ติดตามสถานะการณ์

#มอร์มูฟเป็นข่าว ปรับแผนด่วน!!! แม้ Starbucks จะชูกลยุทธ์ Now Normal ไปยังพาร์ทเนอร์ หลังร้านทยอยกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง โดยมั่งมั่นสู่การเป็นบ้านหลังที่สาม แสดงถึงความอบอุ่นเพื่อรับกับความต้องการของลูกค้าและสังคมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาโดยคำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก แต่ดูเหมือนว่าการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 จะทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม Starbucks จึงต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับวิถี New Normal โดยล่าสุด Starbucks ประกาศแผนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในเชิงกลยุทธ์รองรับกับตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปในสหรัฐฯด้วยการปิดสาขา 400 แห่งภายในอีก 18 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ Starbucks ยังชะลอแผนการเปิดสาขาใหม่ในปีนี้ออกไป จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะเปิด 600 แห่ง ลดลงเหลือเปิดเพียง 300 แห่งเท่านั้น

Starbucks ให้เหตุผลว่า สาขาที่จะเปิดจะต้องมีโลเคชันแตกต่างจากที่อื่นและรูปแบบร้านค้าต้องเป็นแบบนวัตกรรมสมัยใหม่ โดยจะมุ่งเน้นไปที่การเปิดร้านแบบ pick-up ในพื้นที่ที่เป็นศูนย์ด้วยรูปแบบ drive-thrus, curbside pick-up คือการจอดรถยนต์หน้าร้านกาแฟแล้วพนักงานนำเครื่องดื่มที่สั่งมาให้ และการสั่งให้ลูกค้าสั่งออเดอร์ผ่านแอพพลิเคชัน ทั้งนี้ Starbucks คาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาส 3 ของปี 2020 จะลดลงประมาณ 3.0-3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19.
--------------------------------------------------
อ่านต่อ :
- https://www.smartsme.co.th/content/238204?fbclid=IwAR04cvyLYX9ELRvc5O4nV72MKwN_ZhYKBLHBguUJSl8Xr690VDeikn3ZrRE
- https://www.smartsme.co.th/content/236766

 

#มอร์มูฟเป็นข่าว ผงะเงิบ!!! รายงานวิจัยที่จัดทำโดยรัฐบาลอังกฤษชี้ว่า ชนกลุ่มน้อยในอังกฤษซึ่งเรียกรวมกันว่า BAME ได้แก่ กลุ่มคนผิวสี (Black) คนเอเชีย (Asian) และชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์อื่น (Minority Ethnic groups) มีโอกาสเสียชีวิตจาก COVID-19 หลังจากที่ติดเชื้อแล้ว มากกว่าคนผิวขาวราว 50% ทั้งนี้ รายงานที่จัดทำโดย สำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติของอังกฤษ ระบุว่า กลุ่มประชากรเชื้อสายบังกลาเทศคือกลุ่มที่มีความเสี่ยงเสียชีิวิตจาก COVID-19 มากที่สุด โดยมีความเสี่ยงมากกว่าประชากรผิวขาวราว 2 เท่า ขณะที่ประชากรเชื้อสายจีน อินเดีย ปากีสถาน ตลอดจนเชื้อสายแคริบเบียนและแอฟริกัน มีความเสี่ยงมากกว่าในระดับ 10% - 50%

** รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ แมทท์ แฮนค็อก ชี้แจงว่า ยังต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมในเรื่องนี้เพื่อให้เข้าใจว่า มีปัจจัยอะไรที่ทำให้เกิดความแตกต่างนี้และเพื่อหาทางลดความเสี่ยงของชนกลุ่มน้อยต่างๆ ในอังกฤษ

ก่อนหน้านี้ รายงานวิจัยในสหรัฐฯและฟินแลนด์ ได้ผลลัพธ์ในลักษณะคล้ายกัน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านชีวโมเลกุล ดร.สเตอร์กิออส มอสโชส์ แห่ง University of Northumbria ให้สัมภาษณ์ว่า ประชากรกลุ่ม BAME อาจมีพันธุกรรมบางอย่างที่ทำให้พวกเขาอ่อนไหวต่อโคโรนาไวรัสมากกว่า แต่นี่ยังเป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น.
--------------------------------------------------
อ่านต่อ : https://www.voathai.com/a/bame-people-more-likely-to-die-from-covid19/5458876.html

 

ชาติไหนกล้าหือรัสเซีย? เบลารุส คือหนึ่งในนั้น!

ตั้งแต่ปลายปี 2019 กระทั่งย่างเข้าสู่ปี 2020 และจวบถึงปัจจุบัน สัญญานำเข้าน้ำมันดิบ ก็ยังไม่อาจ “ลงเอย”

ที่ผ่านมา เบลารุสน้ำเข้าน้ำมันจากรัสเซียโดยไม่มีภาษี แล้วพอปี 2019 มันก็มี … เบลารุสต้องจ่ายให้รัสเซียตั้ง 330 ล้านดอลลาร์

ปี 2020 ก็จะขึ้นภาษีอีก คำนวณแล้วทั้งปีจะโดนไป 420-430 ล้านดอลลาร์ … เบลารุสไม่ทนอีกต่อไป!

.

ต่อรอง ต่อรอง และต่อรอง … แต่ตกลงกันไม่ได้สักที

เบลารุสไม่เกรง! ใจกล้าออกอาการ “ฮึดฮัด” ต่อหน้าพญาหมีขาว รัสเซียจึงบีบด้วยวิธี “หรี่ก๊อก” ปล่อยน้ำมันผ่านท่อให้เบลารุสน้อยลงๆ … ให้เบลารุสต้องดิ้น (แถมบางช่วง ก็ไม่หรี่ค่อย แต่บิดให้มิด ปิดก๊อกไปเลย!)

เบลารุสไม่หวั่น! ซ้ำยังกล้าท้าทายด้วยการยื่น “ข้อแม้”: จะส่งหรือไม่ส่งน้ำมันมาดีๆ ไม่งั้นจะ “อุดท่อ” ซะเลย

หมายความว่า ท่อขนส่งน้ำมันที่พาดผ่านเบลารุส จะถูก “ล็อก” ไม่ให้ใช้ … ไอ้ท่อที่ว่านี้มันไม่ได้ไหลเข้าเบลารุสที่เดียว ทว่ามันใช้ลำเลียงให้รัสเซียส่งออกไปยังชาติยุโรปอื่นๆ อาทิ เยอรมัน และ โปแลนด์

น้ำมันที่ไหลไปสร้างรายได้ให้รัสเซียนี้ ตกวันละ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน … มากแค่ไหน? อืมม์ ก็พอๆกับที่ไทยทั้งประเทศใช้กันเลยทีเดียว!

.

ประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก แห่งเบลารุส โวยว่ารัสเซียต้องการ “ผนวกรวม” เบลารุส อย่างที่เขมือบไครเมีย แล้วก็เอาน้ำมันมาเป็น “เงื่อนไข” หวังให้เบลารุสอกสั่นขวัญแขวน

ทำนองว่า “เอาแผ่นดินมาถวายซะดีๆ แล้วจะได้ซื้อน้ำมันถูกๆ มิฉะนั้น ก็ไม่ต้องได้น้ำมันซักหยดจากอั๊วเลย ไม่ขายโว้ย”

เบลารุสบอกโลกว่ารัสเซียมุ่งหมายเช่นนั้น …

ช่วงต้นปีนี้ รัสเซียส่งน้ำมันให้เบลารุสแค่ 5 แสนตัน ต่ำกว่าปกติที่ 2 ล้านตัน … หายไปตั้ง 3 ส่วน 4 เลยทีเดียว (ก็ยังดีกว่าไม่ส่งให้เลย!)

แต่เบลารุสก็ยังแข็งขืน

.

ทางออกของเบลารุสคืออะไร?

ไม่ง้อ! ตอนนี้ เบลารุสชิ่งไปทางอื่น … ทางนั้นอยู่ทิศตะวันตก … อเมริกานั่นเอง!

เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติเบลารุสที่นำเข้าน้ำมันดิบจากอเมริกา! ล็อตแรกมาแล้ว 8 หมื่นตัน และจะมีล็อตต่อๆไป

ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ก.พ. ตอนที่เบลารุสกำลังง่อนแง่นกับรัสเซียนั้น ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา “สบโอกาส” โฉบมาเยือนเบลารุส นับเป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปีที่ระดับบิ๊กๆของรัฐบาลอเมริกาย่ำที่นี่

ไมค์ ปอมเปโอ ให้คำมั่นว่า “อเมริกาจะส่งน้ำมันให้หมด 100% ที่ท่านต้องการด้วยราคาเป็นมิตร”

และมันก็ส่งถึงท่าแล้วในเดือน มิ.ย. นี้!

.

เอิ่ม แต่ก็ต้องอย่าลืมว่า อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก กับพรรคพวกถูกรัฐบาลอเมริกาคว่ำบาตรมานานนม ข้อหา “ไม่ประชาธิปไตย”

ถูกคว่ำมาตั้งแต่ปี 2006 และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (11 มิ.ย.) ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็บรรจง “ต่ออายุ” การคว่ำบาตรออกไปอีก 1 ปี

ผลประโยชน์ยังมีอุปสรรคในความสัมพันธ์ …

.

รัสเซีย จะใช้น้ำมันมา “ลงโทษ” เบลารุส แต่ทำไปทำมากลับกลายเป็นผลักไสให้เบลารุสไปอยู่ใต้ “ร่มเงา” ของศัตรูซะงั้น

ดีไม่ดี งานนี้อเมริกาอาจเอาประเด็น “คว่ำบาตร” กับ “น้ำมัน” มาแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่างกับเบลารุสในอนาคตก็ได้ … อะไรบางอย่างที่อาจทิ่มแทงรัสเซีย

รัสเซียล่ะว่าไง? จะเร่ง “ปิดบัญชี” สั่งสอนเบลารุส? หรือจะเอา “น้ำเย็นเข้าลูบ” โดยรีบเอา “น้ำมันลงท่อ” ผูกโบว์ส่งให้ด้วยไมตรี?

หมากนี้ของเบลารุส จะทำให้สถานะ “ต่อรอง” ของตัวเองดีขึ้น หรือจะกลายเป็นเชื้อเชิญ “ภัยพาล” มาใส่ตัว?

https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-06-13/putin-s-unruly-ally-casts-eyes-to-west-as-russian-ties-strain?sref=mu7Gtsbe

https://www.reuters.com/article/us-belarus-oil-russia/russia-makes-new-proposal-to-belarus-for-oil-supply-terms-idUSKBN20F1FO

https://www.reuters.com/article/us-belarus-oil-lukashenko/belarus-to-russia-well-siphon-off-your-transit-oil-to-europe-if-necessary-idUSKBN20823P

 

ผู้โดยสาร‪การบินภายในประเทศสหรัฐโตขึ้นเรื่อยๆ ! ล่าสุดยอดทะลุ 500,000 คนต่อวันแล้ว หุ้นสายการบินยังขึ้นอย่างต่อเนื่อง #ปู่บัฟเฟตต์พลาดไปไหม ? หมดยุคของสาย VI อย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์แล้วหรือยัง ?

Transportation Security Administration หน่วยงานด้านความปลอดภัยในการเดินทางของประเทศสหรัฐอเมริกาได้รายงานยอดตัวเลขการบินภายในประเทศสหรัฐล่าสุดกลับมาที่ 25% ของการบินปกติแล้ว ! ถือว่าเร็วมากกว่าที่คาดถึงแม้ว่าจะยังมีผู้ติดเชื้อไวรัสใหม่อยู่สูงถึงวันละ 20,000 คนต่อวัน

โดยปกตินั้นสหรัฐจะมีผู้เดินทางในประเทศเฉลี่ยวันละ 2 ล้านคนแต่หลังจากไวรัสระบาดหนักในประเทศตัวเลขนี้ได้ลดลงไปต่ำกว่าวันละ 1 แสนคนต่อวันตลอดเดือนเมษายน แต่หลังจากทางรัฐบาลทรัมป์ได้สั่งระงับการ Lock Down ในรัฐต่างๆตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา ตัวเลขการบินในประเทศก็ได้ทยอยปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ (ระหว่างประเทศยังไม่สูงมากเนื่องจากยังจำกัดอย่างเคร่งครัด) จนทะลุ 5 แสนคนต่อไปวันไปในช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้

ราคาหุ้นสายการบินต่างๆในสหรัฐทยอยปรับตัวสูงขึ้น

ถึงแม้ว่าในอาทิตย์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐจะโดนเทขายอย่างหนัก แต่สายการบินต่างๆกลับเป็นกลุ่มที่ราคายังยืนได้ค่อนข้างดี และเป็นตัวนำในการดีดกลับเมื่อวันศุกร์ก่อนปิดตลาดด้วย

โดยหากเทียบจากสายการบินที่วอร์เรน บัฟเฟตต์เป็นคนขายออกจากพอร์ตไปหมดจนเป็นข่าวใหญ่เมื่อเดือนก่อนนั้น 4 สายการบินต่างๆก็ยังมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะสายการบินเหล่านี้พึ่งพารายได้จากการบินในประเทศสูง

United Airlines +100% จาก 20 เหรียญขึ้นมาเป็น 40 เหรียญ

American Airlines +88% จาก 9 เหรียญขึ้นมาเป็น 17 เหรียญ

Delta Air Lines +57% จาก 19 เหรียญขึ้นมาเป็น 30.4 เหรียญ

Southwest Airlines +50% จาก 24 เหรียญขึ้นมาเป็น 36 เหรียญ

วอร์เรน บัฟเฟตต์ตัดสินใจผิดไปไหม ที่รีบเทขายหุ้นสายการบิน ?

