ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คู่รักชาวไร่จีน “เต้นลืมทุกข์” พ้นโรคซึมเศร้า ทุกที่คือฟลอร์แห่งความสุข
    .
    สามีภรรยาชาวจีน ที่ใช้ชีวิตในชนบทมณฑลเจ้อเจียง เปลี่ยนชีวิตที่เคยทุกข์ให้เปี่ยมสุขด้วยการเต้นรำ ฟานเต๋อตัว ผู้เป็นสามีเล่าว่า เขาทนทุกข์กับโรคซึมเศร้าหลังประสบอุบัติเหตุหนักทางรถยนต์ เขาหวาดผวาที่จะนอนคนเดียว ต้องนอนโดยมีคนหลายๆ คนนอนเป็นเพื่อน
    .
    เผิงเสี่ยวอิง ภรรยา เล่าว่าบางครั้งสามีนอนอยู่กลางดึกก็หนีออกไปนอกบ้าน เธอต้องออกตามหาและคอยดูสามีไม่ให้คลาดสายตา...จนวันหนึ่งเธอเสนอให้สามีลองฝึกเต้นรำเพื่อคลายทุกข์ และพบว่าอาการของสามีดีขึ้นอย่างมหัศจรรย์

    ฟานเต๋อตัวบอกว่า พอเสียงเพลงดังขึ้น สมองของเขาก็ปลอดโปร่ง เขารู้สึกแตกต่างอย่างสิ้นเชิง หลังจากนั้นเขาก็เต้นรำกับภรรยาจนกลายเป็นชีวิตประจำวัน
    .
    เมื่อเสียงดนตรีดังขึ้น พวกเขาจะหยุดงานที่ทำอยู่ และวาดลวดลายเต้นในทุกๆ ที่ ไม่ว่าจะริมท้องไร่ท้องนา ลานบ้าน ตอนนี้ลูกๆ ก็ยังมาร่วมเต้นด้วย
    ฟานเต๋อตัวบอกว่า ตอนนี้ในชีวิตของเขามีเพียง 2 เรื่อง คือ ทำไร่และเต้น
    .
    ในช่วงที่โควิด-19 ระบาด ทุกคนกักตัวอยู่ที่บ้าน มีเวลาว่างมากมาย ทั้งคู่จึงเผยแพร่คลิปลีลาเต้นริมไร่บนโลกออนไลน์ มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้าน8แสนคน
    .
    เผิงเสี่ยวอิงบอกว่า คนดูชมว่าเธอดูอ่อนวัยมาก เธอดีใจเพราะเธอมีความสุข เมื่อยังมีแรงเต้นก็จงเต้น เมื่อยังมีแรงทำงานก็จงทำงาน เมื่อยังกินได้ก็จงกิน เธออยากให้ทุกคนลุกคนเต้น เพื่อให้มีสุขภาพที่ดีและเปี่ยมสุขเหมือนเธอและครอบครัว



     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เรามีเพียงงานวิวาห์เดียวดายภายใต้แสงจันทร์ สุกสกาวดวงดาวแพรวพราวนับหมื่นร้อยพัน ร่วมกันเป็นพยานแห่งรักที่ไม่มีพิธีใดจะสำคัญ....เหนือใจ

    https://mgronline.com/japan/detail/9630000062090

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    CEO #โตโยต้า บริษัทรถยนต์ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยังทำกำไรได้แม้เผชิญวิกฤตใหญ่จากไวรัสโควิด ยิ่งกว่าช่วงวิกฤตเลย์แมน บราเธอร์ ที่มีต้นตอจากสหรัฐ

    https://mgronline.com/japan/detail/9630000062964

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวสวน #ไต้หวัน ตะลึง ❗️แรงงาน #ไทย ช่วยปราบศัตรูพืช จับ “แมงแคง” กินเป็นๆ เชื่อกินแล้วปึ๋งปั๋ง เป็น “ไวอาก้าธรรมชาติ”

    เกษตรกรสวนลิ้นจี่และสวนลำไยในภาคกลางของไต้หวัน ต่างประสบปัญหาศัตรูไม้ผลอย่างมวนลำไย หรือ “แมงแคง” มาเป็นเวลานาน ต้องฉีดพ่นยาฆ่าแมลง หรืออาศัยแตนเบียนเข้าทำลายแมงแคงช่วงที่เป็นไข่ แต่ขณะนี้พบว่าแมงแคงเจอศัตรูธรรมชาติที่แท้จริงเข้าแล้ว นั่นคือ #แรงงานไทย
    .
    แรงงานจากภาค #อีสาน นิยมกิน #แมงแคง ด้วยหลากหลายวิธี ทั้งทอดกรอบ พัด ตำเป็นน้ำพริก และที่ทำให้คนไต้หวันถึงกับตะลึงคือ เด็ดปีกแล้วกินกันเป็นๆ โดยแรงงานไทยกล่าวว่า เป็นอาหารเลิศรส บำรุงสุขภาพ และถือเป็นไวอาก้าธรรมชาติของผู้ชายอีสานเลยทีเดียว
    .
    ในวันหยุดจะมีแรงงานไทยเป็นกลุ่มๆ ถือไม้ยาวไปตามสวนลิ้นจี่ สวนลำใย เพื่อจับแมงแคงมาปรุงเป็นอาหาร ทำให้เกษตรกรไต้หวันโล่งอก บอกว่าวิกฤตแมงแคง เห็นทีจะคลี่คลายก็คราวนี้
    .
    นายกัว จวิ้นหยิน นักอนุรักษ์พรรณไม้และผู้ก่อตั้งธนาคารต้นไม้ในเมืองจางฮั่ว โพสต์เฟซบุ๊กว่า ศัตรูธรรมชาติของแมงแคงไม่ใช่แตนเบียน แต่เป็นแรงงานไทย เขากล่าวว่า แรงงานไทยในเมืองจางฮั่วจำนวนมาก อาศัยช่วงวันหยุด ปั่นจักรยานไปตามสวนลิ้นจี่และสวนลำใย ตามจับแมงแคงมาปรุงเป็นอาหาร ด้วยความแปลกใจจึงเข้าไปสอบถาม
    .
    แรงงานไทยบอกว่า แมงแคงเป็น 1 ในเมนูอีสานรสโอชาชั้นยอด สามารถนำไปปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายวิธี หรือจะกินดิบๆ ก็อร่อย ว่าแล้วมีแรงงานไทยรายหนึ่งจับแมงแคง เด็ดปีกทิ้ง แล้วบีบตรงส่วนท้องเพื่อให้ฉี่ที่มีกลิ่นฉุนๆ ออก โยนใส่ปากเคี้ยวกินเป็นๆ กินพลางยกหัวแม่โป้งไปพลางว่า รสชาติเด็ดมาก และยังกล่าวว่า “คนไต้หวันไม่รู้จักกินของดี” ทำเอาผู้เชี่ยวชาญพรรณไม้ของไต้หวันผู้นี้สนใจอยากลอง แต่ก็บอกว่าใจไม่ถึง ไม่กล้าเลียนแบบ

