ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** โลกุตตระธรรม ธรรมเหนือโลก ****

ถ้า...เรายึดมั่นใน สัจจะ
ปฏิบัติตนด้วย .... สัจจะทำ ทุกวัน
เมื่อถึงเวลา ... ท่านก็จะรู้ความจริงได้เอง
จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์....คอยมาบอก มาสอน มานำทาง
ผู้มาบอกมาสอน...คือ โลกุตตระธรรม ที่ปรากฏ จะเป็นอะไรก็ได้
พระพุทธเจ้า เรียกท่านว่า....องค์โลกุตตระธรรม
โลกุตตระ...ก็คือ พระไตรปิฎก คือ รวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
คือ ตัวกระทำของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
องค์โลกุตตระธรรม....เมื่อปรากฏเป็นมนุษย์ จึงมีความสามารถเหนือมนุษย์
เป็น มนุษย์เหนือโลก...รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกย่างก้าว ของทุกผู้ทุกนาม
โลกุตตระ....ไม่ได้มาทำลายสิ่งใดในโลก
แต่จะปรากฏ... เพื่อสานต่อให้ ศาสนาพุทธ คงอยู่จนครบอายุของยุคพุทธเจ้าองค์นั้น

เหนือความคิดมนุษย์มีจริง...ไม่มีในตำราใดๆในโลก
ถ้า เรามีสัจจะทำ เหมือนพระพุทธเจ้า....เราก็จะมีโอกาสพบโลกุตตระธรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

http://www.thaidisaster.com/thaigulf/tsunami.html

 

มีงานอยู่ อย่าได้คิดลาออก <TABLE borderColor=#98deff cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
ดูประเทศจีนเป็นตัวอย่าง อย่างเพิ่งออกจากงานนะจ๊ะ พวกท่านทั้งหลาย

 

<TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>คนตกงานทะลุแสน ครม.เศรษฐกิจมึนเดือน ก.พ.พุ่งเท่าตัว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบเนื้อหาข่าวอินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า

กระทรวงแรงงานได้รายงานสถานการณ์ด้านแรงงานช่วงสิ้นเดือน ก.พ.52 มีผู้ว่างงานถึง 100,599 คน เป็นจำนวนที่มากกว่าในเดือน ธ.ค. 51 และเดือน ม.ค.52 ที่มีจำนวนผู้ว่างงานเดือนละ 50,000-60,000 คน ขณะที่สถานการณ์ของแรงงานไทยที่ทำงานในต่างประเทศส่วนใหญ่ยังคงสามารถทำงานอยู่ในประเทศนั้นๆได้ โดยกระทรวงแรงงานได้ประสานกับบริษัทต่างๆ เพื่อปรับเปลี่ยนนายจ้างเพื่อไม่ให้มีแรงงานไทยถูกส่งกลับจากต่างประเทศในปี 52 อันเนื่องมาจากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานรายงานด้วยว่า

การช่วยเหลือแรงงานในช่วงเดือน พ.ย.51-เดือน ม.ค.52 ได้จ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือแรงงานไปแล้วกว่า 600 ล้านบาท และศูนย์บริการเบ็ดเสร็จเพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานได้ให้ความช่วยเหลือในการจัดหางานใหม่ให้แรงงานที่ว่างงานไปแล้วประมาณ 13,000 คน ขณะที่การดำเนินการตามมาตรการ 3 ลด 3 เพิ่ม ตั้งแต่เกิดวิกฤติสามารถบรรจุงานแล้ว 90,000 คน

ส่วนกรณีของการว่างงานเดือน ก.พ.ที่สูงถึง 100,599 คนนั้น กระทรวงแรงงานระบุว่าได้พยายามจัดงานวันนัดพบแรงงาน เพื่อช่วยจัดหางานใหม่เพราะยังมีตำแหน่งต่างๆ ว่างนับ 100,000 ตำแหน่งเช่นกัน.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

*** โชคดีหรือกรรม อยู่ที่ตัวเองทั้งสิ้น ****

ทุกหนึ่งหมื่นปี...โลกุตตระธรรม จะปรากฏบนโลก
แผ่นดินไหน ประเทศไหนที่ไปปรากฏ....ถือเป็นโชคดีของประเทศนั้น
ในช่วงกึ่งพุทธกาล
ศาสนาพระโคดม ...เหมือนมีไฟแดงฉานร้อนลน
สัจจะทำ คำสอนของพระพุทธเจ้า...ถูกบดบังจนหายไป
โลกุตตระธรรม....จึงปรากฏบนแผ่นดินประเทศไทย
ในรูปมนุษย์คนหนึ่ง...มาพิสูจน์ตนเอง ด้วยความรู้ที่เหนือมนุษย์
เพื่อมาส่ง สัจจะ ...ให้มนุษย์ได้นำไปสืบทอดศาสนาต่อไป
จึงถือเป็น...โชคดีของประเทศไทย ที่โลกุตตระมาปรากฏ
แต่ ก็เหมือนโชคร้าย....ที่ผู้นำไม่เชื่อ ไม่เอาสัจจะ
จึงเป็นลิขิตตนเอง...กรรมประเทศไทย จึงต้องมี
เพราะ สัจจะทำ....ซึ่งเป็นคำสอนของ โลกุตตระธรรม
การไม่ยอมรับนี้...ก็เหมือนกับไม่ยอมรับ พระไตรปิฎกที่แท้จริง
การไม่ยอมรับพระไตรปิฎกแท้จริง นี้.... ก็คือ ไม่ยอมรับคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ทำกันมา
โอกาสสุดท้าย จึงเป็นของบุคคล
สัจจะทำ....ผู้ใดทำได้ โลกุตตระ จะประเมินค่าเป็นตัวกระทำของศาสนา

วิกฤติทุกอย่าง หยุดได้ด้วย สัจจะ
- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

สัจจะไม่มีในโลกไม่มีในหมู่มนุษย์ที่ไม่ฝึกตนให้ได้
ที่พึ่งอันได้ยากที่พึ่งอันเกษม

 

ขวากหนาม คือกองทุกข์ กิเลส ความอยาก สิ่งที่ทำให้ไขว้เขว เหมือนคลื่นมากระทบ โต้คลื่น เล่นคลื่นไปวันๆแล้วกำหนดรู้ว่าเดวลูกใหม่มาลอยคอให้ดีๆดูว่าจะโต้ไหวไหมกระดืบๆ ตุ๊ปป่องๆ ลอยไปลอยมาก็ยังทรงตัวไหวก็ ทำไปเดวดีเอง

 

*** แก่นสารชีวิตมนุษย์ อยู่ที่ไหน ****

ท่านทำงานไปเพื่อสิ่งใด ?
เงินคืออะไร ?
แล้วถ้า ทองมันล้นโลก...ทอง มันจะมีค่าอะไร !!!!

เรากำลังทำอะไรกันอยู่ !!!
เกิดเป็นมนุษย์เขาให้มาทำอะไร
เราต้องทบทวนให้ดี

กิเลสนิสัย ติดตัวมาแต่เกิด
นิสัยไม่เคยตัดไม่เคยลด ได้จริง
สัจจะ ไม่เคยทำ...แล้วชีวิตจะเที่ยงได้อย่างไร !!!!

