ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ที่แรกหมอช้าง ย้ำ 21 มิ.ย. ห้ามออกนอกบ้านเพราะสุริยุปราคา
    วันอาทิตย์ที่ 21 มิ.ย.63 ดวงอาทิตย์จะปรากฏเว้าแหว่งมากที่สุด เวลาประมาณ 14:49 น. เวลานี้คือหนักสุดต้องระวัง หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา บอกกับ ไทยรัฐออนไลน์
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "หม่อมเต่า" ยัน 23 แรงงานเมียนมา อ้างติดโควิด มาจากมาเลย์ ไม่ได้อยู่ไทย
    "หม่อมเต่า" เผย 23 แรงงานเมียนมา อ้างติดโควิด-19 ตรวจสอบแล้ว พบข้ามมาจากมาเลเซีย และถูกกักตัวก่อนส่งไปที่ อ.แม่สอด จ.ตาก มีทั้งที่ติดเชื้อ และหายแล้ว ยันไม่ได้เป็นแรงงานที่ทำงานในไทย
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

    วันที่ 20 มิ.ย. ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน กล่าวถึงความคืบหน้า กรณีมีรายงานข่าวจากประเทศเมียนมาว่า มีชาวเมียนมาที่เดินทางกลับจากประเทศไทยและมาเลเซียติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 23 ราย ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งตนก็ได้รับรายงานว่า เป็นชาวเมียนมาที่ข้ามมาจากประเทศมาเลเซียเข้าไทย แล้วถูกกักตัวอยู่ในไทยก่อนส่งตัวไป อ.แม่สอด จ.ตาก กลับประเทศเมียนมา ซึ่งมีทั้งที่ติดเชื้อโควิด และหายจากการติดเชื้อแล้ว ไม่ได้เป็นแรงงานเมียนมาที่ทำงานในประเทศไทย ส่วนจะเข้าไทยมาจากทางไหน ด่านชายแดนไม่ได้เปิดเข้าออกเสรี แต่ยังมีช่องทางธรรมชาติอยู่ ส่วนแรงงานต่างด้าวในประเทศได้ดูแลตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ตนประชุมทุกวันพุธเท่าที่ดูตัวเลขแรงงานต่างด้าว 2.8 ล้านคน ไม่เคยมีรายงานว่ามีคนป่วยจากไวรัสโควิด อาจเพราะส่วนใหญ่เป็นวัยหนุ่มสาวอายุน้อย มีร่างกายแข็งแรง เข้ามาแล้วทำแต่งานไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนจึงไม่มีคนติดเชื้อ

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บุคลากรแพทย์รัสเซียดับเพราะโควิดเกือบ 500 คน

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนเครียด สั่งปิดรพ.ใหญ่ในปักกิ่ง พบพยาบาลติดเชื้อโควิดจากผู้ป่วย
    จีนล็อกดาวน์ สั่งปิดโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในกรุงปักกิ่ง หลังพบนางพยาบาลแผนกฉุกเฉินติดเชื้อโควิด-19 จากผู้ป่วย ขณะที่ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในปักกิ่งต่อเนื่อง ล่าสุด ยืนยันติดโควิด อีก 25 ราย
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข่าวดี 1 ก.ค.นี้ สวัสดิการข้าราชการ ป่วยมะเร็ง ไม่ต้องสำรองจ่ายค่ายา
    กรมบัญชีกลาง ให้ข้าราชการป่วยจากมะเร็ง เบิกจ่ายตรงได้ ตั้งแต่ 1ก.ค.เป็นต้นไป ลดภาระให้ข้าราชการไม่ต้องทดรองจ่ายเงินไปก่อน
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Wake me up when September ends...

    คุณอาจจะไม่รู้ว่า วิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมา มีลูกหนี้เข้าโครงการขอความช่วยเหลือจากธนาคารต่างๆ มากแค่ไหน!?

    ตามข้อมูลจากสมาคมธนาคารไทย ระบุว่ามาตรการดังกล่าว มีผู้เข้ารับการช่วยเหลือถึง 15 ล้านราย

    คิดเป็นยอดหนี้รวมกันสูงถึง 6.68 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 40% ของ GDP ประเทศไทย

    โดยจะแบ่งออกได้เป็น..

    ลูกหนี้ธุรกิจขนาดใหญ่ ประมาณ 0.73 ล้านล้านบาท

    ลูกหนี้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ประมาณ 2.13 ล้านล้านบาท

    ลูกหนี้รายย่อย ซึ่งมีปริมาณหนี้มากที่สุด 3.80 ล้านล้านบาท

    นอกจากมีปริมาณมากที่สุด ยังเป็นกลุ่มที่น่าเป็นห่วงที่สุดอีกด้วย!!


    จะเห็นได้ว่ามาตรการที่ออกมาทั้ง พักจ่ายเงินต้น พักจ่ายดอกเบี้ย หรือพักจ่ายทั้งต้นและดอก จะมีระยะเวลาสูงสุด 6 เดือน

    ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนเมษายน จะไปสิ้นสุดในงวดเดือนกันยายน


    แม้ตอนนี้จะเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ลงไป หลายธุรกิจเริ่มกลับมาดำเนินกิจการได้เกือบปกติ หลายคนเริ่มกลับมาได้ทำงาน มีรายได้อีกครั้ง

    แต่!! ก็ยังคงเกิดปัญหาที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น..

    - ธุรกิจยังเปิดบริการไม่ได้ 100% เช่น ร้านอาหาร หรือสายการบินต้องเว้นที่นั่ง ทำให้รายได้ลดลง

    - ธุรกิจเปิดบริการได้แล้ว แต่ลูกค้าไม่มีกำลังซื้อ ไม่กลับมาใช้บริการตามปกติ

    - รัฐบาลให้เปิดได้ แต่นายจ้างยังไม่ให้กลับมาทำงาน เพราะลูกค้าหายไป

    หรือเลวร้ายที่สุดก็คือในบางธุรกิจ ยังคงไม่ได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดทำการ ซึ่งนั่นหมายถึงรายได้ยังคงเป็น 0 เช่นเดิม

    และแม้กลับมาเปิดได้ตอนนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่า จะมีรายได้พอมาจ่ายหนี้ทั้งหมดที่ถูกพักมาตลอดหลายเดือน

    นั่นทำให้ "เดือนกันยายน" ที่มาตรการพักชำระหนี้เหล่านี้สิ้นสุดลง อาจจะเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญอีกครั้งของเศรษฐกิจไทย!!