บัฟเฟตต์ได้ใช้คำว่า #ธุรกิจสายการบินได้เปลี่ยนไปและอาจไม่กลับมาเหมือนเดิมแล้ว ในช่วงที่เทขายไป และเราคงโทษทางบัฟเฟตต์ไม่ได้เพราะสถานการณ์ในช่วงนั้นถ้ายังไม่มีวัคซีนกัน ธุรกิจสายการบินก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่มองออกยากว่าจะมีอนาคตเช่นไร

ทางด้านทรัมป์ผู้มีอิทธิพลในการจะเร่งหรือยืดเวลาการบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศได้ ได้ออกมากล่าวถึงบัฟเฟตต์ในอาทิตย์ก่อนว่า "บัฟเฟตต์อาจจะคาดการณ์ได้ถูกมาตลอดชีวิต ผมเคารพเขามาก แต่ครั้งนี้เขาทำผิดพลาดไปมากๆจริงๆ เขาควรจะเก็บหุ้นสายการบินเหล่าไว้เพราะประเทศเรากำลังจะกลับมาเปิดอย่างสวยงาม”

ถือว่าจังหวะในการขายหุ้นของบัฟเฟตต์ในครั้งนี้ค่อนข้างค้านกับจุดประสงค์ของทรัมป์เลยทีเดียว และทรัมป์อาจจะเป็นผู้ชนะในยกแรกไป

หมดยุคของวอร์เรน บัฟเฟตต์แล้วหรือยัง ?

แน่นอนว่าการที่หุ้นสายการบินต่างๆดีดขึ้นไปกว่า 50-100% นั้นทางบัฟเฟตต์คงไม่ได้เสียดาย เพราะนักลงทุนระยะยาวอย่างบัฟเฟตต์นั้นมองผลตอบแทนมากกว่านั้นหลายเท่า

#แต่สิ่งที่เราควรมองในพอร์ตของบัฟเฟตต์ ตอนนี้คือเขามีเงินสดมากไปไหม ? และในพอร์ตลงทุนนั้นมีแต่บริษัทในยุคสมัยก่อนมากเกินไปหรือป่าว ?

มีนักลงทุนรายใหญ่สมัยใหม่หลายๆท่านในสหรัฐ ซึ่งแต่ละคนต่างมีความเคารพในตัวบัฟเฟตต์เป็นอย่างสูงและต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ปู่นั้นเป็นเสมือนครูในการลงทุนของพวกเขา แต่จากบทความในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ นักลงทุนเหล่านี้ต่างออกมาตั้งคำถามถึงวิธีการลงทุนของบัฟเฟตต์ว่า #อาจไม่เหมาะกับยุคนี้แล้ว

ทำไมนักลงทุนสมัยใหม่จึงมองว่า #หมดยุคของบัฟเฟตต์แล้ว ?

เดี๋ยวถ้ามีโอกาสจะมาเขียนบทความแยกในรายละเอียดนะครับ แต่คร่าวๆคือ

#การถือเงินสดเยอะของบัฟเฟตต์

นักลงทุนสหรัฐต่างมองเป็นเสียงเดียวกันว่ามูลค่าตลาดหุ้นอาจจะสูงกว่าราคาที่ควรเข้าซื้อสำหรับนักลงทุนสาย VI แต่หากมองถึงปัจจัยที่ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังสูบเงินเข้ามาเรื่อยๆ ประกอบกับการที่ในโลกของเราทุกวันนี้มีช่องทางให้นักลงทุนทั่วโลกเข้ามาลงทุนในตลาดได้ง่ายขึ้นผ่านกองทุนต่างๆ ทำให้เป็นเรื่องธรรมดาที่ราคาของจะแพงกว่าทุน ถ้า Demand มีสูง

และถึงแม้ตลาดที่มีเงินไหลเข้ามาเยอะขนาดนี้จะมองได้ว่าเป็นฟองสบู่ (Bubble) แต่ตราบใดที่ธนาคารกลางทั่วโลกยังพยายามที่จะประคับประคองเศรษฐกิจไปเรื่อยๆ ยังพยายามหาทางออกไม่ให้ตลาดหุ้นตก #ยังไงนักลงทุนส่วนมากก็ยังจะไม่ยอมขาย

จริงอยู่ว่าตลาดคงจะมีวันที่จะหล่นลงมาอย่างหนักแน่ๆอย่างที่บัฟเฟตต์กำลังเฝ้ารออยู่ แต่นั่นต้องเป็นเมื่อธนาคารกลางหมดหนทางที่จะเยียวยาแล้ว ไม่เช่นนั้นฟองสบู่ก้อนก็ยังคงลอยไปได้เรื่อยๆ และจะไปต่ออีก 3ปี ? 5ปี ? ก็ยังไม่มีใครรู้ เพราะทาง FED เองก็จะคงอัตราดอกเบี้ยต่อไปเรื่อยๆอีกอย่างน้อย 2 ปี !

จริงอยู่ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุน VI คือ #ความสามารถในการรอ แต่เหล่า Fund Managers ต่างๆกำลังตั้งคำถามถึงสัดส่วนเงินสดของบัฟเฟตต์ในตอนนี้

ในพอร์ตลงทุนของบัฟเฟตต์นั้น #มีแต่บริษัทในยุคสมัยก่อนมากเกินไปหรือป่าว ?

สิ่งนึงที่น่าสนใจในเรื่องฟอร์มการลงทุนของบัฟเฟตต์นั้นคือหากย้อนไปดูผลตอบแทนในการลงทุนของบัฟเฟตต์ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 1996 นั้น ถึงแม้บัฟเฟตต์จะยังทำกำไรได้เรื่อยๆ แต่บริษัท Berkshire Hathaway ของเขานั้นกลับทำกำไรได้น้อยกว่าดัชนีหุ้น S&P500 เสียอีก !

หลักๆนั้นเป็นเพราะหุ้นที่เติบโตขึ้นมาหลังๆนั้นเป็นหุ้นสาย Technology หรือ Innovation ที่เข้ามา Disrupt ธุรกิจในสมัยก่อน (Traditional Company) และแย่ง Market Share ไปในที่สุด

บัฟเฟตต์เคยพูดเสมอว่าหลักการในการลงทุนของเขานั้นง่ายมาก เขาเปรียบตลาดดั่งฟาร์มเนื้อวัวและเงินที่ผลิตจากฟาร์มนั้นคือเนื้อวัวที่ขายได้ #ถ้ามีไร่ข้างๆที่อยากขายธุรกิจในราคาที่ต่ำกว่าทุนเขาก็พร้อมที่จะเข้าไปช้อนซื้อเสมอ แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วหากยังไงมนุษย์ยังต้องการที่จะบริโภคเนื้อวัว กิจการที่บัฟเฟตต์ซื้อมาก็ยังจะกำไรวันยังค่ำ

แต่.... สิ่งที่บัฟเฟตต์อาจจะไม่ได้คิดไปคือ ในสมัยนี้นั้น #เนื้อวัวอาจจะไม่ต้องมาจากฟาร์มก็ได้ ! เรากำลังมีเทคโนโลยีใหม่ๆที่ทำให้เราผลิตเนื้อออกมาจากห้องทดลองก็ได้ ! เพราะฉะนั้นเนื้อเหล่านั้นอาจจะมาแย่งตลาดหรือมาทำให้ราคาพื้นฐานที่ทางบัฟเฟตต์คิดนั้นผิดไป เปรียบเสมือนกับหุ้นเทคโนโลยีที่ใครก็สามารถซื้อได้ และจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูงกว่าบัฟเฟตต์ในช่วงที่ผ่านๆมา

