ติดตามสถานะการณ์

ชมวิวล้ำๆ จากขอบโลก
Space Pecspective ประกาศให้บริการ
ทริปบอลลูน ‘ตะลุยขอบอวกาศ’

.

ผู้ก่อตั้ง World View Enterprises บริษัทให้บริการส่งบอลลูนสำรวจอวกาศ ที่เคยสร้างความฮือฮาด้วยการจับมือกับ KFC สร้างบอลลูนขึ้นส่งซิงเกอร์เบอร์เกอร์ขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศโลก ตอนนี้กลับมาอยู่ในความสนใจของทั่วโลกอีกครั้ง เมื่อประกาศจัดตั้งบริษัทใหม่อีกหนึ่งบริษัท ในนาม Space Perspective โดยมีจุดประสงค์ ‘จัดทริปไปดูขอบอวกาศ’ ด้วยบอลลูนระดับสูง High-altitude Balloon
.

Jane Poynter และ Taber MacCallum สองผู้ก่อตั้ง World View Enterprises และรับหน้าที่เป็น CEO ร่วมกันที่ Space Perspective เผยว่า Space Perspective จะให้บริการสำหรับคนที่อยากขึ้นไปดูขอบอวกาศ ด้วย High-altitude Balloon ซึ่งไม่ต้องใช้จรวดในการนำส่งผู้โดยสารขึ้นไปบนอวกาศ เหมือนกับที่บริษัทอื่นกำลังพยายามทำอยู่ และเป็นอุปสรรคที่ยังไม่สามารถทำให้พวกเขาเหล่านั้นเปิดบริการเชิงพาณิชย์ได้จริง
.

ตามหลักการแล้ว High-altitude Balloon ของ Space Perspective ไม่ได้ขึ้นไปในอวกาศจริงๆ แต่จะอยู่ในระดับชั้นบรรยากาศโลกสตราโทสเฟียร์ (Stratosphere) สูงประมาณ 100,000 ฟุต หรือราว 19 ไมล์ จากระดับพื้นดิน
.

แน่นอนว่าผู้โดยสารจะไม่ได้สัมผัส ‘สภาวะไร้น้ำหนัก’ แต่สิ่งที่ทางผู้ก่อตั้ง Space Perspective ยืนยันว่า ได้รับแน่นอน คือ ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันเงียบสงบและสวยงามของโลกมุมใหม่ ผ่านกระจกรอบด้าน ภายในห้องโดยสารลักษณะคล้าย ‘ลูกข่างยักษ์’ และนอกจากจะบินขึ้นไปเพื่อท่องเที่ยวแล้ว ยังสามารถจัดงานอีเวนต์อย่างงานแต่งงาน ได้อีกด้วย
.

Space Perspective ตั้งเป้าไว้ว่า ให้บริการได้ปีละ 100 เที่ยวต่อปี และ 1 เที่ยว รับผู้โดยสารได้ 8 คน โดยแต่ละเที่ยว ใช้เวลาราว 6 ชั่วโมง

ขณะนี้ยังไม่ได้เปิดให้บริการจริง คาดว่าจะขายตั๋วในปีหน้า 2021 แต่สำหรับราคา ยังไม่ได้กำหนดราคาที่แน่นอน แต่จะถูกกว่า ราคาของคู่แข่ง ที่ตอนนี้ตั้งไว้ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ ประมาณครึ่งราคา

.

อ้างอิงจาก:

https://www.theverge.com/21294039/space-perspective-stratosphere-balloon-travel-tourism-world-view

https://www.theverge.com/2017/6/13/15791474/world-view-stratollite-kfc-zinger-stratosphere

#onUFO #WorldViewEnterprises #SpacePerspective #Stratosphere #EdgeOfSpace

 

คนรวยอเมริกัน ‘รัดเข็มขัด’ ช่วงระบาด ไม่จ้างพี่เลี้ยง-ไม่เรียกอูเบอร์ กระทบแรงงานรายได้น้อยโดยตรง

.

จากการศึกษาและวิเคราะห์การใช้จ่ายของชาวอเมริกัน ช่วงวิกฤติการระบาด COVID-19 โดยกลุ่มวิจัย Opportunity Insights มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่า ครอบครัวที่มีรายได้น้อย มีแนวโน้มใช้จ่ายมากกว่ากลุ่มของที่มีรายได้สูง
.

สัดส่วนการใช้จ่ายของกลุ่มรายได้น้อยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ตกลงมา 4% ขณะที่กลุ่มผู้มีรายได้สูง การใช้จ่ายเข้าขั้นรัดเข็มขัด ตกลงมากถึง 17% โดยกลุ่มนี้ กลับมาใช้จ่ายเหมือนช่วงก่อนการระบาดช้ากว่าผู้มีรายได้น้อย และเริ่มตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น การเรียก Uber จ้างพี่เลี้ยงเด็ก แม่บ้าน และ คนขับรถ
.

ผลการศึกษายังระบุว่า การชะลอใช้จ่ายของกลุ่มผู้มีรายได้สูง ส่งผลโดยตรงต่อการจ้างงานในย่านคนรวย โดยธุรกิจขนาดเล็กในย่านคนรวย มีผลประกอบการตกลงมากกว่า ย่านที่มีรายได้ต่ำกว่า ซึ่งเป็นไปในทางเดียวกันกับ กลุ่มชาวอเมริกันผู้มีรายได้น้อย ที่อาศัยในพื้นที่รายได้ต่อหัวสูง ใช้จ่ายลดลง เมื่อเทียบกับย่านที่มีรายได้ต่ำกว่า
.

ปกติแล้ว อุตสาหกรรมภาคบริการ จะโดนผลกระทบน้อยที่สุดในวิกฤติเศรษฐกิจ แต่รอบนี้ เมื่อกลุ่มผู้มีรายได้สูง ซึ่งมีผลโดยตรงต่อภาคบริการ ชะลอการใช้จ่าย ทำให้ภาคบริการในสหรัฐอเมริกาได้รับผลกระทบ และเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย อย่างร้านอาหาร สถานที่ที่เคยเป็นแหล่งจ้างงานของแรงงานที่ถูกเลิกจ้างจากภาคการผลิต แต่วิกฤตินี้ กลับกลายเป็นว่า คนที่ทำงานในร้านอาหาร ในภาคบริการ กลับกลายเป็นผู้ตกงานเสียเอง
.

อ้างอิงจาก:

https://www.businessinsider.com/low-wage-workers-suffering-due-to-rich-people-spending-less-2020-6

https://www.nytimes.com/2020/06/17/upshot/coronavirus-spending-rich-poor.html

#onUFO #Pandemic #Employment #USA #RichPeople

 

จีนลุยตรวจเลือด ผู้ชายทุกคน สร้างฐานข้อมูล ‘ยีน’ 700 ล้านคน ติดตามและควบคุมประชาชน ‘ทุกฝีก้าว’
.

นอกเหนือจากข่าวการแพร่ระบาด COVID-19 ในประเทศจีน ที่กลับมาระบาดอีกรอบที่กรุงปักกิ่ง มีข่าวที่น่าจับตามองจากจีนเช่นกัน แต่ดูเหมือนจะไม่มีการนำเสนอผ่านทางสื่อจีนเท่าใดนัก เมื่อทางรัฐบาลจีน พยายามควบคุมและจับตามองประชาชนทุกฝีก้าว ด้วยการเก็บข้อมูลของทุกคน ในรูปแบบของ “ฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรม” โดยเริ่มจากเก็บรหัสพันธุกรรม หรือ ยีน ของผู้ชาย ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ทั่วทั้งประเทศจีน จำนวน 700 ล้านคน
.