    จึงมีความเป็นไปได้ว่าจะทำให้ปริมาณของหนี้เสีย (NPL) มีจำนวนมากขึ้นอย่างมหาศาล

    จากก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ไทยมีหนี้เสียประมาณ 490,000 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 3% ของหนี้รวมทั้งหมด

    ซึ่งทั้งแบงค์ชาติ และธนาคารพาณิชย์ ก็ดูจะกังวลกับเรื่องนี้พอสมควร และเข้าใจดีว่า "เดือนกันยายน" มีความสำคัญอย่างไร

    จึงนำมาซึ่งมาตรการ 2 อย่าง ที่ออกมาติดๆ กันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

    ไม่ว่าจะเป็น "การให้ธนาคารพาณิชย์งดจ่ายปันผลระหว่างกาล งดซื้อหุ้นคืน" เพื่อรักษาระดับเงินกองทุนให้เข้มแข็ง

    รวมถึง "มาตรการลดเพดานดอกเบี้ย ขยายเวลาพักชำระหนี้ออกไปอีก" รวมถึงการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ของคนที่จ่ายไม่ไหว

    ซึ่งทั้งหมดนี้ ก็เพื่อลดการเกิดหนี้เสียในระบบ ให้น้อยลงที่สุด และเตรียมตัวให้ไทยกลับมาฟื้นตัวได้อย่างเร็ว ในไตรมาสสุดท้ายของปี

    เพราะกรณีที่เลวร้าย มันจะไม่ได้ส่งผลกระทบเฉพาะลูกหนี้เท่านั้น

    แต่มันอาจจะกลายเป็นระเบิดก้อนใหญ่ ที่กระทบไปถึงเจ้าหนี้สถาบันการเงินทั้งหลาย และกระทบไปถึงเศรษฐกิจประเทศเป็นลูกโซ่อีกด้วย


    แล้วเศรษฐกิจไทยหลังจากนี้ จะกลับมาดี หรือแย่ลงกว่าเดิม!?

    เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรก ถูกประเมินว่าขยายตัวติดลบ -1.80%

    ในขณะที่ IMF ประเมินว่าตลอดทั้งปีนี้ เศรษฐกิจไทยจะหดตัว -6.7% ก่อนที่ปีหน้าจะกลับมาขยายตัวได้สูงถึง 6.7% อีกครั้ง

    สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอย่างหนึ่งที่ว่า วิกฤติโควิด-19 กระทบหนักมากต่อไทย ที่มีรายได้หลักจากส่งออก และการท่องเที่ยว

    ซึ่งแม้วิกฤตินี้จะส่งผลรุนแรง แต่พื้นฐานของหลายธุรกิจที่ยังคงดี ก็จะทำให้ฟื้นตัวกลับมาได้ดีพอสมควร

    อย่างที่ตอนนี้ เราเริ่มคลายล็อกดาวน์ สถานที่หลายแห่งเริ่มเปิด หลายธุรกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวกันอีกครั้ง

    แต่ทั้งหมดนั้น ต้องขึ้นอยู่กับตัวแปรสำคัญอย่าง "การระบาดระลอก 2" รวมถึงการล็อกดาวน์ ปิดเมือง จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง

    ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด แล้วเราต้องกลับไปปิดเมือง ปิดประเทศ หยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกรอบหนึ่ง

    ถึงตอนนั้นก็ไม่สามารถบอกได้เลยว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้และปีหน้า จะเลวร้ายลงได้อีกมากเพียงใด...


    -----------------------------------------


    ไม่พลาดทุกสาระน่าสนใจจาก Billion Mindset - แนวคิดพันล้าน

    กด Like และตั้งค่าติดดาว See First ไว้ด้วยนะ

    หรือติดตาม Billion Mindset ได้ในหลากหลายช่องทาง

    - เว็บไซต์ https://www.BillionMindset.com/

    - อินสตาแกรม https://www.instagram.com/billionmindset.ig/

    - ทวิตเตอร์ https://twitter.com/Billion_Twit

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    • นางกานต์เปรมปรีย์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องโครงการรื้ออาคารโบราณบอมเบย์ เบอร์มา อายุ 131 ปี ภายในสวนรุกขชาติเชตวัน จ.แพร่ เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนและประชาชนชาวแพร่ ณ ศาลากลางอีกครั้ง แต่ไม่สามารถให้ความกระจ่างถึงที่ไปที่มาของโครงการนี้ได้ชัดเจนว่าทำไมเป็นการรื้อทิ้งและทำไมใช้งบฯ มากถึง 4.5 ล้านบาท

    • ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ แพร่ ได้กล่าวแสดงความเสียใจ พร้อมกับขอโทษชาวแพร่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ยืนยันว่าทางจังหวัดมีเจตนาในการอนุมัติให้ซ่อมแซมอาคารบ้านโบราณดังกล่าวไม่ใช่รื้อถอน

    • ชาวบ้านซึ่งนั่งฟังอยู่ในห้องประชุมด้วยได้ยกมือทักท้วงและถามว่า ตามทีโออาร์ระบุว่าให้รื้อถอน มีค่ารื้อถอน เช่น เสา 8 ต้น ผนัง คอนกรีต รวมทั้งให้ใช้วัสดุใหม่ทั้งหมด มีราคาชัดเจน ทำไมผู้ว่าฯ ถึงตอบว่าไม่ได้สั่งให้รื้อถอน ปรากฎว่าผู้ว่าฯ ตอบไม่ชัดและคนอื่นก็ไม่มีคำอธิบายในเรื่องนี้

    • จากนั้นนายอิศเรศ สิทธิโรจนกุล ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ชี้แจงต่อว่าโครงการนี้อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 แต่ได้มอบหมายให้ผู้รับจ้างไปทำงานตามแผนที่สถาปนิกสำรวจออกแบบในทีโออาร์

    • ถัดมานายอิศเรศ ได้ขอให้ทางผู้รับเหมาเป็นผู้ชี้แจง นายต่อศักดิ์ ลาภมาก ตัวแทนบริษัทแพร่โกสินก่อสร้าง ซึ่งชนะการประมูลการรื้อถอนโครงการอาคารเก่าหลังนี้ วงเงิน 4.5 ล้านบาท ได้ชี้แจงพร้อมนำเอกสารสัญญาจ้างมาอ่านระบุว่า สัญญาจ้างลงวันที่ 29 พ.ค. 2563 ทำสัญญากับนายอิศเรศ สิทธิโรจนกุล ผอ.สำนักพื้นที่อนุรักษ์ 13 มีสัญญาจ้างการรื้อและก่อสร้าง 180 วัน ในวงเงิน 4,560,000 บาท และได้ดำเนินการตามขั้นตอนตามที่ผู้ว่าจ้างสั่ง

    • ขณะที่ นายไกรสิน อุ่นใจจินต์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ผู้แทนจากกรมศิลปากร ระบุว่า ตามขั้นตอนกฎหมายต้องแจ้งกรมศิลป์ให้อนุมัติก่อน แต่เรื่องเพิ่งไปถึงสำนักศิลปากรที่ 7 และยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ แต่มาทราบอีกครั้งอาคารก็ถูกรื้อถอนไปแล้ว ซึ่งอาคารนี้เข้าข่ายโบราณสถานชัดเจน ดังนั้นกรมศิลปากรจะเข้ามาเก็บรายละเอียดเพื่อการบูรณะใหม่ในวันที่ 21 มิ.ย. นี้

