ที่ดิน ส.ป.ก ต้องเสียภาษีที่ดินหรือไม่?

ในห้อง 'ลงประกาศ ซื้อ-ขาย หรือทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย sgeprint, 13 มีนาคม 2024.

  1. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2566
    Land-and-Building-Tax-Update.jpg
    ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้มีการปรับลดอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2566 สำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบางประเภท โดยมีรายละเอียดดังนี้

    ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้รับการลดภาษีตามพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563 ให้ลดภาษีในอัตรา 15% ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้ ตัวอย่างกรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่เคยได้รับการลดภาษี ได้แก่ โรงพยาบาล ร้านทำผม ร้านอาหาร ร้านล้างรถ และห้างสรรพสินค้า

    ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับการลดภาษี 50% ตามพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563 เมื่อคำนวณลดภาษีในอัตรา 50% ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสียแล้ว ให้ลดภาษีลงอีกในอัตรา 15% ของจำนวนภาษีที่ลดไปแล้ว 50% ตัวอย่างกรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ที่ได้รับการลดภาษี 50% ได้แก่

    ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่เจ้าของเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน เฉพาะทรัพย์สินที่บุคคลดังกล่าวได้มาทางมรดกและได้จดทะเบียนแล้วก่อนวันที่ 13 มีนาคม 2562
    ที่ดินที่ตั้งของโรงผลิตไฟฟ้า
    ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นเขื่อน
    กรณีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ได้รับการลดภาษี 90% ตามพ.ร.ฎ.ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563 แล้ว จะไม่ได้รับการลดภาษีเพิ่มอีก เนื่องจากมาตรา 55 แห่ง พร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 จะมีอัตราการลดภาษีสูงสุดอยู่ที่ 90% ตัวอย่างกรณีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ได้รับการลดภาษี 90% ได้แก่

    โรงเรียนในระบบ
    โรงเรียนนอกระบบ (ประเภทสอนศาสนา ตาดีกา ปอเนาะ)
    สวนสัตว์ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
    สวนสนุกที่มีเครื่องเล่นที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
    การปรับลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยคาดว่าจะช่วยลดภาระภาษีให้กับประชาชนได้ประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท

    โปรโมชั่นสำหรับคุณ
    รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง
    ลวดหนาม จำหน่ายลวดหนามหลากหลายประเภท คุณภาพดี ราคาประหยัด
    ตาข่ายถัก จำหน่ายตาข่ายถักหลากหลายประเภท แข็งแรงทนทาน ติดตั้งง่าย
    ที่มา

    ddproperty.com
     
  2. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    ลวดหนาม มีกี่ประเภท
    %B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%97.jpg
    ลวดหนามมี 2 แบบ
    ลวดหนาม ที่เราพอจะนึกออกและเคยเห็น มีอยู่ 2 ประเภทที่เห็นได้ชัดๆ คือ

    ลวดหนามล้อมบ้านทั่วไป
    ลวดหนามหีบเพลง
    1. ลวดหนามล้อมบ้านทั่วไป
    ลวดหนามประเภทนี้ก็คือลวดหนามล้อมที่ดิน ล้อมบ้าน ล้อมส้วน ล้อมที่ดินทั่วไปของเรานั่นเอง โดยมากจะแบ่ง ตามลักษณะของปมหนาม หรือ รูปแบบวิธี หรือ คุณภาพการพันนั่นเอง

    1.1 ลักษณะของหนามปมลวดหนาม
    ลวดหนามในปัจจุบัน มีรูปแบบการพันปมหนามอยู่ 2 แบบ คือ

    1.1.1 การพันเกลียวหนามแบบธรรมดา (Conventional)
    เป็นการพันเกลียวลวดหนามแบบเก่า มีโอกาสที่หนามจะหลุด หรือเกลียวหนามอาจคลายได้ในส่วนของตัวเส้นลวดจะมีการพันเกลียวแบบหลวมๆ ไม่แน่น มีโอกาสที่ติดตั้งแล้วจะทำให้ลวดหนามหย่อนในอนาคต ตัวอย่างมีให้เห็นตามทั่วไป (ตามรูปด้านล่าง)
    ลวดหนามทั่วไป
    4.jpg
    ลวดหนามประเภทนี้เราผมเห็นกันได้มากตามพื้นที่ทั่วไป เส้นลวดมักมีขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับลวดหนามประเภทอื่น แต่ค่อนข้างหาซื้อได้ง่าย ซึ่งมีข้อดีคือเป็นลวดหนามที่ราคาถูก มักขายเป็น ชั่งกิโลขาย ข้อเสียหนึ่ง คือเมื่อเป็นการชั่งกิโลขาย 5 กิโลบ้าง 10 กิโลบ้างจะ
    ทำให้ความยาวลวดแต่ละม้วน จะไม่เท่ากันเป็นเหตุผลให้การทำงานยากมากขึ้น เนื่องจากการที่ต้องทำการต่อลวดหลายรอบ
    pngtree-rusty-barbed-wire-security-fence-sky-photo-image_1259256.jpg
    อีกหนึ่งปัญหาที่พบเจอกับการล้อมรั้วลวดหนามคือ ขึ้นสนิมง่าย เพราะลวดหนามทั่วไป จะเป็นการชุบแบบไฟฟ้า (Electroplating) ซึ่งการชุบซิงค์แบบนี้ปริมาณซิงค์ที่ชุบค่อนข้างที่บางมาก ๆ ทำให้อายุการใช้งานของลวดหนามทั่วไปเกิดสนิมเร็ว ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี
    เริ่มขึ้นสนิมแล้ว หรือจะเป็นปัญหาล้อมรั้วลวดหนามทั่วไปจะขาดง่าย ขึงไม่ตึง หย่อน รวมถึงตัวเกลียวหนาม ที่ถักมาไม่แน่นทำให้เป็นสาเหตุของลวดหนามไม่ตึง และหย่อนง่าย ซึ่งถ้าสังเกตการล้อมรั้วลวดหนามทั่วไปที่ติดตั้งตามท้องตลาด ติดตั้งไปได้ 1-2 เดือน รั้วลวดหนามทั่วไปจะเริ่มหย่อนเป็นท้องช้าง ไม่สวยงาม
    หรือเห็นรั้วลวดหนามขาดเป็นบางช่วง ทำให้เปลืองงบประมาณในการซื้อลวดหนามมาติดตั้งใหม่ เสียทั้งเวลา เสียทั้งค่าแรง

    ลวดหนาม
    รั้วลวดหนาม
    รั้วตาข่าย
    ลวดหนามกันสนิม
     
  3. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    ปลูกกล้วยในพื้นที่ว่างเปล่าสร้างผลผลิตและรายได้
    3-4.jpg-4-800x450.jpg

    หลายคนมีพื้นที่ดินว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยวัชพืชนานาชนิดและไม่ได้จัดการอะไร ช่วงฤดูแล้งอย่างนี้หญ้าเริ่มเหี่ยวแห้ง มาจัดการพื้นที่รกร้างที่มีอยู่ แล้วมา ” ปลูกกล้วย ” กันดีกว่า
    กล้วยเป็นผลไม้พื้นบ้านที่คนไทยรู้จักกันมานาน เพราะทุกส่วนของกล้วยทั้งลำต้น ใบ ดอก ผล เหง้า และยังขยายพันธุ์ง่ายด้วยการแบ่งหน่อ หรือผ่าเหง้าไปปลูกต่อ จึงพบกล้วยขึ้นอยู่ทั่วไปในบ้านเรา และเป็นผลไม้ที่ไม่ค่อยมีใครให้ความสำคัญกันมากนัก ทั้ง ๆ ที่กล้วยมีประโยชน์มากมาย

    ช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา ผลกล้วยน้ำว้ามีราคาสูงขึ้น เนื่องจากมีการปลูกลดลง อีกทั้งสภาพแห้งแล้ง ทำให้หลายคนหันกลับมาปลูกกล้วยเป็นอาชีพ สร้างรายได้ให้กับครอบครัว แต่การปลูกอย่างไรให้ได้ผลผลิตดีๆ มาเรียนรู้กัน
    [​IMG]
    สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงคือ “สภาพพื้นที่และดินในบริเวณนั้น” แม้ว่ากล้วยจะเป็นพืชที่ทนทาน แต่การปลูกกล้วยให้ได้ผลผลิตที่ดี ดินปลูกควรมีอินทรีย์วัตถุและความชุ่มชื้นเพียงพอ “แสงแดด” เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง กล้วยชอบแสงแดดจัด หากพื้นที่ดีแต่แสงแดดน้อยมักไม่ออกเครือ หรือคุณภาพผลผลิตไม่ดีพอ
    [​IMG]
    นอกจากนี้ “น้ำ” ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปลูกกล้วย แม้กว่ากล้วยเป็นพีชที่กักเก็บน้ำในลำต้นได้ดี แต่ถ้าได้รับน้ำไม่เพียงพอ ต้นจะเติบโตได้ไม่ดีนัก จึงควรติดตั้งระบบให้น้ำไว้บ้างเพื่อต้นกล้วยเติบโตอย่างสมบูรณ์ ให้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ

    โปรโมชั่นสำหรับคุณ
    รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง
    ลวดหนาม จำหน่ายลวดหนามหลากหลายประเภท คุณภาพดี ราคาประหยัด
    ตาข่ายถัก จำหน่ายตาข่ายถักหลากหลายประเภท แข็งแรงทนทาน ติดตั้งง่าย
    ที่มา


    ทีมา baanlaesuan.com
     
  4. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    พ่นกันสนิม!!จำเป็นจริงหรือ?
    715%20(17)_1528705023.jpg
    ในอดีตปัญหาเรื่องสนิมมักเป็นชวนสยองของเจ้าของรถ ทำให้เกิดวัฒนธรรมที่ว่าการซื้อรถใหม่ต้องพ่นกันสนิม แต่ในปัจจุบันเริ่มเลือนรางหายไป จะมีก็แต่คำถามที่ว่า จำเป็นจริงหรือต้องพ่นกันสนิม “รู้ก่อนเหยียบ” จึงขอนำทุกท่านมาไขปัญหาดังกล่าว

    สนิม เกิดจากการทำปฏิกิริยากันระหว่าง ออกซิเจนและธาตุเหล็ก เกิดเป็นรอยของการเกิดการผุกร่อน ซึ่งมักเกิดกับโลหะจำพวกเหล็ก

    ปฏิกิริยาการเกิดสนิมเหล็ก

    เป็นปฏิกิริยาที่พบเห็นได้ง่ายๆ กับสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่มีเหล็กเป็นองค์ประกอบ แต่จะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อมีเหล็กสัมผัสกับน้ำและความชื้น โดยจะค่อย ๆ สึกกร่อน กลายเป็นเหล็กออกไซด์ มีชื่อทางเคมีว่า ไฮเดรตเฟอริกออกไซด์ หรือที่เรารู้จักกันว่า สนิมเหล็ก มีลักษณะเป็นคราบสีแดง ซึ่ง สามารถหลุดออกออกไปได้ไม่ยากนัก ทำให้เนื้อเหล็กที่อยู่ชั้นในสามารถเกิดสนิมต่อจนกระทั่งหมดทั้งชิ้น กระบวนการเกิดสนิมค่อนข้างซับซ้อน โดยมีปัจจัยคือ น้ำและออกซิเจน ซึ่งมีอยู่ทั่วไปใน บรรยากาศโลก เหล็กจะเกิดสนิมเร็วขึ้นในบางสภาวะ เช่น สภาวะที่เป็นกรด ตามชายทะเลที่ไอเกลือเข้มข้น เป็นต้น

