" ปอบ " คืออะไร ? อาถรรพ์ ความเชื่อ เรื่องผี!!

.... กาลีนะ ไม่เข้าใจแมวคะ 555555 แต่จะจ้องตามันคะ จ้องไม่กระพริบแล้วปากก็จะพูดกับเขา ... ใช้วิธีนี้พูดกับสัตว์คะ ไม่รู้มันเข้าใจไหม๊ 55555

 

... สำหรับคุณ Asvel จำได้ว่าตอนแรกที่เคยโต้ตอบกันนั้น ออกแนวไม่ค่อยเชื่อคะ แต่ก็หยั่งเชิงกันดูว่ายังไง .. แอบตามอ่านเกือบทุกโพสที่ลงไป อิอิ .. เดานะคะ 55555 ความจริงไม่ได้อ่านได้ลึกขนาดนั้นกับทุกคนหรอกคะ ... ตามธรรมดาคนที่มีของเก่าติดตัวมาหากไม่ฝึกใช้ให้คล่อง หรือ ชำนาญ ... มันจะมาแบบกำหนดไม่ได้คะ 555555 เอาเป้นว่าตอนแรกคุณไม่แน่ใจในตัว กาลีนะ แต่ตอนนี้ .... เราเป้นเพื่อนกันไปแล้ว 555555

ปล. แบบคุณพายุ กะ คุณติงนี้ ... มันขึ้นอยู่ในทุกคำที่เขาเขียนเลยคะ ไม่ต้องใช้จิตอ่านก็เห็นทุกคน อิอิ แอบพากพิงเล็กน้อย

... การอ่านของ กาลีนะ จะเป้นแนวว่า มาดี หรือ ร้าย รับรู้ว่า ณ ตอนที่เขียนคนนั้นกำลังอยู่ในอารมณ์ประมาณไหน ... ซึ่ง กาลีนะ ก็ต้องเปิดใจตัวเองสัมผัสเช่นกันถึงจะรับรู้ได้คะ ไม่ใช่ทำได้ตลอดนะคะ .. พี่ระมิงค์ ก็แนะให้ลองฝึกหลายอย่าง พี่นพ ก็บอกแต่ กาลีนะ คิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมตอนนี้เครียตัวเองไม่ได้ก็อยู่แบบนี้ต่อไปก่อน ศึกษาหาความรู้ใส่ตัว สะสมบุญบารมีไว้เยอะเป็นทุนยามต้องใช้ดีกว่า .. แค่รบกับผีแถวบ้านนี้ก็ประสาทจะกินตายอยู่แล้วคะ .. พูดแล้วอยากจะร้องไห้ ...

 

... ขนาดภพภูมิมาแนะนำว่าถ้าอยากมองเห็นภพภูมิแบบชัด ๆ แจ่ม ๆ กาลีนะ ก็ทำได้แค่ " ทำใจให้นิ่ง อย่าใช้ตาเนื้อมอง " ง่าย ๆ แค่เนี๊ย ๆ เชื่อไม่คะตั้งแต่ที่เขาบอกวิธีให้ทำ กาลีนะก็คิดจนแทบจะเอามือเดินแทนเท้าละยังทำไม่ได้เลยคะ .. ก็งี้แหละคะสติปัญญาน้อย ... หอบเอาไปถาม " คุณป๋า " ที่เคารพของ กาลีนะ ป๋าก็อุตส่าห์แนะนำมาอย่างดี แต่ตัวเองก็ยังงงว่าทำยังไง 55555555 เป็นนักเรียนที่ " โง่มาก แค่ทำใจให้นิ่งยังทำไม่เป็นเลยคะ " มีคำนี้ด้วยนะคะ อุปา ฯ คือ พลังมีแต่ไม่มีปัญญาเอามาใช้ ... น่าเจ็บใจตัวเองจริง ๆ ... ในฝันก็มีคนมาสอนนั้นนี้ให้ตอนหลับทำได้ ตื่นมาลืมหมด ....

... เด้วมาเล่าเรื่องปอบให้ฟังละกันคะ ฝอยเรื่องอื่นมาเยอะละ ... ตอนนี้ปอบแถวบ้านก็กำลังเติบโตจากหมาน้อยน่ารัก ..กลับมาคราวนี้คงโตเข้าวัยรุ่นละ เห้อ ๆ ๆ

 

เมื่อมันยังไม่ถึงเวลา มันก็ยังทำอะไรไม่ได้ เกิดขึ้นไม่ได้
มันก็เหมือนเขื่อนที่ปิดอยู่ ทำอย่างไรก็ปิดอยู่อย่างนั้น เพราะยังไม่ถึงเวลาเปิด
แต่แม้กระนั้นก็ควรเก็บสะสมน้ำคือความรู้ทั้งหลายเอาไว้ให้มาก
เมื่อถึงเวลาที่เขื่อนเปิดออกเมื่อใด น้ำนั้นจะระดมทะลักไหลออกมาอย่างสุดกำลังนั่นเอง
ศึกษา ค้นคว้า ฝึกฝนเอาไว้ มันไม่หายไปไหนหรอก มันไม่ไร้ค่าหรอก มันแค่รอเวลา
ใครไม่ทำไว้ ถึงเวลาเปิดเขื่อน มันจะเหลืออะไรไหลออกมาได้ล่ะ...มันก็จะเป็นเขื่อนแห้งๆเท่านั้นเอง...
"หมั่นทำเข้า" จึงเป็นคำพูดสั้นๆของครูบาอาจารย์ที่กินความหมายกว้างและลึกมาก

 

เอ ทำไม ข้าน้อย ช่างเป็นคน ที่ไม่มีความลึกลับ ซับซ้อนน่าค้นหาเลยนะ

๕๕๕๕๕

วันนี้ ข้าน้อย สวมวิญญาณ อินเดียโจนส์

ไปเที่ยวหมู่บ้านรกร้าง กว้างใหญ่

ที่มีการลงทุน ไปหลาย ร้อยล้าน แต่เจ้ง ไป

เจ้าของตายโหง

ระหว่างขุดก่อสร้าง พบไหปิดด้วยครั่ง ข้างในบรรจุทองแท่งเต็มเลย (เพื่อนเล่าให้ฟัง)

