ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** โอ้...ชะตาฟ้าลิขิต ****
</p>สัจจะ ของพระพุทธเจ้า....
จะนำพามวลมนุษย์....ให้ก้าวข้ามกรรม เลี่ยงกรรม เบี่ยงเบนกรรมได้จริง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

อิตาลีค้นหาผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวตลอดทั้งคืน ยอดคนตายเกิน 150 คนแล้ว​

​

ลากวีลา 7 เม.ย.-เจ้าหน้าที่กู้ภัยอิตาลีค้นหาผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวใหญ่ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาหลังจากมีผู้เสียชีวิตเกิน 150 คนแล้ว ขณะที่ผู้ประสบภัยไร้ที่อยู่ที่อาศัยต้องพักค้างคืนในเต็นท์และที่พักชั่วคราว

ฝนที่ตกลงมาสร้างความยุ่งยากให้แก่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินในการรื้อซากปรักหักพังค้นหาผู้ที่อาจยังรอดชีวิตหลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์ เมื่อเวลา 03.30 น.วานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 08.30 น. วานนี้ ตามเวลาในไทยในแคว้นอาบรุซโซ ห่างจากกรุงโรมไปทางตะวันออกราว 100 กิโลเมตร สร้างความเสียหายให้แก่เมืองต่าง ๆ รวม 26 เมือง

มีผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วไม่ต่ำกว่า 130 คน บาดเจ็บ 1,500 คน และไร้ที่อยู่อาศัยมากถึง 50,000 คน ด้านแหล่งข่าวโรงพยาบาลเผยกับสำนักข่าวอันซาว่า มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 150 คน ขณะที่เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งรายงานว่า ยังมีผู้สูญหาย 250 คน สร้างความวิตกว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก

นายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับประเทศและยกเลิกกำหนดการเดินทางเยือนกรุงมอสโก เพื่อไปยังที่เกิดเหตุ ต่อมาประกาศว่า รัฐบาลอนุมัติงบช่วยเหลือฉุกเฉิน 30 ล้านยูโร (ราว 1,410 ล้านบาท) และสหภาพยุโรป (อียู) จะจัดสรรช่วยเหลืออีกหลายล้านยูโร พร้อมกับขอร้องประชาชนอย่าเพิ่งเดินทางกลับไปที่บ้านเพราะอันตราย.-สำนักข่าวไทย

2009-04-07 07:25:21

ตุรกีล้มแผนสังหารโอบามา ​

​

อิสตันบูล 7 เม.ย.- เจ้าหน้าที่สหรัฐ 2 คน ยืนยันกับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นว่า ทางการสหรัฐวิตกอย่างมาก หลังสื่อซาอุดีอาระเบียเผยแผนลอบสังหารประธานาธิบดี บารัค โอบามา โดยข้องเกี่ยวกับหนุ่มซีเรียคนหนึ่งที่ถูกจับกุมตัวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในตุรกี

หนังสือพิมพ์ อัล วาทาน ในซาอุดีอาระเบียได้รายงานเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของตุรกีได้จับกุมชายเชื้อสายซีเรียคนหนึ่งเมื่อวันศุกร์ เพราะต้องสงสัยพัวพันกับแผนลอบสังหารประธานาธิบดีโอบามา ระหว่างเยือนตุรกี ซึ่งนายโอบามา ก็ได้อยู่ในเมืองสตราสบูร์กของฝรั่งเศส ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์เพื่อร่วมประชุมสุดยอดผู้นำองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ก่อนจะเดินทางเยือนตุรกีเป็นจุดหมายสุดท้ายในวันอาทิตย์

ชายคนนี้อาศัยอยู่ในนครอิสตันบูลเป็นการถาวร ทั้งยังพกบัตรยืนยันว่าตัวเองเป็นนักข่าวของสถานีโทรทัศน์อัลจาซีรา เขาให้ปากคำกับทางการตุรกีว่า มีแผนร่วมมือกับพรรคพวกอีก 3 คน ใช้มีดจ้วงแทงนายโอบามาระหว่างการเข้าร่วมประชุมในนครอิสตันบูลเมื่อเย็นวาน ตามเวลาท้องถิ่น ด้านผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์อัลจาซีราในกรุงอังการาของตุรกียืนยัน ไม่รู้เห็นกับเรื่องนี้ และมองว่า ชายคนดังกล่าวอาจใช้บัตรนักข่าวปลอมก็เป็นได้ แต่ทางสหรัฐย้ำ บัตรนักข่าวที่มีอยู่เป็นของจริง และไม่รู้ว่า ชายคนนี้ได้บัตรมาได้อย่างไร

เรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้นักข่าวที่ตามติดขบวนของประธานาธิบดีโอบามา ต้องถูกหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐตรวจค้นสัมภาระมากเป็นพิเศษเมื่อวันอาทิตย์ ก่อนที่จะขึ้นเครื่องเดินทางจากกรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ไปยังกรุงอังการาของตุรกี รวมถึงก่อนจะขึ้นเครื่องเดินทางจากกรุงอังการาไปยังนครอิสตันบูล แต่ทางการสหรัฐยืนยัน แค่ช่วยเจ้าหน้าที่ตุรกีตรวจค้นสัมภาระของสื่อมวลชน เพราะทางเจ้าหน้าที่ตุรกีไม่เคยรับมือกับทัพนักข่าวมากขนาดนี้มาก่อน -สำนักข่าวไทย

2009-04-07 10:38:06

โอบามา ย้ำชัดสหรัฐไม่เคยและไม่มีวันทำสงครามกับศาสนาอิสลาม​

​

ตุรกี 7 เม.ย.-ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ย้ำชัดสหรัฐไม่เคยและไม่มีวันทำสงครามกับศาสนาอิสลาม แต่จะทำสงครามกับการก่อการร้าย

ประธานาธิบดีโอบามา แถลงต่อรัฐสภาตุรกีที่กรุงอังการา ยืนยันว่า สหรัฐต้องการเป็นหุ้นส่วนที่แข็งแกร่งแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นกับชาติมุสลิม และว่าสหรัฐมุ่งเพียงทำสงครามต่อต้านการก่อการร้ายอัลกออิดะห์เท่านั้น ไม่เคยคิดทำสงครามต่อต้านชาวมุสลิมหรือศาสนาอิสลาม พร้อมกับระบุว่าสหรัฐสนับสนุนให้ตุรกีเข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโอบามา แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังพบหารือกับประธานาธิบดีอับดุลลาห์ กุล เรียกร้องให้ตุรกีช่วยในการประสานความแตกต่างระหว่างชาติมุสลิมกับชาติตะวันตก และว่าการเดินทางเยือนตุรกีของเขาไม่เพียงสำคัญต่อสหรัฐเท่านั้น แต่ยังสำคัญกับโลกด้วย.-สำนักข่าวไทย

2009-04-07 02:15:08

มีผู้เสียชีวิตและล้มป่วยกว่าร้อยจากอาหารเป็นพิษในสิงคโปร์​

​

สิงคโปร์ 7 เม.ย. – เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสิงคโปร์รายงานว่า มีหญิงชาวสิงคโปร์เสียชีวิต 1 คน ขณะที่อีกคนยังอยู่ในอาการโคม่า และอีก 111 คน เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากเกิดอาการอาหารเป็นพิษ หลังจากรับประทานอาหารจากร้านแผงลอยข้างถนน

หญิงเคราะห์ร้ายดังกล่าวมีอายุ 57 ปี เสียชีวิตเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากรับประทานโรจัก หรือสลัดที่ขายข้างถนน ส่วนหญิงที่มีอาการโคม่า มีอายุ 59 ปี และอีก 27 คน ยังคงนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง อาเจียน และท้องร่วง โดยผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยรับประทานอาหารจากร้านเดียวกัน ตำรวจกำลังสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิต

กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ได้สั่งปิดแผงขายอาหารดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้สรุปสาเหตุของอาหารเป็นพิษ ขณะที่บรรดาลูกค้าที่ล้มป่วยต่างกล่าวว่าน้ำราดโรจักมีรสชาติแปลก ๆ.-สำนักข่าวไทย

2009-04-07 10:14:15

หุ้นสหรัฐพากันร่วงหลังมีเสียงเตือนว่าธนาคารยังเสี่ยงล้ม​

​

นิวยอร์ค 7 เม.ย.- หุ้นสำคัญสหรัฐปิดตลาดวานนี้ราคาลดลงถ้วนหน้าหลังจากขยับขึ้นติดต่อกัน 4 วัน หลังจากนักวิเคราะห์เตือนว่าสถานะของธนาคารยังง่อนแง่น และการควบรวมกิจการไอบีเอ็มกับซันไมโครซิสเต็มส์มีแนวโน้มไม่สำเร็จ

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 7,975.85 จุด ลดลง 41.74 จุดหรือร้อยละ 0.52 ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 835.48 จุด ลดลง 7.02 จุดหรือร้อยละ 0.83 และดัชนีแนสแด็กคอมโพสิตปิดที่ 1,606.71 จุด ลดลง 15.16 จุด หรือร้อยละ 0.93 หุ้นธนาคารปิดลดลงหลังจากนายไมค์ เมโย จากคัลยอนซีเคียวริตี้ส์ระบุว่า ธนาคารยังง่อนแง่นจากการลงทุนเสี่ยงมากเกินไป พร้อมเตือนว่าจะมีหนี้สูญเพิ่มขึ้นภายในสิ้นปีหน้า เขาแนะนำให้ขายทิ้งหุ้นธนาคารใหญ่และธนาคารภูมิภาคหลายแห่ง เพราะ underperform หรือจะได้ผลตอบแทนต่ำกว่าร้อยละ 10