    การป้องกันสนิมของผู้ผลิตรถยนต์

    หลังปี 1996 ผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายหันมาให้ความสำคัญกับปัญหาสนิมอย่างจริงจัง สรรหาสารพัดวิธีเพื่อปกป้องรถไม่ให้เกิดสนิม โดยวิธียอดนิยม เริ่มต้นด้วยการชุบสารฟอสเฟต ที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องการเคลือบบนผิวเหล็กเป็นผลึกที่แข็งแรงสามารถช่วยปกป้องการเกิดอ๊อกไซด์บนผิวเหล็กแถมช่วยให้เนื้อสีเกาะตัวได้ดี จากนั้นนำไปอบไล่ความชื้นอีกรอบ ก่อนชุบเคลือบในบ่อสีด้วยกระแสไฟฟ้า เพื่อให้การป้องกันสนิมได้ทุกซอกทุกมุม สุดท้ายอบด้วยความร้อนอีกครั้ง ก่อนพ่นสีรองพื้นและสีจริงต่อไป

    แต่สำหรับการพ่นสีใต้ท้องรถ เมื่อสีรองพื้นแห้งสนิทจะถูกพ่นด้วยสาร PVC เพื่อเป็นการป้องกันการกัดกร่อน และการกะเทาะหลุดล่อน จากการกระแทกของเศษหินหรือวัสดุต่าง ๆ ซ้ำยังเป็นการช่วยลดเสียงรบกวนได้อีกด้วย ทั้งนี้จากขั้นตอนต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทุกเจ้ายืนยันว่าสามารถป้องกันการเกิดสนิมได้โดยไม่จำเป็นต้องพ่นกันสนิมอีก ยกเว้นรถยนต์ที่ใช้ริมทะเลเป็นประจำ หรือรถที่เกิดอุบัติเหตุ จนต้องเคาะพ่นสีใหม่ จึงควรพ่นกันสนิม

    เทคนิคควรรู้

    แม้ว่าการพ่นกันสนิมจะมีข้อดีที่สามารถป้องกันสนิมได้ก็จริงอยู่ แต่น้ำยาพ่นกันสนิมส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของ ปิโตรเคมี ในเกรด แอสฟัลท์ หรือยางมะตอย ซึ่งมีคุณสมบัติไม่พึงประสงค์ในการกัดและทำลายวัสดุที่เป็นยาง หรือมีส่วนผสมของยาง ดังนั้นหากผู้พ่นไม่ชำนาญหรือไม่ระวังอาจก่อให้เกิดความเสียหายกับวัสดุที่เป็นยาง อาทิ ยางหุ้มเพลา บู๊ช ปีกนก และชิ้นส่วนอื่น ๆ ได้

    ต่างคนก็ต่างเหตุผลต่างความคิด ก็ลองชั่งใจกันดูครับว่า พ่นกันสนิม!!จำเป็นจริงหรือ?? คำตอบอยู่ที่คุณ…
    โปรโมชั่นของคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง
    ลวดหนาม ตาข่ายถัก

    ขอบคุณข้อมูลจาก บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด
     
  5. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    **ดูแลสวนหลังบ้านให้สวยงามอยู่เสมอ**
    g04.jpg
    สวนหลังบ้านเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน การดูแลสวนหลังบ้านให้สวยงามอยู่เสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญ สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้

    **1. รู้จักเครื่องมือและเลือกใช้ให้เหมาะสม**

    เครื่องมือสำหรับดูแลสวนหลังบ้านมีหลายชนิด เช่น กรรไกรตัดแต่งกิ่ง จอบและเสียม ถังรดน้ำ เป็นต้น ควรเลือกเครื่องมือให้เหมาะสมกับงานที่ต้องการทำ เช่น กรรไกรตัดแต่งกิ่งสำหรับตัดแต่งกิ่งไม้ จอบและเสียมสำหรับพรวนดิน ถังรดน้ำสำหรับรดน้ำต้นไม้ เป็นต้น

    **2. รดน้ำต้นไม้อย่างสม่ำเสมอ**

    ปริมาณน้ำที่ต้นไม้ต้องการขึ้นอยู่กับชนิดของต้นไม้ สภาพอากาศ และขนาดของต้นไม้ โดยทั่วไปควรรดน้ำต้นไม้วันละ 1-2 ครั้ง ในช่วงเช้าหรือเย็น

    **3. ใส่ปุ๋ยบำรุงต้นไม้**

    ปุ๋ยช่วยบำรุงต้นไม้ให้เจริญเติบโตและแข็งแรง ควรใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้อย่างน้อยเดือนละครั้ง เลือกใช้ปุ๋ยให้เหมาะสมกับชนิดของต้นไม้

    **4. ตัดแต่งกิ่งไม้อย่างสม่ำเสมอ**

    การตัดแต่งกิ่งไม้ช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตอย่างสมดุล ตัดแต่งกิ่งไม้ที่เป็นโรคหรือแห้งตายออก และตัดแต่งกิ่งไม้ให้อยู่ในรูปทรงที่ต้องการ

    **5. กำจัดวัชพืช**

    วัชพืชแย่งสารอาหารและน้ำจากต้นไม้ ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้มือถอนหรือใช้เครื่องตัดหญ้า

    **6. ทำความสะอาดสวนหลังบ้าน**

    ทำความสะอาดสวนหลังบ้านเป็นประจำ เก็บกวาดเศษใบไม้และเศษขยะต่างๆ ออก เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรคและแมลง

    **7. ป้องกันโรคและแมลง**

    โรคและแมลงเป็นศัตรูของต้นไม้ ควรหมั่นสังเกตต้นไม้ หากพบโรคและแมลงควรรีบกำจัดให้ทันเวลา

    **8. ตกแต่งสวนหลังบ้าน**

    การตกแต่งสวนหลังบ้านช่วยให้สวนหลังบ้านสวยงามและน่าพักผ่อน สามารถเลือกตกแต่งสวนหลังบ้านได้ตามสไตล์ที่ชอบ เช่น ตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับ ปูสนามหญ้า ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับนั่งพักผ่อน เป็นต้น

    การดูแลสวนหลังบ้านให้สวยงามอยู่เสมอไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ใส่ใจและดูแลอย่างสม่ำเสมอ สวนหลังบ้านก็จะเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน

    โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนามรั้วลวดหนาม
    รั้วตาข่าย
    ลวดหนามกันสนิม
     
  6. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    ลวดหนาม มีกี่ประเภท
    %B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%97.jpg
    ลวดหนามมี 2 แบบ
    ลวดหนาม ที่เราพอจะนึกออกและเคยเห็น มีอยู่ 2 ประเภทที่เห็นได้ชัดๆ คือ

    ลวดหนามล้อมบ้านทั่วไป
    ลวดหนามหีบเพลง
    1. ลวดหนามล้อมบ้านทั่วไป
    ลวดหนามประเภทนี้ก็คือลวดหนามล้อมที่ดิน ล้อมบ้าน ล้อมส้วน ล้อมที่ดินทั่วไปของเรานั่นเอง โดยมากจะแบ่ง ตามลักษณะของปมหนาม หรือ รูปแบบวิธี หรือ คุณภาพการพันนั่นเอง

    1.1 ลักษณะของหนามปมลวดหนาม
    ลวดหนามในปัจจุบัน มีรูปแบบการพันปมหนามอยู่ 2 แบบ คือ

    1.1.1 การพันเกลียวหนามแบบธรรมดา (Conventional)
    เป็นการพันเกลียวลวดหนามแบบเก่า มีโอกาสที่หนามจะหลุด หรือเกลียวหนามอาจคลายได้ในส่วนของตัวเส้นลวดจะมีการพันเกลียวแบบหลวมๆ ไม่แน่น มีโอกาสที่ติดตั้งแล้วจะทำให้ลวดหนามหย่อนในอนาคต ตัวอย่างมีให้เห็นตามทั่วไป (ตามรูปด้านล่าง)
    ลวดหนามทั่วไป
    4.jpg
    ลวดหนามประเภทนี้เราผมเห็นกันได้มากตามพื้นที่ทั่วไป เส้นลวดมักมีขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับลวดหนามประเภทอื่น แต่ค่อนข้างหาซื้อได้ง่าย ซึ่งมีข้อดีคือเป็นลวดหนามที่ราคาถูก มักขายเป็น ชั่งกิโลขาย ข้อเสียหนึ่ง คือเมื่อเป็นการชั่งกิโลขาย 5 กิโลบ้าง 10 กิโลบ้างจะ
    ทำให้ความยาวลวดแต่ละม้วน จะไม่เท่ากันเป็นเหตุผลให้การทำงานยากมากขึ้น เนื่องจากการที่ต้องทำการต่อลวดหลายรอบ
    pngtree-rusty-barbed-wire-security-fence-sky-photo-image_1259256.jpg
    อีกหนึ่งปัญหาที่พบเจอกับการล้อมรั้วลวดหนามคือ ขึ้นสนิมง่าย เพราะลวดหนามทั่วไป จะเป็นการชุบแบบไฟฟ้า (Electroplating) ซึ่งการชุบซิงค์แบบนี้ปริมาณซิงค์ที่ชุบค่อนข้างที่บางมาก ๆ ทำให้อายุการใช้งานของลวดหนามทั่วไปเกิดสนิมเร็ว ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี
    เริ่มขึ้นสนิมแล้ว หรือจะเป็นปัญหาล้อมรั้วลวดหนามทั่วไปจะขาดง่าย ขึงไม่ตึง หย่อน รวมถึงตัวเกลียวหนาม ที่ถักมาไม่แน่นทำให้เป็นสาเหตุของลวดหนามไม่ตึง และหย่อนง่าย ซึ่งถ้าสังเกตการล้อมรั้วลวดหนามทั่วไปที่ติดตั้งตามท้องตลาด ติดตั้งไปได้ 1-2 เดือน รั้วลวดหนามทั่วไปจะเริ่มหย่อนเป็นท้องช้าง ไม่สวยงาม
    หรือเห็นรั้วลวดหนามขาดเป็นบางช่วง ทำให้เปลืองงบประมาณในการซื้อลวดหนามมาติดตั้งใหม่ เสียทั้งเวลา เสียทั้งค่าแรง


    โปรโมชั่นของคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง
    ลวดหนาม ตาข่ายถัก
     
  7. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    **ทำสวนปลูกผัก ความสุขง่ายๆ ใกล้ตัว**
    15-12-1024x576.jpg
    การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ผู้คนหันมาสนใจปลูกผักเองมากขึ้น เพราะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อผักและได้ผักสดๆ ปลอดสารพิษมารับประทาน อีกทั้งการปลูกผักยังเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจอีกด้วย

    **ประโยชน์ของการปลูกผัก**

    การปลูกผักมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

    * **ได้ผักสดๆ ปลอดสารพิษมารับประทาน** ผักที่ปลูกเองนั้นไม่มีสารเคมีตกค้าง จึงปลอดภัยต่อสุขภาพมากกว่าผักที่ซื้อจากตลาด
    * **ช่วยลดค่าใช้จ่าย** การปลูกผักเองนั้นสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อผักได้ โดยเฉพาะผักที่มีราคาแพง
    * **ได้ออกกำลังกาย** การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้แรงกาย จึงช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
    * **เป็นการพักผ่อนหย่อนใจ** การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลายความเครียด

    **วิธีการทำสวนปลูกผัก**

    การทำสวนปลูกผักสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

    1. **เลือกพื้นที่ที่เหมาะสม** พื้นที่สำหรับปลูกผักควรเป็นพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
    2. **เตรียมดิน** ดินสำหรับปลูกผักควรเป็นดินร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง
    3. **เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะสม** เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก
    4. **หว่านหรือปลูกเมล็ด** หว่านหรือปลูกเมล็ดผักตามคำแนะนำของฉลากบรรจุภัณฑ์
    5. **รดน้ำและดูแลอย่างสม่ำเสมอ** รดน้ำให้ผักชุ่มชื้นอยู่เสมอ และดูแลกำจัดวัชพืช