แก่นสารชีวิตมนุษย์ อยู่ที่ไหน ?
อยู่ที่ การกระทำ
นิพพาน อยู่ที่ไหน ?
นิพพานก็อยู่ที่การกระทำ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

นิพพาน อยู่ที่ไหน ?
อยู่ที่สิ้นสงสัย

 

*** ใกล้เห็นธรรม ****

ท่านสิ้นสงสัย ... เรื่องสัจจะทำของพระพุทธเจ้า เรื่องโลกุตตระธรรม แล้วหรือยัง ?
ถ้ายัง.... ขอให้ท่านพิจารณาค้นคว้าด้วยตนเองให้มาก
สุดท้าย...ทุกอย่างจบด้วย สัจจะ
จะหลุดพ้นทุกข์ได้.....ต้องเริ่มทำ ทำด้วยสัจจะ เท่านั้น
เหมือนเป็น...นิยาม ของการหลุดพ้นทุกข์

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

สัจจะและมายา

บุคคลมีภพครั้งสุดท้ายแล้ว
จึงมักมีเหตุบันดาลให้มองเห็นเงาแห่งสัจจะของ
ชีวิตแม้ท่ามกลางความมืดคืออวิชชา​

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]วันที่ 05 มกราคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6612 ข่าวสดรายวัน


ศก.ตกต่ำกระทบ ธนาคารเมล็ดพืช

หมุนก่อนโลก



ปัจจุบันธนาคารเมล็ดพืชทั่วโลกมีอยู่ 1,000 กว่าแห่ง ทั้งที่เปิดขึ้นใหม่ที่ใกล้กับขั้วโลกเหนือในดินแดนของประเทศนอร์เวย์ รวมทั้งธนาคารเมล็ดพืชของประเทศอังกฤษ ที่ได้ชื่อว่าเก็บเมล็ดพืชหลากหลายพันธุ์ไว้มากที่สุดในโลก

นายพอล สมิทธิ์ ผู้อำนวยการ "มิลเลนเนียม ซี้ด แบงก์ โปรเจ็กต์" ที่เวคเฮิร์สต์เพลซ ซึ่งอยู่ทางใต้ของกรุงลอนดอน กล่าวว่า "วิกฤตเศรษฐกิจโลกอาจทำให้รัฐบาลและบริษัทตัดงบประมาณให้ความช่วยเหลือภายในปลายปีหน้า เราจำเป็นต้องหยุดการเก็บเมล็ดพันธุ์ใหม่ๆ" <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

ปัจจุบันธนาคารแห่งนี้เก็บเมล็ดพืช ทั้งเมล็ดพืชป่าและเมล็ดพืชเพาะปลูก ไว้ราว 25,000 สายพันธุ์ หรือประมาณ 1,500 ล้านเมล็ด เมล็ดพืชที่ใหญ่ที่สุด ที่เก็บไว้คือ ลูกมะ พร้าวแฝดซึ่งใหญ่เท่ากับมะพร้าว 2 ลูก ส่วนเมล็ดพืชที่เล็กที่สุดคือ "วีนัส ลุคกิ้ง กลาส" นักวิทยาศาสตร์ของธนาคารหวังว่าจะเก็บเมล็ดพืชให้ได้ 300,000 สายพันธุ์

สำหรับค่าใช้จ่ายของธนาคารในการเก็บรักษาเมล็ดพืชอยู่ที่ 120,000 บาทต่อสายพันธุ์ เป็นทั้งค่าขนส่ง ค่าทำความสะอาด ค่าเอกซเรย์เพื่อฆ่าแมลง ค่าเก็บรักษาไว้ในห้องแช่ที่อุณหภูมิ 4 องศาฟาเรนไฮต์ เพื่อเก็บไว้ใช้ในอนาคต <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=2><TBODY><TR bgColor=#ffffe8><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

ธนาคารเมล็ดพืชนั้นมีภาระหน้าที่ที่จะต้องเก็บสะสมเมล็ดพืชแข่งกับการสูญพันธุ์เพราะถูกมนุษย์บุกทำลายอยู่แล้ว และเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ทำให้ธนาคารต้องชะลอการเก็บเมล็ดออกไปอีก ซึ่งเมล็ดพืชเหล่านี้อาจมีความสำคัญอย่างนำไปรักษาโรคได้ เช่น ต้นโรซี่เพอริวิงเคิลของมาดากัสการ์ นำไปรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในเด็ก

<EMBED src=http://www.youtube.com/v/u6-HvF0HLDU&hl=en&fs=1 width=425 height=344 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>[/FONT]

[FONT=Tahoma,]หน้า 28[/FONT]
ไม่กินคาร์โบไฮเดรต ทำสมองเฉื่อยชา



หลายคนใช้วิธีลดหรืองดรับประทานอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตเพื่อลดน้ำหนัก โดยเฉพาะผู้ที่ใช้วิธีลดน้ำหนักแบบแอทกินส์ ที่สนับสนุนให้ลดคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล แต่ให้รับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์และไขมันได้

จากการศึกษาผลกระทบของสมองจากการรับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ ในหญิง 19 คน อายุระหว่าง 22-55 ปี ของ ดร.ฮอลลี่ เทย์เลอร์ จากมหาวิทยาลัยทัฟส์ สหรัฐอเมริกา พบว่าภายใน 1 อาทิตย์ หญิงที่รับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ มีคะแนนทดสอบทางสมองด้านการจำน้อยกว่ากลุ่มหญิงที่ลดความอ้วนด้วยการรับประทานอาหารที่มีแคลอรีน้อย

ดร.เทย์เลอร์กล่าวว่า "คาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งสร้างพลังงานที่สำคัญของสมอง ซึ่งการลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตเป็นการลดจำนวนกลูโคสและน้ำตาลที่ใช้ไปเลี้ยงเซลล์สมอง"

หน้า 28

ยิวส่งรถถัง-ทหารนับหมื่นบุก"กาซ่า!"



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
ประท้วงยิว - ชาวมุสลิมและประชาชนในนครซิดนีย์ ออสเตรเลีย แบกโลงศพประท้วงต่อต้านรัฐบาลอิสราเอลทำสงครามถล่มเขตฉนวนกาซ่าเพื่อทำลายที่มั่นกองกำลังติดอาวุธฮามาส แต่ทำให้ชาวบ้านปาเลสไตน์ในพื้นที่เสียชีวิตไปแล้วกว่า 400 ราย บาดเจ็บนับพัน เมื่อ 4 ม.ค. (เอพี)

</TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 4 ม.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทัพอิสราเอลเริ่มต้นปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดินส่งทหารชุดแรก 10,000 นาย รถถังอีกร้อยกว่าคัน บุกเข้าพื้นที่ตอนเหนือในเขตฉนวนกาซ่า ขณะที่ขบวนการกู้ชาติ "ฮามาส" ของปาเลสไตน์ประกาศสงครามสู้ตายจนหมดลมหายใจสุดท้าย

อิสราเอลโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายต่างๆ ในฉนวนกาซ่า เขตปกครองชาวปาเลสไตน์ต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 8 ซึ่งนายเอฮุด บารัก รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล แถลงว่า ตัดสินใจส่งทหารและรถถังเข้าไปทำลายที่มั่น รวมถึงฐานอาวุธของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซ่า เพื่อหยุดยั้งไม่ให้ยิงจรวดข้ามฟากมาสังหารชาวยิวอิสราเอลอีกต่อไป

นายบารัก กล่าวว่า สงครามไม่ได้สร้างความสุขใจ แต่จำเป็นต้องทำ เพราะจะปล่อยให้พลเมืองอิสราเอลทางภาคใต้ตกเป็นเป้าจรวดฮามาสต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้ ตนตระหนักดีถึงความเสี่ยงจากการต่อสู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายและคงไม่จบลงในเวลาอันสั้น

นายอิสมาอิล รัดวัน โฆษกกลุ่มฮามาส แถลงผ่านโทรทัศน์อัล-อักซา ว่า การรบที่เกิดขึ้นจะไม่ใช่การปิกนิกของอิสราเอล เพราะฉนวนกาซ่าคือสุสานยิว อิสราเอลไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากยุติการรุกราน ถ้าคนปาเลสไตน์ไม่มีสันติสุข คนยิวก็จะไม่มีเช่นกัน ท้ายที่สุดนักรบมุจาฮิ

ดีนผู้พิทักษ์ศาสนาอิสลามจะชนะสงครามครั้งนี้ และปาเลสไตน์จะสู้จนสิ้นลมหายใจสุดท้าย

