ติดตามสถานะการณ์

รัสเซียทูเดย์ - โจชัว หว่อง หนึ่งในนักเคลื่อนไหวฝักใฝ่ประชาธิปไตยที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของฮ่องกง โวยวาย เลบรอน เจมส์ ซูเปอร์ตาร์นักบาสเก็ตบอลเอ็นบีเอ ว่าเป็นพวกเสแสร้งไม่จริงใจ ต่อกรณีออกมาสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านเหยียดผิว แต่ที่ผ่านมาเคยแสดงความเคลือบแคลงสงสัยในเหตุผลการประท้วงของพวกผู้ชุมนุมฝักใฝ่ประชาธิปไตยฮ่องกง
.
"เจมส์ พูดเสียงดังในสหรัฐฯ แต่กับจีน เขาไม่ได้แค่เงียบเฉย แต่เขายังกระตือรือร้นปิดปากคนอื่นๆด้วย" หว่องทวีตเมื่อวันพฤหัสบดี(11มิ.ย.) และเรียกซูเปอร์สตาร์นักบาสเก็ตบอลของทีมแอลเอ เลเกอร์ส ในศึกเอ็นบีเอ ว่าเป็นพวกเสแสร้งไม่จริงใจ เป็นพวกฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ พร้อมนำ เจมส์ ไปเปรียบเทียบกับ เหมา เจ๋อตุง
.
เสียงโจมตีดังกล่าวมีต้นตอจากบทความหนึ่งในหนังสือพิมพ์ลอสแองเจลิสไทม์ส ซึ่งระบุว่า เจมส์ มีปฏิกิริยาที่โกรธเกรี้ยวต่อการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ ชายชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันในมินนิอาโปลิส และแสดงจุดยืนสนับสนุนแคมเปญ "ชีวิตคนดำก็มีค่า(Black Lives Matter)"
.
หว่อง วัย 23 ปี เป็นนักเคลื่อนไหวนักศึกษา ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาในระดับนานาชาติในปี 2014 ท่ามกลางการประท้วงต่อต้านจีนในฮ่องกง ทั้งนี้เขากลายเป็นบุคคลระดับแกนนำ เมื่อการชุมนุมในเขตปกครองพิเศษโหมกระพือขึ้นมาอีกครั้งในปีที่แล้ว และถึงขั้นเคยได้รับเชิญในนามนักเคลื่อนไหว กล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาครองเกรสสหรัฐฯ ครั้งที่เหล่าสมาชิกรัฐสภากำลังร่างกฎหมายข่มขู่จีนด้วยมาตรการคว่ำบาตร
.
ส่วน เจมส์ ถูกโยงเข้ากับการประท้วงในฮ่องกงโดยบังเอิญ หลังจากเข้าไปพัวพันกับเหตุพิพาทระหว่างเอ็นบีเอกับจีนเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน โดยต้นตอของเรื่องก็คือ ดาริล มอเรย์ ผู้จัดการทั่วไปของทีมฮุสตัน ร็อกเก็ตส์ แสดงความเห็นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับผู้ประท้วงฮ่องกงบนทวิตเตอร์
.
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับข้อความบนทวิตเตอร์ของมอเรย์ เจมส์แสดงความคิดเห็นว่า มอเรย์ อาจได้ข้อมูลผิดๆหรืออาจไม่ได้ศึกษาสถานการณ์ในฮ่องกงดีพอ ซึ่งต่อมา มอเรย์ ได้ลบทวีตของเขาอย่างรวดเร็วและกล่าวคำขอโทษและกล่าวว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับเพื่อนๆวงการเอ็นบีเอ
.
ท่ามกลางความขุ่นเคือง เจมส์ปฏิเสธว่าไม่ได้ฝักใฝ่จีน สวนทางกับข้อกล่าวหาจากบรรดานักเคลื่อนไหวในฮ่องกง โดยเจมส์บอกว่าเขาแค่เชื่อว่า "เรื่องบางเรื่องนั้นไม่ควรเป็นปัญหาของทุกๆคน" และเขาอยากต่อสู้ในประเด็นในบ้านเกิดมากกว่า
.
การประท้วงต่อต้านรัฐบาลในฮ่องกงได้โหมกระพือขึ้นรอบใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อคัคค้านแผนของจีนที่จะบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในฮ่องกง โดยคาดหมายว่ากฎหมายฉบับนี้จะทำให้พวกผู้ประท้วงเผชิญเรื่องยากลำบากมากขึ้น โดยเฉพาะกับพวกที่ใช้กลยุทธ์ก่อความรุนแรงปั่นป่วนวิถีชีวิตภายในเมือง
.
ในส่วนของสหัรฐฯเองก็เพิ่งเผชิญระลอกคลื่นแห่งความขุ่นเคืองของประชาชนและสถานการณ์ความไม่สงบในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพวกผู้ประท้วงหลายหมื่นคนไหลบ่าลงสู่ท้องถนนเพื่อต่อต้านการกระทำป่าเถื่อนของตำรวจและการเหยียดผิวอย่างเป็นระบบในประเทศ อันมีชนวนจากการเสียชีวิตด้วยน้ำมือตำรวจของ จอร์จ ฟลอยด์
-------------------------------
แหล่งข่าว
- https://mgronline.com/around/detail/9630000061156
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

รายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ ปักกิ่งปิดตลาดค้าส่งอาหารหลัก 6 แห่งในวันศุกร์(12มิ.ย.) และเลื่อนแผนอนุญาตให้นักเรียนบางส่วนกลับสู่ชั้นเรียน หลังจากเมืองหลวงของจีนแห่งนี้รายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) รายใหม่เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
.
สื่อมวลชนแห่งรัฐรายงานว่าเคสผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันศุกร์(12มิ.ย.) เกี่ยวข้องกับชาย 2 คนที่ทำงานในศูนย์วิจัยเนื้อแห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้เพิ่งไปเดินตลาดค้าส่งอาหารเหล่านั้น แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าพวกเขาติดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างไร
.
ส่วนผู้ติดเชื้อเมื่อวันพฤหัสบดี(11มิ.ย.) ถูกพบกันคนละส่วนของเมือง แต่เคสดังกล่าวกลายเป็นการพบผู้ติดเชื้อในกรุงปักกิ่งเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 เดือน
.
หลายฝ่ายเชื่อกันว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ อุบัติขึ้นที่ตลาดค้าอาหารทะเลแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ของจีน ในเดือนธันวาคม
.
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้ง 2 ซึ่งเป็นชายอายุ 25 ปีและ 37 ปี ไม่เคยสัมผัสใกล้ชิดกับคนจากหูเป่ย หรือนักเดินทางที่มาจากต่างแดนในช่วง 14 วันหลังสุด แม้ชายคนที่มีอายุน้อยกว่าเคยไปอยู่ในเมืองชิงเต่า ในมณฑลชานตง ทางภาคตะวันออกของประเทศ ช่วงสั้นๆก็ตาม
.
ในส่วนของศูนย์วิจัยอาหารประเภทเนื้อแห่งประเทศจีน ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของชายทั้งสองคน ในเขตเฟิงไท่ ทางใต้ของปักกิ่ง ยังคงเปิดทำการในวันศุกร์(12มิ.ย) ขณะที่ทางสถาบันวิทยาศาสตร์อาหารแห่งปักกิ่ง ซึ่งดูแลศูนย์วิจัยแห่งนี้ ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น
.
สำนักข่าวปักกิ่งนิวส์ รายงานว่าตลาดค้าส่งอาหารทั้ง 6 แห่งที่ชายทั้งสองคนได้ไปเดินซื้อของ บางแห่งต้องปิดทำการทั้งตลาด แต่บางตลาดปิดทำการแค่เพียงบางส่วน
.
สืบเนื่องจากการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 วันติด ทำให้รัฐบาลเมืองปักกิ่งระบุว่าพวกเขายกเลิกแผนกับมาเปิดเรียนสำหรับเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 3 ซึ่งเดิมทีมีกำหนดกลับสู่ชั้นเรียนในวันจันทร์หน้า(15มิ.ย.)
.
นอกจากนี้แล้วรัฐบาลเมืองปักกิ่งยังบอกด้วยว่าร้านอาหารต่างๆจะต้องถูกตรวจสอบและตรวจเช็กผลิตภัณฑ์อาหารทะเล เนื้อสดและเนื้อแช่แข็งทั้งหมด

-------------------------------
แหล่งข่าว
https://mgronline.com/around/detail/9630000061140
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

ชาวท่าอิฐ ยื่นหนังสือร้องรัฐฯให้นำคนไทยพุทธและมุสลิมที่ติดค้างในอียิปต์กลับประเทศ

วันที่ 13 มิ.ย. 63 ที่มัสยิดท่าอิฐ ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.นนทบุรี ญาติและผู้ปกครองคนไทยที่อยู่ในประเทศอียิปต์ เดินทางเข้าพบนายปรีดา เชื้อผู้ดี นายก อบต.ท่าอิฐและที่ปรึกษานายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี พร้อมยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือส่งหนังสือไปยังรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ให้นำคนไทยมุสลิมและไทยพุทธ ที่ยังติดค้างอยู่ในประเทศอียิปต์ได้เดินทางกลับประเทศ

นายปรีดา เชื้อผู้ดี กล่าวว่าตอนนี้เท่าที่มีการตรวจสอบพบว่ายังมีคนไทยที่เป็นคนไทยมุสลิม และคนไทยพุทธรวมทั้งนักศึกษาและบุคคลทั่วไป ยังคงติดค้างที่ประเทศอียิปต์กว่า 4,000 คน ตอนนี้ได้รับแจ้งว่ามีคนไทยผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 38 ราย จากกการสอบถามผู้ที่ตกค้างอยู่ในขณะนี้ให้ข้อมูลว่า ถ้าคนไทยที่ติดเชื้อเข้าไปทำการรักษาที่รพ.ในประเทศอียิปต์ ก็จะได้รับการดูแลรักษาแค่ให้ยาพาราเซตามอล มากินเท่านั้นและให้กลับบ้านไปรักษาตัว โดยทางแพทย์ของเขาแนะนำว่าให้กลับไปรักษาตัวที่ประเทศไทยจะดีที่สุด เพราะแพทย์ของประเทศไทยมีความสามารถในการรักษา ทำให้คนไทยที่ตกค้างพยายามจะเดินทางกลับประเทศแต่ติดตรงที่เปิดเที่ยวบินให้เดินทางกลับได้แค่เที่ยวละ 200 คน ต่อเดือนเท่านั้น ถ้าเป็นแบบนี้จะต้องใช้เวลานานกว่า 8 เดือนถึงจะเดินทางกลับได้หมด จึงอยากขอให้ทางรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือให้การเพิ่มเที่ยวบิน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆญาติและผู้ปกครองจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมดขอให้ได้เดินทางกลับบ้านได้ก็พอแล้ว หลังจากนี้จะนำหนังสือไปยื่นผ่านไปยังสำนักจุฬาราชมนตรี เพื่อประสานไปยังรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอให้ช่วยเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด

The post ชาวท่าอิฐ ยื่นหนังสือร้องรัฐฯให้นำคนไทยพุทธและมุสลิมที่ติดค้างในอียิปต์กลับประเทศ appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

ใน 130600 มิ.ย.63 #พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ทวีกำลังขึ้นเป็นเป็นพายุโซนร้อนมีชื่อว่านูรี และเคลื่อนตัวไปขึ้นบริเวณประเทศจีนตอนใต้ ในช่วงวันที่ 14 มิ.ย. 63 ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทเลอันดามันและประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งได้

 

ทรัมป์ ออกมาทวีต ประกาศให้ผู้ว่าการเมือง ยึดเมืองคืนจากผู้ชุมนุมประท้วงทันที

ข่าวโลกที่3

 

เอาคืน .... ผู้ว่าการเมืองซิแอตเทิล โต้ คำขู่ของทรัมป์ว่า : จงกลับไปอยู่ในหลุมหลบภัยของคุณเสีย

ข่าวโลกที่3

 

#เมื่อชาวซีแอตเติลประกาศเขตปกครองตนเอง
#ทรัมพ์กับพระเดชของประธานาธิบดีสหรัฐ

เรื่องการชุมนุมประท้วงในสหรัฐชักจะวุ่นไปกันใหญ่ เมื่อมีชาวซีแอตเติลกลุ่มหนึ่ง ขึ้นไปยึดพื้นที่ในเขต Capital Hill หน้าสถานีตำรวจ และประกาศเขตปกครองตนเอง ที่เรียกว่า Capitol Hill Autonomous Zone (CHAZ)

โดยเนิน Capital Hill นี้ก็เป็นย่านชุมชนชื่อดังในเมืองซีแอตเติล ของรัฐวอชิงตันทางด้านตะวันตกของสหรัฐ ได้ชื่อว่าเป็นย่านแห่งสีสัน ไนท์ไลฟ์ยามค่ำคืน ของเมือง แต่ตอนนี้ บางส่วนของเขตนี้ถูกยึดกลายเป็นเขตปกครองตนเอง ปลอดทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าทีรัฐ

