พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

สวัสดียามเช้าครับ

 

3549.พระกริ่งอุดผงเศรษฐี + พระชัย เนื้อทองผสม หลวงพ่อทอง วัดลำกระดาน ปี 2555 ให้บูชาชุดละ 800 บาท

​

ประวัติการสร้างประมาณปี 2555
พระกริ่งอุดผงเศรษฐี + พระชัย หลวงพ่อทอง วัดลำกระดาน
-เนื้อเงินสร้างประมาณ 50 องค์
-เนื้อทองผสมพิมพ์พระกริ่ง2,000องค์
-พิมพ์พระชัย5,000องค์
-ฝังตะกรุดทองคำมี9องค์
-เนื้อทองคำไม่มี

ชนวนมวลสารพระกริ่งและพระชัยหลวงพ่อทอง
-เหรียญขวัญถุงพิธีเปิดโลก หลวงปู่ดู่วัดสะแก ร่วมร้อยเหรียญ
-ระฆัง หลวงพ่อตัดวัดชายนา
-ระฆัง หลวงพ่อพรหมวัดช่องแค
-แผ่นยันต์ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง จ.เชียงใหม่
-แผ่นยันต์ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่
-แผ่นยันต์ครูบาวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน
-แผ่นยันต์ครูบาผัด วัดศรีดอนมูล
-แผ่นยันต์ครูบาคำหล้า วัดสันป่าลาน
-แผ่นยันต์กลวงพ่อรวย วัดตะโก
-แผ่นยันต์หลวงพ่อทอง วัดลำกระดาน จารให้3แผ่น
-แผ่นยันต์หลวงพ่อสรวง จ.ลพบุรี
-แผ่นยันต์ครูบาบุญชุ่ม วัดพระธาตุดอนเรือง
-แผ่นยันต์หลวงพ่อทองพูล สิริกาโม
-ตะกรุดกลวงพ่อสง่า ราชบุรี
-กำไลนวะ หลวงพ่อทอง วัดลำกระดาน 4 วง
-ขันน้ำมนต์เก่า 1 ลูก
-เหรียญครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง เชียงใหม่ 2 เหรียญ
-เหรียญมหาลาภครูบาขาวปี 2 เหรียญ
-เหรียญหลวงพ่อทอง วัดลำกระดาน รุ่นแรก 10 เหรียญ
-เหรียญหลวงพ่อทอง เหรียญพ.พาน 2 เหรียญ
-เหรียญหลวงพ่อทอง รุ่นสร้างเจดีย์ทุกเนื้อ
-รูปหล่อโบราณ หลวงพ่อทอง วัดลำกระดาน เนื้อชนวน 200 กว่าองค์
-ลูกปืนใหญ่โบราณหนัก12 กิโล หลวงพ่อรวย วัดตะโก ลงยันต์และเสกให้ 1 ลูก
-ชนวนเก่าอ.อนันต์ ที่ทำเหรียญพระแก้ว หลวงปู่ดู่ให้มาประมาณ1กิโล
-ผงเศรษฐีหลวงพ่อทอง+เกศาหลวงพ่อทอง วัดลำกระดาน(ใช้อุดก้นพระกริ่ง)
-ตะกรุดและเหรียญเกจิอาจารย์ต่างๆอีกมากมาย รวมแล้วมีเนื้อชนวนในการสร้างพระชุดนี้ 96 กิโลกรัม

 

3550.สมเด็จหมออวย ๒ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกองเพล จ.หนองบัวลำภู จัดสร้างปี พ.ศ 2563 พิมพ์คะแนน สร้าง : 264 องค์ ให้บูชา 1250 บาท

​

รายนามพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่เมตตาอธิฐานจิต
พระสมเด็จหมออวย 2 ที่ระลึกวัดถ้ำกลองเพล
1. หลวงปู่คลาด ครุธัมฺโม วัดป่าบ้านใหม่ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี
2. หลวงตาสมหมาย อัตตฺมโน วัดป่าสันติกาวาส อำเภอไชยวาน จังหวัดอุดรธานี
3. หลวงปู่บุญจันทร์ กตฺปุญโญ วัดป่ากุดฉิม อำเภอเมืองหนองบัวลำภู
4. หลวงพ่อสมเกียรติ ชิตฺมาโร วัดป่าถํ้าพระเทพนิมิต อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี

เนื้อหามวลสาร ของ หมออวย 2 มีดังนี้
พระคงลำพูน สมเด็จเผ่าฯ พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดหนองตำลึง สมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆัง
พระพุทธโธคุณแม่บุญเรือน วัดอาวุธฯ
พระรูปเหมือนสมเด็จโต วัดระฆังปี 15
พระโพธิจักร ท่านพ่อลี วัดอโศการาม
พระผงหลวงปู่ตื้อ หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่ขาว หลวงปู่แหวน อาจารย์วัน หลวงพ่อเปลี่ยน หลวงปู่อ่อน หลวงปู่บุญมา หลวงปู่ชา พระหางหมากพ่อฤๅษีลิงดำอื่นอีกมากมายคือมวลสารตั้งต้นพระสมเด็จหมออวย 2 นอกจากนั้นยังมวลสารศักดิ์สิทธิ์ คือ เส้นเกศาหลวงปู่ขาว อนาลโย และเส้นเกศาหลวงปู่ผ่าน ปัญฺญาปทีโปใสเป็นแท่งแก้วอยู่ในพระผงสมเด็จหมออวย 2 ครับ

สมเด็จหมออวย 2 ได้นำเกศาของพระอรหันต์ 9 รูป เป็นมวลสาร อันได้แก่
1.หลวงปู่ขาว
2.หลวงปู่ชอบ
3.หลวงตามหาบัว
4.หลวงปู่อ่อนสา
5.หลวงปู่บุญเพ็ง
6.หลวงปู่ลี
7.หลวงปู่จันทร์เรียน
8.หลวงปู่อว้่าน
9.หลวงปู่สมเกียรติ

 

สวัสดียามเช้าครับ

 

3551.เหรียญรุ่น 4 (รุ่นเจริญสุข) หลวงปู่ตี๋ วัดท่ามะกรูด สุพรรณบุรี ให้บูชา 800 บาท

​

หลวงปู่ตี๋ท่าน เป็นศิษย์มีครูบาอาจารย์ชั้นนำมากมายอาทิหลวงปู่แขก วัดหัวเขา หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และที่สำคัญและเป็นที่โจษขานร่ำลือก็คือ "หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม" ครับในปี 2552 คณะศิษย์ ของหลวงปู่ ได้ออกแบบเหรียญอีกรุ่นของหลวงปู่ ชื่อรุ่น"เจริญสุข" เพื่อนำรายได้ไปสร้างรูปเหมือนเท่าองค์จริงของหลวงปู่ และรายได้ส่วนที่เหลือทั้งหมดจะถวายให้หลวงปู่ทั้งหมด เพื่อเป็นกองทุนดูแลสุขภาพของหลวงปู่ โดยชื่อรุ่น"เจริญสุข" นั้นเป็นชื่อที่หลวงปู่ตี๋ท่านตั้งให้เองครับ
เหรียญหลวงปู่ตี๋รุ่นนี้ได้ทำพิธีปลุก เสกกันหลายคราวหลายวาระเพื่อให้สมกับเป็นเหรียญรุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ตี๋ โดยพิธีสุดท้ายจัดขึ้นที่วัดท่ามะกรูดวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2553 เพื่อให้ออกบูชาในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553อันเป็นวันมงคลของชาวไทยและชาวจีน หลวงปู่ตี๋พูดออกจากปากเองเลยว่า รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ดีที่สุด และสุดยอดที่สุด นอกจากจะเข้าพิธีทุกพิธีแล้วรุ่นนี้หลวงปู่ยังเอามาปลุกเสกเองเกือบทุกคืนเลยแกะกล่องเองเอามาดูเองชมว่า ดีที่สุด สวยที่สุด นอกนั้นท่านยังบอกว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นที่ท่านปล่อยพลังจนหมดปลุกเสกแบบครบเครื่องจึงจัดได้ว่าเหรียณแจกทาน ปลุกเสกดีที่สุดทั้ง ๕ พิธี ดีฤกษ์ยามตามตำหรับโบราณ ประสมประสานด้วยพุทธคุณ ประกอบกับวันดีๆ ที่นานๆ จะมีครั้งและปลุกเสกทุกครั้ง เกิดอาเพศพอให้เกิดเหตุเป็นสังเขปอาเพศที่ว่า เช่น ฟ้าร้องกลางวัน ฟ้าสะท้าน ดินสะเทือน พระอาทิตย์ทรงกรดทุกเวลาที่ปลุกเสกทั้ง มืดกลางวัน สว่างกลางคืน ที่สำคัญคนนำรุ่นนี้ มารองกันจะๆ ทั้งประสพการณ์อันเป็นที่เลื่องลือชนิดแบบดีที่สุดของที่สุด และรุ่นท้ายสุด จึงเป็นรุ่นที่ครบเครื่องเรื่องเหรียญของหลวงปู่ตี๋ชนิดแบบแขวนเดียวได้เลย