ส่วนหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีปรับลดลงหลังจากมีแนวโน้มว่าการที่ไอบีเอ็ม ผู้ผลิตและให้บริการคอมพิวเตอร์รายใหญ่จะซื้อกิจการซันไมโครซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นธุรกิจเดียวกันส่อเค้าล้มเพราะระงับการเจรจาไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย

2009-04-07 09:14:20

ระเบิดกลางตลาดในอินเดีย 2 ครั้งซ้อน ตาย 7 เจ็บกว่าครึ่งร้อย​

​

อินเดีย 7 เม.ย.-เกิดเหตุระเบิดรุนแรง 2 ครั้งกลางตลาดที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนในรัฐอัสสัม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน และบาดเจ็บมากกว่า 60 คน

ตำรวจเมืองโกฮาติ เมืองเอกของรัฐอัสสัม ระบุว่า ระเบิดลูกแรกน่าจะถูกผูกไว้กับรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ภายในตลาดแห่งหนึ่งที่มีผู้คนกำลังจับจ่ายซื้อสินค้าจำนวนมาก ก่อนจะจุดชนวนระเบิด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน บาดเจ็บอย่างน้อย 56 คน แรงระเบิดยังทำให้รถยนต์หลายคันเกิดไฟลุกไหม้ แผงค้าเสียหายอย่างหนัก ก่อนที่ในเวลาไล่เลี่ยกัน จะเกิดระเบิดอีกลูกหนึ่งกลางตลาดในเมืองเธเคียจูลี ห่างจากเมืองโกฮาติไปทางเหนือ 210 กิโลเมตร ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน

ตำรวจเชื่อว่า กลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติอาสมอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเพียงวันเดียว ก่อนหน้าที่นายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์ ผู้นำอินเดีย จะเดินทางมาหาเสียงเลือกตั้งทั่วไป ที่จะเริ่มขึ้นในเดือนนี้.-สำนักข่าวไทย

2009-04-07 01:11:47

ที่มา http://news.mcot.net

 

ฟ้าหลังฝน

​

ผมไม่คาดคิดว่าเว็บหมอดูเล็กๆ อย่างเว็บ http://www.mornid.com “หมอนิด” นี้จะมีผู้ให้เกียรติเข้ามาเยี่ยมชมถึง “สามล้านคลิ๊กเศษ” ...ผมรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก...ผมคงจะเป็นหมอดูคนเดียวในประเทศไทยที่มี “ลูกบ้าบิ่น” ไปเขียนเรื่องการเมืองออกจะดุเดือด...รุนแรง...และกวนประสาททั้งๆที่รู้ว่ามันเสี่ยงกับอำนาจมืดและภัยต่างๆ ที่จ้องเล่นงานผม(ผมโดนมาสองครั้งแล้ว) แต่ผมเขียนทำนายไปก็พร้อมกับชี้แนะนำไปในตัวทุกครั้ง
</O
ผมรู้สึกสบายอกสบายใจ...เพราะมีพายุฝนฟ้าคะนองทำให้อากาศเย็นลงบ้างในบางวันที่อากาศร้อนอบอ้าว...บางคนก็ใจร้อนบางกลุ่มก็ร้อนแรง...แต่ผมกลับรู้สึก “สบายอกสบายใจ” เพราะ “ฟ้าหลังฝน” ท้องฟ้าจะ “สดใส”? ตั้งแต่การเมืองวุ่นวายมาตลอดผมก็เครียดกับการเมืองตามไปด้วย...ผมได้นั่งอ่านบทความเก่าๆ ที่ผมได้เขียนมาตั้งแต่นายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อ่านมาเรื่อยๆ จนถึงบทความสุดท้ายพร้อมกับตรวจหา “คำตอบ” ไปในตัว...โดยรวบรวมประโยคสำคัญๆ ที่ผมเขียนเชิงทำนายในแนวทางกวนโอ๊ย...

มีคำทำนายที่ทิ้งปริศนาเอาไว้หลายตอน ในแต่ละบทความเหมือนกับเป็นปริศนาลายแทงขุมสมบัติอันล้ำค่า...ความจริงมันสำคัญกว่าขุมทรัพย์เสียอีกเพราะมีเดิมพันกันด้วย “ชีวิตและแผ่นดินประเทศ” ผมอยากให้ท่านผู้อ่านลองย้อนไปอ่านอย่างผม แล้วจดคำปริศนาหรือคำพูดคำทำนายต่างๆ เอาไว้แล้วเมล์มาให้ผมดูว่าท่านได้รู้เหมือนผมหรือยัง...ตรงกับที่ผมคิดและท่านผู้อ่านคิดหรือไม่...ท่านเข้าใจมากน้อยแค่ไหน?...มีอะไรสงสัย?...

ถ้าท่านเป็นแฟนเว็บนี้จริงผมอยากจะรู้ว่าการเขียนบทความต่างๆ ในพักหลังๆที่ผมเขียนมาให้ท่านอ่านกันนั้นมันยากไปไหม ที่จะสื่อให้รู้แบบแอบแฝงบางประการ เพราะเว็บของผมในตอนนี้จะเขียนโจ่งแจ้งเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว...ผู้อ่านต้องตามให้ทันคิดให้ทัน...ขอให้เชื่อเถอะผมไม่เปลี่ยนคำทำนายแน่นอน...อยากให้อ่านที่ผมได้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ ไปด้วยเพื่อนำมาประกอบ...ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะเจอคลื่นมรสุมทางการเมือง “รุนแรงและดุเดือด” อย่างไรก็ตามผมก็...รับรองว่าผม “สบาย...สบาย”ตามสไตล์ “หมอนิด” ผู้ถูกเมียพิชิต
<O</O
“ฟ้าหลังฝน” ย่อมสดใสเสมอ...? ถึงแม้ว่าบางครั้งถนนหนทาง “บางแห่ง”จะเจิ่งนอง...? ก็ต้องทนกันบ้าง...ถึงแม้ว่าจะกึกก้องคะนองรุนแรงเพียงใดก็ตาม...ไม่ต้องตกใจจนเป็นกระต่าย “ตื่นตูม”...เพราะเสียงดังไม่นานก็จะสงบลง!?.. “เขียวเต็มทุ่ง” เขียวขจีดูสบายตา!? ถึงแม้จะบังภูมิทัศน์บางสิ่งบางอย่างไปก็ยังดีกว่าให้เกิด “ไฟลามทุ่ง”!...จำไว้ให้เข้าใจ...เสียงฟ้าฟาดคงต้องเกิดท่ามกลางความ “คึกคะนอง” ของพายุ!?...แล้วสุดท้ายทุกอย่างจะกลับคืนสู่ “มิติใหม่” ที่ดีขึ้นคำว่า “มิติใหม่” ที่ผมนำมาเขียนในวันนี้เป็นครั้งแรกที่ผมเพิ่งนำมาใช้ก็ขอให้อดในรอดู “มิติใหม่” ที่จะเกิดขึ้นในสังคมไทย...นับว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีกับประชาชนคนบริสุทธิ์
<O</O
ท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่าน ผมขอให้ติดตามคำทำนายของผม ถึงแม้ว่าจะเป็นปริศนาในบางครั้งและบางบทความที่ผมเขียนให้ท่านอ่านไป...ฮาไป...ความจริงผมมีคำทำนายแฝงอยู่ด้วย แต่ผมพยายามเขียนให้อ่านสนุก...อ่านไปยิ้มไป...มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยที่คนที่มีความรู้และสมองอันน้อยนิด อย่างผมจะทำได้ดีไปกว่านี้...ผมทำได้เพียงเท่านี้เองหากมีสิ่งใดที่ผิดพลาดไปหรือไม่เป็นที่สบอารมณ์ ของคนใดคนหนึ่งผมก็ต้องขออภัยด้วย...แต่คำทำนายมันต้องเกิด!? ถึงจะถูกไม่หมดเต็มร้อย...อย่างน้อยก็คงไม่ต่ำกว่า 80-90% มันจะปรากฏออกมาเป็นเรื่องๆหรือเป็นข้อๆ...เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์แต่ผมก็เตรียมใจน้อมรับความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น ผมจะไม่เถียงหรือแก้ตัว
<O</O
ปล่อยเขาไป...ให้เขาระบายไป...คำนี้คงจะผ่านตาท่านที่ติดตามเว็บนี้มานานแล้ว...นายกรูปหล่อบ่มิไก๊...จะอยู่ได้ 3-6 เดือน...ก็เป็นคำทำนายของผมเพียงแต่มันยังไม่เกิดขึ้นเท่านั้น...อีกหลายอย่างกำลังตามมาติดๆ...ความจริงท่านนายกอภิสิทธิ์ ท่านผู้ที่มีความรู้ความฉลาดและอดทนได้ดีมาก ทั้งกิริยาวาจารวมทั้งภาษาก็เป็นเลิศ แถมแหลมคมยิ่งกว่าใบมีดโกนต้นตำหรับ...แต่น่าเสียดายตรงที่ท่านนายกอภิสิทธิ์...ไม่มีสิทธิ์หลายประการ...เพราะต้องอาศัยจมูกคนอื่นหายใจ...ถึงแม้จะรู้ว่าจมูกแต่ละคนที่ยืมมาหายใจนั้น มันเหม็นเพราะเป็นไซนัสเรื้อรังมานานก็ต้องทนใช้ไปก่อน...น่าเห็นใจ
<O</O
ทำไมผมต้องบวชในปีนี้? ผมไม่อยากเห็นปีฉลู 2552 และปีขาล 2553 เลย? บางครั้งมันเหมือนมีอะไรบางอย่างมาจุกอยู่ที่คอที่ปาก? หรือเหมือนคนน้ำท่วมปาก? จะพูดมากเมียก็ว่า...ที่ท่านกำลังอ่านอยู่นี้ผมได้ละเมอพูดเผลอพูดออกมา พอดีเมียผมเอาเทปอัดเสียงละเมอนี้ไว้ ท่านจึงได้ยินเสียงละเมอในครั้งนี้...ผมไม่ได้อยากจะละเมอเฟ้อฝันเหมือน...คนบางคน...แต่ผมคิดว่าการละเมอเพ้อเจ้อของผมในวันนี้...ผมไม่ได้ฝันลมๆแล้งๆก็แล้วกัน...
<O</O
เดือนเมษายนนี้มีวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ บริษัทที่ดูแลเว็บผมก็คงหยุดนานหลายวัน ผมคงจะไม่รบกวนวันหยุดของเขา เพราะที่ผ่านมาผมก็ได้รบกวนมาหลายครั้งแล้ว บางทีเสาร์-อาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดผม ก็ยังรบกวนบริษัทนี้บ่อยๆช่วงที่มีข่าวด่วน...แต่สงกรานต์นี้ถึงแม้ดินจะถล่มฟ้าจะทะลาย ผมก็คงจะไม่เขียนอะไรมารบกวน...แต่อยากอ่านเมล์ของท่านผู้อ่านในช่วงสงกรานต์เชิญติชมมาได้ทุกท่านถ้ารัก “หมอนิด” จริง...และ วันที่ 9 เม.ย. นี้ น.ส.พ.โพสต์ทูเดย์...ที่ได้สัมภาษณ์ไว้นานแล้วจะวางตลาดเกี่ยวกับเรื่องสงกรานต์และการเมือง แต่ไม่รู้ว่าจะลงละเอียดมากน้อยแค่ไหน มีการตัดประเด็นอะไรออกบ้างหรือไม่ ก็ลองซื้ออ่านดูก็แล้วกันนะครับ
<O</O
ผมคิดเล่นๆว่าถ้ามีเวลาผมจะเขียนหนังสือ...รับ...กลวง...ตางค์...ออกมาสักเล่มต่อด้วยหนังสือ...เวอายูโก...OKคัมแบลก...เขียนภาษาอังกฤษได้เพียง OK เท่านั้นดีใจจริงๆหมอนิดก็เก่งเหมือนกันนะจริงไม๊ครับ...วันนี้เขียนได้ตามเสียงละเมอมากหน่อยเพราะเมียไป(พยายาม)เสริม(ให้)สวย...แต่เชื่อเถอะ...เป็นไปไม่ได้ยากที่จะหวังให้สวย...ผมสงสารช่างเสริมสวยจริงๆ ที่ต้องมาปรุงแต่งแม่หมูผสมช้าง...ไม่รู้ว่าผมจะออกมายังไง...แต่ผมได้คล้องพระเตรียมไว้ป้องกันแล้ว พร้อมน้ำมนต์เต็มถังเพื่อความปลอดภัยของชีวิตและหัวใจ(วาย) ขอบคุณครับ
<O</O
ด้วยความเคารพ<O</O
หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ)<O</O
7 เมษายน 2552

