พระญาณวิสาลเถร (หา สุภโร) หรือ หลวงปู่ไดโนเสาร์

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย หนุ่ม36, 19 มกราคม 2021.

  1. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463

    พระญาณวิสาลเถร_(หลวงปู่หา_สุภโร).jpg

    พระญาณวิสาลเถร (หา สุภโร)
    หรือ หลวงปู่ไดโนเสาร์ พระภิกษุในพุทธศาสนานิกายเถรวาท คณะธรรมยุติกนิกาย ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามตามสัญญาบัตรว่า พระญาณวิสาลเถร เจ้าอาวาสวัดสักกะวัน (ภูกุ้มข้าว) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ และอดีตรองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นพระเถราจารย์ผู้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เป็นที่น่าเคารพสักการบูชาของบรรดาศิษยานุศิษย์ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า และได้ค้นพบกระดูกไดโนเสาร์ ทำให้มีการขุดค้น โดยเป็นแหล่งไดโนเสาร์กินพืชที่สมบูรณ์ที่สุดของประเทศไทย[1] และยังมีการสร้างพิพิธภัณฑ์สิรินธร บริเวณที่ขุดค้นพบอีกด้วย[2]

    พระญาณวิสาลเถร (หลวงปู่หา สุภโร) ท่านมีนามเดิมว่า หา ภูบุตตะ เกิดวันศุกร์ที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๘ ตรงกับวันขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๘ ปีฉลู ที่บ้านนาเชือก ตำบลเว่อ (ปัจจุบันเป็นตำบลนาเชือก) อำเภอยางตลาด (ปัจจุบันเป็นอำเภอเมือง) จังหวัดกาฬสินธุ์ บิดาชื่อ นายสอ ภูบุตตะ มารดาชื่อ นางบัวลา ภูบุตตะ มีพี่น้องรวมกัน ๗ ท่าน

    ท่านถือกำเนิดในตระกูลที่มีฐานะดีในหมู่บ้านนาเชือก ซึ่งอพยพมาจากจังหวัดอุบลราชธานี มีฝูงวัวมากกว่า ๓๐ ตัว มีที่นากว่า ๖๐ ไร่ มารดาเลี้ยงหม่อนเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นครอบครัวที่มีฐานะมั่นคงที่สุดในแถบนั้น เมื่อท่านเป็นฆราวาส ท่านมีความขยันหมั่นเพียร และความอุตสาหะ ท่านช่วยโยมบิดามารดาทำงานทุกอย่าง ท่านได้สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ที่โรงเรียนวัดบ้านนาเชือกเหนือ ตำบลนาเชือก อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ ท่านก็ได้รับการคัดเลือกให้เป็นทหารอาสาเพื่อไปร่วมรบในสงคราม และท่านได้เข้ารับการฝึกซ้อมรบ ภายหลังก่อนที่ท่านจะไปในสงครามจริงๆ สงครามโลกครั้งที่ ๒ ก็ได้ยุติลงก่อนในปี พ.ศ. ๒๔๘๘ ครั้งนึงท่านชอบการต่อยมวยมาก ท่านชอบไปต่อยมวยตามงานวัดต่างๆ ในเวลาว่างจากการทำนาและงานอื่น แต่โยมบิดาของท่านไม่ชอบที่ท่านเป็นนักมวยนัก พอช่วงอายุประมาณ ๒๐ ปี คุณยายของท่านก็ได้ปรารภกับท่านว่าอยากจะให้ท่านบวชให้คุณยายของท่านหน่อย อันเป็นที่มาของการออกบวชภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ในบวรพระพุทธศาสนา

