ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. pgame

    pgame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +184
    ให้ผมนะ ผมจะเอาไปทำนา ปลูกข้าวให้คนกิน ^_^
     
  2. พรหมประกาศิต

    พรหมประกาศิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +13,541
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 34 คน ( เป็นสมาชิก 21 คน และ บุคคลทั่วไป 13 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>พรหมประกาศิต, ตึงได, เกษม, คมสันติ์, วสุธรรม, monthapatip, J_man, pgame, kwanruen_pui, boyZ, okung3036, ข้าวหอมนิล, panuw, Khundeaw, TON213, เทพบุตร, saemsawat, awisoot </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สวัสดีครับพี่เกษม ผมเข้ามาตามอ่านเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่เคยโพสอะไรสักที พี่คงสบายดีนะครับ ถ้ามีอะไรดีๆจะแนะนำก็พีเอ็มไปหาบ้างนะครับ เผื่อไม่ได้เข้ามาเยี่ยมในกระทู้นี้
     
  3. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    12 ก.ย. 55

    ลูกกระสุนปืน เมื่อถูกยิงออกจากกระบอกปืนแล้วย่อมนำกลับมาใช้เหมือนเดิมไม่ได้

    มหาประชาบดี ๙๗
     
  4. กีรติศักดิ์

    กีรติศักดิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2008
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +848
    ถ้าแบ่งให้ฟรีจริงๆผมขอสัก 5ไร่ก็พอ ขุดดินทำไร่ปลูกต้นไม้ทำเป็นแต่ไม่ที่ทางด้วยความเมตตาขอบคุณไม่ใช่พูดเล่นนะครับ
     
  5. Itokin

    Itokin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +223
    .....ครับ.......ขออนุญาตสนับสนุนอีกเสียงครับ......อะไรที่เราไม่รู้ ไม่พูดเสียเลยจะดีกว่าครับ.....ไม่เสี่ยงดี.....บางครั้งก็แค่สนุกปากหรือสะใจ มันก็แค่ชั่วแว๊บเดียว......แต่สิ่งที่จะได้รับกลับมามันยาวนาน..น.....น และไม่คุ้มค่าจริง ๆ ครับ.......ด้วยความหวังดี ทำแต่กุศลเถอะครับ อกุศลแม้จะน้อยนิด ก็อย่าได้ไปยุ่งกับมันเลยครับ เป็นห่วง (ไม่ได้หมายความว่า ให้เชื่อไปทั้งหมดนะครับ เราต้องใช้วิจารณญาณประกอบด้วยครับ อันไหนดีมีเหตุมีผลเราก็รับฟังไว้ อันไหนแปลกๆ แต่เรายังไม่รู้ ก็ผ่านๆ ไป เก็บแต่สาระไว้ ขยะเราไม่เอาครับ) ท้ายนี้หากข้อความขัดเคืองใคร กราบขออโหสิด้วยนะครับ ไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆ ทั้งสิ้นครับ
     
  6. zixma99

    zixma99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +1,175
    โดน ซะแหละ ก้มหน้าก้มตาเชื่อ อย่างเดียวห้ามเถียง นั่งฟังเงียบๆ เป็นผู้ฟังที่ดีน่ะจ๊ะ จะได้บุญเป็นกอบเป็นกำ
     
  7. zixma99

    zixma99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +1,175
    ความเห็นต่าง คือประชด เห็นชอบคือพวกเดียวกัน จำไว้หนูๆ ไม่พอใจไปที่อื่นจ้าที่นี้มีแต่ความเชื่อจ้าาา


    ตดเบาๆก็บาปเท่าตดดังๆ เพลียใจจังเลย มนุษย์ตดเหม็น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2012
  8. คมสันติ์

    คมสันติ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +259
    ขออนุโมทนา กับข้อมูลที่แจ้งมานะครับ
    ผู้รู้โปรดเมตตา แจ้ง สัญญานเตือนต่างๆ ให้ทราบด้วยครับ
    ติดตามทุกช่วงของเวลา ครับ
     
  9. คมสันติ์

    คมสันติ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +259
    เมตตา คุณนัง อรหัง เมตตา
    แผ่เมตตา เยอะๆ นึกถึงองค์สัมมา เท่าที่จิตละลึกถึง
     
  10. gijjij

    gijjij เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +346
    <TABLE id=post6686310 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>วันนี้, 07:21 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#29079 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->rinchang<!-- google_ad_section_end --> [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6686310", true); </SCRIPT>
    ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Apr 2006
    สถานที่: Made in Thailand
    อายุ: 94
    ข้อความ: 26
    Groans: 0
    Groaned at 3 Times in 3 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 815
    ได้รับอนุโมทนา 1,636 ครั้ง ใน 419 โพส
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_6686310 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->โอ้ววว มีคนมาให้กำลังใจกันยาวเชียว นู๋คนเดียวอีกตังหาก ชักงงวุ้ย
    กลายเป็นคนบาปหนาซะแระ สรุปนู๋ไปพูดไรให้เขาเคืองแค้นมากหนอออออ

    แหมบางคนบางล็อคอินที่หนูพูดขึ้นมา (ก็มีอยู่คนเดียวที่พูด) หนูก็พอรู้ประวัติเขาอยู่น้าาาา หนูไปดับความเชื่อใครนี่
    เขามีปัญญากันอยู่แล้ว เชื่อใครเชื่อไรก็เชื่อไปสิ หนูเข้ามาอ่านอยากแสดงความเห็นต่างในมุมของหนู บ้างเล็กน้อย คงไม่ผิดกฎเวปมั้ง หนูไม่ได้เข้ามาเปลี่ยนใจใครสักหน่อย ก็มันเรื่องของเขา บวกกะหัวกระทู้ไม่ได้เขียนว่าอ่านกะอวยอย่างเดียว (ถ้าติดยันต์ไว้แบบนี้ไม่มาเม้นท์แน่นอน) นู๋ก็โพสต์บ้างเล็กน้อย คงไม่ใช่ป่วนมั้ง ถ้าป่วนมันจะยิ่งกว่านี้ แค่ 2-3 เม้นท์คงไม่ใช่

    และก็ถึงคุณลุงเกษม ขอบคุณค่ะสำหรับเม้นท์ลุงที่บอกนู๋ สำหรับหิ้งคนนี้นู๋ไม่กลัว เพราะของจริงกะเก๊มันต่างกันชัดเจน และกรรมมันก็เป็นของหนูเอง ใครอยากมาร่วมแชร์กรรมด่านู๋ก็ตามเสบยนู๋แบ่งให้ ลุงก็เม้นท์ไปตามปกติของลุง นู๋ก็ไม่ได้มาต่อไรให้แล้วนะ ก็เข้าใจว่าโอ แค่เม้นท์ลุงยอมรับ ก็จบ แต่โอ้ว ทำไมมีคนมาต่ออีก ชักงง....

