ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** เมขลาล่อแก้ว ****​

​

คือ ไปล่อสายฟ้าอาวุธร้าย มาเข้าแผ่นดินตนเอง
เมขลา ไม่รู้ว่าเขาหลอก เขาใช้
ให้มาทำลายตัวเอง ทำลายบ้านตัวเอง
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ช่วยไม่ได้ เพราะไม่เอาสัจจะ
กรรม จากตัวเราเองทั้งนั้น

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
วันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๒
​

<!-- / message -->

 

ผมขอเล่าความฝันของผมให้อ่านมั่งครับ คือฝันแต่ในฝันเต็มไปด้วยสติกำหนดรู้ได้ตอนนั้นเหมือนเร่งรีบจะไปไหนกับภรรยาตอนนั้นคิดจะขึ้นรถกับภรรยาแต่พอคิดรถก็ลอยมาเป็นรถยนต์ยุคปัจจุบันนี้แหละครับแต่ลอยมาจิตก็บอกเลย ว่า ออนี้อำนาจจิตพามาและใครๆก็มีกันแบบนั้นในเป็นปกติ ก็ บอกอีกว่า อ๋อนี้หรือยุคพระศรีอาริยะเมตตรัย ปกติน่ะและก็คิดว่าไอรถนี้มันจะวิ่งกลับหัวได้ตามใจนึกไหมมันก็วิ่งกลับหัวกลับหางตามคิดจิงๆโชว์ซะรอบ2รอบเลยตื่นแล้ว อ๋อ อีกทีทบทวนแล้วก็เก็บไว้ไม่บอกมีเพียงแต่ภรรยาเท่านั้นไม่ถามใครต่อนานแล้ว1อาทิตย์กว่าๆได้วันนี้เลยเอามาเพื่ออ่านเล่นครับ

 

ตอบได้ดีจังคะ ขออนุโมทนาบุญค่ะ

 

จริงไม่จริงไม่รู้แค่ไปเห็นเหตุการณ์ที่ต้องอุบัติขึ้น

ความฝันของเราเริ่มที่สนามหลวงถนนราชดำเนิน

สัญญาลักษณ์รัตนโกสินสมโภชย์กรุงเทพ 200 ปี

ตึกรามบ้านช่องห้องหับถนนจมอยู่ไต้น้ำทะเล

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ โชตนา
เมื่อวันเสาร์ที่แล้วพี่สาวไปเที่ยวที่หุบกระพง จ.เพชรบุรี แวะไปทำบุญวัดแถวนั้น พี่สาวบอกว่า วัดมีพระ 9 องค์ แต่มีศาลาใหญ่มากสร้างด้วยหินอ่อน 5 ชั้น ( 50 ล้านบาท) พี่สาวนึกในใจว่าทำไมท่านติดวัตถุอยู่ จึงถามท่านว่า ทำไมต้องสร้างวัดใหญ่มากๆขนาดนี้ ท่านว่า มีเทวดามาเข้าฝันหลายครั้ง ว่า ต่อไปที่วัดนี้จะต้องรับคนจำนวนมาก ให้สร้างศาลาใหญ่และมั่นคงไว้รองรับ ท่านว่าเหนื่อยดูแลเหมือนกันต้องให้แม่ชีช่วยกวดถูทำความสะอาด
</TD></TR></TBODY></TABLE>
แค่สงสัย...

ถาม ว่า พระอาจารย์ที่วัด อาจจะใด้ นิมิต มาจากเทพ เทวตานุสติ คือการสร้างสถานที่ควร รองรับเมื่อเกิดภัยพิบัติ จึงมีการสร้างศาลา ที่ใหญ่ และสามารถ จุคน ที่จะมาพึ่งใบบุญ กับทางวัดใด้ น่ะครับ

ท่านเชื่อไหม ในอนาคตกาล จะเกิดภัยพิบัต
ท่านเคยดู สาระคดี ที่ออกรายการ ทาง discovery ไหม ที่ มีการถ่ายทำสาระคดี
พบชิ้นส่วน เรือ ลำใหญ่ มากๆๆๆๆ บนเนินเขา หิมาลัย

ถาม ท่าน ว่า
เรือนั้น ไปตั้งที่เนินเขา หิมาลัยได้ อย่างไร

ถามท่านว่า ความร้อนในขณะนี้ ร้อนมากจนทำใหเน้แข็งขั้วโลกละลาย ตามที่เป็นข่าว เมื่อน้ำแข็งละลาย จำนวน น้ำ จะยิ่งมาก แล้ว แผ่นดิน ที่เรา ท่านๆ อาศัย อยู่นี้ จะโดน น้ำ มาแทนที่ไหม

ท่านเตรียมความ พร้อมเพียงใด ในการ เตรียมการ เพื่อ วันที่ เกิด ภัยพิบัติ
7*7 = 49

ให้เรา นึกถึง ว่า
พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ ศีลานุสติ เทวตานุสติ จาคนุสติ ฯลฯ

 

เล่าสู่กันฟัง

เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมาพาแฟนไปสวดยันต์เกราะเพชรที่วัดมา

ตอนสวดอยู่แฟนเล่าให้ฟังว่าใช้มโนยิทธิขึ้นไปไหว้พระจุฬามณีแล้วขึ้นไปไหว้

พระพุทธเจ้า พอขากลับมาเจอกับ เมขลา ท่านถามว่ามาทำอะไร แฟนก็ตอบไปว่า

วันนี้มาวัดกำลังสวดยันต์เกราะเพชรอยู่ นั่งข้างล่างมันเมื่อยเลยขึ้นมาข้างบน

เมขลา ก็ยิ้ม แต่แฟนบอกว่ายังไม่ทันได้ถามอะไรเลย จบพิธีสวดซะก่อนหลวงพ่อ

พรมน้ำมนต์ถูกตัวพอดีเลยลงมาแว๊ปเลย

 