ซึ่ง CHAZ โซนที่ว่านี้ กินเนื้อที่ถึง 6 บล็อคตั้งแต่ถนน Broadway ไปจนถึง 13th Avenue ครอบคลุมพื้นที่ของสวนสาธารณะ คาล แอนเดอร์สัน พาร์ค ไว้ทั้งหมด และแน่นอนว่า สถานีตำรวจประจำย่านอยู่ในเขตพื้นที่นี้ด้วย

การประกาศเขตปกครองของชาวซีแอตเติลครั้งนี้ เกิดจากความไม่พอใจที่มีการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมประท้วงในกรณีจอร์จ ฟลอยด์ กับตำรวจในพื้นที่ ทำให้ชาวซีแอตเติลบางกลุ่มลุกขึ้นมาเคลมพื้นที่ของย่าน Capital Hill แห่งนี้ ประกาศเขตปกครองตนเอง

ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ประท้วงหลักๆคือ การปฏิรูปตำรวจ ลดงบประมาณ ยกเลิกการดำเนินคดีของกลุ่มผู้ประท้วงที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ เรียกร้องให้คืนพื้นที่สถานีตำรวจเป็นอาคารสาธารณะ เป็นต้น

โดยกลุ่มผู้ประท้วงก็มาปักหลัก ตั้งแคมป์อยู่ยาว จัดกิจกรรม มีการแสดง กันในย่านนี้ โดยเปิดให้คนทั่วไปเข้ามาร่วมกิจกรรมได้ ยกเว้น ตำรวจ!

และแน่นอนว่า พอเรื่องถึงหูท่านเสี่ยอ่าง โดนัลด์ ทรัมพ์ ของเรา มีหรือจะไม่ระเบิดแตกลั่นทวิตเตอร์

"Seattle Mayor says, about the anarchists takeover of her city, "it is a Summer of Love". This Liberal Dams don't have a clue. The terrorists burn and pillage our cities, and they think it is just wonderful, even the death. Must end this Seattle takeover now!

"ท่านนายกเทศมนตรีบอกว่า พวกกลุ่มอนาธิปไตยไม่นิยมรัฐที่มายึดบ้านเมืองของเธอว่า "มันเป็นแค่ซัมเมอร์แคมป์สุขสันต์" พวกลิเบอรัล เดโมแครต ไม่เข้าใจหรือไง ว่าพวกนี้มันเป็นผู้ก่อการร้าย เผาบ้าน เผาเมือง นะเบบี๋ มันไม่ใช่แก๊งค์ปาร์ตี้เฮฮา มันเอาถึงตาย ต้องหยุดเรื่องพวกนี้เดี๋ยวนี้ ยึดเมืองคืนมา!"

ซึ่งนายกเทศมนตรีหญิงของซีแอตเติลคนปัจจุบันคือ เจนนี เดอร์แคน ของพรรคเดโมแครต ก็หาได้สนคำขู่ของท่านเสี่ยทรัมพ์ไม่ จัดการตอบโต้คำสั่งของทรัมพ์ ด้วยคำพูดเจ็บแสบ

"Make us all safe. Go back to your bunker."
"ถ้าอยากคุ้มครองพวกเราจริงๆ ก็กลับไปหลบหลังบังเกอร์เหมือนเดิมจะดีกว่า"

แม้แต่ผู้ชุมนุมประท้วงในเขตปกครองพิเศษ (เฉพาะกิจ) ก็บอกว่า โอ้ย! ชิลล์ครับ มันเป็นการชุมนุมที่สันติจะตาย ทรัมพ์ขู่จะบุก ก็มาดิครับ กลัวที่ไหน

ก็เลยกลายเป็นที่มาของชุมชนพิเศษบน Capital Hill ที่ยังไม่รู้ว่าจะเลิกชุมนุมกันเมื่อไหร่ หรือจะปักหลักอยู่กันถาวร อย่างนั้นจะดีหรือ??

และจะวุ่นวายหนักขึ้นไปอีก หากมีการประกาศเขตปกครองตนเอง ในพื้นที่อื่นๆ และในรัฐอื่นๆของสหรัฐอเมริกา เพื่อท้าทายท่านเสี่ยทรัมพ์ ไม่ว่าจะสมัครใจมากันเอง หรือมีใครหนุนหลัง มันก็จะสุ่มเสี่ยงบานปลาย จนอาจไปสุดสายที่โซเวียตโมเดลได้เหมือนกันนาจ๊า

แต่ตอนนี้เรายังไม่มองไกลถึงขั้นนั้น เอาแค่ปัญหาเฉพาะหน้าของท่านเสี่ยทรัมพ์ตอนนี้ก่อน นั่นก็คือ การเผชิญหน้ากับความท้าทาย ที่เอาพระเดช พระคุณในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นเดิมพัน

เพราะตอนนี้ คิดว่าคนทั้งโลกน่าจะรับรู้ถึงความแตกแยกของรัฐบาลกลางสหรัฐ กับรัฐบาลท้องถิ่นที่คุมโดยพรรคเดโมแครตฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจน จากกรณีของจอร์จ ฟลอยด์

ถึงแม้ความขัดแย้งนี้ มีมานานแล้ว แต่สุดท้ายคำสั่งจากประธานาธิบดีมักถือเป็นจุดสิ้นสุดตามกระบวนการปกครองของสหรัฐ ไม่ว่าประธานาธิบดีจะมาจากพรรคฝ่ายใดก็ตาม

แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แล้ว

การต่อต้าน การเพิกเฉย และการไม่เห็นหัว ถูกแสดงออกมาอย่างชัดเจน ความขลัง และความศักดิ์สิทธิ์ของภาพลักษณ์ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐถูกลดทอน ตกต่ำอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน

ตอนที่ทรัมพ์เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีใหม่ๆ มีหลายคนเคยทำนายไว้ว่า เราน่าจะได้เห็น "อะไรดีๆ" มากมายในยุคของทรัมพ์

คำว่า "อะไรดีๆ" นั้นมีความหมายแฝงอยู่หลายอย่างมาก ไม่ใช่สิ่งที่จะเป็น Something Good เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องราวที่เคยถูกเก็บซ่อนอยู่ใต้เงาของทำเนียบขาวที่คนนอกอาจไม่เคยรู้ ชาวโลกอาจไม่เคยเห็นมาก่อน ก็จะได้เห็น

แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

นี่ยังไม่จบทรัมพ์ 1 ยังเห็นเสียขนาดนี้ ถ้าท่านเสี่ยมีวาสนา ได้ไปต่อใน ทรัมพ์ 2 สงสัยอเมริกาคงล่อนจ้อน โป๊ เปลือยไม่เหลือหล่ะค่า

