ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กรณีศึกษา คู่แข่งน้อย ขาดทุนหนักกว่า คู่แข่งมาก /โดย ลงทุนแมน
    ถ้าถามว่าธุรกิจในตลาดแบบไหนที่แข่งขันกันรุนแรงสุด
    ในทางเศรษฐศาสตร์ คงตอบได้ว่า ตลาดแข่งขันแบบสมบูรณ์ (Competitive Market)

    แต่ถ้าถามว่าทุกวันนี้ เราเห็นธุรกิจอะไรแข่งขันกันดุเดือดที่สุด
    หลายคนคงตอบว่า ธุรกิจดิลิเวอรีอาหาร ชอปปิงออนไลน์ สายการบิน หรือแม้แต่การแย่งลูกค้าให้ย้ายค่ายโทรศัพท์รายเดือน

    ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ล้วนแต่อยู่ใน “ตลาดผู้ขายน้อยราย” (Oligopoly)

    ทำไมเรื่องนี้ขัดกับทฤษฎีในตำรา
    ลงทุนแมนจะอธิบายเรื่องนี้ให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
    มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
    Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ก่อนอื่นมาทำความรู้จักตลาดทั้งสองแบบนี้กันก่อน

    ตลาดแข่งขันโดยสมบูรณ์ (Competitive Market)
    คือตลาดที่มีลักษณะสินค้าเหมือนกันทุกประการ มีจำนวนผู้ขายและจำนวนสินค้าในปริมาณมาก
    ผู้ซื้อและผู้ขายมีการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร การเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าในตลาดได้อย่างสมบูรณ์

    หมายความว่า ถ้าผู้ขายคนไหนขายสินค้าแพงกว่าราคาตลาด
    คนก็จะไม่ซื้อของจากร้านนั้น แล้วหันไปซื้อร้านอื่นที่ขายถูกกว่าแทน
    พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ ผู้ซื้อเป็นผู้มีอำนาจกำหนดราคาสินค้า

    ในโลกแห่งความเป็นจริง ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ส่วนใหญ่จะอยู่ในตลาด สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) เช่น ตลาดผักผลไม้พันธุ์เดียวกัน เมล็ดข้าวสารพันธุ์เดียวกัน หรือแม้แต่ น้ำตาล ยางพารา น้ำมัน

    ในโลกของตลาดแข่งขันโดยสมบูรณ์ ผู้ประกอบการต่างฝ่ายต่างก็รู้ว่า จะใช้กลยุทธ์ห้ำหั่นราคา ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะทำไปก็มีแต่ทำให้ตัวเองได้กำไรน้อยลง

    ดังนั้นทางที่ทุกคนต่างเลือกใช้ก็คือลดต้นทุนการผลิตของตนเองลง เช่น การผลิตจำนวนมากๆ เพื่อให้ได้การประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) และขายสินค้าต้นทุนต่ำเหล่านั้นในราคาตลาด

    ส่วนตลาดผู้ขายน้อยราย (Oligopoly)
    คือตลาดที่มีผู้ประกอบการรายใหญ่ครองส่วนแบ่งกันเพียงไม่กี่เจ้า
    แต่ละรายจึงต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อให้ตัวเองมีส่วนแบ่งมากสุดในตลาด
    ทำให้ต่างฝ่ายต่างต้องปล่อยหมัดงัดกลยุทธ์มาต่อสู้กันตลอดเวลา
    จนถึงขั้นตัวเองยอมขาดทุนเพื่อกำจัดคู่แข่งให้หมดไป หรือเพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่ง

    ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ
    ตลาดแพลตฟอร์มชอปปิงออนไลน์ในไทย
    ที่มีผู้เล่นหลักๆ คือ Lazada และ Shopee

    ต่างฝ่ายต่างแข่งกันทุ่มงบประมาณมหาศาล
    ส่วนหนึ่งเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน
    ให้ตอบโจทย์การใช้งาน ดึงดูดให้คนมาใช้มากที่สุด

    อีกส่วนเพื่อสนับสนุนแคมเปญส่งเสริมการขาย
    เช่น คูปองส่วนลด โค้ดส่งฟรี กิจกรรมสินค้าราคาพิเศษตามวัน หรือช่วงเวลาต่างๆ

    แม้ว่าทั้ง Lazada และ Shopee จะสร้างรายได้ ได้มากขึ้นทุกปี
    แต่ต้นทุนที่ต่างฝ่ายต่างเผาแข่งกันก็เป็นเม็ดเงินจำนวนมากไม่แพ้กัน

    ความรุนแรงในการแข่งขัน สะท้อนออกมาด้วยตัวเลขขาดทุนมากขึ้นเรื่อยๆ ของทั้งคู่

    Lazada ประเทศไทย
    ปี 2017 รายได้ 1,757 ล้านบาท ขาดทุน 568 ล้านบาท
    ปี 2018 รายได้ 8,163 ล้านบาท ขาดทุน 2,645 ล้านบาท

    Shopee ประเทศไทย
    ปี 2017 รายได้ 140 ล้านบาท ขาดทุน 1,400 ล้านบาท
    ปี 2018 รายได้ 165 ล้านบาท ขาดทุน 4,100 ล้านบาท

    หรือแม้แต่ในธุรกิจที่อยู่มานานแล้วอย่างสายการบิน ก็มีการตัดราคาเพื่อแย่งลูกค้าเช่นกัน

    บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน)
    ปี 2018 รายได้ 19,740 ล้านบาท ขาดทุน 3,975 ล้านบาท
    ปี 2019 รายได้ 19,969 ล้านบาท ขาดทุน 3,095 ล้านบาท

    บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด
    ปี 2018 รายได้ 40,199 ล้านบาท กำไร 127.5 ล้านบาท
    ปี 2019 รายได้ 41,551 ล้านบาท ขาดทุน 871.5 ล้านบาท

    จะเห็นว่าบริษัทที่เป็นคู่แข่งกัน มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง
    โดยมีเป้าหมายคือเป็น “ผู้ชนะ” ที่จะได้ครองส่วนแบ่งตลาดให้มากที่สุด