ได้กราบพระอาจารย์ใหญ่ วัดแจ้งเมืองเก่า ปราจีนบุรี เมื่อพย. ๕๐ เพื่อนิมนต์ท่านเป็นวิทยากรงานสัมมนาพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ ๑

ท่านได้สนทนากับคุณคณานันท์อยู่นาน
ท่านกล่าวถึงหลวงปู่เทพโลกอุดร ว่าสั่งให้ท่านซื้อเรือไม้ลำละประมาณ ๑๐๐๐๐ บาท
ตัวท่านเองก็ได้เห็น ว่าน้ำท่วมกรุงเทพ เห็นแต่ยอดตึกใบหยกปริ่มๆ น้ำ (ไอ๊หยา)
สุดท้ายท่านบอกว่า "ถ้าพระแก้วฯ ย้ายเมืองก็ต้องไปกันนะ ถ้าไม่ไปก็จะตายหมด" เพราะถ้าท่วมกรุงเทพฯ จะไม่ลดเหมือนที่เคยเป็นมา

ฟัง ฟัง ฟัง ใช้ปัญญา แต่ให้อยู่กับปัจจุบัน
ไม่เชื่อไม่ว่า แต่กรุณาอย่ากล่าวปรามาส มิจฉาวาจาไม่เป็นกุศลกรรมแก่ใครทั้งสิ้น

เมืองหลวงแต่ละเมืองมีอายุตามดวงเมืองที่ผูกไว้
ของกทม. เขาวางไว้ให้ ๑๕๐ ปีเท่านั้น ต่ออายุกันมาเยอะแล้ว ไม่รู้ต่อได้อีกเท่าไหร่
ดูข่าวสิ่งแวดล้อมโลกก็ได้ ว่าอีกสามสิบปีกทม. ซานฟรานซิสโก นิวยอร์ค ฯลฯ จะจมน้ำ
จะว่าไปแล้วคนไทยโชคดี มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง มีผู้ปฏิบัติธรรมขั้นสูงทั้งเตือนสติ ชี้ทางให้ปฏิบัติธรรมยกระดับจิต และผ่อนหนักให้เป็นเบาหลายต่อหลายครั้งแล้ว
แต่ครั้งนี้เป็นกรรมของสัตว์โลก มิสามารถลบล้างได้ ช่วยได้เพียงชลอหรือผ่อนปรนเล็กน้อย
มนุษย์เลยได้ใจ ยังความประมาทกันต่อไป

ขอกราบอนุโมทนาบุญทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตกับท่านเหล่านั้นทุกพระองค์ ทุกท่านค่ะ

:z10

 

สงครามโลกครั้งที่ 3


<CENTER> </CENTER>สงครามล้างโลก

โลกจะเกิดภัยพิบัติด้วยน้ำมือของเหล่ามวลมนุษย์ ทุกชีวิตจะล้มตาย ส่วนที่เหลือ จะได้รับความลำบากทุกข์ยาก อย่างแสนเข็น ขาดแคลนทั้งเสบียง อาหาร น้ำดื่ม มนุษย์จะฆ่ากันเอง จงจัดเตรียมเสบียง อาหารน้ำดื่มไว้ให้พร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ ที่เกิดขึ้น

สงครามจะเริ่มก่อตัวขึ้นแถว อเมริกาเหนือ จะลามออกมาทางฝั่งตะวันออก จะมีสามผ่ายหลักใหญ่ ได้แก่ อเมริกา จีน อินเดีย เพื่อแย่งชิง อำนาจเหนืออธิปไตรประเทศอื่น สงครามจะดำเนินต่อเนื่อง 7 เดือน ถึง 1 ปี 6 เดือน และจบลงด้วยระเบิดนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สามารถล้มล้างประเทศใด ประเทศหนึ่ง ให้หายออกไปจากโลกใบนี้ได้

อเมริกา ล่มสลายประเทศต่างๆก็ได้รับบาดเจ็บ บอบช้ำไปตามๆกัน คนที่ตายก็ตายไป ส่วนคนที่อยู่จะได้รับความทุกข์ยากลำบาก แต่ผลที่ตามมานั้นร้ายแรงกว่าที่คิด ประชาชนต้องบ้านแตกสาแหรกขาด พลัดพรากจากครอบครัวแหล่งน้ำตามธรรมชาติจะใช้ไม่ได้เพราะเจือปนด้วยสารเคมี ข้าวจะหายาก หมากจะราคาแพง ต้องดิ้นรนสุดชีวิต โจรผู้ร้ายก็ชุกชุมเพราะความอดอยาก โรคระบาดจะคอยซ้ำเติม ช่วงเวลาที่ทรมานอย่างนรกนี้จะกินเวลาประมาณ 5 ปี จึงจะค่อยเริ่มฟื้นตัว เทคโนโลยีที่มีอยู่จะได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว สันติภาพจะเกิดขึ้น

สาเหตุของสงคราม

ตามที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสงครามมิใช่สิ่งที่ดีนอกจากการสูญเสียกำลังทรัพย์ สินเงินทอง เลือดเนื้อ ชีวิต นับพันนับหมื่นคน แต่ทำไมคนเราถึงยังก่อสงครามกันอยู่ได้ เนื่องมาจากความโลภโมโทสัน อยากมีอยากได้ นี้เป็นสาเหตุหลัก สงครามมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะความอยากได้ในสิ่งที่ตนไม่มี ไม่พอใจในสิ่งที่ตนมี มีการยกทัพเพื่อแย่งชิงดินแดนอาณาเขตเพื่อขยายอาณาจักรของตนเอง ถ้าอีกฝ่ายยอมก็ไม่มีการเกิดสงครามแต่ต้องยอมอยู่ภายใต้อำนาจกดขี่ข่มแหงของผู้อื่น ซึ่งการยอมอยู่ใต้ผู้อื่นย่อมไม่มีทางที่จะยอมได้ง่ายๆ

