ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** คดีเก่าๆ ****

รถบรรทุกแท็งค์ มีปุ๋ยเคมีเป็นระเบิด มีศพอยู่ข้างใน อยู่กลางเมืองหลวง
ครั้งนั้น โชคดีของประชาชน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

<TABLE class=tborder id=post2092164 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Sawiiika<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2092164", true); </SCRIPT>
ทีมผู้ดูแลแกลเลอรี่



วันที่สมัคร: Apr 2008
ข้อความ: 1,832
Groans: 6
Groaned at 4 Times in 4 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 8,695
ได้รับอนุโมทนา 10,681 ครั้ง ใน 1,207 โพส
พลังการให้คะแนน: 203




</TD><TD class=alt1 id=td_post_2092164 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">

(rose) วันวิสาขบูชาที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2552 (rose)

ชาวเวบพลังจิตหลายท่าน นำโดย อ.คณานันท์ ได้ ร่วมจิต ร่วมใจกัน น้อมถวาย

- พระบรมสารีริกธาตุพร้อมทั้งผะอบทองคำ<O</O
- พระบรมสารีริกธาตุ 1000 ชุด (1) - พระธาตุข้าวบิณฑ์ - พระผงทำน้ำมนต์
- หนังสือธรรมจากกระทู้วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ จำนวน 100 เล่ม (2) <O</O
- ปัจจัยจำนวนหนึ่ง - หมวกถักจาก คุณ ซัน (4).... น้อม ถวายแด่

สมเด็จพระพุฒาจารย์ * เกี่ยว อุปเสโณ (3) เป็น พระสงฆ์มหานิกาย *
ดำรงตำแหน่ง เป็นกรรมการ มหาเถรสมาคม และ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

​

kananun
หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ​

ซึ่งนับว่าโชคดีอย่างมหาศาล ที่ท่านทรงเสด็จออกมา และ ให้ทางกลุ่มคณะเรา ได้เข้าพบ โดยมีเวลาถวายรายงานท่านได้มากพอสมควร ซึ่งโครงการทั้งหมด ท่านเมตตามอบหมาย ให้พระเลขาท่านได้นามบัตรในการติดด่อ เพื่อประสานงานขอเฝ้า เพื่อทูลรายละเอียดของงานทั้งหมด​

ของพวกเราอีกครั้ง ซึ่งจุดนี้จะทำให้งานของเว็บไซท์พลังจิต เพื่อพระพุทธศาสนา และงานในส่วนของคณะทำงาน เรื่องภัยพิบัติจะสามารถประสานกันในพุทธบริษัท 4 คือ ฝ่ายสงฆ์ และ ฝ่าย อุบาสก อุบาสิกา ได้มากขึ้น ซึ่งวันวิสาขบูชานี้ ท่านได้ทรงเทศน์ และ เน้นเรื่อง​

ไทยเราจะเป็น ศูนย์กลาง ของพระพุทธศาสนาของโลก*​

ซึ่งก็ตรงกับแนวทางเป้าหมายในการทำเว็บไซท์พลังจิตของ คุณเวบสโนว์ และ ทีมงานพอดี​

​

ซึ่งคงไม่ใช่เหตุบังเอิญ รวมทั้งที่ท่านทรงเสด็จออกมา ในจุดที่ทำให้คณะพวกเราได้มีโอกาสเฝ้าท่านเป็นกรณีพิเศษด้วย

ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย คุณพระมหาโพธิสัตว์ คุณครูบาอาจารย์ * คุณบิดา
มารดา คุณเทพพรหม เทวาสัมมาทิฐิ ทั่วสากลภิภพ ได้โปรดเมตตาสงเคราะห์ ให้งานเพื่อพระพุทธศาสนา ที่พวกเราทุก ๆ คน ได้ร่วมจิต ร่วมใจ กัน ทำเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวมนี้ จงสำเร็จราบรื่นก้าวหน้า ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ด้วยจิตใจที่ ตั้งมั่น ในความดีงาม ของพวกเราทุกคน ​

**************************************************

ขอเชิญร่วมอนุโมทนา ยินดีในทุกบุญกุศล ทุกคุณความดีงาม ด้วยกันในทุก ๆ ประการค่ะ ขอความสุข ความเจริญ ในพระธรรมคำสั่งสอนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นสรณะ อันประเสริฐสุดสูงสุด จงมีแด่ท่าน ผู้เพียรเจริญ ใน ศีล สมาธิ ปัญญา อยู่เป็นปรกติค่ะ สาธุ .

อ้างอิง *
(1) งาน "พระธาตุ" ของพวกเรา พลังจิตพิชิตภัยพิบัติ
(2) ลงชื่อรอรับ วิชชาที่จะทำให้อยูรอดฯ ฉบับพื้นฐานค่ะ
(3) สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) - วิกิพีเดีย
(4)กิจกรรม สร้างสรรค์บุญ โดยคุณซันครับ
​

<!-- google_ad_section_end -->

<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>






</FIELDSET>


</TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://palungjit.org/threads/งานของกลุ่ม-พลังจิต-พิชิตภัยพิบัติ.64550/page-31

 

<table id="post2118277" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> เมื่อวานนี้, 11:03 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #2744 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เทพ<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2118277", true); </script>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Aug 2006
ข้อความ: 216
Groans: 0
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 112
ได้รับอนุโมทนา 3,383 ครั้ง ใน 221 โพส
พลังการให้คะแนน: 333


</td> <td class="alt1" id="td_post_2118277" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start --> อ้างอิง:
<table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ..ฝันว่าตัวเองอยู่ในห้องทดลองแห่งหนึ่ง มีผู้ร่วมงานอยู่หลายคน
ในฝันรู้สึกว่ากำลังเรียนรู้เกี่ยวกับเชื้อโรคบางชนิด
ที่ได้ถูกบันทึกชื่อไว้ว่าได้สูญพันธุ์ไปจากโลกนี้นานมาแล้ว
คือแค่ถูกบันทึกชื่อว่าสูญพันธุ์เฉยๆนะครับ
..แต่ของจริง ตัวจริง เสียงจริงของพวกมัน ก็ยังหาได้ในห้องทดลองชั้นนำทั่วไป..
(ในโลกของความเป็นจริงก็เป็นแบบนี้เหมือนกันแหละครับ)

ในฝันตอนนั้นพวกผมกำลังเตรียมเชื้อเหล่านี้ ใส่แผ่นสไลด์
เพื่อเอามาส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ แต่มีลูกน้องอยู่สองคน
ที่เล่นซนกัน เอาเชื้อไปหยอกกันเล่น จนติดเชื้อร้ายแรงขึ้นมาจริงๆ

เริ่มจากสองคนนั้น ที่เริ่มมีอาการไอ แล้วป่วยทันที ภายในไม่กี่นาทีที่ได้รับเชื้อ
ก็ลามไปหาคนอื่นๆในหองแล็ปห้องนั้น แล้วลามไปที่ห้องแล็ปห้องอื่นๆ
ตลอดจนไปที่ฝ่ายสำนักงาน และต่อไปเรื่อยๆ..
</td> </tr> </tbody></table>
มีคัมภีร์โบราณของไทย ได้มีการบันทึกถึงโรคระบาดร้ายแรง เป็นไข้เพียงวันเดียวก็เสียชีวิต สามารถคร่าชีวิตคนทั้งเมืองในเวลารวดเร็ว

แพทย์แผนโบราณ รู้กันมานานแล้วว่า ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคระบาดร้ายแรงชนิดหนึ่ง เพราะอันที่จริงแล้ว พระคัมภีร์ตักศิลาก็คือตำราที่ว่าด้วยโรคระบาดอย่างร้ายแรงที่เกิดขึ้น ณ เมืองตักศิลาก่อนสมัยพุทธกาล ทำให้ "ท้าวพระยาไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินทั้งปวงเกิดความไข้ล้มตายเป็นอันมาก... มีแต่ซากศพตายก่ายกองทั้งบ้านเมือง...บ้าน เมืองนี้เกิดความไข้เป็นพิกลต่างๆ บางคนไข้วันหนึ่งบ้าง 2 วันบ้าง 3 วันบ้าง 4 วันบ้างตาย บางคนนอน บางคนนั่ง บางคนยืน บางคนตะแคง บางคนหงายตาย..." และไข้หวัดใหญ่ก็เป็นโรคระบาดชนิดหนึ่งในพระคัมภีร์แพทย์เล่มนี้ ซึ่งได้กล่าวถึงวิธีการเยียวยารักษาโรคระบาดจำพวกนี้ไว้ว่า

"ไข้จำพวกนี้ย่อมห้ามมิให้วางยาร้อนเผ็ดเปรี้ยว อย่าให้ประคบนวด อย่าให้ปล่อยปลิง อย่าให้ถอกเอาโลหิตออก อย่าให้ถูกน้ำมัน เหล้าก็อย่าให้ถูก น้ำร้อนก็อย่าให้อาบ อย่าให้กิน กะทิน้ำมันห้ามมิให้กิน ถ้าใครไม่รู้ ทำผิดดังกล่าวมานี้ ก็ถึงความตายดังนี้แล"

ด้วยคำในพระคัมภีร์ข้างต้น แม้จะเป็นภาษาโบราณแต่ก็สื่อความชัดเจน คือ อย่ากินยาที่มีคุณสมบัติร้อน เผ็ด เปรี้ยว เช่น ขิง พริก หรือมะนาว ส้มเปรี้ยว ห้ามอาบดื่มน้ำร้อน หรือห้ามนวด เพราะการนวดทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ยิ่งน้ำมันแล้วห้ามใช้นวดคนไข้ เพราะน้ำมันจะอุดรูขุมขน ทำให้ตัวร้อนยิ่งขึ้นไปอีก

ตรง กันข้าม ควรรักษาไข้หวัดใหญ่ ด้วยยาที่มีคุณสมบัติเย็น เช่น ฟ้าทลายโจร บอระเพ็ด มะระขี้นก เป็นต้น ในพระคัมภีร์ตักศิลาได้กล่าวถึงการรักษาพวกไข้พิษ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไว้อย่างพิสดารว่า

"ให้แต่งยากระทุ้ง (ขับพิษไข้จากภายในร่างกาย) ให้กิน ชื่อว่าแก้วห้าดวง เอารากคนทา 1 รากไม้เท้ายายม่อม 1 รากชิงชี่ 1 รากมะเดื่อ 1 รากหญ้านาง 1 ยาทั้งหมดนี้เอาเสมอภาค (ชั่งน้ำหนักเท่ากันทุกตัว) ต้มให้กิน แล้วจึงแต่งยาประสะกระทุ้งผิวภายนอก ใบหญ้านาง 1 ใบมะขาม 1 เอาเสมอภาค เอาดินประสิวใส่แต่พอสมควร ละลาย น้ำซาวข้าวพ่น (ตามผิวหนัง) ถ้ามิฟังให้เอาใบทองหลางใบมน 1 เปลือกทองหลางใบมน 1 ข้าวสารด้วย เอาเสมอภาคแทรกดินประสิวทั้งกินทั้งพ่น"

หลักการรักษาตามพระคัมภีร์นี้ก็คือ ใช้ยาเย็นกินกระทุ้งขับพิษภายในร่างกายออกมา แล้วใช้ทาพ่นที่ผิวกายเพื่อกระทุ้งขับพิษที่ผิวหนัง การใช้ยาสมุนไพรตำรับดังกล่าว ก็เพื่อปรับสมดุลความร้อนเย็นภายในร่างกาย ให้มีภูมิต้านทานต่อพิษเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่<!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->108ฮวงจุ้ย เรียนฮวงจุ้ยออนไลน์ เรียนฮวงจุ้ยชั้นสูง เป็นวิทยาทาน<!-- google_ad_section_end -->
</td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> <script type="text/javascript"> vbrep_register("2118277")</script> </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> </td></tr></tbody></table>
หรือเรียกรากทั้งห้าค่ะ

 

ซีดีสอนวิธีการสร้าง 'บ้านดิน' ถวายพระเณรช่วงเข้าพรรษา

​

คนเราต้องมี "บ้าน" เพราะบ้านคือหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตแต่ในยุคนี้ เราจะทำอย่างไร ในเมื่อการสร้างบ้าน หรือตึกคอนกรีต คือต้นเหตุสำคัญทำให้โลกร้อนขึ้น

เพราะอุตสาหกรรมผลิตปูนซีเมนต์ คือตัวการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศโลก และถ้าหากเราหันกลับไปสร้างบ้านไม้ เราก็ต้องตัดต้นไม้ทำลายป่า อันเป็นการทำลายแหล่งดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ถือเป็นการเร่งบรรยากาศของโลกให้ร้อนยิ่งขึ้น

"บ้านดิน" ภูมิปัญญาสร้างบ้านเก่าแก่ของบรรพชน คือองค์ความรู้ที่จะมาช่วยโลกให้เย็นลงได้ เพราะบ้านดินใช้เพียง "ดิน" ทำเป็นก้อนอิฐ แล้วนำไปสร้างเป็นบ้านโดยไม่จำเป็นต้องตัดไม้ทำลายป่า หรือระเบิดภูเขาเอาปูนซีเมนต์อีกต่อไป

ประการที่สำคัญ "บ้านดิน" ประหยัดพลังงานในการใช้สอย เพราะอุณหภูมิภายในบ้านมีความเย็นสบายตลอดปี ไม่จำเป็นต้องติดแอร์ให้เปลืองไฟอีกต่อไป นอกจากนี้ "บ้านดิน" ยังมีความคงทนหลายร้อยปี ไม่มีสารพิษ ไม่ติดไฟง่าย ฯลฯ เนื่องจากในช่วงเข้าพรรษานี้ อันเป็นเวลาที่พระภิกษุสามเณรทั้งหลาย มีเวลาศึกษาหาความรู้อยู่กับวัดวาอารามเป็นเวลา ๓ เดือน

"บ้านสายรุ้ง" องค์กรศึกษาและเผยแพร่ความรู้เรื่องบ้านดิน ได้จัดทำซีดีสอนสร้างบ้านดินแบบง่ายๆ แจกจ่าย สำหรับญาติโยมที่ต้องการจะนำซีดีสร้างบ้านดินไปถวายพระตามวัดใกล้บ้าน เพื่อท่านจะได้นำความรู้ไปสร้างเป็นกุฏิดิน ที่มีอากาศเย็นสบาย เหมาะสำหรับบำเพ็ญเพียรภาวนา

เพียงท่านสอดซีดีเปล่า ๑ แผ่น พร้อมสอดซองติดแสดมป์ ๕ บาท จ่าหน้าซองถึงตัวท่านเอง ส่งมายัง "บ้านสายรุ้ง" เลขที่ ๕๐๐ หมู่ ๑๑ ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ๓๖๑๕๐

ทีมงานบ้านสายรุ้ง จะไรท์ซีดีจัดส่งให้ท่านโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด สนใจ ติดต่อสอบถามที่โทร.๐๘-๖๗๘๙-๘๐๓๕,๐๘-๖๗๘๙-๔๐๓๕

ที่มา http://palungjit.org/threads/ซีดีสอนวิธีการสร้างบ้านดินถวายพระเณรช่วงเข้าพรรษา.85565/

 

ฝันที่เป็นจริง
<O</O
<O</O
9 ก.พ. 52
<O</O
<O</O
นาฬิกาผู้หญิง
<O</O
<O</O
ในนิมิต ท่านถามผมว่าจะมอบนาฬิกาผู้หญิงให้หนึ่งเรือน เป็นนาฬิกาโรเล็กซ์ ผมจะรับหรือไม่ <O</O
ผมตอบว่า ถ้าราคาเรือนละร้อยบาท ผมไม่รับเพราะไม่ทน อย่างน้อยสัก เจ็ดถึงแปดร้อยบาท จะใช้ทน 2-3 ปี
<O</O
<O</O
ความหมาย จะมีผู้หญิงมาช่วยทำงานด้วยจะรับไหม ? ผมตอบว่า ผมต้องการคนจริงใจและเสียสละจริงๆ ถึงจะรับ
<O</O
<O</O
9 ก.พ. 52
<O</O
<O</O
บนวัดที่เชียงคาน ท่านสมาชิกในเว็บฯ เป็นสุภาพสตรี ได้จุดธูปอธิฐาน มีความประสงค์อยากจะช่วยผมทำงาน
<O</O
<O</O
การจะช่วยเหลือผู้คน ผู้ช่วยเหลือต้องมีความเสียสละสูง ต้องมีความจริงใจ ต้องไม่มีตัวเสียดาย เพราะบารมีนี้เป็นบารมีใหญ่ จะมีอุปสรรคมากมาย
<O</O
<O</O
29 เม.ย. 52
<O</O
<O</O
นาฬิกามิโด้ผู้ชายเรือนสีแดง
<O</O
<O</O
ความหมาย ผู้ช่วยเหลือชาย มีฐานะ ชื่อเล่นว่า แดง
<O</O
<O</O
8 พ.ค. 52
<O</O
<O</O
ผมได้นัดพบกลุ่ม สูงเนินบนวัด ที่เชียงคาน ช่วงที่รับประทานอาหารค่ำ ผมได้ถามคนในกลุ่มว่า ในที่นี้มีคน ชื่ื่อแดง หรือไม่ ? ปรากฏว่ามี แต่เป็นผู้หญิง ผมจึงพูดต่อว่า ผมหมายถึง ผู้ชาย มีหรือไม่ ? แม่บุญธรรมของหลานสาวผม ถามผมว่า ถามทำไมหรือ ? ผมตอบว่า คนที่ผมถามถึง เขาจะมาช่วยเหลือผมในการทำงานพาคนหนีภัย พอเขาได้ยินผมพูด เขาถึงกับขนลุก เขาบอกผมว่ามี เป็นลูกบุญธรรมของเขาเอง และคนๆนี้ก็มีฐานะล่ำรวยมาก
<O</O
<O</O
19 พ.ค. 52
<O</O
<O</O
แม่บุญธรรมหลานสาวผม ได้พาคนชื่อ แดงขึ้นไปบนวัดที่เชียงคาน อยากจะให้ผมตามขึ้นเชียงคานเพื่อพบกับคนชื่อ แดง แต่ผมปฏิเสธ เพราะผมเพิ่งจะลงมาและติดงานอยู่ ขอเป็นโอกาสหน้า ถ้าพบกันในกรุงเทพฯ ก็จะสะดวก<O</O

 

ออสเตรเลียเผชิญน้ำท่วมฉับพลัน และพายุลมแรงทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ​

​

ซิดนีย์ 21 พ.ค. - พายุฝนลมแรงพัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย ส่งผลให้บ้านเรือนหลายหมื่นหลังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ และโรงเรียนหลายร้อยแห่งต้องปิดทำการเรียนการสอนในวันนี้

