ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jarujun, 21 มกราคม 2015.

  1. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ล้อเล่นครับ ^^
    ยังไงก็ในความฝันละเนอะ อะไรก็เป็นไปได้
    ขอเล่ามั่ง แต่จำไม่ค่อยได้เท่าไร

    ที่ผ่านมาช่วงต้นๆเดือนนี้ ผมฝันเหมือนไปที่แปลกๆแห่งนึง คล้าย พิพิธพันธ์ มีพวกของดูโบราณวางไว้เยอะแยะ และพวกรูปภาพต่างๆใส่กรอบ แขวนตามผนัง แล้วก็มียายแก่คนนึงอยู่ในสถานที่นั้นด้วย ไม่รู้คนดูแล หรือ นักท่องเที่ยว

    เห็นมีของวางโชว์ ตามที่ตามทางเยอะแยะ แต่เท่าที่จำลายละเอียดเด่นๆ ได้ คือไปเห็นดาบเล่มนึงสะดุดตามาก ดาบออกสีเข้มๆ น้ำตาลดำ หรือขึ้นสนิมก็ไม่รู้ ฮ่าๆ ใหญ่ประมาณท่อนซุง เกิน 2 เมตร ดูแล้วเป็นดาบ 2 คม ใบดาบมีลวดลาย รูปร่างดาบคล้ายๆหอก มีด้ามจับใหญ่ประมาณขวดน้ำ 1.5 ลิตร ความคิดตอนนั้น สงสัยว่าดาบของใครใหญ่แท้ อยากจะลองเอามือจับด้ามดาบดู กำลังยื่นมือจะไปจับแต่คิดไปๆมาๆก็ไม่ได้จับ

    แล้วก็ไปเห็นรูปภาพ รูปช้างแปลกๆ เป็นลายเส้นสีดำ รูปช้างหัวโตมาก ส่วนหัวนี่ใหญ่กว่าส่วนตัวเป็นเท่าตัว แล้วยายคนนั้นก็เดินมาบอกว่า นี้คือช้างนาฬาคีรี (จำไม่ได้ว่า นาฬาคีรี หรือ นาฬาคีรีเมขละ)เหมือนอือๆออไปเฉยๆ ไม่ได้สนใจอะไรรู้ว่าชื่อคุ้นๆ แล้วก็เดินดูนั่นนี่ไปเรื่อยๆไปมาๆ

    พอเดินไปเรื่อยๆก็เจอคล้ายเป็นบ่อน้ำ สีส้มๆก่อด้วยอิฐ หลังบ่อน้ำก็มีฉากหลังเป็นอิฐ แล้วมีพวกต้นไม้เล็กขึ้นเกาะอยู่สีเขียวๆ ดูมีแสงระยิบระยับลอยออกมา
    (ไม่รู้ว่าแสงระยิบระยับ เพราะต้นไม้เล็กๆพวกนั้น หรือ เพราะน้ำไหลลงมา หรือเป็นสิ่งมีชีวิตบางอย่าง)

    แล้วเหมือนได้ยินเสียงจากบริเวณบ่อน้ำนั้น 2-3 เสียง พูดอะไรซักอย่าง
    พอกำลังจะเดินไปตรงนั้น ยายแก่นั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงน่ากลัวแปลกๆไปจากแรก พร้อมกับอ้าปากเดินเข้ามาหาผม ด้วยความหวาดหวั่นตกใจนิดๆ พอมีสติได้ก็เอื้อมฝ่ามือออกไปกระแทกหน้า ยายนั้นก็ร้อง แล้วผมก็ตื่นเฉย อดได้เดินไปดูแถวบ่อน้ำเลย:'( (ช่วงหลังๆจำคำพูดของตัวละครในฝันไม่ค่อยได้)
     
