ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ภาพล้อเลียนประธานาธิปดี "โอบามา" ที่วางนโยบายเดินตามรอยของประธานาธิปดี "ลินคอล์น"

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภาพจากทางอินเตอร์เน็ต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อุบลราชธานีประกาศเป็นเขตภัยพิบัติแล้งรุนแรงทั้งจังหวัดแล้ว

    [​IMG]

    อุบลราชธานี 7 มี.ค.-เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานีประกาศให้พื้นที่ทั้งจังหวัดเป็นเขตภัยพิบัติแล้งกรณีฉุกเฉิน เพื่อขอความช่วยเหลือปฏิบัติการฝนหลวง ขณะที่ชาวบ้านเดือดร้อนหนักต้องขาดแคลนอาหารจากธรรมชาติและน้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภค

    นายสวาท สุทธิอาคาร เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่าได้ประกาศให้จังหวัดอุบลราชธานี ทั้ง 24 อำเภอ 165 ตำบล 1,756 หมู่บ้าน 660,235 ครัวเรือน เป็นเขตภัยพิบัติแล้งกรณีฉุกเฉิน ต้องได้รับความช่วยเหลือด้านน้ำกินน้ำใช้ เพราะฝนทิ้งช่วง ทำให้แหล่งเก็บกักน้ำขนาดเล็กและขนาดกลางตามหมู่บ้านเริ่มแห้งขอด ซึ่งการช่วยเหลือได้ประสานสำนักฝนหลวงและหน่วยบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาตั้งฐานปฏิบัติการทำฝนหลวง ซึ่งนักฝนหลวงจะเริ่มเปิดฐานปฏิบัติการทำฝนหลวงในวันที่ 13 มีนาคมนี้ ที่สนามบินกองพลบินที่ 2 กองบินที่ 21

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความแห้งแล้งที่เกิดเป็นวงกว้างในจังหวัด ส่งผลให้ประชาชนตามชนบทขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ ต้องซื้อน้ำจากรถขายน้ำถังละ 3 บาท และยังขาดแคลนอาหารใช้บริโภค เนื่องจากสภาพลำน้ำและป่าที่เป็นแหล่งอาหารถูกความแห้งแล้งทำลาย ทำให้หาของกินจากป่าของหมู่บ้านยากขึ้น ด้านการช่วยเหลือเบื้องต้นหน่วยงานบรรเทาทุกข์ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุบลราธานี ได้นำรถบรรทุกน้ำตระเวนแจกจ่ายไปตามหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้ง รุนแรง แต่ไม่สามารถทำได้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์บรรทุกน้ำ แจกจ่ายมีไม่เพียงพอ. -สำนักข่าวไทย

    2009-03-07 11:30:50

    ลำน้ำมูลช่วงบุรีรัมย์เหือดแห้ง วิกฤติหนักสุดในรอบ 10 ปี

    [​IMG]

    บุรีรัมย์ 7 มี.ค.-ลำน้ำมูลแล้งวิกฤติหนักที่สุดในรอบ 10 ปี ชาวบ้าน 4 หมู่บ้านที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ต้องช่วยกันใช้กระสอบทรายกั้นลำน้ำไว้เพื่อผลิตน้ำประปา เรียกร้องให้ภาครัฐเร่งจัดสรรงบประมาณทำเขื่อนหรือฝาย เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้น้ำในแม่น้ำมูลที่ไหลผ่านจังหวัดบุรีรัมย์ เหือดแห้งและวิกฤติหนักที่สุดในรอบ 10 ปี ทำให้ชาวบ้านต้องนำกระสอบมาบรรจุทรายวางกั้นลำน้ำมูล เพื่อกันไว้ผลิตประปาใช้ อุปโภคบริโภคใน 4 หมู่บ้าน ในหมู่ 1 หมู่ 3 หมู่ 10 และหมู่ 11 กว่า 500 หลังคาเรือนตลอดช่วงฤดูแล้ง และวิกฤติดังกล่าว ยังส่งผลกระทบกับเกษตรกรที่มีอาชีพปลูกพืชผักและเลี้ยงปลาในกระชัง ต้องชะลอการเลี้ยง หันไปรับจ้างและทำอาชีพอื่นแทน อีกทั้งยังกระทบกับเกษตรกรผู้ทำนาปรังใน 11 หมู่บ้าน ไม่สามารถที่จะสูบน้ำในลำน้ำมูลขึ้นไปทำการเกษตรได้อย่างเช่นทุกปีที่ผ่านมา เพราะเกรงว่าจะไม่มีน้ำเหลือใช้ในการอุปโภคบริโภค

    นายไชยรักษ์ โยงรัมย์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ท่าม่วง เรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาสำรวจพร้อมจัดสรรงบประมาณ เพื่อก่อสร้างเขื่อนหรือฝายยางกักเก็บน้ำลำน้ำมูลไว้เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านและเกษตรกรมีน้ำไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านต้องประสบปัญหาภัยแล้งมานานกว่า 10 ปีแล้วถึงแม้จะมีการร้องขอความช่วยเหลือไปหลายหน่วยงาน แต่ก็ยังไม่มีใครเข้ามาดำเนินการแต่อย่างใด. -สำนักข่าวไทย

    2009-03-07 11:23:35

    ภัยแล้งลามถึงใต้ คนกรีดยางที่นราธิวาสว่างงานกว่า 40,000 คน

    [​IMG]

