ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไม่น่าเป็นไปได้ที่ 'ปลาแซลมอน' จะเป็นพาหะของเชื้อไวรัสโควิด-19
    .
    1/ องค์การอนามัยโลก เมืองเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในกรุงปักกิ่ง ต่อความความกังวลในการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 ในจีน
    .
    2/ ย้อนกลับไปที่อู่ฮั่น การระบาดเริ่มขึ้นจากตลาดอาหารทะเลหัวหนาน มีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
    .
    3/ มาถึงการระบาดระลอกใหม่ในเดือนมิถุนายน ในกรุงปักกิ่ง เกิดขึ้นที่ตลาดสดซินฟาตี้ แหล่งค้าส่งสินค้าเกษตรและอาหารทะเลขนาดใหญ่ที่สุดของกรุงปักกิ่ง มีขนาดใหญ่กว่าตลาดหัวหนานที่อู่ฮั่นถึง 10 เท่า
    .
    4/ หลังพบการระบาดที่ตลาดซินฟาตี้ รัฐบาลจีนแจ้งเรื่องไปที่องค์การอนามัยโลก รวมถึงข้อมูลที่ว่า พบร่องรอยของเชื้อไวรัสโควิด-19 บนเขียงแล่ ‘ปลาแซลมอนนำเข้า’
    .
    5/ แม้องค์การอนามัยโลกจะยังไม่ยืนยัน แต่ให้ความเห็นว่าประเด็นนี้ไม่อาจมองข้าม ขณะนี้กำลังมีการสอบสวนอย่างละเอียด แม้ผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์ให้ความเห็นตรงกันว่า ไม่น่าเป็นไปได้ที่ปลาแซลมอนจะเป็นพาหะของเชื้อโรค
    .
    6/ แต่...ประเด็นที่น่าคิดคือ กระบวนการที่เกี่ยวข้องกับปลาแซลมอนนำเข้าก่อนมาถึงมือผู้บริโภค ตั้งแต่ต้นทางมาถึงปลายทาง อาจจะมีการปนเปื้อนเชื้อโรค
    .
    7/ ปลาแซลมอนนำเข้ามาจากไหน? จากยุโรปครับ / เมื่อมีการตรวจพบเชื้อไวรัสจากปลาแซลมอน ผู้ประกอบการหลายแห่งในจีนระงับการนำเข้าปลาแซลมอนจากยุโรป
    .
    8/ ขณะที่ซูเปอร์มาร์เก็ตและตลาดสดหลายสิบแห่งในเขตเฟิงไท่ ที่ตั้งของตลาดซินฟาตี้ และอีกหลายแห่งในพื้นที่กรุงปักกิ่ง ระงับการจำหน่ายปลาแซลมอนแล้ว
    .
    ● สถานการณ์ล่าสุดในกรุงปักกิ่ง ●
    .
    1/ สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ในกรุงปักกิ่งยังคงมีความเชื่อมโยงกับตลาดซินฟาตี้ พบผู้ป่วยแล้ว 106 รายภายในเวลาเพียง 5 วัน
    .
    2/ กรุงปักกิ่งยังไม่ล็อกดาวน์ถึงขั้นปิดตายทั้งเมืองแบบอู่ฮั่น แต่พื้นที่เขตเฟิงไท่ ที่ตั้งของตลาดซินฟาตี้ มีการยกระดับมาตรการสอบสวนโรคและการตรวจคัดกรองให้เป็นเชิงรุกตลอด 24 ชั่วโมง
    .
    3/ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรฐานของตลาดสด สถานที่จำหน่ายอาหาร และโรงอาหารสาธารณะทุกแห่งในกรุงปักกิ่ง
    .
    4/ ตลาดซินฟาตี้เป็นตลาดขนาดใหญ่ การถูกสั่งปิดอย่างไม่มีกำหนดย่อมส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปยังตลาดขนาดเล็กทุกแห่งในกรุงปักกิ่งและเมืองใกล้เคียง แต่ทางการปักกิ่งยืนยันว่า จะมีการจัดสรรการจำหน่ายสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
    .
    5/ โรงเรียนในเขตเฟิงไท่ยังคงปิดต่อเนื่อง และประชาชนทุกคนในเขตเฟิงไท่ได้รับคำเตือนให้เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาระยะห่างทางสังคม
    .
    6/ กรุงปักกิ่งขยายการล็อกดาวน์ชุมชนเพิ่มเป็น 28 แห่งแล้ว รวมถึงตลาดซินฟาตี้ พื้นที่เหล่านี้ถือเป็นจุดเสี่ยง จึงมีคำสั่งห้ามประชาชนจากพื้นที่จุดเสี่ยงเดินทางออกนอกกรุงปักกิ่ง และห้ามเรียกใช้บริการรถรับจ้างใดๆ รวมถึงแท็กซี่
    .
    7/ ระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภทและทุกเส้นทางในกรุงปักกิ่งมีการจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ และทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า
    .
    ● สถานการณ์ทั่วจีนแผ่นดินใหญ่ ●
    .
    1/ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้เสียชีวิตยังคง ‘คงที่’ อยู่ที่ 4,634 คน
    .
    2/ ยังคงมีผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษา 210 คน ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยวิกฤต 3 คน
    .
    3/ จำนวนผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 83,221 คน เป็นผู้ป่วยใหม่ 40 คน มาจากต่างประเทศ 8 คน อีก 32 คนเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ พบที่กรุงปักกิ่งมากที่สุด 27 คน มณฑลเหอเป่ย 4 คน และที่มณฑลเสฉวนอีก 1 คน
    .

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ส่อเค้าไฟลุกอีกรอบแล้ว สำหรับความขัดแย้งระหว่างสองเกาหลี หลังล่าสุดมีรายงานว่า ประธานาธิบดีเกาหลีใต้แสดงความไม่พอใจอย่างหนักต่อ คิม โย จอง น้องสาวของคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ หลังน้องสาวได้ปฏิเสธการเจรจาลดความตึงเครียดกับเกาหลีใต้ อย่างก้าวร้าวไม่มีมารยาท
    .
    ด้านโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยุน โด ฮาน กล่าวว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ที่หญิงสาวรายนี้แสดงความคิดเห็นอย่างแข็งกร้าวต่อการยื่นข้อเสนอของผู้นำเกาหลีใต้ โดยปราศจากความเข้าใจต่อวัตถุประสงค์ที่แท้จริง
    .
    รัฐบาลโซลจะไม่นิ่งเฉยต่อการแสดงท่าทีเช่นนี้ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลอีกต่อไป ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อความเชื่อมั่นระดับผู้นำของทั้งสองประเทศ พร้อมทั้งทิ้งท้ายว่า เกาหลีใต้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าต่อไปเกาหลีเหนือ จะมีมารยาทพื้นฐานทางการทูต
    .
    ซึ่งเป้าหมายของการเดินทางไปยังเกาหลีเหนือครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการคลี่คลายความขัดแย้งกับรัฐบาลเปียงยาง ในประเด็นลูกโป่งบรรจุใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านเกาหลีเหนือ ที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้พยายามเดินหน้าส่งมาแล้วหลายครั้ง ร่วมด้วยแถลงการณ์ดุดันของน้องสาวท่านผู้นำที่ออกมามากขึ้นในเดือนนี้ ซึ่งมีเนื้อหาข่มขู่ใช้มาตรการทางทหาร และการที่เกาหลีเหนือระเบิดทำลายศูนย์ประสานงานสองเกาหลี ที่ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมแกซอง

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://en.yna.co.kr/view/AEN20200617003952315

    http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20200617000423

    https://www.dailynews.co.th/foreign/780324
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โลกเทคโนโลยีในปัจจุบัน ย่อมทำให้ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้านเทคโนโลยี กลายเป็นธุรกิจอันดับต้นๆ ของโลก

    ไม่ว่าจะเป็น Microsoft ที่ในปัจจุบันมีมูลค่ากิจการ 45 ล้านล้านบาท

    หรือไม่ก็บริษัท Apple ที่มีมูลค่าสูงถึง 47 ล้านล้านบาท

    จะว่าไป ทั้ง Microsoft และ Apple ก็ถือเป็นบริษัทใหญ่คับโลก ที่ไม่ว่าใครก็ต่างรู้จักถึงความร่ำรวยเป็นอย่างดี

    แต่รู้หรือไม่ว่า...

    ในอดีตเคยมีบริษัทที่ประสบความสำเร็จไปทั่วโลก ซึ่งหากเทียบมูลค่าเงินเฟ้อมาถึงปัจจุบัน พวกเขาจะมีมูลค่าถึง 240 ล้านล้านบาท

    เรียกว่าใหญ่กว่า Apple ถึง 5 เท่า!!