สุดท้ายนี้ ต้องขอชี้แจงอย่างชัดเจนว่าผมไม่ได้มองว่าการลงทุนของบัฟเฟตต์นั้นล้าสมัยแล้วและยังมีความเคารพในตัวปู่อย่างสูงที่สุด

แต่ตัวเลขผลตอบแทนนั้นไม่ได้โกหก Technology และ Innovation กำลังจะเป็นสายการลงทุนใหม่ที่เข้ามาทดแทน Value Investing (VI) ให้กลายเป็น Innovation Investing (II) ก็ได้ในอนาคตนี้

ทุกท่านมองว่าอย่างไรกันบ้างครับ ? #เชิญแชร์ความเห็นกันในคอมเม้นท์ได้เลยนะครับ และหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยนะครับ แล้วเราจะได้มาคุยกันต่อถึง Innovation Investing กันในบทความหน้าครับ ขอบคุณครับ

#ทันโลกกับTraderKP

 

June 14, 2020 กรมธนารักษ์เตรียมสร้างคอนโดย่านสุขุมวิท-เพชรบุรี-พระราม 3 ให้ข้าราชการเช่าซื้อในราคาถูกเดือนละ 3,900 บาท ในสัญญาระยะยาวได้ 30 ปี
.
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ทางกรมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ กพ. สำรวจความต้องการที่อยู่อาศัยของข้าราชการทั่วประเทศ เพื่อสร้างคอนโดมีเนียมราคาถูก 10,000 หน่วย ให้ข้าราชการที่มีรายได้น้อย 15,000-16,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
.
โดยให้เช่าซื้อระยะยาว 30 ปี ในราคา 999,999 บาท และผ่อนเพียงเดือนละ 3,900 บาท สำหรับคอนโดมีเนียมขนาด 40 ตารางเมตร
.
เบื้องต้นจะดำเนินการในระยะแรก 12 อาคาร เช่น ในกทม.ประกอบด้วย สุขุมวิท พระราม 3 และถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ที่จ.นนทบุรี และจ.อุดรธานี เป็นต้น คาดจะเริ่มก่อสร้างอาคารแรกได้ในปลายเดือนก.ค.นี้ โดยเป็นอาคาร 7 ชั้น จำนวน 76 หน่วย เพราะไม่ต้องศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) แต่หลังจากนั้นจะสร้างคอนโดมีเนียมสูงกว่า 10 ชั้นขึ้นไป
.
โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือของ 3 ฝ่าย ประกอบด้วย กรมธนารักษ์ จะหาพื้นที่ราชพัสดุที่ทำเลดี เหมาะสำหรับการเดินทางมาทำงานของข้าราชการประมาณที่ละ 1-2 ไร่ มาให้บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด หรือธพส. ก่อสร้าง ไม่ต้องเปิดประมูล และธนาคารอาคารสงเคราะห์สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 3% ให้ทั้งผู้ประกอบการสร้างและข้าราชการ โดยให้กพ.เป็นผู้ร่วมพิจารณาหาผู้มีสิทธิ์เช่าซื้อในแต่ละโครงการ
.
ขณะเดียวกันยังจะช่วยธพส.เพิ่มรายได้จากปกติที่ส่งเงินเข้ารัฐปีละ 100 ล้านบาท ให้เพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาทให้ได้ โดยการให้นำที่ราชพัสดุที่มีอยู่มาสร้างคอนโดให้ข้าราชการเช่าในราคาถูก รวมถึงให้นโยบายในการเพิ่มภารกิจให้ธพส. มีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งในเฟสแรกจะสร้าง 12 อาคาร

#กรมธนารักษ์ #คอนโด #ข้าราชการ #เช่าซื้อ #ราคาถูก #Misterban

 

ควรล้างมือก่อนและหลังถอดหน้ากากอนามัย เนื่องจากอาจมีเชื้อไวรัสโควิด-19 ติดอยู่บนพื้นผิวของหน้ากาก หรือมือของเรา และควรจับที่สายรัดหลังหู พร้อมดึงออกในแนวตรงนะคะ ^^
.
#หน้ากากอนามัย #ล้างมือ #การติดเชื้อไวรัส #ไวรัส #Covid19 #โควิด19 #MisterBan

 

June 14, 2020 ไทยตั้งเป้ารับนักท่องเที่ยวตามแผน Travel Bubble วันละ 1,000 คน โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน แต่ต้องตรวจโรคอย่างเข้มงวด เน้นกลุ่มนักธุรกิจ-กลุ่มที่เข้ามารักษาพยาบาลในไทยก่อน พร้อมเสนอแผนต่อศบค. 17 มิ.ย.นี้
.
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เร่งผลักดัน Travel Bubble หรือ การจับคู่ประเทศเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างประเทศที่สามารถจัดการโรคโควิด-19 ได้ดีเท่าๆกัน ซึ่งเป็นความร่วมมือในลักษณะทวิภาคีด้านการท่องเที่ยวแบบใหม่ที่ทั่วโลกกำลังหันมาสนใจ ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ในหลายๆประเทศเริ่มดีขึ้น
.
ซึ่งที่ประชุมศบค.ได้เห็นชอบในหลักการแล้ว และอยู่ในขั้นของการหารือระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหาข้อสรุปในแนวทางการดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็น แนวทางการเจรจากับประเทศกลุ่มเป้าหมาย ข้อปฏิบัติต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังโรคระบาด ก่อนเสนอ ศบค.พิจารณาอีกครั้งในวันที่ 17 มิ.ย.นี้
.
โดยกระทวงการท่องเที่ยวและกีฬา หวังให้ travel bubble เป็นจุดเริ่มต้นในการรองรับชาวต่างชาติที่จะเข้ามาในประเทศไทย โดยไทยมีจุดแข็งในการรับมือกับโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี
.
ทั้งนี้ ระยะแรกจะเปิดรับกลุ่มนักธุรกิจและกลุ่มที่ต้องการเข้ามารักษาพยาบาลในไทย คาดว่าจะชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาประมาณวันละ 1,000 คน ซึ่งเมื่อดำเนินการไปสักระยะหนึ่ง แล้วพบว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี ก็จะพิจารณาให้นักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆเข้ามาตามลำดับ
.
ทั้งนี้การเปิดรับนักท่องเที่ยวตามแนวทาง travel bubble จะไม่มีการกักตัว 14 วัน แต่มีมาตรการอื่นรองรับ เพื่อสร้างความไม่มั่นใจในความปลอดภัย โดยเริ่มจากการเลือกประเทศกลุ่มเป้าหมายที่มีความปลอดภัย สามารถควบคุมโรคได้ดี ตรวจหาเชื้อโควิด-19
.
ก่อนเดินทางออกจากประเทศต้นทางและตรวจอีกครั้งเมื่อเดินทางถึงไทย อาจกำหนดพื้นที่ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางไปได้ มีการติดตามตัวผ่านแอพพลิเคชั่นตลอดเวลาที่อยู่ในเมืองไทย
.
#ไทย #TravelBubble #นักท่องเที่ยว #1000คน #นักธุรกิจ #Misterban

 

