พบปะ พูดคุย ประสาเพื่อนพ้องน้องพี่ แบบกันเอง

อีกสักชุดสำหรับคืนนี้ครับ...
ชุดเบญจภาคีเหรียญ.." ผู้ทรงทศพิธ " ประจำกรุของผม.. ^^

 

3. หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวราราม วรวิหาร (ฉะเชิงเทรา)

หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปที่มีอภินิหาร มีฤทธานภาพมากองค์หนึ่ง ชาวไทยเราได้รับการคุ้มครองรักษาอภิบาลจากบารมีของหลวงพ่อโสธรองค์นี้อย่างร่มเย็นเป็นสุขและปลอดภัยอริราชศัตรูมาหลายปีแล้ว เพราะฉะนั้นท่านผู้ปราถนาจะมีความสุขสวัสดีก็ควรจะหาโอกาสไปกราบไหว้บูชาสักครั้ง
หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ คือ มีพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ พระชงฆ์ (เข่า)
ขวาทับพระชงฆ์ช้าย พระหัตถ์ (มือ)ขวาทับพระหัตถ์ซ้ายวางซ้อนกันอยู่บนพระเพลา มีส่วนสูง 6 ฟุต 7 นิ้ว พระเพลากว้าง 5 ฟุต 6 นิ้ว ปัจจุบันประดิษฐาน อยู่ในพระอุโบสถหลวงของวัดโสธรวราราม วรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา ชาวฉะเชิงเทราเคารพนับถือมาก ทางราชการจัดให้มีงานสมโภชเป็นเทศกาลประจำปี มีพุทธศาสนิกชนทั่วทั้งประเทศหลั่งไหลกันมากนมัสการคับคั่งตลอดงาน ได้รับทั้งความสนุกและทั้งบุญกุศลด้วย
คำบูชาหลวงพ่อโสธร ใช้คาถาพระเจ้า 5 พระองค์ โดยว่า นะโม 3 จบ แล้วกล่าวคำบูชาดังต่อไปนี้

"นะ ทรงฟ้า โม ทรงดิน พุทธ ทรงสินธุ์ ธา ทรงสมุทร ยะ ทรงอากาศ
พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูพาลวินาศสันติ

นะ กาโร กุกกุสันโธ สิโรมัชเฌ โมกาโร โกนาคะมะโน
นานาจิตเต พุทธกาโร กัสสะโป พุทโธ จะ ทะเวเนเต ธา กาโร
ศรีศากกะยะมนี โคตะโม ยะกันเน ยะกาโร อะริยะ เมตตรัยโย
ชิวหาทีเต ปัญจะพุทธา นะมามิหัง พุทธะบูชา มะหาเตชะวันโต
ธัมมะบูชา มะหาปัญโญ สังฆะบูชา มะหาโภคะวะโห อะระหังพุทโธ
อิติปิโสภะคะวา นะมามิหัง

เมื่อไปกราไหว้บูชาหลวงพ่อโสธรนี้ จะนำความเป็นสิริมงคลต่อชีวิต จะมีความปลอดภัย ร่มเย็นเป็นสุขตลอดไป ชีวิตราบรื่นเดินทางแคล้วคลาดภยันตรายต่างๆ ทั้งปวง

 

4. พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (พิษณุโลก)

พระพุทธชินราช เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดพิษณุโลก สันนิษฐานว่าองค์พระ สร้างขึ้นในสมัยพระมหาธรรมราชาลิไท จัดเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศไทยองค์หนึ่ง ถึงขั้นที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5
ทรงดำริให้ชะลอมาประดิษฐาน ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม แต่ทรงรับฟังคำทูลขอร้องของชาวพิษณุโลก ที่ว่าพระพุทธชินราชองค์นี้ เป็นพระคู่บ้านคู่เมือง จึงทรงตัดสินพระทัยหล่อพระพุทธชินราชจำลองขึ้นมาแทน
พระพุทธชินราชนี้เป็นพระพุทธรูปศิลปะสมัยสุโขทัย ลักษณะขององค์พระเส้นรอบนอกพระวรกายอ่อนช้อย พระขโนงโก่ง พระเนตรประดุจตากวาง พระนาสิกโด่ง ชายผ้าสังฆาฎิแยกเป็นเขี้ยวตะขาบ นิ้วพระหัตถทั้ง 4 ยาวเสมอกัน อยู่ในลักษณะปางมารวิชัย (ตรัสรู้ชนะมาร)
ด้านซ้ายและขวาขององค์พระมียักษ์ 2 ตน คอยปกปักรักษาองค์พระอยู่ อีกทั้งยังมีพระโมคคัลลานะและพระสาลีบุตรเป็นอัครสาวกอยู่ด้วย นอกจากนี้แล้วยังมีซุ้มเรือนแก้วที่คาดว่าน่าจะสร้างในสมัยอยุธยาลักษณะเป็นรูปตัวเหรา ถือเป็นศิลปะที่สวยงามมากอย่างหนึ่ง พระพุทธชินราชประดิษฐานในวิหารลักษณะเก้าห้อง ซึ่งมีการบูรณะปฏิสังขรณ์มาอย่างต่อเนื่องจนมาถึงปัจจุบัน ทำให้องค์พระสวยงามบริบูรณ์อย่างในปัจจุบัน และในประวัติศาสตร์พบว่ากษัตริย์ในทุกๆสมัยของไทยให้ความเคารพและศรัทธาต่อองค์พระพุทธชินราชมาอย่างต่อเนื่องทุกๆ พระองค์
เราควรหาโอกาสไปกราบไหว้พระพุทธชินราชสักครั้ง เพื่อนำความเป็นสิริมงคลมาสู่ชีวิตโดยเมื่อไปนมัสการท่าน ให้ตั้งจิตมั่นอย่างสงบและว่า นะโม 3 จบ ก่อนจะบูชาว่า