    ใครที่มาเม้นท์ต่อลุงด้วยความหวังดีกะนู๋และเตือนแบบมีเหตุผลจิง ๆ ด้วยความหวังดี นู๋ขอให้มีความสุขเจอสิ่งดี ๆ เช่นกันค่ะ (ที่ดึงรีพายจากเม้นท์ลุงนะ)

    จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ เอวัง<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เมื่อมีศรัทธา และความเชื่ออย่างแรงกล้า ก็หลอกง่าย<!-- google_ad_section_end -->


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อีหนูเอ้ยสู้ๆๆๆลุงให้กำลังใจนะดีใจด้วยที่เห็นเด็กรุ่นใหม่มีสมองคิดเอง แล้วอยาทำปากอย่างนั้นลุงเจี๋ยวนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2012
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    กาลกัญชิกาอสูร
    [​IMG]

    การดำเนินชีวิตประจำวันของเรา ต้องเกี่ยวพันกับผู้คน ต้องมีการกระทำร่วมกัน มีการพูดคุยสนทนากัน ต้องใช้ความคิดไปในเรื่องราวต่างๆ รวมทั้งคอยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น หรือแม้แต่เวลาที่เราอยู่คนเดียว เราก็ต้องคิดทำเรื่องของตนเองหลายอย่าง สิ่งต่างๆ ที่เราได้คิด ได้พูด ได้กระทำไป จะเป็นวิบากกรรมติดตัวเราไปในภพเบื้องหน้าได้ เพราะว่าชีวิตเราตกอยู่ในกฎแห่งกรรม สิ่งที่เราได้กระทำไปไม่ได้สูญหายไปไหน ไม่ว่าทำดีทำชั่วหรือไม่ดีไม่ชั่ว ล้วนมีผลทั้งสิ้น เรื่องนี้เป็นความจริงของชีวิตและเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่รู้ไม่ได้ ต้องรู้ต้องเห็นชีวิตถึงจะปลอดภัย ปลอดภัยจากภัยในสังสารวัฏ เมื่อนั้นจะมีชัยชนะ คือมีชัยชนะเหนือบาปอกุศล เหนือกิเลสอาสวะ และมีความสุขที่แท้จริงที่เราปรารถนา

    มีวาระแห่งพุทธสุภาษิตที่มาใน เขมสูตร ว่า

    “บุคคลผู้เป็นคนพาลมีปัญญาทราม ย่อมประพฤติตนเป็นศัตรูต่อตนเอง ย่อมทำกรรมอันลามกที่ทำให้เดือดร้อนในภายหลัง เขาย่อมมีน้ำตานองหน้า ร้องไห้คร่ำครวญอยู่ และต้องเสวยผล แห่งวิบากกรรมอันเผ็ดร้อนด้วยความทุกข์ทรมาน

    ส่วนบุคคลทำกรรมใดแล้ว ไม่เดือดร้อนในภายหลัง มีใจแช่มชื่นเบิกบาน ได้เสวยผลแห่งวิบากกรรมที่ดีนั้น ที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อตนและผู้อื่น ควรรีบลงมือกระทำกรรมนั้น”

    เรื่องกฎแห่งกรรมนี้ เป็นเรื่องของความจริง ไม่ได้เกี่ยวกับความเชื่อ หรือการนับถือศาสนาลัทธิใดลัทธิหนึ่ง ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม กฎนี้ก็ยังคงอยู่เพราะเป็นกฎสากล ที่มีผลบังคับครอบคลุมไปถึงสรรพสัตว์ทั่วทั้งภพสาม ถ้าเราทำใจให้เป็นกลางๆ โดยวางความเชื่อไว้บนหิ้งแล้วเอาความจริงมาพิสูจน์กัน เราก็จะได้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องสมบูรณ์ ว่าสัตว์โลกทั้งหลายล้วนมีวิบาก คือผลที่เกิดจากการกระทำของตนทั้งสิ้น ที่ตนเองกระทำเอาไว้ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ แล้วต้องมารับวิบากกรรมที่แตกต่างกันออกไป คือกรรมบางอย่างเมื่อทำไปแล้วต้องเดือดร้อนใจในภายหลัง อาจให้วิบากในมหานรก บางอย่างให้วิบากในอสุรกาย ที่ให้วิบากในเปรตวิสัยก็มี ในกำเนิดสัตว์เดรัจฉานก็มี ถ้าเป็นกรรมดีก็ให้วิบากในสุคติภูมิ ในมนุษยโลก ในเทวโลกก็มี ในรูปภพ อรูปภพก็มี นี้เรียกว่าความแตกต่างแห่งกรรม

    เราจะต้องทำความเข้าใจให้ซาบซึ้งในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องหลักที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเพียรพยายามพร่ำสอนให้พุทธบริษัทตลอดจนชาวโลก และสรรพสัตว์ทั้งหลายได้รู้แจ้งเห็นจริง ให้เข้าใจถูกต้องและทำให้ถูกหลักวิชา เพื่อจะได้หลุดพ้นออกจากวังวนของวัฏสงสารไปสู่อมตมหานิพพาน เป็นอิสรภาพ พ้นจากกฎเกณฑ์นี้ เราเป็นสาวกของพระพุทธองค์ท่าน ต้องเดินตามอย่างพระบรมครู ท่านก้าวไปทางไหนเราต้องก้าวไปทางนั้น เดินตามรอยบาทของพระพุทธองค์เรื่อยไป อย่าให้เป็นเหมือนบุคคลท่านหนึ่ง ที่ประมาทในเรื่องกฎแห่งกรรม ทำให้ชีวิตที่เคยสว่างไสวกลับมามืดมนอนธการ ต้องมีอบาย ทุคติ วินิบาต นรกเป็นที่ไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2012
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    * เรื่องมีอยู่ว่า ท่านสุนักขัตตะโอรสแห่งเจ้าลิจฉวี มีความเลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้กล่าวสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัยโดยอเนกปริยาย และมีโอกาสมาอุปัฏฐากรับใช้ใกล้ชิดพระบรมศาสดา ตอนนั้นกุศลกรรมในตัวท่านยังให้ผล ทั้งบุญเก่ายังอำนวยผลอยู่ ท่านจึงมีบุญได้รับใช้พระพุทธองค์ และเมื่อได้ยินได้ฟังพระธรรมคำสอน ก็เกิดกำลังใจได้ออกบวชในพระพุทธศาสนา

