ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ก่อนถึงปี พ.ศ.2555 ไทยเราจะต้องเจอ......

    [​IMG]

    tossapornk<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1744725", true); </SCRIPT> สมาชิก

    ผมฟันธง 22 ธันวาคม 2555 แต่ก่อนจะถึง ก็จะต้องเจอบ้างแต่ไม่หนักเท่ากับปี 2555 ครับ

    อย่าประมาท น้ำแข็งขั้วโลกเหนือและใต้คาดว่าละลายหมดใน 5 ปี ภูมิอากาศก็จะเพี้ยนวิปริต ตั้งแต่ ณ.เวลานี้ไปคาดว่าปี 2552 จะวิปริตแรงขึ้น ปี 2553, 2554, 2555 ความรุนแรงจะเพิ่มไปเรื่อยๆ สัญญานบางอย่างบอกว่าใกล้แล้วอย่างช้าที่สุดก็ไม่เกินปี 2555 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของปฏิทินชาวมายา อย่างเร็วที่สุดก็เป็นปี 2552 คงเริ่มมีภัยธรรมชาติหนักขึ้นเรื่อยๆ...

    เพื่อนธรรมคนหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่าพระเกจิอาจารย์ของเขาเล่าให้ฟัง เหตุการณ์ปี พ.ศ. 2552 ถึงปี พ.ศ. 2555 ยังไม่ต้องเชื่อนะครับจับตาดูกันต่อไป ประเทศไทยต่อไปจะไม่ปลอดภัยครับถ้าเราเป็นครัวโลก เพราะประเทศมหาอำนาจ จะเข้ามายึดแหล่งอาหารของคนไทย ดังคำทำนายข้างล่างนี้

    เรื่องราว จากนี้ไป ไม่ง่ายนัก การเมืองจัก วุ่นวาย ไม่หน่ายหนี
    เศรษฐกิจ การเงินซ้ำ กระหน่ำอีกที ประชาชี สิหนีพราก ลำบากลำบน

    ต่อๆไป ไทยอาจแตก เป็นเสี่ยงๆ เพราะคนเอียง เลี่ยงหลับ จนสับสน
    แผ่นดินเรา เขาเข้ายึด เป็นของตน ประชาชน ต้องหลบลี้ เพราะมีภัย

    เสือขาวเหลือง เข้ามาหา กระยาหาร เข้ารุกราน เราตายเป็นเบือ จะเชื่อไหม
    ส่วนที่เหลือ จะอยู่รอด กันอย่างไร คิดๆไป ใจก็เศร้า ไฟเผาทรวง

    วิบากกรรม นำชักพา ให้มาเกิด ในยุคนี้ ที่เปิดกรรม อันใหญ่หลวง
    กระแทกคน ที่ไร้ศีล ที่หลอกลวง ไม่พ้นบ่วง ต้องรับหมด ตามกฏแห่งกรรม

    ทางรอด ดั่งยอดดอย มีน้อยนิด ทุกคนคิด หยุดแตกแยก หยุดถลำ
    ถึงจะหยุด ฉุดกระชาก วิบากกรรม ชาวสยาม จะกลับยิ้ม อิ่มเอมใจ


    ************************************************
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1204978130.jpg
      1204978130.jpg
      ขนาดไฟล์:
      136.9 KB
      เปิดดู:
      86
    • 268_001.jpg
      268_001.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.2 KB
      เปิดดู:
      1,562
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    น้ำท่วมหนักในบราซิล ทำให้เขื่อนพังถล่ม

    [​IMG]

    บราซิล 29 พ.ค. - สถานการณ์น้ำท่วมหนักในบราซิล ทำให้เขื่อนต้านทานความรุนแรงของกระแสน้ำไม่ไหวพังทลายลงมา คร่าชีวิตผู้คนไปอีก 4 คน บ้านเรือนกว่าร้อยหลังถูกพัดพาไปพร้อมกับกระแสน้ำ

    สถานการณ์น้ำท่วมในรัฐปีเอาปี ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล ซึ่งชาวเมืองต้องเผชิญกับอุทกภัยมานานนับเดือน ล่าสุด เขื่อนแห่งหนึ่งต้านทานความรุนแรงของกระแสน้ำไม่ไหวพังถล่มลงมา ส่งผลให้กระแสน้ำจำนวนมหาศาลไหลบ่าโถมทับบ้านเรือน คร่าชีวิตผู้คนไปอีก 4 คน บ้านเรือนอย่างน้อย 120 หลัง พังพินาศ นอกจากนี้ยังมีผู้สูญหายอีก 11 คน บาดเจ็บเล็กน้อยอีก 80 คน ชาวบ้านอีกเกือบ 3,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

    จนถึงขณะนี้อุทกภัยและพายุฝนที่โหมกระหน่ำทางตอนเหนือของบราซิล ยังผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 60 คน ชาวบ้านหลายแสนคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย นายเวลลิงตัน ดิแอส ผู้ว่าการรัฐปีเอาปี บอกว่า ความเสียหายจากอุทกภัยครั้งนี้เหมือนกับมหันตภัยสึนามิ.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-29 10:07:31

    เรือลักลอบขนผู้อพยพอัฟกันอับปางนอกชายฝั่งอินโดนีเซีย

    [​IMG]

    อินโดนีเซีย 29 พ.ค.-เรือลักลอบขนส่งผู้อพยพชาวอัฟกันอับปางนอกชายฝั่งอินโดนีเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน และสูญหายไปอีก 11 คน


    นายทหารประจำกองทัพเรืออินโดนีเซียเปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คนจากเหตุเรือขนส่งผู้อพยพชาวอัฟกันอับปางลงนอกชายฝั่งบริเวณช่องแคบมะละกาขณะกำลังจะแวะเติมน้ำมันที่เกาะสุมาตรา แต่ต้องเจอกับทัศนวิสัยเลวร้ายจากสภาพหมอกควันที่เกิดจากการเผาวัชพืชบนฝั่ง ทำให้เรือกระแทกเข้ากับแท่นสำหรับทำประมงจนเสียหลัก และหลังจากนั้นก็ถูกคลื่นขนาดใหญ่ซัดจนเรืออับปางลง ชาวประมงสามารถช่วยชีวิตผู้ประสบภัยเอาไว้ได้กว่า 10 คน แต่ยังคงมีผู้สูญหายอยู่อีก 11 คน ซึ่งขณะนี้ทางการกำลังเดินหน้าค้นหา

    ทั้งนี้ เรือลำดังกล่าวออกเดินทางมาจากอัฟกานิสถานเพื่อมุ่งหน้าไปยังมาเลเซีย ซึ่งจะมีนายหน้าค้ามนุษย์คอยช่วยเหลือให้ผู้อพยพเดินทางไปใช้ชีวิตในออสเตรเลียต่อไป.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-29 15:01:35

    มีผู้เสียชีวิต 6 คน จากแผ่นดินไหวที่ฮอนดูรัส

    [​IMG]

    เตกูซิกัลปา 29 พ.ค. - เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงทำให้บ้านเรือนพังเสียหายหลายสิบหลังในฮอนดูรัสและเบลีซ เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่น ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน และบาดเจ็บ 40 คน ขณะที่มีชาวบ้านอีกหลายคนตื่นตระหนกวิ่งกรูออกมานอกบ้าน

    ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.1 ริกเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 02.24 น. วันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 15.24 น. เมื่อวานนี้ ตามเวลาในไทย บริเวณชายฝั่งทะเลแคริบเบียนของฮอนดูรัส ผู้เสียชีวิตมีสาเหตุมาจากบ้านพังทับ และบางคนหัวใจวาย นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 40 คน ส่วนใหญ่อยู่บริเวณชายฝั่งทะเลแคริบเบียน บ้านเรือนพังราบกว่า 57 หลัง และเสียหายอีก 65 หลัง โรงเรียน 14 แห่ง ได้รับความเสียหายเช่นกัน

    ส่วนที่เบลีซ บ้านเรือนพังถล่ม 5 หลัง ผู้สื่อข่าวพบว่า มีอย่างน้อย 25 หลัง ที่ได้รับความเสียหายอย่างมาก ชาวบ้านได้ยินเสียงสุนัขเห่าหอนก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหวเพียงไม่กี่วินาที นอกจากนี้ แรงสั่นสะเทือนรุนแรงยังไปไกลถึงเอลซัลวาดอร์ กัวเตมาลา และทางเหนือของนิการากัว แต่ไม่มีรายงานความเสียหายร้ายแรง ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ระบุว่า ประชาชนในเม็กซิโกและในพื้นที่หลายส่วนของหมู่เกาะแคริบเบียน ยังรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว. - สำนักข่าวไทย

    2009-05-29 07:17:34

    ยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ในเม็กซิโกพุ่งเป็น 95 คน

    [​IMG]

    เม็กซิโกซิตี้ 29 พ.ค. - กระทรวงสาธารณสุขเม็กซิโกระบุว่า ผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในเม็กซิโก เพิ่มขึ้นอีก 6 คน ทำให้ยอดรวมมีจำนวน 95 คนแล้ว ส่วนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 4,879 คน

    เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่า ร้อยละ 34 ของผู้เสียชีวิตจากไวรัสเอช1เอ็น1 เป็นโรคอ้วนและโรคเบาหวาน อย่างไรก็ตาม เม็กซิโกย้ำว่าการระบาดในประเทศส่วนใหญ่บรรเทาลงแล้ว แต่ยังคงมีตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ขณะที่องค์การอนามัยโลก ได้ส่งข้อมูลตัวอย่างเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ไปยังบริษัทยาในสัปดาห์นี้เพื่อใช้ในการผลิตวัคซีนต้านไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าว สำหรับผู้ติดเชื้อไวรัสเอช1 เอ็น1 ล่าสุดมีจำนวน 13,398 คนใน 48 ประเทศ .-สำนักข่าวไทย

    2009-05-29 08:53:46

    ชี้ คิม จอง-อิล เห็นแก่ตัวเกินกว่าจะประกาศสงคราม

    [​IMG]

    อันซอง 28 พ.ค. - ชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์ กล่าวว่า นายคิม จอง-อิล ผู้นำเกาหลีเหนือ เห็นแก่ความมั่งคั่งส่วนตัวเกินกว่าที่จะประกาศสงคราม ส่วนการทดลองนิวเคลียร์ก็เป็นเพียงเครื่องมือการโฆษณาชวนเชื่อที่เสริมสร้างให้ประชาชนรู้สึกรักชาติ

    ชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์ ซึ่งให้ชื่อสกุลว่า “ชอย” เพื่อป้องกันญาติมิตรที่อยู่ในเกาหลีเหนือ ไม่ให้เดือดร้อนหากเปิดเผยชื่อจริง ระบุว่า นายคิม จอง-อิล คิดถึงแต่เฉพาะตนเอง และด้วยเหตุนี้ ทำให้เขาไม่กล้าเริ่มสงครามก่อน และแม้ว่านายคิม มีหลักการคำนึงถึงกองทัพเป็นอันดับแรก แต่ทหารเกาหลีเหนือจำนวนมากจากที่มีอยู่ 1.2 ล้านนาย กลับได้รับอาหารไม่เพียงพอ อีกทั้งมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ย่ำแย่

    ความเห็นของชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์ ซึ่งเป็น 1 ในจำนวน 14,000 คน สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์มองว่า การทดลองนิวเคลียร์และจรวดของเกาหลีเหนือ เป็นเพียงการกระชับอำนาจของนายคิม จอง-อิล และช่วยการวางแผนหาทายาทสืบทอดอำนาจ หลังจากที่เขามีปัญหาสุขภาพมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม

    ชาวเกาหลีเหนือหลายคน ยังไม่ทราบว่านายคิม จอง-อิล มีลูกชาย 3 คน เพราะในเกาหลีเหนือ ไม่อนุญาตให้พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตครอบครัวของเขา ดังนั้น ทายาททางการเมืองจึงกลายเป็นเรื่องซับซ้อนซ่อนเงื่อน โดยในสมัยที่นายคิม จอง-อิล ขึ้นมารับตำแหน่งผู้นำแทนบิดาที่เสียชีวิตไปเมื่อปี 2537 เขามีชื่อเสียงในเกาหลีเหนือ มานานหลายสิบปี แต่เมื่อขึ้นมาแทนบิดาแล้ว ก็ต้องใช้เวลาอีกหลายปีจึงจะคุมอำนาจได้อย่างมั่นคง.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-28 15:26:43

    ระเบิดสุเหร่าในอิหร่าน เสียชีวิต 23 บาดเจ็บอีกนับสิบ

    [​IMG]

    เตหะราน 29 พ.ค.-นายอาลี โมฮัมหมัด อาซาด ผู้ว่าราชการจังหวัดซาเฮดาน เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 23 คน จากเหตุระเบิดที่สุเหร่ามีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในเมืองแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิหร่านใกล้ชายแดนติดกับปากีสถาน ตัวเลขผู้เสียชีวิตต่ำกว่าที่สำนักข่าวอิหร่านแห่งหนึ่งรายงานก่อนหน้านี้ว่ามีถึง 30 คน

    เจ้าหน้าที่อิหร่านกล่าวว่าได้ควบคุมตัวสมาชิกหลายคนของกลุ่มก่อการร้ายที่อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดครั้งนี้ ซึ่งมีขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 12 มิ.ย. นอกจากมีผู้เสียชีวิตแล้ว ยังมีผู้บาดเจ็บประมาณ 80 คน ถูกส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาล

    เมืองซาเฮดานเป็นเมืองสำคัญของมณฑลซิสตาน-บาลูเชสถาน ซึ่งมีกลุ่มกบฏมุสลิมซุนนีปฏิบัติการอยู่ อิหร่านกล่าวว่ากลุ่มดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายอัล-กออิดะห์.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-29 14:59:34

    ผลสำรวจชี้แหล่งน้ำมันในขั้วโลกเหนือมีมากกว่าที่คาดไว้

    [​IMG]

    วอชิงตัน 29 พ.ค.- นักวิทยาศาสตร์จากสำนักงานธรณีวิทยาในสหรัฐ ระบุว่า พื้นที่บริเวณไหล่ทวีปที่อยู่ใต้แผ่นน้ำแข็งของขั้วโลกเหนือ อาจมีแหล่งน้ำมันสะสมอยู่มากกว่าที่เคยพบถึงเท่าตัว

    นักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐ ได้ร่วมมือกับคณะนักวิจัยนานาชาติ ทำการประเมินเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับปริมาณก๊าซธรรมชาติ และแหล่งน้ำมันในส่วนที่ยังไม่ได้ขุดค้นพบบริเวณขั้วโลกเหนือ จากการวิเคราะห์สภาพทางธรณีวิทยา และจำลองรูปแบบที่น่าจะเป็นไปได้ พบว่าแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ยังไม่ได้ขุดค้นพบทั่วโลก น่าจะอยู่ที่ขั้วโลกเหนือร้อยละ 30 ส่วนแหล่งน้ำมันที่ยังไม่ได้ขุดค้นพบ อาจอยู่ที่ขั้วโลกเหนือร้อยละ 13

    เดิมที สำนักงานธรณีวิทยาในสหรัฐ คาดว่าขั้วโลกเหนือน่าจะมีแหล่งน้ำมันถึง 90,000 ล้านบาร์เรล จากผลการศึกษาล่าสุดพบว่า อาจมีแหล่งน้ำมันระหว่าง 40,000-160,000 ล้านบาร์เรล แม้การสำรวจน้ำมันนอกชายฝั่งขั้วโลกเหนือจะยังอยู่ในขั้นแรกเริ่ม แต่บริษัทน้ำมัน เอ็กซอนโมบิล และบริษัทน้ำมันอื่นๆ ก็ได้อ้างสิทธิในการสำรวจและเริ่มขุดเจาะหาแหล่งน้ำมันไปแล้วในบางพื้นที่ของขั้วโลกเหนือ เช่น บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแมคเคนซี ทะเลแบเรนต์ส ลุ่มน้ำสเวอร์ดรัพ และพื้นที่นอกชายฝั่งของรัฐอะแลสกา

    ตามปกติ การขุดหาแหล่งน้ำมันลึกลงไปใต้มหาสมุทรจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก แต่แหล่งน้ำมันและก๊าซในขั้วโลกเหนือได้รับการตรวจสอบแล้วว่า สามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก เพราะส่วนใหญ่จะฝังตัวอยู่ในพื้นที่บริเวณไหล่ทวีป ลึกจากผิวน้ำไม่ถึง 500 เมตร ทั้งนี้ นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยังวิตกว่า การขุดหาแหล่งน้ำมันและก๊าซที่มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อระบบนิเวศวิทยาในขั้วโลกเหนือ

    ผู้อำนวยการโครงการมหาสมุทรระหว่างประเทศประจำสภาปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ ระบุว่า กระบวนการขุดเจาะน้ำมันอาจส่งผลให้มีการปล่อยสารหนู ปรอท และตะกั่ว ลงในมหาสมุทรได้. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-29 11:24:42

    สหรัฐจะส่งคณะมาหารือกับเอเชียเรื่องเกาหลีเหนือ

    [​IMG]

    วอชิงตัน 29 พ.ค.- นายจิม สไตน์เบิร์ก รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐ จะนำคณะเดินทางมาหารือกับชาติในเอเชียเรื่องมาตรการตอบโต้เกาหลีเหนือที่ทดลองนิวเคลียร์ครั้งล่าสุด

    เจ้าหน้าที่สหรัฐที่ขอสงวนนามกล่าวว่า นายสตีเฟน บอสเวิร์ธ ทูตพิเศษสหรัฐว่าด้วยเรื่องเกาหลีเหนือจะเดินทางมาพร้อมกับคณะของนายสไตน์เบิร์ก เพื่อตระเวนหารือกับทางการญี่ปุ่น จีน รัสเซีย และเกาหลีใต้ แต่จะไม่เดินทางไปเกาหลีเหนือ ด้านนายเอียน เคลลี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ยืนยันเรื่องนี้ในเอกสารแถลงข่าวสั้น ๆ ว่า นายสไตน์เบิร์ก มีกำหนดนำคณะเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเดินทางไปเอเชียเพื่อหารือระหว่าง 5 ชาติเจรจานิวเคลียร์เกาหลีเหนือเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้เกาหลีเหนือที่ท้าทายประชาคมโลก

    ก่อนหน้านี้กระทรวงต่างประเทศแถลงว่า รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศกำหนดเยือนสิงคโปร์วันศุกร์จนถึงวันอาทิตย์นี้ และจะต่อไปยังญี่ปุ่นจนถึงวันอังคาร.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-29 11:03:33

    อัตราฆ่าตัวตายในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจที่รุนแรงขึ้น

    [​IMG]

    โตเกียว 28 พ.ค.- อัตราการฆ่าตัวตายในญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยพบว่าเมื่อเดือน เม.ย. มีคนฆ่าตัวตายวันละกว่า 100 คน

    จากสถิติของตำรวจญี่ปุ่นพบว่า เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมามีอัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยชายวัยกลางคนเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุด แม้จะพบว่าการฆ่าตัวตายของคนหนุ่มสาวมีอัตราเพิ่มขึ้นเช่นกัน และในช่วง 11 ปีที่ผ่านมามีชาวญี่ปุ่นฆ่าตัวตายปีละกว่า 30,000 คน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นเริ่มเผยแพร่สถิติการฆ่าตัวตายเป็นรายเดือนมาตั้งแต่ปีก่อน เพื่อส่งเสริมความพยายามในการแก้ปัญหานี้