 

3552.พระพิมพ์ พ่อท่านฉิม - พ่อท่านคิ้ม วัดพลานุภาพ สองปรมาจารย์แห่งวัดพลานุภาพ ปี 2508 (อ.ทิม วัดช้างให้ปลุกเสก) ให้บูชา 750 บาท

​

วัดพลานุภาพ หรือ วัดทุ่งพลา เป็นวัดโบราณวัดหนึ่งของจังหวัดปัตตานี มีอายุการสร้างเก่าแก่พอ ๆ กับวัดตุยง คือ ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น (หลังแบ่งหัวเมืองมลายู 7 หัวเมือง) คำว่า ทุ่งพลา มาจาก ในสมัยโบราณพื้นที่บริเวณแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งพลับพลาของพระเจ้าแผ่นดิน เวลาเสด็จยกทัพมาทางใต้
วัดพลานุภาพ ตามประวัติเจ้าอาวาสรูปแรก คือ พระอาจารย์เกลี้ยง (ต่อมาลาสิกขา) เจ้าอาวาสรูปต่อมาคือ หลวงพ่อจันทร์ จันทสโล ท่านเป็นพระธุดงค์มาจากพระนครศรีอยุธยา เมื่อธุดงค์มาถึงวัดพลานุภาพ เวลานั้นทางวัดไม่มีเจ้าอาวาสปกครองวัด ชาวบ้านในแถบถิ่นจึงนิมนต์ให้ท่านรับตำแหน่งสมภารครองวัดพลานุภาพจนท่านมรณภาพ เจ้าอาวาสรูปต่อมา คือ พระครูมนูญสมณการ ชาวบ้านในแถบถิ่นเรียกท่านว่า พ่อท่านฉิม , หลวงทวดฉิม พ่อท่านฉิม ท่านเกิดเมื่อวันจันทร์ เดือนยี่ ปีมะโรง พุทธศักราช 2398 ที่บ้านโตระ ตำบลควน อ.เมือง จ.ปัตตานี โยมบิดาชื่อ บุญ โยมมารดาชื่อ อิน เมื่ออายุได้ 13 ปี จึงได้เข้าบรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุ 21 จึงอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดคอนนอก โดยมี พระอธิการณ์อินทร์ เป็นพระอุปปัชฌาย์ ได้รับฉายา "คงฆสโร" ครั้นอุปสมบทแล้วท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัย ณ วัดคอนรัก จ.สงขลา เป็นเวลา 5 พรรษา แล้วกลับมาจำพรรษา ณ วัดคอนนอก อีก 8 พรรษา จึงได้รับการนิมนต์ให้มารับตำแหน่งสมภาร วัดพลานุภาพ และเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2474 จึงได้รับสมณศักดิ์ที่ "พระครูมนูญสมณวัตร" ตรงกับรัชสมัยล้นเกล้ารัชกาลที่ 7
ในสมัยพ่อท่านฉิมยังทรงสังขารอยู่นั้น ท่านได้รับตำแหน่งเป็น เจ้าคณะหมวดมะกรูด ในสมัยนั้นท่านได้อบรมสั่งสอนกุลบุตร กุลธิดา ในด้านการศึกษา อีกทั้งท่านได้ให้การบรรพชาแกพระภิกษุในยุคนั้นนับพัน ๆ รูป เป็นนัยสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า พ่อท่านฉิม วัดพลานุภาพ เป็นพระเถระอีกรุปหนึ่งในภาคใต้ยุคนั้น