แหล่งข้อมูล

https://www.aljazeera.com/news/2020/06/bunker-seattle-mayor-hits-trump-200612062032717.html

https://www.theguardian.com/us-news/2020/jun/11/chaz-seattle-autonomous-zone-police-protest

https://www.theguardian.com/us-news/2020/jun/11/trump-seattle-threats-protests-twitter-complaints

https://www.usatoday.com/story/news...-hill-autonomous-zone-police-free/3173968001/

https://edition.cnn.com/2020/06/11/us/seattle-police-autonomous-zone/index.html

https://en.wikipedia.org/wiki/Capitol_Hill_Autonomous_Zone

 

หนึ่งในผลกระทบจากภาวะโลกร้อนคือการละลายของน้ำแข็งและทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น เกาะต่างๆ ที่ไม่สูงมากอาจจมน้ำในอีกไม่นาน เช่นเดียวกับเมืองชายฝั่งทั่วโลกที่จะทะยอยจมน้ำไปเรื่อยๆ หากเราหยุดโลกร้อนไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือกรุงเทพมหานครด้วย

• แต่จากการวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา พบว่ามีเกาะเล็กๆ แถบมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลแคริบเบียนสามารถปรับตัวให้รอดจากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลได้อย่างเหลือเชื่อ อาจจะเป็นการหักปากกาเซียนที่เชื่อมั่นกันมาตลอดว่ายังไงเกาะเล็กๆ ต้องไม่รอดจากภาวะโลกร้อนแน่นอน

• การค้นพบที่น่าทึ่งนี้ตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances จากการศึกษานาน 3 ปีนำโดยทีมงานของมหาวิทยาลัยพลีมัธในสหราชอาณาจักร ซึ่งทำการศึกษาเกาะปะการัง เช่น มัลดีฟส์และหมู่เกาะมาร์แชล พบว่าหากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น กระแสน้ำก็จะพัดพาตะกอนเพื่อสร้างผืนทรายหรือผืนดินให้สูงขึ้นไปอีก

• กระบวนการนี้เป็นเหมือนการย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของเกาะปะการังเหล่านี้ เพราะเกาะประเภทนี้ก่อตัวขึ้นเมื่อหลายแสนปีก่อนโดยคลื่นจะซัดเอาเศษปะการังหรือตะกอนมายังเนินทรายจนกลายเป็นผืนเกาะที่สูงเหนือน้ำพอสมควร ปรากฎว่าเมื่อโลกร้อนขึ้นและน้ำทะเลสูงขึ้นกลไกตามธรรมชาติที่เคยให้กำเนิดเกาะพวกนี้กำลังจะช่วยกอบกู้พวกมันให้รอดพ้นจากการจมทะเล

• นักวิทยาศาสตร์ได้สร้างแนวปะการังและเกาะจำลองในถังทดลองที่มีระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ และใช้การจำลองด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อเลียนแบบสถานการณ์เหมือนกับเกาะเหล่านี้ว่าจะตอบสนองต่อระดับทะเลที่สูงขึ้นได้อย่างไร

• ผลก็คือหากเกาะเหล่านี้ปล่อยให้ชายฝั่งเป็นธรรมชาติ ไม่มีการสร้างแนวกั้นคลื่น และไม่สร้างอาคารขวางแนวน้ำท่วม โดยยกพื้นให้สูงขึ้นเพื่อปล่อยให้ธรรมชาติพัดพาตะกอนมาทับถมที่ชายฝั่งจะช่วยให้เกาะมีความสูงเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ

• อีกวิธีหนึ่งที่กึ่งธรรมชาติคือการขุดเอาทรายปะการังตามลากูน (ทะเลสาบน้ำเค็มริมทเะล) ตามชายหาดเพื่อกระตุ้นกระบวนการทับถมตามธรรมชาติให้เร็วขึ้น วิธีนี้จะช่วยให้เกาะรับมือกับน้ำทะเลที่สูงขึ้น เพราะน้ำแข็งขั้วโลกยังคงละลายเพิ่มมากขึ้น

• สิ่งที่ห้ามทำคือการสร้างกำแพงกั้นคลื่นเพราะมันจะทำให้กระบวนการนี้หยุดชะงัก การสร้างกำแพงกั้นคลื่นจะทำให้คลื่นไม่สามารถซัดเอาตะกอนมาทับถมได้ เกาะเหล่านี้จะต้องปล่อยให้น้ำทะเลท่วมเข้ามาอย่างเป็นธรรมชาติเพื่อให้มันเยียวยาตัวเอง

• ถึงแม้ว่าน้ำทะเลที่ท่วมเข้ามาจะทำให้ดินเค็ม แต่เป็นสิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยนกับการที่เกาะต้องจมไปตลอดกาล แต่เมื่อเทียบกับปัญหาโลกร้อนแล้ว ดินเค็มจะกลายเป็นเรื่องเล็ก เพราะเกาะพวกนี้เพาะปลูกไม่ค่อยได้ผลอยู่แล้วและต้องนำเข้าอาหารส่วนใหญ่จากภายนอก

ข้อมูลจาก
• Climate Change: Small islands may not disappear under rising seas, researchers find (Reuters)
ภาพจาก
• EwanSmith / wikipedia.org

 

• ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี ออกคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอาคาร อาทิ ขนำเป้าหอยและโฮมสเตย์ หรือสิ่งใดที่ได้ก่อสร้างในพื้นที่จับสัตว์น้ำบริเวณอ่าวบ้านดอนออกภายใน 60 วัน แก้ศึกแย่งผลประโยชน์

• นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ลงนามในคำสั่งให้มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอาคาร อาทิ ขนำเป้าหอยและโฮมสเตย์ หรือสิ่งใดที่ได้ก่อสร้างหรือติดตั้งในพื้นที่จับสัตว์น้ำบริเวณอ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานีโดยอาศัยมาตรา 103 แห่งพระราชกำหนดประมง 2558 และแก้ไขเพิ่มเติมที่ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้ผู้สร้างหรือติดตั้งรื้อถอนสิ่งนั้นออกจากที่จับสัตว์น้ำในระยะเวลาที่กำหนด 60 วัน นับจากวันที่ออกประกาศลงวันที่ 12 มิ.ย. 2563

• สำหรับปัญหาความขัดแย้งแย่งชิงผลประโยชน์ลูกหอยแครงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในบริเวณอ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการและชาวประมงในพื้นที่มาหลายครั้งนานกว่า 2 เดือน

• ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2563 กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านจากจังหวัดใกล้เคียงนำเรือประมาณ 30 ลำ ปิดร่องน้ำอ่าวบ้านดอน ทำให้เรือทุกชนิดผ่านไม่ได้ ยกเว้นเรือขนาดเล็ก ทำให้ น.อ.วศากร สุนทรนันท์ รองผู้อำยวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ประจำ จ.สุราษฎร์ธานี ต้องลงพื้นที่เข้าเจรจา และขอเวลาให้รัฐแก้ปัญหาภายใน 2 เดือน ในที่สุดกลุ่มชาวปนะมงพอใจและยอมสลายตัว

• เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. น.อ.วศากร ได้ปล่อยแถวกำลังทหารเรือ ตำรวจ และอาสาสมัครรักษาดินแดนกว่า 30 นาย ลงพื้นที่รักษาความปลอดภัยในทะเลอ่าวบ้านดอนในพื้นที่ ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน ซึ่งยังมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งลงเก็บหาลูกหอยแครง แต่ไม่ได้รุกล้ำเข้าไปยังเขตคอกหอยของผู้ประกอบการ

• อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีชายฉกรรจ์ขับเจ็ตสกียิงปืนข่มขู่กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านอ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี จนต้องหนีกันอลหม่าน ภายหลังทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายสันติ นวลเสน อายุ 29 ปี ชาว อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ สภ.พุนพิน อ.พุนพิน สอบสวนและแจ้งข้อหายิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ขณะที่นายสันติ ได้ขอแจ้งความดำเนินคดีกับชาวบ้านในข้อกล่าวหาบุกรุกและรวมกันปล้นทรัพย์

• เบื้องต้นนายสันติ ให้การว่า บ้านตัวเองทำธุรกิจเลี้ยงหอยทะเลใน อ.ท่าฉาง และเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้มาซื้อคอกหอยจากชาวบ้านที่บ้านคลองราง หมู่ 2 ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน จำนวน 30 ไร่ ในราคา 150,000 บาท และเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา เพิ่งซื้อลูกหอยจากชาวบ้านในเขต 1,000 เมตร เป็นเงิน 2,200,000 บาท แต่มาทราบว่าหลังจากนั้นมีชาวบ้านย้อนไปตักเก็บลูกหอย จึงไปแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ว่าเป็นหอยที่ตนเองซื้อมาเพาะเลี้ยงไว้ จนนำมาสู่การใช้ปืน 9 มม.ยิงปืนข่มขู่

• ทั้งนี้ วันเดียวกันนายวิชวุทย์ ได้มีคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ 3437/2563 แก้ไขคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะอ่าวบ้านดอน โดยให้นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่กำกับดูแลงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน โดยมีอัยการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 16 คนเป็นคณะทำงาน โดยมี รอง ผอ.ศรชล.จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเลขานุการ ซึ่งจะดำเนินการกำกับดูแลการแก้ไขปัญหาอ่าวบ้านดอนให้เป็นไปตามกฎหมาย แจ้งความ ร้องทุกข์ ดำเนินคดี รวมทั้งกำหนดแผนการรื้อถอนในพื้นที่อำเภอต่างๆ

• พื้นที่พิพาทอ่าวบ้านดอนอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวไทย มีความยาวประมาณ 120 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 6 อำเภอของ จ.สุราษฎร์ธานี คือ อำเภอไชยา ท่าฉาง พุนพิน เมือง กาญจนดิษฐ์ และอำเภอดอนสัก มีพื้นที่การใช้ประโยชน์ 300,000 ไร่ มูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี

อ้างอิง:
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/884867
https://www.posttoday.com/social/local/625887

 

ทัวร์ลงผู้กองเบนซ์รอบ 2 หลังชี้คนไม่นับถือศาสนา ยิ่งใหญ่มาจากไหนไม่เชื่อเรื่องนรก

ผู้กองเบนซ์ หรือ ร.ต.อ.สี่ทิศ อ่ำถนอม เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก และแชลแนล “Capt.Benz” จากอดีตที่เคยรับใช้ชาติเป็นตำรวจตระเวนชายแดน ที่ผันตัวมาสู่การทำธุรกิจยุคดิจิทัล โดยเริ่มจากการทำสติ๊กเกอร์ไลน์ , E-Book , คอร์สการขาย หรือความรู้ออนไลน์ ฯลฯ และวันนี้เขาก้าวมาสู่วงการนักพูดสร้างแรงบันดาลใจแต่ย้ำชัดว่าตนไม่ใช่ “ไลฟ์โค้ช” แต่แค่ฝึกคน สร้างคนได้ จนได้ชื่อว่าเป็น เทรนเนอร์นักพูดที่ดังที่สุดในขณะนี้

ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้กองเบนซ์ เคยมีดราม่าเรื่อง คนที่อยู่บ้านเฉยๆ ไม่คิดทำอะไรแล้วเรียกร้องขอการเยียวยาช่วงวิกฤตโควิด-19 ระบาด เป็นพวกขี้เกียจใจไม่สู้ จนชาวเน็ตเข้าไปรุมตำหนิผุ้กองเบ้นมาแล้วรอบหนึ่ง โดยครั้งนั้น #ผู้กองเบนซ์ ก็ติดเทรนด์ทวิตเตอร์

ล่าสุดทัวร์ลงผู้กองเบนซ์ รอบ 2 หลังเจ้าตัวออกมพูดถึงเรื่อง เปรต มีจริง? โดยผู้กองเบนซ์ได้ บอกว่า มนุษย์ ไม่ได้อยู่ในแดนสุข แต่อยู่ในแดนทุกข์และชั้นของอบายภูมิ มีทั้งหมด 4 ชั้น 1. ชั้นล่างสุด เป็นสัตว์นรก 2. ชั้นต่อมา เป็นอสูรกาย 3. ชั้นที่สูงขึ้นมา เป็นเปรต 4. ชั้นที่สูงกว่านี้ เป็นสัตว์เดรัจฉาน เพราะเหตุนี้มนุษย์ควรอย่าหลงตัวเองว่าเป็นแดนสุข เพราะอยู่ร่วมกันกับสัตว์เดรัจฉาน มนุษย์นั้น เกิดมาเพื่อที่จะเรียนรู้ทุกข์ ไม่ใช่รับทุกข์อย่างเดียว รวมถึงอย่าคิดว่า มนุษย์เกิดมาเพื่อใช้กรรม นั่นคือ เราวางจิตเท่ากับสัตว์ในอบายภูมิเลย

