ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** ปัตตานี...เมืองโบราณเก่าแก่ ****

ปัตตานี...อดีตศรัทธา พระพุทธเจ้ายุคก่อน พระโคดม
เหล่าบุรุษ...ผู้ศรัทธาจึง ขอบรรพชา
มุ่งปฏิบัติขัดเกลากิเลสให้สิ้น...ด้วยสัจจะ
จึงหลุดพ้น...สู่นิพพาน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

โลกุตตระธรรม...
กล่าวถึง "ปัตตะนี" ในศาสนาพุทธยุคเก่า


*** พร ผัสสะ ****

สังโหนะนะจะ คิรินนะพะทะ อุลุนนะบุพพะจะ สังวะเทวะ มนัสสะมนัสโส
อะสังโฆ บุคคะโต คิรินจะเทโว โหโหทุคคะโต ผัสสะคันนะ สาริกกะจะ โภคภัชชนะ
สังทิเวตัสสะ "ปัตตะนี" บุพพะรัตติง สีนิลจะโภชะนิงพะละ โอษทิตะรัง สันทิพัสสะวะหัง
กันยังเภสัง บุรุษทะบุคคะตัง สัทธะคิมหัง คันทิตัง บัพพะชัง สาวะกะสัง อินทะนัง
โภชทิบัทธะยัง ปัททะพะโมวะสัง ยัทธะพยัญชนัง สังทิคันตุ อุลุบัพพะชัง เวทะสัญญะบัพพะกิจ
คิริตตะ โภชทิสีริตคิต จะนิพพานัง ขันธะ สัมมะ สัญญะ สังฆะ โพ ติ ฯ



ต่อไป...เราคงจะพบ
"คาถาโบราณทางใต้บทหนึ่ง ที่ตกถอดมาจากอดีต "
ที่เปรียบเทียบ คล้ายโลกุตตระธรรม บทนี้
เพื่อพิสูจน์ ความจริงว่า...
ปัตตะนี ในยุคโบราณ ....เป็นเมืองพุทธ สมัยพระพุทธเจ้าองค์เก่าก่อน
-

 

<TABLE class=tborder id=post1533282 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">27-09-2008, 05:01 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>คือ~ว่างเปล่า!<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1533282", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Apr 2008
ข้อความ: 343
ได้ให้อนุโมทนา: 384
ได้รับอนุโมทนา 1,884 ครั้ง ใน 282 โพส
พลังการให้คะแนน: 45


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1533282 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->อาจองเตือนรีบย้ายเมือง กทม.จมน้ำ
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->กทม.จมน้ำ อาจองเตือน รีบย้ายเมือง

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD>



</TD><TD>วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2551



</TD></TR></TBODY></TABLE>
โพสต์ทูเดย์

 

ก่อนที่ทุกคนจะอ่านกระทู้นี้ ขอให้ทุกคนลืมเรื่องโลกร้อน หรือเรื่องน้ำท่วมโลกในอีก 50 ปีข้างหน้า หรือเรื่องยุคน้ำแข็งครั้งที่ 2 ที่ต่อจากน้ำท่วมโลก หรือเรื่องมนุษย์ต่างดาวบุกโลก หรือเรื่องการเมือง หรือเรื่องละครน้ำเน่า หรือละครเกาหลี ไปเลย แล้วลองมาอ่านกระทู้นี้ดู

ข้อความที่ท่านได้อ่านต่อไปนี้ สามารถเชื่อถือได้ แต่อาจจะไม่ 100 %
ซึ่งผมได้รวบรวมมาจาก Google และทฤษฎีต่างๆที่อ้างอิงได้จริง

Magnetic Pole Reversal ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกด้าน

เมื่อเร็วๆ มานี้ องค์การ NASA
ได้เคยทำให้สาธารณะชนเกิดความหวาดหวั่นด้วยการออกมาเปิดเผยว่าการพลิกกลับของขั้วแม่
เหล็กโลกจะทำให้ความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กโลกอ่อนลง และไร้ความมั่นคงแต่ไม่ถึงกับลดลงถึงระดับศูนย์
แต่จากการศึกษาร่วมกันของนักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่งกับกลุ่มนักธรณีฟิ
สิกส์และนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์พบว่า ทั้งโลกและดวงอาทิตย์จะสิ้นสุดระยะเวลาที่ใช้ในกระบวนการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็ก (Magnetic Pole Reversal) ในปี ค.ศ. 2012 โดยครั้งล่าสุดกระบวนการนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีที่ผ่านมาจนทำให้สัตว์จำพวกได
โนเสาร์สูญพันธุ์จนหมดสิ้น จากการค้นคว้าวิจัยและการวิเคราะห์ร่วมกันใน Hyderabad ได้คาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงครั้งใหม่นี้จะเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2012

คำถาม......? โลกจะเป็นอย่างไรเมื่อขั้วแม่เหล็กโลกกำลังพลิกด้าน

การพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลก คือ กระบวนการที่ขั้วแม่เหล็กเหนือและขั้วแม่เหล็กใต้สลับตำแหน่งกัน เมื่อการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กนี้เกิดขึ้น ณ ขณะเวลาใดเวลาหนึ่ง (ซึ่งไม่สามารถทำนายได้ว่าจะกินเวลานานเท่าใด อาจกินเวลาแค่ 1 ช.ม. หรืออาจเป็นเดือนก็ได้) มันหมายถึงว่าค่าการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กโลกจะลดลงจนมีค่าเป็นศูนย์หน่วยกาซ และโลก ณ ขณะเวลานั้นจะสูญเสียอำนาจแห่งสนามแม่เหล็กโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

คำถาม.......? จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไม่มีสนามแม่เหล็กโลก

โดยปกติสนามแม่เหล็กโลก จะเป็นเสมือนโล่กำบังที่ช่วยปกป้องโลกไว้อีกชั้นหนึ่งโดยเฉพาะ การช่วยกำบังโลกจากพายุสุริยะที่เกิดจากดวงอาทิตย์ แต่เมื่อไม่มีสนามแม่เหล็กโลกในเวลาที่ว่านั้น สิ่งมีชีวิตบนโลกจะต้องเจอกับหายนะ นั่นก็คือ พายุสุริยะ(บางคนเรียกลมสุริยะ มันเหมือนกันนะเดี๋ยวจะสับสน) พายุสุริยะ คือ พลังงานที่เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่เกิดจากธาตุไฮโดรเจนบนพื้นผิวดวงอาทิตย์ ซึ่งจะถูกปล่อยออกมาสู่อวกาศด้วยแรงระเบิดมหาศาล ซึ่งพายุสุริยะนั้นประกอบด้วย รังสีคอสมิก(และอีกมากมาย) และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอันมหาศาล

คำถาม........? เราจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องเผชินกับพายุสุริยะ

"ฮารัลด์ เลสช์" (Harald Lesch) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย "มิวนิค" ได้สร้างแบบจำลองสนามแม่เหล็กโลกขึ้นมาศึกษาในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ เพื่อหาคำตอบว่าโลกเราจะเป็นอย่างไรหากไม่มีสนามแม่เหล็ก แบบจำลองที่ "ฮารัลด์ เลสช์" สร้างขึ้นพบว่า ถ้าโลกเราถูกพายุสุริยะกระหน่ำ ผลที่ได้สร้างความประหลาดใจอย่างยิ่ง จากภาพจำลองที่คอมพิวเตอร์สร้างขึ้นแสดงให้เห็นว่า เมื่อ มวลอนุภาคคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากพายุสุริยะมาถึงโลก จะทำปฏิกิริยากับชั้นบรรยากาศ เกิดเป็นสนามแม่เหล็กชุดใหม่มาแทนที่และทรงพลัง พอที่จะทานแรงปะทะของรังสีคอสมิก ทำให้รังสีคอสมิกที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์เบนออกสู่อวกาศ >>>แต่ทะว่าโลกเรานั้นสามารถรอดพ้นจากอันตรายจากรังสีคอสมิกไปได้ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากกระบวนการนี้ไม่ได้เป็นผลดีต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกเลย ตามหลักแล้วกระแสไฟฟ้าจะไหลไปสู่ที่ๆมีความต่างศักย์ที่น้อยกว่า และสนามแม่เหล็กชุดใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านั้นไม่ได้เสถียรเหมือนแม
่เหล็กโลกเดิม ฉะนั้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ทำปฏิกิริยากับบรรยากาศโลกย่อมไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั
้น สิ่งที่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะกระทำต่อไปนั้นก็คือ การปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้าอันมหาศาลสู่ที่ๆมีความต่างศักย์ที่น้อยกว่า นั่นก็คือพื้นผิวโลก เหตุการณ์ที่ว่านี้คือ พายุฟ้าผ่านั้นเอง พายุฟ้าผ่านี้ อาจกินเนื้อที่ทั้งทวีปหรือทั่วโลก สายฟ้าที่กระหน่ำลงมาจากก้อนเมฆอิเล็กตรอนนั้น จะกระหน่ำผ่าลงมาทุกๆที่โดยไม่หยุดจนกว่าพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากพายุสุริยะจะห
มดลง และจะเกิดขึ้นอีกถ้าพายุสุริยะลูกต่อไปมาถึง หรือจนกว่าการกลับขั้วของแม่เหล็กโลกจะเสร็จสมบูรณ์จนทำให้กระบวนการสร้างสนามแม่เหล
็กโลกจะทำงานได้อีก สิ่งมีชีวิตบนโลกมากมายจะต้องตาย และเทคโนโลยีต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้นจะถูกทำลายลงในครั้งนี้ แต่ถ้ารังสีคอสมิกสามารถหลุดรอดมากจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าได้ สิ่งมีชีวิตที่รอดจากการถูกฟ้าผ่า ก็อาจจะต้องตายจากโรคมะเล็งและความร้อน

คำถาม........? เมื่อสนามแม่เหล็กโลกเกิดการพลิกตัวอย่างสมบูรณ์จะเกิดอะไรขึ้นกับโลก <<<<<ต่อไปจากตรงนี้ เชื่อถือไม่ได้แล้วครับ

สิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้อาจะเหลือเชื่อแต่ตามหลักการแล้วย่อมเป็นไปได้ การพลิกด้านของขั้วแม่เหล็กโลกนี้ไม่ได้ทำให้เกิดความหายนะจากพายุสุริยะแค่เพียงอย่
างเดียว แต่อาจเกิดหายนะจากการหมุนกลับทางของโลกที่จะเกิดตามมาอีก ยกตัวอย่าง เช่น การหมุนของมอเตอร์ มอเตอร์แบบธรรมดามี 2 ขั้ว โดยให้สัญลักษณ์ A และ B ก่อนที่ขั้วแม่เหล็กโลกจะพลิกตัว ให้เปรียบโดยการใช้ ไฟฟ้าขั้ว + ต่อเข้ากับ A และไฟฟ้าขั้ว - ต่อเข้ากับ B มอเตอร์จะหมุนไปทางใดทางหนึ่ง แต่เมื่อเราต่อขั้วไฟฟ้ากลับด้านกัน ย่อมทำให้มอเตอร์เกิดการหมุนทิศทางตรงกันข้ามกับครั้งแรก และนี่ก็เปรียบกับการพลิกด้านของขั้วแม่เหล็กโลกนั่นเอง

คำถาม........? แล้วสิ่งมีชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป

เมื่อโลกหมุนกลับทาง สิ่งมีชีวิตที่เหลืออาจจะต้องเจอกับภัยธรรมชาติมากมาย โลกหมุนกลับทางย่อมทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยน ทั้งกระแสน้ำทะเล กระแสลม รวมถึงแผ่นดิน จากนี้จะเกิดอะไรขึ้นย่อมไม่มีใครรู้ได้ มนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตรอด จะปรับตัวอย่างไรเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก มนุษย์ที่เหลือจะทำอย่างไรเมื่อวันนั้นมาถึง...........................

