ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ธุรกิจ อีเว้นท์ หลังคลายล็อกดาวน์ กับ ผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19

    หมอก เกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ผู้รับจัดอีเว้นท์ อันดับ 7 ของโลก กล่าวถึง ธุรกิจ อีเว้นท์ หลังคลายล็อกดาวน์ ที่ต้องทำตามกฎเกณฑ์ที่ทางรัฐบาลกำหนด

    เราได้รับผลกระทบจริงๆ ประมาณปลายเดือนมีนาคม ก่อนหน้านั้นเราก็เริ่มระวังตัวแล้วตั้งแต่มกราคม ตอนนั้นเราเริ่มจัดงานแบบไฮบริดจ์ นั่นคือ มีทั้งการจัดงานจริง และถ่ายทอดทางออนไลน์ด้วย ปลายมีนาคมก็มีงานเดียว หลังจากนั้นก็เงียบหายเป็นศูนย์ เพราะไม่สามารถจัดงานได้ ด้วยภาครัฐไม่อนุญาตให้จัดงาน ก็ขาดทุนป่นปี้ แต่เรายังคงรักษาพนักงานไว้ ปัจจุบันเรามีพนักงานประมาณเกือบ 500 คน พยายามดูแลกันให้ดีที่สุด ตอนนี้มีการลดเงินเดือน ลดเวลาการทำงาน เพื่อทำให้สามารถเลี้ยงให้บริษัทอยู่ได้

    ถ้าถามว่าขาดทุนเยอะไหม ก็คงเป็นหลัก 100 ล้านบาท เงินจมเยอะมาก เฉพาะอินเด็กซ์อย่างเดียวก็หลัก 100-150 ล้านบาท เราลงทุนไปตอนต้นปีเยอะมาก หวังเป็นอย่างยิ่งว่า วันที่ 1 กรกฎาคม นี้จะมีข่าวดีสำหรับฝั่งอีเว้นท์บ้าง ให้ผ่อนคลายเรื่องกฎเกณฑ์ 1 คน ต่อ 4 ตารางเมตร มันทำธุรกิจไม่ได้จริงๆ

    ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศมาตรการ คลายล็อกดาวน์เฟส 3 ขยับเวลาเคอร์ฟิว เดินทางข้ามจังหวัดได้

    มุมมองคนทำธุรกิจอีเว้นท์ เมื่อรัฐบาลประกาศคลายล็อกดาวน์

    เมื่อประกาศคลายล็อกดาวน์ จริงๆ เราก็รู้ล่วงหน้าอยู่แล้วเหมือนมีกฎเกณฑ์เป็นไกด์ไลน์มาให้เราทราบล่วงหน้าว่า สำหรับการประชุม 1 คน คือ 4 ตารางเมตร สำหรับงานคอนเสิร์ต 1 คน คือ 5 ตารางเมตร เมื่อประกาศออกมาก็เป็นตามนั้นจริงๆ

    ในมุมของผู้ประกอบการ บอกเลยว่า เป็นไปไม่ได้ ยกตัวอย่าง รอยัลพารากอนฮอลล์ ปกติจุคนได้ 5,000-6,000 คน พอใช้มาตรการใหม่ ตัดพื้นที่เวทีออกไป เหลือคนดูเพียง 500 คน ในเชิงปฏิบัติแล้วมันเกิดธุรกิจไม่ได้ ลูกค้าจะไปเช่าฮอลล์เพื่อให้คน 500 คนดู มันเป็นไปไม่ได้ ไม่พูดถึงคอนเสิร์ตนะ แค่การจัดประชุม 1 ต่อ 4 ตารางเมตร ลูกค้ายังถามเลยว่า ผมต้องจ่ายค่าเช่าฮอลล์ อาจได้ลดราคาลงมา แต่ก็ต้องจ่ายค่าเวที แสง สี เสียง ศิลปิน ดารา ที่คำนวณออกมาแล้วไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่ จากเดิมเคยหาร 6,000 คน ตอนนี้มาหาร 500 คน เมื่อตกต่อหัวมันสูงมากจนมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย

    คนมองธุรกิจอีเว้นท์ อาจจะมองเพียงมุมหนึ่งว่า เป็นเรื่องของคนบนเวที นักแสดง การแสดงบนเวที เพียงแค่ไม่กี่คน แต่จริงๆ แล้ว ชีวิตจริงเป็นเหมือนภูเขาน้ำแข็ง มันมีคนอยู่ใต้ภูเขาน้ำแข็งนั้นเยอะมาก ยกตัวอย่าง เราทำงานจัดเลี้ยงให้ลูกค้า สำหรับคน 9,000-10,000 คน โต๊ะจีน 1 โต๊ะ นั่งได้ 10 คน เงินถูกกระจายรายได้ไปเยอะมากนะ ทั้ง คนอินเด็กซ์ที่กำกับเวที จ้างคนดูแลแบ็คสเตจฟรีแลนซ์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เด็กเดินตั๋ว รายได้ถูกกระจายตามช่องทางเยอะแยะ ซึ่งผู้ที่มาประชุมเขาต้องนั่งเครื่องบินมาจากต่างจังหวัด พอลงจากสนามบินก็นั่งแท็กซี่ต่อ พักโรงแรม จะเห็นว่ามันไม่ได้อยู่เพียงแค่เรื่องของบนเวทีเท่านั้น มันมีองค์ประกอบอื่นๆ อีกมากมายที่สร้างรายได้

    ในช่วงที่มีปัญหาก็มาคิดว่า ถ้าเราทำออนไลน์ล่ะ ต้องบอกว่าออนไลน์มันก็ไม่ได้สร้างรายได้มากมาย สมมุติตอนนี้คนหันมาทำคอนเสิร์ตเยอะแยะที่ทำบนออนไลน์ ปกติขายบัตรได้ 2,000-3,000 บาท ออนไลน์ขายบัตรเหลือ 499 บาท ลิมิตจำนวนคนดูตามความดังของศิลปิน ในขณะที่ยังคงต้องลงทุนเรื่อง เวที แสงสี เสียง แอลอีดี รายได้ก็ไม่ได้มาก เรียกว่าทำเพื่อหายคิดถึงมากกว่า

    ความคาดการณ์ถึงแนวโน้มธุรกิจอีเว้นท์ฟื้น

    การปลดล็อกโดยมีกฎเกณฑ์ต่างๆ มันไม่สามารถทำให้ธุรกิจมันปลดล็อกได้จริง คนยังต้องระวังตัว ลูกค้าเองที่เป็นหน่วยงาน องค์กรใหญ่ เขาเองก็ไม่อยากให้ตนเองเป็นปัญหาที่กลายเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ขึ้น เขาระวังตัว

    เราอาจจะต้องกลับมาเริ่มเอาเศรษฐกิจนำบ้าง ทุกวันนี้เราเอาเรื่องสาธารณสุขนำ ซึ่งต้องบอกว่าชื่นชม ถือว่าหน่วยงานของรัฐ รัฐบาลเอง เจ้าหน้าที่ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทั้งหมด ทำงานอย่างหนัก จึงสามารถประสบผลสำเร็จจนเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก แต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่งแล้วก็ควรจะปลดล็อกเพื่อให้ชีวิตกลับมาปกติ back to normal

    เราได้ทำเปอร์สเปกทีฟให้ทุกคนดู ตามมาตรการที่รัฐกำหนด นั่นคือการเว้นระยะห่าง เมื่อทำแล้วลองให้ทุกคนดูเพื่อความเข้าใจ ทุกคนเมื่อเห็นรูปก็ต่างอึ้ง เกิดคำถามว่า แล้วอย่างนี้จะดูคอนเสิร์ตจริงๆ ได้อย่างไร อยากให้หน่วยงานของรัฐโดยเฉพาะสาธารณสุขกลับมาพิจารณาและเปิดใจกว้าง จริงๆ แล้วมีคนเดือดร้อน ธุรกิจอีเว้นท์ต้องบอกว่าไม่ได้รับการเยียวยาหรือดูแลจากภาครัฐเลยสักบาทเดียว รัฐบาลไม่ได้สั่งปิดธุรกิจ แต่ธุรกิจมันต่อเนื่องไปหลายส่วน