มีรายงานออกมาว่า จีนสร้างฐานข้อมูลเพื่อรวบรวมยีนของประชาชนชาวจีน ตั้งแต่ปี 2017 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนใช้วิธี ‘เคาะประตูบ้าน’ ทั้งไปที่บ้านและโรงเรียนของแต่ละคน เพื่อเจาะเลือดและนำไปประมวลผลเก็บข้อมูลยีนต่อไป และ ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ เนื่องจาก ทางเจ้าหน้าที่ย้ำชัดเจนว่า หากไม่ให้ความร่วมมือ ตัวบุคคลนั้นและครอบครัว ถูกขึ้น ‘บัญชีดำ’ ถอดสิทธิประโยชน์ในการใช้ชีวิตพื้นฐาน อย่าง เดินทางไปเที่ยว หรือแม้กระทั่งรักษาพยาบาลยามเจ็บป่วย ตามการรายงานของ New York Post

.

เมื่อโครงการนี้ประสบความสำเร็จ ทางจีนสามารถติดตามผู้ชายทุกคนทั้งประเทศได้ทุกที่ทุกเวลา ควบคู่กับ การติดตั้งกล้องวงจรปิดทั่วประเทศ และระบบการตรวจจับใบหน้า ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งถูกนำมาใช้แล้วก่อนหน้านี้
โดยคาดกันว่า หนึ่งในจุดประสงค์หลัก ที่จีนพยายามทำโครงการนี้ให้ได้ คือ การควบคุมกลุ่มชาติพันธุ์ และชนกลุ่มน้อยในจีนให้อยู่หมัด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความละเอียดอ่อนและมักมีข้อพิพาทเกินขึ้น เช่น เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์
.

ด้าน The New York Times ระบุว่า มีบริษัทยาและเวชภัณฑ์อเมริกัน อย่างน้อย 1 บริษัท อย่าง Thermo Fisher ขายชุดตรวจ DNA ที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะแก่ประเทศจีน แม้ว่าทางรัฐบาลสหรัฐอเมริกาออกมาท้วงติงถึงการตัดสินใจของ Thermo Fisher แต่ทางบริษัทอเมริกันรายนี้ ยังคงดำเนินต่อไป
.

ทางจีนเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป แม้หลายฝ่ายกังวลถึงปัญหา ‘การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล’ เช่น Maya Wang นักวิจัยองค์การด้านสิทธิมนุษยชน Human Rights Watch ให้สัมภาษณ์ต่อ The New York Times โดยแสดงความกังวลถึงสิ่งที่รัฐบาลจีนกำลังทำ “ต่อจากนี้ จีนสามารถค้นหาและติดตามใครก็ได้ โดยเฉพาะคนที่เกี่ยวข้องกับนักเคลื่อนไหว”

โดยเจ้าหน้าที่กฎหมายของจีน อ้างถึงอำนาจทางกฎหมายที่สามารถจัดเก็บยีนของประชาชนจีนได้อย่างถูกต้อง และยังอ้างอีกว่า การเก็บข้อมูลส่วนนี้ มีประโยชน์ต่อการสืบสวนคดีอาชญากรรม
.

อ้างอิงจาก:

https://www.nytimes.com/2020/06/17/world/asia/China-DNA-surveillance.html

https://nypost.com/2020/06/17/china-gathering-dna-samples-for-surveillance-using-us-tech-report/

https://futurism.com/neoscope/china-building-genetic-database-every-man-country

#onUFO #China #Gene #GeneticDatabase

 

อนุภาคนี้อาจเป็นองค์ประกอบหนึ่งของสสารมืด (dark matter) และการค้นพบมันจะปฏิวัติแนวคิดทางฟิสิกส์อีกครั้ง

 

“การจะยุติความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับจีน สหรัฐฯมีทางเลือกมากมาย” โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าว
.
● พุธที่ 17 มิถุนายน
.
-นายโรเบิร์ต ไลไธเซอร์ ผู้แทนเจรจาการค้าของสหรัฐฯ แสดงความเห็น ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีนมีความซับซ้อนและเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศเชื่อมโยงกันอย่างยากจะถอยหลัง
.
-การที่สหรัฐฯต้องการจะแยกตัวทางเศรษฐกิจออกจากจีน ตามที่ทรัมป์เคยพูดมาหลายครั้งแล้วว่า ต้องการตัดความสัมพันธ์กับจีนเพราะวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 แต่เมื่อประเมินจากหลายๆด้านแล้ว นายโรเบิร์ตมองว่า ‘เป็นไปได้ยากมาก’
.
-เหตุผลข้อหนึ่งคือ มกราคมที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯและจีนลงนามใน ‘ข้อตกลงการค้าระยะที่ 1’ ร่วมกัน เพื่อผ่อนคลายบรรยากาศตึงเครียดทางการค้า นั่นหมายความว่า ทั้งสองประเทศจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามข้อตกลง
.
● พฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน
.
-แม้นายโรเบิร์ตจะบอกว่า เป็นไปได้ยากมากที่สหรัฐฯและจีนจะแยกขาดจากกัน แต่โดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยัน สหรัฐฯยังคงมีนโยบายทางเลือกอีกมากมาย ด้วยเงื่อนไขที่หลากหลาย เพื่อดึงสหรัฐฯออกจากจีน ยุติความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับจีน
.
● รัฐบาลจีนไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับการเมืองภายในสหรัฐฯ
.
-นายจอห์น โบลตัน อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ และเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว เขียนหนังสือ The Room Where It Happened : A White House Memoir เกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในทำเนียบขาว
.
-หนังสือเล่มนี้มีความยาว 577 หน้า เนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า เมื่อครั้งที่โดนัลด์ ทรัมป์หารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน นอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ‘จี20’ ที่เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น
.
-ทรัมป์ต้องการให้จีนเพิ่มการอุดหนุนสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 เนื่องจากกลุ่มเกษตรกรเป็นฐานเสียงใหญ่ของทรัมป์
.
-สื่อสหรัฐฯเผยแพร่ข่าวนี้กันครึกโครม จนทำให้นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนต้องออกมาชี้แจงว่า รัฐบาลจีนไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับการเมืองภายในของสหรัฐฯ
.
ขอบคุณภาพจาก https://www.duluthnewstribune.com/n...can-trade-deal-in-victory-for-Trump-Democrats
.

 

สะพานเก่าแก่กว่า 400 ปีของจีน พังพินาศ หายวับไปกับสายน้ำ
.
1/ เสาร์ที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา เกิดพายุฝนฟ้าคะนองถล่มพื้นที่เขตหย่งติ้ง เมืองจางเจียเจี้ย มณฑลหูหนาน ตอนกลางของจีน
.
2/ ฝนที่ตกอย่างหนัก ทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
.
3/ กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก ซัดถล่มสะพานเก่าแก่กว่า 400 ปีของหมู่บ้านหม่าโถว พังพินาศ หายวับไปกับสายน้ำ
.
4/ เมื่อฝนซาลง ระดับน้ำลดลง กระแสน้ำเบาลง หลงเหลือไว้แต่เพียงตอม่อสะพาน ให้ดูต่างหน้าเท่านั้น
.
5/ สื่อจีนหลายสำนักพาดหัวข่าวในทำนองเดียวกันว่า ‘สุดเสียดาย’
.
6/ ชมวีดิโอวินาทีสะพานถูกกระแสน้ำพัด หายวับไปกับตา ได้ที่นี่ครับ

.