    พวกเขาเป็นใคร? ร่ำรวยมาได้ยังไง? แล้วทำไมมันจึงไม่ได้อยู่มาถึงปัจจุบัน!?

    เราจะพาคุณไปรู้จักบริษัทนี้ให้มากยิ่งขึ้น...


    [เรื่องราวดังกล่าว ต้องย้อนไปในช่วงปี 1500]

    โดยในช่วงนั้นชาวดัตช์ กำลังตกเป็นเมืองขึ้นให้กับสเปน

    ซึ่งพวกเขาก็พยายามทุกหนทางที่จะกู้เอกราชให้แก่ประเทศตัวเองให้ได้

    แต่การจะกอบกู้เอกราชไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเรื่องถนัดของพวกเขาก็คือการค้าขายหาใช่สงคราม

    แถมยังซ้ำร้ายในปี 1580 เส้นทางค้าขายของพวกเขากับโลกตะวันออก ก็ถูกปิดลงแทบทั้งหมด ตอนที่โปรตุเกสตกเป็นเมืองขึ้นของสเปนด้วย

    นั่นทำให้ชาวดัตช์ในช่วงนั้นเริ่มขัดสนไปใหญ่ เหล่าพ่อค้าที่เคยค้าขายกับตะวันออก ก็ต้องเสาะแสวงหาลู่ทางค้าขายใหม่ๆ ด้วยตัวเอง

    พวกเขาต่างแข่งขันกันหนักขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศ

    แต่ไม่นาน ก็ตระหนักได้ว่า การแข่งกันในประเทศ ยิ่งมีความเสี่ยงและจะพากันล่มจมไปทั้งหมด

    ดังนั้นเหล่าพ่อค้าจึงรวมตัวกันเป็นบริษัทขนาดใหญ่เพียงบริษัทเดียว ในปี 1602

    แล้วก็ตั้งชื่อว่า "Vereenigde Oostindische Compagnie" หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อ "Dutch East India Company" นั่นเอง


    [ก้าวสู่ความสำเร็จของ Dutch East India Company (VOC)]

    จากแต่เดิมที่ต่างคนต่างจ้างเรือ หรือเดินทางไปค้าขายทางตะวันออกด้วยเงินของตัวเอง

    ซึ่งรูปแบบดังกล่าวมีความเสี่ยงสูง เพราะไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่าเรือสินค้าขนาดเล็กจะกลับมาอย่างปลอดภัย ไม่โดนปล้นหรือแพ้คลื่นลมทะเลไปเสียก่อน

    แต่เมื่อรวมเป็นบริษัทใหญ่ขึ้น ก็มีความสามารถในการเดินเรือสินค้าขนาดใหญ่มากขึ้น ปลอดภัยขึ้น ต่อรองทางการค้าได้มากยิ่งขึ้น

    ทำให้การทำธุรกิจนั้นมีความเสี่ยงน้อยลงกว่าเดิม

    ระบบดังกล่าวของกลุ่มธุรกิจ VOC อาจจะนับว่าแปลกใหม่ในยุคนั้น ทำให้มีนักลงทุนต่างสนใจและร่วมลงทุนมากยิ่งขึ้น ยิ่งทำให้กลายเป็นบริษัทที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

    แต่นั่นก็ไม่ใช่กุญแจสำคัญเพียงอย่างเดียว ที่ทำให้บริษัทดังกล่าว ประสบความสำเร็จได้มากที่สุด..


    [กุญแจแห่งความสำเร็จ คือการผูกขาด]

    ย้อนกลับไปในตอนที่กลุ่ม VOC ถูกจัดตั้งขึ้น เหล่าพ่อค้านั้นนำทีมโดย Johan van Oldenbarnevelt ซึ่งเป็นนักการเมืองคนหนึ่งด้วย

    ดังนั้น เพื่อที่จะทำให้มั่นใจว่าบริษัทจะไปรอด พวกเขาจึงเจรจากับรัฐบาล โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือกำไรบางส่วนของธุรกิจ จะนำมาช่วยกอบกู้เอกราชของประเทศ

    ซึ่งนั่นทำให้ พวกเขาได้รับสิทธิ์และอำนาจมากมายจากรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น...

    สิทธิ์ในการผูกขาดการค้าเครื่องเทศรวม 21 ปี

    สิทธิ์ในการผลิตเหรียญกษาปณ์เป็นของตนเอง

    สิทธิ์ในการมีกองทัพเรือ สั่งประหารชีวิตนักโทษ เจรจาสนธิสัญญา และเข้าร่วมสงครามด้วยตัวเอง

    หรือแม้แต่สิทธิ์ในการจัดตั้งอาณานิคมเอง

    เรียกได้ว่าพวกเขามีอำนาจเท่าๆ กับรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ในตอนนั้นเลยก็ไม่ผิด

    และที่สำคัญ VOC ก็ไม่ลังเลที่จะใช้งานสิทธิ์ที่พวกเขามีด้วย


    อาจจะเรียกว่าเป็นโชคดี หรือจังหวะเหมาะเจาะ เพราะเมื่อสเปนรบกับอังกฤษ ไม่สามารถดูแลทางเอเชียได้อย่างทั่วถึง

    VOC ตัดสินใจยึดจาการ์ตา ในอินโดนีเซียปัจจุบัน และใช้มันเป็นสำนักงานหลัก ในการนำเข้าและส่งออกสินค้าจากเอเชีย

    นอกจากนั้นยังขยายฐานการผลิต ด้วยสิทธิ์การจัดตั้งอาณานิคมจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ตอนนั้น

    แถมยังมีกองทัพเรือ ที่พร้อมในการปกป้องเรือสินค้าของตนเอง และเตะตัดขาเรือสินค้าของชาติอื่นด้วย

    ไม่นานนัก VOC ก็สามารถผูกขาดเส้นทางการค้าทางน้ำแทบจะทั้งหมด และกลายเป็นบริษัทนำเข้าเครื่องเทศรายใหญ่ที่สุดของยุโรป

    ยิ่งในยุคที่เครื่องเทศ นั้นเป็นของที่มีค่า เรียกว่ามันคือทองคำแบบย่อมๆ เลยก็ว่าได้

    ยิ่งช่วยส่งเสริมความร่ำรวยของบริษัทที่ผูกขาดนี้ให้มากยิ่งขึ้นไปอีก


    ในช่วงสูงสุดนั้น พวกเขามีเรือสินค้าปฏิบัติการกว่า 1,700 ลำ

    ในขณะที่ถ้ารวมทั้งหมดตั้งแต่ตอนก่อตั้ง พวกเขาอาจจะมีเรือสินค้ามากถึง 4,700 ลำ

    ซึ่งรายได้ของพวกเขานั้น ยังเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้เนเธอร์แลนด์หลุดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นในปี 1648 หรือภายใน 50 ปีหลังก่อตั้งบริษัทอีกด้วย

    และนั่นอาจจะเป็นจุดรุ่งเรืองที่สุดของพวกเขา เพราะอีกร้อยกว่าปีหลังจากนี้ ก็คือการค่อยๆ เสื่อมถอยลง


    [การล่มสลายของ Dutch East India Company]

    อำนาจของบริษัท และความเป็นเอกราชของพวกเขา ทำให้เนเธอร์แลนด์ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมการล่าอาณานิคม แบบเดียวกับประเทศอื่นๆ ในยุโรปด้วย

    ซึ่งในช่วงแรกๆ มันก็เป็นไปได้ดีอยู่ อย่างการค้นพบออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ก็เป็นผลงานจากนักเดินเรือของบริษัทแทบทั้งสิ้น

    แต่อย่างคำกล่าวที่ว่า "อำนาจไม่อาจคงอยู่เสมอไป"

    และยิ่งบริษัทที่ผูกขาดตัวเองไว้กับรัฐบาลด้วย ถ้ารัฐบาลนั้นอ่อนแอลง บริษัทก็ย่อมอ่อนแอลงไปด้วยเช่นกัน

    เมื่อเวลาผ่านไป เนเธอร์แลนด์เริ่มที่จะแพ้สงครามทางทะเลให้กับอังกฤษ

    จนกระทั่งในปี 1784 หลังจากที่แพ้สงครามครั้งใหญ่อีกครั้ง บริษัท VOC ก็ต้องเสียเส้นทางการค้าที่เคยมีไปแทบทั้งหมด

    เท่านั้นยังไม่พอ ในปี 1795 เนเธอร์แลนด์ยังต้องแพ้สงคราม ให้กับประเทศฝรั่งเศสซ้ำอีก (แม้ฝรั่งเศสเพิ่งผ่านการปฏิวัติมาไม่นานก็ตาม)

    จนกระทั่งในปี 1799 พวกเขาล้มละลายและยุติกิจการ

    ปิดตำนานบริษัทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกลงไปในที่สุด


    ราวกับเป็นเรื่องเตือนใจว่า ในโลกธุรกิจนั้น ไม่มีอะไรแน่นอน

    คนในยุค 1800 คงจะไม่คาดคิดว่าบริษัทที่ดำเนินกิจการมาเป็นเวลากว่า 200 ปี จะล่มสลายลงได้

    แต่ในที่สุด มันก็ล่มสลายลงได้จริงๆ

    เฉกเช่นราคาของเครื่องเทศ สินค้าหลักของบริษัทที่ครั้งหนึ่งมีค่าดุจทองคำ

    แต่ในปัจจุบัน มันก็เป็นเพียงของธรรมดา ไม่ได้สูงค่าอย่างที่เคยเป็นในอดีตอีกแล้ว..