    เรื่องนี้ทำให้เห็นว่า การแข่งขันกันในตลาดผู้ขายน้อยราย
    มีความเข้มข้น ดุเดือด และรุนแรงมากขึ้นทุกที
    และดูเหมือนว่าผู้เล่นในตลาดนี้จะขาดทุนหนักกว่า ผู้เล่นในตลาดแข่งขันโดยสมบูรณ์เสียอีก..
    ╔═══════════╗
    อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
    มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
    Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - ลงทุนแมน
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    Line - page.line.me/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    References
    -เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
    -งบการเงิน บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน)
    -งบการเงิน บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ถ้า กฟผ. อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ จะใหญ่แค่ไหน? /โดย ลงทุนแมน
    16 ปีที่แล้ว รัฐบาลไทยในขณะนั้นเคยมีความคิดที่จะนำการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่แล้วแนวคิดดังกล่าวก็ต้องล้มเลิกไปเนื่องจากมีผู้คัดค้าน

    แต่เราเคยคิดไหมว่าถ้าวันนั้น กฟผ. ได้เข้าไปจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์
    แล้ววันนี้ กฟผ. จะใหญ่แค่ไหน
    ลงทุนแมนจะมาจินตนาการให้ฟัง
    ╔═══════════╗
    อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
    มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
    Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    กฟผ. ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2512 ซึ่งเกิดจากการรวมกันของหน่วยงานด้านการผลิต และส่งพลังงานไฟฟ้าจำนวน 3 แห่ง คือ
    1. การไฟฟ้ายันฮี
    2. การลิกไนต์
    3. การไฟฟ้าตะวันออกเฉียงเหนือ

    โดยปัจจุบันนั้น กฟผ. เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น 100% แต่ยังคงอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพลังงานด้วยเช่นกัน

    หลายคนมักคิดว่า ธุรกิจผลิตไฟฟ้าเป็นธุรกิจผูกขาด โดยมี กฟผ. เป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่เพียงเจ้าเดียว

    แต่จากข้อมูลปัจจุบัน กำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศไทยนั้น มีจำนวนทั้งหมด 46,205 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นกำลังการผลิตที่มาจาก กฟผ. ประมาณ 35% ที่เหลือ 65% เป็นกำลังการผลิตจากแหล่งอื่น เช่น ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน รวมทั้งการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ

    แต่แม้จะมีกำลังการผลิตเพียง 1 ใน 3 ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด แต่สิ่งที่ทำให้ กฟผ. ได้เปรียบผู้ประกอบธุรกิจไฟฟ้ารายอื่นคือ การที่มีระบบสายส่งไฟฟ้าที่มีโครงข่ายครอบคลุมทั่วประเทศแต่เพียงผู้เดียว

    พูดง่ายๆ คือ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใดก็ตาม เมื่อผลิตไฟฟ้าได้และต้องการขายไฟฟ้า จำเป็นที่จะต้องใช้ระบบสายส่งไฟฟ้าของ กฟผ.

    นอกจากไฟฟ้าที่ผลิตเอง กฟผ. จะรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตรายอื่นผ่านสายส่งของตนเอง ก่อนที่จะขายไฟฟ้าไปให้แก่ กฟน. และ กฟภ. เพื่อทำการขายต่อไปให้ผู้ใช้รายย่อยอีกต่อหนึ่ง และส่วนที่เหลือก็จะเป็นการขายให้แก่ต่างประเทศ และลูกค้าที่รับซื้อจาก กฟผ. โดยตรง

    ดังนั้น เมื่อดูแบบนี้เราอาจบอกได้ว่า การผลิตไฟฟ้าในประเทศไทยนั้นไม่ใช่ลักษณะของการผูกขาด แต่เป็นระบบสายส่งไฟฟ้าที่มีลักษณะเป็นการผูกขาด

    แล้วในเมื่อธุรกิจเป็นแบบนี้ กฟผ. มีรายได้เท่าไร?

    รู้ไหมว่า ในปี พ.ศ. 2562 กฟผ. เป็น 1 ใน 3 รัฐวิสาหกิจที่นำรายได้ให้แก่กระทรวงการคลังมากที่สุด ซึ่งประกอบไปด้วย

    1. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รายได้ที่ส่งให้แก่กระทรวงการคลัง 41,916 ล้านบาท
    2. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายได้ที่ส่งให้แก่กระทรวงการคลัง 29,198 ล้านบาท
    3. กฟผ. รายได้ที่ส่งให้แก่กระทรวงการคลัง 18,924 ล้านบาท

    ปัจจุบัน กฟผ. มีสินทรัพย์ 1,003,951 ล้านบาท หนี้สิน 529,297 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้น 474,654 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสะสมสูงกว่า 435,000 ล้านบาท

    ขณะที่สัดส่วนรายได้ของ กฟผ. มาจากธุรกิจไฟฟ้า 99% และธุรกิจอื่นๆ อีก 1%

    พ.ศ. 2561 รายได้ 524,767 ล้านบาท กำไร 45,712 ล้านบาท
    พ.ศ. 2562 รายได้ 560,446 ล้านบาท กำไร 48,271 ล้านบาท

    อัตรากำไรของกฟผ. จะสม่ำเสมออยู่ที่ประมาณ 9%
    เนื่องจากรายได้จากการขายไฟฟ้า ส่วนใหญ่จะเป็นสัญญาซื้อขายระยะยาว
    ซึ่งจะผันผวนน้อย เมื่อเทียบกับหลายธุรกิจที่ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ

    ปัจจุบัน กฟผ. มีการลงทุนในบริษัทที่ทำธุรกิจผลิตไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องผ่านการถือหุ้นใน 5 บริษัท โดย 2 ใน 5 นั้นจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ คือ

    1. ถือหุ้นใน RATCH จำนวน 652.5 ล้านหุ้น มูลค่าเงินลงทุนกว่า 45,000 ล้านบาท
    ปี พ.ศ. 2562 ได้รับเงินปันผลจำนวน 1,566 ล้านบาท