    แรงงานไทยจับแมงแคงกิน ช่วยแก้ปัญหาใหญ่ให้กับเกษตรกรชาวสวนลิ้นจี่และลำใยในไต้หวัน เคยมีผู้โพสต์ในเฟซบุ๊กเช่นกันว่า เห็นคนงานไทยกลุ่มหนึ่ง กำลังจับมวนลำไยหรือแมงแคงตามสวนลิ้นจี่ จึงเข้าไปถามว่าเอาไปทำอะไร? คนงานไทยบอกว่าเอาไปกิน
    ❗️
    คนงานไทยนำมวนลำไยทอดกรอบในกะทะร้อนๆ ทานกันอย่างเอร็ดอร่อย และยังเล่าว่า แมงแคงสุดยอดเมนูของคนอีสาน ราคาขายสูงถึงตัวละบาท แต่ขณะที่จับต้องใช้เทคนิค กล่าวคือ จะใช้ไม้ตีเบาๆ บนต้นไม้ให้มันตกใจ ก็จะปล่อยสารพิษออกมาและหดแขนขาแกล้งตายตกลงพื้น จากนั้นเก็บใส่ถังล้างให้สะอาด นำไปทอดในน้ำมันร้อนจนกรอบ บีบมะนาวและใส่เครื่องปรุงอย่างตะไคร้และพริก หรือจะทำเป็นน้ำพริกหรือแจ่วแมงแคงก็สุดแสนจะอร่อย

    อย่างไรก็ตาม มีคำเตือนว่า มีเกษตรกรบางส่วน ใช้วิธีฉีดยาฆ่าแมลงกำจัดมวนลำไยหรือแมงแคง หากจับแมลงชนิดนี้มากินโดยไม่ระวัง อาจได้รับอันตรายจากสารเคมี นอกจากนี้ ไม่ควรจะกินแมงแคงเป็นๆ เพราะอาจมีพยาธิเข้าสู่ร่างกาย
    ❗️
    ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนแรงงานไทยว่า ถ้าจับตัวเต็มวัยของมันจะปล่อยฉี่เป็นสารพิษกลิ่นฉุน อาจมีอาการแพ้ตามผิวหนัง แสบร้อน หากไม่ระวังฉี่ของมันโดนตาอาจทำให้ตาบอดได้

    แมลงชนิดนี้ เคยสร้างปัญหาปวดหัวให้กับชาวสวนลิ้นจี่และสวนลำไยของไต้หวัน แต่ขณะนี้ มาเจอศัตรูธรรมชาติอย่างแรงงานไทย โอกาสที่จะแพร่พันธุ์ก็ลดน้อยลงไป.

    ข่าวจากสถานีวิทยุแห่งชาติไต้หวัน https://th.rti.org.tw/radio/programMessageView/id/102781

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาว #จีน หันมาใช้การคารวะแบบโบราณที่เรียกว่า “#จั้วอี” ซึ่งสะดวกและสะอาด การคารวะแบบที่เคยเห็นในหนังจีนโบราณที่ถูกต้องเป็นอย่างไร
    ‍♀️‍♂️
    เมืองฉูโจวรณรงค์ให้ข้าราชการและประชาชนหันมาใช้การทักทายแบบ “จั้วอี” 作揖 ซึ่งเป็นการแสดงความเคารพแบบโบราณของจีน ที่สืบทอดมานานกว่า 4,000 ปี รักษาสุขอนามัยได้มากกว่าการจับมือ หอมแก้ม หรือโอบกอดแบบฝรั่ง เพราะไม่ต้องสัมผัสร่างกายของฝ่ายตรงข้าม และทักทายครั้งเดียวพร้อมกันเป็นหมู่คณะได้ ไม่ต้องเสียเวลาจับมือทีละคน ใกล้เคียงกับการ “ไหว้” ของพุทธศาสนา

    แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป คนจำนวนมากกลับ “จั้วอี”แบบตามใจฉัน ซึ่งถือว่าผิดประเพณีดั้งเดิมพอสมควร
    .
    ตามแบบแผนที่ถูกต้อง จั้วอี “ผู้ชายซ้ายทับขวา” คือ ยื่นมือขวาออกไประดับหน้าอก แล้วใช้มือซ้ายโอบไว้ข้างบน ส่วน “ผู้หญิงขวาทับซ้าย” คือ มือขวาอยู่ข้างบน จากนั้นค้อมตัวลงพร้อมกับเคลื่อนมือ
    .
    หากคารวะผู้อาวุโสให้ยกมือขึ้นสูงและค้อมตัวคำนับต่ำราว 45 องศา หากเป็นผู้ที่เสมอกันก็ยกมือระดับหน้าอกและค้อมตัวราว 15 องศา
    .
    เหตุผลคือ ในอดีตมือขวาคือมือที่ใช้ถืออาวุธ การเอามือซ้ายมาพาดไว้บนมือขวาก็คือ การยอมศิโรราบ และเคารพนับถือนั่นเอง นอกจากนี้ ในคติจีนถือว่า “ซ้ายเป็นมงคล” จึงหันมือซ้ายออกเพื่อคารวะ
    .
    ประเด็นที่สำคัญอีกอย่างคือ “ผู้ชายซ้ายทับขวา” “ผู้หญิงขวาทับซ้าย” ใช้กับการคารวะในพิธีมงคลต่างๆ และแสดงความเคารพทั่วไป แต่การเคารพศพจะทำตรงกันข้ามทั้งชายและหญิง
    .
    หลังการปฏิวัติคอมมิวนิสต์ ชายหญิงเท่าเทียม ประเพณีดั้งเดิมถูกละทิ้ง คนจีนหันมาใช้การทักทายแบบตะวันตก คือ จับมือ แต่หลังจากการระบาดของของโควิด การคารวะแบบโบราณจึงได้รับการรื้อฟื้นขึ้นมา
    ✋✊
    อนึ่งสำหรับการประลองยุทธ์จะใช้การจั้วอีอีกแบบหนึ่ง คือ การกำหมัด 抱拳礼 โดยมือซ้ายวางไว้บนหมัดขวา.

    ชมคลิป


     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศูนย์บัญชาการโรคติดต่อกลางของไต้หวันแถลงว่า ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายนเป็นต้นไป ไต้หวันจะอนุญาตให้ประชาชนในภาคธุรกิจจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ รวมถึง นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย เวียดนาม และ ไทย เดินทางเข้าไต้หวันได้

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ทรัมพ์กลุ้มยาHydroxyค้างสต็อคกว่า63ล้านเม็ด
    #สหรัฐอาจเสียชีวิตจากCovidได้ถึง2แสน

    ท่านเสี่ยอ่าง โดนัลด์ ทรัมพ์ ของเรา งานงอกอีกแล้วครับท่าน หลังจากที่องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐ หรือ FDA ออกมาระงับการใข้ยาต้านมาลาเรีย ทั้ง Hydroxychloroquine (HCQ) และ Chloroquine (CQ) กับผู้ป่วย Covid-19 ในสหรัฐ เพราะ ผลลัพธ์ที่ได้ ไม่สามารถยืนยันได้ว่ายาต้านมาลาเรีย ทั้ง 2 ตัวนี้ จะต้านเชื้อไวรัสโคโรน่าได้จริง