    -----------------------------------------


    ไม่พลาดทุกสาระน่าสนใจจาก Billion Mindset - แนวคิดพันล้าน

    กด Like และตั้งค่าติดดาว See First ไว้ด้วยนะ

    หรือติดตาม Billion Mindset ได้ในหลากหลายช่องทาง

    - เว็บไซต์ https://www.BillionMindset.com/

    - อินสตาแกรม https://www.instagram.com/billionmindset.ig/

    - ทวิตเตอร์ https://twitter.com/Billion_Twit

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สรุปหนี้สาธารณะประเทศไทย 7.1 ล้านล้านบาท ประกอบด้วยอะไรบ้าง!?

    ข้อมูลน่าสนใจ:

    - อ้างอิงจากสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ปัจจุบันประเทศไทยมีหนี้สาธารณะอยู่ทั้งสิ้น 7,186,608 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยประเภทของหนี้คร่าวๆ ดังนี้..

    หนี้รัฐบาล ทั้งในและต่างประเทศ ประมาณ 5.9 ล้านล้านบาท

    หนี้รัฐวิสาหกิจ ทั้งที่รัฐบาลค้ำประกัน และไม่ค้ำประกัน รวมประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท

    หนี้หน่วยงานของรัฐ ประมาณ 8,000 ล้านบาท


    - จะสังเกตได้อย่างหนึ่งว่ารัฐบาลไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน จะกู้เงินจากในประเทศคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 98% ของหนี้ที่กู้โดยตรง

    (ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นบทเรียนจากวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540)

    ซึ่งเงินส่วนใหญ่ ก็จะถูกกู้มาเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณในแต่ละปีที่ผ่านมา


    - หน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลค้ำประกันหนี้ให้ ที่น่าสนใจก็ได้แก่..

    ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 260,000 ล้านบาท

    การรถไฟแห่งประเทศไทย 170,000 ล้านบาท

    องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ประมาณ 110,000 ล้านบาท


    ส่วนหนี้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน ก็ได้แก่..

    บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 98,000 ล้านบาท

    การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 80,000 ล้านบาท

    การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 75,000 ล้านบาท


    - ประเทศไทยมีขนาดเศรษฐกิจ (GDP) ประมาณ 16.7 ล้านล้านบาท ทำให้ตัวเลขของหนี้สาธารณะล่าสุดเป็นสัดส่วนประมาณ 42.8% ของ GDP


    - สัดส่วนหนี้สาธารณะของประเทศไทย เคยขึ้นไปสูงสุดที่ประมาณ 59.9% ของ GDP ในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง

    หลังจากนั้นไทยจึงดำเนินนโยบายให้เพดานหนี้สาธารณะอยู่ไม่เกิน 60% มาจนถึงปัจจุบัน

    ซึ่งในอดีตนับสิบปีที่ผ่านมา (ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใด) จะพยายามรักษาระดับของหนี้สาธารณะให้อยู่ประมาณ 40-45% ของ GDP มาโดยตลอด


    -----------------------------------------


    ไม่พลาดทุกสาระน่าสนใจจาก Billion Mindset - แนวคิดพันล้าน

    กด Like และตั้งค่าติดดาว See First ไว้ด้วยนะ

    หรือติดตาม Billion Mindset ได้ในหลากหลายช่องทาง

    - เว็บไซต์ https://www.BillionMindset.com/

    - อินสตาแกรม https://www.instagram.com/billionmindset.ig/

    - ทวิตเตอร์ https://twitter.com/Billion_Twit

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยังตึงเครียด! "เกาหลีเหนือ" เตรียมซ้อมรบใกล้ชายแดน "เกาหลีใต้"

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Natalie สาวลูกครึ่งไทย-ไต้หวัน ปัจจุบันทำธุรกิจอยู่ที่ฝรั่งเศสติดอยู่ในประเทศไทยเนื่องจากการปิดประเทศ ถึงเธอจะกังวลเกี่ยวกับธุรกิจของเธอในปารีส แต่เธอก็ยินดีจะอยู่ที่ประเทศไทยชั่วคราว เธอตั้งกลุ่มช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนในกรุงเทพ แจกข้าวกล่องและอุปกรณ์ป้องกันโรคให้แก่ชาวบ้านกว่า 30,000 คน เธอเล่าว่า ที่ต้องการทำเช่นนี้เพราะความคิดถึงคุณย่าของเธอนั่นเอง

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    • ฌาอีร์ โบลโซนารู ประธานาธิบดีของบราซิลมี "ชื่อเสีย" ในเรื่องต่อต้านการแก้ปัญหาโลกร้อนและยังเดินหน้าทำลายป่าโดยอ้างการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ "ปอดของโลก" กำลังได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง เนื่องจากป่าแอมะซอนหายไปแล้วขนาดเท่าประเทศเลบานอนทั้งประเทศ

    • ผลก็คือในช่วงปีแรกที่โบลโซนารูดำรงตำแหน่ง การตัดไม้ทำลายป่าดงดิบแอมะซอนของบราซิลเลวร้ายกว่าที่เคยมีการรายงานไว้เมื่อปี 2562 จากข้อมูลของรัฐบาลบราซิลที่เพิ่งได้รับการแก้และเพิ่งเผยแพร่ในวันอังคารที่ผ่านมา

    • หน่วยงานวิจัยอวกาศของบราซิล INPE พบว่ามีตัดไม้ทำลายป่าถึง 10,129 ตารางกิโลเมตร ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2561 ถึงเดือน ก.ค. 2562 (ขนาดเท่าประเทศเลบานอนทั้งประเทศ) โดยก่อนหน้าที่พบว่าป่าหายไป 9,762 ตารางกิโลเมตร

    • คิดแล้วป่าไม้หายไปเพิ่มขึ้น 34.4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา นับเป็นอัตราการสูญเสียป่าที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551

    • แต่มันยังไม่จบแค่นั้น เพราะจากข้อมูลรายเดือนแสดงให้เห็นว่าการตัดไม้ทำลายป่ายังคงเลวร้ายลงในปี 2563 โดยเพิ่มขึ้น 55% ในช่วงเดือน ม.ค.ถึง เม.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562

    • ถึงแม้ว่าในเดือน พ.ค. ประธานาธิบดีโบลโซนารูจะส่งกองกำลังติดอาวุธเพื่อต่อสู้กับขบวนการทำลายป่าที่เพิ่มขึ้น แต่คำสั่งพิเศษนี้จะหมดอายุในวันที่ 17 มิ.ย. นี้แล้วและป่ายังถูกทำลายต่อไป

    • ความพยายามของประธานาธิบดีโบลโซนารูเป็นแค่มาตรการเล็กน้อยเมื่อเทียบกับผลเสียใหญ่หลวงจากจุดยืนต่อต้านโลกร้อนของเขา และตัวเขายังมีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเกษตร และยังวางแผนที่จะขยายโรงงานพลังงานนิวเคลียร์และไฟฟ้าพลังน้ำไปยังพื้นที่ป่าแอมะซอนอีกด้วย

    อ้างอิง
    • Brazil deforested 10,000 square km of Amazon rainforest in 2019, up 34% on year (https://rb.gy/cgzba1)
    • Who is Jair Bolsonaro, the man likely to be Brazil's next president? (https://rb.gy/x1wk0y)
    • Brazil’s new president has scientists worried. Here’s why (https://rb.gy/refcqm)

    ภาพจาก Ibama (https://rb.gy/7bcbf9)

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    • กทม.ชี้แจงเหตุผลการล้อมย้ายต้นไม้บริเวณถนนหน้าพระลาน สนามหลวงอีกครั้ง หลังถูกสังคมออนไลน์วิจารณ์ โดยระบุว่า ต้องการเตรียมพื้นที่ในการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนน และจะนำต้นไม้ที่ย้ายออกไปกลับมาปลูกใหม่อีกรอบ

    • นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร (กทม.) ชี้แจงเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ว่า การล้อมย้ายต้นไม้ใหญ่บริเวณถนนหน้าพระลาน ต่อเนื่องไปถึงท่าช้างวังหลวง อยู่ในพื้นที่เขตพระนคร กทม. เพื่อเตรียมพื้นที่ก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลานและถนนมหาราช วงเงินก่อสร้างรวม 1,125 ล้านบาท

    • ทั้งนี้ การย้ายต้นไม้เพราะไม่ต้องการทำให้ต้นไม้ตาย การสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนทั้งหน้าพระลานและถนนมหาราช เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาชมพระบรมมหาราชวัง และจะมีการนำข้อมูลทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ที่พบมาจัดแสดงในอุโมงค์ฯ ด้วย

    • ด้าน นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวว่า กทม.จะให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ต้นมะขาม บริเวณสวนหย่อมตรงข้ามประตูวิเศษไชยศรีและในสนามหลวง จำนวน 44 ต้น โดยจะล้อมไปอนุบาลที่ จ.สระบุรี ให้มีรากและทรงพุ่มที่สมบูรณ์แข็งแรงจากนั้นจะนำกลับมาปลูกบริเวณเดิมหลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่หากไม่สามารถปลูกในพื้นที่เดิมได้ทั้งหมด จะนำไปปลูกทดแทนในพื้นที่สนามหลวงและสวนสาธารณะของ กทม.

    • นายสุรเดช อำนวยสาร ผู้อำนวยการเขตพระนคร กทม. กล่าวว่า ต้นไม้ที่ล้อมย้าย ประกอบด้วย ต้นลีลาวดี 29 ต้น และต้นปีบ 5 ต้น ทั้งนี้ ต้นลีลาวดีจะนำไปปลูกที่สวนสมเด็จพระปกเกล้าบริเวณเชิงสะพานพระปกเกล้า ทั้ง 29 ต้น ส่วนต้นปีบ ได้นำไปพักไว้ในพื้นที่กองทัพเรือ ซึ่งเมื่อรวมต้นมะขาม 44 ต้น เท่ากับล้อมต้นไม้ออกเบื้องต้น จำนวน 78 ต้น

    • สำหรับโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลานและถนนมหาราช มีคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักการโยธา กทม. ดำเนินการย้ายต้นไม้บริเวณเกาะกลางออกตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา

    อย่างไรก็ตาม โครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลาน ใช้งบประมาณ 945 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 540 วัน โครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนมหาราช ใช้งบประมาณ 180 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 360 วัน รวม 2 โครงการ วงเงิน 1,125 ล้านบาท

    อ้างอิง:
    https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1870569
    https://www.mcot.net/viewtna/5ee7481fe3f8e40af8452c4d
    เครดิตภาพ: @thaich8news

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวหาดม่วงงามยืนยันต่อกรรมาธิการที่ดินฯ สภาผู้แทนราษฎร กำแพงกันคลื่นชายหาดกระทบวิถีประมงพื้นบ้านและระบบนิเวศ ต้องยกเลิกโครงการสถานเดียว
    .
    นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่รัฐสภา ว่า คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นที่หาดม่วงงาม ม.7 ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา มาอธิบายเหตุผลการขอให้กรมโยธาธิการและผังเมืองยกโครงการดังกล่าว
    .
    ทั้งนี้ เหตุผลการเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการที่ผ่านมา เพราะกำแพงกันคลื่นส่งผลต่อการทำกิจกรรมริมชายหาด ทำให้วิถีประมงพื้นบ้านเปลี่ยนแปลงไป และส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศบริเวณชายฝั่งอย่างมาก โดยเฉพาะหาดทรายที่สวยงามที่เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำหายไป
    .
    นายประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมานักวิชาการได้ออกมาคัดค้านการสร้างกำแพงกันคลื่นด้วยโครงสร้างแบบแข็ง เพราะส่งผลกระทบต่อชายหาด แต่กรมโยธาธิการและผังเมืองก็ยังเดินหน้าก่อสร้าง โดยมีการยกเลิกการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ทำให้ถึงขณะนี้มีการใช้งบประมาณในโครงการดังกล่าวทั่วประเทศไปแล้วกว่า 4,000 ล้านบาท
    .
    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นจะแล้วเสร็จในหลายพื้นที่ แต่ชาวบ้านก็ขอเรียกร้องว่าจะต้องยกเลิก และรื้อถอนแนวกันคลื่นดังกล่าวออกไป
    .
    แหล่งข่าวในที่ประชุม เปิดเผยว่า กรรมาธิการส่วนใหญ่เห็นด้วยว่ากำแพงกันคลื่นไม่สามารถแก้ปัญหาการกัดเซาะตลิ่งได้ และสนับสนุนให้ยกเลิกโครงการ ยกเว้นกรมโยธาธิการและผังเมือง และกรมเจ้าท่าที่ยังยืนความจำเป็น โดยอ้างว่าหากนายกเทศบาลเมืองม่วงงามพร้อมยกเลิกก็ยินดีจะดำเนินการ ซึ่งการประชุมกรรมาธิการการที่ดินฯ ครั้งหน้าได้มีการเชิญนายกเทศบาลเมืองม่วงงามมาร่วมชี้แจง
    .
    อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา สส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย อาทิ นายณัฐนนท์ ศรีก่อเกื้อ สส.เขต 7 สงขลา พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายศาสตรา ศรีปาน สส.เขต 2 สงขลา พรรคพลังประชารัฐ และตัวแทน ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี สส.เขต 4 สงขลา พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ชายหาดม่วงงาม ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา หลังจากนักอนุรักษ์ในพื้นที่ได้ประกาศตามหา สส.8 คนของสงขลาที่ไม่มาร่วมหาทางออกในกรณีดังกล่าว

    อ้างอิง: https://siamrath.co.th/n/163376
    https://news.thaipbs.or.th/content/293177?read_meta={"label":"articlepage_number1","group":"NA"}

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    MisterBan

    June 17, 2020 ส่งสัญญาณชัด ปิดประเทศยาวถึงปีหน้า 2564 ต่างชาติอดใจรอเที่ยวแดนจิงโจ้ปี 2021
    รัฐมนตรีกระทรวงการค้า ออสเตรเลีย นายไซม่อน เบอร์มิงแฮม เปิดเผยว่า ออสเตรเลียอาจไม่เปิดพรมแดนประเทศเพื่อให้ชาวต่างชาติเข้าประเทศออสเตรเลียถึงต้นปีหน้า 2564 แต่จะผ่อนคลายข้อจำกัดให้กับนักศึกษา และผู้เดินทางเข้ามาเพื่อพักอาศัยในระยะยาว สามารถเดินทางเข้ามาได้ อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 กลุ่มเมื่อเดินทางถึงออสเตรเลีย จะต้องเข้าสู่สถานที่กักกันเป็นเวลา 14 วัน
    สำหรับการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ดังกล่าวให้กับกลุ่มนักศึกษาจากต่างประเทศนั้น เนื่องจากกลุ่มนักศึกษาต่างชาติสามารถทำรายได้ให้ออสเตรเลียมากเป็นอันดับที่ 4 มีมูลค่าปีละ 26,140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 836,480 ล้านบาทต่อปี
    ในขณะที่ สายการบินแควนตัส ซึ่งเป็นสายการบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย ประกาศยกเลิกบริการเส้นทางบินระหว่างประเทศถึงสิ้นเดือนเดือนตุลาคม สาเหตุจากรัฐบาลออสเตรเลียประกาศปิดพรมแดนน่านฟ้าออสเตรเลียต่อเนื่องถึงสิ้นเดือนมีนาคม หรือมีความเป็นไปได้ที่อาจปิดยาวถึงสิ้นปีนี้
    อย่างไรก็ตาม สายการบินแควนตัสเตรียมจัดตารางการบินไประหว่างออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เพื่อเตรียมเปิดบริการในเดือนหน้า ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อนโยบายการฟื้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศภายใต้แนวคิดระเบียงท่องเที่ยวทั้ง 2 ชาติ หรือที่เรียกว่า Trans-Tasman bubble นอกจากนี้ ยังเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนชาวออสเตรเลียที่เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศราว 10 ล้านคนในปีที่แล้ว ซึ่งใช้จ่ายเงินในต่างประเทศมากถึง 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2 ล้านล้านบาท ให้หันมาเดินทางท่องเที่ยวในประเทศออสเตรเลียเป็นหลัก
    ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ในออสเตรเลียเมื่อกลางเดือนมีนาคมเป็นต้นมานั้น แรงงานในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและอาหารต้องตกงานราว 30% เนื่องจากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติหดหายอย่างสิ้นเชิง พบว่าในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านไปนั้น มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าออสเตรเลียเพียง 750 คน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว มีจำนวนชาวต่างชาติมากมายถึง 458,000 คน
    #ออสเตรเลีย #แควนตัส #โควิด19 #misterban #covid19