  2. center-in-center

    center-in-center เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,717
    ...เคยนั่งสมาธิ แบบธรรมกาย ๗ฐาน
    ปรากฏว่า มีพระศิวะ นั่งสมาธิ ตัวสีฟ้าๆม่วงอ่อนๆ -/ หรือบางครั้งมีเทพธิดาชุดขาวล้วน (ผ้าพริ้วขาว เหมือนหนังจีนกำลังภายใน) รัศมีขาวนวล เหาะ จะลงมา landing
    จะลงมาประทับที่ ศูนย์กลางกายฐานที่๗ ของเรา.
    ....เราก็ไล่ตะเพิดเลย ไม่ให้ landing .. ปรากฏกว่า เธอก็ลงมาประทับไม่ได้ ลอยสูงอยู่เหนือศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ของเราอย่างนั้นแหละ..
    ...จากนั้นกายละเอียดของเราผุดขึ้นมาเอง จากฐานที่7 นั่งอยู่ฐานที่๗ ของเราเอง..
    ..เรามีกายเทวดา กายพรหม ผุดซ้อน แทรก ขึ้นมาจากศูนย์กลางกาย ของกายนั้นๆเรื่อยๆ จนกระทั่ง มีพระพุทธรูปผุดขึ้นมา แล้วขยายใหญ่ซ้อน กับกายมนุษย์ ที่เรานั่งสมาธินี้..
    ....ตอนนี้เอง รู้สึกกายเรานิ่ง เป็นผลึก เสมือนตัวเราเป็นพระพุทธรูปปูนปั้น นิ่งๆ ไม่มีการเต้นหัวใจ เหมือนเราเป็นปูนทั้งแท่ง
    ...ในฐานที่๗ กลางท้องเรา มีดอกบัว สีเงินผลึก เป็นบัวตูม ..(ไม่ใช่ลูกแก้วเหมือนตอนแรก นั่งสมาธิ) .
    ...มันบานได้ แต่มันจะกลับมาหุบเหมือนเดิม..
    ...เรามองดูรอบๆ ว่าเรานั่งอยู่บนอะไร เรานั่งอยู่บนดอกบัว..
    ..แต่กลีบดอกบัว มีอักขระอักษรบาลีอยู่ด้วย..
    ...เรามองดูเกสรดอกบัว ปรากฏว่า มันเป็นมนุษย์-/เทวดา ตัวเล็กๆ จิ๋วๆ นั่งล้อมเราอยู่ ตัวเขาเล็กเหมือนเกสรดอกบัว.
    ..ทำให้ดูเหมือนว่า เราตัวใหญ่มหึมา..
    ...ก็แปลกดี...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2015
  3. center-in-center

    center-in-center เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,717
    ..เวลาไปที่วัด ใดๆก็ตาม ที่มีรูปปั้นท้าวจตุมหาราชทั้ง ๔ (วิรุฬก วิรูปักษ์ เวสสุวรรณ ธตรัฐ)
    ..ผมรู้สึกเหมือนกับว่าเจอเพื่อน ระดับเดียวกัน (ซึ่งอาจเป็นความคิดอุตริของเราเอง).. คือถ้าเขาพูดได้ ผมอยากเข้าไปจับมือทักทาย แต่ไหล่ แล้วถามว่า "เป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม ไม่เจอกันตั้งนาน".
    ...อะไรทำนองนี้..
    ...เวลาที่ ผมฝึก มโนมยิทธิ แล้วครูฝึกให้ไปหา ท้าวจตุมหาชิกาทั้ง๔ แล้วให้เราทำความเคารพ .. คือคนอื่นๆเขาทำความเคารพ แต่ผมจะยืนระดับเดียวกับเจ้าจตุโลกบาลทั้ง4 ก็สวัสดีด้วยจิต และยกมือไหว้ระดับอก ยิ้มให้กันเหมือนเป็นเพื่อนกัน..
    ..
    ตอนไปชั้นดาวดึงส์ ไปหาท้าวสักเทวราช ผมก็เหาะลอยไปประชิดถึงบัลลังก์ แล้วท่านก็ยื่นหน้ามาใกล้ แบบ หน้าแทบจะชนหน้ากัน ท่านยังดูหนุ่มเหมือนพระเอกหนัง .. แต่พอเรา ท้า ท่านว่า เห็นเขาเล่าลือกันว่า หน้าท่านเปลียนสีได้หรือ?. เท่านั้นแหละ ท่านก็เปลี่ยนหน้า เป็นหยกเขียว, เป็นทับทิม, เป็นบุษราคัม ฯลฯ... เหมือนท่านก็จะเล่นด้วย..
    ..พระอินทร์ ก็เรียกผมว่า ท่าน
    ..ผมก็เรียกพระอินทร์ ว่า ท่าน..
    ..