    นราธิวาส 7 มี.ค.-ผลกระทบภัยแล้งลามถึงจังหวัดนราธิวาส ส.ส.ในพื้นที่ระบุมีคนกรีดยางว่างงานแล้วกว่า 40,000 คน และบางส่วนต้องไปขายแรงงานในประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่จังหวัดเผยมีชาวบ้านแจ้งลงทะเบียนว่างงานไว้ 4,000 คน สาเหตุเพราะปีนี้ยางพาราผลัดใบเร็วกว่าทุกปี

    นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จากปัญหาภัยแล้งทำให้ต้นยางพาราผลัดใบเร็วกว่าทุกปี ส่งผลให้ขณะนี้มีชาวบ้านว่างงานและขาดรายได้ เพราะหยุดกรีดยางกันแล้วเป็นจำนวนมากจึงได้สั่งการให้นายอำเภอทั้ง 13 อำเภอ เร่งสำรวจเพื่อหาจำนวนที่ชัดเจนว่า ในพื้นที่มีปริมาณคนว่างงานจำนวนเท่าไร เพื่อจะได้ช่วยเหลือเยียวยาในรูปของการสร้างอาชีพเสริมให้กับชาวบ้านได้ตรงจุดมากขึ้น เบื้องต้นได้รับแจ้งรายงานจากสำนักงานจัดหางาน จังหวัดนราธิวาส ว่า มีชาวบ้านมาแจ้งถึงอัตราการว่างงานแล้วว่ากว่า 4,000 คน

    ด้านนพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ ส.ส.นราธิวาส เขต 1 พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า จากการออกพบปะกับชาวบ้าน พบว่าช่วงนี้ชาวบ้านกรีดยางพาราไม่ได้ว่างงานกันแล้วมากกว่า 40,000 คน ทำให้ชาวบ้านส่วนหนึ่งต้องเดินทางไปขายแรงงานอย่างผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน จึงอยากให้มีการสร้างอาชีพเสริมรายได้กับชาวบ้านอย่างเร่งด่วน เช่น สนับสนุนให้ชาวบ้านเลี้ยงแพะ เพื่อนำนมแพะมาเป็นนมโรงเรียนก็ยังสามารถแก้ปัญหาเรื่องนมโรงเรียนขาดคุณภาพได้อีกทางหนึ่งด้วย. -สำนักข่าวไทย

    2009-03-07 18:36:58

    คนร้ายโหดฆ่าเผาศพชาวบ้าน 2 พี่น้อง กลางชุมชนที่ปัตตานี

    [​IMG]

    ปัตตานี 7 มี.ค. - ตำรวจตรวจสภาพศพนายอรุณ สุดมาส อายุ 40 ปี นักการภารโรง โรงเรียนชุมชนวัดป่าสี และนายหิรัญ สุดมาส อายุ 36 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ตำบลตะโล๊ะ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี สภาพศพถูกเผาไหม้เกรียม

    สอบสวนทราบว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพัก เพื่อเดินทางไปเรียนที่วิทยาลัยชุมชนในตัวเมืองปัตตานี โดยใช้เส้นทางถนนสาย 410 ปัตตานี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2009
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สิ่งที่ตาเรามองเห็น มันอาจจะไม่ใช่ความจริงเสมอไป....

    ภาพวาด 3 มิติ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2009
  4. solarman

    solarman สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +20
    แผนที่โลกใหม่หลังแกนโลกเอียง

    นี่เป็นวงโคจรของ planet x และแผนที่โลกหลังจากแกนโลกเอียง (pole shift) เนื่องจากสนามแม่เหล็กของ planet x ซึ่งเป็น brown dwarf มีความเข้มมากกว่าดวงอาทิตย์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2009
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ออสเตรเลียเตรียมรับมือพายุไซโคลนฮามิช

    [​IMG]

    ออสเตรเลีย 8 มี.ค.-เจ้าหน้าที่หน่วยงานฉุกเฉินของออสเตรเลียเตรียมพร้อมรับมือกับไซโคลนฮามิช ที่กำลังจะพัดถล่มหมู่เกาะในรัฐควีนส์แลนด์

    รัฐบาลกลางออสเตรเลียได้สั่งการให้กองทัพเตรียมพร้อมหากไซโคลนฮามิชพัดถล่มแผ่นดินใหญ่ ขณะนี้พายุลูกดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากหมู่เกาะวิธซันเดย์ทางตะวันออกเฉียงเหนือ นอกชายฝั่งรัฐควีนส์แลนด์ 145 กิโลเมตร สำนักงานพยากรณ์อากาศรายงานว่า ไซโคลนฮามิชจะมีความรุนแรงเทียบเท่ากับไซโคลนลารี ที่เคยพัดถล่มเมื่อปี 2549

    คาดว่าจะทำให้มีกระแสลมแรงจัด เกิดคลื่นขนาดใหญ่ และน้ำทะเลเพิ่มระดับ ขณะนี้หมู่เกาะ 2 แห่งทางเหนือของรัฐควีนส์แลนด์มีการอพยพประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัย แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหาย และคาดว่าไซโคลนฮามิช จะพัดขึ้นฝั่งออสเตรเลียในอีก 2 วันข้างหน้านี้.-สำนักข่าวไทย

    2009-03-08 10:37:21

    รัฐควีนสแลนด์ของออสเตรเลีย อพยพนักท่องเที่ยวหนีพายุไซโคลน

    [​IMG]

    ซิดนีย์ 8 มี.ค.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เหตุมียุงมากขึ้น ไข้ปวดข้อระบาด