    นายยาสุยูกิ ชิมิซุ หัวหน้ากลุ่ม ไลฟ์ลิงค์ ซึ่งรณรงค์การป้องกันการฆ่าตัวตาย กล่าวว่า ตัวเลขการฆ่าตัวตายที่เพิ่มขึ้นน่าจะเป็นผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ เพราะในช่วงเดือน เม.ย.เป็นช่วงสิ้นสุดปีการเงิน ซึ่งมักมีกิจการล้มละลาย และปลดคนงาน โดยเศรษฐกิจญี่ปุ่นระหว่างเดือน ม.ค. - มี.ค. ซึ่งเป็นไตรมาสสุดท้ายของปีการเงินก่อน หดตัวเป็นประวัติการณ์ถึงร้อยละ 4 นายชิมิซุ แนะว่า ควรมีการสร้างเครือข่ายปลอดภัยเพื่อช่วยให้คนว่างงานมีชีวิตต่อไป พร้อมเรียกร้องให้ตำรวจควรให้ข้อมูลรายละเอียดของการฆ่าตัวตายเป็นขั้นแรก

    อัตราการฆ่าตัวตายของญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในอัตราสูงสุดของบรรดาประเทศพัฒนาแล้ว โดยช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีคนญี่ปุ่นฆ่าตัวตาย 24 คนต่อประชากร 100,000 คน เทียบกับสหรัฐซึ่งพบคนฆ่าตัวตาย 11 คนต่อประชากร 100,000 คน. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-28 16:11:07

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    เมื่อเช้าเห็นข่าวแว๊บๆ ว่าเกาหลีเหนือ
    ทำท่าว่าจะเดินหน้าเรื่องสงครามแล้วล่ะค่ะ
    ทำให้ญี่ปุ่นเตรียมการณ์ใหญ่เลยตอนนี้
    คิดว่าคงไม่ไกลเกินไปแล้วล่ะค่ะ

    สังเกตุเรื่องลมฟ้าลมฝน จะแรงผิดปกติ
    ที่ขอนแก่น ช่วงนี้เห็นต้นไม้ใหญ่ๆ
    ล้มระเนระนาดไปหลายต้นแล้ว
    เพราะต้นแถวนี้มักปลูกแบบ ตัดตอน
    (ไม่แน่ใจว่าเรียกถูกหรือไม่)
    ต้นไม้ไม่มีรากแก้ว เลยโค่นง่าย
     
  4. dalink

    dalink เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +2,436
    น่าสนใจมาก ยังไงเด๋ว คงไม่พลาดแน่ค่ะ

    ติดตามผลงานแกมานานแล้ว
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    อภิสิทธิ์ชี้มีคนอยากป่วนเมือง มิ.ย.เริ่มอีก

    [​IMG]

    "อภิสิทธิ์"บอกมีคนพยายามทำให้บ้านเมืองไม่สงบ เดือนหน้า(มิ.ย.)เตรียมเคลื่อนไหวอีกรอบ วอนทุกฝ่ายแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้ในกรอบของกฎหมาย อย่าให้ความรุนแรงกระทบกับภาพลักษณ์ของบ้านเมือง

    โรงแรมพลาซ่าเอทธานี เมื่อเวลา 12.45 น.วันที่ 29 พ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาหัวข้อเรื่อง “มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นักธุรกิจจะช่วยได้อย่างไร” ซึ่งสมาคมส่งเสริมสถาบันบริษัทไทยจัดขึ้น โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวในช่วงหนึ่งว่า สิ่งที่รัฐบาลทำอยู่นั้น เป็นการสร้างความมั่นคงและยั่งยืน ดังนั้น การทำงานของภาครัฐและเอกชน จะต้องทำงานเสริมซึ่งกันและกัน ถ้าไปคิดแทนกันเมื่อไหร่ ก็จะทำให้เกิดปัญหาและไปไม่รอด​

    อย่างไรก็ตาม วิกฤติเศรษกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ถ้ามองในแง่บวก ก็โชคดีว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ได้มาจากปัญหาภายในประเทศของเรา แต่หลายคนก็อาจหงุดหงิดว่า ทำไมจึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเรา แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเรายังคงต้องเดินนโยบายเศรษฐกิจแบบเปิดเช่นเดิม รัฐบาลได้วางแนวนโยบายในการแก้ปัญหาด้วยโครงการการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มรายได้และการใช้จ่ายในประเทศ เพื่อชดเชยการสูญเสีย ในเรื่องการส่งออกและการท่องเที่ยว​

    นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นักธุรกิจทุกคน สามารถช่วยสร้างบรรยากาศของบ้านเมืองได้ และช่วยกันทำให้ประชาชนเห็นว่า ถ้าบ้านเมืองสงบเรียบร้อย โอกาสที่เราจะสามารถฟันฝ่าวิกฤติได้ก็จะค่อนข้างเร็ว คนจะได้ไม่ตกงานมาก และยังมีโอกาสใหม่ ๆ อยู่ข้างหน้า​

    "วันนี้ ดูบ้านเมืองค่อนข้างสงบ แต่บอกได้ว่า คนที่ไม่ต้องการให้เกิดความสงบ ยังมีอยู่ และยังทำงานอยู่ ในเดือนหน้า (มิ.ย.) จะเริ่มต้นเห็นความพยายามอีกครั้งหนึ่ง อยากให้ทุกคนช่วยกัน ไม่ใช่ช่วยรัฐบาลหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ช่วยเรียกร้องความสงบให้กับประเทศเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของประเทศ ผมบอกมาตลอดว่า ใครที่ไม่เห็นด้วยกับผม อยากวิพากษ์วิจารณ์ผม หรือรัฐบาล ก็ทำได้เต็มที่ แต่อย่าทำผิดกฎหมาย และอย่าใช้ความรุนแรง เพราะกระทบกับภาพลักษณ์ของบ้านเมือง ถ้าประท้วงชุมนุมโดยสงบไม่มีปัญหา จะอธิบายกับประเทศไหนก็ทำได้ง่าย และเป็นการบอกด้วยว่าเป็นประชาธิปไตย แต่ถ้าชุมนุมแล้วทำผิดกฎหมายเผาบ้านเผาเมืองอย่างนี้ชี้แจงใครไม่ได้"นายอภิสิทธิ์ กล่าวและว่า​

    หากมีใครคิดจะไปสนับสนุน ให้คนทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ถ้าเขามีหลักฐานก็จะดำเนินการตามกฎหมาย ทุกคนมีส่วนร่วมที่จะตัดสินใจว่าจะทำอะไรอย่างไร​

    ตอนท้ายนายอภิสิทธิ์ ได้ตอบข้อซักถามของนักธุรกิจรายหนึ่ง ที่ถามว่า จะแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมได้อย่างไร และจะให้นักธุรกิจอธิบายได้อย่างไรว่า ต้องอธิบายโดยอ้างอิงความเป็นจริง และเราต้องยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง ซึ่งส่วนหนึ่งของปัญหาการเมืองใน 4-5 ปี ที่ผ่านมา เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความแตกแยก ซึ่งรัฐบาลก็ต้องการที่จะให้กระบวนการในการหาข้อยุติ ในความเห็นที่แตกต่างผ่านกระบวนการของสภา โดยให้ฝ่ายต่าง ๆ เข้ามาร่วม ซึ่งเขาได้เน้นย้ำว่า กรรมการต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม​

    นอกจากนี้บรรดานักธุรกิจยังสามารถยืนยันได้ว่า โดยอุปนิสัยพื้นฐานของคนไทยเรา ไม่ใช่คนที่ชอบความรุนแรง และตรงนี้คิดว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่า ที่เขาสำรวจมาว่า ผู้ที่จะต้องโทษมากที่สุดตรงนี้ คือกลุ่มนักการเมือง เพราะนักการเมืองเข้าไปมีส่วนสำคัญ ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น

    "อย่างเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีกำนันรายหนึ่งที่เข้าร่วมประชุมสัมนาที่รัฐสภา ก็ได้พูดชัดเจนว่า ความจริงพวกเขาไม่จำเป็นต้องมาฟังเรื่องการสมานฉันท์ เพราะชาวบ้านเขาไม่อยากทะเลาะกันอยู่แล้ว แต่ขอถามว่า แล้วเมื่อไหร่นักการเมืองจะหยุดเอาประชาชนมาทะเลาะกัน ก็เป็นสิ่งที่ผมคิดว่า ถ้าเราช่วยกันบอกว่า ขณะนี้มีการรณรงค์จากหลายฝ่ายที่จะปลุกและดึงเอาจุดแข็งของคนไทยที่มีอยู่ออกมา และเริ่มทำให้คนที่อยากจะก่อความวุ่นวายและทำให้เกิดความรุนแรงนั้นเป็นคนกลุ่มน้อย" นายอภิสิทธิ์ กล่าวและว่า

    ส่วนปัญหาข้อเรียกร้องและข้อคับข้องใจ ที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือยังไม่มีความเป็นประชาธิปไตยนั้น ก็ยืนยันว่า ขณะนี้รัฐบาลพร้อมรับฟัง และนำสิ่งเหล่านั้น มาแก้ไขในกระบวนการของสภาให้มากที่สุด ซึ่งอาจจะยังไม่ถูกใจแต่ยืนยันว่า ทุกเรื่องที่มีการร้องเรียนมานั้น เขาให้ความสำคัญ และต้องการให้หมดข้อข้องใจ

    “แม้แต่ตู้คอนเทรนเนอร์ ที่มีอายุเกือบ 20 ปี ที่บ้านแสมสาร จังหวัดชลบุรีนั้น ผมก็ให้เขาพิสูจน์ให้ได้ เพราะไม่ต้องการให้มีเรื่องอะไรคั่งค้างคาใจ เพื่อให้ทุกฝ่ายเห็นว่า เราสนใจและใส่ใจทุกเรื่อง และรัฐบาลให้ความสำคัญกับความเดือดร้อยของประชาชน และรัฐบาลชุดนี้ก็ทำงานให้กับคนทุกคนบนความเสมอภาค ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

    ข่าวจากหนังสือพิมพ์ คมชัดลึก วันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ.2552

    ที่มา http://www.komchadluek.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2009
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    นักวิทยาศาสตร์ยืนยันเชื้อมาลาเรียกำลังดื้อยา

    [​IMG]

    พนมเปญ29พ.ค.-คณะนักวิทยาศาสตร์จากนานาประเทศยืนยันพบหลักฐานเป็นครั้งแรกที่แสดงให้เห็นว่าเชื้อมาลาเรียกำลังดื้อยา แม้กระทั่งยาที่ใช้รักษามาลาเรียอย่างได้ผลที่สุด ก็เริ่มกำราบเชื้อไม่อยู่ จนผู้ป่วยต้องรับยานานกว่าเดิมจึงจะขจัดเชื้อมาลาเรียออกจากกระแสเลือดได้

    ยาในกลุ่มอาร์ติมิซินีน เป็นยาที่ใช้รักษามาลาเรียอย่างได้ผลที่สุด แต่ล่าสุดผลการศึกษาของคณะนักวิทยาศาสตร์ 2 กลุ่ม ต่างยืนยันตรงกันว่ายาตัวนี้มีประสิทธิภาพน้อยลงในการรักษามาลาเรีย เพราะเดิมทีรับยาแค่ 2 ถึง 3 วัน ก็สามารถขจัดเชื้อออกจากเลือดได้หมด แต่ล่าสุดผู้ป่วยต้องรับยานาน 4 ถึง 5 วัน จึงจะขจัดเชื้อออกไปได้

    กรณีเชื้อมาลาเรียดื้อยาพบมากในภาคตะวันตกของกัมพูชา จนต้องรีบหาทางยับยั้งอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะบานปลายกลายเป็นภัยพิบัติระดับโลก แม้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเหตุใดพื้นที่ดังกล่าวจึงพบเชื้อมาลาเรียดื้อยากระจายเป็นวงกว้าง แต่ก็เป็นที่รู้กันว่ากัมพูชาเป็นประเทศที่มีระบบสาธารณสุขไม่ค่อยดีนัก การใช้ยาต่อต้านเชื้อมาลาเรียก็ควบคุมเชื้อได้ไม่เต็มที่ ทั้งยังเกิดปัญหายาปลอมร่วมด้วย ยาปลอมจะมีส่วนผสมของยาจริงเพียงเล็กน้อย เมื่อผู้ป่วยใช้ยาปลอมรักษามาลาเรียจึงยิ่งเป็นการกระตุ้นให้เชื้อดื้อยามากขึ้น

    ศ.นิค เดย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเวชศาสตร์เขตร้อนมหิดล-ออกซ์ฟอร์ด หนึ่งในคณะทำงานผู้ศึกษาในเรื่องนี้ เผยว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เคยเกิดกรณีเชื้อมาลาเรียดื้อยามาแล้วถึง 2 ครั้ง คือ ยาคลอโรควิน และยาซัลฟาด็อกซิน / พัยริเมธามีน หรือเอสพี จนท้ายสุดเชื้อมาลาเรียดื้อยาได้แพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของโลก โดยเฉพาะทวีปแอฟริกา ส่งผลให้คนแอฟริกันที่ป่วยเป็นมาลาเรียใช้ยาดังกล่าวรักษาไม่ได้ผล จึงต้องเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงต้องรีบหาทางยับยั้งเชื้อมาลาเรียดื้อยาในครั้งนี้ ไม่ให้แพร่กระจายในวงกว้างเหมือนเช่นในอดีต. - สำนักข่าวไทย

    2009-05-29 15:40:30

    บึ้มมัสยิดในอิหร่าน ตาย 15 เจ็บกว่าครึ่งร้อย

    [​IMG]

    อิหร่าน 29 พ.ค. - เหตุระเบิดรุนแรงที่มัสยิดแห่งหนึ่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 15 คน และได้รับบาดเจ็บมากกว่า 50 คน

    สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ รายงานว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นที่มัสยิดอามีร์ อัล-โมเมนิน ซึ่งเป็นมัสยิดของชาวมุสลิมชีอะห์ในเมืองซาเฮดาน ระหว่างที่ผู้แสวงบุญจำนวนมากกำลังประกอบพิธีทางศาสนาในช่วงหัวค่ำ แรงระเบิดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คน และบาดเจ็บมากกว่า 50 คน ขณะที่มัสยิดบางส่วนได้รับความเสียหาย ขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างว่าเป็นผู้ลงมือ
    เหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นไม่ถึง 2 สัปดาห์ ก่อนหน้าที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่าน ในวันที่ 12 มิ.ย.นี้. - สำนักข่าวไทย

    2009-05-29 05:27:12

    อิหร่านกล่าวหาสหรัฐอยู่เบื้องหลังระเบิดสุเหร่า

    [​IMG]

    เตหะราน 29 พ.ค.- เจ้าหน้าที่อิหร่านกล่าวหาสหรัฐว่า อยู่เบื้องหลังการระเบิดฆ่าตัวตายที่สุเหร่าแห่งหนึ่งของชาวชีอะห์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิหร่าน ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 23 คนและบาดเจ็บ 125 คน และเชื่อว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับความพยายามสร้างความไม่สงบก่อนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนหน้า

    นายจาลาล ซายาห์ รองผู้ว่าการมณฑลซิสตาน-บาลูชิสถาน กล่าวว่า ได้จับกุมผู้เกี่ยวข้องกับเหตุก่อการร้ายครั้งนี้ได้ 3 คน ซึ่งจากข้อมูลที่ได้รับ ระบุว่า สหรัฐเป็นผู้ว่าจ้าง

    เหตุโจมตีแบบฆ่าตัวตายครั้งนี้มีขึ้นในระหว่างการสวดมนต์ในเย็นวันพฤหัสบดีที่สุเหร่าอามีร์ อัล-โมเมนินในเมืองซาเฮดาน เมืองสำคัญของมณฑลซิสตาน-บาลูชิสถาน ซึ่งนายอิบราฮิม ฮามิดี หัวหน้าผู้พิพากษามณฑล กล่าวว่า ผู้โจมตีถือระเบิดยืนปะปนอยู่ในแถวสุดท้ายของผู้สวดมนต์

    อิหร่านเคยประณามกองกำลังของสหรัฐและอังกฤษที่ประจำการอยู่ในอิรักและอัฟกานิสถานว่าโจมตีจังหวัดชายแดนของอิหร่านซึ่งมีชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่มาก โดยที่มณฑลซิสตาน-บาลูชิสถานมีชนกลุ่มน้อยบาลุชอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เชื่อว่าผู้โจมตีมีจุดประสงค์จะสร้างความไม่สงบขึ้นก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่าน 12 มิถุนายน.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-29 16:48:42

    WHO ระบุพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่พุ่งเป็น 15,510 คน

    [​IMG]

    เจนีวา 29 พ.ค. - องค์การอนามัยโลก ระบุพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่พุ่งเป็น 15,510 คน ใน 53 ประเทศทั่วโลก ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 99 คน

    ตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ยังมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในบางประเทศยังพบประชาชนที่ไม่ได้เดินทางไปต่างแดน แต่ก็พลอยติดเชื้อดังกล่าวไปด้วย ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขจีนยืนยันในวันนี้ว่า พบผู้ป่วยรายแรกที่ติดเชื้อภายในประเทศ

    กระทรวงสาธารณสุขจีนระบุถึงผู้ป่วยรายนี้ว่า เป็นผู้หญิงวัย 24 ปี อยู่ในมณฑลกวางตุ้งทางใต้ของประเทศ ผู้หญิงรายนี้ทำงานเป็นช่างแต่งหน้าที่สตูดิโอถ่ายภาพแห่งหนึ่งในนครกวางโจว หลังจากแต่งหน้าให้ลูกค้าสองคนที่มาใช้บริการเมื่อวันจันทร์และวันอังคาร พอวันพุธ เธอก็มีอาการปวดศีรษะและไข้ขึ้นทันที จากนั้นเธอจึงถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลและได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่. - สำนักข่าวไทย

    2009-05-29 17:15:37

    จีนสงสัยพบการแพร่เชื้อหวัดใหญ่ 2009 ในประเทศเป็นครั้งแรก

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 29 พ.ค.- จีนเผยวันนี้ว่า สงสัยว่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้แพร่ระบาดภายในประเทศเป็นครั้งแรก แต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุว่า สถานการณ์ยังไม่น่าวิตก

    กระทรวงสาธารณสุขจีน รายงานบนหน้าเว็บไซต์ว่า สตรีวัย 24 ปี ในนครกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เมื่อวานนี้หลังล้มป่วยมีไข้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทางการเชื่อว่าเธออาจติดเชื้อจากชายชาวอเมริกันเชื้อสายจีน วัย 28 ปีที่ใช้บริการสตูดิโอถ่ายภาพที่เธอทำงานอยู่กับคู่หมั้นสาวเมื่อวันจันทร์และวันอังคาร โดยชายคนนี้ทำงานที่โรงพยาบาลในนครนิวยอร์ก ของสหรัฐ และเดินทางถึงนครกว่างโจวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในวันพุธ

    ตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่จนถึงเมื่อวานนี้อยู่ที่ 13 คน และอีก 15 คน อยู่ในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ทั้งหมดล้วนติดเชื้อมาจากต่างประเทศ แต่ผู้ป่วยรายล่าสุดก่อให้เกิดความเสี่ยงว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จะแพร่ระบาดไปประเทศซึ่งการรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐานยังอ่อนแอ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาชั้นนำ และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคจีนระบุว่า ประชาชนไม่ต้องวิตกว่าเชื้อจะแพร่ระบาดภายในประเทศ อย่างไรก็ดี แนะให้ประชาชนหลีกเลี่ยงแหล่งที่มีผู้คนคับคั่ง รวมทั้งผู้มีอุณหภูมิร่างกายสูง และให้ล้างมือบ่อย ๆ