    2. ถือหุ้นใน EGCO จำนวน 133.8 ล้านหุ้น มูลค่าเงินลงทุนกว่า 36,000 ล้านบาท
    ปี พ.ศ. 2562 ได้รับเงินปันผลจำนวน 903 ล้านบาท

    แม้ว่าในปัจจุบัน กฟผ. จะไม่ได้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่ถ้าเราลองจินตนาการว่า ถ้าหุ้นของ กฟผ. อยู่ในตลาดหลักทรัพย์จะใหญ่แค่ไหน

    รายได้ปีล่าสุดจะทำให้กฟผ. มีรายได้มากเป็นอันดับที่ 3 ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ตามหลังบริษัท PTT และ CPALL

    และด้วยกำไรของ กฟผ. ปีล่าสุด ถ้าเราให้หุ้นของกฟผ. ซื้อขายกันด้วย P/E เท่ากับ 17 ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของหุ้นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง RATCH และ EGCO ในตลาดหลักทรัพย์ของไทย

    นั่นหมายความว่า มูลค่าตลาดของกฟผ. จะสูงกว่า 820,000 ล้านบาท ซึ่งจะใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ในตลาดหลักทรัพย์ของไทย ณ วันนี้ เป็นรองเพียงกิจการรัฐวิสาหกิจอีก 2 แห่งคือ PTT และ AOT

    PTT มีมูลค่าตลาด 1,130,000 ล้านลาท
    AOT มีมูลค่าตลาด 950,000 ล้านบาท

    ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
    รู้ไหมว่าในปัจจุบัน ระบบส่งไฟฟ้าของ กฟผ. นั้นมีความยาวระบบสายส่งไฟฟ้าประมาณ 36,000 วงจรกิโลเมตร

    ขณะที่ State Grid Corporation of China ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานไฟฟ้าของจีนที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้น มีความยาวระบบสายส่งไฟฟ้ารวมกันถึง 987,000 วงจรกิโลเมตร ซึ่งมากกว่าของ กฟผ. ถึง 27 เท่า..
    ╔═══════════╗
    อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit
    มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
    Blockdit.com/download
    ╚═══════════╝
    ติดตามลงทุนแมนได้ที่
    Website - longtunman.com
    Blockdit - blockdit.com/longtunman
    Facebook - ลงทุนแมน
    Twitter - twitter.com/longtunman
    Instagram - instagram.com/longtunman
    Line - page.line.me/longtunman
    YouTube - youtube.com/longtunman
    References
    -https://www.egat.co.th/images/businessop/annual-report/2562/annual-report-62-th.pdf
    -https://www.set.or.th
    -https://th.wikipedia.org/wiki/การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
    - https://www.egat.co.th/index.php?option=com_content&view=article&id=80&Itemid=116
    - https://www.egat.co.th/index.php?option=com_content&view=article&id=140&Itemid=178
    -https://en.wikipedia.org/wiki/State_Grid_Corporation_of_China
    - https://www.power-technology.com/features/top-10-power-companies-in-the-world/

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    June 13, 2020 ขสมก.ให้บริการรถโดยสารตามเวลาปกติ หลัง ศบค.ยกเลิกประกาศเคอร์ฟิว เริ่ม 15 มิ.ย.นี้
    .
    นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามมติที่ประชุมศบค.ที่ให้ยกเลิกเคอร์ฟิว และเห็นชอบมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 4 โดยอนุญาตให้กิจกรรม/กิจการในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง กลับมาเปิดบริการหรือดำเนินการได้ ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2563 จะส่งผลทำให้ผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางของ ขสมก.เพิ่มขึ้น เป็นวันละประมาณ 650,000 คน
    .
    ขสมก.จึงจัดแผนการเดินรถโดยสาร ในช่วงมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 4 ดังนี้
    .
    1. จัดรถออกวิ่ง 100 % (3,000 คัน/วัน) หรือจัดรถออกวิ่งให้สอดคล้องกับความต้องการ ของประชาชนในแต่ละช่วงเวลา โดยมีเที่ยววิ่งเฉลี่ย วันละประมาณ 25,000 เที่ยว
    .
    2. ให้บริการรถโดยสารประจำทางในทุกเส้นทาง ตามเวลาปกติ รวมทั้ง จัดรถโดยสารให้บริการตลอดคืน (รถกะสว่าง) ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป
    .
    3. ขสมก.ยังคงดำเนินการตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด19
    .
    3.1 ด้านพนักงานประจำรถ มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของพนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสารทุกครั้ง ก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร พร้อมทั้งกำชับพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร สวมหน้ากากอนามัย และถุงมือทุกครั้ง ขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร
    .
    3.2 ด้านรถโดยสารประจำทาง เพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาด ใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสาร กำหนดจุดนั่ง (เบาะที่ไม่มีเครื่องหมายกากบาท) และจุดยืนให้มีระยะห่างกัน 1 เมตร ซึ่งรถโดยสาร 1 คัน อนุญาตให้ ผู้ใช้บริการ ยืนได้ไม่เกิน 10 คน กรณีผู้ใช้บริการเต็ม พนักงานเก็บค่าโดยสารจะติดป้ายข้อความ “ ผู้ใช้บริการเต็ม โปรดใช้บริการ รถคันถัดไป ” และติดตั้ง QR Code แอปพลิเคชันไทยชนะ บริเวณหลังเบาะที่นั่ง และบริเวณผนังด้านข้างภายในรถโดยสาร สำหรับให้ผู้ใช้บริการสแกนผ่านโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน เพื่อเก็บข้อมูลการเดินทาง

    #ขสมก. #รถเมล์ไทย #ยกเลิกประกาศเคอร์ฟิว #การเดินทาง #misterban #โควิด19 #รถโดยสารประจำทาง #ข่าวอัพเดท

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐ : ฟลอริดา
    วอลล์มาร์ท เผยวีดีโอร้านโดนปล้นช่วงประท้วง
    มีคนบุกทุบร้านกว่า 100 ราย มูลค่าเสียหายกว่า 3.2 ล้านบาท