ที่มา http://www.mornid.com/home.php

 

*** มนุษย์ ****

มนุษย์ สัตว์ ต้นไม้...ทุกสังขารก็ต้องตาย
ไม่มีสังขารใด....จะคงอยู่ได้ถาวร ตลอดไป
พุทธศาสนา...ผ่านมานาน ผ่านล่วงเลยกึ่งพุทธกาล
ไม่มีมนุษย์คนใด....อายุยืนยาวมาเล่าความจริงให้ฟังได้
แต่สิ่งที่ไม่ตาย...คือ ตัวกระทำที่ทำเอาไว้
ตัวกระทำของพระพุทธเจ้าในอดีต....คือ พระไตรปิฎก
พระไตรปิฎก...จุติมาเป็นโลกุตตระธรรม
โลกุตตระมาสานต่อศาสนา....โดยมอบสัจจะ
ส่งมอบ...ปัญญาของพระพุทธเจ้าสี่พระองค์ให้พิจารณา
ให้เอาการกระทำ....มานำชีวิตตนเอง
เพราะ... ตัวกระทำมันไม่ตาย ตัวกระทำมีผลย้อนกลับมา
มนุษย์...จึงต้องพึ่งตัวกระทำตัดลดนิสัย ในการหลุดพ้นทุกข์

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เมื่อใดท่านรู้จักเป็นเพียงสักว่ารู้ เห็นจักเป็นสักว่าเห็น ได้ยินจักเป็นสักว่าได้ยิน ......เมื่อนั้นท่านจักไม่มี เมื่อท่านไม่มีท่านจักพ้นจากทุกข์ทั้งปวง


เมื่อใดท่านตื่นออกจากสมมุติบัญญัติทั้งหลายแล้วเข้าสู่ปรมัต เมื่อนั้นท่านจะรู้ตามความเป็นจริง ท่านจะเบื่อหน่าย ท่านจะคลายกำหนัด ท่านจะหลุดพ้น ท่านจะรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว พหรมจันจบสิ้นแล้ว กิจที่ควรทำทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อการพ้นทุกข์ไม่มี พระอริยะทั้งหลายล้วนเดินตามเส้นทางนี้


ล่วงเข้าสู่ยุคกึ่งพุทธกาลศาสนาเริ่มเสื่อมขอพุทธบริษัททั้งหลายดำรงคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อสืบต่อสู่ลูกหลานของท่านจนถึง5000ปี

พระพุทธเจ้าฝากศาสนาไว้กับบริษัท4
พวกเราทุกคนมีความสำคัญ ถ้าหากอยากให้พุทธศาสนาดำรงถึง5000ปี

@ขอให้ท่านทั้งหลายเจริญในธรรมและถึงที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นเทอญ@

 

*** สัจจะตัดลดนิสัย นำพาให้ถึงที่สุด ****

คนเราเกิดมา.... มีนิสัยติดตัวมาตั้งแต่เกิด
ฝาแฝดเกิดพร้อมกัน ครรภ์เดียวกัน เพศเดียวกัน เกิดพร้อมๆกัน...นิสัยก็ไม่เหมือนกัน

นิสัย...คือ ตัวกระทำที่เคยทำเอาไว้

นิสัย....ส่งผลให้เกิด อารมณ์ต่างๆ อารมณ์ต่างๆ...สร้างการกระทำ
เมื่อการกระทำ เกิดแล้ว...จึงเกิด ตัวกระทำ ขึ้นมา
ตัวกระทำมันไม่ตาย ...ติดตามตัวเราไปตลอดกาล เหมือนเงาตามตัว
นิสัยของเด็กน้อย....คือ ตัวกระทำในอดีตที่มาปรากฏในรูปนิสัย
เด็กน้อย...ก็ต้องใช้ชีวิตด้วยนิสัยของตนเอง นี่คือกรรม
กรรม ที่มีนิสัยอย่างนั้น....
เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ...นิสัยยังตัดยังลดไม่หมด
ก็ต้องกลับมาเกิดมีกายใหม่....เพื่อมาแก้ไขนิสัยตนเอง
เป็นบัญชีในพุทธศาสนา

เมื่อรู้เห็น นิสัยตนเอง...เป็นต้นเหตุความทุกข์
พระพุทธเจ้าจึงสอน....ให้ดับทุกข์ที่ต้นเหตุ
จะดับทุกข์ได้...จึงต้องตัดลดนิสัย
แล้วท่านจะเอาอะไรตัดลดนิสัยตนเอง !!!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** นิสัย ****

รู้เห็น อารมณ์ตนเอง...แล้วจึงต้องค้นหา นิสัยตนเอง
ทำไมเราถึงได้ชอบนักหนา อยากได้นักหนา
ทำไมเราถึงเกลียดมันนัก เบื่อมันนัก

พบนิสัย ตัวสร้างอารมณ์
ก็ต้องตั้งใจตัดลดนิสัย ให้ได้จริง วันละชั่วโมง
ทำได้จริง ก็เกิดเป็นชั่วโมงของสัจจะขึ้นมา
การกระทำที่ทำได้ ถูกประเมินเป็นศาสนาขึ้นมา
เกิดเป็น ....ตัวตนของศาสนาพุทธ
เพราะ ศาสนา อยู่ที่...ตัวที่เราตัดได้ ตัวที่เราลดได้

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

น้ำแข็งขั้วโลกเหนือบางลง​

​

ลอสแองเจลิส 7 เม.ย.-ข้อมูลใหม่จากดาวเทียม พบว่า น้ำแข็งในทะเลขั้วโลกเหนือมีลักษณะบางลงมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนน้ำแข็งขั้วโลกเหนือก็ลดลงอย่างต่อเนื่องในบริเวณพื้นผิว