    1gW6DXPyXv8aiQxhBlSa67POVSaGhjYTH1BC9xIfzQZ_&_nc_ohc=DbDboQM_ZPEAX-tpZAX&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    f7BTKgSfl2ymskQnGxdV19FmtbydJLA3gZPCRLF3PLPV&_nc_ohc=vBJIHYbCIFsAX8os-qx&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    tHrMyANZu0hR_GYPfU3gMDPCRKPlhNm63w9eDMW3P-mv&_nc_ohc=F4TYMXHHpjYAX-rJp_p&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    t3Ur4gfVjNuRbuhQOPazAthDdSWRUAKJVDHwfVZXRSc-&_nc_ohc=xMnAm1eSn2sAX-2jVpW&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    MisterBan

    June 18, 2020 เด็กๆและครอบครัวอดไปเล่นตลอดกาล คิดซาเนียปิดถาวร ปลดกว่า 100 คนที่สิงคโปร์
    คิดซาเนีย แหล่งเรียนรู้และพักผ่อนหย่อนใจสำหรับครอบครัวชื่อดังในอาเซียน ประกาศปิดสาขาที่สิงคโปร์อย่างถาวร พร้อมปลดพนักงาน 103 คน สาเหตุจากผลกระทบอย่างรุนแรงจากโรคระบาดโควิด-19 ที่พุ่งสูงในสิงคโปร์ ทำให้ต้องปิดห้างสรรพสินค้าในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลต่อรายได้เป็นศูนย์นับตั้งแต่เดือนเมษายนมาถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ รายได้จากการสนับสนุนของผู้ร่วมลงทุนรายใหญ่ลดลงอย่างมาก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาพคล่องทางการเงิน และการตัดลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง
    สำหรับพนักงานที่ต้องตกงานทั้งหมด 103 คนนั้น คิดซาเนียจ่ายเงินค่าตอบแทนตามกฎหมายสิงคโปร์อย่างเต็มที่ พร้อมกับจัดหาช่องทางในการหางานอื่นๆให้กับพนักงานด้วย คิดซาเนียประกาศในเฟสบุ๊คว่า จะไม่กลับมาเปิดบริการ เมื่อจะมีการยกเลิกมาตรการปิดภาคธุรกิจ ขณะที่บริษัท เซ็นโทซา ดีเวลลอปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ในฐานะผู้ให้เช่าพื้นที่กับคิดซาเนีย เตรียมนำพื้นที่ที่ว่างลงมามาพัฒนาใหม่ในอนาคตต่อไป
    ทั้งนี้ คิดซาเนีย เปิดให้บริการครั้งแรกในสิงคโปร์เมื่อวันที่ 12 เมษายนปี 2016 เป็นต้นมา ด้วยพื้นที่ 81,000 ตารางเมตรที่เกาะเซ็นโทซา ในช่วงปิดบริการแรกๆ คิดซาเนีย ประกาศปิดชั่วคราวเมื่อวันที่ 7 เมษายน ซึ่งเป็นวันแรกที่รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศใช้มาตรการเซอร์กิต เบรกเกอร์ หรือมาตรการปิดเมือง ปิดภาคธุรกิจในสิงคโปร์เพื่อป้องกันและควบคุมโรคระบาดโควิด-19 คิดซาเนียมีสาขาในไทย ซึ่งเปิดบริการอยู่ที่ชั้น 5 สยามพารากอน กรุงเทพ
    #สิงคโปร์ #คิดซาเนีย #ปลดพนักงาน #ตกงาน #ปิด #โควิด19 #misterban #covid19 #kidzania #singapore
    NDv8wXHMjiMIY-cFE6IoPX204S1oNOWXeO6lmv_fjUfT&_nc_ohc=3yF8-nnihZMAX9Jqlog&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg
    =AZX-rUlBCvF5523zs33Ayga2w0WFPXgxAo6i3IqgScd5HNBzZjqXEZC_t8rDp-DqQhqxIwck-V32c7zXJwIhstv3SiUaQT3u2PaODbIsXqEEEzsWqaFbnQN1NgyBF8k01ZiYi3VsTMknkOXXA7qtvuNMZUuEgCA71nAH9JHHv-DfHg&__tn__=*bH-R']
    =AZX-rUlBCvF5523zs33Ayga2w0WFPXgxAo6i3IqgScd5HNBzZjqXEZC_t8rDp-DqQhqxIwck-V32c7zXJwIhstv3SiUaQT3u2PaODbIsXqEEEzsWqaFbnQN1NgyBF8k01ZiYi3VsTMknkOXXA7qtvuNMZUuEgCA71nAH9JHHv-DfHg&__tn__=*bH-R']

    1j5yrwBDzw_aBO0MeOlypnK5whO6158o2FakztD4vSTX&_nc_ohc=Yn1O_3tcjKgAX8ZTZs-&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg
    =AZX-rUlBCvF5523zs33Ayga2w0WFPXgxAo6i3IqgScd5HNBzZjqXEZC_t8rDp-DqQhqxIwck-V32c7zXJwIhstv3SiUaQT3u2PaODbIsXqEEEzsWqaFbnQN1NgyBF8k01ZiYi3VsTMknkOXXA7qtvuNMZUuEgCA71nAH9JHHv-DfHg&__tn__=*bH-R']
    =AZX-rUlBCvF5523zs33Ayga2w0WFPXgxAo6i3IqgScd5HNBzZjqXEZC_t8rDp-DqQhqxIwck-V32c7zXJwIhstv3SiUaQT3u2PaODbIsXqEEEzsWqaFbnQN1NgyBF8k01ZiYi3VsTMknkOXXA7qtvuNMZUuEgCA71nAH9JHHv-DfHg&__tn__=*bH-R']

    D4JvtbfvSZ_Wn4OIyOz9XwmFTQWiCyLXGjNupQhxNwLv&_nc_ohc=LB-CbnUgLPkAX-TTuNn&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg
    =AZX-rUlBCvF5523zs33Ayga2w0WFPXgxAo6i3IqgScd5HNBzZjqXEZC_t8rDp-DqQhqxIwck-V32c7zXJwIhstv3SiUaQT3u2PaODbIsXqEEEzsWqaFbnQN1NgyBF8k01ZiYi3VsTMknkOXXA7qtvuNMZUuEgCA71nAH9JHHv-DfHg&__tn__=*bH-R']
    =AZX-rUlBCvF5523zs33Ayga2w0WFPXgxAo6i3IqgScd5HNBzZjqXEZC_t8rDp-DqQhqxIwck-V32c7zXJwIhstv3SiUaQT3u2PaODbIsXqEEEzsWqaFbnQN1NgyBF8k01ZiYi3VsTMknkOXXA7qtvuNMZUuEgCA71nAH9JHHv-DfHg&__tn__=*bH-R']

    K4QECndRhOqM2I5CSa26ctKl-VOKiiYDv-DUsItmVD2l&_nc_ohc=FuRIz1WVG1EAX8LLkKL&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg
    =AZX-rUlBCvF5523zs33Ayga2w0WFPXgxAo6i3IqgScd5HNBzZjqXEZC_t8rDp-DqQhqxIwck-V32c7zXJwIhstv3SiUaQT3u2PaODbIsXqEEEzsWqaFbnQN1NgyBF8k01ZiYi3VsTMknkOXXA7qtvuNMZUuEgCA71nAH9JHHv-DfHg&__tn__=*bH-R']
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    MisterBan