    ในกาลต่อมา ท่านเกิดความคิดเห็นผิดบางอย่างขึ้น คือคิดว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงผูกขาดตำแหน่งการเป็นพระอรหันต์แต่เพียงผู้เดียว แม้ในลัทธิอื่นที่ตั้งใจปฏิบัติอย่างเคร่งครัดก็น่าจะเป็นพระอรหันต์ได้ เมื่อเกิดความคิดอย่างนี้ขึ้นมาในใจ ก็เป็นเชื้อให้บาปอกุศลได้ช่อง เพราะบาปเขาจะคอยหาช่องตลอดเวลาอยู่แล้ว ที่จะเอากิเลสเข้ามาใส่มาแทรกสอดในใจ ให้เห็นผิด คิดผิด พูดผิด ทำผิด ซึ่งเราทราบกันดีอยู่แล้วว่า ทั้งกุศลและอกุศล จะมีการชิงช่วงและช่วงชิงกันอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากใครเผลอหรือประมาทพลาดพลั้ง จะโดยตั้งใจหรือมิได้ตั้งใจก็ดี กิเลสจะเข้าแทรกในทันที แม้เพียงแค่เราคิดเล่นๆ มันก็ได้ช่องและบุกเข้ามาจู่โจมทันทีเหมือนกัน โดยเฉพาะบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดกับพระบรมศาสดา เขายิ่งจ้องเล่นงานเป็นพิเศษอยู่แล้ว

    เรื่องความคิดเห็นผิดที่เกิดขึ้นในใจของอุปัฏฐากใกล้ชิดนี้ พระบรมศาสดาทรงทราบดี เพราะพระองค์ทรงรู้วาระจิตด้วยพระญาณอันบริสุทธิ์ จึงตรัสเรียกมากล่าวเตือนว่า “สุนักขัตตะ เรารู้นะว่าเธอคิดอะไร เธอกำลังมีความเห็นผิดในเรา เธอไม่รู้หรือ ว่าที่เราขวนขวายในการอบรมสั่งสอนสรรพสัตว์ เพื่อให้สรรพสัตว์ได้หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะได้เป็นพระอรหันต์ เราไม่ได้หวงแหนความเป็นพระอรหันต์ เราเพียรสร้างบารมีมา ๒๐ อสงไขยกับแสนมหากัปก็เพื่อการนี้ ไฉนเลยเราจะผูกขาดการเป็นพระอรหันต์แต่เพียงผู้เดียว” สุนักขัตตะฟังแล้ว ก็ไม่ได้ปักใจเชื่อ แต่ก็ไม่คัดค้าน หรือต่อปากต่อคำอะไร

    เช้าวันหนึ่งก่อนที่พระพุทธองค์จะเสด็จออกบิณฑบาต ได้เสด็จไปที่อารามของภัคควปริพาชกก่อน เพื่อที่จะเล่าเรื่องบางอย่างให้ปริพาชกฟัง เพราะทรงรู้ในอนาคตว่า เมื่อเขาได้ฟังรู้เรื่องแล้วจะเกิดความเลื่อมใส แม้ปริพาชกนั้นจะมีทัศนคติในทางความคิดที่แตกต่างออกไป มีความชอบใจและความพอใจไปคนละทาง แต่จะเกิดความเลื่อมใสในเบื้องต้น ซึ่งจะเป็นพลวปัจจัยติดตัวไปในภพเบื้องหน้า พระพุทธองค์ทรงเล่าให้ปริพาชกท่านนี้ฟังว่า "อีก ๗ วันนักบวชชีเปลือยชื่อโกรักขัตติยะจะเสียชีวิตลงเพราะโรคอลสกะ คือโรคอาหารไม่ย่อย เพราะเหตุที่รับประทานอาหารมากจนเกินไป และจะไปเกิดเป็นอสุรกาย ในจำพวกอสูรกาลกัญชิกา"

    สำหรับเรื่องภูมิของอสุรกายนี้ ได้มีบันทึกไว้ในพระไตรปิฎกหลายแห่ง เป็นกำเนิดหนึ่งในอบายภูมิ ๔ อสุรกายแปลว่าไม่กล้า คือผู้ที่ไม่กล้า ไม่กล้าเพราะไม่อยากจะให้ใครเห็น เนื่องจากว่ารูปร่างหน้าตาของตัวอัปลักษณ์ บางทีก็หน้าเป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง แต่ตัวเป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่ง แขนก็เป็นของสัตว์อีกชนิดหนึ่ง แต่ขาเป็นคนอย่างนี้ก็มี แล้วมีหลากหลายประเภทพิสดารแตกต่างกันออกไป ตามปกติแล้วเขาจะอยู่ที่ช่องว่างระหว่างเขาตรีกูฎกับเขาสิเนรุ ซึ่งเป็นที่อยู่ของสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกากับชั้นดาวดึงส์

    สำหรับอสูรกาลกัญชิกานี้แปลกประหลาดมาก คือจะมีตาอยู่บนหัวเหมือนตาปู ตาใหญ่โต แล้วมีปากอยู่บนหัวเหมือนกัน แต่เล็กเท่ากับรูเข็ม เวลาจะกินอาหารต้องก้มหัวลงมาดูดกิน กินก็ไม่อิ่มสักทีเพราะปากเล็กเท่ารูเข็ม ตัวก็ลีบผอมแห้งเหมือนกับใบไม้แห้ง ตัวสูงแต่หิวโซ บุพกรรมนี้เกิดขึ้นเนื่องจากในตอนที่เป็นมนุษย์ได้ประพฤติวัตรของสุนัข ที่ใช้ปากก้มลงไปกินอาหารกับพื้น ได้รับความทุกข์ทรมานมาก ทั้งร้อนทั้งหิวกระหาย จะโอดครวญอยู่ตลอดเวลา