ทางการรัฐควีนส์แลนด์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อคืนนี้ หลังเผชิญพายุฝนที่มีความเร็วลม 100 กม./ชม. พัดถล่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า มีผู้เคราะห์ร้ายวัย 46 ปีคนหนึ่งเสียชีวิตหลังแผ่นโลหะจากอาคารหลังหนึ่งบริเวณชายฝั่งโกลด์ โคสต์ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ถูกลมพัดเข้าไปในห้องทำงานของเขา

อิทธิพลของพายุครั้งนี้ยังทำให้ที่พักอาศัยและอาคารธุรกิจมากถึง 75,000 แห่ง ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ เพราะกระแสลมแรงได้พัดให้ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่นลงมา ส่วนปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาครั้งนี้คิดเป็น 1 ใน 3 ของปริมาณน้ำฝนที่ตกตลอดทั้งปีของรัฐควีนส์แลนด์ โดยเฉพาะในเมืองบริสเบน เมืองเอกของรัฐควีนส์แลนด์ ที่ปริมาณน้ำฝนในช่วง 48 ชม. มีปริมาณเพียงพอสำหรับใช้บริโภคได้นานกว่า 1 ปี นางแอนนา ไบล มุขมนตรีรัฐควีนส์แลนด์ กล่าวว่า พายุครั้งนี้น่าจะสร้างความเสียหายต่อรัฐควีนส์แลนด์เป็นมูลค่าสูงสุดนับแต่เคยมีมา เพราะเกิดน้ำท่วมรุนแรงที่สุดนับแต่ปี 2517

ส่วนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งอยู่ใกล้เคียง ต้องสั่งให้สถานศึกษาเกือบ 250 แห่ง ปิดทำการเรียนการสอน และอพยพผู้คนออกจากพื้นที่เสี่ยง หลังหน่วยบรรเทาเหตุฉุกเฉินระบุว่ากำลังเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลัน และพายุลมแรง ขณะที่สำนักอุตุนิยมวิทยารายงานว่า พายุลูกนี้จะทำให้เกิดฝนตกหนัก กระแสลมแรง และคลื่นสูงในรัฐนิวเซาท์เวลส์ในอีก 2-3 วันข้างหน้า ก่อนพายุจะอ่อนกำลังลงและเคลื่อนตัวออกไปในวันเสาร์นี้ คาดว่าบริเวณพื้นที่แนวชายฝั่งที่อยู่ระดับต่ำจะถูกน้ำท่วม จากกระแสน้ำที่จะแตะระดับสูงสุดในรอบปี. - สำนักข่าวไทย

2009-05-21 14:41:10

ยอดผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เกิน 11,000 คนแล้ว​

​

เจนีวา 21 พ.ค. - องค์การอนามัยโลก รายงานสถานการณ์ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเกือบ 800 คน และเสียชีวิตเพิ่มอีก 5 คน ในวันนี้ โดยมีตัวเลขผู้ติดเชื้อรวม 11,034 คน และเสียชีวิตรวม 85 คน

ส่วนใหญ่ในกลุ่มผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกมาจาก 4 ประเทศที่มีรายงานเชื้อไวรัส เอช 1 เอ็น 1 ระบาดหนัก เช่น เม็กซิโก (เสียชีวิตเพิ่ม 3 คน ติดเชื้อ 244 คน) สหรัฐ (เสียชีวิต 2 คน ติดเชื้อ 241 คน) แคนาดา (ติดเชื้อ 221 คน) และญี่ปุ่น (ติดเชื้อ 49 คน) องค์การอนามัยโลก รายงานผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกกว่า 10,000 คน ใน 41 ประเทศ. - สำนักข่าวไทย

2009-05-21 17:34:11

ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่พุ่งเป็น 281 คน ​

​

โตเกียว 21 พค.- นายกรัฐมนตรี ทาโร อาโซะ ของญี่ปุ่น ออกมาเรียกร้องอีกครั้งให้ประชาชนอยู่ในความสงบ ขณะที่สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในญี่ปุ่นพุ่งไปอยู่ที่ 281 คน ส่วนที่กรุงโตเกียวพบผู้ติดเชื้อ 2 รายแล้ว

โดยผู้ติดเชื้อรายแรกในกรุงโตเกียว เป็นเด็กสาววัย 16 ปี พำนักอยู่ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว และในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ก็มีรายงาน พบเด็กสาวอีกรายติดเชื้อด้วยเช่นกัน เด็กสาวทั้งสองคนนี้ ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนเดียวกัน และยังเคยเป็นตัวแทนกลุ่มนักเรียนเดินทางไปนครนิวยอร์กของสหรัฐนาน 1 สัปดาห์ ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่แล้วเพื่อเข้าร่วมการประชุมที่มีนักเรียนนานาชาติเข้าร่วมถึง 2,300 คน

หลังพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เป็นครั้งแรกในกรุงโตเกียว ก็ส่งผลให้เจ้าหน้าที่การรถไฟสายตะวันออกในญี่ปุ่น เรียกร้องให้พนักงานใน 26 สถานี ในเขตฮาชิโอจิและคาวาซากิ ของกรุงโตเกียว ช่วยสวมหน้ากากอนามัยขณะปฏิบัติงาน ทั้งยังเรียกร้องผู้โดยสารให้ทำเช่นเดียวกัน รวมถึงล้างมือและบ้วนปากบ่อย ๆ

ด้านกระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่นระบุว่า ต้องสั่งปิดโรงเรียน วิทยาลัย และโรงเรียนอนุบาลกว่า 4,800 แห่ง ตลอดสัปดาห์นี้เป็นอย่างน้อย ในสองจังหวัดทางตะวันตกของประเทศ เพื่อชะลอการแพร่ลามของเชื้อ แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานพบผู้เสียชีวิตในญี่ปุ่นจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ส่วนผู้ติดเชื้อโดยมากก็มีอาการไม่รุนแรงนัก. -สำนักข่าวไทย

2009-05-21 15:13:15

พบผู้ป่วยหวัดใหญ่ 2009 รายใหม่ในชิลี-เอกวาดอร์ ส่วนเม็กซิโกมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ​

​

ซันติอาโก21พ.ค.-ชิลี และเอกวาดอร์ พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รายใหม่เพิ่มอีก ทำให้ชิลีกลายเป็นประเทศในทวีปอเมริกาใต้ที่มียอดผู้ติดเชื้อมากที่สุดในภูมิภาค ส่วนเจ้าหน้าที่เม็กซิโกเพิ่มยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 ไปอยู่ที่ 75 คน

กระทรวงสาธารณสุขเม็กซิโก รายงานพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 150 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 3,817 คน หน่วยงานสาธารณสุขคาดว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะพุ่งสูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าในช่วงที่เม็กซิโกจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว

กระทรวงสาธารณสุขชิลี ระบุว่า ขณะนี้พบผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 24 คน เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากตัวเลขที่รายงานเมื่อวันอังคารว่า พบผู้ป่วยเพียง 10 คน ทำให้ขณะนี้ชิลีกลายเป็นประเทศที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนจากโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในย่านคนรวยของกรุงซันติอาโก ส่งผลให้โรงเรียน 12 โรงต้องปิดทำการเรียนการสอนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด แม้รัฐมนตรีสาธารณสุขชิลีจะกล่าวว่า ยังไม่มีเหตุผลอันสมควรที่ต้องปิดโรงเรียน

ด้านโคลอมเบียพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่มากเป็นอันดับที่ 2 ในทวีปอเมริกาใต้คือ 12 คน ส่วนเอกวาดอร์ รายงานเมื่อวานนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 8 คน หลังยืนยันพบเด็กชายที่เดินทางกลับจากสหรัฐเป็นผู้ป่วยรายแรกของประเทศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งนางคาโรไลน์ ชาง รัฐมนตรีสาธารณสุขเอกวาดอร์ เตือนว่า อาจพบผู้ป่วยรายใหม่ที่เกี่ยวข้องกับผู้เดินทางมาจากทวีปอเมริกาเหนือเพิ่มอีก ขณะเดียวกันทางการก็กำลังเฝ้าสังเกตอาการผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ 213 คน ทั้งสั่งให้ปิดทำการเรียนการสอนที่โรงเรียน 4 แห่งในเมืองท่ากัวยาควิล

รัฐบาลเปรู ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 2 ราย ทำให้ขณะนี้ยอดผู้ป่วยอยู่ที่ 5 คน ส่วนทางการกัวเตมาลา ยืนยันพบผู้ป่วยรายแรกที่ติดเชื้อทั้งที่ไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เดินทางไปจากประเทศ ส่งผลให้มีผู้ป่วยแล้วทั้งสิ้น 4 คน ขณะที่คิวบามีรายงานพบผู้ติดเชื้อ 4 คน รายล่าสุดเป็นเด็กชายชาวแคนาดาวัย 14 เดือนที่เดินทางจากเมืองโทรอนโตไปคิวบาพร้อมผู้ปกครอง. - สำนักข่าวไทย

2009-05-21 11:13:38

ยอดผู้เสียชีวิตจากระเบิดในอิรักเพิ่มเป็น 40 ราย​

​

แบกแดด 21 พ.ค. - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดรถยนต์ครั้งรุนแรงกลางถนนในกรุงแบกแดดที่เต็มไปด้วยผู้คน เพิ่มเป็น 40 ราย และบาดเจ็บ 83 ราย

เจ้าหน้าที่มหาดไทยอิรัก กล่าวว่า ยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีรายงานผู้เสียชีวิต 34 ราย จากเหตุระเบิดกลางเมืองครั้งใหญ่ ท่ามกลางผู้คนที่มารับประทานอาหารค่ำและท่องเที่ยวยามราตรีในย่านชูล่า ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงแบกแดด ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมในการรับประทานอาหารและจับจ่ายซื้อของ

ทั้งนี้ แม้เหตุรุนแรงพุ่งขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ แต่ทางการอิรักยังคงยืนยันตามกำหนดเวลาถอนทหารอเมริกันออกจากอิรักตามเดิมในเดือน มิ.ย.นี้ และจะถอนกำลังทั้งหมดภายในปี 2554. - สำนักข่าวไทย

2009-05-21 15:28:26

ยูเอ็นระบุการสร้างเขื่อนเป็นภัยต่อแม่น้ำโขง​

​

กรุงเทพฯ 21 พ.ค. - องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยรายงานล่าสุดที่ระบุว่า การเร่งสร้างเขื่อนหลายแห่งในจีนจะยิ่งซ้ำเติมอนาคตของแม่น้ำโขงที่เผชิญปัญหาต่างๆ อยู่แล้วยิ่งได้รับความเสียหายมากขึ้น

รายงานระบุว่า จีนกำลังก่อสร้างเขื่อนเก็บน้ำ 8 แห่ง บริเวณแม่น้ำโขงตอนบน ที่ไหลผ่านมณฑลยูนนาน ในจำนวนนั้นคือ เขื่อนเซียวหวัน ที่พึ่งเสร็จสมบูรณ์ โดยเป็นเขื่อนเก็บน้ำที่มีความสูงที่สุดในโลกถึง 292 ม. และมีปริมาตรจุน้ำได้เท่ากับปริมาณน้ำที่เขื่อนทั้งหมดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จุได้รวมกัน ขณะเดียวกัน ลาวก็เริ่มก่อสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขง 23 แห่ง คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2553 เพื่อกระตุ้นการพัฒนาในประเทศ ส่วนกัมพูชา และเวียดนามต่างก็มีแผนจะสร้างเขื่อนเก็บน้ำในแม่น้ำโขงเช่นกัน

รายงานฉบับนี้ชี้ว่า เฉพาะแผนการสร้างเขื่อนหลายแห่งของจีนประเทศเดียวอาจก่อให้เกิดภัยใหญ่หลวงแก่แม่น้ำโขง อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ของแม่น้ำ เช่น ช่วงเวลา และปริมาณการไหลของน้ำ คุณภาพน้ำเสื่อมโทรม และสูญเสียความหลากหลายด้านทรัพยากรสัตว์น้ำและพืช ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมปัญหาต่าง ๆ ที่แม่น้ำโขงเผชิญอยู่แล้ว อาทิ ปัญหามลพิษ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนในจีนก่อนหน้านี้ที่เป็นต้นเหตุให้ระดับน้ำบริเวณแม่น้ำโขงตอนบนลดลงอย่างรวดเร็ว

แม้รายงานระบุว่า ขณะที่ทำการศึกษานั้นระดับมลพิษทางน้ำของแม่น้ำโขงยังไม่อยู่ในระดับอันตราย นอกจากนี้ยังไม่พบปัญหาการขาดแคลนน้ำ และความขัดแย้งในการใช้แม่น้ำโขง แต่ก็พบว่า ลุ่มน้ำต่างๆ ที่เป็นสาขาของแม่น้ำโขงกำลังตกอยู่ในอันตราย อาทิ โตนเลสาบ ในกัมพูชา แม่น้ำคานในลาว และแม่น้ำเซกอง แม่น้ำเซซัน และแม่น้ำสะเรป๊อก ของเวียดนาม และกัมพูชา เนื่องจากมีการพัฒนาและความต้องการใช้น้ำเพิ่มมากขึ้น รายงานฉบับนี้จึงเรียกร้องให้ประเทศที่อยู่ริมแม่น้ำโขง คือ จีน พม่า ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม ร่วมมือกันให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นเพื่อรับประกันว่า จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น และการเดินหน้าพัฒนาทางเศรษฐกิจจะไม่ส่งผลกระทบต่อแม่น้ำโขง. -สำนักข่าวไทย

2009-05-21 17:08:40

นายกเวียดนามจะปฏิรูปเศรษฐกิจและดึงเงินทุนจากต่างชาติ​

​

โตเกียว 21 พ.ค. - นายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น หยุง ของเวียดนามให้คำมั่นจะผลักดันการปฏิรูปเศรษฐกิจและดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติ ในขณะที่เวียดนามพยายามควบคุมผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกถดถอยที่มีต่อประเทศ

นายกรัฐมนตรีเวียดนามยังกล่าวในที่ประชุมเศรษฐกิจภาคเอกชนที่กรุงโตเกียว เรียกร้องเงินช่วยเหลือและการลงทุนจากประเทศใหญ่ในเอเชีย เช่น จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย เพื่อพยุงการเติบโตในเอเชีย พร้อมกันนี้ยังเรียกร้องให้ประเทศในภูมิภาคร่วมมือกันดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการค้า และการลงทุนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในภูมิภาคต่อไป ผู้นำเวียดนามแถลงว่า การร่วมมือกันในภูมิภาคและเพิ่มการติดต่อกันภายในมากขึ้นในช่วงที่มีปัญหาจะมีส่วนสำคัญให้เอเชียเป็นภูมิภาคแรกที่ฝ่าฟันวิกฤตไปได้ รวมทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกด้วย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามระบุว่า เวียดนามจะปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ส่งเสริมโครงการสาธารณูปโภค ผลักดันการปฏิรูประบบบริหาร และเน้นคุ้มครองสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และว่าวิกฤตในปัจจุบันเป็นโอกาสสำหรับการเร่งปรับโครงสร้าง ปรับปรุงการบริหารจัดการและการวางรากฐานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

2009-05-21 14:25:19

ผู้นำลาวขอให้ต่างชาติเพิ่มความช่วยเหลือและลงทุน​

​

โตเกียว 21 พ.ค. - นายกรัฐมนตรีบัวสอน บุบผาวัน ของลาว ระบุลาวได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก จึงขอให้ต่างชาติเพิ่มความช่วยเหลือและการลงทุนในลาวมากขึ้น

นายบัวสอน กล่าวต่อที่ประชุมธุรกิจในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่นว่า วิกฤติเศรษฐกิจโลกทำให้ลาวต้องปรับลดตัวเลขประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ลงร้อยละ 1-2 เหลือร้อยละ 6-7 ลาวส่งออกสินแร่ลดลงมากกว่าร้อยละ 13 ในไตรมาสแรกของปีนี้ เพราะตลาดโลกต้องการลดลง แม้ลาวไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงเหมือนประเทศเพื่อนบ้าน แต่พื้นฐานเศรษฐกิจลาวยังไม่แข็งแกร่ง

นายบัวสอน กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการเสริมสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อปรับปรุงภาวะการลงทุนและคุณภาพชีวิตประชาชน แต่ปัญหาความยากจนข้นแค้นและการขาดศักยภาพยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ประชาคมโลกจึงต้องให้ความช่วยเหลือเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน การปรับปรุงลาวให้ทันสมัยจำเป็นต้องอาศัยทุน ความรู้ ประสบการณ์ และเทคโนโลยีชั้นสูง ที่จะมาจากการลงทุนจากต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรีลาว กล่าวด้วยว่า ลาวมุ่งมั่นในการขยายพื้นที่ป่าและพื้นที่การเกษตร เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโลกในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ แต่จะบรรลุเป้าหมายนี้ได้ จะต้องได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินและเทคโนโลยีจากญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศ. - สำนักข่าวไทย

2009-05-21 16:29:29

ร้านคนจีนในปาปัวนิวกินีถูกปล้นต่อเนื่อง ​

​

ซิดนีย์ 21 พ.ค.- เกิดกระแสบุกปล้นร้านค้าของชาวจีนในปาปัวนิวกินีระบาดไปทั่วประเทศ ล่าสุดผู้ปล้นถูกยิงเสียชีวิต 2 ราย รวมเป็น 4 รายแล้วในขณะนี้

ตำรวจจังหวัดเอ็นกาเผยว่า ฝูงชนพยายามบุกร้านค้าของชาวเอเชียแห่งหนึ่งในเมืองวาแบก เมืองเอกของจังหวัด ถูกคนในร้านยิงเสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 3 คน ตำรวจต้องออกลาดตระเวนตามท้องถนน ใช้โทรโข่งเรียกร้องให้ประชาชนแยกย้ายกลับบ้านก่อนฟ้ามืด เพราะเกรงว่าญาติของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจะก่อเหตุล้างแค้น สถานการณ์ในเมืองวาแบกสงบลงแล้วแต่ยังตึงเครียด ขณะที่ร้านค้าของคนเอเชียทั้ง 8 ร้านยังคงปิดอยู่