"อิสราเอลรุกรานชาวปาเลสไตน์มาโดยตลอด ศัตรูชาวยิวทำลายสถานศึกษา มัสยิด ผู้คน และทุกสิ่งทุกอย่างในฉนวนกาซ่า จะมีอาชญากรรมใดเลวร้ายไปกว่านี้อีกหรือ และยังปรากฏขึ้นต่อสายตาพี่น้องโลกอาหรับและมุสลิม" นายอิสมาอิล กล่าว

ด้านนายบัน คี-มุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ร้องขอให้อิสราเอลยุติการบุกฉนวนกาซ่าแต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ส่วนนายกิดาลา เอตัลฮี เอกอัครราชทูตลิเบียประจำยูเอ็น ในฐานะชาติอาหรับ 1 เดียวในคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น เรียกประชุมฉุกเฉินเพื่อให้คณะมนตรีฯ ออกแถลงการณ์ร่วมเรียกร้องให้อิสราเอลและผู้นำฮามาสหยุดยิงทันที อย่างไรก็ตาม ความพยายามของนายกิดาลากลับไร้ผลเพราะนายอเลฮันโดร โวลฟ์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ชาติสมาชิกถาวรคณะมนตรีฯ ขัดขวางไม่ให้มีการออกแถลงการณ์ดังกล่าวตามคาด เพราะรัฐบาลสหรัฐเป็นพันธมิตรสำคัญของรัฐบาลอิสราเอล

วันเดียวกัน ชาวมุสลิมหลายพันคนเดินขบวนประท้วงไปตามท้องถนนทั่วกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงอินโดนีเซีย ประณามการกระทำของอิสราเอลที่ใช้กำลังโจมตีฉนวนกาซ่า จนทำให้ผู้บริสุทธิ์ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้ว 460 คน บาดเจ็บเกือบ 3,000 คน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลส่งทหารไปช่วยปาเลสไตน์รบ

[FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]
ดินไหวทะเลอินโดฯ-ยุ่นเจอสึนามิจิ๋ว



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>เอพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ม.ค. เกิดแผ่นดินไหวใน 3 ประเทศ โดยอินโดนีเซียวัดแรงสั่นสะเทือนมากที่สุด ทั้งยังเกิดใต้พื้นทะเล ทำให้ต้องประกาศเตือนภัยสึนามิ และมีสึนามิขนาดจิ๋วซัดเข้าฝั่งญี่ปุ่น

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาอินโดนีเซียแถลงว่า เมื่อเวลา 02.43 น. วันที่ 4 ม.ค. เกิดเหตุแผ่นดินไหวใต้ทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิก วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.2 ริกเตอร์ ห่างจากชายฝั่งเมืองมาโนควารี จังหวัดปาปัว ประมาณ 136 กิโลเมตร ทำให้ต้องประกาศเตือนภัยสึนามิซัดเข้าฝั่ง ขณะที่สำนักงานธรณีวิทยา สหรัฐอเมริกา ระบุว่า แรงสั่นสะเทือนดังกล่าวสูงถึง 7.6 ริกเตอร์ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้ทะเล 35 กิโลเมตร

สำหรับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว ที่เมืองมาโนควารีไฟฟ้าดับหลายจุดและมีโรงแรมแห่งหนึ่งพังถล่ม มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บยังไม่ทราบจำนวนแน่ชัด เพราะบ้านเรือนประชาชนเสียหายในวงกว้าง นอกจากนั้น ยังมีคลื่นสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ หรือ "อาฟเตอร์ช็อก" ระดับรุนแรงไม่แพ้กันเกิดตามมาอีกหลายครั้ง

ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยา ประเทศญี่ปุ่น แถลงว่า ตรวจพบคลื่นสึนามิขนาดเล็กความสูง 40 เซนติเมตร หลังเกิดแผ่นดินไหวในอินโดนีเซีย โดยสึนามิจิ๋วดังกล่าวพัดเข้าสู่ชายฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ แต่ไม่มีเหตุร้ายแรงใดๆ และทั้งอินโดนีเซียกับญี่ปุ่นยกเลิกประกาศเตือนภัยสึนามิแล้ว

วันเดียวกัน สำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐแจ้งด้วยว่า ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาเกิดแผ่นดินไหวระดับปานกลาง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอัฟกานิสถาน ติดกับพรมแดนประเทศปากีสถาน จุดศูนย์กลางอยู่ในเขตเทือกเขาฮินดูกูช ลึกลงไปใต้พื้นดิน 220 กิโลเมตร ซึ่งบริเวณนี้มักเกิดแผ่นดินไหวเป็นประจำ เช่นเดียวกับอินโดนีเซียที่มีสภาพภูมิศาสตร์ตั้งอยู่ในจุดเสี่ยงเกิดแผ่นดินไหวเนื่องจากอยู่บนรอยแยกของเปลือกโลกและแนวภูเขาไฟ หรือที่เรียกว่าเขต "วงแหวนแห่งไฟ" โศกนาฏกรรมร้ายแรงที่สุดเกิดขึ้นเมื่อปี 2547 หลังเหตุแผ่นดินไหวนอกชายฝั่งสุมาตรา เป็นชนวนก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 200,000 ราย

[FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]

มาเลย์หนีน้ำท่วม



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
หนีน้ำ- ชาวมาเลเซียในรัฐตรังกานูขึ้นเรือออกจากพื้นที่หลังพายุฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน เกิดน้ำท่วมใหญ่ทางภาคเหนือและภาคกลาง มีประชาชนเดือดร้อนทั้งต้องอพยพและทำมาหากินไม่ได้หลายหมื่นคน เมื่อ 4 ม.ค.

</TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 4 ม.ค. เอเอฟพีรายงานว่า พายุฝนพัดกระหน่ำตลอดหลายวันที่ผ่านมา ทำให้เกิดภัยธรรมชาติน้ำท่วมใหญ่ทางภาคเหนือและภาคกลางของประเทศมาเลเซีย ทางการต้องเร่งอพยพประชาชนในรัฐปะหังกว่า 2,500 คนออกจากพื้นที่ประสบภัยไปอยู่ตามศูนย์พักพิงชั่วคราว 26 แห่ง ส่วนชาวบ้านในรัฐตรังกานูเกือบ 500 คนต้องละทิ้งบ้านเรือนเช่นกัน และยังเกิดเหตุดินถล่ม 2 จุดในเขตคาเมรอนไฮแลนด์ แหล่งปลูกชาและจุดท่องเที่ยวชื่อดัง

[FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]


</TD><!-- เริ่มภาพชุดทั้งหมด --><!-- จบภาพชุดทั้งหมด --><!-- เริ่มข่าวเกี่ยวเนื่อง --><!-- จบข่าวเกี่ยวเนื่อง -->
<!-- ใส่แสดงความคิดเห็นท้ายข่าว --->

</TD></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- เริ่มภาพชุดทั้งหมด --><!-- จบภาพชุดทั้งหมด --><!-- เริ่มข่าวเกี่ยวเนื่อง --><!-- จบข่าวเกี่ยวเนื่อง -->
<!-- ใส่แสดงความคิดเห็นท้ายข่าว --->
<CENTER>อเมริกันสามัญชน ชีวิตดิ้นรนวันตกงาน

สกู๊ปพิเศษ



</CENTER><CENTER><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER><CENTER>พิษเศรษฐกิจที่ลุกลามไปทั่วโลก ต้นตอเริ่มที่วอลสตรีต ตลาดการเงินในสหรัฐ ส่งผลให้อเมริกันชนหลายครอบครัวประสบปัญหาภาวะรายได้ลดลงเกือบครึ่ง โดยยังมองไม่เห็นอนาคต 3 ครอบครัวต่อไปนี้ เป็นตัวอย่างการดิ้นรนรับความเปลี่ยนแปลงที่สุดขมขื่น

มารีนา คาโทรว่า คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวชาวรัสเซีย วัย 40 ปี ถูกบริษัทคอมพิวเตอร์ไล่ออกจากงานต้นเดือนธันวาคม