June 14, 2020 กทม.คุมเข้มร้านอาหารนั่งดื่ม ห้ามมีดนตรีสด - เปิดขายแอลกอฮอล์ได้ไม่เกินเที่ยงคืน - งานแสดงดนตรี จะต้องขายตั๋วนั่ง - งดกิจกรรมมีต แอนด์ กรี๊ด
.
ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการป้องกันโรคติดต่อ กทม. ครั้งที่ 14/2563 ซึ่งมีการหารือเรื่องมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 4 กล่าวว่า กิจการ/กิจกรรมที่อนุญาตให้เปิดได้ภายในข้อกำหนด กทม. มีจำนวน 11 ประเภท แต่ยกเว้นอีก 5 ประเภท ที่ยังไม่อนุญาตให้เปิด โดยจะต้องรอดูอีก 14 วันข้างหน้า เพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้ง และมาตรการที่กทม. กำหนดมีความเข้มข้นขึ้นมากกว่าที่รัฐบาลกำหนด” โฆษก กทม. กล่าว
.
โดยกิจการ/กิจกรรม ที่ยังไม่มีการผ่อนปรนในระยะที่ 4 มีจำนวน 5 ประเภทได้แก่ 1.สถานบริการ ผับ-บาร์ สถานบันเทิง , 2.สนามชนไก่ สนามซ้อมไก่ชน , 3.ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต , 4.สถานอาบอบนวด และ 5.สนามชนโค ไก่ชน กัดปลา หรือกิจกรรมที่คล้ายคลึงกัน
.
ส่วนกิจกรรมที่ได้รับผ่อนปรน 11 ประเภท ได้แก่ 1.ให้ใช้อาคารสถานที่โรงเรียน สถาบันการศึกษา สถาบันกวดวิชาตามกฎหมาย โรงเรียนนานาชาติ มหาวิทยาลัยที่มีสูตรนานาชาติ สามารถเปิดได้ แต่สำหรับโรงเรียนของรัฐบาล เปิดได้แต่กำหนดให้มีนักเรียนไม่เกิน 120 คน โดยเน้นย้ำว่าโรงเรียนในสังกัดของ กทม.ยังไม่เปิดในระยะนี้ และคาดว่าจะพร้อมเปิดทั้ง 437 แห่ง ในเดือนก.ค.นี้
.
2.โรงแรม โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ การจัดเลี้ยง งานพิธี คอนเสิร์ต สามารถเปิดได้ แต่ต้องจำกัดจำนวนคน และใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ โดยกทม.เพิ่มมาตรการ เรื่องการจัดคอนเสิร์ต แสดงดนตรี จะต้องขายตั๋วนั่งเท่านั้น ไม่ให้มีตั๋วยืน
.
3.ร้านอาหาร ภัตตาคาร จำหน่ายเครื่องดื่มทั่วไป และแอลกอฮอล์สามารถเปิดได้ ยกเว้น สถานบริการ ที่คล้ายผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานบริการที่เน้นขายแอลกอฮอล์ และร้านอาหารที่ขายแอลกอฮอล์จะต้องเปิดขายแอลกอฮอล์ได้ไม่เกิน 24.00 น.นอกเหนือจากนั้นจะเข้าข่ายเป็นสถานบริการ ผู้ประกอบการต้องไปดูว่า การขออนุญาตการเปิดกิจการ ขึ้นทะเบียนเป็นประเภทใด แต่เน้นย้ำว่าห้ามแสดงดนตรีสด แต่สามารถเปิดเพลงได้ และจะต้องจำกัดระดับเสียงตามกฎหมาย
.
4.สถานที่รับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานสงเคราะห์คนชรา สามารถเปิดได้ แต่กำหนดพื้นที่ไม่น้อยกว่า 2 ตารางเมตรต่อคน (ตร.ม./คน)
.
5.ศูนย์วิทยาศาสตร์ ศูนย์การเรียนรู้ เช่น ท้องฟ้าจำลอง
.
6.การถ่ายทำ กองถ่ายภาพยนตร์ กำหนดให้ทีมงานไม่เกิน 150 คน และผู้ชมไม่เกิน 50 คน

7.สถานประกอบการนวดแผนไทย สปา นวดใบหน้า ไม่รวมกิจกรรมอาบอบนวด จำกัดการใช้บริการไม่เกิน 2 ชั่วโมง เว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร
.
8.สวนสาธารณะ ลานกิจกรรม เช่น การเต้นแอโรบิค ให้ออกกำลังกายเป็นกลุ่มได้ไม่เกิน 50 คน เว้นระยะ 2 เมตร สวมหน้ากากก่อน-หลัง ออกกำลังกาย
.
9.สวนน้ำ สนามเด็กเล่น สวนสนุก ยกเว้น เครื่องเล่นติดตั้งชั่วคราว บ้านลม บ้านบอล และต้องจำกัดผู้เข้าใช้บริการและเข้าใช้บริการไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อคน
.
10.สถานที่จัดกีฬา แข่งขันกีฬา ห้ามมีผู้ชมในสนามแข่งขัน แต่สามารถถ่ายทอดผ่านสื่อต่างๆ ได้ และยังไม่อนุญาตให้เปิดกิจกรรม ชนโค ชนไก่ กัดปลา และการจัดแข่งกีฬา ส่วนสระว่ายน้ำกำหนดให้มีจำนวนคนในพื้นที่สระ 8 ตร.ม./คน และ
.
11.ตู้เกม เครื่องหยอดเหรียญ ในห้างสรรพสินค้าสามารถเปิดได้
.
กิจกรรมที่คล้ายคลึงกับสถานประกอบการ หากจะขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะต้องมีใบขออนุญาตขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับกรมสรรพสามิต และขณะนี้ขอเน้นย้ำว่า ยังไม่ให้แสดงดนตรีสด ขอให้เป็นการเปิดเพลงเท่านั้น หากพบว่าสถานที่ใดเปิดให้บริการเข้าข่ายสถานบริการ จะถูกปิดทันที และในส่วนของกิจกรรมมีต แอนด์ กรี๊ด (meet and greet) ยังไม่สามารถเปิดได้ เนื่องจากมีการสัมผัสใกล้ชิดกับแฟนคลับ\
.
#กทม #ดนตรีสด #ห้าม #เกินเที่ยงคืน #Misterban

 

June 14, 2020 ซูเปอร์โพลเผยหลังรัฐบาลเลือกตั้งทำงานมา 1 ปี พบประชาชนส่วนใหญ่ตอบว่ามีความเป็นอยู่ที่แย่ลง