    ท่านอุปสมบท เมื่ออายุย่างเข้า ๒๑ ปี ที่สิมน้ำ ณ วัดสว่างนิวรณ์นาแก ตำบลนาเชือก อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีหลวงปู่ลือ เป็นพระอุปัชฌาย์ สังกัดมหานิกาย เมื่อท่านบวชแล้วก็มาอยู่ที่วัดสุวรรณชัยศรี ตำบลนาเชือก อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ในปี พ.ศ. ๒๔๘๙ ขณะนั้นที่นั่นการปกครองในคณะสงฆ์ยังไม่ทั่วถึงมากนัก การบวชของคณะธรรมยุตและคณะมหานิกายยังไม่มีการแยกจากกัน ยังคงใช้พระอุปัชฌาย์องค์เดียวกัน ในปี พ.ศ. ๒๔๙๐ ทางคณะสงฆ์ได้ประกาศว่า พระอุปัชฌาย์สังกัดนิกายอะไรผู้บวชก็ต้องสังกัดนิกายนั้น พระครูประสิทธิ์สมณญาณ จนฺโทปโม เจ้าอาวาสวัดสุวรรณชัยศรี (ศิษย์อุปัฏฐากหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต สมัยท่านจำพรรษาอยู่แถบจังหวัดเชียงใหม่) ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของท่านจึงได้ขึ้นไปอบรมการเป็นพระอุปัชฌาย์ของคณะธรรมยุต ต่อมาเมื่อท่านอายุ ๒๒ ปี ท่านได้ญัติติเป็นธรรมยุต ที่สิมน้ำ ณ วัดบ้านหนองโจด (ปัจจุบันเป็นที่นาชาวบ้าน) ตำบลนาเชือก อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อ วันที่ ๒๑ เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๐ เวลา ๑๓.๐๐ น. โดยมีพระครูประสิทธิ์สมณญาณ เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระครูปลัดอ่อน ขนฺติโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ มีพระใบฎีกาทองสุข สุจิตฺโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มีฉายา ว่า “สุภโร” แปลว่า “ผู้เลี้ยงง่าย”

    เมื่อท่านยังเป็นพระนวกะ (ผู้บวชใหม่) ปี พ.ศ. ๒๔๙๔ ได้จำพรรษาที่วัดสุวรรณชัยศรี จนสอบได้นักธรรมชั้นตรี และ ในปีพ.ศ. ๒๔๙๕ สอบได้นักธรรมชั้นโทที่วัดขวัญเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ และในปีพ.ศ. ๒๔๙๗ ได้มีโอกาสศึกษาต่อที่วัดนรนาถสุนทริการาม กรุงเทพมหานคร จนสำเร็จนักธรรมชั้นเอก ท่านได้มีโอกาสอุปัฏฐากท่านเจ้าประคุณสมเด็จมหามุนีวงศ์ (สนั่น จนฺทปชฺโชโต) และด้วยความที่ท่านมีนิสัยใฝ่เรียนรู้ ท่านจะเรียนบาลีเป็นประจำทุกวัน เมื่อเว้นว่างจากการเรียนบาลีแล้ว ท่านก็จะเดินทางด้วยเท้าเปล่าเพื่อไปเรียนกรรมฐานจากพระธรรมมงคลญาณ (วิริยังค์ สิรินธโร) วัดธรรมมงคล และพระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ลี ธมฺมธโร) ที่วัดบรมนิวาส

    เมื่อเรียนไปได้สักระยะหนึ่ง ท่านเริ่มอาพาธด้วยโรคดีซ่าน การเรียนทั้งปริยัติและปฏิบัติจึงได้ระงับไว้ก่อน เมื่ออาการหนักมากจนถึงขั้นต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงฆ์ถึง ๓ เดือน โดยไม่มีท่าทีว่าจะหาย หรือดีขึ้นเลย ท่านจึงทอดอาลัยในชีวิต แล้วตั้งความปรารถนาขอใช้ชีวิตที่เหลือในการรับใช้พระศาสนาให้สมกับที่เป็นผู้อุทิศตนต่อชาวโลก โดยท่านได้ตั้งสัตยาธิษฐาน ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้วมรกต) ว่า “หากข้าพเจ้าจะมีชีวิตในการบวช ขอให้โรคหาย ถ้าหากจะไม่มีชีวิตแล้ว ขอให้ตายกับผ้าเหลือง” ท่านมีความคิดว่าหากได้บวชอยู่นานๆ จะได้ทำประโยชน์ในพระศาสนาให้สมกับที่เป็นผู้อุทิศตนต่อชาวโลก จากนั้นท่านจึงเดินทางกลับมาที่บ้านเกิดเพื่อตั้งต้นดำเนินภารกิจดังที่ตั้งปณิธานไว้ และได้ตั้งสัตยาธิษฐานอีกครั้งหนึ่งว่า “ขอให้ได้อยู่ป่าทำความสงบสบายทางจิต”

    ด้วยอานิสงส์แห่งการอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา ในขณะนั้นท่านก็ได้รับการรักษาจากหมอพื้นบ้าน และการอบรมทางใจจากการปฏิบัติสมาธิกรรมฐานเข้าช่วยเหลือ จึงเป็นผลให้อาการของโรคทุเลาลงจนหายขาดในที่สุด เมื่อหายเป็นปกติแล้วท่านจึงออกเที่ยวปฏิบัติรุกขมูล หาความวิเวกทางกายและใจออกธุดงค์ไปยังภาคต่างๆ ในประเทศไทยแทบทุกจังหวัด ไปทุกมุมเมืองในภาคอีสาน และข้ามไปยังฝั่งลาว ไปถึงนครเวียงจันทน์ถึงสองครั้ง เข้ากัมพูชา จนเห็นผลทางจิตอันแน่นอนแล้ว ท่านจึงกลับมาช่วยงานพระศาสนาดังปฐมปณิธาน