    • จากการตอบคำถามของทั้งผู้ว่าฯ แพร่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำให้ทราบว่างบประมาณที่ได้อนุมัติ 4.5 ล้านบาท เป็นค่ารื้อถอนเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับก่อสร้างอาคารหรือการบูรณะขึ้นมาใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับคำอธิบายของนายสมหวัง เรืองนิรัติศรัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่กล่าวว่ากรมอุทยานฯ ต้องขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมหางบประมาณในการก่อสร้างขึ้นมาใหม่ ภายใต้การดูแลของกรมศิลปากร ซึ่งอาจทำเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติการป่าไม้

    อ้างอิง:
    https://mgronline.com/local/detail/9630000063514
    https://www.thairath.co.th/news/local/north/1872671

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    • โดนัลด์ ทรัมป์ ทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับสายอนุรักษ์จนวาระสุดท้ายก่อนลงจากเก้าอี้ประธานาธิบดี โดยล่าสุดยังเดินหน้าปกป้องภาคอุตสาหกรรม ด้วยการเตรียมแก้กฎหมายการคุ้มครองนกในอเมริกา เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมไม่ต้องรับผิดใดๆ กรณีนกตายเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

    • กฎหมายฉบับนี้คือกฎหมายสนธิสัญญานกอพยพ (Migratory Bird Treaty Act) มีอายุเก่าแก่ถึง 100 ปีและถือเป็นกฎหมายอนุรักษ์ที่เก่าแก่ที่สุดฉบับหนึ่งของสหรัฐอเมริกา มีขึ้นเพื่อปกป้องนกป่าสายพันธุ์อเมริกัน และมีนกมากกว่า 1,000 สปีชีส์ได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายนี้

    • ตามข้อบัญญัติ รัฐบาลจะถือว่านกที่ตายเพราะอุบัติเหตุโดยภาคอุตสาหกรรมอาจนับว่าเป็นการกระทำความผิดทางอาญาได้ เพราะข้อกฎหมายระบุว่า “การไล่ตาม การล่า การจับ การขัง [หรือ] ฆ่า ... ไม่ว่าในลักษณะใดๆ ก็ตามต่อนกอพยพ” ถือว่ามีความผิด ดังนั้นถ้านกตายเพราะอุตสหกรรม อุตสาหกรรมก็ต้องรับผิดด้วย

    • เช่นเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2532 เรือบรรทุกน้ำมันของบริษัทเอ็กซอน ชิปปิ้ง (Exxon Shipping Company) ชนเข้ากับแนวปะการังนอกชายฝั่งอะแลสกา เกิดการรั่วไหลของน้ำมันดิบเท่ากับน้ำในสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิก 125 แห่งที่ไหลลงสู่เกาะพรินซ์วิลเลียมฆ่านกทะเลไปถึง 250,000 ตัว

    • ผลที่ตามมาคือเอ็กซอนฯ ต้องจ่ายเงินค่าปรับทางอาญาแก่รัฐบาลสหรัฐอเมริกา 100 ล้านดอลลาร์ฐานทำให้เกิดอันตรายกับปลา, สัตว์ป่า และที่อยู่อาศัยของสัตว์ และจ่ายอีก 12 ล้านดอลลาร์ให้กับกองทุนอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำอเมริกาเหนือ

    • ที่ผ่านมาผู้นำภาคอุตสาหกรรมและสมาคมอุตสาหกรรมต่างยืนยันว่าพวกเขาไม่ควรรับผิดชอบต่อการตายของนก เพราะพวกเขาไม่ได้ตั้งใจ จึงร้องขอให้มีการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้เพื่อที่จะได้ประกอบธุรกิจโดยไม่ต้องหวาดระแวงต่อความผิดอีก

    • กระทั่งในปี 2560 ปีที่ทรัมป์รับตำแหน่งประธานาธิบดี กระทรวงมหาดไทยสหรัฐอเมริกามีความเห็นว่า การตีความตามกฎหมายสนธิสัญญานกอพยพ เพื่อนำไปใช้กับการกระทำที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญหรือโดยไม่ตั้งใจ ถือเป็นการทำให้เกิดความระแวงต่อผู้ที่มิได้กระทำผิดต่อกฎหมาย

    • และตอนนี้รัฐบาลทรัมป์สนองตอบต่อภาคอุตสาหกรรมอีกครั้ง โดยกลับอ้างว่าการเสียชีวิตของนกที่บินเข้าไปยังบ่อน้ำมัน เข้าไปในเหมือง หรือตามเสาโทรคมนาคม และกังหันลม และสถานที่อันตรายอื่นๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทางธุรกิจ ไม่ควรถูกดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง

    • การแก้ไขกฎหมายฉบับนี้จึงจะเป็นการเปิดทางให้อุตสาหกรรมฆ่านกหนักมือมากขึ้น เพราะภาคอุตสาหกรรมไม่ต้องระแวงระวังอีกต่อไป อาจมีนกตายหลายพันล้านตัวหลังการแก้ไขกฎหมายนี้ เฉพาะตอนนี้้จากข้อมูลล่าสุดของสำนักงานของปลาและสัตว์ป่าสหรัฐอเมริกา พบว่าอุตสาหกรรมฆ่านกประมาณ 450 ล้านถึง 1,100 พันล้านตัวต่อปี จากจำนวนนกในอเมริกาเหนือรวม 7,200 ล้านตัว

    • ในแต่ละปีมีนก 8 ล้านถึง 57.3 ล้านตัวชนกับสายไฟฟ้า และ 5 แสนถึง 1 ล้านตัวตายจากการโฉบลงไปในบ่อน้ำมันพราะพวกมันเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสระน้ำ

    • การแก้ไขกฏหมายนี้เท่ากับเป็นการเร่งให้นกสูญพันธุ์ไปจากทวีปอเมริกาเหนือเร็วขึ้นนอกเหนือจากภาวะโลกร้อน โดยในเดือน ต.ค. 2562 สมาคมอนุรักษ์นก National Audubon Society ออกรายงานระบุว่า 2 ใน 3 ของนกในอเมริกาเหนือจะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์หากโลกยังคงร้อนขึ้นตามแนวโน้มปัจจุบัน

    อ้างอิงจาก
    • US moves forward with plan to end wild bird protections, ABCNews (https://rb.gy/vaxoze)
    • U.S. industries are no longer liable for accidental bird deaths. At what cost?, National Geographic (https://rb.gy/1qnz4s)

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    • เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2563 นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในฐานะผู้บริหารระดับสูงที่รับผิดชอบโครงการรื้ออาคารบอมเบย์ เบอร์มา อายุ 131 ปี ภายในสวนรุกขชาติเชตวัน จ.แพร่ ยืนยันไม่มีการนำไม้จากรื้ออาคารหลังดังกล่าวออกไปขายแต่อย่างใด

