ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.8 ริคเตอร์ที่ประเทศชิลี

    [​IMG]

    เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.8 ริคเตอร์นอกชายฝั่งทางภาคกลางของชิลีเมื่อเย็นวานนี้ สร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก เพราะจุดที่เกิดแผ่นดินไหวเป็นจุดเดียวกับที่เกิดเมื่อปีที่แล้วที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 521 คน

    อย่างไรก็ตามแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต แต่ก็ทำให้ไฟฟ้าและโทรศัพท์ถูกตัดขาด แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นมีจุดศูนย์กลางอยู่นอกชายฝั่งทางเหนือเมืองคอนเซปซิออน 45 กิโลเมตรอยู่ลึกลงไปใต้ทะเล 18.4 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนวัดได้ 6.8 ริคเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17 นาฬิกา 5 นาทีตามเวลาท้องถิ่น หรือ 3 นาฬิกา 5 นาทีวันนี้ตามเวลาบ้านเรา

    แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนในเมืองคอนเซพซิออนวิ่งแตกตื่นออกมายังท้องถนนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเกรงว่า จะรุนแรงเหมือนแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.8 ริคเตอร์ที่ทำให้เกิดสึนามิพัดถล่มบ้านเรือนที่อยู่ใกล้ชายฝั่ง แผ่นดินไหวครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 521 คน ไร้ที่อยู่อาศัย 2 แสนคน ทั้งนี้มีรายงานว่า ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อค หรือแรงสั่นสะเทือนตามมาวัดได้ตั้งแต่ 5.3 ไปจนถึง 6.3 ริคเตอร์ ขณะที่อาคารในกรุงซานติอาโก้ ก็ยังสั่นไหวไปด้วย

    ประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเนร่า เรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบและว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่ได้ทำให้เกิดสึนามิ ผู้นำชิลียังได้ชื่นชมเจ้าหน้าที่รวมไปถึงประชาชนที่มีการเตรียมพร้อมรับมือเป็นอย่างดี ซึ่งประธานาธิบดีปิเนร่าบอกว่า ทุกคนได้รับบทเรียนจากแผ่นดินไหวเมื่อปีที่แล้ว จึงมีการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งก็วิ่งอพยพไปยังที่สูง

    ประธานาธิบดีปิเนร่า ยังเชื่อด้วยว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้อาจเป็นอาฟเตอร์ช็อคจากแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ทั้งนี้ศูนย์แผ่นดินไหวและผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า แผ่นดินไหวปีที่แล้วสามารถทำให้เกิดอาฟเตอร์ช็อคภายในระยะเวลา 5 ปีได้

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันเสาร์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1297488644.jpg
      1297488644.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.7 KB
      เปิดดู:
      1,366
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "ได้ยินเสียงจากพระเจ้า"

    [​IMG]

    อย่าไปฉีดวัคซีนป้องกัน ระมัดระวังการฉีดทุกอย่างเข้าเส้นเลือด !!!

    เรา YAHUVEH(พระเยโฮวาย์) ได้บอกผู้รับใช้หญิงคนนี้ของเราในวันนี้เพื่อที่จะตักเตือนเจ้าว่า จะมีการกักขังไว้อย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่ของเชื้อโรคในวันข้างหน้า (การกักเรือหรือบุคคลหรือสัตว์ที่ต้องสงสัยว่าเป็นพาหะนำโรคติดต่อ,ระบบการป้องกันการแพร่ของเชื้อโรค,สถานที่กักกันเชื้อโรค,ระยะเวลา 40 วันหรือมากกว่า ) เพราะมนุษย์ได้สร้างเชื้อโรคต่างๆ (เสริมโรคภัยไข้เจ็บ เกิดจากความผิดบาปที่ไม่เชื่อฟัง คอรัปชั่นคำสั่งสอนของพระเจ้า) ซึ่งไม่ได้ถูกสร้างโดยเรา จากนั้นมนุษย์ได้สร้างสิ่งหนึ่งพวกเขาเรียกว่า วัคซีน แต่บุตรของเราทั้งหลายเอ๋ยจงระมัดระวัง มีความตายอยู่ในวัคซีนนั้นที่ได้ฉีดใส่ไปในเส้นเลือดของเจ้า อย่าไปวางใจในการการฉีดวัคซีน,หรือฉีดเชื้อเข้าในร่างกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันของมนุษย์

    วางใจใน สดุดี 91ให้วางใจเชื่อในพระนามของบุตรชายของเราและเรียกออกชื่อของเราและดำเนินชีวิตยืนอยู่ใน สดุดี 91 ว่าเราจะรักษาเจ้าจากโรคระบาดอย่างรุนแรงที่อยู่ท่ามกลางเจ้าและเมื่อเจ้าได้เคารพให้เกียรติเราในวันสะบาโตที่แท้จริง(เสริม วันศุกร์ดวงอาทิตย์ตกดินไปจนถึงวันเสาร์ดวงอาทิตย์ตกดิน) ตราบเท่าที่เจ้าได้พยายามอย่างที่สุดที่จะเชื่อฟังเรา ตราบเท่าที่เจ้าได้วางเราไว้เป็นอันดันแรกในความรักของเจ้าและในชีวิตของเจ้า และเป็นเหมือนสามีของเจ้าที่ได้มีสิทธิ์ถูกต้องอยู่เหนือภรรยา จากนั้นจะมีการป้องกันอยู่เหนือบ้านของเจ้า เพราะเป็นโลหิตของบุตรชายของเรา ที่ได้หลั่งออกเพื่อเจ้าที่ไม้กางเขนทีได้ปกคลุมและป้องกันเจ้าและพวกเขาเหล่านั้นที่ได้เรียกออกชื่อนามของเรา พวกเขาเหล่านั้นมีเป็นเหมือนนิสัยของพระเจ้า(ลักษณะบุคคลิกพระฉายของพระเจ้า)ภายในชีวิตของพวกเขา (มีพระเยซูคริสต์เป็นชีวิตอยู่ภายใน)

    เราจะพูดเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งในโอกาสหน้าเพราะตอนนี้เวลานั้นยังมาไม่ถึง เราต้องการจะตักเตือนเจ้าเดี่ยวนี้ บุตรของเราเอ๋ย อธิษฐานที่เจ้าจะไม่มีส่วนของการถูกนับอยู่ในจำนวนคนที่ถูกกักขังไว้อย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่ของเชื้อโรคในวันข้างหน้า เพราะหลายคนจะกลายเป็นกลุ่มที่เหมือนวัว ควาย สัตว์เลี้ยง เข้ามาในสถานที่กักขังการแพร่เชื่อโรค(เป็นระยะเวลาสี่สิบวันหรือมากกว่า)และอาศัยอยู่ในนั้น และคนที่ชั่วร้ายจะกล่าวว่าเพราะว่าคุณปฏิเสธการป้องกันต่างๆของมนุษย์ จากนั้นทำให้คุณได้ติดเชื้อ คุณอยู่ในภาวะอันตรายอย่างมาก และเป็นเหมือน วัว ควาย ที่ได้จับกลุ่มเป็นฝูง ที่นั้นหลายคนจะอยู่รวมกันเป็นฝูงชน เกือบจะไม่มีห้องที่จะให้ยืน

    จงระมัดระวังบุตรทั้งหลายของเราเอ๋ยเกี่ยวกับการฉีดสิ่งที่มีพิษเข้าไปในเส้นเลือดของเจ้า บุตรทั้งหลายของเราเอ๋ยจงระมัดระวังอากาศทุกๆอากาศที่เจ้าหายใจเข้าไป บุตรทั้งหลายของเราเอ๋ยจงระมัดระวังน้ำทุกหนทุกแห่งที่เจ้าดื่ม ความจริงก็คือถ้าไม่ใช่เพราะความเมตตาของเรา ชีวิตต่างๆคงได้ถูกลบ(จบชีวิตลง)ออกไปจากผิวโลก จงระมัดระวังบุตรทั้งหลายของเราเอ๋ยอะไรที่เจ้าได้ฉีดเข้าไปในร่างกายของเจ้า จงจำไว้ว่าเจ้าได้วางความเชื่อศรัทธาไว้ที่ไหนและความวางใจของเจ้าอยู่ที่ไหน ยืนหยัดอยู่ในสิ่งที่ถูกต้อง ลุกขึ้นยืนอยู่เพื่อการเป็นอิสระ ณ บัดนี้ (เสริม ดำเนินชีวิตให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำเป็นบุตรของพระเจ้าแท้จริง)

    นักเทศนา(ผู้นำ ศิษยาภิบาล หัวหน้า เป็นต้น)หยุดที่จะคอรัปชันเพื่อเงินทองและสิ่งของถวายต่างๆ เพราะเจ้าได้กระทำอย่างเงียบๆมาเป็นเวลานาน เราจะคิดบัญชีเพราะเจ้าไม่ได้ตักเตือนลูกแกะของเรา และถ้าเจ้าไม่ลุกขึ้นพูดตักเตือนเหมือนผู้รับใช้หญิงคนนี้ของเราที่กระทำอยู่ จากนั้นจะเป็นเหมือนนำลูกแกะไปฆ่า(ให้พวกเขาไปตกนรก)

    อันดับเริ่มแรกคนหนุ่มสาวและจากนั้นผู้สูงอายุและจากนั้นวัยกลางคนจะล้มตายลง แต่ไม่มีบุตรคนไหนที่ทรงเรียกในนามของเรา YAHUSHUA พระยาโชวาย์ที่พวกเขาจะ ….ถ้าพวกเขาได้ยินเสียงของเราและเชื่อฟังกระทำตามที่เราแนะนำ และมีความเชื่อว่าเราจะปกป้องพวกเขาและดำเนินชีวิตอยู่ในเราเหมือนที่เราเป็นผู้บริสุทธิ์และปราศจากตำหนิ..หนี!!!..จากการปรากฏของความบาปใดๆ เราจะปกป้องพวกเขาทั้งหลาย เราจะมอบสติปัญญาแก่พวกเขา เราจะซ่อนตัวพวกเขา ทูตสวรรค์ของเราจะอยู่ล้อมรอบ(เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับพวกเขา)ปกป้องพวกเขาและต่อสู้เพื่อพวกเขา

    ถอดความโดย purifysoul
    วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2011 เวลา 07:19

    ที่มา http://purifysoul.com/index.php?option=com_content&view=article&id=248%3Ado-not-get-vaccinated-beware-injected-in-your-veins&catid=25%3Aprophecies&Itemid=58&lang=th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Image.jpg
      Image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      63.8 KB
      เปิดดู:
      1,332
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2011
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นิมิตเหตุการณ์วันสิ้นโลก
    โดย ซาร่า ฮอฟแมน แปลโดย 1p2m

    [​IMG]

    เขียนเมื่อ วันที่ 14 มีนาคม 2006 นิมิตของวันสิ้นโลก(ยุคเก่า)

    ซาร่า ออฟแมน ได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายเมื่อปี 1979 (แต่ไม่สำเร็จ) เธอกล่าวว่าเธอจำต้องฟื้นกลับขึ้นมาและทำบางสิ่งในชีวิตให้สำเร็จ แต่สิ่งแรกก็คือเธอได้รับการสำแดงเกี่ยวกับวาระสิ้นโลก (หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมคนที่คิดฆ่าตัวตายอย่าง ซาร่า ถึงได้รับเลือกจากพระเจ้าให้ได้เห็นนิมิตร พระเจ้าทรงมีหนทางในแบบที่เราไม่อาจคาดคิดได้ ดังตัวอย่างหลาย ๆ ตอนในพระคัมภีร์ที่พระเจ้าไม่ได้เลือกคนที่เราคิดว่าดีพร้อมหรือสมบูรณ์แบบ)

    ต่อไปนี้คือภาพมุมกว้างของโลกที่ข้าพเจ้าเห็นจากมุมกว้างและแคบใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เหมือนกับเราอยู่นอกโลก ในอวกาศและกำลังบินเข้ามาใกล้โลก

    ข้าพเจ้ารู้ว่านี้คือสิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องตัดสินใจกลับมายังโลก(ฟื้นขึ้นมา) กลับมาสู่ชีวิตที่น่าระทมอีกครั้ง ร่างกายส่วนหนึ่งข้าพเจ้าต้องการไปสู่โลกฝ่ายวิญญาณหรือสวรรค์ แต่อีกส่วนหนึ่งก็อยากกลับไปสู่ร่างกายเดิมและดำเนินชีวิตใหม่ ความรู้สึกภายในเหมือนว่ากำลังชักเย่อกันอยู่ และสิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังจะไปพบเห็นนั้นก็ช่วยให้ข้าพเจ้าได้เข้าใจถึงสิ่งที่ข้าพเจ้าจะต้องไปบอกเมื่อข้าพเจ้าได้กลับมายังกายเดิม (จิตวิญญาณกลับมาเข้าสู่ร่าง)

    ทุกอย่างวนกลับมาอีกเหมือนเล่นวีดีโอเทปไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและเป็นอีกครั้งที่ข้าพเจ้าได้ซึมซับเห็นทุกสิ่งอย่างชัดแจ้งและสมบูรณ์ ขณะที่โลกเคลื่อนใกล้เข้ามาข้าพเจ้าได้เห็นโลกทั้งใบและเห็นหลาย ๆ ประเทศ

    ข้าพเจ้าไม่รู้จักประเทศต่าง ๆ ดีนัก แต่ขณะที่ได้มองเห็นผืนแผ่นดินก็พอจะรู้ว่าเป็นประเทศอะไรบ้าง ข้าพเจ้ามองไปที่ตะวันออกกลางได้เห็นมิสไซต์พุ่งออกจากลิเบีย พุ่งเข้าโจมตีอิสราเอลเกิดระเบิดเป็นรูปดอกเห็ดใหญ่โตมาก ข้าพเจ้ารู้ว่ามิสไซต์นั้นแท้จริงแล้วเป็นของอิหร่าน ที่ได้แอบนำมาซ่อนเก็บไว้ที่ลิเบีย นั่นคือระเบิดนิวเคลียร์ และเกือบในทันทีทันใดก็มีมิสไซต์พุ่งออกจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง มิสไซต์พุ่งข้ามไปมาทั่วทั้งโลก ข้าพเจ้าได้เห็นการระเบิดของนิวเคลียร์ ที่ไม่ได้มาจากมิสไซต์อย่างมากมาย แต่เป็นการระเบิดจากใต้ดินชนิดหนึ่ง ข้าพเจ้ารู้ว่าในอนาคตจะมีสงครามนิวเคลียร์แน่นอนทั่วทั้งโลก และต่อไปนี้คือภาพการเริ่มต้นของสงครามว่าเริ่มต้นได้อย่างไร

    ข้าพเจ้าเปลี่ยนการเพ่งมองจากตะวันออกกลางไปที่อเมริกา และกำลังจะได้เห็นสิ่งที่นำไปสู่สงครามนิวเคลียร์ล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ ซึ่งข้าพเจ้าจะเป็นพยานถึงสิ่งนี้ ขณะที่มองดูไปทั่วทวีปอเมริกาเหนือนั้น ข้าพเจ้าได้เพ่งดูไปที่แถวชายฝั่งตะวันออกขึ้นไปจนถึงนิวยอร์ก ได้เห็นตึกมากมายและผู้คน และก็ได็เห็นตึกสูงกำลังพังทลายลงมาที่พื้นดินมีควันกระจายอย่างน่ากลัว ซากปรักหักพัง ฝุ่งคลุ้งไปทั่ว (เธอเห็นภาพตึกเวิร์ดเทรดถล่มหรือเปล่า?) ข้าพเจ้าเห็นผู้หญิงอุ้มเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ในอ้อมแขนวิ่งหนีจากจากตึกที่ถล่ม

    ผู้หญิงผมยาวสีดำ หยิกเล็กน้อยพาดไหล่ ใส่ชุดสูทผ้าขนสัตว์สีแดงปลายสีเข้มหรือออกสีเปลือกไม้ ไม่ใส่แว่นตา เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ดูอายุประมาณ 6-7 ปีผมสั้นเลยคางสีน้ำตาลทรงผู้หญิง พวกเขาจับมือกันวิ่งหนีจากตึกสูงที่กำลังถล่มลงมา ฝุ่นควันหนาทึบมากและทำให้พวกเขาแยกจากกัน เด็กร้องอย่างตกใจกลัวหาแม่หลายครั้ง ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าพวกเขาจะเป็นหรือตาย ข้าพเจ้าเห็นหน้าของผู้หญิงคนนี้ได้อย่างชัดเจนและระบุตัวถ้าหากได้เห็นรูปของเธอ หรือบอกให้นักวาดรูปวาดภาพของเธอได้ ข้าพเจ้าสงสัยว่าตึกถล่มเพราะแผ่นดินไหวหรือไม่ แต่ในความรู้สึกที่เห็นก็คือ ไม่ใช่ แต่ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุใดแน่

    สิ่งต่อมาก็คือข้าพเจ้ารู้สึกได้มากกว่าที่เห็นแม้จะช่วงสั้น ๆ คือหลังจากเหตุการณ์นี้ไม่นาน การค้าขาย การซื้อขายก็หยุดชงักหรือกล่าวได้ว่าเศรษฐกิจยุติลง หรือเกือบล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ไม่มีใครมีเงินถืออยู่เลย

    ต่อมาข้าพเจ้าเห็นผู้คนล้มป่วยและค่อย ๆ ตายไป สิ่งที่เห็นนี้เจาะจงลงไปยังเมืองใหญ่ ๆ 4 เมืองคือ นิวยอร์ก ลอสแองเจลิส ซานฟรานซิสโก และ ซอร์ลเลค เชื้อโรคก็เริ่มแพร่กระจายโดยเกิดตุ่มสีขาว ๆ ไปทั่วตัวคน บางตุ่มก็ขนาดเท่าเหรียญบาทอยู่บนมือ แขนและหน้า และพัฒนาไปอย่างรวดเร็วกลายเป็นตุ่มพองฟูสีขาวอย่างน่ากลัว ผู้คนเริ่มเดินสะดุดหกล้มลงและตายในเวลาอันรวดเร็วอย่างมากมาย หรือภายใน 24 ชม.