    การค้นพบกระดูกไดโนเสาร์

    ในขณะที่ท่านกำลังดำเนินการก่อสร้างวัดสั่งสอนผู้คนพุทธศาสนิกชน สอนปริยัติธรรมแก่พระภิกษุ-สามเณรบริหารการปกครองคณะสงฆ์อยู่นั้นท่านก็ไม่ทิ้งการปฏิบัติในทางการอบรมจิตทำสมาธิภาวนา เมื่อมีเวลาว่างท่านจะขึ้นบนยอดภูกุ้มข้าวกางกลดนั่งสมาธิครั้งละ ๑๕ วัน โดยไม่ฉันอาหารไม่เข้าห้องน้ำ อบรมจิตใจตนเองอย่างนี้โดยวิธีนี้เรียกว่าการเข้า “ปฏิสลี” มีเพียงบางวันที่สามเณรจะเอายาต้มไปส่งแต่ถ้าเห็นหลวงปู่ไม่เปิดกลดก็จะกลับลงมาโดยไม่ได้ถวายยาต้มนั้นในบางปีท่านฉันภัตตาหารเพียงวันเข้าพรรษาและวันออกพรรษาเท่านั้น ประมาณปี ๒๕๓๔ ท่านได้พบนิมิตโอภาส คือพบแสงสว่างที่ใสมากเป็นแสงที่ท่านไม่เคยพบในโลกนี้สว่างไปทั่วโลกธาตุ สว่างทั้งจักรวาล มองทะลุภูเขา มองทะลุต้นไม้มองเห็นทุกอย่างอยากเห็นสิ่งใดก็เห็นไปหมด แล้วก็ปรากฏสัตว์ชนิดหนึ่ง คอยาว ตัวใหญ่กว่าช้างเท้าใหญ่เท่ากระบุง เดินไปเดินมาในบริเวณภูกุ้มข้าว กินยอดไม้ เล่นน้ำ และล้มลงตายขณะที่เห็นมีลักษณะเป็นเหมือนฟีมล์หนังกลางแปลงในสมัยก่อนพอสัตว์นั้นตายลงก็หมดม้วนพอดี เป็นอย่างนี้อยู่ ๒-๓ ครั้ง ในปี ๒๕๓๖ และปี๒๕๓๗ก็มีลักษณะเดียวกัน ครั้งสุดท้าย พอเห็นจบแล้วก็มีเสียงมาบอกว่า จะมาขออยู่ด้วยเตรียมตัวไว้พรุ่งนี้จะมีฝนมาจากทิศอุดรห่าใหญ่ผมจะมากับฝน ครั้งล่าสุดท่านเข้าปฏิสลีได้เพียง ๓ วันเท่านั้น ท่านจึงเก็บบาตรและกลดลงจากยอดเขาสั่งให้พระเณรเก็บสิ่งของไปไว้บนกุฏิเวลาประมาณเที่ยงวันฝนก็เริ่มตั้งเคาและตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาหลวงปู่ท่านได้กางร่มเดินออกมาตรวจบริเวณวัดขณะฝนตก ร่มที่กางโดนลมพัดจนหักและปลิวไปกับลมเหลือเพียงด้ามร่มเท่านั้น บริเวณทั้งหมดมืดไปหมดมองสิ่งใดไม่เห็นท่านจึงนั่งลงตรงที่เห็นสัตว์นั้นตายในนิมิต ฝนตกกว่า ๓ ชั่วโมงจึงเริ่มซาและหายไปในที่สุด จากฟ้าที่มืดก็ปรากฏแสงสว่างขึ้นมาแผ่นดินที่เคยสูงโดนน้ำเซาะจนเห็นเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ หลายสิบชิ้นกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปในบริเวณที่ท่านนั่ง ท่านก็สั่งให้คนเก็บกระดูกนั้นไว้และส่งข่าวไปยังนายอำเภอเพื่อมาตรวจสอบ ทางอำเภอจึงส่งข่าวไปยังศูนย์วิจัยไดโนเสาร์ที่อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น เจ้าหน้าที่ก็ได้มาตรวจสอบปรากฏว่าเป็นไดโนเสาร์พันธ์กินพืชที่ใหญ่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่มีการค้นพบมา (ภายหลังให้ชื่อว่า อีสานโนซอรัสสิรินธรเน่) ต่อมามีการแจ้งว่าจะมีการจะขอทำการขุดค้นเพิ่มเติมจึงกราบเรียนถามองค์หลวงปู่เพื่อชี้จุดที่เห็นในนิมิตเพิ่มเติมท่านจึงได้ชี้ใต้ต้นไม้ทางทิศเหนือของวัดก็พบฟอสซิลไดโนเสาร์อีกหลายตัว(ปัจจุบันคือ “อาคารหลุมขุดค้นไดโนเสาร์พระญาณวิสาลเถร” เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ผู้ค้นพบครั้งแรก)อีกทั้งยังมีการรวบรวมฟอสซิลไดโนเสาร์จากทั่วสาระทิศมารวมที่วัดสักกะวันและก่อสร้างพิพิธภัณฑ์เพื่อศึกษาเกี่ยวกับสัตว์โลกล้านปีได้รับพระราชทานนามว่า“พิพิธภัณฑ์สิรินธร” คณะศิษย์ยานุศิษย์ ลูกหลาน จึงถวายฉายานามหลวงปู่ว่า“หลวงปู่ไดโนเสาร์” (แต่เดิมท่านชื่อพระหา ภายหลังได้รับถวายตำแหน่งพระฐานานุกรมในตำแหน่งพระสมุห์ชาวบ้านจึงให้ชื่อว่าพระอาจารย์สมุห์หาภายหลังเมื่อมีการถวายสัญญาบัตรพัดยศเป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูวิจิตรสหัสคุณชาวบ้านก็เรียกหลวงตาวิจิตร เมื่อท่านค้นพบไดโนเสาร์ชาวบ้านจึงนิยมเรียกท่านว่าหลวงตาวัดไดโนเสาร์ เมื่อเรียกบ่อยๆจึงเหลือแต่หลวงตากับไดโนเสาร์ แต่คณะศิษย์ในภายหลังไม่อาจเรียกท่านว่าหลวงตาได้(เพราะคำว่าหลวงตาคือคนที่มีครอบครัวแล้วมาอุปสมบท)จึงเรียกท่านว่าหลวงปู่ไดโนเสาร์จวบจนปัจจุบัน)

    ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/พระญาณวิสาลเถร_(หา_สุภโร)
     
  2. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    E4i75UR96zpnI8Iu_143122.jpg

    หลวงปู่ไดโนเสาร์ ท่านเป็นใครมาจากไหน?

    พระญาณวิสาลเถร (หา สุภโร) หรือ หลวงปู่ไดโนเสาร์ เป็นพระธรรมยุติ ซึ่งถ้าพูดภาษาโลกๆ บ้านๆ ก็ต้องว่า เป็นหลานศิษย์ของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    ตามประวัติที่เผยแผ่กันนั้น ก่อนบวชเดิมท่านชื่อ หา เกิดในครอบครัว ภูบุตตะ เป็นบุตรของ นายสอ และนางบัวลา ภูบุตตะ เกิดเมื่อวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 8 ปีฉลู หรือวันศุกร์ที่ 2 เดือน ก.ค. ปี พ.ศ. 2468 ที่บ้านนาเชือก ต.นาเชือก อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ มีพี่น้องรวม 7 คน

    ครอบครัวของท่านมิได้เป็นคนกาฬสินธุ์โดยกำเนิด หากแต่อพยพมาจาก จ.อุบลราชธานี มาปักหลักทำไร่ทำนาจนมีฐานะ

    ตัวท่านเองนั้นในสมัยเป็นเด็กหนุ่มนอกจากจะมีความสามารถในการประกอบอาชีพหาเลี้ยงตัวได้ตามประสาลูกชาวไร่ชาวนาแล้ว ยังเป็นนักมวยอีกต่างหาก แต่ไม่อาจจะเติบโตไปตามเส้นทางนี้ได้เพราะโยมบิดาห้ามค้ากำปั้น ท่านครองชีวิตอยู่ในโลกฆราวาสได้เพียง 19 ปี ก็เกิดความเบื่อหน่าย จึงออกบวชขณะอายุ 19 ปี ที่วัดสุวรรณชัยศรี จ.กาฬสินธุ์ นั่นเอง