ชาวปาปัวนิวกินีบุกปล้นร้านค้าชาวเอเชียในหลายเมืองช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยโทษว่าเป็นเพราะร้านค้าเหล่านี้ขายสินค้าเกินราคาและเรียกร้องให้ยึดร้านเป็นของคนท้องถิ่น นายปีเตอร์ อิปาตาส ผู้ว่าจังหวัดเอ็นกาแสดงความเสียใจที่มีผู้เสียชีวิตในเมืองวาแบก แต่การปล้นถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย พร้อมกับโทษรัฐบาลกลางว่าล้มเหลวในการแก้ปัญหาที่หยั่งรากลึกในสังคม การที่ชาวต่างชาติเข้ามายึดธุรกิจของชาวปาปัวนิวกินีเป็นเพราะรัฐบาลไม่สามารถส่งเสริมและปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน

รัฐบาลจีนเรียกร้องปาปัวนิวกินีเร่งควบคุมสถานการณ์ คุ้มครองชีวิตและปกป้องผลประโยชน์ของชาวจีน ด้านนายปูกา เตมู รักษาการณ์นายกรัฐมนตรีขอโทษที่เกิดกระแสปล้นร้านค้าชาวจีนโดยตราหน้าผู้ก่อเหตุว่าเป็นพวกอันธพาลและฉวยโอกาส ขณะที่รัฐสภาปาปัวนิวกินีจะตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ชาวจีนกลุ่มแรกอพยพเข้ามายังปาปัวนิวกินีช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ต่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 แต่เพิ่งอพยพเข้ามาหลายพันคนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตามด้วยชาวเกาหลีและชาวเอเชียหลายประเทศ ยึดการประกอบธุรกิจเป็นอาชีพ สร้างความไม่พอใจให้แก่คนท้องถิ่นที่ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานชนเผ่านักรบ.-สำนักข่าวไทย

2009-05-21 15:11:30

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

จะเกิดอะไรขึ้นในปี ค.ศ.2012 ?
What will Happening in 2012 ?​

​

​

ภาพประกอบจากภาพยนต์และข้อมูลทางวิทยาศาสตร์
(ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ)​

เมื่อเร็วๆ มานี้ องค์การ NASA ได้เคยทำให้สาธารณะชนเกิดความหวาดหวั่น ด้วยการออกมาเปิดเผยว่าการพลิกกลับ ของขั้วแม่เหล็กโลก จะทำให้ความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กโลกอ่อนลง และไร้ความมั่นคงแต่ไม่ถึงกับลดลงถึงระดับศูนย์

แต่จากการศึกษาร่วมกันของนักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่งกับกลุ่มนักธรณีฟิสิกส์และนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์พบว่า ทั้งโลกและดวงอาทิตย์จะสิ้นสุดระยะเวลา ที่ใช้ในกระบวนการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็ก (Magnetic Pole Reversal) ในปี ค.ศ. 2012 โดยครั้งล่าสุดกระบวนการนี้ได้เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีที่ผ่านมาจนทำให้ สัตว์จำพวกไดโนเสาร์สูญพันธุ์จนหมดสิ้น จากการค้นคว้าวิจัยและการวิเคราะห์ร่วมกันใน Hyderabad ได้คาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงครั้งใหม่นี้จะเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2012

คำถาม......? โลกจะเป็นอย่างไรเมื่อขั้วแม่เหล็กโลกกำลังพลิกด้าน

การพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลก คือ กระบวน การที่ขั้วแม่เหล็กเหนือและขั้วแม่เหล็กใต้สลับตำแหน่งกัน เมื่อการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กนี้เกิดขึ้น ณ ขณะเวลาใดเวลาหนึ่ง (ซึ่งไม่สามารถทำนายได้ว่าจะกินเวลานานเท่าใด อาจกินเวลาแค่ 1 ช.ม. หรืออาจเป็นเดือนก็ได้) มันหมายถึงว่าค่าการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กโลกจะลดลงจนมีค่าเป็นศูนย์ของหน่วยเกาส์ และโลก ณ ขณะเวลานั้นจะสูญเสียอำนาจแห่งสนามแม่เหล็กโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

คำถาม.......? จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไม่มีสนามแม่เหล็กโลก

โดยปกติสนามแม่เหล็กโลก จะเป็นเสมือนโล่ห์กำบังที่ช่วยปกป้องโลกไว้อีกชั้นหนึ่งโดยเฉพาะ การช่วยกำบังโลกจากพายุสุริยะที่เกิดจากดวงอาทิตย์ แต่เมื่อไม่มีสนามแม่เหล็กโลกในเวลาที่ว่านั้น สิ่งมีชีวิตบนโลกจะต้องเจอกับหายนะ นั่นก็คือ พายุสุริยะ (บางคนเรียกลมสุริยะ มันเหมือนกันนะเดี๋ยวจะสับสน) พายุสุริยะ คือ พลังงานที่เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่เกิดจากธาตุไฮโดรเจนบนพื้นผิวดวง อาทิตย์ ซึ่งจะถูกปล่อยออกมาสู่อวกาศด้วยแรงระเบิดมหาศาล ซึ่งพายุสุริยะนั้นประกอบด้วย รังสีคอสมิก(และอีกมากมาย) และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอันมหาศาล

คำถาม........? เราจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องเผชิญกับพายุสุริยะ

''ฮารัลด์ เลสช์'' (Harald Lesch) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย ''มิวนิค'' ได้สร้างแบบจำลองสนามแม่เหล็กโลกขึ้นมาศึกษาในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ เพื่อหาคำตอบว่าโลกเราจะเป็นอย่างไรหากไม่มีสนามแม่เหล็ก แบบจำลองที่ ''ฮารัลด์ เลสช์'' สร้างขึ้นพบว่า ถ้าโลกเราถูกพายุสุริยะกระหน่ำ ผลที่ได้สร้างความประหลาดใจอย่างยิ่ง

จากภาพจำลองที่คอมพิวเตอร์สร้างขึ้นแสดงให้เห็นว่า เมื่อมวลอนุภาคคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากพายุสุริยะมาถึงโลก จะทำปฏิกิริยากับชั้นบรรยากาศ เกิดเป็นสนามแม่เหล็กชุดใหม่มาแทนที่และทรงพลัง พอที่จะทานแรงปะทะของรังสีคอสมิก ทำให้รังสีคอสมิกที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์เบนออกสู่อวกาศ แต่ทว่าเมื่อโลกเรานั้นสามารถ รอดพ้นจากอันตรายจากรังสีคอสมิกไปได้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากกระบวนการนี้ ไม่ได้เป็นผลดีต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกเลย

ตามหลักแล้วกระแสไฟฟ้าจะไหลไปสู่ที่ๆ มีความต่างศักย์ที่น้อยกว่า และสนามแม่เหล็กชุดใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านั้นไม่ได้เสถียร เหมือนแม่เหล็กโลกเดิม ฉะนั้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ทำปฏิกิริยากับบรรยากาศโลก ย่อมไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น สิ่งที่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะกระทำต่อไปนั้นก็คือ การปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้าอันมหาศาลสู่ที่ๆ มีความต่างศักย์ที่น้อยกว่า นั่นก็คือพื้นผิวโลก เหตุการณ์ที่ว่านี้คือ พายุฟ้าผ่า นั้นเอง พายุฟ้าผ่านี้ อาจกินเนื้อที่ทั้งทวีปหรือทั่วโลก

สายฟ้าที่กระหน่ำลงมาจากก้อนเมฆอิเล็กตรอนนั้น จะกระหน่ำผ่าลงมาทุกๆที่โดยไม่หยุด จนกว่าพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากพายุสุริยะจะหมดลง และจะเกิดขึ้นอีกถ้าพายุสุริยะลูกต่อไปมาถึง หรือจนกว่าการกลับขั้วของแม่เหล็กโลกจะเสร็จสมบูรณ์ จนทำให้กระบวนการสร้างสนามแม่เหล็กโลกจะทำงานได้อีก สิ่งมีชีวิตบนโลกมากมายจะต้องตาย และเทคโนโลยีต่างๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นจะถูกทำลายลงในครั้งนี้ แต่ถ้ารังสีคอสมิกสามารถหลุดรอดมาจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าได้ สิ่งมีชีวิตที่รอดจากการถูกฟ้าผ่า ก็อาจจะต้องตายจากโรคมะเร็งและความร้อน

คำถาม........? เมื่อสนามแม่เหล็กโลกเกิดการพลิกตัวอย่างสมบูรณ์จะเกิดอะไรขึ้นกับโลก

สิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้อาจะเหลือเชื่อ แต่ตามหลักการแล้วย่อมเป็นไปได้ การพลิกด้านของขั้วแม่เหล็กโลกนี้ไม่ได้ทำให้เกิดความหายนะจากพายุสุริยะแค่ เพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดหายนะจากการหมุนกลับทางของโลกที่จะเกิดตามมาอีก ยกตัวอย่าง เช่น การหมุนของมอเตอร์ มอเตอร์แบบธรรมดามี 2 ขั้ว โดยให้สัญลักษณ์ A และ B ก่อนที่ขั้วแม่เหล็กโลกจะพลิกตัว ให้เปรียบโดยการใช้ ไฟฟ้าขั้ว + ต่อเข้ากับ A และไฟฟ้าขั้ว - ต่อเข้ากับ B มอเตอร์จะหมุนไปทางใดทางหนึ่ง แต่เมื่อเราต่อขั้วไฟฟ้ากลับด้านกัน ย่อมทำให้มอเตอร์เกิดการหมุนทิศทางตรงกันข้ามกับครั้งแรก และนี่ก็เปรียบกับการพลิกด้านของขั้วแม่เหล็กโลกนั่นเอง

คำถาม........? แล้วสิ่งมีชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป

เมื่อโลกหมุนกลับทาง สิ่งมีชีวิตที่เหลืออาจจะต้องเจอกับภัยธรรมชาติมากมาย โลกหมุนกลับทางย่อมทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยน ทั้งกระแสน้ำทะเล กระแสลม รวมถึงแผ่นดิน จากนี้จะเกิดอะไรขึ้นย่อมไม่มีใครรู้ได้ มนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตรอด จะปรับตัวอย่างไรเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก มนุษย์ที่เหลือจะทำอย่างไรเมื่อวันนั้นมาถึง

คำถาม.......? ในแง่ความเห็นของผู้มีญาณในไทย มีว่าอย่างไรบ้าง

ผู้มีญาณทั้งหลายได้บรรยายภาพที่ได้เห็นมาว่า จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตบ้าง เช่น ประเทศไทยในอนาคตจะเหลือแค่ภาคเหนือและภาคอีสานเท่านั้น ที่เป็นพื้นที่แผ่นดินผืนใหญ่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะรอดพ้นภัย อย่างเช่นที่เชียงใหม่ จะเกิดการยุบตัวและการเลื่อนของผิวดิน ภูเขาจะถล่มลงมา... ประมาณนี้ครับ แต่จะเริ่มเห็นลางภัยพิบัติในครั้งนี้ชัดเจนขึ้นในอีกประมาณ 5 ปีนับจากนี้ และจะเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ เช่นมีภัยพิบัติมากกว่าเดิมในหลายๆที่ ไปจนถึงเวลาที่แกนโลกพลิกตัวจริงๆ

ที่มา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=314169

 

^
^
^
อ่านแล้ว ใจหาย มันจะเกิดขึ้นจริงหรือนี่ ? บอกตามตรงผมปลงแล้ว ไม่กลัวตายเลย
(กลัวตายแบบทรมานมากกว่า) ถึงยังงัยก็ตาม สัตวโลกย่ิมเป็นไปตามกรรม
หมั่นทำ ทาน ศีล ภาวนา ให้มากนะครับ ท่านอาจเป็น 1 ใน 100 คนที่รอดก็ได้

 

สาส์นจากเพื่อนต่างดาวมาเตือนชาวโลก
โดยคุณ Haruaki_n<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT> สมาชิก

​

ขอชี้แจงหน่อยนะครับ ข้อความนี้มันค่อนข้างเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวหน่อย (เราคงไม่ได้อาศัยในจักรวาลนี้โดยลำพังนะครับ) ผมเชื่อว่า UFO มีจริงเพราะเคยเห็นมากับตา แต่ไม่ได้บันทึกภาพไว้ครับ

Remote viewing Tibetan monks see Extra Terrestrial powers saving the World from destroying itself in 2012. Remote viewing is nothing new in Tibetan monasteries.
<O</O
พระชาวทิเบตได้ใช้ญาณ มองเห็นถึงพลังของมนุษย์ต่างดาวช่วยโลก จากการชำระล้างในปี 2012 การใช้ญาณหยั่งรู้นั้น ไม่ได้เป็นสิ่งใหม่ของเหล่านักบวชทิเบตเลย
<O</O
For thousands of years remote viewing in the middle of other spiritual activities have dominated Tibetan culture. What some Indian tourists came to learn from a few Tibetan monasteries under the current Chinese rule is extremely alarming and fascinating.
<O</O
หลายพันปีกับการใช้ญาณหยั่งรู้ ในช่วงกลางของพิธีกรรมทางจิตวิญญาณ จนกลายมาเป็นวัฒนธรรมชาวธิเบตไปแล้ว อะไรก็ตามที่นักแสวงบุญชาวอินเดีย เข้ามาเรียนรู้จากวัดทิเบตไม่กี่แห่ง ที่อยู่ภายใต้การปกครองของจีนนั้น เป็นเรื่องน่าตื่นตระหนกและน่าชื่นชม
<O</O
According to these tourists remote viewers are seeing world powers in the course of self-destruction. They also see that the world will not be destroyed. Between now and 2012 the world super powers will continue to engage in regional wars. Terrorism and covert war will be the main problem. In world politics something will happen in and around 2010.
<O</O
จากการใช้ญาณหยั่งรู้ ของเหล่าผู้แสวงบุญเหล่านั้น ทำให้เห็นถึงพลังของโลก ที่ใช้ในการทำลายตัวเอง พวกเขายังเห็นว่าโลกไม่ได้ถูกทำลายจากใคร(แต่ใช้พลังของตัวมันเอง) ในช่วงระหว่างเวลาปัจจุบันจนถึงปี 2012 พลังอันมหาศาลจะทำสัญญาต่อเนื่องจากสงครามแต่ละพื้นที่ การก่อการร้ายและสงครามดักซุ่ม จะกลายเป็นปัญหาหลัก ในระบบการปกครองของโลก จะมีบางอย่างเกิดขึ้นในปี 2010
<O</O
At that time the world powers will threaten to destroy each other. Between 2010 and 2012, the whole world will get polarized and prepare for the ultimate dooms day. Heavy political maneuvers and negotiations will take place with little progress. In 2012, the world will start plunging into a total destructive nuclear war. And at that time something remarkable will happen, says, Buddhist monk of ffice:smarttags"
<ST1</ST1<O</O
ในช่วงนั้น พลังของโลกจะถูกคุกคาม เพื่อให้เกิดการทำลายล้างต่อกัน ในระหว่างปี 2010 และ 2012 ทั่วทั้งโลกจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ที่ขั้วแม่เหล็กและเตรียมการสำหรับวันหายนะครั้งยิ่งใหญ่ การแทรกแซงการเมืองที่หนักหน่วง และการเจรจาต่อรองจะไร้ผล ปี 2012 โลกจะเริ่มกระโจนเข้าสู่การทำลายล้างโดยอาวุธนิวเคลียร์ และช่วงนั้นอะไรบางอย่างที่สำคัญ จะเกิดขึ้น คำกล่าวโดยพระชาวธิเบต
<O</O
Supernatural divine powers will intervene. The destiny of the world is not to self-destruct at this time. Scientific interpretation of the monks' statements makes it evident that the Extra Terrestrial powers are watching us every step of the way. They will intervene in 2012 and save the world from self-destruction. When asked about recent UFO sightings in <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com</st1:country-region>India and <ST1lace w:st="on" <st1:country-region w:st="on">China</st1:country-region></ST1lace, the monks smiled and said the divine powers are watching us all.
<O</O
พลังเหนือธรรมชาติจะเข้าแทรก จุดมุ่งหมายของโลกไม่ใช่เพื่อการทำลายล้างตัวเองในเวลานี้ การแปลความหมายตามหลักวิทยาศาสตร์ จากคำพูดของนักบวชได้สร้างหลักฐานว่า มนุษย์ต่างดาวได้กำลังเฝ้ามองเราทุกๆ ย่างก้าว พวกเขาจะมาปรากฎตัวในปี 2012 และช่วยเหลือโลกจากการทำลายล้างตัวเอง เมื่อถามถึงเรื่องยูเอฟโอ ที่ปรากฎในประเทศอินเดียและจีน พระท่านยิ้มและบอกว่า เหล่าผู้มีญาณหยั่งรู้เหล่านี้ กำลังเฝ้ามองเราอยู่ <O</O