"อิเมหิ นานาสักาเรหิ อะภิปูชิเตหิ ทีฆายุโก โหมิ อะไรโค สุขิโต
สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง ปิยัง มะมะ ปะสิทธิ ลาโภ ชะโย โหตุ
สัพพะทา พุทธะชินะราชา อภิปาเลตุ มัง นะโมพุทธายะ ฯ "

 

สวัสดีพี่ๆ ทุกคนครับ ไม่ได้เข้ามาโพสสองวัน ได้แต่เข้ามาอ่าน ไปอบรมหลักสูตรควบคุมฝูงชน (Crow Control) มา ปวดเนื้อปวดตัวไปหมดเลยครับ วันนี้ยกขาขวาแทบไมได้ เจ็บแปล็บๆๆๆ แบบไม่ค่อยได้ออกกำลังกายก็อย่างนี้อ่ะครับ

พรุ่งนี้จะบินขึ้นเหนือแล้ว (เชียงใหม่-ลำพูน-อุตรดิตถ์-แพร่) ไม่รู้จะได้เข้ามาอ่านบ้างรึเปล่า กลับมาทำงานวันที่ 10 มกรา ปีใหม่เลยยยยยยยยย

 

5.พระพุทธไตรรัตนนายก วัดกัลยาณมิตร หรือ
หลวงพ่อโต วัดพนังเชิง (พระนครศรีอยุธยา)

เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ปางมารวิชัย หน้าตักกว้างประมาณ 20 เมตร สูง 19 เมตร
เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไปมาแต่โบราณกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวจีน ซึ่งขนานนามหลวงพ่อโตองค์นี้ว่า "ซำปอกง" หรือ "ซำปอฮุดกง" พระพุทธไตรรัตนนายกประดิษฐานในพระวิหารวัดพนัญเชิง ริมฝั่งแม่น้ำป่าสัก ตรงข้ามกับมุมตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะเมืองอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ตามตำนานกล่าวว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้ง ทรงสร้างขึ้น ณ บริเวณที่พระราชทานเพลิงศพพระนางสร้อยดอกหมาก และตามพงศาวดารกล่าวว่า พระพุทธรูปองค์นี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1867 ก่อนที่พระเจ้าอู่ทองจะสร้างกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี 26 ปี ครั้นสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีแล้ว พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาได้บูรณะซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดีมาโดยตลอด กล่าวกันว่าเมื่อคราวจะเสียกรุงศรีอยุธยา ได้ปรากฎมีน้ำพระเนตรไหลออกมาจากพระเนตรทั้งสองข้างเป็นที่อัศจรรย์

ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงบูรณะองค์พระพุทธรูปใหม่ทั้งองค์และถวายพระนามว่า "พระพุทธไตรรัตนนายก"

เราควรหาโอกาสไปไหว้หลวงพ่อโต หรือ หลวงพ่อซำปอกง เชื่อว่าจะมีเพื่อนดี โชคดีทวีลาภ มีชัยวาสนารุ่งเรือง เดินทางใกล้ไกลปลอดภัยทุกประการ เสมือนมีเพื่อนที่ดีและมีมาก ยิ่งมีเพื่อนที่ดีมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้เราประสบความสำเร็จได้มากเท่านั้น