ที่มา http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1103552


เดือนตุลาคม ค.ศ. 2000 ชาวคอร์กิโนหลายคน เห็นดวงแสงลึกลับ ลอยวูบลงสู่พื้นดิน แล้วพุ่งกลับขึ้นไปในอากาศ ทิ้งรอยไหม้จนหินละลาย ซึ่งต่อมาหินละลายดังกล่าว ได้รับการตรวจสอบจากนักธรณีวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา ที่ลงความเห็นว่าหินได้รับความร้อนอย่างไม่น่าเชื่อ

นอกจากแสงลึกลับแล้ว ที่นี่ยังมีชายผู้หนึ่งซึ่งอ้างว่าเขาสามารถติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้มานานแล้ว ล่าสุดเมื่อปี 2002 เขาก็อ้างว่าเขาถูกลักพาตัวไปยังยางนอกโลกถึง 3 วัน ซึ่งงานนี้เขาไม่ได้อ้างลอยๆ นะ เขามีพยานหลักฐานอันน่าทึ่ง และยังไม่อาจพิสูจน์ค้านได้ว่าเป็นการทำปลอม หรือกุเรื่องขึ้นเสียด้วย

ชายผู้มีประสบการณ์พิเศษคนนี้ ชื่อ อูแรนเดอร์ โอลิเวียร่า เขาอ้างว่าเขาเคยติดต่อ กับมนุษย์ต่างดาวมาหลายครั้ง มนุษย์ต่างดาวของ โอลิเวียร่า ไม่ใช่ทอล ดาร์ค แอนด์ แฮนซัม แต่เป็นทอล บลอนด์ ผิวขาวร่างสูง ผมบลอนด์ ดวงตาสีฟ้าจาง โดยมีแก้วตาสีเหลืองอ่อนวางตามตัวตามแนวตั้งเหมือนตาแมว ฟังดูไม่น่าเกลียดเหมือนตัวอีทีโอลิเวียล่า บอกเราว่ามนุษย์ต่างดาวใช้สิ่งที่เรียกว่าแสงพลาสม่า เป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสารกับเขาทางโทรจิต

เหตุการณ์ที่น่าทึ่งที่สุดที่เกิดขึ้นเมื่อ 15 กันยายน 2002 คืนนั้น

โอลิเวียร่า หายตัวไปจากห้องนอน ทิ้งไว้แต่รอยไหม้รูปร่างคนนอนบนผู้ปูเตียงและบนฝ้าเพดาน ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน อีก 3 วันต่อมมจู่ๆ เขาก็กลับมาอยู่ในห้องนอนนั้น และเขาอ้างตลอดว่า เวลาที่เขาหายไปนั้นเขาถูกนำตัวไปยังยานต่างดาว

โอลิเวียร่า บอกว่าเขารู้ตัวล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ โดยเขาได้รับการติดต่อ ทางโทรจิตผ่านแสงพลาสม่า ว่ามนุษย์ต่างดาวจะมานำตัวเขาไปในคืนดังกล่าว โดยก่อนเกิดเหตุการณ์จะมีสัญญาณนำมาให้รู้ โดยจะเกิดฝนก้อนหินตกลงมา

ค่ำวันที่ 15 กันยายน 2002 เวลาประมาณ 19.13 น. เพื่อนบ้านใกล้เคียงของ โอลิเวียร่า ต้องประหลาดใจที่ได้ยินเสียงอะไร ร่วงกรูกราวอยู่บนหลังคา เมื่อออกมาดูพบว่าเป็นก้อนหินกลมๆ ก้อนเล็ก ๆ ตกลงมาจากท้องฟ้า หลายคนช่วยเก็บก้อนหิน บางคนก็ถ่ายวีดีโอไว้เป็นหลักฐานด้วย

เขาเล่าว่า ในขณะที่เขานอนอ่านหนังสืออยู่ยนเตียงสักครู่ก็มีแสงสีม่วงสว่างไปทั้งห้อง แสงนั้นรวมตัวเข้าเหมือนฟองสบู่ ร่างของเขาลอยทะลุเพดาน รู้สึกเหมือนกระดูถูกยืดออก แต่ไม่มีความเจ็บปวด ครั้งลอยพ้นผ่านหลังคาบ้านไป ลำแสงสีม่วงก็พลิกร่างเขาให้ยืนขึ้น เมื่อไปถึงยานต่างดาว ( ซึ่งเขาไมได้บอกว่ามันเป็นอย่างไร ) เขาก็ถูกนำตัวเข้าไปในฟองอากาศ ใบใหญ่ ซึ่งมีผิวบางใส คล้ายๆ ว่าข้างในคงจะคล้ายๆ ห้องฆ่าเชื้อ ปรับพลังงานให้สมดุลย์อะไรทำนองนั้น จากนั้นมนุษย์ต่างดาวผมบลอนด์ร่างสูง ก็พาเขาขึ้นบันไดไปยังชั้นบนของยาน ซึ่งเป็นห้องกว้างใหญ่เหมือนไม่มีที่สิ้นสุด ที่นั่นมนุษย์ต่างดาวให้เขาดูจอภาพ อันเป็นภาพเกี่ยวกับโลก ระบบสุริยะ และกาแล็คซี่ของเรา มนุษย์ต่างดาวบอกว่า ในวันที่ 22 ธันวาคม 2012 ( พ.ศ. 2555 ) จะเกิดปรากฎการณ์ในอวกาศครั้งใหญ่ ซึ่งจะมีผลกระทบไปทั้งจักรวาล ในวันนั้นแกแล็คซี่จะส่งแสงวาบเจิดจ้าออกมาก ดวงอาทิตย์ทุกดวงในแกแล็คซี่ จะสะท้องแสงนั้นไปยังดาวเคราะห์ที่โคจรรอบตัวมัน สิ่งมีชีวิตทั้งมวลอันมีดวงตาจะได้เห็นแสงเจิดจ้านี้ทั่วหน้ากัน โลกของเราจะปั่นป่วน ด้วยพายุสุริยะทั้งแสงอาทิตย์ก็จะร้อนจัดขึ้น

คำทำนายของมนุษย์ต่างดาว ที่ว่าจะเกิดอาเพศขึ้นทั่วทั้งจักรวาลในวันนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ น่าแปลกที่ว่า วันที่ 22 ธันวาคม 2012 นั้นเป็นวันสุดท้ายในปฏิทินของชาวมายาอีกด้วย

อีกไม่กี่สิบปีเราคงจะได้เห็นปรากฎการณ์นั้น ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบาง



ที่มา http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1105443

 

เขียนที่บ้านเลขที่ ๑๐๑/๔๗๙ ม. ๗ ถ.บางขัน-คลองหลวง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ๑๐๑๒๐

วันที่ ๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๘

เรื่อง ขอให้มีการศึกษาข้อเท็จจริงและผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมจากปรากฏการณ์ขั้วแม่เหล็กโลกพ
ลิกตัว

กราบเรียน ประธานคณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร (นายนพดล พลเสน)

สิ่งที่ส่งมาด้วย

๑. เอกสารแปลจากสำนักข่าวอินเดียเดลี่ วันที่ 1 มีนาคม 2548 เรื่อง แบบจำลองทางคอมพิวเตอร์คาดการณ์ว่าการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กในโลกและดวงอาทิตย์ จะนำมาซึ่งการสิ้นสุดของอารยธรรมมนุษยชาติในปี ค.ศ. ๒๐๑๒

๒. เอกสารแปลจากบทความต่างประเทศ เรื่อง การเคลื่อนตัวของขั้วแม่เหล็กโลก และการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลกในปี ค.ศ. ๒๐๑๒ ด้วยกระผมนายเอกอิสโร วรุณศรี ได้มีโอกาสรับทราบข้อมูลจากทางอินเทอร์เนต ซึ่งได้มีการนำเสนอเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่เรียกว่าขั้วแม่เหล็กโลกพลิก (Magnetic Pole Reversal) ซึ่งจากการที่ได้ศึกษาจากเว๊บไซต์ต่างๆ พบว่า เรื่องดังกล่าว มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นได้จริง ทั้งมีสถาบัน หรือองค์กรที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ เช่น องค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐ (นาซา) ออกมายืนยันถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดปรากฏการณ์ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกตัวที่จะเกิดขึ้
นใน ปี ค.ศ. ๒๐๑๒ หรือ ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ที่จะถึงอันใกล้นี้ ซึ่งหากท่านประธานคณะกรรมาธิการฯ จะได้พิจารณาจาก เอกสารที่กระผมส่งมาด้วยนี้ ซึ่งเป็นแต่เพียงข้อมูลเพียงส่วนน้อย ที่กระผมจะสามารถแปลจากภาษาต่างประเทศ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก และไม่สามารถนำมาเสนอได้ทั้งหมด จะเห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความร้ายแรงต่อมวลมนุษยชาติทั้งโลก แต่เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดที่ในประเทศไทยเองกลับไม่มีการกล่าวถึงปรากฏการณ์ที่จะเ
กิดขึ้นในแวดวงนักวิชาการ ทั้งที่ผลกระทบข้างเคียงในระหว่างกระบวนการที่จะเกิดการพลิกตัวของขั้วโลก จะส่งผลต่อสภาวะแวดล้อม รวมทั้งวิถีการดำเนินชีวิต ซึ่งอาจจะต้องเผชิญกับอุบัติภัยต่างๆ มากมาย ดังที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นลมพายุรุนแรง ภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วม ดินถล่ม หรือบางพื้นที่เกิดความแห้งแล้ง รวมทั้งแผ่นดินไหว ล้วนแล้วแต่เป็นผลเกิดจากกระบวนการที่ขั้วแม่เหล็กโลกเกิดการเคลื่อนตัว และจะนำไปสู่การพลิกตัวของขั้วแม่เหล็กในที่สุด กระผมจึงใคร่ขอเสนอต่อท่านประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ เพื่อเชิญหน่วยงาน และผู้วชาญที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มาให้ข้อมูลในเรื่องนี้ เพื่อที่จะนำไปสู่การศึกษาข้อเท็จจริงและผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมจากปรากฏการณ์ขั้วแม
่เหล็กโลกพลิกตัวดังกล่าว และแจ้งให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบ หากจะนำมาซึ่งการเผชิญกับภัยพิบัติที่อาจมีขึ้นตามมา จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง (นายเอกอิสโร วรุณศรี) แบบจำลองทางคอมพิวเตอร์คาดการณ์ว่าการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กในโลกและดวงอาทิตย์ จะนำมาซึ่งการสิ้นสุดของอารยธรรมมนุษยชาติในปี คศ. 2012 1 มีนาคม 2548 จากการศึกษาร่วมกันของนักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่งกับกลุ่ม นักธรณีฟิสิกส์ และนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์พบว่าทั้งโลกและดวงอาทิตย์จะสิ้นสุดระยะเวลาที่ใช้ในกระบวนก
ารพลิกกลับของขั้วแม่เหล็ก (Magnetic Pole Reversal)