Mankind cannot and will not be allowed to alter the future to that great extent. Every human being though their current acts in life called "Karma" can alter the future lives to some extent, but changing the destiny in that large extent will not be allowed to that great an extent. Monks also mentioned that beyond 2012 our current civilization would understand that the final frontier of science and technology is in area of spirituality and not material physics and chemistry.
<O</O
เหล่ามนุษย์ไม่สามารถและไม่ได้รับอนุญาต ให้เปลี่ยนแปลงอนาคตต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ มนุษย์ทุกคนแม้ว่าการกระทำที่เรียกว่า “กรรม” จะส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ที่จะเกิดขึ้นในระดับหนึ่ง แต่การเปลี่ยนโชคชะตาของตัวเองอย่างใหญ่หลวง เพื่อเข้าสู่ระบบการเปลี่ยนแปลงที่จะมาถึงนั้นย่อมไม่ได้รับอนุญาต พระท่านยังกล่าวอีกว่า หลังจากผ่านพ้นปี 2012 ไปแล้ว อารยะธรรมของเราจะเข้าสู่ยุคสุดท้ายของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และจะเข้าสู่ยุคของจิตวิญญาณและ ไม่เน้นด้านวัตถุธาตุและเคมี
<O</O
Beyond 2012, out technologies will take a different direction. People will learn the essence of spirituality, the relation between body and the soul, the reincarnation and the fact we are connected with each other are all part of "God". In <st1:country-region w:st="on">India</st1:country-region> and <ST1lace w:st="on" <st1:country-region w:st="on">China</st1:country-region></ST1lace UFO sightings have increased in many folds. Many say the Chinese and Indian Governments are being contacted by the Extra Terrestrials.
<O</O
หลังจากปี 2012 เทคโนโลยีของเราก็จะเปลี่ยนทิศทาง ผู้คนจะเรียนรู้แก่นสารแห่งจิตวิญญาณ (ความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายและวิญญาณ) การกลับชาติมาเกิดและความจริงจะถูกเชื่อมต่อกับสิ่งที่เรียกกันว่า “พระเจ้า” การพบเห็นยูเอฟโอในประเทศอินเดียและจีนได้เพิ่มขึ้นโดยผู้คนหลายกลุ่ม มีหลายคนพูดว่าทั้งอินเดียและจีน ต่างก็กำลังติดต่อกับพวกมนุษย์ต่างดาว
<O</O
In recent days most UFO activities have been seen in those countries who have indigenously developed Nuke capabilities. Whenasked if these extra-terrestrials will show up in reality in 2012, the answers remote viewers are giving is: they will reveal themselves in such a way that none of us scared. They will reveal themselves only if they have to. As our science and technology progresses, we are destined to see them and interact with them any way.
<O</O
ในปัจจุบันการปรากฎตัวของยูเอฟโอ ส่วนใหญ่ได้ถูกพบเห็นในประเทศที่ได้พัฒนาเรือดำน้ำติดนิวเคลียร์นุค เมื่อถามว่าถ้ามนุษย์ต่างดาวได้ปรากฎตัวให้เห็นจริงๆ ในปี 2012 คำตอบจากผู้หยั่งรู้คือ พวกเขาจะเปิดเผยตัวเอง ในรูปแบบที่ไม่ทำให้พวกเรากลัว พวกเขาจะปรากฎโฉมเมื่อจำเป็นเท่านั้น ขณะที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของพวกเรากำลังก้าวหน้า โชคชะตาก็ดลบันดาลให้เรา ได้พบและผูกสัมพันธ์กับพวกเขาโดยปริยาย
<O</O
According to the remote viewers, our earth is blessed and is being saved continuously from all kinds of hazards all the time that we are not even aware of. As our technologies progress we will realize how external forces saved us.
<O</O
จากการบอกเล่าของผู้หยั่งรู้ โลกของเราได้รับพรและกำลังถูกปกป้องอย่างต่อเนื่อง จากอันตรายทุกรูปแบบในทุกเวลา ที่เราไม่เคยแม้จะตระหนักถึง ขณะที่เทคโนโลยีของเราก้าวหน้า เราจะตระหนักว่ากลุ่มที่อยู่ด้านนอกนั้นรักษาเราอย่างไร<O</O

ที่มา http://www.alienshift.com/id119.html<!-- google_ad_section_end -->

 

"พลังเหนือธรรมชาติ"จะเข้าแทรกแซงในปี ค.ศ.2012


​

อ้างอิงจากสาส์นจากเพื่อนต่างดาวฯ

พลังเหนือธรรมชาติจะเข้าแทรก จุดมุ่งหมายของโลกไม่ใช่เพื่อการทำลายล้างตัวเองในเวลานี้ การแปลความหมายตามหลักวิทยาศาสตร์ จากคำพูดของนักบวชได้สร้างหลักฐานว่า มนุษย์ต่างดาวได้กำลังเฝ้ามองเราทุกๆ ย่างก้าว พวกเขาจะมาปรากฎตัวในปี 2012 และช่วยเหลือโลกจากการทำลายล้างตัวเอง เมื่อถามถึงเรื่องยูเอฟโอ ที่ปรากฎในประเทศอินเดียและจีน พระท่านยิ้มและบอกว่า เหล่าผู้มีญาณหยั่งรู้เหล่านี้ กำลังเฝ้ามองเราอยู่

********************************************************

เหตุการณ์ในปี ค.ศ.2012 จะไม่รุนแรงเหมือนเมื่อครั้งในอดีต ที่ทำให้ไดโนเสาร์ต้องสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้หรอกครับ เพราะโลกของเราจะได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนต่างดาว และท่านผู้ที่มีอภิญญาอีกหลายๆท่าน เช่นที่กลุ่มเขากะลากำลังดำเนินงานอยู่ในขณะนี้ พวกเขาก็กำลังเตรียมช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อยู่อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามจะมีคนที่ได้รับการช่วยเหลือจนมีชีวิตอยู่รอดไปในยุคหน้า ซึ่งเป็นยุคของชาวศิวิไลซ์อย่างแน่นอนครับผม

*********************************************************<O</O

 

นักเรียนสุราษฎร์ฯ อาเจียนร่วมร้อยคนหลังกินอาหารเช้าที่โรงเรียนจัดให้​

​

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค. – เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ ( 22 พค. ) เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพสุราษฎร์ธานี นำนักเรียนชั้นประถม 1-6 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เกือบ 100 คน ส่งโรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการคลื่นไส้อาเจียน หลังรับประทานอาหารเช้าที่โรงเรียนจัดให้

โดยโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีรับตัวไว้ 57 ราย และโรงพยาบาลพุนพินอีก 14 ราย เบื้องต้นทราบว่าอาหารเช้าที่โรงเรียนจัดให้เป็นข้าวเปล่าและต้มจืดผักกาดดองใส่หมู หลังจากนักเรียนรับประทานไปประมาณ 2 ชั่วโมง จึงเกิดอาการ ซึ่งแพทย์คาดว่าอาหารเป็นพิษ และจะเก็บตัวอย่างอาหารมาตรวจสอบเพื่อหาเชื้อปนเปื้อน.-สำนักข่าวไทย

2009-05-22 13:45:10

ชาวบ้านแม่แจ่มที่กินเห็ดพิษเสียชีวิตเพิ่มอีกราย​

​

เชียงใหม่ 22 พ.ค.-ชาวบ้านแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ที่กินเห็ดพิษเสียชีวิตแล้ว ส่วนอีกรายอาการยังน่าเป็นห่วง

นายประสาน พิทักษ์ทรงวุฒิ วัย 19 ปี ชาวบ้าน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ที่เก็บเห็ดมีพิษมาปรุงอาหารรับประทานพร้อมกับครอบครัว ซึ่งนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลนครพิงค์เชียงใหม่มานานถึง 5 วัน ได้เสียชีวิตลงแล้ว ตับและไตถูกทำลายจากพิษในเห็ด ส่วน น.ส.ธิดา วัย 16 ปี น้องสาว ยังนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู อาการน่าห่วง ไม่รู้สึกตัวต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ขณะที่ ด.ญ.ลัดดา วัย 13 ปี น้องสาว และนางหน่อแนะ มารดา อาการปลอดภัยแล้ว
ส่วนนางนะกะมะ วัย 53 ปี ชาว อ.เวียงแหง ที่นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเดียวกัน ยังปวดท้องรุนแรง ถ่ายเป็นเลือด แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย

2009-05-22 01:13:57

ภาคใต้ชิคุนกุนยายังแพร่ระบาดยอดป่วยเพิ่ม​

​

ภูมิภาค 22 พ.ค.- สาธารณสุขจังหวัดพัทลุงยังคงเน้นย้ำชุมชนกำจัดลูกน้ำยุงลายสม่ำเสมอ เผย 1 สัปดาห์ มีผู้ป่วยเพิ่มสูง ขณะที่ประจวบฯ ระดมฉีดพ่นยาฆ่ายุงเขตปราณบุรี พื้นที่พบพบผู้ป่วยน่าสงสัยรายแรก

นพ.วิเชียร แก่นพลอย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า ยังพบผู้ป่วยโรคชิคุนกุนยาในจังหวัดพัทลุงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มีจำนวน 312 รายแล้ว จากสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ป่วยเพียง 62 ราย ถือว่าเป็นการระบาดรวดเร็ว โดยเฉพาะอำเภอกงหราพบผู้ป่วยพบมากที่สุด รองลงมา อ.เมือง และเขาชัยสน ซึ่งโรงพยาบาลและสถานีอนามัยทุกแห่งเข้มงวดการคัดกรองผู้ป่วยเป็นพิเศษ พร้อมเจาะเลือดส่งตรวจทันทีหากมีอาการน่าสงสัย ส่วนพื้นที่มีการแพร่ระบาดของโรคสูงจะตั้งทีมแพทย์เฉพาะกิจเข้าไปหมุนเวียนดูแลรักษาผู้ป่วยโดยตรงทุกสัปดาห์ ที่สำคัญประชาชนต้องรู้จักการป้องโรคและกำจัดลูกน้ำยุงลายอย่างสม่ำเสมอหรือทุกสัปดาห์

ส่วน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้านและฝ่ายสาธารณสุข องค์การบริหารส่วนตำบลเขาน้อย อ.ปราณบุรี ออกแจกทรายอะเบทและฉีดหมอกควันกำจัดยุง หลังจากแพทย์โรงพยาบาลปราณบุรี เพิ่งพบผู้ป่วยรายแรกคล้ายโรคชิคุนกุนยา ซึ่งเป็นหญิงมีอาการไข้ และผื่นขึ้นตามร่างกาย โดยแพทย์เจาะเลือดส่งไปพิสูจน์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้ว.-สำนักข่าวไทย

2009-05-22 12:31:45

กลุ่มป่วนใต้เหิมหนัก ยิงตำรวจท่ามกลางสายตาชาวบ้านที่ยะลา​

​

ยะลา 21 พ.ค.-ผู้ก่อความไม่สงบเหิมหนัก ล่าสุดยิงตำรวจบนถนนสาย 410 ยะลา-เบตง ใกล้โรงพยาบาลบันนังสตา ท่ามกลางสายตาชาวบ้านและเจ้าของร้านขายผลไม้

ตำรวจเข้าตรวจสอบสภาพศพ ส.ต.ต.เกรียงไกร พานแก้ว ผู้บังคับหมู่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ จ.ลำปาง แต่มาช่วยราชการที่ จ.ยะลา ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ประกบยิง ขณะขับรถจักรยานยนต์ออกจากฐานปฏิบัติการ สำนักงานที่ดินอำเภอบันนังสตา เพื่อมาซื้อผลไม้ใกล้ที่เกิดเหตุ

สอบสวนทราบว่า คนร้ายเป็นชาย 4 คน ใช้จักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ก่อเหตุอย่างอุกอาจ ไม่สนสายตาชาวบ้านและเจ้าของร้านขายผลไม้ ซึ่งผู้ตายมาซื้อเป็นประจำ ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนี ยังได้นำปืนพกสั้นของผู้ตายไปด้วย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านต้องสงสัย พร้อมทั้งนำตัววัยรุ่น 10 คนไปสอบสวนเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย

2009-05-21 03:10:58

ฝนกระหน่ำพิษณุโลกต้นไม้ใหญ่หักขวางถนนจราจรอัมพาต​

​

พิษณุโลก 21 พ.ค.-พายุฝนพัดกระหน่ำหลายพื้นที่ของพิษณุโลก ต้นไม้ใหญ่หักโค่นล้มขวางถนนสายพิษณุโลก-หล่มสัก การจราจรเป็นอัมพาตทั้งขาขึ้นและขาล่อง

หน่วยกู้ภัยพิษณุโลกและกำลังทหารค่ายสฤทธิ์เสนากว่า 40 นาย นำเลื่อยยนต์ รถยกจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 ช่วยกันตัดต้นพยอมขนาดใหญ่ที่ล้มทับขวางถนนทางหลวงหมายเลข 12 พิษณุโลก-หล่มสัก ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 32-33 บ้านกกกระบาก หลังเกิดพายุฝนฟ้าคะนองพัดกระหน่ำในหลายพื้นที่ ส่งผลให้การจราจรที่จะมุ่งหน้าสู่ภาคอีสานทั้งขาขึ้นและขาล่องเป็นอัมพาตนานกว่า 2 ชั่วโมง รถติดเป็นระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร

รถโดยสารสาธารณะที่รับ-ส่งผู้โดยสาร ต้องเสียเวลานำผู้โดยสารหยุดพักที่สถานีขนส่ง จนเจ้าหน้าที่สามารถเคลียร์เส้นทางระบายรถทั้งขาขึ้นและขาล่องได้แล้ว พร้อมเตือนผู้ใช้รถเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะฝนที่ตกหนักอาจจะทำให้ทัศนวิสัยการมองเห็นไม่ชัดเจน และอาจเกิดดินสไลด์ทับเส้นทางจนได้รับอันตราย.-สำนักข่าวไทย

2009-05-21 02:14:39

นายทุนรุกป่าอนุรักษ์พิษณุโลก โค่นไม้มะค่าโมงอายุกว่า 100 ปี​

​

พิษณุโลก 21 พ.ค. – วันนี้ (21 พ.ค.) นายชวลิต เหมือนภักตร์ ปลัดอำเภอวังทอง ฝ่ายความมั่นคง จังหวัดพิษณุโลก พร้อมอาสาสมัครรักษาดินแดน และเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ต.บ้านกลาง อ.วังทอง เข้าตรวจยึดไม้มะค่าโมง อายุกว่า 100 ปี ขนาด 4 คนโอบ ความสูงกว่า 10 เมตร จำนวน 6 ท่อน ยาวประมาณ 1.50 – 3 เมตร

ในพื้นที่อนุรักษ์สวนป่าลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวา หมู่ 15 บ้านเขาชี ต.บ้านกลาง อ.วังทอง ซึ่งถูกตัดเพื่อเตรียมแปรรูป และมีการขนย้ายมาซุกซ่อนไว้ที่ชายป่าเขากระยางลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวา ห่างจากจุดที่ตัดไม้ประมาณ 5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงอายัดไม้ของกลางดังกล่าว และแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.แก่งโสภา อ.วังทอง เพื่อขยายผลสืบหานายทุนมาดำเนินคดี.- สำนักข่าวไทย

2009-05-21 19:30:33

แจงน้ำทะเลบางแสนเปลี่ยนสีเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ​

​

ชลบุรี 22 พ.ค.-ทะเลชายหาดบางแสนเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ น้ำเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลขุ่น เตือนนักท่องเที่ยวอย่าตกใจลงเล่นน้ำทะเลได้ตามปกติ

น้ำทะเลบริเวณชายหาดบางแสนได้เปลี่ยนจากสีเขียวใสเป็นสีน้ำตาลขุ่น ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เนื่องจากช่วงนี้ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้น้ำจืดไหลลงทะเลจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม น้ำทะเลสีดังกล่าวไม่มีพิษ นักท่องเที่ยวยังมาพักผ่อนช่วงวันหยุดและลงเล่นน้ำได้ตามปกติ

ด้านนายสวัสดิ์ หอมปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกสำรวจว่าน้ำทะเลทำให้มีผลกระทบต่อสัตว์น้ำหรือไม่ พร้อมฝากถึงนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวบางแสน อย่าตกใจ ลงเล่นน้ำได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

2009-05-22 04:15:17

ชาวเชียงรายสนใจซื้อลิ้นจี่สดจากสวนคึกคัก​

​

เชียงราย 22 พ.ค.-ชาวสวนลิ้นจี่เชียงรายเร่งนำผลผลิตออกจำหน่าย ชาวสวนบางรายขายได้กว่า 500 กิโลกรัม/วัน

แม้ชาวสวนลิ้นจี่หลายจังหวัดภาคเหนือจะเดือดร้อนจากราคาลิ้นจี่ตกต่ำ แต่ชาวสวนเชียงรายไม่สิ้นหวัง แก้ปัญหาด้วยการนำมาวางจำหน่ายในตัวเมืองเชียงรายแทน ทำให้บรรยากาศริมถนนบรรพปราการคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ต่างให้ความสนใจมาซื้อหาลิ้นจี่สดจากสวน ซ้ำยังขายได้ราคาดีที่กิโลกรัมละ 15-30 บาท และไม่ต้องถูกกดราคา บางร้านขายได้วันละกว่า 500 กิโลกรัม สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ บางรายขายได้วันละกว่า 10,000 บาท.-สำนักข่าวไทย

2009-05-22 04:11:40

ร้อยเอ็ดยกย่องนักเรียนตัวอย่างเก็บเงิน 3 หมื่นบาทคืนเจ้าของ​

​

ร้อยเอ็ด 21 พ.ค. - พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณบัตรแก่นายอากฤษณ์ ศิริพานิช อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย พร้อมเงินสด 3,000 บาท เพื่อยกย่องเชิดชูคุณงามความดีที่เก็บกระเป๋าเงิน 30,000 บาท

พร้อมบัตรเอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย สาขาร้อยเอ็ด และบัตรประจำตัวประชาชน คืนเจ้าของ คือ นายมนัสชัย อาจคำพันธ์ และ น.ส.สาวิตี พันภักดี 2 สามีภรรยา ชาว อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด ที่ทำหล่นไว้ริมถนนหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว ข้างตลาดหนองแคน กลางเมืองร้อยเอ็ด เมื่อเย็นวานนี้ (20 พ.ค.) แม้นายมนัสชัย และ น.ส.สาวิตี จะมอบเงินสด 4,000 บาท เป็นการตอบแทนน้ำใจแก่นายอากฤษณ์ แต่นายอากฤษณ์ไม่ขอรับ เพราะไม่ได้หวังสิ่งใดตอบแทน ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับเจ้าของเงินอย่างมาก. - สำนักข่าวไทย

2009-05-21 18:03:43

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

ทุกภาคมีฝนตกหนักระวังะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" valign="baseline" align="left">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" valign="baseline" align="left">23 พฤษภาคม 2552 06:01 น.</td> </tr> </tbody></table> <table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center"></td> </tr> </tbody></table> กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม 2552 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องความกดอากาศต่ำยังคงพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง

ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและ พื้นที่ลุ่มบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด ระนอง และชุมพรให้ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในระยะ นี้ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังแรง ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะ 1-2 วันนี้ (23-24 พ.ค. 52)ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ลพบุรี สระบุรี และราชบุรี อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราดอุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ใกล้ฝั่งทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งอุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

 

​

ปี 2012 เป็น จุดจบของโลกจริงหรือ ?​

จากที่ผมได้อ่านมา มันก็มีเหตผลหลายๆด้านนะครับ... อันนี่ผมหาบทความ มาให้อ่านครับ .. อาจจะทำให้รู้อะไรมากขึ้น!! (บ้างอันอาจจะมีคนโพสต์มาแล้วนะครับ ก็ขออภัยด้วยครับ)

prince3x3 4th February 2009, 20:10

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

บทความ

ในระยะหลังนี้ หลายท่านคงตระหนักถึงภัยธรรมชาติที่เพิ่มและรุนแรงมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าถามถึงกระแสในปัจจุบันก็คงหนีไม่พ้นคำว่า "โลกร้อน" แต่ยังมีสิ่งหนี่งที่ผมเองสนใจอย่างยิ่ง คือจุดจบของโลกในปี ค.ศ.2012 ซึ่งเริ่มนับถอยหลังเพียงแค่อีก3 ปีเท่านั้น!!

1. ทางวิทยาศาสตร์ NASA ออกมาบอกว่าสนามแม่เหล็กโลกจะเกิดการเปลี่ยนแปลง(ขั้วแม่เหล็กโลกพลิกกลับขั้ว)

2. ทางโหราศาสตร์ บ่งบอกว่าจะเกิดการเรียงตัวกันของ โลก กาแล็คซี่ทางช้างเผือก และดวงอาทิตย์

3. ทางโบราณคดี ชาวมายามีปฏิทินถึงเพียงแค่ปี ค.ศ.2012 และระบุวันจุดจบของโลกไว้

4. ทางการทำนาย นอสตราดามุสได้ทำนายไว้กับราศี ตีความแล้วสอดคล้องกับ ทางโหราศาสตร์

5. ทาง UFO ผู้ที่ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้ อ้างว่ามนุษย์ต่างดาวได้บอกเค้า(แล้วแต่ความเชื่อ)

6. ทางความคิดผมเอง ศาสนาพุทธและคริสต์ ได้ระบุวันจุดจบไว้แล้วในปี พุทธศักราชและคริสศักราช

ไม่ว่าจะทางใด ดูจากหลาย ๆ ทางแล้วชี้ไปในปีเดียวกัน ความเชื่อมั่นกับสิ่งที่จะเกิดในปี 2012 นั้นน่าจะมีอะไรเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่ ๆ แต่ที่แน่ ๆ ในปัจจุบันผมมั่นใจว่ามันน่าจะเริ่มเกิดขึ้นแล้ว โดยสังเกตุจากผลกระทบจากภัยธรรมชาตินี่เอง เมื่อกลับมามองดูปี 2012 ก็เลยมานั่งพิจรณาดูเล่น ๆ (การนับเลขฐานสิบจะนับศูนย์ถึงเก้า) ถ้าเราตัดเลขสองออกก็จะได้เลขนับ 0->1->2 เมื่อมาดูเป็นปี พ.ศ. มันเป็นปี 2555 (เลยสวยมาก) ถ้าเราตัดเลขสองออกเช่นกัน จะได้เลข 5 เรียงตัวกัน 3 ตัว

ผมขอโยงไปเรื่องโหราศาตร์ที่จะมี โลก กาแล็คซี่ และดวงอาทิตย์ ที่จะเกิดการเรียงตัวกัน ผลลัพธ์นั้นคงบอกไม่ได้ อาจเกิดผลกระทบรุนแรงต่อโลกหรืออาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยก็ได้ เพราะสิ่งที่เราไม่รู้นั้นยังมีอีกมากมายทั้งในอวกาศ และจักรวาล

BY Atten @ aws.nakhonthai.net

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

วิทยาศาสตร์

แกนโลกจะพลิกกลับขั้ว" Pole Shift " บรรดามนุษย์ต่างดาวกำลังให้ความช่วยเหลือในการอยู่รอดของมนุษย์

แบบจำลองคอมพิวเตอร์ ทำนายการพลิกกลับขั้วของแม่เหล็กโลก อาจนำมาสู่การสิ้นสุดอารยธรรมมนุษย์ในปี 2012

จากการทำงานของนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่ง ที่ได้ศึกษาปรากฎการณ์แกนโลกพลิกตัว บอกว่าโลกและดวงอาทิตย์ ทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกันและสัมพันธ์กัน โดยจะแลกเปลี่ยนพลังงานและใช้จนหมดกระบวนการหนึ่ง จนเกิดกระบวนการของการพลิกกลับขั้วเกิดขึ้น ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีก่อน เมื่อสัตว์จำพวกไดโนเสาร์ที่สาบสูญไปในช่วงเวลานั้น

ในการค้นคว้าวิจัยส่วนตัวและของบริษัท ได้วิเคราะห์หรือทำนายด้วยระบบคอมพิวเตอร์ Hyderabad ซึ่งมีแนวโน้มเกี่ยวกับการยกระดับพลังงานขึ้นสูงสุด จะเกิดขึ้นในปี 2012 นี้

การพลิกกลับขั้วของแกนแม่เหล็กโลก คือกระบวนการเมื่อขั้วทิศเหนือและขั้วทิศใต้กลับตำแหน่งกัน เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น, ที่จุดหนึ่งของเวลา สนามแม่เหล็กโลกจะลดลงเกือบจะถึงศูนย์เกาซ์ โลกที่จุดนั้นของเวลามีคุณสมบัติของแม่เหล็กเป็นศูนย์ สิ่งนี้บังเอิญมาเกิดขึ้นพร้อมกัน กับการหมุนรอบพลิกกลับขั้วของดวงอาทิตย์ในทุกๆ 11 ปีพอดี

ในประวัตศาสตร์ของมนุษย์ยุคใหม่ ปรากฎการณ์แกนโลกพลิกตัว ที่เคยเกิดขึ้นนั้นไม่เคยถูกบันทึกมาก่อน แต่ในปัจจุบันแบบตัวอย่างคอมพิวเตอร์สามารถทำนายผลลัพธ์ที่เป็นจริงได้ ซึ่ง NASA เคยนำคำพูดที่น่ากลัว มากล่าวถึงในที่สาธารณะเกี่ยวกับการพลิกกลับขั้ว จะทำให้คุณสมบัติของแม่เหล็กของโลกอ่อนแอและเบี่ยงเบนไปแต่ไม่ใช่ศูนย์

ตามแบบตัวอย่างคอมพิวเตอร์ Hyderabad การพลิกกลับเกี่ยวกับขั้วของโลกและดวงอาทิตย์สามารถเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาที่จริงจังดังต่อไปนี้

- ระบบอิเล็กโทรนิคจำนวนมากจะทำงานผิดปกติ (ระบขีปนาวุธ ,computer)
- การอพยพของฝูงสัตว์ เช่น นก หรือปลาวาฬ ทำให้สูญเสียทิศทางและอื่นๆ
- ระบบภูมิคุ้มกันโรคในบรรดาสัตว์รวมถึงมนุษย์ จะทำให้อ่อนแออย่างมาก
- ทำให้ภูเขาไฟเพิ่มขึ้น, เกิดการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก แผ่นดินไหว และแผ่นดินถล่ม
- สนามแม่แหล็กโลก (Magnetosphere) จะอ่อนแอลง และการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์จะเพิ่มปริมาณถึงระดับอันตราย ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังตามมา ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้
- กลุ่มวัตถุในอวกาศที่มีเส้นผ่านมากมายจะเฉียดเข้าใกล้โลกได้ง่ายขึ้น
-แรงดึงดูดของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ถ้าคุณรวมเค้าเรื่องการทำลายล้างกับเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ ความเป็นไปได้เหล่านี้เป็นไปได้ทั้งหมด, คุณสามารถดูได้โดยง่าย, โลกอาจจะกลายเป็นที่ที่ไม่เหมาะสมสำหรับอารยธรรมของมนุษย์เมื่อถึงปี 2012 และผู้ที่จะรอดได้นั้นอาจต้องมีชีวิตอยู่ใด้ดินหรือใต้เปลือกโลกเท่านั้น..

กลุ่มนักค้นคว้าเรื่อง UFO จำนวนมาก (ในต่างประเทศ) ที่ได้ทำการติดต่อกับพวกเขาอย่างลับๆ รายงานว่ามนุษย์ต่างดาวได้ตระหนักถึงเหตุการณ์เกี่ยว กับโลกในช่วงระยะอันใกล้นี้ พวกเขาได้เข้ามาบันทึกและศึกษาเหตุการณ์การสูญพันธุ์ของรูปแบบอารยธรรมเกี่ยวกับมนุษย์ อันเนี่องมาจากการขาดของความรู้ของเราเอง

ขณะนี้เขากำลังจัดเตรียมเครื่องมือ สำหรับการตรวจวัดและคัดเลือกมนุษย์ ที่เขาจะช่วยชีวิตเอาไว้ได้จำนวนหนึ่งแล้ว...

พวกเขาได้รับสัญญาณและรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับโลกว่า มีบางสิ่งที่รุนแรงจะเกิดขึ้น ซึ่งเขากำลังเตรียมช่วยเหลือเราอย่างเงียบๆ รวมถึงการเคลื่อนย้ายเราไปสู่ปลายทางที่ปลอดภัยที่เราไม่อาจรู้ (ซึ่งฃ่าวนี้ตรงกับข้อมูลทางกลุ่มเขากะลาของไทยที่บอกไว้คล้ายกัน เกี่ยวกับการเตรียมการช่วยเหลือตามจุดต่างๆ 8 จุด ทั้งในไทยและต่างประเทศ)

หลายๆเหตุการณ์ เช่น Tsunami , มันเป็นไปได้ที่เราจะงงงวยและจ้องมองมัน กับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ถ้าเรื่องราวนี้ถูกต้อง, มันอาจจะเป็นหนทางหนึ่งที่เราจะอยู่รอดจะเพื่ออารยธรรมของเรา บางทีเราอาจต้องเคลื่อนย้ายสู่ดาวเคราะห์อื่นๆ เช่นที่มันอาจจะเคยเกิดขึ้นบนดาวอังคารเมื่อหลายล้าน ปีมาแล้ว...

​

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~


มนุษย์ต่างดาว

เดือนตุลาคม ค.ศ.2000 ชาวคอร์กิโนหลายคน เห็นดวงแสงลึกลับ ลอยวูบลงสู่พื้นดิน แล้วพุ่งกลับขึ้นไปในอากาศ ทิ้งรอยไหม้จนหินละลาย ซึ่งต่อมาหินละลายดังกล่าว ได้รับการตรวจสอบจากนักธรณีวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา ที่ลงความเห็นว่าหินได้รับความร้อนอย่างไม่น่าเชื่อ

นอกจากแสงลึกลับแล้ว ที่นี่ยังมีชายผู้หนึ่งซึ่งอ้างว่าเขาสามารถติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้มานานแล้ว ล่าสุดเมื่อปี 2002 เขาก็อ้างว่าเขาถูกลักพาตัวไปยังยางนอกโลกถึง 3 วัน ซึ่งงานนี้เขาไม่ได้อ้างลอยๆ นะ เขามีพยานหลักฐานอันน่าทึ่ง และยังไม่อาจพิสูจน์ค้านได้ว่าเป็นการทำปลอม หรือกุเรื่องขึ้นเสียด้วย

ชายผู้มีประสบการณ์พิเศษคนนี้ ชื่อ อูแรนเดอร์ โอลิเวียร่า เขาอ้างว่าเขาเคยติดต่อ กับมนุษย์ต่างดาวมาหลายครั้ง มนุษย์ต่างดาวของ โอลิเวียร่า ไม่ใช่ทอล ดาร์ค แอนด์ แฮนซัม แต่เป็นทอล บลอนด์ ผิวขาวร่างสูง ผมบลอนด์ ดวงตาสีฟ้าจาง โดยมีแก้วตาสีเหลืองอ่อนวางตามตัวตามแนวตั้งเหมือนตาแมว ฟังดูไม่น่าเกลียดเหมือนตัวอีที โอลิเวียล่าบอกเราว่ามนุษย์ต่างดาวใช้สิ่งที่เรียกว่าแสงพลาสม่า เป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสารกับเขาทางโทรจิต

เหตุการณ์ที่น่าทึ่งที่สุดที่เกิดขึ้นเมื่อ 15 กันยายน ค.ศ.2002 คืนนั้น

โอ ลิเวียร่า หายตัวไปจากห้องนอน ทิ้งไว้แต่รอยไหม้รูปร่างคนนอนบนผ้าปูเตียงและบนฝ้าเพดาน ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน อีก 3 วันต่อมา จู่ๆ เขาก็กลับมาอยู่ในห้องนอนนั้น และเขาอ้างตลอดว่า เวลาที่เขาหายไปนั้นเขาถูกนำตัวไปยังยานต่างดาว

โอลิเวียร่า บอกว่าเขารู้ตัวล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ โดยเขาได้รับการติดต่อ ทางโทรจิตผ่านแสงพลาสม่า ว่ามนุษย์ต่างดาวจะมานำตัวเขาไปในคืนดังกล่าว โดยก่อนเกิดเหตุการณ์จะมีสัญญาณนำมาให้รู้ โดยจะเกิดฝนก้อนหินตกลงมา

ค่ำวันที่ 15 กันยายน 2002 เวลาประมาณ 19.13 น. เพื่อนบ้านใกล้เคียงของ โอลิเวียร่า ต้องประหลาดใจที่ได้ยินเสียงอะไร ร่วงกรูกราวอยู่บนหลังคา เมื่อออกมาดูพบว่าเป็นก้อนหินกลมๆ ก้อนเล็ก ๆ ตกลงมาจากท้องฟ้า หลายคนช่วยเก็บก้อนหิน บางคนก็ถ่ายวีดีโอไว้เป็นหลักฐานด้วย

เขา เล่าว่า ในขณะที่เขานอนอ่านหนังสืออยู่ยนเตียง สักครู่ก็มีแสงสีม่วงสว่างไปทั้งห้อง แสงนั้นรวมตัวเข้าเหมือนฟองสบู่ ร่างของเขาลอยทะลุเพดาน รู้สึกเหมือนกระดูถูกยืดออก แต่ไม่มีความเจ็บปวด ครั้นลอยพ้นผ่านหลังคาบ้านไป ลำแสงสีม่วงก็พลิกร่างเขาให้ยืนขึ้น เมื่อไปถึงยานต่างดาว ( ซึ่งเขาไมได้บอกว่ามันเป็นอย่างไร ) เขาก็ถูกนำตัวเข้าไปในฟองอากาศใบใหญ่ ซึ่งมีผิวบางใส คล้ายๆ ว่าข้างในคงจะคล้ายๆ ห้องฆ่าเชื้อ ปรับพลังงานให้สมดุลย์อะไรทำนองนั้น จากนั้นมนุษย์ต่างดาวผมบลอนด์ร่างสูง ก็พาเขาขึ้นบันไดไปยังชั้นบนของยาน ซึ่งเป็นห้องกว้างใหญ่เหมือนไม่มีที่สิ้นสุด

ที่นั่นมนุษย์ต่างดาวให้เขาดูจอภาพ อันเป็นภาพเกี่ยวกับโลก ระบบสุริยะ และกาแล็คซี่ของเรา มนุษย์ต่างดาวบอกว่า:-

ในวันที่ 22 ธันวาคม 2012 ( พ.ศ. 2555 ) จะเกิดปรากฎการณ์ในอวกาศครั้งใหญ่ ซึ่งจะมีผลกระทบไปทั้งจักรวาล ในวันนั้นแกแล็คซี่จะส่งแสงวาบเจิดจ้าออกมาก ดวงอาทิตย์ทุกดวงในแกแล็คซี่ จะสะท้อนแสงนั้นไปยังดาวเคราะห์ที่โคจรรอบตัวมัน สิ่งมีชีวิตทั้งมวลอันมีดวงตาจะได้เห็นแสงเจิดจ้านี้ทั่วหน้ากัน โลกของเราจะปั่นป่วน ด้วยพายุสุริยะทั้งแสงอาทิตย์ก็จะร้อนจัดขึ้น

คำทำนายของมนุษย์ต่างดาว ที่ว่าจะเกิดอาเพศขึ้นทั่วทั้งจักรวาลในวันนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ น่าแปลกที่ว่า วันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ.2012 นั้นเป็นวันสุดท้ายในปฏิทินของชาวมายาอีกด้วย

ฺที่มา นิตยสารต่วยตูนพิเศษ

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

ทฤษฏี + วิทยาศาสตร์

ทฤษฎีที่โด่งดังมากสุดคงต้องยกให้กับคำทำนาย ที่ว่า โลกบูดเบี้ยวใบนี้จะแตกดับในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ.2012 หรืออีกแค่ 3 ปีข้างหน้า...ด้วยชุดเลขสวย 21/12/2012

ทฤษฎีนี้คิดค้นขึ้นโดยชนเผ่ามายัน วันดังกล่าวถือเป็นวันสิ้นสุดปฏิทินลอง เคาต์ (Long Count) หรือ ปฏิทินลำดับที่ 3 ของชาวมายัน โดยปฏิทินลอง เคาต์ เล่มล่าสุดนั้น เริ่มต้นในปี 3114 ก่อนคริสตกาล และจะดำเนินต่อเนื่องเป็น 13 รอบบักตุน (baktun) กินเวลาทั้งสิ้นราว 5,126 ปี บวกลบออกมาแล้วก็ตรงกับปี 2012 พอดิบพอดี

การเริ่มต้นของ 13 รอบบักตุน เรียกได้อีกอย่างว่า อาทิตย์ดวงที่ 5 ซึ่ง ช่วงเวลาดังกล่าวจะเวียนมาบรรจบเพื่อก่อกำเนิดดวงอาทิตย์ครบ 5 ดวง ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2012 โดยคำทำนายระบุเอาไว้ว่า ในวันนั้นโลกจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬาร ไล่เรียงตั้งแต่ภัยธรรมชาติที่จะทำลายทุกสิ่งไปจนถึง สงครามอภิมหาโลกาวินาศ จนไม่มีมนุษย์คนใดมีชีวิตรอด ซึ่งอย่างหลังนี้อาจเชื่อมโยงได้กับทฤษฎีสงครามโลกครั้งที่ 3 ของนอสตราดามุส โหราจารย์ชื่อก้อง

สถานการณ์น่าระทึกในวันอวสานโลก ข้างต้นตามจินตนาการของ อง โคลด โคเวน นักเขียนหนังสือแนวอภิปรัชญาชาวฝรั่งเศส บรรยายว่า ให้นึกถึงภาพตัวเองอยู่ในสถานีรถไฟอันแออัดตอนเช้า แล้วทันใดนั้นก็เกิดเหตุโกลาหลครั้งใหญ่ทั้งธรรมชาติ แปรปรวนและระบบ คอมพิวเตอร์หรือระบบควบคุมการทำงานของเครื่องจักรเครื่องยนต์ต่างๆ ขัดข้อง จนเป็นเหตุให้ขบวนรถไฟในชานชาลาพากันวิ่งออกไปคนละทิศ คนละทาง คล้ายกับซี่วงล้อเกวียน

ในสถานการณ์อันเลวร้ายเช่นนั้นยังกดดันให้ คุณจำเป็นต้องเลือกขึ้นรถไฟสัก ขบวน อย่างน้อยก็ยังรอดจากการโดนรถไฟทับตาย แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่คุณไม่มีทางรู้เลยว่า รถไฟขบวนที่หลับหูหลับตาขึ้นไปนั้นจะพาคุณไปไหน

