นู๋ฟ้า>ใหม่!แก้วขนเหล็ก,แก้วจอมขวัญ,แก้วโป่งข่ามเถินราคาถูกที่นี่ที่เดียว

พี่ฟ้าหมายถึงใครหรอคับ ป้าๆๆ ป้าดา หรือเปล่า คริๆๆ ย้อเล่ง..

55++ ผมเคยได้ยินเกียวกับโปงขาม มาตั้งนานแล้วพี่ แต่ไม่ค่อยได้สนใจ

เป็นเพราะแถวบ้านผมหายากด้วย

พอตอนนี้ได้เห็นประวัติ ตำนาน ความเป็นมาอีก โหๆๆๆๆๆสุดดดดยอดดดดคับบบบพี่ อิอิ++

 

เอ่อ ...อาจจะเป็น "ป้าฟ้า" อ่ะนะ...คริๆ
เพราะหูตา ก็เริ่มฝ้าฟาง...มะคืน เข็มตำมือไปหลายจึ๊กเยย...เหอๆๆpig_cryy2

 

คืนนี้....ฟ้าขอตัว ราตรีสวัสดิ์ ทุกๆท่านไปก่อนนะเจ้าคะ...
...พรุ่งนี้..เจอกันได้ที่นี่!!!...."คลับคนรักแก้ว(โป่งข่าม)" ค่ะ
good night จ้าาาา....:z12

 

-พรุ่งนี้เจอกัน Good Night and Sweet Dream Ka....

 

ว่าจะไปอาบน้ำ และสวดมนต์เข้านอน...แต่เห็นข่าว สถานการณ์ใน กทม. แล้ว..
ก็รู้สึกเห็นใจผู้คนในเมืองกรุงจริงๆค่ะ ฟ้าก็ขอเอาใจช่วย ขอให้สถานการณ์คลี่คลายไปด้วยดีและเร็วไวนะคะ....

- พี่น้องชาวเว็บพลังจิต อย่าวิตกนะคะ...เรามาช่วยกันอธิฐาน สวดมนต์ ขอพรจากพระพุทธองค์ ให้ช่วยปกป้องคุ้มครองให้บ้านเมืองเรา กลับคืนสู่ความสงบ สันติ กันดีกว่านะ..

- พี่แก้วจ๋าพรุ่งนี้ จาไปทำงานงัยเนี่ย...เป็นห่วงจัง pity_pig

- คุณรักจันทร์ กลับถึงบ้านโดยปลอดภัยนะคะ... [Embarrass

- เอ่อ...พรุ่งนี้เค้าจะประกาศเป็นวันหยุดราชการอ่ะ.....
(ใครไม่มีธุระที่ไหน ก็ออนมาคุยกันได้นะจ๊ะ)

- ท่านสมาชิกที่กำลังเดินทาง ผ่านเส้นทาง อนุเสาวรีย์ชัย หรือรอบอนุเสาวรีย์ชัย
ก็ขอให้เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพทุกท่านนะคะ...

<<<<อย่าเครียด อย่าเครียด...นะจ๊ะพี่น้องชาวเว็บ ในกทม.>>>>>
;39

 

เพิ่งกลับถึงบ้านครับ...
ขอบคุณป้าฟ้า เอ้ย! คุณฟ้าและพี่ดาที่ขับรถและกางร่มมารับ

- เอ่อ... อยากสารภาพว่าตอนติดอยู่ที่ออฟฟิสได้ดูสาปภูษาด้วย
สงสัยจะต้องมนตราของเจ้าสีเกดเข้าให้ เพราะทำท่าจะติด 555+
เดี๋ยวต้องไปหาคนเล่าย้อนหลังให้ฟังซะแล้ว

- ผมเห็นด้วยกับคุณฟ้าครับ
เรามาช่วยกันสวดมนต์และขอพรให้ประเทศชาติสงบสุขกันเถอะ


- สวัสดีครับคุณปาล์ม
ผมเองก็มือใหม่หัดสะสมเหมือนกัน ยินดีที่ได้รู้จักครับ

ขอตัวไปไหว้พระสวดมนต์ก่อนนะครับ

ราตรีสวัสดิ์:z1

 

อรุณสวัสดิ์จ้า....สาวๆตื่นรึยังน้อออ.....
- พี่แก้วเข้าเวรเช้าอะเปล่าคะ...น้องๆเปงห่วงมาก โปรดรายงานตัวด่วนคร้าบป๋ม...
- น้องดา วันนี้ปายทำงานมั้ยจ๊ะ
- อิอิ คุณรักจันทร์ น่าจะยังไม่ตื่น 555+ โดนมนต์สกด ของสาปภูษา อีกคนแย้วววว...
- วันนี้ ขอให้มีแต่ความสุข กันถ้วนทั่ว ทุกๆท่านนะจ๊ะ...เพี้ยงงงงงง...
;aa34

 

Good Morningค่ะ พี่ฟ้า วันนี้วันหยุด นู๋หยุด สงสัยว่าใครอีกหลายคนคงยังไม่ตื่นหรอกค่ะ
วันนี้ตามถนนต่างๆๆในกทม.คงเงียบเลย แต่พี่แก้วสิ ไม่รู้ต้องไปทำงานรึป่าว ...ถ้าเข้าเวร ก้อคงต้องไปทำ เอ..ทุกทีพี่แก้วตื่นแล้วนินา แต่ทำไมวันนี้ยังไม่มาเลย หรือออกไปทำงานแล้วกระมัง...........
พี่แก้วขา How are u??? ....