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีน : พายุในจีนตอนใต้หลายเมือง ทำให้ต้องอพยพพลเมืองหลายพันคน

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐ : ม็อบผิวสี BLM ยังคงมีการชุมนุมในหลายรัฐ
    ตามแผนที่
    ม็อบมุ่งทำลายสถานที่สำคัญ รูปปั้น อนุสาวรีย์ สำคัญจำนวนมากเสียหาย ถูกทำลาย ความรุนแรง การปล้นร้านค้าลดลง ข้อเรียกร้องที่ม็อบเรียกร้องยังเป็นความเท่าเทียม การเหยียดสีผิว และมีประเด็นการเมืองอื่นๆผสม

    Cr : usatoday

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีน : ปักกิ่ง พบผู้ป่วยโควิดใหม่ 3 รายใน 2 วันติดภายในประเทศ หลังปลอดเชื้อ 55 วัน
    # ปักกิ่ง ปิดตลาดสดขายอาหาร 2 แห่ง โรงเรียนเลื่อนเปิดเทอม หลังพบผู้ป่วยโควิดในวันพฤหัสบดี 1 ราย วันศุกร์ 2 ราย ผู้ป่วยรายแรกเดินทางจากปักกิ่งไปชิงเต่า เพื่อทำธุรกิจหลายวันต่อมามีอาการป่วยไปพบหมอตรวจผลติดโควิด รายที่2 เป็นเพื่อนร่วมงาน รายที่3 ไม่เปิดเผย หนึ่งในผู้ป่วยเคยไปตลาดขายอาหารสดในปักกิ่งและถูกสั่งปิดเพื่อกักโรควานนี้ ผู้ป่วย 2รายหลังไม่มีประวัติเดินทางไกล
    # อย่ากลับมานะโควิด

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘สตาร์บัคส์’ จ่อปิด 400 สาขาในสหรัฐฯ รับกระแส New Normal : นที่ 11 มิถุนายน 2563 เว็บไซต์บิสสิเนสอินไซเดอร์ รายงานว่า ร้านกาแฟชื่อดัง “สตาร์บัคส์” วางแผนจะปิดสาขากว่า 400 แห่ง ทั่วสหรัฐฯ เพื่อปรับตัวรับกระแส New normal หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทางร้านต้องปิดสาขาชั่วคราวในหลายพื้นที่

    เมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐฯ สตาร์บัคส์ได้ประกาศแผนเรื่องสาขาในสหรัฐฯ พุ่งเป้าไปที่ทำเลในเมืองก่อน โดยจะปิดสาขาที่บริษัทดำเนินการเองกว่า 400 แห่ง ในช่วง 18 เดือนหลังจากนี้

    นอกเหนือจากการปิดสาขา ทางสตาร์บัคส์ยังชะลอแผนการเปิดสาขาใหม่ในปีนี้ด้วย จากเดิมที่ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ 600 แห่งในปีนี้ จะลดเหลือเพียงครึ่งเดียว หรือ 300 แห่งเท่านั้น

    สตาร์บัคส์ระบุว่า การเปิดสาขาใหม่จะมีรายละเอียดแตกต่างกันไปในแต่ละทำเล โดยตามย่านที่เป็นศูนย์กลางจะเน้นการซื้อกลับ เช่น ไดร์ฟทรู รวมถึงการจอดรถหน้าร้านแล้วมีพนักงานนำสินค้าไปส่ง และการซื้อกลับด้วยวิธีอื่น ๆ ซึ่งลูกค้าสามารถสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชั่นทางโทรศัพท์มือถือได้

    ร้านกาแฟชื่อดังได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทด้วยว่า ท้ายที่สุด เมืองใหญ่แต่ละแห่งในสหรัฐฯ จะต้องมีร้านสตาร์บัคส์ ทั้งแบบร้านคาเฟ่ดั้งเดิมและแบบซื้อกลับ

    สำหรับร้านแบบซื้อกลับจะต้องอยู่ห่างจากร้านคาเฟ่เพียงเล็กน้อย เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการได้

    ทั้งนี้ สตาร์บัคส์เปิดร้านแบบซื้อกลับร้านแรกในนครนิวยอร์ก เมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้น “เควิน จอห์นสัน” ซีอีโอสตาร์บัคส์ กล่าวว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้บริษัทเปิดร้านแบบซื้อกลับมากขึ้น

    วันเดียวกัน สตาร์บัคส์ยังประกาศด้วยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในไตรมาส 3 จะลดเหลือประมาณ 3,000 – 3,200 ล้านดอลลาร์ ผลจากการระบาดของโควิด-19

    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
    https://www.prachachat.net/world-news/news-476150

    - Starbucks is closing up to 400 stores in shift to takeout strategy
    https://edition.cnn.com/2020/06/10/business/starbucks-closing-400-stores/index.html

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยารักษา Covid-19 ที่พัฒนาโดย Regeneron จะเริ่มทดลองทางคลินิกในคนเร็ว ๆ นี้

    ยาที่พัฒนาบริษัท Regeneron จะนำ antibody 2 ชนิดมาผสมกัน เพื่อใช้รักษาในผู้ป่วย Covid-19 หากการทดสอบสำเร็จก็อาจเริ่มนำมาใช้ในกรณีฉุกเฉินได้ในช่วงปลายปีนี้ การใช้ antibody จะช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสโคโรนาเข้าสู่เซลล์ในร่างกายคนได้ ซึ่งกลไกการทำงานดังกล่าวจะต่างจากยาประเภทยาต้านไวรัสที่จัดการกับไวรัสหลังเข้าสู่เซลล์ในร่างกายคน