 

จีนต้องการสื่อสารกับอินเดียอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความสงบ แก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม
.
1/ คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์เผชิญหน้าและปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างทหารจีนกับทหารอินเดีย บริเวณพื้นที่พิพาทบนเทือกเขาหิมาลัย
.
2/ พื้นที่นั้นคือ หมู่บ้านกัลวาน ทางตะวันออกของเขตลาดักห์ ภูมิภาคแคชเมียร์ของอินเดีย และเป็นเขตอักไสชิน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
.
3/ การปะทะกันทำให้ทหารอินเดียเสียชีวิต 20 นาย ส่วนทหารจีน มีรายงานว่า มีความสูญเสียจำนวนหนึ่ง (รัฐบาลจีนไม่เปิดเผยตัวเลข)
.
4/ สถานการณ์วันนี้ สงบเรียบร้อย เพราะทหารของทั้งจีนและอินเดียถอนกำลังออกจากพื้นที่หมดแล้ว
.
● ท่าทีล่าสุดจากจีน ●
.
1/ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าว ‘อินเดียไม่ควรประเมินเหตุการณ์ต่ำเกินไป’ และเรียกร้องให้อินเดียสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและลงโทษผู้กระทำผิด
.
2/ หวัง อี้ระบุว่า รัฐบาลจีนปกป้องอธิปไตยของตัวเอง และเรื่องที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
.
3/ “จีนไม่สมควรต้องสูญเสีย เพราะทหารอินเดียละเมิดเส้นแบ่งเขตแดนก่อน และแสดงท่าทียั่วยุ” นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงล่าสุด
.
4/ รัฐบาลจีนกำลังดำเนินการร้องเรียนตามช่องทางการทูตระหว่างประเทศแล้ว
.
5/ ที่ผ่านมา จีนเห็นชอบในหลักการกับรัฐบาลอินเดีย ในการเดินหน้าร่วมกันคลี่คลายความขัดแย้งโดยสันติวิธี จึงไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
.
6/ ล่าสุดของล่าสุด นายหวัง อี้ สนทนาทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย ใจความสำคัญคือ ทั้งสองประเทศจะเดินหน้าเจรจากัน เพื่อลดความตึงเครียดบนเทือกเขาหิมาลัย
.
7/ วัตถุประสงค์ของจีน ต้องการสื่อสารกับอินเดียอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความสงบ แก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม
.
● ท่าทีจากอินเดีย ●
.
1/ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติเมื่อคืนนี้ว่า อินเดียไม่เคยยั่วยุใครก่อน
.
2/ “หากอินเดียเป็นฝ่ายถูกคุกคาม อินเดียไม่ลังเลที่จะตอบโต้ ทหาร 20 นายที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ จะไม่จากไปอย่างสูญเปล่า และเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย หากจีนปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัดแต่แรก” นายโมดี กล่าว
.
3/ นายโมดีกำลังถูกกดดันอย่างหนักจาก สส.ฝ่ายค้านและสื่อใหญ่ๆของอินเดีย เรียกร้องให้ตอบโต้จีนมากกว่านี้ แข็งกร้าวกว่านี้ เช่น ใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการค้า
.

 

ทำไมการทดลองวัคซีนโควิด-19 ขั้นสุดท้าย ต้องทำที่ ‘บราซิล’?
.
1/ โคโรน่าวัค (CoronaVac) วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เป็นหนึ่งในห้าวัคซีนของจีน ที่กำลังเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการทดลองในมนุษย์ ก่อนขออนุมัติเพื่อการใช้งานสาธารณะ
.
2/ โคโรน่าวัค ผลิตโดยบริษัท ซิโนวัค ไบโอเทค จำกัด (Sinovac Biotech) มีฐานผลิตอยู่ในกรุงปักกิ่ง
.
3/ การทดลองครั้งล่าสุดในจีน (ซิโนวัค ไบโอเทค เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา) วัคซีนสร้างการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันในมนุษย์ โดยปราศจากผลข้างเคียงร้ายแรง
.
4/ 90% ของประชาชนผู้มีสุขภาพดี 743 คน อายุ 18-59 ปี ที่ได้รับวัคซีนทดลองในระยะ 14 วัน พบว่า ปลอดภัยและมีแอนติบอดี้ชนิดดี (NAb) เกิดขึ้นในร่างกาย
.
5/ ขณะนี้กำลังรอข้อมูลเพิ่มจากอีกกลุ่มทดลอง ที่ได้รับวัคซีนในระยะ 28 วัน
.
6/ การทดลองขั้นต่อไป คือการทดลองระยะ 3 ระยะสุดท้าย จะเกิดขึ้นที่บราซิล โดยซิโนวัค ไบโอเทค จะร่วมมือกับสถาบัน Instituto Butantan ของบราซิลเพื่อเตรียมการทดลอง
.
7/ ทำไมถึงเลือกบราซิล? เพราะบราซิลเป็นประเทศที่พบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สูงเกิน 46,000 ราย และมีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 960,000 รายแล้ว วิกฤตเป็นอันดับ 2 ของโลก และอเมริกาใต้กำลังเป็นศูนย์กลางการระบาดของไวรัส ตามที่องค์การอนามัยโลกกล่าว
.
8/ ขณะที่รัฐบาลบราซิลยังได้อนุมัติให้ มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ร่วมกับบริษัท AstraZeneca Plc ทำการทดลองวัคซีนในประเทศอีกด้วย
.
9/ ส่วนประเทศที่ยังคงวิกฤตเป็นอันดับ 1 ของโลกคือ สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 2,200,000 ราย มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 120,000 ราย
.
10/ บริษัท Moderna Inc. ผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 มีฐานการผลิตอยู่ที่รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา จะทำการทดลองวัคซีนระยะที่ 3 ในสหรัฐฯ
.
ที่มา:
.
1) https://www.bloomberg.com/news/arti...trial-data-suggest-potential-in-virus-defense
.
2) https://www.xinhuathai.com/high/114...oI0KGrW55pea-rieD0WKshLXlKvy9lXj_4Nb37on-w8Cw
.

 

ปักกิ่งจะตรวจพบผู้ป่วยอีกหลายรายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่จำนวนผู้ป่วยจะลดลงเรื่อยๆ
.
1/ หัวหน้านักระบาดวิทยา ประจำศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน นายอู๋ จุนโหย่ว กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนว่า อยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว
.
2/ นายอู๋คาดการณ์ว่า ปักกิ่งจะตรวจพบผู้ป่วยอีกหลายรายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่จำนวนผู้ป่วยจะลดลงเรื่อยๆ
.
3/ สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสในกรุงปักกิ่ง ล่าสุด ปักกิ่งประกาศให้ประชาชนที่ไปตลาดซินฟาตี้ตั้งแต่ 30 พฤษภาคมเป็นต้นไป ให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัส
.
4/ ศูนย์ตรวจหลายแห่งถูกตั้งขึ้นอย่างเร่งด่วนใกล้กับชุมชน และเปิดถึงเที่ยงคืน เพื่อให้มั่นใจว่า ประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้รับการตรวจ ไม่ว่าจะเป็นเข้ามาตรวจด้วยความสมัครใจ หรือการตรวจเชิงรุกของทางการก็ตาม
.
5/ ปักกิ่งยังได้ออกมาตรการจำกัดการเดินทาง เพื่อลดการแพร่ระบาด โดยสำนักความปลอดภัยสาธารณะของเทศบาลกรุงปักกิ่งระบุว่า ประชาชน 3 กลุ่มนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกกรุงปักกิ่ง
.
6/ กลุ่มที่ 1 คือ ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยัน รวมถึงผู้ป่วยต้องสงสัย ผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย และผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ
.
7/ กลุ่มที่ 2 คือ ผู้ที่มีประวัติเดินทางไปตลาดซินฟาตี้ เขตเฟิงไถ ของปักกิ่ง และกลุ่มที่ 3 คือ ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่มีการประกาศปิดชุมชน
.
8/ สำหรับประชาชนที่ไม่เข้าข่าย 3 กลุ่มนี้ ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกกรุงปักกิ่ง ส่วนผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางจะต้องมีเอกสารรับรองผลการทดสอบกรดนิวคลีอิกเป็นลบ
.
9/ ทั้งนี้ ปักกิ่งพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากการระบาดรอบใหม่ รวม 158 ราย ระหว่างวันที่ 11-17 มิถุนายน ส่วนใหญ่มีประวัติเกี่ยวข้องกับตลาดซินฟาตี้
.