สาเหตุหลักของการเกิดสงคราม โลกครั้งที่ 3 เนื่องจากสาเหตุขัดประโยชน์กันเอง ไม่มีใครยอมใครต่างถือว่าตนใหญ่จะเอาให้ได้ ไม่ได้ไม่ยอม จากเรื่องระหว่าง สองประเทศจะลามไปเรื่อยๆเหมือนไฟลามทุ่ง คือ ขยายวงกว้างออกไปอย่างรวดเร็วๆ ครอบคลุมโลกใบนี้

ผลกระทบระดับโลก

พื้นที่หลายส่วนจะถูกลบทิ้งออกจากแผนที่โลก บางแห่งอาจจะหายไปทั้งประชากรและแผ่นดิน สิ่งที่ไม่น่าเกิดก็จะเกิดขึ้น รวมถึงภัยพิบัติต่างๆตามธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

จำนวนประชากรโลกจะถูกลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น แผนที่โลกจะมีการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ ในขณะที่สัตว์ชนิดต่างๆพยายามปรับตัวให้เข้ากับสภาวะเลวร้าย จะเกิดเหตุการณ์คนกินคน สัตว์กินคน เพราะความหิว กระหาย

สารเคมีพวกกัมมันตภาพรังสี ที่แพร่ไปทั่วโลก จะมีผลทำให้มนุษย์ เป็นโรคผิวหนัง อย่างรุนแรง ต้นไม้จะเ *** ่ยวเฉาเพราะปรับสภาพไม่ทัน เสียงคนที่ได้รับความทุกข์ทรมานจะมีอยู่ทั่วไปหมด คนพิการจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นคนที่แขนขาสมบูรณ์น้อยลง

ช่วงก่อนสงคราม

ช่วงก่อนที่จะเกิดสงครามอาหารการกินทั่วโลกจะอุดมสมบูรณ์ แม้ว่าราคาสินค้าอาจจะแพงอยู่บ้างแต่สามารถหาซื้อหากินได้โดยทั่วไปแล้ว ประชาชนจะอยู่ดีมีความสุข ไม่นึกถึงภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้นจึงไม่มีการกักตุนสินค้า

ข้าวสาร อาหารแห้ง เกลือ และ น้ำ เป็นสิ่งจำเป็นและต้องเตรียมสำรองในปริมาณที่มากและเพียงพอในถาวะวิกฤตช่วงต้นของสงคราม ราคาสินค้าอาหารจะทยอยเริ่มขึ้นราคา คนที่พอมีเงินจะสามารถซื้อ ข้าวปลาอาหารไว้ได้อย่างเพียงพอ คนที่ไม่มีเงินทองก็จะอดตาย ถือเป็นการล้างโลกทางอ้อมอีกทางหนึ่ง

สงครามจะเริ่มจากฝั่งตะวันตกและจะลามมาทางตะวันออก รวมถึงประเทศไทย ในช่วงสงครามเริ่มก่อตัวประชาชนทั่วไปจะไม่ค่อยรู้สึกสักเท่าไหร่ เพราะจะเป็นเหมือนสงครามปรกติ ที่เกิดขึ้นทั่วไป แต่สินค้าทางการเกษตรจะมีราคาสูงขึ้น เนื่องจาก สภาวะสงคราม

ช่วงต้นและกลางของสงคราม

ช่วงแรกสงครามจะเริ่มก่อตัวขึ้นบริเวณแถบยุโรบอเมริกา ช่วงแรกจะจำกัดพื้นที่ในบริเวณนั้นประมาณ 5 เดือน ในช่วงนี้จะมีการหาสมัครพรรคพวกและอาศัยประเทศข้างเคียงเป็นสนามรบ ประชาชนแถบยุโรบ จะเดือนร้อนกันไปทั่ว ประเทศไทยยังไม่มีที่ท่าที่แน่นอนยังแค่ประกาศให้ความช่วยเหลือทั้งสองผ่าย ต่างคนต่างต้องการให้สงครามสงบโดยเร็ว แต่ประเทศมหาอำนาจไม่ยอมให้สงบเร็วเนื่องจาก กลัวว่าจะเจอภัยทั้งทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ซึ้งหมายถึงจะหมดอำนาจที่จะครองโลก

 

รัฐบาลไทย กำลังทำให้ประเทสไทยเป็นครัวของโลก

 

ใครทำแผ่นดินไทยให้สะทกสะท้าน ฯ

จากนิตรสาร TIME , APRIL 2002 page 18,19,20

การจะสร้างรัฐ Daulah Islamiah Raya ต้องประกอบด้วยพื้นที่ส่วนหนึ่งของประเทศไทย จึงมีการดำเนินแผนการต่างๆ เรื่อยมาจนถึงปัจุบันและคาดว่าจะสำเร็จในเวลาอีกไม่นาน

1) การที่จะเข้ายึดครองประเทศไทยได้นั้น ไม่สามารถใช้กำลังทางทหารบุกยึดเอาได้อีกต่อไป (เมื่อตอนปี 2002)

2) ประเทศไทย มีความเป็นหนึ่งเดียว คนในชาติสามัคคีกันมากและเศรษฐกิจเริ่มเข้มแข็ง (เมื่อตอนปี 2002)

แผนการณ์จึงต้อง ทำลายผู้นำ แยกประชาชน เปลี่ยนการปกครอง การเติบโตของไทยที่เขารับไม่ได้คือ

1 ไทยเปิดสนามบิน สุวรรณภูมิ เป็น พอร์ทการค้าทางอากาศ

2 ไทยมีโครงการ เชื่อมเส้นทางทางทะเล ที่จังหวัดประจวบ เป็นพอร์ทการค้าทางทะเล ซึ่งเรือเดินสมุทร จะเข้ามาทางอันดามัน ออกอ่าวไทย โดยไม่อ้อมผ่าน ช่องแคบที่ประเทศมาเลเซียอีกเลย (เขาเสียผลประโยชน์มาก กว่าไทยเปิดสุวรรณภูมิ หลายร้อยเท่า)