    [​IMG]


    จากกรณีที่มีการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ถึงการระบาดของ โรคชิคุนกุนยา อย่างหนักในพื้นที่ภาคใต้ ต่อมาเมื่อวันที่ 7 มีนาคม นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ได้นำทีมลงพื้นที่ดูสถานการณ์โรคไข้ชิคุนกุนยา ในพื้นที่ จ.ภาคใต้ พร้อมเปิดเผยว่า นับตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม-6 มีนาคมปีนี้ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขต 12 ได้รับรายงานผู้ป่วยโรคชิคุนกุนยาสะสมทั้งสิ้น 9,593 ราย และไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต โดยพบผู้ป่วยสูงสุดในเดือนมกราคม 2552 จำนวน 4,924 ราย และเดือนกุมภาพันธ์ 4,547 ราย โดยจังหวัดที่พบผู้ป่วยสูงสุดคือ นราธิวาส มีผู้ป่วยทั้งสิ้น 4,950 ราย ขณะที่ปัตตานี มี 876 ราย ยะลา 200 ราย สงขลา 1,987 ราย พัทลุง 10 ราย และตรัง 1 ราย

    อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวด้วยว่า กรมควบคุมโรคไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์โรคชิคุนกุนยาที่เกิดขึ้น โดยตลอดระยะเวลาที่ได้รับรายงานผู้ป่วยได้มีการลงพื้นที่ถึง 5 ครั้ง เพื่อควบคุมโรค แต่สาเหตุที่ทำให้โรคมีการระบาดอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งมาจากปริมาณยุงที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งโรคนี้มีลักษณะอาการไม่เหมือนไข้เลือดออก โดยมีอาการเด่น คือ ไข้สูงเฉียบพลัน และอาการปวดข้อทำให้ผู้ป่วยไม่ค่อยรู้ว่าตนเองเป็นโรคนี้

    อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยด้วยโรคนี้ ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต แต่จะทรมานจากอาการปวดข้อซึ่งจะเป็นอยู่นานกว่า 2-3 เดือน แม้ว่าไข้ลดแล้วก็ตาม ล่าสุดได้สั่งให้ทีมเฝ้าระวังโรคดำเนินการเชิงรุก ประชาสัมพันธ์กับชาวบ้านว่า หากมีอาการไข้และปวดตามข้อ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สถานีอนามัย เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือ อสม.ในหมู่บ้านทันที เพื่อดำเนินการควบคุมป้องกันโรคได้ทันท่วงที พร้อมยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ปกปิดข้อมูล และมีการรายงานสถานการณ์ให้กรรมาธิการสาธารณสุข ทั้งของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ทราบหลายครั้ง โดยโรคนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่จะรู้จักในชื่อ "ไข้ญี่ปุ่น" หรือ "โรคไข้ปวดข้อ" เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ "ชิคุนกุนยา" และติดต่อโดยยุงลายสวนและยุงลายบ้านเพศเมีย ซึ่งมักกัดในเวลากลางวัน

    ด้าน นพ.วิชัย สติมัย ผอ.สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กล่าวว่า ปัจจุบันยุงทุกชนิดมีวงจรชีวิตที่เปลี่ยนไป ซึ่งเดิมจากไข่เป็นลูกน้ำและเป็นยุงใช้เวลา 8-14 วัน แต่ปัจจุบันใช้เวลาเพียง 7-10 วัน

    และยุงจะตัวเล็ก ทำให้หิวบ่อย และดูดเลือดบ่อยขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสของการแพร่เชื้อโรคมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ การคมนาคมที่สะดวกก็ทำให้คนที่มีเชื้อแต่ไม่มีอาการ เดินทางจากพื้นที่หนึ่งไปอีกพื้นที่หนึ่ง และเมื่อไปถูกยุงในพื้นที่อื่นกัดก็ยิ่งทำให้การแพร่ระบาดของโรคเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น

    ข่าวจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

    ที่มา http://hilight.kapook.com/view/34608
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • yung.jpg
      yung.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23.6 KB
      เปิดดู:
      2,084
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พืชไล่ยุง

    [​IMG]

    มะกรูด ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus hystri

    ลักษณะ มะกรูดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ใบหนาและมีรอยคอดตรงกลาง ดอกสีขาว ผิวของผลมะกรูดขรุขระเป็นปุ่มปมทั้งลูก น้ำในลูกมีรส เปรี้ยว มีหนามแหลมยาวตามลำต้นและกิ่ง
    ส่วนที่ใช้ ผล
    วิธีใช้ นำผิวของผลมะกรูดสดมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำมาโขลกผสมกับน้ำโดยใช้อัตราส่วน 1 ต่อ 1 แล้วกรองเอาแต่ส่วนที่เป็นน้ำมาใช้

    ไพลเหลือง ชื่อวิทยาศาสตร์ Zingiber cassumunar

    ลักษณะ ไพลเหลืองเป็นพืชหัว หัวเป็นแง่งโตติดกันเป็นพืด ใบเล็กยาว ปลายแหลม
    ส่วนที่ใช้ หัว
    วิธีใช้ นำหัวไพลเหลืองสดมาโขลกผสมกับน้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 แล้วกรองเอาแต่ ส่วนที่เป็นน้ำมาทาผิวหนัง แต่มีข้อเสียคือทำให้ผิวหนังติดสีเหลืองล้างออกยาก