    อืม... ก็ถือว่าเป็นเรื่องแปลกๆ ของคนธาตุแปรปรวน อย่างผม..สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2015
  4. center-in-center

    center-in-center เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,717
    รอฟัง จขกท. เล่าต่อไป
     
  5. EAKKARACH

    EAKKARACH Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +43
    **ขอบคุนท่านจขกทที่ตอบผมนะคับผมอาจจะไม่มีสัญญาอะไรเกี่ยวข้องกับพญานาคมาก่อน,แต่คงมาสร้างสัญญาใหม่ในชาตินี้แหละมั้งคงคล้ายๆกับติ่งเกาหลีไรพวกนี้มั้งคับ^^,,,
    ***คุณcenter in center น่าจะไม่ธรรมดาซะแล้ววววว
     
  6. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    @ center-in-center + @ blackangel
    ขอเล่าเรื่องเทวดา ในฝัน ย้ำ ของเราเอง เพื่อเป็นการตอบคำถามทั้งหมด ในใจท่าน
    เราขอไม่เอ่ยนามบางท่าน เพราะเทวดาที่เรารู้จักก็มีอารมณ์ที่จะบันดาลสิ่งดีหรือสิ่งเลวร้ายที่สุดให้เราได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2015
  7. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สวรรค์ เทวดา
    เราฝันถึงหลายสิ่งในแดนสวรรค์ เราฝันถึงป่าสีทอง งดงาม ต้นไม้สูงมาก ไม่ค่อยมีใบ แต่อาบด้วยสีทองประกายทั้งกิ่งก้านสาขา ใบของต้นไม้นั้นเหมือนใบของกระดิ่งลมสีทองในโบสถ์ มีเสียงคล้ายอีกด้วย มันไพเราะมาก ราวกับเสียงกระดิ่งที่เป็นทำนองเพลง ตอนที่เราฝันตอนแรก เรานึกว่า ได้รับเชิญให้ไปที่ดินแดนพญาครุฑ ไม่ใช่สวรรค์ แต่ต้นไม้นั้นรูปร่างไม่เหมือนต้นไม้ที่เห็นที่วังของเจ้าชายครุฑ แต่มีรัศมีเหมือนกัน เราเดินๆอยู่ ซักพักก็เหาะไปเอง รู้สึกสุขสม แล้วอยู่ดีๆ ต้นไม้ก็หายไป กลายเป็นหญ้าสีทอง ดูอ่อนนุ่ม ไหวไปตามลม ต้นหญ้าสูงประมาณข้อเท้า เราเหาะต่อไม่ได้ เลยลอยลงไป เดินบนพื้นหญ้า เราหันไปมอง ป่าต้นไม้สีทองนั้นล้อมเป็นวงกลม รอบกายเรา สิ่งที่เห็นด้านหน้า พาให้ตะลึง เราเห็นต้นไม้ต้นหนึ่ง เหมือนที่วังพญาครุฑ แต่ต้นใหญ่กว่าต้นนั้นมาก ความสูงเทียบเท่าต้นสน ดอกออกสกาว รัศมีเรืองรอง ต้นไม้นั้นสีทอง เป็นไม้ทรงพุ่ม แต่ดอกไม้นั้นมีรัศมีขาวสว่าง เราก้าวไปยืนที่ใต้ต้นไม้นั้นรู้สึกเคลิบเคลิ้ม เอื้อมมือไปจะหยิบ นึกถึงรสทิพย์ที่เคยลิ้มลองที่วังพญาครุฑ แต่สิ่งที่แปลกกว่านั้น ต้นไม้นั้น กลับหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว จนเหลือต้นเท่าลีลาวดี ขนาดกลาง ดอกไม้นั้นเหมือนมาอยู่ตรงหน้าเลย เรารู้ว่าเป็นของทิพย์ และไม่เห็นเจ้าของ เราไม่ควรจะหยิบ เราเอื้อมมือไป ดอกไม้นั้นกลับร่วงลงหนึ่งดอก แล้วเหมือนมีลมพัดเบาๆ มันลอยเข้ามาสู่มือเรา เราสูดดมอย่างรวดเร็ว คราวนี้มันมีกลิ่นหอม ที่ไม่อาจบรรยายได้ ในหัวเราหมุนติ้ว จักระในตัวแปรปรวน แต่เราก็สูดกลิ่นจนกลิ่นนั้นหายไป แล้วก็มีเสียงดัง ว่า บังอาจนัก เจ้าเป็นใคร นี่คือของทิพย์ของสวรรค์ เราหันไปพบเทวดา ทรงเครื่องจักรพรรดิ เราในฝันยิ้มให้เทวดา เป็นยิ้มอมยิ้ม ที่ดูงดงาม แต่คราวนี้ จิตเราดึงเรากลับมา บนที่นอน กลับสู่ภพมนุษย์
    ในฝันเราใส่ชุดพราหมณ์หญิง แต่มีประคำเป็นไม้สีน้ำตาล
     