    ข้าพเจ้าเห็นบางคนมีเลือดออกมาจากจมูก ปากตา และหู มันเริ่มต้นคล้ายไว้รัสไข้หวัดใหญ่และแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เร็วกว่าเชื้อผุพองสีขาวที่เห็น ประชาชนที่ได้รับเชื้อโรคนี้ตายเร็วกว่าเดิมเสียอีก สิ่งนี้แพร่กระจายไปทั่วทั้งอเมริกา คนหลายแสนเริ่มอ่อนแอเจ็บป่วยด้วยเชื้อโรคสองชนิดนี้ (ถูกฉีดวัคซีนที่มีพิษ หรืออาจจะถูกโจมตีด้วยอาวุธเคมีชีวภาพ?)

    ข้าพเจ้ารู้ว่ามันคือเชื้อโรค และมีหลายชนิดมาก แต่สองตัวแรกบรรจุใส่ภาชนะขนาดเล็ก ๆ ที่ขนเข้ายังอเมริกา มันมีลักษณะคล้ายกับเหยือกเบียร์ และข้าพเจ้าเห็นเหมือนกับมีคนถือมันและนำมันไปลงบนพื้นในที่ ๆ มีฝูงชนเยอะ ๆ และคนก็ติดเชื้อโรคโดยไม่รู้ตัว

    ในเมืองเหล่านี้ที่บอกมามีเชื้อโรคกระจายไปทั่ว ประชาชนก็พยายามหนีออกจากเมืองไปนอกเมือง มีจราจลวุ่นวายาทั้งเมือง สังคมแตกสาแหรกขาด ไม่มีไฟฟ้าอีกต่อไปโดยข้าพเจ้าไม่รู้ว่าทำไม และไม่รู้ว่าจะมีได้อย่างไร มีรถยนต์เต็มไปหมดขวางกั้นถนนและคนจำนวนมากได้เดินเท้าเปล่า เชื้อโรคกระจายออกไปทั่วโดยเริ่มต้นที่เมืองเหล่านี้

    ประชาชนเริ่มหนีไปยังเมืองอื่น ๆ และก็มีแก็งอันธพาลโจมตีและฆ่าประชาชน ในเมืองที่ถูกโจมตีด้วยเชื้อโรคนั้นก็จราจลวุ่นวายทั้งเมือง มีการปล้นสะดม ฆาตกรรม พังพินาศสิ้น คนจำนวนมากดูเหมือนกับเสียสติบ้าคลั่ง ข้าพเจ้ารู้สึกว่า ระบบไฟฟ้าล้มเหลวไปทั้งเมือง และไม่มีอะไรนอกจากการวิ่งหนีวุ่นวาย ไม่มีการติดต่อสื่อสารหรืออะไรเลยไม่ว่าที่ไหนในประเทศ ไม่มีการทำงาน ไม่มีการออกอากาศวิทยุหรือโทรทัศน์ ข้าพเจ้าเห็นประชาชนขว้างปาก้อนหินใส่กระจก หน้าต่าง เพื่อขโมยทีวีในร้านซึ่งข้าพเจ้าคิดว่ามันเป็นความบ้าคลั่งจริง ๆ เพราะขโมยทีวีไปก็ใช้ไม่ได้

    ในทันใดนั้น ในขณะที่ข้าพเจ้าได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอเมริกา ข้าพเจ้าก็กระโดดกลับมามองแถวตะวันออกกลางและได้เห็นบางสิ่งในอิสราเอล เป็นความเลวร้ายเช่นเดียวกัน คือข้าพเจ้าได้เห็นเชื้อโรคบางชนิดหรือโรคร้ายบางอย่างที่นั่น ข้าพเจ้ารู้โดยไม่ทราบสาเหตุเลยว่าเชื้อโรคที่ใช้ในอเมริกานั้นก็เป็นชนิดเดียวกับที่นำมาใช้ในอิสราเอลด้วย

    ในชั่วขณะหนึ่งข้าพเจ้าก็ได้พุ่งกับมาที่อเมริกา ได้เกิดฤดูหนาวที่น่ากลัวอย่างยาวนานขึ้นซึ่งยาวไปจนถึงหน้าร้อน นั่นทำให้หลายคนประหลาดใดและเป็นจุดเริ่มต้นของความอดอยากขาดแคลนอาหารอย่างเต็มที่ แต่จริง ๆ แล้วที่ข้าพเจ้าได้เห็นนั้นเพิ่งจะเริ่มความอดอยากครั้งยิ่งใหญ่อย่างเต็มขนาด เพราะความอดอยากได้เริ่มมาแล้วตั้งแต่เกิดเพราะพายุ ความแห้งแล้ว น้ำท่วมหรือโรคระบาด ซึ่งเกิดมาเป็นเวลาหลายปีนำหน้าฤดูหนาวที่ยาวนานนี้แล้ว

    มันดูเหมือนเป็นปีที่ตามมาด้วยฤดูหนาวที่ยาวนาน เริ่มเมื่อทุกสิ่งเริ่มต้นล่มสลายลงอย่างรวดเร็วหรือ ทุกสิ่งพังทลายหักทับถมกันโดยไม่มีสิ้นสุด ข้าพเจ้าไม่แน่ใจเรื่องเวลาชัดเจนนักเพราะข้าพเจ้าเห็นหลาย ๆ สิ่งดูเหมือนเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันในเวลาใกล้เคียงกันมาก

    ในช่วงระหว่างและหลังจากฤดูหนาวที่ยาวนานนี้ เชื้อโรคได้แพร่กระจายไปทุกที่ และเพิ่มความเลวร้ายขึ้นอีก เศรษฐกิจล่มสลายอย่างสมบูรณ์พร้อมทั้งระบบไฟฟ้าด้วยมีการจราจล ไร้กฎหมายบ้านเมือง อย่างสมบูรณ์ทั่วทั้งอเมริกา ไม่มีรัฐบาลเพราะทุกอย่างล่มสลาย ไม่มีอาหารอีกต่อไป ข้าพเจ้าได้เห็นประชาชนพยายามค้นหาอาหารและประสาทเสียอย่างสุดขีดเพราะไม่มีอาหารกิน และได้เห็นประชาชนขุดดินเพื่อหาหนอนกินเพราะความหิวอย่างมาก

    ในระหว่างนี้ข้าพเจ้าได้คิดถึงเกี่ยวกับน้ำ เพราะมีน้ำอยู่เพียงน้อยนิด และน้ำที่เหลือเกือบทั้งหมดเป็นพิษ หากว่ามีใครดื่มเข้าไปก็จะติดเชื้อและตาย คนจำนวนมากไม่รู้ว่าพวกเขากำลังจะตายเพราะพวกเขาหิวน้ำอย่างมาก

    ประชาชนบางส่วนดูเหมือนจะบ้าคลั่งเสียสติ และเข้าร่วมไปกับแก็งอันธพาลต่าง ๆ เพื่อไล่ฆ่าคนอื่น ๆ โดยเหตุผลเพราะอยากฆ่า ซึ่งเป็นความเลวร้ายสุดขีด ในขณะที่บางส่วนก็ฆ่าฟันคนอื่นเพราะต้องการอาหาร พวกเขาดูเหมือนสัตว์ร้าย สัตว์ป่าที่ไร้ซึ่งการควบคุมตนเองอย่างสิ้นเชิง มีการขมขื่น ปล้นสะดม เผาทำลาย ไล่ฆ่าสับประชาชนข้าพเจ้าเห็นพวกเขาเข้าไปยังบ้านของคนต่าง ๆ และเข้าไปฉุดลากคนในบ้านที่ซ่อนตัวออกมาและขมขื่น และฆ่าสับพวกเขา

    ดูเหมือนกับความกลัวและความเกลียดชังได้พุ่งออกมาจากตัวของคน ครอบครัว ภรรยา สามิ ความรักระหว่างกันไม่มีเหลืออีกต่อไป มีแต่ความอยู่รอดเท่านั้น สามีจะฆ่าภรรยาและลูก ๆ ของเขาเพื่ออาหารและน้ำดื่ม แม่จะฆ่าลูก ๆ เป็นความเลวร้ายอย่างถึงที่สุดเกินจะบรรยายได้

    ในอากาศดูเหมือนจะเต็มไปด้วยหมอกควัน และตึกจำนวนมากถูกเผาทำลายไม่มีใครดับไฟ ในขณะที่ข้าพเจ้ามองดูฉากแห่งความวุ่นวาย การพังทลายและหมอกควัน ก็สังเกตุเห็นกลุ่มแสงกระจายไปทั่วอเมริกา ข้าพเจ้าคาดว่าน่าจะประมาณยี่สิบหรือสามสิบ และส่วนมากจะวางอยู่บริเวณตะวันตกของอเมริกา เพียงสามหรือสี่กลุ่มอยู่ทิศตะวันออก กลุ่มแสงเหล่านี้ดูเหมือนจะส่องผ่านความมืดออกมาและทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกสนใจและเพ่งดู สงสัยว่ามันคืออะไร

    ข้าพเจ้าได้เห็นว่ามันคือกลุ่มของประชาชนที่รวมตัวกันและคุกเข่าอฐิษฐาน แสงเหล่านี้ออกมาจากตัวพวกเขา ข้าพเจ้านึกได้ทันทีว่ามันคือความดีและความรักของพระเจ้าข้าพเจ้าเข้าใจว่าพวกเขาคงมารวมตัวกันเพื่อความปลอดภัยและห่วงใยคนอื่นมากกว่าตัวเอง บางกลุ่มเล็ก ๆ มีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่บางกลุ่มก็มีคนหลายพันคน

    ข้าพเจ้าระลึกได้ว่า ถ้าไม่ใช่เพราะส่วนใหญ่ของเมืองนี้รวมตัวกันก่อนการโจมตีด้วยเชื้อโรค และพวกเขามีการจัดเตรียมการอย่างดีแล้ว ก็ดูเหมือนพวกเขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นและได้เตรียมรับมือไว้ ข้าพเจ้าไม่เห็นมีผู้นำหรืออะไรควบคุม แต่เห็นคนจำนวนมากเกาะติดพวกเขาแม้ไม่มีอะไรแต่อะไรทำให้พวกเขายึดถือไว้ได้

    ในเมืองแห่งแสงสว่างนี้มีอาหารและการแบ่งปันอาหารให้คนที่เข้ามาร่วมในกลุ่ม มีสันติและความปลอดภัย พวกเขาอาศัยอยู่ในเต้นท์ มีเต้นท์หลายชนิด ส่วนมากจะเป็นผ้าห่มคลุมขึงกับเสา ข้าพเจ้านึกถึงพวกแก็งอันธพาลที่ไม่ยุ่งกับกลุ่มประชาชนเหล่านี้ แต่จะเลือกโจมตีประชาชนที่ไร้การป้องกัน พวกเขายังคงอธิษฐานต่อผู้ที่พยายามจะมายังเมืองแห่งแสงสว่างนี้ คนจำนวนมากในเมืองนี้มีปืนเพื่อป้องกันตนเองจากพวกแก็งและดูเหมือนพวกแก็งไม่ต้องการต่อสู้กับพวกเขา

    ข้าพเจ้าเห็นว่าเมืองแห่งแสงสว่างเหล่านี้ นับแต่แรก ๆ ที่ข้าพเจ้าคิดถึง ในช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากนั้นประชาชนในกลุ่มก็เริ่มออกไปยังที่ต่าง ๆ ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าพวกเขาไปที่ไหนแต่ดูเหมือนพวกเขาจะรวมตัวกันที่ภูเขาหรือที่สูง ขณะที่ข้าพเจ้ามองดูเมืองแห่งแสงสว่างนี้ ก็เห็นมิสไซร์พุ่งออกมาและโจมตีบางเมืองและมีควันรูปดอกเห็ดพุ่งขึ้นเกิดขึ้นทั่วอเมริกา บางส่วนเป็นมิสไซร์ซึ่งข้าพเจ้ารู้ว่ามาจากรัสเซียแต่บางส่วนเป็นระเบิดที่อยู่ในอเมริกาแล้วนั่นเอง พวกเขานำมาซ่อนไว้ในรถบรรทุกหรือรถยนต์และระเบิด

    ข้าพเจ้ามองอย่างเจาะจงไปที่ ลอส แองเจลิส ลาสเวกัส และนิวยอร์ก ที่ถูกโจมตีด้วยระเบิด นิวยอร์กถูกโจมตีด้วยมิสไซร์ แต่ ลอสแองเจลิส ดูเหมือนถูกโจมตีด้วยระเบิดในรถบรรทุกหรือหลาย ๆ อย่าง แต่ข้าพเจ้าไม่เห็นมิสไซร์ ส่วนทางเหนือของเมือง ซอล์ค เลค มีระเบิดดอกเห็ดกลุ่มหนึ่งแต่ไม่มีมิสไซร์

    ในความมืดมิดข้าพเจ้าเห็นลูกไฟเล็ก ๆ แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นถ้าสิ่งนี้อาจเกิดก่อนหรือหลังกลุ่มควันดอกเห็ด แต่มีลูกไฟเป็นล้าน ๆ ตกลงทุกที่ และร้อนมาก มีขนาดเท่ากับลูกกอล์ฟ ขณะที่มันตกลงมาจากฟ้ามันก็มีสายเปลวไฟเป็นหางมีควันตามหลัง และไม่ว่ามันตกกระทบอะไรก็จะเกิดไฟลุก ไม่ว่าจะตัวคน ตึก ต้นไม้ กระจก และทุกสิ่ง ข้าพเจ้าไม่รู้ได้ว่ามันคืออะไรหรือมาจากไหน เพราะในเวลานี้ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนคนป่วยที่ต้องได้เห็นภาพเหล่านี้และเพียงได้แต่มองโดยไม่สามารถถามอะไรได้

    หลังจากควันดอกเห็ดลอยพุ่งขึ้นเบื้องบนแล้ว ข้าพเจ้าได้เห็นกองทหารรัสเซียเคลื่อนพลบุกเข้ามาในอเมริกา มีพลร่มลงตามที่ต่าง ๆ จำนวนมากมาก่อนหน้านั้นจากฝั่งตะวันออก และเห็นพลร่มลงที่เมือง ซอล์ค เลค และข้าพเจ้าเห็นกองทหารจีนเคลื่อนพลเข้ามาทางฝั่งตะวันตกใกล้ ลอส แองเจลิส และประชาชนที่ยังคงอยู่ก็เริ่มต่อสู้ด้วยปืนของพวกเขาแต่ไม่เห็นทหาร(อเมริกา)ใด ๆ

    นี่คือสงครามนิวเคลียร์ ที่ข้าพเจ้าได้เห็นตอนเริ่มแรกและรู้ว่ามันจะเกิดขึ้นทั่วทั้งโลก อย่างที่ได้เห็นมาก่อนหน้านี้ ข้าพเจ้าไม่เห็นสงครามมากนัก แต่พอรับรู้ได้ว่ามันจะกินเวลานานมากนัก และรัสเซียและจีนจะแพ้ แต่ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด

    กลุ่มควัน(จากระเบิดนิวเคลียร์)จะหนามาก ๆ ทั้งมืดและหนัก เป็นสิ่งที่ดูจะเลวร้ายพอ ๆ กับจุดกำเนิดของมัน และในทันใดนั้นก็เกิดแผ่นดินไหว สิ่งนี้จะเกิดในฤดูหนาว ซึ่งดูเหมือนเป็นฤดูหนาวที่ยาว นานมาก จนทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวายขึ้นเกือบทั้งปี แผ่นดินไหวดูเหมือนจะเริ่มในฝั่งตะวันตกรอบ ๆ รัฐ ไอดาโฮ และไวโอมิ่ง และแผ่กระจายไปทั่วทุกที่

    ข้าพเจ้าเห็นแผ่นดินไหวใหญ่โจมตีเมือง ยูทาห์ และ แคลิฟอร์เนีย มีแผ่นดินไหวทั่วแคลิฟอร์เนียร์ แต่ ลอส แองเจลิส และ ซานฟรานซิสโก ถูกทำลายพินาศ แผ่นดินไหวนี้กระตุ้นให้เกิดภูเขาไฟระเบิดทั่วตลอดฝั่งตะวันตก และพ่นควันขี้เถ้าจำนวนมหาศาลอย่างรุนแรงขึ้นสู่อากาศ และอากาศก็มืดมิดสกปรก ดวงอาทิตย์ก็มืดลงเพราะควันและเกิดฝนขี้เถ้าตกกระจายไปทั่ว

    ข้าพเจ้าเห็นคลื่นยักษ์พักถล่มชายฝั่งตะวันตก และเห็นว่ามันเกิดขึ้นทั่วชายฝั่งทะเลทั่วทั้งโลก เมืองลอส แองเจลิส เกือบทั้งหมดถูกคลื่นกวาดสิ้น คลื่นนั้นใหญ่มาก ๆ ข้าพเจ้าเห็นกำแพงน้ำ สูงกว่าตึกจำนวนมาก บางทีอาจสูงถึง 20 ฟุต(6 เมตร) พัดถล่มเมือง ซอล์ค เลค ซิตี้ ข้าพรู้สึกแปลกใจมากเพราะเมืองนี้ตั้งอยู่ห่างจากมหาสมุทรมาก และสงสัยว่าคลื่นเดินทางจากมหาสมุทรมาตลอดทางจนถึงเมือง ซอล์ค เลค ซิตี้ได้อย่างไร

