลงทุนหวนกลับเข้าเก็บหุ้นที่มีราคาทรุดต่ำอย่างมากจากการซื้อขายในวันพฤหัสบดี ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่กลับมาระบาดพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือได้ว่าเป็นการระบาดรอบที่ 2 ตามที่หลายฝ่ายเตือนไว้ก่อนหน้านี้

    ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 36.26 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.08 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 38.73 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.18 ดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่ 2 ในสหรัฐอเมริกามีความชัดเจน และพุ่งสูงขึ้นในหลายรัฐทั่วสหรัฐ ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการใช้น้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆในอนาคต

    ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,742.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +3 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.1% สาเหตุจากความกังวลในโรคระบาดโควิด-19 รอบที่ 2 ที่กลับมาระบาดพุ่งมากขึ้น ทำให้มีการลงทุนในทองคำต่อเนื่องเพื่อดความเสี่ยงจากภาวะผันผวนอย่างรุนแรงในตลาดทุนอื่นๆ

    #ลงทุน #สตาร์ทอัพ #การเงิน #หุ้น #ทองคำ #น้ำมัน #ตลาดหุ้น #เล่นทอง #ราคาทอง #ดิจิทัล #markets #business #stock #gold #oil #investment #misterban #เศรษฐกิจ #เล่นหุ้น #btimes

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    June 13, 2020 มิตซูบิชิปลดพนักงานมากกว่า 1,000 คน ปิดสำนักงานในต่างประเทศกับธุรกิจผลิตเครื่องบินครั้งแรกของญี่ปุ่น

    มิตซูบิชิ แอร์คราฟท์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องบินโดยสารขนาดกลางและขนาดเล็ก เปิดเผยว่า ต้องปลดพนักงานราว 50% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด 2,000 คนในปัจจุบัน หรือมีพนักงานที่ต้องตกงานกว่า 1,000 คนขึ้นไป

    นอกจากนี้ มิตซูบิชิ แอร์คราฟท์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศปิดสำนักงานในต่างประเทศ ได้แก่ สำนักงานใหญ่ที่สหรัฐ ศูนย์พัฒนาที่ประเทศแคนาดา และสำนักงานในสหรัฐและยุโรปทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ศูนย์ทดสอบเครื่องบินและการบินที่รัฐวอชิงตันยังคงเปิดทำการ แต่ต้องปรับลดพนักงานออกเช่นกัน

    สาเหตุจากความต้องการซื้อเครื่องบินทรุดต่ำอย่างรุนแรงจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทั่วโลก นโยบายปรับโครงสร้างธุรกิจผลิตเครื่องบินของบริษัท และความล่าช้าในการพัฒนาเครื่องบินโดยสารลำแรกของมิตซูบิชิ และเป็นลำแรกของประเทศญี่ปุ่น ในด้านผลการดำเนินงาน พบว่า มีผลประกอบการขาดทุนเพิ่มขึ้น คาดว่าจะขาดทุนระหว่าง 50,000 - 70,000 ล้านเยน หรือราว 14,500 - 20,300 ล้านบาท

    ทั้งนี้ มิตซูบิชิ แอร์คราฟท์ คอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทลูกในเครือกลุ่มบริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ มีเป้าหมายที่ต้องการสร้างความสำเร็จในการเป็นผู้นำเครื่องบินขนาดกลางและเล็กของโลก ด้วยการผลิตเครื่องบินผู้โดยสารใช้ชื่อว่า มิตซูบิชิ สเปซเจ็ท

    #สเปซเจ็ท #มิตซูบิชิ #ญี่ปุ่น #ปลดพนักงาน #โควิด19 #misterban #jobcut #covid19

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รู้หมือไร่?? ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สูบบุหรี่ เสี่ยงเสียชีวิตสูงมากกว่าคนปกติที่ไม่สูบถึง 14 เท่า!! เนื่องจากการสูบบุหรี่นั้นจะเป็นการนำเชื้อเข้าสู่ปอดและระบบทางเดินหายใจโดยตรง หากเป็นไปได้ก็อยากจะให้เพลาการสูบลง ค่อยๆ ลด ละ เลิก เพื่อสุขภาพที่ดีกันนะคะ ^^
    .
    #สูบบุหรี่ #บุหรี่ #โรคปอดอักเสบ #ไวรัส #Covid19 #โควิด19 #MisterBan

     

แชร์หน้านี้

Loading...