เราฟังแล้ว หน้ามืด บังคับให้เพื่อน(เกิดวันเสาร์) พาไปดู

ไป หนนี้พาพี่ผู้จัดการการเงินไปด้วย
เธอมีสัมผัส ภพภูมิได้บ้าง

ไปไม่เจออะไร

แต่ขากลับ พี่(การเงิน) เธอบังคับให้เราแแผ่เมตตา แล้วหน้าตา พี่แลดูอิหลักอิเหลื่อ ไม่พูดจา ประสานมือหลับตาแน่น บอกว่าแน่นอก อยากร้องให่ ไรไม่รู้ตื่นเต้นมาก


แล้วบอกให้พวกเรา กลับไปแผ่เมตตา ให้ผีหมู่บ้านนั้น

 

นู๋พายุน่ะซับซ้อนมิใช่น้อย
เมื่อตอนเย็นผมเลยต้องไปนั่งยองๆใกล้ๆกับแมวข้างบ้าน
พยายามทำความเข้าใจเหมือนอย่างนู๋พายุแนะนำ
แมวมันกลิ้งไปกลิ้งมาไม่แยแสเราเลย
แมวไม่มองหรือเพราะเรามันไม่ใช่เซเลบ
ไม่เข้าใจแมวจริงๆ
ลุกขึ้นมาแล้วก็คิดว่าจะประกาศกฎอัยการศึกกะแมวดีไหมนะ
คิดดูอีกทีว่าน่าจะมาขอคำแนะนำจากนู๋พายุผู้เข้าใจในแมวก่อนดีกว่า...เนอะ

 

แฮ่

หนูไม่มีเจโตปริยญาณ หยั่งรู้ใจแมวค่ะ (ยังไม่รู้เท่าทันใจตนเองเลย ๕๕๕๕)

แต่พูดไปเรื่อยกับแมว แมวเข้าใจเราค่ะ (แมวเก่งมากๆ)

 

ว่าแต่ว่า

หากว่า

คนเราต้องการปิดกั้นจิต บังใจตนไม่ให้คนอื่นรู้นี้ เค้าทำอย่างไรคะ

ข้าน้อยเคยดูหนังจีน

ว่า

จอมยุทธ์ ที่แท้จริงย่อมงำประกาย ซ่อนแววตา(อันคมปลาบสาดแสงดุจสายฟ้าฟวาดเอ้ยฟาด)บ้าง

จอมยุทธ ย่อมคมในฝักบ้าง ไม่ก็ภายนอกเหมือนยาจกซู บ้าง ฯลฯ

ข้าน้อยเองพยายาม ซุกงำ ทั้งประกายตา ความฉลาดเฉลียว (คิดไปเองว่าตัวเองยังกะเชอล๊อกโฮล์ม)ไว้มิดชิด

ได้ผลดีมาเลย ใครๆทั่วไป ดูแทบไม่ออกเลย ว่าข้าน้อย ฉลาด (แกล้งโง่ได้แนบเนียนที่สุดในโลก ๕๕๕๕)

นับว่า

ท่านอาวุโสระมิงค์ มองเห็นความซับซ้อน ของพายุ ได้ด้วย หนูซึ้งใจมากค่ะ

 

... สำหรับเรานะ พายุ ครู หรือ หมอดู บางท่านเคยบอกเรามาแบบนี้นะ " เธอเป็นคนที่ไม่มีใครสามารถโกหก หรือ หลอกเธอได้ .. นอกจาก ... " ตอนแรกเราไม่เข้าใจเพราะเรายังเด้ก และ ไม่สนใจเรื่องพวกนี้ .. แต่มันจะรู้ขึ้นมาเองว่าคนนี้ปากพูดแบบนี้ใจเขาคิดแบบนี้ หรือ การสื่อสารต่าง ๆ ระหว่างเรากับเขา หรือ ข้อความที่เขาส่งออกมาทางใดทางหนึ่งนั้น เมื่อมันมาตกกระทบที่เราจะเมือนใจเราเป็นกระจกที่สะท้อนออกมา .. เราคิดได้แบบนี้ตอนอายุ 14-15 ช่วงนั้นมักเก็บตัวอยู่คนเดียวคิดไปเรื่อย ๆ ร้อยแปดพันเก้าเพื่อให้มันดูวุ่นวายเข้าไว้ ไม่ให้ใจเรานิ่งสงบ .. เพราะทุกคนคงพอรู้ว่าตั้งแต่เกิดมา กาลีนะ มักได้อาศัยอยู่ในบ้านที่เจ้าที่แรงถึงแรงมาก และ มักมีหลายท่านอยู่รวมกัน ... เพราะนอกจากเราจะรับ หรือ สัมผัส หรือ สื่อ .. ของคนได้แล้ว ... ของภพภูมิก็ไม่เว้นคะ ... เพียงแค่เรามองไม่เห็นพวกเขาแค่นั้นเอง ... เคยเห็นพวกที่หลอนตัวเองไหม๊คะ ... คล้าย ๆ แบบนั้นแหละคะ ... แต่ก่อนก็คิดว่าตัวเอง " บ้าแน่ ๆ " เคยแบบจ้องกระจกนาน ๆ เวลากลางคืนแล้วเห็นตัวเองเป็นอีกคนไหม๊คะ แล้วเหมือนเขาจะยิ้มกลับมาด้วย .. สมัยเด็กนี้หลอนประจำ ... กลายเป็นคนแปลกในสายตาคนอื่น ๆ พูดอะไรแปลก ๆ ทำตัวแปลก ๆ เป็นตัวประหลาดสำหรับทุกคน .... นั้นแหละที่มาของการ " ขอพร และ แช่งตัวเอง "

... อ้อ บางทีก็มาแบบในฝันนะคะ ส่วนมากจะมาแบบกายที่สอง หรือ พวกกายทิพย์ คะ ที่มาทั้งดี และ ร้าย .. บางทีจิตที่ส่งมาเจ้าตัวยังไม่รู้ด้วยซ้ำคะ หรือ พวกถูกภพภูมิแฝงร่างก็จะมาให้เห็น ... เยอะคะ แล้วแต่กรณีไป ...