 

เยอรมนีพบคนงานโรงฆ่าสัตว์ติดโควิด-19 กว่า 650 คน

วันที่ 18 มิ.ย. 2563 สำนักข่าว BBC รายงานว่า พนักงานโรงฆ่าสัตว์ของบริษัท เทินนีส์ กรุ๊ป (Toennies Group) ในรัฐนอร์ดไรน์-เวสต์ฟาเลน (NRW) มีผลตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวกกว่า 650 คน จากทั้งหมด 1,000 คน ที่ได้เข้ารับการตรวจเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

สเฟน-เกออร์ก อาเดเนาเออร์ (Sven-Georg Adenauer) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเขตกอยเทอร์ชโลห์ (Guetersloh) แถลงข่าวร่วมกับบริษัทฯ เมื่อบ่ายวันพุธ (17 มิ.ย.) ว่าโรงฆ่าสัตว์ดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเรดา-วีเดนบรึก (Rheda-Wiedenbrueck) ของเขตฯ ถูกสั่งปิดทำการชั่วคราว ส่วนโรงเรียนและศูนย์รับเลี้ยงเด็กในท้องถิ่นจะปิดทำการตั้งแต่วันที่ 18-29 มิ.ย. นี้

อนึ่ง โรงฆ่าสัตว์หลายแห่งได้กลายเป็นจุดเสี่ยง (hotspot) ของการติดเชื้อโรคโควิด-19โดยเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีการระบาดอย่างหนักของโรคโควิด-19 ภายในโรงแปรรูปเนื้อสัตว์เวสต์ไฟลช (Westfleisch) ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐนอร์ดไรน์-เวสต์ฟาเลนเช่นกัน โดยตรวจพบผู้ป่วยมากกว่า 200 คน

อ้างอิง :
https://www.bbc.com/news/world-europe-53087139

https://www.xinhuathai.com/high/115057_20200618

#workpointTODAY
#whatworksTODAY
#สาระความรู้เพื่อวันนี้

 

“ในช่วงกลางดึกของวันที่ 15 มิถุนายน กองทัพอินเดียแถลงข่าวรายงานว่าเกิดการปะทะกันระหว่างทหารจีนและอินเดียบริเวณหุบเขากัลวาน จนเป็นเหตุให้ทหารทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต โดยเบื้องต้น กองทัพอินเดียรายงานว่ามีทหารเสียชีวิต 3 นาย ในจำนวนนี้รวมทหารยศพันเอกอยู่ด้วย ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะปรับตัวเลขเป็น 20 นาย ในขณะที่ทางการจีนไม่เปิดเผยรายงานตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต”
.
“ความตึงเครียดครั้งนี้ ถือว่าเป็นความตึงเครียดทางการทหารในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่เกิดปัญหาการเผชิญหน้ากันเมื่อปี 2017 ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย”
.
ศุภวิชญ์ แก้วคูนอก ชวนสำรวจลำดับเหตุการณ์ความขัดแย้ง ถอดรหัสปัญหาความขัดแย้งจีน-อินเดียระลอกใหม่ รวมถึงมองความสัมพันธ์อินเดีย-จีนในอนาคต
.
“สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นผลสำคัญมาจากชาตินิยมอินเดียที่เติบโตตลอดหลายปีที่ผ่านมา และสิ่งเหล่านี้เองก็กลายเป็นอุปสรรคใหญ่ของรัฐบาลอินเดียในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทและความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นกับจีน เพราะการเดินหมากพลาดเพียงก้าวเดียวก็อาจทำให้คะแนนนิยมของรัฐบาลลดลงได้ เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่รัฐบาลอินเดียโจมตีปากีสถานจนได้รับคะแนนนิยมถล่มทลาย”
.
“ความพยายามในการเสริมสร้างศักยภาพทางการทหารของอินเดีย ผนวกกับความพยายามของจีนในการสร้างความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ในพื้นที่ภูมิภาคลดาข ล้วนเป็นสาเหตุหนึ่งซึ่งส่งผลให้ความขัดแย้งรอบใหม่นี้มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เพราะต่างฝ่ายต่างมองขั้วตรงข้ามเป็นภัยคุกคามทางด้านยุทธศาสตร์ของตัวเอง”
.
“หากถามว่าความตึงเครียดรอบนี้จะสิ้นสุดลงอย่างไร จากทิศทางที่เกิดขึ้นข้างต้น เป็นไปได้อย่างมากว่าจะจบลงที่โต๊ะเจรจาของทั้งสองประเทศมากกว่าที่ทั้งสองฝ่ายจะหยิบอาวุธขึ้นมาประหัตประหารล้างผลาญกันให้สิ้นซาก เพราะบทเรียนของสงครามนั้นไม่มีผู้ชนะที่แท้จริง ต่างฝ่ายต่างสูญเสีย ขึ้นอยู่กับว่าจะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง”
.
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ : https://www.the101.world/india-china-conflict-2020/

 