 

ดีจ๊ะน้องดา...อยู่บ้านนะคะเด็กดี...หากไม่มีธุระที่ไหน พี่ฟ้าว่าอยู่บ้านน่ะดีที่สุดจ๊ะ
...นั่นสิ..เป็นห่วง และคิดถึงพี่ลูกแก้วจังอ่ะ...
- อิอิ...หลายคนโดนเจ้าสีเกด ร่ายมนต์สลบไสล แหง๋มๆ...
- ทานมื้อเช้ายังจ๊ะประชาสัมพันธ์คนสวยของพี่ฟ้า...;aa32

 

- สวัสดีค่ะคุณลุงชาลี สบายดีนะคะ
- และสวัสดีค่ะคุณหมาป่าพเนจร

 

-ทานข้าวแล้วค่ะ พี่ฟ้าทานข้าวให้อร่อยนะคะ....;k03

 

เดี๋ยวพี่ฟ้ามานะนู๋ดา..ขอแว่บออกไปส่งของที่ ปณ. ก่อนจ้า เดี๋ยว 12 เม.ย. นี้เค้าจาปิดแย้ววว..

 

-ได้ค่ะ เด๋วนู๋เฝ้าบ้านให้นะคะ

-พี่ๆๆน้องๆๆสมาชิก รับชมแก้วโป่งข่ามที่พี่ฟ้ายังมีอยู่ได้ ตามลิงค์นี้ค่ะ

http://palungjit.org/threads/แก้วโป่งข่าม-อ-เถิน-ของแท้-หายาก-ราคาถูกมีที่นี่ที่เดียว.180067/page-25

พิเศษ !!!! สำหรับท่านที่ซื้อก่อนสงกรานต์ (ชุดใดก็ได้)ฟ้าจะขอมอบลูกแก้วสารพัดนึก ให้ทุกท่านเลยค่ะ (เงินรายได้นำไปทำบุญที่วัดจ.เชียงรายค่ะ)083-3230243 nannyp2@gmail.com

(ลูกแก้วสารพัดนึก เมตตา มหานิยม ของหลวงพ่ออุ่นใจ มีไว้แล้วอุ่นใจจริงๆค่ะ)​

<!-- google_ad_section_end -->

 

**การบ้านเมื่อวาน ที่แจ้งทางสมาชิกคนรักแก้วโป่งข่าม ว่าจะนำเอาเรื่องราวที่เล่าขานมานานแสนนานมาเล่าให้ฟัง โปรดรับชมได้ณ.บัดนี้

​

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ตำนานและความเชื่อเกี่ยวกับแก้วโป่งข่าม[/FONT]​

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ตำนานที่มีการกล่าวถึงมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาลถึงความสัมพันธ์ระหว่างตำนาน และความเชื่อเกี่ยวกับโป่งข่ามนั้นมีอยู่หลากหลายแบบซึ่งต่างกันตามเวลาที่ผ่านพ้นไป การพิจารณาจึงต้องใช้การศึกษาที่ลึกซึ้งและใช้เวลายาวนานเพื่อที่จะหาหลักฐานมาประกอบความรู้อีกด้วยลักษณะของโบราณสถานที่สำคัญของอำเภอเถินซึ่งขึ้นบัญชีเป็นทางการก็คือวัดพระธาตุดอยป่าตาลกรมศิลปากรได้ขึ้นบัญชีให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๗และได้ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา ตามมาตรา ๖ แห่ง พรบ.โบราณสถานฯ เป็นต้น[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]โบราณวัตถุอันน่าประหลาดยิ่งของอำเภอเถินก็คือสิ่งที่พบในกรุวัดร้างชื่อวัดพระธาตุดอยเหิน ทางไปบ้านป่าตาล เขตอำเภอเถินราษฎรได้รายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางในสมัยของ นายสุบิน เกษทอง ว่าสิ่งที่พบคือ พระพุทธรูปแก้วแวววาวพร้อมผอบบรรจุพระธาตุ รูปทรงบาตรแก้วสีขาวใสสิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้นึกถึงความที่กล่าวในตำนาน"สังฆเติ๋นพระธาตุวังตวง"เกี่ยวกับเรื่องของขุมแก้วที่มียักษ์แห่งขุมแก้วทำผอบแก้วบรรจุพระธาตุไว้ในเจดีย์นอกจากนี้ยังมีกรุแก้วในซากโบราณสถานอีกหลายแห่งที่ทำให้ความสงสัยในสิ่งที่ยังไม่ทราบแจ่มชัดของเรื่องขุมแก้วเมืองเถินว่าน่าจะเป็นขุมแก้วที่มีความเกี่ยวพันกันมาตั้งแต่โบราณกาลซึ่งจะได้กล่าวถึงต่อไปนี้[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ตามตำนานนิทานที่เล่าขานสืบต่อกันมา (วัดพระบาท วังตวง) ได้กล่าวว่า ในอดีตชาติ เมื่อพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระยาวัวอุสุพราชอันกำเนิดแต่แม่วัว และพ่อวัวแดง อาศัยอยู่ ณเชิงเขาด้านตะวันออกของแม่น้ำวัง คราเมื่อประสูตินั้น พระแม่วัวทรงครรภ์ได้ ๑๐เดือน ได้เดินทางรอนแรมสู่บริเวณป่าร่มรื่นบริเวณเหนือด้านตะวันตกของแม่น้ำวังเข้าถึงป่าลึกอันร่มเย็นสุขเกษมอันประเสริฐ ณที่นั้นเป็นที่ให้กำเนิดพระยาวัวน้อยอุสุพราช พระแม่นำรอนแรมมุ่งสู่ทิศใต้เพื่อกลับไปยังที่เดิมพระยาวัวน้อยยังขาดกำลังวังชา ก็พักนอนบนเชิงดอยแห่งหนึ่งเมื่อถึง ๗ วันจึงคืนสู่ที่เดิม อาศัยหญ้าอ่อนเชิงเขาเป็นที่ยังชีพและขึ้นพักผ่อนหลับนอนบนยอดดอยต่อมาพระยาวัวน้อยชวนแม่วัวไปยังทำเลแห่งใหม่ด้านตะวันตก พบลำธารน้อยสายหนึ่งก็เลียบไปถึงบริเวณน้ำสบปันข้ามลำธารสู่ทิศเหนือ พ้นดอยอีกลูกหนึ่งจึงขึ้นสู่จอมดอยเมื่อได้เวลาพลบค่ำก็พักอยู่บนจอมดอยแห่งนั้น ราตรีนั้นเองพญานาค ๒ตัวซึ่งอยู่ในถ้ำเชิงดอยก็แสดงฤทธิ์เกิดเสียงกัมปนาทสนั่นหวั่นไหว เขาสะท้านปานถล่มแม่วัวและพระยาวัวน้อยต้องหลบอยู่อโยธยา[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ปางเมื่อพระยาวัวอุสุพราชถือกำเนิดชาติใหม่ในพระครรภ์ของพระนามศิริ มหามายาจบกระทั่งเป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ได้ทรงเสด็จไปยังสถานที่เรียกว่าทุ่งยังเลประทับอยู่ ณ ผาแท่น พร้อมด้วยชาวอโยธยาติดตามมาเทศนาแล้วจึงตรัสแก่มหาอานันทะว่า ณที่นี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยตั้งแต่อดีตชาติ ถือกำเนิดอยู่ในป่าดงอันอุดมไปด้วย แรดช้าง เสือ หมี สิงห์ วัวเถื่อน ละมั่ง และกวางฟาง(เก้ง) ทั้งหลายหากอาศัยอยู่ในสระบัวหนองเป็นฝูงๆ ทรงปรารถนาจะประดิษฐ์ประเกศาธาตุ ณที่ตรงนั้นแล[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ในกาละยามนั้น ยังมียักษ์ใหญ่ ๓ ตนเฝ้ารักษาขุมแก้ว, เงิน และ คำ(ทอง) ณ ประเทศป่าไม้[/FONT]