    หากเป็นเช่นนี้ต่อไป มันจะทนกันอยู่ได้เพียงไม่กี่เดือนหรอก ต่อให้เป็นองค์กรที่มีสภาพคล่องที่ดี อินเด็กซ์ก็ถือว่าโชคดี ที่เรามีสภาพคล่องพอที่จะประทังชีวิต อย่างน้อยก็รอดมา 3-4 เดือน ถามว่าธุรกิจอีเว้นท์จะกลับมาได้เมื่อไหร่ มองเป็นไตรมาส 4 ถึงจะฟิ้น

    มุมมองธุรกิจกับสุขภาพ

    จริงๆ ส่วนตัวกังวลเรื่องสุขภาพอยู่แล้ว พอเราเรียนรู้วิธีป้องกันตัวแล้ว ไม่มีใครหรอกที่ไม่ระวังตัว ยังคงให้ความสำคัญ ส่วนตัวมองว่าชอบให้ประเทศชาติสงบ ที่ผ่านมาธุรกิจอีเว้นท์โดนมาทุกแบบอยู่แล้ว ทั้ง ต้มยำกุ้ง เหตุการณ์ทางการเมือง น้ำท่วม กระทบกับธุรกิจอีเว้นท์มาตลอด

    เวิลด์เอ็กซ์โป ดูไบ เลื่อนหรือไม่

    เวิลด์เอ็กซ์โปที่ดูไบ ด้วยสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส งานก็ถูกเลื่อนไปหนึ่งปี ประเทศเขาเป็นประเทศร้อน ช่วงที่เขาสามารถรองรับคนเพื่อการท่องเที่ยวได้ คือ ช่วงเดือนตุลาคมจนถึงมีนาคม ซึ่งอากาศกำลังสบายๆ นอกเหนือจากช่วงเวลานี้จะร้อนจัด อุณหภูมิจะอยู่ที่ 46-50 องศาเซลเซียส

    ในมุมของการเตรียมการของอินเด็กซ์ ต้องบอกว่า ได้รับผลกระทบแน่นอน เพราะทุกอย่างถูกเตรียมการณ์ไว้สำหรับทำปีนี้ สิ่งก่อสร้างเราสร้างเสร็จเกือบหมดแล้ว พอประกาศเลื่อนไป พวกอุปกรณ์ต่างๆ ก็ยังไม่สามารถไปติดตั้งที่ดูไบได้ เพราะอากาศที่นู่นร้อนมาก อุปกรณ์ที่จะไปติดตั้งด้วยความที่อุณหภูมิเกินกว่า 45-50 องศาเซลเซียส ท่ามกลางทะเลทราย มันติดตั้งไม่ได้ หากติดตั้งจำเป็นต้องเปิดแอร์ตลอดเวลา อย่างการอยู่อาศัยที่ดูไบ บ้านและคอนโดเวลาออกจากบ้านเขาไม่ปิดแอร์นะ เปิดตลอดเวลา 24 ชั่วโมง เพราะไม่งั้นเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ จะเสียหายหมด

    การปรับตัวในยุค New Normal

    ส่วนตัวยังคงเชื่อว่า การจัด อีเว้นท์ ได้เจอตัวจริงมันสร้างความประทับใจได้มากกว่า ดูออนไลน์คล้ายกับการดูยูทูปธรรมดา มันไม่ได้สนุกเหมือนที่เราได้ไปดูจริงๆ การได้ไปเจอคน ได้เห็นบรรยากาศ เราไม่ได้จะสนุกจากการแสดงบนเวทีเท่านั้น สนุกด้วยคนข้างๆ คนด้านหลัง คนด้านหน้าเราสนุก ได้มาร้องเพลงด้วยกัน หรือพวกงานประกาศผลรางวัล ความรู้สึกของคนที่ขึ้นไปรับรางวัลแล้วน้ำตาไหล มันสร้างความฮึกเหิม ภายในงานจะส่งด้วยเพลง บรรยากาศต่างๆ จะช่วยส่ง เปรียบเทียบกับการดูในโทรศัพท์มือถือ ความรู้สึกจะต่างกันมาก

    สิ่งที่กลัวที่สุดตอนนี้คืออะไร

    ถ้าถามตอนนี้ที่กลัวที่สุดคือ กลัวหมออยากได้ตัวเลขสวยๆ เสพติดคำสรรเสริญจากทั่วโลก อยากให้ลองมองในมุมเศรษฐกิจบ้าง ไม่ต้องพูดถึงธุรกิจอีเว้นท์ก็ได้ เดี๋ยวจะหาว่าพูดถึงแต่เรื่องของตัวเอง อยากได้ยินว่า ร้านอาหารสามารถกลับมาเปิดได้ตามปกติ คนเข้าร้านมาเป็นตัวเลขที่เต็มร้อยแล้ว ในธุรกิจอาหารก็มีซัพพลายเชนที่ช่วยกระจายรายได้ไปคนรากหญ้า อยากให้สามารถใช้ชีวิตกันได้ปกติ Back to Normal อย่าไปยึดติดกับคำว่า New Normal มากนัก

    อยากฝากรัฐบาลว่าเราเห็นด้วยเรื่องการเช็กอิน เช็กเอาท์ ไทยชนะ เห็นด้วยกับการรักษามาตรการทางสาธารณสุขที่ดี เช่น ใส่หน้ากาก ล้างมือ เช็ดทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ วัดอุณหภูมิ ส่วนด้านการเว้นระยะห่างทางต่างประเทศเขาเริ่มลดระยะลงมาบ้างแล้ว บ้านเราถ้าลดจาก 4-5 ตร.ม. ลงมาบ้างในมาตรการคลายล็อกดาวน์เพิ่มเติมต่อจากนี้ ก็น่าจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น กลับมาสู่ปกติได้อีกครั้งหนึ่ง

    The post ธุรกิจ อีเว้นท์ หลังคลายล็อกดาวน์ กับ ผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหภาพฯ การบินไทย ร้อง ก.แรงงาน ขอความเป็นธรรมถูกเปลี่ยนสภาพการจ้าง
    สหภาพแรงงานฯ การบินไทย เข้าร้อง ก.แรงงาน ขอความเป็นธรรม หลังจากฝ่ายบริหารได้ออกประกาศเปลี่ยนสภาพการจ้างงานใหม่ นับแต่บริษัทหลุดพ้นจากรัฐวิสาหกิจ โดยจะมีการนัดหารือร่วมกัน 24 มิ.ย.นี้
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันชัยร่ำไห้กอดเมีย สารภาพติดเชื้อ HIV มีสัมพันธ์กับคู่ขาชายมากกว่า 30 คน
    "วันชัย" ร่ำไห้กอดเมีย สารภาพติดเชื้อ HIV เผยมีสัมพันธ์กับคู่ขาชายมากกว่า 30 คน แถมอึ้งเก็บบัตรประชาชน และบัตรต่างๆ ของคู่ขาไว้เป็นที่ระลึก
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ร้านอาหารในฮ่องกงแห่ลดราคา ทางการเตรียมแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ
    ร้านอาหารฮ่องกงร่วมจัดแคมเปญลดราคาค่าอาหารถึง 30 % ขณะที่ทางการมีนโยบายแจกเงินประชาชน 1 หมื่นดอลลาร์ฮ่องกง กระตุ้นเศรษฐกิจ เดือนหน้า
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนพุ่งเป้าแผงอาหารทะเล อาจเป็นต้นตอโควิดระบาดรอบใหม่ ชี้คล้ายอู่ฮั่น
    จนท.จีนตรวจสอบ แผงอาหารทะเล อาจเป็นต้นตอโควิด-19ระบาดรอบใหม่ในปักกิ่ง และคล้ายกับการระบาดที่เริ่มจากตลาดในอู่ฮั่น ชี้ อาหารทะเล เกี่ยวข้องกับน้ำและความเย็นจัด ที่ทำให้ไวรัสโคโรนาไม่ตาย
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักวิทย์ชี้โควิดเข้ามาในอิตาลี ตั้งแต่ ธ.ค.62 แล้ว ตรวจเจอเชื้อในน้ำเสีย
    นักวิทย์ในอิตาลี ชี้ เชื้อโควิด-19 เข้ามาในอิตาลีตั้งแต่ ธ.ค.62 หลังผลการตรวจน้ำเสียในเมืองมิลานและตูริน เจอมีเชื้อไวรัสโคโรนาปนเปื้อน ขณะที่ทางการพบผู้ป่วยรายแรกเดือน ก.พ.63
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สิตางศุ์ บัวทอง เน็ตไดอลดัง ลั่น! ฉันไม่เคยฆ่าใคร เตรียมทนายฟ้องคนให้ข่าวเท็จ