    นอกจากจะระงับให้ใช้ยากับคนไข้ที่กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว ยังระบุว่า ยาต้านมาลาเรีย HCQ ที่รัฐบาลกลางสหรัฐรับบริจาคมาจากต่างประเทศ ก็ไม่อนุญาตให้ใช้ ด้วยเหตุผลเรื่องมาตรฐาน และความปลอดภัย

    ก็เลยทำให้ทีมรัฐบาลท่านเสี่ยทรัมพ์งานงอกทันที เพราะตั้งแต่ที่ทรัมพ์เริ่มออกมาโปรโมทการใช้ HCQ เพื่อต้าน Covid-19 ตั้งแต่ช่วงมีนาคมเป็นต้นมา ทางรัฐบาลกลางสหรัฐก็รีบจัดหายามาเก็บสต็อคไว้เป็นจำนวนมากถึง 63 ล้านเม็ด อยู่ในคลังยาของรัฐบาลกลางสหรัฐ พร้อมส่งให้กับสถานพยาบาลทั่วประเทศ

    แต่พอ FDA ออกคำเตือนมาอย่างนี้ ก็เลยทำให้คลังยาของรัฐบาลกลาง ส่งยาออกไปให้โรงพยาบาลในประเทศไม่ได้ ค้างสต็อคจำนวนมหาศาล

    โดยปกติยาต้านมาลาเรีย นอกจากจะใช้รักษามาลาเรียแล้ว ก็ยังสามารถใช้รักษาโรคไขข้อ รูมาตอยด์ เอส แอล ดี ได้ แต่จำนวนยาที่ผลิตในประเทศก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องกักตุนมากมายขนาดนั้น

    แล้วยาที่ทางรัฐบาลสหรัฐได้รับมาจากบริษัทยาในต่างประเทศ ก็ไม่ได้เป็นบริษัทเล็กๆ no name ที่ไหนเลย หนึ่งในนั้นคือ Bayer บริษัทยายักษ์ใหญ่ของเยอรมัน ด้วยชื่อเสียงระดับนี้ ก็น่าจะไว้ใจได้เรื่องคุณภาพ

    แล้วทีนี้ ยา Hydroxy 63 ล้านเม็ดจะเอาไปไว้ไหน?

    จะให้ท่านเสี่ยทรัมพ์ กินเองคนเดียวคงไม่ไหว งานนี้มีอยู่ทางเดียวคือต้องบริจาคต่อให้ประเทศอื่น

    สำหรับประเทศไหน ที่สนใจจะขอเสี่ยงดวงกับ HCQ ต้าน Covid-19 หรือประเทศที่มีปัญหาการระบาดของมาลาเรียตามฤดูอยู่แล้ว น่าจะได้ฟังข่าวดีเร็วๆนี้

    แต่คิดอีกแง่หนึ่ง ก็ดีกว่าเอาไปถมทะเลนะคะ

    แต่ทั้งนี้สถานการณ์ไวรัส Covid-19 ในสหรัฐก็ยังไม่ดีขึ้น ถึงแม้ว่ารองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ จะออกมาเดินสาย พูดคุยกับบรรดาผู้ว่าการรัฐ ให้พยายามสื่อสารกับประชาชนว่า ที่เรามีตัวเลขเพิ่มขึ้นเยอะ เพราะเราตรวจเชื้อเยอะ ตรวจมาก เจอมาก เป็นเรื่องปกติ

    โดยที่ตอนนี้ ทั้งเสี่ยทรัมพ์ และ ท่านรองฯเพนซ์ ก็พยายามทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ และเดินหน้าเปิดเมือง เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อ

    ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ในสหรัฐก็ออกมาแสดงความวิตก ไม่ใช่เฉพาะท่าทีของรัฐบาล แม้กระทั่งชาวอเมริกัน ก็เริ่มไม่ตื่นตัว ป้องกันตัวจากไวรัสโคโรน่ากันแล้ว

    หนึ่งในความเห็นของ ด็อกเตอร์ Ashish Jha ผู้อำนวยการสถาบัน Harvard Global Health Institute กล่าวว่า คนอเมริกันพยายามคิดว่า เรื่องโรคระบาดมันจบแล้ว เดี๋ยวมันก็หายไป จะเป็นอย่างไรก็ "ช่างแม่ม" แล้ว

    ซึ่งถ้าเราพยายามกันหนักตั้งแต่แรก ดึงกราฟการแพร่ระบาดให้หยุดลงได้ พวกเราน่าจะผ่านจุดที่เลวร้ายที่สุดไปได้ และเดินหน้าต่อได้ดีกว่าสถานการณ์ในตอนนี้

    แต่หลายคนกลับไปเชื่อว่าไวรัสมันจะหายไปเอง ราวๆ มิถุนายน เป็นต้นไป ซึ่งตอนนี้ก็น่าจะรู้แล้วว่า มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น แต่ชาวอเมริกันก็ยังไม่ใส่ใจ รวมถึงการสื่อสารของผู้นำประเทศ ที่คิดแต่จะเปิดเมือง ไวรัสก็จะยังคงอยู่กับเรา ไม่หายไปไหน

    สิ่งที่น่าวิตกยิ่งกว่านั้น คือ สำนักสถิติ Institute for Health Metrics and Evaluation (IHME) แห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ได้ประเมินตัวเลขใหม่ จากข้อมูลปัจจุบัน พบว่า ชาวสหรัฐอาจเสียชีวิตจาก Covid-19 ได้สูงกว่า 2 แสนคน ภายในเดือนตุลาคมนี้

    แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดท่านเสี่ยทรัมพ์ของเราได้ เพราะแกจะออกไปนั่งรถแห่หาเสียงแล้ว โดยจะมีขบวนใหญ่ที่เมืองทัลซ่า รัฐโอคลาโฮมา ในวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายนนี้แล้ว ถึงแม้ว่าจะมีตัวเลขการระบาด Covid-19 ในรัฐนี้ ดีดตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

    ก่อนหน้านี้ ท่านเสี่ยทรัมพ์แกอาจจะโทษจีนได้ โทษ WHO ได้ เรื่องที่ไม่เตือนเรื่องการระบาดให้รู้ก่อนแต่เนิ่นๆ

    แต่ตอนนี้ โทษคนอื่นไม่ได้แล้วนะค้า จากเป้าหมายของท่านเสี่ยที่จะเป็น อเมริกัน เฟิร์ส หรือ อเมริกัน เกรท ตอนนี้กลายเป็นอเมริกัน ตัวใคร ตัวมัน แล้วค่า ใครจะกล้าให้คนอเมริกันเข้าประเทศหล่ะคะนี่

    แหล่งข้อมูล

    https://ktvz.com/health/2020/06/17/us-stockpile-stuck-with-63-million-doses-of-hydroxychloroquine/
    https://www.nbcboston.com/news/nati...-touted-malaria-drugs-vs-coronavirus/2143197/
    https://www.theguardian.com/world/2020/jun/17/fauci-coronavirus-covid-19-cases-us
    https://www.nbcnews.com/politics/po...ays-he-wouldn-t-attend-trump-rallies-n1231262