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง แนวโน้มจุดยืนการเมืองประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินการเก็บข้อมูลแบบผสมผสาน (Mixed Method) ทั้งการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ การลงพื้นที่และการเก็บข้อมูลในโลกโซเชียลทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 3,087 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 5 – 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา
.
เมื่อสอบถามชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนหลังมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งมากว่า 1 ปี พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 43.2 ระบุชีวิตความเป็นอยู่แย่ลง และร้อยละ 31.5 ระบุแย่เหมือนเดิม ในขณะที่ร้อยละ 21.9 ระบุดีเหมือนเดิม และมีเพียงร้อยละ 3.4 เท่านั้นที่ระบุว่า ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
.
ส่วนสาเหตุที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวายมากขึ้นมากที่สุดหรือร้อยละ 21.8 คือ การแย่งตำแหน่งรัฐมนตรี รองลงมาคือร้อยละ 19.4 ระบุ ความแตกแยกของคนในพรรคการเมือง , ร้อยละ 17.9 ระบุ คนในรัฐบาลเป็นต้นเหตุของความวุ่นวาย , ร้อยละ 12.3 ระบุ ส.ส.จำนวนหนึ่งที่คอยสร้างความขัดแย้งกับคนอื่นไปทั่วรอบด้าน , ร้อยละ 11.3 ระบุ ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ปล่อยปละละเลยไม่ใส่ใจความวุ่นวายของบ้านเมือง และร้อยละ 17.3 ระบุอื่น ๆ เช่น มีคนจ้องจะถอนทุนคืน และผู้ใหญ่คล้อยตามแรงยั่วยุจากคนรอบข้าง
.
ด้านแนวโน้มจุดยืนทางการเมืองของประชาชน ตั้งแต่ เดือนพ.ย. 2562 ถึง ช่วงปลดล็อคผ่อนปรนโควิด-19 เดือนมิ.ย. 2563 พบว่า แนวโน้มกลุ่มคนไม่สนับสนุนรัฐบาลเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย จากร้อยละ 52.2 ช่วงหลังกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐลาออก ไปอยู่ที่ร้อยละ 54.4
.
#ซูเปอร์โพล #เลือกตั้ง #ปี #รัฐบาล #ประยุทธ์ #Misterban

 

June 14, 2020 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเตรียมนำระบบบล็อกเชน มาใช้ในการซื้อขายปาล์มน้ำมัน เพื่อช่วยยกระดับราคาสินค้าเกษตรตกต่ำในระยะยาว
.
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงการนำบล็อกเชนมาใช้ในการบริหารจัดการในระบบปาล์มน้ำมัน ว่า กระทรวงพลังพร้อมเข้าสู่เทคโนโลยีบล็อคเชนอย่างเต็มรูปแบบ ความก้าวหน้าล่าสุด คือ ได้จัดการประชุมผู้ผลิต B100 , ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 และผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อเริ่มนำร่องการซื้อ-ขายปาล์ม CPO และB100 ผ่านระบบในแอพพลิเคชั่น เพื่อตรวจสอบปัญหาและอุปสรรคก่อนนำมาใช้ในการซื้อขายจริง
.
ทั้งนี้ยืนยันว่า ระบบดังกล่าวจะเข้ามาช่วยยกระดับราคาสินค้าเกษตรตกต่ำในระยะยาวและยั่งยืน เพราะข้อมูลทั้งหมดจะโปร่งใสเห็นกลไกการตลาดทั้งในด้านราคา ตลอดจนปริมาณจากผู้ผลิต และการกำหนดราคาของผู้ซื้ออย่างเป็นธรรมและยังเป็นกลไกหนึ่งในการป้องกันการลักลอบนำเข้า เพราะโรงกลั่นต้องซื้อ CPO จากบล็อกเชนเท่านั้น และทำให้เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขันและความสมดุลต่อภาคอุตสาหกรรม
.
อย่างไรก็ตามในประเด็นการเปลี่ยนแปลงภายในพรรคพลังประชารัฐ และคณะรัฐมนตรี นั้น ตนขอยุติปมประเด็นการเมือง แล้วขอมุ่งหน้าทำงานให้เหมาะสมกับภาระหน้าที่ที่ได้รับความไว้วางใจจากนายกฯและประชาชน
.
ซึ่งขณะนี้กระทรวงพลังงานมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเช่น บล็อกเชน เข้ามาช่วยวางรากฐานการยกระดับศักยภาพด้านพลังงาน และจะขยายไปสู่พืชพลังงานตัวอื่นด้วย เช่น อ้อยและมันสำปะหลัง

#มันสำปะหลัง #ปาล์มน้ำมัน #บล็อกเชน #Misterbanรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเตรียมนำระบบบล็อกเชน มาใช้ในการซื้อขายปาล์มน้ำมัน เพื่อช่วยยกระดับราคาสินค้าเกษตรตกต่ำในระยะยาว

 

MisterBan

June 14, 2020 ยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศนาน 1 เดือน เจอผู้โดยสาร 17 คนป่วยติดโควิด-19 เข้ากว่างโจว จีนแผ่นดินใหญ่
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งชาติจีนแผ่นดินใหญ่ หรือ CAAC แถลงยกเลิกเส้นทางบินระหว่างประเทศของสายการบินไชน่า เซ้าท์เทิร์น แอร์ไลน์ส ที่ให้บริการบินระหว่างเมืองกว่างโจว จีนแผ่นดินใหญ่-กรุงธากา ประเทศบังคลาเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายนถึง 22 กรกฎาคม เป็นเวลา 4 สัปดาห์ สาเหตุจากผู้โดยสารจำนวน 17 คนที่เดินทางมากับเที่ยวบิน CZ392 ตรวจพบติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือติดโรคโควิด-19 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา
สำหรับมาตรการการบินระหว่างประเทศที่ประกาศใช้ภายใต้สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งชาติจีนแผ่นดินใหญ่ หรือ CAAC นั้น ในกรณีที่เที่ยวบินจากต่างประเทศเดินทางเข้าจีนแผ่นดินใหญ่ หากผู้โดยสารติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระหว่าง 5-9 คนในเที่ยวบินนั้น จะสั่งยกเลิกเส้นทางบินเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ถ้าหากติดเชื้อตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป จะสั่งยกเลิกเส้นทางบินเป็นเวลา 4 สัปดาห์
ทั้งนี้ เที่ยวบิน CZ392 จึงเป็นเที่ยวบินแรกที่ถูกยกเลิกเส้นทางบินภายใต้กฏเกณฑ์ใหม่ สายการบินไชน่า เซ้าท์เทิร์น แอร์ไลน์ส ได้กลับมาเปิดบริการเส้นทางบินระหว่างประเทศเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา สายการบินจีนที่เปิดบริการในเส้นทางบินระหว่างประเทศ ต้องทยอยเพิ่มจำนวนเที่ยวบินอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยอาจเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน หากไม่พบผู้โดยสารที่เดินทางมาในเส้นทางบินเป็นเวลา 3 สัปดาห์ติดต่อกัน
#โควิด19 #ไชน่าเซ้าท์เทิร์นแอร์ไลน์ #จีน #misterban #covid19

 