### จำได้แค่ว่าก่อนนอนถ้าไม่อยากให้เจอแบบนี้ จะพยายามทำทุกอย่างให้สมองเราเหนื่อยที่สุด คิดโน่นนี้นั้นไปจนกว่าจะหลับ ... ทำมาตั้งกะเด็กเลย ... แบบนี้มั้ง " ใจเลยไม่นิ่ง "

 

ชีวิต คุณกาลีนะ นี้ไม่ง่ายเลย

คนที่แยกแยะว่า ใครพูดมาจากใจเป็นอย่างไร อาจเป็นด้วย คุณกาลีนะ เอง ไม่โกหกหลอกลวงคนอื่น และไม่หลอกตัวเอง คนอื่นก็เลยหลอกลวงเรา ได้ยาก

ตอนเด็ก(๔-๕ขวบ)ข้าน้อยส่องกระจก พบว่า ตัวเองเป็นคนสวยมาก พอยิ้ม ก็ยิ่งพบว่าน่ารักบาดใจ (ไม่รู้ทำไมคนอื่นไม่รู้เท่าทัน)

เกิดตกใจ คิดอย่างจริงจังว่า โตขึ้น หนุ่มๆแย่งกันตายแน่ บาปกรรมจริง (ใจดีจัง)

พอรู้งั้น เลยไม่ค่อยยิ้มถ้าไม่จำเป็น (แม่บอกว่าเด็กๆ ลูกแม่ไม่ยิ้มเลย คิดไรอยู่ไม่รู้ แต่เราก็ไม่บอกใคร ทุกรูปตอนเด็ก ไม่มีตอนหน้ายิ้ม ๕๕๕๕๕๕)


คุณกาลีนะ ที่ฮอตป๊อบปิวล่า ในหมู่วิญญาณ ส่วนหนึ่งคงเพราะ รวยบุญรึป่าวคะ
ที่เหมือนคนรวยทั่วไปที่ญาติแยะ ใครๆ ก็อยากคบหาอยากรู้จัก อยากยืม อยากขอความช่วยเหลือ อยากปอกลอกบ้าง(ปะปนกันไป)

ส่วนอย่างเช่นข้าน้อย ที่อาภัพ ยากจน(สมมุติว่านะ) เพื่อนรึญาติก็ไม่อยากใกล้แบบว่ากลัวเรายืมตังค์
หรือผีสางเทวดา ก็ไม่อยากเข้าใกล้ หรืออยากให้ ข้าน้อยรึสัมผัส เพราะ ขืนให้ข้าน้อยรู้ ต้องถูกปลุกปล้ำอ้อนวอนใช้มารยาสาไถยหลอกล่อ ขอหวย หรือ บังคับให้พาไปหาขุมทรัพย์เป็นพัลวัน (ยุ่งตายห่าน)

ทำนองนี้นี้น่ะค่ะ คุณกาลีนะสู้ๆนะคะ กองเชียร์เยอะแยะ

 

ชีวิต คุณกาลีนะ นี้ไม่ง่ายเลย

คนที่แยกแยะว่า ใครพูดมาจากใจเป็นอย่างไร อาจเป็นด้วย คุณกาลีนะ เอง ไม่โกหกหลอกลวงคนอื่น และไม่หลอกตัวเอง คนอื่นก็เลยหลอกลวงเรา ได้ยาก

... เรื่องนี้จริงคะ ... ตอนเด็ก ๆ เราเห็นอะไร เจออะไร ฝันอะไร คิดอะไร .. เราจะพูดหมดเลยจนลืมว่าบางอย่างไม่สมควรจะพูด .. ทุกวันนี้เลยจะระวังคำพูดมากคะ ..


ตอนเด็ก(๔-๕ขวบ)ข้าน้อยส่องกระจก พบว่า ตัวเองเป็นคนสวยมาก พอยิ้ม ก็ยิ่งพบว่าน่ารักบาดใจ (ไม่รู้ทำไมคนอื่นไม่รู้เท่าทัน)

เกิดตกใจ คิดอย่างจริงจังว่า โตขึ้น หนุ่มๆแย่งกันตายแน่ บาปกรรมจริง (ใจดีจัง)

พอรู้งั้น เลยไม่ค่อยยิ้มถ้าไม่จำเป็น (แม่บอกว่าเด็กๆ ลูกแม่ไม่ยิ้มเลย คิดไรอยู่ไม่รู้ แต่เราก็ไม่บอกใคร ทุกรูปตอนเด็ก ไม่มีตอนหน้ายิ้ม ๕๕๕๕๕๕)

... เราก็เป็นนะ .. ชอบมองว่าตัวเองเป็นคนสวยมาก .. เป็นเจ้าหญิง .. มีผมที่ยาวดำสลวย .. หุ่นดี .. เห้อ ๆ สมัยนั้นมั่นใจมาก ๆ 55555 แต่ตัวดำเป็นเมี่ยงเลยคะ .. ตอนเย็น ๆ ชอบไปเกาะ ปีนป่าย รถขายโรตีของแขกที่เข็นผ่านหน้าบ้านร้องไห้จะกินทุกวัน .. จนแม่บอกว่าจะยกให้เป็นลูกแขกขายโรตีไปเลย ... เพราะเรากับแม่เรียกว่าแจกต่างกันมาก 55555 แม่เราขาวจั๊วเลยสมัยก่อน ... เรานี้สำลีเม็ดในก็ไม่ปาน ตอนเด็ก ๆ เรียกว่าถ้าตกไปใต้ถนบ้านนี้หายไม่เจอเลยก็ว่าได้ ... แต่เราก็มั่นใจว่า " ฉันสวย " 55555

... โตมาถึงรู้ว่ามันเรียกว่า " ติดสัญญาณเก่ามาเยอะ " เลยได้ของแถมมาด้วย .. ไม่รู้เขาจะเรียกว่าอะไรดี ( พูดในนี้คงไม่ค่อยมีใครมาสนใจอ่านหรอกนะคะ เราแอบเม้ากัน ) เอางี้นะคะจะเรียงที่เคยมีตอนเด็กให้ฟงเพราะบางอย่างโตมามันก็หายไปแล้ว .. เช่น