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    18 มิถุนายน 2563 บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในฝรั่งเศส ซึ่งประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ธุรการ เดินขบวนอย่างสงบทั้งในกรุงปารีสและเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทำตามคำสัญญาที่จะยกเครื่องระบบโรงพยาบาลของฝรั่งเศส เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19

    เมื่อขบวนของผู้ประท้วงเคลื่อนมาถึงบริเวณด้านหน้าของอนุสรณ์สถาน เล แซ็งวาลี ใจกลางกรุงปารีส ผู้ชุมนุมในชุดดำได้จุดไฟเผายานพาหนะคันหนึ่งและขว้างปาวัตถุสิ่งของเข้าใส่ตำรวจ พร้อมตะโกนข้อความต่อต้านตำรวจ ทำให้ตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตาตอบโต้และเข้าชาร์จผู้ประท้วง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดและอลหม่าน

    โฆษกสำนักงานตำรวจนครบาลกรุงปารีส ระบุว่า กลุ่มหัวรุนแรงพยายามโหมกระพือสถานการณ์ความตึงเครียดแก่การชุมนุมอย่างสันติที่จัดขึ้นโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และว่าจนถึงเมื่อคืนที่ผ่านมา มีผู้ถูกจับกุม 16 คน

    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขในฝรั่งเศส เผชิญปัญหาเรื่องค่าตอบแทนต่ำ และขาดแคลนบุคลากรตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศมานานแล้ว นำมาซึ่งการหยุดงานประท้วงหลายต่อหลายครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องของบประมาณเพิ่มเติม

    ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ระบบสาธารณสุขของฝรั่งเศสอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แม้บุคลากรทางการแพทย์จะสามารถรับมือจนทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลาย แต่ก็ยังต้องการให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาความขาดแคลนดังกล่าวโดยเร็ว

    ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ได้ประกาศเพิ่มเงินโบนัสให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ ที่ทำงานอยู่แนวหน้า ในการต่อสู้กับวิกฤติโควิด-19 ไปแล้ว

    แต่ทางด้านสหภาพแรงงานบุคลากรทางการแพทย์ของฝรั่งเศสยังไม่พอใจ โดยระบุว่า การระบาดของโควิด-19 เผยให้เห็นจุดอ่อนหลายอย่างในระบบสาธารณสุขของฝรั่งเศส และต้องการให้มีการลงทุนมากกว่านี้ เพื่อปรับปรุงระบบการรักษาพยาบาล

    https://www.aa.com.tr/en/europe/france-medical-workers-protest-unrest-and-fires-ensue/1879407

    #RoundtableThailand
    roundtablethailand.com

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐอเมริกา กำลังเผชิญกับ ไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุด ครั้งหนึ่งเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของประเทศ โดยขณะนี้พื้นที่ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ Tonto National Forest ใกล้เมืองฟีนิกซ์ มลรัฐแอริโซนา กำลังถูกไฟป่าโหมลุกลามกินบริเวณ 89,058 เอเคอร์ หรือประมาณ 225,317 ไร่ ทำให้ทางการ สั่งอพยพประชาชน ออกจากพื้นที่รวมจำนวนราว 2,000 คน วอชิงตันโพสต์ สื่อใหญ่ของสหรัฐรายงานวันนี้ (18 มิ.ย.) ว่า พื้นที่ที่เกิด ไฟป่า ในอุทยานทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองฟีนิกซ์ได้ขยายวงกว้างเป็นสองเท่าอย่างรวดเร็วในช่วงคืนวันจันทร์ต่อเช้าวันอังคาร (16 มิ.ย.) เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งและลมแรง พอย่างเข้าเช้าวันพุธ ความเสียหายที่เกิดขึ้นและขนาดพื้นที่ของไฟป่าครั้งนี้ก็ทำสถิติเป็นไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่ 7 ในประวัติศาสตร์ Cr. ภาพจากกระทรวงเกษตรสหรัฐเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในท้องถิ่นได้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ในทันที โดยย้ำว่าหากประชาชนไม่ย้ายออกตามคำเตือน หน่วยงานบริการสาธารณภัยฉุกเฉินก็อาจจะไม่สามารถให้ความช่วยเหลือใด ๆ ได้อีกต่อไป ข่าวระบุว่าในช่วงเช้าวันพุธที่ผ่านมา (17 มิ.ย.) พื้นที่ที่ตกอยู่ใต้การลุกโหมของไฟป่าที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้นั้นมีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของกรุงวอชิงตัน ดีซี และยังมีแนวโน้มว่าจะยิ่งขยายไปเรื่อย ๆ เนื่องจากอุณหภูมิอากาศที่พุ่งสูง และกำลังลมที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 30 ไมล์ต่อชั่วโมง มีพื้นที่ไฟป่าเพียง 5% เท่านั้นที่เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปควบคุมเพลิงได้

    อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่าการอพยพหนีไฟป่าในปีนี้มีอุปสรรคที่แตกต่างไปจากปีก่อน ๆ เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในมลรัฐแอริโซนาซึ่งมียอดผู้ติดเชื้อทะยานสูงขึ้นมากในหลายพื้นที่ รวมทั้งพื้นที่ที่กำลังเผชิญไฟป่า โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (16 มิ.ย.) มลรัฐแอริโซนาทำสถิติมียอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงที่สุดที่ 2,392 คน และนับเป็นวันที่ 11 ในรอบเดือนมิ.ย.นี้ ที่แอริโซนาทำสถิติใหม่รายวันที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ

    ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันหยุดเมมโมเรียลเดย์ (ซึ่งเป็นวันรำลึกถึงทหารอเมริกันที่เสียสละชีวิตเพื่อชาติ ตรงกับวันจันทร์สุดท้ายของเดือนพ.ค.) เป็นต้นมา ผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในมลรัฐแอริโซนามีจำนวนเพิ่มขึ้นในอัตรา 81% เป็น 1,506 คนแล้วในขณะนี้ และความสามารถในการรับผู้ป่วยใหม่ในโรงพยาบาลก็น้อยลงทุกที โดยรายงานข่าวของวอชิงตันโพสต์ระบุว่า เตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลทั่วรัฐแอริโซนา มีผู้ป่วยเต็มแล้ว 80%

    ไฟป่ายังเกิดขึ้นในอีกหลายพื้นที่ของรัฐแอริโซนา โดยบางแห่งมีสาเหตุมาจากฟ้าผ่าแล้วเกิดประกายไฟลุกลามขึ้น ควันหนาทึบจากไฟป่าในรัฐแอริโซนาก็ได้ลอยตัวแผ่กระจายไปยังรัฐข้างเคียงคือ ยูทาห์ และโคโลราโด แล้วด้วย มีความเป็นไปได้ว่า ไฟป่ารัฐแอริโซนาจะยังคงลุกไหม้ต่อไปจนกว่าฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะมาถึง ซึ่งหมายถึงช่วงสิ้นฤดูร้อนนี้ เนื่องจากลมมรสุมจะทำให้ฝนตกทุกวันและช่วยคลี่คลายความแห้งแล้งในพื้นที่