    ปีรุ่งขึ้นก็อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในยุคนั้นยังไม่มีการแยกการทำสังฆกรรมกันเด็ดขาดระหว่างคณะธรรมยุติและคณะมหานิกาย พระอุปัชฌาย์ของท่านจึงเป็นคณะมหานิกาย ขณะที่พระกรรมวาจาจารย์ พระอนุสาวนาจารย์เป็นธรรมยุติกนิกาย ต่อมาในวันที่ 21 ก.พ. 2490 ท่านได้ญัตติเป็นคณะธรรมยุติอีกครั้งหนึ่ง ที่พัทธสีมาวัดสุวรรณชัยศรี จ.กาฬสินธุ์ โดยมี พระครูประสิทธิ์สมณญาณ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่อ่อน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่สุข เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    ได้ฉายาว่า สุภโร แปลว่า ผู้เลี้ยงง่าย

    ขณะจำพรรษาที่วัดสุวรรณชัยศรีนั้นเองท่านก็สอบได้นักธรรมตรี โท เอก จากนั้นถึงเข้า กทม.ไปพำนักที่วัดนรนาถสุนทริการามกับ สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (สนั่น จันทปัชโชโต) ระหว่างนั้นก็ไปศึกษากรรมฐานจาก พระครูญาณวิริยะ ซึ่งปัจจุบันคือ พระธรรมมงคลญาณ หรือ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร วัดธรรมมงคล และ พระสุทธิธรรมรังสี หรือ ท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ แต่เส้นทางคู่ขนานของการศึกษาภาษาบาลีกับกรรมฐานต้องหยุดลงเมื่อโรคดีซ่านกำเริบจนท่านต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อรักษาตัว

    การเจ็บป่วยครั้งนั้นเป็นจุดหักเหที่สำคัญ เพราะขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงฆ์นานราว 3 เดือนนั้น ท่านได้ปลงใจว่า ใจใช้ชีวิตในร่มผ้ากาสาวพัสตร์จนกว่าชีวิตจะหาไม่

    หลังมาพักรักษาตัวที่ภูมิลำเนาจนหายขาดแล้ว ได้ออกธุดงค์ไปยังที่ต่างๆ รวมทั้งไปฝากตัวศึกษาปฏิบัติในสำนักพ่อแม่ครูอาจารย์หลายรูป ซึ่งทั้งหมดก็เป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต อาทิ พระสุธรรมคณาจารย์ (แดง ธัมมรักขิตโต) วัดประชานิยม จ.กาฬสินธุ์ พระครูประสิทธิ์สมณญาณ เจ้าอาวาสวัดสุวรรณชัยศรี หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดถ้ำขาม จ.สกลนคร พระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) วัดรังสิปาลิวัน จ.กาฬสินธุ์ รวมทั้ง หลวงปู่ทองมา ถาวโร วัดสว่างท่าสี จ.ร้อยเอ็ด

    ต่อมาท่านได้รับภาระพระศาสนาทั้งด้านการบริหาร การศึกษาและการปฏิบัติ กล่าวคือเป็นพระฐานานุกรมในพระสุธรรมคณาจารย์ที่พระสมุห์หา สุภโร เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรมชั้น เอก โท ตรี เป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวงในคณะธรรมยุติภาคอีสาน เป็นเจ้าคณะอำเภอสหัสขันธ์ท่าคันโทกุฉินารายณ์ เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) กระทั่งอายุ 80 ปี จึงเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) สมณศักดิ์ปัจจุบันคือ พระญาณวิสาลเถร

    ก่อนจะมาตั้งวัดสักกะวัน ณ บริเวณซึ่งเรียกว่า ภูกุ้มข้าว ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธ์ ในปัจจุบันนั้น หลวงปู่ท่านเคยตั้งวัดชื่อ “วัดป่าสักกะวัน” ที่บ้านคำคา อ.สหัสขันธ์ แต่ในปี 2501 รัฐบาลได้สร้างเขื่อนลำปาว และวัดดังกล่าวอยู่ในเขตน้ำท่วม นายอำเภอสหัสขันธ์จึงนิมนต์ท่านนั่งรถตระเวนไปเลือกพื้นที่สร้างวัดใหม่ กระทั่งมาถึงภูกุ้มข้าว ท่านจึงลงมาสำรวจและเลือกเอาบริเวณนี้เป็นที่ตั้งวัดใหม่ในนามเดิม

    เหตุที่ท่านเลือกเอาบริเวณนี้ทั้งๆ ที่เป็นที่กันดารไม่มีตาน้ำ และไม่มีต้นไม้ใหญ่ มีแต่ต้นไผ่ขนาดเล็ก เพราะเห็นว่าเป็นพื้นที่ห่างไกลผู้คน มีความสัปปายะ แต่ในกาลต่อมาภูกุ้มข้าวก็โด่งดังไปทั่วโลก และแม้แต่ชื่อของท่านซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงปู่หรือหลวงตาสา ก็ถูกเปลี่ยนแปลง