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][/FONT]​

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]พระยายักษ์ตนหนึ่งรักษาขุมคำอยู่ทิศตะวันออกตนหนึ่งรักษาขุมแก้วอยู่ทิศเหนือและอีกตนหนึ่งรักษาขุมเงินอยู่ทิศตะวันตก ซึ่งทั้ง ๓ตนกำวิบากกรราแห่งชาติก่อนที่ลุ่มหลงมัวเมาอยู่กับสมบัติดังกล่าวจึงได้กลายเป็นยักษ์เฝ้าขุมทรัพย์ดังกล่าวมาช้านานถือเป็นสหายแก้วสหายคำพบกันอยู่เสมอเมื่อทราบว่าพระพุทธเจ้าทรงเสด็จมาก็พากันเฝ้าสดับธรรมเทศนาพระพุทธเจ้าเสด็จสู่ทางเหนือ ยังที่ประสูติของพระยาวัวอุสุพราชโดยข้ามแม่น้ำเลียบสู่ที่ประสูติ อันมีสายน้ำร่วมมาจากที่นั่น ทรงเข้านิโรธสมาบัติโดยมีพระอรหันต์สาวกร่วมอยู่ด้วย ๕๐๐ องค์พระมหาอานันทะทูลขอประดิษฐ์พระเกษาธาตุมีประกายแล้วสีขาว, เขียน, เหลือง, แดง, หม่น และสิ้ว (สีเขียวหัวเป็ดเป็นมะเมื่อม)ชาวอโยธยารับด้วยกระบอกไม้รวก ๓ กระบอกส่วนพระยายักษ์ทั้งสาม ซึ่งเฝ้าปรนนิบัติลาดอาสนะด้วยดอกไม้อันสวยงาม นำขระอูปแก้วขระอูปเงิน และขระอูปคำ (ผอบแก้ว ผอบเงิน และผอบทอง) มารองรับพระธาตุด้วยและได้สร้างอุโมงค์บรรจุพระธาตุสร้างเจดีย์ก่อกวมไว้หลายแห่ง[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ทรงเสด็จสู่สถานที่หนึ่งซึ่งแม่วัวเคยนำพระยาวัวอุสุพราชรออยู่ ต่อมาสานุศิษย์อันเชิญพระธาตุรองมาประดิษฐานณ แห่งนั้น ตรงนั้นจึงมีชื่อว่าอุรอ และอุมลองมาโดยลำดับ[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]อีกสถานที่หนึ่งพระยาวัวเคยนอน เรียกว่าม่อนวัวนอนส่วนสถานที่ที่พญานาค ๒ตัวเคยแสดงอภินิหาริย์เกรงกลัวเดชบารมีของพระพุทธเจ้าก็ได้แต่งดอกไม้สถานที่นั้นปางเมื่อแม่วัว และลูกวัวเคยตื่นต้วง (ต้วง หมายถึงขยับ หรือดิ้น) จะเรียกว่าวังตวงอีกสถานหนึ่งอันเป็นที่กลับข้ามด่านน้ำ เรียกว่าแม่ปิก (ปิก หรือ ปิ๊ก หมายถึง กลับ คือที่ซึ่งแม่เคยพากลับ)คือสู่ท่าวังตวง ต่อมาจึงเรียกว่าแม่พริกต่อมา ณที่นั้นเองชาวอโยธยาได้แย่งกันกลับอีกด้วยจากนั้นพระพุทธเจ้าได้เสด็จขึ้นเหนือสู่บ้านลัวะ ๗ หลัง ซึ่งได้เฝ้าอุปัฏฐาก ณสถานที่เรียกว่า แพะน้อยป่าแดง ผากองสุมแดงเมืองเกาะลัวะทรงประดิษฐ์พระบาทไว้ที่พระบามเจ้าวังตวง และพระบามเจ้าแพะน้อยป่าแดงจากนั้นเสด็จต่อไปยังหริภุญไชยส่วนประเทศป่าไม้ดังกล่าวต่อไปจักเจริญรุ่งเรืองด้วยผู้คนมากมายย่อมมีข้อเบาะแว้งจ่างๆอันต้องอาศัยพระสงฆ์คอยสอนสั่งตักเต๋อน(ตักเตือน)หรือสังฆเต๋อนดังกล่าวจึงเรียกเมืองนั้นว่าเมืองเติ๋นต่อมา และจนเป็นเมืองเถินในปัจจุบันค่ะ[/FONT]