    ข้อมูลอ้างอิง

    Arizona wildfire swells to nearly 90,000 acres, prompts evacuations amid coronavirus spike

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นิวซีแลนด์ : เวลา 19.49 น.(เวลาไทย )แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.4 เพิ่งเกิดขึ้นทางตะวันออกเฉียงเหนือของนิวซีแลนด์ความลึก 20.5 ไมล์ (33 กม.)
    FB_IMG_1592528574494.jpg
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไต้หวันพิจารณาเพิกถอนสถานะพิเศษของฮ่องกง โดยได้รับการอนุมัติจากกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
    รอยเตอร์ มิถุนายน 10, 2020

    เมื่อเร็ว ๆ นี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้อนุมัติกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่อาจกระตุ้นให้ไต้หวันเพิกถอนสถานะพิเศษที่ขยายไปถึงฮ่องกง นางไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน กล่าว

    การเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจทำให้รัฐบาลจีนไม่พอใจและทำให้ชาวฮ่องกงเดินทางไปไต้หวันยากขึ้น

    เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563 พรรคคอมมิวนิสต์จีนอนุมัติกฎหมายใหม่สำหรับเมืองที่จีนปกครอง หลังจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลหลายเดือน การตัดสินใจดังกล่าวได้จุดชนวนความไม่สงบครั้งใหม่ในฮ่องกงและกระตุ้นให้เกิดการประณามจากรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ในแถบตะวันตก

    ผู้ประท้วงได้รับความเห็นอกเห็นใจอย่างกว้างขวางในไต้หวันรวมถึงได้รับการสนับสนุนจากนางไช่และคณะบริหาร ได้ทำให้ความสัมพันธ์ที่แย่อยู่แล้วระหว่างรัฐบาลไต้หวันกับรัฐบาลจีนยิ่งแย่ลงไปอีก

    พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ประณามทางการไต้หวันซ้ำแล้วซ้ำเล่ากรณีที่สนับสนุนผู้ประท้วงและนักเคลื่อนไหวที่ถูกกล่าวหาทั้งในฮ่องกงและไต้หวันเกี่ยวกับการสมรู้ร่วมคิดเพื่อวางแผนเรียกร้องเอกราช

    นางไช่เขียนในเฟซบุ๊กของตนเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 สี่วันก่อนการอนุมัติกฎหมาย โดยกล่าวว่า การออกกฎหมายดังกล่าวเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อเสรีภาพและความเป็นอิสระของตุลาการฮ่องกง และไต้หวันจะให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนฮ่องกงด้วย “ความช่วยเหลือที่จำเป็น”

    ไต้หวันทำข้อตกลงกับฮ่องกงและมาเก๊า ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านภายใต้กฎที่อนุญาตให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองภายใต้การปกครองของจีนทั้งสองแห่งสามารถเดินทางและลงทุนในไต้หวันได้ง่ายกว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่

    นางไช่กล่าวว่า หาก “สถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง” ในฮ่องกง กฎหมายที่กำหนดกฎเหล่านั้นสามารถสั่งเพิกถอนได้

    “เราหวังว่าสถานการณ์ในฮ่องกงจะไม่ถึงขั้นนั้น และจะให้ความสำคัญอย่างใกล้ชิดกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ รวมถึงใช้มาตรการที่จำเป็นและสอดคล้องกันในลักษณะที่ถูกกาลเทศะ” นางไช่กล่าวเสริม

    พรรคคอมมิวนิสต์จีนย่อมจะเห็นความเคลื่อนไหวของไต้หวันในประเด็นของฮ่องกง เนื่องจากรัฐบาลไต้หวันสนับสนุนขบวนการประท้วงที่จุดชนวนให้เกิดการต่อต้านจีนเช่นเคย

    เจ้าหน้าที่อาวุโสที่คุ้นเคยกับการวางแผนด้านความมั่นคงของไต้หวันกล่าวว่า ความคิดเห็นของนางไช่เป็น “สารที่ชัดเจน” ถึงพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่า รัฐบาลไต้หวันจะ “แสดง” ความสัมพันธ์กับฮ่องกง หากพรรคคอมมิวนิสต์จีนผลักดันกฎหมายด้านความมั่นคง

    “ซึ่งนี่กำหนดขึ้นเพื่อเป็นการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับฮ่องกง เราไม่ยินดีที่จะเห็นเรื่องนี้เกิดขึ้น” เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าว

    เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลไต้หวันอีกรายหนึ่งที่คุ้นเคยกับนโยบายต่อจีนกล่าวว่า กฎหมายความมั่นคงจะหมายถึงการอวสานของ “หนึ่งประเทศสองระบบ” ซึ่งพรรคคอมมิวนิสต์ยึดครองเมืองนี้ เป็นส่วนหนึ่งของจีนแต่มีสถาบันและกฎหมายแยกต่างหาก

    “เราไม่จำเป็นต้องให้สถานะพิเศษแก่ฮ่องกง” เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าว เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนให้ข้อมูลโดยไม่ประสงค์ออกนามเนื่องจากความละเอียดอ่อนของเรื่องนี้

    ไต้หวันเสนอการปฏิบัติพิเศษแก่ฮ่องกง ซึ่งรวมถึงโครงการการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานที่ดึงดูดผู้อพยพนับหมื่นคนจากเมืองนี้

    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่คนที่สองเตือนว่า รัฐบาลจีนอาจตอบโต้โดยการปิดสถานกงสุลไต้หวันในฮ่องกง และการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในกฎหมายดังกล่าวอาจปิดกั้นการค้าระหว่างไต้หวันกับฮ่องกง

    ฮ่องกงเป็นจุดหมายปลายทางการส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไต้หวันในเดือนเมษายน พ.ศ. 2563 หลังจากจีนแผ่นดินใหญ่แสดงข้อมูลอย่างเป็นทางการ

    นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกากำลังพิจารณาว่าจะรักษาสถานะพิเศษของฮ่องกงในกฎหมายของสหรัฐฯ ซึ่งช่วยให้เมืองนี้ดำรงฐานะเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลกหรือไม่

    ไต้หวันไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยที่สามารถนำมาใช้กับผู้ประท้วงฮ่องกงที่ขอลี้ภัยบนเกาะแห่งนี้ แต่กฎหมายของไต้หวันให้คำมั่นสัญญาว่าจะช่วยเหลือประชาชนฮ่องกงที่ถูกคุกคามความปลอดภัยและเสรีภาพจากสาเหตุทางการเมือง

    เจ้าหน้าที่ไต้หวันคนที่สองกล่าวว่า รัฐบาลไต้หวันจะให้ความช่วยเหลือเช่นนั้นต่อไป “ไม่ได้มีการมุ่งเป้าที่ประชาชนฮ่องกง แต่มุ่งไปที่รัฐบาลจีน”