    สะระแหน่ ชื่อวิทยาศาสตร์ Mentha arversis

    ลักษณะ สะระแหน่เป็นพืชเลี้อยตามพื้นดิน ลำต้นสีแดงเข้ม ใบกลมขนาด หัวแม่มือ ใบค่อนข้างหนา ริมใบหยักโดยรอบและมีกลิ่นหอม
    ส่วนที่ใช้ ใบ
    วิธีใช้ ขยี้ใบสะระแหน่สดทาถูที่ผิวหนังโดยตรง

    กระเทียม ชื่อวิทยาศาสตร์ Allium sativum

    ลักษณะ กระเทียมเป็นพืชหัว ประกอบด้วยกลีบเล็กๆ เกาะกัน โดยมีเยื่อ บางๆ สีขาวหุ้มหัวไว้เป็นชั้นๆ ใบยาว แข็งและหนา ดอกเป็นช่อ เล็กๆ สีขาวรวมกันเป็นกระจุกอยู่ที่ปลายก้านดอก
    ส่วนที่ใช้ หัว
    วิธีใช้ นำหัวกระเทียมสดมาโขลกผสมกับน้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 แล้ว กรองเอาแต่ส่วนที่เป็นน้ำมาทาผิวหนัง หรือจะใช้หัวกระเทียมสด ทาถูที่ผิวหนังโดยตรงก็ได้

    กะเพรา ชื่อวิทยาศาสตร์ Ocimum sanotum

    ลักษณะ กะเพราเป็นไม้พุ่มเตี้ย ลำต้นและใบมีขนปกคลุม ปลายใบแหลม ที่ นิยมปลูกตามบ้านมี 2 ชนิด คือ กะเพราขาว ใบสีเขียว และ กะเพราแดง ใบมีสีออกแดงเลือดหมู
    ส่วนที่ใช้ ใบ
    วิธีใช้ ขยี้ใบสดหลายๆ ใบวางไว้ใกล้ตัว กลิ่นน้ำมันกะเพราที่ระเหยออก มาจากใบจะช่วยไล่ยุงไม่ให้เข้ามาใกล้ หรือจะขยี้ใบสดแล้วทาถูที่ ผิวหนังโดยตรงก็ได้ แต่กลิ่นน้ำมันกะเพรานี้ระเหยหมดไปค่อนข้างเร็ว จึงควรหมั่นเปลี่ยนบ่อยครั้ง

    ว่านน้ำ ชื่อวิทยาศาสตร์ Acorus calamus

    ลักษณะ ว่านน้ำเป็นพืชที่ขึ้นอยู่ตามริมหนองน้ำหรือบริเวณที่ชื้นแฉะ เหง้า เป็นเส้นกลมหนา สีขาวออกม่วง เจริญงอกงามตามยาวขนานกับ ผิวดิน รากเล็กเป็นฝอย ใบแตกจากเหง้า ลักษณะเป็นเส้นตรง ปลายใบแหลม ผิวใบเรียบ เห็นเส้นกลางใบชัดเจน ช่อดอกทรง กระบอกสีเหลืองออกเขียว
    ส่วนที่ใช้ เหง้า
    วิธีใช้ หั่นเหง้าสดเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำมาโขลกผสมกับน้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 กรองเอาแต่ส่วนที่เป็นน้ำมาใช้ทาผิวหนัง

    แมงลัก ชื่อวิทยาศาสตร์ Ocimum citratum

    ลักษณะ แมงลักเป็นพืชล้มลุก สูงประมาณ 60-70 เซนติเมตร ดอกสีขาว เป็นช่ออยู่ปลายกิ่ง
    ส่วนที่ใช้ ใบ
    วิธีใช้ ขยี้ใบสดทาถูที่ผิวหนัง

    ตะไคร้หอม ชื่อวิทยาศาสตร์ Cymbopogon nardus

    ลักษณะ ตะไคร้หอมขึ้นเป็นกอ ลักษณะคล้ายตะไคร้บ้านแต่ใบยาวกว่าและ ลำต้นมีสีแดง ดอกเป็นพวงช่อฝอย
    ส่วนที่ใช้ ต้นและใบ
    วิธีใช้ นำต้นและใบสดมาโขลกผสมกับน้ำ ใช้อัตราส่วน 1 ต่อ 1 แล้ว กรองเอาแต่ส่วนที่เป็นน้ำมาใช้ทาผิวหนัง หรือนำต้นสด 4-5 ต้นมา ทุบแล้ววางไว้ใกล้ตัว กลิ่นน้ำมันตะไคร้หอมที่ระเหยออกมาจะช่วย ไล่ยุงไม่ให้เข้ามาใกล้

    ต้นยูคาลิปตัส ชื่อวิทยาศาสตร์ Eucalyptus citriodara

    ลักษณะ ยูคาลิปตัสเป็นไม้ยืนต้นสูง ใบยาวรี ค่อนข้างหนา
    ส่วนที่ใช้ ใบ
    วิธีใช้ ขยี้ใบสดทาถูที่ผิวหนัง

    ต้นไม้กันยุง (มอสซี่ บัสเตอร์)

    ต้นไม้กันยุงเป็นพันธุ์ไม้ที่ได้รับการพัฒนา โดยวิธีการทางพันธุ์วิศวกรรมระหว่างพันธุ์ไม้ 2 ตระกูล คือ อาฟริกัน เจอราเนียม (African Geranium) และตะไคร้หอม (Citronella) ต้นไม้กันยุงจึงมีลักษณะคล้ายต้นเจอราเนียม แต่จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆของต้นตะไคร้หอม เนื่องจากน้ำมันตะไคร้หอมมีคุณสมบัติในการไล่ยุง (เป็น repellent)