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ความสำคัญของดินแดนทางประวัติศาสตร์[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]แถบที่พบโป่งข่าม คือ อ.เถินนั้นเป็นชัยภูมิสำคัญที่เหล่ากษัตริย์ชาตินักรบทางล้านนา และกรุงศรีอยุธยาล้วนให้ความสำคัญ ซึ่งปรากฏความในบทพระราชนิพนธ์ฉบับพระราชหัตถเลขา เล่มที่ ๑ตอนที่ ๑ ของกรมพระยาดำรงราชานุภาพว่า "เมืองเชียงชื่นเห็นจะเป็นเมืองเถิน"[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]เรื่องความสำคัญของดินแดนนี้ได้ปรากฏในลิลิตยวนพ่าย ที่แต่งในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถกล่าวถึงการรบกันระหว่างโยนก(ศรีนครพิงค์เชียงใหม่) และกรุงศรีอยุธยากล่าวถึงเมืองสำคัญคือ "เมืองเชียงชื่น"มีการถกเถียงระหว่างนักวิชาการว่าอาจเป็นเมืองลอง(แพร่) หรือลำปางซึ่งกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงมีพระวินิจฉัยว่าน่าจะเป็นเมืองเถิน ด้วยเหตุ ๓ ประการคือ[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]๑. เป็นเมืองเก่า[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]๒. อยู่แดนต่อแดนระหว่าง ๒อาณาจักร[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]๓. เป็นเมืองใหญ่[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ความลึกลับของเมืองเชียงชื่นนี้ทำให้คุณสุจิตต์ วงศ์เทศซึ่งในสมัยที่เป็นผู้เชี่ยวชาญโบราณคดีของกรมศิลปากรก็เคยแสดงความเห็นว่าหน้าเวียงเชียงชื่นนั้นน่าจะเป็นศรีสัชนาลัยแต่อย่างไรก็ตามต้องนับว่าเส้นทางเถินนั้นเป็นเส้นทางเดินทัพที่สำคัญสมัยโบราณและย่อมแน่นอนว่าน่าจะเป็นดินแดนที่มีของดีเป้นมงคล เนื่องจากอยู่ในชัยภูมิชั้นดีเพราะปรากฏในประวัติเก่าๆ อย่างเช่น กลางเดือน ๖ ปีจอพ.ศ.๒๑๔๓เกิดเหตุวิวาทระหว่างพระเจ้าเชียงใหม่ กับพระยารามเดโชสมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงได้รับสั่งให้พระเจ้าน้องยาเธอสมเด็จพระเอกาทศรถไประงับเหตุวิวาทสมเด็จพระเอกาทศรถได้ทรงตั้งพลับพลาประทับอยู่ที่เมืองเถินแล้วมีรับสั่งไปยังเจ้าเมืองเชียงใหม่และเจ้าเมืองใหญ่น้อยในแว่นแคว้นล้านนาไทยมาเข้าเฝ้าที่เมืองเถินเมื่อทรงระงับเหตุวิวาทนั้น (ไทยรบพม่า ของกรมพระยาดำรงฯ) และในปีมะเมีย พ.ศ.๒๓๑๗สมัยพระเจ้าตากสินตีเชียงใหม่ โดยการสนับสนุนจากเจ้าวงศ์ ๗ ตนเจ้ากาวิละเค้าต้อนรับเจ้าพระยาจักรี และพระยาสุรสีห์ ผ่านวัดลำปางหลวงล่องแม่น้ำวัง และแวะผ่านเมืองเถิน (ตำนานพระเจ้า ๗ พระองค์)[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวตำนานและประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับดินแดนนี้อีกหลายเรื่องราวซึ่งทำให้เชื่อว่าบริเวณนี้เป็นดินแดนสำคัญในอดีตอีกด้วยค่ะ[/FONT]