    จำนวนผู้อพยพจากฮ่องกงไปยังไต้หวันพุ่งสูงขึ้น 150% ถึง 2,383 รายภายในสี่เดือนแรกของ พ.ศ. 2563 จากช่วงเวลาเดียวกันใน พ.ศ. 2562 ข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุ

    https://ipdefenseforum.com/th/ไต้หวันพิจารณาเพิกถอนส/

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Second Wave ตลาด ล็อคดาวน์
    และความสับสนเรื่อง “ที่มา” โรค
    หนังม้วนเดิมกำลังฉายซ้ำที่จีน


    สถานการณ์ล่าสุดกำลังปั่นป่วน หลังโควิด – 19 กลับมาเริ่มต้นระบาดซ้ำในปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน หลังจากไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่นานถึง 56 วัน และคนจีน เริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติกันหมดแล้ว
    .
    น่าสนใจก็ตรงที่ คลัสเตอร์ปักกิ่ง มีฉากหลังไม่ต่างจากการระบาดรอบแรก 6 เดือนที่แล้วที่อู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย คือเริ่มต้นจากตลาด “ซินฟาดี้” ในเขตเฟิงไถ ตอนใต้ของปักกิ่ง เพียงแต่รอบนี้ ตลาดซินฟาดี้ ใหญ่กว่าตลาดที่อู่ฮั่นมากกว่า 1 เท่าตัว ตลาดซินฟาดี้ กินพื้นที่มากกว่า 1,120 ตารางเมตร มีร้านค้ามากกว่า 2,000 ร้าน ขายตั้งแต่เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ไปจนกระทั่งผัก และผลไม้
    .
    เว็บไซต์ของตลาดระบุว่า เขียงหมูในตลาด มีการค้าขายหมูมากกว่า 3,000 ตัว และขายซีฟู้ดมากกว่า 1,500 ตัน ต่อวัน และมีคนเดินตลาดผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมากกว่าวันละ 1.5 หมื่นคน นั่นทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่สเกลการระบาดรอบใหม่ อาจไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย
    .
    เรื่องเริ่มต้นจากวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคกรุงปักกิ่ง พบผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับตลาดซินฟาดี้ รวม 6 คน และเมื่อขยายการตรวจเชื้อผู้ที่ไม่แสดงอาการต่อ ก็พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 45 ราย และเพิ่มต่อมาเป็น 106 ราย ในวันที่ 16 มิ.ย. ก่อนจะเพิ่มล่าสุดเป็น 157 ราย
    .
    ที่น่าสนใจก็คือ ในผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พบ เดินทางต่อไปยังมณฑลเหอเป่ย และมณฑลเสฉวนเป็นที่เรียบร้อย แต่ทางการจีน สามารถทำ Contact Tracing สอบสวนเส้นทางโรคได้สำเร็จ รวมถึงออกมาตรการ “ปิดตลาด” และกั้นพื้นที่ “ล็อคดาวน์” 20 เขต ของเมืองรอบๆ ตลาด ไปจนถึงระดมตรวจโรคทันทีที่รู้ข่าว ขณะเดียวกัน ผู้ที่เคยมีประวัติไปตลาดซินฟาดี้ ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกเมือง เพื่อลดความเสี่ยงการกระจายเชื้อไปยังพื้นที่อื่นต่อไป
    .
    มาตรการล่าสุดคือการ “ปิดโรงเรียน” ทั้งหมดทั่วเมืองหลวง ยกเลิกเที่ยวบินเข้าออกปักกิ่งอีก 1,200 เที่ยวบิน และคุมเข้มคนเข้า-ออกจากปักกิ่ง สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโลก ว่าเรื่องนี้อาจ “ใหญ่” กว่าที่คิด
    .
    ปัญหาสำคัญที่ทางการจีนยังต้อง “ไข” ก็คือ ที่มาของคลัสเตอร์นี้มาจากไหน เริ่มระบาดตั้งแต่เมื่อไหร่ และจะ “ไปไกล” ได้ขนาดไหน
    .
    หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่ถึงวัน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ปักกิ่ง เผยเส้นทางของโรคว่ามีความเป็นไปได้ที่จะ “นำเข้า” มาจากยุโรป จากการตรวจพบเชื้อที่ “เขียงปลา” แซลมอนในตลาด และให้น้ำหนักว่าเส้นทางของการระบาดรอบใหม่นั้น มีความเป็นไปได้มากกว่าที่จะมาจาก “ยุโรป” มากกว่ามาจากการระบาดในปักกิ่ง หรือมาจากผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการในประเทศ
    .
    นั่นทำให้แซลมอน ถูกกวาดออกจากตลาดทั่วจีนทันที สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคจีน ออกคำเตือนไม่ให้ประชาชนกินแซลมอนซาซิมิ หรือซื้อปลาแซลมอนนำเข้าในช่วงนี้ และยังส่งผลกระทบมาถึงไทยด้วย เมื่อศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 ขอให้ประชาชนเลิกกินแซลมอนซาซิมิเช่นกัน
    .
    อย่างไรก็ตาม เบนจามิน คาวลิง ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยา ให้สัมภาษณ์เซาท์ ไชนา มอร์นิงโพสต์ บอกว่าปลาแซลมอนแช่แข็ง นำเข้าจากยุโรป มีความเป็นไปได้น้อยมาก ที่จะเป็นต้นกำเนิดของโรค และให้น้ำหนักไปในทางการระบาดจากคนสู่คน โดยเฉพาะจากผู้ที่ไม่ได้แสดงอาการมากกว่า เพราะต้องไม่ลืมว่า จากการสุ่มตรวจเชิงรุกผู้ที่มีเชื้อแต่ไม่ได้แสดงอาการในช่วงที่ผ่านมานั้น ทางการจีนเจอในจำนวนมากกว่า 50 คน
    .
    บทความจากวารสารวิชาการด้านการประมง Asian Fisheries Science ซึ่งตีพิมพ์ในเดือน เม.ย. ก็ระบุเช่นกันว่า ไม่มีหลักฐานที่เชื้อโคโรนาไวรัส 2019 สามารถติดต่อไปยังสัตว์น้ำได้ หากจะมีความเป็นไปได้ ก็เป็นไปได้มากกว่าที่จะมาจาก “บรรจุภัณฑ์” แต่ก็เป็นไปได้น้อย เมื่อเทียบกับการแช่แข็งบรรจุภัณฑ์ แช่แข็ง และส่งออก ต่อมายังจีน
    .
    เพราะฉะนั้น การรีบโยนว่าการระบาดของไวรัสรอบ 2 มาจากแซลมอน จึงน่าจะเป็นการ “ด่วนสรุป” เพื่อปัดไม่ให้เป็นการระบาดจาก “คนสู่คน” ในพื้นที่ปักกิ่ง มากกว่า
    .
    ล่าสุด พรรคคอมมิวนิสต์จีน ปลดเจ้าหน้าที่ออกไป 3 คนแล้ว ได้แก่ ผู้อำนวยการตลาดซินฟาดี้, เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำตำบล 2 คน โดยมีรายงานว่า เป็นไปได้ที่เจ้าหน้าที่เหล่านี้ “ปิดข่าว” ไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่ส่วนกลางทราบล่วงหน้า ทำให้เข้าพื้นที่สอบสวนโรคได้ช้าเกินไป จนมีผู้ติดเชื้อเดินทางข้ามไปยังหลายเมืองทั่วจีนแล้ว เหมือนกับเหตุการณ์ที่อู่ฮั่น ซึ่งมีการปิดข่าวในช่วงแรกเช่นกัน
    .
    ที่น่าสนใจก็คือวันนี้ ผ่านมา 6 เดือนแล้ว ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าต้นกำเนิดของเชื้อที่ว่ากันว่ามาจากตลาดสดอู่ฮั่นนั้น มีที่มาจากไหน สหรัฐอเมริกา ตั้งทฤษฎีว่าหลุดมาจากแล็บทดลองในอู่ฮั่น จีน พยายามบอกว่า เชื้อมีโอกาสข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากแล็บในแมร์รีแลนด์ สหรัฐฯ และออสเตรเลีย ซึ่งเรียกร้องให้จีนเปิดเผยแหล่งที่มาของการระบาด ถูกทางการจีน “แบน” ไม่ยอมนำเข้าสินค้าหลายรายการ ทำให้เส้นทางการระบาดซึ่งควรจะเป็นเรื่องวิชาการ กลายเป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ
    .
    อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวโกลบอลไทมส์ กระบอกเสียงของรัฐบาลจีน ยืนยันว่าไม่เคยมีการปิดข่าว จะไม่มีการระบาดรอบ 2 เศรษฐกิจจีน กำลังเดินหน้าเข้าสู่ระยะฟื้นฟู ไม่มีอะไรที่จะขัดขวางได้ ขณะที่บรรณาธิการของโกลบอลไทมส์ บอกว่า “นักการเมือง” อเมริกา อาจได้เห็นตัวอย่างการจัดการชั้นเยี่ยมที่ปักกิ่ง คือผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็น “ศูนย์” ภายในเดือนเดียว ไม่มีทางที่การระบาดจะเป็น Second Wave อย่างที่หลายคนกังวลแน่นอน