    ข้าพเจ้าเห็นได้ว่ามันไม่ได้มาจากมหาสมุทรแต่มาจากใต้ติด ข้าพเจ้าเห็นการแตกออก ของพื้นดินอย่างรวดเร็วรอบ ๆ เมือง ซอล์ค เลค ซิตี้ เปิดออกและมีน้ำพุ่งออกมาจากใต้ดินที่ลึกมาก มีน้ำจำนวนมากมหาศาลอยู่ใต้ดินและแผ่นดินไหวได้ผลักดันมันออกมาเมื่อน้ำพัดทำลายเมือง ก็ไม่มีตึกหลงเหลืออยู่อีก เป็นการทำลายล้างอย่างน่ากลัวจนไม่มีอะไรเหลืออยู่ และน้ำไหลไปจาก ไอดาโฮ ลงไปยังเมือง ซีดาห์ ใกล้ ๆ เลวร้ายอย่างมาก

    ส่วนในเมืองมีการพังทลายอย่างใหญ่หลวง ตึกส่วนมากพังทลายสิ้น มีเศษอิฐปูนกระจายไปทั่ว แม้ว่าแผ่นดินไหว เชื้อโรค น้ำท่วม ภูเขาไฟ และคลื่นยักษ์ จะฆ่าคนไปจำนวนมาก แต่คนส่วนใหญ่ก็ตายเพราะถูกแก็งอันธพาลฆ่า และฆ่ากันเอง ไม่ได้มาจากภัยพิบัติทำลายล้างที่น่ากลัว ขณะนั้นเองข้าพเจ้าก็ได้เห็นโลกทั้งหมด ดูเหมือนย่ำแย่เพราะสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นบนโลก และก็มีการปฏิกิริยาต่อต้านในที่สุด ข้าพเจ้าเห็นเหมือนว่าโลกนี้ต้องการทำความสะอาดตัวเอง ต่อสิ่งเลวร้ายวุ่นวายและความความชั่วร้ายที่ครอบงำมนุษย์อยู่

    เพราะภูเขาไฟระเบิดทุก ๆ ที่ ทำให้มีฝุ่นขี้เถ้าผสมกับอากาศ ขี้เถ้าได้ตกลงทุกที่ ทำให้ทุก ๆ ที่เกือบจะมืดสนิท เชื้อโรคก็กลับมาเลวร้ายเพิ่มอีกอย่างมาก ข้าพเจ้าได้เห็นประชาชนล้มตายบนพื้นอย่างชัดเจน และมีเชื้อโรคอื่น ๆ อีกด้วย ประชาชนมีตุ่มแผลบนตัวและเริ่มออกเลือดไปทั่วตัว และก็เริ่มแตกกระจายหรือรวมตัวกันไปเป็นอะไรบางอย่างที่บอกไม่ได้เป็นก้อนเนื้อและกระดูก ข้าพเจ้าก็ไม่อาจจะบรรยายสิ่งที่เห็นได้ ศพคนตายมีอยู่ทุกที่

    หลังจากฤดูหนาวที่น่ากลัวนี้ ข้าพเจ้าได้เห็นหน่วยกู้ภัยได้เก็บศพคนตายกองทับถมกันและเผารวมกัน ส่งกลิ่นเหม็นสุดขีด ข้าพเจ้าสามารถได้กลิ่นได้แม้จะเพียงเล็กน้อยการเผาศพคนตายเหล่านี้เกิดขึ้นช่วงเล็ก ๆ ในระหว่างเกิดจราจลวุ่นวาย แต่มีคนไม่มากนักที่กังวลถึงเรื่องความอยู่รอดมากกว่าจนไม่ใส่ต่อคนตาย

    สิ่งที่ข้าพเจ้าได้เห็นมากกว่าสี่อย่าง ข้าพเจ้าได้เห็นแผ่นดินไหวใหญ่ใจกลางอเมริกา มันน่ากลัวมากดูเหมือนจะแยกอเมริกาออกเป็นครึ่งหนึ่งตรงบริเวณเริ่มแม่น้ำ มิสซิบซิบปี้ รอยแตกนี้เปิดออกและทำให้แผ่นดินจมหายลงไปทั้งหมด มันกว้างเป็นไมล์และแผ่นดินก็จมลงไปในนั้น ดูเหมือนมันกลืนทุกสิ่งลงไปและน้ำจากอ่าวเม็กซิโกก็ไหลลงไปด้วยทำให้เกิดทะเลสาบขนาดใหญ่ แต่มันไม่ได้เป็นทะเลสาป แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของทะเลในพื้นแผ่นดิน

    และข้าพเจ้าเห็นแผ่นดินไหวที่น่ากลัวเป็นชุด ๆ ไปทั่วโลก แต่มีไม่มากที่เป็นแผ่นดินไหวเดี่ยว ๆ มันจะเป็นคลื่นแผ่นดิวไหวอันเดียวกัน เป็นแผ่นดินไหวที่ใหญ่โตอย่างมากสุด ๆ ที่เขย่าโลกทั้งโลก และเพราะแผ่นดินไหวนี้ ทำให้น้ำไหลเข้ามาท่วมแผ่นดินทั่วทั้งโลก กำแพงน้ำยักษ์พัดถล่มชายฝั่งทั่วโลก แผ่นดินไหวและกำแพงน้ำที่เกิดก่อนหน้านี้ดูจะเล็กกว่าข้าพเจ้าไม่รู้ว่าแผ่นดินไหวที่แบ่งอเมริกาออกเป็นสองส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินไหวที่เกิดทั่วโลกด้วยหรือไม่

    และข้าพเจ้าได้เห็นลมที่พัดอย่างรุนแรงมาก พัดผ่านบนแผ่นดินโลก ขณะที่ลมพัดข้าพเจ้าเห็นประชาชนวิ่งหนีเข้าถ้ำต่าง ๆ หรือรอยแตกของเปลือกหินต่าง ๆ เพื่อหนี มันน่ากลัวมาก ลมพัดต้นไม้และทุกสิ่งปลิวหมด มันดูเหมือนจะรุนแรงกว่าเฮอร์ริเคนหรือทอร์นาโด ทุก ๆ สิ่งถูกพลัดปลิวหมด ข้าพเจ้าเข้าใจโดยไม่ต้องถามว่า แผ่นดินไหวใหญ่ทั่วโลกนี้และลมนี้ เกิดจากวัตถุขนาดใหญ่อันหนึ่ง มันดูเหมือนดาวเคราะห์หรือบางสิ่ง (ดาว Nibiru ที่กำลังมา?) โดยมันเคลื่อนที่เข้ามาใกล้โลกและมีผลกระทบต่อทุกสิ่งบนโลก และนั่นคือจุดจบที่กำลังจะเกิดขึ้นที่ใกล้เข้ามา

    และข้าพเจ้าก็กลับมาสู่อวกาศนอกโลก มองเห็นโลกทั้งโลกจากระยะไกลอีกครั้ง ข้าพเจ้าเห็นลูกบอลไฟขนาดใหญ่ ใหญ่กว่าโลกสองหรือสามเท่า (ลูกไฟที่ดาว Nibiru ปล่อยออกมาเพราะถูกกระตุ้นจากดวงอาทิตย์ ?)วิ่งเข้ามาที่โลกมันมีสีแดงเจิดจ้ามากและมีสีทองผสม และทันใดนั้นมันก็พุ่งมาห่อหุ้มโลกทั้งโลก เมื่อข้าพเจ้าเห็น เนื่องจากมันเป็นสิ่งที่ประหลาดกว่าสิ่งใด ๆ ก็ได้สงสัยว่าคืออะไร ข้าพเจ้าได้เห็นมันกำลังพุ่งมาเผาโลกซึ่งเป็นไปตามที่พระคัมภีร์กล่าวไว้

    2 เปโตร 3:7 "แต่ว่าท้องฟ้าอากาศและแผ่นดินโลกที่อยู่เดี๋ยวนี้ พระองค์ทรงเก็บงำไว้โดยคำตรัสนั้นสำหรับให้ไฟเผา คือเก็บไว้จนถึงวันทรงพิพากษาและวันพินาศแห่งบรรดาคนอธรรม"

    ข้าพเจ้าเข้าใจได้ว่าก่อนที่มันจะเกิดขึ้นนั้น (ก่อนลูกไฟวิ่งมาเผาโลก) พระเยซูคริสต์จะปรากฎต่อคนทั้งโลกและพวกประชาชนที่เป็นคนดีที่ข้าพเจ้าได้เห็นแต่แรกนั้น(ที่อยู่ในเมืองแห่งแสงสว่าง และที่อื่น ๆ ทั่วโลกและรวมตัวอธิษฐาน) จะถูกรับขึ้นไปจากโลกพร้อมกับพระคริสต์ไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไป แต่พวกประชาชนที่หลงเหลืออยู่ที่เป็นพวกคนชั่ว คนไม่ดีต่าง ๆ คนทำบาป จำนวนหนึ่งที่รอดตายจากภัยพิบัตินับแต่ครั้งแรก แต่ก็มีไม่มากและที่เหลือก็จะถูกไฟเผา

    --------------------------- จบ ---------------------------------

    ที่มา http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=jesuscomingverysoon&date=04-02-2010&group=1&gblog=3<!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2011
  4. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    12 ก.พ. 54 รายงานข่าวอ้างจาก สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหวกรมอุตุนิยมวิทยา ที่ได้ระบุว่า เมื่อช่วงดึกและช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้น 2ครั้งในพื้นที่ภาคเหนือ
    โดยครั้งแรกมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ อ.สอง จ.แพร่ และครั้งที่2 มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ ประเทศพม่า ห่างจาก อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 200 กิโลเมตร ซึ่งทั้ง 2 ครั้งวัดแรงการสั่นสะเทือนได้ 3.0 ริกเตอร์เท่ากัน
    ทั้งนี้แรงสั่นสะเทือนดังกล่าว ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามอาคารสูง ในพื้นที่ อ.เวียงแหง สามารรถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียและผู้บาดเจ็บอยู่อย่างใด
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
    [​IMG] ภพประกอบจากอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว

    12 ก.พ. 54 รายงานข่าวแจ้งว่า นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าการเตรียมตัวจัดการประชุม JBC ระหว่างไทยและกัมพูชา ในปลายเดือนนี้ว่า
    หลังจากที่ไทย ต้องการให้เกิดการประชุมพูดคุย เพื่อเป็นช่องทางในการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ในปลายเดือนนี้นั้น จนถึงขณะนี้ทางกัมพูชาก็ไม่มีท่าทีว่าจะเข้าร่วมการประชุมด้วยแต่ประการใด อีกทั้งยังได้ส่งสัญญาณว่าจะไม่เข้าร่วมประชุมดังกล่าว โดยอ้างว่า บรรยากาศชายแดนของทั้งสองประเทศยังไม่ชัดเจนดีพอ ที่จะตัดสินใจเข้าร่วม
    อย่างไรก็ตาม ไทยยังยืนยันตามเดิมว่า มีเจตนาที่จะขอจัดการประชุมดังกล่าว แต่ทั้งหมดอาจจะต้องรอดูหลังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ไปชี้แจงเรื่องดังกล่าวต่อ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันจันทร์ ที่ 14 กุมภาพันธ์ นี้ก่อน
    ขณะที่ สำนักข่าวต่างประเทศสำนักหนึ่ง ได้รายงานว่า นายวาร์ คิมฮง (Var Kimhong) ประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา ได้ออกมาระบุถึงการประชุม JBC ปลายเดือนนี้เช่นกัน ว่า”ขณะนี้กลไกทวิภาคีดังกล่าว ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างไทยและกัมพูชาได้แล้ว”

    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news


    [​IMG]
    12 ก.พ. 54 รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.ต. ฮุน มาเนต รอง ผบ.ทบ. กองทัพกัมพูชา และบุตรชายคนโตของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ภูมะเขือ ซึ่งเป็นจุดปะทะอย่างหนักระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาเมื่อสัปดาห์ทีผ่านมา
    ซึ่งการเดินทางไปดังกล่าวเป็นการสยบข่าวลือที่ว่า พล.ต. ฮุน มาเนต ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะ จนเป็นเหตุทำให้ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากระดมยิงปืนใหญ่ข้ามมายังฝั่งไทยอย่างหนัก เนื่องจากโกรธแค้นที่รอง ผบ.ทบ.ที่เป็นถึงลูกชายนายกรัฐมนตรีได้รับบาดเจ็บ
    ดังนั้นการเดินทางมาที่ภูมะเขือเมื่อวันที่ 10 ก.พ.นั้นจึงเป็นการลดกระแสความตึงเครียดต่อข่าวลือลงหลังหลายฝ่ายได้ประเมินว่า ฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมสงบศึกกับไทย

    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news

    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     
  5. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ทุกภาคมีฝนอุณหภูมิลด 4-6องศา </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ทุกภาคมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง อุณหภูมิลดลง 4-6 องศา



    วันนี้(13ก.พ.)กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศประเทศไทย บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเกิดขึ้นและอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศา จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะนี้ (13-15 ก.พ. 54) ไว้ด้วย


    สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรงขึ้นและเข้ามาปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ในช่วงวันที่ 13-16 กุมภาพันธ์ 2554 ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศา

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย

    ภาคเหนือ มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
    ทางตอนบนของภาค: อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาค: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศา


    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่และลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศา ตอนบน: อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ตอนล่าง: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศา สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศา


    ภาคกลาง มีฝนพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา


    ภาคตะวันออก มีพายุฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาอุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อ่าวไทยตอนบน: ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อ่าวไทยตอนล่าง: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรังและสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 22-23 องศา


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE border=5 borderColor=#98deff cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>แมวช่วยชีวิตคู่รัก </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#98deff cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><EMBED height=390 type=application/x-shockwave-flash width=640 src=http://www.youtube.com/v/Op3xr62AhUA?version=3 allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always">
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ค่าไฟพ.ค.ส่อแววปรับขึ้น เจอหลายปัจจัยดันเอฟทีพุ่ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า แนวโน้มอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่ (พฤษภาคม-สิงหาคม) มีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงและเงินบาทอ่อนค่าลง ขณะนี้กำลังพิจารณาว่าจะมีผลต่อค่าเอฟทีหรือไม่ นอกจากนี้ ไทยจะนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ช่วงไตรมาส 4 ส่งผลให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าปรับสูงขึ้น เพราะต้องนำเข้าแอลเอ็นจีที่ราคาสูงกว่าก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในประเทศ


    นางพัลภา เรืองรอง กรรมการกำกับกิจการพลังงาน กล่าวว่า ปริมาณการนำเข้าแอลเอ็นจีตามแผนพีดีพี 2010 จะเป็น 1 ล้านตัน หากคำนวณที่ราคา 10 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู และราคาก๊าซเฉลี่ยในประเทศ 251 บาทต่อล้านบีทียู จะทำให้ราคาก๊าซรวมเพิ่มขึ้นอีก 4 บาทต่อล้านบีทียู หรือมีผลต่อค่าไฟฟ้า ประมาณ 2 สตางค์ต่อหน่วย แต่ราคาก๊าซเฉลี่ยของไทยขณะนี้อยู่ที่ 260-280 บาทต่อล้านบีทียู
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    แทนคุณLazaza

    แทน คุณ Lazaza ติดธุระไม่สามารถมาลงบทความในช่วงนี้ได้ ผมจึงทำหน้าที่แทนชั่วคราว
    สองวงล้อกับพ.ศ.2537
    เวลาได้ถูกเลื่อนออกไปแล้ว
    ในภาพผมได้เห็นวงล้อรถยนต์สองวงกับ พ.ศ.2537
    วงล้อจะสื่อถึงปีนักษัตริย์ 12ปี สองวงคือ 24ปี เมื่อนำมารวมกับ
    พ.ศ.2537 ก็จะตก พ.ศ. 2561
    ความหมาย คือทุกสิ่งจะไปสิ้นสุดปี พ.ศ.2561
    จึงเรียนมาให้ คุณเกษม นำไปเป็นข้อเปรียบเทียบ

    ขออภัยที่ให้คอยนาน
    เค_อิสรา
     
  7. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    มวยแทน
    ช่วงนี้คุณ Lazaza ไม่ว่างผมจึงส่งบทความแทนไปก่อน ก่อนหน้านี้ผมได้ส่งบทความผ่านคุณ Lazaza ไปหลายบทความเกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติและเรื่องของคุณ คนมาใหม่ ก็ขอให้ติดตามอ่าน เพราะผมไม่ต้องการลงบทความซ้ำ

    เรื่องที่น่าเป็นห่วงขณะนี้คือเรื่องน้ำท่วมที่ผมได้รับสัญญาณมาเมื่อเร็วๆนี้ก็ขอให้ท่านที่อยู่ต่างจังหวัดคอยเฝ้าระวังไว้ด้วย
     
  8. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    destiny


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=hbLgszfXTAY"]http://www.youtube.com/watch?v=hbLgszfXTAY[/ame]


    [​IMG]

    ในนาทีที่ทุกอย่างบนโลก ได้พังทลายลงไปทั้งหมด อารยธรมมนุษยชาติสูญสิ้น สิ่งที่ยังค้ำจุนพวกเขาอยู่ได้ มีเพียงแสงสว่างในใจของสองพ่อลูกเท่านั้น

    The Road ผลงานการสร้างของผู้กำกับ John Hillcoat นำแสดงโดย Viggo Mortensen รับบทเป็นพ่อ Kodi Smit-McPhee รับบทเป็นลูก และ Charlize Theron รับบทเป็นแม่ เล่าถึงเรื่องราวการเดินทางของสองพ่อลูกนิรนาม ที่มีเป้าหมายคือ การลงใต้เพื่อตามหาพื้นที่อบอุ่น ที่ซึ่งพวกเขาจะสามารถดำรงชีวิตให้อยู่รอดต่อไปได้ บนโลกอันหนาวเหน็บ และเต็มไปด้วยฝุ่นควันจากสิ่งเผาไหม้