    จากประเด็นร้อนที่นักดนตรีคนหนึ่งออกมาแฉถึงเรื่องที่ สิตางศุ์ บัวทอง เน็ตไอดอลชื่อดังยกเลิกสัญญาการร่วมงานกัน ทั้งที่แต่ก่อนตนเคยให้ความช่วยเหลือทุกอย่างพร้อมยังแฉแรงว่า สิตางศุ์เคยติดคุกเพราะคดีฆ่าอำพรางศพ รวมถึงแฟนหนุ่มก็ยังเคยโดนคดีฆ่าบิดาของตัวเอง

    โดยล่าสุด สิตางศุ์ บัวทอง เจ้าของวลี ส้มหยุด ได้เปิดใจกับสื่อว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริงเลย ตนไม่เคยฆ่าใคร เรื่องนี้ตอบมาหลายครั้งแล้ว ตนทราบข่าวตั้งแต่เมื่อวาน ทั้งยังทราบสาเหตุด้วยว่าที่โดนแฉเพราะฝ่ายนั้นอยากให้เรากลับไปทำงานด้วย แต่พอเราไม่ทำด้วยเพราะดูแล้วเหมือนจะเป็นงานฟรีเราก็ไม่เอา ก็แค่เป็นผู้ชายอิจฉากะเทย พร้อมยืนยันไม่เคยมีใครเคยมายื่นมือช่วยเหลือฉันเลย”

    นอกจากนี้สิตางศุ์ยังบอกอีกว่า “ไม่ได้เอะใจเลยเพราะตัวฉันมีข่าวเยอะมาก แต่เรื่องนี้ฉันรับไม่ไหวแล้ว ฉันอยู่ของฉันเงียบๆ ตอนนี้ทนายความรับเรื่องแล้ว ยังไงคุณก็ผิดเพราะสัญญานั้นก็ยกเลิกไปนานแล้ว ไม่ได้โทรคุยกันเป็นปีแล้ว ตัวเขาเป็นคนยกเลิกเองนะ ยกเลิกกันง่ายๆ เพราะเป็นเพื่อนกัน ตอนแรกก็อยากช่วยแต่งานมันไม่ได้เห็นตัวเงินก็เลยไม่เอา มันอึดอัด ใครอยากดังก็ด่ากูหรอ ฉันขออนุญาตสู้ จะดำเนินคดีตามกฎหมายแน่นอน”

    The post สิตางศุ์ บัวทอง เน็ตไดอลดัง ลั่น! ฉันไม่เคยฆ่าใคร เตรียมทนายฟ้องคนให้ข่าวเท็จ appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รื้อ "บอมเบย์เบอร์มา" บานปลาย โยนกลองกันวุ่น ผวจ.อ้างแค่เซ็นให้ซ่อม
    ชาวแพร่เกือบ 300 คน บุกศาลากลางจังหวัด คนแพร่จี้ถามผวจ. เป็นคนเซ็นอนุมัติ รื้ออาคารเก่าแก่ บอมเบย์เบอร์มาในทีโออาร์ก็มีระบุค่ารื้อถอน ค่าอุปกรณ์ แล้วยังมาอ้างไม่รู้ ขณะส.ส.ห่วงไม้เก่าที่รื้อ
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สธ.เร่งประสานเมียนมา หลังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อ้างกลับจากไทย
    สธ.เร่งประสาน “เมียนมา-องค์การอนามัยโลก” หลังมีรายงานพบผู้ป่วยในประเทศเมียนมา อ้างเดินทางกลับจากไทย
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เชื่อว่าคนทั่วโลกเมื่อได้ยินรายงานข่าวเกี่ยวกับ ‘การระบาดระลอกสองในจีน’ ในกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ต่างสร้างความกังวลใจให้ใครหลายคนได้ไม่น้อยโดยในรายงานข่าว ให้ข้อมูลว่า หลังจากไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศเป็นเวลาเกือบสองเดือน ในวันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทางการจีนแถลงว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 36 คน ซึ่งเชื่อมโยงกับการระบาดแบบกลุ่มก้อนในตลาดซินฟาตี้ ตลาดขายส่งขนาดยักษ์ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมหานครปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน

    เท่ากับว่ารวม 4 วัน พบผู้ติดเชื้อในปักกิ่ง 79 คน ถือว่ามากที่สุดนับจากเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วประเทศในวันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน 2563 รวมอยู่ที่ 49 คน ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในเมืองหลวงของจีนเพิ่มเป็น 499 คน แล้วซ้ำรอยเดิม จุดเริ่มต้น การระบาดระลองสองในจีน ก็เกิดขึ้นที่ “ตลาดค้าส่ง” ใจกลางมหานครปักกิ่งดังที่เกริ่นมาว่า การระบาดครั้งนี้มีที่มาจากตลาดซินฟาตี้ ตลาดขายส่งขนาดใหญ่ยักษ์ใจกลางมหานครปักกิ่ง ที่มีกิจกรรมซื้อขายผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์วันละหลายพันตัน ว่ากันว่ามีขนาดใหญ่กว่าตลาดอาหารทะเลในเมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางการระบาดในครั้งแรกที่พบการระบาดของไวรัสโคโรนาครั้งแรกเมื่อปลายปีที่แล้วกว่า 20 เท่านอกจากนั้น ทางการจีนยังแถลงว่า พบการระบาดในตลาดขายส่ง อี้ว์ฉวนตง ในเขตไห่เตี้ยน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปักกิ่ง พบผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 1 คน ที่มีความเชื่อมโยงกับตลาดซินฟาตี้
    โดยตลาดซินฟาตี้ เป็นตลาดสดใหญ่ที่สุดในกรุงปักกิ่ง ตลาดแห่งนี้มีพื้นที่รวม 700 ไร่ มีเจ้าหน้าที่ 1,500 คน มีผู้เช่าแผงมากกว่า 4,000 ราย และตามรายงาน ระบุว่าในตอนนี้แม้จะมีการสั่งปิดตลาด แต่ยังมีการตั้งแผนกพิเศษสำหรับจำหน่ายผักผลไม้ ด้วยการจัดการแบบระบบปิด