1. เวลาไปที่ที่เราไม่เคยไปแต่เรากลับรู้สึกคุ้นเคยคุ้นตาบางที่เหมือนมันเป็นบ้านเราเอง ( ไม่รู้มีใครเคยบ้าง ) บางครั้งมันจะมีคำพูดผุดขึ้นมาเองในใจเราทั้งที่เราไม่ได้คิดอะไรเลย เช่น เขาพนมรุ้ง .. จะออกอาการหลังตรงหน้าเชิดมองตรงเดินตัวเบาเหมือนลอยได้ตั้งแต่เท้าก้าวเข้าเขตทางเดินที่มีเสาเยอะ ๆ เป็นเกือบทุกครั้งที่ไป , ดอยสุเทพ .. อันนี้จะรู้สึกนิ่มนวลเวลาที่เราจะอธิฐาน หรือ พูดจะเป็นภาษาคำเมืองแบบแปลก ๆ เหมือนภาษาเหนือกับภาษาไทยปนกันจะเป็นทุกครั้งจนพวกที่ไปด้วยทักตลอด กาลีนะ จะชอบพูดอีสานคะพูดไทยไม่แข็งแรง , ล่าสุดไปหลงทางที่ลำปางวนอยู่อย่างนั้นหาทางออกไม่เจอจนไปเจอทางเข้าเมืองโบราณ เลยพูดขึ้นว่า " แล้วแม่จะกลับมาหานะ " รอบนี้เจอทางออกคะ , ขากลับหลงทางอีกไปเจอถนนเส้นเก่าที่มีต้นไม้ใหญ่ ๆ อายุหลายร้อยปีอยู่สองข้างทาง รู้สึกดีใจมากข้างในผุดความคิดว่า " ทางกลับบ้านเรา " รู้สึกเหมือนนั้งไทม์แมทชีนกลับไปสมัยโบราณเลยคะ อยากยิ้มอยากร้องไห้มีความสุข .. และเหมือนว่าต้นไม้ทุกต้นจะยินดีเป็นมิตรกับเรา .. ย้ำนะคะว่าต้นไม้โบราณทุกต้นแถวนั้นมีเทวดานางไม้อยู่เต็มไปหมด .. มันเป็นเหมือนภาพฝันคะ และอีกที่ คือ เมืองโบราณอยุธยา แต่คิดว่าคนในนี้ส่นมากต้องรู้สึกได้คะว่าเคยอยู่มาก่อน

2. มักเห็นภาพที่จะเกิดล่วงหน้า .. อันนี้ตอนเด็กจะเห็นบ่อยเป็นแบบภาพซ้อนขึ้นมาบ้าง ผุดขึ้นมาในสมองบ้าง โตมาจะไม่ค่อยเห็น .. แต่จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตนเองมากกว่า ต่างจากแฟนที่เขาจะเห็นของคนอื่นด้วย

3. เห็น ผี ฟังไม่ผิดคะ แต่การเห็นนั้นไม่รู้เขาเรียกว่าเห็นได้ไหม๊ .. คือจะมาในแนวครึ่งหลับครึ่งตื่นบ้าง .. เป็นภาพผุดขึ้นมาซ้อนในความคิดเราบ้างเหมือนเรามองด้วยตาเนื้อไปจุดหนึ่งไม่เห็นอะไรแต่จะมีภาพของอมนุษย์ปรากฏอยู่บางทีมาแค่ภาพบางที่มาทั้งภาพ และ กลิ่น การสื่อสาร พลังที่ส่งออกมา ... แต่ก่อนพยายามทำทุกวิธีไม่ให้เห็น ... แต่ทุกวันนี้พยายามหาวิธีให้ได้เห็น ... บ้าไหม๊ละคนเรา .. " เมื่อไหร่ที่ใจนิ่งจะมองเห็นทุกอย่าง " 55555555

4. แช่งใครเป็นตามปาก ... อันนี้ลองพิูจน์สังเกตมาจนแน่ใจ .. เพราะโดนกรรมสนองมาเยอะ .. ระยะเวลาขึ้นอยู่ตามบารมีที่ทำ ..

5. การรับรู้สัมผัสจิตของผู้อื่น ... อย่างที่กล่าวข้างตนไปแล้ว .. แต่มันก็มีผิดพลาดเหมือนกันแต่น้อย .. บางครั้งก็สามารถรับรู้ถึงระดับจิตคนนั้นได้ด้วยคะ อันนี้ลองมาแล้วพี่น้องหลายคนในพลังจิตจะเคยได้เจอการทักของ กาลีนะ มาแล้ว
... อันนี้ใครจะว่าโม้ก็ได้คะ เพราะทุกเรื่องไม่สามารถพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นได้จะมีเฉพาะบางคนที่ฝึกมาดีแล้วจะทราบว่าจริง หรือ โม้ ... เชื่อไหม๊คะว่า ... อ.ต๋อง แกตอบได้หมดเลยกับโจทย์ทดสอบของ กาลีนะ .... ตอบคำถามที่เราไม่ได้ถาม ..


คุณกาลีนะ ที่ฮอตป๊อบปิวล่า ในหมู่วิญญาณ ส่วนหนึ่งคงเพราะ รวยบุญรึป่าวคะ
ที่เหมือนคนรวยทั่วไปที่ญาติแยะ ใครๆ ก็อยากคบหาอยากรู้จัก อยากยืม อยากขอความช่วยเหลือ อยากปอกลอกบ้าง(ปะปนกันไป)

... ใช่คะ มีคนบอกมาอีกทีนะคะ .. แล้วเคยเจอผีมาออกปากขอบุญเหมือนกัน ... แต่สงสัยว่า ถ้าเราบุญเยอะจริงทำไมทำไมชีวิตนี้ถึงลำบากอยากเย็นแสนเข็ญเสียเหลือเกิน ... ฮื่อ ๆ ... ล้อเล่นนะ ... เรารู้แล้วว่าทำไมแต่ไม่มีคนมาบอกหรอกนะเรารู้เอง ..