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]แหล่งกำเนิดแสงประหลาด[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ชาวเมืองเถินถือตำแหน่งพระธาตุอันศักดิ์สิทธิ์เสด็จขึ้น ๓แห่ง พระธาตุตามความเชื่อถือดังกล่าว คือลักษณะปรากฏการณ์ที่ออกมาเป็นลำแสงประหลาดซึ่งโดยธรรมเนียมประเพณีแล้วแต่ละท้องถิ่นชุมชนใหญ่ๆในภาคเหนือมีความเชื่อถือว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวย่อมบังเกิดขึ้นจากสถานที่สำคัญเช่น ในตัวจังหวัดลำปางถือพระธาตุสำคุญเสด็จขึ้นจากวัดพระธาตุลำปางหลวงไปยังวัดพระธาตุเสด็จ ฯลฯ[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ชาวอำเถอเถินถือว่าพระธาตุสำคัญเสด็จขึ้นที่วัดตวงที่หนึ่ง, วัดดอยป่าตาลหรือม่อนงัวน้อยที่หนึ่ง และอีกที่คือที่บริเวณป่าเขต ต.แม่ถอดบริเวณขุมแก้วที่เรียกกันว่าโป่งข่ามหลวง[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]พระแก้วที่กำเนิดขึ้นในเมืองเหนือนั้นถือเป็นปฏิมากรองค์สำคัญ อย่างเช่น พระมหามณีรัตนปฏิมากร ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ซึ่งได้พบในกรุเจดีย์กลางเมืองเชียงรายในสมัยลานนาไทยสถานที่ทั้งสามแห่งนี้มีความสัมพันธ์ทางตำนานเกี่ยวกับเรื่องวัวแดงและลูกวัวแดงในตำนานสังฆเติ๋น ซึ่งพระธาตุวังตวงคือที่พักอาศัยของลูกวัวแดงปางพระโพธิสัตว์ในปางบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณทรงประทับรอยพระบาทไว้ อยู่ในเขตอำเภอแม่พริก พระธาตุดอยป่าตาลซึ่งแต่เดิมชื่อม่อนงัวน้อยหมายถึงวัวน้อยพระโพธิสัตว์เดินทางกลับจากที่ประสูติกลางป่าแห่งหนึ่งหมดเรี่ยวแรงนอนพักที่นั่น ราว ๗ วัน จึงเรียกว่าม่อนงัวส่วนที่ประสูติกลางป่าในเขตตำบลแม่ถอดนั้น คำว่า "แม่ถอด" มาจากคำว่า "แม่ถอก"คือคำว่าถอก แปลว่า เทซึ่งเจ้าของวัวแดงนำข้าวเปลือกไปเทให้เจ้าของนาซึ่งวัวแดงไปเหยียบย่ำทำลายไปบริเวณนั้นจึงมีชื่อว่า "แม่ถอก" แล้วเพี้ยนมาเป็น "แม่ถอด" ในเวลาต่อมา[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ส่วนพระแก้วอีกองค์ซึ่งยังปรากฏอยู่ที่วัดพระธาตุลำปางหลวงในปัจจุบันนั้น คือ"พระแก้วดอนเต้า"มีหน้าตัก กว้าง ๖ นิ้ว ถือว่าเป็นพระแก้วที่พบในจังหวัดลำปางซึ่งถือว่าอยู่ในประเภทเดียวกันกับพระแก้วมรกตคือเนื้อแก้วอยู่ในประเภทหินคล้ายเนื้อหยกเขียว ซึ่งตามตำนานเมืองเหนือให้ชื่อว่า"พระอมรกต"พระแก้วอีกองค์หนึ่งซึ่งมีความสำคัญคู่ตำนานก็คือ"พระแก้วขาวหริภุญชัย"ซึ่งตามตำนานได้กล่าวไว้ว่าเป็นพระแก้วของ"พระนางจามเทวี"ตั้งแต่สมัยหริภุญชัย[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ซึ่งสร้างจากแก้วที่มีลักษณะเช่นเดียวกับโป่งข่ามซึ่งขณะนี้ประดิษฐานอยู่ที่วัดเชียงมั่น ใน จ.เชียงใหม่[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif][FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif];k03[/FONT][/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ"พระเสตังคมณี"

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]เรื่องความวิเศษของแก้วหรือมณีรัตนะนั้นเป็นความเชื่อของชาวล้านนามาตั้งแต่โบราณว่ามีคุณวิเศษ อำนวยโชคลาภและความคุ้มครองแก่ผู้สวมใส่อีกทั้งอาจบันดาลความรุ่งเรืองให้ได้อย่างอัศจรรย์ตั้งแต่บุคคลจนถึงระดับสร้างบ้านแปลงเมือง จนเป็นที่มาของการสร้าง"พระแก้วประจำเมือง"อย่าง"พระเสตังคมณี"เป็นต้น

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในความเชื่อถือประกอบนิทานตำนานของคนโบราณ
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]แหล่งกำเนิดแสงประหลาดชาวเมืองเถินถือตำแหน่งพระธาตุอัน[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ศักดิ์สิทธิ์เสด็จขึ้น ๓ แห่ง[/FONT]
[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]พระธาตุตามความเชื่อถือดังกล่าวคือลักษณะ ปรากฏการณ์ที่ออกมาเป็นลำแสง ประหลาดซึ่งโดยธรรมเนียมประเพณีแล้วแต่ละท้องถิ่นชุมชนใหญ่ๆในภาค เหนือจะมีความเชื่อถือว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวย่อมบังเกิดขึ้นจากสถานที่สำคัญเช่น ในตัวจังหวัดลำปาง ถือพระธาตุสำคัญเสด็จขึ้นจากวัดพระธาตุลำปางหลวงไปยังวัดพระธาตุเสด็จ ฯลฯชาวอำเถอเถินถือว่าพระธาตุสำคัญเสด็จขึ้นดังที่เคยกล่าวมาแล้วคือ ที่วัดพระธาตุวังตวงแห่งหนึ่ง วัดดอยป่าตาลหรือม่อนงัวน้อยแห่งหนึ่งและอีกแห่งหนึ่งคือที่บริเวณป่าเขตตำบลแม่ถอด เป็นบริเวณขุมแก้วที่เรียกกันว่า "โป่งข่ามหลวง"[/FONT]

[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ซึ่งด้วยความเชื่อที่ว่าดินแดนแห่งนี้เคยเป็นที่บำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์(วัวน้อย)ซึ่งต่อมาได้บรรลุพระโพธิญาณเป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันดินแดนแห่งนี้จึงเสมือนกับได้รับความศักดิ์สิทธิ์จากสายใยแห่งอดีตกาลด้วยจึงถือว่าแก้วโป่งข่ามที่พบในดินแดนแห่งนี้ย่อมจักได้รับบารมีธรรมจากพระสมณโคดม สัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยเช่นกันค่ะ[/FONT]

ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก :-
๑) หนังสือมณีรัตนะ จากพระแม่ธรณี
๒)บริษัท เอเชีย เทเลวิชั่น แอนด์ มีเดีย จำกัด 2006
<SCRIPT src="Scripts/AC_RunActiveContent.js" type=text/javascript></SCRIPT>[/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]

 

หวัดดีคร้าบ คุณฟ้าและเพื่อนๆสมาชิกเวปพลังจิต ตามที่ผมเคยสัญญาไว้ ว่าแหวนแก้วขนเหล็กเสร็จเมื่อไรจะนำมาให้ดูกัน ตอนนี้เสร็จแล้วครับ สวยอะป่าวเอ่ย อีกวงเป็น พลอยเขียวส่อง ผมเกิดเดือน พฤษภาคมครับ เลยต้องหาไรเขียวๆมาใส่ พอดีได้ พลอยเขียวส่องมา 1 เม็ด จัดทำแหวนเลยครับ เชิญชมครับ สาธุ สาธุ

 

-แหวนเงินแก้วขนเหล็ก กับแหวนเงินพลอยเขียวของคุณอภิณญา ใส สวย ลวดลาย แหวนเงินดูอ่อนช้อย สวยงามมากค่ะ ***ต้องขอขอบคุณนะคะที่นำมาให้พวกเราชาวคนรักแก้วโป่งรับชมกัน***
-ถ้าเป็นแหวนแก้วขนเหล็ก แก้วโป่งข่ามนาๆๆชนิด ต้องให้พี่ลูกแก้วแนะนำ เพราะพี่ท่านเป็นปรมาจารย์เลยแหล่ะ นู๋เป็นแค่ศิษย์น้องค่ะ

 

ว้าว!!!!...เขียวส่องของคุณอภิณญา ก็สวยนะคะ....แต่..เอ่อ..เอ่อ..ชอบลายดอกไม้ค่ะ สวยดี...อิอิ

 

-พี่ฟ้า วันนี้พี่แก้วไปทำงาน ให้ฝากบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง พี่แก้วสู้ตาย เด๋วตอนบ่ายคงกลับมาเจอกันนะ;aa34

พี่ๆๆน้องๆๆสมาชิก รับชมแก้วโป่งข่ามที่พี่ฟ้ายังมีอยู่ได้ ตามลิงค์นี้ค่ะ

http://palungjit.org/threads/แฮ..180067.25/

พิเศษ !!!! สำหรับท่านที่ซื้อก่อนสงกรานต์ (ชุดใดก็ได้)ฟ้าจะขอมอบลูกแก้วสารพัดนึก ให้ทุกท่านเลยค่ะ (เงินรายได้นำไปทำบุญที่วัดจ.เชียงรายค่ะ)083-3230243 nannyp2@gmail.com

(ลูกแก้วสารพัดนึก เมตตา มหานิยม ของหลวงพ่ออุ่นใจ มีไว้แล้วอุ่นใจจริงๆค่ะ)​

 

ค่อยโล่งใจไปที...พี่แก้วถึงที่ทำงานโดยสวัสดิภาพแล้วก็ โอเค...หายห่วง..
ว่าแต่.....วันนี้น้องดาน่ารักจัง ช่วยงานพี่ฟ้าแต่เช้าเยย....
ขอบคุณจริงๆ...;aa40

 

อำเภอเถิน

ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา

<TABLE style="FLOAT: right"><TBODY><TR><TD><TABLE style="BORDER-RIGHT: #ccd2d9 1px solid; PADDING-RIGHT: 0.5em; BORDER-TOP: #ccd2d9 1px solid; PADDING-LEFT: 0.5em; BACKGROUND: #f9f9f9; PADDING-BOTTOM: 0.5em; BORDER-LEFT: #ccd2d9 1px solid; WIDTH: 280px; PADDING-TOP: 0.5em; BORDER-BOTTOM: #ccd2d9 1px solid; TEXT-ALIGN: center"><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 3px; PADDING-LEFT: 3px; FONT-SIZE: 135%; BACKGROUND: #99aa99; PADDING-BOTTOM: 3px; COLOR: white; PADDING-TOP: 3px">อำเภอเถิน</TD></TR><TR><TD>

​

</TD></TR><TR><TD height=4>
</TD></TR><TR><TD><TABLE style="POSITION: relative; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-TOP: 10px" vAlign=top width=20></TD><TD style="PADDING-TOP: 10px">คำขวัญ: ส้มเกลี้ยงฉ่ำ น้ำตกงาม โป่งข่ามขลัง วังหินอ่อน</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 10px; PADDING-LEFT: 10px" vAlign=bottom width=20></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=10></TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND: #ccddcc">ข้อมูลทั่วไป</TD></TR><TR><TD><TABLE style="TABLE-LAYOUT: auto; PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; FONT-SIZE: 100%; BACKGROUND: none transparent scroll repeat 0% 0%; PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-TOP: 0px; BORDER-COLLAPSE: collapse; TEXT-ALIGN: left" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">อักษรไทย</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em">อำเภอเถิน</TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">อักษรโรมัน</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">Amphoe Thoen</TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">จังหวัด</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">ลำปาง</TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">รหัสทางภูมิศาสตร์</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">5208</TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">รหัสไปรษณีย์</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">52160</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND: #ccddcc; TEXT-ALIGN: center" colSpan=2>ข้อมูลสถิติ</TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">พื้นที่</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">1,634.8 ตร.กม.</TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">ประชากร</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">62,025 คน <SMALL>(พ.ศ. 2550)</SMALL></TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">ความหนาแน่น</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">38 คน/ตร.กม.</TD></TR><TR><TD style="BACKGROUND: #ccddcc; TEXT-ALIGN: center" colSpan=2>ที่ว่าการอำเภอ</TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">ที่ตั้ง</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em">ที่ว่าการอำเภอเถิน ถนนเถินบุรี ตำบลล้อมแรด อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง 52160</TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">พิกัด</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">17°36′42″N 99°12′57″E / 17.61167, 99.21583</TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">หมายเลขโทรศัพท์</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">0 5429 1660</TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">หมายเลขโทรสาร</TD><TD style="PADDING-RIGHT: 1em; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0.4em; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 0.4em; TEXT-ALIGN: left">0 5429 1660</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle colSpan=2><HR>ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>