พ่อท่านฉิม เป็นพระที่มีตบะแกร่งกล้า กล่าวกันในสมัยนั้นหากท่านนั่งอยู่ที่ใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุ เณร ตลอดจนฆราวาสหญิงชาย ไม่มีใครกล้าเดินตัดหน้าท่านเป็นอันขาด นอกจากนี้ท่านยังมีความเชี่ยวชาญในหลายสรรพวิชาต่าง ๆ ในหลาย ๆ แขนง พระเกจิอาจารย์ละแวกใกล้เคียงที่อยู่ยุคสมัยเดียวกับท่าน ได้แก่ พระครูพิบูลสมณวัตร (ชุม) วัดตุยง และ พระครูมนัตสมณคุณ (สีพุฒ) วัดมะเดื่อทอง
หลังจากสิ้นพ่อท่านฉิมแล้ว เจ้าอาวาสรุปต่อมาคือ พ่อท่านคิ้ม สำหรับพ่อท่านคิ้ม ท่านเป็น ชาวอำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี พื้นฐานทางครอบครัวมีอาชีพเกษตรกรรม โยมบิดาชื่อ หนู โยมมารดาชื่อ เลื่อน นามสกุล บุญยศาสตร์ มีพี่น้องร่วมบิดา - มารดา 5 คน โดยพ่อท่านคิ้ม เป็นบุตรชายคนโต พ่อท่านคิ้ม ท่านเกิดเมื่อวันจันทร์ เดือน 7 ปีขาล พุทธศักราช 2443 เมื่ออายุครบ 21 จึงได้พรรชา ณ วัดพลานุภาพ โดยมี พ่อท่านฉิม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการเพชรแก้ว เป็นพระกรรมวาจา พระวินัยธรฉิม เป็นพระอนุสาวาจารย์ เมื่อบวชแล้วได้ไปศึกษาต่อนักธรรมชั้นตรี ณ วัดตานีนรสโมสร (วัดกลาง) โดยมีพระอาจารย์ชู เป็นผู้สอน ทางด้านไสยเวทย์ท่านได้ศึกษาจาก พ่อท่านฉิม และโยมนำ ชาวสงขลา
โยมนำ ชาวสงขลาเก่งกล้าด้านไสยเวทย์ สามารถเรียกกาลงมากินข้าวได้ ด้านคงกระพันชาตรีก็เป็นยอด นอกจากโยมนำแล้วท่านยังได้ศึกษาเพิ่มเติมด้านคาถาอาคมกับฆราวาสในถิ่นนั้นอีกหลายคน แต่ละท่านล้วนเป็นผู้ทรงอาคมขลังด้วยกันทั้งสิ้น
พ่อท่านคิ้ม ในสมณศักดิ์เดียวกับพระอุปัชาย์ คือ พระครูมนูญสมณการ พ่อท่านคิ้ม เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองเวทย์มีความเชียวชาญในหลาย ๆ ด้าน ทั้งด้านเมตตามหานิยม ด้านคงกระพันชาตรี ด้านรักษาโรค แต่สิ่งที่โดดเด่นมาก คือ การรักษาโรคพิษสุนัขบ้า
พ่อท่านคิ้ม ท่านเถระที่มีวัตรปฏิบัติอันงดงาม มีเรื่องแปลกมาก ๆ คือ เล็บเท้าของท่านตัดไม่เข้า ต้องปล่อยให้หลุดไปเอง
วัตถุมงคล
1.เหรียญพระครูมนูญสมณการ(ฉิม) 2476 แจกจ่ายในงานพระราชทานเพลิงพ่อท่านฉิม เป็นพระเหรียญที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดปัตตานี
2.ในพ.ศ. 2500กว่า ๆ พ่อท่านคิ้ม ได้ทำผ้ายันต์รูปท่าน โดยใช้ผ้าบังสุกุลมาทำ
3.พระผงผสมว่าน รุ่นแรก วัดพลานุภาพ 2508 มี 3 พิมพ์กลีบบัว(คล้ายพระกสินหลวงพ่อพัฒน์) พิมพ์รูปไข่ และ พิมพ์ซุ้มประตู2หน้า