การชลอการเจริญเติบโตของไทย และยึดประเทศจึงทำตามขั้นตอน

1. กำจัดผู้นำที่เข้มแข็ง ด้วยทุกวิถีทางที่จะทำได้ เพราะเมื่อขาดผู้นำที่เข้มแข็ง หัวลากไม่มี การพัฒนาจะหยุดลงเกือบทันที

2. สร้างความไม่ปลอดภัยขึ้นในภาคใต้ ทำให้โครงการเชื่อม สองฝั่งทะเลไทย หยุดลงทันที ตอนนี้เขาไม่เสียผลประโยชน์แล้ว

3 แทรกแทรงการปกครอง เข้าควบคุมและเปลี่ยนแปลงเต็มรูปแบบ

3.1 แบ่งแยกประชาชน ให้ตีกันโดยถือเอา เป้าหมายหลอกเป็นสำคัญ
3.2 เมื่อแยกประชาชนได้แล้ว ก็ใช้กำลังประชาชนที่ได้มา เข้าบั่นทอน แทรกแทรงอำนาจรัฐทุกรูปแบบ บริหาร ตุลาการ นิติบัญญัติ
3.2 เปลี่ยนการปกครองในแบบที่กำหนด วางรูปแบบลักษณะใหม่ เช่น
70/30 เป็นต้น ซึ่งจะต้องเป็นรูปแบบที่ เสียงประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีความหมาย ไม่เอาการเลือกตั้ง ไม่เอาเสียงประชาชน คนไทยส่วนใหญ่ของประเทศไม่สามารถมีรูปแบบการปกครองตนเองได้
3.3 แยกเอาสามจังหวัดภาคใต้ เป็นรัฐอิสระปกครองตนเอง เพื่อเป็นฐานรุกคืบเข้า สู่จังหวัดอื่นๆในภาคใต้ต่อไป

เล่าความแบบย่อๆ สั้นๆจะได้รู้ว่า ที่จริงคนไทยถูกเสี้ยมให้ตีกัน เพื่ออะไร เป้าหมายจริงคืออะไร เป้าหมายหลอกคืออะไร ของแบบนี้เขาต้องดำเนินการกันนานๆ เป็นสิบปี

หาข้อมูล Daulah Islamiah Raya เพิ่มเติมได้จาก Google จะมีข้อมูลมากมาย รู้แล้วบอกเพื่อน ๆ พี่น้องไทยทุกคน

........... สามัคคีคือพลัง ชาติไทย จะ อยู่ยั้งยืนยง!!!!

........... ความเกลียดชัง ชิงชังจะปิดบังตา มองไม่เห็น กลลวงของเขา

........... แผ่นดินเดียวกัน คนไทยด้วยกัน ต้องช่วยกัน รักกัน แล้วไทยจะอยู่เป็นไทย ไม่สูญสิ้นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง !!!

วชิรธรรมสาธิต 28/02/2552 (2:51 pm)

ที่มา http://www.navagaprom.com/oldsite/#

 

ผมต้องขอโทษด้วยที่จำเป็นต้องเอาเรื่อง ประเด็นร้อนทางการเมืองมาโพสต์ในกระทู้นี้ เพราะผมเห็นว่าในขณะนี้ เป็นช่วงเวลาที่จำเป็นแล้วจริงๆ

**************************************
บทละคร...ฉากสุดท้าย ในละครฉากใหญ่
**************************************

แผนกลยุทธ์ทำลายความมั่นคง

๑. เริ่ม แบ่งแยกความคิดในสังคม เป็นสองฝ่าย ด้วยการเปิดตัวแกนนำแต่ละฝ่ายอย่างชัดเจน
๒. สร้างกระแส ให้ประชาชนสนใจ และติดตาม ทางสื่อต่างๆ ทุกสื่ออย่างต่อเนื่อง
๓. สร้างสถานการณ์ความขัดแย้ง ด้านความคิดให้รุนแรง
๔. ตรวจสอบกระแสสังคม ว่ามีจำนวนประชาชนติดตามเพียงพอต่อการสร้างสถานการณ์ก่อม็อบหรือไม่
๕. ปลุกกระแส ให้ประชาชนของแต่ละฝ่าย ลุกขึ้นต่อสู้
๖. จัดฉากให้มีการรวมตัว ของประชาชน ในที่สาธารณะ หลายๆ ครั้ง เพื่อขยายความแตกแยกทางความคิด ในประเทศ และเพื่อตรวจสอบจำนวนประชากรที่เข้าข้างในแต่ละฝ่าย
๗. เมื่อมีประชาชนที่สนับสนุนในแต่ฝ่ายจำนวนมากพอ ให้จัดสถานการณ์ที่มีการชนม็อบ เกิดขึ้น เพื่อประเมินค่าความแตกแยกของประชาชน
๘. เมื่อ สถานการณ์สุกงอม มีประชาชนที่พร้อมมารวมตัวจำนวนมากพอ ให้ จัดฉากสถานการณ์การรวมตัว ของประชาชนที่เข้าข้างแต่ละฝ่าย ในเขตกรุงเทพมหานคร
๙. ปลุกกระแสการรวมตัว ของประชาชนตามสื่อต่าง ๆ และชักชวนประชาชนให้ออกจากบ้านมาสนับสนุน โดยใช้แกนนำแต่ละฝ่ายสร้างกระแสตอบโต้ทางวาจาที่รุนแรงก้าวร้าว และ ยั่วยุ ให้ประชาชนมี อารมณ์โกรธแค้นมากขึ้น
๑๐. สั่งให้ ตำรวจและทหาร เตรียมพร้อม
๑๑. จัดม็อบประชาชนจำนวนมหาศาล ด้วยการจ้างชาวบ้านยากจนในชนบทตามต่างจังหวัด เข้ามาสมทบเพิ่มปริมาณคนให้มากที่สุด ยิ่งมากยิ่งได้ผลดี ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง
๑๒. เมื่อประชาชนมากเพียงพอ ให้ เริ่มปลุกปั่นอารมณ์ ของประชาชนให้โกรธแค้น แล้วให้แสดงเพิ่มความรุนแรงป่าเถื่อนใช้กำลัง ผลักดันให้ประชาชน กระทบกระทั่งทุบตี กันเอง พร้อมกับ ทำให้เกิดความวุ่นวายโกลาหลมากที่สุด
๑๓. เมื่อตำรวจคุมสถานการณ์ไม่ได้ ให้ใช้กำลังทหารเข้าคุมพื้นที่
๑๔. ก่อสถานการณ์ ให้ทหารเริ่มใช้อาวุธหนัก และ แทรกแซงด้วยวิธีรุนแรง ไปทั่วพื้นที่
๑๕. ในช่วงเหตุการณ์สับสนวุ่นวาย ให้เข้า ทำลายสิ่งที่ขัดขวางยุทธศาสตร์ ให้หมดสิ้น
๑๖. ฝ่ายผู้นำ จะโดดเข้าเป็นพระเอก แสดงความสามารถ จนยุติเหตุการณ์ได้
๑๗. สร้างกระแส ในตัวผู้นำไป ทั่วโลก
๑๘. แสดงความเสียใจต่อ การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศ
๑๙. ดำเนินการเพื่อไปสู่ยุทธศาสตร์ที่เหลือ
๒๐. ฉลองความสำเร็จ กันลับ ๆ
๒๑. จ่ายค่าจ้างให้นักแสดงของแต่ละฝ่าย
๒๒. แยกย้ายหลบหายไปจากสังคม
๒๓. ผู้นำจะ สถาปนาทีมงานบ้านเมือง ยุคใหม่