    June 18, 2020 ละตินอเมริการะบาดหนัก เปรูติดโควิดแซงขึ้นที่ 7 ของโลก อินโดนีเซียติดโควิด-19 แซงขึ้นที่ 1 อาเซียน ดันยอดติดโควิด-19 ทั่วโลกทะลุกว่า 8.3 ล้านคน The Covid-19 infected globally toll surpassed 8.3 million
    เวลา 6.25 น. รายงานสถานการณ์จำนวนผู้ติดโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก เพิ่มเป็น 8,384,161 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรกของโลก คือ สหรัฐอเมริกา 2,232,957 ราย บราซิล 955,377 ราย รัสเซีย 553,301 ราย อินเดีย 367,264 ราย สหราชอาณาจักร 299,251 ราย สเปน 291,763 ราย เปรู 240,908 ราย อิตาลี 237,828 ราย อิหร่าน 195,051 ราย และเยอรมนี 190,179 ราย
    สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มเป็น 450,239 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 119,928 ราย บราซิล 46,510 ราย สหราชอาณาจักร 42,153 ราย อิตาลี 34,448 ราย ฝรั่งเศส 29,575 ราย สเปน 27,136 ราย เม็กซิโก 18,310 ราย เบลเยียม 9,675 ราย อิหร่าน 9,185 ราย และเยอรมนี 8,927 ราย
    ในส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อในอาเซียน และเสียชีวิต(ตัวเลขในวงเล็บ) พบว่า อินโดนีเซีย 41,431 ราย(2,276) สิงคโปร์ 41,216 ราย(26) ฟิลิปปินส์ 27,238 ราย(1,108) มาเลเซีย 8,515 ราย(121) ไทย 3,135 ราย(58) เวียดนาม 335 ราย เมียนมา 262 ราย(6) บรูไน 141 ราย(3) กัมพูชา 128 ราย และลาว 19 ราย
    #ไวรัสโคโรนา #ไวรัสอู่ฮั่น #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 #โรคปอดอักเสบ #ไวรัสโควิด19 #covid19 #Misterban #coronavirus #pneumonia #btimes #money360
    AuojfgJxzcAGpPFzHkpIxqVmCW4YB_buT7AWjMpNGwY1&_nc_ohc=8lpabPgS0b4AX-33KZz&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg
    =AZW0GIMhmKbJqJ97fgtsaPGz3yPSExcz7d8iAKmBF4oe2jo4DzGBo41Cq2_fdTGBwO2_q8yPUffL5rPiJQsBnq_GtInpC5o1HRVTtC1t7E1xPUG118GM1HRl1iBfVRNFs24lcPsoHYCEBerY67sjqIZ90wD-c9VXjoK3HpY6p48VYw&__tn__=*bH-R']
    =AZW0GIMhmKbJqJ97fgtsaPGz3yPSExcz7d8iAKmBF4oe2jo4DzGBo41Cq2_fdTGBwO2_q8yPUffL5rPiJQsBnq_GtInpC5o1HRVTtC1t7E1xPUG118GM1HRl1iBfVRNFs24lcPsoHYCEBerY67sjqIZ90wD-c9VXjoK3HpY6p48VYw&__tn__=*bH-R']

    VqL9fsEK6Y2vJEXdxPWIvOUXijCMsFyF8jkAcDelRO51&_nc_ohc=00eAOHC0l9sAX-ReaVE&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg
    =AZW0GIMhmKbJqJ97fgtsaPGz3yPSExcz7d8iAKmBF4oe2jo4DzGBo41Cq2_fdTGBwO2_q8yPUffL5rPiJQsBnq_GtInpC5o1HRVTtC1t7E1xPUG118GM1HRl1iBfVRNFs24lcPsoHYCEBerY67sjqIZ90wD-c9VXjoK3HpY6p48VYw&__tn__=*bH-R']
    =AZW0GIMhmKbJqJ97fgtsaPGz3yPSExcz7d8iAKmBF4oe2jo4DzGBo41Cq2_fdTGBwO2_q8yPUffL5rPiJQsBnq_GtInpC5o1HRVTtC1t7E1xPUG118GM1HRl1iBfVRNFs24lcPsoHYCEBerY67sjqIZ90wD-c9VXjoK3HpY6p48VYw&__tn__=*bH-R']

    8CPLa7ygCnlS2CJppoATE6J29nKzcFDt7ywwyktmnqUu&_nc_ohc=78fmt6ujoVcAX8Z4RBj&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg
    =AZW0GIMhmKbJqJ97fgtsaPGz3yPSExcz7d8iAKmBF4oe2jo4DzGBo41Cq2_fdTGBwO2_q8yPUffL5rPiJQsBnq_GtInpC5o1HRVTtC1t7E1xPUG118GM1HRl1iBfVRNFs24lcPsoHYCEBerY67sjqIZ90wD-c9VXjoK3HpY6p48VYw&__tn__=*bH-R']
    =AZW0GIMhmKbJqJ97fgtsaPGz3yPSExcz7d8iAKmBF4oe2jo4DzGBo41Cq2_fdTGBwO2_q8yPUffL5rPiJQsBnq_GtInpC5o1HRVTtC1t7E1xPUG118GM1HRl1iBfVRNFs24lcPsoHYCEBerY67sjqIZ90wD-c9VXjoK3HpY6p48VYw&__tn__=*bH-R']

    QSlQoHL7tUpZ2p45OkyO-XsxXdX9x2WEfaVny1sD9vpf&_nc_ohc=Df4YnhdtpB8AX-2T6Dx&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg
    =AZW0GIMhmKbJqJ97fgtsaPGz3yPSExcz7d8iAKmBF4oe2jo4DzGBo41Cq2_fdTGBwO2_q8yPUffL5rPiJQsBnq_GtInpC5o1HRVTtC1t7E1xPUG118GM1HRl1iBfVRNFs24lcPsoHYCEBerY67sjqIZ90wD-c9VXjoK3HpY6p48VYw&__tn__=*bH-R']
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    MisterBan

    June 18, 2020 แตะเบรกความคึกคักตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ร่วงกว่า 170 จุด ราคาน้ำมันดิบปิดลง 1% ส่งราคาไนเม็กซ์ปิดต่ำกว่า 38 ดอลลาร์ ราคาทองคำตลาดโลกเงียบเหงา
    เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 26,119 จุด -170 จุด หรือ -0.65% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,113 จุด -11 จุด หรือ -0.36% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 9,910 จุด +14 จุด หรือ +0.15% สาเหตุจากนักลงทุนประเมินภาวะโรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐที่พุ่งสูงต่อเนื่องในหลายรัฐ ท่ามกลางการทยอยเปิดภาคธุรกิจในแต่ละรัฐ ซึ่งกลับมาสร้างความกังวลในการลงทุน
    ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 37.96 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.42 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -1.09% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 40.61 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -0.35 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ -0.85% สาเหตุจากปริมาณสำรองทั้งน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปรายสัปดาห์ในสหรัฐลดต่ำลง สะท้อนความต้องการใช้ยังไม่ฟื้นตัวท่ามกลางการเปิดภาคเศรษฐกิจในสหรัฐ
    ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,735.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -0.90
    ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ สาเหตุจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น แนวโน้มการตรึงดอกเบี้ยในระยะยาว และเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น
    #ลงทุน #สตาร์ทอัพ #การเงิน #หุ้น #ทองคำ #น้ำมัน #ตลาดหุ้น #เล่นทอง #ราคาทอง #ดิจิทัล #markets #business #stock #gold #oil #investment #misterban #เศรษฐกิจ #เล่นหุ้น #btimes
    bqcu2RU74UYVyWvnqlZShF7p44_rND0Z5cU_fIpv72Qm&_nc_ohc=x_Ic4c98YaQAX-Uav1t&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg
    =AZXp8pZwQBnDqe6WMx81acZA5X2yryIDBJAToHbgiQyBhqXOEBPKJJ0OIt1ufJdpzq5lRnho7h0SJWJw1OEmRKgfX3sDAOAuMmP4QHsjAnaDiSRLxneY7F2keU1RgWy-p_wmnUJQVMnwE9nUV3e65cb8K6Rqs2pZpTlwowl2dTYqXw&__tn__=EH-R']
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กันไว้ดีกว่าแก้ แย่แล้วแก้ไม่ทัน ไต้หวันเตรียมพร้อมรับมือโควิดระลอก 2
    • 17 June, 2020
    • กฤษณัย ไสยประภาสน์ 20200604000028M.jpg
    นายหลินฉวนเหนิง (林全能) ปลัดกระทรวงเศรษฐการ ไต้หวัน สาธารณรัฐจีน

    นายหลินเฉวียนเหนิง (林全能) ปลัดกระทรวงเศรษฐการไต้หวัน สาธารณรัฐจีนได้ระบุว่า การเตรียมการด้านอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการป้องกันโรคระบาดของไต้หวันประกอบไปด้วยการสต๊อกด้านพลังงาน อาหาร และสิ่งของเครื่องใช้ประจำวัน รวมไปถึงหน้ากากอนามัย และเสื้อคลุมป้องกันส่วนบุคคลหรือ PPE ด้วย นอกจากนี้ อุปกรณ์รักษาพยาบาลอย่างเครื่องช่วยหายใจและอื่น ๆ รัฐบาลกำลังประเมินตรวจสอบจำนวนที่อยู่ในสต๊อก รวมทั้งอาจจะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการและจำนวนที่ควรจะมีอยู่เพื่อความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นอกจากนี้ อาจพิจารณาลงทุนผลิตวัสดุอุปกรณ์ที่เป็นหัวใจของการป้องกันโรคในไต้หวันด้วย