เมื่อไปถึงวัดแล้ว ให้กราบนมัสการ ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่าบทนมัสการหลวงพ่อเพื่อความเป็นเป็นสิริมงคลในชีวิตว่า

"อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ ทุติยัมปิ อิมินาสักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ ตะติยัมปิ อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ "

 

เดินทางปลอดภัยค่ะ น้องเอท :d

 

6. หลวงปู่ทวดวัดช้างให้ หรือ หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด (จ.ปัตาตานี)

มาไหว้พระวัดนี้ ออกจะแตกต่างไปจากวัดอื่นๆ อยู่สักหน่อยตรงที่ไม่ใช่เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่แต่เป็นพระรูปของพระเถระ สมเด็จหลวงพ่อทวดเป็นที่รู้จักของชาวไทยทุกภูมิภาคในฐานะพระศักดิ์สิทธิ์ที่มีอิทธิปาฏิหารย์และอภิญญาแก่กล้าจนได้สมญา
"หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด"

วัดช้างให้ หมายความว่า "ที่ดินสร้างวัดนี้ช้างบอกให้" เป็นวัดโบราณวัดหนึ่งยืนนานประมาณ 350 ปีเศษ มีเจ้าอาวาสปกครองวัด องค์ปกครองวัดนี้อยู่ได้ไม่นานมักจะมีอุปสรรคนานาประการ ถึงกับต้องจากไปวัดอื่น หรือมรณภาพลง เล่าต่อๆ กันมาว่าเป็นเช่นนี้เพระอาถรรพ์วัดนี้แรงมาก เจ้าอาวาสผู้มีบุญบารมีน้อย จะไม่สามารถครองอยู่ได้ เหตุนี้วัดช้างให้จึงถูกทอดทิ้งให้รกร้างเป็นระยะหลายครั้งหลายหน ร้างลงแต่ละครั้งเป็นเวลาห่างกันนานมากนับสิบปีนับร้อยปีทีเดียว แต่ด้วยอำนาจบุญบารมี อภินิหารของ หลวงพ่อทวดฯ วัดช้างให้นี้ ในช่วงปี พ.ศ. 2497 ได้ดลบันดาลให้พี่น้องหลายชาติหลายภาษา ร่วมสามัคคีสละทรัพย์โมทนาสบทบทุนสร้างโบสถ์บูรณะเรื่อยมา งานก่อสร้างโบสถ์จึงมีกำลังกำเนินการต่อไปโดยมิได้หยุดยั้งจนถึงวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2499 ได้จัดทำพิธียกช่อฟ้า และวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2501 มีพิธีผูกพัทธสีมา โบสถ์จึงสำเร็จสมบูรณ์ และพระภิกษุสงฆ์ได้อาศัยทำสังฆกรรมได้เรื่อยมาจนถึงปัจุบัน
เมื่อมีโอกาสมาที่ จ.ปัตตานี ก็ขอให้มากราบไหว้หลวงพ่อทวดวัดช้างให้และนำความเป็นสิริมงคลอันมากมายแก่ชีวิตโดยสวดคาถาบูชาหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี ดังนี้ กล่าว นะโม (3 จบ) และระลึกถึงหลวงพ่อทวด กล่าวว่า

"นโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา"

แปลความได้ว่า ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่เจ้าประคุณสมเด็จหลวงพ่อทวด ผู้เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นผู้มีโชคซึ่งเข้ามา
สถิตย์อยู่ในตัวข้าพเจ้านี้ จะนำความเป็นสิริมงคลมาสู่ชีวิตอย่างแน่นอน...

 

28 ธันวาคม วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขอพระเมตตาจากพระองค์ โปรดปกป้องลูกหลานไทย ให้ทุกคนอยู่เย็นเป็นสุข ทุกผู้ทุกนามด้วยเทอญ

"คิดถึงพ่อ พ่ออยู่คู่กับเจ้า
ชาติของเราคงอยู่ คู่พระศาสนา
พระศาสนาอยู่ยง คู่องค์กษัตรา
พระศาสดาฝากไว้ ให้คู่กัน"

 

...น้อมกราบอริยสงฆ์...
อรุณสวัสดิ์เช้าวันพุธครับพีื่่น้อง
วันนี้ที่ชัยภูมิ 20 องศาครับ ไม่หนาวเท่าเมื่อวาน
แต่ก็รักษาสุขภาพด้วยนะครับพี่น้อง ย่านไข้ใส่ปีใหม่ซั่นดอก
ห่วงเด้อถึงได้บอก ซำบายดีกันนะครับ
^^___^^​

 

หวัดดียามเช้าเช้าครับพี่หนู
สู้เด้ออ้ายเด้อ กำลังใจบ่มีวันหมดครับ กลับมาเติมเต็มได้ที่นี่เด้อครับอ้าย สู้แค่ตายเท่านั้นแหละครับผม

 

เอ...แปลกใจจัง ช่วงนี้ผมพบหลวงพ่อศิลาบ่อยๆครับ ทั้งทางหน้าบอร์ด

ทั้งบนรถแท๊กซี่ตั้งใว้บูชาก็พบ ถามคนขับว่าพี่คนสุโขทัยหรือป่าว...