สรุปสาเหตุการปะทะกันระหว่างอินเดีย-จีน
.
อ้างอิงจาก อีโคโนมิก ไทม์
.
-วันที่ 6 มิ.ย. ทหารระดับสูง 2 ฝ่ายตกลงให้มีการถอนกำลังออกจากพื้นที่กัลวาน โดยจีนจะถอนตัวออกจากพื้นที่ซึ่งอินเดียอ้างว่าเป็นเขตแดนของตน
.
- วันที่ 15 มิ.ย. ช่วงเช้า ทหารระดับบัญชาการของทั้งจีนและอินเดียตกลงกันว่าจะให้วันนี้มีการถอนกำลังของจีนออกจากพื้นที่ซึ่งเป็นจุดเผชิญหน้าตลอดมา
.
- วันที่ 15 มิ.ย. ช่วงเย็น ทหารอินเดียต้องการเข้าไปดูว่าจีนถอนทหารไปจริงหรือไม่ นำโดยทหารยศพันเอก (เสียชีวิตในเวลาต่อมา) โดยนำกำลังพลไป 50 นาย ซึ่งปรากฎว่าจีนถอนไปแล้ว แต่ไม่ได้รื้อสิ่งก่อสร้างออก
.
- ทหารอินเดียมองว่าสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ดำเนินการอย่างผิดกฎหมาย จึงรื้อถอนและเผาทำลายสิ่งก่อสร้างบริเวณนั้นออกเพราะมองว่าเป็นดินแดนตัวเอง
.
- ทหารจีนรู้เข้าเลยส่งทหารเข้ามาจำนวนนึง จีนมองว่าข้อตกลงยังไม่สิ้นสุด แค่ให้ถอนทหารออกไป ไม่ได้หมายความว่าอินเดียจะสามารถรื้อถอนสิ่งก่อสร้างได้ เพราะจีนยังคงอ้างสิทธิของตัวเองเหนือดินแดนตรงนั้นเหมือนกัน
.
- ความเห็น 2 ฝ่ายไม่ตรงกันจึงเกิดการปะทะขึ้น โดยมีการใช้ก้อนหิน ไม้พรอง และกระบองลวดหนามในการตะลุมบอนกัน และปัญหาคือบริเวณนั้นเป็นช่องเขา และน้ำไหลแรง มีการพลักกันตกเขาด้วย
.
- การต่อสู้ระหว่างสองฝ่ายกินเวลากว่า 3 ชั่วโมง ตลอดช่วงดึกของวันที่ 15 มิ.ย. ทั้งสองฝ่ายมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บสาหัส ทหารอินเดียจำนวนหนึ่งหายสาบสูญ (อาจถูกน้ำพัดหาย/โดนจีนจับไป)
.
- ทหารอินเดียเสียชีวิตแล้ว 20 คน จำนวนนี้ 17 คนตายเพราะสภาพอากาศติดลบ และรักษาไม่ทัน (เพราะอินเดียต้องถอยโดยการข้ามแม่น้ำถึงจะกลับเข้าฐานตัวเองได้) ตามรายงานยังมีทหารอินเดียจำนวนมากหายสาบสูญ ซึ่งคาดว่าอาจโดนจับไป (ในจำนวนนี้รวมเจ้าหน้าที่ทางการทหาร 4 คนด้วย)
.
-ข้อมูลของสำนักข่าวเอเอ็นไอของอินเดียระบุว่าทหารจีนบาดเจ็บเหมือนกัน ประเมินว่า 43 คน รวมตายด้วย ในขณะที่ข้อมูลของหน่วยข่าวกรองสหรัฐบอกว่าอาจมีคนตายและเจ็บในฝั่งจีนรวมกัน 35 คน
.
อย่างไรก็ตามรายงานข่าวระบุว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตของอินเดียมีความเป็นไปได้ว่าจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากมีทหารหายสาบสูญจำนวนหนึ่ง
.
ถ้าดูจากลำดับเหตุการณ์การปะทะกันรอบนี้ก็พูดง่าย ๆ ว่าเข้าใจไม่ตรงกัน และการพูดคุยของทหารระดับสูงไม่ได้ลงรายละเอียดเพียงพอ เช่นให้ถอนทหารออก แต่ไม่ได้บอกว่าต้องรื้อถอนสิ่งก่อสร้างด้วยหรือไม่
.
กลายเป็นว่าเรื่องเป็นปัญหาเพราะจีนมองว่าแค่ให้ถอนทหาร แต่อินเดียมองว่าต้องเอาสิ่งก่อสร้างออกไปด้วย เลยเกิดการปะทะกัน ส่วนที่ตายเยอะ เพราะทั้งตกน้ำ ตกเขา ในขณะที่อุณหภูมิบริเวณนั้นติดลบ ส่งผลให้การเสียชีวิตเกิดขึ้นง่ายเมื่อมีการเสียเลือด
.
สถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายตกลงกันให้ถอนทหารออกจากพื้นที่ทั้งหมด และไม่มีการลาดตระเวนเพิ่มเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกันอีกครั้ง
.
#กระแสเอเชียใต้ #อินเดีย #จีน #ปะทะ #สงคราม #ทหาร

 

#สระแก้ว – นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว หนีการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ วันเด็ก-โควิด-19 ของสมาชิกสภา อบจ.ที่ยื่นกระทู้ถามตั้งแต่การประชุมครั้งแรก ไม่ยอมให้ข้อมูลฎีกาเบิกจ่ายและพยายามบ่ายเบี่ยงการซักฟอก แค่ 10 นาทีเศษ ก็รีบออกไปจากห้องประชุมโดยอ้างว่าป่วย ด้าน สจ.เตรียมแจ้งความ ม.157
#ทุจริต #วันเด็ก

สระแก้ว – นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว หนีการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ วันเด็ก-โควิด-19 ของสมาชิกสภา อบจ.ที่ยื่นกระทู้ถามตั้งแต่การประชุมครั้งแรก ไม่ยอมให้ข้อมูลฎีกาเบิกจ่ายและพยายามบ่ายเบี่ยงการซักฟอก แค่ 10 นาทีเศษ ก็รีบออกไปจากห้องประชุมโดยอ้างว่าป่วย ด้าน สจ.เตรียมแจ้งความ ม.157 เจ้าหน้าที่และข้าราชการสามัญ พร้อมเปิดหลักฐานการใช้สถานที่ราชการ อบจ.ดูแลซ่อมแซมรถส่วนตัว

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 18 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว นายก่อเกียรติ คติกำจร ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว เปิดการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว สมัยสามัญ สมัยที่ 1 ครั้งที่ 3 ประจำปี พ.ศ.2563 โดยมี นายทรงยศ เทียนทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว เข้าร่วมประชุมครั้งแรก พร้อมผู้บริหาร อบจ. ซึ่งมีสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเข้าร่วมทั้งหมด 25 คน จากทั้งหมด 29 คน และมีสื่อมวลชน ประชาชนชาวจังหวัดสระแก้ว เดินทางเข้ารับฟังการประชุมประมาณ 15-20 คน ซึ่งภายหลังประธานในที่ประชุมแจ้งเรื่องให้ที่ประชุมรับทราบ ปรากฏว่า นายทรงยศ เทียนทอง นายก อบจ.สระแก้ว ได้ลุกขึ้นเพื่อขอตอบกระทู้ถามของสมาชิกทั้ง 9 เรื่องก่อน โดยอ้างว่า ป่วยต้องไปหาหมอ แต่ประธานและที่ประชุมยังไม่อนุญาต และต้องการให้เป็นไปตามระเบียบวาระการประชุมฯ

นายทรงยศ เทียนทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว กล่าวในที่ประชุมว่า ต้องการขอตอบก่อน เพราะหากไม่มาจะถูกหาว่าหนีการตรวจสอบอีก ทั้ง 9 ข้อ ส่วนที่มีประเด็นยื่นแล้วไม่ให้เอกสารนั้น ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากให้ โดยพูดถึงการขอเอกสารเกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบวันเด็กว่า การขอเอกสารและการตั้งกระทู้ถาม คือคำถามที่สมาชิกตั้งขึ้นเพื่อสอบถามผู้บริหารเกี่ยวกับข้อเท็จจริง หรือนโยบายเกี่ยวกับงานในหน้าที่ผู้บริหาร ดังนั้น การขอเอกสารเห็นว่า ไม่ใช่การตั้งกระทู้ถาม มีที่มาที่ไป ตามเอกสารคำสั่งที่ มท.0804.3-0826 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2553 ว่า เหตุใดจึงไม่ให้เอกสาร อันนี้คือการปฏิบัติหน้าที่ทางราชการอยู่แล้ว เราบริหารแบบโปร่งใสอยู่แล้ว