    Facebook : China Report ASEAN Thailand ได้อัปเดตไทม์ไลน์สถานการณ์ การระบาดระลอกสอง ในครั้งนี้ว่าผู้ติดเชื้อในกรุงปักกิ่งทั้ง 36 คนมีความเชื่อมโยงกับ ‘ตลาดซินฟาตี้’ ตลาดค้าส่งผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารทะเลขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงปักกิ่ง อยู่ในเขตเฟิงไถ
    ซูเปอร์มาร์เกตในตลาดซินฟาตี้ นำปลาแซลมอนลงจากชั้นวางสินค้า หลังมีรายงานพบเชื้อไวรัสบนเขียงที่ใช้สำหรับตัดแต่งปลาแซลมอน
    ทันทีที่พิสูจน์แล้วว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 ครั้งนี้มีความเกี่ยวข้องกับตลาดแห่งนี้ ตลาดจึงถูกสั่งปิดอย่างไม่มีกำหนดตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา (13 มิ.ย.) หลังตรวจพบผู้ติดเชื้อตั้งแต่วันศุกร์ (12 มิ.ย.)บุคคลที่เกี่ยวข้องกับตลาดซินฟาตี้กว่า 10,000 คน ต้องเข้ารับการทดสอบกรดนิวคลิอิก เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19เมื่อพบข้อเท็จจริงเช่นนี้ ทางเจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลปักกิ่ง สีว์ อิง แถลงต่อสาธารณชนทันทีว่า

    “ความพยายามในการควบคุม การระบาดระลอกสองในจีน ครั้งนี้ เปรียบเทียบได้กับการเข้าสู่โหมดเมื่อตอนเกิดสงครามอย่างรวดเร็ว โดยมีย่านสายถนน 7,200 แห่ง และเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคระบาดเกือบ 100,000 คน เดินทางเข้าสู่ในพื้นที่ ศูนย์กลางการระบาดระลอกสอง ที่เปรียบเหมือน “สนามรบ” แล้ว”

    รายงานข่าวล่าสุดแจ้งว่าเจ้าหน้าที่เมืองปักกิ่งประกาศปิดกว่า 10 เมือง โดยรอบกรุงปักกิ่งของจีนแล้ว เพื่อพยายามควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่มีส่วนเชื่อมโยงกับตลาดค้าส่งใหญ่ที่สุดในกรุงปักกิ่ง อย่างที่กล่าวมานอกจากนั้น ทางการได้ประกาศปิดตลาดและโรงเรียนบริเวณใกล้เคียง และประชาชนที่อาศัยอยู่ใน 10 ชุมชนโดยรอบตลาดต้องอยู่ภายใต้มาตรการปิดเมืองหรือล็อคดาวน์อย่างเคร่งครัดเปิดมาตรการเชิงรุก ตาต่อตา ฟันต่อฟัน หยุด การระบาดระลอกสองในจีน ให้ได้เร็วที่สุด ในแบบฉบับของจีนแค่จำนวนผู้ติดเชื้อในหลักร้อย ก็กระตุ้นให้ทางการจีนถึงขั้นประกาศภาวะฉุกเฉินขั้นสูงสุด ไม่ต่างกับช่วงเกิดสงคราม อย่างที่กล่าวมา หากเราพิจารณาในฐานะคนนอกประเทศ อาจมีเสียงแตกว่าทางการจีนจำเป็นต้องตอบโต้กับสถานการณ์การระบาดระลอกนี้ แบบเด็ดขาด ขนาดนี้เลยหรือส่วนความคิดเห็นอีกฝากหนึ่ง ก็ต่างชื่นชมที่จีนตอบโต้กับการระบาดรอบนี้แบบตัดไฟแต่ต้นลม เพื่อป้องกันการรุกลามไปยังนอกประเทศอย่างรอบที่แล้ว

    ถึงตอนนี้ ทางการจีนได้ออกหลายมาตรการเพื่อตอบโต้กับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกสอง หลากหลายรูปแบบ โดยปฏิบัติการแรกที่ทางการปักกิ่งทำ ก็สร้างความทึ่งให้กับชาวโลกได้ไม่ต่างกับในตอนที่ทางการจีนตัดสินใจสั่งการให้สร้างโรงพยาบาลสนามสำหรับรองรับผู้ป่วยจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โรงพยาบาลเหลยเสินซาน ให้แล้วเสร็จให้ได้ภายใน 10 วัน เลย นั่นคือ การที่ทางการปักกิ่งประกาศระดมบุคลากรทางการแพทย์ มาช่วยตรวจคัดกรองโควิด-19 ภายในวันเดียวถึง 76,000 ราย เพื่ออัปเดตว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ครั้งนี้ไปแล้วเท่าไร
    โดยวิธีที่ใช้คือการทดสอบด้วยกรดนิวคลิอิกกับประชาชนทั้งสิ้น 76,499 คน ซึ่งสิ้นสุดวัน ก็พบว่าผู้ที่ผลตรวจเป็นบวก และติดเชื้อโรคโควิด-19 ในครั้งนี้มีทั้งหมด 59 คน อย่างที่รายงานมาข้างต้น ด้าน เกา เสี่ยวจวิน โฆษกคณะกรรมการสุขภาพเทศบาลปักกิ่ง เปิดเผยว่านับถึงเวลา 06.00 น. ของวันจันทร์ ได้มีการตั้งจุดเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งของชาวปักกิ่ง สำหรับอำนวยความสะดวกในการทดสอบกรดนิวคลิอิกให้ประชาชนทั้งหมด 193 จุด
    ส่วนประชาชนที่เป็นพ่อค้าแม่ขายจากตลาดซินฟาตี้ ได้เข้ารับการเก็บตัวอย่าง เพื่อตรวจคัดกรองว่าติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 8,950 คน และพบว่ามีผลเป็นลบแล้วทั้งสิ้น 6,075 คน หรือราวร้อยละ 68 ของจำนวนที่เก็บตัวอย่างทั้งหมด นับถึงเวลา 02.00 น. ของวันอาทิตย์ (14 มิ.ย.) มีประชาชนในชุมชนต่าง ๆ 11 ชุมชนรอบตลาดดังกล่าว เข้ารับการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งทั้งสิ้น 41,510 คน โดยได้ทำการทดสอบหาเชื้อเสร็จสิ้นแล้ว 6,284 คน ซึ่งผลการตรวจเชื้อล้วนออกมาเป็นลบ

    นอกจากนั้นยังมีการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งจากประชาชนที่มีประวัติเดินทางไปยังตลาดดังกล่าวในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้น 29,386 คน โดยนำไปทดสอบกรดนิวคลิอิกแล้ว 12,973 รายการ ซึ่งทั้งหมดมีผลออกมาเป็นลบ

    นอกจากมาตรการตรวจคัดกรองเชิงรุกที่ทำทันที อย่างที่บอกเล่ามาแล้วนี้ ยังมีมาตรการอื่นที่ทำไปควบคู่กัน นั่นคือ
    รื้อฟื้นมาตรการจำกัดเข้มงวดกลับมาใช้เพื่อควบคุมการระบาดในพื้นที่ต่างๆของปักกิ่ง รวมถึงการตั้งจุดตรวจตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับสั่งปิดโรงเรียนและสนามกีฬา และการตรวจวัดอุณหภูมิตามห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และสำนักงาน