ส่วนอย่างเช่นข้าน้อย ที่อาภัพ ยากจน(สมมุติว่านะ) เพื่อนรึญาติก็ไม่อยากใกล้แบบว่ากลัวเรายืมตังค์
หรือผีสางเทวดา ก็ไม่อยากเข้าใกล้ หรืออยากให้ ข้าน้อยรึสัมผัส เพราะ ขืนให้ข้าน้อยรู้ ต้องถูกปลุกปล้ำอ้อนวอนใช้มารยาสาไถยหลอกล่อ ขอหวย หรือ บังคับให้พาไปหาขุมทรัพย์เป็นพัลวัน (ยุ่งตายห่าน)

.... คุณพายุ เป็นคนใจดีออกคะ แค่เป็นคนติดเล่นติดหยอกมากไป แถวบ้านเรียกขี้แกล้ง 55555 ความจริงไม่มีอะไรไม่ได้คิดร้ายอะไรกับใคร .. เหมือน อินุยาฉะ เลย 55555 น่ารักดีออกคะ เนื้อในแม้ยังไม่ใสดุจแก้วเจียรนัย แต่ก็สะอาดใช้ได้นะคะ อิอิ ถามพี่มิงค์ดุสิ

ทำนองนี้นี้น่ะค่ะ คุณกาลีนะสู้ๆนะคะ กองเชียร์เยอะแยะ

.... เรื่องสู้คงต้องสู้อยู่แล้วคะ .. เมื่อเช้าเข้านอนก็ฝันนิมิตรอีกละ .. คาดว่าจะมีเรื่อง อิอิ .. ไปขัดขาใครเข้าไม่รู้ .. ฝันว่าอยู่บ้านกำลังจะขึ้นบันไดก็มีผีเยอะแยะเลยมาจับเราเหมือนจะแห่เราไปไหนสักที่แต่เอาไปยังไม่ได้ .. แล้วก็ปรากฏว่ามีชายวัยกลางคนผมรองทรงยาวประมาณหู ผิวสองสี รูปร่างสันทัด ใส่เสื้อคอโปโลสีออกขาว ๆ มายืนทำหน้าถมึงทึงใส่ แบบไม่พอใจแล้วแถมยังบอกว่าไม่กลัว กาลีนะ หรอก .. แล้วด้านหลังชายคนนั้นมีแต่ผีทั้งนั้น ทั้งชาย หญิง หลายตนเลยทีเดียวยืนคุมอยู่ .. กาลีนะก็ยืนมองเขาอยู่ในบ้านผ่านหน้าต่างบานเกล็ด .. แล้วก็เดินไปหาตุ่มน้ำมนต์ที่ทำไว้ว่าจะเอามาสาดไล่พวกนี้หนีไปสักหน่อย ... ดันตื่นก่อน 55555 แต่ที่คิดไว้ก็มีแค่ไม่กี่กรณีคะในช่วงนี้เพราะช่วยแนะนำคนในพลังจิตสองคน กับ พี่อีกคนที่คุยกันเรื่องการฝึกเล็กน้อย ..

... แต่ยังไงก็ช่างเถอะคะ .. ใครคิดไม่ดีกับเราเดี๋ยวเขาก็แพ้ภัยตนเองกลับไปอยู่ดี .. เราไม่ต้องไปทำอะไรเขาก็ได้ ..

 

.... มาเริ่มเรื่อง " ปอบ " กันต่อดีกว่าคะ ..

.. เรื่องนี้จะขอเล่ายาวหน่อยนะคะ นิทานอีสป .. แถวบ้านเราจะมีพวกพ่อค้าแม่ค้ามาขายของกันเยอะหลายร้านติดกัน .. ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีการสรรหา " ของดี หรือ วิชาในการค้าขาย เมตตา " เพื่อให้ร้านตนขายดี .. ร้านเราก็มีนะแต่ส่วนมากจะเป็นพวกน้ำมนต์ หรือ พระที่ยายไปทำบุญมาแล้วเอามาให้ .. ปัจจุบันนี้แม่แกฮิต " หลวงปู่สรวง " เทวดาเดินดิน ของคนศรีษะเกศ จากที่แทบไม่เคยเอาดอกไม้ไหว้พระแกก็ให้คนหาดอกพุทมาให้ไปจดบทสวดมนต์มาแล้วให้เราอ่านให้ฟังแกก็จำเอาไปท่อง ... นาดเคยด่าเราว่า "งมงาย " แต่แกก็มักแอบมาจุดธูปขอหวยจอมปลวกไปที่ไหนก็ขอหวยหลัง ๆ ไม่ค่อยถูกบ่อยเพราะไปขอมาเยอะแก้กันไม่ถูกเลยทีเดียว .. วันไหนขายของไม่ดีลูกค้าไม่เข้าร้านก็จะมาสะกิดให้เราเอาน้ำมนต์ที่เรามีไปรดหน้าบ้าน ... นี้ขนาดแกไม่เช่ือเรื่องพวกนี้นะคะ .. ถ้าเชื่อจะขนาดไหนคิดเอา 555555

... วันหนึ่งได้มีร้านหนึ่งอยากขายของดีเลยพากันหายไปไหนไม่รู้ปิดร้านทั้งวัน แต่พอพวกเขากลับมาเปิดร้านทุกอย่างก็เปลี่ยนไปคะ .... เปลี่ยนไปจนเราเองยังตกใจ ... ลูกค้าจากที่ไม่ค่อยมีก็กลับแห่กันไปแต่ร้านพวกเขาต่อให้จอดรถร้านเราก็จะเดินเลยไปไม่มองมาคะ ยิ่งดึกยิ่งเป็น .. และ เวลาดึก ๆ แฟนเราก็จะมีอาการสัมผัสวิญญาณที่แรงกว่าปกติบางครั้งก็ไอมาก ๆ อ๊วก หรือ พอเลยเที่ยงคืนจะไม่สามารถอยู่หน้าร้านได้เลย .. แล้วในร้านก็เหมือนจะวังเวงอย่างบอกไม่ถูก

... เป็นแบบนี้อยู่หลายวันจนแม่เราแกเอาน้ำมนต์ไปรดหน้าบ้านเองเลยทุกวันแกบอกว่า " ของมันแรงจริง ๆ " สิ่งที่น่าแปลกอีกอย่างหนึ่งคือ พวกเรามักได้กลิ่นเหม็นเน่าบ่อย ๆ แบบไม่รู้ที่มาหาไม่เจอ .. มีแมลงวันเยอะกว่าร้านอื่นเยอะจนน่าตกใจไล่ด้วยหลายวิธีก็ไม่หาย .. แต่ร้านนั้นแทบไม่มีแมงวันบินเลยทั้งที่ห่างกันไม่มาก .. ยิ่งวันไหนพวกร้านนั้นมาแอบส่องร้านเรา หรือ เดินมาร้านเราลูกค้าจะแทบไม่มีเลยจนต้องเอาน้ำมนต์ล้างทุกวัน .. สมัยก่อนแม่บ้านกลางคืนเรามักกวาดหน้าร้านแล้วเก็บตะปูได้อาทิตย์ละ 2-3 ตัวเป็นตะปูใหม่ .. เรา กับ แม่เริ่มสงสัยว่าพวกเขาไปทำอะไรมาจึงได้พากันสังเกต