ข้อมูลใหม่ ระบุว่า น้ำแข็งตามฤดูกาลที่บางลงมีประมาณร้อยละ 70 ของน้ำแข็งโดยรวมในมหาสมุทรอาร์คติก เพิ่มขึ้นจากช่วงทศวรรษ 1980 และ 1990 ซึ่งมีปริมาณน้ำแข็งที่บางลงคิดเป็นเพียงร้อยละ 40 และ 50 ส่วนน้ำแข็งที่หนาขึ้นมีไม่ถึงร้อยละ 10 จากเดิมที่เคยมีถึงร้อยละ 30-40 และเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มีน้ำแข็งที่หนาขึ้นอยู่ราวร้อยละ 20

ข้อมูลพบว่า น้ำแข็งปริมาณมากที่สุดในมหาสมุทรอาร์คติกช่วงฤดูหนาวในปี 2551-2552 มีเนื้อที่ 15.2 ล้านตารางกิโลเมตร ต่ำที่สุดเป็นลำดับที่ 5 ในประวัติศาสตร์ ปริมาณน้ำแข็งที่สูญเสียไปคิดเป็นพื้นที่ 720,000 ตารางกิโลเมตร หรือเทียบเท่าพื้นที่ของรัฐเท็กซัส

นักวิทยาศาสตร์แสดงความวิตกมานานหลายปีแล้วถึงสัญญาณเตือนปริมาณน้ำแข็งขั้วโลกเหนือลดลง น้ำแข็งในบริเวณนี้มีบทบาทสำคัญเปรียบเสมือนเครื่องปรับอากาศขนาดยักษ์ให้กับระบบสภาพอากาศโลก ซึ่งจะทำหน้าที่สะท้อนแสงอาทิตย์กลับไปสู่อวกาศ ปริมาณน้ำแข็งที่ลดลงทำให้น้ำทะเลดูดซับแสงอาทิตย์มากขึ้น เพิ่มสภาวะโลกร้อนที่เกิดจากก๊าซเรือนกระจกอันเกิดมาจากกิจกรรมของมนุษย์.-สำนักข่าวไทย

2009-04-07 15:21:25

เกิดแผ่นดินไหว 7 ริกเตอร์ บริเวณใกล้รัสเซีย​

​

มอสโก 7 เม.ย. - คณะเจ้าหน้าที่ด้านแผ่นดินไหวของสหรัฐ รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์ วันนี้ ใกล้กับหมู่เกาะคูริล บริเวณทะเลแปซิฟิกเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ขัดแย้งจากการอ้างสิทธิเหนือดินแดนระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น


สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสติ ในรัสเซีย รายงานว่า เจ้าหน้าที่รัสเซียระบุตัวเลขแผ่นดินไหวที่ 6.8 ริกเตอร์ ขณะที่ศูนย์ข้อมูลแผ่นดินไหวแห่งชาติ ของสำนักธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีผู้อยู่อาศัยห่างไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ของเมืองคูริลสก์ ราว 295 กิโลเมตร และลึก 39.1 กิโลเมตร เมื่อเวลา 11.23 น.วันนี้ ตามเวลาในไทย.-สำนักข่าวไทย

2009-04-07 13:12:09

เหยื่อแผ่นดินไหวอิตาลีตายพุ่งถึง 179 คนแล้ว ​

​

อิตาลี 7 เม.ย. - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในอิตาลียังพุ่งไม่หยุด ล่าสุดตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็น 179 คนแล้ว

เจ้าหน้าที่กู้ภัยอิตาลียังคงเดินหน้าค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง 6.2 ริกเตอร์ ในเมืองลาควีลา เมื่อวานนี้ ซึ่งขณะนี้ยังคงมีผู้สูญหายไปอีก 34 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 1,500 คน อาคารบ้านเรือนพังถล่มเสียหายอย่างราบคาบราว 10,000 หลัง ยังผลให้ผู้คนราว 70,000 คน ไร้ที่อยู่อาศัย

ด้านนายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี กล่าวว่า ในเบื้องต้นรัฐบาลได้อนุมัติเงิน 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,400 ล้านบาท เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว พร้อมทั้งเตรียมจัดส่งเต็นท์เข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบภัยราว 16,000-20,000 คน ขณะที่หลายประเทศก็เสนอให้ความช่วยเหลือแก่อิตาลีด้วยเช่นกัน. -สำนักข่าวไทย

2009-04-07 14:09:19

ยูเอ็นแนะเสริมสร้างอาคารเขตแผ่นดินไหวให้แข็งแรงจะช่วยลดยอดคนตาย​

​

เจนีวา 7 เม.ย.- สำนักงานว่าด้วยกลยุทธ์ระหว่างประเทศเพื่อการลดภัยพิบัติแห่งสหประชาชาติ (UNISDR) แนะว่า การเสริมสร้างอาคารที่อยู่ในเขตเสี่ยงแผ่นดินไหวให้มีโครงสร้างแข็งแรงจะช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงได้ เพราะอาคารพังถล่มคือสาเหตุหลักที่ทำให้คนเสียชีวิตจากแผ่นดินไหว

ยูเอ็นไอเอสดีอาร์ระบุว่า แผ่นดินไหว 6.3 ริกเตอร์ทางตอนกลางของอิตาลีเช้าวานนี้ มีความรุนแรงพอ ๆ กับแผ่นดินไหวบนเกาะชวาของอินโดนีเซียเมื่อเดือน พ.ค. 2549 ที่คร่าชีวิตผู้คนในเมืองยอกยาการ์ตาไปมากกว่า 5,000 คน จนถึงขณะนี้ยูเอ็นไอเอสดีอาร์ได้รับรายงานว่า มีอาคารในเมืองลากวีลาของอิตาลีพังถล่มหรือเสียหายแล้ว 1 หมื่นกว่าหลัง ส่วนใหญ่เป็นอาคารที่สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคกลางและไม่ได้มาตรฐานต้านทานแผ่นดินไหวในปัจจุบัน การบูรณะอาคารเก่าให้ต้านทานแผ่นดินไหวอาจต้องลงทุนเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า แต่การเสริมสร้างอาคารใหม่จะใช้งบเพิ่มเติมไม่ถึงร้อยละ 5

อิตาลีเคยเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ประมาณ 25 ครั้งตลอด 40 ปีที่ผ่านมา บางครั้งรุนแรงถึง 6.9 ริกเตอร์ มีผู้เสียชีวิตรวมกันมากกว่า 5,000 คน สร้างความเสียหายเกือบ 21,000 ล้านยูโร (เกือบ 1 ล้านล้านบาท) รายงานฉบับใหม่ที่ยูเอ็นไอเอสดีอาร์จะเผยแพร่เดือนหน้าระบุว่า แต่ละปีทั่วโลกมีคนเสี่ยงเผชิญแผ่นดินไหว 100 ล้านคน เฉพาะในยุโรปประเทศที่เสี่ยงมากที่สุดคือ อิตาลี โรมาเนียและกรีซ มีประชาชนเสี่ยงเกือบ 3.5 ล้านคน ขณะที่ตุรกีมีประชาชนเสี่ยงราว 2 ล้านคน. - สำนักข่าวไทย

2009-04-07 12:47:01

ข่าวภายในประเทศ

นักท่องเที่ยวต่างชาติพอใจอัธยาศัยคนไทย ชายหาด ทะเล แหล่งดึงดูดเที่ยวไทย​

​

กรุงเทพฯ 7 เม.ย.- ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) สำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต่อการมาท่องเที่ยวประเทศไทย” โดยเก็บข้อมูลจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบริเวณห้องพักผู้โดยสารขาออก อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 902 คน เมื่อวันที่ 26-27 มี.ค.ที่ผ่านมา

พบว่าจุดดึงดูดที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย คือ ชายหาด ทะเล และกิจกรรมทางทะเลร้อยละ 20 อัธยาศัยไมตรีของคนไทย ร้อยละ 13.6 ความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ร้อยละ 12.7 แหล่งช็อปปิ้ง และรสชาติและความหลากหลายของอาหาร ร้อยละ 7.3 แหล่งค้าขาย/ติดต่อธุรกิจ ร้อยละ 6.3 ความหลากหลายของวัฒนธรรมประเพณีร้อยละ 5.8

ส่วนสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นมีผลต่อการตัดสินใจมาท่องเที่ยวประเทศไทยหรือไม่ พบว่า ร้อยละ 68.5 ระบุว่า ไม่มีผล ขณะที่ร้อยละ 31.5 ระบุว่า มีผล ด้านคะแนนความพึงพอใจต่อการมาท่องเที่ยวประเทศไทยมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 7.76 จากเต็ม 10 คะแนน โดยความพึงพอใจในอัธยาศัยไมตรีของคนไทยมีคะแนนสูงที่สุด ขณะที่ความพึงพอใจในคุณภาพอากาศมีคะแนนต่ำที่สุด ขณะที่ความรู้สึกต่อการมาท่องเที่ยวประเทศไทย เทียบระหว่างก่อนเดินทางมากับเมื่อได้มาเที่ยวแล้ว พบว่า

เกินครึ่งหรือร้อยละ 55.2 ดีกว่าที่คาดหวังไว้ ร้อยละ 42.8 ระบุพอ ๆ กับที่คาดหวังไว้ มีเพียงร้อยละ 2 ระบุ แย่กว่าที่คาดหวังไว้ เมื่อถามว่าจะกลับมาเที่ยวประเทศไทยอีกครั้งหรือไม่ พบว่าร้อยละ 94.1 จะกลับมาอีก มีเพียงร้อยละ 1 จะไม่กลับมาอีก ขณะที่ร้อยละ 4.9 ไม่แน่ใจ และยินดีที่จะแนะนำและบอกต่อให้ผู้อื่นมาเที่ยวประเทศไทย ถึงร้อยละ 93.9.-สำนักข่าวไทย