    แล้วเรื่องที่เกิดก็เป็นจริงอย่างพระพุทธดำรัส เมื่อชีเปลือยโกรักขัตติยะตายไปได้ ๓ วัน พระพุทธองค์ก็เสด็จไปที่ป่าช้า ไปดูศพของชีเปลือย ทรงใช้พุทธานุภาพไปเอาอดีตชีเปลือยซึ่งเป็นอสุรกายมาให้มาเข้าร่างเดิม เมื่อสุนักขัตตะถามซากศพที่นอนอยู่ว่า “ท่านตายแล้วไปเกิดที่ไหน” ศพนั้นก็ลุกขึ้นมานั่งเหมือนกับมีชีวิต แล้วพูดว่า “เราไปเกิดในภพของอสุรกายเป็นพวกอสูรกาลกัญชิกา” พูดจบก็ล้มตัวลงนอน กายละเอียดจึงค่อยออกจากร่างไปเสวยวิบากกรรมตามเดิม เรื่องนี้ทั้งที่สุนักขัตตะได้ประจักษ์แล้วด้วยตนเอง แต่ก็ยังดื้ออยู่ ยังคอยจ้องจับผิดวาทะของพระพุทธองค์ต่อไป

    ครั้นต่อมา พระบรมศาสดาทรงพยากรณ์อเจลกะชื่อกฬารมัชฌกะ ซึ่งกำลังโด่งดังเป็นที่เลื่อมใสของมหาชนในครั้งนั้นว่า “อีกไม่นาน อเจลกะนี้จะเลิกบำเพ็ญพรตเพื่อไปมีภรรยา” สุนักขัตตะก็ไม่ค่อยจะเชื่อ เพราะเห็นอเจลกะท่านนี้เคร่งครัดมาก ยังเข้าใจว่าเป็นพระอรหันต์ด้วยซ้ำไป แต่ไม่นานเท่าไรอเจลกะนั้น ก็เป็นอย่างพระพุทธดำรัสจริงๆ สุนักขัตตะได้แต่นิ่งเฉย และต่อมามีผู้มาท้าประลองฤทธิ์กับพระพุทธองค์ พระองค์ก็ทรงรับการท้าประลอง ผลจะเป็นอย่างไรนั้นต้องติดตามในตอนต่อไป

    พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

    *มก. เล่ม ๑๕ หน้า ๑

    ที่มา กาลกัญชิกาอสูร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2012
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    กรรมของการลบหลู่พระพุทธเจ้า
    [​IMG]

    มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประเสริฐที่สุด สามารถสร้างสรรค์สิ่งที่ดีๆ ให้แก่โลกได้มาก แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถทำลายล้างโลกได้ ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน มนุษย์ได้ทำการทะเลาะวิวาทเบียดเบียนกัน ทำสงครามทั้งรบใหญ่ รบย่อย แม้ปัจจุบันการรบพุ่งกันจะเบาบางลง แต่สงครามเศรษฐกิจกลับหนักหน่วงขึ้น รบกันข้ามทวีป เป็นสงครามในระดับโลก โดยลืมสงครามในระดับภพสาม ซึ่งมีความสำคัญมากกว่า คือสงครามชิงภพ ที่ทุกๆ คนจะต้องเผชิญในวาระสุดท้ายของชีวิต พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบว่า ถ้าก่อนละโลกจิตผ่องใสไม่เศร้าหมอง สุคติก็เป็นที่ไป ถ้าจิตเศร้าหมองไม่ผ่องใสทุคติก็เป็นที่ไป เราควรจะให้ความสำคัญกับเรื่องสงครามของชีวิตให้มาก

    มีวาระแห่งพุทธสุภาษิตที่มาใน อัยยิกาสูตร ว่า

    “สรรพชีวิตต้องตาย เพราะความตายเป็นที่สุดของชีวิต เมื่อตายแล้วสัตว์ทั้งหลายจักไปตามกรรม ไปเสวยผลแห่งบุญ และบาปที่ตนได้กระทำไว้ ผู้มีกรรมเป็นบาปจะไปสู่นรก ส่วนผู้มีกรรมเป็นบุญจะไปสู่สุคติ

    เพราะฉะนั้น บุคคลพึงทำแต่กรรมดีงาม อันจะนำไปสู่สุคติในสัมปรายภพ บุญทั้งหลายที่ได้ทำสั่งสมไว้ ย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในปรโลก

    เรื่องของชีวิต เป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก เพราะเกี่ยวข้องกับตัวเราโดยตรง และยังเกี่ยวโยงไปถึงสรรพสัตว์ทั้งหลาย การกระทำของเราทุกอย่างจะมีผลต่อสิ่งแวดล้อม มีผลต่อบุคคลรอบข้าง มีผลต่อจิตใจของมวลมนุษย์ และการกระทำทุกอย่างของเราไม่ว่าจะทางความคิด คำพูด หรือการกระทำ ก็ไม่รอดพ้นจากกฎแห่งกรรมไปได้ ดังนั้นเราควรจะมาศึกษา และทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ในเรื่องนี้ เพื่อที่ว่าเมื่อเรารู้แล้วเราจะได้ไม่พลั้งพลาด

    เรื่องของกรรมนี้เป็นเรื่องที่ลึกซึ้ง สลับซับซ้อน เพราะสิ่งที่เราได้เคยกระทำผ่านมาในอดีตมานับภพนับชาติไม่ถ้วนนั้นมีมาก มีทั้งดีและชั่ว และที่ไม่ดีไม่ชั่ว ซึ่งล้วนแล้วแต่มีผลต่อตัวเรา ทุกสิ่งที่เรากระทำลงไปทั้งทางความคิด คำพูด และการกระทำ ก็จะมีวิบากกรรมที่ให้ผลได้ใน ๓ ขั้นตอน คือให้ผลในปัจจุบันอย่างหนึ่ง ให้ผลในภพที่ไปเกิดอย่างหนึ่ง และให้ผลในภพชาติต่อๆ ไปอีกอย่างหนึ่ง นี้เรียกว่าวิบากแห่งกรรม การเสวยวิบากแห่งกรรมนั้นขึ้นอยู่กับบุญและบาปที่ได้ทำเอาไว้ในสมัยที่เป็นมนุษย์ ถ้าทำดีก็ไปสู่สุคติ ทำชั่วก็ไปสู่ทุคติ ดังนั้นพระพุทธองค์จึงทรงสอนให้เราสั่งสมแต่กรรมที่ดีงาม จะได้มีสุคติเป็นที่ไป

    ในชีวิตประจำวันของเราตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน มีความจำเป็นจะต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องการกระทำหรือที่เรียกว่ากรรม ซึ่งจะมีบุญและบาปคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง โดยจะมีการชิงช่วงและช่วงชิงระหว่างกุศลกรรมและอกุศลกรรมอยู่ตลอดเวลา ต่างฝ่ายต่างก็แย่งชิงกันทั้งในความคิด คำพูด และการกระทำในกายมนุษย์นี้ ที่เป็นเหมือนหุ่นเชิด สุดแล้วแต่ว่าบุญหรือบาปจะเข้ายึดครอง หรือเราจะยอมให้บุญหรือบาปเชิด ถ้าบุญเชิด ก็คิดดีพูดดี ทำดี มีวิบากผลที่ดี มีความสุขความสำเร็จเป็นเครื่องตอบแทน ถ้าบาปเชิดเมื่อคิดพูดทำในสิ่งที่ไม่ดี ก็จะมีวิบากกรรมคือความทุกข์ทรมานเกิดขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2012
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    * คราวที่แล้วเราได้พูดกันถึงเรื่องนี้ ตอนที่บาปอกุศลเข้าสิงจิตของอเจลกะท่านหนึ่งที่ชื่อว่า อเจลกปาฏิบุตร ทำให้เกิดความผยอง ได้ไปท้าประลองฤทธิ์กับพระบรมศาสดา พระบรมศาสดาทรงรับคำท้าพร้อมทั้งทรงพยากรณ์ด้วยว่า อเจลกปาฏิบุตรที่มาท้าประลองอิทธิปาฏิหาริย์กับพระองค์นี้ จะไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้เห็นพระองค์

    สุนักขัตตะอุปัฏฐากผู้มากด้วยทิฐิ ก็ล่วงหน้าไปบอกอเจลกะท่านนั้น และบอกมหาชนทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ในเมืองนั้น ให้มาเป็นพยานรับรู้รับทราบในวาทะของพระบรมศาสดาที่ได้ตรัสออกไป ครั้นถึงกำหนดวันประลองฤทธิ์ พระบรมศาสดาก็เสด็จไปที่อารามของอเจลกะ แต่อเจลกะก็หลบออกไปทางด้านหลัง ไปอาศรมของเพื่อนอเจลกะ เพราะรู้ตัวว่า ตัวไม่มีฤทธิ์อะไรที่จะไปประลองกับพระพุทธเจ้าผู้มีอานุภาพมาก ซึ่งก็เป็นจริงดังที่พระบรมศาสดาได้พยากรณ์ล่วงหน้าเอาไว้ อเจลกะท่านนี้เกิดหวาดกลัวจนตัวสั่น ไม่กล้าออกมาพบพระบรมศาสดา และด้วยวิบากกรรมที่ไปลบหลู่ด้วยการท้าประลองกับผู้มีคุณใหญ่ ศีรษะจึงแตกเป็นเจ็ดเสี่ยง และไปบังเกิดในมหานรกทันที

    แม้กระนั้นสุนักขัตตะก็ยังไม่กลัวบาป ยังพยายามที่จะลบล้างวาทะและลบหลู่คุณของพระบรมศาสดา พระบรมศาสดาจึงเรียกสุนักขัตตะมาตักเตือนแรงๆ เพื่อให้ได้คิดว่า “ดูก่อนโมฆะบุรุษ เธออยู่กับเรา เธอยังมีความคิดลามกเช่นนี้ มีความเห็นผิดอย่างนี้อยู่หรือ แล้วเธอยังจะกล้าปฏิญาณตนว่าเป็นสมณศากยบุตรได้อย่างไร” สุนักขัตตะเมื่อได้ฟังคำตักเตือนอย่างนั้นก็โกรธ นึกน้อยอกน้อยใจที่อุตส่าห์ทุ่มเทในการอุปัฏฐากรับใช้พระบรมศาสดาอย่างอุทิศชีวิต แต่มาในครั้งนี้ โดนติเตียนอย่างแรง จึงโกรธเคือง คิดที่จะหนีไปให้ไกลจากพระพุทธองค์

    จากเดิมเป็นบุคคลที่เคยเลื่อมใสแล้วก็กลายเป็นพาลขึ้นมา เพราะพญามารเขาเข้าไปบังคับ คอยจ้องจับผิดลบหลู่คุณท่าน โดยเฉพาะมาทำกับพระบรมศาสดาผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ ถือว่าได้ทำกรรมหนัก พระพุทธองค์ทรงหวังจะอนุเคราะห์อุปัฏฐากจึงตรัสเตือนว่า “เธออย่าหนีจากเราไปสู่มหานรกเลย เธออย่าได้หนีจากพระธรรมวินัยนี้ไปเลย” แม้กระนั้น สุนักขัตตะแทนที่จะกลับตัวกลับใจเสียใหม่ กลับดื้อดึงจะไปให้ได้

    ในที่สุดเขาก็จากพระองค์ไป ได้ไปเที่ยวนินทาพระพุทธเจ้าให้คนอื่นฟัง ครั้นละโลกก็ไปบังเกิดในมหานรกด้วยแรงกรรมที่กระทำผิดต่อพระบรมศาสดา ได้ลบหลู่คุณท่าน ไฟนรกได้เผาไหม้เขาซึ่งได้กายของสัตว์นรก ไหม้จากข้างล่างขึ้นมาข้างบน จนลุกท่วมตัวสัตว์นรกนั้น นายนิรยบาลก็เอาไปผูกติดกับหลักที่เป็นเสาเหล็กร้อน ทั้งมือและเท้าจะผูกมัดติดกับหลักร้อนเอาไฟเผา แม้ได้รับทุกข์ทรมานแค่ไหนก็ขยับเขยื้อนตัวไม่ได้ จนกระทั่งถูกไฟครอกตาย จะมีลมชนิดหนึ่งพัดมา สัตว์นรกก็จะกลับฟื้นขึ้นมาใหม่ แล้วถูกไฟนรกเผาไหม้อีก ทรมานอยู่อย่างนี้เป็นเวลายาวนานหลายๆ ล้านปี เมื่อหมดกรรมจากมหานรกขุมใหญ่ ต้องมารับกรรมต่อที่ขุมบริวาร จากนั้นไปรับกรรมต่อในยมโลกและมาเป็นอสุรกาย เป็นเปรต เป็นสัตว์เดรัจฉาน กว่าจะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์นั้นยากแสนยาก และนานแสนนาน