    นายหลินฯ ระบุว่า ไต้หวันรจะต้องสรุปบทเรียนจากผลกระทบที่เกิดจากโควิด 19 ที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องสร้างหลักประกันให้แก่การที่ประชาชนต้องมีวัสดุอุปกรณ์ทุกอย่างอย่างพอเพียง ต้องมีแผนการ เตรียมการแต่เนิ่น ๆ

    เนื่องจากแรงกดดันจากทางการจีน ทำให้ไต้หวันถูกกีดกันอยู่นอกองค์การอนามัยโลกหรือ WHO และองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวกับการป้องกันการระบาดของโรค เพราะฉะนั้น ไต้หวันจึงต้องพึ่งตัวเองต่อกรกับโรคระบาดที่เกิดขึ้น และแบ่งปันประสบการณ์ให้แก่ประเทศที่มีแนวความคิดเดียวกัน ตั้งแต่วันแรกที่พบโควิด 19 รายแรกในวันที่ 21 ม.ค. ไต้หวันที่มีประชากร 24 ล้านคน มีผู้ติดเชื้อเพียงไม่ถึง 500 ราย ตายเพียง 7 ศพ และไม่เคยมีการสั่งปิดเรียนหรืองดกิจกรรมทางเศรษฐกิจใดๆ

    ความสำเร็จของไต้หวันมาจากการเตรียมการล่วงหน้า โดยรัฐบาลไต้หวันได้เริ่มเตรียมการผลิตหน้ากากอนามัยในไต้หวันตั้งแต่แรกเริ่มที่พบการระบาด โดยทุ่มเงินงบประมาณหลายร้อยล้านจัดซื้อเครื่องจักรเพิ่มสายการผลิตหน้ากากอนามัยจากเดิมผลิตได้เพียงวันละ 2 ล้านชิ้น เป็นวันละ 20 ล้านชิ้นในปัจจุบัน ทำให้สามารถจัดสรรให้แก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึง

    นายหลินฯ ระบุเพิ่มเติมว่า ไต้หวันจะเริ่มต้นจากประสบการณ์ที่ได้จากหน้ากากอนามัย เสนอให้รัฐบาลเร่งเตรียมการเกี่ยวกับสายการผลิตสินค้าจำเป็น สต๊อกสินค้า เสริมเสถียรภาพให้แก่การสนองและราคาสินค้าในท้องตลาด อย่างไรก็ดี การระบาดของโควิด 19 ในช่วงที่ผ่านมา นอกจากสร้างความเดือดร้อนไปทั่วแล้ว บางภาคอุตสาหกรรมกลับได้รับอานิสงส์จากการนี้ เช่นอุตสาหกรรมเครื่องช่วยหายใจ บริษัทผู้ผลิตมีราคาหุ้นพุ่งถึงจุดสูงสุดในรอบ 4 ปี ส่วนโรงงานผู้ผลิตหน้ากากอนามัยก็มีการส่งออกเพิ่มขึ้นหลังยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออก ส่วนอุตสาหกรรมผลิตแป้ง น้ำมันพืช เครื่องกระป๋อง บะหมี่สำเร็จ กระดาษทิชชู่ก็มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นเช่นกัน

    ทั้งนี้ ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำไต้หวันได้กล่าวในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำไต้หวันวาระ 2 ว่า รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับหนึ่งใน 6 อุตสาหกรรมสำคัญของไต้หวัน 4 ปีต่อจากนี้ ไต้หวันจะเสริมยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการผลิตและการสต๊อกสินค้าจำเป็นในประเทศ


    https://th.rti.org.tw/news/view/id/...1d3uF-QDnatICj-HzKCFOTLoYJXZ2DBaCUjAWzOH4Qgpc
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk

    กระแสลมกรดกำลังแปรปรวน สิ่งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปีที่แล้ว มันกำลังเกิดขึ้นอีกครั้งในตอนนี้ กระแสลมกรดจะกั้นคอกและบล็อกทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเกิดขึ้น การบีบอัดบรรยากาศ สัญญาณมากมาย มันเริ่มจริง
    404debbd-dd93-425e-8346-7dc10643cd26-large16x9_Capture.png

    upload_2020-6-18_8-55-4.png
    The jet stream is warping. This began last year. It's happening again now. The jet stream is stalling and blocking worldwide. Unprecedented shifts are occurring. Atmospheric compression. So many signs. It's getting real.

    https://weartv.com/news/local/sahar...4MkONEssH9ypXF1uSVOgVDh4aiGU5KOc76bsMdcSDGDLc
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Roundtable Thailand

    นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ได้ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป จนกลายเป็นความปกติใหม่ที่เรียกว่า “New Normal” ทั้งรูปแบบการใช้ชีวิตของประชาชน รวมถึงรูปแบบและเครื่องมือที่เกี่ยวกับการจ้างงาน เช่น การให้ความสำคัญกับการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เป็นต้น ประกอบกับการที่ภาครัฐมีมาตรการผ่อนคลายให้บางกิจการได้เปิดดำเนินการอีกครั้ง ซึ่งทำให้แรงงานบางส่วนได้กลับเข้าสู่ระบบการจ้างงานแล้ว แต่อย่างไรก็ดี ยังพบว่ามีบางส่วนที่ยังคงว่างงานอยู่
    กรมการจัดหางาน จึงได้ปรับมาตรฐานการให้บริการจัดหางานแบบเชิงรุก เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงบริการหางานได้ง่ายมากยิ่งขึ้นเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง โดยได้พัฒนาแพลตฟอร์มการจ้างงานรูปแบบใหม่ในชื่อ “บัตรดิจิทัล (Smart Job Wallet)” โดยให้บริการรูปแบบ QR Code มีวิธีใช้งานง่าย 3 ขั้นตอน ได้แก่
    1.เปิดเว็บไซต์ smartjob.doe.go.th
    2.ลงทะเบียน/เข้าสู่ระบบ
    3.ไปที่เมนูดาวน์โหลดบัตรดิจิทัล Smart Job Wallet สามารถใช้ได้ทั้งในระบบปฏิบัติการ IOS และ Android (ระบบ Android จะต้องติดตั้งแอปพลิเคชัน Mywallet ก่อน)
    สามารถนำบัตรดิจิทัล (Smart Job Wallet) ไปใช้ได้ 3 ช่องทาง คือ
    1.ทางระบบอินเทอร์เน็ต ช่องทางนี้ผู้ใช้บริการจะได้รับข้อมูลแบบ Real Time เนื่องจากใช้ฐานข้อมูลเดียวกันกับระบบ Smart Job
    2.ที่สำนักงานจัดหางาน โดยนำบัตรดิจิทัลแสดงตนแทนบัตรประจำตัวนายจ้าง และบัตรประจำตัวประชาชน
    3.งานนัดพบแรงงาน โดยไม่ต้องใช้เอกสาร (Paperless)
    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานบัตรดิจิทัล (Smart Job Wallet) ได้ที่สำนักงานจัดหางานทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน
    ที่มา https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1870648
    FGHysBZJKbC0-MdT-Amks5DKhsNkimvbGkOMDW2iLxx4&_nc_ohc=sSDCikHZjEcAX_v39JS&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg
    =AZWJHDQlieLZvNzKEUkp8APMc127CDqYhAdC43cJDjEhcKji0zTPSbYfdb316_lid_drhKI3FeYaJA0FBFCwd26jhH522TGvwdnFPV64bgn4acbv3k9QT-PXqrjB2s2bkgKg9Px826nlkCy6jmVehxg0Vj6rWbCXrtPgZlPqGMJsIw&__tn__=EH-R']
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Roundtable Thailand