  8. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เจดีย์สีทอง

    เราฝันว่าหลับไป ได้ยินเสียงดนตรี คล้ายดนตรีไทย ผสมเพลงคลาสสิค มันล่องลอยเบาๆ และเยือกเย็น เราลืมตาตื่นขึ้นมา เห็นเจดีย์สีทอง งดงามมากเกินบรรยาย ยอดเจดีย์มีอัญมณีคล้ายเพชรขนาดใหญ่มาก เพชรนั้นส่งแสงรัศมี เป็นสีรุ้ง แต่เจิดจ้า เรานึกถึงวังของเจ้าชายครุฑ กับสร้อยสังวาลย์ของเจ้าชายครุฑ มันเป็นอัญมณีชนิดเดียวกัน รู้สึกถึงพลังบวกวิ่งเข้าสู่ร่าง เห็นเหล่าเทวดาแต่งกายเหมือนหนังจักรๆวงศ์ๆ ที่เนื้อผ้าดูละเอียดและพริ้วไปตามลม แต่มีลายปักอันงดงามมาก เหมือนเนื้อผ้าในโลกมนุษย์มันไม่สามารถทำได้ เทวดาเหล่านั้น เหาะมาจากทุกทิศทุกทาง หน้าตารื่มรมย์ ส่วนมากมาเป็นคู่ บางพวกก็มีผู้ติดตาม เราสงสัยว่าที่ไหน รู้ว่าคือสวรรค์ แล้วเราก็ได้ยินเสียงตอบว่า สวรรค์ชั้น 4!!!
     
  9. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    หารูปไกล้เคียงของเทวดาชายได้แค่รูปตามฝาผนังวัด แต่นางฟ้า คล้ายมากๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images9.jpg
      images9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      18.3 KB
      เปิดดู:
      161
    • ac7e474e5a0.jpg
      ac7e474e5a0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.6 KB
      เปิดดู:
      293
  10. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เราไม่เห็นรูปร่างตนเอง ร่างกายหายไป แต่รับรู้ได้ เสียงนั้นกล่าวต่อไปว่า จงไปที่เจดีย์เพื่อฟังธรรม เหล่าเทวดาอันงดงามวิจิตร อยู่ที่ลานหน้าเจดีย์ ก้มลงกราบอย่างพร้อมเพียงกัน ที่นั้นมีตั่งทองลอยอยู่หน้าเจดีย์ เราคิดว่าจะเห็นพระ เราก็คอยมอง แล้วก็มีเทวดาองค์หนึ่ง ท่านใส่ชุดสีขาว ทรงเครื่องจักรพรรดิ์ หน้าตางดงามมาก เหมือนท่านยิ้มน้อยๆ รัศมีแห่งเมตตาของท่านงดงามมาก เราคิดว่าเราเห็นพรหม แสงท่านเจิดจ้า แต่อบอุ่น เย็นตา เสียงดนตรีทิพย์ในสวรรค์ พลันหยุดลง เราโดนดึงกลับมาที่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2015
  11. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ใกล้เคียงนิมิตร ภาพนั้นติดตราตรึงใจ ภายหลังจึงรู้ว่า ท่านให้เห็นเพื่อเมื่อใดที่จิตหลุด เมื่อเรานึกถึงเทวดาองค์นี้ เราจะแคล้วคลาดปลอดภัย ชื่อของท่านคือ ท้าวเทพบิดร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. SMING

    SMING เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2008
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +430
    ฝันจัง...
     