    ชาวปักกิ่งต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการอย่างเคร่งครัด ต้องหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนแออัดและการกินอาหารร่วมกับคนจำนวนมาก ถ้าเจ้าหน้าที่พบมีสิทธิจับปรับได้เดินหน้ามาตรการค้นหาผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อแบบเชิงรุก บางเขตถึงขั้นส่งเจ้าหน้าที่ไปตามอาคารที่พักอาศัยต่างๆ เพื่อค้นหาคนที่เคยไปตลาดซินฟาตี้ หรือเคยติดต่อกับคนที่เคยไปตลาดดังกล่าว
    นอกจากการเร่งสกัดกั้นการแพร่ระบาดแล้ว พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังมีการประกาศลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐ มีประกาศให้เจ้าหน้าที่อาวุโส 3 นาย ของเขตเฟิงไท่ กรุงปักกิ่ง (สถานที่ตั้งของตลาดซินฟาตี้) ได้แก่ โจว ยู่ชิง รองผู้อำนวยการเขตเฟิงไท่ หวัง หัว เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเมืองหัวเซียง ในเขตเฟิงไท่ และ จาง เยว่หลิน ผู้จัดการทั่วไปของตลาดสดซินฟาตี้ พ้นจากตำแหน่งทันที โทษฐานล้มเหลวในการป้องกันและควบคุมสถานการณ์โรคโควิด-19

    สำหรับในส่วนของภาคธุรกิจก็ตอบรับให้ความร่วมมือกับทางการอย่างชัดเจน ยกตัวอย่าง จิงเค่อหลง เครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตของจีน ได้ประกาศนโยบาย รักษาปริมาณสินค้าผักและผลไม้จากฐานการผลิตต่างๆในกรุงปักกิ่ง เพื่อให้เพียงพอต่อการบริโภคของชาวปักกิ่ง ขณะที่ ตลาดซินฟาตี้ถูกปิดเพราะตรวจพบการระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ในจีน
    เร่งผลิต ‘วัคซีนโควิด-19 ฉุกเฉิน’ ออกมาใช้ให้ได้ อย่างเร็วที่สุด เดือนกันยายนนี้

    ที่เล่ามาข้างต้น นับเป็นมาตรการรับมือกับ การระบาดระลอกสอง ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นแบบไม่คาดคิดใจกลางเมืองหลวงของจีน อย่าง กรุงปักกิ่ง ในรูปแบบของมาตรการเร่งด่วน ทว่า มาตรการระยะยาวที่จะตอบโต้กับการแพร่เชื้อโรคโควิด-19 ได้อย่างอยู่หมัดนั้น ก็ยังต้องเป็นการคิดค้นวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ได้

    โดยมีการคาดการณ์จากวงการการแพทย์ทั่วโลก ระบุออกมาชัดเจนว่า การคิดค้นวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 จำเป็นต้องใช้เวลา อย่างน้อย 1-2 ปี พวกเราจึงจะสามารถเข้าถึงวัคซีนนี้กันได้ทั่วโลก
    ดังนั้น ทางการจีน จึงมีแนวคิดที่นำ ‘วัคซีนโควิด-19 ฉุกเฉิน’ ออกมาใช้ อย่างเร็วสุดในเดือนกันยายนนี้ โดย นพ.จง หนันซัน ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาชื่อดังของจีน อธิบายเพิ่มเติมว่าในตอนนี้ ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคระบาดโควิด-19 ของจีน กำลังเขียนร่างหลักการเพื่อระบุว่ากลุ่มที่ควรได้รับวัคซีนกรณีฉุกเฉิน จะใช้เกณฑ์ใดตัดสินและการใช้วัคซีนฉุกเฉินจะใช้ได้เมื่อใด

    “เพราะการใช้วัคซีนคือหนทางเดียวเท่านั้นที่จะควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ไม่ให้เพิ่มขึ้นได้ ส่วนแนวคิดการสร้างภูมิคุ้มกันกลุ่ม เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันโดยธรรมชาติจะทำให้มีผู้คนต้องติดเชื้อจนถึงขั้นเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก”

    “เนื่องจากการปล่อยให้เกิดภูมิคุ้มกันโดยธรรมชาติ ประชากร 60-70% ของประเทศใดประเทศหนึ่งจะต้องติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เสียก่อน ซึ่งนั้นอาจเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 30-40 ล้านคน”
    “ดังนั้น วิธีการเดียวก็คือ การให้วัคซีนสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งการพัฒนาวัคซีนเพื่อให้เพียงพอกับประชากรจำนวนมากต้องใช้เวลา 1-2 ปี โดยในตอนนี้กลุ่มนักวิทยาศาสตร์จีนกำลังเร่งพัฒนาวัคซีน 5 ตัว และกำลังอยู่ในขั้นตอนการทดลองกับมนุษย์ ส่วนวัคซีนฉุกเฉิน จะถูกนำมาใช้ได้อย่างเร็วที่สุดเดือนกันยายนหรืออย่างช้าสุดช่วงปลายปี”

    ที่มา :
    รายงานข่าว เรื่อง “จีนปิดกว่า 10 เมืองโดยรอบกรุงปักกิ่ง หลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 2 ในประชาชนกลุ่มใหญ่ (16 มิ.ย. 2563) จากเว็บไซต์ thainews.prd.go.th
    ข่าว เรื่อง “ปักกิ่งตรวจโควิด-19 วันเดียว 76,000 คน” ข้อมูล : Xinhua นำเสนอใน Instagram : Thaipbs
    รายงานข่าว เรื่อง “จีนจะนำ ‘วัคซีนโควิด-19 ฉุกเฉิน’ ออกมาใช้ อย่างเร็วสุด กันยายนนี้” และเรื่อง “แถลงการณ์ล่าสุดจากจีน พบผู้ป่วยโควิด-19 มากที่สุดในรอบ 2 เดือน” จาก Facebook : China Report ASEAN – Angel Thailand

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    PHOTO JOURNAL: ‘THE FIRST VISIT’
    .
    ผู้นำฝรั่งเศสถือเป็นผู้นำประเทศคนแรกที่เดินทางเยือนสหราชอาณาจักร ตั้งแต่มีการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เพราะโควิด-19 ในโอกาสครบรอบ 80 ปีประกาศสู้รบครั้งสำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ของนายพลชาร์ล เดอ โกล ที่ออกอากาศผ่าน BBC ในกรุงลอนดอนเมื่อปี 1940 - Dan Kitwood / Getty Images
    .
    IG: www.instagram.com/thestandardth.ig
    #TheStandardCo

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    UPDATE: จีนเผย คุมสถานการณ์โควิด-19 ในปักกิ่งได้แล้ว ยังตรึงเข้มมาตรการห้ามเดินทางออกนอกเมือง
    .
    เมื่อวานนี้ (18 มิถุนายน) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อู๋จุนโหย่ว หัวหน้านักระบาดวิทยาประจำศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน (CDC) กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน อยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว และคาดว่าจำนวนผู้ป่วยรายใหม่จะลดลงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
    .
    โดยระบุว่า แม้ปักกิ่งจะมีการรายงานผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันผลรายใหม่ทุกวัน แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกรายเป็นผู้ป่วยที่เพิ่งติดเชื้อ
    .
    ทั้งนี้ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในปักกิ่งที่รายงานเมื่อวันพุธ (17 มิถุนายน) จำนวน 21 รายนั้น เป็นผู้ที่ติดเชื้อก่อนวันที่ 12 มิถุนายน พร้อมเสริมว่าปักกิ่งจะตรวจพบผู้ป่วยอีกหลายรายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่จำนวนผู้ป่วยจะค่อยๆ ลดลง
    .
    โดยปักกิ่งยังได้ออกชุดมาตรการคุมเข้มการไหลเวียนของบุคคล หลังพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนใหม่ ซึ่ง พานซวี่หง รองหัวหน้าและโฆษกสำนักความปลอดภัยสาธารณะของเทศบาลนครปักกิ่ง ระบุว่า ประชาชนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกปักกิ่งแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน
    .
    กลุ่มแรก ได้แก่ ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยัน ผู้ป่วยต้องสงสัย ผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย พาหะที่ไม่แสดงอาการ และผู้ที่มีไข้
    .
    กลุ่มที่สอง ได้แก่ ผู้ที่มีประวัติเดินทางไปตลาดขายส่งสินค้าเกษตรซินฟาตี้ หรือผู้ที่ติดต่อใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม
    .
    และกลุ่มที่สาม ได้แก่ ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงปานกลาง-สูง
    .
    ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันรายใหม่ในปักกิ่งนั้น ส่วนใหญ่มีประวัติเกี่ยวข้องกับตลาดซินฟาตี้ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเฟิงไถของปักกิ่ง
    .
    พานซวี่หงเสริมว่า ประชาชนกลุ่มอื่นควรหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกปักกิ่งโดยไม่จำเป็น ส่วนผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางออกนอกปักกิ่ง จะต้องมีเอกสารรับรองผลการทดสอบกรดนิวคลีอิกเป็นลบในช่วงเวลาไม่เกิน 7 วัน
    .
    ด้านกลุ่มหน่วยงานการบินพลเรือนและรถไฟ ได้ออกมาตรการจำกัดเกี่ยวกับการซื้อตั๋วเดินทางสำหรับผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันและต้องสงสัย ผู้มีประวัติติดต่อใกล้ชิด และพาหะที่ไม่แสดงอาการในปักกิ่ง ตลอดจนผู้ที่มีประวัติเยือนตลาดซินฟาตี้ หรือติดต่อใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม
    .
    ทั้งนี้ปักกิ่งมีรายงานยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เป็นการติดเชื้อในท้องถิ่น ระหว่างวันที่ 11-18 มิถุนายน รวม 183 ราย โดยล่าสุดรายงานยอดผู้ติดเชื้อวานนี้อยู่ที่ 25 ราย
    .
    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/coronavirus-coverage/
    #ฝ่าวิกฤตโควิด19 #โควิด19 #COVID19 #TheStandardCo