MisterBan

June 15, 2020 อินเดียติดโควิด-19 วันละกว่า 10,000 คน 6 วันติด ดันยอดติดโควิด-19 ทั่วโลกทะลุกว่า 7.9 ล้านคน บราซิลดันยอดเสียชีวิตกว่า 43,000 คน The Covid-19 infected globally toll surpassed 7.9 million
เวลา 6.55 น. รายงานสถานการณ์จำนวนผู้ติดโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก เพิ่มเป็น 7,981,486 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรกของโลก คือ สหรัฐอเมริกา 2,161,366 ราย บราซิล 867,882 ราย รัสเซีย 528,964 ราย อินเดีย 333,008 ราย สหราชอาณาจักร 295,889 ราย สเปน 291,008 ราย อิตาลี 236,989 ราย เปรู 229,736 ราย เยอรมนี 187,671 ราย และอิหร่าน 187,427 ราย
สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มเป็น 435,155 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 117,849 ราย บราซิล 43,389 ราย สหราชอาณาจักร 41,968 ราย อิตาลี 34,345 ราย ฝรั่งเศส 29,407 ราย สเปน 27,136 ราย เม็กซิโก 16,872 ราย เบลเยียม 9,655 ราย เยอรมนี 8,870 ราย และอิหร่าน 8,837 ราย
ในส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อในอาเซียน และเสียชีวิต(ตัวเลขในวงเล็บ) พบว่า สิงคโปร์ 40,604 ราย(26) อินโดนีเซีย 38,277 ราย(2,134) ฟิลิปปินส์ 25,930 ราย(1,088) มาเลเซีย 8,453 ราย(121) ไทย 3,135 ราย(58) เวียดนาม 334 ราย เมียนมา 261 ราย(6) บรูไน 141 ราย(2) กัมพูชา 128 ราย และลาว 19 ราย
#ไวรัสโคโรนา #ไวรัสอู่ฮั่น #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 #โรคปอดอักเสบ #ไวรัสโควิด19 #covid19 #Misterban #coronavirus #pneumonia #btimes #money360

 

โรคเปลี่ยนโลก! โควิดสร้างชีวิตรูปแบบใหม่รับยุค New Normal ด้านธุรกิจ ที่ต้องปรับตัวยกใหญ่ ดึงเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อำนวยความสะดวกลูกค้าถึงที่ โดยไม่ต้องมาร้าน หรือปรับพื้นที่ใหม่ เว้นระยะห่างให้มากขึ้น สร้างจุดเช็คอินความสะอาดด้านสุขอนามัยก่อนเข้าร้าน
.

#NewNormal #ความปกติใหม่ #ธุรกิจ #เทคโนโลยี #SocialDistancing #สุขอนามัย #เศรษฐกิจ #ไวรัส #Covid19 #โควิด19 #MisterBan

 

คือความเป็นมนุษย์
.
ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ขณะมีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มต่อต้านการเหยียดผิวดำ #BLM #BlackLivesMatter
ปรากฏว่าเกิดการปะทะรุนแรงกับกลุ่มขวาจัดสุดโต่ง (Far-right groups -กลุ่มเหยียดผิว)
เดือดร้อนถึงตำรวจต้องมาห้ามมวย
สุดท้าย พวกหนุ่มๆ BLM ต้องแบกพวกลุงๆขวาจัดสุดโต่งไปหาหมอ!!

 

ไข้เลือดออกระบาดหนักใน สปป ลาว มีผู้ป่วยกว่า 1,700 คน
.
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกใน สปป ลาว ยังทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงสาธารณสุขของ สปป ลาว รายงานว่า ยอดผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก ใน สปป ลาว ขณะนี้ อยู่ที่ 1,733 ราย และเสียชีวิต 5 ราย โดยนครหลวงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของประเทศ มีรายงานผู้ป่วยมากที่สุด 403 ราย เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งทางการ สปป ลาว เร่งรณรงค์ให้ประชาชนกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง บริเวณโดยรอบที่พักอาศัยและสถานที่ทำงาน เพื่อตัดวงจรการระบาดของโรคไข้เลือดออก พร้อมดำเนินการ ปรับปรุงเกณฑ์การวินิจฉัยและการรักษาโรคไข้เลือดออกของโรงพยาบาลและสถานีอนามัยทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการเสียชีวิตของประชาชน
CR TW #1005fm

 

พนักงานของสยามอะเมซิ่งพาร์ค (สวนสยาม) ทดสอบความพร้อมของเครื่องเล่นสไลเดอร์ภายในสวนน้ำ ก่อนกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ในวันที่ 15 มิ.ย. 2563 หลังรัฐบาลประกาศผ่อนปรน ระยะที่ 4 (เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2563)

PPTV PHOTO #โสภนสุเสนา
#PPTVHD36 #PPTVNews #สวนสยาม #สยามอะเมซิ่งพาร์ค #ทะเลกรุงเทพ #นิวนอร์มอล #NewNormal #คลายล็อกระยะที่4

 

คัดข่าว

รถไฟลูกเมียหลวง ลูกเมียน้อย ลูกเมียเก็บ
.
มีคนนำหัวรถไฟของมาเลเซียเปรียบเทียบกับของไทย
ยอมรับโดยดีว่าของมาเลเซียนั้นดีกว่า แต่อยากให้เข้าใจระบบรถไฟของมาเลเซียนิดเดียว
หัวรถจักรที่เราเห็นเปรียบเทียบกับของไทยนั้นเป็นฝั่งตะวันตกซึ่งส่วนใหญ่เป็นพรรครัฐบาล เป็นที่รัก กลุ่ม"ลูกเมียหลวง"หัวรถจักรเลยเป็นอย่างที่เห็น
แต่หากไปมาเลเซียฝั่งตะวันออกซึ่งส่วนใหญ่เป็นพรรคฝ่ายค้านกลัวรู้จักจะเป็นอีกแบบ หลายคนเรียกหัวรถจักรกลุ่มนี้ว่า"ลูกเมียน้อย"
ไปหาท่านไปที่บอร์เนียวมาเลเซียตะวันออกถ้าหนูรู้จักจะเข้าใจนั่นคือกลุ่ม"ลูกเมียเก็บ"
ทั้งหมดนี้คือหัวรถจักรจากประเทศประเทศเดียวกันคือมาเลเซีย

 