แกว่าเปล่าครับ เพื่อนคนที่โน้นเช้ามาฝาก เมื่อก่อนไม่เคยได้พบเลยครับ

 

จัดสู้ศึกเพื่อพี่หนูโดยซำเพาะครับ
ชุดนี้ขอจัดเต็มเด้อครับอ้ายหนู








​

 

ผมเคยไปกราบพระบรมอัฐิของพระองค์ที่วัดอิน บางยี่เรือครับ ที่นั้นมีหลายๆ

อย่างที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ครับ

 

คิดถึงเสมอ......(ตลอดมา)
สำหรับที่รัก.....ทุกคน.......(เผื่อให้"คนพิเศษ" 1 คน) ???

 

สวัสดียามเช้าค่ะ...ทุกท่าน:d

7.สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
วัดระฆังโฆษิตารามวรมหาวิหาร (กรุงเทพมหานคร)

วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร เดิมเป็นวัดราษฎร์ชื่อ วัดบางหว้าใหญ่ สมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงปฏิสังขรณ์และยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงและโปรดเกล้าฯ ให้ประชุมสังคายนาพระไตรปิฎกที่อันเชิญมาจากนครศรีธรรมราชที่วัดนี้

ที่มาของชื่อวัดมาจากการขุดพบระฆังโบราณในสมัยรัชกาลที่ 1 เป็นระฆังที่เสียงดีมาก
รัชการที่ 1 จึงขอไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และทรงสร้างระฆังพระราชทาน 5 ลูกเก็บไว้แทน จึงเรียกกันว่า "วัดระฆัง" ตั้งแต่นั้นมาเมื่อมาถึงสมัยรัชกาลที่ 4 โปรดฯให้เปลี่ยนเป็น "วัดราชคัณฑิยาราม" (คัณฑิ แปลว่า ระฆัง) แต่คนทั่วไปนิยมเรียกกันว่า
"วัดระฆัง" มาจนทุกวันนี้

วัดนี้เคยเป็นที่ประทับของ "สมเด็จพระสังฆราชสี" ซึ่งเป็นปฐมบรมสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านคาถาอาคมเป็นเลิศ เป็นพระภิกษุที่ได้รับการเคารพศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนอย่างมาก
วัดระฆังโฆษิตาราม ชื่อวัดเป็นนัยให้มีชื่อเสียงก้องขจรขจายไปไกล เหมือนเสียงระฆัง จึงเป็นที่มาของความเชื่อว่า หากได้มาสักการบูชาสมเด็จพุฒาจารย์แห่งวัดระฆังนี้แล้ว ก็จะประกอบความรุ่งเรืองตลอดไป

ปริศนาธรรมวัดนี้คือ ระฆังที่บ่งบอกถึงความมีชื่อเสียง คำว่าชื่อเสียงนั้นมักใกล้คำว่าชื่อเสีย ถ้าอยากจะทำให้ตนเองเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงแล้วละก้อ อย่าได้พยายามทำให้ตนเสียชื่อไปเสียก่อน ด้วยการบำเพ็ญ ศีล สมาธิ ปัญญาอยู่เป็นประจำ เมื่อเข้าไปในวัดขอให้ตั้งจิตภาวนาในใจว่า

"มาโวจะ ยะรุสัง กัญจิ วุตตา ปะฏิวะเทยยุ ตัง ทุกขา หิ สารัมภะกะถา ปะฏิทัณฑา ยุเสยยุ ตัง สะเจ เนเรสี อัตตานัง
กังโส อุปะหะโต ยะถา เอสะ ปัตโตสิ นิพพานัง สารัมโภ เตนะ วิชชะติ"

การมากราบสมเด็จโต วัดระฆังนี้ ควรจะสวดมนต์พระคาถาชินบัญชร ที่มีชื่อเสียงไปด้วยต่อหน้าพระรูป ให้เสมือนมีกำแพงแก้ว 7 ชั้น มาคอยปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัยนำสิริมงคลมาให้แก่ผู้สวดอย่างมากมายมหาศาลแน่นอน...