    ในเรื่องไม่ได้ให้เบื้องหลังว่า เกิดอะไรขึ้นกับโลกของเรา จนทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งมวลล้มตาย ไม่สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้อีก แต่นำเสนอภาพเหตุการณ์ ที่สองพ่อลูกออกเดินทาง เพื่อออกตามหาความหวัง

    สำหรับพ่อนั้น เขาทำทุกอย่างเพื่อจะให้ครอบครัวของเขาอยู่รอดได้ ในทางผิวเผิน หนังพยายามจะแสดงให้เห็นว่า ตัวพ่อนั้น ค่อยๆ ถลำลึกลงสู่การเป็นคนชั่วร้าย แม้เขาจะคอยพร่ำบอกกับลูกชายว่า พวกเขานั้นเป็นคนดี แต่การกระทำของพ่อ ที่หวาดกลัวต่อการสูญเสีย สิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้กัดฟันสู้ได้ต่อไปนั้น คนเป็นลูก กลับมีมนุษยธรรมที่แตกต่างไปจากพ่อ

    แต่ทั้งนี้ สิ่งที่พ่อทำนั้น คือการปกป้องลูกที่ยังอ่อนต่อโลกอย่างมาก นี่คือธีมหลักของหนังเรื่องนี้ ที่แสดงถึงความโหดร้ายของการเอาชีวิตให้รอด ภายใต้สถานการณ์ที่ยากเข็ญที่สุด โดยหนังไม่ได้ตอบโจทย์อะไรทั้งสิ้น เพียงแค่ฉายภาพอารมณ์และความรู้สึกของพ่อ ที่ต้องการจะปกป้องลูกให้รอดพ้นไปได้ แม้จะต้องทิ้งความมีมนุษยธรรมไปก็ตาม ขณะที่ลูก มีความเห็นใจผู้อื่น มีความสงสาร และซื่อบริสุทธิ์ ต่อทั้งสิ่งดีและสิ่งร้าย ที่ตัวเองได้พบเห็น

    เมื่อเรื่องราวดำเนินไป ความรู้สึกเหล่านี้ก็ค่อยๆ ส่งผลกระทบอย่างแลกเปลี่ยนกัน ระหว่างพ่อกับลูก นั่นคือ เมื่อลูกได้เรียนรู้ความโหดร้ายของโลกเพิ่มขึ้นทุกวัน พ่อก็ได้เรียนรู้มนุษยธรรมจากลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

    สำหรับความโหดร้ายของสิ่งต่างๆ ที่ตัวละครในเรื่องต้องพบเจอ เมื่อดูจบ ผู้ชมจะเห็นอีกแง่มุมของชีวิต ที่อาจจะเกิดขึ้นจริงในอนาคตที่ไม่ไกลนักก็เป็นได้


    www.suckoja.com/movie/2009/12/papa-are-we-a-bad-guys
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ปีวอก ปีระกา ปีจอ และปีกุน คือ พ.ศ.๒๕๕๙ - พ.ศ.๒๕๖๒

    [​IMG]

    อ้างอิงข้อมูลจากทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน

    หากมนุษย์ในโลก จิตใจชั่วร้ายต่ำทรามลบหลู่หลักธรรมคัมภีร์สิ้นศรัทธาในคุณความดี ถึงเกณฑ์ ปีวอก ปีระกา ปีจอ และปีกุน เมื่อใด... เมื่อนั้น มีข้าวก็ไร้คนกิน... มีเสื้อก็ไร้คนใส่... มีถนนก็ไร้คนเดิน... มีบ้านก็ไร้คนอยู่... มีที่นาก็ไร้คนทำ จวบจนถึงวาระเดือนห้า... เดือนหก สัตว์ร้ายงูพิษจะออกเพ่นพ่านไปทั่ว เข้าเดือนแปดเดือนเก้า เหล่าคนชั่วร้ายจะตายสิ้น จนซากศพเกลื่อนกลาดเต็มพื้น!

    บนท้องถนนคนล้มตายนับไม่ถ้วน... มหันตภัยมาถึง หนึ่งหมื่นคนตายเก้าพัน! พืชพันธุ์ธัญญาหารเก็บเกี่ยวได้ผลน้อย เกิดลมพายุฝนฟ้าคะนองเหล่าพญานาคดุร้ายเกะกะระรานไปทั่ว

    ถึงกาลเวไนย์สัตว์มีภัย องค์เง็กเซียนฮ่องเต้(พระอินทร์)ผู้เป็นใหญ่ จึงมีพระบัญชาส่งสองขุนพลจอมเทพผู้พิทักษ์ด่านประตูสวรรค์ลงสู่แดนมนุษย์เหนือบรรยากาศโลก เทพยดาที่สัญจรอยู่เหนือโลกมนุษย์จะบัญชาการส่ง หมู่ดาว "อ่านชิง" ลงเก็บกวาดคนชั่วร้ายทั้งหมด จะเกิดทุพภิกขภัยข้าวยากหมากแพง

    ********************************************************************************
    เรียนคุณ Lazaza​

    ช่วยนำข้อมูลเรื่อง วงล้อ 2 วงซ้อนกัน ของคุณอาเค มายืนยันเรื่องภัยพิบัติขั้นสุดท้าย ที่จะเกิดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ - พ.ศ. ๒๕๖๒ ให้ผู้อ่านกระทู้นี้ได้ทราบกันอีกครั้งด้วยครับ

    เกษม

    แทน คุณ Lazaza ติดธุระไม่สามารถมาลงบทความในช่วงนี้ได้ ผมจึงทำหน้าที่แทนชั่วคราว

    สองวงล้อกับ พ.ศ.2537 เวลาได้ถูกเลื่อนออกไปแล้ว ในภาพผมได้เห็น(นิมิต)วงล้อรถยนต์สองวงกับ พ.ศ.2537 วงล้อจะสื่อถึงปีนักษัตริย์ 12 ปี สองวงคือ 24 ปี เมื่อนำมารวมกับ พ.ศ.2537 ก็จะตก พ.ศ. 2561 ความหมาย คือทุกสิ่งจะไปสิ้นสุดปี พ.ศ.2561

    จึงเรียนมาให้ คุณเกษม นำไปเป็นข้อเปรียบเทียบ ขออภัยที่ให้คอยนาน

    เค_อิสรา

    ขอบคุณคุณ เค_อิสรา มากครับ ขอเรียนให้ผู้อ่านทุกท่านโปรดทราบว่า ระยะเวลาของการชำระโลก คือนับจากบัดนี้เป็นต้นไปและจะไปสิ้นสุดในปี พ.ศ.2561 ไม่มีการเลื่อนต่อไปอีกแล้ว และปี พ.ศ.2562 พวกเราจะได้พบพญาธัมมิราช ครับผม

    เกษม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2011
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ปีมะเส็ง(พ.ศ.2556)
    ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

    [​IMG]

    พุทธทำนายจากศิลาจารึก ที่มีบางตอนได้กล่าวไว้ดังนี้

    เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง) คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน ...ปัจจุบัน ปีเถาะ ตรงกับ พ.ศ.๒๕๕๔ ที่กำลังใช้อยู่ พุทธทำนายปีมะโรง ตรงกับ พ.ศ.๒๕๕๕ ที่โลกมีโอกาสพลิกขั้ว..ดังนั้น จากเดินลงมาเป็นคลาน ก็หนักหนาเอาการอยู่ ที่ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นทั่วโลก....สนามแม่เหล็กจะกลับขั้ว โลกอาจจะไร้แรงดึงดูดชั่วคราว ดังที่พระอาจารย์รัตน์ ได้เห็นภาพอนาคต และได้เล่าให้ศิษย์ฟัง ที่วัดดอยเกิ้ง

    ล่วงได้ ๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล...ซึ่งในเมขลาพยากรณ์ ตรงกับ ๙ พ.ค. ๒๕๕๖ ในหนังสือพระมหาชนก ที่ไขปริศนาออกมา

    ล่วงได้ ๒๕๑๒ (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ
    ในปีนี้เป็นปี พ.ศ.๒๕๕๔ (ปีเถาะ) เมื่อนำมาเทียบกับปี พ.ศ.ในพุทธทำนายก็จะได้ปีนักษัตร ที่ตรงกับปีนักษัตรในพุทธทำนายพอดี เช่นในพุทธทำนายได้กล่าวเอาไว้ว่า ปี พ.ศ.๒๕๑๒ (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน เมื่อเราเอาปี พ.ศ.๒๕๖๐ มาลดจำนวนปีลง ๔๘ ปี ก็จะได้เป็นปี พ.ศ.๒๕๑๒ ซึ่งตรงกับปีระกาในพุทธทำนายอย่างไม่มีผิดเพี้ยน..

    ประเทศไทย นำ พ.ศ. มาจากศรีลังกา ที่ พ.ศ. คลาดเคลื่อนระหว่างเกิดสงครามในประเทศนี้ เป็นเหตุให้นับ พ.ศ.เร็วกว่าความเป็นจริงไป ๔๘ ปี...ในพุทธทำนายที่กล่าวว่าเมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน คาดว่าจะเป็นการเรียงตัวของดวงดาว เป็นแนวระนาบเดียวกัน ในรอบ ๒.๖ หมื่นปี ตามที่นักวิทยาศาสตร์บอก ทำให้เงาของดาวทุกดวงบดบังแสงอาทิตย์โลกจึงมืด / หรือ อาจจะมีดาวหางพุ่งชนโลกทำให้ ฝุ่นควัน ฟุ้งกระจายจนบดบังทำให้แสงจากดวงอาทิตย์ส่องมาไม่ถึงโลก หรืออาจจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ จนทำให้พื้นโลกสั่นสะเทือน เกิดภูเขาไฟระเบิดพร้อมๆกันหลายลูก จนเถ้าถ่านของภูเขาไฟ ฟุ้งกระจายขึ้นในในบรรยากาศของโลก

    ถอดรหัสจากพุทธทำนาย

    - ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ปลายเดือนสิงหาคม 2550 ที่ผ่านมา มีคุณยายผู้ปฏิบัติธรรมท่านหนึ่งได้นำหนังสือเรื่องพุทธทำนายฉบับถอดรหัสมา ให้อ่าน ในขณะที่ผู้เขียนได้จัดสรรเวลาของตนเอง ไปฝึกทำสมาธิภาวนา วิปัสสนาภาวนา และเมตตาภาวนา ที่วัดเพลง แขวงและเขต บางพลัด ซึ่งพระอาจารย์ พระมหาฉัตรชัย รักขิตจิตโต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสสอนนำการทำสมาธิภาวนา วิปัสสนาภาวนา และเมตตาภาวนา ที่กระชับ และกระทัดรัดดี​

    - เมื่อผู้เขียนได้อ่านแล้ว ก็เห็นว่ามีเนื้อหาแปลกดี แต่ไม่แน่ใจว่า ข้อความทั้งหมดที่คัดลอกต่อๆ กันมามีการตกหล่นจากความเดิมจนถ้อยคำเปลี่ยนไปหรือไม่เพียงไร​

    - ในหนังสือเล่มนี้ อ้างว่า นำความมาจากหนังสือใบลานเก่า ที่พบในจังหวัดอัตตะบือ ประเทศลาว โดยมีพระธุดงค์นำมาถ่ายทอดโดยสรุป คือ

    1. ในปีจอ (2561) กรุงเทพฯ จะหมดสภาพเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย
    2. พระคาถาป้องกันภยันตรายในใบลาน จารึกให้นำไปท่องว่า “ปะโต เมตัง ปะระชีวินัง สุคะโต จุติ จิตตะ เมตตะ นินะนัง สุคะติ จุติ” โดยท่านแนะให้นำไปเขียนลงแผ่นผ้าก็ได้ แล้วนำไปปิดที่ประตูบ้าน หรือปิดในรถยนต์ ยามเกิดเหตุการณ์คับขันจะช่วยให้รอดชีวิตพ้นจากภยันตรายได้ มหันตภัยร้ายแรง ท่านว่าจะมี 10 ประการ ได้แก่

    1. วาตภัย (ลมพายุ)
    2. ธรณีพิบัติภัย (แผ่นดินไหว) ภูเขาไฟระเบิด
    3. อัคคีภัย (ไฟไหม้)
    4. อุทกภัย (น้ำท่วม)
    5. ฟ้าผ่าดังลั่นสะเทือนแก้วหู
    6. อากาศร้อนมากเกินไป หนาวมากเกินไป
    7. สารพิษแพร่กระจายทุกแห่งหน
    8. เกิดโรคระบาดต่างๆ
    9. เกิดข้าวยาก – หมากแพง
    10. เกิดการอาฆาตพยาบาทจองเวร จองล้าง จองผลาญ

    3. ถ้าเข้าถึงปีกุน (2562) ไปแล้ว ทุกคนจะได้รับความสุขกาย - สุขใจ เคร่งครัดในการรักษาศีล 5 มาก โดยช่วงนั้นจะมีประชากรลดลงมาก แต่ประเทศไทย จะมีประชากรเหลือมากหน่อย คือ มีเหลือรอดถึง 30 % หรือประมาณ 18 ล้านคน ขณะที่ประเทศอื่นๆ จะมีชีวิตรอดอยู่เพียง 10 % เท่านั้น

    4. เหตุการณ์ร้ายตามท้องถนน จะรุนแรงมาก ตั้งแต่ เดือน 7 ของปีระกา(ปี 2560) และในเดือน 9 – 10 ของปีจอ (ปี 2561) คนใจบาปจะถูกล้างผลาญหมดสภาพสังคมโดยทั่วไป มีบ้านแต่ไม่มีคนอยู่ มีข้าวแต่ไม่มีคนกิน มีทางแต่ไม่มีคนเดิน

    6. ผู้ที่ต้องการได้พบผู้มีบุญระดับพระโพธิสัตว์ ซึ่งจะเป็นพระศรีอารย์ในอนาคตคัมภีร์ในใบลานแนะนำให้หมั่นภาวนา หมั่นรักษาศีล 5 ให้ครบถ้วนเป็นประจำ ก็จะสมปรารถนาได้

    7. สัญญาณเตือนภยันตราย จะเกิดชัดเจนครั้งแรกในปีมะเส็ง (2556) ตลิ่งริมฝั่งน้ำจะพัง ทะเลและมหาสมุทรจะบ้าคลั่ง ให้ติดตามเหตุการณ์ดูในอีกประมาณ 2 ปีข้างหน้า หากเข้าสู่สถานการณ์นั้นๆ คัมภีร์ใบลานแนะให้ท่องว่า “สะโรนะกา โททายะโม พุทธะตะยะ” จะลดภยันตรายลงได้กึ่งหนึ่ง

    8. โลกของเรากำลังเข้าสู่กลียุค จะมีปัญหาทั้งภัยธรรมชาติ จากดิน น้ำ ลม ไฟและเกิดจากน้ำมือมนุษย์ในการแย่งชิงผลประโยชน์ แย่งชิงความเป็นใหญ่ แย่งชิงอำนาจและทำสงคราม รวมทั้งใช้อาวุธทุกรูปแบบทำลายล้างซึ่งกันและกัน

    9. ประเทศไทย ก็ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติเช่นเดียวกัน โดยในปี 2556 จังหวัดชายทะเล และกทม. จะมีแผ่นดินยุบตัว คลื่นน้ำจะพัดเข้าชายฝั่ง คลื่นน้ำอาจมีความสูงถึง 20 เมตร (สูงเกือบเท่าตึก 7 ชั้น) ผู้ที่อยู่ริมน้ำทั้งหมดจะล้มตายเกือบครึ่ง โดยจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไปถึงปี 2560 ในที่สุดประชากรไทย จาก 65 ล้านคน จะเหลือเพียง 18 ล้านคนในปี 2561

    (ข้อนี้ฟังดูแล้วคลับคล้ายคลับคลา กับพยากรณ์ของนางมณีเมขลา 9 พ.ค. 2556 มากทีเดียว ผู้ที่ติดตามข้อมูลที่ในหลวงทรงแจ้งเตือนพสกนิกรชาวไทยล่วงหน้า เป็นปริศนา เช่นเดียวกับนอสตราดามูส ผู้ยังความไม่ประมาทพึงพิจารณาด้วยตนของตนเอาเถิด)

    ซึ่ง ทั้งหลายทั้งปวงนี้ อาจเกิดขึ้นจริง หรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่พวกเราก็ไม่ควรดำเนินชีวิตด้วยความประมาท อย่างน้อยที่สุดก็ขอให้ท่านจัดสรรเวลาวันละเล็กวันละน้อย ฝึกความมีสติ และความมีสัมปชัญญะ เพิ่มการรักษาศีล และรู้จักให้ทานมากขึ้นด้วยครับ เพราะสิ่งที่ท่านให้แก่ผู้อื่น สงเคราะห์เกื้อกูลผู้อื่น มีความเมตตาผู้อื่นสัตว์อื่น หรือ ปรารถนาให้ผู้อื่นสัตว์อื่นมีความสุขในปัจจุบัน มีความกรุณาต่อผู้อื่น สัตว์อื่นหรือ มีจิตปรารถนาให้ผู้อื่น สัตว์อื่นที่มีความทุกข์ ได้พ้นจากทุกข์ในปัจจุบัน

    สิ่ง เหล่านี้จะเป็นพลังกุศลผลบุญสนองตอบแก่ท่านในช่วงที่โลกเข้าสู่วิกฤติ อันจะมีผลให้ท่านมีความสุขได้ในทุกสถานการณ์ และพ้นทุกข์ได้โดยเร็วพลัน เป็นการลงทุนสร้างความงามความดีในปัจจุบัน ขณะที่เราสามารถกระทำได้โดยไม่เดือดร้อน ก็ขอให้ท่านรู้จักใช้โอกาสอันดีดังกล่าวด้วย หากประมาท ท่านอาจสูญเสียโอกาสที่ดีดังกล่าวตลอดไปก็ได้