    ต้นไม้กันยุงนี้จึงสามารถไล่ยุงได้เช่นกัน แต่ประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่กับขนาดของต้นไม้และพื้นที่ที่ใช้งาน เช่นต้นไม้กันยุง อายุประมาณ 2 เดือน จะมีความสูงจากผิวดินประมาณ 6 นิ้ว กลิ่นน้ำมันที่ระเหยออกมาจากต้นไม้จะสามารถไล่ยุงได้ในพื้นที่ประมาณ 100 ตารางฟุต เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในต้นไม้กันยุงจะมีสารอยู่สองชนิด คือ สารที่มีคุณสมบัติเป็นสารดึงดูดยุง (attractant) และสารไล่ยุง (repellent) ต้นไม้กันยุงที่ยังเล็กจะมีสารดึงดูดยุงมากกว่าสารไล่ยุง ต่อเมื่อโตขึ้นสารดึงดูดยุงจะค่อยๆลดปริมาณลง จนสารไล่ยุงสามารถแสดงคุณสมบัติได้เต็มที่

    ลักษณะ เป็นไม้พุ่ม ใบแตกออกจากทั้งตายอดและตาข้าง ขอบใบหยัก

    ส่วนที่ใช้ ใช้ทั้งต้น โดยจะปลูกเป็นไม้ประดับ ในขณะเดียวกันก็จะช่วยไล่ยุง ไม่ให้เข้ามาใกล ้

    วิธีใช้ วางกระถางที่ปลูกต้นไม้กันยุงไว้ในห้อง สามารถไล่ยุงได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ต้นไม้ก็ต้องการแสงแดดเพื่อการสังเคราะห์แสง จึงควรนำต้นไม้ไปรับแสงแดดอย่างน้อยวันละ 4 ชั่วโมงและรดน้ำให้ชุ่มในเวลาเช้า หากแสงแดดไม่จัด ควรให้น้ำพอสมควรเพื่อ ป้องกันมิให้รากเน่า

    ที่มา http://www.leksound.net/forum/index.php?PHPSESSID=4eb0210d60a4a16ea4468c86417a4698&topic=1640.0
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 69786978.jpg
      69786978.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.1 KB
      เปิดดู:
      2,626
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2009
  8. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    เดิมไม่เคยฝันมานานแล้วเพราะนอนตามที่พระท่านสอนว่านอน วันละ 4 ช.ม. ก็พอ ถ้ารู้สึกตัวให้ตื่น ซึ่งก็ตรงตามหลักนักวิจัยวิทยาศาสตร์ว่าการนอนของคนรอบหนึ่ง 4 ชม. นอนเต็ม 4 ชม.ต่อเนื่องก็เพียงพอ ถ้านอนต่อจาก 4 ชม. แล้วจะฝัน อ่านเรื่องคนเล่าความฝัน เราไม่มีเล่า
    พอดีวันศุกร์นอน 3ทุ่มตื่นเที่ยงคืน วันเสาร์จึงนอนชดเชยสี่ทุ่มตื่นตี 4 ใกล้รุ่งฝันว่ามีพายูแรงมาก ฟ้ามืดครึ้ม ใจคิดว่าตึกคงจะสั่นเมื่อพายุพัดผ่าน มองไปที่กลุ่มพายุพบว่า มีกษัตริย์ทรงม้าใส่ชุดดำและมีมาลาปลายแหลม ชูดาบ ควบฝ่าพายุไปทางทิศตะวันออก พอพายุพัดมาถึงตึกที่อยู่ก็ผ่านไปโดยดี ในฝันนึกว่าตึกนี่คงแข็งแรงดี เราจึงไม่เป็นอะไร
    ตื่นมาคิดว่ากษัตริย์พระองค์นั้น เป็นสมเด็จพระนเรศวร หรือ สมเด็จพระเจ้าตากสิน กันแน่นะ เพราะเห็นแต่ด้านข้าง
    หรือว่าเราอ่านเรื่องที่เวปพลังจิตมากเลยเก็บเอาไปฝันกันแน่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2009
  9. กิตติรัตน์ นพต

    กิตติรัตน์ นพต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2008
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +363
    นักการเมืองจะมีสัจจะอะไร มีแต่เรื่องโกหกเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องเท่านั้นแหละครับ ผลประโยชน์ของประชาชนเอาไว้ทีหลังจริงๆนะครับ
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931




    *** พรโปรดมวลมนุษย์จากองค์โลกุตตระธรรม ****

    ถึง ผู้มีอำนาจทั้งหลายทั่วโลก

    " เราขอประกาศไว้ว่า.......
    สถานที่นี้ เอาหลักธรรมของ โลกุตตระ มานำสัตว์โลกให้หลุดพ้นทุกข์
    เพราะฉะนั้น ผู้มีอำนาจทั้งหลาย ขอให้ตั้งอยู่ในความสงบ
    ...อย่าได้เอาท้องฟ้านี้ เป็นสนามรบ....