และก่อนจะจบคลิป ผู้กองเบนซ์ ได้พูดถึงผู้ที่ไม่นับถือศาสนาว่า หากไม่นับถือศาสนา ชีวิตจะเอาอะไรไปยึดเหนี่ยว หรือเอายึดใจตัวเองไปยึดเหนี่ยว ถ้าเอาใจตัวเองไปยึดเหนี่ยว ตอนนี้มีใจเป็นสัมมาทิฏฐิ หรือมิจฉาทิฏฐิล่ะ ถ้าตอบได้ว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ ก็โอเคอนุโมทนา แต่ถ้าตอบไม่ได้ ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร นรกเป็นของใคร เป็นของพุทธศาสนาอย่างเดียวหรือ ทุกศาสนาพูดเหมือนกันหมดเรื่องนรก คุณเป็นใคร ถึงเชื่อว่า นรก ไม่มี คุณเป็นใครคุณยิ่งใหญ่กว่าศาสดาเหล่านั้นเหรอ คุณนรู้อะไรและเกิดมากี่ปีแล้วแต่คุณเถอะ ไม่เชื่อก็เรื่องของคุณ ไปเป็นเปรตมาแล้วมารายงานตัวด้วย ผู้กองเบนซ์ทิ้งท้าย

ทั้งนี้หลังจากคลิปได้ถูกเผยแพร่ออกไปเหล่าชาวเน็ตบางรายถึงกับไม่พอใจที่ผู้กองเบนซ์พูดถึงคนไม่มีศาสนา พร้อมทั้งบอกว่าก้เป็นคนดีได้

CR : ผู้กองเบนซ์ – Capt.Benz

The post ทัวร์ลงผู้กองเบนซ์รอบ 2 หลังชี้คนไม่นับถือศาสนา ยิ่งใหญ่มาจากไหนไม่เชื่อเรื่องนรก appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

สื่อต่างประเทศรายงานว่า ทางการมาเลเซียเรียกร้องให้บังกลาเทศ นำตัวชาวโรงฮิงญาเกือบ 300 คนกลับประเทศด่วน หลังทั้งหมดถูกควบคุมตัวเพราะล่องเรือหลบหนีเข้ามาในน่านน้ำมาเลเซีย
.
รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย อิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ ให้สัมภาษณ์ว่า ชาวโรฮิงญาควรรู้ดีว่าหากรุกล้ำเข้ามาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ เพราะมาเลเซียไม่สามารถรับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาได้อีกแล้ว นับตั้งแต่จำกัดพรมแดนเพื่อควบคุมโรคติดเชื้อโควิด-19 กระทรวงต่างประเทศจะขอให้รัฐบาลบังกลาเทศรับกลับคนกลุ่มนี้หากตรวจสอบพบว่าหลบหนีมาจากค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ
.
โดยอาจจะขอให้นำตัวไปยังเกาะพาซัน ชาร์ ที่ทางการบังกลาเทศเตรียมไว้เป็นที่พักของผู้ลี้ภัย และจะขอให้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอชซีอาร์ (UNHCR) ดำเนินการหาที่ตั้งถิ่นฐานในประเทศที่สามต่อไป
.
ด้านนายเอ เค อับดุล โมเมน รัฐมนตรีต่างประเทศบังกลาเทศเผยว่า บังกลาเทศไม่มีพันธะ หรืออยู่ในจุดที่สามารถรับชาวโรฮิงญาได้อีกแล้ว ขอให้ประชาคมโลกช่วยจัดหาที่ตั้งถิ่นฐานให้แก่ชาวโรฮิงญาลี้ภัยในบังกลาเทศที่มีมากถึง 1.1 ล้านคน ขณะที่ยูเอ็นเอชซีอาร์ส่งอีเมลตอบข้อถามของรอยเตอร์ว่า ที่ตั้งถิ่นฐานทั่วโลกมีอยู่อย่างจำกัด จึงไม่ใช่ทางออกสำหรับผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่
.
สิ่งที่ผู้ลี้ภัยต้องการคือ การได้รับความคุ้มครองในประเทศที่กำลังขอลี้ภัย จนกว่าจะสามารถมีชีวิตที่ปลอดภัยและมีศักดิ์ศรีด้วยการกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิดอีกครั้งหรือไปตั้งถิ่นฐานในประเทศอื่น โดยมาเลเซียได้ควบคุมตัวชาวโรฮิงญา 269 คน และพบศพสตรีหนึ่งคน บนเรือที่พังเสียหายใกล้เกาะลังกาวีเมื่อวันจันทร์
.
โดยกลุ่มสิทธิสองกลุ่มเผยกับรอยเตอร์ว่า สันนิษฐานว่าเรือลำนี้ล่องออกจากบังกลาเทศตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ บนเรือน่าจะมีคน 700-800 คน ขณะนี้ยังไม่รู้ชะตากรรมของคนที่ไม่ถูกควบคุมตัว

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.thedailystar.net/malaysia-ask-bangladesh-take-back-rohingya-refugees-found-sea-1911601

https://www.thejakartapost.com/seas...take-back-rohingya-refugees-found-at-sea.html

https://www.mcot.net/viewtna/5ee063aae3f8e40af844ff52
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

ไม่นานมานี้นายนิวัฒน์ วัฒนยมนาพร กรรมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ และศิลปกรรมท้องถิ่น จ.กระบี่ พร้อมด้วยทีมงานชมรมคนรักถ้ำกระบี่ ออกมาเปิดเผยถึงผลการเข้าสำรวจซากฟอสซิลหอยจำนวนมากที่บริเวณลำห้วยปากหมาก ภายในซอยสวนปาล์มมาเลย์ บ้านคลองยา ม.3 ต.คลองยา อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
.
หลังจากรับแจ้งว่า พบฟอสซิลดังกล่าวจำนวนมาก ตลอดแนวลำห้วยระยะทางเกือบ 100 เมตร สร้างความตื่นเต้นแก่ทีมสำรวจเป็นอย่างมาก จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่าเป็นฟอสซิลหอยกาบ หรือหอบติบ ซึ่งเป็นหอยน้ำเค็ม อยู่ในยุคดึกดำบรรพ์ ยุคเพอร์เมียน คาดว่าอายุราว 270-290 ล้านปี จึงได้บันทึกภาพไว้ เป็นหลักฐาน
.
โดยนายนิวัฒน์ กล่าวว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก เนื่องจากบริเวณห้วยปากหมากอยู่ในเนินหุบเขาสูง มีลักษณะชั้นดิน ชั้นหิน ห่างจากทะเลหลายสิบกิโลเมตร แต่กลับพบเจอฟอสซิลหอยกาบ หรือ หอยติบ จำนวนมาก ซึ่งเป็นหอยน้ำเค็ม อยู่ในจำพวกหอยสองฝา ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาเป็นระยะเวลาหลายล้านปี
.
จึงเหมาะที่จะเป็นแหล่งอนุรักษ์ เพื่อให้ชนรุ่นหลังให้สืบค้น ศึกษาเรียนรู้ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวในอนาคต และคาดว่า บริเวณดังกล่าวหากมีการสำรวจอย่างจริงจังอาจะมีจะมีฟอสซิลอื่นเพิ่มเติมด้วย