    (ในประเด็นนี้ ท่านผู้เป็นใหญ่สูงสุด ที่ได้แจ้งคณะเตือนภัยเขากะลา เอาไว้ว่าการช่วยเหลือพลโลกได้เฉพาะบางส่วนที่มีบารมี...บารมีของท่านผู้ใหญ่แห่งดาวพลูโต นั้นอาจหมายถึง ผู้ที่ได้ฝึกจิตเข้าถึงสภาวะจิตเดิม หรือ 'ทาง' ของทุกๆคนก็ได้ ...จึงจะนับว่าเป็นผู้มีบารมี ที่จะได้รับความช่วยเหลือจากชาวต่างดาวหลายๆดวง ที่ได้มาเตรียมงานบนดาวดวงนี้ล่วงหน้า 10 กว่าปีทีเดียว)

    มงคล กริชติทายาวุธ

    หมายเหตุ

    ปี นักษัตร ชวด ฉลู ขาล เถาะ มะโรง มะเส็ง มะเมีย มะแม วอก ระกา จอ กุน เริ่มนับจากเดือนเมษายน เป็นเดือนที่ 1 ของปี เดือนสุดท้ายของปีจึงเป็นเดือนมีนาคมของปีถัดไป ดังนั้นปีระกาในพุทธทำนาย จึงหมายถึงตั้งแต่เดือนเมษายนของปี พ.ศ.2560 ถึง เดือนมีนาคม พ.ศ.2561

    ที่มา http://ainews1.com/article482.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2011
  11. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>โจรใต้ทวงแค้นส่งคาร์บอมบ์บึ้มเมืองยะลา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    เมื่อวันที่ 13 ก.พ. พ.ต.อ.กฤษฎา แก้วจันดี ผกก.สภ.เมืองยะลา รับแจ้งมีเหตุระเบิดที่ริมถนน ณ นคร หน้าร้านเฮนเบเกอรี่เลขที่ 33 ต.สะเตง เขตเทศบาลนครยะลา

    รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยนายกฤษฎา บุญราช ผวจ.ยะลา พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ยะลา เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา ที่เกิดเหตุบนทางเท้าและกลางถนน พบคนเจ็บนอนร้องโอดครวญเสียงดังลั่น เจ้าหน้าที่เลยรีบนำตัวส่ง รพ.ศูนย์ยะลา รวม 17 ราย

    ขณะเดียวกันสะเก็ดระเบิด ยังปลิวกระเด็นไปตกบ้านเรือนประชาชน และร้านค้าริมถนนหลายหลัง ทำให้เปลวไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว จนท้องฟ้าแดงฉาน เจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำดับนานกว่า 3 ชั่วโมงเพลิงถึงสงบ โดยพระเพลิงได้เผาพลาญวอดไปทั้งหมด 12 หลัง นอกจากนี้สะเก็ดระเบิดยังทำให้รถยนต์ รถจยย.ริมถนนพังเสียหายอีกกว่า 10 คัน รวมทั้งรถกระบะของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ ยี่ห้ออีซูซุ ไม่มีทะเบียน สภาพรถโดนไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก คาดว่าค่าเสียหายครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

    ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายของชาวบ้าน ที่ต้องหอบลูกจูงหลานวิ่งหนีตายไปยังที่ปลอดภัย บางคนหอบข้าวของมีค่าเครื่องใช้ ออกมาจากบ้านที่กำลังโดนไฟไหม้มาวางกองไว้บนถนน ทำให้บนถนนจุดเกิดเหตุโกลาหลอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรเป็นการชั่วคราว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเจอถังแก๊สที่คนร้ายซุกระเบิดไว้ แต่ยังไม่ได้ทำงาน กระเด็นตกบนถนนอยู่อีก 1 ลูก เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้จึงนำกลับไปทำลายต่อไป ส่วนบนถนนพบเศษเหล็ก เศษชิ้นส่วนรถตกกระจายเกลื่อน กองเลือด และซากถังแก๊สโดนไฟไหม้อีก 3 ลูกจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

    ส่วนผู้บาดเจ็บประกอบด้วย

    1.ส.อ.ชานนท์ สองแก้ว
    2.จ.ส.ท.ประสิทธิ์ อิสโร
    3.พลทหารวรินทร์รัตน์ จันทร์ดี
    4.ส.ต.อ.ชาติ ประไมยะ
    5.น.ส.อังคณางค์ ภัทรพงศ์
    6.นายเดชณรงค์ พันโท
    7.น.ส.ชลัยพร เรือนธรรม
    8.นายสมศักดิ์ รักษ์พงษ์
    9.นางศิริพร เรือนธรรม
    10.นางทักษิณา วงศ์จุมปู
    11.นายหมู แซ่เสี้ยว
    12.ด.ช.นิลพัทธ์ แก้วเกาะสะบ้า
    13.นายสุวัฒน์ ไตรรงค์เจริญสุข
    14.นายสมมาตร บุญรุ่ง
    15.นายธนันต์ ฉั่วพานิชย์
    16.นางปภาดา ผิวเกลี้ยง
    และ 17. นางเตือนใจ กลัดทอง ในจำนวนนี้มีบาดเจ็บสาหัส 4 รายคือเจ้าหน้าที่ทหารมี ส.อ.ชานนท์ ,จ.ส.ท.ประสิทธิ์ ,พลทหารวรินทร์รัตน์ และ ส.ต.อ.ชาติ

    จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำภาพกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งไว้บนเสาไฟริมถนน ไปตรวจสอบพบว่าเมื่อช่วงเช้าราว 07.30 น. วันเดียวกัน คนร้ายได้ขับรถกระบะอีซูซุ ไม่ทราบทะเบียน มาจอดริมถนนหน้าร้านเฮนเบเกอรี่ จากนั้นคนร้ายเปิดประตูรถวิ่งข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่ง กระทั่งก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารหน่วย ฉก.ที่ 14 ยะลา ได้ขับรถกระบะอีซูซุ ทะเบียน บต-6817 ปัตตานี แล่นมาตามถนนเพื่อรักษาความปลอดภัย คนร้ายได้จุดชนวนระเบิดแสวงเครื่อง ที่บรรจุในถังแก๊สปิกนิกขนาด 15 กก. จำนวน 4 ลูก น้ำหนักรวมทั้งสิ้นประมาณ 60 กก.ที่อยู่ในรถ โชคดีระเบิดทำงานแค่ 3 ลูก อีก 1 ลูกกระเด็นตกกลางถนน พร้อมกับสะเก็ดระเบิดได้พุ่งทำลายรถของทหาร รถยนต์ รถจยย.บนถนนพังเสียหาย และสะเก็ดไฟปลิวไปลุกติดไหม้บ้านเรือนข้างถนนเสียหายอีกหลายหลัง ส่วนระเบิดเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจุดชนวนด้วยรีโมทหรือไม่ก็โทรศัพท์มือถือ

    นายกฤษฎา บุญราช ผวจ.ยะลาเปิดเผยว่า สั่งให้เจ้าหน้าที่นำเต็นท์มาตั้งเพื่อรับแจ้งความ โดยบ้านที่เสียหายทั้งหลัง ทางจังหวัดจะจ่ายให้ 25 เปอร์เซ็นต์ก่อน จากนั้นจะให้เจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลนครยะลา กับศูนย์เยียวยาจังหวัดมาประเมินมูลค่าความเสียหาย โดยทางจังหวัดจะจ่ายตามความเป็นจริง รวมถึงร้านค้าที่เสียหายด้วยเช่นกัน ในส่วนของเรื่องมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย ตนสั่งให้รถจยย.เคลื่อนที่เร็วมารักษาความปลอดภัยอย่างเข็มงวด โดยเฉพาะพื้นที่ย่านชุมชน ย่านการค้า ย่านธุรกิจของชาวจีนกับชาวไทยพุทธเป็นกรณีพิเศษ เชื่อว่าคนร้ายคงต้องการจะสร้างความแตกแยก โดยมุ่งทำร้ายชาวไทยพุทธกับชาวจีน เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ต้องดูแลคนไทยพุทธกับคนจีนเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก

    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.รายงานตนว่า เป็นเรื่องของการแก้แค้นที่ทางทหาร ได้เข้ากวาดล้างและจับกุมกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบบนเขา โดยการก่อเหตุครั้งนี้เป็นลักษณะคาร์บอมบ์ โดยเป้าหมายอยู่ที่รถทหาร ด้าน พล.ต.ดิฎฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ระบุว่า นายกรัฐมนตรีกับ รมว.กลาโหมได้กำชับ ผบ.เหล่าทัพแล้วให้ระวังการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวังอย่างเต็มที่ โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการป้องภันเรื่อย ๆ เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ จะเปลี่ยนรูปแบบการก่อเหตุอยู่เสมอ เช่นจากคาร์บอมบ์ อาจไปเป็นการเผาโรงเรียน วางระเบิดตู้โทรศัพท์สาธารณะเป็นต้น






    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ตอนบนอากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก1-3องศา กทม.มีฝนเล้กน้อย เย็นสุด24-25องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 ดังนี้

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา และมีฝนฟ้าคะนองอยู่ในเกณฑ์บางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ในระยะนี้
    สำหรับ คลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไประมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ 2554 ไว้ด้วย

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ ทางตอนบนของภาค: อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
    ส่วนทางตอนล่างของภาค: อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศา
    โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
    สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศา
    ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศา
    สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา
    โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี และกาญจนบุรี
    อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา
    ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา
    อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
    ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรัง และสตูล
    อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา
    ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา
    ลมใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ตำรวจยุคใหม่กลับหลังหันให้กับวัฒนธรรมที่ผิดๆ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ”สังคมตำรวจ”ในยุคปัจจุบัน นับวันคนที่ได้ชื่อว่าเป็นนายที่พอจะเป็นที่พึ่งของลูกน้อง กลุ่มคนทำงาน แทบจะมองหายาก

    ”สังคมตำรวจ”
    ในยุคปัจจุบัน นับวันคนที่ได้ชื่อว่าเป็น นาย ที่พอจะเป็นที่พึ่งของลูกน้อง กลุ่มคนทำงาน แทบจะมองหายากขึ้นทุกวัน เพราะคนเป็น นายเองก็เอาตัวรอด ตำรวจยุค2011 นิยมชมชอบกับวัฒนธรรม หลงใหลตำแหน่งที่ดี หลงใหลเงินส่วย หลงใหลความสบาย หลีกเลี่ยงความยากลำบาก ปฏิเสธงานในหน้าที่ดูแลประชาชน จึงทำให้ นายตำรวจรุ่นใหม่ ที่พึ่งก้าวย่างจากโรงเรียนนายร้อย จำนวนหนึ่ง มีทัศนะคติเปลี่ยนไป ต้องการอยู่ใน โรงพักพื้นที่ทำเลทอง หรือ น่วยงานที่ทำเงินทำทอง นับวันเราจะหา นายตำรวจที่มีอุดมการณ์ยาก เหตุเพราะการปลูกฝั่งของรุ่นพี่มีแต่การวิ่งเต้นเอาตำแหน่งที่ดี มากกว่าการเป็น ข้าราชการของประชาชน

    ดังคำพูดที่ว่า “คนที่มาเป็นตำรวจ แต่เดิมเป็นคนเก่ง เป็นคนดีมาก่อน” พอเข้ามาอยู่ในระบบที่ไม่ดี ไม่ เอื้อให้พัฒนาตัวเอง ตำรวจจึงไม่พัฒนาตัวเอง ทำให้สู้ไม่ได้ รู้แบบผิดๆ (อวิชชา) เข้าใจผิด คิดผิด ก็เลยทำแบบผิดๆ ในที่สุดตำรวจก็ยอมรับสภาพ ยอมจำนน แล้วคิดว่าเป็นเรื่องของเวรกรรม เพราะตนเองทำบุญมาน้อยกว่าคนอื่นเขากระมัง ขณะเดียวกัน ถ้าเรารักษาความดี รู้ให้ถูกทาง ก็จะพัฒนาตนเอหรือทำให้คนอื่นพัฒนาไปในทางที่ถูกด้วย เมื่อพัฒนาไปในทางที่ถูก ก็จะคงความดีไว้ได้ จริงๆแล้ว เมื่อตำรวจคิดถูก ทำถูก ก็จะสามารถช่วยตนเอง ช่วยครอบครัว ช่วยเพื่อนตำรวจ และช่วยสังคมได้ ในที่สุด เริ่มต้นใหม่ ทำเสียให้ถูก ”

    ตำรวจ ยุคใหม่ ไม่ทำผิด ของ “เดอะกิ๊ก” พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบช.ก. ที่เผยแพร่แนวคิด รณรงค์ต่อสู้ ในเรื่องการทุจริต และการทำผิดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะ การทุจริตคอรัปชัน ในหน่วยงานภาครัฐ เป็นปัญหาที่ทำให้งานตำรวจไม่มีประสิทธิภาพ เรื่องดังกล่าวจึงเป็นนิมิตรหมายที่ดี และขอชื่นชมในแนวคิดของคนเป็นนายอย่าง“เดอะกิ๊ก”ที่เตรียมปัดกวาดสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับ ตำรวจยุคใหม่ ต้องเป็นมืออาชีพ ดังนั้นคนเป็น นายยุคเก่า ตำรวจยุคเก่า เต่าล้านปี ต้องสำนึกว่า โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว อย่ามั่วแต่ปิดหูปิดตา กลับตัวกลับใจ อย่าหลงผิด กับวัฒนธรรมที่ลดความมีศักดิ์ศรีของตนเอง ด้วยการชะเลียนักการเมือง หวังผลในตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูงขึ้น

    สุดท้ายฝากไปถึง ตำรวจนักวิ่งเต้น จะ ตั๋วการเมือง ตั๋วนายจับยัด พึ่งสำนึกไว้ว่า หลังจากนี้ไปพวกคุณจะถูกเพ่งเล็งจับตา จาก เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง ประชาชน ว่า มาทำงานหรือมากอบโกยผลประโยชน์ เพราะล่าสุด ขนาดยังไม่ได้ทำงานเลย เพียงแค่วันแรก ท่านรอง ผู้กินกับต. โรงพักเกรดเอในนครบาล ที่พึ่งย้ายเข้ามา ก็แสดงอาการหิ้วโซ ถามหาบัญชีเงินสีเทา ตั้งเป้าเก็บเงินผู้ประกอบการเพิ่มเสียแล้ว ก็ไม่ทราบว่ามาทำงาน หรือมา รับประทาน จึงฝากไปยัง บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. ช่วยปราบด้วยว่า ยุคใหม่นครบาล เขาไม่มีเสือ





    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศชิลี 2 ครั้ง

    [​IMG]

    วอชิงตัน 13 ก.พ.-สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐแจ้งว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.8 และ 6 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งประเทศชิลีด้านมหาสมุทรแปซิฟิก ช่วงเช้าวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายด้านชีวิตและทรัพย์สิน

    แผ่นดินไหวครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.51 น.วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 15.51 น.วันนี้ ตามเวลาในไทย ห่างจากเมืองกอนเซปซีออนไปทางเหนือค่อนไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 40 กิโลเมตร หลังจากนั้น 1 ชั่วโมงกว่าเกิดแผ่นดินไหวอีกครั้งขนาด 6 ริกเตอร์ ห่างจากเมืองเดียวกันไปทางเหนือค่อนไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 25 กิโลเมตร พื้นที่นี้เคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 8.8 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ปีก่อน คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 500 คน.-สำนักข่าวไทย

    วันอาทิตย์ ที่ 13 ก.พ. 2554

    หิมะตกในกรุงปักกิ่งอีกครั้งระดมเจ้าหน้าที่กำจัด

    [​IMG]

    จีน 13 ก.พ.-หิมะตกในกรุงปักกิ่งอีกครั้งเมื่อคืนวันเสาร์ หลังจากตกเป็นครั้งแรกในฤดูหนาวปีนี้เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา

    หิมะเริ่มตกในเขตใจกลางเมืองของกรุงปักกิ่งตั้งแต่เมื่อคืนนี้ในเวลา 20.00 น.ต่อเนื่องจนถึง 08.00 น.วันนี้ โดยสำนักพยากรณ์อากาศ ระบุหิมะจะหยุดตกในช่วงบ่าย โดยปริมาณที่ตกอยู่ในระดับ 1.7-3.1 มิลลิเมตร ทางการได้ระดมรถกำจัดหิมะจำนวน 768 คัน และเจ้าหน้าที่ 3,583 คน เพื่อกำจัดหิมะตามบริเวณสี่แยกถนนสายสำคัญ ๆ เพื่อมิให้เป็นอุปสรรคต่อการจราจรกรุงปักกิ่งมีหิมะตกเป็นครั้งแรกของฤดูหนาวเมื่อวันพุธ และพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์หิมะตกในกรุงปักกิ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี.-สำนักข่าวไทย

    วันอาทิตย์ ที่ 13 ก.พ. 2554

    ศรีลังกาประเมินเสียหายจากน้ำท่วม 18,000 ล้านบาท

    [​IMG]

    โคลอมโบ 13 ก.พ.- รัฐมนตรีศรีลังกาประเมินความเสียหายจากน้ำท่วมนาน 6 สัปดาห์ว่าอยู่ที่ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 18,000 ล้านบาท) ขณะที่ประชาคมโลกตอบสนองต่อการขอความช่วยเหลือค่อนข้างล่าช้า

    นายมหินดา อมาราวีรา รัฐมนตรีจัดการภัยพิบัติของศรีลังกาเผยว่า จะใช้งบประมาณ 33,000 ล้านรูปี (ราว 9,000 ล้านบาท) ซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายเพราะน้ำท่วม 50,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งหมดจะสูงกว่านี้ 2 เท่า เพราะลำพังพืชผลทางการเกษตรเสียหายมากถึง 13,000 ล้านรูปี (ราว 3,900 ล้านบาท) น้ำท่วมหนักผิดปกติจากฤดูมรสุมทำให้ชาวศรีลังกาเสียชีวิตอย่างน้อย 64 คน และต้องอพยพออกจากบ้านมากกว่า 1 ล้านคน ขณะนี้ส่วนใหญ่กลับบ้านแล้ว แต่ยังมี 130,000 คนที่ต้องอาศัยในที่พักชั่วคราวของรัฐ