หมายเหตุ

๑. ระหว่างนี้ หากผู้ใดเพลี่ยงพล้ำ ให้แสดงไปตามบทก่อน แล้วจะจัดม็อบประชาชนไปให้กำลังใจ เพื่อให้เกิดภาพว่ามีประชาชนสนับสนุนจำนวนมาก และเป็นฝ่ายไม่ผิด
๒. หยุดดำเนินการชั่วขณะ ตามสถานการณ์บ้านเมือง เพื่อป้องกันประชาชนสังเกตหรือจับผิดได้ง่าย

คนรักชาติ ตั้งใจดี....ระวังถูกหลอก !!!

โดย : หนุมาน ผู้นำสาร
วันที่ : 18/09/2006 13:57:47

ที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้าhttp://www.naewna.com/viewtopic.asp?KID=1020&RID=1

 

ภาพในนิมิต​

 

พบเด็กอิเหนาเป็นทูตสวรรค์รักษาโรค หลังถูกฟ้าผ่า ก้อนหินโผล่ในมือ
บทความนี้เขียนโดย supernova, โพสต์เมื่อ <ABBR class=published title=2009-03-04T18:04:51+0700>04/03/2009 at 18:04</ABBR>, ในหมวด ข่าวเด่นประจำวัน และ ทูตสวรรค์, ฟ้าผ่า, รักษาโรค, เด็กอิเหนา. เก็บกระทู้นี้ได้ที่ ลิ้งค์นี้. ติดตามความคิดเห็นในบทความนี้ ด้วยระบบ RSS feed. แสดงความคิดเห็น หรือทิ้งแทร็กแบค: Trackback URL.

ตะลึง พบเด็กมหัศจรรย์ถูกบันดาลให้รักษาโรคผู้คนได้ หลังถูกฟ้าผ่า เผยผู้คนนับพันแห่เข้าคิว ศรัทธาให้ช่วยรักษาอาการป่วย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 4 มี.ค.ว่า เกิดเหตุเด็กชายโมฮัมเหม็ด โปนารี วัย 9 ปี ในหมู่บ้านยากจนแห่งหนึ่งบนเกาะชวาตะวันออก ประเทศอินโดนีเซีย ได้กลายเป็นเด็กมหัศจรรย์สามารถรักษาคนป่วยได้ จนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วเกาะอินโดนีเซีย ทำให้เกิดปรากฎการณ์ผู้คนหลายพันแห่เดินทางมาให้เขารักษาโรค ความสามารถประหลาดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่โปนารีกำลังเล่นในทุ่งนา ก่อนที่เขาจะถูกฟ้าผ่า แต่ปรากฎว่าร่างกายไม่เป็นอะไร แต่กลับมีก้อนหินขนาดเท่าไข่เข้ามาอยู่ในมือ และครอบครัวของเขาเชื่อว่า เหตุการณ์ดังกล่าวบันดาลให้เขามีอำนาจพิเศษ ซึ่งในเวลาต่อมา โปนารีได้มีโอกาสรักษาผู้ป่วยคนแรก โดยเขานำหินใส่แก้วน้ำ และให้เด็กป่วยดื่มกิน ก่อนอาการป่วยจะหายเป็นปลิดทิ้ง ตามด้วยหญิงชาวบ้านอีกราย วัย 30 ปี เดินทางมาให้เขารักษาอาการโรคหดหู่ที่เป็นมานานกว่า 15 ปี ซึ่งก็หายจากอาการป่วยดังกล่าวเช่นกัน
ขณะที่นายนิลา เร็ตโน ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า ปาฎิหารย์รักษาโรคทั้งอาการเล็กน้อยและใหญ่โต บังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับแต่นั้น แม้แต่ตัวเธอซึ่งมีอาการเคล็๋ดที่มือ พอแตะหินดังกล่าวและนำน้ำมาลูบทาที่แขน ปรากฎว่า แขนเธอหายเคล็ดทันที ส่วนตำรวจรายหนึ่งเผยด้วยว่า เด็กชายโปนารี สามารถรักษาเด็กชายรายหนึ่งที่ไม่ยอมพูดมากว่า 5 ปี โดยหลังจากเขย่าร่าง ปรากฎว่าเด็กชายดังกล่าวได้เริ่มพูดออกมาได้
เรื่องราวความมหัศจรรย์ในการรักษาโรคของเด็กชายอิเหนาผู้นี้ได้แพร่สะบัดออก ไป ทำให้ชาวบ้านหลายร้อยคนเข้าคิวนอกบ้านเขาเพื่อให้โปนารีช่วยรักษาอาการเจ็บ ป่วย และอีกสัปดาห์ต่อมา ผู้คนเพิ่มขึ้นเป็นหลายพันคน โดยเดินทางมาจากหมู่บ้านต่าง ๆ โดยต่างนำถุงพลาสสิกใส่น้ำเพื่อให้โปนารีนำหินไปแช่ เพื่อให้พวกเขาดื่มกินหายจากโรค แต่ก็เกิดเหตุผู้คนเหยียบกันถึง 3 ครั้ง ทำให้มีคนเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีกรายสิบคน ทำให้ตำรวจได้สั่งให้นำร่างของเด็กชายโปนารีไปซ่อนยังสถานที่ไม่เปิดเผย หลังเกิดเหตุวุ่นวายดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า จากความสามารถในรักษาโรคของด.ช.โปนารี ทำให้มีการตั้งมูลนิธิหาเงินนอกบ้านเขา แต่ปรากฎว่าโปนารีเกิดอาการร่างกายเป็นรอยเหมือนถูกเฆี่ยน ซึ่งเขาบอกว่าเขาอาจถูกหินลงโทษที่รับเงินรักษาโรคจากผู้คน
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก มติชนออนไลน์