ในปี คศ. 2012 โดยครั้งล่าสุดกระบวนการนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีที่ผ่านมาจนทำให้สัตว์จำพวกได
โนเสาร์สูญพันธุ์ จนหมดสิ้น จากการค้นคว้าวิจัยและการวิเคราะห์ร่วมกันใน Hyderabad ได้คาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงครั้งใหม่นี้จะเกิดขึ้นในปี คศ. 2012 การพลิกกลับของขั้วแม่เหล็ก คือ กระบวนการที่ขั้วแม่เหล็กเหนือ และขั้วแม่เหล็กใต้สลับตำแหน่งกัน เมื่อการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กนี้เกิดขึ้น ณ ขณะเวลาใดเวลาหนึ่ง มันหมายถึงว่าค่าการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กโลกจะลดลงจนมีค่าเป็นศูนย์หน่วยเกาซ และโลก ณ ขณะเวลานั้นจะสูญเสียอำนาจแห่งแรงดึงดูดอย่างสิ้นเชิง ซึ่งถ้าหากปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นควบคู่ไปพร้อมกับการสลับขั้วของดวงอาทิตย์ที่จะมีขึ
้นในทุกๆ 11 ปี ในปี คศ. 2012 แล้ว ปัญหาอันใหญ่ยิ่งจะเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติสมัยใหม่ เรื่องราวที่เกิดขึ้นเช่นนี้ยังไม่เคยได้มีการการบันทึกไว้ จะมีก็แต่เพียงแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์เท่านั้นที่จะสามารถทำนายผลลัพธ์ที่เคยเกิดขึ้
นนั้นได้ เมื่อเร็วๆ มานี้ องค์การ NASA ได้เคยทำให้สาธารณะชนเกิดความหวาดหวั่นด้วยการออกมาเปิดเผยว่าการพลิกกลับของขั้วแม่
เหล็กโลกจะทำให้ความเข้มข้นสนามแม่เหล็กโลกอ่อนลง และไร้ความมั่นคง แต่ไม่ถึงกับลดลงถึงระดับศูนย์ แต่จากแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์ของ Hyderabad กลับพบว่าการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กของโลกและดวงอาทิตย์นั้น สามารถที่จะก่อให้เกิดปัญหาตามมาอย่างรุนแรงที่มากไปกว่าแค่การทำงานผิดพลาดของอุปกร
ณ์อิเลคทรอนิคส์เท่านั้น พวกนกที่อพยพย้ายถิ่นอยู่ตามฤดูกาลจะสูญเสียประสาทสัมผัสในการกำหนดทิศทางและอื่นๆ ตามมาอีก เช่น - ระบบภูมิคุ้มกันโรคในบรรดาสัตว์ต่างๆ รวมถึงมนุษย์จะอ่อนแอลง - โลกจะประสบกับการเพิ่มความถี่ของการเกิดภูเขาไฟระเบิด, การเคลื่อนตัวของเปลือกโลก, แผ่นดินไหว และแผ่นดินถล่ม ที่จะมีมีสูงขึ้นกว่าปรกติ - สภาวะความเป็นแม่เหล็ก (Magnetosphere) ของโลกจะอ่อนตัวลง และการแผ่รังสีคอสมิคจากดวงอาทิตย์จะเพิ่มปริมาณขึ้น และก่อให้เกิดอันตรายจากการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เช่น มะเร็งและอื่นๆ อีก ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ -กลุ่มเทหวัตถุในอวกาศขนาดใหญ่จะถูกดึงดูดเข้ามายังโลกอย่างมากมาย - แรงดึงดูดของโลกจะประสบกับการเปลี่ยนแปลงซึ่งไม่มีใครรู้ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไปอย่าง


ถ้าคุณรวมเอาเหตุการณ์ความน่าจะเป็นที่จะเกิดการทำลายล้างเหล่านี้ทั้งหมดมาผนวกรวมก
ันแล้ว คุณก็จะสามารถอธิบายสิ่งที่คุณจะมองเห็นด้วยคำง่ายๆ ว่า โลกอาจจะไม่ใช่ที่เหมาะสมสำหรับอารยธรรมของมนุษยชาติในปี คศ. 2012 และผู้คนทั้งหลายผู้ซึ่งอาศัยอยู่บนพื้นผิวโลกหรือใกล้กับพื้นผิวโลก สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใต้ผิวโลกที่ลึกลงไปเท่านั้นที่จะมีชีวิตอยู่รอด โดยปราศจากการแทรกแซงใดๆ ในกระบวนการที่จะเกิดขึ้นโดยธรรมชาตินี้ คงเป็นเวลาอีกหลายล้านปีถัดจากนี้ เราจึงจะได้เห็นรูปแบบของสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่หรือมีความชาญฉลาด ที่จะกลับมาครอบครองบนพื้นผิวโลกอีกครั้ง เหตุการณ์เช่นนี้มันอาจจะเหมือนดังเช่นที่ได้เคยเกิดขึ้นในห้วงที่เกิดคลื่นสึนามิ ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกงงงวย และเฝ้าจ้องมองดูสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอย่างคิดไม่ถึงว่ามันจะเกิดขึ้นได้ แล้วในที่สุดมันก็พัดพาเราออกไปสู่ท้องทะเล ถ้าแบบจำลองนี้ถูกต้องแม่นยำ นั่นหมายถึงว่าหนทางเดียวเท่านั้นสำหรับพวกเราที่จะอยู่รอดเพื่อที่จะรักษาอารยธรรมข
องเราเอาไว้ต่อไป นั่นก็คือการลงไปอาศัยอยู่ใต้พื้นผิวโลกหรือไม่ก็อพยพเคลื่อนย้ายไปอาศัยยังดาวเคราะ
ห์ดวงอื่นๆ เหตุการณ์เช่นนี้มันอาจจะเคยเกิดขึ้นมาแล้วกับดาวอังคารเมื่อย้อนหลังไปหลายล้านปีที
่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวที่ไม่ปรกติของผู้มาเยือนจากนอกโลกหมายถึง UFO ในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่าอาจมีใครบางคนจากนอกโลกรู้ว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงจะเกิดขึ้นกับโลกใบนี
้ อาจบางทีพวกเขาอาจจะกำลังจะพยายามที่จะช่วยเหลือพวกเราอย่างเงียบๆ ด้วยการจำลองภาพเหตุการณ์เพื่อเป็นการบอกเตือน หรือแม้แต่ย้ายพวกเราไปยังจุดหมายปลายทางที่ไหนสักแห่งที่เราไม่อาจรู้ได้. Copyright @ 2003 - 2005, Indiadaily. com. All Rights Reserved


ที่มา http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1105443

ทฤษฎีที่โด่งดังมากสุดคงต้องยกให้กับคำทำนาย ที่ว่า โลกบูดเบี้ยวใบนี้จะแตกดับในวันที่ 21 ธ.ค. 2012 หรืออีกแค่ 5 ปีข้างหน้า...ด้วยชุดเลขสวย 212012
ทฤษฎีนี้คิดค้นขึ้นโดยชนเผ่ามายัน วันดังกล่าวถือเป็นวันสิ้นสุดปฏิทินลอง เคาต์ (Long Count) หรือ ปฏิทินลำดับที่ 3 ของชาวมายัน โดยปฏิทินลอง เคาต์ เล่มล่าสุดนั้น เริ่มต้นในปี 3114 ก่อนคริสตกาล และจะดำเนินต่อเนื่องเป็น 13 รอบบักตุน (baktun) กินเวลาทั้งสิ้นราว 5,126 ปี บวกลบออกมาแล้วก็ตรงกับปี 2012 พอดิบพอดี

การเริ่มต้นของ 13 รอบบักตุน เรียกได้อีกอย่างว่า อาทิตย์ดวงที่ 5 ซึ่ง ช่วงเวลาดังกล่าวจะเวียนมาบรรจบเพื่อก่อกำเนิดดวงอาท ิตย์ครบ 5 ดวง ในวันที่ 21 ธ.ค. 2012 โดยคำทำนายระบุเอาไว้ว่า ในวันนั้นโลกจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬาร ไล่เรียงตั้งแต่ภัยธรรมชาติที่จะทำลายทุกสิ่งไปจนถึง สงครามอภิมหาโลกาวินาศ จนไม่มีมนุษย์คนใดมีชีวิตรอด ซึ่งอย่างหลังนี้อาจเชื่อมโยงได้กับทฤษฎีสงครามโลกคร ั้งที่ 3 ของนอสตราดามุส โหราจารย์ชื่อก้อง

สถานการณ์น่าระทึกในวันอวสานโลกข้างต้นตามจินตนาการข อง อง โคลด โคเวน นักเขียนหนังสือแนวอภิปรัชญาชาวฝรั่งเศส บรรยายว่า ให้นึกถึงภาพตัวเองอยู่ในสถานีรถไฟอันแออัดตอนเช้า แล้วทันใดนั้นก็เกิดเหตุโกลาหลครั้งใหญ่ทั้งธรรมชาติ แปรปรวนและระบบ คอมพิวเตอร์หรือระบบควบคุมการทำงานของเครื่องจักรเคร ื่องยนต์ต่างๆ ขัดข้อง จนเป็นเหตุให้ขบวนรถไฟในชานชาลาพากันวิ่งออกไปคนละทิ ศ คนละทาง คล้ายกับซี่วงล้อเกวียน

ในสถานการณ์อันเลวร้ายเช่นนั้นยังกดดันให้คุณจำเป็นต้องเลือกขึ้นรถไฟสัก ขบวน อย่างน้อยก็ยังรอดจากการโดนรถไฟทับตาย แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่คุณไม่มีทางรู้เลยว่า รถไฟขบวนที่หลับหูหลับตาขึ้นไปนั้นจะพาคุณไปไหน

น่าแปลกที่นอกจาก 212012 จะเป็นวันสุดท้ายของปฏิทินชนเผ่ามายันแล้ว ยังมีข้อมูลทางดาราศาสตร์ที่ระบุไว้ว่า จะ เกิดพลังงานลึกลับที่จะเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล โดยในเวลาที่ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรมากที่สุดในช่วง ฤดูหนาวของปี 2012 นั้น ดวงอาทิตย์จะอยู่ในระนาบเดียวกับใจกลางของทางช้างเผื อกเป็นครั้งแรกในรอบ 2.6 หมื่นปี ซึ่งหมายความว่า พลังงานทุกประเภทจากใจกลางของทางช้างเผือกจะถาโถมและ เกิดการปะทะกับพลังงาน ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นของโลกในวันที่ 21 ธ.ค. 2012 เวลา 23.11 น. (11.11 pm ตามเวลาสากล)