เด็กหญิงมาช่า อายุ 6 ขวบ ลูกสาวต้องเลิกเรียนเปียโน เรียนเต้น รวมถึงอดเรียนภาษารัสเซียที่เป็นภาษาของแม่

มารีนาต้องเลิกจ้างพี่เลี้ยงค่าตัวราว 300-350 บาทต่อชั่วโมง มาดูแลลูก จากที่เคยพากันไปกินข้าวนอกบ้าน ก็ต้องประหยัด ที่เคยซื้อของดีๆ กิน ตอนนี้ก็ต้องเลือกราคาถูกไว้ก่อน และจากที่ตั้งใจจะเซอร์ไพรส์ลูกสาว ซื้อตั๋วพาไปดูโชว์บรอดเวย์วันหยุด ตอนนี้ลืมไปได้เลย

แต่ลูกสาวตัวน้อยยังเด็กกลับดีใจที่แม่ตกงาน "หนูดีใจค่ะที่แม่ถูกไล่ออก เพราะแม่จะได้ไม่ต้องไปทำงาน ได้อยู่บ้านเล่นกับหนู"

มารีนาทำงานในบริษัทคอมพิวเตอร์สัปดาห์ละอย่างน้อย 40 ชั่วโมง เดินทางด้วยรถใต้ดินจากบ้านในย่านไบรต์ตั้นบีชในบรู๊กลินไปทำงาน เดิมทีมีเงินพอจ่ายค่าเช่าห้องราคา 29,700 บาท หลังตกงานคงมีเงินเหลือพอจะจ่ายได้อีกเดือนเดียว เพราะค่าห้องขึ้นอีก 3,500 บาท มกราคมนี้ </CENTER><CENTER><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER><CENTER>

มารีนาตั้งใจว่าจะหางานหลังปีใหม่ โดยฝากประวัติตามเว็บไซต์หางานต่างๆ

"ฉันไม่รู้ว่าทำไม แต่ไม่ได้หมดหวัง ฉันรู้สึกว่าจะผ่านมันไปได้"

หลังจากที่พ่อตกงานเมื่อ 6 เดือนก่อน สาวน้อย อาโด อายัจ วัย 15 ปี จากครอบครัวชาวซูดานที่อพยพมาตั้งรกรากในอเมริกาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และคิดว่าจะมีชีวิตที่สดใส ต้องมาวิตกกังวลเรื่องของผู้ใหญ่

พ่อยังใช้ภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ และพ่อจะเอาตังค์ที่ไหนจ่ายค่าเช่าบ้าน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ

อาโด และ คัก น้องชายวัย 13 ปี ไม่ค่อยสุงสิงกับเพื่อน ไม่ยอมไปเที่ยวไหน จนเพื่อนที่โรงเรียนรู้สึกว่าอาโดจริงจังเกินไปจนน่าเบื่อ

โทรศัพท์ที่บ้านถูกตัด อุณหภูมิในลินคอล์น รัฐเนบราสกา อยู่ที่ 20 องศาเซลเซียส แต่เครื่องทำความร้อนเปิดได้เฉพาะตอนนอนจนถึงแค่ 6 โมงเช้า

จะลำบากแค่ไหนแต่อาโด สาวน้อยหัวใจทระนง ยืนยันว่า พวกตนอยู่ได้ ยังมีอาหารเหลือเฟือ ซึ่งความจริงแล้วในตู้อาหารเหลือน้ำตาลเพียงถุงเดียว

ไอยีฟ พ่อของเด็กๆ เดิมมีรายได้เดือนละราว 69,900 บาท จากการทำงานในโรงงานบรรจุเนื้อหลายแห่ง ตอนนี้ต้องพยายามอยู่ให้ได้เมื่อเหลือรายได้แค่ครึ่งเดียว

"งานใช้แรงงานผมก็ทำได้ แต่ยังไม่มีข่าวคืบหน้าอะไรเลย"

อาโดมักจะเห็นพ่อยืนก้มดูบิลเรียกเก็บเงินต่างๆ ที่ประตูบ้าน เพราะตรงนั้นมีแสงสว่าง ทำให้พอมองเห็น เพราะพ่อสายตาไม่ดี และไม่มีเงินตัดแว่น

ใครๆ อาจคิดว่าเด็กน้อยต้องสูญเสียช่วงเวลาสนุกสนานวัยเด็กไป เพราะมัวแต่วุ่นกับเรื่องพ่อตกงาน แต่อาโดไม่เสียดาย

อดีตเคยเป็นเด็กเรียนเก่ง รับรางวัลวิชาการมาแล้ว 12 รางวัล มีรางวัลเรียนดีด้านภาษาอังกฤษ ได้เกรด เอ และ บี มาตลอด แต่มาตอนนี้ไม่ค่อยสนใจเรียนแล้ว เกรดตกเหลือ ซี และ ดี และอยากให้อายุ 18 ปี ไวๆ จะได้ออกไปหางานช่วยครอบครัว

เดสเทรีย เซลลีเซียน วัย 34 ปี นั่งอยู่บนเก้าอี้เก่าๆ ขาดๆ ในห้องรับแขกและร้องไห้ให้กับสภาพครอบครัว ที่มีลูกๆ 5 คน ต้องเก็บข้าวของออกจากห้องเช่าขนาด 2 ห้องนอนก่อนถึงวันคริสต์มาส

"ฉันร้องไห้ตอนกลางคืนตอนที่ลูกหลับ บางครั้งรู้สึกอยากยอมแพ้"

แม้เมื่อก่อนจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ มีรายได้เดือนละราว 62,300 บาท เดสเทรียทำงานเป็นแม่ครัวที่บริษัทรับจัดเลี้ยง ต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละราว 24,000 บาท

เดสเทรียถูกเลย์ออฟเมื่อเดือนกันยายนเมื่อยอดสั่งอาหารตกต่ำลง หลังจากนั้นชีวิตก็ไม่ราบรื่นเหมือน เดิม เครื่องใช้ไฟฟ้าในห้องใช้น้อยลง ต้องไปยืมครัวเพื่อนบ้านทำกับข้าวให้เด็กๆ อาหารเย็นใช้ไมโครเวฟอุ่นเอา

โชคไม่เข้าข้าง เดสเทรียต้องหางานที่อยู่ย่านฟีนิกซ์ละแวกบ้านเท่านั้นเพราะไม่มีรถยนต์ส่วนตัว และไม่มีพี่เลี้ยง ต้องดูแลลูกเล็กๆ 2 คนด้วยตัวเอง พยายามไม่เข้าห้างและร้านฟาสต์ฟู้ด นานๆ ที พี.เจ. วัย 2 ขวบถึงจะได้เล่นของเล่นและกินไก่ทอด

"ลูกๆ เหนื่อย หิวและก็อยากได้นั่นนี่เวลาเราผ่านห้าง แต่ฉันไม่มีเงินซื้อให้"

เดสเทรียพึ่งกับข้าวจากศูนย์ฟีนิกซ์อินเดียน กองทุนช่วยเหลืออาหารในท้องถิ่น ซึ่งคุณแม่ก็จะเสียสละให้ลูกๆ กินก่อนแล้วถึงจะกินที่เหลือ

ถึงจะมีชีวิตที่ยากลำบาก แต่เดสเทรียก็พยายามทำให้บ้านดูน่าอยู่ซื้อเทียนมาประดับห้อง ซื้อม่านสีม่วงแดงมาประดับหน้าต่างครัว ตรงผนังห้องนั่งเล่นติดภาพต้นคริสต์มาสที่ พี.เจ. ติดระยิบระยับและวาดด้วยปากกา ต่อสู้ชีวิตกันต่อไป!

[FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]</CENTER>
สู้หนาวเพื่อสุขภาพ



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>สมาชิกชมรมสุขภาพ ออพติมอลิสต์ เปลือยกายใช้ขวานทุบน้ำแข็งที่ปกคลุมคลองใกล้หมู่บ้านเวียซินก้า ห่างจากกรุงมินสก์ ประเทศเบลารุส ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 40 กิโลเมตร ชมรมนี้สนับสนุนให้สมาชิกใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี และใช้เวลาว่างกับชนบทและธรรมชาติ

[FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]

หน้าหนาวของเขาไม่ต้องใส่เสื้อผ้าเลยสุดยอดมากเลยฮะ
ครอบครัวลูกดก คลอดเบบี้คนที่18!



ครอบครัวของจิม บ็อบ และมิเชล ดักการ์ ชาวเมืองทอนทีทาวน์ รัฐอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา เพิ่งต้อนรับสมาชิกครอบครัวคนใหม่ คือลูกคนที่ 18!

เด็กหญิงจอร์ดีน-เกรซ มาคิยา ดักการ์ เกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับครอบครัวพอดี ซึ่งพี่ของเด็กหญิงเรียงตามลำดับมี นายโจชัว อายุ 20 ปี น.ส.จาน่า อายุ 18 ปี นายจอห์น-เดวิด อายุ 18 ปี น.ส.จิล อายุ 17 ปี น.ส.เจสซ่า อายุ 16 ปี เด็กหญิงจิงเจอร์ อายุ 14 ปี เด็กชายโจ <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>เซฟ อายุ 13 ปี เด็กชายโจไซอาห์ อายุ 12 ปี เด็กหญิงจอย-แอนนา อายุ 11 ปี เด็กชายเจเรเมียห์ อายุ 9 ปี เด็กชายเจดิเดียห์ อายุ 9 ปี เด็กชายเจสัน อายุ 8 ปี เด็กชายเจมส์ อายุ 7 ปี เด็กชายจัสติน อายุ 6 ปี เด็กชายแจ๊กสัน อายุ 4 ปี เด็กหญิงโจแอนนาห์ อายุ 3 ปี และเด็กหญิงเจนนิเฟอร์ อายุ 1 ปี รวมพี่ชาย 10 คน พี่สาว 7 คน

แม้จะมีลูกดกอย่างนี้ แต่ครอบครัวดักการ์ก็อยากจะมีลูกอีก

พบกับครอบครัวดักการ์
<EMBED src=http://www.youtube.com/v/Fj1Lb6wO5T0&hl=en&fs=1 width=425 height=344 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>
<EMBED src=http://www.youtube.com/v/zvRVA8GiL08&hl=en&fs=1 width=425 height=344 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED>

[FONT=Tahoma,]หน้า 28[/FONT]

มีอีกก็ดีนะจะได้ตั้งทีมฟุตบอล 2 ทีมแข่งกันได้เลยดีจริงๆๆๆ

<CENTER>
</CENTER><!-- เริ่มความคิดเห็นท้ายข่าว --><!-- จบความคิดเห็นท้ายข่าว --><!--End Middle-->

 

อยากช่วยโลกก็ชวนกันรักษาศีลห้าวันธรรมดา
รักษาอุโบสถศีลวันอาทิตย์สิ
ชวนกันหลายๆ คน
ถ้าช่วยไม่ได้คนปฏิบิติจะมีความสุขนะ

 

เหตุไฟป่าครั้งรุนแรงในออสเตรเลียยุติลงแล้ว ​

​

ซิดนีย์ 4 มี.ค.- ทางการออสเตรเลียยืนยัน เหตุไฟป่าครั้งรุนแรงยุติลงแล้ว พร้อมบอกกล่าวให้ประชาชนหลายพันคนที่เคยละทิ้งบ้านเรือนช่วงที่เกิดไฟป่า สามารถเดินทางกลับที่พักได้อย่างปลอดภัย

เหตุไฟป่าครั้งร้ายแรงในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 210 คน แต่ล่าสุดหน่วยงานดับเพลิงของออสเตรเลียเริ่มลดภารกิจดับไฟป่าลงแล้ว เนื่องจากสภาพอากาศโดยรวมเย็นขึ้น เพราะมีฝนตกจึงทำให้ไฟป่าไม่แพร่ลามอีกต่อไป เปิดโอกาสให้หลายชุมชนในรัฐวิคตอเรียสามารถประกอบพิธีไว้อาลัยให้เหยื่อผู้เสียชีวิตจากไฟป่า รวมถึงฟื้นฟูสภาพบ้านเรือน โดยที่ไม่ต้องวิตกว่าจะถูกไฟป่าคุกคามอีกต่อไป

สถานการณ์ไฟป่าที่สงบลง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากรัฐอื่น และที่มาจากต่างประเทศ สามารถเดินทางกลับได้ ส่วนภารกิจค้นหาศพผู้เสียชีวิตจะยังดำเนินต่อไปอีก 3 สัปดาห์ โดยคาดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจะมีเพิ่มเติม ทันทีที่การพิสูจน์หลักฐานทางนิติเวชและกระบวนการค้นหาศพแล้วเสร็จ -สำนักข่าวไทย

2009-03-04 15:19:17

สภาพอากาศเลวร้ายในสเปนกระทบการจราจร​

​

สเปน 5 มี.ค. - พายุฤดูหนาวรุนแรงปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของสเปน ส่งผลกระทบต่อการจราจรทางบกและพื้นที่ริมชายฝั่ง

สเปนต้องตกอยู่ภายใต้การระวังภัยสภาพอากาศเลวร้าย หลังสำนักงานอุตุนิยมวิทยา เตือนว่าใน 42 จังหวัดทั่วประเทศ จะมีอุณหภูมิลดลง กระแสลมแรง และจะมีพายุฝน หรือหิมะตกอย่างหนัก โดยชายฝั่งตอนเหนือของสเปนมีการระวังภัยธรรมชาติที่ระดับสีส้ม คลื่นที่พัดเข้าสู่ชายฝั่งและท่าเรือมีความสูงถึง 8 เมตร เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางน้ำต้องเข้าช่วยเหลือชาย 2 คน ที่ตกลงไปในทะเลขณะทำงานอยู่ที่ท่าเรือแห่งหนึ่งในเมืองกาลิเซีย แต่ช่วยไว้ได้เพียงคนเดียว อีก 1 คน สูญหาย จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บอย่างเป็นทางการ

ส่วนในแถบเทือกเขาอัสตูเรียส สภาพอากาศที่เลวร้ายทำให้การจราจรเป็นอัมพาตหลังหิมะตกลงมาอย่างหนัก ส่วนที่กรุงมาดริด ต้องเผชิญกับกระแสลมแรง และยังคงมีความเสี่ยงสูงที่จะต้องเจอกับพายุหิมะ.-สำนักข่าวไทย

2009-03-05 10:16:49

เนเธอร์แลนด์คาดเครื่องวัดความสูงทำเครื่องบินตุรกีตก​

​

เนเธอร์แลนด์ 5 มี.ค. - เครื่องมือวัดระดับความสูงที่ทำงานผิดพลาด อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินโดยสารของตุรกีประสบอุบัติเหตุตกที่เนเธอร์แลนด์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ประธานคณะกรรมการด้านความปลอดภัยทางการขนส่งของเนเธอร์แลนด์ เผยว่า เครื่องบินโดยสารของสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ ลำดังกล่าว อยู่ในสถานะการบินแบบอัตโนมัติ (ออโตไพลอต) ขณะเตรียมร่อนลงจอดที่สนามบินสกีโพล ในกรุงอัมสเตอร์ดัม แต่เกิดความผิดพลาดที่เครื่องมือวัดระดับความสูง ทำให้เครื่องบินสูญเสียความเร็ว เครื่องยนต์หยุดทำงานกลางอากาศ ก่อนจะตกกระแทกพื้นหญ้า ห่างจากสนามบินราว 3 กม. ทำให้เครื่องบินหัก 3 ท่อน แต่ไม่เกิดเพลิงลุกไหม้ มีรายงานผู้เสียชีวิต 9 คน บาดเจ็บมากกว่า 80 คน

นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า เครื่องบินลำดังกล่าวเคยประสบเหตุขัดข้องที่เครื่องมือวัดระดับความสูงมาแล้ว 2 ครั้ง ก่อนเกิดอุบัติเหตุ. - สำนักข่าวไทย

2009-03-05 03:23:12

เจ้าหน้าที่ข่าวกรองยูเครนบุกค้นบริษัทก๊าซของรัฐบาล​

​

ยูเครน 5 มี.ค. - เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองยูเครน บุกตรวจค้นสำนักงานใหญ่ของ นาฟโตก๊าซ บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัฐบาลยูเครน

เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองยูเครนหลายนาย พร้อมอาวุธครบมือ สวมหน้ากากปิดบังใบหน้า บุกตรวจค้นที่ชั้น 3 ของอาคารสำนักงานใหญ่ของนาฟโตก๊าซ ในกรุงเคียฟ เพื่อหาหลักฐานกรณีที่มีการสืบสวนว่า นาฟโตก๊าซมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำก๊าซธรรมชาติจากท่อของรัสเซียที่ผ่านยูเครนไปใช้ คิดเป็นมูลค่า 880 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม ขณะที่โฆษกของนาฟโตก๊าซ ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

ทั้งนี้ นาฟโตก๊าซ มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ภายหลังรัสเซียระงับการส่งก๊าซผ่านท่อของยูเครนไปยังยุโรป เนื่องจากกล่าวหาว่า ยูเครนไม่ยอมจ่ายเงินค่าก๊าซที่ติดค้างรัสเซียอยู่ ทำให้หลายประเทศในยุโรปเดือดร้อน เนื่องจากไม่มีก๊าซใช้ให้ความอบอุ่นนานนับสัปดาห์. - สำนักข่าวไทย

2009-03-05 03:32:55

ทหารเม็กซิกันร่วมปราบปรามแก๊งค้ายาเสพติด ​

​

เม็กซิกัน 5 มี.ค. - ทหารเม็กซิกันกว่า 1,500 นาย เคลื่อนพลเข้าสู่เมืองซิวดัดฮัวเรซ เพื่อจัดการแก๊งค้ายาเสพติดที่ก่อเหตุรุนแรงไม่เว้นวันหวังยึดครองเมืองแห่งนี้

ทหารเม็กซิกันกว่า 1,500 นาย เดินทางเข้าสู่เมืองซิวดัดฮัวเรซ ใกล้พรมแดนสหรัฐ เพื่อช่วยสมทบกับทหารและตำรวจเกือบ 2,500 นาย ที่ประจำการอยู่ในเมืองนี้มาแล้วเกือบ 1 ปี แต่ก็ยังไม่สามารถจัดการกับแก๊งค้ายาเสพติดได้ ทำให้แก๊งต่าง ๆ ก่อเหตุรุนแรง หวังครองความยิ่งใหญ่ในเมือง ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญในการลำเลียงยาเสพติดข้ามพรมแดนไปยังสหรัฐ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตในปีที่แล้วกว่า 2,000 คน ขณะที่ในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เพียงเดือนเดียว มีผู้เสียชีวิตไป 250 คน คาดว่าจะมีเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจราว 7,000 นาย พร้อมประจำการที่เมืองซิวดัดฮัวเรซ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายโรแบร์โต ออร์ดูนา หัวหน้าตำรวจของเมืองนี้ ต้องยื่นใบลาออก หลังแก๊งค้ายาขู่จะสังหารตำรวจอย่างน้อย 1 คน ทุก ๆ 48 ชั่วโมง หากเขายังทำงานต่อไป. - สำนักข่าวไทย

2009-03-05 04:18:43

เกิดเหตุจลาจลในเรือนจำเม็กซิโก มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน​

​

เม็กซิโก 5 มี.ค. - แก๊งคู่อริก่อเหตุจลาจลภายในเรือนจำของเม็กซิโก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน

เหตุจลาจลดังกล่าวเกิดขึ้นที่เรือนจำของเมืองซิวดัด ฮัวเรซ เมืองชายแดนของเม็กซิโก โดยแก๊งคู่อริได้เข้าตะลุมบอนกันจนมีนักโทษเสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน บาดเจ็บอีก 7 คน ซึ่งบางคนมีบาดแผลจากการถูกยิงด้วย ทำให้ตำรวจต้องสืบสวนว่านักโทษนำอาวุธปืนเข้ามาในเรือนจำได้อย่างไร

ตำรวจปราบจลาจลราว 200 นาย และทหารอีก 50 นาย ต้องนำกำลังเข้าควบคุมเรือนจำหลังเกิดเหตุจลาจลได้ 3 ชั่วโมง เหตุจลาจลที่เกิดขึ้นนับเป็นเหตุรุนแรงที่สุดของเรือนจำแห่งนี้ ซึ่งมีนักโทษอยู่ทั้งหมด 730 คน.-สำนักข่าวไทย

2009-03-05 09:36:01

อิหร่านชี้โอบามาดำเนินนโยบายผิดพลาดด้าน ตอ.กลาง



​

อิหร่าน 5 มี.ค. - อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ระบุผู้นำสหรัฐกำลังอยู่บนเส้นทางที่ผิดพลาดในการดำเนินนโยบายต่อตะวันออกกลาง ไม่ต่างจากผู้นำคนก่อน

อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี ระบุในที่ประชุมว่าด้วยปัญหาปาเลสไตน์ ที่กรุงเตหะราน ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ กำลังเดินบนเส้นทางที่ผิดพลาดเหมือนที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เคยทำมาก่อน ด้วยการยึดมั่นในการผูกมิตรกับอิหร่าน ทั้งที่ประธานาธิบดีโอบามา เคยประกาศจะสร้างความเปลี่ยนแปลง รวมถึงจะเจรจากับอิหร่าน

อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี ระบุอีกว่า ผู้นำอิสราเอลควรถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดีตามกระบวนการยุติธรรม ภายหลังส่งกำลังทหารเข้ารุกรานฉนวนกาซา ซึ่งส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 1,000 คน พร้อมกับย้ำว่า เรื่องราวกาซาล้างเผ่าพันธุ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่อิสราเอลกล่าวอ้างมาโดยตลอด เป็นหนึ่งในเรื่องโกหกของยุคนี้. - สำนักข่าวไทย

2009-03-05 04:08:20

นายกรัฐมนตรีจีนยืนยัน วิกฤติการเงินจะยิ่งแพร่ลามและเลวร้ายหนักขึ้น​

​

ปักกิ่ง 5 มี.ค.- นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ของจีน ยืนยันวิกฤติการเงินโลกจะยิ่งแพร่ลามและทวีความเลวร้ายหนักขึ้น และปีนี้จะเป็นปีที่จีนเผชิญความยากลำบากมากที่สุดในศตวรรษนี้ โดยมีสาเหตุมาจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก

ถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า มีขึ้นระหว่างการเปิดประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนในวันนี้ ซึ่งผู้นำจีนก็หวังว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจจะช่วยสร้างงานได้อีก 9 ล้านตำแหน่ง ในหลายเมือง และจะเพิ่มงบประมาณรายจ่ายให้รัฐบาลท้องถิ่นอีกเกือบร้อยละ 25

สภาพเศรษฐกิจฝืดเคือง ส่งผลให้ชาวจีนชนบทที่เข้ามาหางานทำในตัวเมืองตกงานไปแล้ว 20 ล้านคน และคาดว่า จะมีตำแหน่งงานหายไปมากกว่านี้ เนื่องจากภาคการส่งออกของจีนซบเซา และขณะนี้ รัฐบาลจีนก็กำลังหารือที่จะเพิ่มงบกระตุ้นเศรษฐกิจ จากที่เคยเผยงบกระตุ้นเศรษฐกิจไปแล้ว 4 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 21 ล้านล้านบาท เมื่อเดือนพฤศจิกายน. -สำนักข่าวไทย