 

3553.พระดี 2 บารมี พระลีลาเม็ดขนุนหลวงพ่อกวย เนื้อดินปี17 พระอาจารย์ตั้ว นำมาออกให้บูชาบำรุงวัดซับลำใยในปี43 ได้เข้าพิธีสมปรารถนาหลวงปู่หมุน วัดบ้านจานปลุกเสก ให้บูชา 1850 บาท

​

พระลีลาทุ่งเศรษฐีเม็ดขนุน หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หลวงปู่หมุนเสก ( อาจารย์ตั้ว นำมาออกให้บูชาที่วัดซับลำไย) พระของพ่อกวยชุดนี้ แม่ของท่านอาจารย์ตั้วได้รับมอบมาจากหลวงพ่อกวยเมื่อปีพศ. 2518 ขณะนั้นหลวงพ่อกวยยังแข็งแรงดีมาก ท่านมอบให้เนื่องในวาระที่แม่ของอาจารย์ตั้่วเป็นเจ้าภาพมาทอดกฐินที่วัดบ้านแค ต่อมาเมื่อหลวงพ่อกวยมรณภาพลง ท่านอาจารย์ตั้วได้ไปรักษาการเจ้าอาวาสที่วัดทับขี้เหล็ก อ.หันคา จ.ชัยนาท. พร้อมกันนี้คุณแม่ของท่านอ.ตั้วจึงได้นำพระที่ได้รับไปฝังเก็บเอาไว้ที่วัดแห่งนี้ ต่อมาท่านอาจารย์ตั้วได้ย้ายมาอยู่ที่วัดซับลำไยสามัคคีธรรม อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี เนื่องจากท่านมีเจตนาจะสร้างวิหารและบูรณะสิ่งก่อสร้างต่างๆในวัด ท่านจึงขุดพระชุดนี้ขึ้นมา และได้นำมาเข้าพิธีปลุกเสกหลายครั้งหลายหน แต่พิธีที่สำคัญๆ มีทั้งหมด4 พิธีคือ
1. พิธีสมปรารถนาที่วัดซับลำไยเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2543. พิธีนี้ มีหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจานเป็นประธาน ร่วมกับพระเกจิอีก 25 รูป เช่น
ลป.หงษ์ พรหมปัญโญ วัดเพชรบุรี หลวงปู่ลมัย ฐิตมโน จ.เพชรบูรณ์ ลพ.เพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ลพบุรี หลวงปู่ตี๋ วัดหลวงราชาวาส จ.อุทัยธานี หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อสิริ วัดตาล จ.นนทบุรี พระอาจารย์วิชัย วัดถ้ำผาจม จ.เชียงรายเป็นต้น
2. ปลุกเสกเดี่ยวในพิธีสรงน้ำประจำปี 2544 โดยหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล
3. พิธี 9 แผ่นดินมหาสมปรารถนา โดยมีหลวงปู่หมุนเป็นประธาน