สมมติว่า มีมนุษย์เหลือรอดบนโลก ก็ไม่อาจรู้ว่าจะจำตัวเองได้หรือไม่ เนื่องจากพลังงานทั้งหลาย แหล่ข้างต้นจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ ดีเอ็นเอ นำมาซึ่งการกลายพันธุ์ หรือสรุปคร่าวๆ ได้ว่า ถึงตอนนั้นโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง คนที่รอดต้องดิ้นรนสร้างสิ่งต่างๆ นับจากศูนย์

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลทางธรณีวิทยาที่ชี้ว่า ปี 2012 คือปีที่ซูเปอร์โวลคาโน หรือภูเขาไฟใต้น้ำครบกำหนดเวลา 7.4 หมื่นปีที่จะทำลายหรือระเบิดตัวเอง โดยสัญญาณเตือนภัยครั้งล่าสุด คือ โศกนาฏกรรมคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2004 ที่บอกให้ชาวโลกรู้ว่า โครงสร้างพื้นผิวโลกได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และการระเบิดของซูเปอร์โวลคาโนอาจไม่ใกล้ไม่ไกลบริเว ณที่เคยเกิดสึนามิมา ก่อน

และเป็นที่น่าสังเกตว่า ระยะหลังมานี้ เกิดเหตุแผ่นดินไหว ดินถล่ม และน้ำในแม่น้ำหรือทะเลสาบเหือดแห้งบ่อยครั้งทั่วโลก เป็นไปได้ที่ส่วนหนึ่งเกิดจากภาวะโลกร้อน แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เช่นกันว่าโครงสร้างของพื้นผิวโ ลกกำลังขยับและเปลี่ยน แปลงตัวเองโดยที่มนุษย์ไม่รู้ตัว

ที่มา นสพ.ไทยรัฐ<!--IBF.ATTACHMENT_802861--><!-- THE POST -->

แบบจำลองคอมพิวเตอร์ ทำนายการพลิกกลับขั้วของแม่เหล็กโลก อาจนำมาสู่การสิ้นสุดอารยธรรมมนุษย์ในปี 2012


จากการทำงานของนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่ง ที่ได้ศึกษาปรากฎการณ์แกนโลกพลิกตัว บอกว่าโลกและดวงอาทิตย์ ทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกันและสัมพันธ์กัน โดยจะแลกเปลี่ยนพลังงานและใช้จนหมดกระบวนการหนึ่ง จนเกิดกระบวนการของการพลิกกลับขั้วเกิดขึ้น ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีก่อน เมื่อสัตว์จำพวกไดโนเสาร์ที่สาบสูญไปในช่วงเวลานั้น

ในการค้นคว้าวิจัยส่วนตัวและของบริษัท ได้วิเคราะห์หรือทำนายด้วยระบบคอมพิวเตอร์ Hyderabad ซึ่งมีแนวโน้มเกี่ยวกับการยกระดับพลังงานขึ้นสูงสุด จะเกิดขึ้นในปี 2012 นี้

การพลิกกลับขั้วของแกนแม่เหล็กโลก คือกระบวนการเมื่อขั้วทิศเหนือและขั้วทิศใต้กลับตำแหน่งกัน เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น, ที่จุดหนึ่งของเวลา สนามแม่เหล็กโลกจะลดลงเกือบจะถึงศูนย์เกาซ์ โลกที่จุดนั้นของเวลามีคุณสมบัติของแม่เหล็กเป็นศูนย์ สิ่งนี้บังเอิญมาเกิดขึ้นพร้อมกัน กับการหมุนรอบพลิกกลับขั้วของดวงอาทิตย์ในทุกๆสิบเอ็ดปีพอดี

ในประวัตศาสตร์ของมนุษย์ยุคใหม่ ปรากฎการณ์แกนโลกพลิกตัวที่เคยเกิดขึ้นนั้นไม่เคยถูกบันทึกมาก่อน แต่ในปัจจุบัน, แบบตัวอย่างคอมพิวเตอร์สามารถทำนายผลลัพธ์ที่เป็นจริงได้ ซึ่ง NASA เคยนำคำพูดที่น่ากลัว มากล่าวถึงในที่สาธารณะเกี่ยวกับการพลิกกลับขั้วจะทำคุณสมบัติของแม่เหล็กของโลกอ่อน
แอและเบี่ยงเบนไป แต่ไม่ใช่ศูนย์

ตามแบบตัวอย่างคอมพิวเตอร์ Hyderabad การพลิกกลับเกี่ยวกับขั้วของโลกและดวงอาทิตย์สามารถเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาที่จริงจั
งดังต่อไปนี้

- ระบบอิเล็กโทรนิคจำนวนมากจะทำงานผิดปกติ (ระบบขีปนาวุธ ,computer)

- การอพยพของฝูงสัตว์ เช่น นก หรือปลาวาฬ ทำให้สูญเสียทิศทางและอื่นๆ

- ระบบภูมิคุ้มกันโรคในบรรดาสัตว์รวมถึงมนุษย์จะทำให้อ่อนอย่างมาก

- ทำให้ภูเขาไฟเพิ่มขึ้น, เกิดการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก แผ่นดินไหว และแผ่นดินถล่ม

- สนามแม่แหล็กโลก (Magnetosphere) จะอ่อนแอลง และการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์จะเพิ่มปริมาณถึงระดับอันตราย ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังตามมา ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้

- กลุ่มวัตถุในอวกาศที่มีเส้นผ่านมากมายจะเฉียดเข้าใกล้โลกได้ง่ายขึ้น

-แรงดึงดูดของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ถ้าคุณรวมเค้าเรื่องการทำลายล้างกับเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ ความเป็นไปได้เหล่านี้เป็นไปได้ทั้งหมด, คุณสามารถดูได้โดยง่าย, โลกอาจจะกลายเป็นที่ที่ไม่เหมาะสมสำหรับอารยธรรมของมนุษย์เมื่อถึงปี 2012 และผู้ที่จะรอดได้นั้นอาจต้องมีชีวิตอยู่ใด้ดินหรือใต้เปลือกโลกเท่านั้น..

.

http://www.indiadaily.com/editorial/1753.asp


ทศวรรษแห่งความล่มสลาย

นพ.ประสาน ต่างใจ

ผู้เขียนย้ำแล้วย้ำอีกในคอลัมน์นี้มาเป็นเวลานานว่า ทศวรรษที่ 2010 โดยเฉพาะปี 2012 จะเป็นปีที่สรุปรวบยอดของสภาวะความพินาศระดับโลกแห่งชรวิตที่เรียกว่าความล่มสลายระด
ับโลก (mass extinction or spasm) อีกครั้งหนึ่งซึ่งจะเป็นครั้งที่ 6 ในประวัติศาสตร์ของโลกกายภาพหลังกำเนิดการของสิ่งมีชีวิต ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับวิกฤติใหญ่หรือภัยธรรมชาติเช่นสึนามิ แผ่นดินไหวที่แคชเมียร์ หรือเฮอริเคนแคทรินาที่เรายังจำความโหดร้ายรุนแรงของมันได้ วิกฤติดังกล่าวเป็นเพียงส่วนเสี้ยวเล็กๆ น้อยๆ สุดจะนำมาเทียบกันไม่ได้ ที่ผู้เขียนย้ำหรือเชิงคาดการณ์มานั้น - หากมองจากการคาดการณ์ที่มีรากฐานทางวิทยาศาสตร์บ้าง - การคาดการณ์ของผู้เขียนอาจเร็วกว่านักวิทยาศาสตร์หลายๆ คนไปหลายๆ ปี หรือหลายๆ ทศวรรษ ไม่ว่าจะเป็นเดวิด คิง, ฟริตจอฟ แคปร้า, เลสเตอร์ บราวน์, บิล จอย ฯลฯ ที่ผู้เขียนเคยเอามาเขียนและอ้างอิงไว้บ่อยครั้ง แต่ที่ผู้เขียนระบุว่าปี 2012 คือปีที่โลกแห่งชีวิตรวมทั้งมนุษยชาติและอารยธรรมจะถึงกาลล่มสลายอย่างใหญ่หลวงจนเสี
่ยงต่อการสิ้นสูญของเผ่าพันธุ์นั้น ผู้เขียนคำนวณจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นกว่าที่ไอพีซีซี (IPCC-UN) เคยคาดการณ์ให้ไว้ (โปรดเทียบข้อมูลที่ให้ไว้ครั้งแรกในปี 1995 กับรายงานครั้งหลังสุดเมื่อปีที่แล้ว) โดยเฉพาะอุณหภูมิที่ขั้วโลก กรีนแลนด์ และยอดภูเขาสูง นั่นคือการคำนวณปริมาณของน้ำแข็งที่ละลายกลายเป็นน้ำที่อาจก่ออุทกภัยและทำให้น้ำทะเ
ลมีระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ยกตัวอย่าง น้ำแข็งจากยอดเขาสูงเช่นหิมาลัยแห่งเดียวได้ละลายกลายเป็นน้ำถึงวันละกว่าหนึ่งล้านต
ัน และอย่าลืมว่าเมื่อน้ำแข็งละลายถึงจุดวิกฤติ ก้อนน้ำแข็งจะแตกออกทำให้การละลายเพิ่มอัตราความเร็วเป็นทวีคูณโดยมาตรทางเรขาคณิต นอกเหนือการละลายของน้ำแข็งจากโลกร้อน ผู้เขียนยังคำนวณจากประเด็นอื่นๆ เช่นปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ อัตราความถี่ของการย้ายแผ่นหินเปลือกโลกและแผ่นดินไหวกับภูเขาไฟระเบิด การย้ายสถานที่ของประชากรแมลง และประเด็นทางภูมิดาราศาสตร์อื่นๆ ทั้งหมดบังเอิญมาตรงกับคำทำนายของปฏิทินของชาวมายาที่ชาวนิวเอจแทบทุกคนเชื่อ ปฏิทินที่มาจบฉบับสุดท้ายไว้ที่ปี 2012 พอดี (the crash of 2012!)