    **ผักที่ปลูกง่าย**

    ผักที่ปลูกง่าย ได้แก่ ผักสวนครัวทั่วไป เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดหอม ผักชี ต้นหอม มะเขือเทศ แตงกวา เป็นต้น ผักเหล่านี้ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ภายใน 1-2 เดือน

    **เคล็ดลับในการทำสวนปลูกผัก**

    * ควรเลือกผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก เพื่อให้ผักเจริญเติบโตได้ดี
    * ควรเตรียมดินให้พร้อมก่อนปลูกผัก โดยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดินเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุ
    * ควรรดน้ำผักอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรรดน้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้รากผักเน่า
    * ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพราะวัชพืชแย่งสารอาหารและน้ำจากผัก
    * ควรหมั่นสังเกตผัก หากพบโรคและแมลงควรรีบกำจัดให้ทันเวลา

    การทำสวนปลูกผักเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
    ลวดหนาม
    รั้วลวดหนาม
    รั้วตาข่าย
    ลวดหนามกันสนิม
     
  8. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    ห่มดิน เลี้ยงดินให้ดินเลี้ยงเรา
    %E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%991.jpg
    การทำห่มดิน เลี้ยงดิน ดูแลดินแล้วให้ดินเลี้ยงพืช
    การห่มดิน คือ เป็นการป้องกันการระเหยของความชื้นที่อยู่ในดิน ซึ่งความชื้นในดินมีความสำคัญมากต่อการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งการควบคุมความชื้นของดินให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืชในแต่ละชนิด สามารถทำได้ด้วยการใช้เซ็นเซอร์เข้ามาช่วยตรวจวัด

    ระดับความชื้นที่พืชสามารถรับได้จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ดังนี้

    ความชื้น 80% – 100% : สภาวะอันตรายต่อพืช ถ้ามีความชื้นสูงในระดับนี้เป็นเวลานาน มีโอกาสสูงมากที่จะทำให้รากเน่า หรือเกิดเชื้อราขึ้นได้
    ความชื้น 70% – 79% : สภาวะดินแฉะ หากไม่ควบคุมให้ดี หรือปล่อยเป็นเวลานานก็อาจเข้าสู่สภาวะอันตรายได้
    ความชื้น 50% -69% : สภาวะที่พืชชอบ เนื่องจากพืชจะมีการเจริญเติบโตได้ดีที่สุดในสภาวะนี้
    ความชื้น 40% – 49% : สภาวะแห้ง ควรเพิ่มความชื้นให้แก่ดิน เพื่อให้พืชเจริญเติบโตได้
    ความชื้น 0% – 39% : สภาวะวิกฤติ สามารถทำให้พืชแห้งและเหี่ยวเฉาตายได้
    หากความชื้นในดินต่ำ สามารถเพิ่มการให้น้ำ เพื่อเพิ่มความชื้นให้กับดิน แต่ถ้าหากเป็นพื้นที่แห้งแล้งมาก มีการระเหยของน้ำสูง อาจต้องใช้วิทีห่มดินเข้ามาช่วย โดยหลักการคือ นำวัสดุต่างๆ มาปกคลุมไว้ที่หน้าดินเพื่อกักเก็บความชื้นไว้ในดิน

    สินค้าเหมาะสมกับการดูแลสวนและที่ดิน รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง
    ลวดหนาม ตาข่ายถัก
     
  9. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    ลวดหนาม คืออะไร?
    B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3.jpg
    ลวดหนาม

    ลวดหนามเป็นอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นเส้นลวดที่นำมาดัดเป็นเกลียว และมีปมหนามที่แหลมคม 3-4 แฉก เส้นลวดทำมาจากโลหะที่มีความแข็งแรงทนทาน

    ลวดหนามนิยมนำมาใช้ในการล้อมพื้นที่ต่าง ๆ เช่น ล้อมสวน ล้อมที่ดิน ล้อมโรงงาน เพื่อป้องกันไม่ให้คนและสัตว์เข้ามาบุกรุก รวมไปถึงใช้เป็นรั้วบอกเขตแดน

    จุดกำเนิดของลวดหนามเริ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1867 โดยนายโจเซฟ ฟราย ชาวอเมริกัน ซึ่งได้จดสิทธิบัตรลวดหนามชนิดแรกของโลก ลวดหนามในสมัยนั้นมีลักษณะเป็นเส้นลวดบาง ๆ พันด้วยหนามแหลมคม 2-4 แฉก

    ลวดหนามได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นรั้วที่มีประสิทธิภาพสูง ราคาถูก และติดตั้งได้ง่าย

    ปัจจุบัน ลวดหนามมีหลากหลายรูปแบบ มีทั้งลวดหนามแบบธรรมดา ลวดหนามแบบมีตาข่าย ลวดหนามแบบมีไฟฟ้า เป็นต้น

    ประโยชน์ของลวดหนาม

    ลวดหนามมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

    ใช้เป็นรั้วป้องกันความปลอดภัย
    ใช้เป็นรั้วกั้นเขตแดน
    ใช้เป็นรั้วล้อมสวนหรือที่ดิน
    ใช้เป็นรั้วเลี้ยงปศุสัตว์
    ใช้เป็นรั้วป้องกันสิ่งอันตรายจากผู้บุกรุก
    ข้อควรระวังในการใช้ลวดหนาม

    การใช้ลวดหนามควรระมัดระวังอันตรายจากหนามแหลมคม ซึ่งอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บได้ ควรติดตั้งลวดหนามให้ห่างจากตัวอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างน้อย 2 เมตร และไม่ควรปีนป่ายหรือสัมผัสกับลวดหนามโดยเด็ดขาด

    สรุป

    ลวดหนามเป็นอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพสูง ราคาถูก และติดตั้งได้ง่าย นิยมนำมาใช้ในการล้อมพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อป้องกันการบุกรุกจากคนและสัตว์
    ลวดหนาม ตาข่ายถัก
    รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง
     
  10. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    เลี้ยงไส้เดือนดิน งานวัยเกษียณทำอยู่บ้าน สร้างเงินได้
    %B9%84%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99.jpg
    หลายท่านจะคุ้นเคยกับข้อดีของไส้เดือนในเรื่องการพรวนดินเพียงอย่างเดียว แต่ข้อดีของไส้เดือนดินยังไม่หมดแค่นี้
    ยังมีมูลที่ใช้แทนปุ๋ยคอกได้เป็นอย่างดี

    มูลไส้เดือนเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มีประโยชน์จำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้นพืชต้องการ เมื่อผสมมูลไส้เดือนในปริมาณเล็กน้อยกับวัสดุที่จะใช้ปลูก ได้แก่ ดินผสมหรือดินในอัตราส่วน 1:4 (มูลไส้เดือน:วัสดุที่จะใช้ปลูก) ก็จะได้มูลไส้เดือนที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งใช้ได้ทันทีและเก็บไว้ได้นาน ซึ่งเมื่อใช้จะสร้างโอเอซิสหรือรักษาความชื้นที่เหมาะสำหรับการทำงานของแบคทีเรีย งานนี้รับผิดชอบสำหรับการย่อยสลายสารชีวภาพ แปรรูปเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับพืช

    ประโยชน์ของมูลไส้เดือน

    มูลไส้เดือนเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มีประโยชน์จำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้นพืชต้องการ เมื่อผสมมูลไส้เดือนในปริมาณเล็กน้อยกับวัสดุที่จะใช้ปลูก ได้แก่ ดินผสมหรือดินในอัตราส่วน 1:4 (มูลไส้เดือน:วัสดุที่จะใช้ปลูก) ก็จะได้มูลไส้เดือนที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งใช้ได้ทันทีและเก็บไว้ได้นาน ซึ่งเมื่อใช้จะสร้างโอเอซิสหรือรักษาความชื้นที่เหมาะสำหรับการทำงานของแบคทีเรีย งานนี้รับผิดชอบสำหรับการย่อยสลายสารชีวภาพ แปรรูปเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับพืช
    13524010_1615812788435969_1166123771_o-1024x684-1.jpg
    แบคทีเรียในระบบย่อยอาหารของไส้เดือนจะผลิตตัวควบคุมการเติบโตของพืชและฮอร์โมนเพิ่มเติมที่รับผิดชอบสำหรับการเร่งเซลล์พืชให้ขยายและแบ่งตัว ซึ่งมีถึง 10,000 เท่าในมูลไส้เดือนมากกว่าในดินผสมทั่วไป
    มูลไส้เดือนจะมีความสมบูรณ์ที่ลงตัวระหว่างสารชีวภาพและช่องว่างอากาศ ซึ่งเป็นความสมดุลที่เหมาะที่จะให้รากพืชเปราะบางชอนไชลงไปได้อย่างง่ายดายเพื่อหาสารอาหารและน้ำ ยิ่งรากมีมากเท่าไหร่ พืชก็จะสามารถรวบรวมอาหารและน้ำได้มากขึ้นเท่านั้นและทำให้พืชมีสุขภาพดีขึ้น
    พืชที่ปลูกในกระถางนานๆ ปุ๋ยมูลไส้เดือนจะไม่ทำให้ดินแข็ง จึงสามารถยืดระยะเวลาการปลูกออกไปได้โดย ไม่ต้องเปลี่ยนกระถาง
    ปลอดสารเคมี 100% ไม่เป็นพิษต่อคนสัตว์เลี้ยงและสภาพแวดล้อม
    กรณีใช้ผสมดิน ที่เป็นดินเหนียว จะช่วยเพิ่มอากาศในดิน ทำให้ดินร่วนซุย และช่วยในการถ่ายเทน้ำและอากาศได้สะดวก
    กรณีผสมดินที่เป็นดินทรายจะช่วยเพิ่มเนื้อดิน ช่วยให้ดินเก็บรักษาความชื้น และธาตุอาหารในดิน ลดการชะล้างธาตุอาหารของน้ำ
    มูลไส้เดือนดินสามารถช่วยเก็บความชื้นและปลดปล่อยออกมาให้พืชอย่าง ช้าๆ เมื่อพืชต้องการยืดระยะเวลาการให้น้ำแก่พืชได้นานขึ้น
    ช่วยลดปัญหาการสลายตัวของธาตุอาหารเป็นตัวปลดปล่อยธาตุอาหารอย่างช้าๆ ทำให้ประหยัดปุ๋ย ปกป้องดินไม่ให้มีสภาพโครงร้างแน่นเข็งและช่วยเติมอินทรียวัตถุในเนื้อดิน ช่วยให้ดินร่วนซุย รากพืชสามารถแพร่ขยายได้กว้าง
    มูลไส้เดือนดินจะมีสารประกอบของกรดฮิวมิคซึ่งเป็นตัวกักเก็บธาตุ อาหารที่จำเป็นต่อพืชหลายชนิด เช่น ฟอสฟอรัส (P) โพแทสเซียม (K) แคลเซียม (Ca) เหล็ก (Fe) และทองแดง (Cu) ซึ่งธาตุอาหารเหล่านี้จะถูกเก็บอยู่ในโมเลกุลของกรดฮิวมิค อยู่ในรูปพร้อมใช้ และจะถูกปลดปล่อยออกมาเมื่อพืชต้องการ
    มูลไส้เดือนไม่มีของแถม ที่ไม่พึงประสงค์ เช่นด้วง เชื้อราร้ายที่เขาไปทำลายพืช ไม่มีผลิตหญ้า ที่จะกลายมาเป็นมาเป็นวัชพืชในภายหลัง
    มูลไส้เดือนมีโมเลกุลที่เล็กกว่า ปุ๋ยคอกทั่วไป ต้นไม้จึงดูดซับได้ง่ายและเร็วกว่า
    มูลไส้เดือนเป็นปุ๋ยเย็นกว่าใช้กับต้นไม้ได้เลย ไม่ทำอันตรายกับต้นไม้ ต่างกับปุ๋ยคอกอื่น ที่ต้องผ่านการหมักก่อนถึงจะนำมาใช้ได้