2009-04-07 14:13:35

ทหารกัมพูชายังทยอยเสริมกำลังรอบเขาพระวิหาร​

​

ศรีสะเกษ 6 เม.ย.-ทหารกัมพูชายังทยอยเสริมกำลังที่เขาพระวิหาร แม้เหตุการณ์ยังเป็นปกติ ขณะที่ผลการปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาก่อนหน้านี้ ทำให้ร้านค้าของชาวกัมพูชาบริเวณทางขึ้นเขาพระวิหารถูกไฟเผาวอดกว่า 200 หลัง และแนวโน้มเทศกาลสงกรานต์ปีนี้คงไม่สามารถเปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากบริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ว่า หลังมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เมื่อวันที่ 3 เมษายนและมีการเจรจาระหว่าง พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี กับ พล.ท.ซรัย ดึ๊ก ผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ของกัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและมีการจับมือตกลงหยุดยิง ทำให้สถานการณ์รอบบริเวณเขาพระวิหารกลับคืนสู่ภาวะปกติอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม จากการตรวจการณ์ของทหารไทยพบว่าทหารกัมพูชายังใช้รถยีเอ็มซีและรถปิคอัพทยอยขนทหารกัมพูชาไปประจำตามฐานปฏิบัติการต่าง ๆ รอบบริเวณเขาพระวิหารซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาก่อนหน้านี้ ทำให้ร้านค้าของชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณทางด้านซ้ายมือทางขึ้นปราสาทพระวิหารถูกไฟเผาวอดไปกว่า 200 หลังคาเรือนราบเป็นหน้ากอง เหลือเพียงเศษสังกะสีกองพังราบอยู่กับพื้นและยังคงมีควันไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่เป็นบางส่วน ส่วนทางด้านขวามือทางขึ้นปราสาทพระวิหารซึ่งเป็นที่ตั้งของเจ้าหน้าที่ประจำปราสาทพระวิหารของจังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชาได้รับความเสียหายเล็กน้อย โดยในบริเวณร้านค้าของชาวกัมพูชา ไม่มีชาวกัมพูชาได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เนื่องจากว่าทหารกัมพูชาได้อพยพชาวบ้านออกไปก่อนหน้าที่จะมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาหลายวันแล้ว และการปะทะกันในครั้งนี้ทำให้ทางการของกัมพูชาไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาและชาวต่างประเทศขึ้นไปเที่ยวชมปราสาทพระวิหารได้ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ กล่าวว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดอาสาสมัครช่วยรบประจำหมู่บ้านทุกหมู่บ้านพร้อมด้วยอาวุธปืนที่ทางราชการแจกให้ครบมือออกลาดตระเวนตามเขตพื้นที่หมู่บ้านทุกหมู่บ้านในช่วงเวลากลางคืน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในการดูแลรักษาความปลอดภัยและดูแลความสงบเรียบร้อยของชาวบ้านในเขตตำบลเสาธงชัยทุกหมู่บ้าน ซึ่งหากมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาอย่างรุนแรงเมื่อไรก็พร้อมร่วมกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อพยพชาวบ้านให้ไปอยู่รวมกันที่ศูนย์อพยพโรงเรียนบ้านตาแท่น ตำบลบึงมะลู อำเภอกันทรลักษ์ เพื่อความปลอดภัยได้อย่างทันที

ด้านนายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์บริเวณเขาพระวิหารเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากที่ทหารทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและสามารถตกลงกันได้ ทำให้ไม่มีความรุนแรงจากการสู้รบเกิดขึ้นอีกต่อไป ส่วนกรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับกองกำลังสุรนารีได้สั่งปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมาอย่างไม่มีกำหนดนั้น หากจะมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมได้อีก จะต้องดูความพร้อมขององค์ประกอบหลายอย่าง ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้คงจะไม่สามารถอนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย. -สำนักข่าวไทย

2009-04-06 16:02:00

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

​

ข้อควรปฏิบัติในการสนทนาธรรม

๑. ต้องชำระศีลให้บริสุทธิ์ก่อน ถ้าเป็นฆราวาสก็ต้องรักษาศีล ๕ ให้ บริสุทธิ์ หรือถ้ารักษาศีล ๘ มาล่วงหน้าสัก ๗ วัน ก่อนสนทนาได้ยิ่งดี ไม่ใช่เพิ่ง สร่างเมาแล้วมาคุยธรรมะกัน หรือว่ากินเหล้าไปก็คุยธรรมะไปอย่างนั้นใช้ไม่ได้​

๒. ต้องหมั่นเจริญสมาธิภาวนาเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนสนทนาธรรมถ้าได้ทำสมาธิก่อนจะดีมาก เพราะใจจะผ่องใสดี ทำสมาธิจนรู้สึกเหมือนอย่างกับว่า ทั้งเนื้อทั้งตัวของเราเป็นก้อนธรรมทั้งก้อน ให้ตัวเป็นธรรม ใจเป็นธรรมเสียก่อนแล้วจึงมาสนทนาธรรมกัน​

๓. แต่งกายสุภาพ ทีแรกที่เราชำระศีลให้บริสุทธิ์นั้น กายกับวาจาเป็นธรรมแล้ว พอเราทำสมาธิบ่อยๆ เข้า ใจของเราก็เป็นธรรมด้วย ถึงเวลาจะสนทนาก็ต้องแต่งกายให้สุภาพ สะอาดตา ยิ่งถ้าเป็นชุดขาวได้ยิ่งดีมาก ไม่ควรใช้เสื้อผ้าสีบาดตา ทั้งนี้เพื่อให้เครื่องประกอบกายของเราก็เป็นธรรมด้วย​

๔. กิริยาสุภาพ จะยืนจะเดินจะนั่งให้เรียบร้อย หนักแน่น สงบเสงี่ยม สำรวม มีกิริยาเป็นธรรม ไม่ให้กิริยาของเราทำให้ผู้อื่นขุ่นใจ เช่น เดินลงส้นเท้ามาปังๆ​

๕. วาจาสุภาพ คือมีวาจาสุภาษิตดังได้กล่าวมาแล้ว ไม่พูดเสียงดัง ไม่สรวลเสเฮฮา ไม่ยกตนข่มท่าน ไม่รู้บอกว่าไม่รู้ ควรชมก็ชม ควรติก็ติ แต่ไม่ด่า​

๖. ไม่กล่าวค้านพุทธพจน์ เพราะพุทธพจน์คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น โดยเนื้อแท้แล้วย่อมถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ อรรถกถาหรือฎีกา* เกือบทั้งหมดก็ถูกต้อง ขึ้นอยู่กับว่าสติปัญญาของเรามีพอจะไตร่ตรองตามท่านหรือไม่ ถ้าเราไปกล่าวค้านหรือปฏิเสธโดยเด็ดขาดไว้แล้ว ประการแรก ก็ไม่รู้จะใช้อะไรเป็นมาตรฐาน ประการที่ ๒ หากคู่สนทนาอธิบายหรือชี้แจงถึงเหตุผลให้เราฟัง แม้เราจะเข้าใจก็อาจไม่ยอมรับ เพราะกลัวเสียหน้า มีทิฏฐิ ทำให้เกิดการวิวาทบาดหมางใจกันได้ ดังนั้นสำหรับอรรถกถาหรือฎีกา เมื่อไม่เห็นด้วยก็ควรแสดงเพียงแต่ว่ารู้สึกสงสัย หรือแสดงความเห็นของตนว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้มากกว่า พร้อมกับขอความเห็นจากคู่สนทนา​

๗. ไม่พูดวาจาที่ทำให้เกิดความแตกร้าว ไม่ใช้คำพูดก้าวร้าวรุนแรง แต่ใช้วาจาที่ก่อให้เกิดความสามัคคี ประสานน้ำใจ​

๘. ไม่แสดงอาการโกรธเมื่อถูกขัดแย้ง เราพูดอะไรไปถ้าเขาแย้งมาอย่าเพิ่งโกรธ ให้พิจารณาไตร่ตรองดูโดยแยบคาย เพราะบางทีเราอาจมองข้ามอะไรบางอย่างไป เรื่องบางเรื่องอาจถูกในที่หนึ่ง แต่ผิดในอีกที่หนึ่ง ขึ้นอยู่กับเวลาและสถานที่ ถ้าเราด่วนโกรธเสียก่อน ความคิดที่จะไตร่ตรองตามก็ไม่มี ปัญญาของเราจะถูกความโกรธปิดบังหมด​

๙. ไม่ปรารถนาลามก คิดที่จะให้ตนมีชื่อเสียง อยากเด่นอยากดัง ตั้งใจจะฉีกหน้าผู้อื่นเพื่อให้ตนดัง ถ้าวันไหนจะไปสนทนาธรรมแล้วเกิดมีความรู้สึกอยากจะไปฉีกหน้าใคร วันนั้นนอนอยู่บ้านดีกว่า มันไม่เป็นธรรมตั้งแต่ต้นแล้ว อย่าไปสร้างเวรสร้างกรรมเลย​

๑๐. ตั้งจิตไว้ว่าจะสนทนาธรรมเพื่อให้เกิดปัญญา จะเอาความรู้ของเราไปต่อเอาความรู้คนอื่นเขามา ไม่ใช่ไปเพื่ออวดรู้ แต่จะไปแลกเปลี่ยนความรู้กัน​