ที่มา http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1105443
<!--IBF.ATTACHMENT_802859--><!-- THE POST -->

 

*** ศาสนศาสตร์เก่าแก่ ที่....ปัตตะนี ****

มี ซากร่องรอยของเมืองโบราณขนาดใหญ่ ซ้อนทับกันถึง ๓ เมือง
มี ซากโบราณกำแพงเมือง สถานศาสนสถานหลายแห่ง
มี โบราณวัตถุจำนวนมาก โคกอิฐและเศษเครื่องปั้นดินเผากระจายไปทั่ว
มี เทวรูปสำริดขนาดใหญ่น้อยหลายองค์
มี วัตถุสำริดที่ทำคล้ายจักร เป็นรูปกลม รอบๆ แบ่งออกเป็นช่องๆ
มี รูปเทพเจ้าในท่าร่ายรำ ลักษณะศิลปกรรมเป็นแบบอินเดียใต้
มี ภาพเขียนสีสมัยประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
มี อังษรโบราณ ภาษาโบราณ คาถา ภาษาสันสกฤต
มี ร่องรอยการเปลี่ยนแปลง ทางภูมิศาสตร์
มี ถ้ำโบราณไว้หลบภัยพิบัติ และเก็บศิลปศาสนวัตถุ พระพุทธรูปโบราณ
มี ภาพเขียนพุทธประวัติ ที่ผนังถ้ำ
มี วัดคอยดูแล มีภูเขา มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มาก

เก่าแก่มากกว่า...ยุคพระโคดม
เพราะ....ผ่านช่วงภัยพิบัติในโลก จนคนต้องเข้าไปหลบ ตามหลืบตามถ้ำ
อนาคต....ความจริงย่อมปรากฏ
ประวัติศาสตร์ที่เคยเรียนรู้...จึงต้องเปลี่ยนไปตามความจริง

-

 

อย.เผยผลตรวจสอบเมลามีน
<TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>วันนี้ (29 ก.ย.) หลังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เรียกเก็บสินค้า 6 ชนิดที่ผลิตในประเทศจีนจากจุดวางจำหน่ายต่างๆ มาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด ผลการตรวจสอบออกมาแล้ว 2 ชนิด คือ ลูกอมนมเคลือบช็อกโกแลต ตราเอ็มแอนด์เอ็ม และคุกกี้ช็อกโกแลตรูปการ์ตูนหมีโคอาลา ซึ่งพบเมลามีน 1 พีพีเอ็ม ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ที่ 5 พีพีเอ็ม โดยจะออกใบรับรองให้เจ้าของผลิตภัณฑ์ เพื่อนำสินค้ากลับไปวางจำหน่ายได้ ส่วนสินค้ากลุ่มที่เหลือจะทยอยประกาศผลในสัปดาห์หน้า
นายแพทย์ชาตรี บานชื่น เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า จะยังคงเรียกตรวจนมผงที่เตรียมนำมาผลิตเป็นนมพร้อมดื่ม หลังพบเมลามีนเกินค่ามาตรฐาน แต่ไม่อยากให้ตื่นตระหนก เพราะบริษัทผลิตนมในจีนมีถึง 200 ราย แต่มีเพียง 22 รายเท่านั้นที่มีปัญหา.
</TD></TR></TBODY></TABLE>
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=178194&NewsType=1&Template=1

 

*** โลก ****

ศาสนศาสตร์...เรื่องราวในพุทธศาสนา
เป็นหลักนำพา....ให้สัตว์หลุดพ้นทุกข์ ทุกยุคสมัย
มีเจริญ ก็มีเสื่อม...มีเริ่ม ก็จบไปได้
ซากหลักฐานทางศาสนาพุทธ....มีอยู่ทั่วโลก
พุทธสร้างไว้...แต่ก็ถูกทำลายลงด้วย ความเชื่อนอกศาสนา
ในช่วงท้ายสุด....ของแต่ละยุคพระพุทธเจ้า
พุทธสถานบางแห่ง...ไม่ถูกทำลาย ก็ถูกครอบ บดบังความจริงไว้

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6514 ข่าวสดรายวัน


หมีขาวหวังตามรอย"เซิร์น" สร้างเครื่องเร่งอนุภาคแข่งงช



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>นายวิกเตอร์ มัตวีเยฟ และเพื่อนนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิจัยนิวเคลียร์รัสเซีย เสนอความคิดว่า รัสเซียน่าจะสร้างเครื่องเร่งอนุภาคบ้าง

มัตวีเยฟ กล่าวว่า "เราน่าจะสร้างเครื่องเร่งอนุภาค ที่มีกำลังมหาศาลกว่าเครื่องแอลเอชซีของเซิร์น ซึ่งโครงการนี้จะทำให้รัสเซียก้าวเข้าไปสู่การพัฒนาด้านเทคนิค"

เป็นที่น่าสนใจว่า ต้นคิดสร้างเครื่องเร่งอนุภาคคนแรกของโลกนั้นมาจากรัสเซีย คือสถาบันนิวเคลียร์ฟิสิกส์แห่งไซบีเรีย และสหภาพโซเวียตสร้างอุโมงค์ยาว 21 กิโลเมตร เพื่อทดลองเครื่องเร่งอนุภาคในพื้นที่บริเวณมอสโก แต่การทดลองยุติไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน

ด้านเซิร์นซึ่งหยุดเดินเครื่องแอลเอชซีไปเนื่องจากพบก๊าซฮีเลียมรั่วเข้าไปในอุโมงค์ หลังจากเดินเครื่องไปได้เพียง 10 วัน ประกาศว่า เซิร์นจะเดินเครื่องแอลเอชซีอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า

[FONT=Tahoma,]หน้า 28[/FONT]


ไดโนเสาร์แคระ-ตัวเท่าไก่



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>นักพืชและสัตว์โบราณวิทยา ประเทศแคนาดา พบไดโนเสาร์ที่ตัวเล็กที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ คือ สูงเพียง 2 ฟุตครึ่งเท่านั้น

นายนิก ลองริช ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยแคลแกรี่ กล่าวว่า "ฟอสซิลไดโนเสาร์แคระนี้ พบตั้งแต่ 6 ปีก่อนที่เรดเดียร์ เมืองอัลเบอร์ต้า ซึ่งเป็นบริเวณที่พบฟอสซิลจำนวนมาก แต่เราเพิ่งมาทราบว่า มันเป็นฟอสซิลของไดโนเสาร์แคระ มีขนาดพอๆ กับไก่ อายุ 70 ล้านปี ขาของมันผอม แต่มีเล็บใหญ่" <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ไดโนเสาร์แคระนี้มีชื่อว่า "อัลเบอร์โตไนคัส โบเรียลลิส" และอยู่ในตระกูล "อัลวาเรซซอริเด" ซึ่งพบในอเมริกาใต้และมองโกเลียเท่านั้น ลองริช ยังกล่าวอีกว่า "ไดโนเสาร์แคระน่าจะกินปลวกหรือเต่าทองเป็นอาหาร และมันอาจถูกไดโนเสาร์ตัวใหญ่ๆ อย่าง "อัลเบอร์โตซอรัส" หรือ "เวโรไซแร็ปเตอร์" ล่าเป็นอาหาร -เนชันแนล จีโอ กราฟิก

[FONT=Tahoma,]หน้า 28[/FONT]









รูปรูที่รั่วของอ่างเก็บน้ำที่แตกที่ระยอง

วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6514 ข่าวสดรายวัน


เต่าแนว

เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์



มหัศจรรย์ธรรมชาติขอเสนอ..."เต่าพั้งก์"

เท่อย่าบอกใคร

หนังสือพิมพ์เดอะซันรายงานว่า มันเป็นเต่าแมรี ริเวอร์ สังกัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูญพันธุ์

คริส ฟาน วิก ช่างภาพสมัครเล่นบันทึกไว้ได้ ช่วงไปโต้คลื่นที่เคนิลเวิร์ธ ออสเตรเลีย

"ทรงโมฮอว์กของมันน่ะเป็นแค่สาหร่าย แต่เพื่อนผมเห็นว่า มันเป็นเต่าพั้งก์"

...อีกหน่อยมีดอกไม้งอกออกมาด้วย คงเพิ่มความน่ารักน่าเอ็นดู๊..น่าเอ็นดู อีกแน่



<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD background=images/corner_line_left.gif></TD><TD vAlign=top align=left width="100%" bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!--เนื้อหา--><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--Middle--><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>จำนวนคนอ่านล่าสุด 292 คน <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6514 ข่าวสดรายวัน


หมอ"ออสซี่"ฉงน-พบโรคลืมตาไม่ขึ้น



เมื่อ 28 ก.ย. เอเอฟพีรายงานว่า พบผู้ป่วยโรคตาที่มีอาการแปลกประหลาดที่ออสเตรเลีย ไม่สามารถลืมตาได้นาน 3 วันต่อสัปดาห์ แพทย์ยังหาคำอธิบายไม่ได้ และเชื่อว่าเป็นผู้ป่วยคนเดียวในโลก

น.ส.นาตาลี แอดเลอร์ อายุ 21 ปี ชาวเมืองเมลเบิร์น ลืมตาไม่ขึ้น 3 วันต่อสัปดาห์ โดยเปลือกตาจะปิดเองและบังคับให้ลืมตาไม่ได้ มองอะไรไม่เห็นนอกจากแสงที่ลอดเข้าทางตาซ้ายที่ปิดไม่สนิท แต่เมื่อลืมตาได้จะเห็นทุกอย่างเป็นปกติแต่เปลือกตาซ้ายจะย้อยลง

แอดเลอร์กล่าวว่า ตนเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่อายุ 17 ปี "ฉันตื่นขึ้นมาในวันอาทิตย์ และตาของฉันก็ปิดลง วันนั้นเป็นวันก่อนหน้าที่จะมีสอบภาษาอังกฤษ หลังจากนั้นตาก็ปิดเป็นระยะ แต่ไม่กี่สัปดาห์มันก็เริ่มปิดนาน 3 วัน"

ศ.จัสติน โอเดย์ แพทย์โรงพยาบาลหูและตาโรยัลวิกตอเรีย กล่าวว่า อาการของน.ส.แอดเลอร์ทำให้แพทย์ฉงน และไม่สามารถวินิจฉัยได้ เพราะยังไม่เคยพบใครที่มีการชักกระตุกของกล้ามเนื้อและเปลือกตาปิดในลักษณะนี้ โดยเฉพาะในอายุน้อยๆ แต่อาจพบในผู้สูงอายุ โดยเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาแพทย์ฉีดโบท็อกซ์เข้ารอบดวงตาทำให้แอดเลอร์ลืมตาได้นานขึ้น 5 วันต่อสัปดาห์ แต่ทำให้เกิดผลข้างเคียงคือคลื่นไส้อาเจียนและเหนื่อยอ่อน[/FONT]

[FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>"ญวน"เซ่นพายุ33 ไต้หวันรับมือ"ชังมี"



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 28 ก.ย. ไต้หวันอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมดินถล่ม และเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำอย่างใกล้ชิด และอาจจะปิดใช้งานสะพานถึง 19 แห่ง เพื่อเตรียมรับมือพายุไต้ฝุ่นชังมีที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าไต้หวันที่จะพัดขึ้นฝั่งบริเวณเมืองฮัวเหลียน เป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในบรรดาพายุทั้ง 4 ลูกที่พัดถล่มในปีนี้

ทางการไต้หวันเรียกเรือประมงกลับเข้าฝั่ง และยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศ ระงับการเดินรถไฟ ขณะที่สายการบินไชน่า แอร์ไลน์ และวีอีเอ แอร์เวย์ ประกาศยกเลิกเที่ยวบินบางส่วน ส่วนสายการบินไชน่า เซาท์เทิร์นและไห่หนานแอร์ไลน์ ยกเลิกเที่ยวบินจากกรุงปักกิ่ง และนครเซี่ยงไฮ้มาไต้หวัน

ด้านเวียดนามยอดผู้เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่นฮากุปิตพุ่งถึงอย่างน้อย 33 ศพแล้ว สำหรับพื้นที่เสียหายที่สุดอยู่ที่จังหวัดซอนลา กระแสน้ำซัดบ้านเรือนพังไปหลายหลังคาเรือน ทั้งยังทำให้เกิดเหตุดินโคลนถล่ม บ้านพังลงมาทับผู้คน ก่อนหน้านี้ไต้ฝุ่นฮิกุปิตที่เป็นภาษาฟิลิปปินส์ คร่าชีวิตเหยื่อในกวางตุ้งของจีนมาแล้วกว่า 20 ราย และทำให้ชาวบ้านต้องอพยพหนีกว่า 28,000 คน

[FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]

วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6514 ข่าวสดรายวัน


"คองเกรส"ไฟเขียวแผนกู้วิกฤต7แสนล.