นายทรงยศ กล่าวอีกว่า ฉะนั้นถ้าจะให้ดำเนินการระเบียบการประชุมโดยจะขอตอบทั้ง 9 ข้อก่อน ถ้าไม่ให้ก็ไม่เป็นไร ซึ่งหลักมีอยู่ว่าในมาตรา 35 นายกฯ สามารถแต่งตั้งให้รองฯ ทั้ง 2 คน เป็นผู้ช่วยเหลือให้การปฏิบัติราชการให้เป็นไปตามที่นายกฯ อบจ.ได้มอบหมาย ส่วนกรณีที่ตนเองไม่ได้เข้าประชุมในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากเวลาที่มีนัดประชุม อบจ.ไม่เคยมีหนังสือเข้ามาหาตนเอง ซึ่งการประชุมครั้งที่แล้ว เมื่อวันที่ 21 พ.ค.63 มีหนังสือถึงตนเองวันที่ 20 พ.ค.ตอนเย็น เพราะฉะนั้นตามระเบียบข้อบังคับและทุกทีที่ตนเองไม่เข้า ก็บอกว่า หนีการตรวจสอบ จริง ๆ แล้ว รองนายกฯ ก็ตรวจสอบได้ ถามได้ ตอบได้ มีอำนาจเต็ม ทั้งนี้ ภายหลังนายทรงยศพูดเสร็จ ก็ได้รีบเดินออกจากห้องประชุมสภาฯ เพื่อไปขึ้นรถที่บริเวณด้านหน้าและขับออกไปทันที ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเศษ ๆ เท่านั้น

ขณะเดียวกัน ร.อ.ทองวราห์ มากสาคร สจ.คลองหาด และนายธวัชชัย โตจีน สจ.เมืองสระแก้ว ได้ลุกขึ้นอภิปรายต่อ โดยเรียกร้องให้มีการนำเอกสารฎีกาเบิกจ่ายเงินงบประมาณการเบิกจ่ายการจัดงานวันเด็กปี 2563 และการใช้จ่ายงบโควิด-19 มาเปิดเผยต่อที่ประชุม เนื่องจากท้องถิ่นต่าง ๆ ก็เบิกจ่ายจัดซื้อด้วยเช่นกัน ค่าอาหารวันเด็กเกือบ 3 ล้านบาท แต่ทางนายก อบจ.โยนไปให้ข้าราชการสามัญเป็นผู้ดำเนินการ และเตรียมจะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดี ม.157 กับข้าราชการสามัญที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ อบจ.สระแก้ว เพื่อให้ดำเนินคดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนการประชุมครั้งหน้า ภายหลังประธานในที่ประชุมได้ขยายเวลาการเปิดสภาฯ ออกไปอีก 15 วัน จะมีการนำข้อมูลหลักฐานการทุจริตและภาพ การนำรถยนต์ส่วนตัวของผู้ใกล้ชิดผู้บริหาร อบจ.เข้าไปจอดและซ่อมภายในอาคารโรงซ่อมของ อบจ.สระแก้ว ด้วย

ส่วน นายธวัชชัย กล่าวในการอภิปรายว่า กรณีที่นายกฯ อบจ.มาร่วมประชุมแล้วรีบออกไปโดยอ้างว่าป่วยนั้น และข้ออ้างดังกล่าวที่สมาชิกขอเอกสารแล้วไปสร้างเหตุว่า มีคำสั่งอ้างไม่ให้เอกสารได้นั้น เป็นหนังสือก่อน พรบ.ข้อมูลข่าวสารฯ จึงเอามาอ้างแบบเข้าใจผิดแล้วรีบออกไป องค์การบริหารส่วนจังหวัดควรบริหารแบบเปิดเผยเป็นหลัก ปกปิดเป็นข้อยกเว้น ขณะนี้ อบจ.กำลังบริหารเงินภาษี 725 ล้านบาท รวมกับงบโควิดฯ อีกประมาณ 50 ล้านบาท ปีนี้ใช้ 775 ล้าน มีการขอเอกสารแต่ไม่ยอมให้ ขอให้ปรึกษากันให้ดี ซึ่งถ้าไม่ให้กันในนี้ สิ่งที่ท่านทำ ท่านกำลังปกปิดความผิดใช่ไหม ท่านตอบสังคมได้หรือเปล่า

อย่างไรก็ตาม นายธวัชชัย โตจีน สจ.เมืองสระแก้ว ให้สัมภาษณ์ทิ้งท้ายว่า การกระทำลักษณะดังกล่าวเป็นเทคนิคที่นายก อบจ.สระแก้ว ใช้ อ้างว่าตัวเองป่วย เข้ามาพูดเพื่อพยายามจะรวบรัด ซึ่งกระทู้ในแต่ละกระทู้ใช้เวลาทั้งนั้น การที่ท่านคิดว่า การไม่ให้เอกสารเป็นเรื่องของความถูกต้อง อันนี้ท่านคิดผิด ตนในฐานะสมาชิก อบจ.เป็นตัวแทนของประชาชนเลือกตนเข้ามา ตนต้องเข้ามาตรวจสอบเงินของประชาชนว่า นายกฯ ใช้ไปถูกต้องจริงหรือไม่ หากใช้อย่างถูกต้องและโปร่งใส ท่านนายกฯ จะกลัวอะไรกับการที่จะส่งมอบเอกสาร การที่ไม่ให้เอกสารเป็นการเจตนาที่จะซ่อนการทุจริตของคุณไว้ในเอกสาร คุณถึงไม่กล้าให้ ประชุมครั้งหน้า วันที่ 30 มิ.ย.63 เวลา 14.00 น. เป็นโอกาสเดียวที่จะได้เข้ามาตอบเพื่อเคลียร์ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ เพราะท่านหนีไม่พ้นแน่ ๆ ตราบใดที่ท่านยังไม่ลาออกจากตำแหน่ง ท่านหนีไม่พ้นแน่นอน

———————————–

 

EU จะจับมือกับสหรัฐเพื่อปฏิรูป WHO อนามัยโลก
.
เจ้าหน้าที่องค์กรสาธารณสุขของ EU ที่ไม่เปิดเผยตัวกล่าวว่า EU กำลังจะจับมือกับสหรัฐเพื่อปฏิรูปอนามัยโลก หรือ WHO เนื่องจากเกิดความสงสัยต่อการทำงานของ WHO ในเรื่องการจัดการ covid-19 และ WHO ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของชาติใดชาติหนึ่งมากไปหรือไม่ มีการให้ข้อมูลหลายๆอย่างที่คาดเคลื่อนจากความเป็นจริงหลายๆครั้ง

 

⚠️ #Wave2สหรัฐมาจริง ? APPLE สั่งปิด 11 ร้านค้าในสหรัฐด่วน ! หลังผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดรายวันของสหรัฐยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดแซงหน้าบราซิลกลับเป็นที่ 1 ของโลกอีกครั้งแล้ว ทางด้านตลาดหุ้นสหรัฐปิดตลาดเมื่อคืนติดลบเล็กน้อยหลังจากเทรดบวกมาทั้งวัน...