๑๑. ไม่พูดออกนอกเรื่องที่ตั้งประเด็นไว้ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นอวดดีหรือนินทาคนอื่นไป เช่น พูดเรื่องบาป พูดไปพูดมากลายเป็นว่า “ฉันน่ะไปทำทานไว้ที่นั่นที่นี่” กลายเป็นอวดว่าฉันใจบุญนะ หรือพูดเรื่องทาน พูดไปพูดมากลายเป็นว่า “อุ๊ย! แม่คนนั้นน่ะขี้เหนียว อีตาเศรษฐีคนนั้นก็ขี้เหนียว” ถามว่าใครดี “ฉัน...ฉัน” อย่างนี้ใช้ไม่ได้​

๑๒. ไม่พูดนานไปจนน่าเบื่อ รู้จักกาลเทศะ เรื่องบางเรื่องแม้น่าฟัง แต่ถ้าพูดนานไปมากไป ผลที่ได้กลับจะน้อยลงกว่าพูดพอดีๆ เหมือนคนรับประทานอาหาร แม้เป็นอาหารดีรสอร่อย ถ้ารับประทานอิ่มไปจนจุกท้องเฟ้อ ทีหลังก็จะพาลขยาดไม่อยากจะรับประทานอาหารชนิดนั้นๆ​

ที่มา http://www.kidtumdee.com/smf/index.php?topic=94.0​

 

วันที่ 07 เมษายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6704 ข่าวสดรายวัน


"โคลัมเบีย"น้ำท่วมหนัก



เมื่อ 6 เม.ย. สำนักข่าวโคลอมเบียรีพอร์ตรายงานว่า พื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก รวมถึงเมืองหลวงกรุงโบโกตาของประเทศโคลัมเบีย ทวีปอเมริกาใต้ เผชิญภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ พายุฝนตกหระหน่ำต่อเนื่องนานนับเดือน ทำให้น้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง และหลายจุดเกิดเหตุดินถล่ม มีอาคารบ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 26 ราย ต้องอพยพจากที่พักอาศัย 5 หมื่นราย นอกจากนั้น รถโดยสารสาธารณะในโบโกตาต้องหยุดให้บริการเพราะน้ำท่วมขังจนวิ่งไม่ได้

ผอ.อนามัยโลกห่วง ปัญหาวัณโรคดื้อยา!




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ผอ.องค์การอนามัยโลก หรือ "ดับเบิลยูเอชโอ" เปรียบภาวะเชื้อวัณโรคดื้อยาเหมือนกับระเบิดเวลาที่แพร่ระบาดรวดเร็วที่สุดในประเทศกำลังพัฒนา

มาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก กล่าวระหว่างการประชุมเพื่อกำหนดนโยบายต่อสู้ปัญหาวัณโรคดื้อยาในกรุงปักกิ่ง ว่า กว่าครึ่งของผู้ป่วยวัณโรคเป็นสายพันธุ์ดื้อยาหลายขนานตั้งแต่แรก ซึ่งไม่ได้เป็นผลโดยตรงมาจากการรักษาที่ไม่ได้มาตรฐาน ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่วัณโรคดื้อยาได้แพร่ระบาดสู่ประชากรทั่วไปอย่างรวดเร็ว

ข้อมูลองค์การอนามัยโลกเมื่อปี 2549 พบว่า ในแต่ละปีจะมีผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ 9 ล้านราย ในกลุ่มนี้ราว 490,000 รายเป็นสายพันธุ์วัณโรคดื้อยาหลายขนาน และอีก 40,000 รายเป็นวัณโรคดื้อยาเกือบทุกขนาน และมีทางเลือกในการรักษาไม่มากนัก จึงทำให้มีอัตราการเสียชีวิตสูง

สำหรับอินเดียเป็นประเทศที่มีอัตราผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนานสูงที่สุดในโลก ตามด้วยจีน

"ยุ่น"เพิ่มเงินอัดฉีดศก.



เมื่อ 6 เม.ย. เอเอฟพีรายงานว่า นายทาโร่ อาโสะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น มีคำสั่งให้นายคาโอรุ โยซาโนะ รัฐมนตรีคลัง จัดเตรียมแผนอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ มูลค่าประมาณ 100,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 3.5 ล้านล้านบาท ถือเป็นงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 3 นับตั้งแต่ประกาศออกมาเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนต.ค.ปีก่อน งบใหม่นี้คาดว่าจะใช้ช่วยเหลือแรงงานถูกเลิกจ้าง ช่วยให้บริษัทที่มีปัญหาการเงินเข้าถึงสินเชื่อง่าย และรณรงค์ให้คนญี่ปุ่นใช้พลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้น

จีนจับมือหมี-ต้านมะกันเชือดโสม



เมื่อ 6 เม.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าปฏิกิริยานานาชาติภายหลังรัฐบาลคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือยิงจรวดส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรโลก ว่า การประชุมฉุกเฉินนัดแรกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จบลงโดยยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะผู้แทนสมาชิกถาวรจากรัสเซียและจีนไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของผู้แทนรัฐบาลสหรัฐกับญี่ปุ่น ซึ่งต้องการใช้มาตรการแข็งกร้าวจัดการเกาหลีเหนือ

"ประชาคมโลกไม่ควรสร้างความตึงเครียดเพิ่มขึ้น ฉะนั้นคณะมนตรีความมั่นคงต้องพิจารณารายละเอียดต่างๆ อย่างถี่ถ้วนก่อนออกมาตรการใดๆ" นายจาง ยี่ซุย เอกอัครราชทูตจีนประจำยูเอ็น กล่าว และเป็นสัญญาณชี้ว่ามติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือชุดใหม่ไม่น่าจะผ่านความเห็นชอบ ตราบใดที่ชาติมหาอำนาจในคณะมนตรีมีความเห็นสวนทางกัน ขณะที่เกาหลีเหนือยืนกรานว่าการทดลองครั้งนี้เป็นโครงการเพื่อสันติภาพ ไม่ใช่ลอบทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล
สงกรานต์เฮ!ขึ้นมอเตอร์เวย์ฟรี

เที่ยง 10 เม.ย.-เที่ยง 16 เม.ย.

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 เม.ย. นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบ ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ภายในระยะเวลาที่กำหนด พ.ศ. ...ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ เนื่องจากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของปี 2552 มีวันหยุดราชการต่อเนื่องหลายวันและคาดหมายได้ว่าจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการจราจรบนทางหลวงพิเศษสายดังกล่าว โดยให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนตร์บนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (ทางหลวงพิเศษหมายเลข 36 สายกรุงเทพมหานคร-ระยอง ตอนกรุงเทพมหานคร-เมืองพัทยา รวมทางแยกไปบรรจบทางหลวงหมายเลข 34 (บางวัว) และทางแยกเข้าท่าเรือแหลมฉบัง) และบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 (ทางหลวงพิเศษหมายเลข 37 สายถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ตอนบางปะอิน-บางพลี) ตั้งแต่เวลา 12.00 นาฬิกา ของวันที่ 10 เมษายน 2552 ถึงเวลา 12.00 นาฬิกา ของวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2552

คมชัดลึก :ฟ้าผ่าหลัง “ม็อบเสื้อแดง” ประกาศโค่นอำมาตย์ ฝนถล่ม ต้นไม้หัก หนีตายชุลมุน

เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น.วันที่ 7 เม.ย. ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลซึ่งเป็นพื้นที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ระหว่างที่แกนนำแนวร่วมคนเสื้อแดงกล่าวปราศรัยปลุกระดมให้เตรียมพร้อมเผด็จศึกโค่นล้มอำมาตยาธิปไตยในวันที่ 8 เม.ย.ปรากฎว่าฟ้าได้ผ่าพร้อมกับมีฟ้าร้องดังสนั่นหวั่นไหว หลายครั้งติดต่อกัน
จากนั้นฝนได้ตกลงลงมาอย่างหนักราวฟ้าถล่ม ทำให้กิ่งไม้ขนาดใหญ่ที่เรียงรายอยู่รอบทำเนียบฯหักโค่นลงมาหลายต้นส่งผลให้ผู้ชุมนุมพากันวิ่งหลบหนีกันเข้าไปตามเต๊นท็อย่างอลหม่าน
ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 18.00 น. ที่ถนนพระราม 1 หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกิดฝนตกหนักและลมกรรโชกแรงและมีลูกเห็บตกลงมาด้วย ทำให้ประชาชนที่ผ่านไปแถวสยามสแควร์และระแวกดังกล่าวต้องหลบลูกเห็บที่ตกลงมาพร้อมเม็ดฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย ทั้งนี้มีรถบางคันที่ถูกลูกเห็บที่ใส่รถแต่ไม่ได้รับความเสียหาย

 

*** ปิดโลก เปิดธรรม ****

ท่าน...เป็นมนุษย์
ข้าพเจ้า....ก็เป็นมนุษย์ธรรมดา
ท่านไม่เผื่อใจไว้บ้างหรือ...ถ้าสิ่งที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้เป็นความจริง
ถ้าต่อไป ความจริงปรากฏขึ้นว่า....สัจจะคือคำสอนของพระพุทธเจ้า
แล้วท่านจะทำอะไรต่อไป !!!