    เหตุเกิดจากวันหนึ่งในปี 2534 ขณะนั่งสมาธิอยู่บนยอดภูกุ้มข้าวนั้น เกิดนิมิตโอภาส มีแสงสว่างทั่วโลกธาตุ แล้วมีสัตว์ขนาดใหญ่ คอยาว เดินกินยอไม้ กินน้ำอยู่ที่ภูกุ้มข้าว สัตว์นั้นแสดงให้เห็นถึงการกินการอยู่แล้วก็ล้มตายลง

    ท่านมักจะเข้าสมาธิครั้งหนึ่งนานหลายๆ วันที่บนยอดภูกุ้มข้าว และในปี 2534 นั้นก็เกิดนิมิตเช่นว่าซ้ำๆ อยู่ 23 ครั้ง และเกิดอีกในปี 2536-2537

    ครั้งสุดท้ายในปี 2537 นั้น พอเห็นสัตว์ที่ว่าล้มตายลงแล้ว ก็มีเสียงขึ้นว่า “จะมาขออยู่ด้วย เตรียมตัวไว้พรุ่งนี้จะมีฝนมาจากทิศอุดรห่าใหญ่ จะมากับฝน”

    หนนั้นท่านเข้าสมาธิอยู่เพียง 3 วันก็ออกจากที่แล้วลงมาสั่งให้พระเณรเก็บข้าวของต่างๆ ไว้บนกุฏิ

    พอเที่ยงฝนเริ่มตั้งเค้า แล้วก็เทลงมา พอท่านกางร่มเดินออกไปตรวจดูโดยรอบ ฝนก็กระพือจนร่มหักเหลือแต่ด้าม ฟ้ามืดฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ท่านนั่งลงภาวนาบริเวณที่เห็นในนิมิตว่า สัตว์นั้นตาย

    ฝนหนัก 3 ชั่วโมงได้เซาะเอาหน้าดินออก ชิ้นกระดูกขนาดใหญ่หลายสิบชิ้นโผล่ออกมาจากใต้ดิน

    ท่านสั่งให้คนไปแจ้งนายอำเภอซึ่งส่งข่าวต่อไปยังศูนย์วิจัยไดโนเสาร์ที่ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น

    จากการตรวจสอบพบว่ามันคือซากไดโนเสาร์พันธุ์กินพืชที่ใหญ่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่มีการค้นพบมา และได้รับการขนานนามเทิดพระเกียรติในเวลาต่อมาว่า อีสานโนซอรัส สิรินธรเน

    หลวงปู่ได้ชี้จุดให้เจ้าหน้าที่ขุดค้นตามที่ท่านเห็นในนิมิตทำให้พบซากไดโนเสาร์อีกหลายตัว

    ต่อมามีการตั้งชื่ออาคารหลุมขุดค้นไดโนเสาร์ตรงนั้นว่า “อาคารหลุมขุดค้นไดโนเสาร์พระญาณวิสาลเถร” อันเนื่องจากท่านเป็นค้นพบครั้งแรก

    เมื่อมีการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์โลกล้านปีขึ้นที่นั่นก็ได้รับพระราชทานนามว่า “พิพิธภัณฑ์สิรินธร” ขณะที่ใครต่อใครก็เลิกเรียกหาท่านในนามเดิมคือ หลวงปู่ หลวงตาสา มาเรียกในนามใหม่ว่า “หลวงปู่ไดโนเสาร์”

    ท่านพบซากไดโนเสาร์อันเป็นการเผยประวัติศาสตร์สำคัญของภูกุ้มข้าวและประเทศไทย แต่ก็มีคนพบว่า เกศา เล็บ ฯลฯ ของท่านเองก็เป็นพระธาตุ เมื่อมาสักการะท่านจึงได้เอ่ยปากขอเกศาท่านบ้าง บางคราวก็มีคนมาขอซากไดโนเสาร์ไปทำพระซึ่งท่านก็ได้เทศน์ให้สติ พิจารณา ให้เกิดปัญญาดังนี้
     
  3. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
  4. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    FB_IMG_1611730321295.jpg
    20210127_133830.jpg 20210127_133901.jpg 20210127_133925.jpg