    เพราะฉะนั้น เราอย่าได้พลั้งพลาดไปทำบาปกรรมกันเลย เมื่อรู้แล้วเข้าใจแล้ว เราก็ต้องเลือกทำแต่กรรมดี เพราะบุคคลหว่านพืชเช่นไรย่อมได้ผลเช่นนั้น เนื่องจากสัตว์โลกต้องเป็นไปตามกรรม มีกรรมเป็นของตน มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ กรรมจะเป็นตัวจำแนกสัตว์โลกให้เลวหรือประณีตต่างกัน เราทุกคนหลีกเลี่ยงหลีกหนีเกี่ยวกับเรื่องกฎแห่งกรรมนี้ไม่พ้น ฉะนั้นเราต้องเลือกเอาแต่สิ่งที่ดีๆ ติดตัวเราไปในภพเบื้องหน้า อันที่จริงแล้วชีวิตเราเลือกได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา ทุกอย่างแล้วแต่เรา ให้ดูท่านสุนักขัตตะเป็นอุทาหรณ์ แล้วอย่าไปทำอย่างนั้น

    ผู้ที่ฉลาดในการดำเนินชีวิต ควรจะออกแบบวางแผนผังชีวิตของตัวให้มั่นคงปลอดภัย โดยเลือกทำแต่กุศลกรรมที่ดีๆ ซึ่งมีวิบากกรรมเป็นสิ่งที่ดี เพราะว่ากรรมทุกอย่างที่เราสั่งสมเอาไว้ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงไรย่อมมีผลเสมอไป ที่จะไม่ให้ผลนั้นเป็นไม่มี เราทุกคนมีวิบากกรรมติดตัวมาทั้งนั้น แต่ละวิบากกรรมจึงเหมือนกับระเบิดเวลาแห่งชีวิต ที่ติดตามตัวเรามาเหมือนเงาตามตัว มันจะระเบิดขึ้นมาตอนไหนก็ไม่รู้ ดังนั้นเราต้องเร่งสร้างกุศลให้มากเข้าไว้ บุญที่เราได้กระทำตอนที่เป็นมนุษย์อย่างสุดกำลังสุดชีวิต จะได้ติดตามไปส่งผลช่วยเราให้ได้ไปมีสุขอยู่ในสุคติโลกสวรรค์

    สำหรับชีวิตที่ผ่านมา หากเราเคยผิดพลาดกันมา ก็อย่าไปตามนึกถึง บาปมันจะโตขึ้นแล้วบาปจะได้ช่อง ให้ลืมมันไปเสีย แล้วก็อย่าทำอีก ให้ตั้งใจสั่งสมบุญบารมีให้เต็มที่ และที่สำคัญที่สุด คือต้องหมั่นปฏิบัติธรรมให้พบพระรัตนตรัยในตัว จึงจะเป็นตัวตัดสินว่า เราปิดประตูอบายภูมิได้แน่นอน มีสุคติเป็นที่ไป

    พระธรรมเทศนาโดย:พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

    * มก. เล่ม ๑๕ หน้า ๑๑

    ที่มา กรรมของการลบหลู่พระพุทธเจ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2012
  15. saychl anusonthi

    saychl anusonthi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +350
    คุณอาได้ ดูข่าวเมื่อเช้ามั้ยคะ ที่ลิเบีย ยิง ทูตพี่ใหญ่ และยังเผาธงของพี่ใหญ่ด้วย หนูว่ารอบนี้
    โดยจัดเต็มแน่เลย เพราะพี่เขาส่งนาวิกโยธินไป 60คน สงสัยพี่เขากะจัดหนักจัดยาวแน่ น่าเห็นใจก็แต่ชาวบ้านที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยแต่ต้องมารับผลของสงครามที่มันกำลังจะเกิดเฮ้ย หนูว่านะอีกไม่นาน...........สิ่งที่หนูกลัวมันจะเกิดขึ้น(สงครามโลกครั้งที่3)เพราะเมื่อไรที่มันเกิดทุกอย่างก็ต้องสูญเสีย
    ภาวนา อย่าเกิดเลยและขอให้คนไทยรักกันมากๆเพราะหลายๆประเทศเขาจับตามองมาที่ไทยตลอด เมืองไทยน่าอยู่ที่สุดแล้ว(ขออนุโมทนากับบทความข้างบนด้วยคะ)
     
  16. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    เรื่องความเชื่อ ความศรัทธา และจิตวิญญาณ
    เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่สุด ไม่ควรล้อเล่น
    สร้างภาพยนต์เรื่อง อินโนเซนต์ส ออฟ มุสลิม
    ล้อเลียนศาสนาคือตัวจุดประเด็น
    ขอประณามว่าเป็นเรื่องไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง
    มีใครเอา 3 สถาบัน ของไทยเราไปทำในสิ่งไม่สมควร
    เราก็ไม่ชอบเช่นกัน
    ก็ต้องติดตามกันต่อครับ

    เมื่อเช้าดูข่าวสหรัฐฯ ส่งนาวิกโยธิน 50 นายเข้าพื้นที่ครับ
    ชั้นหัวกระทิทั้งสิ้น
     
  17. saychl anusonthi

    saychl anusonthi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +350
    แต่หนูว่าประเด็นมันอยูที่ว่า ศาสนา หรือบ่อนำ้มัน เพราะมันเกิดในเวลากลางคืนและทำไมในประเทศถึงมี สอง กลุ่มที่สนับสนุนพี่ใหญ่และพวกที่ไม่ชอบพี่ใหญ่ ดูจากเหตุการณ์เขาต้องการให้เกิดความขัดแย้งกันในประเทศก่อนแล้วถ้ารุนแรงขึ้นก็จะส่งUNไปแล้วจากนั้นก็ไปวุ่นวายในประเทศเขา(ดูหนังเยอะเลยคิดเยอะคะ)แต่มันน่าคิดนะ หนูว่าหนังเรื่องนี้ยาว ส่วนตอนจบคือสูญเสียและผลประโยชน์ที่ตามมา พี่เขาไม่เคยแพ้ใครอยู่แล้วเจริญวัตถุแต่จิต................เฮ้ยรอดูตอนต่อไป
     
  18. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ทึ่ง! คลิปกองทัพปูเสฉวนอพยพ