น่าแปลกที่นอกจาก 21/12/2012 จะเป็นวันสุดท้ายของปฏิทินชนเผ่ามายันแล้ว ยังมีข้อมูลทางดาราศาสตร์ที่ระบุไว้ว่า จะเกิดพลังงานลึกลับที่จะเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล โดยในเวลาที่ดวงอาทิตย์อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรมากที่ี่สุดในช่วง ฤดูหนาวของปี 2012 นั้น ดวงอาทิตย์จะอยู่ในระนาบเดียวกับใจกลางของทางช้างเผือกเป็นครั้งแรกในรอบ 2.6 หมื่นปี ซึ่งหมายความว่า พลังงานทุกประเภทจากใจกลางของทางช้างเผือกจะถาโถมและเกิดการปะทะกับพลังงาน ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นของโลกในวันที่ 21 ธ.ค. 2012 เวลา 23.11 น. (11.11 pm ตามเวลาสากล)

สมมติว่า มีมนุษย์เหลือรอดบนโลก ก็ไม่อาจรู้ว่าจะจำตัวเองได้หรือไม่ เนื่องจากพลังงานทั้งหลายแหล่ข้างต้นจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ ดีเอ็นเอ นำมาซึ่งการกลายพันธุ์ หรือสรุปคร่าวๆ ได้ว่า ถึงตอนนั้นโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง คนที่รอดต้องดิ้นรนสร้างสิ่งต่างๆ นับจากศูนย์

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลทางธรณีวิทยาที่ชี้ว่า ปี 2012 คือปีที่ซูเปอร์โวลคาโน หรือภูเขาไฟใต้น้ำครบกำหนดเวลา 7.4 หมื่นปี ที่จะทำลายหรือระเบิดตัวเอง โดยสัญญาณเตือนภัยครั้งล่าสุดคือ โศกนาฏกรรมคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2004 ที่บอกให้ชาวโลกรู้ว่า โครงสร้างพื้นผิวโลกได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และการระเบิดของซูเปอร์โวลคาโน อาจไม่ใกล้ไม่ไกลบริเวณที่เคยเกิดสึนามิมาก่อน

และเป็นที่น่าสังเกตว่า ระยะหลังมานี้ เกิดเหตุแผ่นดินไหว ดินถล่ม และน้ำในแม่น้ำหรือทะเลสาบเหือดแห้งบ่อยครั้งทั่วโลก เป็นไปได้ที่ส่วนหนึ่งเกิดจากภาวะโลกร้อน แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เช่นกันว่าโครงสร้างของพื้นผิวโลกกำลังขยับและเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยที่มนุษย์ไม่รู้ตัว

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

วิทยาศาสตร์ + ดาราศาสตร์

ด้วยความสงสัยของผมว่า ทำไมปี ค.ศ. 2012 จึงมีข่าวลือเกี่ยวกับวันสิ้นโลกมากมายเหลือเกิน บางแหล่งก็อ้างน้ำท่วมจากเหตุโลกร้อน บางแหล่งก็อ้างคัมภีร์ไบเบิ้ลเพราะพระเจ้ากำหนดมา

แต่มีสิ่งหนึ่งที่มีทั้งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์พร้อม เกี่ยวกับปรากฎการณ์ที่อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้และถ้าเกิดขึ้นก็จบ... ไม่เหมือนกับ LHC ที่กลัวโอกาสว่าจะเกิดหรือเปล่าเท่านั้น

เรื่องนี้คือเรื่อง ดาวปริศนาดวงที่ 12 ของระบบสุริยะจักรวาล ถ้าใครได้ศึกษาพอรู้ความเรื่องปี 2002 จะทราบว่า นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบ ดาวดวงที่ 12 ขึ้นมาอยู่ในระบบกาแล็คซี่เราดื้อๆ แต่ความเป็นจริงนักดาราศาสตร์รู้จักดาวนี้มาตั้งแต่ปี 1982 แล้ว ซึ่งเป็นข่าวใหญ่โตมากช่วงเดือน พฤษภาคม เพราะผมก็ได้ดูเหมือนกัน มันคือดาวที่มีชื่อตั้งทางวิทยาศาตร์ว่า นิบิรุ (Nibiru)

​

และด้วยหลักฐานโบราณวัตถุและนักโบราณคดีได้กล่าวไว้เนืองๆ ว่า...สิ่งของที่ไม่สามารถอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ได้เกิดจาก ดาวดวงนี้ แต่สิ่งที่เรารับรู้คือเจอดาวเคราห์ดวงใหม่ แล้วก็จบ...

ทำไมถึงกล่าวอ้างเช่นนั้น? สิ่งที่เราไม่รู้มันคือสิ่งนี้ครับ....

ดาวดวงนี้ทุนเดิมไม่ได้อยู่ในระบบกาแล็คซี่ทางช้างเผือกมาแต่เนิ่นๆ อยู่แล้ว
แต่... มีวงโคจรกว้างใหญ่ไพศาลมาก จนมาทับซ้อนลงบนกาแล็คซี่นี้ ที่นักวิทยาศาสตร์เห็นเพิ่มมาอีกดวง ก็แปลว่ามันโคจรเข้ามาใกล้กาแล็คซี่เราสินะ

ถูกครึ่งเดียวครับ ความจริงมันเเข้ามาทับวงโคจรทั้งแถบเลย แปลว่า... มันมีสิทธิชนโลกเราอย่างแน่นอน! และเค้าคาดการณ์ไว้แล้วว่า ปี 2012 เราสามารถจะเห็นดาวนิบิรุ ใหญ่ขนาดดวงอาทิตย์ได้เลย เพราะมันเข้าใกล้เรามากแล้ว ข้อมูลอาจจะยังไม่แน่นพอ เพราะ NASA ปิดข่าว แต่นักดาราศาสตร์ออกมาอธิบายเรื่องทฤษฎีความเป็นไปได้กันอย่างจ้าละหวั่น

ข้อมูลที่ยังขัดแย้งกันอยู่คือ บางแหล่งบอกเป็น ดาวฤกษ์ และ อุกกาบาต เพราะขนาดของมันใหญ่กว่าดาวพฤหัส 2 เท่า!!!(ดาวพฤหัสเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะจักรวาลนี้)

BY Plugz 4th February 2009, 20:10

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

ความคิดเห็น

คิดในแง่ดีไว้ครับ!!! เกิดแสงว่าบขึ้นในกาแลกซี่ ก็คิดซะว่า อาจจะเป็นวันเฉลิมฉลอง ของราชาและราชินี ของกาแลกซี่ หรือระบบทางช้างเผือกหรืออะไรก็ตามแต่ หรือคิดว่า งานเฉลิมฉลองก็ได้ครับ

เรื่องปฏิทินชาวมายาทำไว้ถึงแค่ปี 2012 ก็คิดซะว่าวันนั้น อาจะเกิดสงคราม หรือเกิดศึก คนเขียนปฏิทินชาวมายา เลยถูกฆ่าตายก่อนจะเขียนต่อครับ

ทางศาสนา อันนี้เคยอ่านในหนังสือธรรมมะกับการทำนายโลกอ่ะนะ เค้าว่าจะเกิดการล่มสลายของศาสนาต่างๆ แต่จะยังเหลือศาสนาพุทธ ซึ่งใน อนาคต เค้าว่าไว้ดังนี้

- ประเทศไทย จะเป็นศูนย์กลางที่เจริญรุ่งเรื่องของศาสนาพุทธไปอีก 5,500 ปี

- ศาสนาคริสต์จะเหลือเพียงความเชื่อหรือชนกลุ่มน้อย 75 เปอร์เซ็นต์ของทุกคนในโลก จะหันมานับถือศาสนาพุทธ รวมถึง อเมริกา

- ประเทศไทย จะได้ชื่อว่ามีอิทธิพลต่อทางศาสนามากที่สุด หรือได้เป็นศูนย์กลางทางศาสนาของโลก

- ผู้ที่จะรอดได้ ต้องเป็นผู้ที่ทำความดีไว้อย่างมาก

คราวนี้มาเรื่องน่ากลัวกันบ้างครับ ซึ่งมันก็สอดคล้องกัน แต่ผมว่ามันอาจจะเลวร้ายกว่านี้รึป่าว กล่าวคือในหนังสือบอกไว้ว่า วันที่เกิดหายนะทั่วโลก หรือวันดับสูญอารยธรรมของโลก วันนั้นจะเป็นวันที่บรรยากาศชวนหดหู่ ไม่มีสัตว์ตัวใดปรากฏ ใบไม้ไม่ไหวตามแรงลม ดวงอาทิตย์เป็นสีแดงเรื่อเหมือนเลือด

ภัยพิบัติที่ตามมานอกเหนือจากที่กล่าวคือ

-จะเกิดโรคระบาด ใช่ครับบอกไว้ว่า เกิดโรคระบาด และจะเป็นโรคที่เคยคร่าชีวิตมนุษย์ไป นับแสน นับล้าน โรคระบาดที่ว่ากันว่าหายไปจากโลกแล้วจะกลับมา!!

- จะเกิดมิติระหว่างโลกความเป็นและโลกความตาย ใครที่ไม่เคยเห็น วิญญาณ ก็จะได้เห็น ได้ยินเสียง

- อย่าพยายามอยากรู้อยากเห็น เพราะว่าพวกวิญญาณอาจจะแปลงร่างมาเป็นญาติหรือคนสำคัญที่ตายไปแล้วมาหลอกเราได้ และห้ามเปิดประตูให้ใครเด็ดขาด วันนั้นจะได้ยินเสียงโหยหวน ของมนุษย์ จากความเจ็บปวดต่างๆ ช่วงนั้นต้องทำจิตให้เข้มแข็ง ห้ามช่วยเหลือบุคคล(ปีศาจ)เหล่านั้น เพราะจะทำให้เราตายจากผลการกระทำนั้น หากทนสภาวะบีบคั้นจิตใจไม่ได้ ก็จะเหมือนคนตายทั้งเป็น

- อาหารต้องกักตุนไว้กินให้เพียงพอ รวมถึงน้ำดื่ม อย่างน้อย 3 - 6 เดือน
ซึ่งอาหารจำพวกผักต่างๆ ต้องนำมาล้างด้วย น้ำด่างทับทิม ก่อนเสมอ

- จะเกิดโรคผิวหนังที่รักษาไม่หายขึ้นทั่วโลก แต่เชื่อกันว่า ยาทุกขนานจะรักษาไม่หาย แต่ คาลามาย ธรรมดา จะทำให้หายได้

- ช่วงที่เกิดนี้เค้าแนะนำไว้ว่า ให้ ทำใจให้สงบ อยู่แต่ในบ้าน ทำความสะอาดไว้เสมอๆ ทั้งการกินและการอยู่ ให้อ่านหนังสือธรรมมะ วันล่ะ 1 ชั่งโมง เพื่อทำจิตใจให้สงบ

แต่คนเราไม่ควรวิตกครับ เชื่อมั่นไว้เสมอ เพราะว่าข่าวพวกนี้อาจจะเป็นความจริงหรือแค่ข่าวลือก็ได้ อย่างเช่น ลองอ่านบทความดีๆแล้วจะเห็นว่า มันเป็น เพียงทฤษฎี ซึ่งอาจจะเป็นจริงหรือไม่เป็นจริงก็ได้ครับ เพียงแค่ทุกวันนี้เรา อยู่กับหลักความจริง และก้าวเดินไปข้างหน้าก็พอ ทำดีไว้เสมอๆ ครับ

ถ้าเป็นความคิดผมนะครับ ถ้าเกิดมันจะเป็นจริงอะ ผมจะใช้เวลาที่เหลือ คิดหาวิธีที่จะช่วยให้โลกรอดพ้นดีกว่า คิดเทคโนโลยี วิทยาการ ใหม่ๆมาช่วยโลกดีกว่าครับ เพิ่มเติมนิดนึงครับ อิอิ จะว่าข่าวดีก็ไม่เชิง

เขาเขียนต่อไว้ว่า

- ก่อนจะถึงวันนั้นไม่รู้ว่าปีอะไร หรือปีไหน จะมีพระผู้ช่วยโลก ลงมาจุติ ยังโลกมนุษย์ เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ให้รอดพ้นครับ

-จะเกิดวิทยาการ ล้ำสมัย มนุษจะใช้พลังจิตได้!! จะไปอวกาศได้โดยใช้พลังจิตในการควบคุมยาน อะไรทำนองนี้ (ส่วนตัวผมนะ ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงอ่ะครับ)

kulala<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_274056", true); </SCRIPT> 8th February 2009, 20:18

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~<!-- sig -->

ทุกเรื่องมันก็เกี่ยวๆ ข้องกันหมดแหละครับ ตั้งแต่ ชาวแอตแลนติก > UFO > มนุษย์ต่างดาว > ฯลฯ เรื่องพวกนี้อาจจะจริง หรือว่า จะเป็นเท็จก็ได้นะครับ .. เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะจริงรึป่าว

[ โปรดใช้วิจารณญาณ ในการอ่านครับ ]

prince3x3 4th February 2009, 20:10

ที่มา http://www.jokergameth.com/board/showthread.php?t=31066

 

เรื่องจริงล้าน %

แบบไม่ต้อง ÷

มิติโลกวิญญานได้เตือนมานมนานแล้ว เพื่อให้เห็นกับผู้ที่จะได้รับความรอด ฝ่ายวิญญาณ

ศาสดาพยากรณ์ยังไม่รู้ว่า วันไหนเวลาไหนแน่นอน ได้แต่ดูเหตุการณ์ใน

อนาคตอันใกล้นี้

ผู้ที่รู้สาเหตุโมงยามที่แน่นอนมีแต่ พระแม่ของจักรวาล นอกนั้นทั้งหมด จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อผลของมหัตภัยพิบัติกวาดล้างโลกก็อุบัติขึ้นแล้ว

 

ผมว่านะ ก่อนถึง ค.ศ. 2012 ต้องมีเหตุการณ์อะไรสักอย่าง ที่อาจจะเพิ่มระดับความรุนแรงเรื่อยๆ ก็ได้ครับ

งานสัมมนา คราวที่จะถึงนี้ ผมก็อยากฟังเรื่องนี้ เหมือนกันครับ ไม่รุ้จะจัดเมื่อไหร่ครับ

 

เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 5.7 ริกเตอร์ ในเม็กซิโก ​

​

เม็กซิโก 23 พ.ค. - เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในเมืองหลวงของเม็กซิโก ทำให้ตึกสูงระฟ้าสั่นไหว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือความเสียหาย

แผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นที่กรุงเม็กซิโกซิตี้ เมื่อบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.7 ริกเตอร์ ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ที่เมืองพิวบลา แรงสั่นสะเทือนทำให้อาคารสูงระฟ้าสั่นไหว ผู้คนหลายพันคนแตกตื่นหนีตายออกมาอยู่ตามท้องถนนกันจ้าละหวั่น

จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือความเสียหาย แต่พื้นที่บางส่วนไม่มีไฟฟ้าใช้ตลอดทั้งช่วงบ่าย ขณะที่สัญญาณโทรศัพท์มือถือล่ม เมื่อเปรียบเทียบกับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว แผ่นดินไหวเมื่อวานมีความรุนแรงกว่า และเกิดขึ้นใกล้กับเมืองหลวง ซึ่งมีประชากรราว 20 ล้านคน มากกว่า. -สำนักข่าวไทย

2009-05-23 11:15:53

คนใกล้ชิดเผยอดีตผู้นำเกาหลีใต้กระโดดลงไปเองจากหน้าผา​

​

โซล 23 พ.ค.- คนใกล้ชิดของอดีตประธานาธิบดีโนห์ มู เฮียนของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า นายโนห์ อาจกระโดดลงไปเองจากหน้าผาที่อยู่หลังบ้านของเขาใกล้ชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่ตำรวจกำลังสอบสวนว่าการเสียชีวิตของเขาเป็นการฆ่าตัวตายหรือไม่

มูน แจ-อิน คนใกล้ชิด ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดีสมัยของนายโนห์ เปิดเผยว่า นายโนห์ออกไปจากบ้านพักเมื่อเวลา 05.45 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 03.45 น.วันนี้ตามเวลาในไทย พร้อมด้วยคนคุ้มกัน 1 คน และในขณะที่ปีนเขาปงฮวา ดูเหมือนว่าเขาได้กระโดดลงไปเมื่อเวลาประมาณ 06.40 น.ตามเวลาท้องถิ่น นอกจากนี้ เขายังได้ทิ้งจดหมายลาตายไว้ 1 ฉบับถึงสมาชิกในครอบครัว โดยระบุว่า ประชาชนจำนวนมากกำลังประสบความทุกข์ยาก และขอให้จัดการเผาศพของเขา และสร้างแผ่นหินจารึกหน้าหลุมฝังศพไว้ที่หมู่บ้านของเขาด้วย

โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติปูซานแถลงว่า เขาเสียชีวิตเมื่อเวลา 09.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น และการบาดเจ็บที่ศีรษะนับเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขาเสียชีวิต นอกจากนี้ ยังพบกระดูกหักหลายส่วน รวมทั้งซี่โครงและเชิงกราน
ด้านนายกรัฐมนตรีฮัน ซึง-ซู ได้เรียกประชุมฉุกเฉินคณะรัฐมนตรี และแสดงความเสียใจที่ได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของอดีตประธานาธิบดี

นายโนห์ เกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2489 ในครอบครัวยากจนใกล้เมืองกิมแฮ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เขาต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน เพื่อไปทำงานและเรียนในเวลากลางคืน ต่อมาเขาได้เลือกกฎหมายเป็นทางเดินของชีวิต และก้าวขึ้นมาเป็นนักการเมืองเต็มตัว และได้รับเลือกเข้าสู่รัฐสภาในปี 2531 ต่อมาคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2545 โดยได้แรงหนุนจากพลังทางอินเทอร์เน็ต และรับปากว่าจะปราบปรามการทุจริต นายโนห์ดำรงตำแหน่งในช่วงระหว่างปี 2546-2551

นายโนห์ ตกเป็นข่าวอื้อฉาวเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากถูกอัยการสอบในข้อหาทุจริต เขาเคยออกมายอมรับว่าภรรยารับเงินจากนักธุรกิจท้องถิ่นรายหนึ่ง ขณะที่เขายังอยู่ในตำแหน่งแต่ไม่ทราบเรื่องขณะนั้น และกล่าวขออภัยต่อสาธารณชน ที่ครอบครัวเข้าไปเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าว นับเป็นอดีตผู้นำเกาหลีใต้คนที่ 3 ที่ถูกสอบสวนในคดีทุจริตรับสินบน.- สำนักข่าวไทย