    นอกจากนี้ คาดว่ายาที่พัฒนาโดย Regeneron อาจมีผลช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้ด้วย แต่อาจต้องได้รับยาอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ การใช้ส่วนผสมของ antibody 2 ชนิด ที่มีผลต่อองค์ประกอบของไวรัสที่แตกต่างกันจะช่วยเพิ่มประสิทธิผลกว่าการใช้ชนิดเดียว โดยปัจจุบันยาดังกล่าวอยู่ระหว่างหารือกับ U.S. Food and Drug Administration เพื่อนำไปทดลองในคนทั้งในกลุ่มผู้ป่วย Covid-19 และกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้ออย่างบุคลากรทางการแพทย์ หรือสมาชิกครอบครัวผู้ป่วย รวมทั้งวางแผนการผลิตหากพบว่ายามีประสิทธิผลดี

    ทั้งนี้ ปัจจุบันมีเพียงยาต้านไวรัส remdesivir ที่คิดค้นโดย Gilead Sciences เท่านั้นที่มีประสิทธิผลในการรักษา Covid-19 ได้ แม้อาจจะไม่เต็มที่ และมีหลายบริษัทที่พยายามพัฒนายาประเภท antibody โดยเมื่อต้นเดือนนี้บริษัท Eli Lilly & Co. และ AbCellera Biologics ได้พัฒนายา antibody จากเลือดผู้ป่วย Covid-19 ที่หายแล้ว

    Source: BoTSS

    - Regeneron sees 'reason for hope' as human testing of its coronavirus drug begins https://www.cnbc.com/2020/06/11/reg...are|com.apple.UIKit.activity.CopyToPasteboard

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    NATO มองจีนได้เคลื่อนเข้ามาใกล้กลุ่มประเทศโลกตะวันตกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะระบบการสื่อสาร ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ทางกลุ่มประเทศโลกตะวันตกไม่ควรมองข้าม พร้อมให้ทบทวนบทบาท Huawei ในฐานะผู้เข้าร่วมพัฒนาเครือข่ายระบบ 5G

    นาย Jens Stoltenberg - Secretary General ของ North Atlantic Treaty Organization หรือ NATO กล่าวว่า ขณะนี้จีนได้เคลื่อนเข้ามาใกล้กลุ่มประเทศโลกตะวันตกมากยิ่งขึ้น ทั้งการลงทุนในเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญๆ ในยุโรป โดยเฉพาะด้านระบบการสื่อสาร ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ทางกลุ่มประเทศโลกตะวันตกไม่ควรมองข้าม และการที่สหราชอาณาจักรจะเริ่มพิจารณาทบทวนถึงบทบาทของ Huawei ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของจีน ในฐานะผู้เข้าร่วมพัฒนาเครือข่ายระบบ 5G เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศ ถือเป็นสิ่งสำคัญ

    นาย Stoltenberg ระบุว่า ตนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักรจะสามารถบริหารจัดการให้การพัฒนาระบบ 5G เป็นไปในทิศทางที่มีความปลอดภัย ซึ่งตนคิดว่าขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการพิจารณาทบทวนแนวทางต่างๆ เพื่อให้ความปลอดภัยในการพัฒนาระบบ 5G ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง โดยเมื่อเดือน ม.ค. 2020 นาย Boris Johnson นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ได้อนุญาตให้บริษัท Huawei สามารถเข้าเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาระบบ 5G ของประเทศได้ แต่บทบาทของ Huawei จะเป็นไปอย่างจำกัด ซึ่ง นาย Johnson กล่าวว่า “high-risk vendors” อาทิ Huawei จะได้รับอนุญาตให้สามารถเข้าถึงระบบ 5G ของสหราชอาณาจักร ได้เฉพาะในส่วนที่เป็น “non-sensitive parts” เท่านั้น

    อย่างไรก็ตาม การที่สหราชอาณาจักรยังอนุญาตให้บริษัท Huawei เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาระบบ 5G ของประเทศ แม้จะเป็นไปอย่างจำกัด ยังคงก่อให้เกิดความกังวลต่อท่าทีของสหรัฐฯ ซึ่งต้องการกัน Huawei ออกจากกระบวนการพัฒนาระบบการสื่อสารในอนาคตของกลุ่มประเทศโลกตะวันตก เนื่องจากมองว่า จีนอาศัยบริษัท Huawei เป็นเครื่องมือในการเข้าถึงข้อมูลของประเทศต่างๆ โดยภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ทั้ง ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ความขัดแย้งบนเกาะฮ่องกง และ ท่าทีของ นาย Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่แสดงออกถึงความไม่พอใจต่อจีน อาจกระตุ้นให้สหราชอาณาจักรหันมาทบทวนเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับจีนอีกครั้ง

    นาย Stoltenberg กล่าวว่า ความเห็นของตนไม่ได้เป็นการนำ NATO รุกกล้ำเข้าไปยังอาณาเขตของจีน แต่เป็นการตอบสนองต่อความจริงที่ว่า จีนกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้กลุ่มประเทศตะวันตกมากขึ้น ขณะที่ นาง Hua Chunying โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ออกมากล่าวตอบโต้ นาย Stoltenberg ว่า จีนไม่ได้ต้องการที่จะคุกคามความปลอดภัยของประเทศต่างๆ และจีนหวังว่า NATO จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับจีนในทิศทางที่ถูกต้อง และมีมุมมองต่อพัฒนาการต่างๆ ของจีนอย่างสมเหตุสมผล

    Source: BOTSS

    - NATO sets its sights on China : https://www.economist.com/international/2020/06/08/nato-sets-its-sights-on-china

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัฐบาลสหราชอาณาจักรแจ้งยืนยันสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการว่า จะไม่ขอขยายTransition Period ของ Brexit ที่จะสิ้นสุดสิ้นปี 2020 พร้อมทั้ง ยืนยันว่าจะยังไม่บังคับใช้มาตรการควบคุมสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรปบริเวณชายแดนในทันทีหลังสิ้นสุด