    สหประชาชาติได้ร้องขอความช่วยเหลือจากประชาคมโลก 51 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,530 ล้านบาท) เพื่อแก้ไขความเดือดร้อนฉุกเฉินตั้งแต่เกิดน้ำท่วมใหม่ ๆ แต่ได้รับความช่วยเหลือจริงเพียง 1 ใน 5 เท่านั้น ขณะนี้เตรียมขอความช่วยเหลืออีกครั้งหลังจากพื้นที่ทางตอนเหนือ ตอนกลางและตะวันออกของศรีลังกาเกิดน้ำท่วมรอบสอง. -สำนักข่าวไทย

    วันอาทิตย์ ที่ 13 ก.พ. 2554

    เกาหลีใต้ยืนยันพบการระบาดไข้หวัดนกล่าสุด

    [​IMG]

    โซล 13 ก.พ. – กระทรวงเกษตรเกาหลีใต้ แถลงยืนยันวันนี้กรณีการระบาดของไข้หวัดนกที่พบล่าสุด 2 แห่ง ใกล้กรุงโซล แม้ทางการพยายามอย่างหนักในการสกัดกั้นการระบาดแล้วก็ตาม

    แถลงการณ์ระบุว่า เป็ดและไก่ราว 8,400 ตัว ถูกฆ่าทิ้งที่ฟาร์มแห่งหนึ่งในเมืองฮวาซอง ทางใต้ของกรุงโซล และที่เมืองดงดูชอน หลังจากที่เกาหลีใต้ฆ่าสัตว์ปีกรวม 5.45 ล้านตัว ในฟาร์มเกือบ 250 แห่ง นับตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้เกาหลีใต้ยังเผชิญกับการระบาดของโรคปากและเท้าเปื่อยซึ่งทำให้ต้องฆ่าปศุสัตว์กว่า 3 ล้านตัว .- สำนักข่าวไทย

    วันอาทิตย์ ที่ 13 ก.พ. 2554

    ฮ่องกงเตือนหวัดนกระบาดตามโรงเรียน

    [​IMG]

    ฮ่องกง 14 ก.พ. - ฮ่องกงออกประกาศเตือนการระบาดของไข้หวัดนกตามโรงเรียนต่าง ๆ จะมีมากขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์ต่อจากนี้

    สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายยอร์ค โจว รัฐมนตรีกระทรวงอาหารและสุขภาพของฮ่องกง กล่าวว่า ช่วงเวลา 2-3 สัปดาห์นี้ อาจจะเกิดการระบาดของไข้หวัดใหญ่ขึ้นตามโรงเรียนต่าง ๆ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น ประกอบกับเป็นช่วงที่มักมีการระบาดของไข้หวัดใหญ่มากที่สุดของปี แต่ทางการก็ได้ใช้มาตรการป้องกันกับทุกโรงเรียนแล้ว คาดว่าจะสามารถควบคุมการระบาดได้

    โดยโรงเรียนใดก็ตามที่พบนักเรียนภายในห้องเดียวกันที่มีอาการป่วยมากกว่า 3 ราย จะต้องแจ้งทางกระทรวงสาธารณสุขรับทราบโดยทันที และหากมีเด็กในโรงเรียนใดเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ โรงเรียนดังกล่าว จะต้องปิดการเรียนการสอนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค. - สำนักข่าวไทย

    วันอาทิตย์ ที่ 13 ก.พ. 2554

    กองทัพอียิปต์ยุบสภาและระงับใช้รัฐธรรมนูญ

    [​IMG]

    ไคโร 14 ก.พ.- กองทัพอียิปต์ยุบสภาและระงับใช้รัฐธรรมนูญตั้งแต่วันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น โดยจะปกครองจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง คาดว่าจะมีขึ้นภายใน 6 เดือน

    ก่อนหน้านี้ทหารได้เข้าควบคุมพื้นที่จัตุรัสทาห์รีร์ จุดประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค นาน 18 วันจนยอมลาออกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา การจราจรใจกลางกรุงไคโรกลับเข้าสู่ภาวะปกติเพราะกองทัพพยายามขอให้คนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ สภาสูงสุดกองทัพรับปากจะจัดการลงประชามติเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยจะทำหน้าที่บริหารประเทศเป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 6 เดือนหรือจนกว่าจะเสร็จสิ้นการเลือกตั้งรัฐสภาและประธานาธิบดี รัฐธรรมนูญปัจจุบันมีมาตราที่เอื้อให้นายมูบารัคอยู่ในอำนาจได้ต่อไป ขณะที่การเลือกตั้งที่ผ่านมามีการโกงเข้าข้างพรรคของเขาและกดขี่ฝ่ายค้าน

    ด้านแกนนำการประท้วงได้ตั้งสภาผู้พิทักษ์ขึ้นทำหน้าที่ปกป้องการปฏิวัติและเรียกร้องให้กองทัพเร่งฟื้นฟูกฎหมายและระเบียบในระหว่างถ่ายโอนอำนาจ หากกองทัพผิดคำสัญญาเรื่องประชาธิปไตยและการปกครองโดยพลเรือนอาจจุดกระแสประท้วงครั้งใหม่ขึ้นได้

    อียิปต์ประกาศให้วันนี้เป็นวันหยุดธนาคารเนื่องจากพนักงานธนาคารรัฐหยุดงาน คาดว่ากองทัพจะประกาศในวันนี้ห้ามสหภาพแรงงานหรือกลุ่มวิชาชีพต่าง ๆ ประชุมกัน เท่ากับห้ามผละงานไปในตัว และจะเตือนคนที่คิดก่อความวุ่นวาย ด้านคณะรัฐมนตรีได้ประชุมครั้งแรกเมื่อวานนี้โดยไม่มีภาพถ่ายของนายมูบารัคแขวนอยู่เหมือนที่ผ่านมา กองทัพเผยว่า จะยกเลิกกฎอัยการศึกที่มูบารัคใช้ปราบปรามฝ่ายค้านเมื่อสถานการณ์ปัจจุบันยุติแต่ไม่ระบุเวลาที่ชัดเจน.-สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 14 ก.พ. 2554

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    ขอบคุณมากค่ะ .........
     
  14. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต


    ด่วน F-16 ไทยตก น้ำตกตาดโตน ชัยภูมิ ขณะฝึกคอบร้าโกล์ด ร่วมอเมริกา ยังไม่รู้ชะตากรรมนักบิน
    Mthainews : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ต.มณฑล สัชณุกร โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวเปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.20 น.เครื่องบินขับไล่ไอพ่นแบบ F-16 จำนวน 4 ลำ จากฝูงบิน 102 กองบิน 1 จ.นครราชสีมา ได้ขึ้นทำการบินเพื่อการฝึกร่วมยุทะการทางอากาศ (คอบร้าโกล์ด) ร่วมกับกองทัพอากาศสหรัฐ บริเวณพื้นที่การฝึกของกองทัพอากาศ จ.ชัยภูมิ
    ทั้งนี้เครื่องบิน F-16 ได้ขาดการติดต่อเมื่อเวลา 10.20 น. เบื้องต้นสันนิฐานว่า เกิดอุบัติเหตุทำให้เครื่องบินตกบริเวณน้ำตกตาดโตน จ.ชัยภูมิ ขณะนี้ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงษ์ ผบ.ทอ. สั่งการให้หน่วยค้นหาและช่วยชีวิต นำเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ แบบ ฮ.6 และรถยนต์ภาคพื้นเข้าไปสำรวจและค้นหานักบิน พร้อมตรวจสภาพเครื่องบินบริเวณดังกล่าวแล้ว คาดว่าจะทราบรายละเอียดในเร็ว ๆ นี้
    อย่างไรก็ตาม ผบ.ทอ.แสดงความเป็นห่วงกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ อีกทั้งขณะนี้กองทัพอากาศกำลังดำเนินการประสานหน่วยต้นสังกัดเพื่อขอทราบรายงานในรายละเอียดของอุบัติเหตุในครั้งนี้แล้ว
    อนึ่ง จส100 ได้รายงานว่านักบินสามารถดีดตัวออกจากเครื่องได้ก่อนเครื่องบินตก แต่ยังไม่ทราบชะตากรรม เจ้าหน้าที่เร่งค้นหา
    โดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     
  15. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    [​IMG]

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=650 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-TOP: 10px" align=left>[ame="http://www.youtube.com/watch?v=n1Uy5ye0ats&feature=player_embedded"]YouTube - 'Impact: Earth!' simulator shows effects of asteroid hit[/ame]

    นักวิทย์พัฒนาเว็บ คำนวณผลอุกกาบาตชนโลก!


    นักวิทย์เตรียมเปิดเว็บไซด์ ใช้คำนวณผลกระทบจากอุกกาบาตชนโลกรวมถึงโอกาสรอดชีวิต ยันข้อมูลแม่นพอให้นาซ่าใช้งาน




    </TD></TR><TR><TD class=hl-text vAlign=top>นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเพอร์ดู รัฐอินเดียนน่า ของสหรัฐฯ ร่วมกับวิทยาลัยอิมพีเรียล กรุงลอนดอนของอังกฤษ พัฒนาเว็บไซต์ 'อิมแพ็ค เอิร์ธ' ขึ้นเพื่อใช้คำนวณผลกระทบที่จะเกิดจากอุกกาบาตตกสู่พื้นโลก โดยเว็บไซด์ดังกล่าวมีข้อมูลวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนและเพียงพอ สำหรับให้กระทรวงกลาโหมและสำนักงานอวกาศนาซ่าใช้งาน รวมทั้งเหมาะกับนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการหาความรู้

    เจย์ เมลอช นักวิจัยเจ้าของโครงการเว็บไซต์ดังกล่าว ระบุว่า เว็บไซด์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะในทุกๆวันจะมีอุกกาบาตและดาวหางตกมายังโลก มากกว่า 100 ตัน โดยใน 1 ปี จะมีชิ้นส่วนอุกกาบาตขนาดใหญ่เท่ารถเก๋งตกลงมาหลายครั้ง แต่มักจะถูกเผาไหม้เมื่อเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก

    และแม้เหตุการณ์อุกกาบาตยักษ์มาเยือนโลกจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก หรือ เฉลี่ยศตวรรษละ 1 ครั้ง เช่น เมื่อ 65 ล้านปีก่อนมีอุกกาบาตชื่อ ชิกซูลับ ขนาดกว้าง 14 กิโลเมตรตกสู่พื้นโลกทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธ์ แต่อุกกาบาตขนาดย่อมก็มีโอกาสตกลงมายังพื้นโลกบ่อยมาก

    ทั้งนี้ คาดว่าอนาคตอันใกล้ที่สุด หรือ ประมาณปี พ.ศ. 2579 หรือ อีก 26 ปีข้างหน้า จะมีอุกกาบาตขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 500 เมตร ชื่อ อะโฟฟิส มาเฉี่ยวโลก ซึ่งเว็บไซอิมแพ็ก เอิร์ธ สามารถคำนวณให้รู้ได้ว่า จะเกิดผลกระทบอย่างไรบ้างเมื่อมันตกลงมา

    ส่วนวิธีการใช้งานเว็บไซด์ดังกล่าว ทำได้โดยป้อนขนาดอุกกาบาต หรือ เส้นผ่านศูนย์กลาง ตามด้วยความหนาแน่น ความเร็ว องศาการพุ่งชนและตำแหน่งที่คาดว่าจะตกบนโลก จากนั้นเว็บไซด์จะประเมินผลที่จะเกิดขึ้น ได้แก่ คลื่นแรงระเบิดในบรรยากาศ แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดิน ขนาดของสึนามิ ความรุนแรง ความเสียหายและขนาดของหลุม รวมถึงโอกาสรอดชีวิตของผู้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง




    </TD></TR></TBODY></TABLE>เว็บไซอิมแพ็ก เอิร์ธ จะคำนวณให้รู้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันตกลงมา สำหรับ การใช้งาน ขั้นแรกจะต้องป้อนขนาดอุกกาบาต หรือเส้นผ่าศูนย์กลางของมัน ตามด้วยความหนาแน่น ความเร็ว องศาการพุ่งชน และตำแหน่งที่ตกลงมาบนโลก จาก นั้นเว็บไซต์จะประเมินผลที่เกิดขึ้น รวมถึงคลื่นแรงระเบิดในบรรยากาศ แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดิน ขนาดของสึนามิ ความรุนแรง ความเสียหายและขนาดของหลุม รวมถึงโอกาสรอดของผู้ที่อยู่ใกล้เคียงด้วย

    ทดลองดูที่ http://www.purdue.edu/impactearth/


    ข้อมูลจาก
    http://archive.voicetv.co.th/content/24674

    http://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=175000.msg2371737;topicseen
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2011
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติ ด้วยการเจริญกรรมฐานอานาปานุสติ

    [​IMG]

    การเจริญกรรมฐานอานาปานุสติ ต้องนั่งตั้งกายตรง เพื่อให้กระดูกสันหลัง ๑๘ ข้อต่อกันเป็นแบบถูกต้องดี เพื่อไม่ให้หนังเนื้อเส้นเอ็นหดหู่และเหนื่อยง่าย ทั้งทำให้ลมหายใจเดินคล่องสะดวกและนั่งได้ทนทาน ให้จิตจดจ่ออยู่ที่ลมหายใจเข้าออก ใจจะไม่ฟุ้งซ่านและมีสติปรากฏดี ผู้เจริญอานาปานุสติต้องศึกษาให้​

    - รู้จักชนิดของลมหายใจ ๑
    - รู้จักที่ลมหายใจถูกต้อง ๑
    - รู้จักสังเกตลม ๑
    - รู้จักที่ควรเจริญ ๑
    - รู้จักวิธีเจริญ ๑ ​

    รวม ๕ อย่างด้วยกัน ชนิดของลมนั้นมี ยาว สั้น หยาบ ละเอียด ที่ลมถูกต้องนั้นคือ ปลายจมูกและริมฝีปากข้างบน ถ้าคนจมูกยาว ลมถูกปลายจมูก คนจมูกสั้น ลมถูกริมฝีปากข้างบน รู้จักสังเกตลมนั้นคือ ต้น กลาง ปลายลมเวลาหายใจออก ต้นลมอยู่สะดือ กลางลมอยู่หัวใจ ปลายลมอยู่จมูก ถ้าหายใจเข้าต้นลมอยู่จมูก กลางลมหัวใจ ปลายลมสะดือ​

    ที่ควรเจริญนั้นคือ ป่า โคนต้นไม้ที่สงัด วิธีเจริญต้องให้ถูกกับจริต ๓ ฤดู ๓ ธาตุ ๓ คนราคะจริตธาตุลม ชอบที่สงัด คนโทสะจริตธาตุเสมหะธาตุปิตะมาก ชอบโคนต้นไม้ คนโมหะจริตธาตุเสมหะ ชอบป่า ฤดูร้อนเจริญในป่า ฤดูหนาวเจริญที่โคนต้นไม้ ฤดูฝนเจริญที่ภูเขา ซอกเขา ถ้ำ ป่าช้า กลางป่า กลางแจ้ง ลอมฟาง​

    อานิสงส์ได้รับ ๑๐ อย่างคือ

    - มีขันติดี ๑
    - อดทนต่อความยินดียินร้าย ๑
    - อดทนต่อสิ่งที่น่ากลัว ๑
    - อดทนต่อทุกขเวทนา ๑
    - ได้ฌาน ๔ โดยไม่ยากลำบาก ๑
    - อิทธิวิธิ ๑ ทิพย์โสต ๑
    - เจโตปริญาณ ๑
    - ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ๑
    - ทิพย์จักขุ ๑ อาสวักขยญาณ ๑​

    อานาปานุสติกัมมัฏฐาน ได้ชื่อว่าทำสติปัฏฐาน ๔ บริบูรณ์ คือ กาย เวทนา จิต ธรรม เมื่อหายใจเข้าออกยาวหรือสั้นก็รู้ชัด และหัดรู้กองลมที่กำหนดเข้าออก ​

    - หัดนึกระงับกองลมหายใจเข้าออก ย่อม ชื่อว่ามีความเพียรมีสติมีสัมปชัญญะในจำพวกกาย ​

    - หัดกำหนดรู้ปีติหายใจเข้าออก หัดกำหนดรู้สุข หายใจเข้าออก หัดกำหนดรู้เครื่องตกแต่งจิต และระงับหายใจเข้าออก ชื่อว่าพิจารณาในจำพวกเวทนา ​

    - หัดกำหนดรู้จิตหายใจเข้าออก หัดทำจิตให้บันเทิงยิ่งหายใจเข้าและออก หัดทำจิตให้ตั้งมั่นหายใจเข้าออก หัดทำจิตให้หลุดพ้นหายใจเข้าออก ชื่อว่าพิจารณาจิต ​

    - หัดพิจารณาความไม่เที่ยงหายใจเข้าออก ให้พิจารณาคลายกิเลสหายใจเข้าออก หัดดับกิเลสหายใจเข้าออก หัดเลิกกิเลสหายใจเข้าออก ชื่อว่าพิจารณาธรรม​

    คัดลอกจากหนังสืออนุสรณ์งานบำเพ็ญกุศลศพ ครบ ๑ ปี พระครูสุวรรณเสลาภรณ์ (หลวงพ่อสาย อคฺควํโส) อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ต. ท่าขนุน อ. ทองผาภูมิ จ. กาญจนบุรี