    ถ้าฝ่าฝืน ประเทศใดประเทศหนึ่งฝ่าฝืนโองการของ โลกุตตระ
    .......ฟ้าจะต่ำลงมา "

    วันเสาร์ที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๐
    "หนุมาน ผู้นำสาร"
    ผู้บันทึก
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สารโปรดมวลมนุษย์ จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในจักรวาล ****

    ศาสนศาสตร์ในโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ แท้จริงแล้วมีเพียงหนึ่งเดียว....เพราะทุกชีวิตทุกดวงวิญญาณ จะต้องอยู่อาศัยบนโลกมนุษย์ด้วยหลักเดียวที่ปักไว้อย่างมั่นคง นิ่ง ไม่กระดุกกระดิก นั้นคือ
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    สัจจะทำ ตัดลดนิสัย...มีผลตอบแทน
    ต่อทุกผู้ทุกนาม

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  13. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    ระวังรายได้ของรัฐบาลเป็นปัญหา


    ภาคเศรษฐกิจกำลังแย่ ประชาชนกำลังแย่ รายได้ลด กำไรหด กลายเป็นขาดทุน
    ภาวะหนี้กำลังเพิ่มมากขึ้น และกำลังเป็นปัญหาสำคัญ แม้รัฐบาลจะอยากช่วยด้วย
    การ "แจกเงิน" แต่ผลจากการช่วยผู้อื่น ทำให้ตนเองก็จะไม่รอดเอา


    เงินในคลังลดลงมาก ถึงขั้นวิกฤติ ถ้าเงินไม่มีจ่าย หรือจ่ายไม่ตรงเวลา ข้าราชการ
    จะฉ้อฉล โกงกิน ซึ่งก็เป็นมานานแล้วในบางส่วน (ไม่ใช่ทุกส่วน) นี่เป็นรากเหง้าปัญหา
    รัฐบาลใจป้ำเอาเงินถลุงออกจ่ายชาวบ้าน แต่กระเป๋าตัวเองแฟ้บ


    หันไปหาทางกู้หนี้ต่างชาติ เข้าวังวน "สร้างหนี้เพื่อเติบโต" ตามหลักทุนนิยมในที่สุด
    ประเทศจะยืนหยัดได้จริง ต้องยืนด้วยลำแข้งตนเอง ตนเองไม่มีรายได้พอ แต่สร้างหนี้มาก
    เข้าสู่วังวนเดิม คือ เข้าสู่ทุนนิยมเต็มขั้น ไม่ใช่ "มาร์กซิส" แต่อย่างใด


    ก็ขนาดยักษ์ใหญ่อเมริกัน ใช้ทุนนิยมอยู่ ก็กำลังจะล่มไม่ล่มแหล่อยู่ไม่ใช่หรือ?
    แล้วเราเห็นอาการเขาอย่างนั้น ยังจะเดินซ้ำรอยต่อไปทำไมอีก?
    ยืมเงินเขามาก็ทำได้ พิจารณาดีๆ บางคนให้ยืมแล้วมายึดเอกราชด้านต่างๆ ของเราก็มี
    ค่อยๆ ครอบงำกลืนกิน แม้ไม่ได้ฮุบประเทศตรงๆ แต่อิสรภาพทางการค้าก็เสียไปแล้ว
    เช่น มาตรฐานต่างๆ ในการส่งออก เราคุมไม่ได้ เขาเป็นฝ่ายคุมได้หมด
    แม้แต่ร้านอาหารแม็ค เขายังเอาพริกฝรั่งมาใช้แทนพริกในประเทศไทย


    เราเดินตามใครกัน? คนที่ตัวใหญ่แต่ใกล้ล้มอย่างนั้นหรือ?
    "เศรษฐกิจพอเพียง" ที่เคยสนใจอยู่ เข้าใจจริงๆ หรือเปล่า?
    รัฐบาลแจกเงิน เลี้ยงลูกด้วยเงิน แน่นอนว่าช่วยได้ชั่วคราว
    แต่ต่อไป รายได้ของรัฐบาล จะมาจากไหน จึงจะพอกับรายจ่าย?
    ถ้าหมุนไม่สมดุล ก็กลายเป็น "ทุนนิยม" คือ กู้เขาเอามาโต
    ไม่ใช่หลักเศรษฐกิจพอเพียงเลย...
     
  14. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    โพธิสัตว์ทำน้อยแต่ได้ผลมาก เป็นไฉน?


    มีเงินจำกัด ต้องคิดให้มาก ใช้ปัญญาให้แยบคาย
    การจ่ายๆๆ แจกๆๆ คือ ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
    ได้แค่ความนิยม คะแนนเสียง ความมั่นคงชั่วคราว
    แต่หากไม่เห็น "จุดสำคัญ" จริงๆ แล้วไม่ลงไปแก้จุดนั้น
    การแก้อย่างกระจัดกระจายให้ผลน้อย เหมือนละลายแม่น้ำ


    ต้องเอาสิ่งที่มีอยู่น้อย ทุ่มลงไปใน "จุดที่สำคัญที่สุด"
    เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อน จากจุดหนึ่ง กระทบไปยังจุดอื่นๆ
    การใช้น้ำพริกละลายแม่น้ำ ทำให้เจือจางไป ไม่อาจขับเคลื่อน
    เศรษฐกิจได้ทั้งระบบ และจะลดทอนกำลังตนเองได้ภายหลัง
    แต่ให้ผลเป็น "ความเชื่อมั่น" ในช่วงต้นเท่านั้น


    ต่อไปนี้ คือ การยอมรับความจริง "เงินรัฐบาล" กำลังจะติดลบ
    ไม่สิ ติดลบมานานแล้ว แต่กำลังเป็นปัญหาสำคัญต่อไป