    รัฐบาลสหราชอาณาจักร ได้แจ้งยืนยันกับทางสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการว่า จะไม่ขอขยายเวลาช่วงเปลี่ยนผ่าน (Transition Period) ของการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) ที่มีกำหนดจะสิ้นสุดภายในสิ้นปี 2020 โดย นาย Michael Gove - Cabinet Office minister ของสหราชอาณาจักรกล่าวว่า ทางรัฐบาลสหราชอาณาจักรขอยืนยันว่า จะไม่มีการพิจารณาขอขยายระยะเวลาช่วง Transition Period และช่วงเวลาสำหรับการขอขยายระยะเวลาดังกล่าวได้ผ่านพ้นไปแล้ว

    ด้าน นาย Michel Barnier ผู้แทนการเจรจา Brexit ของสหภาพยุโรป กล่าวว่า สหภาพยุโรปรับรู้ถึงจุดยืนของสหราชอาณาจักรที่จะไม่ขอขยายระยะเวลาช่วง Transition Period ออกไป แต่สหภาพยุโรปยังคงเปิดทางเลือกสำหรับการขยายระยะเวลาช่วง Transition Period เอาไว้ และมองว่าสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป ควรเร่งกระบวนการเจรจาข้อตกลงด้านความสัมพันธ์ระหว่างกันภายหลัง Brexit ให้เร็วยิ่งขึ้น หลังจากรัฐบาลสกอตแลนด์และเวลส์ ได้มีจดหมายถึง นาย Boris Johnson นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรว่า การไม่พิจารณาขอขยายระยะเวลาช่วง Transition Period ออกไป ถือเป็นการกระทำที่ไม่รอบคอบอย่างมาก ภายใต้สภาวะวิกฤตจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ในขณะนี้ และอาจนำไปสู่สถานการณ์ no-deal Brexit ได้

    ในขณะเดียวกัน รัฐบาลสหราชอาณาจักรยืนยันว่า จะยังไม่บังคับใช้มาตรการควบคุมสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป ณ บริเวณชายแดนทันทีภายหลังสิ้นสุดช่วง Transition Period เพื่อให้ภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ได้มีเวลาปรับตัว ซึ่งทางรัฐบาลจะพิจารณาใช้มาตรการควบคุมสินค้านำเข้าในลักษณะ “flexible and pragmatic approach” โดยนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2021 ผู้นำเข้าสินค้าทั่วไป อาทิ เสื้อผ้า และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ จะต้องเก็บบันทึกข้อมูลการนำเข้าสินค้าดังกล่าว แต่จะมีเวลา 6 เดือน ในการแจ้งยืนยันการนำเข้าสินค้าให้สมบูรณ์และชำระศุลากรนำเข้า ส่วนสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์จากสัตว์ อาทิ นม และน้ำผึ้ง นับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2021 เป็นต้นไป

    ผู้นำเข้าจะต้องแจ้งยืนยันการนำเข้าสินค้าล่วงหน้า จากนั้นนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2021 การนำเข้าสินค้าทุกประเภทจะต้องยื่นแบบฟอร์มแสดงการนำเข้าสินค้า พร้อมทั้งจ่ายภาษีศุลกากรให้สมบูรณ์ นอกจากนั้น รัฐบาลยังวางแผนที่จะจัดสรรงบประมาณจำนวน 50 พันล้านปอนด์ เพื่อจัดเตรียมระบบสำหรับการควบคุมการนำเข้าสินค้า ณ บริเวณชายแดนที่คาดว่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น หลังจากที่สหราชอาณาจักถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป

    ทั้งนี้ นาย Boris Johnson และ นาง Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป มีกำหนดจะหารือเกี่ยวกับประเด็น Brexit เพิ่มเติมในวันที่ 15 มิ.ย. 2020

    Source: BoTSS

    - It’s official: U.K. won’t require an extension of Brexit talks, even as negotiations with EU hit gridlock
    https://www.marketwatch.com/story/i...-negotiations-with-eu-hit-gridlock-2020-06-12

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปฏิบัติไม่เป็นธรรมกับลูกหนี้ อังกฤษสั่งปรับ Lloyds Bank กว่า 2,500 ล้านบาท : องค์กรกำกับดูแลทางด้านการเงินของอังกฤษสั่งปรับ Lloyd Bank กว่า 2,500 ล้านบาท หลังตรวจสอบพบว่าปฏิบัติกับลูกค้าสินเชื่อบ้านอย่างไม่เป็นธรรมในภาวะยากลำบากทางการเงิน

    องค์กรกำกับดูแลด้านการเงินของอังกฤษ (Financial Conduct Authority: FCA) สั่งปรับ Lloyd Bank จำนวน 64 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,500 ล้านบาท) หลังตรวจสอบพบว่า Lloyds Bank, Bank of Scotland และธุรกิจสินเชื่อบ้าน ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือ Lloyds Banking Group บกพร่องในการรวบรวมข้อมูลและการให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในการใช้คืนหนี้สินเชื่อบ้านในช่วงเดือนเมษายน ปี 2011 ถึงเดือนธันวาคม ปี 2015

    โดย Mark Steward ผู้อำนวยการบริหารการควบคุมและกำกับดูแลตลาดของ FCA กล่าวว่า ธนาคารขาดความเข้าใจและบกพร่องในการให้ความช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อในภาวะที่อ่อนแอจากการตกงานและการสูญเสีย มากกว่าหนึ่งในสี่ของลูกค้าสินเชื่อค้างจ่ายเหล่านี้ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมตลอดหลายปีที่ผ่านมา

    โฆษกของ Lloyds Banking Group ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ธนาคารได้ติดต่อลูกค้าที่ได้รับผลกระทบในช่วงปี 2011-2015 เพื่อขอโทษและได้ทำการคืนเงินค่าปรับให้แก่ลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    FCA กล่าวว่า ธนาคารจะต้องทำการจ่ายเงินชดเชยให้กับลูกค้าจำนวน 526,000 คน คิดเป็นเงินจำนวน 300 ล้านปอนด์ (ประมาณ 11,700 ล้านบาท)

    โดย Pajaree RBy

    Source: Brandinside.asia

    https://brandinside.asia/lloyds-fined-mortgage-customer/

    - Lloyds Bank fined $81 million for overcharging mortgage customers : https://www.reuters.com/article/us-...tent&utm_medium=trueAnthem&utm_source=twitter

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #เราควรช้อนหุ้นบริษัทที่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการแล้วหรือไม่ ?!?!