 

สองขั้วมหาอำนาจจะรบขั้นแตกหัก

พลังจิตสายขาว
กับสายจิตดำพันตู
กันอยู่ อีกไม่นาน
สายดำจะราบเป็นหน้า
กลอง

 

ระบุได้ไมครับว่าจะเกิดช่วงปีไหนช่วงเวลาไดอยากทราบมากครับ
สงครามโลกครั้งที่ 3
ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่าง

 

หมอกควันเชียงราย-ลำพูนยังวิกฤติ ยอดคนป่วยพุ่ง​

​

เชียงราย, ลำพูน 5 มี.ค. - หมอกควันที่ปกคลุม จ.เชียงราย และลำพูน นานกว่า 2 สัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเป็นจำนวนมาก

สถานการณ์หมอกควันที่ปกคลุม จ.เชียงราย เข้าสู่จุดวิกฤติอีกครั้ง ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กยังคงสูงกว่าค่ามาตรฐานอย่างมาก และชาวบ้านป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ เข้ารักษาตัวกระจายตามโรงพยาบาลหลายแห่งทั่ว จ.เชียงราย โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นวันละกว่า 800 คน

ด้าน นพ.สุระ คุณคงคาพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สาย เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจเข้ารักษาตัวสูงถึงวันละ 200 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็ก

เช่นเดียวกับที่ จ.ลำพูน หมอกควันยังคงปกคลุมทั่วบริเวณ แต่ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กลดลงต่ำกว่าค่ามาตรฐาน และยังมีผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจเข้ารักษาตัววันละกว่า 300 คน ขณะที่ทางจังหวัดสั่งการให้นายอำเภอ และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควบคุมการลักลอบเผาป่า. - สำนักข่าวไทย

2009-03-05 05:18:32

ไฟเผาป่าพรุสุราษฎร์ฯ ยังดับไม่ได้​

​

สุราษฎร์ธานี 4 มี.ค.- นายสมบัติ ขำปาน รักษาการกำนันตำบลเคียนซา อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยถึงปัญหาไฟไหม้ป่าพรุชุ่มน้ำในพื้นที่ราชพัสดุแปลงสงวนบ่อถ่านศิลา หลัก กม.ที่ 83 ม.2 ต.เคียนซา ตั้งแต่เย็นวานนี้ (3 มี.ค.) ว่า

เจ้าหน้าที่พยายามดับไฟมาเป็นเวลา 24 ชั่วโมงแล้ว ล่าสุด ยังไม่สามารถควบคุมไว้ได้ เพราะพื้นที่เป็นป่าชุ่มน้ำ และมีการสะสมของเชื้อเพลิงใบไม้หญ้าแห้ง โดยไฟลุกลามเผาพื้นที่ป่าไปกว่า 200 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมด 1,200 ไร่ ถ้าไม่มีฝนตกลงช่วย คาดว่าพื้นที่จะเสียหายทั้งหมด ซึ่งป่าแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์มาก ต้นไม้ขึ้นอยู่หนาแน่น เป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งขยายพันธ์ของสัตว์น้ำและสัตว์บกหลายชนิด.- สำนักข่าวไทย

2009-03-04 16:58:39

โจรใต้ยิงถล่ม อส.ปัตตานีดับ​

​

ปัตตานี 5 มี.ค. - คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มอาสารักษาดินแดน จ.ปัตตานี เสียชีวิต

ตำรวจภูธรเมืองปัตตานี ตรวจศพนายหมู่เอก มะรีเป็ง กรูแบ สังกัดกองร้อยอาสารักษาดินแดน จ.ปัตตานี หลังถูกคนร้ายยิงถล่มด้วยปืนอาก้า และอาวุธปืนขนาด 9 มม. เสียชีวิต บริเวณถนนเข้าหมู่บ้านแบรอจารัง ต.ตะลุโบะ อ.เมือง