-------------------------------
แหล่งข่าว
https://www.thaipost.net/main/detail/68420
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

นักวิจัยสหรัฐฯพบการกลายพันธุ์ของโควิด อาจเพื่อจับกับเซลล์มนุษย์ง่ายขึ้น
ทีมนักวิจัยด้านไวรัสวิทยาในสหรัฐฯ เผยผลงานการวิจัย พบการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 อาจเพื่อทำให้สามารถจับกับเซลล์มนุษย์ได้ง่ายกว่าเดิมมากขึ้น จนมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ในสหรัฐฯ-ลาตินอเมริกา
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

เมื่อ 13 มิ.ย.63 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงาน เหล่านักวิจัยที่สถาบันวิจัย Scripps (สคริปป์ส) ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐฯ เชื่อว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 มีการกลายพันธุ์เพื่ออาจทำให้สามารถจับกับเซลล์ในร่างกายของมนุษย์ได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม

ขณะเดียวกัน บรรดานักวิจัยเหล่านี้ระบุว่า การกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 มีผลต่อโปรตีนที่ spike หรือหนามโปรตีนรอบเซลล์ของมัน ที่ใช้ในการจับกับเซลล์มนุษย์ ซึ่งหากมีการค้นคว้าเพื่อยืนยันในเรื่องนี้เพิ่มเติม จะถือเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ที่มีการพบการเปลี่ยนแปลงที่มองเห็นได้ในเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างมีนัยสำคัญ อันส่งผลทำให้เกิดการระบาดรุนแรงมากขึ้น จนมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากทั้งในสหรัฐอเมริกาและลาตินอเมริกา

‘ไวรัสที่มีการกลายพันธุ์นี้ทำให้สามารถจับกับเซลล์มนุษย์ได้มากกว่าระบบวัฒนธรรมของเซลล์ที่ไม่ได้กลายพันธุ์’ Hyeryun Choe นักไวรัสวิทยาที่สถาบันสคริปป์ส ซึ่งช่วยในการศึกษาวิจัยนี้ระบุในแถลงการณ์

ซีเอ็นเอ็นระบุว่า Choe และทีมนักวิจัย ได้ดำเนินการชุดการทดลองในจานปฏิบัติการในห้องแล็บ ที่แสดงให้เห็นว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 มีการกลายพันธุ์ และตั้งชื่อเรียกว่า ‘D614G’ ซึ่งทำให้เชื้อโควิด-19 มีหนามโปรตีนมากขึ้น และหนามโปรตีนเหล่านี้ยังมีความมั่นคงมากขึ้น ซึ่งทำให้ง่ายต่อการจับเซลล์มากขึ้นกว่าเดิม

Choe และทีมนักวิจัย ได้โพสต์การค้นพบครั้งนี้ลงในเว็บไซต์ BioRxiv ที่เผยแพร่ผลงานการวิจัยก่อนตีพิมพ์ ซึ่งหมายถึงการวิจัยนี้ยังไม่ได้รับการตรวจทานโดยผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้ อย่างไรก็ตาม Choe และทีมนักวิจัย ได้ส่งเปเปอร์ ผลงานวิจัยไปให้แก่ William Haseltine นักไวรัสวิทยา และยังเป็นผู้คิดค้นด้านไบโอเทคโนโลยี รวมทั้งดำรงตำแหน่งประธาน Access Health International โดย Haseltine เชื่อว่าการค้นพบครั้งนี้ของ Choe และทีมนักวิจัย ทำให้สามารถอธิบายได้ว่าทำไมเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงมีการติดเชื้อกันได้ง่ายทั่วอเมริกา

‘งานวิจัยนี้มีความสำคัญ เพราะแสดงให้เห็นว่าไวรัสสามารถเปลี่ยนแปลง โดยเป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อเป็นฝ่ายได้เปรียบ และมีความเป็นไปได้ที่มนุษย์เรา ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ’ William Haseltine กล่าวกับซีเอ็นเอ็น

ที่มา : CNN

 

“องค์การอนามัยโลก” วอนผู้นำประเทศ ย้ำคำมั่นให้ทั่วโลกเข้าถึง ‘วัคซีนโควิด’

วันนี้ (13 มิ.ย.) ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่จะมีการผลิตในอนาคต ควรถือเป็นสินค้าที่ประเทศต่างๆ ให้ทั่วโลกสามารถเข้าถึง เพื่อรับประกันว่าทุกคนสามารถได้รับวัคซีนที่จะสามารถช่วยชีวิตมนุษย์

“ผู้นำของโลกหลายคนได้ส่งเสริมแนวคิดที่ว่าจะมีการผลิตวัคซีนเป็นสินค้าสาธารณะระดับโลก ซึ่งแนวคิดนี้ควรได้รับการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง และผู้นำมากขึ้นควรมีแนวคิดดังกล่าว โดยเราจำเป็นต้องมีการแสดงเจตนารมณ์ความมุ่นมั่นทางการเมืองทั่วโลก และเป็นฉันทามติระดับโลก ก่อนที่จะผลิตวัคซีนสำเร็จ” ผอ.ใหญ่ดับเบิลยูเอชโอ กล่าว

ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก กล่าวด้วยว่า หลังมีความกังวลกันว่า บางประเทศ เช่น สหรัฐ อาจกักตุนวัคซีนหรือยาต้านโควิด-19 ที่ผลิตได้ เพื่อนำไปต่อสู้กับโควิด-19 ในประเทศ จนทำให้ประเทศที่ยากจนไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนและยาดังกล่าว

The post “องค์การอนามัยโลก” วอนผู้นำประเทศ ย้ำคำมั่นให้ทั่วโลกเข้าถึง ‘วัคซีนโควิด’ appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

อินเดียมึน ติดโควิดเพิ่มวันเดียว 1.1 หมื่น ทุบสถิติ ยอดสะสมเกิน 3 แสน
อินเดียยังเผชิญโควิด-19 ระบาดรุนแรง ยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในวันเดียวอีก 1.1 หมื่นราย ทุบสถิติสูงสุด ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อพุ่งทะยานเกิน 3 แสนราย ครองอันดับ 4 ของโลก
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