  13. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สวรรค์ชั้น 6 อดีตของท่านทั้ง 2 และเรา

    เทวดาที่นั่นตามตำนานคือเทวดาพญามาร จริงๆแล้วเราคือ นักรบ กองทัพที่แข็งแกร่งสุดของสวรรค์
    สวรรค์ชั้นนี้แบ่งเป็น 2 ฟากฝั่ง แดนหนึ่งเป็นเทวดาที่มาจุติอย่างปกติ คือมาด้วยบุญญาบารมี ปฏิบัติธรรมเป็นนิจ โดยชอบไปรวมตัวปฏิบัติธรรมที่บึงบัว ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างสวรรค์ชั้น 5 และ 6 อยู่ในวิมานเพชร อันงดงามวิจิตร ความเป็นอยู่บรมสุข นางฟ้ารับใช้ เทวดาประจำวิมาน กิจวัตรของท่านเฉกเช่นนักปฏิบัติธรรม บางองค์ก็ไม่ค่อยอยู่วิมาน มักไปอยู่ที่บึงบัว เพื่อปฏิบัติจิต อีกฟากฝั่งกั้นไว้ด้วยกำแพงเพชรล้อมรอบ เป็นที่อยู่ของเทวดาที่อยู่มานานมาก ท่านก็มักปฏฺบัติธรรม มีเครื่องทรงงดงามตามบุญบารมี เทวดาพวกนี้ มักทรงไว้ซึ่ง ฌาน4 มีฤทธิ์มาก

    เมื่อเกิดมาชาตินี้ จึงมักนั่งสมาธิได้กำลังสมาธิอย่างรวดเร็ว เปิดจักระได้ทะลุรวดเร็วมาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2015
  14. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เครื่องทรง เหมือนที่สุด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เทวดานั้นรูปงามมาก ในรูปปั้นดูอรชรอ้อนแอ้น แต่เทวดาที่เราเห็น ขอเรียกว่าเป็นชายงาม แบบบมีกล้าม และกล้ามที่ท้อง แต่หุ่นเพรียว และหน้าตาสุดจะบรรยายความงาม และทำไมเทวดาต้องไว้หนวด ตอนแรกที่เราดูรูปวาดตามโบสถ์เราขำมาก เทวดาชอบไว้หนวด บางทีอาจจะไม่ใช่จินตนาการของศิลปิน เทวดาพวกนี้ไว้หนวดจริงๆ ส่วนมาก แต่ที่แปลกคือ บึงบัวนั้น ไม่มีเทพธิดา นางฟ้าองค์ใดได้รับอนุญาตให้ไปปฏิบัติ หรือเพราะเทวดา มีบุญกว่านางฟ้า เราไม่รู้ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2015
  16. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ดาบของเทวดา บนสวรรค์ชั้น 6

    เรามักนึกถึง ดาบของเทวดา ว่าต้องเป็นแก้วมณีเจ็ดสีเจ็ดแสง แต่จริงๆแล้วเป็นแค่ดาบเหมือนที่เห็นในรูป คล้ายกับที่คุณ Blackangel(ทำไมชอบชื่อนี้ หรือมาจากจิตใต้สำนึกของคุณเอง) บรรยาย ดาบมีลวดลายสวยงาม ดาบขนาดใหญ่ เมื่อเทวดาออกรบ จะจัดขบวนสวยงาม แม่ทัพอยู่หน้าสุด ตามด้วยเทวดาฤทธิ์ลดหลั่นกัน เข้าแถวเรียงหน้ากระดาน ต่างจากทัพมนุษย์ ที่พลทหารอยู่หน้าสุด เมื่อจะรบ เทวดาเหล่านั้นจะทรงเครื่องเต็มยศ คล้ายเครื่องทรงท้าวเวสสุวรรณ ยักษ์ตามประตูโบสถ์ คือมีเสื้อใส่ ใส่จุง ไม่เหมือนในรูป เพียงแต่เป็นชุดขาวฝังเพชร เรามักจินตนาการถึงการรบแบบมนุษย์ที่ห้าหั่นกันแบบจับคู่ตัวต่อตัวแต่การรบของเทวดา เมื่อท่านออกไปรบ จะเนรมิตกายใหญ่ระดับหนึ่ง ระดับที่จับดาวขนาด 2 เมตรได้ หน้าตาเหมือนใส่หน้ากาก ไม่ขยับ ตวัดดาบลงพื้นหนึ่งครั้ง ตวัดดาบขึ้นให้อยู่ท่าเดิมหนึ่งครั้ง แต่ละครั้งที่ตวัดดาบ จะเกิดพระเวทย์ฆ่าศตรู ให้ล้มเป็นแถบๆ เมื่อเทวดาทั้งทัพ ทำการตวัดดาบพร้อมกัน เหมือนกับท่วงท่าการระบำดาบ บางครั้งก็เป็นสายฟ้าฟาด ลงมาทั้งท้องฟ้า แต่เกิดอานุภาพรุนแรง ดาบเหมือนที่เห็นในรูป แต่มีประกายสีขาวเจิดจ้ารุนแรงราวกับแสงอาทิตย์ และใหญ่กว่านี้มาก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 27 235.jpg
      27 235.jpg
      ขนาดไฟล์:
      229.5 KB
      เปิดดู:
      164
    • 27 239.jpg
      27 239.jpg
      ขนาดไฟล์:
      22.2 KB
      เปิดดู:
      863
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2015
  17. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ทฤษฎีของเราเอง เทวดาชั้นนี้ มักไปเกิดยุคพระนเรศวร ยุคอยุธยากันมาก และคิดว่าทั้ง 2 คนคงไปเกิดยุคนั้นด้วย ขอบคุณที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์