2009-05-23 11:35:36

การเปลี่ยนฤดูอาจทำให้เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาดง่ายขึ้น​

​

มะนิลา 22 พ.ค. - เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลก เตือนว่า การเปลี่ยนฤดูกาลในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อาจทำให้เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น

เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกประจำภาคพื้นแปซิฟิกตะวันตก กล่าวเตือนว่า ซีกโลกใต้กำลังจะเข้าสู่ฤดูไข้หวัดใหญ่ ปัจจัยซึ่งนำไปสู่การระบาดของไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลปกติ ก็อาจทำให้เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ได้เช่นกัน และหากมีการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลมากขึ้น ก็จะยิ่งทำให้การตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ยากขึ้นด้วย

ด้าน จูลี ฮอลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อขององค์การอนามัยโลก กล่าวเตือนว่า วัคซีนที่ใช้กับไข้หวัดตามฤดูกาลไม่อาจป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้ และว่าโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) และไข้หวัดนก มีความแตกต่างจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เนื่องจากไข้หวัดนกมีแนวโน้มในการติดต่อสู่คนน้อยกว่า ขณะที่โรคซาร์ส ส่วนใหญ่แพร่โดยคนที่แสดงอาการแล้ว แต่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่สามารถแพร่จากคนที่ดูเหมือนไม่ได้ติดเชื้อ นอกจากนี้ คนที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ยังเป็นคนในวัยหนุ่มสาว ซึ่งเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ของบางประเทศในแถบเอชีย อย่างไรก็ตาม วัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อาจเริ่มนำมาใช้ได้อย่างเร็วที่สุดในเดือนสิงหาคมนี้. - สำนักข่าวไทย

2009-05-22 19:11:54

จีนพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายที่ 7​

​

ปักกิ่ง 23 พ.ค.- กระทรวงสาธารณสุขจีนประกาศพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รายที่ 7 แล้ว โดยเป็นชาย วัย 65 ปี

ชายแซ่ หลี่ เดินทางจากนครนิวยอร์ก มายังกรุงปักกิ่งเมื่อวันพฤหัสบดี และเครื่องตรวจจับอุณหภูมิของผู้โดยสารที่สนามบินกรุงปักกิ่งตรวจพบ จึงต้องมีการกักตัวและตรวจสอบทางการแพทย์ เมื่อวานนี้ ซึ่งก็ได้พบว่า มีเชื้อไวรัส เอช 1 เอ็น 1 นายหลี่ นับเป็นผู้ติดเชื้อรายที่ 2 ที่ตรวจพบในกรุงปักกิ่ง โดยก่อนหน้านี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชายชาวจีน วัย 69 ปี ซึ่งเดินทางกลับมาจากแคนาดาถูกตรวจพบว่า เป็นผู้ติดเชื้อรายแรกของกรุงปักกิ่ง

ผู้ป่วย 2 รายล่าสุดของจีนนี้ ขณะนี้มีอาการทรงตัว แม้กระนั้นผู้ที่ติดต่อหรืออยู่ใกล้ชิดกับบุคคลทั้งสองล้วนถูกเรียกตัวมารับการตรวจสอบจากแพทย์โดยละเอียดแล้ว สำหรับจำนวนผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกในขณะนี้องค์การอนามัยโลกได้ประกาศว่า อยู่ที่กว่า 11,000 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตไปแล้ว 86 ราย.

2009-05-23 10:01:33

อิตาลีสั่งปิดโรงเรียนหลังพบ นร.ติดเชื้อหวัดใหญ่ 2009​

​

โรม 22 พ.ค.- กระทรวงสาธารณสุขอิตาลีสั่งปิดการเรียนการสอนที่โรงเรียน 2 แห่งในกรุงโรมวันนี้ เพราะพบเด็กนักเรียนที่เพิ่งเดินทางไปทัศนศึกษาในสหรัฐติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

นายเฟอร์รูซิโอ ฟาซิโอ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุขอิตาลี มีคำสั่งให้ปิดการเรียนการสอนที่โรงเรียน 2 แห่งในกรุงโรมทันที หลังนักเรียน 4 คนที่เพิ่งกลับจากการทัศนศึกษาในนครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ได้รับการยืนยันเมื่อวานนี้ว่า ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของโรค โดยขณะนี้อิตาลีพบผู้ติดเชื้อแล้ว 14 คน

สำนักข่าวอันซาของอิตาลี รายงานว่า คำสั่งครั้งนี้ทำให้โรงเรียนทั้ง 2 แห่ง กลายเป็นสถานศึกษา 2 แห่งแรกของประเทศที่ถูกสั่งปิดเพราะไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ โดยจะระงับการเรียนการสอนเป็นเวลา 1 สัปดาห์. -สำนักข่าวไทย

2009-05-22 16:26:16

ยอดผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ในออสเตรเลียเพิ่มเป็น 11 คน​

​

ซิดนีย์ 22 พ.ค. - ยอดผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในออสเตรเลียเพิ่มเป็น 11 คนแล้ว ขณะที่ทางการพยายามตรวจสอบความเคลื่อนไหวของผู้ป่วย 2 คนที่ติดเชื้อทั้งที่ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ

ทางการออสเตรเลียพบผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 รายใหม่เพิ่มอีก 4 รายเมื่อคืน และวันนี้ ในจำนวนนั้นเป็นเด็กหญิงวัย 10 ขวบ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเด็กชายจากนครเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรียที่ล้มป่วยพร้อมพี่น้อง 2 คน หลังเดินทางกลับจากท่องเที่ยวในสหรัฐเมื่อสัปดาห์ก่อน

ส่วนสตรีวัย 25 ปี ที่เดินทางสู่นครเมลเบิร์นจากนครลอสแองเจลิส ของสหรัฐ เมื่อวันอังคาร ก็ถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เช่นกัน รวมทั้งวัยรุ่นชายวัย 17 ปีคนหนึ่ง ในนครเมลเบิร์น และวัยรุ่นหญิงคนหนึ่งจากเมืองแอดิเลด รัฐเซาท์ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อรายแรกของรัฐ ขณะนี้ทางการกำลังตรวจสอบว่าเธอ และวัยรุ่นชายจากนครเมลเบิร์นติดเชื้อได้อย่างไร ทั้งที่ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ หรือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ

นางนิโคลา โรซอน รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย กล่าวว่า กรณีดังกล่าวยังไม่ใช่เรื่องที่ต้องตื่นกลัว แต่ทางการจำเป็นต้องจัดการกรณีอย่างจริงจัง และว่า การแพร่ระบาดในชุมชนเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และคาดว่ายอดผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นทุกชั่วโมง

ด้านนายอลัน แอมป์สัน ที่ปรึกษาองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงที่เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จะแพร่ระบาดสู่พื้นที่อื่นในออสเตรเลีย แต่ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องยกระดับแผนรับมือโรคระบาดจากระดับ “ชะลอ” การแพร่ระบาดไปสู่ระดับ “ควบคุม” ซึ่งนั่นจะทำให้มีการปิดโรงเรียน และสถานที่สาธารณะอื่น ๆ เช่น โรงภาพยนตร์ ไนท์คลับ และยกเลิกการแข่งขันกีฬา. -สำนักข่าวไทย

2009-05-22 12:04:19

ญี่ปุ่นคลายคุมเข้มไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เกรงกระทบเศรษฐกิจ​

​

โตเกียว 22 พ.ค.- ญี่ปุ่นผ่อนคลายระเบียบเข้มงวดในการรับมือกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพราะเกรงว่าจะทำให้เศรษฐกิจเสียหายและเป็นการเข้มงวดกับประชาชนโดยไม่จำเป็น เพราะผู้ติดเชื้อเกือบ 300 คนส่วนใหญ่อาการไม่หนัก

นายกรัฐมนตรีทาโร อาโซะ กล่าวต่อที่ประชุมไข้หวัดใหญ่ว่า รัฐบาลท้องถิ่นควรดำเนินการอย่างยืดหยุ่นไปตามสถานการณ์ ด้านนายโยอิจิ มาซูโซเอะ รัฐมนตรีสาธารณสุขแถลงข่าวว่า ระเบียบใหม่อนุญาตให้ผู้ต้องสงสัยติดเชื้อในพื้นที่ที่พบผู้ต้องสงสัยจำนวนมากสามารถเข้ารักษาตัวตามสถานพยาบาลท้องถิ่น จากเดิมที่กำหนดให้ต้องไปศูนย์พิเศษที่ตั้งขึ้นในเขตตะวันตกเท่านั้น เพราะศูนย์เหล่านี้รับมือไม่ไหวแล้ว

นอกจากนี้ยังได้ยกเลิกมาตรการตรวจกักโรคบนเครื่องบินและการปิดโรงเรียนในพื้นที่ที่มีการระบาดโดยทันที รวมทั้งผ่อนคลายคำเตือนเดินทางไปเม็กซิโก อย่างไรก็ดี แม้มีการผ่อนคลายระเบียบลงแล้ว หนังสือพิมพ์โตเกียวชิมบุนรายงานว่า ทางการแนะให้นักการเมืองของพรรคนิวโคเมโตะลดการจับมือทักทายประชาชนระหว่างหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นกรุงโตเกียวที่จะมีขึ้นในเดือน ก.ค.

สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นที่ได้รับการยืนยันแล้วขณะนี้อยู่ที่ 289 คน ส่วนใหญ่อยู่ในฝั่งตะวันตกของประเทศ และเป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ส่วนในกรุงโตเกียวพบผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันแล้ว 2 ราย.-สำนักข่าวไทย

2009-05-22 11:59:57

เครื่องบินตกในบราซิล มีผู้เสียชีวิต 11 คน​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต​

เซาเปาลู 23 พ.ค. – สื่อมวลชนบราซิลรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินขนาดเล็กตกใกล้รีสอร์ททางตะวันออกเฉียงเหนือบราซิล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 คน

เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์เอสตาโด เดอ เอสเปาลู และสื่ออื่น ๆ ของบราซิลรายงานว่า เครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุเป็นแบบแบบคิงแอร์ เดินทางออกจากเมืองเซาเปาลูเมื่อเย็นวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น และประสบอุบัติเหตุใกล้สนามบินเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองตรันโกโซเมื่อเวลา 21.10 น.ตามเวลาท้องถิ่น ขณะเกิดเหตุมีผู้โดยสาร 8 คน และลูกเรืออีก 3 คน แต่ยังไม่ทราบสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้.- สำนักข่าวไทย

2009-05-23 10:21:34

เกาหลีเหนือเตือนเรือให้ห่างน่านน้ำ คาดอาจทดลองขีปนาวุธ​

​

โตเกียว 22 พ.ค. - เจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งญี่ปุ่น แจ้งว่า เกาหลีเหนือเตือนให้เรือต่าง ๆ อยู่ห่างน่านน้ำเมืองทางตะวันออกของเกาหลีเหนือ ซึ่งอยู่ใกล้กับฐานยิงจรวด ส่งสัญญาณว่าเกาหลีเหนืออาจเตรียมทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้

เจ้าหน้าที่เผยว่า เรือยามฝั่งญี่ปุ่นลำหนึ่งที่กำลังลาดตระเวนในทะเลญี่ปุ่น เมื่อวันพฤหัสบดี ได้ยินเสียงเตือนจากเกาหลีเหนือว่า เรือต่าง ๆ ควรอยู่ห่างจากน่านน้ำเมืองคิมเชค ในระยะ 130 กม. จนถึงวันที่ 30 พ.ค.นี้ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่ประเทศต่าง ๆ จะประกาศเตือนลักษณะนี้ โดยไม่แจ้งผ่านองค์กรระหว่างประเทศ เกาหลีเหนือไม่ได้แจงเหตุผลในคำเตือน แต่ระยะห่าง 130 กม. ถือว่าใกล้มากเมื่อเทียบกับขนาดของทะเลญี่ปุ่น ที่คั่นฝั่งตะวันออกของเกาหลีเหนือกับฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ด้วยระยะห่าง 1,000 กม.

เมืองคิมเชค เป็นเขตเมืองที่อยู่ใกล้ฐานยิงขีปนาวุธมูซูดานรีมากที่สุด โดยอยู่ห่างไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 40 กม. ฐานแห่งนี้เกาหลีเหนือใช้ทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยไกล เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา. - สำนักข่าวไทย

2009-05-22 15:13:52

เรียกร้องสหรัฐช่วยเหลือฉุกเฉินชาวม้งในไทย​

​

วอชิงตัน 22 พ.ค. - กลุ่มผู้สนับสนุนชาวเขาเผ่าม้งเรียกร้องให้สหรัฐช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ผู้ลี้ภัยชาวม้งหลายพันคนในประเทศไทย หลังองค์กรการกุศลเพียงองค์กรเดียวที่ให้ความช่วยเหลือพวกเขาระงับความช่วยเหลือเพื่อประท้วงไทย

องค์กรแพทย์ไร้พรมแดน (เอ็มเอสเอฟ) ระบุเมื่อวันพุธว่า จะออกจากค่ายผู้ลี้ภัยชาวม้งบ้านห้วยน้ำขาว ซึ่งองค์กรให้การดูแลชาวม้งราว 4,700 คน โดยกล่าวหาว่าทางการไทยพยายามผลักดันให้ผู้ลี้ภัยเหล่านี้กลับประเทศลาว และว่าชาวม้งซึ่งร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับสหรัฐในสงครามเวียดนามยังคงถูกรัฐบาลลาวตามล่ามาลงโทษ

ล่าสุดกลุ่ม Lao Veterans of America ซึ่งเป็นตัวแทนชาวม้ง และชาวลาวกลุ่มอื่นที่สนับสนุนสหรัฐเดินทางไปสภาคองเกรส เพื่อขอให้สหรัฐมอบความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่กลุ่มผู้ลี้ภัยชาวม้งที่อาศัยในค่ายผู้ลี้ภัยห้วยน้ำขาว โดยกลุ่มผู้สนับสนุนชาวม้ง และเอ็มเอสเอฟกล่าวหาว่า ทหารไทยพยายามข่มขู่ชาวม้งให้ออกไปจากค่ายผู้ลี้ภัยบริเวณแนวชายแดนที่ตั้งขึ้นมานาน 4 ปี

พ.อ.หวังยี แวง หัวหน้ากลุ่ม Lao Veterans of America กล่าวว่า ไม่ต้องการให้ชาวม้งกลับไปประเทศลาว เพราะเกรงว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันจะสังหารคนเหล่านี้ และต้องการให้ผู้ลี้ภัยย้ายไปตั้งรกรากใหม่ในประเทศที่ 3 โดยเฉพาะสหรัฐ ขณะที่นายฟิลิป สมิธ ผู้อำนวยการบริหารศูนย์วิเคราะห์นโยบายสาธารณะ ซึ่งสนับสนุนสิทธิชาวม้ง เรียกร้องให้สภาคองเกรสดำเนินการช่วยเหลือฉุกเฉินด้านอาหารและเวชภัณฑ์ หรือให้ประธานาธิบดีโอบามา ให้เงินช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ผู้ลี้ภัยชาวม้ง นอกจากนี้ ยังกล่าวว่าเขาได้ยินมาว่าชาวม้งบางคนตั้งใจจะฆ่าตัวตายดีกว่าจะถูกส่งตัวกลับประเทศ. - สำนักข่าวไทย

2009-05-22 10:33:01

พบแม่ลิงอุรังอุตังกินศพลูกตัวเองที่เพิ่งเกิด​

​

ลอนดอน 22 พค.- นักอนุรักษ์ธรรมชาติชาวอังกฤษพบเห็นพฤติกรรมสุดประหลาดของแม่ลิงอุรังอุตัง 2 ตัว ที่ฉีกศพลูกตัวเองที่เพิ่งเกิดกินเป็นอาหาร ถือเป็นพฤติกรรมสุดแปลก เพราะไม่เคยมีบันทึกว่า ลิงเอพ หรือ ลิงสายพันธุ์ใหญ่ที่ไม่มีหาง จะกินลูกของตัวเองเป็นอาหาร

พฤติกรรมแม่ลิงกินลูกลิงเป็นอาหารนี้ เกิดขึ้นที่ป่าแห่งหนึ่งในอุทยานแห่งชาติ กูนัง เลเซอร์ บนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย โดยนายเดวิด เดลลาทอร์ จากมหาวิทยาลัย ออกซ์ฟอร์ด บรุกส์ ในเมืองออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ซึ่งทำงานให้กับสมาคมอุรังอุตังสุมาตรา ได้พบเห็นพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นกับแม่ลิงอุรังอุตัง 2 ตัว ในระยะเวลาที่ห่างกันเพียง 1 เดือน

นายเดลลาทอร์ บอกว่า ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานพบเห็นลิงชิมแปนซีและกอริลลากินพวกเดียวกันเป็นอาหาร แต่ไม่ถึงขั้นเอาศพลูกตัวเองมากิน และยังไม่เคยพบเห็นลิงเอพสายพันธุ์ไหนที่เอาหน่อเนื้อเชื้อไขของตัวเองมากินเป็นอาหาร เพิ่งเคยเห็นแม่ลิงอุรังอุตังสองตัวนี้ที่มีพฤติกรรมเช่นนั้น คาดว่า อาจเป็นเพราะความเครียด จึงทำให้แม่ลิงมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เอาศพลูกเพิ่งเกิดที่ตายไปไม่กี่วันมาฉีกเนื้อกิน

แม่ลิงอุรังอุตังตัวแรกมีชื่อว่า เอดิตา วัย 23 ปี มันเฝ้ากอดศพลูกลิงวัยเพียง 1 ปี ไว้ตลอดเวลานานถึง 7 วัน ทั้งยังส่งเสียงร้องคร่ำครวญไม่หยุด จนกระทั่งวันที่แปดที่เอดิตาเริ่มฉีกเนื้อลูกลิงที่ตายไปกินเป็นอาหาร ทั้งที่ศพลูกลิงมีสภาพเน่าเปื่อยเต็มที่ แล้ว อีก 1 เดือนถัดมา ก็พบแม่ลิงอุรังอุตังอีกตัว คือ รัทนา วัย 20 ปี มีพฤติกรรมในแบบเดียวกัน

นายเดลลาทอร์ คาดว่า อาจเป็นเพราะแม่ลิงเหล่านี้ เคยถูกพรากจากอกแม่เมื่อตอนที่พวกมันยังเล็ก โดยนายพรานจะใช้วิธียิงแม่ให้ตาย แล้วจึงจับลูกลิงมาเลี้ยง ประสบการณ์อันเจ็บปวดในครั้งนั้นยังคงฝังใจจนกระทั่งพวกมันมีลูก พอลูกตาย จึงเกิดความเครียดอย่างถึงที่สุดและต้องระบายออกด้วยการกินศพลูกเป็นอาหาร. -สำนักข่าวไทย