    ใช้เงินของฝ่ายตรงข้ามให้เป็นประโยชน์ เขาจ้างให้แดง
    จ้างคนจน ทำอะไรเราไม่ได้ ก็ให้เขาทำไป เงินของเขา
    จะลดลง เป็นการลดทอน ตัดทอนกำลัง ทำลายเสบียงตัวเอง
    เราอย่าไปแจกแข่งกับเขา


    ปล่อยเขาตำน้ำพริกละลายแม่น้ำไป เราต้องทุ่มลงกับจุดสำคัญ
    ไม่ใช่แข่งกันตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ "จุดสำคัญ" ที่สุด ของการขับเคลื่อน
    อยู่ที่ใด ทุ่มลงไปจนกว่าจะเกิดผลสำเร็จอย่างแท้จริง จุดต่อไปจะเคลื่อนตามเอง
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ให้ประโยชน์สัตว์โลก ****

    เรามีมือ เรามีเท้า
    เรามีกรรม เรามีสัจจะทำ
    เรามีปัญญา เรามีทางรอด

    เรามีตัว เรามีตน
    เรามีแผ่นดิน เรามีน้ำ
    เรามีจอบ เรามีแรง

    ทั่วโลก กำลังอดอยาก
    สัตว์โลก กำลังลำบาก
    ชีวิต กำลังมอดไหม้
    เพราะมนุษย์ เอาชีวิตไปแขวนไว้ที่เงิน

    ทั่วโลก กำลังถึงทางตัน
    เราควรเอามือ เอาเท้า เอาจอบ เอาแรง
    ไปขุดคลองตื้นเขิน ด้วยโคลนตมขยะสะสม
    เพื่อให้น้ำ ดำเนินได้สะดวก ในวันมามาก

    ๑. ขุดคลองเชียงแสนเชียงของ
    ๒. ขุดคลองทั่วกรุง
    ๓. ขุดคลองไทย
    ๔. ขุดแหล่งน้ำชลประทาน

    คนหนุ่มสาว มุ่งหน้าขุดคลอง
    เด็ก ผู้ใหญ่ คนชรา มุ่งหน้าปลูกข้าว ทำนา ทำไร่ ทำสวน
    ผลผลิตที่ได้ ไว้เลี้ยงกินกันเอง ที่เหลือขาย
    ถ้าเหลือมาก ให้ทำบุญทั้งประเทศ
    คือ ส่งไปเลี้ยง มนุษย์และสัตว์โลก ที่กำลังผจญทุกข์กรรม

    คลองที่บอกนี้ ทำได้ก็รอดพ้นกรรม จากหนักเป็นเบา
    ไม่ทำ ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คือรอกรรมปรากฏ
    ขอให้เชื่อ สัจจะทำ นำชาติพ้นภัย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ต้นเหตุของกรรมมาบังตา คือ นิสัยเราเอง ****

    ใครจะไปเชื่อ...
    ขุดคลองไทย คอขอดกระ....สามารถแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ได้ !!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. joeycoles

    joeycoles เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +457
     
  18. 212

    212 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +22
    กะทุ้นี้สุดยอดจริงๆ มี 700 กว่าหน้า ผมยังอ่านไม่หมดเลย ยังมีทู้ไหนมีเยอะกว่านี้ไหมคับ
    ผมจะลองโพสดูเหมือนกัน เพราะมีข้อมูลอยู่บ้าง ที่เด็ดสุดยอด แต่เกรงว่าจะไปซ้ำกับคนอื่น ทำให้เปลืองเนื่อที่เวบไปเปล่าๆ ต้องอ่านเชคทีละหน้าๆ
    กี่วันหนอถึงจะอ่านจบ อิอิ
     
  19. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <table bordercolordark="#ffffff" bordercolorlight="#d9d9d9" width="98%" align="center" border="1" bordercolor="#d9d9d9" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr class="RH"><td align="center">วันนี้
    09/03</td><td align="center">พรุ่งนี้
    10/03</td><td align="center">พุธ
    11/03</td><td align="center">พฤหัสบดี
    12/03</td><td align="center">ศุกร์
    13/03</td><td align="center">เสาร์
    14/03</td><td align="center">อาทิตย์
    15/03</td> </tr> <tr><td class="RB" valign="top" width="14%" height="100%"><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td align="center" height="4">
    </td></tr> <tr><td align="center" height="47">[​IMG]</td></tr> <tr><td class="MaxTemp" align="center">37 °C</td></tr> <tr><td class="MinTemp" align="center">18 °C</td></tr> <tr><td align="center">อากาศเย็น</td></tr></tbody></table></td><td class="RB" valign="top" width="14%" height="100%"><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td align="center" height="4">
    </td></tr> <tr><td align="center" height="47">[​IMG]</td></tr> <tr><td class="MaxTemp" align="center">37 °C</td></tr> <tr><td class="MinTemp" align="center">18 °C</td></tr> <tr><td align="center">อากาศเย็น</td></tr></tbody></table></td><td class="RB" valign="top" width="14%" height="100%"><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td align="center" height="4">
    </td></tr> <tr><td align="center" height="47">[​IMG]</td></tr> <tr><td class="MaxTemp" align="center">38 °C</td></tr> <tr><td class="MinTemp" align="center">20 °C</td></tr> <tr><td align="center">อากาศเย็น</td></tr></tbody></table></td><td class="RB" valign="top" width="14%" height="100%"><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td align="center" height="4">
    </td></tr> <tr><td align="center" height="47">[​IMG]</td></tr> <tr><td class="MaxTemp" align="center">38 °C</td></tr> <tr><td class="MinTemp" align="center">21 °C</td></tr> <tr><td align="center">อากาศเย็น</td></tr></tbody></table></td><td class="RB" valign="top" width="14%" height="100%"><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td align="center" height="4">
    </td></tr> <tr><td align="center" height="47">[​IMG]</td></tr> <tr><td class="MaxTemp" align="center">38 °C</td></tr> <tr><td class="MinTemp" align="center">21 °C</td></tr> <tr><td align="center">พายุฝนฟ้าคะนอง</td></tr> <tr><td align="center">ฝน 20% ของพื้นที่</td></tr></tbody></table></td><td class="RB" valign="top" width="14%" height="100%"><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td align="center" height="4">
    </td></tr> <tr><td align="center" height="47">[​IMG]</td></tr> <tr><td class="MaxTemp" align="center">37 °C</td></tr> <tr><td class="MinTemp" align="center">21 °C</td></tr> <tr><td align="center">พายุฝนฟ้าคะนอง</td></tr> <tr><td align="center">ฝน 20% ของพื้นที่</td></tr></tbody></table></td><td class="RB" valign="top" width="14%" height="100%"><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td align="center" height="4">
    </td></tr> <tr><td align="center" height="47">[​IMG]</td></tr> <tr><td class="MaxTemp" align="center">37 °C</td></tr> <tr><td class="MinTemp" align="center">20 °C</td></tr> <tr><td align="center">พายุฝนฟ้าคะนอง</td></tr> <tr><td align="center">ฝน 20% ของพื้นที่</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
    ดูความแตกต่างของอุณหภูมิ แต่ละวันสิ แตกต่างกันมาก เย็นมาก และ ร้อนมาก