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เม.ย. ท่ามกลางโควิด-19 จีนยังรั้ง คู่ค้าหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ

    วอชิงตัน, 17 มิ.ย. (ซินหัว) — วอลล์ สตรีท เจอร์นัล (Wall Street Journal) หนังสือพิมพ์ของสหรัฐฯ รายงานว่าการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ในเดือนเมษายนพุ่งสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทำให้จีนกลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ

    รายงานที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (14 มิ.ย.) ระบุว่าในเดือนเมษายน การค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ เติบโตถึง 3.97 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.2 ล้านล้านบาท) หรือกว่าร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สูงกว่าเม็กซิโกและแคนาดา พร้อมเรียกประเทศจีนเป็น “แสงสว่าง” ของสหรัฐฯ ท่ามกลาง “การค้าระดับโลกที่มืดมน”

    ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่าในช่วงเวลาเดียวกันยอดนำเข้าโดยรวมของสหรัฐฯ ตกลงร้อยละ 13.7 อยู่ที่ 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.2 ล้านล้านบาท) และยอดส่งออกตกลงร้อยละ 20.5 อยู่ที่ 1.51 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.7 ล้านล้านบาท) ขาดดุลเพิ่มร้อยละ 16.7 หรือ 4.94 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.5 ล้านล้านบาท)

    ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (GEP) ฉบับล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ก่อน กลุ่มธนาคารโลก (World Bank Group) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัวลงร้อยละ 5.2 ในปี 2020 ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตขึ้นร้อยละ 1

    ธนาคารโลกระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจหดตัวร้อยละ 6.1 ในปี 2020 สอดคล้องกับธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งคาดการณ์เมื่อไม่นานมานี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะหดตัวร้อยละ 6.5 ในปี 2020 และอัตราการว่างงานต่ำลงอยู่ที่ร้อยละ 9.3 ช่วงไตรมาสที่ 4

    วอลล์ สตรีท เจอร์นัลอ้างอิงคำกล่าวของเครก แอลเลน (Craig Allen) ประธานสภาธุรกิจสหรัฐฯ-จีน (USCBC) ว่า “จีนอาจเป็นฟันเฟืองชิ้นใหญ่ที่สุดที่ขับเคลื่อนการเติบโตของจีดีพีโลกในปี 2020 และอาจนานถึงปี 2021… แน่นอนว่าเราอยากให้บริษัทในสหรัฐฯ ได้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้”

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มะกันเปลี่ยนกฎฯ ยอมให้บริษัทอเมริกัน ค้าขายกับหัวเว่ย

    วอชิงตัน (รอยเตอร์) - สหรัฐอเมริกาแก้ไขข้อกำหนดเกี่ยวกับหัวเว่ยเทคโนโลยีของจีน โดยยอมเปิดโอกาสให้หัวเว่ย ทำธุรกิจร่วมกับบริษัทของสหรัฐอเมริกาได้ แต่จำกัดเพียงส่วนของธุรกิจที่ช่วยกันพัฒนาเครือข่ายมาตรฐาน 5G เท่านั้น วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกา กล่าวเมื่อวันพุธ (17 มิ.ย)

    ในการให้สัมภาษณ์กับ Fox Business Network รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐอเมริกายังคงกังวลเกี่ยวกับศักยภาพในการสอดแนมและต่อต้านการใช้เทคโนโลยีหัวเว่ย ในเครือข่าย 5G

    “การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นเพียงการอธิบายอย่างชัดเจน เราไม่ได้ทำอะไรเพื่อช่วยหัวเว่ย สิ่งที่เรากำลังทำคือสิ่งที่ทำให้มาตรฐานระดับโลกสอดรับกัน"

    กฎที่มีการเปลี่ยนแปลงนี้ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดี โดยแก้ไข "รายการนิติบุคคล" ของหัวเว่ย ที่จำกัดการขายสินค้าและเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกาให้แก่บริษัทหัวเว่ย ให้สามารถทำธุรกิจบางอย่างกับหัวเว่ย และบริษัทในเครือ ในเงื่อนไขการมีส่วนร่วมในการแก้ไขหรือพัฒนามาตรฐานเทคโนโลยีไร้สายอนาคตร่วมกัน

    นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ทางกระทรวงฯ มีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และผลประโยชน์จากนโยบายต่างประเทศ โดยส่งเสริมให้อุตสาหกรรมในสหรัฐได้มีส่วนร่วมและสนับสนุนเทคโนโลยีของสหรัฐฯ อย่างเต็มที่เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล

    กฏใหม่ของสำนักอุตสาหกรรมและความมั่นคงสหรัฐฯ นี้ อนุญาตให้บริษัทเอกชนอเมริกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีกับหัวเว่ยได้ เพื่อพัฒนามาตรฐานร่วมกันโดยไม่ต้องมีใบอนุญาตส่งออก

    ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ สหรัฐอเมริกา ยังไม่ได้กล่าวถึงมาตรการผ่อนปรน ถอดชื่อหัวเว่ยจากบัญชีดำ
    ......................