    สินค้าเหมาะสมกับการดูแลสวนและที่ดิน โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม ตาข่ายถัก
    รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง
     
  11. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    ปลูกผักหลังบ้าน
    bangkok-urban-jungle-tam-chudaree-top-chef-thai-07.jpg
    การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

    ประโยชน์ของการปลูกผักหลังบ้าน

    การปลูกผักหลังบ้านมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

    เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ผักสดอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ แคลเซียม เหล็ก เป็นต้น วิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้มีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคต่างๆ
    ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง ผักมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น
    ช่วยลดน้ำหนัก ผักมีกากใยสูง ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว จึงช่วยลดปริมาณอาหารและแคลอรีที่รับประทานเข้าไป ส่งผลให้น้ำหนักลดลง
    เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายและสร้างความสุข การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย และสร้างความสุขให้กับตนเองและครอบครัว
    ขั้นตอนการปลูกผักหลังบ้าน

    การปลูกผักหลังบ้านสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

    เลือกพื้นที่ที่เหมาะสม พื้นที่สำหรับปลูกผักควรเป็นพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
    เตรียมดิน ดินสำหรับปลูกผักควรเป็นดินร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง
    เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะสม เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก
    หว่านหรือปลูกเมล็ด หว่านหรือปลูกเมล็ดผักตามคำแนะนำของฉลากบรรจุภัณฑ์
    รดน้ำและดูแลอย่างสม่ำเสมอ รดน้ำให้ผักชุ่มชื้นอยู่เสมอ และดูแลกำจัดวัชพืช
    ผักที่ปลูกง่าย

    ผักที่ปลูกง่าย ได้แก่ ผักสวนครัวทั่วไป เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดหอม ผักชี ต้นหอม มะเขือเทศ แตงกวา เป็นต้น ผักเหล่านี้ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ภายใน 1-2 เดือน

    เคล็ดลับในการทำสวนปลูกผัก

    ควรเลือกผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก เพื่อให้ผักเจริญเติบโตได้ดี
    ควรเตรียมดินให้พร้อมก่อนปลูกผัก โดยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดินเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุ
    ควรรดน้ำผักอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรรดน้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้รากผักเน่า
    ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพราะวัชพืชแย่งสารอาหารและน้ำจากผัก
    ควรหมั่นสังเกตผัก หากพบโรคและแมลงควรรีบกำจัดให้ทันเวลา
    การทำสวนปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
    โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนามรั้วลวดหนาม
     
  12. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    โฉนดที่ดิน “3 ข้อ เข้าใจง่ายๆ ก่อนซื้อ-ขายที่ดิน”
    messageImage_1668763628796.jpg

    >โฉนดที่ดิน ถือเป็นสินทรัพย์ที่สร้างเสริมมูลค่าได้ตลอดเวลา ทำให้หลายๆคนเลือกที่จะซื้อ-ขายโฉนดที่ดินเพื่อเก็งกำไร แต่ก่อนที่เราจะซื้อ-ขายโฉนดที่ดิน เราต้องรู้ก่อนว่าโฉนดที่ดินแบบใดซื้อ-ขายได้บ้าง และโฉนดมีกี่แบบ? แตกต่างกันอย่างไรบ้าง? เพื่อป้องกันข้อพิพาทหรือการฟ้องร้องกันในภายหลัง วันนี้เรารวบรวม 3 ข้อง่ายๆมาให้ทำความเข้าใจกันแล้ว…

    โฉนดที่ดินมีกี่แบบ?

    %82%E0%B8%89%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99-1-1-510x284.jpg

    โฉนดที่ดินทั่วไปสามารถแบ่งได้ 4 ประเภท คือ โฉนดที่ดิน (นส. 4) หนังสือสิทธิรับรองการทำประโยชน์ (นส.3ก) หนังสือสิทธิรับรองการทำประโยชน์ (นส.3) และหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) ซึ่งแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกันในลักษณะการถือครอง การใช้ประโยชน์ และการซื้อขาย ซึ่งจะแยกย่อยลงไปอีกและมีลักษณะแตกต่างกัน

    โฉนดที่ดินแต่ละแบบต่างกันอย่างไร?

    Picture1-510x267.jpg
    โฉนดที่ดินตราครุฑสีแดง หรือ นส.4
    หนังสือที่ทางราชการหรือกรมที่ดินออกให้ตามประมวลกฎหมายเพื่อเป็นการแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินของผู้ที่เป็นเจ้าของ มีระวางรูปถ่ายทางอากาศชัดเจน และมีหมุดแสดงพื้นที่ชัดเจน หากผู้ใดมีโฉนดไว้ในครอบครองก็ถือได้ว่ามีกรรมสิทธิ์ในที่ดินผืนนั้นอย่างสมบูรณ์

    โฉนดที่ดินตราครุฑสีเขียว หรือ นส. 3 ก
    หนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือเอกสารที่แสดงสิทธิการครอบครองเพื่อทำประโยชน์ในพื้นที่ดินนั้นๆ เป็นหนังสือที่ทางราชการออกให้เพื่อรับรองว่าเจ้าของสามารถทำประโยชน์ในพื้นที่นั้นๆได้ โดยที่ดินจะมีระวางรูปถ่ายทางอากาศชัดเจน โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ครอบครองต้องทำให้ที่ดินนั้นเกิดประโยชน์ต่างจาก นส.4 ที่สามารถปล่อยพื้นที่ทิ้งว่างได้

    โฉนดที่ดินตราครุฑสีดำ หรือ นส. 3/นส. 3 ข
    หนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือเอกสารที่แสดงสิทธิการครอบครองเพื่อทำประโยชน์ในพื้นที่ดินนั้นๆ เหมือนกันกับ นส. 3 ก แต่ไม่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ ไม่มีการวัดพื้นที่โดยละเอียด ลักษณะเป็นรูปแผนที่ลอยๆ อาจะใช้การอ้างอิงวัตถุ หรือต้นไม้ในบริเวณนั้นๆเพื่อเขียนร่างแผนที่ ไม่มีการกำหนดตำแหน่งที่ดินแน่นอน หรือบางกรณีใช้ออกในพื้นที่ที่ไม่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ ซึ่ง นส. 3 เป็นเอกสารที่นายอำเภอท้องที่เป็นผู้ออกให้ และนส. 3 ข เป็นหนังสือที่เจ้าหน้าที่ที่ดินเป็นออกออกให้แต่ยังไม่ได้รับรองอย่างเป็นทางการ

    โฉนดที่ดินตราครุฑสีน้ำเงินหรือสีแดง หรือ ส.ป.ก.4-01
    เอกสารสิทธิ์ให้ประชาชนเข้าทำประโยชน์ในเขตปฎิรูปที่ดิน หรือเอกสารที่ออกให้เจ้าของมีสิทธิในการทำเกษตรกรรม และการจัดที่อยู่อาศัยเพื่อเกษตรกรรม เจ้าของมีเพียงสิทธิในการครอบครองเพื่อใช้ประโยชน์ในการเกษตรเท่านั้น ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน

    ใบจอง หรือ นส.2
    หนังสือที่ทางราชการออกให้ประชาชนเพื่ออนุญาตให้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินเป็นการชั่วคราว ซึ่งผู้ที่มีใบจองต้องทำประโยชน์ในพื้นที่ดินมากกว่า 75% ของที่ดิน ภายใน 6 เดือนหลังได้รับใบจองและจะต้องทำประโยชน์แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 ปี

    สิทธิทำกิน หรือ สทก.
    หนังสือที่ราชการออกให้เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิทำกินในพื้นที่เขตป่าไม้ ซึ่งทางกรมป่าไม้จะเป็นผู้ออกให้ โดยผู้ถือสิทธิ์จะต้องทำประโยชน์ โดยกรมป่าไม้สามารถยึดคืนพื้นที่ดินได้ทันทีหากปล่อยรกร้างติดต่อกันเกิน 2 ปี

    ใบชำระภาษีบำรุงท้องที่ หรือ ภ.บ.ท.5
    ใบชำระภาษีบำรุงท้องที่ของผู้ที่อยู่อาศัย หรือใช้ประโยชน์ในพื้นที่มาแต่เดิม ไม่ใช่เอกสารสิทธิแสดงการครอบครองที่ดิน ที่ดินลักษณะนี้มักเป็นที่ดินมือเปล่า ที่ไม่มีเอกสารสิทธิใดๆทั้งสิ้น เป็นลักษณะของการอยู่อาศัย หรือใช้ประโยชน์สืบทอดกันมาเป็นรุ่นต่อรุ่น แต่จะไม่มีสิทธิในการครอบครองที่ดิน เจ้าของที่ดินตัวจริงคือ รัฐ

    ใบไต่สวน หรือ น.ส. 5
    หนังสือที่แสดงการสอบสวนเพื่อออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือแสดงสิทธิ์ที่ดินและให้จดทะเบียนสิทธิ์และนิติกรรมในใบไต่สวนได้ ไม่ใช่หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ แต่สามารถจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายที่ดิน และโอนให้กันได้ถ้าที่ดินมีใบไต่สวนและมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือเป็นการจดทะเบียนโอนมรดก

    โฉนดที่ดินแบบใดสามารถซื้อ-ขายได้?
    โฉนดที่ดินที่ซื้อ-ขายได้

    โฉนดที่ดินตราครุฑสีแดง หรือ นส.4 :
    สามารถซื้อ ขาย โอน จำนอง หรือค้ำประกันได้ทั้งหมด ทำให้นิยมซื้อขายมากที่สุด และมีมูลค่าด้านราคาสูงที่สุด ราคาของโฉนด นส.4 มีราคาสูงเมื่อเทียบกับเอกสารชนิดอื่นๆ โดยหากมีการซื้อขาย ผู้ซื้อ-ผู้ขายจะต้องไปทำการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ ต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงานที่ดินเท่านั้น มิฉะนั้นจะถือ เป็นโมฆะ

    โฉนดที่ดินตราครุฑสีเขียว หรือ นส. 3 ก :
    สามารถซื้อ ขาย โอน จำนองได้ โดยเมื่อมีการสอบเขตแล้ว เจ้าของสามารถนำหลักฐานไปขออกโนดได้ทันทีไม่ต้องรอรังวัดติดประกาศ 30 วัน

    โฉนดที่ดินตราครุฑสีดำ หรือ นส. 3/นส. 3 ข :
    สามารถซื้อ ขาย โอนได้ โดยการซื้อ-ขายจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ดินเข้ามาทำการรังวัดและติดประกาศเป็นระยะเวลา 30 วัน ถ้าไม่มีใครยื่นเรื่องขอคัดค้าน จึงจะสามารถทำเรื่องขอออกโฉนดได้

    โฉนดที่ดินที่ซื้อ-ขายไม่ได้

    โฉนดที่ดินตราครุฑสีน้ำเงินหรือสีแดง หรือ ส.ป.ก.4-01 :
    ไม่สามารถซื้อ ขาย โอน จำนองได้ แต่สามารถใช้เป็นมรดกตกทอดได้ โดยทายาทจะต้องทำเกษตรกรรมเท่านั้น หรือให้เช่าเพื่อการเกษตรได้

    ใบจอง หรือ นส.2 :
    ไม่สามารถซื้อ ขาย โอน จำนองได้ แต่สามารถใช้เป็นมรดกตกทอดได้