    ด้านโฆษกองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกค่อนข้างวิตกเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเห็นว่าจีนจำเป็นต้องเฝ้าระวังต่อไป และในกรณีนี้ชี้ให้เห็นว่า การเฝ้าระวังของจีนได้ผล เพราะสามารถติดตามผู้ติดต่อใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อได้
    โฆษกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐในกรุงปักกิ่ง ระบุว่า จีนได้กักตัวนักเรียน 21 คน และครูอีก 3 คนจากโรงเรียนมัธยมในเมืองซิลเวอร์ สปริง รัฐแมริแลนด์ ไว้ภายในโรงแรมแห่งหนึ่งในมณฑลกุ้ยโจว ขณะที่ผู้อำนวยการสำนักสาธารณสุขท้องถิ่น ระบุว่า ครู และนักเรียนทั้งหมดมีอาการปกติ และจะถูกปล่อยตัวในวันนี้ หลังถูกกักตัวไว้เฝ้าสังเกตอาการตั้งแต่คืนวันพุธ เพราะโดยสารเครื่องบินเที่ยวเดียวกับผู้โดยสารคนหนึ่ง ซึ่งต่อมาถูกตรวจพบว่า ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่

    นอกจากนี้ มีรายงานว่า ทางการจีนกำลังเฝ้าสังเกตอาการชายวัย 22 ปี คนหนึ่งในนครเซี่ยงไฮ้ ที่มีอาการไข้หลังโดยสารมาบนเครื่องบินจากออสเตรเลียพร้อมกับชายคนหนึ่งที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อเป็นรายแรกของเซี่ยงไฮ้. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-29 17:44:24

    เกาหลีใต้เพิ่มระดับการเตือนภัยสงคราม

    [​IMG]

    ล 28 พ.ค.- กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ แถลงว่า ทหารสหรัฐและเกาหลีใต้ได้เพิ่มระดับการเตือนภัยสงคราม หลังจากที่เกาหลีเหนือประกาศว่ากำลังจะยกเลิกข้อตกลงสงบศึกชั่วคราวสงครามเกาหลี

    แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมระบุว่า กองบัญชาการร่วมสหรัฐ-เกาหลีใต้เพิ่มการเตือนภัยสงครามเป็นระดับที่ 2 เมื่อเวลา 07.15 น.ที่ผ่านมา ทำให้มีการเฝ้าติดตามสถานการณ์ในเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิดขึ้น อีกทั้งสั่งการให้ทหารและเครื่องบินพร้อมรบมากขึ้นด้วย

    การยกระดับเตือนภัยเข้าสู่ระดับ 2 นับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปีพ.ศ. 2549 ซึ่งในครั้งนั้นเกาหลีเหนือ ทดลองนิวเคลียร์ครั้งแรก

    เกาหลีเหนือ เผยวานนี้ว่า กำลังจะยกเลิกข้อตกลงสงบศึกชั่วคราวสงครามเกาหลีที่ใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496 พร้อมกับเตือนว่าจะใช้กำลังทหารโจมตีเกาหลีใต้.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-28 09:30:32

    เกาหลีเหนือยิงจรวดพิสัยใกล้นอกชายฝั่งตะวันออก

    [​IMG]

    โซล 29 พ.ค. - สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานว่า เกาหลีเหนือยิงจรวดพิสัยใกล้นอกชายฝั่งตะวันออก นับเป็นครั้งที่ 6 หลังจากทดลองอาวุธนิวเคลียร์ไปเมื่อต้นสัปดาห์

    ก่อนหน้านี้ เมื่อวันจันทร์และวันอังคารที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ยิงจรวดแล้วถึง 5 ครั้ง ในบริเวณนอกชายฝั่งตะวันออกเช่นกัน โดยจรวดมีพิสัยยิง 130 กม. เกาหลีเหนือทดสอบการยิงจรวดพิสัยใกล้ในทะเลเหลืองหรือทะเลญี่ปุ่นหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยการทดสอบมักเกิดขึ้นในช่วงเดียวกับที่สถานการณ์ในภูมิภาคตึงเครียด ขณะเดียวกันมีรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ของเกาหลีเหนือได้ทำการบินมากกว่าปกติ 2 เท่า ใกล้บริเวณพรมแดนท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด

    เกาหลีเหนือประกาศในวันนี้ว่า จะเสริมมาตรการป้องกันตนเอง หากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-29 18:43:40

    ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุไซโคลนไอลากระหน่ำเอเชียใต้เพิ่มเป็น 264 คน

    [​IMG]

    กัลกัตตา 29 พ.ค. - อิทธิพลของพายุไซโคลนไอลา ส่งผลให้ประชาชนหลายแสนคนในเอเชียใต้ไร้ที่อยู่อาศัย และต้องอาศัยตามที่พักที่ทางการจัดให้ในภาคตะวันออกของอินเดียและบังกลาเทศ ขณะที่มีความเสี่ยงจะเกิดโรคระบาดมากขึ้น

    รายงานระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุไซโคลนไอลากระหน่ำอินเดียและบังกลาเทศเพิ่มเป็น 264 คน โดยในอินเดียมีผู้ไร้ที่อยู่อาศัย 500,000 คน ประชาชนกว่า 130,000 คน ต้องแออัดอยู่ตามค่ายที่ทางรัฐบาลจัดไว้ให้ เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ต้องใช้เครื่องบินและเรือในการลำเลียงอาหาร น้ำ และยา ไปให้ผู้ประสบภัยที่อาศัยตามโรงเรียน ที่ทำการ หรือบ้านเพื่อน ส่วนบังกลาเทศไม่เปิดเผยจำนวนผู้ไร้ที่อยู่อาศัย แต่ระบุว่ามีประชาชนหลายพันคนอาศัยตามที่พักชั่วคราว

    ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิต ทางการบังกลาเทศระบุมีจำนวน 147 คน ขณะที่สื่อมวลชนระบุมีถึง 178 คน เป็นอย่างน้อย ส่วนใหญ่เสียชีวิตเพราะจมน้ำหรือถูกกระแสน้ำพัดเมื่อครั้งเกิดคลื่นสูงซัดฝั่ง ส่วนยอดผู้เสียชีวิตในอินเดีย ทางการระบุอยู่ที่ 117 คน

    หน่วยแพทย์เกรงว่าจะเกิดการระบาดของโรคติดต่อทางน้ำ เช่น ท้องร่วง ไทฟอยด์ จากการขาดแคลนน้ำดื่มสะอาด รายงานระบุว่า บ่อน้ำตามหมู่บ้านหลายแห่งจมอยู่ใต้น้ำ ทำให้ไม่เหมาะแก่การนำมาดื่ม

    อิทธิพลของพายุไซโคลนไอลายังสร้างความเสียหายให้แก่ซันดาร์บันส์ พื้นที่ป่าชายเลนที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเสือขนาดใหญ่อีกแห่งของโลก นักอนุรักษ์นิยมแสดงความวิตกต่อชะตากรรมของเสือ แม้ยังไม่ทราบความเสียหายที่ชัดเจนก็ตาม. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-29 19:36:10

    กลุ่มบรรเทาทุกข์ยังไม่ได้รับอนุญาตเข้าพื้นที่เคยเป็นสมรภูมิรบในศรีลังกา

    [​IMG]

    เจนีวา 29 พ.ค. - กลุ่มบรรเทาทุกข์ต่างชาติเปิดเผยวันนี้ว่า ยังคงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปยังพื้นที่ที่เคยเป็นสมรภูมิรบในศรีลังกา ส่งผลให้ความพยายามในการช่วยเหลือประชาชนกลับบ้านต้องหยุดชะงัก

    รายงานระบุว่า คณะกรรมการกาชาดสากล หรือไอซีอาร์ซี ยังคงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปยังพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ซึ่งกองทัพศรีลังกาได้ปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬ และทำให้ไม่สามารถเข้าไปถึงค่ายทหารขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่อาศัยของผู้หนีภัยจากการสู้รบ รวมทั้งในเขตมานิกฟาร์ม ซึ่งมีประชาชนราว 220,000 คน

    เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์อ้างว่า ค่ายผู้หนีภัยจากการสู้รบต้องการความช่วยเหลือทั้งด้านสาธารณสุข อาหาร น้ำ และสุขาภิบาล สหประชาชาติประมาณว่า มีผู้เสียชีวิต 80,000-100,000 คน นับแต่เกิดสงครามกลางเมืองในศรีลังกาเมื่อปี 2526 . -สำนักข่าวไทย

    2009-05-29 18:57:29

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>หลายชีวิตสังเวยธรณีขย่มฮอนดูรัสสิ่งก่อสร้างพังยับ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานโดยอ้างคำเปิดเผยของ นายรันโดลโฟ ฟูเนส เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงานป้องกันภัยพลเรือนของฮอนดูรัส ว่า

    เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาดรุนแรงถึง 7.1 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางใต้ทะเลแคริบเบียนสั่นสะเทือนเป็นเวลานานกว่า 30 วินาที ส่งผลให้บ้านเรือน อาคารต่างๆ พังถล่มลงมาได้รับความเสียหาย ถนนหลายสายถูกตัดขาด ในย่านธุรกิจและท่องเที่ยวของฮอนดูรัส โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย บาเดเจ็บ 13 ราย ทั้งนี้ ได้มีการขยายวงกว้างไปถึงกัวเตมาลา ประเทศเพื่อนบ้านด้วย


    อย่างไรก็ตาม ได้มีการออกคำเตือนให้ระมัดระวังคลื่นใต้น้ำสึนามิเป็นเวลากว่า 90 วินาที ทั้งในฮอนดูรัส กัวเตมาลา และเบลีซ รวมทั้งฮอนดูรัสจะปิดท่าเรือเปอร์โต คอร์เตส ท่าเรือสำคัญที่ใช้ส่งออกสินค้าที่สำคัญที่สุดในประเทศ โดยเป็นศูนย์กลางรับส่งสินค้าทั้งกล้วย กาแฟ มะพร้าวและไม้เนื้อแข็ง

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>รถขนช้างเบรกแตก ชนเขาเละ 'พังกำไร'ขาหน้าหัก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษ วันนี้ (29 พ.ค.) พ.ต.ท.สมพงษ์ พูลศิริ ร้อยเวรฯสอบสวน สภ.อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว

    ได้รับแจ้งเหตุ จากหน่วยกู้ภัยว่า มีรถบรรทุกช้างสิบล้อ เบรกแตกคว่ำ ตรงช่วงหลักก.ม.ที่ 77-78 ทางลงเขาช่องตะโก ม.5 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ซึ่งห่างจากอุทยานแห่งชาติตาพระยา เพียง 1 ก.ม. มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จากนั้นจึงได้ประสานไปยังหน่วยกู้ภัย ให้มาอำนวยความสะดวกให้กับยานพาหนะที่ใช้เส้นทางผ่านไปมาในช่วงกลางคืน พร้อมนำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บส่งยัง ร.พ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ในที่เกิดเหตุ พบรถยนต์บรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 81-8712 สุรินทร์ สภาพรถ หัวส่วนหน้ารถขาดออกจากกัน ตัวกระบะบรรทุก ตะแคงข้างอยู่ริมถนน เศษกระบะรถ เกลื่อนกลาดเต็มถนน ห่างจากกันเพียงเล็กน้อย พบช้างเพศเมีย ชื่อ พังกำไร อายุ 10 ปี หนักประมาณ 2 ตัน นอนร้อง ตะแคงอยู่ริมถนน

    ต่อมาเวลา 08.00 น. พ.ต.อ.อธิก ลาภานุพัฒน์ ผกก.สภ.ตาพระยา ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจมาอำนวยความสะดวก

    พร้อมได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ทหารใกล้เคียง ให้นำรถเครน มาช่วยยกตัวช้าง ออกจากที่เกิดเหตุ พร้อมนำไปรักษา และได้รับแจ้งจากเจ้าของช้างว่า ขณะนี้ได้แจ้งไปทางโรงพยาบาลช้าง จ.สุรินทร์ ให้นำหน่วยแพทย์ และรถมารับช้างไปรักษาที่ จ.สุรินทร์แล้ว จากการสอบถามนายสมศักดิ์ ศาลางาม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 ม.9 ต.กระโพธิ์ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เจ้าของช้าง ทราบว่า ตนเองพร้อมภรรยา และลูกรวม 7 คน จะนำช้างพังกำไร จาก จ.สุรินทร์ ไปผสมพันธุ์ ที่สวนช้างสยาม พัทยา จ.ชลบุรี ขณะมาถึงที่เกิดเหตุ เวลา 23.00 และเป็นทางลาดชันลงเขา คนขับรถชื่อ นายบุญธรรม หอมหวล ได้บอกกับตนเองว่า รถเบรคไม่อยู่แล้ว และเกียร์รถก็เข้าเกียร์ไม่ได้ด้วย พร้อมบอกให้ตนเองกระโดดลงไปเอาขอนไม้ไปลองขวางล้อให้บรรเทาหน่อย ตนเองก็ลงไปเอาขอนไม้ไปลอง แต่ก็ทานไม่อยู่ รถกลับลื่นไถล ลงเขาและวิ่งเร็วขึ้น คนขับเห็นท่าไม่ดี จึงได้หักรถเข้าชนกับไหล่เขาด้านซ้ายข้างทาง จนเป็นเหตุดังกล่าว

    สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ มี 6 ราย คือ น.ส.วารุณี มาดี อายุ 24 ปี นายโชติ ทรัพย์มาก อายุ 26 ปี นายไพวัลย์ ชมเวียง อายุ 17 ปี นายบุญธรรม หอมหวล อายุ 51 ปี และ นางเหลือง ศาลางาม อายุ 51 ปี เสียชีวิต ที่ โรงพยาบาลตาพระยา จากการสอบถามแพทย์เวร ทราบว่า ได้ส่งตัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไปที่ โรงพยาบาลยุพราชสระแก้ว 2 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 3 ราย กลับบ้านได้แล้ว

    ต่อมาเวลา 10.30 น. คณะแพทย์ จากสถาบันวิจัยสุขภาพช้างแห่งชาติ จ.สุรินทร์ นำโดย นายสัตวแพทย์ภัทระ เชื้อพลายเวช ผอ.สถาบันฯ ได้มาปฐมพยาบาลเบื้องต้น

    โดยได้ให้น้ำเกลือแก่ช้างทันที นายสัตวแพทย์ภัทระ กล่าวว่า ในเบื้องต้นนี้ ได้ให้น้ำเกลือแก่ช้างก่อน เพราะช้างอาจจะขาดน้ำมาก และจากการตรวจลำตัวช้างในเบื้องต้น ทราบว่า ขาหน้าหักทั้งสองข้าง และทางเราก็ได้เตรัยมรถมาที่จะดำเนินการพยุงตัวช้างกลับไปเอ็กซเรย์และรักษาที่โรงพยาบาลช้างต่อไป


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ปะการังสีทองโผล่ อร่ามหาด หวั่นโลกวิกฤติ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ เวลา 15.00 น.วันนี้ (28 พ.ค.) พล.ร.ต. สนธยา น้อยฉายาผู้บัญชาการ กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (ผบ.พล.นย.) ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

    ได้รับรายงานจาก น.อ. กล้าหาญ เพ็ชรมีศรี ผู้บังคับการ กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (ผบ.กรม ร.1 รอ.พล.นย.) ว่า ขณะเดินทางตรวจความเรียบร้อยบริเวณพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณชายหาด พบสิ่งผิดปกติในอ่าว มีสีเหลืองกระทบกับแสงอาทิตย์สะท้อนให้เห็นไรไร จึงได้ลงไปดู และให้ข้าราชการ พลทหาร ลงไปทำการตรวจสอบ พบว่ามีปะการังในอ่าวกองพลนาวิกโยธินเกิดขึ้นมาเป็นสีทอง ดาษดื่นเต็มอ่าว และเมื่อน้ำทะเลลง สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ชัดเจนมาก ห่างจากริมชายหาดประมาณ 70-80 เมตร สร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็นอย่างมาก โดยเฉพาะข้าราชการ ทหาร นาวิกโยธินมีความเชื่อว่าเป็นเรื่องของความเป็นสิริมงคลมากกว่าเรื่องอื่น ๆ

    น.อ. กล้าหาญ เพ็ชรมีศรี กล่าวว่า ปรากฎการณ์ปะการังสีทอง ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 3 ในอ่าวแห่งนี้

    พบครั้งแรกเมื่อ วันที่ 9 มิ.ย. 2549 ในยุค พล.ร.ต.ศักดิ์ชาย อุบลเดชประชารักษ์ เป็นผู้บัญชาการ กองพลนาวิกโยธิน ปัจจุบันท่านเป็น รองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ครั้งนี้เป็นประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือที่มีประชาชนทุกชนชั้น ทุกสาขาอาชีพเข้ามาเยี่ยมชมเพราะเป็นปีมหามงคลที่ปวงชนชาวไทยร่วมกันเฉลิม ฉลองสิริรราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 2 พบเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2550 ในยุคของ พล.ร.ต สนธยา น้อยฉายา และล่าสุดพบเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2552 ส่วนปีที่ผ่านมาไม่มีการเกิดปรากฎการณ์ปะการังสีทองที่อ่าวแห่งนี้ โดยไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นทางวิทยาศาสตร์ พร้อมทั้ง ได้สั่งการให้ดำเนินการเตรียมเรือท้องกระจก และเรือเล็กไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวชมปะการังสีทอง

    พล.ร.ต. ศักดิ์ชาย อุบลเดชประชารักษ์ รองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการ นาวิกโยธิน กล่าวว่า เมื่อปีที่ผ่านมา ( ปี พ.ศ.2551)ข้าราชการ พลทหาร ครอบครัว และบุคคลภายนอกที่เฝ้าติดตามทะเลสีเหลืองในอ่าวกองพลนาวิกโยธิน สอบถามมาอย่างต่อเนื่องเพราะว่าปะการังสีทองได้เงียบหายไป 1 ปี เพิ่งกลับมาในวันเดียวกันนี้

    ด้าน นักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเล กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เป็นข้อสันนิษฐานได้ว่าสภาพความสมบูรณ์ของพืชและสัตว์เสื่อมโทรมลง

    หรืออยู่ในขั้นวิกฤติที่ปลาไม่สามารถอาศัยอยู่ในแนวปะการังนั้น ๆ ได้ เพราะปริมาณของปลาเป็นตัวบ่งชี้ถึงคุณภาพของปะการังและสภาพแวดล้อมในแนว ปะการังด้วย เป็นระบบเกื้อหนุนกันนั่นเอง หากความสมดุลของอย่างใดอย่างหนึ่งเสียไปก็จะมีผลกระทบกับอีกสิ่งหนึ่งอย่างแน่นอน สมควรที่จะให้นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลมาตรวจสอบ ศึกษาและทำวิจัยถึงระบบนิเวศน์ของแนวปะการัง เพราะลำพังแค่ปะการังเปลี่ยนเป็นสีทองนั้นก็แสดงให้เราเห็นแล้วว่าโลกกำลังอยู่ใน ขั้นวิกฤติเพียงใด ไม่ใช่เหตุการณ์ที่น่ายินดีอย่างที่คิดกันเลย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ฮือฮา …! สับปะรดกินไม่ต้องปอกเปลือก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>สับปะรดพันธุ์เพชรบุรี เป็นพันธุ์ที่จัดอยู่ในกลุ่ม Queen กลุ่มเดียวกับพันธุ์ภูเก็ต สวีหรือตราดสีทอง โฉมใหม่ ซึ่งกรมวิชาการเกษตรเตรียมจัดงานเปิดตัวยิ่งใหญ่ ฉลองครบ 36 ปี

    แปลกดีนะ!! ....เมื่อสับปะรดกินได้ไม่ต้องปอกเปลือก โดยกรมวิชาการเกษตรวิจัยสับปะรด "พันธุ์เพชรบุรี" หรือที่รู้จักกันว่า "สับปะรดไต้หวัน" มีลักษณะเด่น บริเวณปลายคอดเล็ก ตาค่อนข้างใหญ่และนูนเล็กน้อย ทำให้สามารถแกะผลย่อยออกรับประทานได้ทันทีไม่ต้องปอก รสหวาน หอมแรง และเนื้อกรอบ กำลังได้รับความนิยมอย่างยิ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ

    เรื่องนี้ นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า

    ตลอดระยะเวลา 36 ปี กรมวิชาการเกษตรทำการวิจัยและพัฒนาพืชผลทางการเกษตรอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ศูนย์วิจัยพืชสวนเพชรบุรี สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 ได้ให้มีการพัฒนาพันธุ์สับปะรดกว่า 10 ปี จนกระทั่งได้สับปะรดพันธุ์เพชรบุรี หรือที่เรียกกันว่า สับปะรดไต้หวัน ที่รับประทานได้ทันทีโดยไม่ต้องมานั่งปอกเปลือกเหมือนเช่นสับปะรดทั่วไป ซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากตลาดอย่างมาก

    ลักษณะพิเศษของสับปะรดพันธุ์เพชรบุรีดังกล่าว คือสามารถแกะผลย่อย หรือตา (fruitlet) ออกจากกันได้ง่าย

    ทำให้สามารถแกะผลย่อยออกมารับประทานได้โดยไม่ต้องปอกเปลือก อีกทั้งแกนผลยังสามารถรับประทานได้ รสหวานอมเปรี้ยว มีปริมาณกรดต่ำ กลิ่นหอมแรง เนื้อกรอบ สีเนื้อเหลืองอมส้มสม่ำเสมอ ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์ภูเก็ต และสวี 17.7% และ 23.2% ตามลำดับ สามารถปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สับปะรดพันธุ์เพชรบุรี เป็นพันธุ์ที่จัดอยู่ในกลุ่ม Queen เช่นเดียวกับพันธุ์ภูเก็ต สวีหรือตราดสีทอง มีทรงพุ่มปานกลาง ใบค่อนข้างสั้น

    หนามลักษณะเป็นตะขอม้วนขึ้นไปหาปลายใบ มีช่อดอกแบบรวม (Spike) ดอกเกสรตัวผู้และตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน กลีบดอกสีน้ำเงินปนม่วง มีลักษณะผลรวม ทรงเจดีย์ คือด้านล่างของผลใหญ่ บริเวณปลายจะคอดเล็ก ตาบริเวณปลายผลติดกับจุกไม่พัฒนา2 - 3 รอบ ผลขนาดปานกลาง น้ำหนักเฉลี่ย 1.00 กก. ผลกว้างเฉลี่ย 11.9 ซม. ผลยาวเฉลี่ย 19.0 ซม. ตาค่อนข้างใหญ่และนูนเล็กน้อย โดยมีอายุการเก็บเกี่ยวราว 126 วัน มีสีเปลือกผลแก่สีเขียว ผลสุกสีเหลืองอมส้ม (Yog 17 A-B) สีเหลืองอมส้ม (Yog 16 A-B)


    สับปะรดพันธุ์เพชรบุรีเดิมเป็นพันธุ์ของประเทศไต้หวันในชื่อพันธุ์ Tainan 41 ในปี 2530

    โดยนายสณทรรศน์ นันทะไชย เป็นผู้นำพันธุ์มาจากบริษัทส่งออกสับปะรดในรูปของ สับปะรดพันธุ์นี้เป็นพันธุ์ที่ได้มาจากการคัดเลือกสายต้น ( clone ) หรือการผสมพันธุ์ หลังจากได้รับจุกมาแล้วส่วนหนึ่งนำไปเพิ่มปริมาณหน่อโดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ นายสมชาย ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงแนวโน้มตลาดสับปะรดว่า สับปะรดเป็นพืชที่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมเกษตร นอกจากจะนิยมบริโภคสดแล้ว ยังสามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายชนิด เช่น สับปะรดกระป๋อง น้ำสับปะรด สับปะรดแช่แข็ง สับปะรดกวน สับปะรดอบแห้ง และอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมสับปะรดกระป๋อง เปลือกใช้เป็นอาหารสัตว์ ใบใช้ทำเส้นใยและกระดาษ ซึ่งแต่ละปีจะทำรายได้ให้เกษตรกรอย่างมาก


    ทางกรมวิชาการเกษตร มุ่งสร้างการรับรู้สับปะรดพันธุ์ใหม่ดังกล่าวผ่านรูปแบบการทำกิจกรรมด้านต่างๆ

    ไม่ว่าจะเป็นจัดนิทรรศการผลงานวิชาการของหน่วยงานภายในกรมวิชาการเกษตร นิทรรศการของภาคเอกชนและกลุ่มเกษตรกร มีศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวทฤษฎีใหม่ เทคโนโลยีการผลิต และการแปรรูปสับปะรดครบวงจร รวมถึงการสาธิตเครื่องจักรกลการเกษตร ในโอกาสที่กรมวิชาการเกษตรได้รับการสถาปนาครบรอบ 36 ปีเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง โอกาสนี้ศูนย์วิจัยพืชสวนเพชรบุรี สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขต 5 จึงได้จัดงานมหัศจรรย์พันธุ์สับปะรดเพชรบุรี 36 ปีกรมวิชาการเกษตรในวันที่ 9 มิถุนายน 2552 ณ ศูนย์วิจัยพืชสวนเพชรบุรีถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี ตำบลสามพระยา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เพื่อประชาสัมพันธ์สับปะรดพันธุ์ ”เพชรบุรี”

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    โดย :ชาเขียว (สมาชิก) โพสเมื่อ [ วันศุกร์ ที่ 29 พฤษภาคม 2552 เวลา 08:16 น.] [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    เกิดแผ่นดินไหว 5.7 ริกเตอร์ ที่ฟิลิปปินส์

    [​IMG]

    มะนิลา 30 พ.ค. - สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ แจ้งว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.7 ริกเตอร์ ที่ฟิลิปปินส์ เมื่อเวลา 03.51 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 02.51 น. ตามเวลาในไทย

    แผ่นดินไหวดังกล่าวมีจุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองเจเนอรัล ซานโตส ซิตี้ บนเกาะมินดาเนา ไปทางทิศตะวันออก-ตะวันออกเฉียงใต้ 71 กม. และอยู่ที่ความลึก 158 กม. แต่ไม่มีคำเตือนการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ

    ประเทศฟิลิปปินส์ตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า “วงแหวนแห่งไฟ” ซึ่งเป็นเขตรอยต่อของเปลือกทวีป จึงมักเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด. - สำนักข่าวไทย

    2009-05-30 08:29:00

    สหรัฐประณามการระเบิดสุเหร่าในอิหร่าน

    [​IMG]

    วอชิงตัน 30 พ.ค. - รัฐบาลสหรัฐออกแถลงการณ์ประณามการระเบิดสุเหร่าของชาวชีอะห์ในอิหร่าน ว่าเป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย พร้อมกับปฏิเสธคำกล่าวอ้างของเจ้าหน้าที่อิหร่านบางคนที่ระบุว่า สหรัฐอยู่เบื้องหลังการระเบิดครั้งนี้

    เหตุระเบิดฆ่าตัวตายมีขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี ที่สุเหร่ามีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในเมืองซาเฮดาน เมืองเอกของมณฑลซิสตาน-บาลูจิสถาน ติดชายแดนอัฟกานิสถานและปากีสถาน แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คน และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เกิดเหตุกลุ่มมือปืนได้โจมตีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของประธานาธิบดีมาห์มูด อาห์มาดิเนจัด ในเมืองเดียวกัน

    นายโรเบิร์ต กิบส์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวประณามการโจมตีโดยผู้ก่อการร้ายทั้ง 2 ครั้งนี้อย่างรุนแรง และว่า ชาวอเมริกันได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังผู้เคราะห์ร้ายและครอบครัว พร้อมกับระบุว่า การก่อการร้ายต่อประชาชน ไม่ว่าเกิดขึ้นในประเทศไหน หรือรูปแบบใด เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องชอบธรรม

    ก่อนหน้านี้ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ได้ปฏิเสธคำอ้างของเจ้าหน้าที่อิหร่านบางคนที่ระบุว่า สหรัฐเกี่ยวข้องกับการโจมตีสุเหร่า และได้ประณามการก่อการร้ายทุกรูปแบบ พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้สนับสนุนการก่อการร้ายในประเทศนี้ นอกจากนี้ สหรัฐจะยังคงทำงานร่วมกับประชาคมนานาชาติ เพื่อพยายามป้องกันการโจมตีพลเรือนผู้บริสุทธิ์ในทุกที่. - สำนักข่าวไทย

    2009-05-30 07:52:47

    เกาหลีเหนือเตรียมเคลื่อนย้ายขีปนาวุธข้ามทวีป

    [​IMG]

    โซล 30 พ.ค.- หนังสือพิมพ์ดอง-อา อิลโบในเกาหลีใต้ รายงานว่า เกาหลีเหนือเตรียมเคลื่อนย้ายขีปนาวุธข้ามทวีปจากศูนย์วิจัยแห่งหนึ่งใกล้กรุงเปียงยางมายังฐานปล่อยมูซูดัน-รี ที่ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของประเทศ

    โรงงานซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของกรุงเปียงยาง เป็นสถานที่เดียวกับที่เกาหลีเหนือใช้ผลิตจรวดพิสัยไกลซึ่งยิงขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ขีปนาวุธที่ผลิตจากโรงงานแห่งนี้จะถูกลำเลียงไปยังฐานปล่อยมูซูดัน-รี เพื่อประกอบและยิง

    รายงานข่าวระบุว่า ดาวเทียมจารกรรมของสหรัฐจับภาพเกาหลีเหนือเตรียมลำเลียงขีปนาวุธข้ามทวีปจากศูนย์วิจัยอาวุธใกล้กรุงเปียงยาง ด้วยทางรถไฟมายังฐานปล่อยมูซูดัน-รี ศูนย์วิจัยแห่งนี้เป็นศูนย์วิจัยหลักและศูนย์การผลิตขีปนาวุธพิสัยไกล อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นต่อรายงานดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า ได้สังเกตเห็นความเคลื่อนไหวผิดปกติใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาในบริเวณที่เกาหลีเหนือเคยใช้ทดสอบยิงจรวดพิสัยไกล.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-30 09:40:55

    เกาหลีเหนือขู่ตอบโต้หากยูเอ็นคว่ำบาตร

    [​IMG]

    เกาหลีเหนือ 30 พ.ค.-เกาหลีเหนือประกาศตอบโต้หากสหประชาชาติลงมติคว่ำบาตรเพื่อลงโทษ ขณะที่สื่อหลายสำนักรายงานว่าเกาหลีเหนืออาจเตรียมการทดลองยิงขีปนาวุธพิสัยไกล

    กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือ ประกาศแถลงการณ์ผ่านสำนักข่าว KCNA ของทางการว่า ความอดทนของเกาหลีเหนือมีขีดจำกัด การทดลองนิวเคลียร์ที่มีขึ้นทั้งหมดในโลกนี้ 2,054 ครั้ง ดำเนินการโดยประเทศสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถึง 99.99% การทดลองของเกาหลีเหนือเป็นไปเพื่อป้องกันตนเอง

    ดังนั้นจึงรับไม่ได้กับการคว่ำบาตรหรือมาตรการลงโทษใดๆ ของคณะมนตรีความมั่นคง หากยังยั่วยุต่อไป เกาหลีเหนือก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะใช้มาตรการป้องกันตนเองตอบโต้ ขณะเดียวกันสื่อต่างชาติหลายสำนักรายงานว่า จากภาพถ่ายดาวเทียมของสหรัฐ ชี้ชัดว่ามีรถยนต์วิ่งเข้าออกฐานปล่อยขีปนาวุธพิสัยไกลของเกาหลีเหนือมากขึ้น จึงอาจเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือเตรียมยิงขีปนาวุธพิสัยไกล.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-30 10:39:19

    สหรัฐขู่ตอบโต้เกาหลีเหนือหากคุกคามพันธมิตรชาติเอเชีย

    [​IMG]

    สิงคโปร์ 30 พ.ค.-รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐเตือนเกาหลีเหนือ สหรัฐจะตอบโต้ในทันที หากกระทำการใดๆ ที่เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐและพันธมิตรชาติเอเชีย

    นายโรเบิร์ต เกทส์ กล่าวต่อที่ประชุมประจำปีด้านความมั่นคงระหว่างประเทศที่สิงคโปร์ว่า สหรัฐจะไม่อยู่นิ่งเฉย ยอมปล่อยให้เกาหลีเหนือสร้างศักยภาพเพื่อทำลายล้างเป้าหมายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมกับระบุว่าโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ เป็นการนำพามาซึ่งความมืดมนในอนาคต และอาจทำให้ชาติในเอเชียต้องเริ่มกันแข่งขันสะสมอาวุธ ซึ่งในที่สุดก็จะส่งผลต่อเสถียรภาพในภูมิภาค

    อย่างไรก็ตาม เกทส์ ไม่ได้ระบุว่า หากเกาหลีเหนือทำการสิ่งใดที่มุ่งร้ายต่อสหรัฐและชาติพันธมิตรในเอเชีย สหรัฐจะตอบโต้เกาหลีเหนือด้วยวิธีใด จะด้วยการใช้กำลังทหารหรืออื่นๆ พร้อมระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะประจำการกำลังทหารเพิ่มในภูมิภาคดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-30 11:18:23

    หญิงอเมริกันที่ตายลึกลับในไทย ถูกตรวจพบว่า เนื้อเยื่อปอดหาย

    [​IMG]

    วอชิงตัน 30 พค.-กรณีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของนักท่องเที่ยว 2 ราย ที่เกาะพีพีของไทย ซึ่งเป็นหญิงสาวจากสหรัฐและนอร์เวย์ ล่าสุดผลการชันสูตรศพนักท่องเที่ยวสาวจากสหรัฐ ได้สร้างความประหลาดใจ เพราะพบว่า เกิดอาการเลือดคั่งที่ปอดอย่างรุนแรงจนเนื้อเยื่อปอดหาย

    นักท่องเที่ยวสาวจากสหรัฐรายนี้มีชื่อว่า น.ส.จิลล์ เซนต์ ออนจี เสียชีวิตลึกลับระหว่างมาเที่ยวเกาะพีพี เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งทางครอบครัวก็ได้ว่าจ้างแพทย์มาชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต แล้วต้องตกใจที่พบว่ามีเลือดคั่งเต็มปอดจนเนื้อเยื่อปอดหายไป ขณะที่แพทย์ก็ยังไม่ได้ระบุว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ปอดของผู้เสียชีวิตล้มเหลว และคาดว่าต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์กว่าจะได้ข้อสรุปในขั้นสุดท้าย

    ผลการชันสูตรศพเบื้องต้นเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ขัดแย้งกับผลการตรวจสอบของหน่วยสืบสวนของไทยที่ยืนยันว่า น.ส. เซนต์ ออนจี เสียชีวิตเพราะอาหารเป็นพิษ โดยคู่หมั้นของ น.ส.เซนต์ ออนจี ปักใจเชื่อเกือบ 100% ว่า แฟนสาวไม่ได้เสียชีวิตเพราะอาหารเป็นพิษ

    ทั้งคู่มีกำหนดเดินทางท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นานถึง 3 เดือน การท่องเที่ยวเป็นไปอย่างราบรื่นและสนุกสนาน แต่ท้ายที่สุดสถานการณ์กลับพลิกผันเมื่อทั้งสองคนได้มาเที่ยวเกาะพีพี โดยระหว่างที่พักในห้องของลาลีนา เกสต์เฮาส์ จู่ๆ น.ส. เซนต์ ออนจี ก็เกิดอาเจียนและหายใจไม่ออก คู่หมั้นจึงรีบพาเธอส่งโรงพยาบาลก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เป็นการจากไปอย่างกะทันหันทั้งที่ น.ส.เซนต์ ออนจี เป็นหญิงสาวที่มีสุขภาพแข็งแรง

    ที่น่าสังเกตก็คือ หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ก็มีรายงานพบ น.ส. จูเลีย เบิร์กไฮม์ นักท่องเที่ยวสาวจากนอร์เวย์ ซึ่งพักอยู่ในห้องถัดไป เกิดอาการเดียวกันและเสียชีวิตในเวลาต่อมา หนังสือพิมพ์ ภูเก็ต กาเซทท์ รายงานอ้างถ้อยแถลงของ พล.ต.ต. พศิน นกสกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ที่ระบุว่า จากการตรวจสอบตัวอย่างเลือดในเบื้องต้นของนักท่องเที่ยวสองรายนี้ มีความเป็นไปได้ว่า ทั้งคู่อาจเกิดอาการอาหารเป็นพิษจากอาหารทะเล แต่คู่หมั้นของ น.ส. เซนต์ ออนจี กลับเห็นว่า เป็นเรื่องเหลวไหล ที่เชื่อมโยงไปถึงเรื่องอาหารเป็นพิษ เขายังตั้งข้อสงสัยไปที่ห้องพัก เพราะในช่วงที่เกิดเหตุ เขาจำได้ว่าได้กลิ่นสารเคมีภายในห้อง และคิดว่าที่ตัวเองไม่เป็นอะไรเพราะอยู่ในห้องไม่นานมาก ผิดกับแฟนสาวที่ใช้เวลาอยู่ในห้องนานกว่า

    ด้าน ดร.วิลเลียม เฮอร์ลีย์ ผู้อำนวยการแพทย์ศูนย์พิษวิทยาวอชิงตัน ก็ยังสงสัยในเรื่องนี้ โดยบอกว่า อาหารเป็นพิษจะทำให้คนตายได้ก็ต่อเมื่อเกิดการขับถ่ายจนร่างกายเสียน้ำอย่างรุนแรง แต่ในกรณีนี้ดูเหมือนว่า เป็นการเสียชีวิตเพราะได้รับสารเคมีเป็นพิษมากกว่า นอกจากนี้กว่าคนจะตายเพราะอาหารเป็นพิษก็ต้องกินเวลานานหลายวันไม่ใช่ตายอย่างฉับพลันเช่นนี้.- สำนักข่าวไทย

    2009-05-30 11:11:16

    ที่มา http://news.mcot.net/international/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"นางฟ้าทั้งสอง" กลับไปยังเวียดนามอีกครั้ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 พฤษภาคม 2552 16:17 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>​
    [​IMG]

    ASTVผู้จัดการออนไลน์-- หญิงสาวที่สวยที่สุดในโลกสองคน คือ กซีเนีย ซูคิโนวา (Ksenia Sukhinova) ซึ่งกำลังทำหน้าที่มิสเวิลด์อยู่ในปัจจุบัน เดินทางถึงกรุงฮานอยตั้งแต่วันที่ 26 กับ ขณะที่จางจื่อหลิน (Zhang Zilin) มิสเวิลด์ 2007 กำลังจะตามเธอเข้าไปในสัปดาห์หน้านี้ เพื่อร่วมกันทำกิจกรรมการกุศลมากมาย

    กซีเนีย ซึ่งชื่อของเธอเขียนตามแบบภาษารัสเซียเป็น "Kseniya" ได้รับการต้อนรับอบอุ่นที่ท่าอากาศยาน ในการเยือนเวียดนามหนที่สอง

    "หนูดีใจมากที่ได้กลับมาเวียดนามอีกครั้ง ประเทศที่เป็นมิตรและอบอุ่น คราวที่แล้วหนูมาในช่วงที่อากาศกำลังหนาวเย็น แต่มิตรไมตรีของชาวเวียดนามทำให้หนูรู้สึกอบอุ่นค่ะ" นักศึกษาสาวชั้นปีที่ 2 แห่งมหาวิทยาลัยอุตสาหกรรมแห่งไซบีเรีย ให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ เมื่อเดินทางถึงที่ท่าอากาศยานโนยบ่าย (Noi Bai) ท่ามกลางช่างภาพกับผู้สื่อข่าวหลายสิบคนที่รายล้อม

    หลังไปเยือนเวียดนามคราวที่แล้วเมื่อห้าเดือนก่อน กซีเนียเดินทางไปทั่วโลก ตั้งแต่นครลอสแอนเจลีส เขตปกครองพิเศษฮ่องกง จนถึงแอฟริกาใต้ เยือนสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในหลายประเทศ ตลอดจนสถานเลี้ยงดูเด็กที่ป่วยด้วยโรคร้ายแรงต่างๆ

    [​IMG]

    "หนูได้เรียกร้องให้คนทั่วทั้งโลก ช่วยกันระดมทุนเพื่อประกอบการกุศล ถึงวันนี้ได้ทุนแล้ว 17 ล้านดอลลาร์ หวังว่าเมื่อการปฏิบัติหน้าที่มิสเวิลด์ครบวาระลง กองทุนคงจะได้มากกว่าที่มิสเวิลด์ 2007 ทำเอาไว้ที่ 30 ล้าน" กซีเนียกล่าว

    มาเที่ยวนี้เธอดูอ้วนท้วนสมบูรณ์ขึ้นกว่าเดิม เวลาสามเดือนเศษที่ผ่านมา สาวงามเดินทางไปยังหลายประเทศทั่วโลก เยี่ยมเยือนและมอบเงินช่วยเหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า-เด็กป่วยด้วยโรคร้ายแรงในหลายประเทศ รวมทั้งจัดกิจกรรมระดมทุนเข้ากองทุน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ด้อยโอกาสทั่วโลก

    ตามกำหนดการที่สื่อทางการเวียดนามรายงาน กซีเนียจะเดินทางไปยังเมืองญาจาง (Nha Trang) จ.แค๊งหว่า (Khanh Hoa) เทศกาลหาดญาจาง ในวันที่ 6 มิ.ย.

    จื่อหลินกับสาวงามอีกหลายคนคือ มาเรีย ฮูเลีย มาตีญญา การ์เซีย (Maria Julia Matilla Garcia) มิสเวิลด์ 2004 ทาทานา คูชาโนว่า (Tatana Kucharova) มิสเวิลด์ 2006 กับมิสเวิลด์อินโดนีเซีย 2009 จะเข้าร่วมพิธีกับกซีเนียด้วย

    จากนั้นกซีเนียกับจื่อหลิน จะร่วมกันเดินทางไปยังกว่า 10 เมืองและจังหวัดในเวียดนาม เพื่อมอบทุนช่วยเหลือศูนย์พัฒนาผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนชนชาติส่วนน้อยชาวเวียดนามในเขตภูเขา

    มีหลายฝ่ายที่อยู่เบื้องหลังให้การสนับสนุนการตระเวนทำกิจกรรมเพื่อการกุศลของสองสาวงาม ซึ่งรวมทั้งธนาคารโลก กับบริษัท Shanghai RASS ผู้จัดการประกวด Miss World 2010

    การเดินทางไปเวียดนามในเดือน ม.ค.ปีนี้ กซีเนียกับจื่อหลินได้กลายเป็นขวัญใจเจ้าของประเทศ สื่อในประเทศนี้ซึ่งได้ขนานนามเป็น "นางฟ้าทั้งสอง"

    ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9520000060494
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2009
  10. k_isara

    k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    30 พ.ค. 52

    ปัญหาของกลุ่ม กั๊วะหวาย

    กั๊วะหวาย เป็นตัวละคร ในยุคราชวงค์ซ่ง สมัยของเปาบุ้นจิ้น มีตำแหน่งเป็นขันฑี มีผมสีดอกเลา
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    คำทำนายอนาคตประเทศไทย ที่อาจจะเกิดขึ้นจริง
    (ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ)

    [​IMG]

    ในวันที่ 11 ธันวาคม 2543 ที่งานคนดีศรีสังคม ณ หอประชุมวัฒนธรรมฯ คุณนิติภูมิ นวรัตน์ ได้บรรยายว่า ประเทศไทยจะต้องแตกเป็นประเทศใหม่อีก 4 - 6 ประเทศ แน่นอน! ทั้งนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดขึ้นอย่างมีกระบวนการ โดยสถานการณ์จะเริ่มชัดขึ้นในปี 2553

    4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นแห่งแรกที่จะขอแยกตัวออกจากประเทศไทย เนื่องจากความแตกต่าง ที่เห็นชัดเจนและความแตกต่างทางวัฒนธรรม ในปี 2553

    คนไทยภาคใต้จะเห็นด้วยกับการแยกประเทศ เพราะเห็นความล้มเหลวของรัฐบาลไทย การเมืองไทย การคัดค้านจะน้อยลง การสนับสนุนให้แยกจะทวีความรุนแรงขึ้น จนรัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมได้ ถ้ารัฐบาลใช้กำลังทหาร ก็จะถูกต่างชาติส่งทหารมาต่อต้านกองทัพไทย ซึ่งแน่นอนกองทัพไทยไม่มีปัญญาไปต่อสู้อยู่แล้ว การแยกตัวจะสำเร็จได้ในไม่นาน

    จากนั้น ภาคตะวันออก บริเวณจันทบุรี ตราด ระยอง ฉะเชิงเทรา จะขอแยกตัวตามมา เนื่องจากที่ดินแถบนั้นกลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าวถูกใช้เป็นแหล่งพันธุกรรมของต่างชาติ ทั้งสมุนไพร อาหารต่าง ๆ เมื่อรัฐบาลไทยเป็นอุปสรรคของต่างชาติ การขอแยกตัวก็จะทำได้ไม่ยาก

    ที่มา FW: �� 2553 �ش����������� ��ҹ��Դ�������� ... �Դ�� �����ͧ�� - Dek-D.com > Board

    "บ้านเมือง”

    รวยล้ำค้ำเหลิงอำนาจ ดูดทรัพย์ราษฎร์ท้องแผ่นดิน กอบโกยขูดหมดสิ้น ผลักหนี้สินท่วมประชาหลากหลายในสังคม บ่ชื่นชมเหนือหัวข้า ขัดแย้งรุนแรงกล้า ก้าวร้าวทั่วมั่วลายงา

    เหล่าทหารเสียหน้าก่อการ ทรยศสัตย์ปฏิญาณให้ไว้ บ้านเมืองลุกโหมเป็นไฟ จากคิดใหญ่พวกอยากนำสุดสับสนสุดอลม่าน วิ่งหนีพาลหลบเลี่ยงภัย วงศาไม่อาจไป จำกล้ำกลืนแต่น้ำตา

    ปากดีประสงค์ร้าย ทำลายขาดราชพลัง ทุกข์ตรมสุดสิ้นหวัง เหมือนเปรียบดังเทพนิยายเกิดสู้อย่างไร้สมอง ทหารแลมองอ่อนกำลัง ข้างบ้านวาจาดัง ทลายรั้วทวงที่ดิน

    ขวานทองดั่งมะพร้าว ชนกลุ่มพาลแบ่งแยกกิน ด้ามขวานสูญเสียสิ้น จากนั้นกินรอบทิศทางคนนำคือคนร้าย แอบทำลายเมืองโสภา มหันต์ภัยไสสู่ฟ้า ข้ามแพงมาลงกลางใจ เมืองอมรหลอมละลาย สมดั่งใจท่านประธาน ลวงคนทั่วแดนหล้า ให้หลงตามความคิดตน

    โดย : หนุมาน ผู้นำสาร
    วันที่ : 02/07/2006 17:06:19

    ที่มา http://www.naewna.com/viewtopic.asp?KID=490&RID=1

    "สีเขียว"

    แต่ในเร็วๆนี้อยากจะให้ระวัง.. “สีเขียวเสียดสี”...กันอย่างรุนแรงจะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดและผลจากการเสียดสีกันในครั้งนี้จะเกิด “ประกายไฟ” ขึ้นอย่างน่ากลัว...บ้านเมืองคงต้องบอบช้ำที่เกิดจากการ “เสียดสี” กันของ “สีเขียว”...เศรษฐกิจช้ำหนักขึ้น...ตลาดหุ้นสะเทือนอย่างรุนแรง... “คนเป็นใหญ่”จะเสียชีวิต...

    “ตะขาบเหล็ก”จะวิ่งพล่านทั่วเมือง...เสียงปืนดังไปทั่ว...เสียงระเบิดเกิดขึ้นเป็นแห่งๆ กองกำลังไม่ปรากฏสัญชาติจะร่วมกับแดงไม่ธรรมดา...ผู้คนจะล้มตาย...บุคคลระดับ VIP จะบินออกนอกประเทศ...ความชุลมุนวุ่นวายจะเกิดไปทั่ว...มองหาคน “รูปหล่อ” ไม่เห็นไม่รู้ใครเป็นใคร...หากมัวแต่ทะเล่อทะร่าก็จบสิ้นทั้งอินทรีย์...ตาอินกะตานา...มัวแต่ทะเลาะกัน...ตาอยู่มาเดี๋ยวเดียวคว้าพุงปลาไปกิน

    หมอนิด (นายกิจจา ทวีกุลกิจ)

    ที่มา http://konthaiuk.com/cgi-bin/smf/index.php?topic=74.0

    คำทำนายจากพระเกจิอาจารย์ท่านหนึ่ง

    เรื่องราว จากนี้ไป ไม่ง่ายนัก การเมืองจัก วุ่นวาย ไม่หน่ายหนี
    เศรษฐกิจ การเงินซ้ำ กระหน่ำอีกที ประชาชี สิหนีพราก ลำบากลำบน

    ต่อๆไป ไทยอาจแตก เป็นเสี่ยงๆ เพราะคนเอียง เลี่ยงหลับ จนสับสน
    แผ่นดินเรา เขาเข้ายึด เป็นของตน ประชาชน ต้องหลบลี้ เพราะมีภัย

    เสือขาวเหลือง เข้ามาหา กระยาหาร เข้ารุกราน เราตายเป็นเบือ จะเชื่อไหม
    ส่วนที่เหลือ จะอยู่รอด กันอย่างไร คิดๆไป ใจก็เศร้า ไฟเผาทรวง

    วิบากกรรม นำชักพา ให้มาเกิด ในยุคนี้ ที่เปิดกรรม อันใหญ่หลวง
    กระแทกคน ที่ไร้ศีล ที่หลอกลวง ไม่พ้นบ่วง ต้องรับหมด ตามกฏแห่งกรรม

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่.3906/page-809

    คำทำนายในคัมภีร์ไบเบิ้ล ที่เกี่ยวกับไทย

    Thailand - 4 Elul" codes
    http://exodus2006.com/Vrej/Thai.htm

    A sound of terrors is in his ears : in prosperity the destroyer shall come upon him.

    ตีความได้ว่า ผู้เขียน ใช้คำว่า "him" แทนคำว่า "Thailand" หรือหมายถึงประเทศไทยนั่นเอง ส่วน terror แปลว่า ความน่าเกรงขาม แต่เติม s ด้วย จึงหมายถึง มีความน่าเกรงขาม (น่ากลัว) หลายอย่าง prosperity = ความมั่งคั่ง

    เพราะฉะนั้น ประโยคข้างบน จึงแปลได้ว่า "ประเทศไทยจะได้ยินเสียงแห่งความน่าเกรงขามที่หูของเขา : และเพราะความมั่งคั่งจะทำให้มีพวกทำลาย (destroyer) มายังประเทศไทย"

    ตีความได้ว่า :"ในอนาคตคนในประเทศไทยจะต้องพบกับความน่าสะพรึงกลัว หลังจากที่ประเทศไทยพบกับความมั่งคั่ง ในอนาคตไทยจะเจอทองคำ น้ำมัน เพชรนิลจินดามากมาย เรียกได้ว่ามีทรัพยากรธรรมชาติผุดขึ้นมาให้เห็นมากมาย แล้วต่างชาติก็จะส่งกองทหารเข้ามายึดเอาเป็นของตนเอง"

    คำทำนายนี้บังเอิญสอดคล้องกับคำทำนายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำด้วย! ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเริ่มเกิดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2549 เป็นต้นไป

    โดยคุณ ปั้น วันที่ 02-11-2005 10:43:00

    ที่มา http://www.buddhapoem.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2009
  12. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]
    สงบ..และสวยงามมากครับ​
     
  13. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>สั่งปลดป้ายสำนักสงฆ์บังคับนร.นอนในโลงศพ-ปล่อยงูเหลือมรัดเกือบตาบอด-สติแตก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดพิจิตรสั่งผลดป้าย-ยุบสำนักสงฆ์บ้านสะพานยาวสั่งเด็กนักเรียน นั่งปฏิบัติธรรม นอนในโลงศพ จนสติแตก 13 คน วางงูเหลือมไว้บนตักถูกรัดจนตาเกือบบอด

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2552 นายณรงค์ หอมมาลัย นาย อำเภอ บางมูลนาก จ. พิจิตร เปิดเผยว่า

    ได้รับคำสั่งจาก นายสมชัย หทยตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ให้เดินทางไปร่วมกับ นาย ประพันธ์ ตันวัฒนา ผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดพิจิตรพร้อมด้วยเจ้าคณะอำเภอบางมูลนาก เข้าไป ตรวจสอบ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่ โรงเรียนบางมูลนากภูมิ พิทยาคม ได้นำเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ .4 เข้าฝึกอบรมฟื้นฟูปฏิบัติธรรมนักเรียนเข้าใหม่ ที่สำนักสงฆ์ ปฏิบัติธรรม บ้านสะพานยาว หมู่ที่ 11 ตำบลเนินมะกอก อำเภอบางมูลนาก จ. พิจิตร การฝึกอบรม พิสดาร ทางโรงเรียนปล่อยให้ทางวัดจัดให้นักเรียนชายหญิง นุ่งขาวห่มขาว ลอยน้ำ กลางคืน ทางสำนักสงฆ์ ยังให้นั่งปฏิบัติธรรม ให้เด็กนักเรียน นอนในโลงศพ ให้อยู่กับงูเหลือม ซึ่งมีเด็กนักเรียนสติแตก 13 คนถูกงูรัด บาดเจ็บ

    นายณรงค์ กล่าวอีกว่า

    จากการตรวจสอบพบว่า สำนักสงฆ์แห่ง นี้ ได้ให้นักเรียน นอนในโลงศพจริง ยังเอางูจริง มาฝึกสมาธิเด็กจนงูรัดคอเด็ก สั่งให้ พระอาจารย์ สายฝน ปณุฑิโต ผู้ดูแลสำนักสงฆ์ดังกล่าวหยุดการปฎิบัติธรรมอย่างนี้กับเด็ก เพราะว่าเด็กนักเรียนไม่มีวุฒิภาวะที่จะรับการทดสอบในการปฎิบัติธรรมแบบนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นด้วยกับโรงเรียนให้นักเรียนมาปฎิบัติธรรมอย่างนี้ เหมือนเป็นการทำร้ายจิตใจเด็กอย่างมาก

    นายณรงค์ กล่าวอีกว่า

    สำหรับการจัดการสอบโรงเรียนขึ้นอยู่กับเขตพื้นที่การศึกษาว่าจะตั้งกรรมการสอบอย่างไร เพราะการนำนักเรียนไปปฎิบัติธรรมจะต้องมีอาจารย์ ควบคุมดูแล ไม่เข้าใจว่าปล่อยให้พระทำอย่างนี้กับเด็กได้ อย่างไร เรื่องนี้ นายสมชัย หทยตันติ ผู้ว่าราชการเองก็ได้ให้ ผอ. เขตพื้นที่การศึกษาที่ 2 ชี้แจงอย่างเร่งด่วน



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ทางด้านนายประพันธ์ ตันวัฒนา ผอ. สำนักพุทธศาสนา จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า

    เจ้าคณะจังหวัดพร้อมด้วยเจ้าคณะอำเภอบางมูลนากและนาย อำเภอลงไป ที่สำนักสงฆ์ ปฏิบัติธรรม เนินมะะกอก จุดเกิดเหตุที่โรงเรียนบางมูลนากภูมิพิทยา พาเด็กนักเรียนไปนั่งสมาชิจนงูเหลือมรัดจนได้รับบาดเจ็บ และได้มีการประชุมคณะกรรมการสงฆ์ ได้มีมติออกมาว่าจะยุบสำนักสงฆ์แห่งนี้ซึ่งขึ้นอยู่กับวัดชัยมงคล อำเภอบางมูลนาก คืนให้กับวัดชัยมงคล ไป และสั่งให้ปลดป้ายออก คืนไปให้กับวัดชัยมงคลอีกด้วย

    นาย ประพันธ์ กล่าวอีกว่า

    พระอาจารย์สายฝน ที่ดูแลสำนักสงฆ์ แห่งนี้ขอย้ายสำนักสงฆ์ ไปตั้งแห่งใหม่ ซึ่ง ทางสำนักงานพุทธศาสนา แห่งชาติ และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตรคงต้องดูอย่างเคร่งคัดว่าจะมีการอนุญาตให้ ตั้งสำนักสงฆ์แห่งใหม่หรือไม่

    ทางด้าน นางเพียงระวี ต๊ะผัด อายุ 41 ปี แม่ นางสาว รติรถ ต๊ะผัด นักเรียน ม.4 ที่ถูกงูรัด กล่าวว่า

    ไม่พอใจทางโรงเรียนบางมูลนากภูมิมาก ที่พาลูกสาวไปนั่งปฎิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์จนถูกงูรัดตาแทบจะบอด อีกทั้งยังไม่พอใจ ที่ ทางพระสายฝน ซึ่งเป็นพระที่ดูแลสำนักสงฆ์ แห่งนี้ออกไปให้ข่าวกับสื่อบางฉบับว่า ลูกสาวของตนสมัครใจไปนั่งปฎิบัติธรรมเอง ทั้งที่โรงเรียนนำไป นั่งปฎิบัติธรรมในสำนักสงฆ์แห่งนี้ เท่าที่ทราบลูกสาวตนเองถูกบังคับให้เข้าไปในกรงอยู่กับงู

    "พระสายฝน ยังออกมาพูดว่า งูเหลือมนั้นเป็นงูปลอมไม่ใช่งูจริง ถามหน่อยเถอะว่าถ้างูปลอมลูกสาวของตนเองจะเป็นถึงขนาดนี้นอกจากนี้ยังกล่าวหาว่าลูกสาวตนเองเป็นโรคเลือด อีกด้วย ลูกสาวตนเองตั้งแต่เกิดไม่เคยเป็นโรคเลือดอะไรทั้งสิ้น เป็นพระอย่าพยายามโกหก ซึ่งสภาพจิตใจลูกสาว ยังหวาดผวา ไม่อยากไปโรงเรียน ตนเองไม่อยากให้ลูกอยู่ในสภาพนี้ขณะนี้ตนเองและสามีคือนาย เพียร ได้เตรียมปรึกษาญาติ ซึ่งเป็นพี่ชาย ว่าจะนำเรื่องนี้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บางมูลนาก นอกจากนี้ยังฝากไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรให้ช่วยตรวจสอบ ในเรื่องนี้ด้วยไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนหรือ ทางสำนักสงฆ์ อีกทั้งโรง"นางเพียงระวี กล่าว

    ทางด้าน นางสาว รติรถ ต๊ะผัด นักเรียนสาว ม4. ที่ถูกงูเหลือมรัดเล่านาทีระทึกให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า

    ทางโรงเรียน ได้ให้นักเรียนที่เข้าใหม่ชั้น ม.4 ไปนั่งปฎิบัติธรรมที่นักนักสงฆ์สะพานยาว ตำบล เนินมะกอก 3 วัน 2 คืนตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม ปรากฏว่าทางพระอาจารย์ สายฝนได้ให้ พวกตนเลือกว่าจะไปนั่งกับโลงศพ หรือจะไปอยู่ในกรงงูเหลือม ซึ่งตนเองก็เลยเลือกที่จะอยู่ในกรงงูเหลือมเพราะกลัวเนื่องจากเห็นเพื่อนๆ ที่ไปนั่งในโลงศพ กลับออกมาสติแตกหลอนจนร้องหวีดว่ากลัวผีเหมือนคนบ้าจนน่ากลัว ซึ่งเป็นโลงศพจริง ไม่ใช่โลงศพปลอม พอถึงเวลา 23.00 น. มีแม่ชี ใช้ผ้ามัดตา จากนั้นให้ตนเองนั่งท่อง "พองหนอยุบหนอ" 4 คำ นำงูเหลือมขนาดใหญ่มาวางบนตัก จากนั้นงูเหลือมได้เลื้อยขึ้นมาบริเวณแขนถึงลำคอ และรัดลำคอจนหายใจไม่ออกแทบจะขาดใจตาย จึงได้สติร้องให้คนช่วยนานกว่า 10 นาที ตอนนั้นก็ถูกบังคับให้นั่งปฎิบัติธรรมต่อ ซึ่งเจ็บที่บริเวณใบหน้าลำคอดวงตาเป็นอย่างมาก จนกระทั้งรุ่งเช้าเพื่อนมาเห็นเข้าจึงได้ไปตามอาจารย์มาและถึงได้ไปหาหมอ ซึ่งก่อนจะไปหาหมอ พระอาจารย์ สายฝนบอกว่า ไม่ต้องไป อาการอย่างนี้เข้าญาณแล้ว 3-7 วันก็หาย

    ทางด้าน พระอาจารย์ สายฝน ปณุฑิโต ผู้ดูแลสำนักสงฆ์ ปฏิบัติธรรมวัดชัยมงคล บ้านสะพานยาว กล่าวว่า

    ” เรื่องทางโรงเรียน บางมูลนากภูมิได้พาเด็กนักเรียนม4 มานั่งปฎิบัติธรรมแล้วเกิดสติแตก บางคนถูกงูรัดเป็นเพราะ อุบัติเหตุเพราะเด็กมีเคราะห์อยู่แล้ว ส่วน ใบหน้าที่มีแผลเขียวนั้น น่าจะถูกรถคว่ำมา ซึ่งไม่เกี่ยวกับงู กรณีนักเรียนที่สติแตก ต้องใช้เวลา 5-7 วัน ต้องอยู่กับพระ จึงจะหายเป็นปกติเพราะว่า มีขั้นตอนในการบัดรักษา ส่งงูเหลือมนั้นมีทั้งงูปลอมงูจริง เหตุที่ใช้งูเพราะจะใช้ฝึก จิตร ให้เข็มแข็ง เท่านั้น อีกทั้งไม่ได้บังคับเด็กแต่เป็นความสมัครใจ

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>บาระกู่ บุหรี่ผลไม้ ภัยวัยโจ๋</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่แสดงความเป็นห่วงกลุ่มวัยรุ่นไทย ยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับการสูบหรี่เถื่อน ที่ให้ผลร้ายแรงกว่าบุหรี่ธรรมดา แนะรัฐกวดขัน

    องค์การอนามัยโลกกำหนดให้วันที่ 31 พ.ค.ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก โดยปีนี้ กำหนดคำขวัญว่า Tobacco Health Warnings เพื่อกระตุ้นให้รัฐบาลของทุกประเทศ ให้คำเตือนบนซองบุหรี่ อย่างมีประสิทธิภาพ สื่อถึงพิษภัย และอันตรายที่แท้จริง จากการใช้ยาสูบ ทั้งต่อผู้ที่สูบบุหรี่ และผู้ที่ได้รับควันบุหรี่มือสอง

    [​IMG]

    ในแต่ละปี มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับปีนี้ ที่มีการเปิดเผยข้อมูลจาก รศ.ดร.จินตนา ยูนิพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการเลิกสูบบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ หรือ สายด่วน 1600 สายเลิกบุหรี่ ระบุว่า

    จากการวิเคราะห์ข้อมูลการใช้บริการของผู้เลิกบุหรี่ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย. มีผู้ใช้บริการ 2,383 คน เป็นเพศชาย 1,942 คน หรือ 81.5 % เพศหญิง 439 คนหรือ18.4% โดยรับบริการอายุมากที่สุด คือ 82 ปี ที่น่าตกใจคือ อายุน้อยที่สุด เป็นเด็กอายุ 9 ขวบ ที่เลียนแบบเพื่อนในโรงเรียน และคนใกล้ชิด

    ขณะที่ ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า

    แนวโน้มในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อัตราการสูบบุหรี่ของกลุ่มวัยรุ่นนั้นยังคงที่ และยังไม่มีทีท่าจะลดลง อีกทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในกลุ่มวัยรุ่นผู้หญิง หากแยกเป็นกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่กรุงเทพฯ กับต่างจังหวัด การสูบบุหรี่ของกลุ่มวัยรุ่นในต่างจังหวัด ยังไม่มีแนวโน้มลดลง เท่ากับกลุ่มวัยรุ่นในกรุงเทพฯ

    ศ.นพ.ประกิต กล่าวต่อไปว่า

    ทั้งนี้ เนื่องจากมาตรการควบคุมยาสูบยังเข้าไปไม่ถึง เช่น การห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ อีกทั้งยังนิยมสูบบุหรี่ที่มวนเอง ซึ่งไม่บรรจุซองที่เหมือนบุหรี่ยี่ห้อทั่วๆ ไป ดังนั้น จึงไม่มีการติดภาพคำเตือน นอกจากนั้น บุหรี่ประเภทนี้ ยังมีราคาถูก เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบ จากการปรับขึ้นภาษีบุหรี่ ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความรู้อย่างเพียงพอ เกี่ยวกับโรคร้ายต่างๆ ที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ทำให้ตัวเลขการสูบบุหรี่ของกลุ่มวัยรุ่นชาย ในพื้นที่กรุงเทพฯ อยู่ที่ 23-24% แต่ตัวเลขของกลุ่มวัยรุ่นชาย ในพื้นที่ต่างจังหวัด อยู่ที่ 40%

    "อีกปัญหาที่กำลังจับตาอย่างใกล้ชิด คือ การระบาดของบุหรี่เถื่อน เช่น บาระกู่ บุหรี่ชูรส บุหรี่ผลไม้ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ไม่มีการปราบปรามอย่างจริงจัง ในกรุงเทพฯ ผู้ค้าสามารถวางขายอุปกรณ์สูบบาระกู่ ได้อย่างไม่ผิดกฎหมาย ขณะที่ยาเส้นที่ใช้ในการสูบถูกห้ามนำเข้า เกิดความไม่สอดคล้องกัน เนื่องจากผู้เสพยังสามารถหาซื้ออุปกรณ์สูบได้ และการลักลอบหาซื้อยาเส้น ก็ไม่ใช่เรื่องยาก" เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่กล่าว

    ศ.นพ.ประกิต กล่าวต่อไปว่า

    ความไม่รู้ของผู้เสพในเรื่องบาระกู่ ยังทำให้เกิดการเสพติดได้ง่าย เนื่องจากผู้เสพคิดว่าไม่มีอันตราย เพราะบาระกู่ผสมกากผลไม้ และมีกลิ่นหอม อีกทั้งกระบวนการสูบต้องผ่านน้ำก่อน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว สมุนไพรหรือผลไม้ที่ถูกเผา จะเกิดสารก่อมะเร็งขึ้น รวมทั้งระดับนิโคติน และก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ในยาเส้นเหล่านี้ ไม่ได้น้อยกว่าบุหรี่ทั่วไป และอาจมีมากกว่า

    สำหรับสิ่งที่ร้ายกว่าบาระกู่ คือ พวกบุหรี่ชูรส และบุหรี่สมุนไพรนั้น ศ.นพ.ประกิต กล่าวว่า

    บุหรี่เหล่านี้คือยาเส้นที่ผสมกลิ่นผลไม้ ทำให้กลุ่มวัยรุ่นเข้าใจผิดว่าไม่มีอันตราย เนื่องจากมีรสชาติหวาน หอม ขณะที่ซองบุหรี่ กลิ่น และสี ถูกปรุงแต่งให้เหมือนผลไม้เมื่อสูบแล้วจึงติดได้ง่าย แต่บุหรี่เหล่านี้คือสิ่งผิดกฎหมาย หาซื้อยาก เมื่อเสพติดแล้ว แต่ไม่สามารถหาซื้อได้ ผู้เสพจึงเปลี่ยนมาสูบบุหรี่ธรรมดา ที่วางขายอย่างถูกกฎหมายแทน ทำให้เกิดการติดบุหรี่อย่างหนักไปโดยปริยาย กลุ่มนักวิจัยและนักวิชาการที่ศึกษาเรื่องนี้ จึงเปรียบบุหรี่ชูรส และบุหรี่สมุนไพร เป็นเสมือน starter ที่นำไปสู่การติดบุหรี่ธรรมดา ในเวลาต่อมา

    [​IMG]

    อย่างไรก็ตาม วิธีควบคุมและนำไปสู่การลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ ที่ได้ผลมากอีกหนึ่งวิธี คือ

    การปรับขึ้นภาษีบุหรี่ ซึ่ง ศ.นพ.ประกิตสนับสนุนแนวทางนี้ โดยเห็นว่า เป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ในการควบคุมยาสูบ และลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ มากกว่าการรณรงค์ห้ามสูบ การติดภาพคำเตือน และการห้ามสูบในที่สาธารณะ อีกทั้งยังเป็นมาตรการที่ธนาคารโลกแนะนำ และผ่านการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง

    ศ.นพ.ประกิต กล่าวต่อว่า

    ในส่วนของประเทศไทยนั้น ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา มีการวิจัยที่พบว่า ในจำนวนผู้สูบบุหรี่ลดลง 4 ล้านคน มาจากการปรับขึ้นภาษีบุหรี่ ที่ส่งผลต่อการขึ้นราคาบุหรี่ 60% ขณะที่เป็นผลจากการห้ามโฆษณา 20% และมาจากการรณรงค์เพียง 7% ดังนั้น ผลการวิจัยนี้ ก็สอดคล้องกับการดำเนินการของทั่วโลก ที่ระบุว่า การปรับขึ้นภาษีเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

    ด้านการควบคุมการระบาดของบุหรี่เถื่อนนั้น นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า

    ได้หารือร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มีข้อสรุปว่า เดือน มิ.ย. จะเสนอการควบคุมการบริโภคบุหรี่ ทั้งบุหรี่เถื่อน และบุหรี่ถูกกฎหมายทั่วไป ให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการ สสส.จะตั้งคณะทำงาน 2 ชุด เพื่อแก้ไขปัญหานี้

    นพ.พฤฒิชัย กล่าวต่อไปว่า

    คณะกรรมการชุดแรก จะเป็นคณะกรรมการอำนวยการ ทำหน้าที่กำหนดนโยบายแก้ไขปัญหา ขณะที่คณะกรรมการอีกชุด จะเป็นคณะทำงานระดับปฏิบัติการ นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ทั้งการปราบปรามลักลอบนำเข้าบุหรี่เถื่อน ตามแนวชายแดน หรือกองทัพมด การรณรงค์ให้ประชาชนเห็นโทษของบุหรี่ และการบังคับใช้กฎหมาย อย่างเป็นรูปธรรม

    ขณะเดียวกัน รศ.ดร.จินตนา ยูนิพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการเลิกสูบบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ หรือ สายด่วน 1600 สายเลิกบุหรี่ ได้รวบรวมข้อมูลไว้ว่า

    ในประเทศไทยมีจำนวนบุหรี่ที่สูบเฉลี่ย 15.38 มวนต่อวัน มากที่สุดสูบ 90 มวนต่อวัน และน้อยที่สุด 2 มวนต่อวัน โดยผู้สูบบุหรี่ที่มารับบริการเลิก ให้เหตุผลว่า ต้องการเลิกเพื่อครอบครัว 48.6 % เพื่อสุขภาพ 45.9 % และสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย 35.1 %
    โดยคนกรุงเทพฯ สูบบุหรี่ 684,249 คน เฉลี่ยสูบ 10.21 มวนต่อคนต่อวัน คิดเป็นจำนวนบุหรี่ 6,986,386 มวน หรือ 348,977 ซองต่อวัน และมีคนไทยต้องเสียชีวิตชั่วโมงละ 4.7 คน ขณะที่ภาครัฐเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้สูบบุหรี่ มากกว่า 5 หมื่นล้านบาท

    ปัจจุบัน ผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่มีทางเลือกหลายทาง นอกจากวิธีเดิมๆ ที่เคยใช้กันมา โดย ผศ.กรองจิต วาทีสาธกกิจ ที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า

    ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) พบว่า มีสารในวิตามินซี ที่ช่วยลดความอยากของนิโคตินได้ และช่วยฟื้นฟูร่างกายที่ทรุดโทรม ให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า จึงมีการนำมาใช้ช่วยเลิกบุหรี่ โดยเทคนิคการรับประทานผลไม้รสเปรี้ยว ที่มีวิตามินซีสูง โดยเฉพาะมะนาว เมื่อนำไปใช้แล้ว มีประสิทธิภาพได้ผลดีมาก เนื่องจากมะนาวมีผลต่อการทำงาน ของต่อมรับรสขม ทำให้รสชาติของบุหรี่เปลี่ยนไป

    [​IMG]

    ส่วนวิธีกินมะนาวช่วยเลิกบุหรี่นั้น ผศ.กรองจิต กล่าวว่า

    ต้องหั่นมะนาวเป็นชิ้นเล็กๆ ให้มีเปลือกติดมาด้วย ขนาดเท่าหัวแม่มือ เมื่อมีความรู้สึกอยากสูบบุหรี่ ให้กินมะนาวแทน โดยอมแล้วค่อยดูดความเปรี้ยว จากนั้นเคี้ยวเปลือกช้าๆ นาน 3-5 นาที จะมีผลทำให้ลิ้นขม เฝื่อน จากนั้นดื่มน้ำ 1 ใน 4 แก้วนอกจากช่วยลดความอยากนิโคตินแล้ว เมื่อสูบบุหรี่จะทำให้รสชาติบุหรี่เปลี่ยนไป มีรสขมจนไม่อยากสูบ นอกจากนี้ ยังสามารถกินมะนาว หรือผลไม้ชนิดอื่น ที่มีความเปรี้ยวมากๆ ได้ทุกครั้ง ที่เกิดความอยากบุหรี่ แต่เมื่อเทียบกันแล้ว มะนาวจะได้ผลดีที่สุด

    ผศ.กรองจิต กล่าวต่อว่า

    การเลิกบุหรี่ ด้วยการกินมะนาว ส่วนใหญ่จะสามารถเลิกบุหรี่ได้ ภายใน 2 สัปดาห์ และไม่อยากสูบอีก ถือว่าชนะนิโคตินได้ มีการนำไปทดลองกับนักเรียนหลายคน จะรู้สึกว่าสูบบุหรี่แล้วไม่อร่อย รสชาติไม่เหมือนเดิม ทำให้ไม่อยากสูบบุหรี่อีก อย่างไรก็ตาม แม้อาการทางกาย คือ ความอยากจะหมดไป แต่อาการทางใจบางครั้งจะยังมีอยู่ เช่น เศร้า หงุดหงิดเหมือนคนอกหัก คนรอบข้างต้องให้กำลังใจ และตั้งใจเลิกอย่างเด็ดขาด จะสามารถเลิกได้อย่างแน่นอน


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2009
  14. Sawiiika

    Sawiiika เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,811
    ค่าพลัง:
    +1,557
    <TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD><CENTER>
    </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

    ข่าวนี้โหดจังเลย - -" ดูสภาพเด็ก เหมือน ผี ไปแล้ว ..... โห๊ ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2009
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    เจดีย์ถล่มในพม่า มีผู้เสียชีวิต 6 คน

    [​IMG]

    พม่า 31 พ.ค. - เจดีย์เก่าแก่ในพม่าเกิดพังถล่มลงมาทับร่างคนงานที่กำลังทำการซ่อมแซม เสียชีวิตไป 6 คน

    เจดีย์เก่าแก่ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองย่างกุ้งได้พังถล่มลงมาเมื่อวานนี้ ขณะที่กำลังมีการบูรณะซ่อมแซมโดยเจ้าหน้าที่ของกองทัพเรือ อุบัติเหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 6 คน และมีผู้บาดเจ็บอีก 30 คน ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่ายังคงมีผู้คนจำนวนหนึ่งติดค้างอยู่ใต้กองซากปรักของเจดีย์และนั่งร้านที่พังถล่มลงมา

    เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ภริยาและสมาชิกครอบครัวของพลเอกตาน ฉ่วย ผู้นำพม่า เพิ่งเดินทางมาประกอบศาสนพิธีที่เจดีย์แห่งนี้ สำหรับสาเหตุที่ทำให้เจดีย์พังถล่มยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เคยมีการตรวจพบร่องรอยความเสียหายของเจดีย์แห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2549. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-31 14:11:49

    รถบัสตกเหวในเปรู เสียชีวิต 26 บาดเจ็บ 18 คน

    [​IMG]

    เปรู 31 พ.ค. - เกิดอุบัติเหตุรถบัสพุ่งตกเหวในเปรูทำให้มีผู้เสียชีวิต 26 คน และบาดเจ็บเกือบ 20 คน

    เจ้าหน้าที่ตำรวจเปรู เปิดเผยว่า อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น โดยรถบัสของบริษัทขนส่งเอกชนได้เสียหลักพุ่งตกลงไปในเหวลึกข้างทางในเมืองซายาปุลโล ทางภาคเหนือ ขณะกำลังเดินทางมุ่งหน้าไปยังเมืองทรูจิลโล เมืองหลวงของแคว้นลา ลิเบอตาด

    เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 18 คน ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีครูหลายคนรวมอยู่ด้วย ตำรวจระบุว่าสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้น่าจะเป็นเพราะความประมาทของคนขับรถ หรืออาจขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนด. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-31 11:25:55

    มอนเตเนโกรหิมะตกช่วงอากาศร้อนจัด

    [​IMG]

    มอนเตเนโกร 31 พ.ค. - พื้นที่ทางตอนเหนือของมอนเตเนโกร เผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนอย่างหนัก จนถึงขั้นหิมะตก ทั้งที่ในช่วงนี้สภาพอากาศร้อนจัด

    หิมะตกปกคลุมตามเนินเขาหลายแห่งรอบเมืองซาลจัค ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,456 เมตร ใกล้กับเทือกเขามูร์มิเตอร์ ทางเหนือของมอนเตเนโกร ถือเป็นปรากฏการณ์ผิดปกติ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทั่วพื้นที่เผชิญกับอากาศร้อนจัด

    ทางด้านสื่อในพื้นที่รายงานเมื่อวานนี้ว่า อุณหภูมิทั่วบริเวณได้ลดลงเหลือเพียง 2 องศาเซลเซียส หรือประมาณ 32 องศาฟาเรนไฮต์ ประชาชนต้องออกมากวาดหิมะที่ปกคลุมทั่วบริเวณจนเป็นสีขาวโพลน. - สำนักข่าวไทย

    2009-05-31 02:17:27

    ฝนตกหนักที่จีน ทำให้น้ำท่วมในหลายพื้นที่

    [​IMG]

    จีน 30 พ.ค.-ภาคกลางและภาคใต้ของจีน มีฝนตกกระหน่ำอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน

    ถนนหลายสายในเขตปกครองตนเองกว่างซีต้องจมอยู่ใต้น้ำ หลังเกิดฝนตกหนักตลอดสัปดาห์ เช่นเดียวกับมณฑลหูเป่ย์ ทางตอนกลาง ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่เขตเมืองต่างๆ 20 เขตทำให้เกิดโคลนถล่ม สร้างความเสียหายให้กับสิ่งปลูกสร้าง ชาวบ้านได้รับผลกระทบ 850,000 คน หน่วยงานควบคุมและป้องกันน้ำท่วม ประกาศเตือนว่าอ่างเก็บน้ำ 30 แห่งในพื้นที่ เก็บกักน้ำไว้จนถึงปริมาณสูงสุดที่รับได้แล้ว

    ขณะที่หน่วยงานของทางการเผยว่า น้ำท่วมที่เกิดจากฝนตกหนัก ได้สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่เพาะปลูก หลายแสนไร่ บ้านเรือนเสียหายเกือบพันหลัง น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน และสูญหายอีก 6 คน.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-30 15:11:41

    เหยื่อไซโคลนบังกลาเทศเผชิญวิกฤติด้านมนุษยธรรม

    [​IMG]

    ธากา 30 พ.ค.- ชาวบังกลาเทศกว่า 1 ล้านคน กำลังเผชิญวิกฤติด้านมนุษยธรรม หลังไซโคลนไอลาพัดเข้าพื้นที่ทางใต้ของประเทศ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินเดีย เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 237 คน

    โฆษกองค์กรการกุศล แคร์ ของสหรัฐ เผยว่าทางการบังกลาเทศรีบจัดส่งความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัยซึ่งกำลังขาดแคลนน้ำดื่ม ถือเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้ และแม้ไซโคลนไอลาจะไม่ใช่ไซโคลนที่มีกำลังแรงมาก แต่ก็ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในบังกลาเทศ จนเกิดวิกฤติด้านมนุษยธรรมขึ้นมา เนื่องจากแหล่งน้ำดื่มน้ำกินถูกทำลายหมดสิ้นจากภัยน้ำท่วม ผู้ประสบภัยต้องทนอยู่โดยไม่มีอาหารและน้ำดื่มเพียงพอ

    ส่วนองค์กรการกุศล อ๊อกซ์แฟม ของอังกฤษ เผยว่า ชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัยหนักที่สุด ต้องจำใจอพยพไปอยู่ที่อื่น เพราะถิ่นที่อยู่เดิมถูกน้ำทะเลพัดเข้ามาจนท่วม สถานการณ์มีแต่จะแย่ลงในแต่ละวัน จนกลายเป็นวิกฤติด้านมนุษยธรรม ส่งผลกระทบกับประชาชนกว่า 1 ล้านคนในบังกลาเทศขณะที่ระดับน้ำก็ยังไม่มีวี่แววจะลดลง แม้จะล่วงเข้าสู่วันที่ 5 แล้ว หลังถูกไซโคลนพัดถล่ม. - สำนักข่าวไทย

    2009-05-30 17:14:29

    วาฬ 55 ตัวเกยตื้นที่แอฟริกาใต้

    [​IMG]

    หาดคอมเมทเจีย 31 พ.ค.- สถาบันกู้ภัยทางทะลแห่งชาติของแอฟริกาใต้แจ้งว่า มีวาฬ 55 ตัวเกยตื้นที่หาดคอมเมทเจียใกล้เมืองเคปทาวน์เมื่อวันเสาร์ เจ้าหน้าที่จำใจต้องฆ่าวาฬบางส่วนเพราะไม่สามารถนำกลับมหาสมุทรได้ทุกตัว

    สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทางทะเลและอาสาสมัครช่วยกันนำวาฬกลับลงมหาสมุทรได้มากกว่า 20 ตัวท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายและมีคลื่นสูง ส่วนวาฬที่เหลืออีกราว 30 ตัวไม่สามารถช่วยได้ทันและจำใจต้องจบชีวิตพวกมันด้วยการยิงหัวเพื่อไม่ให้ทรมาน ด้านเจ้าหน้าที่สถาบันเผยว่า ยังไม่สามารถยืนยันจำนวนวาฬที่ต้องจำใจฆ่าได้เพราะภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น

    การช่วยชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบาก เจ้าหน้าที่พยายามราดน้ำรักษาความชื้นให้วาฬตัวใหญ่และตัวเล็กที่เกยตื้นอยู่บนหาดและใช้เครื่องขุดดินขนย้ายลงมหาสมุทร แต่วาฬบางตัวถูกคลื่นสูงซัดกลับมาเกยตื้นอีก ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเหตุใดวาฬเริ่มมาเกยตื้นตั้งแต่เวลา 07.30 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 12.30 น.วันเสาร์ตามเวลาในไทย นับเป็นครั้งแรกที่มีวาฬมาเกยตื้นที่หาดแห่งนี้เป็นจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-31 11:55:29

    ไข้หวัดใหญ่ 2009 ระบาดทั่วภูมิภาค-ชิลีติดเชื้อ 250 ราย

    [​IMG]

    ซานติอาโก 31 พ.ค. - ทางการชิลีรายงานผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มขึ้นอีก 26 ราย เมื่อวานนี้ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในชิลีมีจำนวนถึง 250 ราย ขณะที่เชื้อไวรัสระบาดไปทั่วภูมิภาคอเมริกา

    เจ้าหน้าที่สาธารณสุขชิลี กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในกรุงซานติอาโก ซึ่งมี 2 ราย ที่อาการทรุดหนักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข เกรงว่าไวรัสพันธุ์ใหม่จะระบาดไปทั่วพื้นที่ช่วงฤดูหนาวที่กำลังมาถึง

    ส่วนที่อาร์เจนตินา มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 20 ราย และมียอดรวม 100 ราย และที่โคลอมเบียเพิ่มตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็น 20 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่กัวเตมาลา ยืนยันผู้ติดเชื้อเพิ่ม 4 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมเป็น 11 ราย .- สำนักข่าวไทย

    2009-05-31 09:51:31

    ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ลามถึงเวียดนามแล้ว

    [​IMG]

    ฮานอย 31 พ.ค. –เวียดนามพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรกแล้ว ระบุเป็นนักศึกษาเพิ่งเดินทางกลับจากสหรัฐ

    แพทย์สถาบันปาสเตอร์ระบุว่า ผลตรวจเบื้องต้นจากชายวัย 23 ปีซึ่งมีอาการไข้หลังเพิ่งเดินทางกลับจากสหรัฐเมื่อวันที่ 25 พ.ค.โดยโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อนในนครโฮจิมินห์ระบุพบการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด เอ เอช 1 เอ็น 1 ซึ่งสถาบันปาสเตอร์จะตรวจยืนยันผลอีกครั้งในวันนี้ และว่า ขณะนี้ผู้ติดเชื้อยังคงมีอาการทรงตัวและมีไข้ต่ำ

    ด้านองค์การอนามัยโลกระบุว่า มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่แล้วราว 15,510 คน ในจำนวนนี้ผู้มีเสียชีวิตอย่างน้อย 99 ราย ขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญยังได้เตือนให้ทางการแต่ละประเทศโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียเตรียมพร้อมมาตรการเร่งด่วนเพื่อป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ซ้ำซ้อนในคนไข้ที่ติดไวรัสไข้หวัดนกเอช 5 เอ็น 1.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-31 11:25:25

    สหรัฐ ส่งเครื่องบินรบเอฟ-22 ประจำการญี่ปุ่น

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    คาเดนะ 30 พ.ค.-เครื่องบินขับไล่เอฟ-22 ของสหรัฐ เครื่องแรกจาก 12 เครื่อง ได้เดินทางมาถึงท่าอากาศยานคาเดนะ บนเกาะโอกินาวาทางใต้ของญี่ปุ่นแล้ว ไม่กี่วันหลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ให้คำมั่นกับนายกรัฐมนตรีทาโร อาโซะ ของญี่ปุ่นในระหว่างการหารือทางโทรศัพท์ว่าสหรัฐ มีพันธกิจในการปกป้องชาติพันธมิตรในเอเชีย

    การนำเครื่องบินขับไล่ที่ทันสมัยที่สุดของสหรัฐฯ มาประจำการที่ญี่ปุ่นครั้งนี้ เน้นย้ำว่าญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนของสหรัฐ ในเอเชียที่มีความสำคัญ และเป็นสัญญาณว่าสหรัฐ รับประกันความมั่นคงและปลอดภัยทั่วภูมิภาคแปซิฟิก
    เครื่องบินเอฟ-22 “แรพเตอร์” เดินทางออกจากฐานทัพอากาศในเมืองแลงลีย์ รัฐเวอร์จิเนีย เมื่อต้นสัปดาห์นี้เพื่อมาประจำการบนเกาะโอกินาวาเป็นเวลา 4 เดือน ซึ่งเกาะแห่งนี้มีทหารสหรัฐประจำการอยู่จำนวนมากจากที่มีอยู่ราว 50,000 นายในญี่ปุ่น

    รายงานหลายกระแสในวันนี้ระบุว่าดูเหมือนเกาหลีเหนือเตรียมยิงจรวดพิสัยไกล ความตั้งใจของเกาหลีเหนือสร้างความวิตกกังวลให้ญี่ปุ่นถึงกับเรียกร้องให้พัฒนาความสามารถโจมตีฐานทัพของศัตรูได้โดยทันทีหากสืบทราบว่าญี่ปุ่นจะถูกโจมตีก่อน . - สำนักข่าวไทย

    2009-05-30 15:24:23

    อินโดนีเซียเจรจาขอซื้ออาวุธหลายรายการจากสหรัฐฯ

    [​IMG]

    สิงคโปร์ 30 พ.ค.-นายจูโวโน ซูดาร์โซโน รัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซีย กล่าวว่า ได้หารือกับนายโรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เรื่องการซื้อเครื่องบินลำเลียงซี-130 เฮอร์คิวลิส และอาจจะซื้อเครื่องบินขับไล่และเรือดำน้ำใน 2-3 ปีข้างหน้า

    ทั้งนี้อินโดนีเซียตั้งเป้าจะเพิ่มงบประมาณกลาโหมเป็น 1.2 % ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ภายใน 5 ปี จากที่ในปัจจุบันอยู่ที่ 0.68 %ของจีดีพี อย่างไรก็ตามการเพิ่มงบกลาโหมจะขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจด้วย. - สำนักข่าวไทย

    2009-05-30 15:52:33

    ปากีสถานมั่นใจใกล้กวาดล้างตอลีบาน

    [​IMG]

    สิงคโปร์ 31 พ.ค. – กระทรวงกลาโหมปากีสถานชี้ กองทัพใกล้ประสบความสำเร็จกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธตอลีบานทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ

    นายไซอิด อะทาร์ อาลี รมว.กลาโหมปากีสถานกล่าวในที่ประชุมความมั่นคงที่สิงคโปร์ระบุว่า ปฏิบัติการทางทหารที่หุบเขาสวอต เขตบูเนอร์ และพื้นที่ใกล้เคียงในภาคตะวันตกเฉียงเหนือใกล้ประสบความสำเร็จแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถยึดพื้นที่ทั้งหมดได้ภายใน 2-3 วันข้างหน้า อีกด้านหนึ่งกองทัพระบุว่า กำลังพลสามารถยึดพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญในหุบเขาสวอตได้แล้ว โดยปฏิบัติการครั้งนี้อาศัยกำลังพลราว 15,000 นายกวาดล้างกลุ่มตอลีบานซึ่งคาดว่ามีจำนวนราว 2,000 คน.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-31 14:11:39

    อิสราเอลซ้อมป้องกันพลเรือนครั้งใหญ่

    [​IMG]

    เยรูซาเลม 31 พ.ค. – อิสราเอลเริ่มต้นการซ้อมป้องกันด้านพลเรือนครั้งใหญ่ มุ่งเตรียมพร้อมกำลังพล เจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน และพลเรือนรับมือภัยคุกคามจากอิหร่าน

    การฝึกซ้อมระยะเวลา 5 วันภายใต้ชื่อปฏิบัติการ “จุดเปลี่ยน 3” ยังรวมถึงการสมมติสถานการณ์ถูกโจมตีด้วยจรวด โดยในวันที่ 2 มิ.ย.นี้เจ้าหน้าที่จะเปิดสัญญาณเตือนภัยทางอากาศทั่วประเทศ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่อิสราเอลระบุให้พลเรือนฝึกซ้อมหาที่กำบังเมื่อสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น

    ด้านนายเอฮุด บารัค รมว.กลาโหมเปิดเผยต่อสถานีวิทยุกองทัพอิสราเอลว่า การฝึกซ้อมครั้งนี้ไม่ได้เป็นผลจากสถานการณ์ความตึงเครียดกับอิหร่าน ขณะที่เจ้าหน้าที่กลาโหมชี้ว่า ปฏิบัติการฝึกซ้อมจุดเปลี่ยนกำหนดขึ้นโดยอาศัยบทเรียนจากการทำสงครามกับกลุ่มติดอาวุธเฮซบอลเลาะห์เมื่อปี 2549 ซึ่งกลุ่มติดอาวุธยิงจรวดคัตยูชาใส่อิสราเอลเกือบ 4,000 ลูก และการฝึกซ้อมของปีนี้นับเป็นการซ้อมครั้งใหญ่และมีประสิทธิภาพมากที่สุดเป็นประวัติการณ์.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-31 16:09:30

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. Jaturongktpm

    Jaturongktpm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +181
    คำทำนายที่คลาดเคลื่อน

    การนำผลคำทำนายในอนาคตมาเปิดเผยต่อสาธารณะชนหมู่มาก ย่อมจะต้องมีความคลาดเคลื่อนอย่างแน่นอน เนื่องจากผลในอนาคตกับเหตุในปัจจุบันนั้นมีความเป็นเหตุเป็นผลกันอยู่ เมื่อนำผลในอนาคตมาควบคุมเหตุปัจจัยในปัจจุบันนั้นย่อมส่งผลทำให้เหตุปัจจัยในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงส่งผลให้อนาคตนั้นเปลี่ยนแปลงตาม จะดีขึ้นหรือเลวลงขึ้นอยู่กับคนหมู่มาก ว่ามีพลังมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงมันได้หรือไม่
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    [​IMG]

    นิทานเรือนธรรม - เรื่องวิฑูฑภะ
    <!-- Main -->
    เรียบเรียง จากหนังสือ ทางแห่งความดี เล่ม ๑ โดยอาจารย์วศิน อินทสระ

    มีเรื่องเล่าไว้ในพระไตรปิฏกดังนี้ว่า...

    วันหนึ่ง พระเจ้าปเสนทิโกศลแห่งสาวัตถี ประทับยืนที่ประสาทชั้นบน ทอดพระเนตรไปที่ถนน เห็นภิกษุหลายพันรูปกำลังเดินไป เพื่อฉันอาหารที่บ้านของอนาถปิณฑิกเศรษฐีบ้าง บ้านของจูฬอนาถบัณฑิตเศรษฐีบ้าง บ้านของนางวิสาขาและนางสุปปวาสาบ้าง พระราชาก็เลยมีพระประสงค์อยากจะเลี้ยงพระบ้าง จึงเสด็จไปเฝ้าพระศาสดา ทูลนิมนต์พระศาสดาพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ มาเสวยที่วัง ๗ วัน และในวันที่ ๗ ก็ทูลพระศาสดาว่า

    “ข้าแต่พระองค์ ขอพระองค์และพระสงฆ์สาวก จงรับภิกษาในวังเป็นนิตย์เถิด”

    พระศาสดาตรัสว่า “มหาบพิตร ธรรมดาพระพุทธเจ้าย่อมไม่รับอาหารประจำในที่แห่งเดียว เพราะประชาชนเป็นอันมาก หวังการมาของพระพุทธเจ้า” คือต้องการให้พระพุทธเจ้าไปเสวยที่บ้านของตนบ้าง

    พระราชาเลยทูลขอให้ส่งภิกษุรูปหนึ่ง เป็นหัวหน้ามาแทนพระพุทธองค์ พระศาสดาทรงมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของพระอานนท์

    พระราชาทรงอังคาส(เลี้ยง)พระสงฆ์ด้วยพระองค์เอง แล้วก็ทรงกระทำติดต่อกันมาอีก ๗ วัน พอวันที่ ๘ ทรงลืม เนื่องจากไม่ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ไว้ จึงไม่มีใครกล้าทำอะไร กว่าพระองค์จะทรงระลึกได้ พระสงฆ์ก็กลับไปหลายรูป

    วันต่อมาก็ทรงลืมอีก พระสงฆ์ก็กลับไป วันต่อมาก็ทรงลืมอีก คราวนี้พระสงฆ์กลับหมด เหลือพระอานนท์อยู่รูปเดียว พอพระราชานึกได้ก็เสด็จมา เห็นพระอานนท์อยู่องค์เดียวก็น้อยใจ เมื่อเลี้ยงพระอานนท์เสร็จแล้ว ก็เสด็จไปเฝ้าพระศาสดา ทูลว่า

    “ข้าพระองค์จัดแจงอาหารไว้สำหรับพระ ๕๐๐ รูปแต่มีพระอานนท์อยู่รูปเดียว ทำให้ของเหลือมากมาย พวกภิกษุสงฆ์ไม่เอื้อเฟื้อ ไม่รักษาศรัทธาของข้าพระองค์เลย”

    พระศาสดาไม่ได้ตรัสโทษพระภิกษุ ทรงเข้าพระทัยทุกสิ่งทุกอย่าง ตรัสกับพระราชาว่า

    “มหาบพิตร พระสงฆ์คงจะไม่คุ้นเคยกับราชสกุล จึงได้กระทำดังนี้”

    พระราชาอยากจะให้พระสงฆ์คุ้นเคยราชสกุลเลย ทรงหาอุบายว่า ถ้าพระองค์เป็นญาติกับพระพุทธเจ้าได้ พระสงฆ์คงจะคุ้นเคย ควรจะไปขอเจ้าหญิงแห่งศากยวงศ์มาเป็นพระมเหสีสักองค์หนึ่ง จึงแต่งทูตถือสาส์นไปกรุงกบิลพัสดุ์ ขอเจ้าหญิงมาเป็นมเหสี

    ฝ่ายทางศากยวงศ์ ถือตัวว่าสกุลสูงกว่าพระเจ้าปเสนทิโกศล แต่เวลานั้นแคว้นโกศลก็เป็นใหญ่อยู่ ดังนั้นเลยลำบากใจกันมาก จะไม่ให้ก็กลัวอำนาจ ครั้นจะให้ก็กลัวสกุลของตน จะไปปะปนกับเลือดสกุลอื่นที่ต่ำกว่าตน

    เมื่อประชุมปรึกษากัน ท้าวมหานาม ก็เสนอว่า

    “หม่อมฉันมีธิดาอยู่คนหนึ่ง ชื่อวาสภขัตติยาเป็นลูกของทาสี มีความงามเป็นเลิศ เราสมควรให้นางแก่พระเจ้าปเสนทิโกศล”

    ที่ประชุมเห็นชอบจึงจัดนางส่งไป พระเจ้าปเสนทิโกศลไม่ทราบจึงโปรดปรานมาก ให้สตรีมาเป็นบริวาร ๕๐๐ ต่อมานางประสูติพระโอรส นามว่าวิฑูฑภะ

    ความจริงก่อนให้ทูตรับนางมา พระเจ้าปเสนทิโกศลก็ป้องกันการถูกหลอกเหมือนกัน เช่น จะต้องเป็นธิดาที่ร่วมเสวยกับนางราชฑูตดู แต่ก็วางแผนให้มหาดเล็ก วิ่งกระหืดกระหอบมาว่า ไฟไหม้พระราชวัง ทำให้ต้องเลิกเสวยทันทีเพื่อไปดูแลดับไฟ

    แม้แต่ชื่อของวิฑูฑภะ ก็ได้มาโดยการฟังผิด คือ เมื่อพระกุมารประสูติแล้ว พระเจ้าปเสนทิส่งราชทูตไปขอให้พระเจ้ายายพระราชทานนามให้ ซึ่งพระเจ้ายายให้นามว่า วัลลภา แปลว่า เป็นที่โปรดปราน แต่ราชทูตหูตึง ฟังเป็นวิฑูฑภะ

    ต่อมาเมื่ออายุได้ ๑๖ ปี วิฑูฑภะ ก็เสด็จเยี่ยมกรุงกบิลพัสดุ์ มารดาพยายามทัดทานหลายครั้งก็ไม่สำเร็จ พระนางคงรีบส่งสาส์นล่วงหน้าไปก่อน เพื่อให้ปฏิบัติต่อวิฑูฑภะอย่างเหมาะสม

    เมื่อทราบข่าว ทางศากยวงศ์ก็ประชุมกัน พวกเขาไม่ลืมว่า มารดาของวิฑูฑภะเป็นธิดาของทาสี ดังนั้น ตัววิฑูฑภะเองแม้จะเป็นพระโอรส พระเจ้าปเสนทิ แต่มารดาวรรณะต่ำ พวกเขาไม่สามารถให้เกียรติอย่างลูกกษัตริย์ได้ จึงจัดแจงส่งพวกเด็กๆที่อายุน้อยกว่าวิฑูฑภะ ออกไปชนบทหมด เพื่อจะได้ไม่ต้องไหว้ทำความเคารพลูกของทาสี

    เมื่อวิฑูฑภะเสด็จมา ถึง ทางกบิลพัสดุ์ก็ต้อนรับดีพอสมควร วิฑูฑภะต้องเที่ยวไหว้คนโน้นคนนี้ ที่เป็นตายาย ลุงป้า น้า อา พี่ แต่ไม่มีใครที่จะไหว้พระองค์ก่อนเลย เมื่อถามก็ได้รับคำตอบว่าออกไปตากอากาศกันหมด วิฑูฑภะก็เก็บความสงสัยไว้ในใจ

    พระองค์ประทับอยู่เพียง ๒-๓ วัน ก็เสด็จกลับ พกเอาความสงสัยไปด้วย ว่าทำไมได้รับการต้อนรับที่เย็นชาเหลือเกิน ขณะเสด็จออกไปจากวังนั้น นายทหารคนหนึ่งได้ลืมดาบไว้ จึงวิ่งกลับไปเอา ได้เห็นหญิงรับใช้ กำลังเอาน้ำเจือน้ำนม ซึ่งถือว่าเป็นน้ำล้างเสนียดจัญไรออกไป ล้างแผ่นกระดานที่วิฑูฑภะนั่ง พลางก็บ่นว่า นี่คือกระดานที่วิฑูฑภะ บุตรนางทาสีนั่ง

    ทหารผู้นั้น เข้าไปถาม ทราบเรื่องโดยตลอด เมื่อกลับมาก็กระซิบกันไปทั่วกองทัพ วิฑูฑพะก็ทรงทราบด้วย ทรงพิโรธมาก อาฆาตพวกศากยะว่า เวลานี้ขอให้พวกศากยะล้างแผ่นกระดานที่ประทับนั่งด้วยน้ำเจือด้วยน้ำนมก่อน เมื่อใดที่ได้ครองแคว้นโกศลจะกลับมาล้างแค้นโดยเอาเลือดในลำคอของพวกศากยะ ล้างแผ่นกระดาน

    เมื่อถึงสาวัตถี พวกอำมาตย์ทูลให้พระเจ้าปเสนทิทรงทราบ ทรงพิโรธมาก รับสั่งให้ถอดพระนางวาสภขัตติยาและวิฑูฑภะออกจากตำแหน่ง รับเครื่องบริหารและเครื่องเกียรติยศทั้งปวง พระราชทานให้เพียงสิ่งของที่ทาสทาสี ควรใช้เท่านั้น

    ต่อมาอีก ๒-๓ วัน พระศาสดาเสด็จมา พระเจ้าปเสนทิทูลให้ทรงทราบ พระศาสดาตรัสปลอบว่า

    “มหาบพิตร พวกศากยะกระทำไม่สมควรเลย เมื่อจะถวายก็ควรจะถวายพระราชธิดา ที่มีชาติเสมอกันจึงจะควร”

    ครู่หนึ่งผ่านไป พระศาสดา จึงตรัสอีกว่า

    “แต่ อาตมาภาพใคร่ถวายพระพรว่า พระนางวาสภขัตติยานั้นเป็นธิดาของ ขัตติยราช ได้รับการอภิเษกในพระราชมณเทียรของขัตติราช ฝ่ายวิฑูฑภะเล่าก็ได้อาศัยขัตติยราชนั้นแลประสูติแล้ว มหาบพิตรตระกูลฝ่ายมารดาไม่สู้สำคัญนัก สำคัญที่ฝ่ายบิดา แม้บัณฑิตแต่โบราณก็เคยพระราชทานตำแหน่งอัครมเหสีแก่หญิงยากจนหาบฟืนขาย และพระราชกุมารอันประสูติจากครรภ์สตรีนั้นก็ได้ เป็นพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ในนครพาราณสี พระนามว่า กัฏฐวาหนราช”

    พระราชาทรงเชื่อและคืนเกียรติยศแก่พระนางวาสภขัตติยาและวิฑฑูภะดังเดิม ต่อมา วิฑูฑภะได้ราชสมบัติโดยการช่วยเหลือของ ทีฆการายนะ เสนาบดี

    ฑีฆการายณะ นั้นเป็นหลานของพันธุละเสนาบดี ซึ่งพระเจ้ปเสนทิวางอุบายให้คนของพระองค์ฆ่าเสีย โดยมิได้มีความผิดแต่เพราะมีคนยุยงว่าพันธุละต้องการแย่งราชสมบัติก็ทรง เชื่อ

    พันธุละมีบุตร ๓๒ คน ก็ถูกฆ่าตายหมดพร้อมกันพระราชาทราบความจริงภายหลัง โทมนัสมาก พระราชทานตำแหน่งเสนาบดีให้ฑีฆการายนะ ผู้เป็นหลานของพันธุละ เพื่อทดแทนความผิดที่พระองค์ทำไป

    ฑีฆการายนะผูกใจเจ็บ หาโอกาสแก้แค้นอยู่เสมอ วันหนึ่ง พระเจ้าปเสนทิเสด็จไปเฝ้าพระศาสดาที่นิคมชื่อ เมทฬุปะ ของพวกศากยะ ทรงพักพลไว้ใกล้พระอาราม เสด็จไปเฝ้าพระศาสดาแต่พระองค์เดียว

    ฑีฆการายนะได้โอกาส จึงมอบเครื่องราชกกุธภัณฑ์ให้วิฑูฑภะแล้วนำผลกลับพระนคร คือแย่งราชสมบัติไปดื้อๆนั่นเอง วิฑูฑภะก็พอใจ เพราะจะได้แก้แค้นศากยะได้เร็วขึ้น

    พระเจ้าปเสนทิกลับจากเฝ้าพระศาสดา ไม่เห็นไพร่พล มีแต่ม้าตัวหนึ่งกับหญิงรับใช้คนหนึ่งอยู่ที่นั่น ทรงทราบความแล้วก็เสด็จไปเมืองราชคฤห์เพื่อขอกำลังของพระเจ้าอชาตศัตรู มาปราบวิฑูฑภะ แต่กลับไปถึงค่ำ ประตูเมืองปิดเสียแล้ว ไม่อาจเข้าเมืองได้ จึงทรงพักที่ศาลาหน้าเมือง แต่ด้วยความหนาว ความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง และทรงชรามาก อายุ ๘๐ แล้ว ดังนั้นจึงสิ้นพระชนม์ในคืนนั้น

    ตอนเช้า พระเจ้าอชาตศัตรูจึงให้รับพระศพเข้าไปถวายพระเพลิงอย่างสมพระเกียรติ ฝ่ายวิฑูฑภะ ได้เป็นกษัตริย์แล้ว ก็เตรียมทัพไปตีพวกศากยะ

    พระศาสดาทรง ตรวจดูสัตว์โลกในเวลาใกล้รุ่ง ทรงเห็นความพินาศจะมาถึงหมู่พระญาติมีพุทธประสงค์ จะบำเพ็ญประโยชน์เพื่อพระญาติ จึงเสด็จไปประทับ ณ พรมแดนระหว่างโกศลกับศากยะ ประทับ ณ ใต้ต้นไม้ที่มีใบน้อยต้นหนึ่งในแดนศากยะ ถัดมาอีกเล็กน้อยเป็นเขตแดนแคว้นโกศล มีต้นไทรใหญ่ ใบหนาร่มรื่นครึ้มขึ้นอยู่

    พระเจ้าวิฑูฑภะ ยกกองทัพผ่านมาทางนั้น ทอดพระเนตรเห็นพระศาสดาจึงเข้าไปเฝ้า ถวายบังคมแล้วทูลว่า

    “พระองค์ ผู้เจริญ เพราะเหตุไร จึงประทับใต้ต้นไม้ อันมีใบน้อยในเวลาร้อนถึงปานนี้ ขอพระองค์โปรดประทับนั่ง ณ โคนต้นไทร อันมีร่มครึ้ม มีเวลาเย็นสนิทดีทางแดนโกศลเถิด”

    พระศาสดาจึงตรัสว่า

    “ขอถวายพระพรมหาพิตร ร่มเงาของพระญาติร่มเย็นดี”

    พระเจ้าวิฑูฑภะ ทรงทราบทันทีว่าพระศาสดาเสด็จมาป้องกันพระญาติ อนึ่งทรงระลึกได้อยู่ว่า พระศาสดาเคยช่วยเหลือให้ได้รับเกียรติยศคืนมา ในครั้งก่อน ดังนี้จึงยกทัพกลับ แต่ความแค้นยังกรุ่น จึงยกทัพไปอีกสองครั้ง พบพระศาสดาในที่เดียวกันและยกทัพกลับทั้ง ๒ ครั้ง

    พอถึงครั้งที่ ๔ พระศาสดาทรงพิจารณาเห็นกรรมเก่าของพวกศากยะ ที่เคยเอายาพิษโปรยลงในแม่น้ำ ทำให้สัตว์น้ำตายหมู่เป็นอันมาก กรรมนั้นกำลังมาให้ผล พระองค์ไม่สามารถต้านทานได้ จึงมิได้เสด็จไปในครั้งที่ ๔

    พระเจ้าวิฑูฑภะเสด็จมาถึงพรมแดนนั้น ไม่ทอดพระเนตรเห็นศาสดาจึงเสด็จเข้ากบิลพัสดุ์ จับพวกศากยะฆ่าเสียมากมาย ไม่เว้นแม้แต่เด็กกำลังดื่มนม รับสั่งให้เอาโลหิตในลำคอของพวกศากยะล้างแผ่นกระดานที่เคยนั่ง แล้วกลับสาวัตถี

    เมื่อมาถึงฝั่งแม่น้ำอจิรวดีในเวลาค่ำ จึงให้ตั้งค่ายพัก ไพร่พลเลือกนอนได้ตามใจชอบ บางพวกก็นอนที่หาดทรายในแม่น้ำเมื่อน้ำลง หาดทรายในแม่น้ำนอนได้สบาย แต่บางพวกก็นอนบนบกริมฝั่ง

    พอตกดึก พวกที่นอนบนบกแต่ทำกรรมไว้ร่วมกันมา ก็ถูกมดแดงกัดลงไปนอนที่ชายหาด ส่วนพวกที่นอนชายหาด ก็ถูกมดแดงกัดหนีขึ้นไปนอนข้างบน มหาเมฆตั้งเค้าทางเหนือน้ำ ฝนตกใหญ่ น้ำหลากอย่างรวดเร็ว พัดเอาวิฑูฑภะกับบริวารบางพวกลงสู่มหาสมุทรตายกันหมด

    ในวันรุ่งขึ้น ภิกษุทั้งหลายสนทนากันในธรรมสภาเรื่องพระเจ้าวิฑูฑภะ ว่า ได้สิ้นพระชนม์ไปในขณะที่ยังมีความปรารถนาอื่นๆอยู่อีกมาก

    พระศาสดาเสด็จมาสู่ธรรมสภา ตรัสว่า

    “ภิกษุ ทั้งหลาย เมื่อความปรารถนาของสัตว์ทั้งหลายยังไม่จบลงนั่นเอง มัจจุราชก็เข้ามาตัดชีวิตให้จมลงในสมุทร คือ อบาย ๔ ดุจห้วงน้ำใหญ่หลากมาท่วมชาวบ้านผู้หลับอยู่ฉะนั้น”

    ดังนี้แล้วตรัสพระคาถาว่า

    มัจจุ คือความตาย ย่อมพัดพาเอาบุคคลผู้มีใจข้องในอารมณ์ต่างๆ ผู้เลือกเก็บดอกไม้คือกามคุณ ๕ อยู่ เหมือนห้วงน้ำใหญ่ไหลหลาก พัดพาเอาชาวบ้านผู้หลับอยู่ฉะนั้น”

    หมายเหตุ: กามคุณ ๕ มีรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ (สัมผัสทางกาย)

    Posted by journey
    Labels: สัพเพเหระธรรม, สาระน่ารู้จากพระไตรปิฏก, อานิสงส์การทำบุญต่างๆ

    ที่มา http://dhammavoice.blogspot.com/2009/03/blog-post_06.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • _20_315.jpg
      _20_315.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.9 KB
      เปิดดู:
      1,887
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2009
  18. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <big>2009-06-01 02:26:33 - Sea Level Rise - Myanmar (Burma)</big>

    EDIS CODE: SL-20090601-21848-MMR
    Date & Time: 2009-06-01 02:26:33 [UTC]
    Area: Myanmar (Burma), Capital City, , Yangon

    <small>Number of death person(s): 6
    Number of Injured person(s): 30
    Damage level: Heavy (Level 3)
    </small>
    Not confirmed information!
    Description:
    A 2300-year-old Myanmar temple building collapsed while workers were trying to repair it, killing six people and injuring 30. Some people were last night still trapped beneath bricks, bamboo scaffolding and other debris a day after the collapse, said Tin Shwe, who runs a shop near the temple in Yangon.
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ที่มาที่ไปว่าทำไมคนไทย ถึงมีนิสัยที่ไม่สามัคคีกัน !!!

    [​IMG]

    ความเป็นมามีดังนี้

    เมื่อครั้งอดีตกาลนานมาแล้วสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช กษัตริย์ของประเทศอินเดีย พระองค์ได้ส่งพระมาเผยแผ่พุทธศาสนาในดินแดนที่เป็นประเทศไทยในปัจจุบัน ในดินแดนนี้ได้รับพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ จิตใจคนในดินแดนนี้มีจิตใจดี และก็เป็นอยู่เช่นนั้น และต่อมาก็มีชนกลุ่มหนึ่งหนีสงครามมาจากจีนขอเข้ามาอาศัย คนเจ้าของพื้นที่ก็ให้อาศัยเพราะสงสาร เนื่องจากเห็นว่าหนีร้อนมาพึ่งเย็นจึงได้ให้อาศัยอยู่

    เมื่อผู้มาอาศัยแข็งแรงดี อยู่ดี กินดี ก็เห็นว่าแผ่นดินนี้น่าอยู่ จึงคิดแย่งดินแดนของเจ้าของเดิม โดยอาศัยศรัทธาของเจ้าของดินแดนเดิมที่มีต่อศาสนาเป็นเครื่องมือ ใช่วิธีการให้พระพูดจายุยงให้เจ้าของดินแดนเดิมขาดความสามัคคีกัน เมื่อเจ้าของแผ่นดินขาดความสามัคคีกันเมื่อนั้น ผู้อาศัยก็ยึดประเทศได้โดยง่าย

    ในการยึดแผ่นดินครั้งนั้น ผู้อาศัยได้เข่นฆ่าเจ้าของเดิมอย่างทารุณและโหดร้ายเป็นอันมาก แล้วในที่สุดผู้อาศัยก็ได้กลายเป็นเจ้าของแผ่นดินใหม่สมใจอยาก พร้อมกับคำสาปแช่งของเจ้าของพื้นที่เดิม ที่ถูดยัดเยียดความทรมานก่อนตาย และเจ้าของแผ่นดินคนใหม่ ก็ได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้มานานจนถึงยุคของเรานี้

    เราได้รับมรดกในพื้นที่อันอุดมสมบูรณ์นี้ พร้อมกับคำสาปแช่งมาด้วยพร้อมกันๆ และนี้คือที่มาที่ไปว่าทำไมคนไทยถึงมีนิสัยที่ไม่สามัคคีกัน และนี้ก็คือที่มาว่าทำไมปัจจุบันนี้ ศาสนาจึงมีผลทำให้คนขาดความสามัคคีกัน

    เราจะเห็นว่าทุกยุคทุกสมัย เมื่อใดบ้านเมื่อกำลังไปได้ด้วยดี ก็จะเกิดปัญหาความแตกแยกของคนในชาติ แต่ความแตกแยกนั้นจะมากขึ้นไปอีก เมื่อมีความศรัทธาเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะความศรัทธาในตัวบุคคลหรือความศรัทธาในทางความเชื่อหรือศาสนา ​

    ที่มา เว็บพุทธแท้
    http://www.geocities.com/buddhatatum/index.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2009
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    จิตติ"คาดราคาทองทุบสถิติบาทละ 16,400 - เงินเฟ้อติดลบ 5 เดือนรวด<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 มิถุนายน 2552 12:28 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทอง กล่าวว่า ราคาทองคำต่างประเทศ ในขณะนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก อยู่ที่ 982 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ทำให้ราคาทองคำในประเทศปรับเพิ่มขึ้น โดยวันนี้ราคาทองคำแท่ง ขายบาทละ 15,850 บาท ทองคำรูปพรรณ บาทละ 16,250 บาท

    อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งวันนี้ ราคาทองคำยังคงผันผวนอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าภายในเดือนมิถุนายนนี้ ราคาทองคำอาจปรับตัวสูงขึ้นทำลายสถิติใหม่ ซึ่งสูงกว่าบาทละ 16,400 บาท ที่เป็นราคาสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

    ส่วนอัตราเงินเฟ้อในเดือนพฤษภาคม ที่ติดลบ 3.3 เปอร์เซ็นต์ โดยเงินเฟ้อติดลบติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด เพราะเชื่อว่าในช่วงเดือนสิงหาคม เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น หลังจากที่รัฐบาลปรับขึ้นภาษี และมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพสิ้นสุดลง

    ที่มา Local - Manager Online
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • jitti.jpg
      jitti.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.2 KB
      เปิดดู:
      1,812

แชร์หน้านี้

Loading...