2009-05-22 15:51:11

ราคาทองคำกลับมายืนเหนือระดับ 950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ​

​

วอชิงตัน 22 พค.- ราคาทองคำกลับมายืนเหนือระดับ 950 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นราคาสูงที่สุดนับจากเดือน มี.ค. เนื่องจากตลาดหุ้นทั่วโลกซบเซา เพราะความวิตกในสภาพเศรษฐกิจสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนพากันโยกเงินออกจากตลาดหุ้น หันมาลงทุนซื้อทองคำเก็บไว้

ขณะเดียวกัน การที่เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างมากในช่วงนี้ เมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น ๆ ก็มีส่วนดันให้ทองคำมีราคาพุ่งสูง เพราะนักลงทุนพากันซื้อทองคำเก็บไว้เป็นหลักประกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อและเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า

จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ทองคำ งวดส่งมอบเดือน มิ.ย. มีราคาพุ่งขึ้น 13.80 ดอลลาร์สหรัฐ มาปิดที่ 951.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวาน เป็นครั้งแรกนับจากวันที่ 23 มี.ค. ที่ราคาทองคำขึ้นมายืนเหนือระดับ 950 ดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนการซื้อขายที่ตลาดเอเชียล่าสุด ทองคำก็ยังมีราคาทะยานเหนือ 950 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 952 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่นักวิเคราะห์ในนครชิคาโก ประเทศสหรัฐ คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มจะพุ่งทะยานขึ้นอีกในระยะสั้น โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 970 ดอลลาร์สหรัฐ. -สำนักข่าวไทย

2009-05-22 10:44:05

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

ขอบคุณค่ะ จริงๆแล้วตอนที่ไปก็ตั้งใจไว้จากบ้านน่ะค่ะ ท่านเมตตาเราค่ะ เข้าพบไม่ยากเลย (อาจจะโชคดีเนื่องจากวันที่ไป แม้เป็นวันเสาร์ แตไม่มีแขกเลยได้สนทนากับท่านนานหน่อยค่ะ) ท่านชวนคุยสนุกดี แล้วก็ได้ความรู้ด้วย ยังไงลองไปดูนะคะ (หากสะดวกวันธรรมดาก็ได้ค่ะ)

 

ช่อง11 วันนี้4ทุ่มมีเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดปี2012ครับ น่าดูเหมือนกัน

ที่มีคนกล้าพูดออกทีวี

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Twin Hearts
พี่ๆเพื่อนๆน้องๆทุกท่านคะ

เมื่อวันก่อนแอนส่งเมล์ไปหาพี่ศิ เล่าเรื่องต่างๆให้ฟังแล้วพี่ศิเห็นว่าน่าจะมาแชร์ในกระทู้นี้ด้วยจะได้เป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆด้วยค่ะ อยากเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่กำลังแก้ไขกรรมอยู่หรือรอคำชี้แนะจากพี่ศิและคุณน้อง ให้ท่านเชื่อในแรงบุญแรงกรรม เพียรทำไปเรื่อยๆแล้วท่านจะได้รู้ผลด้วยตัวท่านเอง ลองอ่านดูในเมล์ที่แปะด้านล่างนี้นะคะ

พี่ศิคะ

มาอัพเดทข่าวคราวค่ะ หายไปนานเนื่องจากเพิ่งย้ายบ้านค่ะ มีหลายๆเรื่องต้องทำ

ชีวิตหลังจากแก้ไขกรรมแล้วตอนนี้ดีขึ้นค่ะ แอนกำลังจะย้ายร้านต้นเดือนมิถุนายนนี้ ไม่ไกลจากที่เดิมค่ะ แต่ทำเลดีกว่าและค่าเช่าถูกกว่า มีหลายครั้งที่ทำท่าว่าจะทำธุรกิจต่อไม่ไหว หาเงินไม่ได้ แต่ก็มีเหตุให้ได้เงินมาช่วยหมุนต่อทุกครั้งไปค่ะ ยังสู้ต่อนะคะ แต่ไม่ประมาทอย่างที่พี่ศิเคยบอกไว้ค่ะ เชื่อว่าสักวันทุกอย่างจะคลี่คลายได้หมดค่ะ

ช่วงที่แก้ไขกรรม แอนได้บ้านเช่าแทนอพาร์ทเม้นท์ค่ะ ตอนนี้ก็ย้ายมาได้สักเกือบ 2 เดือนแล้วค่ะ บ้านดีอยู่สบายค่ะ แล้วมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นด้วยค่ะ แอนท้องแล้วค่ะ ได้เดือนกว่าๆ ช่วงนี้ก็เลยต้องดูแลตัวเองมากหน่อย พอรู้ว่าเป็นหญิงหรือชายแล้วจะบอกพี่ศินะคะ

แฟนเขาฝากเล่าเรื่องให้พี่ศิฟังค่ะ มีอยู่วันหนึ่งแฟนเขาคิดมากว่าเมื่อไรปัญหาจะหมดไป คิดวนไปวนมา เขาก็ไม่อยากอยู่ในสภาพนี้แล้ว ก็เลยเดินไปวัดข้างบ้านค่ะ เข้าไปนั่งสมาธิในโบสถ์ที่มีพระพุทธรูปปางต่างๆของพระพุทธเจ้า 9 ปาง เขาเล่าว่าตอนที่นั่งนั้นใจก็นึกขอขมาในทุกสิ่งอย่างที่ทำไม่ดีไว้ แล้วถามว่าเมื่อไรเขาจะพ้นจากความทุกข์นี้ เขาเป็นคนดีรึเปล่า มีอะไรที่คุ้มครองเขาอยู่บ้างไหม สักพักเขาเห็นแสงสว่าง 5 ดวงออกมาเป็นรูปพระ 5 องค์ แล้วแสงนั้นก็กลายเป็นรูปพญานาค แฟนไม่รู้จักพญานาคในแบบพุทธน่ะคะ เขาอธิบายว่าเป็นงูใหญ่ 5 หัว แผ่เป็นปรกแล้วหางขดเป็นฐานหลายชั้น ท่านอยู่ตรงหน้าแล้วแสดงให้ดูเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ แผ่นดินไหว แบบโลกทล่มทลายผู้คนเดือดร้อนวิ่งกันวุ่นวายไปหมด แล้วท่านบอกกับเขาในนิมิตว่ายังมัวกังวลเรื่องเงินทองไร้สาระเหล่านี้อยู่ทำไม ดูสิว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น เมื่อถึงเวลาที่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นท่านจะมาคุ้มครองนะ พอทุกอย่างหายไปแฟนก็ลืมตา ตกใจรีบเดินกลับบ้านมาเล่าให้แอนฟัง เขาบอกว่าตลอดทางกลับบ้านเขาเห็นท่านพญานาคเลื้อยมาข้างเขาด้วยจนมาถึงหน้าบ้าน พอเขาอธิบายเรื่องที่เห็นแบบนั้น แอนก็บอกเขาว่าน่าจะเป็นท่านพญานาคนะ ไม่ใช่แค่งู แล้วพอคืนนั้นแอนก็ฝันเห็นท่านพญานาคค่ะ มี 5 เศียร แผ่กว้าง ท่านไม่ได้บอกอะไร แต่แอนรู้สึกว่าท่านให้เห็นเพื่อให้รู้ว่าที่แฟนเห็นเมื่อเช้านั้นเรื่องจริง

อีกเรื่องค่ะ เมื่อคืนก่อนแอนฝันเห็นพระรูปหนึ่ง แล้วมีเสียงเข้ามาบอกชื่อท่านว่า หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ แอนก็พยายามจำไว้คิดว่าเช้ามาจะลองหาในเน็ตดูว่ามีชื่อนี้ไหม ถ้าท่านมาก็น่าจะเป็นนิมิตเรื่องบางอย่าง แล้วแอนก็เจอชื่อท่านค่ะ อ่านประวัติท่านทราบว่าท่านเป็นที่เคารพนับถือมาก คิดว่าพี่ศิคงทราบเรื่องราวของท่านเช่นกันค่ะ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นเรื่องแปลกจริงๆค่ะ ไม่เคยรู้จักท่านเลยจนท่านมานิมิตให้เห็น ให้รู้จักท่าน แอนกราบนึกถึงท่านเลยค่ะ

ที่เขียนมาเล่านี้อยากให้พี่ศิและคุณน้องได้ทราบว่าสิ่งที่ได้ช่วยมานั้น ทำให้ชีวิตแอนดีขึ้น แอนและแฟนรู้สึกขอบคุณมาตลอดค่ะ แอนเคยฝันเห็นพี่ศิและคุณน้องด้วยค่ะว่ามาแสดงบางอย่างให้แฟนดู แบบสอนกันในฝันเลยค่ะ ติดตามอ่านกระทู้ตลอดนะคะ และนำข้อคิดดีดีไปปฏิบัติตามเสมอ

ขอบคุณพี่ศิและคุณน้องมากๆนะคะ ถ้ามีเรื่องเล่าอีกแล้วจะเขียนไปหาค่ะ

แอน Twin Hearts
</TD></TR></TBODY></TABLE>

วันนี้ศิมีเวลาไม่มาก ขอยกกระทู้นี้มาคุยก่อนก็แล้วกันนะคะ
ที่ศิให้น้องแอนนำจดหมายฉบับนี้มาลงด้วยตัวเอง เพื่อให้ทุกท่านได้อ่านกันนั้น
เพราะมีความพิเศษบางอย่างต่างจากจดหมายดีใจและชื่นชมพี่ศิกับน้องฉบับอื่น ๆ ที่มีมากมาย แต่ศิก็ไม่ค่อยให้ใครนำมาลง นอกจากบางฉบับที่เห็นสำคัญจริง ๆ เท่านั้น ฉบับนี้ ศิอยากให้ทุกท่านอ่าน แต่ไม่ได้อ่านเพื่อชื่นชมน้องหรือศิ
แต่อยากให้อ่านตัวหนังสือสีแดงที่ศิเน้นไว้ให้ดีและรอบคอบด้วยสติ

หลายท่านคงไม่เข้าใจว่า เป็นไปได้อย่างไรที่สามีคุณแอนเห็นภาพเช่นนั้น
ขออนุญาติคุณแอนนะคะ ขอขยายความสักนิด

สามีคุณแอนนั้นไม่ใช่คนไทยค่ะ และก็ไม่เคยปฏิบัติ
ไม่ค่อยเข้าใจในธรรมะไทยมาก่อน
จวบจนได้มีโอกาสขอความช่วยเหลือจากน้อง จึงเกิดศรัทธาอย่างแรงกล้าในบางสิ่งที่น้องพูดไป
ทั้งคุณแอนและสามี ในสายตาของศิ เขาทั้งคู่เป็นคนที่มีจิตใจดีมาก ๆ สมกับหน้าตาของเขาทั้งคู่
พอรับรู้ก็ตั้งใจปฏิบัติตามอย่างศรัทธา อดทน และมุ่งมั่น อย่างไม่ย่อท้อต่อระยะทางและเวลา
ที่สำคัญ คุณแอนเคยเขียนเล่าให้ศิฟังว่า ระหว่างที่ปฏิบัติภาระกิจขอขมากรรมของเขา สามีคุณแอนเคยร้องไห้ออกมาด้วยความสำนึกจากจิตในระหว่างทำด้วยว่า ทำไมในอดีตชาติเขาจึงเป็นคนที่ทำแบบนั้น เขาไม่น่าทำแบบนั้นเลย เขาสำนึกจากจิตเบื้องลึกของเขาเองโดยไม่มีผู้ใดบังคับเขา ทั้ง ๆที่เป็นชาวต่างชาติสื่อสารภาษาไทยไม่ได้ วันนี้ของเขาทั้งคู่จึงเกิดขึ้นดังที่เขียนมา ให้เขาทั้งคู่ได้พบเจอปาฏิหาริย์ด้วยตัวเองแบบที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้นะคะ

ศิคิดว่า ความจริงแล้วในผู้ที่เพิ่งเริ่มหัดปฏิบัติเจริญสมาธิ การเห็นแบบนี้ค่อนข้างเป็นไปได้ยากมาก แทบไม่มีโอกาสด้วยซ้ำ

แต่เนื่องจากจิตที่บริสุทธิ์และตั้งใจในการปฏิบัติตามที่ชี้แนะอย่างแรงกล้า
ทุกอย่างเชื่อมโยงกัน ท่านก็เมตตาแสดงปาฏิหาริย์ให้เขาประจักษ์ว่าทุกอย่างมีจริง ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อนด้วยซ้ำว่าพญานาคหน้าตารูปร่างเป็นอย่างไร
การที่สามีคุณแอนเห็นได้ คงเป็นช่วงที่สภาวะจิตของเขากำลังเข้าสู่ภวังค์จากแรงอธิษฐานจิตที่เขามุ่งมั่นอยากรู้เหลือเกินนั่นเอง ณ สภาวะนั้น พญานาคราชที่ประทับอยู่ ณ วัดแห่งนั้นจึงเมตตาแสดงปาฏิหาริย์ให้เขาเห็นนั่นเอง ไม่ใช่เห็นเพราะเกิดจากพลังจิตการปฏิบัติสมาธิของตัวเขาเองค่ะ

ศิคิดว่าข้อความที่สามีคุณแอนเห็นนั้น สมควรที่จะให้ทุกท่านได้รับทราบ เพื่ออะไร เพื่อเตือนสติ ให้ทุกท่านอย่าตกอยู่ในความประมาทของชีวิต
เพราะศิกล้ายืนยันว่า สิ่งที่เขาเห็น มิใช่ภาพลวงตา หรือจิตคิดไปเอง และไม่ใช่เรื่องหลอกลวง มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนต่างชาติที่ไม่มีพื้นฐานการปฏิบัติที่จะคิดจินตนาการได้ขนาดนี้ เพราะหากจินตนาการได้ขนาดนี้ เขาคงไม่คิดอยากมีลูกแล้วล่ะค่ะ และสิ่งที่เขาเห็นก็ไม่ใช่คำตอบเรื่องส่วนตัวที่เขากำลังอยากทราบเลยสักนิด

ฉะนั้นเมื่อทุกท่านอ่านแล้ว ขอให้พึงตระหนักในสิ่งที่ศิและน้องเคยกล่าวเกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติ และสิ่งที่สามีคุณแอนประสพมาสด ๆ ร้อน ๆ ขอให้ทุกท่านตั้งมั่นในกุศลกรรมกันให้มากยิ่งขึ้นนะคะ เพราะหากท่านยังประมาทกับคำว่า ไม่มีเวลาทำอยู่ เมื่อถึงวันนั้น อาจไม่มีเวลาเหลือให้ท่านทำ

เมื่อวานศิพาน้องสำรวจโลเคชั่นตามสถานที่ต่าง ๆ หลายแห่งหลายทำเล
ไม่ค่อยอยากเล่าสิ่งที่น้องพูดบอกเท่าไรนัก เดี่ยวจะพาลกินไม่ได้นอนไม่หลับกันเสียเปล่า ๆ
แต่อยากให้รู้เพียงแค่ สิ่งที่น้องพูดมาในแต่ละสถานที่ ๆ ไปดู
กลับบ้านมาต้องนั่งกุมขมับกันล่ะค่ะ ปวดหัวในพริบตา คิดไม่ตก
เพราะไม่รู้ว่าสุดท้าย จะย้ายไปขึ้นยอดเขาไหนดี ยอดเขาก็ติดถล่มอีก กำหนอกำ

ขอให้ทุกท่านโชคดีมีสุข กรรม และกุศลเท่านั้นที่จะจัดสรรให้เราอย่างแท้จริงแล้ว หากใคร เช่นคุณแอนมีเหตุให้ต้องพลัดพราก เคลื่อนย้ายถิ่นฐาน ไม่วันใดก็วันหนึ่งของชีวิต ขอจงอย่าได้คิดน้อยใจในทุกข์ในโชคชะตา แต่จงรับรู้ว่านั่นแหล่ะ กระบวนการจัดสรรผู้รอด เขากำลังทำงานกันอยู่แล้ว เพียงแต่จะว่าด้วย แีรงบุญ หรือ แรงกรรม ที่จัดสรรให้ ก็แค่นั้นแล......แต่ละท่านเท่านั้นที่เป็นผู้กำหนดชะตาด้วยแรงบุญและแรงกรรมให้กับตัวท่านเอง สาธุจ๊ะ

ท้ายนี้พี่ขอแสดงความยินดีกับคุณแอนและสามีด้วยนะคะ
ไม่ใช่เรื่องมีลูกนะคะ แต่ขอยินดีกับทั้งคู่ที่พญานาคราชท่านตกปากรับคำที่จะคุ้มครองคุณเมื่อถึงเวลานั้น ขอให้คุณทั้งคู่ตั้งมั่นในกุศลกรรม กุศลจิตเช่นนี้และความดีเช่นนี้ต่อไปและตลอดไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขออย่าได้พลิกลำเรือของชีวิต จนทำให้ท่านต้องจำใจปล่อยคุณไปตามยถากรรมนะคะ โอกาสแบบนี้มิใช่จะได้รับกันง่าย ๆ ลูกของคุณเป็นเด็กมีบุญมาเกิดนะคะ ดูแลเขาให้ดี ลืมบอกอีกเรื่อง หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พี่ศิแอบไปนั่งสมาธิที่นั่นบ่อย ๆ ค่ะ ขอให้คุณทั้งคู่โชคดีค่ะ (แปลที่พี่เขียนให้สามีคุณแอนฟังด้วยนะคะ)


ปาฏิหาริย์.....ใครว่าไม่มีจริง
และใครว่า....ภัยพิบัติ...จะไม่เกิดขึ้นจริง

พบกันใหม่ เมื่อเพื่อนผองพี่น้องในที่นี้ต้องการ.....ศศิริยะ....สวัสดีมีสุขค่ะ
(ที่ต้องกล่าวแบบนี้ เพราะรู้ล่ะ คนที่อ่านอย่างน้อยก็เริ่มทุกข์กันเล็ก ๆ แล้ว 5555)





หนังสือ ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
http://palungjit.org/showthrea...129821&page=31<!-- google_ad_section_end -->

 

ปี 2555 จะมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นมากมาย
โลกจะเย็นลง ศีลธรรมจะกลับมา
ภัยพิบัติก็ SAY NO ไปได้เลย
ไม่มีอะไรต้องกลัว อย่าวิตกจริตโดยใช่เหตุ