    จุดประสงค์การเล่าเรื่องทั้งหลาย แค่ต้องการปลุกสิ่งที่หลับไหลอยู่ ในตัวบางท่านเท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2015
  18. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    รอท่านๆทั้งหลาย มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ช่วงนี้กายในเหนื่อยมาก ที่มาเล่าด้วยจิตบริสุทธิ์ แต่รู้สึกผะอืดผะอมตลอด ใจสั่นหวิว
     
  19. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    ปลุกสิ่งที่หลับไหล หมายถึงอย่างไรหรือครับ เช่น ให้ทราบว่าเราเป็นใครในอดีต หรือเพื่อให้ความรู้ความสามารถเก่ากลับคืนมา ฯลฯ

    ผมเคยทราบเรื่องราวของตนเองมาบ้างผ่านทางความฝันของเพื่อนที่มีโชคขะตามาให้พบเจอกันทางอินเตอร์เน็ท เพื่อนท่านนี้ระลึกชาติได้ผ่านทางความฝันคล้ายๆกับคุณ jarujun เลยครับทำให้ผมรู้ว่าเกิดมาเป็นมนุษย์มาหลายชาติ ตั้งแต่ยุคกรุงทรอยแตก จนถึงยุคอยุธยาตอนปลายช่วงกรุงศรีแตกพอดี ^_^"
     
  20. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ขออธิบายแบบงงๆว่า

    เรามีความเชื่อเกี่ยวกับยุคใหม่ หรือที่เราเรียกกันว่า ยุคพระศรีอริยเมตไตร

    ตอนที่เราฝันถึงเรื่องราวต่างๆ เรานึกว่าเราต้องกลายเป็นร่างทรงหรือหมอดู

    เราพยายามหนีมาตลอด บางคนถามบางเรื่องเมื่อก่อนเรามักจะตอบว่าไม่รู้ไม่เห็น

    แต่เราเริ่มรู้แล้วว่าหน้าที่เราคือปลุกนักรบ พวงพ้องของเรา กลับไปที่จากมา ให้ทันกับยุคใหม่ ซึ่งจะกลายเป็นยุคย้อนไป วงล้อหมุนกลับ เหมือนชาวโบราณ ที่มีจิตบริสุทธิ์ มีอำนาจจิตกันทุกคน มีแต่โทรจิต ยุคนั้นเทคโนโลยีไม่สำคัญ ไม่ต้องมีเครื่องบิน โทรศัพท์ ไม่มีศาสนา ไม่มีชาติ มีแต่ความเป็นหนึ่งเดียว อาจต่างเผ่าพันธ์ แต่จิตเรานั้นเป็นหนึ่ง เราต่างเหาะเหินเดินอากาศได้ เหมือนเป็นเรื่องปกติ และอีกมากมาย ขออธิบายเพียงสั้นๆเท่านี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...