2009-03-05 12:11:50

ไวรัสตับอักเสบบีระบาดในอินเดียจากการใช้เข็มฉีดยาติดเชื้อ​

​

อาห์มาดาบัด,อินเดีย 5 มี.ค.-เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอินเดียเผยว่า คณะสอบสวนในรัฐคุชราต ทางตะวันตกของประเทศที่สอบสวนเหตุเชื้อไวรัสตับอักเสบบีระบาดจากกระบอกฉีดยาติดเชื้อ ได้เปิดโปงการลักลอบนำอุปกรณ์การแพทย์หลายร้อยตันที่ใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ำอย่างผิดกฎหมาย
​

เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ระบุว่า ทางการรัฐคุชราต ได้เริ่มการสอบสวนเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน หลังพบโรคไวรัสตับอักเสบบีแพร่ระบาด คร่าชีวิตผู้คนไป 56 คน และล้มป่วยอีกกว่า 100 คน จากการสอบสวนพบว่า ต้นตอของการแพร่เชื้อมาจากกระบอกฉีดยาติดเชื้อ ดังนั้น จึงบุกจู่โจมคลินิก โรงพยาบาลเอกชน ห้องทดลองในเขตโมดาซา ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรค และพบการนำอุปกรณ์การแพทย์ใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ำอย่างแพร่หลาย

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงพบอุปกรณ์การแพทย์ใช้แล้วกว่า 300 ตันในโกดังแห่งหนึ่ง ของที่พบส่วนใหญ่เตรียมนำออกขายอีกครั้ง โดยในเมืองอาห์มาดาบัด เมืองเอกของรัฐคุชราตพบโกดังหลายแห่งถูกใช้เป็นสถานที่คัดแยก ทำความสะอาด และบรรจุอุปกรณ์การแพทย์หลายชนิดสำหรับนำออกจำหน่ายอีกครั้ง อุปกรณ์ที่พบมีทั้งหลอด และเข็มฉีดยา ขวดน้ำเกลือ และขวดบรรจุยา

การค้บพบครั้งนี้นำไปสู่การจับกุมแพทย์อย่างน้อย 20 คน ในความผิดฐานใช้ หรือซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้แล้ว แพทย์ 2 คนในจำนวนนั้นซึ่งมีความเกี่ยวพันเป็นพ่อและลูกชาย ซึ่งทางการเชื่อว่า เป็นผู้แพร่เชื้อไวรัสตับตับอักเสบสู่คนไข้อย่างน้อย 12 คน จากการใช้กระบอกฉีดยาซ้ำกับคนไข้หลายคนถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม

เชื้อไวรัสตับอักเสบบี อาจทำให้ผู้ติดเชื้อป่วยเป็นโรคตับ และมะเร็ง เชื้อไวรัสชนิดนี้ถ่ายทอดสู่กันทางโลหิต น้ำอสุจิ และจากการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน. -สำนักข่าวไทย

2009-03-05 12:53:03

ที่มา http://news.mcot.net

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เกาหลีเหนือขู่สอยเครื่องบินพาณิชย์เกาหลีใต้ทุกลำที่เฉียดใกล้ชายแดน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>6 มีนาคม 2552 01:27 น</TD></TR></TBODY></TABLE>

(ไฟล์ภาพ) ทหารเกาหลีเหนือทดสอบยิงจรวด ณ สถานที่แห่งหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผย

​

เอเจนซี - เกาหลีเหนือเตือนเมื่อวันพฤหัสบดี(5) ว่าอาจสอยเครื่องบินพาณิชย์ของเกาหลีใต้ ที่บินเฉียดใกล้อาณาเขตของพวกเขา ในช่วงปฏิบัติการซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีใต้ สัปดาห์หน้า ยกระดับคำขู่ต่อชาติเพื่อนบ้านอีกระลอกและเพิ่มความตึงเครียดให้กับภูมิภาคอีกครั้ง

"เราไม่รับประกันความปลอดภัยสำหรับเครื่องบินพลเรือนของเกาหลีใต้ที่บินผ่านน่านฟ้าของเราหรือพื้นที่ใกล้เคียง...โดยเฉพาะเหนือทะเลทางตะวันออกของเกาหลี(ทะลญี่ปุ่น) ระหว่างที่พวกเขากำลังดำเนินการซ้อมรบ" สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนืออ้างคำแถลงของเจ้าหน้าที่รัฐบาลรายหนึ่ง

เจ้าหน้าที่จาก 2 สายการบินหลักของเกาหลีใต้ โคเรียนแอร์และเอเชียนา แอร์ไลน์ส บอกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงเส้นทางการบินให้ห่างจากน่านฟ้าของเกาหลีเหนือ สำนักข่าวยอนฮับของโสมขาวรายงาน

เกาหลีใต้และสหรัฐฯ มีกำหนดจัดซ้อมรบร่วมมาหลายปีโดยปราศจากเหตุการณ์สำคัญ ซึ่งทางเกาหลีเหนือมักออกมาประณามการซ้อมรบประจำปีนี้ว่า "ปฏิบัติการโหมโรงก่อนรุกรานและสงครามนิวเคลียร์" โดยในปีนี้จะมีขึ้นระหว่าง 9-20 มีนาคม

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาประเทศคอมมิวนิสต์ ได้เพิ่มความตึงเครียดขึ้นด้วยการขู่ว่าจะโจมตีเกาหลีใต้และเตรียมการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล

ขีปนาวุธแตโปดอง 2 ถูกพัฒนาเพื่อให้ได้พิสัยยิงถึง 6,700 กิโลเมตร ซึ่งไกลพอที่จะพุ่งสู่เป้าหมายในมลรัฐอะแลสกาของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาการทดสอบยังไม่ประสบความสำเร็จ

ทางการเกาหลีเหนือระบุว่าเตรียมจะยิงดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรด้วยจรวดที่สร้างขึ้นเองและยืนยันว่าพวกเขามีสิทธิ์ดำเนินโครงการดังกล่าวเพราะมันเป็นโปรแกรมเพื่อสันติภาพ อย่างไรก็ตามภายใต้มาตการคว่ำบาตรของสหประชาชาติได้ห้ามเปียงยางทดสอบขีปนาวุธใดๆ

บรรดานายพลของเกาหลีเหนือ จะเข้าเจรจาทางทหารกับผู้บัญชาการกองทัพสหประชาชาติที่นำโดยสหรัฐฯอีกครั้งในวันศุกร์(6) หลังจากพบปะกันครั้งแรกในรอบ 7 ปีไปแล้วเมื่อวันจันทร์(2) โดยการหารือครั้งนั้นเกาหลีเหนือ ได้ร้องทุกข์เกี่ยวกับทหารสหรัฐฯที่เคลื่อนเข้าใกล้ชายแดนและใช้กระสุนจริงในปฏิบัติการซ้อมรบร่วม

สหรัฐฯ ได้ส่ง สตีเฟน บอสเวิร์ธ ทูตพิเศษเจรจานิวเคลียร์เกาหลีเหนือคนใหม่มายังภูมิภาคในสัปดาห์นี้ เพื่อเจรจายับยั้งการเคลื่อนไหวยั่วยุใดๆจากเปียงยางและเรียกร้องให้โสมแดงคืนสู่โต๊ะหารือล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000025636​

 

*** ตัวอย่างสัจจะทำ หาได้ยากยิ่งนัก ****

ขุนนาง....ต้องรักษาสัจจะ ที่มีต่อตนเองและกษัตริย์
นักการเมือง...ต้องรักษาสัจจะ ที่มีต่อตนเองและประชาชน
เมื่อ ประชาชน....อยู่ภายใต้ความกลัวอิทธิพล
พระพุทธเจ้า...ไม่สามารถโปรดเทศนาสัจจะทำ ต่อบุคคลที่มีความกลัวได้

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ความกลัวความวิตก เป็นอุปสรรคเรียนรู้ในสัจจะทำของพระพุทธเจ้า ****

อรรถกถา อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เอตทัคคบาลี
วรรคที่ ๔
หน้าต่างที่ ๒ / ๑๒.