    • ยืนยันมีการทำบัญชีรายชื่อไม้ มีรูปถ่ายเก็บไว้เป็นหลักฐานและผู้รับเหมาได้รื้อไม้ลงมาเก็บรักษาไว้อยู่บริเวณนั้น จึงไม่เป็นไปตามที่มีการร้องเรียนว่ามีการลักลอบนำไม้ออกไปขายให้พ่อค้าไม้ในเวลากลางคืนเพื่อหลบเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่

    • เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนจึงได้มอบหมายให้นายสมหวัง เรืองนิวัตศัย รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ลงพื้นที่เพื่อหารือกับทางจังหวัดแพร่ รวมทั้งได้กำชับให้ดูแลการเก็บรักษาไม้ที่ถูกรื้อถอนไปจัดเรียงเป็นหมวดหมู่ ให้ครบตามที่รื้อถอนออกมาด้วย

    • ด้าน นายอิศเรศ สิทธิโรจนกุล ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) สังกัดกรมอุทยานฯ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการรื้อบ้านไม้เก่าหลังดังกล่าว ให้สัมภาษณ์กับไทยพีบีเอสออนไลน์ เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่มีการลักลอบขายไม้เก่าของอาคารบอมเบย์ เบอร์มา ตามที่ปรากฎเป็นข่าว

    • เหตุผลเพราะทางสวนรุกขชาติเชตวันมีการทำบัญชีไม้ทุกชิ้นอย่างละเอียด มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อดูแลไม้ที่รื้อออกมา ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการลักลอบขายไม้เก่า

    • นายอิศเรศ ย้ำว่า ภาพการขนย้ายไม้ขึ้นรถบรรทุกที่ปรากฎเป็นข่าวนั้น สอบถามเจ้าหน้าที่ได้ความว่า เป็นการขนไม้ของพ่อค้าไม้ที่ไปประมูลไม้เก่ามาจากวัด และโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งใน จ.แพร่ ไม่เกี่ยวข้องกับไม้ของอาคารบอมเบย์ เบอร์มา

    • วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ร่วมกับฝ่ายปกครอง จ.แพร่ เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่น เข้าตรวจสอบบ้านพักในหมู่บ้านปงท่าข้าม อ.สูงเม่น จ.แพร่ หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่า เป็นที่ตั้งของร้านซื้อ-ายไม้เรือนเก่าที่อาจเกี่ยวข้องกับอาคารบอมเบย์ เบอร์มา

    • นายสมพงษ์ ไชยวุฒิ เจ้าของกิจการร้านค้าไม้เก่า ระบุว่า ไม้แปรรูป และส่วนประกอบของบ้านที่มีสีฟ้าอ่อนไม่ใช่ไม้สักที่รื้อจากอาคารบอมเบย์ เบอร์มา แต่เป็นไม้ที่ชนะการประมูลมาจากโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง

    • ฉะนั้นหลังจากรวบรวมเอกสารแล้วจะยื่นฟ้องดำเนินคดีกับผู้ที่นำข้อมูลเท็จไปโพสต์ข้อความจนทำให้เสื่อมเสีย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในบ้านและบริเวณโดยรอบ พร้อมตรวจเอกสารที่เจ้าของบ้านนำมายืนยัน ไม่พบสิ่งผิดปกติ จึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

    อ้างอิง: https://news.thaipbs.or.th/content/293785

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไม่นานมานี้ สื่อต่างประเทศเปิดเผยผลสำรวจของศูนย์วิจัยความคิดเห็นแห่งชาติ (NORC) ของมหาวิทยาลัยชิคาโกในสหรัฐฯ โดยระบุว่า ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ความสุขของประชาชนในสหรัฐฯ ดิ่งลงต่ำสุดในรอบ 50 ปี แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะยังรู้สึกพึงพอใจกับสถานการณ์ทางการเงินของตนก็ตามที
    .
    โดยทางศูนย์วิจัยได้มรการจัดการสัมภาษณ์ ครั้งแรกในช่วงวันที่ 21-29 พ.ค. 2563 ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถามมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นตัวแทนจากรัฐ 50 แห่ง และจากเขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย รวมทั้งหมด 2,279 คน
    .
    เมื่อพิจารณาจากบริบททางประวัติศาสตร์จะพบว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ความรู้สึกของประชาชน จนผู้ที่รู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมากนั้นลดลงสู่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ ซึ่งอยู่ที่ 14% เท่านั้น
    .
    ขณะเดียวกันกลับมีประชาชนถึง 80% ที่รู้สึกพึงพอใจกับสถานการณ์ทางการเงินของตน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน
    .
    จากผลการสำรวจที่ย้อนแย้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าอเมริกันชนเปรียบเทียบระดับความสุขในปัจจุบันกับสภาพจิตใจของตนก่อนการระบาดใหญ่ และเปรียบเทียบสถานะทางการเงินของตนกับประชาชนอเมริกันหลายล้านคนที่สูญเสียงาน ค่าจ้าง หรือเงินลงทุนอันเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาด
    .
    ขณะที่สหรัฐฯ ออกเอกสารแนวทางด้านการรักษาระยะห่างทางสังคมหลายฉบับ โดยชาวอเมริกันกว่า 50% รู้สึกโดดเดี่ยว เป็นบางครั้งบางครา เพิ่มขึ้นราว 2 เท่าเมื่อเทียบกับเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 23%
    .
    โดยประชาชนที่อาศัยอยู่ในเทศมณฑลที่เกิดการแพร่ระบาดหนักรู้สึกไม่มีความสุขมากกว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในเทศมณฑลที่ได้รับผลกระทบน้อย ตัวสัดส่วนอยู่ที่ 32% ต่อ 21%
    .
    งานวิจัยนี้ ซึ่งได้รับการเผยแพร่ลงบนเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยชิคาโกเมื่อวันอังคาร (16 มิ.ย.) ยังระบุด้วยว่า ชาวอเมริกัน 42% เชื่อว่าคุณภาพชีวิตในอนาคตของบุตรหลานเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น จะดีกว่าคุณภาพชีวิตของตนในปัจจุบัน ซึ่งลดฮวบจาก 57% ในปี 2561 และเป็นตัวเลขต่ำสุดตั้งแต่ปี 2537 ที่เริ่มมีการบันทึกความคาดหวังเชิงบวกที่ผู้คนมีต่อคนรุ่นถัดไป
    .
    นอกจากนี้ จำนวนชาวอเมริกันที่รู้สึกไร้ญาติขาดมิตร เพิ่มขึ้นจาก 10% ในปี 2561 มาอยู่ที่ 18% ในเดือน พ.ค. 2563 ขณะที่ชาวอเมริกันที่รู้สึกวิตกกังวล เศร้าซึม หรือหงุดหงิดก็ขยับเพิ่มขึ้นจาก 13% ในปี 2561 มาอยู่ที่ 18% ในปัจจุบัน