    <table bordercolordark="#ffffff" bordercolorlight="#d9d9d9" width="98%" align="center" border="1" bordercolor="#d9d9d9" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr class="RH"><td align="center">วันนี้
    09/03</td><td align="center">พรุ่งนี้
    10/03</td><td align="center">พุธ
    11/03</td><td align="center">พฤหัสบดี
    12/03</td><td align="center">ศุกร์
    13/03</td><td align="center">เสาร์
    14/03</td><td align="center">อาทิตย์
    15/03</td> </tr> <tr><td class="RB" valign="top" width="14%" height="100%"><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td align="center" height="4">
    </td></tr> <tr><td align="center" height="47">[​IMG]</td></tr> <tr><td class="MaxTemp" align="center">35 °C</td></tr> <tr><td class="MinTemp" align="center">16 °C</td></tr> <tr><td align="center">ท้องฟ้าโปร่ง</td></tr></tbody></table></td><td class="RB" valign="top" width="14%" height="100%"><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td align="center" height="4">
    </td></tr> <tr><td align="center" height="47">[​IMG]</td></tr> <tr><td class="MaxTemp" align="center">36 °C</td></tr> <tr><td class="MinTemp" align="center">16 °C</td></tr> <tr><td align="center">ท้องฟ้าโปร่ง</td></tr></tbody></table></td><td class="RB" valign="top" width="14%" height="100%"><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td align="center" height="4">
    </td></tr> <tr><td align="center" height="47">[​IMG]</td></tr> <tr><td class="MaxTemp" align="center">36 °C</td></tr> <tr><td class="MinTemp" align="center">17 °C</td></tr> <tr><td align="center">ท้องฟ้าโปร่ง</td></tr></tbody></table></td><td class="RB" valign="top" width="14%" height="100%"><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td align="center" height="4">
    </td></tr> <tr><td align="center" height="47">[​IMG]</td></tr> <tr><td class="MaxTemp" align="center">36 °C</td></tr> <tr><td class="MinTemp" align="center">17 °C</td></tr> <tr><td align="center">ท้องฟ้าโปร่ง</td></tr></tbody></table></td><td class="RB" valign="top" width="14%" height="100%"><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td align="center" height="4">
    </td></tr> <tr><td align="center" height="47">[​IMG]</td></tr> <tr><td class="MaxTemp" align="center">36 °C</td></tr> <tr><td class="MinTemp" align="center">17 °C</td></tr> <tr><td align="center">ท้องฟ้าโปร่ง</td></tr></tbody></table></td><td class="RB" valign="top" width="14%" height="100%"><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td align="center" height="4">
    </td></tr> <tr><td align="center" height="47">[​IMG]</td></tr> <tr><td class="MaxTemp" align="center">36 °C</td></tr> <tr><td class="MinTemp" align="center">17 °C</td></tr> <tr><td align="center">ท้องฟ้าโปร่ง</td></tr></tbody></table></td><td class="RB" valign="top" width="14%" height="100%"><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr><td align="center" height="4">
    </td></tr> <tr><td align="center" height="47">[​IMG]</td></tr> <tr><td class="MaxTemp" align="center">36 °C</td></tr> <tr><td class="MinTemp" align="center">17 °C</td></tr> <tr><td align="center">ท้องฟ้าโปร่ง</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  20. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ช่วง dif ของอากาศที่ห่างกันมาก จะทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทัน
    เกิดภาวะการเจ็บป่วยได้ง่าย ระวังรักษาสุขภาพกันให้ดีด้วยนะคะ
    อ้อ...ที่สำคัญอากาศที่ร้อนมากๆ ภาวะจิตคลั่งสามารถเกิดขึ้นได้ง่าย
    ระวังจิตตัวเองให้ดีๆ ด้วยนะ...^_^
     

แชร์หน้านี้

Loading...