    เขียนโดย Mthai News Reporter</SPAN> โพสต์เมื่อ <ABBR class=published title="2012-09-13 15:40:05">วันพฤหัสที่ 13 กันยายน 2555</ABBR> เนื้อหานี้อยู่ในหมวด คลิป
    [​IMG]
    ขณะที่หลายฝ่ายคาดเป็นการย้ายที่อยู่อาสัย ปัดเป็นการหนีหรือเตือนภัยพิบัติ
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ที่บริเวณชายหาดแห่งหนึ่งในแนนนี่ พ้อยต์ ใกล้กับเมืองคอนโคเดีย ของหมู่เกาะยูเอส เวอร์จิ้น ได้เกิดเรื่องราวสุดแปลกขึ้น เมื่อกองทัพปูเสฉวนจำนวนนับพันตัวได้พากันแห่ขึ้นบกในบริเวณดังกล่าว สร้างความประหลาดใจให้ผู้พบเห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ และผู้ชมที่ได้ดูคลิป
    ทั้งนี้รายงานไม่ได้ระบุว่า การอพยพขึ้นบกดังกล่าวเป็นการย้ายถิ่นฐาน หรือเป็นการเตือนภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาแต่อย่างใด สำหรับปูเสฉวน เป็นปูขนาดเล็ก มีขา 10ขา ไม่มีเปลือกแข็งหุ้ม มักจะหาเปลือกหอยเปล่าๆ เป็นที่พักอาศัย สามารถอยู่ได้หลายพื้นที่ ทั้งบนบก หรือแม้แต่ทะเลลึก
    [​IMG]


    Mthai News

    ทึ่ง! คลิปกองทัพปูเสฉวนอพยพ | ข่าว ข่าวรายวัน ข่าววันนี้ ข่าวการเมือง
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "กรุงเทพฯ" มีความเสี่ยงที่จะโดนพายุถล่ม
    เหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นที่"นิวออลีนส์"

    [​IMG]

    สองสัปดาห์หลังจากพายุ "แคทรินา" ถล่มชายฝั่งทางตอนใต้ของสหรัฐ เมื่อวันที่ 29 ส.ค.โทรทัศน์ที่นั่นยังเสนอข่าวกัน ตลอดทั้งวันทั้งคืน เพราะพายุลูกนั้นก่อให้เกิดความเสียหายจนเป็นเหตุการณ์ใหญ่ในรอบหลายปี ณ วันนี้ยังไม่มีการประเมินค่าของความเสียหายเป็นทางการ นอกจากบริษัทบริหารความเสี่ยงแห่งหนึ่งคำนวณว่า ค่าของทรัพย์สินที่พังพินาศอาจเกินแสนล้านดอลลาร์

    ผู้อยู่ในเหตุการณ์คาดกันว่า คงมีคนตายหลายพันคน และผู้ไร้ที่อยู่อาศัยอีกหลายแสนคน องค์กรเอกชน และรัฐบาลใช้เวลาเกินสัปดาห์ก่อนจะหาที่อยู่ให้ผู้โชคร้ายได้หมด พอดีช่วงนี้ผมอยู่ในสหรัฐ จึงเห็นภาพข่าวติดต่อกันมาเป็นเวลานาน ภาพเหล่านั้นครอบคลุมเหตุการณ์ และความเสียหายจากหลายแง่มุม

    ก่อนพายุจะเคลื่อนเข้าฝั่งเป็นเวลาอย่างน้อย 2 วัน รัฐบาลท้องถิ่นแนะนำ และออกคำสั่งให้ประชาชนออกจากบ้าน ไปแสวงหาที่ปลอดภัย ฉะนั้นวันก่อนพายุจะไปถึงจึงมีขบวนรถยนต์ยาวหลายสิบกิโลเมตร เคลื่อนออกจากเมืองคล้ายงูยักษ์ เลื้อยไปตามถนน อย่างไรก็ตามชาวเมืองนิวออร์ลีนส์หลายหมื่นคน เลือกไปลี้ภัยในสนามกีฬาซึ่งมีหลังคาปิดมิดชิด ในระหว่าที่พายุกำลังโหมกระหน่ำอย่างสุดกำลังสำนักข่าวใหญ่พากันถ่ายทอดความรุนแรงของมัน ในเชิงสนุกสนานจากการผจญภัยของนักข่าวผู้ออกไปโต้ลม และสายฝนดังที่พวกเขาเคยทำกันทุกครั้งที่มีพายุใหญ่

    หลังจากพายุผ่านไปภาพความเสียหายค่อยๆ ปรากฏ ภาพเหล่านั้นบ่งถึงพลังอันมหาศาลซึ่งทำให้บ้าน และต้นไม้ในทางผ่านของพายุพังพินาศ และหักโค่นจนราบคาบ พลังของลมซึ่งแรงราว 235 กิโลเมตรต่อชั่งโมง ทำให้เกิดคลื่นใหญ่สูงหลายเมตร คลื่นนั้นนอกจากจะทำลายเรือ และสิ่งก่อสร้างตามชายฝั่งจนย่อยยับแล้ว ยังหนุนให้น้ำในทะเลสาบนอกเมืองนิวออร์ลีนส์สูงขึ้นอย่างฉับพลันอีกด้วย

    พลังของน้ำทำให้ทำนบรอบเมืองพัง ในบางย่านน้ำท่วมบ้านจนมิดหลังคา เพราะบางส่วนของเมืองนิวออร์ลีนส์ อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 2 เมตร

    ภาพจากสนามกีฬาบ่งว่า หลังคาถูกพายุพัดหลุดหายไปหลายแผ่น เนื่องจากระบบไฟฟ้าและน้ำประปาถูกทำลายหมด เพียงไม่นานสภาพภายในสนามกีฬาแห่งนั้น เริ่มไม่เหมาะสำหรับใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนหลายหมื่นคน เพราะอากาศไม่ถ่ายเทแต่ร้อนอบอ้าว และเหม็นคลุ้งด้วยปฏิกูลที่พอกพูนขึ้นและศพของผู้ป่วยซึ่งขาดยา และการรักษาพยาบาล คนส่วนมากจึงออกจากสนามกีฬามาชุมนุมกันอยู่กลางแดด

    ลูกเล็กเด็กแดงพากันร้องกระจองอแง ส่วนผู้เฒ่าผู้แก่ก็ดูหน้าตาซูบเซียว เนื่องจากผู้อยู่รอบๆ สนามกีฬาส่วนใหญ่เป็นคนดำทำให้บางคนพูดกับนักข่าวว่า รัฐบาลส่งความช่วยเหลือไปถึงช้าเพราะยังมีความรังเกียจผิวพรรณตกค้างมาจากอดีต ความรังเกียจผิวจะมีหลงเหลืออยู่อีกหรือไม่คงพิสูจน์ได้ยาก แต่ที่แน่นอนคือ คนผิวดำจำนวนมากยากจนจึงหนีพายุไม่พ้น และต้องหลบไปอาศัยสนามกีฬาทำให้ภาพที่ออกมาดูเสมือนคนดำถูกทอดทิ้ง