    สิทธิทำกิน หรือ สทก. :
    ไม่สามารถซื้อ ขาย โอน จำนองได้ แต่สามารถใช้เป็นมรดกตกทอดได้

    ใบชำระภาษีบำรุงท้องที่ หรือ ภ.บ.ท.5 :
    ไม่สามารถซื้อ ขาย โอน จำนองได้ แต่สามารถใช้เป็นมรดกตกทอดได้

    ใบไต่สวน หรือ น.ส. 5 :
    ไม่สามารถซื้อ ขาย โอน จำนองได้ แต่สามารถใช้เป็นมรดกตกทอดได้

    เป็นอย่างไรกันบ้างกับการทำความเข้าใจ 3 ข้อง่ายๆ ก่อนซื้อ-ขายโฉนดที่ดิน สำหรับใครที่ถือโฉนดที่ดินไว้อย่าลืมเช็คว่าตัวเองถือเอกสารลักษณะใด เพื่อใช้ประโยชน์จากที่ดินให้เต็มที่ หรือใครที่กำลังจะมองหาซื้อที่ดินก็อย่าลืมเช็คกันนะว่าที่ดินนั้นสามารถซื้อ-ขายได้หรือไม่เพื่อให้เรามีกรรมสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของโดยปราศจากข้อพิพาทอีกด้วย หลังซื้อแล้ว ควรทำรั้วให้ชัดเจนเพื่อแสดงอาณาเขตบุกรุกที่ดิน



    ที่มา kasetphan
     
  13. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    ที่ดิน ส.ป.ก ต้องเสียภาษีที่ดินหรือไม่?
    Do-Alro-Have-to-Pay-Tax-1024x538.jpg

    ถ้าคุณเป็นเกษตรกรที่ได้รับที่ดินจากสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) อาจสงสัยว่า ที่ดินที่ได้มานั้นจะต้องเสียภาษีที่ดินหรือไม่? ในเมื่อเราได้รับการจัดสรรมาจากรัฐบาลแบบฟรีๆ วันนี้ เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบและเข้าใจกระบวนการเสียภาษีที่ดิน ส.ป.ก. กันครับ

    ที่ดิน ส.ป.ก คืออะไร?
    การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) หรือที่ดิน ส.ป.ก.4-01 คือ ที่ดิน ส.ป.ก. เป็นที่ดินที่รัฐจัดสรรให้แก่เกษตรกรที่ไม่มีที่ทำกินเองหรือมีเพียงเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพและสถาบันการเกษตร ซึ่งการจัดสรรนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรทางดินในการผลิตเกษตร ตาม เอกสารที่แสดงการครอบครองที่ดินที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกให้กับประชาชนเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518

    24-1024x576.jpg
    ผู้ที่มีสิทธิในที่ดิน ส.ป.ก. มีใครบ้าง?
    เกษตรกร
    เป็นผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักอยู่แล้ว โดยใช้เวลาส่วนใหญ่ในรอบปี เพื่อประกอบเกษตรกรรมแห่งท้องถิ่นนั้น

    ผู้ประสงค์จะประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก
    ผู้ยากจน มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/คน/ปี
    จบการศึกษาทางเกษตรกรรม ไม่ต่ำกว่าระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือเทียบเท่า
    เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม
    สถาบันเกษตรกร
    กลุ่มเกษตรกร
    สหกรณ์การเกษตร
    ชุมชนสหกรณ์การเกษตรตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์
    หากมีคุณสมบัติตามที่กำหนดดังกล่าวข้างต้น สามารถยื่นคำร้องเพื่อขอรับการจัดที่ดิน ณ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จังหวัด โดยให้จัดเตรียมเอกสารและหลักฐาน ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน และหลักฐานการมีที่ดิน (ถ้ามี) เพื่อให้ ส.ป.ก.จังหวัด ตรวจสอบคุณสมบัติและดำเนินการจัดหาที่ดิน และจัดที่ดิน ส.ป.ก.ต่อไป
    25-1-1024x576.jpg
    ที่ดิน ส.ป.ก. ต้องเสียภาษีหรือไม่?
    โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้มีการนำที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินมาใช้หาผลประโยชน์โดยมีค่าตอบแทนทั้งการให้เช่า เช่าซื้อ และอนุญาตหรือยินยอมให้ใช้ที่ดิน ซึ่งตามสัญญาเช่า เช่าซื้อ และหนังสืออนุญาตหรือยินยอมดังกล่าวได้กำหนดให้ผู้เช่า ผู้เช่าซื้อและผู้ได้รับอนุญาตหรือยินยอมให้ใช้ที่ดิน เป็นผู้มีหน้าที่ในการชำระค่าภาษีต่าง ๆ ในระหว่างการเช่า เช่าซื้อ และได้รับอนุญาตหรือยินยอมให้ใช้ที่ดิน

    เมื่อ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ มีการเรียกเก็บภาษีจากผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง อันเป็นทรัพย์สินของรัฐ กรณีที่ดิน ส.ป.ก. ถือเป็นที่ดินอันเป็นทรัพย์สินของรัฐประเภทหนึ่งผู้มีหน้าที่ในการเสีย ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว ได้แก่

    ผู้เช่า
    ผู้เช่าซื้อ
    ผู้ได้รับอนุญาตหรือยินยอมให้ใช้ที่ดินในฐานะผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดิน
    การจ่ายภาษีที่ดิน ส.ป.ก. อัตราเท่าไหร่? ต้องชำระที่ไหน?
    พรบ. ภาษีที่ดินฯ ต้องการเรียกเก็บภาษีที่ดินฯ ที่ต้องการเรียกเก็บภาษีจากผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินของรัฐ โดยที่ดิน ส.ป.ก.จัดเป็นที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม จึงมีเพดานภาษีงสุด 0.15% อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมูลค่า 0 – 75 ล้านบาท อัตราจัดเก็บจริง 0.01% มูลค่า 75-100 ล้านบาท ภาษี 0.03% บ้านพักอาศัย เพดานภาษี 0.3% อัตราจัดเก็บจริงมูลค่า 0-10 ล้านบาท เป็นต้น

    ขั้นตอนการจ่ายภาษีที่ดิน ส.ป.ก. จะเหมือนการจ่ายภาษีที่ดินบุคคลและนิติบุคคล โดยการชำระภาษี จะเริ่มประมาณเดือนเมษายนของทุกปี แต่หากต้องจ่ายภาษีเป็นจำนวนเกิน 3,000 บาท เราสามารถใช้สิทธิ์ขอผ่อนชำระภาษีได้ 3 งวดเท่าๆ กัน โดยไม่เสียดอกเบี้ย

    สถานที่ชำระภาษี สามารถชำระภาษีที่ดินได้ด้วยตัวเอง ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของพื้นที่ คือ

    กรุงเทพ: ชำระภาษีที่สำนักงานเขตในพื้นที่ที่ทรัพย์สินตั้งอยู่
    พัทยา: ชำระภาษีที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา
    ต่างจังหวัด: ชำระภาษีที่สำนักงานเทศบาล/ที่ทำการขององค์การบริหารส่วนตำบล/ที่ทำการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีกฎหมายกำหนด หรือสถานที่อื่นที่ผู้บริหารท้องถิ่นกำหนด รวมทั้งจุดบริการเคลื่อนที่ที่ อปท. กำหนด
    สรุป
    แม้ว่าเป็นผู้ครอบครองที่ดินของรัฐในส่วนของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) แต่หากทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. ผู้ครอบครองนั้นต้องเป็นผู้เสียภาษีตามกฎหมายที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ซึ่งหมายความว่าผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินต้องชำระภาษีที่ดินตามอัตราที่กำหนดแม้ว่าที่ดินนั้นจะเป็นของรัฐ โดยมีอัตราภาษีที่ดินเหมือนกันกับภาษีที่ดินทั่วไป และต้องดำเนินการจ่ายตามกำหนดในทุกๆ ปีด้วยนั่นเอง

    ขอบคุณที่มา https://kasetphan.com/do-alro-must-pay-tax/
     
  14. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด เริ่มวันนี้ เกษตรกร เช็คสิทธิ์-วิธี ด่วน!
    Change-Alro-to-Title-Deed-How-and-Check-Right-1024x536.jpg
    รู้หรือไม่? เกษตรกรจำนวนมากขาดเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดที่ดินที่ตัวเองใช้ทำมาหากิน และหลายคนกำลังเป็นข้อพิพาทที่ดินกับรัฐ บางกรณียืดเยื้อมาหลายสิบปี และถูกซ้ำเติมโดยนโยบายของรัฐ แม้เกษตรกรจะมีที่ดิน ส.ป.ก ก็ยังไม่มั่นคงในการถือครองเพราะห้ามเปลี่ยนมือซื้อขาย ทำให้เกษตรไม่มีแรงจูงใจในการพัฒนาที่ดินนั่นเอง

    แต่มื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เห็นชอบหลักการแปลงที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนด ทำให้การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566 ได้รับความสนใจจากเกษตรเกษตรที่ได้รับสิทธิถือครอง ส.ป.ก.4-01 ที่มีอยู่จำนวน 1,628,520 ราย ภายหลัง คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ คปก. มีมติเห็นชอบหลักการปรับปรุงเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 เพื่อยกระดับเป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

    นโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนการปรับปรุงหนังสือนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก. 4-0 1 ให้เป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

    เเต่ที่เราจะรู้ว่าการเปลี่ยนโฉนดนั้นมีการเปลี่ยนเเปลงอะไรบ้าง เราต้องมารู้กันก่อนว่า ส.ป.ก คืออะไร ส.ป.ก คือ การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือที่ดิน ส.ป.ก.4-01 คือที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่รัฐทำการจัดสรรให้แก่เกษตรกรผู้ไม่มีที่ทำกินของตนเอง หรือมีเพียงเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพและสถาบันการเกษตร ซึ่งทางรัฐให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม ให้มีการใช้ทรัพยากรจากพื้นที่ ผลิตจำหน่ายให้เกิดผลผลิตที่ดี

    ผู้ที่ได้รับสิทธิ์การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566
    เกษตรกรที่ถือเอกสารสิทธิ์ สปก. อยู่แล้ว และยังใช้ประโยชน์ในพื้นที่นั้น ต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป จะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน ภายในระยะเวลา 2 ปี
    โดยได้รับสิทธิ์ตามเอกสารสิทธิ์ที่ตนถืออยู่ แต่จะยังไม่ซื้อขายที่ดินดังกล่าวได้ในระยะเวลา 5 ปีจากวันที่ได้รับโฉนด
    หากในกรณีที่มีความจำเป็นในการกู้ยืม (การจำนอง) หรือจำเป็นจะต้องขายที่ดินที่ได้รับโฉนดนั้นก่อนเวลา 5 ปี ให้ดำเนินการผ่านธนาคารที่ดิน (ที่จะจัดตั้งขึ้น) โดยธนาคารที่ดินจะคิดราคาที่ดินตามราคาประเมินของที่ดินที่มีโฉนด
    ส่วนเกษตรกรที่ยังไม่ได้เป็นผู้ถือเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน สปก. (หรือเป็นผู้ซื้อ/เปลี่ยนมือที่ดิน สปก. นั้น) เกษตรกรจะได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน หาก (ก) เกษตรกรมีการใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำการเกษตรต่อเนื่องมา 10 ปีขึ้นไป และ (ข) มีเอกสารหรือพยานการทำข้อตกลง/การยินยอมจากผู้ที่มีชื่อในเอกสารสิทธิ์ สปก. รวมถึง (ค) เกษตรกรผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท เกษตรกรดังกล่าวจะสามารถเปลี่ยน สปก. เป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่
    14.jpg
    ระเบียบฯ การเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นฉโนดที่ดิน 2566
    เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับมอบที่ดินให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินมีหน้าที่ปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