โปรดเมตตาตน
เปิดโอกาสให้ตนเองได้เรียนรู้หนทางหลุดพ้นทุกข์
ไม่มีประโยชน์อันใดที่ต้องมาโกหกในเรื่องศาสนา
จะมีประโยชน์มากถ้าทุกท่านนำสัจจะไปตัดลดนิสัยตนเอง

ด้วยความปรารถนาดีต่อสัตว์โลกทั้งมวล
ขอดินฟ้าอากาศเป็นสักขีพยานในการกระทำเพื่อสานต่อศาสนา

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

วันนี้กรุงเทพหลายพื้นที่ ฝนตกแรงมีพายุและฟ้าแรงมากครับ

ซึ่งคาดว่าหลายพื้นที่ของประเทศไทยก็ประสบกับสภาวะพายุฟ้าฝนคะนองเช่นกัน รักษาสุขภาพกันเอาไว้ด้วยครับ

 

ภาพวันวาน

อยากรวยทางลัด ตั้งวงรำพัด เลี้ยงชีพตัวเอง

6 เม.ย. 52

เศรษฐกิจถดถอย ลอยแพคนงาน พาลสวมชุดพระ

7 เม.ย. 52

วิหคเหล็กเหิรฟ้า พาดิ่งพสุธา

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"พอลิเมอร์นำไฟฟ้า" ช่วยโลกได้โดยการนำไปผลิตโซลาร์เซลล์ที่ผลิตง่ายและราคาถูก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 เมษายน 2552 19:12 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

ศ.ฮิเดกิ ชิรากาวา (Prof.Hideki Shirakawa)​

นักเคมีญี่ปุ่นเจ้าของรางวัลโนเบลจากการค้นพบ "พอลิเมอร์นำไฟฟ้า" เชื่ออีก 2-3 ปี มีทีวีจอบางเฉียบ-ช่วยโลกได้ เพราะกินไฟต่ำสุด และวัสดุเดียวกัน ยังนำไปผลิตโซลาร์เซลล์ที่มีกระบวนการผลิตง่ายและราคาถูก อีกทั้งยังมีทรัพยากรวัตถุดิบเหลือเฟือ

ศ.ฮิเดกิ ชิรากาวา (Prof.Hideki Shirakawa) นักเคมีชาวญี่ปุ่นผู้ค้นพบพอลิเมอร์นำไฟฟ้า (Conductive Polymer) และได้รับรางวัลโนเบล สาขาเคมี เมืื่อปี 2543 จากการค้นพบดังกล่าว และเกษียณอายุการทำงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยซึคูบะ (University of Tsukuba) ประเทศญี่ปุ่น เผยกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ และสื่อมวลชนว่าในอีก 2-3 ปี เราจะมีโทรทัศน์ที่บางที่สุด และยังใช้พลังงานต่ำสุด ซึ่งพัฒนาจากพอลิเมอร์นำไฟฟ้า

แม้ว่าปัจจุบันจะมีโทรทัศน์ที่บางลงเรื่อยๆ แต่โทรทัศน์เหล่านั้น ผลิตจากหลอดแอลอีดี (LED) ซึ่งต้องใช้หลอดไฟแบล็คไลท์ (Black Light) ที่ทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน ในขณะที่โทรทัศน์ซึ่งผลิตจากพอลิเมอร์นำไฟฟ้า ไม่จำเป็นต้องใช้หลอดดังกล่าว ทำให้เราพัฒนาโทรทัศน์ที่บางและสิ้นเปลืองพลังงานน้อยที่สุดได้

ทั้งนี้ ศ.ชิรากาวาได้รับเชิญให้มาบรรยายพิเศษภายในการประชุมวิชาการระดับนานาชาติ ฉลองครบรอบ 48 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-9 เม.ย.52 ณ โรงแรมมิลเลเนียมฮิลตัน กรุงเทพฯ ภายใต้หัวข้อ "การพัฒนาแบบยั่งยืนเพื่อรักษาโรค: วิสัยทัศน์ 2050” (Sustainable Development to Save the Earth: Technologies and Strategies Vision 2050)

การผลิตไฟฟ้าไว้ใช้เองด้วยเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคาบ้าน​

นักเคมีญี่ปุ่นเจ้าของรางวัลโนเบล ได้ตอบคำถามทีมข่าววิทยาศาสตร์ ถึงการนำพอลิเมอร์ไปใช้เพื่อรักษาโลกว่า จะเห็นได้ชัดเจนขึ้น ในการพัฒนาเซลล์แสงอาทิตย์อีก 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากเซลล์แสงอาทิตย์ที่พัฒนาจากพอลิเมอร์นำไฟฟ้านั้น มีกระบวนการผลิตที่ง่ายมาก ราคาถูก และยังมีทรัพยากรในโลกอีกเหลือเฟือ ที่จะนำมาผลิตเป็นพอลิเมอร์นำไฟฟ้าได้ โดยวัตถุดิบสำคัญคือพอลิเมอร์จากปิโตรเคมี และแม้ว่าน้ำมันปิโตรเลียมจะหมดไปจากโลกแล้ว นักวิทยาศาสตร์ก็ยังสามารถสกัดพอลิเมอร์ทดแทนจากพืชได้​

“ไม่ว่าอะไรจะหมดไปจากโลก นักวิทยาศาสตร์ก็จะสามารถหาสิ่งอื่นมาทดแทนได้ เพราะเป็นหน้าที่ของนักวิทยาศาสตร์ที่ต้องคิดค้นหาอะไรใหม่ๆ ส่วนที่ผมมาบรรยายครั้งนี้ ก็คาดหวังว่าจะทำให้คนไทยได้รู้จักพอลิเมอร์นำไฟฟ้า" ศ.ชิรากาวากล่าว​

พร้อมกันนี้ ศ.ชิรากาวายังได้พูดถึงบทบาทของนักวิทยาศาสตร์ว่า ที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์ลืมที่จะสื่อสารกับโลกภายนอก ซึ่งโลกมีปัญหาอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะนักวิทยาศาสตร์ขาดการสื่อสารกับสังคม ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ขณะเดียวกันสังคมก็ไม่นำผลงานของนักวิทยาศาสตร์มาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม​

ทั้งนี้ เขาอยากให้มีเสียงจากสังคมสะท้อนว่า อยากให้นักวิทยาศาสตร์ทำอะไร แต่สังคมยังขาดการสื่อสารระหว่างนักวิทยาศาสตร์และสังคม โดยสื่อมวลชนเองก็ให้ความสำคัญแต่กีฬาและบันเทิง​

สำหรับรางวัลโนเบลสาขาเคมีประจำปี 2543 นั้น ศ.ชิรากาวาได้รับร่วมกับนักวิทยาศาสตร์อีก 2 คนคือ ดร.อลัน เจ ฮีเจอร์ (Dr.Alan J. Heeger) จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ในซานตาบาร์บารา (University of California, Santa Barbara) สหรัฐอเมริกา และ ดร.อลัน จี แมคไดอาร์มิด (Dr.Alan G MacDiarmid) จากมหาวิทยาลัยเพนน์ซิลวาเนีย (University of Pennsylvania) สหรัฐฯ​

ระหว่างบรรยาย ศ.ชิรากาวาระบุว่า การค้นพบพอลิเมอร์นำไฟฟ้านี้เป็นความร่วมมือของนักวิทยาศาสตร์หลากหลายสาขาและมีที่มาต่างกัน โดย ดร.ฮีเจอร์ นั้นเกิดและเติบโตในสหรัฐฯ ขณะที่ ดร.แมคไดอาร์มิด เกิดและเติบโตที่นิวซีแลนด์ ส่วนเขาเองเกิดและเติบโตที่ประเทศญี่ปุ่น​

ส่วนการค้นพบพอลิเมอร์นำไฟฟ้าของ ศ.ชิรากาวานั้น เขาบอกว่าเป็น "ความผิดพลาดที่นำไปสู่ความสำเร็จ" โดยแรกทีเดียว เขาตั้งใจจะวิเคราะห์โครงสร้างของ "พอลิอะเซทิลีน" (Polyacetylene) ซึ่งเป็นที่สนใจในช่วงนั้น เขากลับผสมสารผิดปริมาณไป จึงได้พอลิเมอร์ที่มี่คุณสมบัตินำไฟฟ้าได้​

แรกทีเดียวเขารู้สึกตกใจ และไม่คิดว่าผลจะออกมาเป็นเช่นนั้น ปัจจุบันพอลิเมอร์นำไฟฟ้ามีอยู่ในโทรศัพท์มือถือและแบตเตอรีบางชนิด ซึ่งเราไม่สามารถเห็นวัสดุชนิดนี้ได้โดยตรง แต่ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตเราและอนาคตจะยิ่งมากขึ้น​

ที่มา http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9520000039372

 

bnbk <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2023161", true); </script>
ผู้ร่วมสนับสนุนบริ�


วันที่สมัคร: Aug 2006
ข้อความ: 831
<if condition=""></if>Groans: 1
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 373
ได้รับอนุโมทนา 16,754 ครั้ง ใน 829 โพส
พลังการให้คะแนน: 1574