#สุดท้ายสหรัฐจะกลับมา Lock Down ตัวเองด้วยภาคเอกชนไหม ? หากทางรัฐบาลไม่มีนโยบายปิดเมือง

Apple จะกลับมาปิดร้านค้าบางส่วนอีกครั้งในรัฐที่เห็นว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังดีดสูงขึ้น โดยจะเริ่มปิดร้านในรัฐ Florida, North Carolina, South Carolina และ Arizona โดยทันทีอย่างยังไม่มีกำหนดเปิด

หลังจากช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ทาง Apple ก็ได้เป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆเลยที่ได้สั่งให้มีการปิดร้านค้าทั่วโลก และค่อยๆทยอยกลับมาเปิดบางส่่วนในเดือนที่ผ่านมานั้น ตอนนี้ร้านค้าทั้งหมดยังเปิดไม่ครบเลยแต่กลับต้องมาปิดตัวลงอีกครั้งในบางรัฐแล้ว

#ติดตามกันต่อไปว่า การระบาดในสหรัฐนั้นจะกลายเป็น Wave 2 ที่รุนแรงไหม ? และการปิดร้านของ Apple นั้นจะทำให้มีคนอื่นๆทยอยปิดตามไหม ? และสุดท้ายจะมีคนตกงานในสหรัฐเพิ่มขึ้นอีกรอบหรือป่าว ?

ตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ และแซงหน้าบราซิลไปแล้ว

ตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐเมื่อคืนนี้ออกมาที่ 27,762 ราย แซงหน้าบราซิลที่ผู้ติดเชื้อรายวันเมื่อวานอยู่ที่ 22,765 ราย #กลับมาเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงที่สุดในโลกแล้ว มีผู้ติดเชื้อรวม 2.2 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตรวม 1.2 แสนคนแล้ว

ถึงแม้ทางรัฐบาลของทรัมป์ได้ออกมาประกาศยืนยันแล้วว่าจะไม่ปิดเมือง จะไม่มีวันปิดเศรษฐกิจอีกรอบแน่ๆ แม้จะเกิดการระบาด Wave 2 จริงๆ... และถึงแม้ทางทางแอนโทนี เฟาซี (Anthony Fauci) คุณหมอใหญ่ของสหรัฐผู้ที่คนทั้งประเทศเคารพเชื่อถือก็ได้ให้ความเห็นว่า "การปิดเมืองในสหรัฐนั้นไม่จำเป็นแล้ว #แต่อยากให้เน้นการกันการเดินทางเข้ามาของประเทศอื่นๆที่กำลังมีเคสสูงขึ้น มากกว่าแทน"

แต่... หากจำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐยังคงติดสูงขึ้นเรื่อยๆแบบนี้ ทางเรามองว่าภาคเอกชนอาจจะมาออกคำสั่งปิดร้านค้าต่างๆด้วยตัวเอง #โดยที่อาจจะไม่ต้องรอคำสั่งจากรัฐบาลก็เป็นได้

ตลาดสหรัฐโดนเทขายช่วงปิดตลาดเมื่อคืนนี้

แน่นอนว่าข่าวนี้นั้นทำให้ราคาหุ้น Apple นั้นโดนเทขายเป็นตัวแรกและก็ได้ดึงหุ้นสหรัฐทั้งแผงลงไปด้วย หลังจากที่เทรดอยู่ในแนวบวกมาทั้งวัน

Dow Jones -208 จุด (-0.8%)
S&P 500 -17.3 จุด (-0.6%)

โดยรวมแล้วตลาดหุ้นทั่วโลกในอาทิตย์นี้ถึงว่าทรงๆ เพราหลังจากปรับตัวสูงขึ้นในวันจันทร์ที่ผ่านมาแต่ก็ทยอยปรับตัวลดลงมาตลอดอาทิตย์ จนปิดอาทิตย์ใกล้เคียงกับตอนเปิด

Cr : ทันโลกกับTraderKP
www.cnbc.com

 

แจ้งเบาะแส คนทิ้งขยะ ได้ส่วนแบ่ง 50%

เจ้าหน้าที่กรุงเทพฯ เก็บขยะในคลองได้มากถึงวันละ 20 ตัน ใบหน้ากรีดร้องด้วยความกลัวใบหน้ากรีดร้องด้วยความกลัว

ตาพบเห็นใครทิ้งขยะลงแหล่งน้ำ แจ้งสายด่วนได้ที่ หมายเลข 1555

คนทิ้งโดนปรับสูงสุด 10,000 บาท คนชี้เบาะแสจนนำไปสู่การปรับ ได้รับส่วนแบ่งค่าปรับ 50% ถ้วยรางวัล เงินกับปีก

#โปสเตอร์หนัง #รายได้ #เงิน

 

บริษัทรับทวงหนี้แห่งหนึ่ง ซึ่งก่อตั้งโดย Bill Bartmann คนที่เคยเป็นหนี้เเละถูกเเก๊งทวงหนี้โหดตามล่ามาก่อน นั่นจึงแรงเป็นเเรงบันดาลใจให้เขาอยากสร้างบริษัททวงหนี้ที่มีรูปเเบบการทวงหนี้ใหม่ขึ้นมา
.
ปกติถ้าเรานึกถึงบริษัทรับทวงหนี้ ภาพในหัวคงจะเป็นความโหดในการทวงหนี้ การข่มขู่ ตามจิก หรือ ประจานให้เกิดความอับอาย
.
เเต่นั่นไม่ใช่กับบริษัทนี้ครับ !
.
เนื่องจากผู้ก่อตั้งบริษัทนี้เคยถูกตามล่าทวงหนี้มาก่อน เขาจึงเข้าใจดีว่า สาเหตุที่ลูกหนี้ไม่ยอมคืนเงินก็เพราะพวกเขาไม่มีเงินมากพอที่จะคืน ต่อให้ไปตามขู่เข็ญสารพัดยังไง เขาก็ไม่มีคืนให้ ถึงจะมีก็ต้องไปยืมคนอื่นมาอีกที
.
สิ่งที่บริษัทนี้ทำคือ หาวิธีทำยังไงก็ได้ให้ลูกหนี้สามารถ “หาเงิน” ได้ โดยคิดถึงสถานการณ์ที่พวกเขาต้องเผชิญอยู่
.
พวกเขาจึงระดมสมองกันเเละคิดว่า วิธีการที่ดีที่สุด คือ “การทำให้ลูกหนี้มีงานทำ”
.
เมื่อได้ข้อสรุปเเล้วพนักงานของบริษัทก็ช่วยกันเขียนเรซูเม่ให้ลูกหนี้ มองหาตำแหน่งงานดีๆ ช่วยกรอกใบสมัครตามเว็บไซด์ต่างๆ ให้
.
สิ่งที่น่าสนใจคือ ค่าตอบเเทนของพนักงานจะไม่ได้วัดจากหนี้ที่ตามเก็บได้ เเต่วัดว่าใครสามารถช่วยเหลือลูกหนี้ได้มากแค่ไหน
.
ไอเดียนี้อาจจะดูเเปลกๆ เเละเสี่ยงที่จะหนี้สูญมากใช่ไหมครับ ?
.
เเต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ หลังจากที่บริษัทใช้วิธีนี้ผ่านไปสามปี ผลประกอบการของบริษัทนี้กลับดีกว่าคู่เเข่งโดยเฉลี่ยถึง 2 เท่า !
.
ฟังดูเเล้วมันอาจจะขัดกับความรู้สึกใครหลายคน เเต่มันก็เกิดขึ้นเเล้วจริงๆ
.
สิ่งที่อยากจะบอกคือ หลายครั้งเวลาจะหาไอเดียทำธุรกิจ เราไม่จำเป็นต้องเริ่มมองที่คู่เเข่งว่าเขาทำอะไร เเต่ให้เริ่มต้นด้วยการมองว่า “ลูกค้าต้องการอะไร”
.
ซึ่งผมเองก็เอาวิธีคิดจากหนังสือเล่มนี้มาใช้ในการทำธุรกิจขายหนังสือเหมือนกัน
.
คือ ผมไม่ได้มองว่าร้านหนังสืออื่นขายกันอย่างไร เเต่กลับมามองที่ลูกค้าของตัวเอง ว่าเขาอยากได้อะไร มีปัญหาอะไร กังวลเรื่องอะไร เเล้วเราจะช่วยเขาได้อย่างไร
.
ซึ่งผมก็พบว่า ลูกค้าอยากอ่านหนังสือ เเต่ปัญหาคือ ไม่รู้ว่าตัวเองควรอ่านเล่มไหน ซึ่งผมนี่เเหละจะเป็นคนช่วยเเก้ปัญหาเหล่านั้น โดยการเลือกหนังสือที่เขียนขึ้นมาเพื่อเขาให้เอง
.
หลายครั้งการพลิกมุมมองเเค่นิดเดียว ก็ทำให้เราสามารถเอาชนะคู่เเข่งได้ครึ่งทางเเล้ว…
.
.
.
ค้นหาไอเดียธุรกิจใหม่ๆ เเบบพลิกมุมมองได้ที่ หนังสือ วิธีคิดไร้กระบวนท่า เเละ หนังสือ The Outward mindset หนังสือที่จะทำให้มุมมองในชีวิตเเละการทำธุรกิจของคุณเปลี่ยนไป...
.
“เปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น ด้วยการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม”
.
เเต่ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองควรอ่านเล่มไหน ทักมาปรึกษาสมองไหลได้เลย
.
สั่งซื้อหนังสือออนไลน์ง่ายๆ ส่งตรงถึงหน้าบ้านคุณ
ได้ที่ Inbox เพจ #สมองไหล