    (1) ต้องทำประโยชน์ในที่ดินด้วยตนเองเต็มความสามารถ และไม่นำที่ดินนั้นทั้งหมดหรือบางส่วนไปให้บุคคลอื่นไม่ว่าจะโดยการขาย ให้เช่า หรือเข้าทำประโยชน์ หรือโดยพฤติกรรมใดๆ ที่แสดงให้เห็นในลักษณะนั้น เว้นแต่ได้รับความยินยอมจาก ส.ป.ก. ทั้งนี้ ไม่รวมถึงกรณีการโอนให้เป็นไปตามที่ระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกและจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร การโอน หรือตกทอดทางมรดกสิทธิการเช่าหรือเช่าซื้อและการจัดการทรัพย์สินและหนี้สินของเกษตรกรผู้ได้รับที่ดิน พ.ศ. 2564 กำหนด
    ห้ามมิให้ผู้ได้รับโฉนดเพื่อการเกษตรเปลี่ยนมือ สละสิทธิ หรือกระทำการอื่นใด เพื่อให้บุคคลอื่นได้รับสิทธิในโฉนดเพื่อการเกษตรแทนตน ภายในสองปี นับแต่วันที่ออกโฉนดเพื่อการเกษตร เว้นแต่เป็นการจัดที่ดินแทนที่แก่คู่สมรส บุตร เครือญาติหรือทายาท

    (2) ยินยอมทำสัญญาเช่า หรือสัญญาเช่าซื้อ หรือสัญญาจัดให้ โดยมีค่าชดเชยและต้องปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว
    (3) ไม่เปลี่ยนแปลงสภาพที่ดิน จนเป็นเหตุให้ที่ดินเสื่อมสภาพความเหมาะสมแก่การประกอบเกษตรกรรม
    (4) ไม่ขุดบ่อเพื่อการเกษตรกรรมเกินร้อยละห้าของเนื้อที่ที่ได้รับมอบ
    (5) ไม่ปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างใด ๆ เว้นแต่การปลูกสร้างตามสมควรสำหรับโรงเรือนที่อยู่อาศัยยุ้งฉาง หรือสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ที่ใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรของเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรนั้น
    (6) ดูแลรักษาหมุดหลักฐานของ ส.ป.ก. และหลักเขตที่ดินในที่ดินที่ได้รับมอบมิให้เกิดชำรุดเสียหายหรือเคลื่อนย้ายไปจากตำแหน่งเดิม
    (7) ไม่กระทำการใดๆ ในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งก่อสร้างในโครงการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม การทำประโยชน์ในที่ดินของเกษตรกรอื่นและสภาพแวดล้อม
    ( cool.gif ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการ คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด รวมทั้งคำสั่งของเลขาธิการหรือผู้ซึ่งเลขาธิการมอบหมาย
    (9) ปฏิบัติตามสัญญากู้ยืมที่ทำกับ ส.ป.ก. และปฏิบัติตามพันธกรณีที่มีอยู่กับสถาบันการเงินหรือบุคคลที่ดำเนินงานร่วมกับ ส.ป.ก
    13.jpg
    วิธีการเปลี่ยน ส.ป.ก เป็นฉโนดที่ดิน ปี 2566
    ดาวน์โหลดแอป “SmartLands” หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ dol.go.th บนโทรศัพท์ที่มีอินเตอร์เน็ตและเปิดสัญญาณ GPS โดยจำต้องดำเนินการบริเวณที่ดินของผู้ต้องการเปลี่ยน ส.ป.ก
    เลือกเมนู “บอกดิน” และกดปุ่ม “แจ้งตำแหน่งที่ดิน”
    รอให้ระบบแสดงค่าพิกัดตำแหน่งที่ดินของท่าน
    กรอกข้อมูลเจ้าของที่ดิน เช่น ชื่อ, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์ ตามที่ระบบกำลังแสดง
    เลือกหลักฐานที่ดินที่มีอยู่กับท่าน เช่น ส.ป.ก., น.ส.3, น.ส.3 ก
    หากไม่มีหลักฐานใดๆ ให้เลือก “อื่นๆ” และกดปุ่ม “ส่ง”
    รอระบบตรวจสอบและดำเนินการประมวลผล หลังจากนั้นรอรับการแจ้งกลับจากระบบหรือจากกรมที่ดินผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน “SmartLands”
    สามารถติดตามสถานะการดำเนินการผ่านทางแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ได้
    15.jpg
    สรุป
    การเปลี่ยนส.ป.ก.เป็นโฉนดที่ดินในปี 2566 ต้องเป็นเกษตรกรที่ใช้ประโยชน์ที่ดินต่อเนื่องมา 10 ปี ไม่ปล่อยให้ที่ดิน รกร้างว่างเปล่า ต้องมีการทำเกษตร หรือล้อมรั้ว เเบ่งที่ไว้อย่างชัดเจน การที่ล้อมรั้วตาข่าย หรือ ล้อมรั้วลวดหนาม จะเป็นตัวช่วยในการกำหนดขอบเขตของที่ดิน ไม่ให้เสียประโยชน์พื้นที่นั้นไป , ได้รับสิทธิ์ในระยะ 2 ปี, แต่ไม่สามารถซื้อขายที่ดินที่ได้รับโฉนดได้ภายใน 5 ปี, และกรณีจำเป็นในการกู้ยืมหรือขายที่ดินต้องผ่านธนาคารที่ดินที่จัดตั้งขึ้น เกษตรกรที่ยังไม่ถือ ส.ป.ก. สามารถได้รับการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดิน หากใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำการเกษตรต่อเนื่องมา 10 ปี, มีเอกสารหรือพยานการทำข้อตกลง/การยินยอม, เป็นเจ้าของทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท, และสามารถเปลี่ยนส.ป.ก.เป็นโฉนดได้ไม่เกิน 50 ไร่

    ขอบคุณที่มาจาก https://www.ruataewada.com/change-alro-to-title-deed-how-and-check-right/
     
  15. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    **สัตว์เหมาะแก่การหาเงิน**
    cover-web-01-1-1024x512.png
    สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มนุษย์เลี้ยงไว้เพื่อประโยชน์หลายประการ เช่น เป็นแหล่งอาหาร เป็นเพื่อนคู่ใจ หรือเป็นสัตว์เลี้ยงสวยงาม ในปัจจุบัน ยังมีสัตว์อีกหลายชนิดที่สามารถนำมาเป็นอาชีพได้ หรือที่เรียกว่า "สัตว์เศรษฐกิจ" ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรหรือผู้เลี้ยงได้อย่างดี

    **ปัจจัยในการเลือกสัตว์เศรษฐกิจ**

    ในการเลือกสัตว์เศรษฐกิจนั้น จะต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายประการ ดังนี้

    * **ความต้องการของตลาด** จะต้องเลือกสัตว์ที่มีความต้องการสูงในตลาด เพื่อที่จะขายผลผลิตได้ง่ายและได้ราคาดี
    * **สภาพพื้นที่และภูมิประเทศ** จะต้องเลือกสัตว์ที่ทนต่อสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมในพื้นที่นั้น ๆ
    * **ความรู้และประสบการณ์ในการเลี้ยง** จะต้องเลือกสัตว์ที่มีความรู้และประสบการณ์ในการเลี้ยงอยู่บ้าง เพื่อที่จะดูแลสัตว์ให้เจริญเติบโตและแข็งแรง

    **ตัวอย่างสัตว์เศรษฐกิจ**

    ตัวอย่างสัตว์เศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ได้แก่

    * **สัตว์เลี้ยงสวยงาม** เช่น ปลาสวยงาม นกสวยงาม สัตว์เลื้อยคลานสวยงาม เป็นต้น
    * **สัตว์เศรษฐกิจเนื้อ** เช่น วัว หมู ไก่ เป็ด เป็นต้น
    * **สัตว์เศรษฐกิจนม** เช่น วัว แพะ เป็นต้น
    * **สัตว์เศรษฐกิจไข่** เช่น ไก่ เป็ด เป็นต้น
    * **สัตว์เศรษฐกิจปีก** เช่น เป็ด ห่าน เป็นต้น
    * **สัตว์เศรษฐกิจขน** เช่น แกะ แพะ เป็นต้น
    * **สัตว์เศรษฐกิจหนัง** เช่น วัว หมู แพะ เป็นต้น
    * **สัตว์เศรษฐกิจน้ำ** เช่น ปลานิล ปลาดุก ปลาตะเพียน เป็นต้น

    **ข้อควรระวังในการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจ**

    ในการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจนั้น จะต้องคำนึงถึงข้อควรระวังต่าง ๆ ดังนี้

    * **ศึกษาข้อมูลและวางแผนอย่างรอบคอบ** ก่อนตัดสินใจเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ชนิดนั้น ๆ อย่างละเอียด รวมถึงความต้องการของตลาดและสภาพพื้นที่ เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการเลี้ยง
    * **ดูแลสัตว์อย่างเอาใจใส่** สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องมีการดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เจริญเติบโตและแข็งแรง
    * **ป้องกันโรคระบาด** โรคระบาดเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในการเลี้ยงสัตว์ ควรป้องกันโรคระบาดอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้สัตว์ป่วยหรือตาย

    สัตว์เศรษฐกิจเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรหรือผู้เลี้ยงได้เป็นอย่างดี หากศึกษาข้อมูลและวางแผนอย่างรอบคอบ ก็สามารถประสบความสำเร็จในการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจและสร้างรายได้ได้อย่างยั่งยืน

    โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม
    ตาข่ายถักรั้วตาข่าย
    รั้วแรงดึง
     
  16. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    **ที่ดินกรุงเทพ ทรัพยากรสำคัญที่มีจำกัด**
    %E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%AF.jpg
    กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของประเทศ ส่งผลให้ความต้องการใช้ที่ดินในกรุงเทพมหานครมีสูงอย่างต่อเนื่อง

    ที่ดินในกรุงเทพมหานครมีราคาสูง เนื่องจากเป็นที่ดินที่มีศักยภาพสูง ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกต่อการเดินทางและเข้าถึงสาธารณูปโภคต่างๆ มากมาย ส่งผลให้ที่ดินในกรุงเทพมหานครเป็นที่ต้องการจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป

    ความต้องการใช้ที่ดินในกรุงเทพมหานครที่สูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาที่ดินในกรุงเทพมหานครมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ส่งผลให้ที่ดินกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง และกลายเป็นเป้าหมายของนักลงทุนจำนวนมาก

    อย่างไรก็ตาม ที่ดินในกรุงเทพมหานครมีจำนวนจำกัด เนื่องจากพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่เมืองที่มีความหนาแน่นสูง ส่งผลให้ที่ดินในกรุงเทพมหานครเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีจำกัด

    การใช้ประโยชน์ที่ดินในกรุงเทพมหานครจึงควรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน เพื่อไม่ให้ที่ดินถูกใช้อย่างสิ้นเปลือง และเพื่อให้ที่ดินยังคงสามารถใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว

    **ปัจจัยที่มีผลต่อราคาที่ดินในกรุงเทพมหานคร**

    ราคาที่ดินในกรุงเทพมหานครมีปัจจัยหลายประการที่มีผลต่อราคา ปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่