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ไปรับลูก ซึ่งเรียนศาสนาอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร เมื่อถึงบริเวณเกิดเหตุ ซึ่งเป็นที่มืด คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงถล่ม จนนายหมู่เอกมะรีเป็ง เสียชีวิตทันที ก่อนหลบหนีไป ส่วนสาเหตุเชื่อว่าเกิดจากการสร้างสถานการณ์. - สำนักข่าวไทย

2009-03-05 01:05:24

เชียงรายยึดเฮโรอีน 60 แท่ง ลำเลียงจากชายแดน​

​

เชียงราย 4 มี.ค.- เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (4 มี.ค.) กำลังทหารพรานและชุดเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง พร้อมตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.เชียงราย จับกุมนายเลาสู แซ่เห้อ อายุ 57 ปี ชาวเขาเผ่าม้ง ขณะขับรถกระบะ ทะเบียน บย 7577 เชียงราย มาถึงด่านตรวจบ้านกิ่วกาญจน์ ถนนสายเชียงแสน-เชียงของ ต.ริมโขง อ.เชียงของ พร้อมของกลางเฮโรอีน 60 แท่ง น้ำหนักรวม 21 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ใต้กระบะท้ายรถ

นายเลาสู สารภาพว่า นำเฮโรอีนทั้งหมดมาจากชายแดนไทย-พม่า บ้านม้งเก้าหลัง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เพื่อไปส่งให้ลูกค้าอีกอำเภอหนึ่ง ก่อนส่งออกนอกประเทศ เจ้าหน้าที่จึงคุมไว้ดำเนินคดีและขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการ.- สำนักข่าวไทย

2009-03-04 18:02:17

ลำปางร้อนระอุสูงสุดเหนือตอนบนเกือบ 40 องศาฯ ​

​

ลำปาง 4 มี.ค.- นายทิวา พันธ์ไม้สี หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง รายงานสภาพอากาศทั่วไปในพื้นที่วันนี้ (4 มี.ค.) ว่า สถานการณ์หมอกควันไฟที่ปกคลุมพื้นที่เริ่มเบาบางแล้ว สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษข้างศาลหลักเมืองลำปาง วัดค่าฝุ่นละอองได้ 122 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินมาตรฐานเล็กน้อย

ส่วนที่สำนักงานการประปาแม่เมาะ วัดได้ 84.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่สถานีอนามัยสบป๊าด อ.แม่เมาะ วัดได้ 87.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่าอากาศจังหวัดลำปางดีขึ้นมาก เพราะไม่มีหมอกควันไฟปกคลุมหนาแน่น ซึ่งเป็นเช่นนี้มา 2

 

วิมุตติญาณทัสสนะ

รู้ว่าเกิดแน่นอนล้าน%

แต่นักทำนายที่ฉลาดไม่นิยมระบุวันเดือนปี รู้แต่ว่าไม่สามารถเลื่อนภัยพิบัติไปได้อีกต่อไป ธรรมะกับภัยพิบัติมาด้วยกัน

นิมิตมาเตือนบ่อยมากเกี่ยวกับ สงครามโลกครั้งที่ 3
ไฟสงครามเริ่มจาก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ลุกลามมาถึงประเทศไทย

นิมิตที่เกิดขึ้นขณะนั่งสมาธิมีอยู่ ๒ ประการ คือ ๑ .เกิดขึ้นเพราะเทพบันดาล คือเทวดาหรือพรหมแสดงภาพนิมิตและเสียงให้รู้เห็น ๒.นิมิตเกิดขึ้นเพราะอำนาจสมาธิเอง​

นิมิตจะเป็นประเภทใดก็ตามขอให้ผู้เจริญกรรมฐานจงเป็นผู้ใช้สติปัญญาให้รู้เท่าทันนิมิตที่เกิดขึ้นนั้นด้วยปัญญาอย่าเพิ่งหลงเชื่อทันทีจะเป็นความงมงาย

เมื่อจิตสงบรวมตัวจิตถอนตัวออกมารับรู้นิมิตนั้นอีก หากปรากฏนิมิตอย่างนี้ซ้ำ ๆ ซาก ๆหลายครั้งแสดงว่านิมิตนั้นเป็นของจริงเชื่อถือได้

 

​

เจ้าคุณนรฯ ธมฺมวิตกฺโก ภิกขุ
(บอกเล่าโดย นิโรธ เกสรศิริ)​

ยอดพหูสูต

ความรอบรู้อีกทางหนึ่ง ที่ท่านธมฺมวิตกฺโก มีอยู่อย่างน่ามหัศจรรย์ยิ่งก็คือ เหตุการณ์ต่าง ๆ ในสมัยพุทธกาล ย้อนหลังไปกว่า 2,500 ปี ซึ่งไม่มีปรากฏอยู่ในคัมภีร์ใดๆ แต่ท่านสามารถล่วงรู้และเล่ารายละเอียดปลีกย่อย ให้ฟังได้ราวกับตาเห็น จนมีผู้กล่าวกันว่า ท่านล่วงรู้เหตุการณ์ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ครั้งพุทธกาลจนกระทั่งถึงเหตุการณ์ปัจจุบัน จะว่าท่านปั้นเรื่องราวขึ้นมาเอง ก็ไม่มีทางเป็นไปได้โดยเด็ดขาด เพราะท่านเคร่งครัดต่อการปฏิบัติอย่างยิ่งยวดซึ่งใคร ๆ ก็ย่อมรู้อยู่

ตัวอย่างเช่น คราวหนึ่งท่าน ได้เล่าเรื่องราวตอนพระพุทธองค์ ทรงบำเพ็ญเพียรก่อนตรัสรู้ให้ พ.อ.จิตต์ ธนะโชติ อดีตรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีฟัง เมื่อปลายปี พ.ศ. 2513 ปรากฏตามข้อเขียนที่ พ.อ.จิตได้บันทึกไว้เองตอนหนึ่งดังนี้

“.....แล้วท่านก็เล่าอย่างกับให้เห็นภาพอยู่ตรงหน้าในขณะนั้น สมัยสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงกระทำความเพียร เพื่อตรัสรู้ธรรมอันประเสริฐยิ่งนั้น ที่บำเพ็ญธรรมก็เป็นป่าเขาและเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ร้าย นานาชนิด”

“แต่พระองค์ท่านก็ทรงดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการแผ่เมตตา อันเปรียบเหมือนพระมหามงคลที่คุ้มภัยได้ทุกประการ บางครั้งฝนตกปรอย ๆ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงเอาจีวรมาคลุมพระเศียรไว้”

“เสือสิงห์เดินผ่านเข้ามาใกล้ มายืนดมที่พระเศียร ร้อง โฮกปี้บ ๆ แล้ว......”