<!-- message --> <!-- ads code --> <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "pub-2576485761337625"; /* 250x250, created 31/01/09 */ google_ad_slot = "7252767143"; google_ad_width = 250; google_ad_height = 250; //--> </script> <script type="text/javascript" src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </script><script>window.google_render_ad();</script><ins style="border: medium none ; margin: 0pt; padding: 0pt; display: inline-table; height: 250px; position: relative; visibility: visible; width: 250px;"><ins style="border: medium none ; margin: 0pt; padding: 0pt; display: block; height: 250px; position: relative; visibility: visible; width: 250px;"><iframe allowtransparency="true" hspace="0" id="google_ads_frame3" marginheight="0" marginwidth="0" name="google_ads_frame" src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-2576485761337625&dt=1239121426591&lmt=1239121425&prev_slotnames=7252767143%2C6296914428&output=html&slotname=7252767143&correlator=1239121425987&url=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Fshowthread.php%3Fp%3D2013798%23post2013798&ref=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Fforumdisplay.php%3Ff%3D178&frm=0&ga_vid=1487396217.1239022419&ga_sid=1239115416&ga_hid=853047284&ga_fc=true&flash=10.0.12&u_h=900&u_w=1440&u_ah=866&u_aw=1440&u_cd=32&u_tz=420&u_his=29&u_java=true&u_nplug=22&u_nmime=113&dtd=3&w=250&h=250&xpc=FGEFkcoEuy&p=http%3A//palungjit.org" style="left: 0pt; position: absolute; top: 0pt;" vspace="0" scrolling="no" width="250" frameborder="0" height="250"></iframe></ins></ins>
<table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="headline" valign="baseline" align="left">ธรณีพิโรธ 7.0 ริกเตอร์เขย่าหมู่เกาะรัสเซียในแปซิฟิก</td></tr></tbody></table><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td bgcolor="#cccccc" height="1"></td></tr></tbody></table><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" valign="baseline" align="left">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td><td class="date" valign="baseline" align="left">7 เมษายน 2552 16:04 น.</td></tr></tbody></table><table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td valign="center" align="middle"></td></tr></tbody></table> เอ เอฟพี – กรมสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯเผย เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง วัดความสั่นสะเทือนได้ 7.0 ริกเตอร์ บริเวณใกล้หมู่เกาะคูริล ซึ่งเป็นหมู่เกาะพิพาทระหว่างรัสเซีย และญี่ปุ่น ในมหาสมุทรแปซิฟิก

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญแผ่นดินไหวของรัสเซียระบุกับสำนักข่าวอาร์ไอเอว่า แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ที่ 6.8 ริกเตอร์ และเกิดใกล้กับเกาะภูเขาไฟซีมูเชียร์

ขณะที่ ศูนย์เตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งตั้งอยู่ที่ฮาวาย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.8 ริกเตอร์เช่นกัน โดยยังเผยว่า ไม่น่าจะเกิดสึนามิขนาดมหึมากินบิรเวณกว้าง แต่อาจจะมีสึนามิขนาดย่อมแถบชายฝั่งในรัศมี 100 กิโลเมตรจากศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวได้

ศูนย์ข้อมูลข่าวสารแผ่นดินไหวแห่งชาติ ของกรมสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ รายงานบนเว็บไซต์ว่า แผ่นดินไหวดังกล่าวถล่มห่างจากเมืองคูริลสก์ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 295 กิโลเมตร ที่ความลึก 39.1 กิโลเมตร เมื่อเวลา 4.23 น.ตามเวลา GMT

ทั้งนี้ หมู่เกาะคูริลเป็นจุดที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น ส่วนทางใต้ของหมู่เกาะยังเป็นกรณีพิพาทเรื่องดินแดนระหว่างมอสโก และโตเกียว ย้อนไปถึงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

สำหรับเกาะซีมูเชียร์นั้น อยู่บริเวณตอนเหนือของดินแดนพิพาทดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันแล้วให้เป็นดินแดนของรัสเซีย

 

ช่วงนี้อยากให้ทุกๆคนที่ทำความดีแม้เล็กน้อยก็ดี ทำบุญกุศลใดก็ดี ปฏิบัติจิตทำสมาธิไม่ว่าแบบใดก็ดี ขอให้น้อมจิตถวายพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นที่ตั้ง เพื่อทรงเป็นร่มฉัตรแก้วของคนไทยให้อยู่เย็นเป็นสุขพ้นวิกฤตทั้งหลายไปได้ครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เกิดอาฟเตอร์ช็อกเขย่าอิตาลี -ยอดตายพุ่ง 207 คนแล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 เมษายน 2552 19:41 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

เอเอฟพี - ผู้เชี่ยวชาญได้ช่วยเหลือผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากซากปรักหักพังได้สำเร็จ หลังจาก 23 ชั่วโมงหลังจากที่แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเมืองลาควีลาได้ทำลายบ้านเรือนอันเก่าแก่ไปอย่างราบคาบ ยอดเสียชีวิตพุ่ง 207 ราย ขณะที่เกิดอาฟเตอร์ช็อกซ้ำอีกครั้งในวันนี้(7)

มาร์ตา วาเลนเต นักศึกษาวัย 24 ปี ยังมีสุขภาพดี แม้ว่าจะผ่านเวลาอันยากลำบากภายใต้อพาร์ทเมนท์ 4 ชั้นที่ถล่มลงมาจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว

ผู้เชี่ยวชาญได้ร่วมเข้าภารกิจช่วยเหลือเธอ โดยการดึงแผ่นผนังคอนกรีตออกมาทีละชิ้นๆ

"มันเป็นการช่วยเหลือที่เปราะบางมากๆ มันมีสัญญาณอันตรายและขาของเธอก็ติดอยู่" อัลโดนักเจาะถ้ำกล่าว และเสริมว่ายังมีคนที่ติดอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังอีก

ทั้งนี้ การช่วยชีวิตเธอได้เมื่อเวลา 02.00 ตามเวลาท้องถิ่นนับเป็นข่าวดีที่มีน้อยมาก ขณะที่ความหวังในการค้นหาผู้สูญหายอีกนับสิบเริ่มเลือนลางอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมด้วยสุนัขดมกลิ่นก็ยังทำการค้นหาต่อไป โดยจำนวนมากดึงซากอิฐคอนกรีตออกมาด้วยมือเปล่าในการค้นหาผู้รอดชีวิต โดยต่างทำงานกันอย่างหนักตลอดทั้งคืนและใช้เครื่องมือขุดเจาะไฟฟ้า โดยมีแสงสว่างจากสปอร์ตไลท์ขนาดใหญ่ เพื่อยกซากปรักหักพังแผ่นหนักที่สุดออกไป

สำหรับยอดผู้เสียชีวิตล่าสุด นายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี แถลงว่า ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นเป็น 207 คน บาดเจ็บมากกว่า 1,000 คน โดยจำนวน 100 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่มีผู้สูญหาย 15 คน

ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า ประชาชนอีก 17,000 คนสูญเสียบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กางเต้นท์ให้อาศัยชั่วคราวไปก่อนแล้ว โดยสามารถจุคนได้ราว 16,000-20,000 คน

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าเกิดการสั่นสะเทือนหลังจากแผ่นดินไหว หรืออาฟเตอร์ช็อก อีกครั้งในวันนี้ เมื่อเวลา 11.26 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 16.26 น. ตามเวลาประเทศไทย

อาฟเตอร์ช็อกขนาด 4.7 ริกเตอร์ ทำให้ประชาชนพากันแตกตื่นวิ่งกรีดร้องออกมาจากเต้นท์ โดยแรงสั่นสะเทือนได้เขย่าอาคารต่างๆ ขณะที่ซากปรักหักพังก็หล่นลงมาตามท้องถนน ขณะที่แรงสั่นสะเทือนยังรู้สึกได้ไปไกลถึงกรุงโรมด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้น

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000039377

 

@เวลาใกล้เข้ามาแล้วจงเตือนตนอยู่ในความไม่ประมาท@


เย ธัมมา เหตุปปะภะวา
เตสัง เหตุง ตถาคะโต
เตสัญจะ โย นิโรโธ จะ
เอวัง วาที มหาสมโณ

สิ่งเหล่าใดเกิดแต่เหตุ
พระตถาคต (พระพุทธเจ้า) ได้ตรัสเหตุของสิ่งเหล่านั้น
รวมทั้งความดับของสิ่งเหล่านั้นด้วย
พระมหาสมณะได้ตรัสไว้อย่างนี้





หนทางยังมีอยู่ ผู้เดินทางยังไม่ขาดสาย ลงมือเสียแต่วันนี้
ก่อนที่กระแสลมแห่งกาลเวลา จะพัดพารอยพระบาทของท่านหายไป
เพราะถึงเวลานั้น พวกเราก็จะต้องระหกระเหินไร้ทิศทาง ไปอีกนานแสนนาน


ธรรมะจะเกิดประโยชน์สูงสุดได้ ก็เมื่อน้อมนำไปประพฤติปฏิบัติ
จนสามารถถอดถอนความทุกข์ออกจากจิตใจได้จริงๆ


อริยสัจ
ผู้ใดเข้าใจอริยสัจอย่่างแจ่มแจ้ง
ผู้นั้นจะพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้อย่างน่าอัศจรรย์
ยิ่งกว่าความน่าอัศจรรย์ใดๆ ในโลก...
เรื่องการดูจิตนั้นสำคัญมาก
ถ้าอ่านจิตตนเองแล้วจะเห็นอริยสัจแห่งจิต
เพราะทุกข์ก็เกิดที่จิต ถ้าจิตไม่ทุกข์
แล้วใครจะทุกข์ ตัณหาคือตัวสมุทัยก็เกิดที่จิต
นิโรธคือนิพพานก็ประจักษ์ด้วยจิต
อริยมรรคก็ดำเนินอยู่ที่ิจิต ท่านสอนรวบรัด
ถ้าเห็นเข้ามาให้เห็นถึงจิตถึงใจตัวเอง
การปฏิบัติก็ลัดสั้นนิดเดียว


(พระอาจารย์ปราโมทย์ ปราโมชฺโช)