    หากตั้งคำถามนี้หลายๆท่านอาจนึกถึงหุ้นของ #การบินไทย (#THAI) เป็นอันดับแรก โดยถึงแม้บริษัทต่างๆจะเข้าสู่กระบวนการเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการแล้ว แต่ถ้ายังอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่จะยังสามารถซื้อขายกันต่อได้อยู่ #ถ้าใครช้อนหุ้นเหล่านี้ไปแล้วแนะนำให้อ่านจนจบ นะครับ

    โดยเรื่องที่น่าสนใจมีอยู่ว่าหุ้นต่างๆที่เข้าสู่กระบวนการนี้ทั้งในไทยและต่างประเทศนั้นต่างดีดขึ้นมาเรื่อยๆในปีนี้หลังเข้ากระบวนการแล้ว ! และดีดขึ้นหลายเท่าด้วย !

    จากบริษัทต่างๆที่ทางเพจเราได้รายงานไป (น่าจะเป็นสื่อแรกในประเทศที่รายงาน โดยใครไม่อยากพลาดต้องตั้ง See First ครับ ) แฟนเพจทุกคนคงจำบริษัทเหล่านี้ได้

    1️⃣ Hertz (บริษัทเช่ารถ) หุ้นดีดขึ้นมา 5 เท่า ! จาก 1 เหรียญขึ้นไป 5 เหรียญ

    2️⃣ JC Penny (ร้านค้าปลีก) หุ้นดีดขึ้นมา 3 เท่า ! จาก 0.2 เหรียญขึ้นไป 0.6 เหรียญ

    3️⃣ Whiting Petroleum (ขุดเจาะน้ำมัน) หุ้นดีดขึ้นมา 4 เท่า ! จาก 0.8 เหรียญขึ้นไป 3.5 เหรียญ

    เมื่อเทียบกับการบินไทยที่ราคาหุ้นดีดขึ้น 1.5 เท่าจาก 4 บาทขึ้นไป 6 บาทในตอนแรกนั้น บริษัทต่างชาติเหล่านี้ถือว่ามีราคาหุ้นที่ดีดขึ้นแรงมากกว่าหลายเท่านักหลังประกาศล้มละลาย (กราฟทั้งหมดแนบให้ในคอมเม้นท์นะครับ)

    ทำไมหุ้นเหล่านี้ถึงราคาดีดขึ้นหลังประกาศเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู ?

    หลักๆนั้นเป็นเพราะเมื่อบริษัทไหนก็ตามประกาศล้มละลาย #มันจะเป็นข่าวที่ใหญ่ไปทั่วตลาด และได้รับความสนใจอย่างมาก ในช่วงนี้นั้นอาจมีนักลงทุนรายย่อยที่่จะเพิ่งได้ยินถึงราคาหุ้นที่ต่ำเตี้ยติดดินเหล่านี้จึงคิดที่จะเข้ามาช้อนซื้อโดยเพียงคิดว่าราคานั้น #ถูกมากแล้ว และถ้าถือในระยาวผลตอบแทนน่าจะมีโอกาสขึ้นได้สูง (ส่วนใหญ่ชอบเทียบกับราคาหุ้นก่อนที่จะล้มละลาย)

    แต่หลายๆคนที่เข้ามาช้อนซื้อนั้นยังไม่ทราบถึงอนาคตของธุรกิจเหล่านี้เลย... และน้อยรายมากที่จะทราบว่าธุรกิจเหล่านี้จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้จริงไหม หรือบางรายอาจจะยังไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังซื้ออะไรอยู่..

    #การเข้าซื้อหุ้นที่กำลังฟื้นฟูนั้นจริงๆแล้วเหมือนกับการเข้าไปซื้อกองหนี้ !

    แน่นอนว่าการที่บริษัทต้องเข้าขั้นฟื้นฟูนั้นแปลว่านอกจากพื้นฐานทางธุรกิจของบริษัทจะไม่ดีแล้ว #บริษัทยังมีหนี้อยู่ล้นมากจนไม่สามารถจ่ายกลับได้ หากไม่มี 2 อย่างนี้ทางเจ้าของธุรกิจเขาคงไม่จำเป็นต้องฟ้องล้มละลายหรอกใช่ไหมครับ ? ก็ยังบริหารกิจการต่อไปได้เอง

    #เพราะฉะนั้นการเข้าไปช้อนซื้อจึงเสี่ยงมากๆ เพราะแปลว่าคุณกำลังรับเป็นเจ้าของหนี้เหล่านี้แทน จริงอยู่ว่าหากทางบริษัทสามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้จริงๆ มันอาจจะเป็นการซื้อได้ที่ราคาถูกมาก แต่เคสส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่แบบนั้น... #ต้องดูตามธุรกิจและศึกษารายละเอียดจริงๆ

    ส่วนใหญ่แล้วตามสถิติบริษัทที่เข้าการฟื้นฟูอาจจะไม่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้จนอาจจะต้องล้มละลายไปจริงๆ และ #มูลค่าหุ้นเหล่านี้จะกลายเป็นศูนย์ ! โดยผู้ที่เป็นเจ้าหนี้บางส่วนอาจจะได้เงินคืนในส่วนที่บริษัทอาจจะพอขายทรัพย์สินมาจ่ายได้ แต่ผู้ถือหุ้นหรือเจ้าของบริษัทจะไม่ได้เงินเหล่านี้เลย (ราคาหุ้นจึงกลายเป็น 0)

    ทำให้การดีดขึ้นมาของราคาหุ้นในช่วงต้นโดยการซื้อของรายย่อยนั้น ส่วนมากจะเป็นโอกาสให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ได้อาศัยจังหวะนี้ในการเทขายหุ้นออก และหลายๆครั้งข่าวที่เป็นปัจจัยบวกต่างๆที่แสดงถึงอนาคตที่บริษัทอาจพลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างสดใส ที่นักลงทุนรายย่อยได้อ่านนั้น ก็อาจจะมาจากผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ต้องการจะขายหุ้นตัวเองออกก็เป็นได้ !