เมื่อ 28 ก.ย. เอเอฟพีรายงานว่า นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ แถลงว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุชและสภาคองเกรสบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับแผนการใช้งบประมาณ 7 แสนล้านดอลลาร์ เข้าช่วยกอบกู้วิกฤตการเงินในสหรัฐแล้ว แต่ยังต้องมีการหารือในรายละเอียดเพิ่มเติม

ด้านนายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงในแผนนี้แล้ว แต่ตนยังคงอยู่ในสภาเพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดของแผนนี้ ซึ่งการลงมติเพื่อรับรองแผนกอบกู้วิกฤตครั้งนี้ของสภาผู้แทนฯ จะจัดขึ้น จากนั้นจะส่งไปให้วุฒิสภาลงมติรับรองในวันจันทร์

สำหรับเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ ในแผนกู้วิกฤต งบประมาณส่วนใหญ่จะนำไปซื้อหนี้เสียของสถาบันการเงิน ที่ประสบวิกฤตสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ส่วนที่เหลือจะนำไปซื้อหนี้เสียของธนาคารอื่นๆ และนักลงทุนที่ประสบปัญหา เพื่อป้องกันไม่ให้ตลาดเงินขาดสภาพคล่อง ซึ่งเป็นสาเหตุให้เศรษฐกิจของสหรัฐต้องล่มสลาย

วันเดียวกันที่ฮ่องกง กลุ่มนักลงทุนราว 400 คน เดินขบวนผ่านย่านเซ็นทรัล ที่ตั้งของบรรดาบริษัทการเงินในฮ่องกง ประท้วงโจมตีธนาคารท้องถิ่นที่ชักจูงให้ลงทุนในตราสารทางการเงินของเลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐ โดยไม่แจ้งข้อมูลที่ถูกต้อง ทั้งที่เลห์แมนประสบภาวะล้มละลาย รวมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลท้องถิ่นฮ่องกงเข้ามาดูแลกระบวนการจำหน่ายตราสารลงทุน

ที่อังกฤษ กระทรวงการคลังยอมรับว่า ธนาคารแบรดฟอร์ด แอนด์ บิงเลย์ หรือ บีแอนด์บี ซึ่งเป็นธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อบ้าน กำลังประสบปัญหาซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตการเงินโลก โดยขณะนี้ทางธนาคารกำลังเจรจากับกระทรวงการคลังเพื่อหาทางออก โดยยังไม่แน่ว่าจะต้องหาธนาคารอื่นมาควบรวมกิจการ หรือ แยกธุรกิจขาย แต่บีบีซีรายงานว่า รัฐบาลอาจเข้าไปอุ้มด้วยการแปรรูปเป็นกิจการของรัฐ ซึ่งจะเป็นรายที่ 2 ในรอบปี หลังจากที่รัฐบาลเข้าไปอุ้มธนาคารนอร์ทเทิร์น ร็อก เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา

หน้า 7


<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6506 ข่าวสดรายวัน


หลวงพ่อบุญมาก สัญญโม ศิษย์เคล็ดวิชาหลวงพ่อปาน

คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>"หลวงพ่อบุญมาก สัญญโม" เป็นพระปฏิบัติ พระนักพัฒนา เป็นพระเกจิชื่อดังเจ้าตำรับวัตถุมงคล "พระพุทธพักตร์" อันเลื่องชื่อ ผู้ได้รับการสืบทอดตำราธรรมและเคล็ดวิชามาจากพระครูโพธิสารคุณ (นวล) ซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อปาน โสนันโท วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา

อัตโนประวัติ เกิดในสกุล ปานเจริญ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2472 ณ ข้างวัดบางเชือกเหนือ ปากคลองจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม ครอบครัวมีพี่น้อง 5 คน พระอาจารย์บุญมาก เป็นบุตรคนที่ 3

พออายุได้ 7 ขวบ ครอบครัวได้ย้ายมาอยู่ข้างวัดโพธิ์ แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ

ในช่วงวัยเยาว์ หลังจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 พระครูโพธิสารคุณ (หลวงปู่นวล) ได้ขอจากโยมแม่ให้มาเป็นเด็กวัด

หลังจากนั้นปี พ.ศ.2485 ได้บรรพชาเป็นสามเณร สอบได้นักธรรมชั้นตรี เป็นผู้ดำเนินงานช่วยหาเงินบำรุงการศึกษามาโดยตลอด ต่อจากนั้นมาสอบนักธรรมชั้นโทได้ และเรียนบาลีไวยากรณ์ ตลอด 3 ปี จนจบไวยากรณ์

ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง ได้สอบนักธรรมชั้นเอก จนกระทั่ง ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ช่วยสอนพระปริยัติธรรม และช่วยหาเงินสร้างอุโบสถหลวงพ่อวัดอนงค์ ท่านมีความประสงค์ให้ซ่อม เพื่อเป็นการอนุรักษ์ของเก่า ส่วนเงินที่ได้มาจากการเรี่ยไรเป็นจำนวนประมาณ 30,000 บาทเศษ ซึ่งทางวัดเทพพล ขอโอนไปสร้างอุโบสถ แล้วเสร็จใน 1 ปี <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

เมื่อปี พ.ศ.2491 ได้อุปสมบทและเป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง พ.ศ.2500 ได้เริ่มหันมาให้ความสนใจด้านวิทยาคมและจัดสร้างพระเครื่อง และสร้างกำแพงอุโบสถ เพื่อนำรายได้ไปถ่ายที่นาให้วัด 5 ไร่ 10 วา ก่อนที่จะสร้างพระเครื่องวัตถุมงคลอย่างจริงจัง

พ.ศ.2509 สามารถนำเงินรายได้จากการสร้างวัตถุมงคล ได้ไปวางรากฐานอุโบสถวัดชลธีบุญญาวาส จ.ชลบุรี สร้างกุฏิเจ้าอาวาส จตุรมุข กว้าง 4 วา ยาว 11 วา 1 หลัง

นอกจากนี้ ยังได้สร้างหอระฆัง วัดแหลมมะเกลือ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม สร้างศาลาการเปรียญ สร้างอุโบสถ วัดศิริวัฒนาราม สร้างอุโบสถ วัดซองพลู อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เป็นต้น <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

พระอาจารย์บุญมาก ยังได้สร้างวัดคลองหินปูน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยท่านเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญในด้านการศึกษา จัดหาทุนโดยการสร้างวัตถุมงคลพระพุทธพักตร์ ซึ่งท่านได้เห็นความศักดิ์สิทธิ์ของสมเด็จพระพุทธพักตร์ ที่หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ท่านปั้นหล่อไว้

พระพุทธพักตร์ ที่สร้างขึ้นนี้มีมวลสารมากมาย ด้วยผงของเก่าของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.พระนครศรีอยุธยา ผงจากยันต์เกราะเพชร หลวงปู่นวล และพระอาจายร์บุญมาก วัดโพธิ์ ทำขึ้นกับผงสมเด็จพระพุฒาจายร์ที่หัก ผงวัดพลับ ผงหลวงพ่อโชติ วัดตะโน ผงพระโมลี หลวงพ่อวัดไร่ขิง ผงถ้ำม้าร้อง จ.เพชรบุรี ผงหลวงปู่แก้ว วัดช่องลม ท่าฉลอม ผงหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี ผงหลวงพ่อโง่น วัดเขารวก จ.พิจิตร ผงหลวงพ่อผล วัดดักคะนน จ.ชัยนาท ผงกรุพระปรางค์เก่า วัดโพธิ์ตลิ่งชัน กทม. ผงหลวงพ่อขอม จ.สุพรรณบุรี และผงของพระอาจารย์ต่างๆ อีกมากมาย นำมาเจือปนกัน สร้างเป็นพระพุทธพักตร์ อธิษฐานอาราธนาใช้ได้ ตามความปรารถนา ทุกประการ เป็นวัตถุมงคลที่เด่นมากทางด้านเมตตา มหาอำนาจ แคล้วคลาด ปลอดภัย

โดยนำรายได้จากการเช่าบูชาวัตถุมงคลไปสร้างวัด และโรงเรียนปริยัติธรรม เพื่อให้พระได้มีที่ศึกษาเล่าเรียน

ด้วยสังขารเป็นของไม่เที่ยงแท้จีรัง วันที่ 12 กันยายน 2551 หลวงพ่อบุญมาก สัญญโม ได้ละสังขารด้วยอาการสงบ รวมสิริอายุได้ 79 พรรษา 31

นับเป็นการสูญเสียพระเถระผู้ใหญ่ ซึ่งปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ วิทยาคมแก่กล้าไปอีกท่านหนึ่ง

สำหรับศพหลวงพ่อบุญมาก คณะสงฆ์วัดโพธิ์ได้ตั้งสวดพระอภิธรรมอยู่ที่ศาลาอเนกประสงค์ วัดโพธิ์ แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม. ตั้งแต่บัดนี้ จนกระทั่งครบ 50 วัน ในวันที่ 30 ตุลาคม 2551

ขณะเดียวกัน วัดโพธิ์จะนำวัตถุมงคลพระพุทธพักตร์ ชุดสุดท้าย ที่หลวงพ่อท่านสร้างไว้ และไม่มีการสร้างเพิ่มเติมอีกแต่อย่างใด เพื่อนำรายได้จากการเช่าบูชาไปสานต่อเจตนารมณ์ของหลวงพ่อบุญมาก ให้แล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้[/FONT]

[FONT=Tahoma,]หน้า 31[/FONT]

</TD></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- เริ่มภาพชุดทั้งหมด --><!-- จบภาพชุดทั้งหมด --><!-- เริ่มข่าวเกี่ยวเนื่อง --><!-- จบข่าวเกี่ยวเนื่อง -->
<!-- ใส่แสดงความคิดเห็นท้ายข่าว ---><CENTER><!-- เริ่มความคิดเห็นท้ายข่าว --><!-- จบความคิดเห็นท้ายข่าว --></CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6504 ข่าวสดรายวัน