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.independent.co.uk/news/...-lockdown-data-mental-health-us-a9572736.html

    https://www.dailymail.co.uk/news/article-8426663/Poll-Americans-unhappiest-theyve-50-years.html

    https://www.bangkokbiznews.com/news...medium=internal_referral&utm_campaign=foreign
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Facebook :
    https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันนี้ ทางกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ได้ยกเลิกมาตรการควบคุมการเปิด/ปิดธุรกิจ ทุกประเภทแล้ววันนี้ หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งสัญญาณดีขึ้น แม้ยังคงมีความวิตกกังวล เกี่ยวกับแนวโน้มที่จะเกิดการแพร่ระบาดรอบสอง
    .
    โดยสำนักข่าวได้รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นอนุญาตให้ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดได้แล้ว เนื่องจากรัฐบาลได้ยกเลิกคำสั่งจำกัดการเดินทางด้วยเช่นกัน โดยมีเป้าหมาย เพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นซึ่งชะลอตัวลงอันเป็นผลมาจากจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
    .
    โดยได้ยกเลิกคำสั่งปิดสถานที่จัดการแสดงดนตรีสด ไนท์คลับ และสถานบันเทิงอื่น ๆ ที่มีผู้คนอัดแน่นในพื้นที่ปิดแล้ว นับเป็นการสิ้นสุดมาตรการผ่อนปรน 3 ขั้น ส่วนสำหรับร้านอาหาร ก็ได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดให้บริการตามปกติเช่นกัน โดยรัฐบาลญี่ปุ่น ได้ยกเลิกคำสั่ง ที่กำหนดให้ร้านอาหารลดชั่วโมงให้บริการ
    .
    ขณะเดียวกันทาง สำนักข่าวโตเกียวรายงานว่า การผ่อนปรนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดนี้มีขึ้น แม้กรุงโตเกียวยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละหลักสิบราย โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่รวมกันกว่า 90 ราย ในช่วงวันจันทร์ถึงวันพุธที่ผ่านมา

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://english.kyodonews.net/news/...l-coronavirus-restrictions-on-businesses.html

    https://www.scmp.com/news/asia/east...lifts-all-coronavirus-restrictions-businesses

    https://www.thansettakij.com/conten...m_medium=internal_referral&utm_campaign=world
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Facebook :
    https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สื่อต่างประเทศรายงานความสำเร็จครั้งสำคัญของคณะนักวิจัยในอังกฤษ โดยระบุว่า พวกเขาค้นพบว่ามียาในกลุ่มยาสเตียรอยด์ที่มีราคาถูก และใช้กันในวงกว้าง ช่วยรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการหนักได้
    .
    โดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดทีมนี้ ได้ใช้ยา Dexamethasone ทดลองในผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนักกว่า 2,000 ราย มาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นพบว่าเมื่อให้ยาดังกล่าวในกลุ่มผู้ป่วยหนักที่ถึงขั้นใช้เครื่องช่วยหายใจ สามารถลดอัตราการเสียชีวิตได้ถึง 1 ใน 3 ขณะที่ผู้ป่วยปกติที่ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ สามารถลดอัตราเสียชีวิตได้ถึง 1 ใน 5
    .
    สำหรับผู้ป่วยโควิดอาการหนักที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจจะมีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงเกือบ 40% แต่จากผลการทดลองใช้ยาชนิดนี้ อัตราการเสียชีวิตลดลงเหลือไม่ถึง 30%
    .
    อย่างไรก็ดี ทีมวิจัยยืนยันว่า ผลการทดลองดังกล่าวยังต้องรอความชัดเจนในรายละเอียดอีกครั้งเมื่อพวกเขาตีพิมพ์รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ในเร็วๆนี้ แต่มีรายงานว่านายแมตต์ แฮนค็อก รมว.สาธารณสุขอังกฤษได้อนุมัติให้ใช้ยาชนิดดังกล่าวรักษาผู้ป่วยโควิดที่มีอาการหนักแล้ว

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    http://www.ox.ac.uk/news/2020-06-16...sed-patients-severe-respiratory-complications

    https://www.thepharmaletter.com/art...-dexamethasone-after-oxford-trial-in-covid-19

    https://news.thaipbs.or.th/content/293687
    https://www.posttoday.com/world/626408
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Facebook :
    https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สื่อมวลชนของเกาหลีเหนือ KCNA ประณามคำแถลงของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น ที่บอกว่าจะทบทวนนโยบายความมั่นคงของประเทศและยกระดับการป้องกันตนเอง ระบุเป็น "พฤติกรรมที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง" ทั้งที่ในข้อเท็จจริงคือ ความเคลื่อนไหวของญี่ปุ่นมีเป้าหมายป้องปรามภัยคุกคามจากเปียงยางนั่นเอง
    .
    โดยนายกฯ อาเบะเปิดเผยในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาจัดซื้อระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ซึ่งมีศักยภาพชิงโจมตีก่อน เพื่อป้องกันการโจมตีด้วยขีปนาวุธโดยศัตรู แต่ในขณะเดียวกันก็จะปฏิบัติตามกรอบรัฐธรรมนูญที่มุ่งเน้นป้องกันตนเอง และห้ามพฤติการณ์แห่งสงคราม
    .
    ซึ่งในคำชี้แจงเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวดังกล่าว อาเบะบอกว่าญี่ปุ่นจำเป็นต้องทบทวนประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับ "มาตรการป้องปรามอย่างพอเหมาะพอควร" หลังเกาหลีเหนือมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีขีปนาวุธ
    .
    โดย KCNA ได้ออกมาวิจารณ์อาเบะอย่างรุนแรง โดยบอกว่ามันอาจเปลี่ยนญี่ปุ่นกลายเป็นรัฐที่มีศักยภาพในการทำสงคราม และอาจให้อำนาจญี่ปุ่นรุกรานต่างแดน พร้อมเตือนว่าญี่ปุ่นกำลังเปลี่ยนตัวเองเป็นศัตรูร่วมของมนุษยชาติ หากว่าพวกเขาแก้ไขรัฐธรรมนูญ
    .
    ด้านสื่อมวลชนเปียงยางเตือนความทรงจำว่ารัฐธรรมนูญฉบับหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ของญี่ปุ่น ซึ่งกำหนดให้ญี่ปุ่นปฏิเสธการทำสงครามและการมีกำลังทหาร โดยปฏิบัติการได้เฉพาะในการป้องกันตนเองเท่านั้น คือ "พันธสัญญาทางกฎหมาย" ที่ญี่ปุ่นให้ไว้กับประชาคมนานาชาติ