เผยคนไทย 4 พันคนในอียิปต์ รอคิวกลับประเทศ มี 38 คนติดโควิดฯ แล้ว
ญาติคนไทยในอียิปต์ ยื่นหนังสือ ขอให้เพิ่มเที่ยวบินนำคนไทยกลับประเทศ เผยยังมีตกค้างอยู่ถึง 4 พันคน มีป่วยโควิดฯ แล้ว38 คน หมอแนะนำให้กลับมารักษาที่ไทย แต่ติดที่รัฐบาลอนุญาตให้เดินทางกลับได้..
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

"พะเยา" แล้ง วอนรัฐทำฝนเทียม ขอแบ่งเงินกู้ 4 แสนล้าน ช่วยเกษตรกร
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา จี้ รัฐบาลเร่งทำฝนเทียม ช่วยพี่น้องชาวนา อำเภอจุน-เชียงคำ ช่วงทำนา เหตุแล้งหนัก ไม่ต้องการทุกข์ซ้ำซาก ทำนาข้าวเสียหายหนัก วอน แบ่งงบเงินกู้ 4 แสนล้าน
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

ลุ้น “หยุดชดเชย” เกิน 4 วัน “วิษณุ” ชี้อำนาจอยู่ที่ ครม.พิจารณา

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เผยถึงความคืบหน้าในการพิจารณาวันหยุดชดเชยสงกรานต์ว่า ตอนนี้เร็วไปที่จะพูดถึง เพราะเดือนหน้ามีวันหยุดถึง 4 วัน ซึ่งการพิจารณาวันหยุดเป็นอำนาจของ ครม. ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ต้องนำมาพูดกันในที่ประชุม ศบค. เพราะไม่เกี่ยวกับโควิด-19 แต่เป็นเรื่องสิทธิผู้ใช้แรงงาน วันหยุดราชการมีผลต่อข้าราชการ กับผู้ใช้แรงงาน ข้าราชการจะหยุดหรือไม่ ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร เพราะข้าราชการทำงาน 24 ชั่วโมง ที่หยุดเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลกรุณาให้ แต่ผู้ใช้แรงงานถือเป็นสิทธิที่ 1 ปี ควรจะมีวันหยุดได้กี่วัน เมื่อดึงวันสงกรานต์ออกมา ก็ต้องคืนกลับให้ผู้ใช้แรงงาน

โดยประเด็นหลักคือ คืนวันหยุดให้กับผู้ใช้แรงงาน มากกว่าข้าราชการ แต่ข้าราชการจะได้หยุดไปด้วย ไม่เช่นนั้นจะมีวันหยุดราชการ เช่น วันพืชมงคล ซึ่งผู้ใช้แรงงานไม่ได้หยุด และมีวันหยุดของผู้ใช้แรงงาน เช่น วันที่ 1 วันแรงงานแห่งชาติ แต่ข้าราชการไม่ได้หยุด แต่วันสงกรานต์หยุดด้วยกันทั้งข้าราชการและผู้ใช้แรงงาน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า โดยหลักการแล้วหากจะหยุดจะต้องไม่เกิน 4 วันใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับมติ ครม. หากให้เกิน 4 วัน ก็ถือว่าได้ ไม่ได้เป็นปัญหา ทั้งนี้ 4 วันที่เราเคร่งครัดกัน คือเรื่องของตลาดหุ้นกับธนาคาร ซึ่งเป็นคนละอย่างกัน เมื่อถามว่ากระแสข่าวที่หยุดยาว 6 วัน หรือ 9 วัน มีลุ้นใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า สุดท้ายก็เกิน 4 วันอยู่ดี มีข้อยกเว้นได้

The post ลุ้น “หยุดชดเชย” เกิน 4 วัน “วิษณุ” ชี้อำนาจอยู่ที่ ครม.พิจารณา appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

กพท.นัดถก 14 สายการบิน หารือเปิดการบินระหว่างประเทศ

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เผนว่า กพท.ได้ทำหนังสือถึงสายการบินที่จดทะเบียนในไทยและสายการบินเช่าเหมาลำจำนวน 13 – 14 สายการบินหารือวันที่ 16 มิ.ย.นี้ เกี่ยวกับความพร้อมการกลับมาทำการบินระหว่างประเทศ

การกลับมาเปิดทำการบินไม่ใช่เพียงประกาศเปิดแล้วจะกลับไปได้ทันที เพราะต้องถามความพร้อมสายการบินว่า

1. ต้องการไปจุดบินประเทศใด

2. ประเทศปลายทางเปิดรับให้สายการบินเข้าไปทำการบินหรือไม่ รวมทั้งผู้โดยสารต้องปฏิบัติอย่างไร และสายการบินต้องเตรียมระเบียบควบคุมโรคอย่างไร

สำหรับการประกาศเปิดให้สายการบินพาณิชย์ทำการบินระหว่างประเทศ จะมีผลในวันที่ 1 ก.ค.นี้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ประกอบกับกระทรวงสาธารณสุข ที่จะพิจารณาความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างไร

หลักเกณฑ์ข้อกำหนดในประกาศปลดล็อกการเดินทางด้วยอากาศยานเบื้องต้นมี 2 แนวทาง คือ

1. อนุญาตทำการบินไปบางประเทศที่มีความต้องการเดินทาง และประเทศปลายทางมีความปลอดภัย

2. อนุญาตเฉพาะกลุ่มที่มีความจำเป็นต้องเดินทาง เช่น นักธุรกิจ

ส่วนสถิติปริมาณผู้โดยสารระหว่างประเทศเดือน พ.ค.2563 มีเพียง 36,058 คน ลดลงจากเดือน เม.ย.2563 คิดเป็น 18.6% ขณะเดียวกันปริมาณผู้โดยสารในประเทศเดือน พ.ค.มี 422,359 คน เพิ่มขึ้นจากเดือน เม.ย. 2563 ประมาณ 3.6 เท่า หรือคิดเป็น 261.9% เพราะการผ่อนคลายข้อจำกัดในการเดินทางและสายการบินในประเทศให้บริการมากขึ้น

The post กพท.นัดถก 14 สายการบิน หารือเปิดการบินระหว่างประเทศ appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

จีนอ่วม พายุโซนร้อนนูรี จ่อถล่ม ขึ้นฝั่งภาคใต้ ซ้ำอุทกภัยก่อนหน้า
พายุโซนร้อน นูรี มาแล้ว มุ่งหน้าขึ้นฝั่งมณฑลกวางตุ้ง ทางภาคใต้ของจีน ที่เพิ่งประสบภัยน้ำท่วมรุนแรง เช่นเดียวกับอีกหลายมณฑลทางใต้ ขณะที่ฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุนูรี ขึ้นเป็นระดับ 3 แล้ว
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline