ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

พระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงราษฎรประสบภัยน้ำท่วมยะลา​

​

ยะลา 8 ธ.ค.- ที่หน่วยพัฒนาสันติ หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 47-1 ม.4 ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย พ.ท.ยุทธนาม เพ็ชรม่วง ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 11 และเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดพัฒนาสันติที่ 47-1 ร่วมกันมอบถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 100 ถุง ให้กับชาวบ้านใน ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยที่ผ่านมา ซึ่งผู้เข้ารับมอบถุงยังชีพพระราชทานต่างรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ และร่วมกันถวายพระพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหายจากพระประชวรโดยเร็ว

ขณะที่นายอภินันท์ กล่าวว่า หลังเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดยะลา ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยพสกนิกรในพื้นที่เป็นอย่างมาก จึงได้พระราชทานถุงยังชีพ เพื่อให้เจ้าหน้าที่นำมามอบ เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน.-สำนักข่าวไทย

2009-12-08 14:06:24

องคมนตรีมอบถุงยังชีพแก่ผู้สูงอายุ-ผู้ประสบอุทกภัยสงขลา​

​

สงขลา 9 ธ.ค.-ที่ศาลาประชาคมอำเภอบางกล่ำ จ.สงขลา วันนี้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานมอบผ้าห่มกันหนาวพร้อมถุงยังชีพแก่ผู้พิการและผู้สูงอายุใน อ.บางกล่ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่มีอากาศหนาวเย็นลง

นอกจากนั้น ยังได้มอบถุงยังชีพจำนวน 500 ชุดให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยทั้ง 4 ตำบลใน อ.บางกล่ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้วย แม้ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ เนื่องจากเรือกสวนไร่นาได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทั้งนี้ นายพลากร ได้เน้นย้ำให้ผู้สูงอายุหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายให้ดี พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การดูแลประชาชนผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่

ขณะเดียวกัน ได้มีการแจกจ่ายเอกสารคำถวายสัตย์ปฏิญาณในการปฏิบัติตามพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 ให้แก่ประชาชน เพื่อน้อมนำคุณธรรมทั้ง 4 ประการทั้งเมตตาธรรม สามัคคีธรรม สุจริตธรรมและเที่ยงธรรม ไปปฏิบัติตลอดไป.-สำนักข่าวไทย

2009-12-09 16:02:22

พิษณุโลกยังทวีความเย็นเร่งช่วยผู้ประสบภัยกว่าแสนคน​

​

พิษณุโลก 7 ธ.ค.- นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยภายหลังมอบผ้าห่มนวมกันหนาว 10,000 ผืน แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 50 แห่ง เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาว ว่า สภาพอากาศในพื้นที่ยังทวีความหนาวเย็น ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 12-15 องศาเซลเซียส

ทำให้ราษฎรที่ยากไร้เดือดร้อนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหมู่บ้านบนเขาใน 5 อำเภอ คือ ชาติตระการ นครไทย วังทอง เนินมะปราง และวัดโบสถ์ ที่ยังขาดแคลนเครื่องกันหนาวอีก 82,916 ครัวเรือน จำนวน 115,628 คน ซึ่งจังหวัดได้ตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาวไว้แล้ว พร้อมกำชับให้ทุกอำเภอติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอุณหภูมิมีแนวโน้มลดลงอีก คาดว่าจะประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาวทั้ง 9 อำเภอ ภายในเดือนนี้ เพื่อนำงบประมาณจัดซื้อเครื่องกันหนาวช่วยผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

2009-12-07 10:41:01

ยึดของกลางกลุ่มลักตัดไม้ชายแดนศรีสะเกษหลังยิงปะทะดับ 1​

​

ศรีสะเกษ 7 ธ.ค.- ผบ.ฉก.ทพ.23 เข้าพื้นที่อีกรอบตามเหตุเจ้าหน้าที่ไทยปะทะกลุ่มลอบตัดไม้ตามชายแดนเสียชีวิตไป 1 ราย ตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นชาวกัมพูชา พร้อมยึดของกลางได้อีกมากทั้งระเบิด-เลื่อยยนต์ ไม้พะยูงแปรรูป

พ.อ.ธวัชชัย แจ้งประจักษ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมกำลังทหาร ตำรวจ สภ.โดนเอาว์ อ.กันทรลักษ์ และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก เข้าตรวจพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา อีกครั้งในวันนี้ (7 ธ.ค.) หลังจากเจ้าหน้าที่ไทยยิงปะทะกับกลุ่มลักลอบตัดไม้เมื่อบ่ายวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา บริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือของผลาญหิน 8 ก้อน ต.รุง อ.กันทรลักษ์

โดยฝ่ายตรงข้ามถูกยิงบาดเจ็บ 1 ราย และเจ้าหน้าที่พยายามนำตัวส่งโรงพยาบาลกันทรลักษณ์ แต่สภาพพื้นที่เป็นป่ารก ทำให้การเดินทางยากลำบากต้องใช้เวลาเดินเท้ากว่า 8 ชั่วโมง กระทั่งผู้บาดเจ็บเสียชีวิตและขณะนี้เก็บศพไว้ที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดและสืบหาว่าเป็นคนสัญชาติใด นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังยึดของกลางจากเหตุปะทะกันครั้งนี้ไว้ได้ มีทั้งระเบิดขว้างชนิดเอ็ม 67 จำนวน 1 ลูก เลื่อยโซ่ยนต์ 1 เครื่อง ไม้พะยูงแปรรูป 14 แผ่น ปลอกกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบขยายผล

พ.อ.ธวัชชัย กล่าวว่า ป่าไม้ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา มักจะมีกองกำลังไม่ทราบสัญชาติแอบลักลอบเข้ามาตัดไม้หวงห้ามเป็นประจำ จากการตรวจสอบพบว่าไม้พะยูง ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามถูกตัดโค่นหลายต้น และยังมีเอกสารหลักฐานสำคัญจำนวนหนึ่ง ซึ่งได้รวบรวมไว้ทั้งหมด เพื่อให้พนักงานสอบสวน สภ.โดนเอาว์ ใช้ประกอบทางคดี ส่วนผู้เสียชีวิตเบื้องต้นทราบว่าชาวกัมพูชา และได้ประสานไปยังทางการกัมพูชาแล้ว.-สำนักข่าวไทย

2009-12-07 16:06:48

ชุมชนตากวนร้องติดเครื่องเตือนภัยเขตอุตสาหกรรม​

​

ระยอง 7 ธ.ค.- โรงพยาบาลกรุงเทพระยองมีผู้ป่วยอาการหน้ามืด แน่นหน้าอก เข้ารักษาอีก 4 ราย ขณะที่ชาวบ้านรับผลกระทบก๊าซรั่วท่าเรือมาบตาพุดร้องขอติดเครื่องสัญญาณเตือนภัยในชุมชนตากวน ส่วนเครือข่ายภาคประชาชนฯ เตรียมยื่นหนังสือเรียกร้องผู้เกี่ยวข้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงผลกระทบจากก๊าซรั่วบริเวณท่าเรือมาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จ.ระยอง เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านชุมชนตากวน – อ่าวประดู่ เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด สูดดมกลิ่นเกิดอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน รวมกว่า 60 คน แม้ขณะนี้ทั้งหมดได้รับการรักษาจนปลอดภัยแล้ว แต่ชาวบ้านเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือ ผู้ประกอบการโรงงาน หรือจังหวัด หามาตรการป้องกันอย่างรัดกุม

เช่นนางอัมพร จันทร์ศรี อายุ 49 ปี อยู่ในซอยทับพญา ชุมชนตากวน–อ่าวประดู่ เป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบครั้งนี้ กล่าวว่า รู้สึกพอใจกับการรับผิดชอบดูแลด้านรักษาพยาบาลทั้งของโรงงานและจังหวัด แต่อยากให้มีการช่วยเหลือด้านอื่นร่วมด้วย โดยเฉพาะการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยอยากให้ติดตั้งเครื่องสัญญานเตือนภัยไว้ในหมู่บ้าน เพื่อชาวบ้านในชุมชนอพยพหนีได้ทัน เพราะหลังจากเกิดเหตุมา 3 ชั่วโมง ชาวบ้านจึงได้กลิ่นก๊าซ ซึ่งชุมชนแห่งนี้ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำประมง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมา (7 ธ.ค.) ชาวบ้านในชุมชนดังกล่าวยังมีอาการหน้ามืดและแน่นหน้าอก ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกรุงเทพระยองอีก 4 คน ขณะเดียวกันกลุ่มเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกเตรียมเคลื่อนไหว โดยจะยื่นหนังสือถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบในวันพรุ่งนี้ (8 ธ.ค.).-สำนักข่าวไทย

2009-12-07 17:50:06

ป่วนซุกบึ้ม-กราดยิงที่นราฯ ดับ 2 เจ็บ 11​

​

นราธิวาสฯ 7 ธ.ค.-คนร้ายก่อเหตุไม่สงบในจังหวัดนราธิวาส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

ตำรวจและหน่วยพยาบาลระดมกำลังเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนบริเวณหลังตลาดสดบางนาก ในเขตอำเภอเมืองจังหวัดนราธิวาส หลังเกิดเหตุคนร้ายนำระเบิดซุกในรถจักรยานยนต์และจุดชนวนจน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย คือนายภาสกร ยอดเต็ม และนางสาวสุรีย์ ดำละเอียด

ขณะเดียวกันที่อำเภอสุไหงโก-ลก เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังเพื่อช่วยชีวิตหลังเกิดเหตุคนร้ายกราดยิงใส่บริเวณศาลาหน้าโรงเรียนบ้านมือบาในเขตอำเภอสุไหงโกลก จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย และยังทำให้นายมูฮำหมัด มูฮัม นักเรียนโรงเรียนตอดุล เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ .-สำนักข่าวไทย

2009-12-07 23:08:50

ป่วนนราฯกราดยิงทหารพรานดับ 2 สาหัส 1​

​

นราธิวาส 8 ธ.ค.-กลุ่มคนร้ายแต่งชุดพรางใช้อาวุธสงครามถล่มยิงทหารพรานเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บสาหัส 1 นาย ส่วนคนร้ายเสียชีวิต 1 คน

ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองกว่า 200 คน กระจายกำลังเข้าปิดล้อมสวนยางพาราทางเข้าบ้านดีแย ตำบลสาวอ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส หลังเกิดเหตุคนร้ายไม่ต่ำกว่า 10 คน ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มทหารพรานชุดพัฒนาสันติที่ 302 จังหวัดนราธิวาส ทำให้อาสาสมัครทหารพรานจิรายุทธ์ สังเกต และอาสาสมัครทหารพราน วัสลาม ระเด่นมนตรี เสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีจ่าสิบโทบุญถิ่น คำระพี ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส ส่วนคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต 1 คน

จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุขณะทหารพราน 5 นาย ออกลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยให้กับครู กลุ่มคนร้ายดักซุ่มอยู่ข้างทางใช้อาวุธสงครามยิงถล่มจนเกิดการยิงปะทะกันขึ้นนานกว่า 10 นาที โดยคนร้ายทั้งหมดแต่งตัวด้วยชุดลายพรางทหาร จากการตรวจสอบยังพบว่าปืนเอชเค ของทหารพรานหายไป 2 กระบอก คาดว่าถูกคนร้ายขโมยไปหลังเกิดเหตุ

ส่วนที่จังหวัดยะลา ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง ตั้งจุดตรวจจุดสกัด 4 มุมเมือง โดยใช้เครื่องสแกนทีจี 200 ค้นหาวัตถุระเบิดและอาวุธปืน เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและนายนาจิบ ราซัค รัฐมนตรีมาเลเซีย ที่จะเดินทางไปเปิดสะพานมิตรภาพไทย-มาเลย์ เชื่อมต่อระหว่างบ้านบูเกะตา ตำบลโล๊ะจูด อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส กับบ้านบูเกะบูงอ รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย วันพรุ่งนี้.-สำนักข่าวไทย

2009-12-08 23:26:36

วางตะปูเรือใบลวงเจ้าหน้าที่-กดระเบิดซ้ำเจ็บ 3​

​

ยะลา 9 ธ.ค.- เมื่อเวลา 07.15 น. วันนี้ (9 ธ.ค.) เกิดเหตุระเบิดริมถนนสายยะลา-บันนังสตา ม.7 อ.กรงปินัง จ.ยะลา ปากทางเข้า สภ.กรงปินัง มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 3 นาย เป็นตำรวจ 1 นาย อาสาสมัครอำเภอ 2 นาย ถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา โดยก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่รับแจ้งว่าพบตะปูเรือใบโรยบนถนนสายยะลา-บันนังสตาและมีกล่องต้องสงสัยห่อด้วยผ้าขาว จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบปรากฏว่าผู้ก่อเหตุได้จุดชนวนระเบิดขึ้น นอกจากนี้ แรงระเบิดยังทำให้เสาไฟฟ้าได้รับความเสียหายบางส่วน และเจ้าหน้าที่ยังพบว่ามีการใช้วิทยุสื่อสารเป็นตัวจุดชนวนระเบิด

ขณะเดียวกันมีรายงานวัตถุต้องสงสัยวางอยู่หน้ามัสยิดบ้านปีซัด ถนนสายทางลัด ท่าสาป-ลำไหม่ เจ้าหน้าที่ได้ปิดการสัญจรก่อนเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นเพียงทรายบรรจุกล่อง เชื่อว่าผู้ก่อเหตุต้องการสร้างสถานการณ์.-สำนักข่าวไทย

2009-12-09 09:57:57

พบป้ายผ้าลึกลับติดพื้นที่ชายแดนใต้-ทหารนราฯ รุดตรวจถูกระเบิดเจ็บ 3​

​

ภูมิภาค 9 ธ.ค.- ผบก.ภ.จว.ปัตตานี สั่งทุกพื้นที่ตรวจเข้มป้องกันเหตุไม่สงบ หลังพบป้ายผ้าเขียนข้อความสร้างความวุ่นวาย เช่นเดียวกับนราธิวาสมีป้ายผ้าติดหลายจุด ทหารเข้าตรวจสอบถูกวางระเบิดและยิงซ้ำบาดเจ็บ 3 นาย

พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี วิทยุสั่งการด่วนให้ทุกหน่วยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยไว้เป็นพิเศษ พร้อมกับจัดชุดกำลังลาดตระเวนเส้นทางทั้งสายหลักและสายรองและตั้งจุดตรวจจุดสกัดเต็มพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุไม่สงบ เนื่องจากเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกับจังหวัดยะลาและนราธิวาส อีกทั้งวันนี้ (9 ธ.ค.) คณะนายกรัฐมนตรีไทยและมาเลเซียอยู่ระหว่างการเยือนพื้นที่ จ.นราธิวาส ล่าสุดเมื่อเช้าที่ผ่านมา ( 9 ธ.ค.) กำลังตำรวจ-ทหาร และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดพบป้ายผ้าเขียนข้อความ 2 ภาษา เกี่ยวกับพื้นที่ ติดอยู่บริเวณทางแยกถนนสาย 42 เส้นทางปัตตานี-นราธิวาส ต.ตันหยงลูโละ อ.เมือง และการตรวจสอบรอบบริเวณป้ายผ้าไม่พบวัตถุระเบิด

ส่วน จ.นราธิวาส พบป้ายผ้าสีขาวยาว 2 เมตร เขียนข้อความลักษณะเดียวกันผูกติดอยู่บริเวณสวนยางพาราริมถนนสาย 42 เส้นทางนราธิวาส-ปัตตานี บริเวณบ้านยาโง๊ะ หมู่ 5 ต.ลูโบ๊ะบือซา อ.ยี่งอ เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนทหารสังกัด ร้อย ร.3014 ฉก.นราธิวาสที่ 32 จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบปรากฏว่าผู้ก่อเหตุได้จุดชนวนระเบิดขึ้นและยิงซ้ำเจ้าหน้าที่จนเกิดการปะทะกัน ทำให้อีกฝ่ายหลบหนีไป และพบว่าเจ้าหน้าที่ถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บ 3 นาย ถูกนำส่งโรงพยาบาลยี่งอและส่งต่อไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ คือ พ.จ.อ.เริงศักดิ์ โตจานสี อายุ 46 ปี พ.จ.อ.สิทธิกร ช่วยทอง อายุ 41 ปี และ จ.ท.ภราดร หอมเกตุ อายุ 23 ปี

นอกจากนี้ ยังพบป้ายผ้าลักษณะดังกล่าวติดไว้ตามถนนสายต่าง ๆ ในพื้นที่อำเภอยี่งอ อำเภอระแงะ อำเภอสุไหงปาดี อำเภอบาเจาะ และอำเภอตากใบ.-สำนักข่าวไทย

2009-12-09 11:13:33

ยะลาระเบิดอีก 3 ลูก บาดเจ็บ 8 ปัตตานีดักระเบิดชุดคุ้มครองครู​

​

ภูมิภาค 9 ธ.ค.- ผู้ก่อเหตุจุดชนวนระเบิดศาลาริมน้ำปัตตานี ล่อเจ้าหน้าที่ยะลา เข้าตรวจสอบ ก่อนระเบิดซ้ำอีก 2 ลูก เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 8 นาย ส่วนปัตตานี มีระเบิดเช่นกัน ขณะชุดคุ้มครองครูลาดตระเวนเส้นทาง เคราะห์ดีไม่ได้รับบาดเจ็บ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (9 ธ.ค.) พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพชรภูมิ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดภูธรจังหวัด เดินทางเข้าตรวจสอบเหตุระเบิดบริเวณศาลาริมแม่น้ำปัตตานี ถนนเลียบแม่น้ำ เ ขตเทศบาลนครยะลา โดยมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอเมือง ขับรถกระบะวิ่งนำหน้า เมื่อมาถึงสามแยกตัดกับถนนเฉลิมไทย เกิดระเบิดขึ้นบริเวณเสาไฟส่องสว่างริมถนน ไม่มีผู้บาดเจ็บ การตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องบรรจุในกล่องเหล็กจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารนำมาวางไว้ใต้แผงโซล่าเซลล์ที่เสาไฟส่องสว่างก่อนจุดชนวน ส่วนเหตุระเบิดที่ศาลาริมแม่น้ำปัตตานี เจ้าหน้าที่พบว่าระเบิดถูกบรรจุไว้ในกระป๋องพลาสติก น้ำหนักประมาณ 4 กิโลกรัม ระหว่างนี้ผู้ก่อเหตุจุดชนวนขึ้นอีกลูก

ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสแสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เข้าพื้นที่อำนวยการยังจุดเกิดเหตุ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างระมัดระวัง ปรากฏว่าเกิดระเบิดซ้ำเป็นลูกที่ 3 ซึ่งฝังอยู่ใต้ผิวทางเดิน มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บทั้งหมด 8 นาย นอกจากนี้ ยังพบว่า ส.ต.ท.พรชัย ภพชัย ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ภ.จว.ยะลา หายไปจากจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่เร่งออกค้นหา

ส่วน จ.ปัตตานี เกิดเหตุระเบิดเมื่อเวลา 07.00 น. บนถนนสาย 409 ปัตตานี-ยะลา สามแยกเข้าบ้านคลองหิน ม.2 ต.ปากล่อ อ.นาประดู่ ขณะที่ทหาร ร้อย ร.15334 ฉก.ปัตตานี 24 จำนวน 6 นาย ชุดรักษาความปลอดภัยครูตรวจตรามาตามเส้นทาง แต่ไม่ได้รับอันตราย.-สำนักข่าวไทย

2009-12-09 13:36:20

ยิงถล่มร้านอาหารที่นราฯ-กดบึ้มซ้ำ ตาย 1 เจ็บจำนวนมาก​

​

นราธิวาส 10 ธ.ค.-เกิดเหตุคนร้ายยิงถล่มร้านอาหารที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ลวงเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ก่อนจุดชนวนระเบิดซ้ำทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก

แพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลสุไหงปาดีเร่งช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บจำนวน 10 คน หลังเกิดเหตุคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มร้านอาหารพี่นา ถนนจารุเสถียร ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี ลวงเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ และมีชาวบ้านมามุงดูเป็นจำนวนมาก ก่อนคนร้ายซึ่งแฝงตัวปะปนอยู่กับชาวบ้านจะจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม ประกอบใส่รถจักรยานยนต์ ทำให้ตำรวจรวมทั้งชาวบ้านบาดเจ็บจำนวนมาก และ น.ส.อารนี สะมะแอ อายุ 22 ปี เสียชีวิต นอกจากนี้แรงระเบิดยังทำให้รถจักรยานยนต์เสียหาย 6 คัน

หลังเกิดเหตุตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง กระจายกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่ พบปลอกกระสุนอาก้าตกอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ประกอบระเบิดพบเป็นรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ ทะเบียน กพพ 537 นราธิวาส จากการตรวจสอบพบเป็นของนางสุขใจ แก้วสำอาง และแจ้งหายไว้ที่สถานีตำรวจภูธรระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อเดือนก่อน ขณะนี้ตำรวจกำลังสอบสวนพยานเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย

2009-12-10 01:20:38

เหยื่อมอเตอร์ไซค์บอมบ์ที่สุไหงปาดีตายเพิ่มอีก 2 ราย​

​

นราธิวาส 10 ธ.ค.- ความคืบหน้าเหตุคนร้ายกราดยิงเข้าใส่ร้านอาหาร "พี่นา" ซึ้งตั้งอยู่ริมถนนจารุเสถียร เขตเทศบาลตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ทำให้ชาวบ้านที่ยืนมุงดูเหตุการณ์เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 11 ราย คืนวานนี้ (9 ธ.ค.) ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 2 ราย คือ นางสุวิมลวรรณ ฉัตรชัยพันธ์ อายุ 54 ปี และ น.ส.อารยา สะมะแอ อายุ 15 ปี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บรายอื่นๆ อีก 9 ราย ขณะนี้ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สุไหงโก-ลก อาการปลอดภัยแล้ว

ขณะที่ความคืบหน้าทางคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม พบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้ในครั้งนี้ เป็นระเบิดที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์เต็มที่ ทำให้รัศมีของระเบิดทำงานไกลกว่า 20 เมตร ส่งผลชาวบ้านที่ยืนมุงดูเหตุการณ์ได้รับบาดเจ็บหลายรายและเสียชีวิต ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะเป็นกลุ่มของนายอำรัน มิง ที่ก่อเหตุอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส.-สำนักข่าวไทย

2009-12-10 13:56:34

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

สำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินกลางสหรัฐฯ แนะทางเลือก มอบอุปกรณ์นิรภัยเป็นของขวัญคริสต์มาสและปีใหม่ ยื่นความปลอดภัยในชีวิตให้คนรัก...

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ว่า ทางสำนักงานการจัดการเหตุฉุกเฉินส่วนกลางสหรัฐฯ (FEMA) แนะนำประชาชนมอบของขวัญให้กับคนที่เรารัก ช่วงวันหยุดพักผ่อนเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและวันปีใหม่ ที่จะมาถึงว่า อาจเปลี่ยนเป็นบันไดพับเก็บได้ หรือสัญญาณหมอกควันแจ้งเตือนภัยในกล่องใบเล็ก แม้แต่อุปกรณ์ครบชุดประจำบ้านสำหรับรับมือภัยธรรมชาติ ทั้งอาหาร, น้ำ,ยารักษาโรค, อุปกรณ์การแพทย์ ซึ่งอาศัยได้ 72 ชั่วโมง และคอร์สเข้าเรียนการปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมใบประกาศนียบัตร

นายเครจ ฟูเกต ฝ่ายบริหารของ FEMA เผยว่า การให้ของขวัญเป็นเครื่องดับเพลิงขนาดพกพาอาจไม่อยู่ในความคิดของคนส่วนใหญ่ แต่ก็ถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าจะเหมาะสำหรับคนที่มีทุกอย่างพร้อมแล้ว สำหรับคนที่ชื่นชอบแนวเทคโนโลยีไฮเทค ก็อาจเลือกวิทยุสื่อสารฉุกเฉิน หรืออุปกรณ์ไฟฉายจิ๋ว ถือเป็นการมอบของขวัญที่สื่อให้ผู้รับเห็นว่าผู้ให้ต้องการให้ดูแลตัวเอง เวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน นอกจากนี้ โอกาสที่ทุกคนจะกลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากันมีเพียงปีละครั้ง ก็น่าพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแล้วชักชวนกันฝึกซ้อมวางแผนรับมือกับภัยธรรมชาติ.

ไทยรัฐออนไลน์ 11 ธันวาคม 2552, 16:15 น

 

ภาคใต้ฆ่าทหารกันกะหน่ำเลยนะ เสียดายชีวิต

__________________"เสียดายชีวิตคนดีดี"______________________

 

อนุโมทนาค่ะ ติงเพิ่งเคยเข้ามาอ่าน ได้ความรู้มากมายจริงๆ
กราบขอบพระคุณท่านเจ้าของกระทู้และท่านผู้แนะนำกระทู้เป็นอย่างสูงค่ะ..^^...

 

วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6952 ข่าวสดรายวัน


ทั่วโลกตื่นตะลึง แสงลึกลับบนฟ้า



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
แตกตื่น - แสงลึกลับสีน้ำเงินอมขาวขนาดใหญ่ ก่อตัวหมุนเป็นเกลียวอยู่เหนือท้องฟ้าภาคเหนือของนอร์เวย์ สร้างความแตกตื่นให้คนทั่วโลก เพราะเชื่อว่าเกิดจากฝีมือมนุษย์ต่างดาว แต่สุดท้ายคาดว่าเกิดจากแรงระเบิดของขีปนาวุธรัสเซีย



</TD></TR></TBODY></TABLE>ชาวนอร์เวย์ตื่นตะลึงทั่วประเทศ เมื่อแหงนขึ้นไปมองบนท้องฟ้า เห็นแสงประ หลาดขนาดมหึมา ค่อยๆ ขยายตัวสว่างจ้าไปทั่วเมือง แถมยังหมุนวนเป็นเกลียวลักษณะคล้ายก้นหอย จุดศูนย์กลางมีลำแสงสีน้ำเงินอมเขียวพุ่งออกมา เป็นอยู่นานประมาณ 2 นาที ก่อนจะแตกตัวหายวับไป สร้างความช็อกไปตามๆ กัน เพราะไม่รู้ว่าเป็นแสงอะไร บางกระแสว่าเกิดจากการยิงขีปนาวุธรัสเซีย บ้างก็ว่าเป็นฝีมือมนุษย์ต่างดาว แต่สุดท้ายทางกลาโหมรัสเซียออกมายอมรับว่ายิงขีปนาวุธจริง

เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. เว็บไซต์ข่าวหนังสือพิมพ์เดอะซันและเดลี่เมล์ สื่อสิ่งพิมพ์ชื่อดังแห่งทวีปยุโรป รายงานว่า ประชาชนทั่วประเทศนอร์เวย์ต่างตื่นตะลึงกับแสงประหลาดขนาดมหึมาบนท้องฟ้าทางภาคเหนือ มองเห็นได้ทั่วทั้งนอร์เวย์และพื้นที่ตอนเหนือของฟินแลนด์ ปลุกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ว่าอาจเป็นปรากฏการณ์ดาราศาสตร์รูปแบบใหม่ ซึ่งไม่เคยพบมาก่อน หรือเกิดจากฝีมือมนุษย์ต่างดาว ส่วนบางกลุ่มชี้ว่าเป็นผลลัพธ์การทดลองยิงขีปนาวุธในทะเลขาวของเรือดำน้ำรัสเซีย

รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงเช้ามืดวันพุธ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีลำแสงสีน้ำเงินสาดส่องพุ่งจากด้านหลังภูเขาลูกหนึ่งทางภาคเหนือของนอร์เวย์ขึ้นไปปรากฏบนท้องฟ้า จากนั้นไม่นานก็เกิดกลุ่มลำแสงสีขาวอมน้ำเงิน ค่อยๆ สว่างวาบขยายตัวใหญ่ขึ้นตามลำดับ และยังหมุนวนเป็นเกลียวในลักษณะคล้ายก้นหอยอย่างช้าๆ ขณะเดียวกันพื้นที่จุดศูนย์กลางมีลำแสงสีน้ำเงินอมเขียวพุ่งออกมาข้างนอก ทำให้ชาวนอร์เวย์ซึ่งเห็นเหตุการณ์ตกตะลึงสุดขีด

แสงประหลาดมองเห็นชัดเจนที่สุดในห้วงระยะเวลาประมาณ 2 นาที ก่อนระเบิดแตกตัวหายจากท้องฟ้าไปอย่างสิ้นเชิงภายใน 10-12 นาทีต่อมา เบื้องต้นโฆษกกระทรวงกลาโหมและเจ้าหน้าที่หอสังเกตการณ์ธรณีวิทยาทรอมโซ ประเทศนอร์เวย์ ระบุตรงกันว่า มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่แสงลึกลับคือผลลัพธ์จากการยิงทดลองขีปนาวุธ รุ่น "บูลาวา" โดยเรือดำน้ำดมิทรี ดอนสกอย ของรัสเซีย แต่การทดลองล้มเหลวจึงเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือรัสเซียแถลงยืนยันว่าช่วงเกิดแสงประหลาดเรือดมิทรีฯ ไม่ได้ยิงขีปนาวุธหรืออาวุธใดๆ ทั้งสิ้น และถ้าจะยิงจริงๆ ต้องทำเรื่องแจ้งกับทางการนอร์เวย์ก่อนตามข้อตกลงระหว่างประเทศ

สำหรับปฏิกิริยาในสังคมนอร์เวย์ต่อข่าวแสงประหลาดปลุกกระแสวิพากษ์วิจารณ์หลากหลาย โดยบางส่วนเชื่อว่าเป็นผลจากขีปนาวุธรัสเซียจริง แต่จำนวนไม่น้อยเชื่อว่าเป็นฝีมือมนุษย์ต่างดาวและจานผียูเอฟโอ ขณะที่บางกลุ่มบอกว่าอาจเป็นหลุมดำ หรือประตูทะลุมิติตามทฤษฎีวาร์ป ด้านนายคนุต จอร์เกน โรด โอเดการ์ด นักดาราศาสตร์นอร์เวย์ชื่อดัง กล่าวว่า เมื่อแรกเห็นภาพแสงประหลาดคิดว่าเกิดจากการระเบิดของดาวตก แต่เพราะลำแสงคงอยู่กินเวลานานมากจึงไม่น่าใช่ และไม่น่าเกิดจาก ปรากฏการณ์แสงเหนือเช่นกัน เพราะแสงเหนือมีสีอมเขียว

"ความคิดแรกผมคิดว่ามันคือดาวตก หรือสะเก็ดระเบิดดาวเทียมที่พุ่งเผาไหม้ผ่านชั้นบรรยากาศ แต่เมื่อดูลักษณะการหมุนวนแบบกังหันของแสงแล้วคิดว่าไม่น่าใช่ทั้งสองอย่างเพราะขัดกับหลักฟิสิกส์ สิ่งที่เกิดขึ้นแปลกพิสดารและลึกลับมาก ตั้งแต่เกิดมาผมก็ยังไม่เคยเจอ บางทีมันอาจเกิดจากขีปนาวุธรัสเซียก็ได้ แต่ผมไม่รับประกันคำตอบข้อนี้นะครับ" โอเดการ์ดกล่าว

เวลา 17.30 น. วันเดียวกัน เอเอฟพีรายงานจากกรุงมอสโก เมืองหลวงรัสเซียว่า แหล่งข่าวในกระทรวงกลาโหมรัสเซียยอมรับกับผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์คอมเมอร์ซานต์ว่า ช่วงเช้าวันพุธที่ 9 ธ.ค. กองทัพรัสเซียทดลองยิงขีปนาวุธ รุ่น บูลาวา จากเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ดมิทรีฯ จริง โดยหลังจากยิงไปแล้วระบบการทำงาน 2 ขั้น ตอนแรกผ่านไปด้วยดี แต่เมื่อเข้าสู่ขั้นที่ 3 การทำงานของเครื่องยนต์กลับไม่เสถียร จึงเกิดระเบิดขึ้น ถือเป็นความล้มเหลวครั้งที่ 9 จากการทดลองยิงทั้งหมด 13 ครั้ง

นายปาเวล เฟลเกนฮาวเออร์ นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงคนสำคัญของรัสเซีย กล่าวว่า ข่าวข้างต้นพิสูจน์ให้เห็นว่าแสงลึกลับเหนือน่านฟ้านอร์เวย์เกิดจากการระเบิดของขีปนาวุธบูลาวา ไม่ได้เป็นฝีมือมนุษย์ต่างดาว ในอดีตเมื่อการยิงทดสอบขีปนาวุธผิดพลาดและเกิดระเบิดในบรรยากาศชั้นบนของโลกก็เคยมีรายงานพบแสงลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว

"มองในแง่ดี อย่างน้อยการทดลองขีปนาวุธรัสเซียครั้งนี้ถือเป็นการช่วยจุดพลุสวยๆ ให้ชาว นอร์เวย์ได้ชม" ปาเวล กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับปรากฏ การณ์ดังกล่าวมีการนำขึ้นไว้ในเว็บไซต์ยูทูบ ออกเผยแพร่ไปทั่วโลก ทำให้คนทั้งโลกได้มีโอกาสได้ดูและเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา



<TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD align=left height=20>หน้าที่ : [1]



</TD></TR><TR><TD>[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]ความคิดเห็นที่ : 5 [/FONT][FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]โดยคุณ : 2555[/FONT]
[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]♣ ธันวาคม2555วันสิ้นโลก[/FONT]

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]114.128.76.142[/FONT]​

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]หากความเห็นนี้มีคำไม่เหมาะสมโปรดคลิกที่นี่!....[/FONT] <HR width="90%" color=#e1f0ff SIZE=2></TD></TR><TR><TD>[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]ความคิดเห็นที่ : 4 [/FONT][FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]โดยคุณ : Panvy[/FONT]
[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]♣ กุข่าวแตกตื่นทั่วโลก"จะเป็นวันใกล้สิ้นโลกแล้ว" แสงสี่แปลกปลาดนี้ ชี้ถึงกาลเวลาที่พระเจ้าสัญญาบอกชาวโลกว่าใกล้วันสิ้นโลก จริงแล้ว คือ บูลาวา ขีปนาวุธของรัสเซีย ชาวพุทธต้องไม่ตื่นข่าว ย่อมวิเคราะห์ข่าวก่อนด้วยปัญญา ตามหลักอริยสัจจะ ๔ ย่อมทราบชัดว่าพระเจ้าหรือ ก็มนุษย์นี้แหระสร้างขึ้น จากจินตนาการอวิชชา ได้แก่ความฉลาดเฉลียวที่มิใช่วิชชา ๓ -ความรู้เห็นเองในสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน-ความรู้เห็นเองในสิ่งที่จุติ+อุบัติ-ความรู้เห็นเองในการสิ้นสูญอาสวะ ความรู้เห็นเอง ๓ เช่นนี้เรียกว่า"ญาณ"ในวิชชา ๓ ฉะนั้น ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ย่อมเป็นฝีมือของมนุษย์เช่นกันครับผม[/FONT]

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]61.7.168.9[/FONT]​

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]หากความเห็นนี้มีคำไม่เหมาะสมโปรดคลิกที่นี่!....[/FONT] <HR width="90%" color=#e1f0ff SIZE=2><HR SIZE=1></TD></TR><TR><TD>[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]ความคิดเห็นที่ : 3 [/FONT][FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]โดยคุณ : แนวหลัง[/FONT]
[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]♣ รีบทำดีกันนะคะ ก่อนจะถึงวันสิ้นโลกตามคำทำนาย แต่แท้จริง ก็เป็นน้ำมือมนุษย์นี่เอง [/FONT]

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]61.7.240.130[/FONT]​

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]หากความเห็นนี้มีคำไม่เหมาะสมโปรดคลิกที่นี่!....[/FONT] <HR width="90%" color=#e1f0ff SIZE=2><HR SIZE=1></TD></TR><TR><TD>[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]ความคิดเห็นที่ : 2 [/FONT][FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]โดยคุณ : 555[/FONT]
[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]♣ อวตาร แน่นอน[/FONT]

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]124.122.254.85[/FONT]​

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]หากความเห็นนี้มีคำไม่เหมาะสมโปรดคลิกที่นี่!....[/FONT] <HR width="90%" color=#e1f0ff SIZE=2><HR SIZE=1></TD></TR><TR><TD>[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]ความคิดเห็นที่ : 1 [/FONT][FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]โดยคุณ : มะนาวต่างดุ๊ด[/FONT]
[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]♣ ใกล้วันสิ้นโลกแล้ว[/FONT]

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]114.128.188.146[/FONT]​

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif,Thonburi]หากความเห็นนี้มีคำไม่เหมาะสมโปรดคลิกที่นี่!....[/FONT]

</TD></TR></TBODY></TABLE>

บอลไทยตกรอบ พ่ายมาเลย์2-1

หยุดสถิติแชมป์ซีเกมส์8สมัยติด

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
เมื่อ 11 ธ.ค. ทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย แชมป์ซีเกมส์ 8 สมัยติดต่อกัน ตกรอบฟุตบอลซีเกมส์ ครั้งที่ 25 แล้ว หลังพ่ายทีม “เสือเหลือง” มาเลเซีย ที่สนามกีฬาแห่งชาติลาว 2-1 ประตู แม้ว่า ถ้าไทยทำได้เพียงเสมอก็จะเข้ารอบแล้ว ส่วนมาเลเซีย ต้องชนะสถานเดียว

โดยเกมในครึ่งแรก สองทีมยังทำประตูไม่ได้ มาครึ่งหลัง อาทิตย์ สุนทรพิธ เตะฟรีคิกสุดสวย ให้ไทยนำ 1-0 นาทีที่ 52 แต่ช่วงท้ายเกม มาเลเซียไล่ตีเสมอเป็น 1-1 จากนาสริก นาทีที่ 80 และยิงลูกประตูชัยได้ในที่สุด ในช่วงทดเจ็บจากอาหมัด ฟาครี มาเลเซียมีคะแนนเป็นที่สองของกลุ่ม เข้ารอบไปพร้อมกับเวียดนาม

ในงานวิทยาศาสตร์ทางจิต คุณหมอเทพนม เมืองแมน ฟันธงว่าเกิดในปี 2012 แน่นอน
พวกนอกโลกบอกมานะ เกิดวันที่ 21/12 /2012 อย่างแน่นอน
และบอกว่าการเมืองมุมอับ อาจเกิดสงครามกับเขมรได้ การเมืองจะมีการเปลี่ยนแปลง
เมษาปีหน้านะเอ๋ย นะเอ๋ย นะเอ๋ย
ให้รถติดสติ๊กเกอร์ แก้บอมบ์ใต้

ทั้ง3จว.4อำเภอสงขลา ขึ้นทะเบียนทำประวัติ เหยื่อบึ้มตายเพิ่มอีก2



แม่ทัพภาค 4 งัดมาตรการป้องกัน "จยย.บอมบ์-คาร์บอมบ์" ให้ชาวบ้านใน 3 จังหวัดใต้ และ 4 อำเภอสงขลา นำมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ ไปลงทะเบียนรับสติ๊กเกอร์ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย มีไปจนถึงวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า เชื่อเป็นแนวทางหนึ่งช่วยป้องกันเหตุระเบิด และป้องกันโจรกรรมรถ หรือนำไปกระทำผิดกฎหมาย ขณะที่เหยื่อจยย.บอมบ์สุไหงปาดีตายเพิ่มอีก 2 ด้านยะลาฆ่ารายวันอีกศพ เป็นชรบ.ธารโต โดนยิงถล่มด้วยเอชเคขณะกรีดยาง

จากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดที่ศาลาริมแม่น้ำปัตตานี ถนนเลียบแม่น้ำ เขตเทศบาลนครยะลา มีทหารบาดเจ็บ 3 นาย และในขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ปรากฏว่าคนร้ายกดชนวนระเบิดถล่มใส่อีกลูก เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บรวม 13 นาย เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย และนายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย เดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. พ.ต.อ.ภูมิ เพ็ชร พิพัฒน์เพชรภูมิ รอง ผบก.ยะลา กล่าวว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูล รวมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดโดยรอบสถานที่เกิดเหตุทั้งหมด โดยกล้องสามารถบันทึกภาพผู้ต้องสงสัยไว้ได้ และหลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัย ที่คาดว่ามีส่วนร่วมก่อเหตุเอาไว้ 1 ราย เป็นชาว ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวน เพื่อขยายผลว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดหรือไม่ และจากวัตถุพยานในที่เกิดเหตุเชื่อว่าเป็นกลุ่มก่อเหตุที่เชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยเครือข่ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มีทั้งลอบวางระเบิดโชว์รูมและธนาคาร <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
ตรวจเข้ม - เจ้าหน้าที่ทหาร-ตร.ในเขตเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา ตรวจค้นรถยนต์อย่างเข้มงวดตามสถานที่สำคัญๆ หลังเกิดเหตุระเบิดและพบเบาะแสความเคลื่อนไหวของกลุ่มอาร์เคเคเข้ามาในพื้นที่ ตามข่าว

</TD></TR></TBODY></TABLE>

รายงานข่าวจากฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองยะลา ระบุว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะเป็นเครือข่ายของนายไฟศอล หะยีสะมะแอ และนายซอฟวัน สามะ เป็นกลุ่มที่ยังมีเครือข่ายและศักยภาพก่อเหตุในพื้นที่ เนื่องจากหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มดังกล่าว และเชื่อมโยงไปยังกลุ่มในพื้นที่ อ.หนองจิก ด้วย สำหรับนายไฟศอลเป็นผู้ต้องหาในคดีด้านความมั่นคงหลายคดี โดยเฉพาะคดีลอบวางระเบิดสนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อไม่กี่ปีก่อนด้วย

ด้านนายดลเดช พัฒนรัฐ นายอำเภอเบตง จ.ยะลา กล่าวว่า กำชับตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่ให้เพิ่มความเข้มและความถี่ในการดูแลรักษาความปลอดภัยในเขตเทศบาลเมืองเบตง เพราะในขณะนี้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เน้นตรวจรถและบันทึกทะเบียนรถทุกชนิดที่เดินทางเข้ามายังพื้นที่

ส่วน พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า เพื่อให้การป้องกันเหตุ จยย.บอมบ์ และคาร์บอมบ์อีกแนวทางหนึ่ง ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า จัดทำสติ๊กเกอร์สำหรับติดรถยนต์ และจักรยานยนต์ สำหรับประชาชนในพื้นที่ จ.ปัตตานี จ.นราธิวาส และ จ.ยะลา รวมทั้ง 4 อำเภอของ จ.สงขลา คือ จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย จึงขอความร่วมมือจากเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ให้นำยานพาหนะที่ครอบครองไปลงทะเบียน และรับสติ๊กเกอร์จากจุดต่างๆ ที่กำหนดไว้ในตำบล และอำเภอต่างๆ ที่เจ้าของยานพาหนะอาศัยอยู่จริง โดยนำสำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และให้ติดต่อได้จนถึงวันที่ 20 ม.ค.2553

แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวต่อว่า การลงทะเบียนยานพาหนะ และติดสติ๊กเกอร์ นอกจากจะเป็นการป้องกันคาร์บอมบ์ และจักรยานยนต์บอมบ์แล้ว ยังทำให้เจ้าของยานพาหนะนำยานพาหนะผ่านจุดตรวจได้อย่างสะดวก ป้องกันการโจรกรรมรถยนต์และจักรยานยนต์ รวมทั้งการนำยานพาหนะไปใช้ในการทำผิดกฎหมาย จึงขอความร่วมมือจากเจ้าของยานพาหนะที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัด และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ไปขึ้นทะเบียนและรับสติ๊กเกอร์ตามเวลาที่กำหนดไว้ด้วย

ส่วนเหตุคนร้ายกราดยิงใส่ร้านอาหารพี่นา ตั้งอยู่ริมถนนจารุเสถียร เขตเทศบาลตำบลปะ ลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ก่อนจุดชนวนระเบิดที่ประกอบไว้ในรถจักรยานยนต์ถล่มใส่ เป็นเหตุให้มีชาวบ้านเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บจำนวนมากนั้น ล่าสุดในวันที่ 10 ธ.ค.นี้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีก 2 ราย คือ นางสุวิมลวรรณ ฉัตรชัยพันธ์ อายุ 54 ปี และ น.ส.อารยา สะมะแอ อายุ 15 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บที่เหลืออีก 9 รายยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่ร.พ. สุไหงโก-ลก และอาการปลอดภัยแล้ว

ด้าน พ.ต.ท.เลียบ พรหมจันทร์ รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน จ.นราธิวาส พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หัวหน้ากองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม พบว่าระเบิดที่คนร้ายใช้ในครั้งนี้เป็นระเบิดที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้รัศมีของระเบิดไกลกว่า 20 เมตร เป็นเหตุให้ชาวบ้านที่ยืนมุงดูเหตุการณ์ได้รับบาดเจ็บหลายราย ส่วนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้เชื่อว่าน่าจะเป็นกลุ่มของนายอำรัน มิง ที่ก่อเหตุอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ จ.นราธิวาส

วันเดียวกัน เวลา 11.40 น. พ.ต.อ.เฉลิมเกียรติ อัมรากระสินธุ์ ผกก.สภ.ธารโต จ.ยะลา รับแจ้งเหตุมีชาวบ้านถูกยิงเสียชีวิตภายในสวนยางพารา หมู่ 2 ต.บ้านแหร อ.ธารโต จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ รอง ผบก.ยะลา นำกำลังตำรวจและทหารรุดไปที่เกิดเหตุ พบศพนายรุสลัน ลีอะละ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/1 หมู่ 2 ต.บ้านแหร ถูกยิงด้วยกระสุนปืนเอชเค เข้าลำตัวหลายนัดจนพรุน และพบปลอกกระสุนปืนเอชเคนับสิบปลอก

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายรุสลันขับขี่รถจักรยานยนต์มากรีดยางพารา ระหว่างนั้นมีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน ดักซุ่มอยู่บนเนินเขา และได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มหลายนัด ก่อนพากันหนีขึ้นไปบนภูเขา สันนิษ ฐานในเบื้องต้นคาดเป็นฝีมือกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบในพื้นที่ เนื่องจากผู้ตายเป็นเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และ ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด

"โอบามา"รับโนเบล



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
ผู้นำสันติ?- ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐ รับรางวัลโนเบล สันติภาพ ปี 2552 ณ นครออสโล สวีเดน ท่ามกลางเสียงคัด ค้าน เพราะโอบามาเพิ่งมีคำสั่งเพิ่มทหารอเมริกันในสมรภูมิอัฟกานิสถาน เมื่อ 10 ธ.ค.



</TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 10 ธ.ค. เอพีรายงานว่า ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐอเมริกา เดินทางไปยังกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ เพื่อรับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ประจำปีพ.ศ.2552 จากคณะกรรมการโนเบล ท่ามกลางเสียงคัดค้านของกลุ่มรณรงค์ต่อต้านสงคราม รวมถึงกลุ่มอนุรักษ์กรีนพีซ ซึ่งโจมตีว่านายโอบามาไม่สมควรได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ เพราะเพิ่งอนุมัติคำสั่งเพิ่มกำลังทหารสหรัฐในสมรภูมิอัฟกานิสถาน











ภูเขาน้ำแข็งยักษ์ มุ่งหน้าชนออสซี่



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>


</TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 10 ธ.ค. สำนักข่าวต่างประ เทศรายงานว่า ภูเขาน้ำ แข็งขนาดยักษ์ รหัส "บี 17 บี" กำลังเคลื่อนที่มุ่งหน้าชนแดนจิงโจ้

ดร.นีล ยัง นักธารน้ำแข็งวิทยาประจำศูนย์สังเกตการณ์ทวีปแอนตาร์กติกา ประเทศออสเตรเลีย แถลงว่า ภูเขาน้ำแข็ง บี 17 บี มีความยาวประมาณ 19.3 กิโลเมตร กว้าง 8 กิโลเมตร พื้นที่รวม 140 ตารางกิโลเมตร แยกตัวออกจาก "รอสส์ไอซ์เชลฟ์" หรือหิ้งน้ำแข็งรอสส์ แถบขั้วโลกใต้ทวีปแอนตาร์กติกา เมื่อปีพ.ศ.2543 และเคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ 5 ปี

ดร.ยัง ระบุว่า จากการตรวจสอบข้อมูล ด้วยภาพถ่ายดาวเทียมของสำนักงานอวกาศสหรัฐและยุโรป พบว่า ปัจจุบัน บี 17 บี อยู่ห่างจากชายฝั่งทิศตะวันตกของออสเตรเลีย 1,600 กิโลเมตรเศษ เคราะห์ดีที่กระแสน้ำและทิศทางลมพัดขึ้นไปทางเหนือ ทำให้ภูเขาน้ำ แข็งยักษ์ก้อนนี้ไม่น่าลอยมาชนแผ่นดินใหญ่ แต่อาจไปชนเขตไหล่ทวีปแทน


<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>กษัตริย์กัมพูชาอภัยโทษศิวรักษ์แล้ว-กลับจันทร์นี้

มาร์คยินดีเรื่องจะได้จบ

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. เอเอฟพีรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ว่า นายเขียว กันนะฤทธิ์ โฆษกรัฐบาลกัมพูชา แจ้งว่า กษัตริย์นโรดม สีหมุนี พระราชทานอภัยโทษนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศกรชาวไทย ที่ถูกตัดสินจำคุก 7 ปีข้อหาจารกรรมตารางบินพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยจะมีพิธีปล่อยตัวอย่างเป็นทางการภายในวันที่ 14 ธ.ค. นี้ ในช่วงระหว่างนางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดานายศิวรักษ์ และสมาชิกพรรคเพื่อไทยเข้าพบนายกรัฐมนตรีฮุน เซน

ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนยังไม่ยืนยันกับข่าวที่ออกมา ต้องรอฟังคำแถลงจากทางรัฐบาลกัมพูชาอย่างเป็นทางการก่อน เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนที่พรรคเพื่อไทยประสานงานเพื่อดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษอยู่ ส่วนข่าวที่ออกมาคมต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ทั้งนี้ยืนยันว่าที่ผ่านมาทั้งพรรคเพื่อไทยและพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย พยายามที่จะช่วยเหลือนายศิวรักษ์โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชาและเชื่อว่ากัมพูชาจะเร่งประสานในส่วนของการกราบบังคมทูลฯขอพระราชทานอภัยโทษให้เร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามถึงรายงานข่าวที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางไปรับมอบตัวนายศิวรักษ์ ที่ประเทศกัมพูชาในวันจันทร์ที่ 14 ธ.ค.นี้ นายนพดล กล่าวว่า ไม่แน่ใจและยังไม่มีข้อมูลว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปกัมพูชาหรือไม่ ล่าสุดทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ออกเดินทางจากประเทศรัสเซียกลับมาที่เมืองดูไบแล้ว

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีที่ นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ระบุเป็นเรื่องดี เพราะสิ่งสำคัญคือการที่ นายศิวรักษ์ ได้รับอิสรภาพ หลังจากนี้ก็เป็นเรื่องของข้อเท็จจริงโดยไม่คิดว่าจะมีการนำมาขยายผลทางการเมือง เพราะสิ่งที่ นายศิวรักษ์ ดำเนินการไม่ได้เป็นความลับ และมั่นใจว่าสามารถชี้แจงกับนานาประเทศได้ว่ารัฐบาลไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของ นายศิวรักษ์ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้ากัมพูชา ก็จะยังคงทำหนังสือขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

เวลา 15.30 น.ที่สถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ได้ลงนามถึงสมเด็จฮุนเซน เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้ทางกัมพูชาเร่งรัดขั้นตอนการขอพระราชทานอภัยโทษให้กับนายศิวรักษ์ ผ่านทางนายโอก โสพน ( Ouk Sophon) ที่ปรึกษาสถานทูต ปฏิบัติหน้าที่เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย เป็นผู้รับหนังสือ โดยนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องเลื่อนการยื่นหนังสือจากเดิมที่กำหนดไว้ว่าจะยื่นเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. มาเป็นวันนี้ เนื่องจากสมเด็จฮุนเซน ติดภารกิจร่วมเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่ประเทศลาว นอกจากนี้ยังมีปัญหาติดขัดเพราะมีบุคคลในรัฐบาล เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พยายามที่จะให้ข่าวว่าการช่วยเหลือของพรรคเพื่อเป็นการจัดฉากสร้างภาพ ทำให้ทางกัมพูชารู้สึกไม่สบายใจกับคำพูดเหล่านั้น ส่งผลให้การประสานงานของพรรคเพื่อไทยเกิดติดขัดไปบ้าง แต่ทางกัมพูชาก็เข้าใจและพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ ทั้งนี้ที่สื่อต่างประเทศนำเสนอข่าวว่ากษัตริย์กัมพูชาได้พระราชทานอภัยโทษ อาจเป็นหนังสือที่ฝ่ายทนายของนายศิวรักษ์ เป็นผู้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ จึงทำให้มีการนำเสนอข่าวออกมา ส่วนข้อเท็จจริงว่านั้นต้องรอให้ทางกัมพูชา แถลงอย่างเป็นทางการก่อน



ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ ขอความอนุเคราะห์กรณีที่นางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทย ที่ถูกทางการกัมพูชาควบคุมตัวและถูกพิพากษาให้จำคุก 7 ปี ขอลาราชการเพื่อเดินทางไปติดตามคดีของบุตรชาย ที่ประเทศกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.-30 ธ.ค. โดยมีนายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ เป็นผู้รับหนังสือแทน โดยนายพร้อมพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้นางสิมารักษ์ รู้สึกกังวลอย่างมากในเรื่องการสอน และการลาราชการ เพราะกลัวว่าจะมีปัญหาภายหลัง เนื่องจากมีกระแสข่าวมาว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนวินัยนางสิมารักษ์ ดังนั้นเพื่อความชัดเจน นางสิมารักษ์ จึงได้ส่งเอกสารขอความอนุเคราะห์มาทางโทรสาร และขอให้ตนเป็นผู้แทนนำหนังสือมายื่นขอความเมตตาต่อ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด

“นางสิมารักษ์ เป็นห่วงการขาดการสอนเด็ก รวมทั้งกลัวถูกเล่นงานทางวินัย และก็ห่วงลูกชายด้วย เพราะกระบวนการการขออภัยโทษยังมีปัญหา จึงขอความเมตตาว่า หากรัฐบาลต้องการช่วยนายศิวรักษ์จริงๆ ก็ขอให้ช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ให้” โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว

ด้านนายจุรินทร์ กล่าวว่า นางสิมารักษ์ เป็นข้าราชการ ตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ ประจำวิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ซึ่งนางสิมารักษ์ได้ยื่นขอลากิจกับทางผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคฯ ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. – 31 ธ.ค. เป็นเวลา 30 วัน ซึ่งผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคฯ ได้อนุมัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่หากนางสิมารักษ์ต้องการลาเกินกว่าที่ได้ยื่นลากิจไว้แล้ว ก็เป็นอำนาจของเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.) เป็นผู้พิจารณา ซึ่งตนได้กำชับกับเลขาธิการ กอศ.ให้พิจารณาอำนวจความสะดวกให้ตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ส่วนกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทยระบุว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนวินัยนั้น ตนยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องจริง และไม่มีเหตุอะไรที่จะนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการสอบฯ เพราะนางสิมารักษ์ดำเนินการลาตามขั้นตอนไม่ได้ทำอะไรผิด ดังนั้นอยากให้นายพร้อมพงศ์ หยุดสร้างเรื่อง ไม่เป็นความจริง ทำให้ผู้อื่นเสียหาย ควรเลิกพฤติกรรมเช่นนี้ได้แล้ว

ในเวลาต่อมา นายพร้อมพงศ์ เดินทางไปที่กระทรวงการต่างประเทศ ยื่นหนังสือ ขอให้นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกอัคราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ แสดงความรับผิดชอบที่ทำให้นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ถูกศาลกัมพูชาพิพากษาจำคุก โดยมีนายเสรี มุทราธาร นักการทูตชำนาญการกองกลาง เป็นผู้รับหนังสือ โดยโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายคำรบและผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการประเทศ มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้นายศิวรักษ์ต้องจำคุก เนื่องจากมีการสอบถามข้อมูลการบินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบ โดยอ้างว่าการกระทำการดังกล่าว เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ จึงเรียกร้องให้นายกษิตและนายคำรบ รับผิดชอบด้วยการลาออก แต่หากไม่ออกมารับผิดชอบ จะให้ สส.พรรคเพื่อไทยรวบรวมข้อมูลนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกษิตต่อไป และขอให้นายคำรบแสดงความรับผิดชอบ โดยการออกมาขอโทษต่อครอบครัวของนายศิวรักษ์ด้วย

นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงสาเหตุที่ไม่เดินทางไปยื่นหนังสือที่สถานทูตกัมพูชาด้วยว่า เพราะไม่มีเอกอัครราชทูตที่มีอำนาจดำเนินการประจำอยู่ และพรรคเพื่อไทยยังคงประสานให้ความช่วยเหลือนายศิวรักษ์อย่างต่อเนื่อง และจะเดินทางไปประเทศกัมพูชา เพื่อช่วยเหลือนายศิวรักษ์และครอบครัวให้เร็วที่สุด


http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=5&contentID=36781
เกิดความขัดแย้งอย่างหนักในการประชุมว่าด้วยการลดโลกร้อนที่กรุงโคเปนเฮเก้นของเดนมาร์กระหว่างประเทศยักษ์ใหญ่กับประเทศที่ถูกระบุว่า ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลก โดยจีนได้พุ่งเป้าหมายไปยังประเทศร่ำรวยที่ล้มเหลวในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมกับกล่าวหากลุ่มประเทศพัฒนาแล้วว่า ไม่ยอมทำตามคำสัญญาลดการปล่อยก๊าซและให้เงินสนับสนุนชาติยากจนเพื่อแก้ปัญหาผลกระทบจากภาวะโลกร้อน.
วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6952 ข่าวสดรายวัน

</TD><TD vAlign=top align=left>




<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21></TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21></TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD width=21 height=21></TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD width=21 height=21></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ทหารพรานโผล่ การ์ดแดง เสธ.แดงคุมมาเอง

ม็อบร่วมหมื่นเฮ ทักษิณวิดีโอลิงก์ นัดอีกหลังปีใหม่ พท.ยื่น-อภัยโทษ ผ่านทูตเขมรแทน



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
มาจริง - ทหารพรานค่ายปักธงชัย จำนวนกว่า 200 นาย นำโดย "เสธ.แดง" พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล เดินทางมาร่วมรำลึกวันรัฐธรรมนูญ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยเป็นการ์ดให้ม็อบเสื้อแดง เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.

</TD></TR></TBODY></TABLE>เสื้อแดงเกือบหมื่นร่วมชุมนุมวันรัฐธรรมนูญ-ถวายพระพรที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย "แม้ว"วิดีโอลิงก์ติง"มาร์ค"อย่าเห็นผิดเป็นถูก ย้ำอีกพร้อมเจรจา แต่ไม่ห้ามคนเสื้อแดงชุมนุมทวงคืนรธน.ปี 2540 ลั่นไม่คิดคัมแบ๊กเก้าอี้นายกฯ ด้าน"เสธ.แดง"ขน 200 ทหารพรานค่ายปักธงชัยร่วมด้วย อ้างประชาธิปไตย-คุ้มกันเสื้อแดง แกนนำนปช.แฉ"เนวิน"ขนแดงปลอมบุรีรัมย์ซุ่มสุวรรณ ภูมิ หวังซ้ำรอยเมษาเดือด ทบ.สรุปโทษวินัยเสธ.แดงส่งกลาโหมแล้ว เอาผิด 2 เรื่อง "ดอดไปเขมร-พูดทำลายกองทัพ" ขู่ทำผิดซ้ำโดนโทษอาญาทหาร "บิ๊กจิ๋ว"เซ็นหนังสือประสานอภัยโทษศิวรักษ์ เตรียมยื่นสถานทูตกัมพูชาในไทย เผย"แม้ว"โทร.ล็อบบี้ฮุนเซนแล้ว "มาร์ค"อัด"บิ๊กจิ๋ว"ต้นเหตุสัมพันธ์ไทย-เขมรร้าว "ชุมพล"จี้เดินหน้าแก้รธน.ใน 7 ประเด็น เผยสัญญา"มาร์ค" 1 ปีปรับครม. ครบกำหนด 20 ธ.ค. ย้ำโควตาชทพ. 4 ตำแหน่ง เปลี่ยนแค่เก้าอี้เสธ.หนั่น ยันไม่แลกกระทรวง

"จิ๋ว"ประสานอภัยโทษศิวรักษ์

วันที่ 10 ธ.ค. เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการช่วยเหลือนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทย ที่ศาลกัมพูชาตัดสินจำคุก 7 ปี ข้อหาโจรกรรมตารางการบินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า ตนและพล.ต.ศรชัย มนตริวัต ส.ส.กาญจนบุรี ได้เข้าพบพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่บ้านพักเพื่อให้ลงนามในหนังสือขอความอนุเคราะห์ถึงสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา พร้อมทั้งให้พิจารณาเอกสารที่ตนและคณะทำงานฝ่ายกฎหมายได้ร่างขึ้นด้วย ซึ่งพล.อ.ชวลิตได้ตรวจสอบและลงนามในหนังสือ ดังกล่าวแล้ว

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้รับการร้องขอจากนางสิมารักษ์ให้ประสานความช่วยเหลือเรื่องการขออภัยโทษเป็นกรณีเร่งด่วน เนื่องจากนางสิมารักษ์ ร้อนใจอยากช่วยลูกชายโดยเร็วที่สุด ประกอบกับกังวลเรื่องการขาดงาน หากยิ่งนานวันเกรงว่าจะทำผิดระเบียบ จนถูกตั้งกรรมการสอบ นอกจากนี้ลูกชายอีกคนที่เดินทางไปด้วยก็กลับมาประเทศไทยก่อนแล้วเพราะต้องมาสอบ ทำให้ตอนนี้ต้องอยู่คนเดียว เมื่อผู้ใหญ่ของพรรค รวมทั้งพล.อ.ชวลิต และนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท. ทักษิณทราบเรื่อง ก็เห็นใจและประสานให้ตนดำเนินการทันที

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ดังนั้น ในวันที่ 11 ธ.ค. เวลา 09.30 น. ตนและคณะจะไปยังสถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เพื่อยื่นหนังสือที่รวบรวมไว้ผ่านทางสถานทูต ต่อไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา คาดว่าเมื่อยื่นไปแล้ว ในวันเดียวกันทางการกัมพูชาจะได้รับหนังสือทั้งหมด ส่วนการเดินทางของตนและคณะที่ตั้งใจจะไปกัมพูชาเพื่อยื่นหนังสือในวันที่ 14 ธ.ค.นั้น ต้องยกเลิกไปก่อน

เผย"แม้ว"โทร.ล็อบบี้ฮุนเซน

เมื่อถามถึงข้อกล่าวหาว่าเป็นการจัดฉากเพื่อสร้างภาพให้กับพล.อ.ชวลิต พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยนั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ยืน ยันว่าพรรคไม่ได้ทำเพื่อสร้างภาพ หรือแย่งซีน หรือตั้งเรื่อง ชงเรื่องเอง จึงขอเรียกร้องให้หยุดพูดบิดเบือนแล้วมาร่วมสร้างความสมานฉันท์ ช่วยคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากเพราะการกระทำของเจ้าหน้าที่บางคน รวมทั้งผู้บริหารระดับสูงที่ทำให้นายศิวรักษ์ ต้องตกเป็นแพะ และหวังว่าหลังจากคดีนายศิวรักษ์ ลุล่วงแล้วจะตรวจสอบการดำเนินการของนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงต่อไป

เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ มีความเห็นอย่างไร นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กำชับกับนายนพดล ขอให้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพราะเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ และพ.ต.ท.ทักษิณ ยังโทรศัพท์ประสานความช่วยเหลือไปยังสมเด็จฮุนเซน แล้ว ในฐานะมิตรที่ดีเพื่อขอให้ช่วยเหลือคดีของนายศิวรักษ์ แต่ไม่ได้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการ โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ย้ำว่าไม่ติดใจแม้นายศิวรักษ์จะคิดร้ายต่อตนเองหรือไม่

"มาร์ค"พร้อมช่วยวิศวกรพ้นคุก

เวลา 14.40 น. ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงพรรคเพื่อไทยชวนทุกพรรคการเมืองไปยื่นของพระราชทานอภัยโทษให้นายศิวรักษ์ ว่า ทั้งหมดต้องเป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการภายในของกัมพูชา โดยหลักคือครอบครัวและเจ้าตัว ซึ่งวันนี้ทางครอบครัวโดยเฉพาะคุณแม่พยายามหาหนทางที่ดีที่สุด ทำให้นายศิวรักษ์ได้อิสร ภาพกลับคืนมา ดังนั้นขั้นตอนตรงนี้ ทางครอบ ครัวเขาสบายใจหรือมั่นใจที่จะเดินไปอย่างไร ก็ให้เดินไปตามนั้น

เมื่อถามว่ามองเจตนาของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยอย่างไร กรณีร่วมลงชื่อขอยื่นพระราชอภัยโทษให้นายศิวรักษ์ด้วยตนเอง นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าเราเข้าใจที่มาที่ไปของเรื่องพอสมควร ซึ่งหน้าที่รัฐบาลคือพร้อมสนับสนุน อำนวยความสะดวกตามความประสงค์ของนายศิวรักษ์ และครอบครัว ขณะเดียวกันจะรักษาจุดยืนและปกป้องความถูกต้อง ในแง่บทบาทของเจ้าหน้าที่ รัฐบาลไทย และคนไทย

ซัด"จิ๋ว"ต้นเหตุไทยงัดข้อเขมร

เมื่อถามว่าทางพรรคเพื่อไทยมีความมั่นใจมากว่าเมื่อขอยื่นอภัยโทษในวันที่ 14 ธ.ค.นี้แล้ว ทางการกัมพูชาจะปล่อยตัวในทันที นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ เพราะเรื่องนี้คาดการณ์กันมาตั้งนานแล้ว เมื่อถามว่าคิดว่าทุกอย่างมีความผิดปกติหรือไม่ เพราะทำไมพรรคเพื่อไทยจึงรู้ล่วงหน้า และทุกอย่างเป็นจริงตามที่ระบุ นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นคงเข้าใจที่มาที่ไป อย่าไปวิจารณ์กันมาก ช่วงนี้เราอยากให้นายศิวรักษ์ได้รับอิสรภาพกลับคืนมา แต่จะไม่ให้กระทบกับความถูกต้อง และข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยพยายามขยายผลโดยโจมตีรัฐบาลว่าหากรัฐบาลชุดปัจจุบันยังอยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกัมพูชาจะไม่มีทางฟื้นฟูได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "อยู่ที่ว่าต้องย้อนกลับไปดูเงื่อนไขที่เป็นปัญหาขึ้นมานั้นเกิดขึ้นจากใคร ผมขอย้ำอีกครั้งว่าก่อนหน้า พล.อ.ชวลิต เดินทางไปกัมพูชา ทุกอย่างก็เรียบร้อยดี"

เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โทรศัพท์ติดต่อมายังพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมด้วยตัวเอง นายกฯปฏิเสธว่าไม่มี

"เด็จพี่"เลื่อนยื่นหนังสือทูตเขมร

เวลา 20.00 น. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า จากเดิมกำหนดจะยื่นหนังสือถึงสถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยในวันที่ 11 ธ.ค. เวลา 09.30 น. ต้องขอเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากจะให้ผู้ใหญ่ตรวจสอบเอกสารเพื่อให้เกิดความชัดเจนและรอบคอบ อย่างไรก็ตาม นางสิมารักษ์ มีความกังวลเรื่องของการขาดงาน จึงประสานตนขอให้ช่วยยื่นหนังสือขอลางานออกไปอีกระยะหนึ่งต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งตนได้รับหนังสือจากนาง สิมารักษ์ แล้วและจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อรมว.ศึกษาธิการในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ทั้งนี้ ในฐานะหัวหน้าทีมประสานงาน หากเกิดความชัดเจนตนก็พร้อมเดินทางไปยื่นหนังสือที่สถานทูตกัมพูชาอีกครั้งหนึ่ง

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ส่วนการทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษต่อพระมหากษัตริย์กัมพูชานั้น ทนายความของนายศิวรักษ์ได้ยื่นหนังสือที่มีลายเซ็นของนายศิวรักษ์และนางสิมารักษ์ไปแล้ว โดยหนังสือดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่วนการเดินทางไปกัมพูชาเพื่อยื่นหนังสือต่อนายกฯฮุนเซนในวันที่ 14 ธ.ค.นั้นต้องเลื่อนออกไปก่อน

"มาร์ค"ยอมรับนักการเมืองติดลบ

เวลา 13.30 น. ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน "มุมมองใหม่รัฐสภา ในสายตาเยาวชน" ซึ่งจัดโดยกรมประชา สัมพันธ์ และรัฐสภา เนื่องในโอกาสวันรัฐ ธรรมนูญ โดยกล่าวเปิดงานในตอนหนึ่งว่า ทุกวันนี้ภาพลักษณ์ของรัฐสภา และนักการเมืองโดยรวม มีด้านลบอยู่มาก มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ซึ่งการเมืองที่อิงอยู่กับประชาชน ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นรูปแบบการเมืองที่เลวร้ายน้อยที่สุด คนที่จะเข้ามาสู่การเมืองจะมีคุณสมบัติอย่างไรขึ้นอยู่กับประชาชนผู้เลือกตั้ง

จากนั้น นายกฯได้ร่วมพูดคุยกับตัวแทนเยาวชน โดยรองประธานยุวชนประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย ได้ถามนายกฯว่าคิดว่าอะไรคือปัญหาในการพัฒนาประชาธิปไตยในประ เทศไทย และมีแนวทางแก้ไขอย่างไร นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า กฎและกติกาที่เรามีอยู่ ถึงแม้จะไม่สมบูรณ์ แต่เป็นกฎกติกาที่อยู่ในระดับใช้ได้ ปัญหาของเราคือคนมากกว่า คนที่ไม่ยอมทำตามกฎ คนที่แสวงหาผลประโยชน์โดยอาศัยช่องว่าง ช่องโหว่ของกฎหมาย ตรงนี้คือตัวทำลายศรัทธาที่ประชาชนมีต่อนักการเมืองมากที่สุด เลยทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ตนพยายามคิดว่าทำอย่างไรที่จะสร้างค่านิยมที่ดี ถูกต้อง เพื่อสนับสนุนให้เกิดวัฒนธรรมทางการเมือง เพื่อรองรับระบอบประชาธิปไตยที่ดีให้ได้

ย้ำแก้รธน.ต้องร่วมมือทุกพรรค

นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ตนยังอยู่ในจุดเดิมว่าการแก้รัฐธรรมนูญควรนำไปสู่ความสมาน ฉันท์ ทั้งในส่วนนักการเมืองและประชาชน ซึ่งเดิมตกลงกันเป็นขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว แต่วันนี้ฝ่ายค้านถอนตัว จึงต้องมาพิจารณาว่าจะเดินต่อไปหรือไม่ เพราะต้องการให้ทุกพรรคเห็นพ้องต้องกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวถามถึงฝ่ายค้านระบุชัดเจนรัฐบาลมีเสียงเพียงพออยู่แล้ว ขอให้กล้าตัดสินใจ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันไม่เกี่ยวกับการกล้าหรือไม่กล้าตัดสินใจ เขาเป็นฝ่ายเรียกร้องให้แก้ไข ตนต้องการสมานฉันท์จึงเชิญชวนว่าถ้าจะแก้แล้วแก้กันตรงไหน โดยทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน เพื่อนำไปสู่ความสมานฉันท์ จะได้เดินหน้าต่อไป แล้วไปสอบถามประชาชนโดยการทำประชามติ ความจริงฝ่ายค้านน่าจะกลับมาร่วมกันทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ เพราะถ้าทำไปแล้ว นักการเมืองยังหยิบมาเป็นเงื่อนไขขัดแย้งกัน ก็ไม่รู้จะเสียงบประมาณไปทำไม <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
การ์ดแดง - ส่วนหนึ่งของทหารพรานค่ายปักธงชัย นำโดย "เสธ.แดง" พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล เดินทางมาร่วมรำลึกวันรัฐธรรมนูญ ที่อนุสาวรีย์ประชา ธิปไตย พร้อมเป็นการ์ดให้ม็อบเสื้อแดง เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.

</TD></TR></TBODY></TABLE>

เมื่อถามว่าแสดงว่าถ้าฝ่ายค้านไม่ร่วมมือ แม้รัฐบาลมีเสียงเพียงพอก็จะไม่เดินหน้าทำต่อไปใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนยังมองไม่เห็นเหตุผลว่าจะเดินไปในรูปแบบที่เคยตกลงกันไว้ได้อย่างไร เพราะอยู่บนสมมติฐานว่าทุกพรรคพร้อมใจกันเดิน จะได้ไม่เป็นปัญหาให้ทะเลาะกันอีกว่ารัฐธรรมนูญเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เมื่อตกลงกันอย่างนี้ก็น่าจะเดินได้ด้วยกัน

ชุมพลเผยสัญญามาร์ค1ปีปรับครม.

ที่รัฐสภา นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรค ในฐานะรองนายกฯ ประกาศวางมือให้บุตรชายมารับตำแหน่งรัฐ มนตรีแทนว่า ในพรรคทราบเจตนารมณ์ของพล.ต.สนั่น และได้พูดคุยกันมานานแล้วแต่ยังไม่เป็นทางการ การปรับครม.ต้องรอให้นายกฯส่งสัญญาณมาก่อน ถ้าไม่ส่งมาก็ไม่มีทางปรับ ขณะนี้ยังไม่ได้ส่งสัญญาณมาแต่สัญญาณที่แน่ชัดคือพรรคประชาธิปัตย์มีมติให้นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เป็นรองนายกฯ และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เป็นเลขาธิการนายกฯ ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขที่จะต้องปรับอยู่แล้ว แต่สัญญาณว่าจะปรับเมื่อไร เป็นเรื่องของนายกฯ

"นายกฯเคยกล่าวไว้ว่า การปรับครม.จะพิจารณาเมื่อทำหน้าที่ครบ 1 ปี ซึ่งตามกำหนดคือวันที่ 20 ธ.ค. ดังนั้น การปรับครม.จะมีความชัดเจนหลังวันที่ 20 ธ.ค.หรือหลังปีใหม่ก็เป็นดุลพินิจของนายกฯ" นายชุมพล กล่าว

ไม่แลกกระทรวงกับพรรคอื่น

เมื่อถามว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ส่งสัญญาณมา พรรคชาติไทยพัฒนาจะปรับตำแหน่งพล.ต. สนั่น คนเดียวใช่หรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า เราคงต้องทำตามที่ท่านเสนอ พรรคเห็นชอบด้วย เรื่องนี้ไม่มีปัญหาสำหรับพรรค ซึ่งมีเพียงตำแหน่งเดียว

เมื่อถามว่าจะต้องแลกกระทรวงอย่างไรหรือจะให้บุตรชายพล.ต.สนั่น เป็นรองนายกฯ นายชุมพล กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของตำแหน่ง ตัวบุคคลที่เป็นรัฐมนตรีของพรรคยังคงโควตาไว้ที่ 4 คน ส่วนตำแหน่งจะมีเท่าไรไม่สำคัญ ตำแหน่งรองนายกฯ หากใครอยากจะได้ก็ไปตั้งขึ้นมาใหม่ก็ได้ ไม่มีปัญหา เรื่องนี้ไม่ต้องแลกเพราะตำแหน่งรองนายกฯ นายกฯจะตั้งขึ้นเป็น 10 ตำแหน่งก็ทำได้ เพราะไม่ได้เป็นตัวเนื้อของตำแหน่ง เป็นเพียงตำแหน่งที่ปะไว้ พรรคชาติไทยพัฒนาไม่มีปัญหาในการปรับครม. เพราะยังคงตัวบุคคลไว้ตามเดิม 4 คน และไม่จำเป็นต้องแลกตำแหน่งกับพรรคอื่น

จี้ฝ่ายค้าน-วุฒิสภาร่วมแก้รธน.

นายชุมพล กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า จุดยืนของพรรคยังเหมือนเดิมโดย 1.ยืนยันจะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพื่อให้เกิดการพัฒนาประชาธิปไตยที่แท้จริง 2.ต้องคืนความเป็นธรรมให้คนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม 3.ประ เด็นการแก้ไข พรรคมีทั้งหมด 7 ประเด็นตามที่ประกาศไปแล้ว 4.วิธีการแก้ไขอยากให้เสนอประเด็นละฉบับ เพื่อประโยชน์ว่าหากประเด็นใดไม่เห็นด้วย ให้ตกไปทีละฉบับ

"เวลานี้พรรคได้วิเคราะห์สถานการณ์ในการแก้ปัญหา ตัวเนื้อหาสาระในการแก้ไขค่อนข้างลงตัวเพราะเห็นด้วยกันหมด แต่บรรยากาศและกระบวนการที่จะแก้ไขยังมีปัญหาและอุปสรรคอยู่ เรื่องนี้จะต้องร่วมมือทุกฝ่ายทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน วุฒิสภา ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายค้านฝ่ายเดียว ที่สำคัญที่สุดคือประชาชนต้องเห็นชอบด้วย" นายชุมพล กล่าว

เมื่อถามว่าฝ่ายค้านระบุเสียงรัฐบาลเพียงพอจะแก้ไขได้แล้ว นายชุมพล กล่าวว่า การนำเสนอถือว่ามีเสียงเพียงพอ แต่การลงมติไม่แน่ว่าจะเพียงพอหรือไม่ บางประเด็นอาจเพียงพอ บางประเด็นอาจไม่เพียงพอ ดังนั้น ฝ่ายใดที่เห็นชอบด้วยก็ควรลงมาร่วมมือกันแก้รัฐ ธรรมนูญ ต่อข้อถามว่าการแก้รัฐธรรมนูญเป็นเงื่อนไขร่วมรัฐบาล ถึงเวลาจะทวงสัญญาจากพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญเวลานี้ก้าวมาถึงขั้นสู่รัฐสภาเรียบร้อยแล้ว มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา ยกร่างที่จะแก้ไข แต่ดูแล้วบรรยา กาศไม่ค่อยจะเรียบร้อยเท่าไร ต้องรอจังหวะ

"วิทยา"เย้ยรบ.ต้องกล้าตัดสินใจ

นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงรัฐบาลเรียกร้องให้ฝ่ายค้านเข้าร่วมการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า รัฐบาลต้องกล้าเป็นผู้นำและต้องกล้าทำด้วย อย่าโยนความผิดให้คนอื่น รัฐสภาแห่งนี้มีสมาชิกอยู่ไม่น้อยที่พร้อมจะพิจารณา ฝ่ายค้านก็เป็นส่วนหนึ่ง เรายืนยันจะปฏิบัติหน้าที่ในกรอบของกฎหมายในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ดังนั้น ความห่วงใยในเรื่องอื่นไม่ต้องมาบอก รัฐบาลทำให้ถูกต้องดีกว่า

เมื่อถามว่าฝ่ายค้านไม่เข้าร่วมก็ยังแก้รัฐธรรมนูญได้ใช่หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า องค์ประกอบพออยู่แล้ว แต่ฝ่ายค้านขอใช้อำนาจตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ต้องกลัวเรื่องพวกนี้ ฝ่ายค้านพร้อมพิจารณาตามกรอบของกฎหมาย ฉะนั้น รัฐบาลจะเร่งทำวันพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ได้ยิ่งดี อย่ามาโยนว่าฝ่ายค้านไม่พร้อม หรือวิงวอนฝ่ายค้าน เพราะคิดว่าเป็นการเล่นเกมไปวันๆ รัฐบาลต้องกล้าตัดสินใจและกล้าที่จะทำดีกว่า มีหลายเรื่องที่ต้องเร่งรัดทำไม่ใช่แค่การแก้รัฐธรรมนูญ หากเปิดสมัยประชุมมาแล้ว กล้ายื่นเรื่องพวกนี้ ทำให้ชัดเจน ฝ่ายค้านก็พร้อม ไม่ต้องกลัว

นัดถกยื่นซักฟอก-ผู้นำฝ่ายค้าน

เมื่อถามถึงนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธาน วิปรัฐบาลระบุให้ฝ่ายค้านหาตัวผู้นำฝ่ายค้านก่อนจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายวิทยา กล่าวว่า ในวันพุธที่ 23 ธ.ค. พรรคจะมีการประ ชุมหารือพิจารณาเรื่องตัวผู้นำฝ่ายค้านคนใหม่ พร้อมเตรียมข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่ยังไม่จำเป็นว่าจะต้องได้ตัวผู้นำฝ่ายค้านในวันดังกล่าว

เมื่อถามว่าขณะนี้มีแคนดิเดตผู้นำฝ่ายค้านกี่คน นายวิทยากล่าวว่า รายละเอียดทั้งหมดอยู่ในวันที่ 23 ธ.ค. รับรองว่ามีคุณสมบัติดี ไม่ต้องห่วง ตนเข้าใจระเบียบข้อบังคับดี ขอให้จับตาดูว่าอาจมีบุคคลสำคัญลงเลือกตั้งที่จ.ปราจีนบุรี อาจมาเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ผู้สื่อข่าวถามว่าบุคคลสำคัญที่จะเลือกตั้งซ่อมที่จ.ปราจีนบุรี เป็นพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า ไปหาคำตอบเอาเอง

เมื่อถามว่าเบื้องต้นจะยื่นอภิปรายไม่ไว้ วางใจรัฐมนตรีกี่คน นายวิทยากล่าวว่า ตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯลงมา เมื่อนายกฯไม่ดำเนินการตามนโยบายที่แถลงไว้ และเป็นคนตั้งรัฐมนตรีก็ต้องตอบคำถามให้ได้ หากรัฐมนตรีมีปัญหา นายกฯก็มีปัญหาด้วย ขอให้รัฐบาลเตรียมพร้อมรายละเอียดให้ชัดเพราะฝ่ายค้านมีประเด็นมาก เรื่องบุคคลไม่ใช่ปัญหา

"ตู่"จองกฐินอภิปราย"กอร์ปศักดิ์"

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนได้รับข้อมูลเพียงพอที่ จะเรียกร้องนายอภิสิทธิ์ ไม่ให้ปรับครม.ในตำแหน่งของนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ โดยตนได้รับหนังสือจากนายเวียงขวัญ อ้นอินทร์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดแม่ฮ่อง สอน สาขาปาย ที่ได้ทำถึงผู้บังคับบัญชาสูงสุดของฝ่ายตุลาการ แจ้งว่าภรรยาของนายกอร์ป ศักดิ์ มีโรงแรมอยู่ที่อำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน ต่อมาศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้มาเปิดสาขาที่อ.ปาย โดยเช่าที่ของกรมธนารักษ์อยู่ใกล้โรงแรมของภรรยานายกอร์ปศักดิ์ เมื่อนาย กอร์ปศักดิ์ไปประชุมข้าราชการที่แม่ฮ่องสอนได้ระบุว่าการที่มีศาลแม่ฮ่องสอน สาขาปาย ทำให้รายได้การท่องเที่ยวลดลง จึงควรย้ายที่ทำการศาล ทั้งที่ศาลดังกล่าวสร้างจากไม้อย่างดีและมีรูปลักษณ์สวยงาม ทำให้ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลไม่เห็นด้วย จึงทำหนังสือคัดค้านประธานศาลฎีกาว่านักการเมืองมากระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

นายจตุพร กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ศาลยุติธรรมถูกรุกราน ซึ่งกลุ่มคน เสื้อแดงจะนำเรื่องนี้ไปเผยแพร่ในหนังสือความจริงวันนี้ และตนจะนำไปอภปิรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในช่วงเปิดสมัยประชุมสภา ดังนั้น นายกฯไม่จำเป็นต้องปรับนายกอร์ปศักดิ์ ไปเป็นเลขาธิการนายกฯ เพราะจะทำให้ตนไม่สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้

"มาร์ค"ไม่เชื่อเสธ.แดงพูดจริง

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล นำอดีตทหารพรานจากค่ายปักธงชัย 200 คนชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ทางผู้ชุมนุมยืนยันว่าต้องการชุมนุมโดยสงบ ดังนั้น รัฐบาลจึงเพียงเฝ้าระวังเฉยๆ คิดว่าบรรยากาศบ้านเมืองเช่นนี้ ไม่ควรมีใครคิดทำอะไรให้เกิดความรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนไม่ทราบข้อเท็จจริงกรณีพล.ต.ขัตติยะ เป็นผู้นำอดีตทหารพรานมาร่วมชุมนุม เนื่องจากพล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้ไปตรวจเยี่ยมและพูดคุยกับทหารพรานมาเรียบร้อยแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.ขัตติยะ แถลงเองว่าเป็นคนนำทีม นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าพล.ต.ขัตติยะพูดจริงหรือเท็จ ซึ่งผู้บังคับบัญชาติดตามอยู่ และไม่มีใครมีสิทธิ์จะติดอาวุธ เพราะการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญเป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ดังนั้นถ้ามีการติดอาวุธ ต้องถือเป็นความผิด เมื่อถามว่าห่วงหรือไม่ว่าอาจเกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับประชาชนที่เดินชมงานเฉลิมพระ เกียรติที่บริเวณถนนราชดำเนิน นายกฯ กล่าวว่า เราพยายามหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น โดยวันเดียวกันนี้ได้งดกิจกรรม และจะเริ่มอีกครั้งในวันที่ 11-13 ธ.ค.

มั่นใจม็อบไม่ยืดเยื้อ

เมื่อถามว่ามองว่ากลุ่มผู้ชุมนุมขู่จะชุมนุมยืดเยื้อต่อไปหากรัฐบาลใช้ความรุนแรง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าทำไมเขาจึงพูดให้บรรยากาศเสียด้วย ทั้งที่เดือนนี้คนไทยทุกคนต้องการให้เป็นเดือนมหามงคล ที่มีแต่ความสุข รัฐบาลถ้อยทีถ้อยอาศัยอย่างชัดเจน จึงอยากให้ผู้ชุมนุมได้คำนึงถึงด้วย เมื่อถามว่าห่วงหรือไม่ว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะชุมนุมยืดเยื้อออกไปอีก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าคงไม่ เพราะเขาพยายามพูดแค่หากมีเงื่อนไขต่างๆ อาจจะชุมนุมยืดเยื้อ แต่รัฐบาลไม่เป็นฝ่ายที่สร้างเงื่อนไขอยู่แล้ว

ด้านพล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ว่า คิดว่าไม่น่ามีเหตุการณ์อะไร ซึ่งตำรวจจะเป็นเจ้าหน้าที่หลักดูแลรักษาความปลอดภัย ส่วนกองทัพภาคที่ 1 ได้รับการประสานจาก บช.น.ให้เตรียมกำลัง เพื่อช่วยตำรวจหากมีการร้องขอ ซึ่งเรามีแผนต่างๆ อยู่แล้ว แต่จากการติดตามสถานการณ์ไม่น่ามีปัญหาจากกลุ่มผู้ชุมนม แต่อาจมีภาวะแทรก ซ้อนจากคนอื่นหรือรอบข้างบ้าง เราช่วยกันดูแลอยู่ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบอะไร

ไม่มีทหารพรานมทภ.1แตกแถว

เมื่อถามถึงทหารบางส่วนออกมาเคลื่อนไหวการเมือง จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์กองทัพหรือไม่ พล.ท.คณิต กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแยกให้ออก ตนเชื่อมั่นว่าไม่ใช่ทหารอาชีพที่จะออกมาทำในสิ่งเหล่านี้ แต่เป็นสถานะที่แสดงความเห็นส่วนตัว แต่ความคิดเห็นส่วนตัวต้องไม่นำสถานะอาชีพเข้ามาเกี่ยวข้องให้เกิดความเสียหาย

เมื่อถามว่าได้ตรวจสอบว่ามีทหารพรานมาร่วมชุมนุมหรือไม่ พล.ท.คณิต กล่าว่า ในความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 มีกรมทหารพราน 3 กรม ได้ตรวจสอบแล้วไม่มีปัญหา และได้รับการยืนยันจากตัวทหารพรานเอง อย่าลืมว่าทหารพรานเป็นนักรบประชาชน เป็นคนกล้า ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน คิดว่าทหารพรานรักประเทศชาติ และจะไม่ทำให้เกิดการบ่อนทำลายประเทศชาติ ส่วนอดีตทหารพรานมาร่วมชุมนุมนั้นถือเป็นความเห็นส่วนตัว แต่ถ้าเป็นทหารพรานที่อยู่ในวิชาชีพก็ไม่สมควร เมื่อถามว่าหวั่นหรือไม่ว่าทหารจะชนกันเอง พล.ท.คณิต กล่าวว่า "ถ้าเล่นฟุตบอลก็ชนกันบ่อย"

ทบ.สรุปผลสอบส่ง"บิ๊กป้อม"

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งกรรมการสอบโทษทางวินัยพล.ต.ขัตติยะ ว่า กองทัพบกได้ตั้งคณะกรรมการสอบเอาผิดวินัยแก่พล.ต.ขัตติยะ โดยมีพล.ท.มาโนช เปรมวงศ์ศิริ รองเสนาธิการทหารบก เป็นประธาน ซึ่งการสอบวินัยครั้งนี้มีกรอบความผิดใหญ่อยู่ 2 เรื่อง 1.การลาราชการไปต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต จากกรณีเดินทางไปกัมพูชา เพื่อพบกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า 2.การให้สัมภาษณ์ที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์กองทัพและผู้บังคับบัญชา ซึ่งคณะกรรมการได้สรุปผลสอบเสร็จสิ้นแล้ว และส่งให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาแล้ว ซึ่งอำนาจการตัดสินใจสั่งลงโทษพล.ต. ขัตติยะ เป็นอำนาจของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม

มีสิทธิ์โดนอาญาขึ้นศาลทหาร

เมื่อถามว่าผลการสอบจะเอาผิดวินัยต่อพล.ต.ขัตติยะ ที่เป็นทหารชั้นยศนายพลได้หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ต้องรอให้มีคำสั่งอย่างเป็นทางการก่อนว่า จะเห็นชอบตามที่คณะกรรมการกองทัพบกสรุปผลหรือไม่ แม้ในส่วนทหารระดับชั้นนายพลจะไม่มีโทษทางวินัย เพราะถือเป็นทหารชั้นผู้ใหญ่ สามารถมีวิจารณญาณคิดเองได้ เมื่อกระทำความผิดจึงใช้การว่ากล่าวตักเตือนก่อน แต่หากทหารชั้นนายพลยังกระทำความผิดอีก จะถูกดำเนินคดีโทษทางอาญาของศาลทหาร ซึ่งเป็นกระบวนการพิจารณาในชั้นศาลทหาร เพื่อพิจารณาโทษตามความผิด

โฆษก ทบ.กล่าวว่า พล.ต.ขัตติยะเคยถูกกองทัพบกตั้งคณะกรรมการสอบมาก่อนหน้านี้ และให้รับทราบไว้แล้วว่าจะไม่ให้สัมภาษณ์พาดพิงกองทัพอีก เป็นการว่ากล่าวตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งคณะกรรมการสอบครั้งนี้ได้นำเรื่องนี้มาไว้ในการพิจารณาโทษความผิดด้วย ซึ่งทั้งหมดกองทัพบกได้ส่งเรื่องนี้ให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาแล้ว ทั้งนี้ พล.ต. ขัตติยะมีคดีฟ้องร้องหลายคดีทั้งในศาลทหารและศาลพลเรือน และมีหลายคดีที่กองทัพบกเป็นโจทก์ฟ้องเอาผิดอยู่

ปชป.ห่วงชาวบ้านปะทะเสื้อแดง

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า น่าเสียดายที่กลุ่มคนเสื้อแดงเห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเองและนายใหญ่ มากกว่าความสุขของคนไทยทั้งประเทศ และห่วงว่าอาจมีความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะสอดรับทั้งคำขู่จากพล.ต.ขัตติยะ นำอดีตทหารพรานติดอาวุธมาชุมนุม ที่สำคัญอาจมีมวลชน 2 ส่วน ทั้งกลุ่มคนเสื้อแดงและผู้มาร่วมงานกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เกิดการกระทบกระทั่งกัน ก่อให้เกิดความรุนแรงได้ และหากเกิดความรุนแรงจริง แกนนำคนเสื้อแดงประกาศชัดว่าจะไม่รับผิดชอบใดๆ โดยโยนความผิดให้รัฐบาลและมือที่สาม

นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนกรณีพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ทวีตรายวันโดยระบุอีกไม่นานรากหญ้าเสื้อแดงก็หมดแรงไป จึงไม่ยอมปรองดอง การใช้ระบบยุติธรรม 2 มาตรฐาน และสื่อที่หากินกับเขาช่วยกันบิดเบือน การระบุเช่นนี้ ในความปรองดองของพ.ต.ท.ทักษิณ คือการล้มคดี และต้องการเงินที่ถูกอายัด 7.6 หมื่นล้านคืนใช่หรือไม่ และที่บอกสื่อที่หากินกับเขาช่วยกันบิดเบือน จึงขอให้สื่อออกมาเคลื่อนไหวเพราะเป็นการใส่ร้าย

ตร.งัดแผนธันวา52รับมือม็อบ

เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมใหญ่ บช.น./ ศปก.น. พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.ประจำบช.น. ในฐานะรองโฆษกตร. แถลงการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลรักษาความเรียบร้อยการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิป ไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน ว่า เมื่อเวลา 07.00 น. พล.ต.ท. สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. ได้เรียกประชุมนายตำรวจตั้งแต่ระดับผู้บังคับหมู่ขึ้นไปร่วมปฏิบัติภารกิจ ประชุมซักซ้อมปฏิบัติได้เน้นย้ำความปลอดภัยด้านต่างๆ รวม 6 เรื่อง เพื่อควบคุมกำกับดูแล มอบให้ พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ รองผบช.น. รับผิดชอบพื้นที่การชุมนุมทั้งหมด ส่วนพื้นที่อื่นๆ มอบให้ พล.ต.ต.บุญส่ง พาณิชอัตรา รองผบช.น.ดูแลตามแผนธันวา 52 อย่างเคร่งครัด โดยระดมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.1-9 ศดส.เข้ามาเสริมการปฏิบัติ

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังให้ รอง ผบก.น.1-9 และรองผบก.ตปพ. ที่รับผิดชอบงานสายตรวจ ตั้งจุดตรวจค้นรอบกทม. รวมทั้งเพิ่มกำลังตำรวจนอกเครื่องแบบปะปนในกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อสังเกตการณ์และคอยช่วยเหลือกรณีมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น โดยสนธิกำลังมาจากหลายส่วน ซึ่งมีรอง ผบช.น.ฝ่ายสืบสวนดูแล ทั้งนี้ ผกก.จะต้องคอยดูแลตลอดทั้งคืนจนกว่าจะเลิกการชุมนุม

รองโฆษกตร. กล่าวว่า ส่วนทีมสอบสวนให้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานตั้งแต่ก่อนการชุมนุมจนเสร็จสิ้นการชุมนุม และกำชับแจ้งให้กองหนุนอีก 10 กองร้อยเตรียมพร้อม ปฏิบัติงานได้ทันที ทั้งนี้ ผบช.น.ในฐานะผบ.เหตุการณ์ เน้นย้ำกำลังพลทุกนายปฏิบัติตามแผนกรกฎ 52 ใช้ความอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด คำนึงว่าผู้ชุมนุมทุกคนเป็นคนไทย ขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย

เพื่อไทยอุดรนำม็อบดัก"สนธิ"

เวลา 10.00 น. พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ พร้อมส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย และนายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ ส.ส.หนอง บัวลำภู ได้นำสมาชิกคนเสื้อแดงกว่า 1,000 คน มาปิดล้อมสนามบินนานาชาติอุดรธานี ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี หลังทราบว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะเดินทางมานมัสการหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรฯ โดยมีนายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าฯอุดรธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 200 นาย มาดูแลสถานการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แต่ปรากฏว่านายสนธิไม่ได้เดินทางมา ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงอีกกลุ่มหนึ่งไปดักรอที่หน้าวัดป่าบ้านตาด ก็ไม่พบตัวนายสนธิเช่นกัน ก่อนจะสลายตัว

เสื้อแดงคึก-ปิดถนนราชดำเนิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 11.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มนปช.แดงทั้งแผ่นดิน ได้จัดการชุมนุมเพื่อรำลึกวันรัฐธรรมนูญ และจุดเทียนชัยถวายพระพร โดยตั้งเวทีบนฐานของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หันหน้าไปทางสะพานผ่านพิภพลีลา โดยผู้ชุมนุมได้ร่วมชุมนุมบนถนนราชดำเนินทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก ต่อมาเวลา 11.50 น. กลุ่มการ์ดเสื้อแดงได้นำแผงเหล็กมากั้นบริเวณถนนราชดำเนิน ทำให้ต้องปิดการจราจรตั้งแต่เชิงสะพานผ่านพิภพลีลา ถึงแยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ และถนนทุกสายที่มุ่งสู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยถูกปิดหมด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากบช.น.หลายร้อยนายมาดูแลความเรียบร้อย ตั้งด่านโดยรอบทางเข้าพื้นที่ เพื่อตรวจค้นอาวุธของผู้ชุมนุมที่จะเข้าพื้นที่ชุมนุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการชุมนุมได้มีคนเสื้อแดงทยอยเข้ามาร่วมชุมนุมตั้งแต่ช่วงเที่ยง ส่วนใหญ่ยังหลบแดดอยู่ตรงฟุตปาธ นอกจากนี้ ยังมีแม่ค้าเข้าไปจับจองซุ้มที่จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เพื่อจำหน่ายสินค้าที่ระลึกและอาหาร ส่วนบนเวทีปราศรัยยังคงเป็นการปราศรัยโจมตีรัฐธรรมนูญปี 2550 สลับการแสดงดนตรี ทั้งนี้ ทางการ์ดเสื้อแดงได้ตั้งจุดตรวจบัตรประชาชนผู้มาร่วมชุมนุมทุกทางเข้าออกอย่างเข้มงวด

ทหารพรานปักธงชัยโผล่แจม

ต่อมา เวลา 12.30 น. พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ได้มาร่วมสังเกตการชุมนุม พร้อมทหารพรานจากค่ายปักธงชัย โดยพล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า สาเหตุที่นำทหารพรานประมาณ 200 คน มาจาก ชด.513 ค่ายปักธงชัย จ.นครราชสีมา เพื่อป้องกันนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่จะนำคนเสื้อน้ำเงินมาโจมตีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะเกรงจะไปขัดขวางการจัดงานวันพ่อที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยทหารพรานที่มาวันนี้มามือเปล่าไม่มีอาวุธ ซึ่งทหารพรานเหล่านี้ปลดประจำการเป็นพลเรือนแล้ว แต่นำชุดทหารพรานมาแต่ง และที่มีแม่ทัพนายกองบอกว่า ถ้าวันนี้ทหารพรานออกมาจะขอลาออก วันนี้ต้องลาออกจากผบ.ทบ. เพราะทหารพรานมาตามสัญญา

นายมงคล สารพัน อาสาสมัครทหารพราน กองร้อยที่ 9 ค่ายปักธงชัย ให้สัมภาษณ์ว่า ตนพร้อมเพื่อนอดีตอาสาสมัครทหารพราน 60 คน มาร่วมชุมนุมเพื่อแสดงพลังทางประชาธิปไตย ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ที่นายทหารยศพล.อ.คนหนึ่งได้นำเงินสนับสนุน 5 ล้านบาท ไปมอบให้กับชมรมทหารพรานที่ค่ายปักธงชัย ทั้งที่มีทหารพรานทั่วประเทศ วันนี้พวกตนมาด้วยมือเปล่าไม่มีอาวุธ มาเพื่อต่อสู้ตามระบอบประชาธิป ไตย และขอให้ทหารที่ประจำการอยู่อย่าทำร้ายประชาธิปไตยอีกเลย นอกจากพวกตนแล้ว นอกรอบของเวทียังมีทหารที่เป็นแนวร่วม แต่ไม่สามารถเปิดเผยตัวได้อีก 1,000 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น่าสังเกตว่า นายมงคลได้เหน็บมีดพกขนาดกลางไว้ที่เอวด้วย

"ตู่"แฉเนวินส่งแดงปลอมป่วน

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. แถลงว่า ช่วงเช้าตนได้รับรายงานจากแกนนำคนเสื้อแดงที่จ.บุรีรัมย์ ว่า มีการระดมชาวบุรีรัมย์ โดยแจกเสื้อสีแดงนำขึ้นรถทัวร์ 4 คันมาที่กรุงเทพฯ บังเอิญมีคนเสื้อแดงติดขึ้นไปบนรถ และเห็นว่ามีการนำเหล็กแป๊บน้ำขึ้นรถไปด้วย เมื่อตนได้รับรายงานจึงประสานนายประดิษฐ์ ภัทรประ สิทธิ์ รมช.คลัง ให้ไปเตือนนายเนวิน ชิดชอบ ว่าอย่านำกำลังดังกล่าวเข้ามา เพราะไม่สามารถรับมือกับมวลชนเสื้อแดงเรือนแสนคนได้ และสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีการสั่งการให้อบต.ทั่วประเทศระดมมวลชนโดยแจกเสื้อสีชมพูและกระเป๋าผ้าของพรรคภูมิใจไทย ให้เข้ามาร่วมงานเฉลิม พระเกียรติที่กรุงเทพฯ

นายจตุพร กล่าวว่า การเป็นประธานจัดงานเฉลิมพระเกียรติของนายเนวิน จึงเป็นเรื่องการเมืองโดยตรง วันนี้มีภารกิจซ้ำซ้อนด้วยการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งตนหวังว่าสิ่งที่กังวลจะไม่เกิดขึ้น เพราะหากการ์ดคนเสื้อแดงจับคนสร้างสถานการณ์ได้ และรู้ว่ามาจากนายเนวิน คนเสื้อแดงจะนำไปส่งกับนายเนวิน หากพบว่าเป็นคนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ก็จะนำไปส่งนายสุเทพ และคนเสื้อแดงพร้อมชุมนุมยืดเยื้อทันที แต่หากไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น การชุมนุมจะยุติในเวลา 24.00 น. แล้วค่อยไปกำหนดท่าทีอีกครั้งหลังวันที่ 15 ธ.ค. ทั้งนี้ การชุมนุมวันนี้ไม่ได้เป็นการไล่รัฐบาล

ตร.เผยมีผู้ชุมนุมร่วมหมื่นคน

เวลา 16.30 น. พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก. ประจำ บช.น. ในฐานะโฆษกตร. ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ได้เพิ่มกำลังของบช.น. เข้าเสริมการดูแลความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีก 7 กองร้อย ซึ่งเป็นชุดเคลื่อนที่เร็วและชุดควบคุมฝูงชน เนื่องจากคาดว่าในช่วงเย็นจะมีผู้ชุมนุมเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งจะมีประชาชนมาเยี่ยมชมงาน 5 ธันวา ที่สวนอัมพรและลานพระบรมรูปทรงม้า ขณะนี้มีผู้ชุมนุมประมาณ 10,000 คน คาดว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมสูงสุดในเวลา 19.00 น. ที่แกนนำแจ้งว่าจะมีการจุดเทียนชัยถวายพระพร และการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ สำหรับเส้นทางจราจรขณะนี้มีการปิดถนนราชดำเนินกลางถึงแยกจปร. ถนนคอกวัว ถนนดินสอถึงแยกวันชาติ แยกเสาชิงช้า ถนนหลานหลวงถึงจักรพรรดิพงศ์

เมื่อถามว่ามีรายงานการจับกุมชาวต่างด้าว 3 คน ได้บริเวณพื้นที่ชุมนุมหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ ปฏิเสธว่ายังไม่ได้รับรายงาน มีแต่เจ้าหน้าที่ที่ออกตรวจตราได้รับแจ้งพบกระเป๋าสะพายสีน้ำ ตาลพันด้วยเทปกาวสีดำต้องสงสัยที่หน้ากองสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่เมื่อตรวจสอบแล้วภาย ในมีเพียง เครื่องเขียน ตั๋วเดินทาง คาดว่ามีผู้ลืมทิ้งไว้ จึงส่งให้สน.ชนะสงคราม เก็บรักษาไว้

จับโจ๋ต่างด้าวดอดร่วมวง

เวลา 17.30 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. แถลงด้านหลังเวทีว่า ในเวลา 19.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ จะวิดีโอลิงก์เข้ามาเพื่อรำลึกถึงการใช้รัฐธรรมนูญของประเทศไทยและนำกล่าวถวายพระพรในหลวง ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายการ์ดเสื้อแดงได้จับกุมตัววัยรุ่นต่างด้าว 3 คน เชื้อชาติพม่า 2 คน กัมพูชา 1 คนในพื้นที่ชุมนุม โดยทั้ง 3 คนไม่ได้ใส่เสื้อแดง จึงควบคุมตัวส่งตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ เพื่อสืบสวนที่มาต่อไป

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนอดสงสัยไม่ได้ว่าคนต่างด้าวที่จับกุมได้จะเป็นฝีมือรัฐบาลที่ต้องการใส่ร้ายป้ายสีพวกเราหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลประกาศจะมีคนต่างด้าวมาร่วมชุมนุม ขอเรียกร้องตำรวจให้สอบว่าคนต่างด้าวทั้ง 3 ถูกรัฐบาลว่าจ้างมาหรือไม่ หากเป็นจริง นายกฯ และรัฐบาลต้องรับผิดชอบ

แฉกลุ่มป่วนบุรีรัมย์ซุ่มสุวรรณภูมิ

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จากรายงานข่าวของตนทราบว่า มีชายฉกรรจ์จากจ.บุรีรัมย์ นั่งรถทัวร์มาจากบุรีรัมย์ มารวมตัวกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งคล้ายกับกลุ่มคนเสื้อน้ำเงินที่มารวมตัวในเหตุการณ์เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และทราบด้วยว่ากลุ่มคนดังกล่าวจะเคลื่อนขบวนจากสุวรรณภูมิมายังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในเวลา 19.00 น. และใส่เสื้อแดงมาแฝงตัวในที่ชุมนุม ซึ่งตนไม่ทราบเจตนา ขอเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบด่วน

แกนนำนปช. กล่าวว่า ขอถามนายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ว่า ต้องการแตกหักกับคนเสื้อแดงตอนนี้เลยใช่หรือไม่ ที่ส่งกลุ่มคนดังกล่าวแฝงตัวเข้ามาชุมนุมและขอถามนายเนวิน ชิดชอบ ว่ามีส่วนในเรื่องนี้หรือไม่ และการเป็นประธานจัดงานฉลองพระเกียรติและเป็นประธานก่อกวนใส่ร้ายคนเสื้อแดงเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่และทำได้อย่างไร หากเกิดเหตุรุนแรงจากมือรัฐบาลจริง แกนนำจะประชุมเร่งด่วนเพื่อหามติดำเนินการต่อ

แดงแห่ตบเท้ารอฟัง"แม้ว"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นและค่ำ ประชาชนทยอยมาร่วมชุมนุมจำนวนมากเกือบ 1 หมื่นคน โดยบนเวทีมีการปราศรัยโจมตีรัฐ ธรรมนูญ ฉบับปี 2550 รัฐบาลและพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ

เวลา 19.15 น. ที่เวทีกลุ่มคนเสื้อแดง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้วิดีโอลิงก์ปราศรัยกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า 77 ปีที่แล้วเรามีธรรมนูญการปกครองชั่วคราว รัฐธรรมนูญฉบับถาวร ซึ่งมาตรา 1 ระบุว่าอำนาจเป็นของราษฎร แต่วันนี้ผ่านมา 77 ปี ประเทศถูกปกครองด้วยคนกลุ่มน้อย มีคนแอบสั่งราชการทำให้บ้านเมืองลำบาก ประชาชนต้องทุกข์ยากกับปัญหาเศรษฐกิจและสังคม โดยคนที่แอบสั่งราชการไม่ต้องรับผิดชอบเหมือนตอนนี้นอกจากมีรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยแล้ว ยังมีรัฐมนตรีสั่งการที่ไม่ต้องเซ็น ไม่ต้องรับผิดชอบแต่ได้ส่วนแบ่งมากกว่า จึงขอให้พอได้แล้ว นักการเมืองขอให้คิดถึงประชาชน เพราะนักการเมืองเกิดมาจากประชาชนที่ลงคะแนนให้ ขอให้คำนึงถึงความเดือดร้อน เพราะปัญหาของประเทศเกิดจากประชาธิปไตยที่ไม่มั่นคงและการเมืองที่ไม่มั่นคง

ย้ำพร้อมเจรจา-ไม่คิดนั่งนายกฯ

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เดิมตอนใช้รัฐ ธรรมนูญปี 2540 ประชาธิปไตยมั่นคง แต่การเมืองไม่มั่นคงเพราะการรวมตัวของกลุ่มที่เสียประโยชน์จนต้องยุบสภา เมื่อมีการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เล่นตามกติกา ไม่ส่งคนลงเลือกตั้ง เป็นต้นเหตุของความไม่มั่นคงของประชาธิปไตยอีกครั้ง ตอนนี้จึงควรพอได้แล้ว เรามีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ แค่นี้ก็หนักพอแล้ว ขอให้นายอภิสิทธิ์ อย่าเป็นมิสเตอร์ออฟโพซิท ที่เห็นสิ่งที่ดีเป็นไม่ดี ซึ่งที่ไม่ดีก็บอกว่าดี ขอให้เอาประชาธิปไตยคืนให้ประชาชน และไม่ต้องห่วงตน

"ถ้ากลัวผมก็ไม่ต้องทำขนาดนี้ แม้จะระเหเร่ร่อนอยู่ในต่างประเทศ แต่ผมยังฟังภาษาไทยได้ชัด ไม่ว่าจะจากโทรศัพท์หรือมาพูดคุยกันโดยตรง ยังฟังชัดและพูดชัด ถ้าอยากพูดให้รู้ก็มาพูดให้รู้เรื่องได้ ใจผมยังช่วยประเทศไทยได้อีกเยอะแม้จะอยู่ต่างประเทศก็ตาม แต่ถ้าเขาบอกให้หยุดพูดกับเสื้อแดง ก็ต้องถามว่าถ้าไปปล้นเขามาแล้วเจ้าทรัพย์มาทวงทรัพย์คืน ก็บอกให้เขาอยู่เฉยๆอย่างนี้ไม่ถูกต้อง ขอให้คืนรัฐธรรมนูญปี 2540 มา ถ้าเป็นเช่นนั้นพร้อมจะพูดคุยทุกอย่าง ผมเป็นหนี้บุญคุณคนเสื้อแดงที่ให้กำลังใจมาตลอด ไม่ได้หวังจะกลับมาเป็นนายกฯ แต่หวังที่จะกลับมารับใช้ประชาชนอีก" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

หวานใส่ม็อบแดงร่วมสู้มานาน

อดีตนายกฯ กล่าวว่า ขอขอบคุณคนเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุม เราต่อสู้กันมานาน การ์ดก็ยังไม่ตก ยังฟุตเวิร์กได้อยู่เสมอ วันนี้เรามาถวายพระพร แม้จะไม่มีงบประมาณที่โกงมาเอามาใช้มากมาย แต่ทุกคนก็มาด้วยใจ แสดงให้เห็นว่าคนเสื้อแดงรักในหลวงเหมือนกัน อย่ามองว่าคนเสื้อแดงไม่ใช่คนไทยหรือไม่จงรักภักดี เพราะสีแดงเป็นสีของชาติ ซึ่งเราจงรักภักดีเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ได้นำจุดเทียนถวายพระพร และร่วมร้องเพลงสดุดีมหาราชาและเพลงสรรเสริญพระบารมี อย่างไรก็ตาม หลังจากจบวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ผู้ชุมนุมบางส่วนเริ่มทยอยกลับ

นปช.นัดหลังปีใหม่ไล่รัฐบาล

เมื่อเวลา 20.30 น. นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานนปช.แดงทั้งแผ่นดิน กล่าวปราศรัยบนเวทีว่า หลังปีใหม่ ในช่วงเดือนม.ค.2553 คนเสื้อแดงจะมีการขับเคลื่อนเพื่อขับไล่รัฐบาลอีกครั้ง ขอให้รัฐบาลเตรียมรับมือการชุมนุมของคนเสื้อแดงให้ดี ครั้งนี้จะมีผู้ชุมนุมมากขึ้น ทั้งนี้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ได้ประชุมแกนนำคนเสื้อแดงจากทั่วประเทศแล้ว โดยกำชับให้แกนนำทั่วประเทศเตรียมพร้อม และให้หาตัวแทนทุกหมู่บ้าน เพื่อให้มีผู้ชุมนุมเดินทางมาพร้อมกันให้มากที่สุด ครั้งนี้จุดจบของรัฐบาลก็จะมาถึง เนื่องจากเป้าหมายของคนเสื้อแดงคือการล้มรัฐบาล และฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 โดยจะเน้นปริมาณจำนวนคนให้ได้ 1 ล้านคน และใช้แนวทางสันติวิธี ส่วนเรื่องการแก้รัฐธรรม นูญที่ทางรัฐบาลเสนอนั้น มองว่าหากรัฐบาลต้องการแก้รัฐธรรมนูญจริงๆ ก็สามารถนำร่างที่คปพร.เสนอมาพิจารณาได้เลย

 

*** อาวุธร้าย ****

แสงสามารถหักเหได้
ขีปนาวุธ ที่เขาเชื่อมั่นในแสง
มันอาจจะหลงมาตกลงกลางใจ ร้ายแรงมาก

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

3 โหรดังทำนายการเมืองไทยปี 2553​

อาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 19:16 น. — INN : ข่าวการเมือง​

ภายหลังหมอดูชื่อดังออกมาฟันธง ดวงชะตาของอดีตผู้นำว่าจะพลิกฟื้นได้หลังวันที่ 26 เม.ย.นี้ พร้อมกับระบุด้วยว่าช่วงเดือน ม.ค.- มี.ค. 2553 จะเกิดเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่นั้น ด้าน อ.ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ซินแสชื่อดัง ซึ่งเคยทำนายดวงคุณทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่ปี 2546 เป็นคนแรกว่าจะไม่มีแผ่นดินจะอยู่ กล่าวไม่เห็นด้วยกับคำทำนายที่ว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตรจะกลับมายิ่งใหญอีกครั้งหลัง 26 เมษายน 2553

​

ทั้งนี้ ซินแสชื่อดัง ยังวิเคราะห์โหงวเฮ้งครั้งล่าสุดที่ได้เห็นใบหน้าและแววตาของอดีตนายกฯ ผ่านทางสื่อว่า ตอนนี้โหวงเฮ้งของท่านไม่ดีใบหน้าก็เหี่ยวๆ ตาลอยๆ ทำอะไรในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ ลักษณะเหมือนกับนายกฯ สมัคร ซึ่งตอนที่ท่านเป็นนายกฯ ตนก็เคยเตือนคุณสมัครไปว่าให้ลาออกและกลับไปดูแลสุขภาพแต่ท่านไม่เชื่อ เหมือนกับคุณทักษิณ ซึ่งตามหลักโหวงเฮ้งผู้ชายหน้าบวมๆ จะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ แต่หากเป็นผู้หญิงขาบวมจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ

​

ด้าน อ.เก่งกาจ จงใจพระ หมอดูชื่อดัง ให้ความคิดเห็นว่า ตอนนี้ดวงคุณทักษิณ มีดาวเสาร์มันทับลัค ซึ่งเสาร์คือพื้นดวงของคุณทักษิณมาจากวินาศมาทับลัคด้วย ซึ่งดวงท่านไม่ดีเลย นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ว่าคุณทักษิณจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง แถมหน้าบ้านของท่านแต่หลังก็ตกเลขไม่ดีเลย อย่าง บ้านจันทร์ส่องหล้า อยู่บ้านเลขที่ 472 พอเอามารวมกันได้ 13 ซึ่งมันเป็นเลขไม่ดีเลย หรือมูลนิธิไทยคมก็ตกเลข 13 ตามหลักโหราศาสตร์ยอกว่า เลข 13 นี้ มันขึ้นแรงลงแรง พระเยซูก็ตายเพราะเลขนี้เหมือนกัน ดังนั้นเรื่องกลับมายิ่งใหญ่ในประเทศนี้คุณทักษิณ ลืมไปได้เลย

นอกจากนี้ อ.เก่งกาจ ยังทำนายดวงของ นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ ด้วยว่าในดวงท่านนายกฯแนะนำให้ระวังตัว โดยเฉพาะการลอบสังหาร โดยเฉพาะห้ามเดินทางไปยังเกาะ แก่งๆ ต่างๆ หรือ ห้ามไปตามสถานที่ท่องเที่ยวใหม่

​

ส่วน อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ให้ความเห็นว่า ขณะนี้พฤหัสย้ายราศี ดวงคุณทักษิณตอนนี้ยังไม่ดี ดาวเสาร์ทับลัคนาท่านอยู่ตามตำราบอกว่า ดวงของอดีตผู้นำจะหม่นหมอง จะเกิดเหตุใหญ่ๆ จะไม่มีแผ่นดินอยู่ และจะเสียทั้งสิ่งของและทรัพย์สิน

ทั้งนี้ อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ ยังทำนายดวงของ นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ ด้วยว่า ให้ระวังอันตรายเพราะว่าดาวพฤหัสของท่าน ย้ายเข้าสู่ภพมรณะของคุณอภิสิทธิ์ ดังนั้นตนจึงอยากให้นายกฯ ระมัดระวังตัว เรื่องของอุบัติเหตุ เรื่องการถูกลอบสังหาร โดยเฉพาะเดือนกุมภาพันธ์- มีนาคมห้าม แนะนำว่าท่านไม่ควรเดินภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงใต้เพราะว่าจะเกิดอันตรายสุดๆ

ที่มา http://www.newswit.net/read/916161.html

ดาวโคจรวิปริตรหัสบ่งชี้..ไทยเดือด?​

​

เป็นที่จับจ้องมาหลายวันแล้วว่า 10 ธ.ค. 2552 ซึ่งตรงกับวันรัฐธรรมนูญ มวลชนกลุ่มเสื้อแดงจะชุมนุมกันอีกตามที่ระบุไว้ก่อนหน้าหรือไม่ ? และยิ่งมีการระบุว่าทหารพรานที่ปลดประจำการแล้วนับร้อย ๆ จะเข้าเป็นการ์ดในการชุมนุม และอาจมีการปะทะเกิดขึ้นได้ หลาย ๆ ฝ่ายก็ยิ่งวิตก ซึ่งเอาเข้าจริงจะอย่างไร...ก็ต้องดูกันไป​

แต่ในทางโหรนั้นตั้งแต่ 10 ธ.ค.นี้ไป “น่าเป็นห่วง”​

และต่อเนื่องถึงสิ้นปีเก่าเข้าสู่ปีใหม่ก็ “ยิ่งล่อแหลม”​

ทั้งนี้ อ.เก่งกาจ จงใจพระ นักโหราศาสตร์ ระบุว่า... ตามปฏิทินโหราศาสตร์ ตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค. 2552 ดาวอังคารที่โคจรอยู่ในราศีกรกฎ เป็นนิจ จะเริ่มโคจร “วิปริต” คือเดินพักร องศาถอยหลัง จาก 27 องศา 6 ลิปดา จะเดินถอยอย่างยาวนานตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค. 2552 ไปจนถึงวันที่ 24 มี.ค. 2553 เหลือ 7 องศา 8 ลิปดา และวันที่ 18 ม.ค. 2553 ดาวเสาร์ในราศีกันย์ก็จะเดิน “วิปริต” ถอยองศา ไปจนถึงวันที่ 21 พ.ค. 2553 ​

การที่อังคาร ที่หมายถึง “ทหาร” เดินวิปริต 3 เดือนกว่า ในราศีกรกฎ ย่อม “ไม่เป็นผลดีกับบ้านเมือง” ราศีกรกฎเป็นภพที่ 4 ของดวงเมืองที่ราศีเมษ หมายถึง “ประชากรและอาณาเขต จะได้รับความเดือดร้อนจากดาวอังคาร (ทหาร)” อังคารเป็นนิจ หมายถึง “ทหาร นอกราชการ” จะออกมาเคลื่อนไหว โดยมีดาวเนปจูน หมายถึง “มวลชนสีแดง” อยู่ในราศีกุมภ์ ทำมุมปลายหอกกับราหูตัวคราสในราศีธนู​

หลังวันที่ 10 ธ.ค. นี้ไปแล้ว พอถึงวันที่ 14 ธ.ค. 2552 ดาวพฤหัสบดี เป็นนิจ อยู่ในราศีมังกร จะย้ายเข้าราศีกุมภ์ โคจรร่วมกับดาวเนปจูน ซึ่งเป็นภพมรณะของราศีกรกฎที่ดาวอังคารสถิตอยู่ ดาวพฤหัสบดีนั้นเป็นประธานฝ่ายศุภเคราะห์ เปรียบเหมือนตัวแทน “รัฐบาล” เมื่อไปโคจรร่วมกับดาวเนปจูน คู่ศัตรู ย่อม “ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงตามมา” ซึ่งดาวเนปจูน เป็นดาวประธานฝ่ายบาปเคราะห์ ​

ประธานสถาบันโหราศาสตร์เก่งกาจพยากรณ์ บอกอีกว่า... เนปจูนเป็นดาวมวลชน และสีแดง โคจรอยู่ในราศีกุมภ์ภพที่ 11 ของดวงเมือง ซึ่งทำมุมโยคกับราหูในราศีธนู ภพที่ 9 ของดวงเมือง หมายถึงการติดต่อกับหัวหน้าฝ่ายบาปเคราะห์ให้สนับสนุน และกดดันดาวพฤหัสบดี คือรัฐบาล ทั้งนี้หลังวันที่ 14 ธ.ค. 2552 ดาวพฤหัสบดีหลุดจากตำแหน่งนิจในราศีมังกร เริ่มจะมีกำลัง เริ่มจะเป็นตัวของตัวเอง ก็ย่อมไม่ยอมอ่อนข้อให้กับดาวเนปจูนสีแดง​

“ต้องติดตามสถานการณ์ ตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. 2552 เป็นต้นไป รัฐบาลจะขับเคลื่อนไปทางไหน ในเมื่อคณะรัฐมนตรีก็ไม่สมประกอบ มีส่วนชำรุด รอศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด เป็นช่วงพิสูจน์ความสามารถของผู้นำรัฐบาลว่าจะฝ่าวิกฤติได้หรือไม่ ถ้าสามารถนำ พารัฐบาลผ่านวิกฤติได้ก็จะเป็นการสร้างโอกาส ทำให้ตัวผู้นำเอง อยู่ยาวไปจนครบเทอม แต่จะเป็นโชค หรือเคราะห์ ยังไม่รู้ ??” ...อ.เก่งกาจระบุ​

ที่ว่าจะเป็นโชคหรือเคราะห์นั้น ในทางโหราศาสตร์ก็จะยึดโยงกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติด้วย ซึ่งเรื่องของปรากฏการณ์ทางธรรมชาตินั้น “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” เคยนำเสนอไปแล้วว่าช่วงท้ายปีนี้ คืนสิ้นปีเก่า 31 ธ.ค. 2552 ต่อเนื่องเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ 1 ม.ค. 2553 จะเกิด “จันทรุปราคา-จันทรคราส” แบบบางส่วน ​

ในทางดาราศาสตร์ ช่วงที่เริ่มเกิดจันทรุปราคาแบบบางส่วนครั้งนี้ยังเป็นวันที่ 31 ธ.ค. ปี ค.ศ. 2009 ตามเวลาสากล ส่วนตามเวลาในประเทศไทยจะเริ่มเห็นดวงจันทร์แหว่งเวลา 01.53 น. ของวันที่ 1 ม.ค. ปี พ.ศ. 2553 ขณะดวงจันทร์มีมุมเงยประมาณ 70 องศา ทางทิศตะวันตก เงามืดจะเข้าบังดวงจันทร์ลึกที่สุดราว 8% ของเส้นผ่าศูนย์กลางดวงจันทร์ ในเวลา 02.23 น. ขณะนั้นดวงจันทร์อยู่สูงประมาณ 60 องศา แล้วดวงจันทร์จะกลับมาสว่างเต็มดวงอีกครั้งในเวลา 02.53 น. รวมเวลาเกิดจันทรุปราคาบางส่วนนานประมาณ 1 ชั่วโมง​

สำหรับในทางโหราศาสตร์-การคำนวณทางโหราศาสตร์ อ.เก่ง กาจบอกว่า... เกิดจันทรคราส เวลา 02.14 น. ที่ราศีตุล วันที่ 1 ม.ค. 2553 ซึ่งตรงกับวันศุกร์ แรม 1 ค่ำ เดือน 2 ปีฉลู จ.ศ. 1371 ซึ่ง “เป็นวันอุบาทว์ และโลกาวินาศ” ตามกาลโยคประจำปี แล้วยัง “ซ้ำด้วยการมีจันทรคราสเกิดขึ้น” อีกด้วย โดยคำพยากรณ์ตามปรากฏการณ์ของดวงดาวเช่นนี้ ก็ต้องระวังบุตรบริวารทำให้เสียทรัพย์ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่พึ่งพาอาศัยอุปการะจะได้รับความเดือดร้อนเจ็บป่วย จะมีสิ่งชั่วร้ายเข้ามาสร้างความอัปยศอดสู ทรัพย์สินเสียหาย ยานพาหนะประสบอุบัติเหตุ​

และตามดวงวันขึ้นปีใหม่ที่จะมาถึงยังต้องระวังปัญหาเด็กวัยรุ่นสร้างความวุ่นวายจนเป็นเรื่องใหญ่ข่าวใหญ่ในสังคม จะมีโรคระบาดเกี่ยวกับตา ข้าวของสินค้าจะมีราคาแพง จะเกิดไฟไหม้กลางเมือง ข้าราชการจะมีคดีต้องโทษ อากาศจะแล้ง โจรผู้ร้ายชุกชุม โจรโหดปล้นจี้ฆ่าเจ้าทรัพย์ การทำมาหากินไม่แน่นอน อาชีพฝืดเคือง​

“ประชาชนจะเดือดเนื้อร้อนใจกับความวุ่นวายทางการเมือง” ...อ.เก่งกาจพยากรณ์ และระบุทิ้งท้ายด้วยว่า... ต้นปีหน้า วันที่ 15 ม.ค. 2553 ก็จะเกิด “สุริยคราส” อีก ซึ่งก็เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเช่นกัน​

ทั้งสถานการณ์ล่าสุดและหลักโหราศาสตร์...เทไปทางเดียวกัน​

ดาวโคจรวิปริต-เดือนดับ-ตะวันดับ...ขณะการเมืองยังร้อนรุ่ม​

ต้องจับตา...ว่า “เมืองไทยเดือด” จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ???. ​

ที่มา http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm​

 

โอบามา VS โอบามาร์ค คนละเรื่องเดียวกัน!​

​

โอบามา VS โอบามาร์ค คนละเรื่องเดียวกัน! หรือเมื่อโอบามาพูดถึง "เมเดอลีน ดันแฮม" ยายที่เลี้ยงเขามาแต่เด็ก และได้ลงคะแนนให้หลานก่อนเสียชีวิต ก็อาจมีคนคิดถึง "ยายเนียม พันธุ์มณี" คู่หมั้นชาวอุบลฯที่อภิสิทธิ์พูดถึง