... ช่วงหลังมานี้คนผัวมักจะจุดธูปไหว้หิ้งของขลังเขาทุกวันตอนเช้ามืด หรือ ตอนเย็น คนเมียก็จะจุดธูปไหว้หน้าเขียง เวลาเชือดวัวใหม่ ๆ คนผัวจะเอาเนื้อสด ๆ ปาดมาคลุกกับเลือดครั้งละสองสามชิ้นมาวางตรงเสาใกล้กับร้านเรา ( แม่เราเห็น ) .. พฤติกรรมเหล่านี้มันทำให้เรา กับ แม่ เริ่มคิดละว่า .. พวกเขาต้องไปรับอะไรมาแน่ ๆ เลย และ ต้องมีผีมาเกี่ยวข้องด้วยอย่างเสียไม่ได้ .. ถ้าเป็นจริงดังที่คิดไว้ .. ครอบครัวนี้พลาดทำผิดเมื่อไหร่ไม่แคล้วกลายเป็น " สาวกปอบแน่นอน "

 

ตอนอายุยี่สิบเอ็ดปี
ได้ไปเห็นเขาไล่ผีปอบที่หมู่บ้านโคกว่านของผมเองเลย ที่จังหวัดบุรีรัมย์
ตอนนั้นพระอาจารย์ที่ผมนับถือ ท่านเพิ่งเรียนการปราบปอบมาใหม่ๆ
ปอบที่มาสิง ก็มาสิงพี่สาวของพระอาจารย์นั่นแหละ
ตอนทำพิธี ก็ถามได้ความว่า ปอบตัวนี้ก็มาสิงแม่ของพระท่าน
ให้ตายไปก่อนหน้านั้นแล้ว จึงมาสิงที่พี่สาวอีกที

ผมนั่งดูเหตุการณ์อยู่ตลอด เพราะเป็นคนขับรถให้พระอาจารย์

พระอาจารย์ท่านงัดวิธีการและคาถาหลายบทมาขับปอบให้ออกแต่สุดท้าย..ไม่สำเร็จ
(คงเนื่องจากเพิ่งเรียนมาใหม่ๆ)

จึงต้องไปตามอาจารย์ของพระมาอีกที อาจารย์ท่านเป็นฆาราวาสอายุราว ๗๐ กว่าปี
(ปัจจุบันตายแล้ว)

พออาจารย์ของพระมาเอง ท่านก็ลองอยู่สองสามวิธี แต่ก่อนอื่นก็มีการพูดคุยกันก่อน
วิธีสุดท้ายที่ไล่ปอบให้ออกก็คือ .....
ใช้พริกป่นใส่เข้าไปในก้านมะละกอ แล้วเป่าเข้าจมูก ฮี่ฮี่ฮี่
คนที่โดนปอบสิงนัั้น ดิ้นพราดๆ สุดท้ายปอบก็ยอมออก

ที่น่าแปลกใจก็คือ หลังจากปอบออกแล้ว
คนที่โดนสิงนั้น ไม่มีอาการแพ้พริกป่นเลย
ถ้าเป็นคนปกติ คงโพรงจมูกอักเสบเข้าโรงพยาบาลไปแล้ว

หลังจากเหตุการณ์นั้น ก็ได้ยินข่าวว่าพระอาจารย์
ไปไล่ผีปอบได้สำเร็จอีกหลายตัว (คงจะชำนาญแล้ว) แต่ผมไม่ได้ดู
เพราะต้องไปเรียนที่ตัวจังหวัด

เล่าให้ฟังแบบไม่ค่อยละเอียดมากนัก แต่ก็เป็นจริงไม่มุสาหรือเติมแต่งครับ

 

... มาดูอีกหนึ่งข้อสงสัยของครอบครัวนี้กันนะคะ .. แล้วยังมีรายอื่น ๆ ที่น่าสงสัยอีกสองรายไล่เรียงกันไปเลย .. เดี๋ยวหาว่าปรักปรำเขา ..อันนี้คือ ใช้เหตุ ใช้ผล และ สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าตัดสินคะ ..

... ก่อนหน้านี้ครอบครัวนี้เขาก็มีของดีเหมือนกันนะคะ เพราะฝ่ายชายนั้นพ่อเขาเป็นนายฮ้อยค้าวัวมาก่อนคนในตละกูลพวกเขาด้วย .. และ ที่น่าตกใจก็คือ จำเรื่องพระที่เป้นเจ้าอาวาสที่เคยมาไล่ปอบที่บ้าน กาลีนะ ได้นะคะ .. ท่านก็เป็นเครือญาติกับคนเหล่านี้ด้วยคะ .. ท่านพูดออกมาเองเลยคะว่าเป็นญาติกันแต่คนพวกนั้นจะรู้จักท่าน หรือ เปล่าไม่ทราบแต่ตอนนี้ท่านรู้แล้วว่าคนพวกนั้นเป็นญาติท่าน และ ท่านเป็นคนให้หินสะกดจอมปลวกมาให้ กาลีนะ ใช้สะกดจอมปลวกในห้องนอนแต่เราไม่ได้ทำ ... และ เหมือน่าท่านได้บอกว่าท่านทำอะไรสักอย่างที่บ้านเราไว้ไม่แน่อาจจะเกี่ยวกับตะปูสะกดที่ฝังอยู่ใต้ดินบ้านเราก็ได้ .. แต่ที่แน่ ๆ พระองค์นี้ท่านเรียนมาทางปราบปอบโดยเฉพาะ และ เคยเตือนว่าปอบในหมู่บ้านยังจับมาไม่หมดได้เพียงตัวเล็กตัวน้อยเสียมาก .. ตัวแก่มันเจ้าของมันซ่อนเอาไว้ .. อีกไม่นานมันก็จะกลับมาขยายเผาพันธ์มันใหม่อีก ..พระท่านเลยทำพิธีกันไว้ให้ ซึ่งมันไม่ถึงบ้าน กาลีนะ คะแถวนี้คือนอกเขต .. และ ที่สำคัญในรอบเดือนมีคนตายเพราะ " หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน " ไปแล้ว 3 ราย รวมวันนี้ด้วยตอน 19.00 น. ทุกคนที่ตายอยู่ในรัศมีไม่เกิน 3 กม. จากหมู่บ้าน ... น่าคิดไหม๊คะ