    เมื่อเร็วๆ นี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 12/2563 ได้รับทราบการเตรียมความพร้อมการจัดการเรียนการสอนโรงเรียนในสังกัด กทม.ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
    สำนักการศึกษาได้เตรียมจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน 4 รูปแบบ คือ การสลับชั้นมาเรียนของนักเรียนแบบสลับวันเรียน การสลับชั้นมาเรียนของนักเรียนแบบสลับวันคู่วันคี่ การสลับช่วงเวลามาเรียนของนักเรียนแบบเรียนทุกวัน และการสลับกลุ่มนักเรียนแบบแบ่งนักเรียนในห้องเป็น 2 กลุ่ม โดยแต่ละรูปแบบจะมีความเหมาะสมกับขนาดโรงเรียน และพื้นที่ที่แตกต่างกัน และยังได้รวบรวมข้อเสนอแนะและแนวทางการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนสังกัด กทม. ซึ่งคณะผู้ปกครองและผู้ปกครองได้เห็นชอบร่วมกัน นำเสนอที่ประชุมคณะผู้บริหารเมื่อในวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา
    ล่าสุด สำนักการศึกษา กทม.เวียนหนังสือถึงผู้อำนวยการ 50 เขต กทม. เพื่อแจ้งกำหนดรูปแบบการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพื่อเป็นการรองรับการเปิดภาคเรียนที่ 1/2563 ในวันที่ 1 ก.ค. 2563 ให้กับสถานศึกษาในสังกัด กทม.ทราบและดำเนินการ
    ทั้งนี้ ได้กำหนดขนาดโรงเรียนทั้งขนาดเล็ก จำนวนนักเรียนตั้งแต่ 400 คนลงมา ขนาดกลางและขนาดใหญ่ จำนวนนักเรียนตั้งแต่ 401 คนขึ้นไป ใน “รูปแบบสอบปกติ” นักเรียนไม่เกิน 20 คน/ห้อง โต๊ะเรียนเว้นระยะอย่างน้อย 1.5 เมตร รักษาระยะห่างเวลาเรียน ช่วงเวลาพัก รับประทานอาหาร ฯลฯ
    “รูปแบบผสมผสาน” แบบสลับวันเรียนทั้งหมดทุกระดับชั้น แบบที่ 1 มาเรียนปกติ เว้นวันอย่างต่อเนื่อง เช่น ระดับอนุบาล ป.1-ป.3 ม.1-ม.6 สัปดาห์ที่ 1 - อังคาร พฤหัสบดี สัปดาห์ที่ 2 จันทร์ พุธ ศุกร์ ส่วน ป.4-ป.6 และ ม.4-ม.6 มาเรียนวันเว้นวันอย่างต่อเนื่องสัปดาห์ที่ 1 - จันทร์ พุธ ศุกร์ สัปดาห์ที่ 2 อังคาร พฤหัสบดี
    และแบบที่ 2 แบบมาเรียนปกติ + สลับวันเรียนทั้งหมด เช่น อนุบาล-ป.3 มาเรียนปกติทุกวัน หรือสลับมาเรียน ส่วน ป.4-ป.6 และ ม.4-ม. 6 มาเรียนปกติวันเว้นวันอย่างต่อเนื่อง โดยนักเรียนมาโรงเรียน ตามวันที่สลับและเรียนตามตารางในชั่วโมง หรือคาบเรียนปกติ ชั้นเรียนละไม่เกิน 20 คน/ห้อง ระยะห่าง 1.5 เมตร นอกจากนั้นยังให้จัดระบบออนไลน์ และออนแอร์ ในวันที่นักเรียนไม่ได้มาโรงเรียนด้วย
    ที่มา https://mgronline.com/politics/detail/9630000062246
    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com
    V0orSaRt_sR9rAvoctFc7vbkoPA3OUQLLhInAj_ZFuHG&_nc_ohc=xzNznAlQ2KQAX_EVLjj&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg
    =AZUosLrUGFZZuMh87_kASbZPv2ZMYyDgzDqDdQiVOvKwVtnRG-TMQbud8tZek-6CnCf_t0GvHs6dFG91bqJtrGCGnU99_0cYbVMDuij9MVhwOoIyw1tFKB0sD73N30VSD2h7Fikw34RD2CgcFpMxITJvrjVE4mpOomjw56umMYO_Fg&__tn__=EH-R']
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Roundtable Thailand

    17 มิถุนายน 2563 ที่กระทรวงแรงงาน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน กล่าวถึงการลาออกจากหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ว่า ตนมีแนวความคิดว่า เลิกกับพรรค แต่หวังว่าคนจะยังซัพพอร์ตพรรคนี้ต่อ ถ้ายังเดินไปในทิศทางพรรคการเมืองของประชาชน และได้เรียนให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ทันทีที่ลาออก พร้อมบอกนายกรัฐมนตรีว่า ตามสบายเลยนะไม่ต้องห่วง ตนยังไม่ลาออกจากรมว.แรงงาน เพราะรู้ว่าต้องปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนทิศทางการทำงานในกระทรวงแรงงานยังเหมือนเดิม ใครจะเชื่อไม่เชื่อก็ตามแต่ ยืนยันว่าที่ลาออกไม่ได้เกี่ยวกับการทำงานไม่เข้าเป้า เพราะตนค่อนข้างพอใจในการทำงาน และไม่เกี่ยวกับเรื่องใครไม่พอใจทั้งสิ้น
    "ผมลาออก ผมคิดเอง ไม่มีใครว่าอะไรผมสักคำ เพราะอยากให้พรรคเดินดีกว่านี้ ที่กระทรวงไม่เกี่ยว ผมรู้ว่าเดี๋ยวก็จะมีคนอื่นมา อยากให้พรรคเดินไปในทิศทางที่เป็นพรรคการเมืองของประชาชน เมื่อทิศทางของพรรคไม่เดินไปอย่างนั้น ผมก็ออก ง่ายแค่นั้น วิธีการทำงานพรรคการเมืองมีหลายชนิด คนอื่นเขาทำพรรคการเมืองแบบปกติ ในชีวิตผมอยากเห็นพรรคการเมืองที่ไม่ปกติ แต่พอทำแล้ว คนที่เขาคอนโทรลพรรคเขาไม่ไปด้วย ผมก็ไม่รู้จะทำไปทำไมให้ทะเลาะกัน และเดี๋ยวก็จะมีการปรับครม. เขากำลังเจรจาต่อรองกัน ไม่มีผมจะได้ปรับง่ายขึ้น" ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าว
    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com
    C3Zl6iuFLv6B9puArp6HjolGB6Ib5PgJRDRugwom9IhB&_nc_ohc=T1xvONM4d5kAX_jEzkg&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg
    =AZUcChCKKFdTyUZUwu11dOcw8t1OQJz4ThXAcN4PGoryFtHu7VdOKVaIi5WaTAx3bP1buntLJFQBoSfN8oe0p0WhpO2VlFly14FsVQP8Pp10Ys3cMI8WZAk2TisSjVVKRxcTvltc446Cc17qn_WocWQaxFUvIivgp6ZpGJzvkL8bZA&__tn__=EH-R']
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Roundtable Thailand

    นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากกระทรวงพาณิชย์จัดโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนมาแล้ว 4 ลอต โดยลอตที่ 5 จะเน้นช่วยผู้ปกครองนักเรียนผ่านโครงการ Back To School เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงใกล้เปิดภาคเรียนวันที่ 1 กรกฎาคม 2563
    ทั้งนี้ เป็นที่ทราบจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 และสภาพคล่องของประชาชนขณะนี้กระทรวงพาณิชย์มีความห่วงใยต่อพ่อแม่ผู้ปกครองก่อนการเปิดเทอมใหญ่ จึงได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในวางแผนล่วงหน้า ขณะเดียวกันก็เดินหน้าโครงการ "พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน" ลอต 1-2-3-4 เกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภค ส่วน “พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน” Lot 5 Back To School จะเปิดวันที่ 17 มิถุนายน 2563
    เบื้องต้นได้รับรายงานจากกรมการค้าภายในว่า ได้ประสานผู้ผลิตผู้จำหน่ายห้างสรรพสินค้าและห้างค้าส่งค้าปลีกสมัยใหม่ที่เกี่ยวกับการผลิต-จำหน่ายเครื่องแบบนักเรียนรองเท้า-ถุงเท้า-กระเป๋านักเรียน และอุปกรณ์การเรียน เพื่อลดราคารวมกว่า 1,000 รายการ โดยมีสินค้าเข้าร่วมโครงการแบ่งเป็น 6 กลุ่ม คือ
    1.เครื่องแบบนักเรียน
    2.รองเท้า-ถุงเท้า
    3.กระเป๋านักเรียน
    4.ตำราเรียนและหนังสือ
    5.เครื่องเขียน
    6.สื่อการเรียนการสอน
    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com
    ที่มา https://www.mcot.net/viewtna/5ee83399e3f8e40af84531fb
    jjZJju30nMHFIZsMQvc_0L3RWQrPhEOy_VRiv_EdgEjm&_nc_ohc=_tJn4TiMmuEAX9HcBKO&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg
    =AZW31j-L96sUSaSEuAppunJWaEutGTgp2WK9Tt3h0lYneV6FBDFSyCUp0YaWY6aM6n3wUNDe9v7ITSMpwTDEoacjOVysLDfrI075C3QWGzeVjESyAo8mZQ9M0nBFie_YAAKNN_BPM-bKw1LpzKsXygKo0JLiBwVpT3EOyvH4YeOE7A&__tn__=EH-R']
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Fenómenos Naturales

    จีน - กระแสของน้ำเนื่องจากฝนตก และน้ำท่วม ทำให้เกิดการพังทลายของสะพานที่กำลังก่อสร้างใน Bazhong, Sichuan เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน
     

แชร์หน้านี้

Loading...