    ข่าว - https://www.cnbc.com/2020/06/16/us-firms-can-work-with-huawei-on-5g-and-other-standards.html

    -https://www.reuters.com/article/us-usa-china-huawei-tech/new-us-huawei-rule-targets-standards-security-concerns-remain-ross-idUSKBN23O1MR

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ถนนข้าวสาร ยังเงียบเหงา รอคอยนักท่องเที่ยวกลับมา

    ร้านค้าต่าง ๆ ในถนนข้าวสารทยอยเปิดร้าน เพื่อเรียกนักท่องราตรีในยามค่ำคืนให้กลับมา แต่ยังคงเงียบเหงา เพราะบางร้านยังไม่กล้าเปิดเนื่องจากไม่คุ้มกับรายจ่าย และต้องปรับปรุงร้านให้เข้ากับลูกค้าคนไทยมากยิ่งขึ้น โดยได้คาดการว่า ถนนข้าวสารจะกลับมาคึกคักได้อีกครั้งในต้นปีหน้า และหลังจากนี้จะมีการจัดอีเว้นให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยมากยิ่งขึ้น

    The post ถนนข้าวสาร ยังเงียบเหงา รอคอยนักท่องเที่ยวกลับมา appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โควิดกระทบร้านอาหารญี่ปุ่นในจีน ลูกค้าหาย ไม่กินปลาดิบ ต้องปรับตัวขายเมนูปรุงสุกแทน

    ประเทศจีนเริ่มหยุดการนำเข้าปลาแซลมอนจากทวีปยุโรปแล้ว หลังพบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่จากตลาดสดแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง โดยเชื่อว่ามีเชื้อโควิด-19 ปนเปื้อนอยู่ที่เขียง แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญหลายคนจะเชื่อว่าตัวปลาแซลมอนไม่อาจเป็นตัวแพร่เชื้อได้

    ในขณะนี้ซุปเปอร์มาเก็ตหลายแห่งในกรุงปักกิ่งเริ่มนำปลาแซลมอนออกจากชั้นวางสินค้าแล้ว หลังจากที่ตรวจพบว่ามีเชื้อของโรคโควิด-19 ปนเปื้อนอยู่ที่เขียงที่ใช้หั่นปลาแซนมอนในตลาดซินฟาตี้ ซึ่งเป็นตลาดที่ขายสินค้าประเภทอาหารสด และอาหารทะเลขนาดใหญ่ในประเทศจีน

    ผู้ส่งออกเนื้อปลาแซลมอนจากประเทศนอร์เวย์เล่าว่า ในขณะนี้ไม่สามารถส่งออกปลาแซลมอนไปยังประเทศจีนได้แล้ว เพราะตลาดปิด และยังคงต้องรอยืนยันความชัดเจนถึงกรณีดังกล่าวด้วยเช่นกัน เพราะในขณะนี้เนื้อปลาแซลมอนกำลังกลายเป็นผู้ต้องสงสัย ว่าจะมีการปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 มาจากทวีปยุโรป

    Marion Koopmans ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัส จากมหาวิทยาลัย Erasmus University Medical Centre ในประเทศเนเธอร์แลนด์ แสดงความคิดเห็นว่า ในขณะนี้ข้อมูลยังมีอยู่จำกัด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะรู้ได้ว่าเชื้อโควิด-19 ที่พบ มีความเกี่ยวข้องกับเชื้อโควิด-19 ในทวีปยุโรปหรือไม่

    แม้ว่าในขณะนี้ความกังวลว่าเชื้อโควิด-19 อาจมีการปนเปื้อนมากับเนื้อปลาแซล จะยังเป็นเพียงสมมติฐานที่รอวันพิสูจน์ แต่ในขณะนี้ชาวจีนหลายคนก็เริ่มกังวลจนไม่กล้ารับประทานปลาแซนมอนกันแล้ว

    เนื้อปลาแซลมอนดิบในอาหารญี่ปุ่น ภาพจาก Unsplash โดย Giovanna Gomes
    ร้านอาหารญี่ปุ่นกระทบหนัก ขายเมนูปลาดิบไม่ได้

    ฝ่ายที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคงหนีไม่พ้นร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศจีน ซึ่งเมนูอาหารญี่ปุ่นจำนวนมากใช้ปลาแซลมอนดิบๆ ในเมนูด้วย เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น Wei Wei ในกรุงปักกิ่งเล่าว่า ลูกค้ายกเลิกการจองโต๊ะทั้งหมดหลังจากมีข่าวเรื่องปลาแซลมอนออกมา ทำให้ร้านประสบกับภาวะขาดรายได้อีกครั้ง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเมนูอาหารที่มีเนื้อปลาแซลมอนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอาหารทะเลสดชนิดอื่นด้วยเช่นกันที่คนหลีกเลี่ยง

    ความกังวลไม่ได้หยุดลงที่กรุงปักกิ่งเท่านั้น เพราะที่เซี่ยงไฮ้ก็มีความกังวลแบบเดียวกันเกิดขึ้น เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Makino เล่าว่า ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เขาแทบจะไม่ได้เสิร์ฟอาหารที่มีปลาแซลมอนเป็นส่วนประกอบเลย เพราะคนส่วนใหญ่พยายามหลีกเลี่ยงการรับประทานปลาดิบ

    ร้านอาหารญี่ปุ่นหลายร้านในประเทศจีนต้องหาวิธีลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากความกังวลให้ได้ บางร้านใช้วิธีการปรับเปลี่ยนเมนูภายในร้าน โดยปรับลดเมนูที่ใช้ปลาดิบลง แต่หันไปเพิ่มเมนูที่ใช้การปรุงอาหารจนสุกด้วยความร้อนแทนเป็นการแก้ไขปัญหา

    โดย Pran Suwannatat

    Source: Brandinside.asia
    https://brandinside.asia/japanese-restaurant-can-not-sell-raw-menu/

    - Coronavirus: China halts salmon imports over possible link to Beijing outbreak as consumers leap to conclusions: https://www.scmp.com/news/china/soc...china-halts-salmon-imports-over-possible-link

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "พาวเวล"เผยการไหลเวียนของเหรียญกษาปณ์หยุดชะงักจากพิษโควิด-19

    นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า การไหลเวียนของเหรียญกษาปณ์สหรัฐในธนาคารบางแห่งได้ชะลอตัวลงจนแทบหยุดนิ่ง โดยได้รับผลกระทบจากการที่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่อยู่แต่ในบ้าน ขณะที่รัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

    ทั้งนี้ นายพาวเวลได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ โดยนายจอห์น โรส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากรัฐเทนเนสซี กล่าวว่า ธนาคารหลายแห่งในรัฐของเขาได้รายงานถึงปริมาณการไหลเวียนของเหรียญกษาปณ์ที่ต่ำกว่าปกติในแต่ละสัปดาห์ และได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของทางธนาคารในการกระจายเงินสด

    การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ทำให้เกิดการชำระเงินแบบ contactless payments มากขึ้น และการที่ชาวอเมริกันอยู่แต่ในบ้าน และใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์ ก็ได้ทำให้การหมุนเวียนของกระแสเงินสดในตลาดถูกจำกัด

    นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และระบุว่า "การไหลเวียนของเหรียญกษาปณ์ในระบบเศรษฐกิจได้หยุดชะงักลง เนื่องจากสถานที่ซึ่งเรามักไปใช้จ่ายเงินตราได้ถูกปิดลง ดังนั้นระบบการไหลเวียนทั้งหมดจึงหยุดชะงัก"

    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

    - Americans face new coronavirus challenge: a shortage of coins: https://www.reuters.com/article/us-...s-challenge-a-shortage-of-coins-idUSKBN23O36U

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศาลสหรัฐตัดสินไม่ให้ทรัมป์ยกเลิกโครงการ DACA ที่ให้สิทธิคุ้มครองผู้อพยพที่เข้ามาในสหรัฐฯอย่างผิดกฎหมาย

    ศาลฎีกาสหรัฐฯ มีคำตัดสินด้วยมติ 5 ต่อ 4 สั่งห้ามไม่ให้รัฐบาลประธานาธิบดี Trump ใช้อำนาจยกเลิกโครงการ Deferred Action for Childhood Arrivals (DACA) ของ Department of Homeland Security (DHS) ที่ออกในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดี Obama

    โครงการ DACA จะให้สิทธิคุ้มครองผู้อพยพที่เข้ามาในสหรัฐฯอย่างผิดกฎหมายตั้งแต่เป็นเยาวชน หรือกลุ่มที่เรียกว่า Dreamers ที่เข้าตามหลักเกณฑ์จำนวนประมาณ 700,000 ออกจากสหรัฐฯ ว่าจะไม่มีการเนรเทศออกนอกประเทศ พร้อมให้สิทธิในการทำงานได้เป็นการชั่วคราวครั้งละ 2 ปี โดยศาลกล่าวว่าการกระทำของรัฐบาลที่จะยกเลิกโครงการนี้ไม่ได้เป็นประเด็นเรื่องอำนาจในการดำเนินนโยบาย แต่เป็นเรื่องของกระบวนการ โดยศาลเห็นว่าการดำเนินการนี้เป็นการกระทำที่ปราศจากเหตุผลและกระทำตามอำเภอใจ (“arbitrary and capricious”)