อรรถกถาสูตรที่ ๒
ประวัติ พระอุรุเวลกัสสปเถระ


.......พระศาสดาทรงพาสมณะ ๑,๐๐๐ รูปนั้น ไปยัง คยาสีสประเทศ ประทับนั่งบนหลังแผ่นหิน ทรงตรวจดูว่า คนเหล่านี้บวชบำเรอไฟ ควรจะแสดงภพทั้งสาม ให้เป็นเสมือนเรือนไฟไหม้แก่คนเหล่านี้ จึงทรงแสดงอาทิตตปริยายสูตร. จบเทศนา ก็บรรลุพระอรหัตหมดทุกรูป.
พระศาสดามีภิกษุชฎิลเหล่านั้นแวดล้อม ทรงทราบถึงปฏิญญาที่ถวายไว้แด่พระเจ้าพิมพิสารตามลำดับ เสด็จถึงพระราชอุทยานลัฏฐิวัน กรุงราชคฤหถ์ พระราชาทรงทราบว่าพระทศพลเสด็จมาถึงแล้ว ก็พร้อมด้วยพราหมณ์และคฤหบดีสิบสองนหุต เสด็จเข้าไปเฝ้าพระศาสดา ถวายบังคับแล้ว ประทับนั่ง ณ ที่สมควรข้างหนึ่ง.

พระศาสดาทรงตรวจดูบริษัททั้งหมด ทรงเห็นมหาชนทำความนอบน้อม อุรุเวลกัสสป ทรงพระดำริว่า คนเหล่านี้ไม่รู้ว่าเรา หรือ กัสสป เป็นใหญ่ ขึ้นชื่อว่าเหล่าชนที่มีวิตก ไม่อาจรับเทศนาได้ จึงได้ประทานสัญญา(ณ) แก่พระเถระว่า กัสสปเธอจงตัดความวิตกของเหล่าอุปัฏฐากของเธอเสีย.
พระเถระ รับพระดำรัสของพระศาสดา แล้วลุกจากอาสนะ ถวายบังคมพระศาสดาด้วยเบญจางคประดิษฐ์ เหาะขึ้นสู่อากาศประมาณชั่วต้นตาล แสดงฤทธิต่างๆ ประกาศว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเป็นศาสดาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์เป็นสาวก ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเป็นศาสดาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์เป็นสาวก แล้วลงมาถวายบังคมพระยุคลบาทพระทศพล โดยอุบายนั้น ครั้งที่ ๗ เหาะขึ้นสู่อากาศ ๗ ชั่วต้นตาล แล้วถวายบังคมพระยุคลบาทของพระทศพล นั่ง ณ ที่สมควรข้างหนึ่ง.
เวลานั้น มหาชนหมดวิตกในพระศาสดาว่า ท่านผู้นี้เป็นมหาสมณะในโลก.
ลำดับนั้น พระศาสดาจึงทรงแสดงธรรมโปรด. จบเทศนา พระราชาพร้อมด้วยพราหมณ์และคฤหบดี สิบเอ็ดนหุต ดำรงอยู่ในพระโสดาปัตติผล นหุตหนึ่งประกาศตนเป็นอุบาสก.......


http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=149&p=2

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ต้อนรับสัจจะทำพุทธเจ้า ****

http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y7476427/Y7476427-0.jpg

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ทันทีที่มีการคิดจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ นั่นก็คือการก่อสงครามนิวเคลียร์ขึ้นมา

​

​

​

นิวเคลียร์ นิยามบทใหม่พลังงานทางเลือก?
6 สิงหาคม 2549
เรื่องโดย : ธีรมล บัวงาม สำนักข่าวประชาธรรม

 

เคอร์ฟิวส์
​

<TABLE class=tborder id=post446530 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>The Third Eyes<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_446530", true); </SCRIPT>

สมาชิก



วันที่สมัคร: Mar 2005
ข้อความ: 1,061
Groans: 0
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 224
ได้รับอนุโมทนา 30,176 ครั้ง ใน 1,319 โพส
<IF condition="">
</IF>พลังการให้คะแนน: 3390 ​

</TD><TD class=alt1 id=td_post_446530 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ถ้าฝันไม่ผิด......

คนกรุงเทพไม่ได้พบ เคอร์ฟิวส์มาหลายปีแล้ว เคอร์ฟิวส์ คือ การห้ามออกนอกบ้าน ระหว่าง 18.00 - 6.00 น.

เราเคยเจอครั้งสุดท้ายเมื่อ หลายสิบปีมาแล้วคนรุ่นหลังคงจะไม่ได้เจอ เลยไม่รู้จัก

เราอาจจะต้องเจอ เคอร์ฟิวส์ และเราจะต้องกลับบ้านเลิกงานเร็วขึ้น เพื่อให้เข้าบ้านให้ทัน หกโมงเย็น

ผลที่จะเกิด​

ผู้คนจะแห่เข้าซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อซื้ออาหารแห้งตุนไว้ เพราะตลาดธรรมดาจะมีปัญหา เปิดขายไม่ได้ รถขนของวิ่งไม่ได้ ปากคลองตลาด ต้นทางส่งผักจะหยุด ของจะเกลี้ยง ซุปเปอร์มาร์เก็ตโดยเร็ว โดยเฉพาะพวก มาม่า น้ำปลา อาหารกระป๋อง ฯลฯ

เขตอันตราย

เขตที่น่าจะหลีกเลี่ยง สมุทรปราการ ป้อมพระจุล คลองเตย ช่องนนทรี สีลม บางรัก

ผมฝันทั้งนั้นเลยเอาความฝันมาเล่าให้ฟังอย่าซีเรียสครับ ฝันอย่าเป็นจริงเลย เดี๋ยว..ยุ่งตาย​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=65426 ​

ประวัติศาสตร์ย่อมซ้ำรอยเสมอ
โดย อ.อาชวิน (ตาที่สาม)


ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต​

พุทธศักราช 2551 คนไทยอ่อนแอ แตกสามัคคี แบ่งแยกกันเป็นก๊กเป็นเหล่าเป็นพวก เหมือนก่อนกรุงศรีอยุธยาแตกไม่ผิดเพี้ยน

เมื่อเทียบกับ ยุคของกรุงศรีอยุธยา นี่คือกรุงกำลังจะแตกแล้ว โดยข้าศึกที่มี เขมรรวมกับชาติมหาอำนาจ ที่จัดตั้งมาจากกรรมการมรดกโลก เป็นการบุกเข้า ยึดตีกรุงอีกครั้ง

ทุกครั้งที่สยามอ่อนแอ เขมรจะมาตีท้ายครัวเสมอ พระนเรศวรเมื่อปราบพม่าเสร็จ ก็ยกทัพทหารไปตีเขมร เมื่อ ร.1 ขึ้นครองราชก็ยกพลไปตีเขมรแตกอีก

ใน พ.ศ 2551 - 2552 กรุงแตก จะมาซ้ำรอยอีกครั้ง

อีกสี่ปีข้างหน้าก็จะตึเขมรแตกอีก ประวัติศาสตร์ย่อมซ้ำรอยเสมอ

ที่มา http://www.thaimisc.com/freewebboard...cha&topic=1003

*** เมขลาล่อแก้ว ****

คือ ไปล่อสายฟ้าอาวุธร้าย มาเข้าแผ่นดินตนเอง
เมขลา ไม่รู้ว่าเขาหลอก เขาใช้
ให้มาทำลายตัวเอง ทำลายบ้านตัวเอง
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ช่วยไม่ได้ เพราะไม่เอาสัจจะ
กรรม จากตัวเราเองทั้งนั้น

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
วันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๒

*** ศตวรรษ ๑ โคลงที่ ๓๒ ****

*** โอ้ชะตาฟ้าลิขิต ****

La grand empire sera tost translate