    เปิดให้บูชา

    พระสมเด็จ หลวงปู่หา สุภโร เนื้อผงผสมผงพุทธคุณสายหลวงปู่ทิม หลังยันต์พระเจ้าสิบชาติ (ยันต์เอกลักษณ์ขององค์หลวงปู่หา) วาระอายุ 93 ปี หลวงปู่หา สุภโร

    บูชาองค์ละ 150 บาท
    ค่าจัดส่ง 50 บาท
    (มีจำนวน 2 องค์)
     
  5. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    20210127_133943.jpg 20210127_134011.jpg 20210127_134031.jpg

    เปิดให้บูชา

    พระปิดตา หลวงปู่หา สุภโร เนื้อผงผสมผงโสฬสมหาพรหม หลวงตาบุญหนา พลอยเสก หลวงปู่คำพันธ์ และเกศาหลวงปู่หา หลังยันต์เอกลักษณ์ขององค์หลวงปู่หา วาระอายุ 93 ปี หลวงปู่หา สุภโร

    บูชาองค์ละ 200 บาท
    ค่าจัดส่ง 50 บาท
    (มีจำนวน 2 องค์)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2021
  6. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    FB_IMG_1611730321295.jpg 20210127_134048.jpg 20210127_134103.jpg 20210127_134123.jpg

    เปิดให้บูชา

    พระสังกัจจายน์ หลวงปู่หา สุภโร เนื้อผงพุทธคุณสายหลวงปู่ทิม พลอยเสก หลวงปู่คำพันธ์ และเกศาหลวงปู่หา หลังยันต์เอกลักษณ์ขององค์หลวงปู่หา วาระอายุ 93 ปี หลวงปู่หา สุภโร

    บูชาองค์ละ 200 บาท
    ค่าจัดส่ง 50 บาท
    (มีจำนวน 2 องค์)
     
  7. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    20210127_134200.jpg 20210127_134230.jpg 20210127_134257.jpg

    เปิดให้บูชา

    พระสิวลี หลวงปู่หา สุภโร เนื้อผงพุทธคุณผสมว่าน, พลอยเสก หลวงปู่คำพันธ์ และเกศาหลวงปู่หา หลังยันต์เอกลักษณ์ขององค์หลวงปู่หา วาระอายุ 93 ปี หลวงปู่หา สุภโร

    บูชาองค์ละ 200 บาท
    ค่าจัดส่ง 50 บาท
    (มีจำนวน 2 องค์
     
  8. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    FB_IMG_1611730268471.jpg FB_IMG_1611732119716.jpg 20210127_133744.jpg 20210127_133605.jpg 20210127_133630.jpg

    เปิดให้บูชา

    ชุดวัตถุมงคลหลวงปู่หา สุภโร

    - เหรียญหล่อเม็ดแตง อ.อำพล เจน สร้างถวาย
    - พระผงพระพิคเณศหลวงปู่หา สุภโร อ.อำพล เจน สร้างถวาย
    - หอยเบี้ย หลวงปู่อธิษฐานตลอดไตรมาส ปี 2560

    บูชาชุดละ 700 บาท
    ค่าส่ง ems 50 บาท
    (มีอยู่ 1 ชุดครับ)

    ********************************
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,245
    ค่าพลัง:
    +6,456
    ขอจอง1องค์ครับ
     
  10. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,245
    ค่าพลัง:
    +6,456
    ขอจอง1องค์ครับ
     
  11. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    รับทราบ ขอบคุณมากครับ

     
  12. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    20210127_153533.jpg 20210127_153551.jpg 20210127_153511.jpg FB_IMG_1611736222347.jpg FB_IMG_1611736339554.jpg FB_IMG_1611736075933.jpg FB_IMG_1611736072811.jpg
    FB_IMG_1611736113990.jpg

    เปิดให้บูชา

    ล็อกเก็ตจัมโบ้ หลวงปู่หา สุภโร ฉากสีชมพู รุ่น "รักษาใจ" อายุ ๙๒ ปี พ.ศ.๒๕๖๑

    ฝังมวลสารมหามงคลมากมาย รวมทั้ง เกศา จีวร ข้าวก้นบาตร ตะกรุด ฯลฯ ของหลวงปู่หา สุภโร

    จำนวนสร้าง ๓๖๔ องค์

    #เจตนาดีและบริสุทธิ์
    #ขออนุญาตจัดสร้างชัดเจน
    #สร้างน้อยหายาก

    บูชาองค์ละ 1,250 บาท
    ค่าส่ง 50 บาท
    (มีจำนวน 4 องค์)