4. ปลุกเสกเดี่ยวในพิธีสรงน้ำประจำปี 2545 โดยหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล
ท่านพระอาจารย์ตั้วเคยบอกไว้ว่าในชีวิตนอกจากหลวงพ่อกวย แล้วท่านก็นับถือหลวงปู่หมุนเป็นที่สุด เนื่องด้วยเป็นคำสั่งของหลวงพ่อกวยที่ให้ตามหาหลวงปู่หมุน และพอมาเจอก็พบกับอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ ต่างๆ เกินกว่าที่เกจิทั่วจะทำได้ ท่านจึงได้ขอเมตตาจากหลวงปู่หมุนสร้างวัตถุมงคลต่างขึ้นมา และเอามาให้หลวงปู่หมุนท่านปลุกเสก พร้อมกันนี้อาจารย์ตั้วยังได้นำเอาพระลีลาทุ่งเศรษฐีของหลวงพ่อกวยที่ท่านเก็บรักษาไว้ นำมาเข้าพิธีต่างๆที่วัดจัดขึ้นทั้งหมด เพื่อให้เป็นวัตถุมงคลที่มีกฤติยาคมแฝด มีความศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้วัตถุมงคลใดในแผ่นดิน จริงๆแล้วแค่เป็นพระที่หลวงพ่อกวย วัดบ้านแคเสก ก็ยอดเยี่ยมเกินคำบรรยายแล้ว พุทธคุณมากล้ำ ทั้งบุ๋นและบู๊ เมตตาค้าขาย โชคลาภ ตั้งตัว กลับดวง หนุนชะตา ดั่งคำที่หลวงพ่อกวยท่านมักให้พรลูกศิษย์เสมอว่า "ขอให้ศิษย์ทั้งหลาย จงอย่าอด อย่าอยาก อย่ายาก อย่าจน อย่าต่ำกว่าคน อย่าจนกว่าเขา"
ส่วนหลวงปู่หมุน ฐิตสีโลที่ท่านอาจารย์ตั้วนับถือนั้น เพราะท่านเป็นพระปรมาจารย์อมตะเถระ 5 แผ่นดิน ตลอดชีวิตของท่านจะถือธุดงควัตรเป็นหลัก เที่ยวไปในป่าเขาลำเนาไพร ท่านเป็นผู้ที่เรืองเวทย์วิทยาคม แกร่งกล้าและเชี่ยวชาญในกสิณอภิญญา ท่านเป็นทายาทผู้สืบสายพุทธาคมของท่านสมเด็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ สำหรับสายนี้เท่าที่ทราบท่านเป็นสายแห่งพระโพธิสัตว์ ยังไม่เร่งเข้าสู่พระนิพพาน ท่านตั้งใจโปรดสัตว์โลก สายนี้จึงเป็นสายที่เล่น ฤทธิ์ กสิณอภิญญาอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยปรารถนาจะช่วยสัตว์โลก
ดั่งที่หลวงปู่หมุน ท่านเคยประกาศิตไว้ว่า " น้ำลาย ไอปาก และปราณของฉันเสกเป่าลงไปที่ใด ที่นั้น ของนั้น ย่อมศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีวันเสื่อมสลาย"