</TD></TR></TBODY></TABLE>
อำเภอเถิน เป็นหนึ่งใน 13 อำเภอของจังหวัดลำปาง เป็นอำเภอที่มีพื้นที่มากเป็นอันดับที่ 2 ของจังหวัดรองจากอำเภองาว


<TABLE class=toc id=toc summary=เนื้อหา><TBODY><TR><TD>เนื้อหา

[ซ่อน]

• <LI class=toclevel-1>1 ที่ตั้งและอาณาเขต <LI class=toclevel-1>2 ประวัติ <LI class=toclevel-1>3 การปกครองส่วนภูมิภาค <LI class=toclevel-1>4 การปกครองส่วนท้องถิ่น <LI class=toclevel-1>5 บุคคลที่มีชื่อเสียง <LI class=toclevel-1>6 สถานที่ท่องเที่ยว
• 7 แหล่งข้อมูลอื่น

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<SCRIPT type=text/javascript>//<![CDATA[ if (window.showTocToggle) { var tocShowText = "แสดง"; var tocHideText = "ซ่อน"; showTocToggle(); } //]]></SCRIPT>
[แก้] ที่ตั้งและอาณาเขต




อำเภอเถินตั้งอยู่ทางทิศใต้ของจังหวัด ห่างจากตัวเมืองลำปาง 90 กิโลเมตร ตามถนนพหลโยธินสายลำปาง-ตาก มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้

• ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอเสริมงาม อำเภอสบปราบ และอำเภอวังชิ้น (จังหวัดแพร่)
• ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอศรีสัชนาลัยและอำเภอทุ่งเสลี่ยม (จังหวัดสุโขทัย)
• ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอทุ่งเสลี่ยม อำเภอบ้านด่านลานหอย (จังหวัดสุโขทัย) อำเภอบ้านตาก และอำเภอสามเงา (จังหวัดตาก)
• ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอแม่พริก อำเภอลี้ อำเภอทุ่งหัวช้าง (จังหวัดลำพูน)

[แก้] ประวัติ

อำเภอเถินเป็นอำเภอชายแดนติดกับจังหวัดสุโขทัยและจังหวัดตาก มีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่เป็นเมืองหน้าด่านของอาณาจักรล้านนาก่อนจะถึงเมืองลำปาง และเป็นเส้นทางผ่านของกองทัพกรุงศรีอยุธยา บางคราวก็ตกอยู่ในอำนาจของอาณาจักรล้านนา บางคราวก็ขึ้นกับพม่า เวลามีศึกสงครามระหว่างกรุงศรีอยุธยากับพม่า เมืองเถินจึงเป็นเส้นทางผ่านในการเดินทัพ เนื่องจากเมืองเถินนั้นเป็นแค่เมืองเล็กไม่มีกำลังที่จะต้านทัพที่ขอผ่านได้ จึงต้องยอมให้ทั้งกองทัพอยุธยาและพม่าเดินผ่าน ชาวเมืองเถินได้รับความเดือดร้อนจากศึกสงคราม ด้วยกองทัพที่เดินผ่านต่างสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวเมือง ดังนั้นชาวเมืองเถินจึงได้ทิ้งเมืองหนีเข้าไปจนหมดสิ้น ทิ้งเมืองให้กลายเป็นเมืองร้างในช่วงเวลาระยะหนึ่ง
ปี พ.ศ. 2310 กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วีรกษัตริย์ไทยทรงกอบกู้เอกราชได้สำเร็จและขับไล่ทหารพม่าพ้นจากกรุงศรีอยุธยาแล้ว และมีพระราชดำริจะยกทัพขับไล่พม่าที่ครองเมืองเชียงใหม่อยู่ ประกอบทั้งมีเจ้านายล้านนาไทย มีพระเจ้ากาวิละเป็นปฐม ได้รวบกำลังเข้าภักดีกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยหยุดเดินทัพเพื่อระดมพลกำลังที่เมืองเถิน แล้วค่อยตีทยอยตีเมืองขึ้นที่พม่าปกครอง ตั้งแต่ลำปาง ลำพูน จนกระทั่งนครเชียงใหม่ ในที่สุดพระองค์ก็ได้ตีทัพพม่าจนถอยพ่ายออกไปจากแผ่นดินล้านนาได้สำเร็จ เมืองเถินจึงมิได้เป็นทางผ่านของกองทัพอีก
ต่อมาเมื่อถึงแผ่นดินกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้ทรงสถาปนาพระเจ้ากาวิละขึ้นเป็นพระเจ้าเชียงใหม่พระองค์ที่ 1 และได้ทยอยผู้คนที่หนีภัยสงครามรวมทั้งข้าต่างเมืองที่ได้เทครัวจากการทำศึกสงครามมาอยู่ในเมืองเถิน มีผู้คนมาอยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองเมืองหนึ่งของล้านนาและเมืองลำปางตราบเช่นทุกวันนี้