    ***************************

    ล็อกเก็ตจัมโบ้ หลวงปู่หา สุภโร ฉากสีชมพู รุ่น "รักษาใจ" อายุ ๙๒ ปี พ.ศ.๒๕๖๑

    รายนามพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ที่เมตตาอธิฐานจิต มีดังนี้

    1.หลวงปู่หา สุภโร วัดสักกะวัน จ.กาฬสินธุ์
    2.หลวงปู่ศิลา จิตตสุภโร วัดถ้ำเขาพระนอน
    3.หลวงปู่เหรียญ สังวโร วัดไตรมิตร

    พระวสันต์ อาภรโณ ผู้ขออนุญาติจัดสร้างล็อกเก็ต สุภโรภิกขุ รุ่น...รักษาใจ วัตถุประสงค์ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล พระครูอุดมปัญญาทร (สุดใจ อนุตตโร) เจ้าอาวาสวัดป่าช้างแก้ว ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เนื่องจากพระอาจารย์สุดใจ อนุตตโร ได้อาพาธโรคลำใส้ใหญ่หย่อน จึงได้ทำการรักษาผ่าตัด ถึง 4 ครั้ง แต่ยังไม่หาย จึงจำเป็นต้องทำการผ่าตัดอีกครั้ง ครั้งที่ 5 เพื่อนำลำใส้ใหญ่เข้าช่องท้องตามปกติ แต่ทางวัดป่าช้างแก้ว ยังขาดปัจจัยในการรักษา จึงได้ขออนุญาติ สร้างล็อกเกต สุภโรภิกขุ รุ่น...รักษาใจ เพื่อนำปัจจัยมาเป็นค่ารักษาพระอาจารย์สุดใจ อนุตตโร ในครั้งนี้ และองค์หลวงปู่หา สุภโร ท่านก็ได้เมตตาเห็นสมควร อนุญาติให้พระวสันต์ อาภรโณ ทำการจัดสร้างล็อกเกตในครั้งนี้

    ***************************
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    received_173801770752299.jpeg
    20210128_143037.jpg 20210128_143009.jpg 20210128_143049.jpg
    เปิดให้บูชา
    #หายากสุดแล้วชุดนี้

    ((ปิดรายการนี้ครับ))

    ปฐวีธาตุ 4 สี หลวงปู่หา สุภโร (แจกงาน มุฑิตา 93 ปี พ.ศ.2561)

    1. ปฐวีธาตุแบบใส ตามตำราหลวงปู่คำพันธ์
    2. หยกแช่น้ำมนต์ ปลุกเสกพร้อมปฐวีธาตุ
    3. #โรสควอตซ์ (หินสีชมพูอ่อน) แช่น้ำมนต์ปลุกเสกพร้อมปฐวีธาตุ
    4. อเมทิสต์หลวงปู่หา สุภโรแช่น้ำมนต์ปลุกเสกพร้อมปฐวีธาตุ

    ทั้งหมดนี้ หลวงปู่หาปลุกเสกให้อีก1เดือนเต็ม (มีโค๊ตทุกองค์)
    พุทธคุณด้าน #คุ้มครองป้องกัน #ทำน้ำมนต์ และ ยังสามารถนำมากำในมือเพื่อ #เจริญกรรมฐาน ได้ด้วยครับ

    #พุทธอัปมาโณ

    บูชาชุดละ 750 บาท
    ค่าส่ง 50 บาท
    ((มีอยู่จำนวนจำกัด 5 ชุดเท่านั้นครับ))

    *******************************
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2021
  14. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    ปิดรายการนี้ครับ

     
  15. chomkamon

    chomkamon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2008
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +344
    จอง1องค์ครับ
     
  16. thaicat2013

    thaicat2013 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    594
    ค่าพลัง:
    +1,014
    จอง 1 ชุดครับ
    ปฐวีธาตุ 4 สี หลวงปู่หา สุภโร (แจกงาน มุฑิตา 93 ปี พ.ศ.2561)
    บูชาชุดละ 750 บาท
    ค่าส่ง 50 บาท
    ((มีอยู่จำนวนจำกัด 5 ชุดเท่านั้นครับ))
     
  17. sunmk

    sunmk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2020
    โพสต์:
    1,040
    ค่าพลัง:
    +805
    จองปฐวีธาตุ1ชุดและล็อกเก็ต1อันครับ
     
  18. chomkamon

    chomkamon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2008
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +344
    จอง1องค์ครับ
     
  19. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    รับทราบ ติดต่อข้อความด้วยครับ
    ขอบคุณมากครับ

     
  20. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    รับทราบ ติดต่อข้อความด้วยครับ
    ขอบคุณมากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...