    หลวงพี่เล็ก วัดท่าขนุน เทศน์เรื่องอนุสสติ 10

    <!--Main-->สำหรับตอนนี้ ในเรื่องของ "อนุสสติ" คือการตามระลึกถึงความดีทั้ง ๑๐ ประการว่าเราก็ได้ศึกษามาครบถ้วนแล้ว คราวนี้ในเรื่องของ อนุสสติ พื้นฐานใหญ่คือ อานาปานสติการนึกถึงลมหายใจเข้า ออก มันก็จะมีอยู่ สอง สาม ขั้นตอนที่ถ้าหากว่าเราปฏิบัติแล้ว ไม่มีความเข้าใจ หรือว่าเกิดความกลัวขึ้นมา ก็จะก้าวพ้นไปไม่ได้คือ​

    ขั้นตอนที่เริ่มเป็น ปีติ ได้แก่ มีอาการน้ำตาไหล ร่างกายโยกโคลง ขนลุก หรือว่า ลอยขึ้นทั้งตัว หรือรู้สึกว่าตัวพอง ตัวใหญ่ ตัวรั่ว ตัวแตก ตัวระเบิด อะไรพวกนั้น อาการต่างๆ นั้นที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเรา ถ้าหากว่าเราไม่กลัว ปล่อยให้มันเป็นไปเต็มที่ตามกำลังของมัน ถ้ามันขึ้นเต็มที่มันจะผ่านไปเลย แล้วก็จะไม่เป็นอีก เพราะว่าครั้งต่อไป จิตของเราพอตั้งใจปุ๊บ มันจะทรงเป็นฌานไป มันจะก้าวข้ามขั้นตอนเหล่านี้ไป ​

    บางคนพอเริ่มสั่น ก็เริ่มกลัว บางคนลอยขึ้น ก็กลัว กลัวว่าลอยไปไกลๆ เดี๋ยวกลับไม่ได้ บางคนรู้สึกว่าตัวมันพอง ตัวมันใหญ่ ตัวมันรั่ว ตัวมันแตกระเบิด กลัวจะตาย บางคนน้ำตาไหล อายคนอื่นเขา ตัวโยกไปโยกมา หรือว่าดิ้นเหมือนกับทรงเจ้าเข้าผี อายคนอื่นเขา ไปฝืนไม่ให้อาการเหล่านั้นมันเกิด ถ้าหากว่าเราฝืน อาการเหล่านั้นจะหายไป แต่ว่ามันจะก้าวข้ามจุดนั้นไม่ได้ เมื่อกำลังใจเริ่มทรงตัวถึงจุดนั้นเมื่อไร อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นอีกทันที ​

    ดังนั้นมีทางเดียวก็คือว่าปล่อยให้มันเป็นไปเลยเต็มที่ของมัน ถ้ามันขึ้นเต็มที่เมื่อไรมันจะเลิกของมันเมื่อนั้นให้สังเกตว่าในขณะนั้นกำลังของเราทรงตัวนิ่งมาก อาการภายนอกมันจะเกิดอะไรขึ้นไม่ว่า จะเป็นขนลุก น้ำตาไหล ร่างกายโยกโคลง ลอยขึ้นทั้งตัว หรือว่าตัวพอง ตัวใหญ่ ตัวรั่ว ตัวแตก ตัวระเบิด อะไรก็ตาม จิตมันจะนิ่ง สงบ ระงับ เป็นปกติ ถ้ารู้จักสังเกตตรงนี้ก็ไม่ต้องกลัวอะไรมัน สำหรับขั้นตอนต่อไปที่พวกเราจะไปติดอยู่อีกขั้นหนึ่ง ก็คือในระหว่างที่กำลังใจก้าวจากปฐมฌานละเอียด ขึ้นไปสู่ ฌานที่ ๒ ตอนนั้นลมหายใจจะไม่มี คำภาวนาจะไม่มี ​

    ความจริงลมหายใจมันมีของมันปกติ เพียงแต่มันละเอียดมาก ถ้าเราไม่ได้เอาสติตามจดจ่อมันจริงๆ จะจับมันไม่ติด ตอนนั้นถ้าหากว่าเราไปตกใจว่า เอ๊ะ.. เราไม่ได้หายใจ เอ๊ะ คำภาวนามันไม่มีแล้ว แล้วไปรีบหายใจ ไปรีบภาวนา เท่ากับว่าเราถอยหลังกลับ มันจะไม่ก้าวหน้า อันนั้นให้กำหนดรู้ไว้เฉยๆ ว่าตอนนี้มันไม่หายใจแล้ว ตอนนี้มันไม่ภาวนาแล้ว จิตมันนิ่ง มันใสอย่างไรให้กำหนดใจรู้ไปเช่นนั้น มันจะก้าวขึ้นเป็น ฌานที่ ๓ ซึ่งรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นหินไป ​

    บางคนก็จะมาตกใจขั้นนี้อีก อันนั้นเป็นเรื่องปกติ มันอยากจะเป็นอย่างไรให้มันเป็นไป ถ้าหากว่าเราทำใจอย่างนี้ได้ กำลังใจทรงตัวแล้ว จะเป็นสมาธิได้เลย จะก้าวขึ้นสู่ ฌาน ๔ ได้ง่าย​

    ~ส่วนในเรื่องของ อนุสสติิ อื่นๆ คือ~

    - พุทธานุสสติ ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าก็ดี
    - ธรรมานุสสติ ระลึกถึงคุณของพระธรรมก็ดี
    - สังฆานุสสติ ระลึกถึงคุณของพระสงฆ์ก็ดี
    - ศีลานุสสติ ระลึกถึงคุณความดีของศีล
    - จาคานุสสติ ระลึกถึงคุณความดีของการเสียสละ บริจาค ให้ทาน
    - เทวตานุสสติ ระลึกถึงคุณความดีของเทวดา ของพรม ของพระบนนิพพาน
    - กายคตานุสสติ มรณานุสสติ ระลึกถึงความตายเพื่อจะได้ไม่ประมาท ระลึงถึงความเป็นจริงของสภาพร่างกาย
    - อุปสมานุสสติระลึกถึงความสงบ ระงับ คือพระนิพพาน ​

    สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ อนุสติทั้งหลายเหล่านี้ ผูกพันอยู่กับอานาปานุสสติ คือลมหายใจเข้า ออก ถ้าไม่มี อนุสติต่างๆ อีก ๙ กอง จะทรงตัวได้ยาก หรือไม่ทรงตัวเอาเลย ดังนั้นไม่ว่าเราจะปฏิบัติในอนุสสติข้อไหนก็ตาม เราต้องมีอานาปานุสสติควบคุมอยู่เสมอ

    (ท่านที่สนใจรายละเอียดทั้งหมด อ่านต่อได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ)

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2011
  17. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7382 ข่าวสดรายวัน


    รัสเซียฟันธง'วันสิ้นโลก2036' มนุษย์สังเวย10ล้านชีวิต!




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ภาพยนตร์เรื่อง 2012 วันสิ้นโลก หนังฮอลลีวู้ดเมื่อหลายปีก่อน ทำเอามนุษย์โลกหวาดผวาและตื่นกลัวว่าโลกจะถึงกาลแตกดับลงจริงๆ จากคำทำนายของหลายสำนักที่หนังนำมาอ้างอิง แต่นักวิทยาศาสตร์รัสเซีย ชาติมหาอำนาจด้านอวกาศที่มีเทคโนโลยีด้านอวกาศก้าวหน้าไม่แพ้สหรัฐออกมาฟันธงว่า ระบุวันอาร์มาเก็ดดอน หรือวันสิ้นโลกตามพระคัมภีร์ของคริสต์ได้แล้ว โดยไม่ได้อยู่ในปี ค.ศ.2012 แต่จะเกิดขึ้นในอีก 24 ปีข้างหน้า หรือในปี ค.ศ.2036 (พ.ศ.2579)

    ศ.ลีโอนิด โซโคลอฟ จากมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์ สเบิร์กในรัสเซีย กล่าวว่า อุกกาบาตที่ชื่อ อะโพฟิส รหัส 99942 มฤตยูที่จะเดินทางมาชนโลก จะเข้ามาใกล้โลกที่ระยะ 37,000-38,000 กิโลเมตร ในวันที่ 13 เม.ย.2029 และมีแนวโน้มจะเข้ามาชนโลกในวันที่ 13 เม.ย.2036

    ย้อนไปเมื่อปี 2547 มีการค้นพบอุกกาบาต อะโพฟิส รหัส 99942 ครั้งแรกว่าเป็นวัตถุอวกาศที่จะเข้ามาอยู่ในโซนอันตรายต่อโลก มีขนาดกว้าง 300 เมตร

    เครื่องมือจำลองสถานการณ์ของมหาวิทยาลัยเซาท์แธมป์ตันในอังกฤษชี้ว่า ความเสียหายจะเลวร้ายมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่มันพุ่งชน ส่วนที่เลวร้ายที่สุดประเมินว่าจะมีผู้เสียชีวิตมากถึง 10 ล้านราย แต่ก็ยังมีหลายเหตุผลที่ปลอบไม่ให้ตื่นตระหนก หนึ่งในนั้นคือความจริงที่ว่า มันอาจจะแตกตัวและเศษเล็กเศษน้อยอาจจะตกลงมาใส่โลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อีกเหตุผลที่ไม่ควรกลัวคือโลกจะได้รับคำเตือนก่อนแน่นอน

    โดนัลด์ เยียแมนส์ หัวหน้าสำนักงานวัตถุใกล้โลกขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือนาซ่า กล่าวว่า ในปี 2029 เมื่อมันแกว่งเข้ามาใกล้โลก เราจะพบว่าอะโพฟิสมีหลุมแรงดึงดูดที่จะลากมันเข้ามาในวงโคจรโลกในอีก 7 ปีให้หลังหรือไม่ ช่องว่างมีเพียงแค่ 600 เมตร ดังนั้น จึงยังพอมีโอกาสที่มันจะไม่เกิดขึ้น

    ศ.โซโคลอฟ กล่าวด้วยว่า ภารกิจของนักวิทยาศาสตร์รัสเซียเวลานี้คือการพิจารณาทางเลือกและพัฒนาโครงการและแผนปฏิบัติการเพื่อรับมือกับอะโพฟิส

    รุ้งกลับหัว รอยยิ้มบนฟากฟ้า

    หมุนก่อนโลก

    วิทยา ผาสุก wittayapasuk@hotmail.com



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต ช่วยให้ "ข่าวลือ" ทางร้ายในลักษณะ อีเมล์ลูกโซ่ แพร่ระบาดเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่งเสียอีกนะครับ

    ไม่ทราบว่า ช่วงนี้ท่านผู้อ่านได้รับเมล์ลูกโซ่ หรือได้พานพบอ่านข้อมูลเกี่ยว "รุ้งหัวกลับนำโชคร้าย" ตามเว็บบอร์ดต่างๆ กันบ้างหรือไม่

    เอาเป็นว่า ถ้าเผื่อได้อ่านและเห็นภาพ "รุ้งหัวกลับ" ไปแล้ว ในวันนี้ ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ ที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สวทช. และผู้ก่อตั้งชมรมคนรักมวลเมฆ ท่านกรุณาให้ความรู้เตือนคนชอบแตกตื่น เอาไว้ว่า

    ภาพ "รุ้งกลับหัว" ที่เผยแพร่กันอยู่ตามเว็บบอร์ดและอีเมล์ทั้งหลายนั้น

    ไม่ใช่รุ้งกินน้ำที่มีลักษณะหัวกลับแต่อย่างใด

    เพราะไม่ได้เกิดจากการที่แสงอาทิตย์ตกกระทบกับผิวของหยดน้ำแล้วหักเหออกมาเป็นแสงสีรุ้งดังเช่นรุ้งกินน้ำทั่วไป

    แต่เกิดจากการที่แสงอาทิตย์ตกกระทบไปยัง "ผลึกน้ำแข็งหกเหลี่ยม" ใน "เมฆ" และหักเหผ่านผลึกออกมาจนเกิดเป็นแถบสีรุ้ง ซึ่งเรียกว่า "อาทิตย์ทรงกลด" (solar halo)

    โดยภาพเส้นโค้งสีรุ้งที่อยู่เหนือดวงอาทิตย์ในภาพนั้น คือ "อาทิตย์ทรงกลดแบบเส้นโค้งเซอร์คัมซีนิทัล" (CircumZenithal Arc : CZA)

    จึงถือเป็นปรากฎการณ์ตามธรรมชาติ มองแล้วเห็นเป็น "รอยยิ้มบนฟ้า" สวยงามด้วยซ้ำ ไม่เกี่ยวข้องกับการนำไปสู่ความโชคร้ายใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยเท่าไหร่นัก!

    ส่วน "ที่มา" ของภาพที่เข้าใจกันผิดๆ ว่าเป็นรุ้งกลัวหัวดังกล่าว ถ่ายโดยนักวิชาการชื่อ "ดร.แจ๊กเกอลีน มิตตอง" นักดาราศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งก็ถ่ายภาพได้จากท้องฟ้าบริเวณใกล้ๆ บ้านพักตัวเอง ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนอะไรเลย

    สำหรับท่านที่อยากรู้ข้อมูล CZA เพิ่มเติม เข้าไปอ่านได้ที่เว็บไซต์ cloudloverclub.com/pages/halo นะครับ
     
  18. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    นี่ก็เรื่องวันอาร์มาเกดอน หรือวันสิ้นโลก ตาม Holy Bible


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" align=center><TBODY><TR><TD>พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ (Holy Bible) ได้ทำนายถึงวาระของโลกเราใบนี้ไว้อย่างไร?

    <TABLE style="WIDTH: 100%" border=1 cellSpacing=1 cellPadding=1><TBODY><TR><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE></B>​


    ปี 2000 ที่ผ่านมา เราหวาดกลัวกันว่า วาระสุดท้ายของโลกจะมาถึงแล้ว ผู้พยากรณ์อย่าง "นอสตราดามุส" ได้ทำนายไว้ว่า ความวินาศจะเกิดขึ้นกับโลกมนุษย์ จากภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะเมืองใหญ่ๆ ที่อยู่ในซีกโลกตอนเหนือ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด คลื่นทะเลยักษ์ จะคร่าชีวิตคนหลายล้านคน

    ฟังดูน่ากลัว โลกจะพินาศจริงหรือ แล้วมันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และมีอะไรเป็นสัญญาณบอกเหตุล่วงหน้า และเราจะแก้ไขป้องกันได้อย่างไร?

    พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ (Holy Bible) ได้ทำนายถึงวาระของโลกเราใบนี้ ไว้อย่างไร ท่านลองอ่านช้าและพินิจพิเคราะห์ตาม ว่าจริงหรือเท็จ

    ทุกข้อความในคัมภีร์ไบเบิ้ล บอกไว้อย่างชัดเจนว่า เป็นถ้อยคำที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้าซึ่ง เขียนขึ้นเมื่อหลายพันปีมาแล้ว คัมภีร์ไบเบิ้ลได้กล่าวถึงวันสิ้นโลกอย่างละเอียด ซึ่งจะสรุปโดยย่อได้ดังนี้

    "วันสิ้นโลก"หมายถึงยุคสุดท้ายที่พระเยซูจะเสด็จกลับมายังโลกครั้งที่ 2


    (ครั้งแรกคือการที่พระองค์เสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์ และพลีชีพบนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปมนุษย์ เมื่อสองพันกว่าปีที่ผ่านมา)


    ซึ่งพระคัมภีร์ได้ทำนายและบอกไว้ว่า จะมีเหตุการณ์สำคัญๆ ที่บ่งบอกให้เราทราบถึงวันสิ้นโลก หรือวันที่พระเยซูคริสต์ จะเสด็จกลับมาอีกครั้งดังนี้

    1. ชนชาติยิวหรืออิสราเอลจะกลับคืนมามีประเทศอีกครั้งหนึ่ง

    ชาวยิวหรือที่เรารู้จักกันในปัจจุบันคือประเทศอิสราเอลเป็นชนชาติที่พระเจ้าได้เลือกสรรไว้ที่จะไม่มีวันสิ้นชาติไปจากแผ่นดินโลก เราเห็นได้ว่าในประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้ว่า เมื่อ 586 ปี ก่อนพระเยซูจะเสด็จลงมาเกิดนั้น ชนชาติยิวหลงลืมพรเจ้าและพระองค์ได้อนุญาตให้อาณาจักรบาบิโลน ซึ่งรุ่งเรืองมากในสมัยนั้น ยกทัพมาโจมตีกรุงเยรูซาเล็มและจับพวกเขาไปเป็นเชลย


    ในยุคต่อๆ มา ชาวยิวจึงแตกกระจัดกระจายไปตั้งถิ่นฐานอยู่ทั่วโลก เมื่อ 2000 ปีก่อน พระเยซูได้ตรัสไว้ว่า เมื่อไรก็ตาม ที่ชนชาติอิสราเอล กลับคืนมาตั้งประเทศได้อีกที จะไม่มีใครสามารถทำลายพวกเขาได้อีก


    และเมื่อท่านเห็นเช่นนั้น เป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่า ใกล้วันที่พระเยซูจะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว

    ทุกท่าน อิสราเอลกลับคืนสู่ประเทศ และสหประชาชาติรับรองเอกราชของประเทศนี้เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 1948 ว่าเป็นประเทศ เมื่อเริ่มแรกอิสราเอลมีพลเมืองไม่ถึง 1,000,000 คน ได้ถูกกลุ่มอาหรับรังแกจนแทบจะตั้งตัวไม่ติด และแล้วในเดือนมิถุนายน 1967 อาหรับ 5 ประเทศซึ่งมีประชากรกว่า 200,000,000 คน ได้รวมตัวกันสู้รบและทำสงครามกับอิสราเอล ซึ่งมีประชากรไม่ถึงหนึ่งล้านคน