 

... แต่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ค่อยจุดธูปไหว้อะไร ไม่ทำพาข้าวน้อยเลี้ยงผีเจ้าที่ด้วยคะ ( ร้านค้าแถวนี้จะทำเกือบทุกร้านคะ เขาถือกัน ) แต่ตั้งแต่วันที่ไหายไปจะจุดทุกวัน .. คนผัวจะเป็นคนไม่ค่อยพูดนิ่ง ๆ เงียบ ๆ แต่ก็น่ากลัวเอาเรื่องทีเดียว .. แกชอบกินเหล้า และ วีระกรรมที่ทำให้ทุกคนจดจำแกไปอีกนานเลยคือ ... แกมีเรื่องกับกลุ่มวัยรุ่นลูกจะด้วยเพราะแกเมาหรืออะไรก็ตามเกือบมีเรื่องชกต่อยกัน (คนแถวบ้านแกเล่าให้ฟัง) ช่วงหมอลำเลิกด้วยความโมโหแกเลยรีบกลับมาบ้าน แล้วขับรถกระบะออกไปไล่เหยียบกลุ่มวัยรุ้นพวกนั้น .. ตาย 1 บาดเจ็บสาหัส 2 แต่ที่น่าสงสารคือ คนที่ตายเป็นูกนายทหารเป็นลูกชายคนเดียวตายคาที่คนรักของเขาสาหัสกลายเป้นเจ้าหญิงนิททรา ฯ ทุกคนเลยจำแกได้ .. งานนี้หมดไปเกือนห้าแสนเพื่อปิดคดี เจ้าตัวไม่โดนจับและไม่ได้เข้าคุกยังคงใช้ชีวิตปกติ ..

... ส่วนไอ้คนที่โดนเหยียบตายมันก็ป่วนเปี่ยนแถวรถที่เหยียบมันตายนั้นแหละ วันดีคืนดีก็มีเสียงผู้ชายร้องอย่างเจ็บปวดมาจากไหนไม่รู้ให้คนแถวบ้านได้ยิน หรือ เรากับแฟนก็จะเจอแบบแนวแว๊บ ๆ เรื่อย ๆ จนเขาขายรถคันนั้นทิ้งไป ...

 

ตามติดกระทู้นี้จ้า..ได้ทั้งความรู้และคุณกาลีนะเขียนเล่าเรื่องได้สนุกมากค่ะ

รออ่านต่อจ้า

 

... บุลลิคคนพ่อส่วนตัวแกจะเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูดเยอะ แต่ถ้าสงเกตแววตาแกดี ๆ แกกวนตีนเอาเรื่องเลยคะคนนี้แถมเป็นพวกใครก็เอาไม่อยู่ .. แว่ว ๆ ว่าพ่อแม่หมดเงินไปกับคนนี้เป็นล้าน ๆ แล้ว ...

... มาดูคนเมียคะ .. ขานี้เขาชอบเล่นไพ่ทุกชนิดเป็นอาชีพหลักเล่นตั้งแต่สาวยันแก่ .. ดุหน้าแกอาจจะไม่น่าจะมีอะร .. แต่เรื่องพลิกลิ้นนี้เจอมาเองกับตัวจ๊ะ ๆ หงายเงิบมาแล้วหลายรอบ .. แถมชอบหาผู้ช่วยสามีเพิ่มบ่อย ๆ จนเป็นที่รู้กันไปทั่วแม่ผัวยังส่ายหน้า .. ที่ว่าแกเล่นเป็นอาชีพนี้คือแกไปเข้าบ่อนแถวบ้านแกทีนี้สามสี่วันถึงกลับก็มีกินนอนที่นั้น .. ติดหนี้เขาไปทั่ว ... แต่สามีแกทำอะไรแกไม่ได้ .. เรียกว่าเมียข่มสะหงอเลย ... อันนี้แค่นี้ก่อนบางคนสงสัยว่าทำไมถึงต้องเอาเรื่องพวกนี้มาพูดมันเรื่องส่วนตัวเขา ... คืองี้คะ .. กาลีนะ ต้องการจะสื่อให้เห็นว่าพวกเขาผิดศีลข้อไหนกันบ้าง เรียกว่ารักษากันไม่ได้สักข้อ .. แต่ก็ไปสรรหา " ของดี ของขลัง คาถา อาคม " สารพัดอย่างมาใส่ตัวดดยไม่ทราบว่าคำนึงถึงตัวเองว่าถือได้ หรือ เปล่า ... ที่นี้เข้าใจตรงกันนะคะ

... ตั้งแต่รู้จักครอบครัวนี้มา กาลีนะ จะสังเกตพวกเขาบ่อย ๆ เพราะอะไรนะเหรอคะ เพราะพวกเขาชอบมาแอบส่อง แอบฟัง ว่าที่ร้าน กาลีนะ มีอะไร ทำอะไรกัน มีแขกไหม๊ คืออยากรู้เรื่องในบ้านเราไปซะทุกเรื่อง .. แล้วก้เอาไปนินทาลับหลัง ... เข้าหู กาลีนะ หลายครั้งละเรื่องที่เกี่ยวกับ กาลีนะ พอเราถามก็บอกว่าตัวเองไม่ได้พุดทั้งที่คนที่เอามาบอกเราเป็นญาติ เป็นแม่ผัวเขาเอง ... ทุกวันนี้ร้านเราถือสันโดดไม่ยุ่งกะใคร .. รำคาญ

... ส่วนตัวลูก กะ ลูกเขยไม่มีอะไรที่เป็นวัยรุ่นปกติที่พอรับได้บ้าง ...