 

จริงหรือขู่ "เกาหลีเหนือ" เล็งเป้าโจมตี แฮ็กระบบเลือกตั้งปธน.สหรัฐ
.
ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์เกาหลีเหนือและสหรัฐมองว่า สิ่งหนึ่งที่ไม่อาจเพิกเฉยคือคำขู่ของเกาหลีเหนือที่ให้สหรัฐระวังการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงเดือนพ.ย.นี้เอาไว้ให้ดี เพราะมีความเป็นไปได้ว่าเกาหลีเหนือสามารถเจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเลือกตั้งของสหรัฐได้จริง
ซัง-ยุน ลี ผู้เชี่ยวชาญเกาหลีศึกษาจากมูลนิธิ Kim Koo-Korea Foundation แห่งมหาวิทยาลัยทัฟส์ ในเมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา ให้ความเห็นว่า มีความเป็นไปได้มากว่าเกาหลีเหนือต้องการทดสอบสมรรถนะความสามารถของตัวเองในการเจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์การเลือกตั้งของสหรัฐ “ความสามารถด้านการเจาะล้วงระบบคอมพิวเตอร์ของเกาหลีเหนือนั้นถือว่าอยู่ในระดับดีที่สุดในโลก จะน่าแปลกใจมากถ้าเกาหลีเหนือจะไม่ทดสอบความสามารถของตัวเองในเรื่องนี้ระหว่างที่มีการเลือกตั้งในสหรัฐ”
ทั้งนี้ในอดีต เกาหลีเหนือเคยเจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของสหรัฐมาแล้ว โดยข้อมูลของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐชี้ว่า ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานการเจาะเข้าระบบข้อมูลของธนาคารและสถาบันการเงินของสหรัฐโดยฝ่ายเกาหลีเหนือ และในปี 2557 ก็มีรายงานว่า อาชญากรในโลกไซเบอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือได้เจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท โซนี่ พิคเจอร์ส เพียงเพื่อต้องการ “สั่งสอน” หรือตอบโต้การที่บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์รายนี้ ผลิตและเผยแพร่ภาพยนตร์แนวตลกล้อเลียนเรื่อง The Interview ที่มีฉากการลอบสังหารนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ

 

‘จีน’ วางแผนนำเข้าสินค้าเกษตร ‘สหรัฐ’ ตามข้อตกลงเฟสแรก ฉุดดาวโจนส์พุ่ง : “จีน” วางแผนนำเข้าสินค้าเกษตร “สหรัฐ” ล็อตใหญ่ ตามข้อตกลงการค้าเฟสแรก ส่งผลดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งกว่า 150 จุด

สื่อต่างประเทศรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า จีนวางแผนที่จะเร่งการซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐ เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงการค้าเฟสแรกที่ทำร่วมกับสหรัฐ โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดของจีนมีขึ้นหลังจากที่นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ และนายหยาง เจียฉี หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของจีน ได้ประชุมร่วมกันที่ฮาวายเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

แหล่งข่าวระบุว่า จีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าถั่วเหลืองรายใหญ่อันดับหนึ่งของโลก กำลังเตรียมซื้อสินค้าต่างๆ ของสหรัฐตั้งแต่ถั่วเหลือง ไปจนถึงข้าวโพดและเอทานอล หลังจากที่จีนชะลอการซื้อสินค้าดังกล่าว อันเนื่องมาจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา

ขณะที่แหล่งข่าวอีกรายหนึ่งระบุว่า รัฐบาลจีนได้เรียกร้องให้บรรดาผู้ซื้อสินค้าเกษตรของรัฐบาลใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการดำเนินการตามข้อตกลงการค้าเฟสแรก

ทั้งนี้ จีนได้ให้คำมั่นว่าจะซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐในวงเงิน 3.65 หมื่นล้านดอลลาร์ภายใต้ข้อตกลงการค้าเฟสแรก ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2560 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดสงครามการค้า

กระทรวงเกษตรสหรัฐระบุว่า จีนได้ซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐเพียง 4.65 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนเพียง 13% ของเป้าหมายที่กำหนดไว้ในข้อตกลงการค้า และต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 อยู่เกือบ 40%

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นกว่า 150 จุด ขานรับรายงานข่าวที่ว่า จีนวางแผนที่จะเร่งการซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐ เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงการค้าเฟสแรกที่ทำไว้ร่วมกัน

Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

-China to Speed U.S. Farm Purchases After Secretive Hawaii Talks : https://www.bloomberg.com/news/arti...urchases-after-hawaii-talks?srnd=premium-asia

 

มันน่า เฮ ยังไง??
.
ไม่ใช่แอตไม่อยากไปไต้หวันเลยไม่สนใจแต่มองอ่านเงื่อนไขของการรับคนไทยแล้วรู้สึกว่ามันน่า “เฮ” สักเท่าไหร่
ปัจจุบันไต้หวันต้อนรับ 4 ชาติได้แก่ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย เวียดนาม และ ไทย
แต่เงื่อนไขของการให้เข้าไต้หวันได้นั้น
1 ต้องแสดงผลตรวจพิสูจน์ได้ว่าไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายใน 3 วันก่อนหน้าการเดินทาง
2 ยืนยันว่าได้รับเชิญมาจากบริษัทในไต้หวัน
3 ผู้ที่เดินทางเข้ามายังไต้หวันยังคงต้องทำการกักตัวเองเป็นเวลา 14 วันเมื่อมาถึง แต่ระยะเวลาในการกักตัวอาจสั้นลงกว่านี้ได้ หากผู้ที่เดินทางเข้ามาจ่ายค่าตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาและมีผลตรวจเป็นลบหรือไม่พบว่าติดเชื้อ
…………….
คำถามของแอ๊ดคือด้วยเงื่อนไข 3 ข้อนี้ท่านว่ามันน่า”เฮ”น่า”ดีใจ”เหรอ