    ทำการสู้รบกับประเทศอาหรับ 5 ประเทศเป็นเวลา 7 วัน

    ผลปรากฎว่า อิสราเอลขยี้อาหรับจนสิ้นฤทธิ์ เครื่องบินทิ้งระเบิดของประเทศอียิปต์และซีเรีย 4,000 กว่าลำยังไม่ทันบินขึ้นจากสนามบินก็ถูกอิสราเอลทิ้งระเบิดถล่มยับเยิน แต่อาหรับยังไม่ท้อและเลิกโจมตีง่ายๆ ปี1972


    ในเช้าของวันหยุดทางศานาของอิสราเอล ที่กองทัพอิสราเอลไม่ได้เตรียมตัวและตั้งตัวทัน ก็ถูกโจมตีจากอาหรับอีก คราวนี้ยืดเยื้อไปถึง 14 วัน แต่สุดท้าย อาหรับก็ต้องสยบยอมแพ้อีกเช่นเคย

    ชนชาติอิสราเอลจะไม่มีใครทำลายได้ (แม้แต่ฮิตเลอร์ที่มีกองทัพเกรียงไกร) นั่นเพราะพระเจ้าจะให้พวกเขากลับมาหาพระองค์ เมื่อเวลาที่พระเยซูคริสต์เสด็จกลับมาอีกครั้ง ทำไมอเมริกาและยุโรป มักจะอยู่ข้างอิสราเอลทุกครั้งที่เกิดปัญหา ที่ตะวันออกกลาง นั่นเป็นเพราะ เขาตระหนักดีว่า ไม่มีใครจะปรบมือสู้รบกับประชากรที่พระเจ้าเลือกได้

    2. เหตุการณ์ทางการเมือง

    (จากพระธรรม มัทธิวบทที่ 24 ข้อ 6 - 7)

    2.1 สงคราม

    ก่อนวันที่พระเยซูจะเสด็จกลับมา ประเทศต่างๆในโลกจะมีการแย่งชิงอำนาจ และความเป็นใหญ่ โดยการทำสงครามกัน จะมีการเกลียดชัง และเอาเปรียบกันซึ่งนำไปสู่การสู้รบที่รุนแรง นับแต่วันที่พระเจ้าสร้างโลกใบนี้มา ไม่มีสงครามใดจะใหญ่โตเลย จนกระทั่ง

    - ศตวรรษที่ 20 ก็ได้อุบัติสงครามโลกครั้งที่ 1 (ปี 1914 - 1917) และสงครามโลกครั้งที่ 2 (1939 - 1945) ปะทุขึ้น มีคนเสียชีวิตมากว่า 29,000,000 คน

    - สงคราเกาหลี (1950 - 1953 ) และสงครามเวียตนาม (1968 - 1972) ได้คร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 10,000,000 คน

    ปัจจุบันมีการสู้รบกันประปรายในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ไม่น้อยกว่า 20 สงครามใ นทุกๆ วัน

    2.2 การรวมตัวกันของประชาชาติต่างๆ

    เห็นได้จากการรวมตัวกันของสหภาพยุโรปหรืออียู (E.U. = Europe Union) เป็นการรวมตัวกันของ 11 ประเทศในยุโรป ไม่ใช่สิ่งที่เป็นปรากฎการณ์ใหม่หรือแปลกประหลาดอะไรเลย


    เพราะในพระคัมภีร์ในพระธรรมดาเนียลบทที่ 7 ข้อ 19และ 24 ได้ทนายไว้เกือบ 500 ปีก่อนสมัยที่พระเยซูคริสต์จะเกิดเสียอีก และในพระธรรมวิวรณ์บที่ 17 ข้อ 12 ได้ทำนายไว้หลังจากพระเยซูเสด็จขึ้นสวรรค์แล้ว 95 ปี ไว้อย่างชัดเจนว่า


    จะมีประเทศต่างๆ 10 ประเทศ ซึ่งเคยรวมตัวกันเป็นจักรวรรดิ์โรมันในสมัยก่อน กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ก่อนที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมาครั้งที่สอง การรวมตัวนี้จะเกิดขึ้นเป็น 2 ช่วงคือ

    - ช่วงที่ 1 เป็นการรวมตัวกันเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็คือการประกาศใช้เงินสกุลยูโร (Euro) สกุลเดียวในช่วงปี 1999 ที่ผ่านมา

    - ช่วงที่ 2 จะมีการรวมตัวทางการเมืองคือ มียุโรปเดียว รัฐบาลเดียว ซึ่งในช่วงที่สองนี้กำลังมีการเจราจารายละเอียดอยู่ในขณะนี้ พระคัมภีร์ทำนายไว้ว่า จะมีการรวมตัวกันของ 10 ประเทศ นั่นหมายถึง อาจมีหนึ่งประเทศ ถอนตัวในอนาคตอย่างแน่นอน

    3. เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ (จากพระธรรมมัทธิวบทที่ 24 ข้อ 7 )

    3.1 เกิดการกันดารอาหารทั่วโลก

    เมื่อปี 1800 ประชากรของโลกมีจำนวน 2,000,000,000 คน (สองพันล้านคน) ปี 1950 เพิ่มเป็น 3,000,000,000 คน (สามพันล้านคน) เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 1999 ประชากรโลกมี 6,000,000,000 คน (หกพันล้านคน) นักวิทยาศาสตร์ทำนายว่าอีก 50 ปีข้างหน้าน้ำมันเชื้อเพลิงจะหมดไปจากโลกนี้

    ทุกวันนี้ ประเทศเอธิโอเปียมีคนตายเพราะขาดอาหารวันละ 3,000 คน นักเศรษฐศาสตร์ทำนายว่าแต่ละวันประชากรโลก 2,000,000,000 คน (สองพันล้านคน) มีอาหารกินอิ่ม


    อีก 2,000,000,000 คน (สองพันล้านคน) มีอาหารกินอย่างเร้นแค้นและกินไม่อิ่ม ในขณะที่อีก 2,000,000,000 คน (สองพันล้านคน) ไม่มีแม้แต่จะกิน (ครบ 6,000,000,000 ล้านคนพอดี)

    3.2 เกิดโรคระบาด (พระธรรมลูกาบทที่ 21 ข้อ 11และพระธรรมวิวรณ์บทที่ 6)


    ปัจจุบันโรคเอดส์ โรคอีโบล่า โรคฝีดาษลิง ล้วนแต่เป็นโรคสายพันธ์ใหม่ที่ยังไม่มียารักษาให้หายได้ โดยเฉพาะโรคเอดส์ ที่เพิ่งค้นพบในปี 1982 ระยะเวลาอันสั้น แต่ปัจจุบันคนทั่วโลก ติดเชื้อ HIV นี้ เข้าไปแล้ว 40,000,000 คน (สี่สิบล้านคน)


    ในจำนวนนี้ 1,500,000 คนเป็นเด็ก และในปี 1999 ที่ผ่านมา มีคนตายด้วยโรคเอดส์แล้ว 2,600,000 คน ในขณะที่ประเทศไทย คาดว่า อีก 5 ปีข้างหน้า จะมีคนไทยติดเชื้อเอดส์ถึง4,000,000คน

    4. เหตุการณ์ทางธรรมชาติจากพระธรรมมัทธิวบทที่ 24 ข้อ 7

    คัมภีร์ทำนายไว้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ทั่วโลก ซึ่งจะคร่าชีวิตคนเป็นแสนๆ ทีเดียว ตลอด 20 ปีท่ผ่านมา ได้เกิดแผ่นดินไหวในอเมริกา ญี่ปุ่น จีน อินเดีย อัฟกานิสถาน ตุรกี ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ได้มีคนเสียชีวิตนับล้านคนและทรัพย์สินสูญหายมหาศาล ลำดับคร่าวๆได้ดังต่อไปนี้

    - ปี ค.ศ. 1000 - 1008 มีแผ่นดินไหว 21 ครั้ง (ในช่วงระยะเวลา 800 ปี)- ปี 1800 - 1900 มีแผ่นดินไหว 18 ครั้ง (เป็นเวลา 100 ปี)- ปี 1900 - 1950 มีแผ่นดินไหว 33 ครั้ง (50 ปี)- ปี 1950 - 1990 มีแผ่นดินไหว 93 ครั้ง (40 ปี)- ปี 1990 - 1999 มีแผ่นดินไหว 103 ครั้ง (9 ปี)

    หากสังเกตตัวเลขในวงเล็บจะพบว่า ระยะเวลายิ่งน้อยลงเท่าไหร่ จำนวนของแผ่นดินไหวก็ทวีมากขึ้นเท่านั้น และทุกครั้งที่เกิดแผ่นดินไหว จะมีคนเสียชีวิตนับพันขึ้นไป

    5. เหตุการณ์ทางสังคม จากพระธรรมมัทธิว บทที่ 21 ข้อ 12

    5.1 ความรักความผูกพันจะเยือกเย็นลง พระธรรมมัทธิวบทที่ 24 ข้อ 12 และ 2ทิโมธีบทที่3ข้อ 1 - 4

    มนุษย์จะเห็นแก่ตัว ความเกลียดชังจะทวีขึ้น การให้อภัยกันแทบจะไม่มี ความโหดร้ายทารุณจะทวีความรุนแรงขึ้น เช่น การฆ่าล้างเผ่าพันธ์สมัยนาซี และที่ประเทศเขมร มนุษย์ดุร้ายเยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน

    5.2 ความรักทำให้ครอบครัวมั่นคงกำลังเสื่อสลาย

    สถิติรวมทั่วโลกมีการหย่าร้าง 50%ต่อปี โลกต้องสูญเสียเงินจำนวน 25,000,000 บาท (ยี่สิบห้าล้านบาท) ต่อปี ในการทำแท้ง

    6. เหตุการณ์ทางฟ้าอากาศจากพระธรรมมาระโก บทที่ 13 ข้อ 24 -25

    ใกล้วันที่พระเยซูคริสต์จะกลับมาท้องฟ้าจะแปรปรวน ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวจะไม่ส่องแสง ลมฟ้าอากาศจะทำให้ฤดูกาลเปลี่ยนไป

    7. ความรู้มนุษย์จะทวีคุณ จากพระธรรมดาเนียลบที่ 12 ข้อ 4

    7.1 ความรู้ทางวิชาการ

    ความรู้ของมนุษย์เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทุกๆ 8 ปี ความรู้ที่ตีพิมพ์เป็นเล่มหนังสือนั้นเฉลี่ยแล้วปีละ 500,000 กว่าเล่ม ถ้าจะอ่านอย่างละเอียดต้องใช้เวลาถึง 1,0000000 ปีจึงจะอ่านจบ


    เทคโนโลยีและระบบ Computor ทำให้ความเป็นอยู่เปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะความรู้ของมนุษย์ทวีคุณขึ้นอย่างรวดเร็ว มีคนกล่าวว่าเด็กชั้นประถมปัจจุบัน รู้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มากกว่านักวิทยาศาสตร์เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว

    7.2 การสื่อสาร

    เมื่อ 50 ปีที่แล้ว การส่งจดหมาย ระยะทาง 100 กิโลเมตรต้องใช้เวลา 7 วัน ปัจจุบันสามารถถ่ายทอดเนื้อหาหนังสือทาง Encyclopedia 25 volumes ประมาณ 35,000 หน้า โดยใช้เวลาเพียง 3 วินาที ทางอิเลคทริคส์เท่านั้น

    7.3 การเดินทาง

    ในสมัยจักรพรรดิ์ซีซาร์แห่งกรุงโรม (ซึ่งเคยเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองที่สุดแห่งหนึ่งของมนุษย์โลก) และในสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก การเดินทางไม่ต่างกันเลย คือ ใช้ม้าหรือสัตว์เป็นพาหนะ


    แต่ปัจจุบันเครื่องบินเจ็ทรุ่นใหม่สามารถบินรอบโลกได้โดยใช้เวลาเพียง 80 วินาทีเท่านั้น (1 นาที กับอีก 20 วินาที) และยานอวกาศสามารถบินทะลุทะลวงอวกาศได้ถึงชั่วโมงละ 200,000 ไมล์

    ทุกท่าน ท่านอาจเห็นว่านี่เป็นเรื่องเหลวไหล ชวนปวดหัวและตระหนตกใจเปล่าๆ แต่ท่านลองพิจารณาดูว่า ตลอดประวัติศาสตร์มนุษย์โลกที่ผ่านมา ใช่อย่างที่คัมภีร์ไบเบิ้ลกล่าวไว้หรือเปล่า


    อย่างไรก็ตาม พระเยซูคริสต์บอกว่า อย่าตระหนกหรือตกใจเลย เหตุการณ์เหล่านี้จำเป็นต้องเกิด

    </TD></TR><TR><TD align=right>โดย ปัจเจกตน</TD></TR></TBODY></TABLE>

    www.oknation.net/blog/print.php?id=310691

    อันนี้ weblink ไปดูข้อมูลเรื่อง 99942 Apophis ที่นักวิทย์พากันเก็งและกร็งว่า อาจจะมาโหม่งโลกในอีก 20 ปีกว่าๆ ข้างหน้า

    http://neo.jpl.nasa.gov/risk/a99942.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2011
  19. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    ถึงผู้มาใหม่ ตามที่ท่านได้ลงบทความว่า พื้นที่อีสานเหนือและภาคเหนือติดประเทศลาวจะเกิดภัยพิบัติ ผมขอเพิ่มเติมดังนี้
    พื้นที่เสี่ยงภัยที่จะเกิดภูเขาไฟปะทุคือ บ้านกุดฉิม อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น บ้านโพธิ์ จ.สุโขทัย บ้านร่มเกล้า จ.อุตรดิตถ์(ติดพรมแดนไทยลาว)และ จ.ราชบุรี จ.บุรีรัมย์ จ.กาฬสินธุ์
    (ข้อมูลในเว็บนี้เมื่อประมาณ 4ปีมาแล้ว)

    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ยุทธการหักด้ามขวานไทย !!!

    [​IMG]

    โจรโต้ดันประเด็นความไม่สงบในภาคใต้ของไทยเข้าโอไอซี เพื่อขอแยกตัวออกจากประเทศไทย

    ที่รัฐสภา นายสมัย เจริญช่าง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เหตุที่นายกฯระบุว่าคนร้ายโจมตีฐานปฏิบัติการทหารใน อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพราะต้องการให้ที่ประชุมองค์การ การประชุมอิสลาม (โอไอซี) นำไปหารือ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ในปี พ.ศ.2550 สมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เคยมีความพยายามในการเสนอประเด็นความไม่สงบในภาคใต้ของไทย เข้าสู่ที่ประชุมโอไอซี ที่กรุงการาจี ประเทศปากีสถาน โดยอ้างถึงกรณีที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกรณีติมอร์ตะวันออกขอแยกตัวออกจากประเทศอินโตนีเซีย

    อย่างไรก็ตาม พล.อ.สุรยุทธ์ได้เรียกเลขาธิการโอไอซีมาชี้แจง เป็นเหตุให้แม้จะมีการแจกเอกสารเกี่ยวกับประเทศไทยแล้ว แต่ไม่มีการบรรจุเรื่องดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุมและไม่มีการหยิบขึ้นมาหรือ ต่อมาในการประชุมโอไอซี ในปี พ.ศ.2552 ที่กรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เนื่องจากเป็นที่กบดานของนายตวนกู บีรอ กอตอนีรอ ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงในภาคใต้หนีไปกบดาน เป็นเหตุให้กระทรวงการต่างประเทศ ส่งนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรมว.ต่างประเทศขณะนั้น ไปประสานงานเป็นเหตุให้ไม่มีการหารือเรื่องดังกล่าว ในที่ประชุมโอไอซี

    “คนร้ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีทั้ง 1.พวกที่คิดจะแบ่งแยกดินแดนอยู่จริง 2.ฝ่ายที่ต้องการข่มขู่เจ้าหน้าที่ เพื่อจะเข้าไปหาประโยชน์เรื่องการค้าของเถื่อน ทำบ่อน หรือขนยาเสพติด และ 3.แนวร่วมที่โกรธแค้นเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ ขบวนการแบ่งแยกดินแดน คงหวังจะให้โอไอซีหยิบประเด็นภาคใต้ของไทยไปหารือ เผื่อจะนำไปสู่การลงประชามติ เพื่อแยกดินแดนเช่นเดียวกับติมอร์ตะวันออก หรืออย่างน้อยก็สร้างกระแสเพื่อของบประมาณจากองค์กรระหว่างประเทศอื่นๆ”

    นายสมัย กล่าวและว่าสิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำจากนี้ไป คือทำอย่างไรให้ประชาชนเชื่อถือ และมั่นใจในข้อมูลที่มาจากภาครัฐ เพราะที่ผ่านมา ในบางพื้นที่ ชาวบ้านจะเชื่อถือข่าวลือมากกว่าข้อมูลที่ออกมาจากภาครัฐ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่รัฐเสียเปรียบในการปฏิบัติงาน เช่นบอกว่าเจ้าหน้าที่ยิงชาวบ้าน สร้างความโกรธแค้น ทั้งที่ไม่เป็นความจริง จึงอยากให้รัฐบาลเร่งทำงานด้านจิตวิทยา โดยต้องให้คนดี อย่างผู้นำทางศาสนา โต๊ะครู ปอเนาะ ฯลฯ เข้าร่วม เรื่องนี้รัฐบาลจะต้องทำเพื่อแย่งชิงมวลชน เพราะที่ผ่านมางานด้านนี้อ่อนแอมาก

    มกราคม 27, 2011

    ที่มา http://www.isnhotnews.com

    รายละเอียดยังมีอีกมาก ท่านที่สนใจสามารถเข้าไปอ่านได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

    นักวิชาการมาเลเซีย ประกาศเป็นทางการเอา 3 จังหวัด ให้มาเลเซีย แล้วนะ !!

    บทความ มิตรมาเลเซียกับไฟใต้จดหมายจากปัตตานี

    บทความจากข่าวMOU 2543 มาจากไหน และจะพาประเทศไทยไปไม่รอดอย่างไร !
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2011

แชร์หน้านี้

Loading...