 

3554.พระ 3 สมเด็จ สมเด็จสุคโต วัดบวรนิเวศ ปี ๒๕๑๗ สร้างแจกในวโรกาศที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จเปลี่ยนเศวตฉัตรองค์พระศาสดาที่วัดบวรเมื่อปี ๒๕๑๗ ให้บูชา 999 บาท

​

พระสมเด็จสุคโต พิมพ์ใหญ่ สมเด็จพระญาณสังวรฯ วัดบวรฯ ปลุกเสก ปี 2517
จัดสร้างเป็นที่ระลึก เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงยกนพปฎล พระมหาเศวตฉัตร ที่เปลี่ยนใหม่ถวายพระพุทธชินสีห์ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2517
ในครั้งนั้น คณะกรรมการวัดบวรนิเวศวิหารได้ดำเนินการจัดสร้างพระสมเด็จสุคโต โดยประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งเป็นพระสมเด็จ ที่มีการจัดสร้างอย่างครบถ้วนตามโบราณประเพณี เจตนาการสร้างบริสุทธิ์
องค์พระจัดสร้างโดยมวลสารมงคลที่สำคัญมากมาย อาทิเช่น นพปฎลมหาเศวตฉัตร , พระศกพระพุทธสุวรรณเขต , พระโคนสมอ , พระสมเด็จปิลันทร์พิมพ์ต่างๆ ที่แตกชำรุด , เส้นพระเกศาสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ , เส้นพระเกศาสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส,เส้นพระเกศาสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ และเส้นพระเกศาอาจารย์ฝั้น อาจาโร จ.สกลนคร
โดยสมเด็จพระสังฆราชฯ สมเด็จพระญาณสังวร ทรงเป็นองค์ประธานฯ ในพิธีดังกล่าว มีการอาราธนาพระเถระคามวาสี และพระเถระอรัญวาสีที่ทรงกิติตคุณในทางพระกรรมฐาน อาทิ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นต้น ในวงการขนานพระนาม พระชุดนี้ว่า พระ 3 สมเด็จ

 

3555.พระพรหม เนื้อดินเผา หลวงปู่สีห์ วัดสะแก จ.อยุธยา ปี 2519 ให้บูชา 1650 บาท

​

ในการสร้างพระพรหมสายของอาจารย์เฮง ไพรยวัลย์ ทุกครั้งมักจะมีหลวงปู่สีเป็นฝ่ายสงฆ์เสมอ พิธีการสร้างของท่านพิถีพิถันนทุกขั้นตอน พระพรหมรุ่นนี้ออกมาหลายเนื้อ คือเนื้อผงปถมังล้วน (สร้างน้อย), เนื้อก้นครก แลเนื้อดินเผา โดยมวลสารหลักคือผงปถมังนั่นเอง
ยันต์ด้านหลังประกอบด้วย ตรงกลางคือยันต์โอมสิทธิ คือความสำเร็จ ซ้าย-ขวา คือยันต์ เทพรำลึกกับเทพรัญจวน ตัวล่างคือยันต์โภคทรัพย์อักขระล้อมรอบอ่านว่า จตุรภัทรา จะ มหาพรหมามหิเดชา สัพพะเสน่หา ประสิทธิเม คาถานี้ใช้กับพรหมสายวัดสะแก
พระพรหม คือ พระเจ้าผู้สร้าง ผู้ลิขิตความเป็นไปของทุกสรรพสิ่ง เป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของมนุษย์ทุกคน พระพรหมจึงเป็นผู้รู้ความเคลื่อนไหวของสรรพชีวิต เหตุการณ์สำคัญของโลกล้วนอยู่ในสายตาของพระพรหม พระพรหมคือมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่หนึ่งในสามตรีมูรติ ทรงรับฟังคำอธิษฐานของผู้ศรัทธาเสมอ ผู้บูชาพระพรหมและทำความดี จะได้รับการบันดาลพรให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา

 

3556.พระดีในตำนาน สมเด็จพิมพ์ยันต์ข้างหลวงปู่ทอง หลังยันต์ตรี รศ.๑๑๒ ให้บูชา 1850 บาท

​

​

สุดยอดเกจิผู้ถูกขนานนามว่า"อาจารย์ของอาจารย์"เพราะหลวงปู่ทองมีลูกศิษย์มากมายเหลือเกิน เช่น
หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว
หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพระองค์
หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา
หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม
หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ
หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน
นอกจากนี้ก็ยังมีเกจิอีกมากมายที่มาขอศึกษาวิชากับท่านเนื่องด้วยหลวงปู่ทองเป็นพระที่เชี่ยวชาญทั้งภูมิธรรมและกรรมฐานหาใครเทียบได้ ดีกรีระดับศิษย์น้องร่วมสำนักกับสมเด็จพุฒาจารย์โต และ หลวงพ่อแก้ว วัดเคลือวัลย์ แบบนี้ย่อมไม่ธรรมดาแน่นอนครับ พระที่หลวงปู่ทองจัดสร้างจึงมีส่วนผสมผงวิเศษทั้ง 5 ที่สมเด็จพุฒาจารย์โตใช้สร้างพระสมเด็จวัดระฆังผสมรวมอยู่ด้วย