    ท่ามกลางความโกลาหล คนจำนวนหนึ่งฉวยโอกาสบุกเข้าไปในร้านค้า บางคนขโมยเพียงน้ำ และอาหารเพื่อประทังชีวิต แต่หลายคนดูจะพยายามขนทุกอย่างที่ขวางหน้า กว่ารัฐบาลจะส่งทหารเข้าไปช่วยตำรวจท้องถิ่นได้ของก็หายไปหมดแล้ว เป็นเวลาหลายวันก่อนที่ทหาร หน่วยดับเพลิง และองค์กรเพื่อความฉุกเฉิน จะนำเรือเข้าไปถึงส่วนของเมืองนิวออร์ลีนส์ ที่มีน้ำท่วมสูงๆ พวกเขาพบว่า ประชาชนจำนวนมาก ไม่ยอมออกจากบ้านตามที่นายกเทศมนตรีสั่ง บางคนจมน้ำตาย เจ้าหน้าที่ใช้เวลาอีกหลายวันก่อนจะช่วยผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ออกมาได้

    กระนั้นก็ตามบางคนไม่ยอมทิ้งบ้านแม้น้ำจะท่วมเกือบถึงหลังคาโดยอ้างว่า เป็นอะไรก็ขอตายในบ้าน บางคนอ้างว่า หากเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้เขาเอาหมาไปด้วยเขาขอตายกับหมาดีกว่าจะทิ้งหมาเพื่อเอาตัวรอด ภาพหนึ่งซึ่งสร้างความสลดหดหู่ใจได้แก่ภาพเจ้าของนอนตายอยู่หลายวัน ส่วนเจ้าหมาน้อยนอนเฝ้าอยู่ใกล้ๆ และไม่ยอมหนีไปที่อื่น

    ภาพนั้นทำให้นึกถึงเรื่องที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เล่าว่า ท่านน้ำตาไหลเมื่อเขียนถึงความตายของเจ้ามอม และนึกถึงย่าเหลซึ่งมีอนุสาวรีย์อยู่ที่พระราชวังสนามจันทร์ อันที่จริงภาพอันน่าสลดหดหู่ใจมีให้เห็นอีกมากเพราะคนจำนวนล้านได้รับผลกระทบอย่างหนัก จำนวนมากสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างยกเว้นเพียงเสื้อผ้าที่สวมใส่มากับตัว แน่ละ เหตุการณ์นั้นไม่สร้างภาพอันน่าสลดหดหู่ใจเพียงอย่างเดียว หากมีภาพของคนจำนวนมากซึ่งเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณ และความเมตตาที่จะช่วยเหลือคนแปลกหน้ายามตกยาก

    สำหรับผู้ที่รู้จักเมืองนิวออร์ลีนส์ หรือเคยไปเที่ยวที่นั่นเพราะความชื่นชมในความเป็นเอกลักษณ์ของเขา อาจรู้สึกสลดหดหู่ใจเป็นพิเศษ จริงอยู่ย่านที่เป็นศูนย์วัฒนธรรมฝรั่งเศสไม่ได้รับความเสียหายมากนักเนื่องจากตั้งอยู่ตรงที่สูง แต่ในบรรดานักดนตรีแจ๊ส ซึ่งเป็นเสมือนหัวใจของเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมจะมีใครเสียชีวิตบ้างยังบอกไม่ได้ ณ วันนี้เมืองนิวออร์ลีนส์มีสภาพไม่ต่างกับบึงใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำเน่าอันเกิดจากขยะ ปัสสาวะ อุจจาระ น้ำมัน ซากศพของคนและสัตว์และปฏิกูลสารพัดชนิด

    ดูภาพความเสียหายของเมืองนิวออร์ลีนส์ แล้วนึกถึงกรุงเทพฯ แม้ในปัจจุบันกรุงเทพฯ จะยังไม่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลมากเช่น นิวออร์ลีนส์ แต่เนื่องจากกรุงเทพฯ ยังทรุดลงทุกวันประกอบกับระดับน้ำทะเลค่อยๆ ขยับสูงขึ้นเพราะภาวะเรือนกระจกทำให้น้ำแข็งในย่านขั้วโลกละลาย จึงเป็นไปได้ว่าอีกไม่ช้ากรุงเทพฯ จะอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลเช่นเดียวกับนิวออร์ลีนส์

    หากเกิดฝนตกหนักพร้อมกับพายุใหญ่ ซึ่งก่อให้เกิดภาวะน้ำทะเลหนุน ความเสียหายในกรุงเทพฯ อาจจะมากกว่าในนิวออร์ลีนส์หลายเท่า เพราะนิวออร์ลีนส์ มีประชากรเพียงครึ่งล้านคน

    ชาวไทยคงคิดว่า ไม่น่าจะเกิดกับกรุงเทพฯ ชาวนิวออร์ลีนส์จำนวนมากก็เคยคิดเช่นนั้น เพราะชาวอเมริกันมักหลงผิดคิดว่าจะเอาชนะธรรมชาติได้เสมอ ผมเห็นว่าน่าจะถึงเวลาหยุดทุ่มเงินทีละหลายแสนล้านบาทลงไปในกรุงเทพฯ เสียที รัฐบาลนี้เคยมีความคิดจะสร้างเมืองใหม่ หากนำส่วนหนึ่งของเงินนั้นบวกกับเงินในโครงการประชานิยมต่างๆ ไปใช้สร้างเมืองใหม่ผลได้น่าจะสูงกว่า ไม่จำเป็นต้องสร้างแถวอำเภอบ้านนา จะสร้างแถวเขื่อนป่าสักเป็นแห่งแรก หรือที่ไหนก็ได้ หากทำด้วยความโปร่งใสและรอบคอบ

    บ้านเขาเมืองเรา : ดร.ไสว บุญมา กรุงเทพธุรกิจ วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2548

    ที่มา http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2005q3/article2005sep16p5.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2012
  20. natatik

    natatik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2012
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +3,607
    ง่าย ๆ สั้น ๆ เอาไว้เตือนสติ ควบคุมอารมณ์ทุกสถานการณ์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...