... จุดสังเกตที่ต้องเอามาเล่ามันอยู่ตรงนี้คะ .. คือ ตัวแม่เวลาไม่อยู่ร้านที่ร้านเขาจะไม่ค่อยมีคนเข้าแบบผิดสังเกต แต่พอตัวแม่มายืนหน้าร้านเท่านั้นแหละ .. ลูกค้าส่วนมากจะปรี่เข้าไปเลยร้านแถวนั้นจะหงอยลงทันที .. ขนาดอีกร้านนี้ " สักสาริกาลิ้นทอง " มาแล้วนะคะ .. แล้วที่น่าสนใจคือเวลาที่คนนี้ " หัวเราะ " เสียงของเขาจะดังแปลก ๆ ได้ยินแล้วมันจะรู้สึกจิ๊ดดดจนน่าปวดหัวอย่างบอกไม่ถุก แต่สำหรับแฟนเราจะออกอาการให้เห็นเลยคะ เช่น ปวดหัวมาก ๆ ปวดหลัง ขนลุก ฯ ซึ่งเป็นลักษณะการสัมผัสทางภพภูมิที่เขามักเป็นจะรู้กันคะ แม่บ้านที่ร้านเคยทักว่าเสียงหัวเราะของพวกเล่นของละแบบนี้ .. ซึ่งจากการสังเกตมาแรมปีจะเป็นประมาณนี้ตลอด .. รวมทั้งการที่ร้านของเราจะไม่ค่อยได้ลูกค้าถ้าเลยเที่ยงคืนไปแล้วจะเป็นร้านเขาเสียมากกว่า ... อันนั้นไม่เท่าไหร่

... สิ่งที่เรากับแฟนมักรับรู้ได้ทุกคืนก้คือ .. หลังเที่ยงคืนพวกเราจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของการมี " ผี " มาป่วนเปี้ยนแถวหน้าร้านเยอะยิ่งดึกยิ่งเยอะ .. ยิ่งวันไหนบ้านพวกเขาโดยเฉพาะตัวแม่มาที่ร้านของเรา หรือ แม้แต่มาเกาะข้างรั่วก็ตาม .. ร้านเราลุกค้าจะหายเลยคะ ... ลุกค้าที่สนิทมักทักว่าทำไมร้านเรายิ่งดึกยิ่งดูวังเวงชอบกล .. หากว่าทุกคนคิดว่าเราคิดมากนะคะ ... แล้วทำไมเวลาเราเอา " น้ำมนต์ " ล้างบริเวณหน้าร้านเราทั้งหมดไม่ว่าตอนไหน .. จะเริ่มมีลูกค้าเขา และ ร้านพวกเขาจะซบเซาลงแถมบรรยากาสในร้านก็จะไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนก่อนรด ... เราทดลองมาเป็นร้อย ๆ ครั้งแล้วถึงกล้าพุด ...

 

อยาก อัดเสียงหัวเราะ ของข้าน้อยไปประชัน จังเลยค่ะ (ถ้าสนใจแนบเบอร์โทรทาง pm มานะคะ จะหัวเราะให้ฟังค่ะ)

ใว้ฟังตอนตี ๒ นะ คะ

รับรองเหมือนแม่มด เด๊ะ ๆ

ปล.
เคยถูกบังคับให้แสดงเป็นแม่มด ตอน ม.๓ เป็นแม่มดใจร้ายเรื่อง สโนไวท์
(ใจจริงอยากเป็นสโนไวท์ไม่ได้เป็น)

ตอน สโนไวท์ กะคนแคระ ออกมา เสียงคนดัง จ๊อกแจ๊กๆๆ
พอเราแม่มด

ออกมา ส่งแอ๊ปเปิลให้ สโนไวท์ แล้ว หัวเราะร่าเริงเท่านั้น คนเงียบทั้งหอประชุม
ตกใจ แม่มดหัวเราะร่าเริง

 

อยาก อัดเสียงหัวเราะ ของข้าน้อยไปประชัน จังเลยค่ะ (ถ้าสนใจแนบเบอร์โทรทาง pm มานะคะ จะหัวเราะให้ฟังค่ะ)

ใว้ฟังตอนตี ๒ นะ คะ

รับรองเหมือนแม่มด เด๊ะ ๆ

5555555555 เราว่ายังไงคงไม่เหมือนหรอกคะ ... เพราะเราเองเกิดมาก้เพิ่งเคยได้ยินเสียงแบบนี้ .. แล้วอีกอย่างแฟนเราจะเป็นพวกที่สามารถรับพลังงานของจำพวกภพภูมิได้ง่าย .. เราเองได้ยินยังรู้สึกปวดหัวเลยบางครั้ง .. และ พายุคงไม่อยากเหมือนเขาแน่นอนถ้าฟังที่เราเล่าจบ .. พอดีช่วงนี้ทำงานสองอย่างพร้อมกันเลยไม่ค่อยมีเวลา ...

.. ส่วนเบอร์โทร .. อิอิ .. เด้วเราส่งเบอร์เราไปให้ .. อย่าตกใจละกัน ..

ปล.
เคยถูกบังคับให้แสดงเป็นแม่มด ตอน ม.๓ เป็นแม่มดใจร้ายเรื่อง สโนไวท์
(ใจจริงอยากเป็นสโนไวท์ไม่ได้เป็น)

ตอน สโนไวท์ กะคนแคระ ออกมา เสียงคนดัง จ๊อกแจ๊กๆๆ
พอเราแม่มด

ออกมา ส่งแอ๊ปเปิลให้ สโนไวท์ แล้ว หัวเราะร่าเริงเท่านั้น คนเงียบทั้งหอประชุม
ตกใจ แม่มดหัวเราะร่าเริง

... เราไม่ค่อยได้แสดงอะไรเพราะเราเกิดมาก็ เตี้ย ล่ำ ดำ บึกบึน .. แถมชอบพุดเสียงดังด้วย ..

 

ลองสูตรหลวงปู่ดู่ สัพเพฯ อธิษฐาน กวาดให้เรียบเลยค่ะพี่กาลีนะ ปลดปล่อยเขาไปสู่ภูมิที่ดี น่าสงสารอ่ะค่ะ วิญญาณที่ถูกบังคับทำแบบนี้