[แก้] การปกครองส่วนภูมิภาค

อำเภอเถินแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 8 ตำบล 88 หมู่บ้าน ได้แก่
<TABLE><TBODY><TR><TD>1.</TD><TD>ล้อมแรด</TD><TD></TD><TD></TD><TD>(Lom Rat)</TD><TD></TD><TD></TD><TD>14 หมู่บ้าน</TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD>5.</TD><TD>เวียงมอก</TD><TD></TD><TD></TD><TD>(Wiang Mok)</TD><TD></TD><TD></TD><TD>11 หมู่บ้าน</TD><TD></TD></TR><TR><TD>2.</TD><TD>แม่วะ</TD><TD></TD><TD></TD><TD>(Mae Wa)</TD><TD></TD><TD></TD><TD>7 หมู่บ้าน</TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD>6.</TD><TD>นาโป่ง</TD><TD></TD><TD></TD><TD>(Na Pong)</TD><TD></TD><TD></TD><TD>12 หมู่บ้าน</TD><TD></TD></TR><TR><TD>3.</TD><TD>แม่ปะ</TD><TD></TD><TD></TD><TD>(Mae Pa)</TD><TD></TD><TD></TD><TD>9 หมู่บ้าน</TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD>7.</TD><TD>แม่ถอด</TD><TD></TD><TD></TD><TD>(Mae Thot)</TD><TD></TD><TD></TD><TD>12 หมู่บ้าน</TD><TD></TD></TR><TR><TD>4.</TD><TD>แม่มอก</TD><TD></TD><TD></TD><TD>(Mae Mok)</TD><TD></TD><TD></TD><TD>9 หมู่บ้าน</TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD><TD>8.</TD><TD>เถินบุรี</TD><TD></TD><TD></TD><TD>(Thoen Buri)</TD><TD></TD><TD></TD><TD>14 หมู่บ้าน</TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
[แก้] การปกครองส่วนท้องถิ่น



ท้องที่อำเภอเถินประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 8 แห่ง ได้แก่

• เทศบาลตำบลล้อมแรด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลล้อมแรดทั้งตำบล
• เทศบาลตำบลเวียงมอก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเวียงมอกทั้งตำบล
• องค์การบริหารส่วนตำบลแม่วะ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแม่วะทั้งตำบล
• องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ปะ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแม่ปะทั้งตำบล
• องค์การบริหารส่วนตำบลแม่มอก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแม่มอกทั้งตำบล
• องค์การบริหารส่วนตำบลนาโป่ง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนาโป่งทั้งตำบล
• องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ถอด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลแม่ถอดทั้งตำบล
• องค์การบริหารส่วนตำบลเถินบุรี ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเถินบุรีทั้งตำบล

[แก้] บุคคลที่มีชื่อเสียง

บุคคลที่สร้างชื่อเสียงให้กับอำเภอเถิน คือ ฯพณฯ บุญเท่ง ทองสวัสดิ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และประธานสภาผู้แทนราษฎร

[แก้] สถานที่ท่องเที่ยว

โบสถ์ไม้สักทอง
แก้วโป่งข่ามยักษ์


แก้วโป่งข่ามยักษ์ ที่เป็นเอกลักษณ์ของอำเภอเถินโดยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thoenclub.com

• โบสถ์ไม้สักทองหลังงาม มุมสูงจากจุดชมรอยพระพุทธบาท วัดถ้ำสุขเกษมสวรรค์ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง โดยเว็บไซต์ http://www.thoenclub.com
• น้ำตกแม่วะ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วะ บ้านน้ำดิบ หมู่ที่ 3 ตำบลแม่วะ บริเวณโดยรอบของน้ำตกแม่วะประกอบไปด้วยภูเขาสูงชัน มีดอยแปลหลวงเป็นต้นกำเนิดของน้ำตกนี้ และจะไหลลงสู่แม่น้ำวังในที่สุด น้ำตกแม่วะประกอบไปด้วยน้ำตกชั้นต่าง ๆ ทั้งหมด 9 ชั้น แต่ละชั้นมีความงามแบบต่าง ๆ กัน มีทางเดินขึ้นไปถึงแค่น้ำตกชั้นที่ 8 สภาพเส้นทางระหว่างน้ำตกชั้นที่ 1-4 ระยะทาง 700 เมตร เดินได้สะดวก จากนั้นทางเริ่มสูงชันขึ้นไปจนถึงชั้นที่ 8 รวมระยะทาง 2.2 กิโลเมตร สำหรับน้ำตกชั้นที่ 9 มีชื่อว่า "ตาดหลวง" มีความสูงประมาณ 100 เมตร ต้องปีนหน้าผาจากน้ำตกชั้นที่ 8 ขึ้นไปอีกไกลจึงจะถึง

การเดินทางใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) เมื่อผ่านอำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง ไปถึงประมาณกิโลเมตรที่ 500 จะมีทางแยกเข้าสู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ผ่านทางแยกนี้ไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร จะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ มว.1 (น้ำตกแม่วะ) น้ำตกอยู่ห่างไปอีกประมาณ 500 เมตร นอกจากนี้ยังมี เส้นทางศึกษาธรรมชาติ เป็นทางเดินขึ้นเขาผ่านป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ แล้วเดินขึ้นสันเขาผ่านจุดชมทิวทัศน์ไปจนพบกับน้ำตกชั้นที่ 8 รวมระยะทางประมาณ 3.8 กิโลเมตร เหมาะสำหรับการเดินชมป่าเปลี่ยนสีในช่วงฤดูแล้ง กิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ชมทิวทัศน์ เที่ยวน้ำตก ติดต่อขอข้อมูลได้ที่อุทยานแห่งชาติแม่วะ หมู่ที่ 2 ตำบลแม่วะ อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง 52230

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น

• ดูสถานที่ท่องเที่ยวและกระดานสนทนาของชาวอำเภอเถิน

ขอขอบคุณ : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ที่นำเสนอข้อมูล