    นอกจากนี้ การดำเนินงานของ Department of Homeland Security (DHS) ไม่ได้เป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอนที่เหมาะสม ขาดการวิเคราะห์ผลกระทบจากการยกเลิกกฎหมายอย่างเพียงพอ อาทิ การพิจารณาความยากลำบากของเยาวชนที่ได้รับสิทธิ DACA อย่างไรก็ตาม การตัดสินของศาลในวันนี้ เป็นการห้ามเป็นการชั่วคราวและไม่ได้เป็นการห้ามรัฐบาลในการเสนอยกเลิกโครงการ DACA อีกครั้ง

    ทั้งนี้ หลังศาลตัดสินทางประธานาธิบดี Trump ได้ Tweet ข้อความว่าศาลฎีกาเหมือนจะไม่ชอบตน เช่นเดียวกับนาย Ken Cuccinelli ผู้บริหาร DHS ที่กล่าวว่าคำตัดสินของศาลนั้นไม่ชอบธรรมและใช้สองมาตรฐาน

    อนึ่ง ด้านนาย Joe Biden กล่าวว่าการตัดสินครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะของผู้อพยพตามโครงการ DACA ที่ได้ต่อสู้อย่างกล้าหาญ โดยตนพร้อมจะเสนอร่างกฎหมายเรื่อง DACA นี้เข้าสู่สภาให้พิจารณาเป็นกฎหมายถาวรในวันแรก หากได้เป็นประธานาธิบดี นอกจากนี้ ทางสมาชิกสภาฯ จากทั้งสองพรรคต่างเห็นร่วมกันที่จะหาทางแก้ปัญหาระยะยาวอย่างถาวรของกลุ่ม Dreamers ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนทางสู่การเป็นพลเมืองหรือการจัดการเอกสารต่าง ๆ ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นต้น

    Source: BoTSS

    - Supreme Court blocks Trump from ending DACA: https://www.cnn.com/2020/06/18/politics/daca-immigration-supreme-court/index.html

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สงครามการค้า ฉุดอันดับแข่งขัน ‘สหรัฐ-จีน’

    ผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันโลก ประจำปี 2563 ของสถาบันเพื่อพัฒนาการจัดการ (ไอเอ็มดี) พบว่า ปีนี้ ทั้งสหรัฐและจีนอันดับลดลงทั้งคู่ เพราะมัวแต่ทะเลาะกัน

    ผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันโลก ประจำปี 2563 ของสถาบันเพื่อพัฒนาการจัดการ (ไอเอ็มดี) พบว่า ปีนี้ ทั้งสหรัฐและจีนอันดับลดลงทั้งคู่ เพราะมัวแต่ทะเลาะกันเรื่องการค้าจึงส่งผลต่อการจัดอันดับระหว่างประเทศ เปิดทางให้เขตเศรษฐกิจเล็กกว่าแซงหน้าไปได้

    สหรัฐร่วงจากอันดับ 3 ในปี 2562 มาอยู่อันดับ 10 ในปีนี้ เพราะเสถียรภาพทางการเมือง ความสามัคคีในสังคม ความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและระหว่างเพศลดน้อยลง

    เว็บไซต์ซีบีเอสรายงานว่า สหรัฐเคยคว้าแชมป์มาได้ในปี 2561 จากนั้นก็เข้าสู่ขาลงมาโดยตลอด

    สิ่งที่สหรัฐทำได้ดีที่สุดคือ เสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนและสัดส่วนของการส่งออกสินค้าเทคโนโลยีสูง

    ปัจจัยใหญ่สุดที่ทำให้สหรัฐตกอันดับคือ การสะสมทุนถาวร-การเติบโตที่แท้จริง ซึ่งหมายถึง การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน โรงเรียน และการปรับปรุงที่ดิน ที่ช่วยให้เศรษฐกิจประเทศเดินหน้าต่อไปได้ เกณฑ์ด้านนี้สหรัฐทำคะแนนได้ลดลง

    ปัจจัยรองลงมาคือการเกินดุล/ขาดดุลงบประมาณของรัฐบาล นับถึงขณะนี้ในปีงบประมาณ 2563 สหรัฐขาดดุลมากถึงราว 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ สำนักงบประมาณสภาคองเกรส คาดการณ์เมื่อเดือน เม.ย.ว่า สิ้นปีงบประมาณนี้สหรัฐจะขาดดุล 3.7 ล้านล้านดอลลาร์

    ส่วนจีนตกจากอันดับ 14 ในปี 2562 มาอยู่ในอันดับ 20 เพราะคะแนนด้านการค้าระหว่างประเทศ การจ้างงาน และตลาดแรงงานลดลงมาก

    ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือน พ.ค.บรรดานักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า อาจเกิดสงครามการค้ารอบใหม่ เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ว่าจีนจะต้องปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเฟสหนึ่งที่ทำร่วมกันและหากจีนไม่ซื้อสินค้าจากสหรัฐตามที่รับปากไว้ สหรัฐจะยกเลิกข้อตกลงดังกล่าวกับจีน

    นักเศรษฐศาสตร์บางคนเตือนว่า จีนควรให้ความสนใจกับคำขู่ของประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับการขึ้นภาษี เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจจีน ซึ่งมีปัญหาจากเรื่องโรคโควิด-19 อยู่แล้ว กำลังได้รับความเสียหายหนักมากขึ้น จีนจึงควรหลีกเลี่ยงสงครามการค้ารอบต่อไป

    แต่ดาร์สัน ชิว นักเศรษฐศาสตร์อีกคน มีความเห็นว่าสหรัฐจะเป็นฝ่ายที่ต้องเสียหายเช่นกันเพราะโอกาสที่จีนจะทำตามข้อตกลงการค้าในเฟสหนึ่งมีน้อย เนื่องจากเศรษฐกิจจีนหดตัวลงถึง 6.8% ในช่วงไตรมาสแรกของปี และหากจะเดินหน้าทำตามข้อตกลงนี้จริง จีนจะต้องกู้เงินเป็นจำนวนมาก

    Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    https://www.bangkokbiznews.com/news...medium=internal_referral&utm_campaign=foreign

    -U.S. plummets to 10th spot in World Competitiveness Ranking : https://www.cbsnews.com/news/u-s-plummets-to-10th-spot-in-world-competitiveness-ranking/

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ระบบอาวุโสในที่ทำงานทำให้เราคุ้นเคยกับคนที่ทำงานมานาน คนที่อายุเยอะจะได้เป็นซีเนียร์ เป็นหัวหน้า พอคนอายุน้อย ได้อยู่ในตำแหน่งผู้นำ กลายเป็นเรื่องที่ดูว้าวไปแทน
    .
    แต่ใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ เมื่อคนอายุน้อยกว่าเป็นหัวหน้าทีมจะซื้อความเชื่อใจ ความเคารพกันในฐานะหัวหน้าลูกน้อง จากคนที่อายุมากกว่าได้ด้วยวิธีไหน เมื่อเราเองก็เป็นทั้งคนหน้าใหม่ในที่ทำงาน และยังวัยวุฒิน้อยกว่าคนในทีมตัวเองเสียอีก ลุงหมีมีคำตอบอีกเช่นเคย
    .
    #OnUFO #VIBE #CareerClinic

     

แชร์หน้านี้

Loading...