    นอกจากนี้แล้วทาง KCNA ยังอ้างหนังสือร้องเรียนฉบับหนึ่งซึ่งลงนามโดยพลเมืองหลายแสนคนที่คัดค้านความเคลื่อนไหวดังกล่าวของญี่ปุ่น โดยเรียกมันว่าเป็นการระเบิดอารมณ์โกรธแค้นของประชาชน อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าในเวลานี้หนังสือร้องเรียนดังกล่าวไม่ปรากฎอยู่บนโลกออนไลน์แล้ว
    .
    โดยก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ รัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่น ทาโร โคโน กล่าวว่ารัฐบาลจะระงับแผนติดตั้งระบบป้องกันภัยขีปนาวุธยิงจากภาคพื้น Aegis Ashore ซึ่งพัฒนาโดนสหรัฐฯ สืบเนื่องจากปัญหาทางเทคนิค และค่าใช้จ่าย
    .
    ซึ่งการระงับดังกล่าวจุดประเด็นโต้เถียงทางการเมืองในญี่ปุน โดยฝ่ายค้านบอกว่ากระทรวงกลาโหมต้องรับผิดชอบเงินจำนวน 12,000 ล้านเยน(ราว 3,500 ล้านบาท) ที่ญี่ปุ่นได้ใช้จ่ายในโครงการนี้ไปแล้ว

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.rt.com/news/492372-north-korea-japan-defense/

    https://mgronline.com/around/detail/9630000063578
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Facebook :
    https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คาบสมุทรเกาหลีในเวลานี้เหมือนนับวันรอสงครามรอบใหม่ที่ใกล้จะปะทุ เมื่อสำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือรายงานว่า ชาวเกาหลีเหนือทั่วประเทศกำลังเตรียมใบปลิวสำหรับบรรจุในบอลลูน มากมายมหาศาลเพื่อเตรียมปล่อยข้ามพรมแดนไปยังเกาหลีใต้เพื่อต่อต้านรัฐบาลโซล
    .
    หลังจากที่ก่อนหน้านี้ กลุ่มเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้แปรพักตร์จากฝั่งเหนือ ส่งบอลลูนบรรจุใบปลิวลักษณะเดียวกันข้ามแดนมายังเกาหลีเหนือ จนทำให้บรรยากาศตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีกลับมาระอุอีกครั้ง KCNA เพิ่มเติมว่า การส่งใบปลิวที่กำลังจะเกิดขึ้นถือเป็นมาตรการตอบโต้รัฐบาลโซลอย่างสาสม เพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกแบบเดียวกันว่าเรื่องนี้น่ารำคาญใจเพียงใด
    .
    เรื่องดังกลาว แม้เกาหลีใต้ไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ แต่ทางโฆษกกระทรวงรวมชาติกล่าวในตอนหนึ่งของการแถลงข่าวว่า จะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในท้องที่เพื่อสกัดความพยายามในการส่งบอลลูนเหล่านี้ให้ลอยข้ามแดนมายังฝั่งใต้
    .
    ด้าน Reuters รายงานว่า เกาหลีเหนือเคยใช้บอลลูนร้อนส่งใบปลิวต่อต้านเกาหลีใต้ข้ามพรมแดนลงไปทางใต้มาก่อน ชาวเกาหลีใต้ที่พบ และแจ้งทางการจะได้เครื่องเขียนเป็นสิ่งตอบแทน ขณะที่กองทัพเกาหลีใต้เคยส่งใบปลิวต่อต้านเกาหลีเหนือข้ามเขตปลอดทหาร ก่อนยุติไปปี 2553
    .
    กลุ่มผู้แปรพักตร์เกาหลีเหนือเผยเมื่อวานนี้ว่า ได้ยกเลิกแผนการโยนขวดพลาสติกบรรจุข้าวสาร ยา และหน้ากากอนามัยจำนวนมากลงทะเลใกล้พรมแดนสองเกาหลีหวังให้ลอยไปถึงเกาหลีเหนือในวันอาทิตย์นี้แล้ว ตามที่ทางการเกาหลีใต้ขอ หลังจากเกาหลีเหนือระเบิดสำนักประสานงานสองเกาหลีในเมืองแคซองฝั่งเกาหลีเหนือเมื่อวันอังคาร แสดงความไม่พอใจล่าสุดจากการที่เกาหลีใต้ปล่อยให้กลุ่มผู้แปรพักตร์เคลื่อนไหว
    .
    นั่นจึงทำให้ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีกลับมาระอุอีกครั้ง โดยสื่อหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตถึงความเคลื่อนไหวของนางสาวคิมโยจอง น้องสาวผู้นำคิมจองอึนที่ออกมาแสดงท่าทีแข็งกร้าวในประเด็นเหล่านี้อย่างผิดปกติ ซึ่งวันที่ 25 มิ.ย. นี้ จะเป็นวาระครบรอบ 50 ปีที่สงครามเกาหลีปะทุอย่างเป็นทางการด้วย

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.scmp.com/news/asia/east...es-send-propaganda-leaflets-south-retaliation

    https://www.telegraph.co.uk/news/20...pares-send-anti-south-leaflets-across-border/