    #COVID19 #โควิด19 #จีน #
    อ้างอิงจาก

    https://www.vice.com/en_us/article/...ijing-just-forced-the-city-back-into-lockdown

    https://www.theguardian.com/world/2...break-travel-restricted-china-severe-measures

    https://www.scmp.com/news/china/soc...tbreak-puts-food-markets-back-infection-focus

    https://www.scmp.com/news/china/soc...s-new-local-coronavirus-cases-testing-xinfadi

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมื่อวานนี้มีรายงานจากสื่อ Korea Herald ของเกาหลีใต้ ว่า นายคิม ยอน ชุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ได้แถลงในวันเดียวกันนี้ ว่าขอลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบที่สถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้ กับเกาหลีเหนือแย่ลงอย่างมาก
    .
    ในรายงานยังระบุว่า นาย คิม ยอน ชุล รมต.เกาหลีใต้ ได้ออกมาขอโทษประชาชน ที่ไม่สามารถสร้างสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลีได้ และคาดหวังว่าการลาออกของตนจะทำให้ทั้งเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ หันมาเจรจากันได้
    .
    โดยก่อนหน้านี้ ทางเกาหลีเหนือได้ทำการระเบิดทำลายอาคาร “สำนักงานประสานงานเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้” ในเมืองแคซ็องของเกาหลีเหนือ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 63 พร้อมกับแถลงว่า จะประจำการกำลังพลบริเวณนิคมอุตสาหกรรมแคซ็อง และสถานตากอากาศ Kumgangsan อีกทั้งจะกลับมาจัดการซ้อมรบบริเวณชายแดน และตั้งด่านทหารในเขตปลอดทหาร ซึ่งจะเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีปี 2561

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://apa.az/en/asia-news/South-Korean-unification-minister-offers-to-step-down-323589

    http://www.arirang.com/News/News_View.asp?sys_lang=Eng&nseq=260477

    https://www.thansettakij.com/conten...m_medium=internal_referral&utm_campaign=world
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Facebook :
    https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันที่ 16 มิถุนายน 2020 สำนักข่าว Times of Sweden รายงานว่า นาย Jan Björinge อดีตนายกเทศมนตรีเมืองอูเมโอ (Umeå) ของสวีเดน เรียกร้องให้ถอดรูปปั้นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติสวีเดนออก โดยให้เหตุผลว่า เป็นสัญลักษณ์ของการเหยียดผิวและการกดขี่
    .
    แนวคิดในการปลดหรือทำลายรูปปั้นทางประวัติศาสตร์ของสวีเดน เป็นแนวคิดแบบเดียวกันกับขบวนการฝ่ายซ้ายสุดโต่งในอเมริกาเหนือและยุโรป ที่พยายามสร้างความเสียหายหรือโค่นรูปปั้นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติต่างๆ ซึ่งรูปปั้นของทั้ง โทมัส เจเฟอร์สัน, วินส์ตัน เชอร์ชิลล์ และคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ต่างก็ได้รับความเสียจากการกระทำของนักเคลื่อนไหวฝ่ายซ้ายสุดโต่ง
    .
    โดยอดีตนายกเทศมนตรีเมืองอูเมโอ ได้เรียกร้องให้สวีเดนถอดรูปปั้นพระเจ้าคาร์ลที่ 12 (Carl XII) แห่งราชอาณาจักรสวีเดนออก แล้วสร้างรูปปั้นของเกรตา ธันเบิร์ก (Greta Thunberg) ขึ้นมาแทนที่ ซึ่งเกรตา ธันเบิร์ก เป็นเยาวชนนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมชาวสวีเดน วัย 17 ปี ที่เคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกตระหนักถึงปัญหาสภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หรือ climate change
    .
    ทั้งนี้ พระเจ้าคาร์ลที่ 12 หรือสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 12 แห่งราชอาณาจักรสวีเดน ทรงเป็นประมุขแห่งราชอาณาจักรสวีเดน ในช่วงค.ศ. 1700 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดมหาสงครามเหนือในยุโรป พระเจ้าคาร์ลที่ 12 ได้นำทัพสวีเดนสู้รบกับประเทศรอบข้างที่เข้ามารุกราน เช่น เดนมาร์ก นอร์เวย์ โปแลนด์ ลิทัวเนีย และรัสเซีย ทำให้พระเจ้าคาร์ลที่ 12 กลายเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ที่ได้รับการยกย่องจากชาวสวีเดน
    .
    แต่นอกจากอดีตนายกเทศมนตรีเมืองอูเมโอ ที่เรียกร้องให้ถอดรูปปั้นพระเจ้าคาร์ลที่ 12 ลงแล้ว มีชาวสวีเดนจำนวนหนึ่งที่ทำแคมเปญล่ารายชื่อเพื่อเรียกร้องให้ถอดรูปปั้นคาร์ล ฟอน ลินเนีย (Carl Von Linné) นักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ของราชอาณาจักรสวีเดน โดยแคมเปญล่ารายชื่อนี้อ้างว่า รูปปั้นบุคคลสำคัญของวงการวิทยาศาสตร์สวีเดนนี้ เป็นสัญลักษณ์แห่งการเหยียดผิว
    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    http://timesofsweden.com/2020/06/16...ng-charles-xii-with-statue-of-greta-thunberg/
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Facebook :
    https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หายข้องใจ เผยสาเหตุ "หลุมขนาดใหญ่" โผล่กลางไร่ข้าวโพดเมืองสองแคว
    เผยสาเหตุ หลุมขนาดใหญ่โผล่ในไร่ข้าวโพด จ.พิษณุโลก หลังชาวบ้านฮือฮา ด้านนักธรณีวิทยาชำนาญการเผย หลุมยุบปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline
    ..
    เผยสาเหตุ หลุมขนาดใหญ่โผล่ในไร่ข้าวโพด จ.พิษณุโลก หลังชาวบ้านฮือฮา ด้านนักธรณีวิทยาชำนาญการเผย หลุมยุบปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ

    จากกรณีเกิดหลุมลึกขนาดกว้าง 8 เมตร ลึกประมาณ 3 เมตร ที่บ้านมุงใต้ หมู่ 2 ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 16 มิ.ย.63 สร้างความฮือฮาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

    ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.น้ำฝน คำพิลัง นักธรณีวิทยาชำนาญการ สำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 1 (ลำปาง) พร้อมด้วย นายธีรัชสิทธิ์ วงศ์วาน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพิษณุโลก ได้เดินทางเข้าตรวจสอบพร้อมกับเปิดเผยว่า หลุมยุบเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งที่ดินยุบตัวลงเป็นหลุมลึก และมีเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 1-200 เมตร ลึกตั้งแต่ 1 ถึงมากกว่า 20 เมตร

    โดยปกติหลุมยุบจะเกิดในบริเวณที่ราบใกล้กับภูเขาที่เป็นหินปูน เนื่องจากหินปูนมีคุณสมบัติละลายน้ำที่มีสภาพเป็นกรดอ่อนได้ ประกอบกับภูเขาหินปูนมีรอยเลื่อนและรอยแตกมากมาย จะสังเกตเห็นได้ว่าภูเขาหินปูนมีหน้าผาชัน หน้าผาเป็นรอยเลื่อนและรอยแตกในหินปูนนั่นเอง บริเวณใดที่รอยแตกของหินปูนตัดกันจะเป็นบริเวณที่ทำให้เกิดโพรงได้ง่าย โพรงหินปูนถ้าอยู่พ้นผิวดินก็คือถ้ำ ถ้าไม่พ้นเรียกว่าโพรงหินปูนใต้ดิน

    จำแนกเป็น 2 ระดับ คือ โพรงหินปูนใต้ดินระดับลึก (ลึกจากผิวดินมากกว่า 50 เมตร) และโพรงหินปูนระดับตื้น (ลึกจากผิวดินไม่เกิน 50 เมตร) ส่วนใหญ่หลุมยุบจะเกิดในบริเวณที่มีโพรงหินปูนใต้ดินระดับตื้น

    ดร.น้ำฝน คำพิลัง นักธรณีวิทยาชำนาญการ สำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 1 (ลำปาง) เปิดเผยว่า ชั้นหินใต้ดินเป็นหินปูน น้ำฝนสามารถกัดกร่อนได้ ประกอบในพื้นที่มีการสูบน้ำใต้ดินทำให้เกิดโพรงใต้ดิน และเมื่อผิวดินมีน้ำหนักมากขึ้นจากน้ำฝน จึงทำให้เพดานโพรงใต้ดินยุบตัวลงและเกิดเป็นหลุมยุบดังกล่าว เบื้องต้นจะรอดูอีกประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อประเมินหากไม่พบว่าหลุมยุบตัวลงไปเพิ่มมากขึ้นก็จะให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านมุงเข้าดำเนินการถมดินดังกล่าว เพื่อป้องกันเหตุอันตรายแก่ประชาชนและสัตว์เลี้ยง

    โดยในระยะนี้จะให้ทางเทศบาลตำบลบ้านมุงจัดทำแนวป้องกันเพื่อไม่ให้ประชาชนและสัตว์เลี้ยงตกลงไปในหลุม ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สามารถป้องกันได้ด้วยการใช้น้ำใต้ดินอย่างสมดุลกับน้ำฝนที่เติมลงไปใต้ดิน.

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เอม ธี หญิงชาวเขมร เป็นหนึ่งในแรงงานโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ถูกเลิกจ้างเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาด เธอเฝ้ารอนานถึง 3 ชั่วโมงพร้อมกับกลุ่มแรงงานอีกหลายร้อยชีวิตที่รวมตัวกันเพื่อให้นายหน้าจัดหางานจากโรงงานเลือกตัวไปทำงานแบบรายวัน

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000063210
    ………………………………
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ รื้อฟื้นท่าทีของเขาที่เคยขู่ตัดขาดความสัมพันธ์กับจีน สวนทางกับความเห็นหนึ่งวันก่อนหน้านี้ของโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าอเมริกา ที่บอกกับสภาคองเกรสว่าเขาไม่เห็นว่าการตัดขาดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่งคือทางเลือกที่เป็นไปได้

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000063229
    ………………………………
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ลูกหนี้เฮ ! ธปท.สั่งอุ้มลูกหนี้รายย่อย ลดดอกเบี้ย บัตรเครดิต-เช่าซื้อบ้าน-รถยนต์ 2-6%

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไทยเจอป่วยโควิดอีก 5 ราย เป็น นศ.ไทยกลับจากซาอุดิอาระเบีย พบเดินทางจากไฟลต์เดียวกัน 195 คน ตรวจ 3 ครั้ง เจอติดเชื้อแล้ว 15 คน ดันเจอผู้ป่วยอันดับ 2 รอจากคูเวต ผู้ป่วยสะสม 3,146 ราย กลับบ้านเพิ่ม 11 ราย เตือนโรงงานต่างๆ ดูแลอาชีวอนามัย สิ่งแวดล้อม ป้องกันแพร่เชื้อ หลังพบเยอรมนี-อังกฤษติดเชื้อเพิ่มจากโรงงาน

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000063333
    ………………………………
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "ยังสู้ครับ"

    เสาร์นี้ มาพบนักสู้ผู้พิการ ทรงกฤต พนาเรือง (กอล์ฟ) ในบทบาทพ่อค้าขายของเร่ตามตลาดนัดที่หลายคนเคยรู้จักดี กับชีวิตที่ผ่านความลำบากมาได้ด้วยความมานะ อดทน จนสามารถเป็นที่พึ่งของตัวเองไม่่เป็นภาระใคร

    แต่เมื่อถึงวันที่โลกต้องปั่นป่วนเพราะ COVIC-19 ระบาด พ่อค้าตลาดนัดแบบเขาจะอยู่อย่างไร?

    รอติดตามได้ในรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ
    ตอน กอล์ฟ...ยังสู้ครับ วันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น.
    ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

    หรือรับชมผ่าน Facebook Live ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ

    อย่าลืม กดไลค์ แชร์และติดตามด้วยนะครับ
    #ฅนจริงไม่ทิ้งกัน #ฅนจริงใจไม่ท้อ

     

แชร์หน้านี้

Loading...