24พระอารามหลวงไม่มีเจ้าภาพ กรมศาสนาเชิญชวนร่วมบุญทอดกฐินหลวง



นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 14 ตุลาคม 2551 เป็นวันออกพรรษา ซึ่งศน.ได้ประกาศให้ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน แสดงความจำนงขอรับพระราชทานผ้าพระกฐินไปทอดถวาย ณ พระอารามหลวงทั่วประเทศเป็นประจำทุกปี เพื่อเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้มีส่วนร่วมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยขณะนี้ พบว่า มีผู้แสดงความจำนงขอรับพระราชทานผ้าพระกฐินไปถวายพระอารามหลวงเป็นจำนวนมากแล้ว แต่ก็ยังมีพระอารามหลวงจำนวน 24 พระอาราม ที่ยังไม่มีผู้ขอรับพระราชทานกฐิน ได้แก่ วัดกลาง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์, วันขันเงิน วัดราษฎร์บูรณาราม อ.หลังสวน จ.ชุมพร, วัดมณีบรรพต อ.เมือง จ.ตาก, วัดชลธาราสิงเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส, วัดพญาภู อ.เมือง จ.น่าน, วัดบุญยืน อ.เวียงสา จ.น่าน, วัดตานีนรีสโมสร อ.เมือง จ.ปัตตานี, วัดศรีโคมคำ อ.เมือง จ.พะเยา, วัดคูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง วัดมงคลทับคล้อ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร, วัดศรีมงคลใต้ อ.เมือง จ.มุกดาหาร, วัดพุทธาธิวาส อ.เบตง จ.ยะลา, วัดมัชฌิมาวาส อ.เมือง จ.สงขลา, วัดสว่างอารมณ์ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย, วัดไตรธรรมาราม วัดธรรมบูชา วัดพัฒนาราม อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี, วัดคลองโพธิ์ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์, วัดพายัพ อ.เมือง จ.นครราชสีมา, วัดศรีสระแก้ว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู, วัดประดู่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม, วัดแก้วพิจิตร อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี และวัดบูรพาภิราม อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด

"เทศกาลถวายผ้ากฐินมีระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น นับจากวันออกพรรษา ผมจึงอยากเชิญชวนให้พุทธศาสนิกชนที่มีจิตศรัทธาร่วมกันขอรับพระราชทานผ้าพระกฐินไปทอดถวายพระอารามหลวงให้ครบทุกพระอาราม โดยเฉพาะพระอารามหลวงที่ยังไม่มีเจ้าภาพ ซึ่งสามารถติดต่อขอรับพระราชทานผ้าพระกฐินไปทอดถวายได้ที่ กองศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม โทร. <?XML:NAMESPACE PREFIX = SKYPE /><SKYPE:SPAN onmouseup="javascript:skype_tb_imgOnOff(this,1,'0',true,16,'');return skype_tb_stopEvents();" class=skype_tb_injection onmousedown="javascript:skype_tb_imgOnOff(this,2,'0',true,16,'');return skype_tb_stopEvents();" id=softomate_highlight_0 onmouseover="javascript:skype_tb_imgOnOff(this,1,'0',true,16,'');" title="Call this phone number in Thailand with Skype: +6624228807" onclick="javascript:skype_tb_doRunCMD('call','0',null,0);return skype_tb_stopEvents();" onmouseout="javascript:skype_tb_imgOnOff(this,0,'0',true,16,'');" durex="0" context="0-2422-8807" IamRTL="0"><SKYPE:SPAN onmouseup="javascript:doSkypeFlag(this,'0',1,1,16);return skype_tb_stopEvents();" class=skype_tb_imgA onmousedown="javascript:doSkypeFlag(this,'0',2,1,16);return skype_tb_stopEvents();" id=skype_tb_droppart_0 onmouseover="javascript:doSkypeFlag(this,'0',1,1,16);" title="Skype actions" style="BACKGROUND-IMAGE: url(file://C:/DOCUME~1/Admin/LOCALS~1/Temp/__SkypeIEToolbar_Cache/e70d95847a8f5723cfca6b3fd9946506/static/inactive_a.compat.flex.w16.gif)" onclick="javascript:skype_tb_SwitchDrop(this,'0','sms=0');return skype_tb_stopEvents();" onmouseout="javascript:doSkypeFlag(this,'0',0,1,16);"><SKYPE:SPAN class=skype_tb_imgFlag id=skype_tb_img_f0 style="BACKGROUND-IMAGE: url(file://C:/DOCUME~1/Admin/LOCALS~1/Temp/__SkypeIEToolbar_Cache/e70d95847a8f5723cfca6b3fd9946506/static/famfamfam/TH.gif)"></SKYPE:SPAN></SKYPE:SPAN><SKYPE:SPAN class=skype_tb_imgS id=skype_tb_img_s0></SKYPE:SPAN><SKYPE:SPAN class=skype_tb_injectionIn id=skype_tb_text0><SKYPE:SPAN class=skype_tb_innerText id=skype_tb_innerText0> 0-2422-8807 </SKYPE:SPAN></SKYPE:SPAN><SKYPE:SPAN class=skype_tb_imgR id=skype_tb_img_r0></SKYPE:SPAN></SKYPE:SPAN> ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อเป็นการสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ตลอดจนสืบทอดพระพุทธศาสนาให้อยู่คู่ประเทศชาติต่อไป" อธิบดีกรมการศาสนากล่าว

[FONT=Tahoma,]หน้า 32[/FONT]

อะไรถ้าจะให้ผมเชื่อ ผมขอให้เขื่อนอย่าเพิ่งพังเลยจะได้สนุกนะครับ
</TD><!--End Middle--></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top align=left width=300>

<!-- begin ad tag--><SCRIPT language=JavaScript src="http://ad.doubleclick.net/adj/ewit.khaosod/Amulet;sz=300x250;ord=1222679195?" type=text/javascript></SCRIPT><!-- Template Id = 1 Template Name = Banner Creative (Flash) --><!-- Copyright 2002 DoubleClick Inc., All rights reserved. --><SCRIPT src="http://m1.2mdn.net/879366/flashwrite_1_2.js"></SCRIPT><OBJECT id=FLASH_AD height=250 width=300 classid=clsid27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000>






















<EMBED src="http://www.matichon.co.th/banner/ewit/10-09-2008.swf?clickTag=http%3A//ad.doubleclick.net/click%253Bh%3Dv8/374a/3/0/%252a/h%253B155497372%253B0-0%253B0%253B20918044%253B4307-300/250%253B27937416/27955295/1%253B%253B%257Esscs%253D%253fhttp%3A//www.matichonbook.com/index.php%3Fmnuid%3D%26selmnu%3Dstart" quality=high wmode=opaque swLiveConnect=TRUE WIDTH="300" HEIGHT="250" bgcolor=# TYPE="application/x-shockwave-flash" AllowScriptAccess="never"></EMBED></OBJECT><NOSCRIPT></NOSCRIPT><NOSCRIPT></NOSCRIPT><!-- End ad tag -->





​

<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=125 align=center bgColor=#ffffff border=0><!--<tr> <td> <object classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 codebase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=7,0,0,0" width="125" height="250" align="absmiddle">




<embed src='../banner/banner_right/L1.swf' quality="high" wmode="transparent" bgcolor="#000000" width="125" height="250" align="middle" allowScriptAccess="sameDomain" type="application/x-shockwave-flash" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer"> </object > </td></tr><tr><td> </td></tr><tr> <td> <object classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 codebase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=7,0,0,0" width="125" height="125" align="absmiddle">




<embed src='../banner/banner_right/L2.swf' quality="high" wmode="transparent" bgcolor="#000000" width="125" height="125" align="middle" allowScriptAccess="sameDomain" type="application/x-shockwave-flash" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer"> </object > </td></tr><tr><td> </td></tr>--><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD> </TD></TR><!-- ลูกหิน--><TR><TD></TD></TR><TR><TD> </TD></TR><!--ลูกหิน --><!--<tr> <td> <object classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 codebase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=7,0,0,0" width="125" height="250" align="absmiddle">




<embed src='../banner/banner_right/L4.swf' quality="high" wmode="transparent" bgcolor="#000000" width="125" height="250" align="middle" allowScriptAccess="sameDomain" type="application/x-shockwave-flash" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer"> </object > </td></tr>--></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></P></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></P>

 

หย่อมความกดอากาศต่ำทางตะวันออกของฟิลิปปินส์
ตอนนี้ได้รวมตัวเป็นพายุดีเปรสชันอีกลูกแล้ว
ช่วงนี้ถ้าติดตามดูจะดาหน้ามาไม่หยุดเลย



http://agora.ex.nii.ac.jp/digital-typhoon/latest/globe/2048x2048/ir.jpg

 

ฟังหูไว้หูค่อยดูกันไป จะสนอะไรกับสิ่งที่ยังไม่เกิด สู้เราทำวันนี้ของเราให้ดีที่สุด

ข้อความดังกล่าวผมเคยอ่านผ่านตามาแล้ว เหมือนกับคัดลอกมาจากที่ไหนสักแห่งนะครับ

 

วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6512 ข่าวสดรายวัน


น้ำท่วมนา-ไร้หญ้ากิน ฝูงวัวลอยคอ

ตั้ง"บิ๊กจิ๋ว"ปธ.แก้ปัญหา เร่งช่วย8จว.ยังจมหนัก



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
วัวน้ำ - ฝูงวัวกว่า 30 ตัว ในต.บ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา หิวโซลอยคอว่ายน้ำออกหากิน เนื่องจากน้ำท่วมหนักนานกว่าสัปดาห์จนอาหารขาดแคลน เป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้พบเห็น เมื่อวันที่ 26 ก.ย.

</TD></TR></TBODY></TABLE>ครม.ตั้ง "บิ๊กจิ๋ว" นำทีมแก้ปัญหาน้ำท่วมทั่วประเทศ เมืองนนท์ประกาศ 34 ตำบล 5 อำเภอเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ทั้งที่น้ำยังไม่ท่วม ผู้ว่าฯอ้างเตรียมนำงบ 50 ล้านมาใช้ป้องกันก่อน จึงจำเป็นต้องประกาศ ส่วนที่อยุธยาน้ำท่วมนาแล้วกว่า 3 หมื่นไร่ ใน 10 อำเภอริมแม่น้ำ ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 6 พันหลังคาเรือน ฝูงวัวลอยคอข้ามไปกินหญ้าบนเกาะกลางนา เพราะไม่มีหญ้ากิน แถมฟางข้าวยังแพงด้วย สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด ส่วนอีก 8 จังหวัดยังมีน้ำท่วมขัง พร้อมเร่งสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 8 แห่งช่วยเหลือประชาชนกว่า 8 แสนคนแล้ว

เมื่อวันที่ 26 ก.ย. นายเชิดวิทย์ ฤทธิประศาสน์ ผู้ว่าฯนนทบุรี กล่าวว่า ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในพื้นที่ จ.นนทบุรี (อุทกภัย) รวม 34 ตำบล 5 อำเภอ คือ อ.เมือง ต.บางไผ่ ต.บางกร่าง ต.บางรักพัฒนา ต.ไทรม้า ต.บางศรีเมือง ,อ.ปากเกร็ด ต.บางตะไนย์ ต.บางพลับ ต.คลองข่อย ต.คลองพระอุดม ต.ท่าอิฐ ต.อ้อมเกร็ด ต.เกาะเกร็ด ,อ.บางกรวย ต.บางกรวย ต.วัดชลอ ต.มหาสวัสดิ์ ต.ปลายบาง ต.บางคูเวียง ต.ศาลากลาง ต.บางสีทอง ต.บางขนุน ต.บางขุนกอง ,อ.บางบัวทอง ต.บางบัวทอง ต.บางรักพัฒนา ต.บางรักใหญ่ ต.พิมลราช ต.บางคูรัด ต.ละหาร ต.ลำโพ ,อ.บางใหญ่ ต.บางใหญ่ ต.บางม่วง ต.บางแม่นาง ต.บางเลน ต.บ้านใหม่ และ ต.เสาธงหิน ยกเว้น อ.ไทรน้อย และพื้นที่ในเขตเทศบาลนครนนทบุรี และเขตเทศบาลนครปากเกร็ด

"การประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินครั้งนี้ เพื่อนำงบฉุกเฉิน 50 ล้านบาท มาใช้ในการป้องกันน้ำท่วม ถึงแม้ขณะนี้พื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมขังยังไม่มี แต่มีบางพื้นที่ประสบอุทกภัยในช่วงเวลาน้ำขึ้นเท่านั้น แต่เพื่อป้องกันไว้ก่อนจึงจำเป็นต้องประกาศ เพื่อจะได้ป้องกันน้ำท่วมได้เต็มที่ อย่างมีประสิทธิภาพ" นายเชิดวิทย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในเขตจ.พระนครศรีอยุธยาว่า ยังอยู่ในช่วงน่าวิตก เพราะน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรี ยังล้นตลิ่งท่วมชุมชนและบ้านเรือนเกือบทุกอำเภอที่มีชุมชนตั้งอยู่สองฝั่งแม่น้ำ โดยเฉพาะที่อ.เสนา ติดแม่น้ำน้อย น้ำได้ไหลเข้าทุ่งในเขตต.บ้านแพน และตำบลข้างเคียงจนนาข้าวเสียหายเกือบหมื่นไร่ สำหรับความเสียหายล่าสุด พบว่ามีพื้นที่ถูกน้ำท่วมทั้งจังหวัดกว่า 1 แสนไร่ แต่มีพื้นที่ทางการเกษตรเสียหายโดยสิ้นเชิงกว่า 30,000 ไร่ ประชาชนกว่า 6,000 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมใน 9 อำเภอ

นายสิงห์ทอง ศรีบุญนาค อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 6 ต.บ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เลี้ยงวัวกว่า 30 ตัว กล่าวว่า น้ำท่วมเดือนร้อนมาก เพราะพื้นที่กลางทุ่งที่เคยต้อนวัวไปเลี้ยงถูกน้ำท่วมทั้งหมด และไม่มีหญ้าให้วัวกินเหมือนแต่ก่อน หญ้าสดหายาก ฟางข้าวก็ราคาแพง ไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องต้อนวัวลุยน้ำไปหาหญ้าสดกินบริเวณเนินดินกลางทุ่งนา ที่น้ำไม่ท่วม บริเวณบ้านเลียบ หมู่ 4 ต.บ้านแพน เพราะที่ดอนกลางทุ่งที่รอดพ้นน้ำท่วมก็มีน้อย อยากให้หน่วยงานราชการนำฟางมาแจกบ้าง เพราะหากวัวลุยน้ำหากินหญ้าทุกวัน กลัวว่าจะเป็นโรคระบาด จำพวกโรคปากเท้าเปื่อย

นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมครม. เรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลจะดำเนินการมีด้วยกัน 3 เรื่อง 1 ในนั้นคือ การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ที่ประชุมครม.มีมติแต่งตั้งพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกฯ เป็นประธานคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการ

ด้านนายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรฯ กล่าวว่า มีหลายกระทรวงทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ที่ต้องมาร่วมกันทำงาน จะได้ไม่ทำงานซ้ำซ้อน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับหลังสถานการณ์น้ำลดลง และภาวะฉุกเฉินขอให้ดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง เบื้องต้นจะเป็นกระทรวงมหาดไทยให้การช่วยเหลือในเรื่องถุงยังชีพก่อน หลังน้ำลดก็จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงเกษตรฯในเรื่องของความเสียหาย ในพื้นที่เกษตรฯ ทั้งนี้หากบูรณาการแล้วทุกกระทรวงตัวเลขความเสียหายก็จะไม่แตกต่างกัน และจะสามารถดำเนินการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วขึ้นโดยใช้งบกลาง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้คุยเรื่องงบประมาณ

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุมครม.วันที่ 26 ก.ย. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุดเพื่อดูแล แก้ไข และฟื้นฟูปัญหาอุทกภัยทั่วประเทศ โดยมีพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยในส่วนของกระทรวงคมนาคม กำลังตรวจสอบความเสียหาย เพื่อหาแนวทางฟื้นฟูและซ่อมแซมปรับปรุงถนน และรางรถไฟต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัยหลังจากปริมาณน้ำลดลงแล้ว

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยที่จ.ลพบุรีว่า สภาพน้ำท่วมลดลงเรื่อยๆ ถ้าไม่มีพายุฝนเข้ามาอีกก็ไม่มีปัญหา แต่ยังต้องคอยเฝ้าติดตามจากกรมอุตุนิยมวิทยา นอกจากนี้ในการประชุมครม.นัดพิเศษมีมติตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยขึ้นมา 1 ชุด ซึ่งทุกฝ่ายจะมาร่วมมือกันช่วยเหลือประชาชน ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ โดยกรรมการชุดนี้จะเรียกประชุมในทันที เพราะขณะนี้มีปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่

ด้านนายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 24 จังหวัด 142 อำเภอ 752 ตำบล 4,465 หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต 14 ราย ราษฎรเดือดร้อน 282,554 ครัวเรือน 839,573 คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 8 หลัง เสียหายบางส่วน 1,887 หลัง สะพาน 38 แห่ง ถนน 951 สาย พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม 297,862 ไร่ ความเสียหายเบื้องต้น 114,957,778 บาท

ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด ส่วนอีก 8 จังหวัด ได้แก่ จ.พิษณุโลก ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา และปราจีนบุรี โดย พิษณุโลก ยังมีน้ำท่วมขัง ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองพิษณุโลก 4 ตำบล 18 หมู่บ้าน อ.วังทอง 7 ตำบล 36 หมู่บ้าน และอ.บางระกำ หากมีฝนตกต่อเนื่องอาจทำให้น้ำท่วมขยายวงกว้างออกไปอีก หากไม่มีฝนตกเพิ่มจะเข้าสู่ภาวะปกติใน 1 สัปดาห์ แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตรบางแห่ง

นายอนุชากล่าวต่อว่า ลพบุรี น้ำท่วมพื้นที่ 8 อำเภอ 65 ตำบล 530 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 125,747 คน 35,135 ครัวเรือน ยังมีน้ำท่วมใน 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองลพบุรี โคกสำโรง บ้านหมี่ หากไม่มีฝนตกเพิ่มคาดว่าอ.เมืองลพบุรี และโคกสำโรง จะเข้าสู่ภาวะปกติใน 3-4 วัน ส่วนบ้านหมี่ จะเข้าสู่ภาวะปกติใน 3-4 สัปดาห์ พระนครศรีอยุธยา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ติดริมแม่น้ำ 9 อำเภอ 63 ตำบล 244 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 9,942 ครัวเรือน 39,768 คน ได้แก่ อ.พระนครศรีอยุธยา ผักไห่ บางบาล เสนา บางไทร มหาราช นครหลวง บ้านแพรก และบางปะอิน

นายอนุชากล่าวว่า หนองบัวลำภูมีน้ำท่วม 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองหนองบัวลำภู นากลาง ศรีบุญเมือง ชัยภูมิมีน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ 15 ชุมชน และพื้นที่ริมฝั่งลำน้ำชี ในเขตต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า ระดับน้ำสูงประมาณ 0.50-0.80 เมตร ขอนแก่นฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองขอนแก่น ชนบท บ้านแฮด บ้านไผ่ นครราชสีมา เกิดฝนตกหนักท้ายเขื่อนลำตะคอง ทำให้น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองนครราชสีมา และเฉลิมพระเกียรติ ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติใน 1-2 วัน ปราจีนบุรียังมีน้ำท่วมขังใน 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองปราจีนบุรี กบินทร์บุรี ศรีมหาโพธิ ทางหลวงหมายเลข 33 ตอน พระปรง-บ้านแก้งกม.ที่ 1-2 ระดับน้ำสูง 1 เมตร ทำให้รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ จ.สุรินทร์ ยังมีน้ำท่วมทางหลวงหมายเลข 2124 ตอนสังขะ-บ้านจารย์ กม.ที่ 0-2 ระดับน้ำสูง 0.30 เมตร ทำให้รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้

นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้ให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 8 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ธพว.) ธนาคารอิสลาม ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (ธสน.) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.)เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากน้ำท่วมใน 29 จังหวัด จำนวน 839,000 คน ประมาณ 353 ล้านบาท

[FONT=Tahoma,]หน้า 1[/FONT]

ผมไม่รู้ว่าวัวมันเตรียมเป้ช่วยชีวิตไปด้วยปะ สงสัยมันไม่ได้อ่านพลังจิตนะ
ถ้าวัวมันมาอ่านพลังจิต มันต้องบอกว่านู๋เป็นโรคจิตแน่ๆๆ สงสัยผมต้องเตรียมเป้แล้วครับถ้าผมรู้สึกคุมเกมไม่ได้ผมจะซ้ำทันที่

 

*** เรื่องราวพระพุทธเจ้าตามโลกุตระธรรม ****

พระพุทธเจ้า ๒๕ พระองค์
สอนเหมือนกันหมด...เพราะ สัจจะธรรม หลักเดียวกัน
และ มีคำสอนที่เหมือนกัน....คือ สัจจะ นำการกระทำให้หลุดพ้นจากกิเลสนิสัย
เพื่อให้หลุดพ้นทุกข์ ...หลุดพ้นจากการเกิดใหม่

ความดีไม่ได้ทำกันง่ายๆ
สิ่งที่ไม่ดีทำไมถึงชอบทำ
- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ประมาท ไม่ประมาท อยู่ที่ใจตน ****

ภัยยังห่างตัว ...ใจเลยไม่เดือดร้อน
ใช้ชีวิตไม่ประมาท....ทำความดีด้วยสัจจะ ทุกวัน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** กรรม ****

กรรม ... มันกำลังวิ่งตามเรามา
พยายามปลูกความดีให้เป็นต้น .... เมื่อกรรมมาถึงต้น มันก็แวะที่ต้น
ตามไม่ทันเรา

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** อนาคต คือ กำลังใจ ****

ทุกท่าน...ที่ตั้งใจทำงาน ณ สถานที่นี้
เปรียบเป็น ...."ผู้บรรยาย"
ทำให้ผู้คนเห็นกรรม
ทำให้ผู้คนตาสว่าง

เมื่อถึงเวลา
มีรถไฟขบวนหนึ่งมารับ
ในขบวน... ทุกคันเป็น ตู้สินค้า ที่ว่างเปล่า
ตู้สุดท้าย....มีเบาะนั่ง ติดป้ายข้างตู้... "สำหรับผู้บรรยาย"

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สัจจะ คือ ผู้นำการกระทำ ****

การทำความดี การรักษาสัจจะ...คือ สิ่งที่ชาติต้องการ
วันนี้...เปิดทีวี เปิดวิทยุ ทั้งวัน...ได้ยินคำว่า "สัจจะ" ครั้งเดียว
เกือบทุกวัน.... ไม่ได้ยินคำว่า "สัจจะ" เลย !!!!

แล้ว ศีลธรรมจริยธรรม จะเกิดได้อย่างไร !!!
โอ้.......

- " หนุมาน ผู้นำสาร "