เป็นที่น่าเสียดายที่ พ.อ.จิตต์ ธนะโชติ บันทึกไว้ได้เพียงนี้ก็ ต้องเจ็บหนักจนถึงแก่กรรมไปก่อน แต่ก็พอเป็นพยานยืนยันถึงความสามารถ ล่วงรู้เหตุการณ์ในอดีตแต่ครั้งสมัยพุทธกาล ของท่านธมฺมวิตกฺโกได้เป็นอย่างดีพอสมควร

อีกคราวหนึ่งราวปี 2512- 2513 นายแพทย์สุพจน์ ศิริรัตน์ พร้อมด้วยคุณลุงแก้ว ศิริรัตน์ บิดาได้นำน้ำผึ้งไปถวายท่าน ท่านได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ พุทธประวัติ ตอนกำเนิดพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ อันเป็นเหตุการณ์ตอนที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ที่เมืองโกสัมพี แล้วบรรดาพระภิกษุสงฆ์สาวกเกิดแตกสามัคคี ก่อการวิวาทกัน

แม้สมเด็จพระบรมศาสดาจะพร่ำสอนสักเท่าใด ๆ พระสงฆ์เหล่านั้นก็ยังไม่ยอมปรองดองกันได้ พระพุทธองค์จึงทรงปลีกพระองค์ เสด็จออกไปอยู่ในป่าตามลำพัง จนได้มีพญาช้างเชือกหนึ่ง และพญาลิงตัวหนึ่งเข้าไป ตั้งหน้าปรนนิบัติรับใช้พระพุทธองค์เป็นอันดี โดยพญาวานรได้คิดอ่านไปจัดหารวงผึ้งมาถวายให้เสวย ฯลฯ

เรื่องราวต่าง ๆ อันปรากฏตามที่ท่านเล่าในวันนั้นผิดแปลก แตกต่างไปจากที่เคยได้ยินได้ฟังมา หรือที่ได้เคยอ่านผ่านสายตามา โดยมีรายละเอียดปลีกย่อย พิสดารน่าฟังยิ่ง โดยเฉพาะคุณลุงแก้วนั้น ในอดีตเคยเป็นพระครู เคยเป็นเจ้าอาวาสมาแล้ว อายุอานามก็น้องๆ ท่านธมฺมวิตกฺโก

ได้เล่าเรียนได้รับฟังจากที่ต่าง ๆ มาเป็นอันมาก ทั้งอ่านมาก ฟังมากและคิดว่าก็รู้มากมาพอควร ทั้งจากพุทธประวัติและอนุพุทธประวัติ ก็ไม่เคยได้พบได้ฟังเรื่องราวรายละเอียดอย่างน่าพิศวงอย่างนี้ จึงเฝ้าตั้งหน้าซักถามเรื่องราวต่าง ๆ จากท่านเพิ่มเติมอยู่นาน ก็ปรากฏว่าไม่อาจที่จะ “ไล่” ท่านให้ “จน” ได้สักที
นับเป็นเรื่องที่น่าประหลาดมากจริง ๆ

จึงเชื่อกันว่าเรื่องอย่างนี้จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากเป็นการหยั่งรู้ด้วย ญาณของท่านธมฺมวิตกฺโกนั่นเอง สมแล้วที่กล่าวกันว่าท่าน ธมฺมวิตกฺโกเป็นยอดพหูสูตในยุคนี้

​

รู้อนาคต​

ก่อนที่ประเทศเขมรจะมีการปฏิวัติขับไล่เจ้านโรดมสีหนุนั้น ผมได้พบท่านธมฺมวิตกฺโก หลังจากได้สนทนากันในเรื่องอื่น ๆ แล้ว ท่านได้ปรารภถึงบ้าน เมืองว่าต่อไปนี้คนจนจะยิ่งลำบากมากขึ้น

และได้ถามผมว่า รู้ไหมที่เขมรน่ะเขาจะปฏิวัติกันวันสองวันนี้แล้วนะ ผมได้เรียนท่านว่า ผมไม่เคยทราบเรื่องนี้เลย เพราะไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้ หลังจากนั้นประมาณ 2-3 วัน หนังสือพิมพ์ก็ลงข่าวว่า ประเทศเขมรเกิดการปฏิวัติขึ้น จริง ๆ

นอกจากนี้แล้วท่านธมฺมวิตกฺโกบอกว่า สงครามโลกเกิดขึ้นทางยุโรปก่อนมา 2 ครั้งแล้ว แต่สงครามโลกครั้งที่ 3 จะเกิดทางเอเชีย ท่านบอกว่าตอนที่สงครามเกิด สังขารของธมฺมวิตกฺโกคงไม่มีแล้ว

ก็เป็นเรื่องที่เราจะคอยดูกันต่อไป ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ ที่ว่าเอเชียจะเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 3 ส่วนสังขารของท่าน ธมฺมวิตกฺโกก็ไม่มีแล้ว

ที่มา http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-nor/lp-nor-hist-08-03.htm

 

5 มี.ค. 52

บทขยาย

เอ็มสิบกว่า .....เอ็ม 16

น้ำสีแดง .....นองไปด้วยเลือด

ห้างสรรพสินค้า .....ตุนของกินของใช้