    * **ทำเลที่ตั้ง** ที่ดินที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกต่อการเดินทางและเข้าถึงสาธารณูปโภคต่างๆ มากมาย จะมีราคาสูงกว่าที่ดินที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ห่างไกล
    * **ขนาดที่ดิน** ที่ดินที่มีขนาดกว้างขวาง จะมีราคาสูงกว่าที่ดินที่มีขนาดแคบ
    * **ศักยภาพในการพัฒนา** ที่ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนาสูง เช่น ที่ดินที่มีทำเลติดถนนใหญ่ ที่ดินที่มีที่ดินว่างเปล่า ที่ดินที่มีสาธารณูปโภคครบครัน จะมีราคาสูงกว่าที่ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนาต่ำ
    * **ความต้องการใช้ที่ดิน** ที่ดินที่มีความต้องการใช้สูง จะมีราคาสูงกว่าที่ดินที่มีความต้องการใช้ต่ำ

    **แนวโน้มราคาที่ดินในกรุงเทพมหานคร**

    ราคาที่ดินในกรุงเทพมหานครมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการใช้ที่ดินในกรุงเทพมหานครมีสูงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองอาจมีผลต่อราคาที่ดินในกรุงเทพมหานครได้เช่นกัน

    หากเศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการลงทุนในประเทศไทยมีแนวโน้มที่ดี ราคาที่ดินในกรุงเทพมหานครก็จะมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

    ในทางกลับกัน หากเศรษฐกิจของประเทศไทยชะลอตัว หรือมีปัจจัยทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในประเทศไทย ราคาที่ดินในกรุงเทพมหานครก็อาจลดลงได้

    **แนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินในกรุงเทพมหานครอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน**

    การใช้ประโยชน์ที่ดินในกรุงเทพมหานครอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน มีแนวทางดังนี้

    * **การใช้ที่ดินอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน** หมายถึง การใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
    * **การอนุรักษ์ที่ดิน** หมายถึง การป้องกันไม่ให้ที่ดินเสื่อมโทรม โดยการรักษาสภาพทางกายภาพและเคมีของดินให้คงอยู่
    * **การฟื้นฟูที่ดิน** หมายถึง การนำที่ดินที่เสื่อมโทรมกลับคืนสู่สภาพเดิมหรือสภาพที่ดีขึ้น

    ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปควรร่วมมือกันในการใช้ประโยชน์ที่ดินในกรุงเทพมหานครอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน เพื่อให้ที่ดินยังคงเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของประเทศ

    ลวดหนาม
    รั้วลวดหนาม
    รั้วตาข่าย
    ลวดหนามกันสนิม
     
  17. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    โฉนดที่ดิน “3 ข้อ เข้าใจง่ายๆ ก่อนซื้อ-ขายที่ดิน”
    messageImage_1668763628796.jpg

    >โฉนดที่ดิน ถือเป็นสินทรัพย์ที่สร้างเสริมมูลค่าได้ตลอดเวลา ทำให้หลายๆคนเลือกที่จะซื้อ-ขายโฉนดที่ดินเพื่อเก็งกำไร แต่ก่อนที่เราจะซื้อ-ขายโฉนดที่ดิน เราต้องรู้ก่อนว่าโฉนดที่ดินแบบใดซื้อ-ขายได้บ้าง และโฉนดมีกี่แบบ? แตกต่างกันอย่างไรบ้าง? เพื่อป้องกันข้อพิพาทหรือการฟ้องร้องกันในภายหลัง วันนี้เรารวบรวม 3 ข้อง่ายๆมาให้ทำความเข้าใจกันแล้ว…

    โฉนดที่ดินมีกี่แบบ?

    %82%E0%B8%89%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99-1-1-510x284.jpg

    โฉนดที่ดินทั่วไปสามารถแบ่งได้ 4 ประเภท คือ โฉนดที่ดิน (นส. 4) หนังสือสิทธิรับรองการทำประโยชน์ (นส.3ก) หนังสือสิทธิรับรองการทำประโยชน์ (นส.3) และหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) ซึ่งแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกันในลักษณะการถือครอง การใช้ประโยชน์ และการซื้อขาย ซึ่งจะแยกย่อยลงไปอีกและมีลักษณะแตกต่างกัน

    โฉนดที่ดินแต่ละแบบต่างกันอย่างไร?

    Picture1-510x267.jpg
    โฉนดที่ดินตราครุฑสีแดง หรือ นส.4
    หนังสือที่ทางราชการหรือกรมที่ดินออกให้ตามประมวลกฎหมายเพื่อเป็นการแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินของผู้ที่เป็นเจ้าของ มีระวางรูปถ่ายทางอากาศชัดเจน และมีหมุดแสดงพื้นที่ชัดเจน หากผู้ใดมีโฉนดไว้ในครอบครองก็ถือได้ว่ามีกรรมสิทธิ์ในที่ดินผืนนั้นอย่างสมบูรณ์

    โฉนดที่ดินตราครุฑสีเขียว หรือ นส. 3 ก
    หนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือเอกสารที่แสดงสิทธิการครอบครองเพื่อทำประโยชน์ในพื้นที่ดินนั้นๆ เป็นหนังสือที่ทางราชการออกให้เพื่อรับรองว่าเจ้าของสามารถทำประโยชน์ในพื้นที่นั้นๆได้ โดยที่ดินจะมีระวางรูปถ่ายทางอากาศชัดเจน โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ครอบครองต้องทำให้ที่ดินนั้นเกิดประโยชน์ต่างจาก นส.4 ที่สามารถปล่อยพื้นที่ทิ้งว่างได้

    โฉนดที่ดินตราครุฑสีดำ หรือ นส. 3/นส. 3 ข
    หนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือเอกสารที่แสดงสิทธิการครอบครองเพื่อทำประโยชน์ในพื้นที่ดินนั้นๆ เหมือนกันกับ นส. 3 ก แต่ไม่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ ไม่มีการวัดพื้นที่โดยละเอียด ลักษณะเป็นรูปแผนที่ลอยๆ อาจะใช้การอ้างอิงวัตถุ หรือต้นไม้ในบริเวณนั้นๆเพื่อเขียนร่างแผนที่ ไม่มีการกำหนดตำแหน่งที่ดินแน่นอน หรือบางกรณีใช้ออกในพื้นที่ที่ไม่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ ซึ่ง นส. 3 เป็นเอกสารที่นายอำเภอท้องที่เป็นผู้ออกให้ และนส. 3 ข เป็นหนังสือที่เจ้าหน้าที่ที่ดินเป็นออกออกให้แต่ยังไม่ได้รับรองอย่างเป็นทางการ

    โฉนดที่ดินตราครุฑสีน้ำเงินหรือสีแดง หรือ ส.ป.ก.4-01
    เอกสารสิทธิ์ให้ประชาชนเข้าทำประโยชน์ในเขตปฎิรูปที่ดิน หรือเอกสารที่ออกให้เจ้าของมีสิทธิในการทำเกษตรกรรม และการจัดที่อยู่อาศัยเพื่อเกษตรกรรม เจ้าของมีเพียงสิทธิในการครอบครองเพื่อใช้ประโยชน์ในการเกษตรเท่านั้น ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน

    ใบจอง หรือ นส.2
    หนังสือที่ทางราชการออกให้ประชาชนเพื่ออนุญาตให้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินเป็นการชั่วคราว ซึ่งผู้ที่มีใบจองต้องทำประโยชน์ในพื้นที่ดินมากกว่า 75% ของที่ดิน ภายใน 6 เดือนหลังได้รับใบจองและจะต้องทำประโยชน์แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 ปี

    สิทธิทำกิน หรือ สทก.
    หนังสือที่ราชการออกให้เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิทำกินในพื้นที่เขตป่าไม้ ซึ่งทางกรมป่าไม้จะเป็นผู้ออกให้ โดยผู้ถือสิทธิ์จะต้องทำประโยชน์ โดยกรมป่าไม้สามารถยึดคืนพื้นที่ดินได้ทันทีหากปล่อยรกร้างติดต่อกันเกิน 2 ปี

    ใบชำระภาษีบำรุงท้องที่ หรือ ภ.บ.ท.5
    ใบชำระภาษีบำรุงท้องที่ของผู้ที่อยู่อาศัย หรือใช้ประโยชน์ในพื้นที่มาแต่เดิม ไม่ใช่เอกสารสิทธิแสดงการครอบครองที่ดิน ที่ดินลักษณะนี้มักเป็นที่ดินมือเปล่า ที่ไม่มีเอกสารสิทธิใดๆทั้งสิ้น เป็นลักษณะของการอยู่อาศัย หรือใช้ประโยชน์สืบทอดกันมาเป็นรุ่นต่อรุ่น แต่จะไม่มีสิทธิในการครอบครองที่ดิน เจ้าของที่ดินตัวจริงคือ รัฐ

    ใบไต่สวน หรือ น.ส. 5
    หนังสือที่แสดงการสอบสวนเพื่อออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือแสดงสิทธิ์ที่ดินและให้จดทะเบียนสิทธิ์และนิติกรรมในใบไต่สวนได้ ไม่ใช่หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ แต่สามารถจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายที่ดิน และโอนให้กันได้ถ้าที่ดินมีใบไต่สวนและมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือเป็นการจดทะเบียนโอนมรดก

    โฉนดที่ดินแบบใดสามารถซื้อ-ขายได้?
    โฉนดที่ดินที่ซื้อ-ขายได้

    โฉนดที่ดินตราครุฑสีแดง หรือ นส.4 :
    สามารถซื้อ ขาย โอน จำนอง หรือค้ำประกันได้ทั้งหมด ทำให้นิยมซื้อขายมากที่สุด และมีมูลค่าด้านราคาสูงที่สุด ราคาของโฉนด นส.4 มีราคาสูงเมื่อเทียบกับเอกสารชนิดอื่นๆ โดยหากมีการซื้อขาย ผู้ซื้อ-ผู้ขายจะต้องไปทำการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ ต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงานที่ดินเท่านั้น มิฉะนั้นจะถือ เป็นโมฆะ

    โฉนดที่ดินตราครุฑสีเขียว หรือ นส. 3 ก :
    สามารถซื้อ ขาย โอน จำนองได้ โดยเมื่อมีการสอบเขตแล้ว เจ้าของสามารถนำหลักฐานไปขออกโนดได้ทันทีไม่ต้องรอรังวัดติดประกาศ 30 วัน

    โฉนดที่ดินตราครุฑสีดำ หรือ นส. 3/นส. 3 ข :
    สามารถซื้อ ขาย โอนได้ โดยการซื้อ-ขายจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ดินเข้ามาทำการรังวัดและติดประกาศเป็นระยะเวลา 30 วัน ถ้าไม่มีใครยื่นเรื่องขอคัดค้าน จึงจะสามารถทำเรื่องขอออกโฉนดได้

    โฉนดที่ดินที่ซื้อ-ขายไม่ได้

    โฉนดที่ดินตราครุฑสีน้ำเงินหรือสีแดง หรือ ส.ป.ก.4-01 :
    ไม่สามารถซื้อ ขาย โอน จำนองได้ แต่สามารถใช้เป็นมรดกตกทอดได้ โดยทายาทจะต้องทำเกษตรกรรมเท่านั้น หรือให้เช่าเพื่อการเกษตรได้

    ใบจอง หรือ นส.2 :
    ไม่สามารถซื้อ ขาย โอน จำนองได้ แต่สามารถใช้เป็นมรดกตกทอดได้

    สิทธิทำกิน หรือ สทก. :
    ไม่สามารถซื้อ ขาย โอน จำนองได้ แต่สามารถใช้เป็นมรดกตกทอดได้

    ใบชำระภาษีบำรุงท้องที่ หรือ ภ.บ.ท.5 :
    ไม่สามารถซื้อ ขาย โอน จำนองได้ แต่สามารถใช้เป็นมรดกตกทอดได้