มีความพยายามเหลือหลายจะโยงใยให้ "มาร์ค เวชช์-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" กลายเป็น "บารัค โอบามา" เมืองไทยให้ได้ กระทั่งเรื่องสุนทรพจน์วันรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ก็มีการเชื่อมโยงกับสุนทรพจน์ประกาศชัยชนะของว่าที่ผู้นำสหรัฐอเมริกา

ตรวจสอบกันลึกๆแล้ว นายกฯคนที่ 27 ของไทยมีบางอย่างละม้ายคล้ายคลึงประธานาธิบดีคนดังชาวอเมริกันอยู่บ้างเหมือนกัน

แรกสุดที่ละม้ายคล้ายคลึงกันอย่างมากคือ ความเป็นคนหนุ่ม ทั้งคู่เป็นนักการเมืองหนุ่มที่กลายเป็นผู้นำระดับประเทศได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว โอบามา วัย 47 ปี ถือว่าหนุ่มแน่นเอามากๆ สำหรับตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกัน เช่นเดียวกับ โอบามาร์ค ในวัย 44 ปี ก็เป็นผู้นำอ่อนวัยที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยร่วมสมัย

ทั้งคู่เติบใหญ่ในต่างแดนเหมือนๆ กัน แต่ในแง่มุมทางการเมืองแล้ว อภิสิทธิ์ถือว่าแก่พรรษากว่ามากเมื่อก้าวขึ้นผู้นำ ต่างกับ โอบามา ที่เป็น "ละอ่อนทางการเมือง" อย่างแท้จริง เมื่อตอนก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด

ความเป็นคนหนุ่มร่วมสมัย ทำให้ทั้งคู่รู้จักมักคุ้นและสามารถใช้เทคโนโลยีร่วมสมัยให้เป็นประโยชน์ได้เป็นอย่างดี โอบามาร์คทำให้เว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์มีชีวิตชีวาขึ้นอักโข เอสเอ็มเอส ปาวารณาตัวต่อประชาชนทั้งประเทศ (ที่มีมือถือ) ก็สะท้อนให้เห็นการ "รู้จัก" เทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี

แต่ถ้าจะเปรียบเทียบกันแล้ว บารัค โอบามา ไปไกลกว่าโอบามาร์คมากในเรื่องนี้ ทีมหาเสียงของเขาไม่เพียงใช้งานเทคโนโลยีที่มีอยู่ "เป็น" เท่านั้น ยังดัดแปลงเทคโนโลยีมารับใช้วัตถุประสงค์ของตัวเองได้ชนิดที่หลายคนทึ่ง เว็บไซต์โอบามามีแอพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่เขียนขึ้นเพื่อรณรงค์หาเสียงโดยเฉพาะ และเขียนโปรแกรมไอโฟนได้อย่างน่าชมอีกด้วย

ที่สำคัญเทคโนโลยีแทบจะกลายเป็นแกนหลักในการผงาดสู่ตำแหน่งของโอบามานั่นนำหน้าโอบามาร์คอยู่หลายขุม

หรือเมื่อโอบามาพูดถึง "เมเดอลีน ดันแฮม" ยายที่เลี้ยงเขามาแต่เด็ก และได้ลงคะแนนให้หลานก่อนเสียชีวิต ก็อาจมีคนคิดถึง "ยายเนียม พันธุ์มณี" คู่หมั้นชาวอุบลฯที่อภิสิทธิ์พูดถึง

หรือเนื้อหาในสุนทรพจน์ตอนหนึ่งของทั้งสองก็ยังละม้ายคล้ายกันในทำนองว่า "จะทำงานรับใช้คนทุกคน"

ทว่าที่เหมือนกันโดยไม่ต้องก๊อปคือ ทั้งคู่ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งในห้วงเวลาที่ประเทศชาติเผชิญภาวะวิกฤตใหญ่หลวง ด้านเศรษฐกิจและสังคมเหมือนๆ กัน

ทั้งโอบามา และโอบามาร์ค ต้องแบกรับภาระหนักหนาสาหัส ชนิดที่มีผู้นำน้อยคนนักต้องเผชิญเหมือนๆกัน

ที่มา http://hilight.kapook.com/view/32109

เรื่องดวงของ Thailand & USA

สาเหตุของการที่สหรัฐถูกก่อการร้ายในครั้งนี้(9/11) มาลองคิดๆดูนะ ประเทศไทยในสมัยอยุธยาเสียกรุงให้พม่า และพระเจ้าตากสินก็ทรงกู้เอกราชคืนมาได้

"ปีที่ประกาศเอกราชของไทยตอนนั้น เป็นปีเดียวกับที่อเมริกาสร้างชาติ" พอดี
ต่อจากนั้นในสมัย ร.5 ในหลวง ร.5 ท่านประกาศเลิกทาส

"ปีที่ประกาศเลิกทาสของไทย ก็เป็นปีเดียวกับการเลิกทาสในอเมริกา" เหมือนกัน

จะว่าไอ้ที่ตรงกันเป็นเรื่องบังเอิญ? ถ้าจะคิดอย่างนั้นก็คงได้ล่ะมั๊ง แต่ลองมาคิดดูอีกมุมนะ

โซนที่ตั้งของอเมริกาที่แม้จะใหญ่กว่าไทยตั้งไม่รู้เท่าไหร่ แต่ตามโซนละติจูด+ลองติจูดแล้ว มันเป็นตำแหน่งที่ตรงข้ามไทยพอดี สรุปคือโลกกลมๆ ใบนี้ ประเทศไทยจะอยู่ในตำแหน่งที่ตรงข้ามกับสหรัฐอย่างพอดิบพอดี และก็เป็นที่รู้ๆ กันอยู่ในหมู่ของคนเชื่อเรื่องดวงว่า ในตำแหน่งที่ตั้งของอะไรต่างๆ จะเรียกว่าหลักฮวงจุ้ย ที่ตรงดีนี้ดีหรือไม่ดียังไง

ในเรื่องของอเมริกากะพี่ไทยก็เหมือนกัน เป็นเรื่องของฮวงจุ้ยครับท่าน ทีนี้มันต่างกับฮวงจุ้ยบ้านเรือนเล็กทั่วไปนิดหนึ่ง เพราะมันเป็นโซนที่ค่อนข้างใหญ่ ฮวงจุ้ยตรงนี้มันก็ขึ้นอยู่กับอิทธิพล และตำแหน่งของดวงดาวด้วย ตรงนี้ไม่ขอกล่าวถึงนะครับมันยุ่งยาก ใครอยากรู้ไปเรียนโหราศาสตร์เองนะ

ที่อยากจะบอกก็คืออเมริกากะไทยน่ะ มีฮวงจุ้ยเหมือนกันเลย เพราะงั้นเลยมีดวงที่คล้ายกัน ถ้าเกิดเหตุการณ์สำคัญอะไรๆ ขึ้นกับไทยอเมริกาก็จะเกิดเหตุการณ์สำคัญๆ ขึ้นเหมือนกัน ในทางตรงกันข้ามถ้าเกิดเหตุการณ์ที่อเมริกาพี่ไทยก็เกิดด้วยครับ

จากคุณ : Aquarius - 16/09/2001 02:58

ที่มา http://board.dserver.org/S/SAIYAVED/00000198.html

ฝนตกที่บ้านน้อง(USA) ฟ้าร้องถึงบ้านพี่(Thailand)

เกริ่นหัวข้อไว้เพื่อให้มองเห็นภาพในเชิงเปรียบเทียบ ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสถานที่แห่งใดๆ(ลัคนา) ย่อมมีผลถึงอีกสถานที่หนึ่งได้ ดังที่ท่าน อ.ประยูร พลอารีย์ เคยยกตัวอย่าง ทิ้งไว้เป็นปริศนาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอเมริกามีอะไร เดี๋ยวในเมืองไทยก็จะเกิดขึ้น ในลีลาแบบเดียวกัน โดยท่านยกตัวอย่างกรณี JFK ถูกลอบสังหาร ในเมืองไทยก็เกิดกรณี จอมพลสฤษดิ์เสียชีวิต สมดังคำกล่าวที่ว่า สรรพสิ่งต่างๆในโลกนี้จะเหมือนกันในทางปรัชญา

หากจะตีความต่อ วิเคราะห์ได้ว่า ระหว่าง 2 ประเทศจะต้องมีโครงสร้างปัจจัยทางโหราศาสตร์ สัมพันธ์กันในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง โดยเฉพาะลัคนา หรือเมอริเดียน ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีส่วนสำคัญกับสถานที่ จึงสามารถตั้งเป็นข้อสมมุติฐานเบื้องต้นได้ว่า การที่เหตุการณ์ของ 2 ประเทศ เกี่ยวข้องกัน เพราะ ทั้ง 2 ประเทศ มีลัคนา หรือเมอริเดียน สัมพันธ์กัน

จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นมีข้อสังเกตุดังนี้

1. ดวงเมืองของไทย (21/04/2325 06:54 กรุงเทพ) ลัคนาทำมุม 135 องศา กับ เมอริเดียนของดวงเมืองอเมริกา (04/07/2319 17:10 Philadelphia) ดังนั้น ปัจจัยทางโหราศาสตร์ใดที่สัมพันธ์กับลัคนาหรือเมอริเดียน ย่อมเกี่ยวข้องกันทั้ง 2 ประเทศ

2. ดวงเหมายันปี 2458 ลัคนา USA ทำมุม 150 องศา กับ ลัคนา Thailand เป็นปีที่ JFK ถูกลอบสังหาร

เป็นเรื่องที่ควรเก็บข้อมูลต่อว่า การจับคู่ดังกล่าวทำให้เกิดเหตุการณ์ที่สมคล้อยกันทางปรัชญา หรือไม่

นอกจากนี้ จากที่เคยตั้งข้อสังเกตุถึงการอ่านดวงเมืองโดยใช้ดวงเหมายัน ใช้ได้ผลดีในประเทศไทย เพราะลัคนาดวงเมือง ทำมุมกับแกนโลก(45 องศา) ซึ่งในอเมริกา ก็เช่นกัน ซึ่งยังจินตนาการต่อได้ว่า โหราศาสตร์ยูเรเนียน ได้รับความนิยมทั้งในไทยและอเมริกา ก็ด้วยเหตุของการสัมพันธ์กับแกนโลกด้วย (อเมริกาเมอริเดียนอยู่ที่แกนตุลเป๊ะๆ)

จากคุณ NooM - 20 Mar 2008 - 15:23

ที่มา http://www.payakorn.com/wb_answer.php?q_id=44

 

งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติ
ครั้งที่ี 16
โดยคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->hi5<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2723207", true); </SCRIPT> สมาชิก​

ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน​

คณะของ ดร.เทพนม เล่าให้ฟังถึง ภัยพิบัติสารพัดช่วง ๒๐๑๒ ได้อย่างเห็นภาพมาก บันทึกภาพและเสียงเอาไว้ครบถ้วน สำหรับการเตรียมการนั้น ที่สำคัญที่สุดคือการเตรียมใจ และสั่งสมบุญเยอะ ๆ หากมีอะไรเกิดขึ้น ก็จะได้ไปภพที่สูงกว่า

อ.เทพนม แสดงความวิตก เกี่ยวกับการเมืองไทย ว่าจะช่วงชิงอำนาจกันแรง หน้ามืดใจบอดถึงขั้นปองร้ายหมายชีวิตผู้นำประเทศ จะทำให้บ้านเมืองวิกฤติได้ในอนาคตอันใกล้นี้

และข้อสำคัญโหรญาณทิพย์ในงาน ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับอดีตชาติ ก็อุตส่าห์เล่าให้ฟังว่า อดีตชาติของเราคือใครกันในพงศาวดารไทย ชาตินี้กลับมากู้แผ่นดินอีกเป็นรอบที่ ๓ เบื่อคนไทย ไม่รู้จักรักษาแผ่นดิน ไม่รู้จักแยกแยะใครดีใครชั่ว สิ่งไหนเป็นประโยชน์ต่อแผ่นดินในระยะยาว ก็จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเองและลูกหลานด้วย ขอให้สนับสนุนให้คนดีจิตใจซื่อตรงให้มีอำนาจรัฐ บ้านเมืองก็จะร่มเย็นเป็นสุข สิ่งนี้จะเป็นอานิสงส์แก่การประกอบอาชีพและการดำเนินชีวิตของท่านด้วย ห้ามสนับสนุนคนโกงเด็ดชาด คนที่โกงชาติบ้านเมือง คือคนที่ยักยอกเงินในอนาคตของท่าน คุณภาพชีวิตของท่าน และของคนอื่นอีกหกสิบกว่าล้านคน กรรมจึงหนัก

ส่วน อ.ตาที่สาม หันมามองเราหนนึง แล้วทักว่า คนนี้ใจมันฮึดสู้น๊ะ ก็แน่ล่ะ อยากให้เพื่อน ๆ ทำเหมือนกัน คือ รักษาเกียรติศักดิ์ของชาติเอาไว้อย่างถึงที่สุด อย่าให้ต่างชาติ หรือใคร ๆ มาลบหลู่ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แล้วชีวิตของท่านจะเป็นผู้ทรงเกียรติ พบปะใครผู้คนก็จะให้เกียรติ นี่แหละผลแห่งการรักษาระบบความดีของสังคมอย่างจริงจัง<!-- google_ad_section_end -->

ที่มา http://palungjit.org/threads/งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติ-ครั้งที่ี16.212617/page-4

 

เกิดไฟป่ากว่า 120 จุดทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย​

​

ซิดนีย์ 10 ธ.ค. - เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียระบุว่า เกิดไฟป่ากว่า 120 จุด ซึ่งกำลังโหมไหม้จากกระแสลมแรง และอุณหภูมิที่สูงขึ้นทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียในวันนี้ ส่งผลให้มีประกาศเตือนเหตุฉุกเฉินในหลายเมือง

นักผจญเพลิงราว 2,000 นายออกดับไฟป่าหลายจุดในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งไฟป่าจุดใหญ่กำลังลุกไหม้กินพื้นที่เข้าใกล้พื้นที่ทำการเกษตร ด้านหน่วยดับเพลิงในเขตชนบท (อาร์เอฟเอส) ระบุว่า ไฟป่ากำลังลุกไหม้และอยู่ห่างจากที่อยู่อาศัยไม่ถึง 2 ชั่วโมง จึงแจ้งให้ประชาชนในเมืองบันดาร์รา และบาร์ราบา เตรียมพร้อมอพยพออกจากบ้านเรือน เพราะไฟป่าจะไม่สามารถควบคุม หรือคาดการณ์ได้ และกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ว

ขณะนี้ ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ และรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งอยู่ติดกันและกำลังเผชิญไฟป่าหลายจุด ต่างเตรียมรับมือสถานการณ์ไฟป่าที่อาจรุนแรงขึ้นจากอุณหภูมิที่พุ่งแตะ 40 องศาเซลเซียส และความชื้นที่จะลดลง

นายร็อบ โรเจอร์ส ผู้ช่วยผู้บัญชาการอาร์เอฟเอส ระบุว่า ขณะนี้เกิดไฟป่าขึ้นหลายจุด บางจุดอาจก่อให้เกิดความเสี่ยง และอาจลุกลามหนักขึ้นในวันนี้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่คิดว่า สภาพอากาศจะเอื้ออำนวยในการดับไฟ

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เฮลิคอปเตอร์คณะเจ้าหน้าที่ทำแผนที่ไฟป่าประสบเหตุตก ทำให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้เสียชีวิต 1 คน และนักบินบาดเจ็บสาหัส 1 คน และก่อนหน้านั้น 1 วัน เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิง 2 ลำประสบเหตุใบพัดส่วนหางเกี่ยวกันกลางอากาศ แต่โชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ

ออสเตรเลียเพิ่งจะเผชิญไฟป่าครั้งใหญ่เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ไฟป่าครั้งนั้นคร่าชีวิตผู้คนในรัฐวิกตอเรียไป 173 คน.-สำนักข่าวไทย

2009-12-10 14:45:42

ผู้เชี่ยวชาญชี้โลกจะทำสถิติอุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า ​

​

บีบีซี นิวส์ ออนไลน์ 11 ธ.ค.- สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของอังกฤษ เปิดเผยว่า อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า โดยคาดว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของปีจะอยู่ที่ 14.58 องศาเซลเซียส สูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยระยะยาวที่ประเมินไว้ 14 องศาเซลเซียส อีกทั้งสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่เคยทำไว้เป็นสถิติ 14.52 องศาเซลเซียสในปี 2541

นักอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและอุณหภูมิที่สูงขึ้นปานกลางในเขตร้อนของมหาสมุทรแปซิฟิก คือปัจจัยที่ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นในปีหน้า

อย่างไรก็ตาม เป็นเพียงการคาดการณ์ซึ่งยังไม่มีความแน่นอนชัดเจน โดยจะต้องรอตรวจสอบปรากฏการณ์เอลนีโญว่า จะจางหายไปอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่คาดไว้หรือไม่เมื่อเริ่มเข้าสู่ปี 2553 และยังขึ้นอยู่กับว่ามีการระเบิดครั้งใหญ่ของภูเขาไฟอีกด้วย ซึ่งสำนักงานอุตุนิยมวิทยาอังกฤษจะทบทวนพยากรณ์อุณหภูมิอีกครั้งหนึ่งหลังจากได้รับข้อมูลจากการสังเกตการณ์ครบถ้วนสมบูรณ์

ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นสัปดาห์ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาอังกฤษและองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ระบุว่า ในช่วง 10 ปีแรกของศตวรรษนี้ โลกมีอุณหภูมิอุ่นที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติอุณหภูมิ ซึ่งในปี 2552 เป็นปีที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดเป็นลำดับ 5 จากสถิติที่จดบันทึกไว้นาน 160 ปี สาเหตุเกิดจากหลายปัจจัยเช่นปรากฏการณ์เอลนิโญและก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ส่งผลให้ปีนี้โลกมีอันดับติด 1 ใน 10 ที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดในรอบ 160 ปี. -สำนักข่าวไทย

2009-12-11 13:39:27

น้ำท่วมฉับพลันทางตอนกลางของกรีซ คร่า 5 ชีวิต​

​

กรีซ 12 ธ.ค.-เกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลันทางตอนกลางของกรีซ อันเนื่องมาจากฝนตกหนัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน บ้านเรือนจำนวนมากจมอยู่ใต้น้ำ

ทางการจังหวัดแม็กนีเซีย ทางตอนกลางของกรีซ ต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังเกิดน้ำท่วมฉับพลันอันเนื่องมาจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมงตั้งแต่วันพฤหัสบดี ทำให้มีผู้เสียชีวิตเนื่องจากจมน้ำ 3 คน ส่วนอีก 2 คน ซึ่งเป็นผู้อพยพผิดกฎหมาย เสียชีวิตเนื่องจากเรืออับปางนอกชายฝั่งทะเลอีเจียน ขณะที่บ้านเรือนจำนวนมากจมอยู่ใต้น้ำ การจราจรตามถนนสายต่าง ๆ เป็นอัมพาต เช่นเดียวกับเรือโดยสารข้ามฟากไปตามเกาะต่าง ๆ ที่ตกระงับการให้บริการชั่วคราวเนื่องจากกระแสลมแรงจัด

นอกจากฝนตกหนักแล้ว พื้นที่แถบเทือกเขาตอนเหนือของประเทศยังเกิดหิมะตกหนัก ทำให้หมู่บ้านหลายแห่งถูกตัดขาดจากโลกภายนอก.-สำนักข่าวไทย

2009-12-12 04:12:18

ออสเตรเลียเตือนภัยการเดินเรือหลังพบภูเขาน้ำแข็งยักษ์​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

​

ซิดนีย์ 11 ธ.ค.- ทางการออสเตรเลียประกาศเตือนภัยการเดินเรือในวันนี้ หลังพบภูเขาน้ำแข็งยักษ์ ซึ่งมีขนาดใหญ่เกือบ 2 เท่าของเกาะฮ่องกง กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเปิดเผยว่า ภูเขาน้ำแข็งดังกล่าวได้เคลื่อนตัวออกจากขั้วโลกใต้เมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ก่อนมุ่งหน้าขึ้นเหนือเพราะอิทธิพลจากกระแสน้ำทะเลและสภาพอากาศ โดยเจ้าหน้าที่กำลังเฝ้าสังเกตภูเขาน้ำแข็งลูกดังกล่าวด้วยดาวเทียม เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 9 ธ.ค. ตามเวลาในประเทศไทยมีรายงานว่าพบภูเขาน้ำแข็ง ห่างจากชายฝั่งตะวันตกของออสเตรเลียไปทางตะวันตกเฉียงใต้ค่อนไปทางใต้ประมาณ 1,700 กม. โดยมีขนาดราว 140 ตร.กม. ยาว 19 กม. และกว้าง 8 กม.

คณะผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ภูเขาน้ำแข็งดังกล่าว ซึ่งรู้จักกันในชื่อ B17B อาจจะแตกออกจากกันเมื่อเข้าใกล้น่านน้ำที่อุ่นขึ้นของออสเตรเลีย ทำให้เกิดเป็นภูเขาน้ำแข็งขนาดเล็กหลายร้อยลูก ซึ่งจะคอยกีดขวางการเดินเรือ นายนีล ยัง นักธารน้ำแข็งวิทยาเปิดเผยว่า อาจไม่มีการพบเห็นภูเขาน้ำแข็งขนาดดังกล่าว มานับตั้งแต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ซึ่งมีการพบในเส้นทางเดินเรือระหว่างบราซิลและออสเตรเลีย

การค้นพบภูเขาน้ำแข็งลูกดังกล่าวมีขึ้นเพียงสองวัน หลังจากพบภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่อีก 2 ลูก ห่างไปทางตะวันออก นอกชายฝั่งเกาะแมกควารีของออสเตรเลีย นอกจากนี้ ยังพบก้อนน้ำแข็งขนาดเล็กอีกหลายร้อยลูกกำลังมุ่งหน้าไปยังนิวซีแลนด์. -สำนักข่าวไทย

2009-12-11 15:11:03

อากาศเลวร้ายในสหรัฐ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 16 คนแล้ว​

​

สหรัฐ 10 ธ.ค. - พายุที่พัดกระหน่ำพื้นที่ภาคตะวันออกของสหรัฐอย่างรุนแรง ทำให้หลายพื้นที่มีหิมะตกและลมกระโชกแรง นอกจากนี้ยังทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 16 คนแล้ว

พื้นที่ในแถบตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ตั้งแต่ตะวันตกตอนกลาง ไปจนถึงนิวอิงแลนด์ ถูกพายุกระหน่ำอย่างหนัก ส่งผลให้บางพื้นที่มีหิมะตกหนาถึง 40 เซนติเมตร รถยนต์หลายคันจมอยู่ใต้กองหิมะ ขณะที่บนท้องถนนบางสายถูกเคลือบไปด้วยน้ำที่จับตัวเป็นคราบน้ำแข็ง ทำให้การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนแล้วอย่างน้อย 16 คน

โรงเรียนหลายร้อยแห่งต้องปิดการเรียนการสอนชั่วคราว เสาไฟฟ้าหักโค่น สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนหลายพันครัวเรือนตั้งแต่รัฐมิสซูรีถึงนิวยอร์ก ขณะที่สายการบินต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยว อิทธิพลของพายุยังทำให้ภาคใต้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมด้วย. -สำนักข่าวไทย

2009-12-10 14:09:25

ราคาอาหารอินเดียพุ่งหลังฝนตกน้อยมาก​

​

มุมไบ 10 ธ.ค.- ข้อมูลรัฐบาลอินเดีย เปิดเผยว่า ราคาอาหารทะยานแตะร้อยละ 19.1 ภายหลังอินเดียเผชิญกับฝนตกน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2515 ทำให้ผลผลิตการเกษตรลดลง

กระทรวงพาณิชย์อินเดีย รายงานว่า ราคาอาหารประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดเมื่อ 28 พฤศจิกายน เพิ่มเป็นร้อยละ 19.1 มากกว่าในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ราคาเชื้อเพลิงปรับขึ้นเพียงร้อยละ 0.1 เท่านั้น ที่ผ่านมาฤดูมรสุมมีระดับน้ำฝนต่ำกว่าปกติร้อยละ 23 จึงทำให้คาดว่าผลผลิตข้าว และธัญพืช จะลดลงราวร้อยละ 14.8-19.7 ด้วยเช่นกัน และสภาพอากาศแปรปรวนยังทำให้เกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่ด้วย อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้ออินเดียโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 ในเดือนตุลาคมจากเมื่อปีก่อน.-สำนักข่าวไทย

2009-12-10 15:54:47

เกิดเหตุเหมืองระเบิดในตุรกี มีผู้เสียชีวิต 19 คน​

​

อิสตันบูล 11 ธ.ค. - นายโอเมอร์ ดินเซอร์ รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานของตุรกี เปิดเผยว่า เกิดเหตุระเบิดในเหมืองถ่านหินแห่งหนึ่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของตุรกี ทำให้คนงานเสียชีวิต 19 คน

รายงานระบุว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเย็นวานนี้ ที่เหมืองถ่านหินแห่งหนึ่งในเมืองบูร์ซา ทำให้คนงานจำนวนหนึ่งติดอยู่ใต้ดิน โดยสาเหตุอาจเกิดจากแก๊สมีเทน ก่อนหน้านี้ สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น-เติร์ก รายงานว่า มีคนงานเสียชีวิต 6 คน และอีก 13 คน ติดอยู่ภายใน แต่ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 19 คนแล้ว ทั้งนี้ เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นที่ความลึกประมาณ 250-350 เมตร เป็นสาเหตุทำให้เหมืองพังทลายและเกิดเพลิงไหม้. - สำนักข่าวไทย

2009-12-11 15:09:27

จีนค้านสหรัฐขายอาวุธชุดใหม่ให้ไต้หวัน​

​

สหรัฐ 11 ธ.ค.-รัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำลังพิจารณาขายอาวุธชุดใหม่ให้แก่ไต้หวัน ขณะที่จีนออกมาคัดค้านอย่างสุดกำลัง

นายรอเบิร์ต โคแวค รักษาการผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ฝ่ายกิจการค้าอาวุธ เปิดเผยว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโอบามา กำลังพิจารณาขายอาวุธชุดใหม่ให้แก่ไต้หวัน ซึ่งมีเรือดำน้ำรวมอยู่ด้วย

ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน คัดค้านการขายอาวุธของสหรัฐ โดยอ้างถึงคำแถลงการณ์ของสองประเทศว่าสหรัฐไม่ควรจำหน่ายอาวุธให้แก่ไต้หวัน และความพยายามดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน

ทั้งนี้ อาวุธชุดใหม่ที่สหรัฐพิจารณาขายให้แก่ไต้หวัน ประกอบด้วย เรือดำน้ำเครื่องยนต์ไฟฟ้า-ดีเซล เรือดังกล่าวจะช่วยไต้หวันสามารถรับมือการโจมตีทางทะเลจากจีน รวมทั้งจะขายเฮลิคอปเตอร์ยูเอช-60 แบล็คฮอว์ก รวมไปถึงขีปนาวุธแพทริออตรุ่นทันสมัย.-สำนักข่าวไทย

2009-12-11 02:13:23

มีผู้ประท้วงนับหมื่นคนหลังโอบามา รับโนเบล​

​

ออสโล 11 ธ.ค.-ประชาชนนับหมื่นคนพากันเดินขบวนประท้วงในกรุงออสโลของนอร์เวย์ เมื่อค่ำวันพฤหัสบดี ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ กล่าวสุนทรพจน์ในโอกาสรับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ แต่กลับอ้างเหตุผลสนับสนุนในการทำสงคราม

ผู้ประท้วงกว่า 6,000 คน เดินขบวนอย่างสันติเพื่อประณามการใช้อาวุธนิวเคลียร์ และมาสิ้นสุดที่ด้านหน้าโรงแรมที่พำนักของผู้นำสหรัฐในกรุงออสโล ขณะที่ประธานาธิบดีโอบามา กล่าวสุนทรพจน์รับรางวัลว่า บางครั้งการทำสงครามก็มีความจำเป็นและเป็นการแสดงออกถึงความต้องการของผู้คน ส่วนผู้ประท้วงอีก 3,000 คน เรียกร้องให้ยุติการทำสงครามในอัฟกานิสถาน ควบคุมการซื้อขายอาวุธ ยุติการใช้อาวุธนิวเคลียร์ และการตั้งนิคมชาวอิสราเอล ตำรวจกล่าวว่า ผู้ประท้วงมีจำนวนราว 12,000-15,000 คน

ด้านนางซินดี้ ชีแฮน นักเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพชาวอเมริกัน ที่ได้รับเชิญมากรุงออสโล กล่าวว่า ทุกคนจะต้องไม่ยอมรับแนวคิดของรัฐบาลและคณะกรรมการตัดสินรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่มอบรางวัลให้บุคคลที่สร้างความรุนแรงในตะวันออกกลาง และว่าสุนทรพจน์ของผู้นำสหรัฐมีนัยว่า การทำสงครามเป็นแนวทางในการนำไปสู่สันติภาพ ซึ่งเป็นความคิดที่ยอมไม่ได้ ทางการนอรเวย์ระดมกำลังรักษาความปลอดภัยทั้งเฮลิคอปเตอร์ทหารและพลแม่นปืนประจำการโดยรอบสถานที่จัดพิธีมอบรางวัลโนเบลตลอดวานนี้ .-สำนักข่าวไทย

2009-12-11 07:29:27

สหรัฐมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัด 2009 ถึงหมื่นคนแล้ว​

​

วอชิงตัน 11 ธ.ค. - นายโทมัส ฟรีเดน ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐ หรือซีดีซี กล่าวคาดว่า มีผู้เสียชีวิตราว 10,000 คน ซึ่งรวมถึงเด็ก 1,100 คน จากโรคไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 ในสหรัฐ หลังจากพบการระบาดครั้งแรกเมื่อเดือน เม.ย.

ในช่วงที่นับจนถึงวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีทั้งเด็กและคนหนุ่มสาวรักษาตัวที่โรงพยาบาลหรือเสียชีวิตจากไวรัสเอช1 เอ็น1 มากกว่าที่เคยพบในช่วงฤดูไข้หวัดใหญ่ระบาดก่อนนี้ คาดว่ามีผู้ป่วยเกือบ 50 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นเด็กและคนหนุ่มสาว โดยมีมากกว่า 200,000 คน รักษาตัวที่โรงพยาบาล และเสียชีวิตเกือบ 10,000 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 1,100 คน และคนหนุ่มสาว 7,500 คน.-สำนักข่าวไทย

2009-12-11 09:42:13

เกาหลีเหนือยอมรับความช่วยเหลือสกัดหวัดใหญ่ 2009 จากเกาหลีใต้​

​

โซล 10 ธ.ค. - กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ เผยว่า เกาหลีเหนือยอมรับความช่วยเหลือในการสกัดการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เกาหลีใต้เสนอไปให้แล้วในวันนี้

โฆษกกระทรวงรวมชาติ ระบุว่า เกาหลีเหนือแจ้งให้ฝ่ายเกาหลีใต้ทราบว่าจะยอมรับข้อเสนอส่งยาต้านไวรัสทามิฟลูไปให้แล้ว โดยเกาหลีเหนือตอบตกลงระหว่างการติดต่อของเจ้าหน้าที่ประสานงานที่หมู่บ้านปันมุนจอม บริเวณพรมแดน 2 ประเทศ

เกาหลีเหนือ ยอมรับเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่หลายราย เป็นการยืนยันรายงานข่าวจากต่างประเทศที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่กำลังแพร่ระบาดในเกาหลีเหนือ ทั้งนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ระงับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมส่วนใหญ่ที่มีให้แก่เกาหลีเหนือลง หลังจากความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ฝ่ายย่ำแย่ลงเมื่อปีก่อน.-สำนักข่าวไทย

2009-12-10 14:49:01

การให้วัคซีนหวัดใหญ่ 2009 ของจีนล่าช้าเพราะคนวิตกความปลอดภัย​

​

ปักกิ่ง 11 ธ.ค. - เจ้าหน้าที่จีนระบุวันนี้ว่า โครงการให้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นไปอย่างล่าช้ากว่าที่ควรเป็น โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่ประชาชนวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีน

นายเติ้ง ไห่หัว โฆษกกระทรวงสาธารณสุขจีน กล่าวว่า โดยทั่วไปโครงการให้วัคซีนดำเนินไปอย่างเรียบร้อย แต่ในช่วงไม่นานมานี้เริ่มมีความคืบหน้าช้าลงในบางพื้นที่ ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า จะเป็นช่วงเวลาสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เนื่องจากช่วงเทศกาลตรุษจีน ในเดือน ก.พ. เป็นช่วงที่ชาวจีนจะเดินทางเป็นจำนวนมากทั่วประเทศ ทำให้คาดว่าโรคจะแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง

นายเหลียง ว่านเหนียน หัวหน้าสำนักภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข ระบุว่า มีหลายสาเหตุที่ทำให้โครงการให้วัคซีนมีความคืบหน้าล่าช้ากว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ดี เขาไม่ปฏิเสธว่า มีประชาชนบางส่วนที่วิตกกังวลเรื่องความปลอดภัยของวัคซีน เพราะการประชาสัมพันธ์เรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนอาจเข้าไม่ถึงประชาชนทุกคน ดังนั้น หากไม่เร่งให้วัคซีนก็อาจทำให้พลาดโอกาสป้องกันและควบคุมไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จีนเริ่มโครงการให้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่มาตั้งแต่เดือน ก.ย. ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนย้ำว่า วัคซีนมีความปลอดภัย ขณะที่โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า อาการตอบสนองที่ผิดปกติต่อวัคซีนมีโอกาสเกิดขึ้นเพียงหนึ่งในล้าน อย่างไรก็ดี จีนยังมีความวิตกว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่แท้จริงอาจมากกว่าตัวเลขของทางการ. - สำนักข่าวไทย

2009-12-11 15:03:43

ที่มา http://news.mcot.net

 

ประกาศเรื่อง พายุโซนร้อน “เวิร์ด”

Tropical Storm WARD (05B,10.2N 84.7E,45kts): เมื่อเวลา 04.00น.วันนี้(12ธ.ค.52) พายุโซนร้อน WARD (เวิร์ด/05B) มีศูนย์กลางปกคลุมอ่าวเบงกอล อยู่ที่ละติจูด 10.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 84.7 องศาตะวันออก หรือมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จากเมืองเชนไนย ประเทศอินเดีย ห่ างประมาณ 630 กิโลเมตร. กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกด้วยความเร็ว 8 นอต(15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา . มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 45 นอต(83 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ลมกระโชกแรงสูงสุดประมาณ 55นอต(102กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ความกดอากาศที่พื้นผิวน้ำทะเลประมาณ 996 มิลลิบาร์ คลื่นทะเลสูงสุดประมาณ 4 เมตรในช่วง 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา. / คาดพายุโซนร้อน WARD (เวิร์ด/05B) จะยังคงมีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางเหนือค่อนตะวันตกโดยส่วนใหญ่ต่อไปอีก 12-24 ชั่วโมงข้างหน้า คาดว่าพายุจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยเป็นลำดับ ก่อนที่จะมีแนวโน้มมุ่งหน้าไปยังชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศอินเดีย 48 ชั่วโฒงข้างหน้าหรือช่วงประมาณ 01.00น.(14ธ.ค.52) : ประกาศศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น (Joint Typhoon Warning Center หรือ JTWC )

 

ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน
พูดยังไงเกี่ยวกับ2012มั้งอ่าครับ ไม่ได้ไปอ่ะ
เเต่ก็อยากรู้ pm มาก็ได้ครับ

 

สุริยุปราคา 15 มกราคม 2553​

​

การเกิดสุริยุปราคาครั้งนี้ เป็นผลมาจากที่โลกเข้ามาอยู่ในตำแหน่งใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด (perihelion) ในวันที่ 3 มกราคม ทำให้มองเห็นขนาดปรากฏของดวงอาทิตย์ใหญ่มากกว่าปกติ ในขณะเดียวกันดวงจันทร์ก็เคลื่อนไปอยู่ที่ตำแหน่งห่างจากโลกมากที่สุด (apogee) ในวันที่ 17 มกราคม ทำให้มองเห็นขนาดปรากฏของดวงจันทร์เล็กกว่าปกติ แล้วเมื่อดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และโลกมาอยู่แนวเดียวกันในวันที่ 15 มกราคม 2553 ดวงจันทร์จึงมีขนาดปรากฏเล็กกว่าดวงอาทิตย์และบังดวงอาทิตย์ไม่มิดทั้งดวง แต่จะมองเห็นดวงอาทิตย์สว่างเป็นวงแหวนโดยมีดวงจันทร์มืดอยู่ตรงกลาง จากปัจจัยหลายอย่างที่กล่าวมามีผลต่อลักษณะและความยาวนานของคราสที่พาดผ่านผิวโลกทั้งสิ้น



รูปที่ 4 แผนที่แสดงปริมาณเมฆเฉลี่ย (คิดเป็น %) ในวันที่ 15 มกราคม 2553
(ที่มา : Solar Eclipses Redirection)

สำหรับประเทศไทยจะเห็นเป็นสุริยุปราคาบางส่วน และสามารถเห็นได้ทุกภูมิภาค โดยแต่ละภูมิภาคจะเห็นปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นในเวลาที่แตกต่างกัน ที่กรุงเทพฯ นั้นดวงจันทร์จะเริ่มเคลื่อนเข้าสู่สัมผัสที่ 1 ในเวลาประมาณ 14.00 น. และสิ้นสุดเหตุการณ์ในเวลา 16.58 น. ปรากฏการณ์สุริยุปราคาบางส่วนในครั้งนี้จะเกิดนานที่สุดในภาคเหนือ คือ ประมาณ 3 ชั่วโมง 6 นาทีที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยดวงอาทิตย์จะถูกดวงจันทร์บดบังมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 77 ของพื้นที่ดวงอาทิตย์

ตารางแสดงเวลาที่เกิดสุริยุปราคาบางส่วนในประเทศไทย 15 มกราคม 2553





การชมปรากฏการณ์สุริยุปราคาอย่างปลอดภัย

การมองดูดวงอาทิตย์โดยตรงด้วยตาเปล่าหรือมองผ่าน viewfinder ของกล้องถ่ายรูป กล้องส่องทางไกล หรือกล้องดูดาว ต่างทำให้ตาบอดได้ทั้งสิ้น แม้จะเป็นเพียงเสี้ยวบางๆของดวงอาทิตย์หรือปรากฏการณ์ลูกปัดของเบลีย์ (Baily’s beads) ในช่วงที่เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงก็ตาม โดยร้อยละ 1 ของผิวดวงอาทิตย์ก็ยังมีความสว่างถึง 1 หมื่นท่าของความสว่างของดวงจันทร์วันเพ็ญ

ดังนั้น การสังเกตการณ์สุริยุปราคาเป็นสิ่งที่ต้องกระทำด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เพราะแสงจากดวงอาทิตย์ที่จ้าเกินไป อาจทำลายระบบการมองเห็นของเราจนกระทั่งตาบอดได้ เราจะสามารถมองดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่าได้เฉพาะขณะที่เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงแล้วเท่านั้น ส่วนในช่วงระหว่างที่กำลังจะเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง หรือสุริยุปราคาแบบวงแหวน หรือสุริยุปราคาบางส่วน เราจะต้องอาศัยอุปกรณ์ช่วยในการสังเกตดวงอาทิตย์

อุปกรณ์เหล่านี้อาจเป็นอุปกรณ์ที่เราทำได้เองอย่างง่ายๆ ทั้งอุปกรณ์ที่ใช้สังเกตโดยอ้อมและโดยตรง อุปกรณ์ที่ใช้สังเกตโดยอ้อม เช่น การสังเกตสุริยุปราคาผ่านกล้องรูเข็มหรือการฉายภาพดวงอาทิตย์จากกล้องสองตาหรือกล้องโทรทรรศน์ลงบนฉากรับภาพ

โดยคุณ ไทย [17-11-2009 21:17]

ที่มา http://www2.tmd.go.th/webboard/show.php?Category=meteorology&No=7360&PHPSESSID=3b7fdf084962270c0686471e9639c376

 

เมื่อตอนเย็นวันนี้ มีเทพองค์หนึ่งเข้ามาแฝงร่างภรรยาผม ผมก็จึงถามถึงเหตุการณ์บ้านเมือง ปี53 ท่านบอกว่า ร้ายแรงเหมือนที่โหรโสรัจจะ นวลอยู่ และอีกหลายท่านพูดไว้ บ้านเมืองก็เปิดฉากแบ่งฝ่ายรบกับ ธนาคารเจ๊งระนาว น้ำทะเลเริ่มเข้ากรุงเทพ เพราะน้ำแข็งละลายเร็วมาก --มิหนำซ้ำ มีการบังคับฉีดวัคซีน 2009 ที่ไม่ได้ทดลองในมนุษย์และจงใจปนเปื้อนเชื้อโรค เพื่อให้เป็นโรคคล้ายอัมพาตและตายในที่สุด ถ้าไม่ยอมฉีดจะถูกปรับและส่งเข้าค่ายกักกัน-ขณะนี้อเมริกาบังคับ 40 รัฐแล้ว ท่านยังพูดต่อไปอีกว่า เป็นแผนยึดโลกของมนุษย์ต่างดาวบางพวก ซึ่งผมก็งงว่าท่านรู้ได้อย่างไรเกี่ยวกับบทความที่ผมแปลลงในบล็อก Bloggang.com : jesdath :

 

เอาใหม่ครับ--โหรกรหริศ ˹ѧ

 

โหร โสรัจจะ ˹ѧ

 

บล็อกผม :: BlogGang :: ใน3 เดือนมีผู้ติดตามอ่าน 22,000คนแล้วครับ

 

ตรงกับเวลา 00.05 วันที่ 13 ธันวาคม 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 01.38 วันที่ 13 ธันวาคม 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 03.39 วันที่ 13 ธันวาคม 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 04.37 วันที่ 13 ธันวาคม 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 19.31 วันที่ 13 ธันวาคม 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 21.41 วันที่ 13 ธันวาคม 2552 ของประเทศไทย

----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 23.04 วันที่ 13 ธันวาคม 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 04.03 วันที่ 14 ธันวาคม 2552 ของประเทศไทย

----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 10.05 วันที่ 14 ธันวาคม 2552 ของประเทศไทย

-----------------------------------------------------------------------

ตรงกับเวลา 15.54 วันที่ 14 ธันวาคม 2552 ของประเทศไทย