    https://www.mcot.net/viewtna/5eed7a0ae3f8e40af845569f

    https://www.posttoday.com/world/626486
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Facebook :
    https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันที่ 18 มิถุนายน 2020 สำนักข่าว The Hill ได้เผยแพร่รายการวิเคราะห์ข่าวทางยูทูบ กรณีที่นายจอห์น โบลตัน (John Bolton) อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เขียนหนังสือกล่าวโจมตีนายโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาของนายโบลตัน
    .
    หนังสือ “The Room Where It Happened : A White House Memoir” ที่โบลตันเขียนขึ้นมา และกำลังจะวางขายในเร็วๆนี้ มีเนื้อหาบางส่วนที่กล่าวหาว่า นายทรัมป์ขอความช่วยเหลือไปยังนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ให้ช่วยเหลือนายทรัมป์ ชนะศึกการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ และยังมีเนื้อหาบางส่วนในหนังสือที่กล่าวหาว่า นายทรัมป์ต้องการใช้กำลังทหารบุกถล่มประเทศเวเนซุเอลา ซึ่งกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ยื่นเรื่องขอให้ศาลดำเนินการสั่งห้ามการจำหน่ายหนังสือที่นายโบลตันเขียนขึ้นมา โดยให้เหตุผลว่า หนังสือของนายโบลตันเขียน จะสร้างความเสียหายแก่ความมั่นคงของสหรัฐฯ
    .
    นายซาการ์ เอ็นเจติ (Saagar Enjeti) ผู้ดำเนินรายการวิเคราะห์ข่าว Rising ของสำนักข่าว The Hill ได้วิเคราะห์ข่าวโดยอธิบายว่า ไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่า คำกล่าวหาทั้งหลายที่นายโบลตันเขียนโจมนายทรัมป์ ผ่านหนังสือที่ตนเองเขียนนั้น เป็นความจริงหรือไม่
    .
    แต่ผู้สื่อข่าว The Hill ตั้งข้อสงสัยว่า ถ้าหากคำกล่าวหาทั้งหลายนี้เป็นเรื่องจริงแล้วล่ะก็ ทำไมนายโบลตันไม่ไปให้ข้อมูลกับพรรคเดโมแครตที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน เพื่อตั้งคณะกรรมาธิการยื่นเรื่องถอดถอนนายทรัมป์ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งนอกจากจะไม่เอาข้อมูลไปให้พรรคฝ่ายค้านไปยื่นเรื่องถอดถอนนายทรัมป์แล้ว นายโบลตันกลับเอาข้อมูลเหล่านี้ไปเขียนเป็นหนังสือเพื่อทำเงินแทน ซึ่งหนังสือที่กล่าวโจมตีนายทรัมป์นี้ จะทำให้นายโบลตันมีรายได้เข้ากระเป๋าตนเองอย่างน้อย 2 ล้านดอลลาร์
    .
    นายซาการ์ยังชี้ให้เห็นอีกว่า การที่นายจอห์น โบลตัน กล่าวหาโจมตีอดีตผู้บังคับบัญชาของตนเองเช่นนี้ เพราะว่า นายโบลตันไม่พอใจที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่สนับสนุนนโยบายการทำสงครามเท่าที่ควร ซึ่งตลอดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ยังมีประเด็นมากมาย ในด้านนโยบายการต่างประเทศ ที่นายจอห์น โบลตัน มีความขัดแย้งกับประธานาธิบดีทรัมป์ อาทิเช่น
    .
    1. นายโบลตันต่อต้านนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่พยายามเจรจาทางการทูตกับรัฐบาลเกาหลีเหนือ
    2. นายโบลตันต่อต้านนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่พยายามถอนทหารออกจากซีเรีย
    3. นายโบลตันต่อต้านนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่พยายามผลักดันการเจรจาหยุดยิงกับกลุ่มตาลีบัน เพื่อให้เกิดการพูดคุยกัน 3 ฝ่ายระหว่าง รัฐบาลสหรัฐฯ รัฐบาลอัฟกานิสถาน และกลุ่มตาลีบัน
    4. นายโบลตันต่อต้านนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่พยายามถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน
    5. นายโบลตันไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่สั่งให้กองทัพสหรัฐฯ ยกเลิกภารกิจโจมตีกองทัพอิหร่าน หลังเครื่องบินไร้คนขับหรือโดรนของกองทัพสหรัฐฯ โดนกองทัพอิหร่านยิงตก เมื่อเดือนมิถุนายน 2019
    .
    โดยเฉพาะประเด็นที่ 3 และ 4 ซึ่งนโยบายอัฟกานิสถาน คือสาเหตุหลักที่ทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการปลดนายโบลตัน ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ แต่นายโบลตันชิงลาออกจากตำแหน่งก่อน และนอกจากนโยบายอัฟกานิสถาน ที่นายโบลตันคัดค้านอย่างรุนแรงแล้ว ยังมีประเด็นที่ 5 ที่นายโบลตันวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ออกคำสั่งให้กองทัพสหรัฐฯ ยกเลิกภารกิจโจมตีกองทัพอิหร่าน ซึ่งโบลตันวิพากษ์วิจารณ์ว่า “เป็นสิ่งที่ไร้เหตุผลที่สุด เมื่อเทียบกับประธานาธิบดีคนอื่นๆ” โดยที่นายโบลตันไม่สนใจว่า หากนายทรัมป์ไม่สั่งให้กองทัพยกเลิกภารกิจ ทหารอิหร่านหลายร้อยนายจะถูกสังหารหมู่ และอาจนำไปสู่สงครามโลกที่เป็นหายนะต่อมวลมนุษยชาติ
    .
    นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวของ The Hill ยังระบุอีกด้วยว่า คนที่กระหายสงครามอย่างนายจอห์น โบลตัน กล่าวโจมตีประธานาธิบดีทรัมป์เช่นนี้ เพราะนายโบลตันไม่ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ นั่นก็คือการทำสงครามกับประเทศต่างๆ และในเมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่า หากนายทรัมป์ไม่สนับสนุนนโยบายสงครามของนายโบลตัน แล้วเนื้อหาในหนังสือที่นายโบลตันกล่าวหาว่า นายทรัมป์ต้องการใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศเวเนซุเอลา สามารถเชื่อถือได้หรือไม่? หรือเป็นการเขียนหนังสือใส่ร้ายป้ายสีนายทรัมป์?
    .
    ทั้งนี้ นายซาการ์ยังชี้ให้เห็นอีกว่า การเมืองสหรัฐฯในตอนนี้ ได้สะท้อนออกมาให้เห็นชัดเจนแล้วว่า นักการเมืองอเมริกันที่โหยหาสงคราม อย่างนายจอห์น โบลตัน ไม่มีความชอบธรรมที่จะเล่นการเมืองอีกต่อไป แต่เหล่าบรรดา “ลิเบอรัล” เสรีนิยมทั้งหลายในสหรัฐฯ ที่เคยเคลื่อนไหวต่อต้านสงครามอิรักในอดีต มาวันนี้ พวกเขากลับสนับสนุนผู้ที่กระหายสงครามมากที่สุดอย่างนายโบลตัน ซึ่งเผยความจริงให้เห็นว่ากลุ่ม “ลิเบอรัล” ไม่ได้ต่อต้านสงคราม แต่พวกเขาทำทุกวิถีทาง เพื่อต่อต้านพรรครีพับลิกัน เพื่อโค่นล้มนายทรัมป์ และเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจทางการเมือง โดยมิได้สนอุดมการณ์สันติภาพแต่อย่างใด
    .....

    และก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2020 นายทรัมป์ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ พาดพิงนายจอห์น โบลตัน โดยระบุว่า “ถ้าผมฟังเขา ป่านนี้เราคงอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 6 ไปแล้ว พอโดนไล่ออก ก็ไปเขียนหนังสือโสโครกที่ไม่เป็นความจริง”
    .....