    ใบไต่สวน หรือ น.ส. 5 :
    ไม่สามารถซื้อ ขาย โอน จำนองได้ แต่สามารถใช้เป็นมรดกตกทอดได้

    เป็นอย่างไรกันบ้างกับการทำความเข้าใจ 3 ข้อง่ายๆ ก่อนซื้อ-ขายโฉนดที่ดิน สำหรับใครที่ถือโฉนดที่ดินไว้อย่าลืมเช็คว่าตัวเองถือเอกสารลักษณะใด เพื่อใช้ประโยชน์จากที่ดินให้เต็มที่ หรือใครที่กำลังจะมองหาซื้อที่ดินก็อย่าลืมเช็คกันนะว่าที่ดินนั้นสามารถซื้อ-ขายได้หรือไม่เพื่อให้เรามีกรรมสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของโดยปราศจากข้อพิพาทอีกด้วย หลังซื้อแล้ว ควรทำรั้วให้ชัดเจนเพื่อแสดงอาณาเขตบุกรุกที่ดิน



    ที่มา kasetphan
     
  18. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    ปลูกผักหลังบ้านต้องล้อมรั้วไหม? เรื่องควรรู้ก่อนลงมือทำสวนครัว
    สวนครัวหลังบ้าน กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังทำให้เรามีผักสดปลอดสารพิษไว้รับประทานเองได้อีกด้วย แต่หลายคนอาจสงสัยว่าจำเป็นต้องล้อมรั้วหรือไม่? วันนี้เรามีคำตอบมาฝาก
    202310052058382-2.jpg
    ข้อดีของการล้อมรั้ว

    ป้องกันสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่า: สัตว์เลี้ยงของเราหรือสัตว์ป่าอย่างนก หนู กระรอก อาจเข้ามาทำลายแปลงผักของเราได้ การล้อมรั้วจึงช่วยป้องกันปัญหานี้ได้
    กำหนดขอบเขต: รั้วจะช่วยกำหนดขอบเขตของแปลงผักให้ชัดเจน ทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย และง่ายต่อการดูแลรักษา
    เพิ่มความสวยงาม: การเลือกรั้วที่สวยงามเข้ากับสไตล์บ้าน จะช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับสวนหลังบ้านของเราได้อีกด้วย
    ข้อเสียของการล้อมรั้ว

    ค่าใช้จ่าย: การสร้างรั้วต้องใช้งบประมาณพอสมควร ทั้งค่าอุปกรณ์และค่าแรง หากมีงบจำกัดอาจเป็นข้อพิจารณา
    บดบังทัศนียภาพ: รั้วอาจบดบังทัศนียภาพและทำให้สวนดูอึดอัดได้ โดยเฉพาะรั้วทึบสูง
    การบำรุงรักษา: รั้วก็ต้องการการดูแลรักษาเช่นกัน ทั้งการทำความสะอาด การทาสี เพื่อให้คงความสวยงามและใช้งานได้ยาวนาน
    แล้วจำเป็นต้องล้อมรั้วหรือไม่?

    จริงๆ แล้วการล้อมรั้วไม่ใช่สิ่งจำเป็นเสมอไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น

    ชนิดของผักที่ปลูก: หากปลูกผักที่สัตว์ไม่ค่อยสนใจ เช่น พริก ตะไคร้ อาจไม่จำเป็นต้องล้อมรั้ว
    สภาพแวดล้อม: หากบริเวณบ้านมีสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ป่าชุกชุม การล้อมรั้วก็เป็นสิ่งที่ควรทำ
    งบประมาณ: หากมีงบจำกัด อาจเลือกใช้วิธีอื่นในการป้องกันสัตว์ เช่น ใช้ตาข่ายคลุมแปลงผัก หรือปลูกพืชไล่แมลง
    สรุป

    การล้อมรั้วสวนผักหลังบ้านมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนั้นก่อนตัดสินใจ ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ให้รอบคอบ หากไม่จำเป็นต้องล้อมรั้ว ก็สามารถใช้วิธีอื่นในการป้องกันสัตว์และดูแลแปลงผักได้เช่นกัน

    หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนทำสวนผักหลังบ้านนะคะ หากมีคำถามเพิ่มเติม สามารถค้นหาข้อมูลได้จากแหล่งต่างๆ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรได้เลยค่ะ

    โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม
    ตาข่ายถักรั้วตาข่าย
    รั้วแรงดึง
     
  19. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    **เลี้ยงปลานิล ปลาเศรษฐกิจที่เลี้ยงง่าย รายได้งาม**
    dFQROr7oWzulq5Fa5BWMDZEWkSMvzPuEidBrIlUBIgDcHix7mTVOLk8YYWwJt1h8xmN.jpg
    ปลานิลเป็นปลาน้ำจืดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยมีผลผลิตต่อปีเฉลี่ย 200,000-250,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าทางการผลิตกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีมูลค่าสูงสุดในกลุ่มสัตว์น้ำจืดทั้งหมด ปลานิลเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว ทนทานต่อสภาพอากาศและโรคภัยไข้เจ็บ จึงเหมาะสำหรับการเลี้ยงเป็นอาชีพหรือเพื่อบริโภคในครอบครัว

    **วิธีการเลี้ยงปลานิล**

    การเลี้ยงปลานิลสามารถทำได้หลายวิธี ที่นิยมกัน ได้แก่

    * **การเลี้ยงในบ่อดิน** เป็นวิธีที่ประหยัดที่สุด สามารถทำได้ในพื้นที่ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก บ่อดินที่ใช้เลี้ยงปลานิลควรมีขนาดกว้างอย่างน้อย 1 เมตร และลึกอย่างน้อย 2 เมตร บ่อดินควรระบายน้ำได้ดี เพื่อป้องกันการสะสมของตะกอน
    * **การเลี้ยงในกระชัง** เป็นวิธีที่สะดวกและประหยัดพื้นที่ สามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ่อน้ำธรรมชาติและบ่อน้ำขุด กระชังที่ใช้เลี้ยงปลานิลควรมีขนาดกว้างอย่างน้อย 2 เมตร และลึกอย่างน้อย 1 เมตร
    * **การเลี้ยงในระบบปิด** เป็นวิธีที่ทันสมัยและสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ง่าย ระบบปิดที่ใช้เลี้ยงปลานิล ได้แก่ ระบบบ่อกรอง ระบบบ่อวนน้ำ ระบบบ่อไหลเวียน เป็นต้น

    **ปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงปลานิล**

    ปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงปลานิล ได้แก่

    * **พันธุ์ปลา** ควรเลือกพันธุ์ปลานิลที่แข็งแรง ทนทานต่อโรคภัยไข้เจ็บ
    * **น้ำ** น้ำที่ใช้เลี้ยงปลานิลควรสะอาด มีปริมาณออกซิเจนเพียงพอ
    * **อาหาร** ควรให้อาหารปลานิลอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ
    * **การจัดการโรคและศัตรูพืช** ควรหมั่นตรวจดูปลาเป็นประจำ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคและศัตรูพืช

    **การเก็บเกี่ยวปลานิล**

    ปลานิลสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีอายุประมาณ 6-7 เดือน หรือเมื่อมีน้ำหนักประมาณ 500-700 กรัม ปลานิลสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายเมนู เช่น ปลานิลทอด ปลานิลผัดฉ่า ปลานิลต้มยำ เป็นต้น

    **ข้อดีของการเลี้ยงปลานิล**

    การเลี้ยงปลานิลมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

    * **เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ที่ดี**
    * **เป็นอาชีพที่ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก**
    * **เป็นอาชีพที่สามารถทำได้ทั้งครอบครัว**
    * **เป็นอาชีพที่ไม่ต้องมีความรู้หรือประสบการณ์มาก**

    **สรุป**

    การเลี้ยงปลานิลเป็นอาชีพที่น่าสนใจและสามารถสร้างรายได้ที่ดีให้กับเกษตรกร ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงปลานิลเพิ่มเติม เพื่อนำไปประกอบอาชีพหรือเพื่อบริโภคในครอบครัว

    ลวดหนาม
    รั้วลวดหนาม
    รั้วตาข่าย
    ลวดหนามกันสนิม
     
  20. sgeprint

    sgeprint สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2021
    โพสต์:
    519
    ค่าพลัง:
    +0
    สร้างบ้านต้องล้อมรั้ว: ความจำเป็น หรือ เพียงแค่ตัวเลือก?
    การสร้างบ้านสักหลังเป็นความฝันของใครหลายคน และหนึ่งในคำถามที่มักจะตามมาคือ "จำเป็นต้องล้อมรั้วบ้านหรือไม่?" บทความนี้จะพาไปสำรวจเหตุผลเบื้องหลังการสร้างรั้วบ้าน ข้อดีข้อเสีย รวมถึงปัจจัยที่ควรพิจารณาในการตัดสินใจ
    UC-housewall_fbshare.jpg
    ทำไมคนส่วนใหญ่นิยมล้อมรั้วบ้าน?
    1. ความปลอดภัย: รั้วบ้านเป็นปราการด่านแรกที่ช่วยป้องกันการบุกรุกจากผู้ไม่หวังดี ทั้งยังช่วยจำกัดการเข้าถึงของสัตว์เลี้ยงและเด็กเล็ก ทำให้สมาชิกในบ้านรู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

    2. ความเป็นส่วนตัว: รั้วบ้านช่วยสร้างขอบเขตและความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย ป้องกันสายตาจากภายนอก และลดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อมโดยรอบ

    3. ความสวยงามและมูลค่าเพิ่ม: รั้วบ้านที่ออกแบบอย่างสวยงามสามารถเสริมความโดดเด่นและเพิ่มมูลค่าให้กับตัวบ้านได้

    4. ความชัดเจนของขอบเขตที่ดิน: รั้วบ้านช่วยกำหนดขอบเขตที่ดินให้ชัดเจน ป้องกันปัญหาการบุกรุกหรือข้อพิพาทเรื่องแนวเขตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

    ข้อควรพิจารณาในการสร้างรั้วบ้าน
    1. งบประมาณ: รั้วบ้านมีราคาแตกต่างกันไปตามวัสดุ รูปแบบ และขนาด ควรกำหนดงบประมาณที่เหมาะสมก่อนตัดสินใจ

    2. วัสดุ: วัสดุที่นิยมใช้ทำรั้วบ้าน ได้แก่ เหล็ก อิฐ ปูน ไม้ หรือวัสดุผสม ควรเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับสไตล์บ้าน งบประมาณ และความต้องการด้านการดูแลรักษา

    3. รูปแบบ: รั้วบ้านมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบทึบ แบบโปร่ง แบบเตี้ย แบบสูง หรือแบบผสม ควรเลือกรูปแบบที่สอดคล้องกับความต้องการด้านความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และความสวยงาม

    4. กฎหมายและข้อบังคับ: ควรตรวจสอบกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการสร้างรั้วบ้านในพื้นที่ของคุณ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในภายหลัง

    แล้วจำเป็นต้องล้อมรั้วบ้านไหม?
    การล้อมรั้วบ้านไม่ใช่ข้อบังคับ แต่เป็นทางเลือกที่เจ้าของบ้านควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความต้องการด้านความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว งบประมาณ และสภาพแวดล้อมโดยรอบ หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูง และไม่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากนัก การไม่ล้อมรั้วบ้านอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม

    อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น การล้อมรั้วบ้านก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างยิ่ง

    สรุป
    การสร้างรั้วบ้านเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า หากคุณให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และความสวยงามของบ้าน หากคุณกำลังตัดสินใจว่าจะล้อมรั้วบ้านหรือไม่ ลองพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม
    ลวดหนาม
    รั้วลวดหนาม
    รั้วตาข่าย
    ลวดหนามกันสนิม
     

แชร์หน้านี้

Loading...