ไม่รู้ว่างานนี้ถ้าเป็นคนธรรมดาอย่างเราจะรู้สึกอย่างไรดี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีรายงานข่าวจาก Seattle Times ว่า มีชายวัย 70 ปีช่าวสหรัฐฯ รอดชีวิตจากโควิด-19 ราวปาฏิหาริย์เมื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในเมืองซีแอตเติล แต่กลับต้องมาช็อกหนักกับค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาลสูงถึง 34 ล้านบาท
.
คุณตารายนี้ชื่อ Michael Flor เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่เมืองซีแอตเติล ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม และพักอยู่ 62 วัน มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขารู้สึกตัวว่าเขาไม่น่าจะมีชีวิตอยู่รอดได้อีกแล้ว จึงขอร้องให้พยาบาลช่วยต่อโทรศัพท์เพื่อให้เขาได้คุยกับภรรยา และลูกๆ เป็นการบอกลา
.
จากนั้นไม่นานคุณตาก็ฟื้นตัวจากโรคนี้ได้อย่างปาฏิหาริย์ และออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ท่ามกลางเสียงเชียร์ และความปลาบปลื้มใจของบรรดาเจ้าหน้าที่พยาบาล และผู้มีส่วนร่วมดูแลคุณตาในครั้งนี้
.
แต่เวลาแห่งความสุขกลับต้องถูกเบรกด้วยใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล ที่เจ้าหน้าที่นำมาให้รวมความยาวถึง 181 หน้า ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล คือค่าใช้จ่ายรวมเป็นเงิน 1,122,501.04 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 34 ล้านบาท
.
ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้ รวมได้ว่าคือค่าใช้จ่ายสำหรับห้องผู้ป่วยหนัก 9,736 เหรียญต่อวัน ค่าใช้จ่ายเกือบ 409,000 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับการฟื้นตัวในห้องปลอดเชื้อเป็นเวลา 42 วัน ค่าใช้จ่าย 82,000 เหรียญสหรัฐสำหรับการใช้เครื่องช่วยหายใจ 29 วัน และค่าใช้จ่ายเกือบ 100,000 เหรียญสหรัฐสำหรับการรักษา 2 วันเมื่ออาการของทรุดลงจนเกือบจะเสียชีวิต
.
โดยคุณตา Michael Flor ได้รับการคุ้มครองโดยประกันสุขภาพ Medicare ซึ่งเป็นโครงการประกันของรัฐบาลสำหรับผู้สูงอายุและเป็นไปได้ที่เขาจะไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินรักษาด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม ระบบ Medicare อิงกับเงินภาษีประชาชนด้วย ทำให้ฟลอร์บอกว่าเขารู้สึกผิด เมื่อรู้ว่าประชาชนผู้เสียภาษีจะแบกรับค่าใช้จ่ายการรักษาของเขาเป็นเงินมหาศาล
.
“มันเป็นเงินล้านเหรียญที่นำมาช่วยชีวิตผมและแน่นอนผมจะบอกว่านั่นคือเงินนั้นใช้ได้คุ้มทีเดียว… แต่ผมก็รู้ว่าคงมีผมคนเดียวที่พูดแบบนั้นได้” เขาบอกกับ Seattle Times
.
ทั้งนี้สหรัฐฯ เป็นประเทศที่ค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพที่มีราคาแพงที่สุดในโลก และหนึ่งในแผนการพยุงเศรษฐกิจในช่วงการระบาดของโควิด-19 ของรัฐบาลสหรัฐฯ คือ การอัดฉีดงบประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อชดเชยให้โรงพยาบาลและบริษัทประกันเอกชนที่ให้การรักษาผู้ป่วยโควิด-19

.-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.seattletimes.com/seattle-news/inspiring-story-of-seattle-mans-coronavirus-survival-comes-with-a-1-1-million-dollar-hospital-bill/

https://www.independent.co.uk/news/world/americas/coronavirus-michael-flor-miracle-recovery-hospital-bill-medicare-seattle-a9564961.html

https://www.posttoday.com/world/625990
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/thvi5ion

Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

มีข่าวดีจากประจวบฯ มาฝากคนไทยทั่วประเทศ เมื่อผลจากความร่วมมือ ร่วมใจของชาวบ้านชายฝั่งทะเลทุกคน ที่ช่วยกันรักษา และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้กลับมาสมบูรณ์ จนล่าสุดมีรายงานว่า
.
วันนี้นายปราโมทย์ ชุ่มเชื้อ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ชาวประมงพื้นบ้าน และชาวบ้าน ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณชายหาดบ้านอ่าวเทียน หมู่ที่ 3 ใกล้ท่าเรือน้ำลึกหรือท่าเรือประจวบของเครือสหวิริยา หลังจากได้รับแจ้งว่าพบแม่เต่าตนุ อายุประมาณ 10 ปี ขึ้นมาวางไข่ 80 ฟอง สภาพไข่สมบูรณ์
.
ต่อมาได้ร่วมกับชาวประมง และชาวบ้านช่วยกันกั้นคอกเพื่อป้องกันอันตรายจากสัตว์อื่นที่จะมารบกวน และนำบ่อซีเมนต์มาครอบจากนั้นใช้อวนตาข่ายขนาดตาเล็กปิดปากบ่อซีเมนต์ไว้ โดยปิดป้ายประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลของเต่าตนุ และแนวทางการปฏิบัติ นับจากวันที่แม่เต่าวางไข่เป็นต้นไป จนกว่าลูกเต่าจะฟักซึ่งใช้เวลาประมาณ 50-55 วัน
.
สำหรับการวางไข่ของเต่าตนุตามธรรมชาติบริเวณอ่าวเทียนพบว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี หลังจากชาวบ้านร่วมกันรักษาสภาพแวดล้อม และเก็บซากขยะที่พัดขึ้นมากองบริเวณชายหาด

.-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.banmuang.co.th/news/region/195797

https://www.mcot.net/viewtna/5ee5b30de3f8e40af94569b8
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/thvi5ion

Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

 

กลายเป็นว่าสวีเดน อาจเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เจอวิกฤตโควิด-19 เล่นงานหนักเสียแล้ว เมื่อล่าสุดมีรายงานออกมาว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) รายใหม่ 1,474 คน เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา
.
นับเป็นวันที่พบผู้ติดเชื้อใหม่มากสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยตัวเลขนี้ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของประเทศเพิ่มเป็น 48,300 คน
.
แต่ทางสำนักงานสาธารณสุขของประเทศบอกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตนั้นกำลังชะลอตัวลง หลังพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเพียง 19 คน ในวันพฤหัสบดี ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 4,814 คน
.
ด้านคาริน เทกมาร์ก-วิเซลล์ หัวหน้าฝ่ายจุลชีววิทยาของสำนักงานสาธารณสุข ระบุในถ้อยแถลงว่าการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นผลโดยตรงของการยกระดับตรวจเชื้อในภูมิภาคต่างๆ และการตรวจหาเคสที่แสดงอาการเล็กน้อย
.
โดยระบุเพิ่มเติมว่า มันเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ชัดเจนว่าดูเหมือนมันจะเป็นผลจากการเพิ่มการตรวจเชื้อ หลังจากถูกพิพากษ์วิจารณ์หนักหน่วงขึ้นจากฝ่ายค้าน ในการขยายการตรวจเชื้อที่ล่าช้า
.
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลได้ทุ่มงบประมาณอีก 5,900 ล้านโครนา (ราว 20,000 ล้านบาท) สำหรับเพิ่มการตรวจเชื้อและขยายขอบเขตการค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดทั่วประเทศ
.
เทกมาร์ก-วิเซลล์ ได้กล่าวย้ำว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตในสวีเดน นั่นมีต้นตอจากโควิด-19 ค่อยๆ ลดลงจากระดับสูงสุดในช่วงกลางเดือนเมษายน โดยตอนนั้นอยู่ที่ราวๆ 100 คนต่อวัน แต่ค่าเฉลี่ยในช่วง 7 วันแรกของเดือนมิถุนายน อยู่ที่แค่ 37 ศพต่อวันเท่านั้น
.
นอกจากนี้ เลนา ฮัลเลนเกรน รัฐมนตรีสาธารณสุขได้กล่าวระหว่างแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า สำหรับภาพที่ถูกต้องของการดูว่าโรคระบาดใหญ่กำลังพัฒนาการไปในทิศทางใด
.
ซึ่งมันจะเป็นประโยชน์กว่าหากมองไปยังคนที่รักษาอาการโควิด-19 เราเห็นคนจำนวนคนรักษาตัวในห้องไอซียูกำลังลดลง แม้จะลดลงอย่างช้าๆ แต่ก็เป็นอัตราที่คงที่
.
-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.newsweek.com/sweden-where-no-lockdown-was-ever-implemented-coronavirus-cases-reach-record-high-1510496

https://mgronline.com/around/detail/9630000060742
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Facebook :
https://www.facebook.com/thvi5ion

Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