    อย่างไรก็ตาม แม้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่สนับสนุนนโยบายการใช้กำลังทหารทำสงครามกับประเทศต่างๆโดยตรง แต่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของนายทรัมป์ ก็เลือกที่ใช้วิธีทำสงครามการค้า สงครามจิตวิทยา และสงครามข้อมูลสารเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 กับประเทศจีน นอกจากนี้คณะรัฐมนตรีของนายทรัมป์ก็ยังคงสนับสนุนสงครามตัวแทนในภูมิภาคต่างๆ เช่น ฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านในเวเนซุเอลา, อิหร่านกับซาอุดิอาระเบีย, และกลุ่มนักเคลื่อนไหวในฮ่องกงกับรัฐบาลจีน
    .
    แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่า ทั้งนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลพรรครีพับลิกัน ทั้งนักการเมืองฝ่ายค้านพรรคเดโมแครต ทั้งคณะรัฐมนตรี และนายจอห์น โบลตัน ต่างก็สนับสนุนการกลุ่มนักเคลื่อนไหวฮ่องกง แต่ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นนักการเมืองอเมริกันเพียงคนเดียว ที่ไม่ค่อยแสดงท่าทีสนับสนุนกลุ่มนักเคลื่อนไหวฮ่องกง
    .
    แต่เมื่อวิเคราะห์จากประเด็นสำคัญที่ว่า ม็อบฮ่องกงได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายองค์กร NED ซึ่งเป็นเครือพันธมิตรของ CIA แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ตัดงบประมาณของ NED จากที่เคยได้งบประมาณ 169 ล้านดอลลาร์ในปี 2018 เหลือเพียง 67 ล้านในปี 2019 ก็ทำให้มองภาพรวมได้ชัดมากขึ้น จนสามารถเข้าใจที่มาที่ไปได้ว่า เหตุใดนายโดนัลด์ ทรัมป์ ถึงแทบจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับม็อบฮ่องกงที่ได้รับการสนับสนุนจาก NED และทำให้เข้าใจได้อีกด้วยว่า เหตุใด NED ในช่วงนี้ ถึงได้ประกาศสนับสนุนม็อบในสหรัฐฯที่มีท่าทีต่อต้านนายทรัมป์อย่างหนัก

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    นักข่าว The Hill เผย จอห์น โบลตัน กล่าวโจมตีทรัมป์ เพราะทรัมป์ไม่ยอมทำสงคราม

    .
    “ถ้าผมฟังเขา ป่านนี้เราคงอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 6 ไปแล้ว”
    ทรัมป์โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ พาดพิงจอห์น โบลตัน

    .
    ประธานาธิบดีทรัมป์ตัดงบประมาณ NED
    https://www.vox.com/policy-and-poli...72/trump-budget-state-department-defense-cuts
    https://www.whitehouse.gov/wp-content/uploads/2018/02/sta-fy2019.pdf
    .
    NED ออกแถลงการณ์สนับสนุนการประท้วงในสหรัฐฯ
    https://www.ned.org/ned-statement-on-racism-and-democracy/

    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Facebook :https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สมาชิกรัฐสภายุโรปลงมติเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น เห็นชอบ 565 เสียง คัดค้าน 34 เสียง งดออกเสียง 62 เสียง เรื่องประท้วงกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของจีนที่ยุโรป ออสเตรเลีย และสหรัฐฯ ระบุว่า จะบ่อนทำลายหลักการหนึ่งประเทศสองระบบ ที่รับรองสิทธิการปกครองตนเองของฮ่องกง
    .
    โดยมติของรัฐสภายุโรปเรียกร้องให้อียู และสมาชิกพิจารณายื่นฟ้องต่อศาลโลกในกรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ หากจีนใช้กฎหมายนี้กับฮ่องกง และขอให้อียูพิจารณาเรื่องใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจกับจีน โดยระบุว่า รัฐสภายุโรปเชื่อว่า อียูควรใช้อิทธิพลทางเศรษฐกิจท้าทายการปราบปรามสิทธิมนุษยชนของจีนด้วยวิธีทางเศรษฐกิจ
    .
    ด้านรอยเตอร์อธิบายเพิ่มเติมว่า มติของรัฐภายุโรปไม่มีผลผูกพัน แต่เป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองที่อาจมีผลต่อการกำหนดนโยบายได้ และว่าคณะผู้บริหารหน่วยงานอียูจะประชุมผ่านระบบวิดีโอกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนในวันจันทร์หน้า
    .
    ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานวันนี้อ้างโฆษกคณะกรรมการกิจการต่างประเทศ สภาประชาชนแห่งชาติจีนว่า มติของรัฐสภายุโรปบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างร้ายแรง และเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกงอย่างเปิดเผย
    .
    ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันซินหัวรายงานว่า คณะกรรมการถาวรซึ่งเป็นหน่วยงานตัดสินใจสูงสุดของสภาประชาชนแห่งชาติจีน เสร็จสิ้นการพิจารณากฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่ผ่านสภาเมื่อเดือนก่อนแล้วในเช้าวันนี้ หลังจากพิจารณามาตั้งแต่วันพฤหัสบดี

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.reuters.com/article/us-...rt-over-hong-kong-lawmakers-say-idUSKBN23Q36Y

    https://qz.com/1870052/eu-parliaments-are-shaping-their-countries-china-policy/

    https://www.europarl.europa.eu/news...consider-lawsuit-against-china-over-hong-kong

    https://www.mcot.net/viewtna/5eeddf5be3f8e40af945a44d
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Facebook :
    https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCDeS2riffyohV9FW2QEWjHQ

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินเดีย : ตะโขงอินเดีย ถือว่าเป็นสัตว์คุ้มครองใกล้สูญพันธ์ุ์ ช่วงล็อคดาวน์โควิดที่ผ่านมามีภาพเผยแพร่ลูกตะโข่งในอินเดียประมาณ 1500 ตัวในแม่น้ำ Chambal ที่ไหลอยู่ในเขต Dholpur ของรัฐราชสถาน ภาพที่1
    รวมทั้งกลุ่มอนุรักษ์ปล่อยลูกตะโข่ง
    116 ตัวเกิดในแม่น้ำ Gandak ของแคว้นมคธ
    ล่าสุด (ภาพ 2 เป็นต้นไป)

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐ : วอชิงตัน ดีซี ม็อบได้ทำลาย จุดไฟเผา รูปปั้น Albert Pike ใน One Judiciary Square อัลเบิร์ตไพค์เป็นนักประพันธ์ชาวอเมริกันนักปราศรัยนักกฎหมายและสมาชิกคนสำคัญ นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสของกองทัพสหรัฐฯ เสียชีวิต 1891

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวอเมริกัน เฉลิมฉลองวันปลดปล่อยทาส “จูนทีนธ์” ขณะที่ ปธน. ทรัมป์เตรียมขึ้นเวทีหาเสียงแรก หลังการระบาดของไวรัส ที่เมือง ทัลซ่า รัฐโอคลาโฮม่า เมืองที่เคยเกิดการสังหารหมู่คนผิวสี เมื่อปี 1921

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,501
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กรมควบคุมโรค เร่งสอบสวนเพิ่มเติมแรงงานพม่าติด 23 ราย ติดโควิดหลังกลับจากไทย-มาเลเซีย คาดเป็นกลุ่มเดียวกับต่างด้าวในศูนย์กักกันสะเดา ที่ติดเชื้อหายดีและส่งกลับตั้งแต่ต้น มิ.ย. เตรียมเช็กรายชื่อตรงกันหรือไม่

    อ่านต่อ >https://news1live.com/detail/9630000063732
    ...........................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     

แชร์หน้านี้

Loading...