    ดูตัวอย่างของหุ้นบริษัทต่างชาติในวันนี้

    ทั้งราคาหุ้นของ Hertz, JC Penny และ Whiting Petroleum นั้น หลังจากดีดขึ้นมาสูงในอาทิตย์แรกๆ ตอนนี้ก็ต่างเริ่มโดนเทขายแล้วหลังจากแรงซื้อเก็งกำไรของรายย่อยหมดลง และมีโอกาสสูงมากที่ราคาหุ้นเหล่านี้จะกลายเป็นศูนย์ในอนาคต หากไม่สามารถพลิกแผนธุรกิจและกลับมาจ่ายหนี้อันมหาศาลได้

    ⚠️ #การช้อนซื้อหุ้นเหล่านี้โดยไม่เข้าใจธุรกิจจริงๆเป็นสิ่งที่ควรระวังอย่างมาก ⚠️

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ข้อมูลต่างๆเหล่านี้ให้เพื่อนๆด้วยหากว่าข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ

    สำหรับท่านที่สนใจติดตามข่าวสารการลงทุนและวิเคราะห์เศรษฐกิจโลกไปกับเพจเรานั้นแนะนำให้กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของทีมเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ ขอบคุณครับ

    #ทันโลกกับTraderKP

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กางเกงใน…..ทดสอบคุณภาพดิน
    .
    เอาว่าตอนแรกก็คิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่นแต่พอเช็คเป็นเรื่องจริงเป็น theme การทดสอบคุณภาพของดินที่ตอนนี้เป็นที่สนใจของทางตะวันตก นั่นคือการทดสอบคุณภาพดินด้วยกางเกงใน
    วิธีการง่ายๆเอากางเกงในไปฝังลงในดินจากนั้นเมื่อผ่านไป 2 เดือนให้ขุดกางเกงในขึ้นมา หากดินมีคุณภาพดีกางเกงในจะเปื่อยยุ่ย
    ทฤษฎีตั้งต้นมาจากการที่ ดินมีคุณภาพดี มันก็จะมีสารอาหารและเป็นที่อยู่ของแมลงและแบคทีเรียที่ดีต่อพืช ดังนั้นหากคุณเอากางเกงในซึ่งส่วนใหญ่ทำจากผ้าฝ้ายระบายอากาศได้ดีลงไปฝังดิน ดินที่ดีก็จะมีแมลงและแบคทีเรียดังกล่าวมากินกางเกงในของคุณเป็นอาหาร กางเกงในของคุณก็จะมีสภาพเปลือยยุ้ยอย่างภาพที่เห็น
    อาจฟังเป็นเรื่องพูดเล่นแต่ตอนนี้ที่ต่างประเทศใช้เป็นเกณฑ์หนึ่งในการทดสอบว่าดินคุณภาพดีหรือไม่จริงๆจะเอาไปทดลองดูก็ได้นะครับไม่สงวนลิขสิทธิ์
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ส่องรายได้ยักษ์ดิจิทัลข้ามชาติในประเทศไทย หรือผู้ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างประเทศ ที่มีการจดทะเบียนนิติบุคคลในประเทศไทย ปี 2562 ว่าในปีที่ผ่านมาแต่ละบริษัทโกยรายได้เท่าไร และเสียภาษีเงินได้อยู่ที่เท่าไร
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    FB_IMG_1592025581406.jpg
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มาเลเซียงดส่งคนไปพิธีฮัจญ์
    .
    มาเลเซียเป็นชาติล่าสุดที่ประกาศงดส่งคนไปทำพิธีฮัจญ์ในปีนี้ โดยเมื่อพิจารณาจากการระบาดของ covid 19 ที่ยังควบคุมไม่ได้
    โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศาสนา Zulkifli Mohamad Al-Bakri กล่าวว่า
    ไม่ปลอดภัยสำหรับผู้แสวงบุญ 31,600 คนจากมาเลเซียจะเข้าร่วมในปีนี้เนื่องจากเชื้อไวรัส
    โดยเขายอมรับว่าเป็นการตัดสินใจที่ยาก
    .
    มาเลเซียกลายเป็นชาติล่าสุดที่ประกาศไม่ส่งคนไปร่วมพิธีฮัจญ์หลังจากอินโดนีเซียได้ประกาศไปก่อนหน้านี้

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กลุ่มประท้วงการเหยียดผิว #BlackLivesMatter ไปกันใหญ่!!
    ขนาดอนุสาวรีย์มหาตมะ คานธี (Mahatma Gandhi) นักต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพและเอกราชของอินเดียยังโดนทำลาย
    รูปแรกที่กรุงวอขิงตัน ดีซี เมืองหลวงสหรัฐ โดนสาดสีเลอะเทอะ
    อีก 2 รูปถัดมาอยู่ที่กรุงลอนดอน อังกฤษ
    รูปสุดท้ายที่กานา

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เลื่อนพระราชทานปริญญาราชมงคล!
    .
    สำนักพระราชวัง แจ้ง "กรมสมเด็จพระเทพรัตนฯ"พระราชทานพระราชานุญาตเลื่อนกำหนดการพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 6 แห่ง ประจำปีการศึกษา 2562 เดือน สิงหาคมนี้ออกไปก่อน เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19
    .
    https://t.co/3NoWXwb2AE

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #อาร์เจนตินา | หิมะแรก ที่ Ushuaia, Tierra del Fuego

    โดย Miguel Angel Caro เมื่อวันที่ 06.10.2020
    #Snow #Storm #Nieve #zabedrosky

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,500
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #JAPAN | การปะทุครั้งใหม่ บันทึกภูเขาไฟ Sakurajima ใน Kagoshima, Kyūshū วันนี้

    โดย Marsea Shirom เมื่อ 06.10.2020
    #Eruption #Volcano #Gunung #zabedrosky

     

แชร์หน้านี้

Loading...