 

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ภณนาวิน
ด้วยคนครับ พี่หนู สู้ๆ สู้ๆ ครับพี่ อิอิ
(||)(ping)(ping)(ping)(||)
</TD></TR></TBODY></TABLE>
น้าหนู สู้ๆๆครับ พวกเราทุกคนเป็นกำลังใจให้ครับ <!-- google_ad_section_end -->

ขอบใจมาก..หลานโอ๊ค
สบายดีนะครับ...ไว้มีโอกาสคงจะพบเจอกันอีก ..หลังปีใหม่ ..เร็วๆนี้
comming soon.

หวัดดียามเช้าเช้าครับพี่หนู
สู้เด้ออ้ายเด้อ กำลังใจบ่มีวันหมดครับ กลับมาเติมเต็มได้ที่นี่เด้อครับอ้าย สู้แค่ตายเท่านั้นแหละครับผม <!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->[FONT=&quot]000[/FONT][FONT=&quot]อยู่ในโลกให้ได้ แต่อย่าให้ขวางโลก[/FONT][FONT=&quot]000[/FONT]<!-- google_ad_section_end -->

สวัสดียามเช้าเช่นกันครับ..แต่เริ่มจะสายแล้ว
ขอบคุณครับ..สำหรับกำลังใจ
..สู้ๆ ครับ
...บ้างครั้ง ก็ท้อ ..แต่ไม่ถอยครับ
...บ้างครั้งหยุด เพื่อพัก ..แล้วเดินต่อครับ
จุดมุ่งหมาย..ก็คือ จุดหมายปลายทาง..ซึ่งอยู่ข้างหน้าเรานั่นเอง..แต่ประสบการณ์ชีวิต จะอยู่ระหว่าง 2 ข้างทาง ที่เราเดินไป ..จงเรียนรู้มัน จงสนุกกับมัน.

 

ขอบคุณมากครับ น้องพลศิริ
พระสวยงามแท้...ถ่ายรูปก็ขึ้น

...เช้านี้มีถ่ายรูปแล้วบ้างแล้ว...แต่รอตอนเย็นๆ ค่ำๆ นะครับ
จะจัดเรื่อยๆ หนักๆ ส่งท้ายปี 2554....รับปีใหม่ ปี 2ฮ่าฮ่าฮ่า
comming soon.

 

สวัสดีครับพี่หนู,คุณนวล,พี่ลับแล,พี่พลศิริ,พี่ภณนาวิน...วันนี้มากันแต่เช้าเลยนะครับ ^^

 

สวัสดีครับ คุณ นอร์ คุณ หนู พี่เสือ น้าหมู คุณ หนุ่ย เจ้าโอ๊ค น้องจัน น้องเอท
พลศิริ คุณ นวล คุณ ลิน คุณ คุณลับแล น้องญาณพล คุณ โต้ง คุณ รัก คุณ ปี้ด
คุณ นก คุณ เอม เจ้าก้อย เจ้า ภณ และสมาชิกผู้น่ารักทุกๆท่านครับ
รวยให้มันส์ไปเลยนะครับ อ่ะจ้ากกกกกกกกกกกกกกกกก(k)

 

น้อง Nor คะ
น้องสบายดีหรือคะ? พี่ทราบมาว่า.....น้องยังไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นะคะ
เมื่อไหร่จะโทรมาคุยปรึกษากันล่ะคะ ? แม้พี่จะช่วยอะไรน้องไม่ได้มากอย่างที่คิด แต่การที่น้องได้คุยกับพี่ซึ่งเคยทำงานทำนองนี้มาก่อน(ละไว้ในฐานที่เข้าใจนะคะว่างานอะไร?)
มันอาจจะทำให้น้องได้อะไรไปบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ
พี่ไม่ได้คิดว่าพี่"เก่ง"อะไรหรอกค่ะ
แต่พี่"ห่วงใย"จากใจจริงจ้ะ
โทรคุยกับพี่ได้นะคะ(อย่าเรียกว่า"ปรึกษา"เลยนะคะ)พี่เคยบอกแล้วว่า"เราคนกันเองเหมือนพี่ๆน้องๆ มีอะไรพูดได้เลย พี่จะเก็บเป็นความลับสุดยอดแน่นอน คิดซะว่าโทรมาหาพี่สาวคนหนึ่ง
เผื่อว่า......น้องจะได้ข้อคิดอะไรบ้างนะคะ ?
วันไหนก็ได้ ถ้าอยากจะโทรนะคะ(ถามเบอร์โทรพี่ลับแลจากพี่นวลได้เลยนะคะ)
พี่ยินดีเสมอค่ะ