พระเครื่อง พระกรุ นิยม

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย พลังชาตรี 13, 5 กรกฎาคม 2011.

  1. antcorleone

    antcorleone เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2012
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +449
    รบกวนขอทราบราคาด้วยครับ
    ขอบคุณครับ
     
  2. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    ความหมายในวงการพระเครื่องเกี่ยวกับพระเหรียญ

    1. สภาพทำความสะอาดผิว คือ การทำความสะอาดผิวพระให้มีสภาพดีขึ้นกว่าเดิมด้วยกรรมวิธีที่ถูกต้อง/ถูกวิธีการ ทำให้พระดูสวยขึ้น ดูง่ายขึ้น ไม่เสียสภาพไปจากเดิม และพระจะมีมูลค่ามากกว่าสภาพที่ยังไม่ทำความสะอาดผิว
    เป็นความหมายในทาง " บวก"

    2. สภาพล้างผิว คือ การทำความสะอาดผิวพระให้มีสภาพสะอาดขึ้นกว่าเดิม แต่กรรมวิธีในการทำความสะอาด ไม่ถูกวิธี ทำให้พระเสียสภาพผิวพระไปจากเดิม ดูใหม่แวววาว ดูยากขึ้น ดังนั้นพระจะมีมูลค่าน้อยกว่าสภาพที่ยังไม่ล้างผิวครับ

    3. สภาพแต่งผิวเหรียญ เป็นการนำเหรียญที่ขาดความสวยงามตามธรรมชาติ มาเสริมแต่งด้วยกรรมวิธีที่ตามๆเพื่อให้ได้มาซึ่งความสวยงาม (แต่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ) ทำให้ราคาพระต่ำลงไปอย่างมากๆ "ไม่ควรทำ"

    4. สภาพชุบเงิน/ทอง/นิกเกิล/ใหม่ เป็นการพระนั้นๆไปชุบใหม่เพื่อให้เกิดความสวยงามขึ้นแต่จะไม่ได้ความสวยงามตามธรรมชาติคงเดิม ทำให้ราคาพระต่ำลงไปอย่างมากๆ "ไม่ควรทำ"
     
  3. thered99

    thered99 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2012
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +5
    รบกวนขอราคาเสมา 8 รอบด้วยครับ
    ขอบคุณครับ
     
  4. nuttapum

    nuttapum Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +49
    ขอจองลูกอมผงพรายกุมารออกวัดโพธิ์สัมพันธ์ ลูกที่3 ครับ
    แล้วก็ขอทราบราคาหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปิดตาฝังพลอย หลังยันต์ห้า กับเหรียญพระยาพิชัยดาบหัก ปี 2513
    ขอบคุณมากครับ
     
  5. thered99

    thered99 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2012
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +5
    ขอราคาลูกประคำทาง PM หน่อยครับ
    ขอบคุณครับ
     
  6. บัญชาโส

    บัญชาโส สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +12
    ขอทราบราคาบูชาพระปิดตา มหาอุตตโม ครับ
    องค์ที่ ๓.
    องค์นี้ราคาเบาๆครับโค๊ดตอกแฉลบไปเท่านั้นครับ
     
  7. tumnansakyun

    tumnansakyun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    2,595
    ค่าพลัง:
    +3,638
    องค์นี้ยังอยู่มั้ยครับ เห็นไม่ขึ้นว่ามีคนบูชาแล้ว
     
  8. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    พระปิดตาลายกนกหลวงปู่ทิมปลุกเสกนาน ๙ เดือน

    ผสมผงพรายกุมารพลอยเสกพุทธคุณสุดเมตตามหานิยม

    องค์ที่ ๑. พิมพ์สามพระองค์ สุดหายาก

    [​IMG]

    พร้อมบัตรรับรองสากล

    [​IMG]

    ..........................................................

    องค์ที่ ๒. .

    [​IMG]

    [​IMG]

    บูชาพระแท้เปี่ยมด้วยพุทธคุณสบายใจกับ พลังชาตรี 13

    พระชุดวัดบ่อวิน อ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี

    พระชุดนี้ หลวงปู่ทิมได้มอบมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ให้คุณมาโนช เหล่าขวัญสถิตย์ เจ้าของร้านนาวาชายหาด ศิษย์ก้นกุฎิเป็นผู้ดำเนินการ จัดสร้างเมื่อราวปี พ.ศ. 2515-2516

    มวลสารที่ใช้ในการจัดสร้าง
    มวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงปู่ทิมมอบให้ในปริมาณมาก อาทิ ผงพุทธคุณต่างๆ,
    1. ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม จำนวนมากสุด,
    2. จีวร,
    3. เกศาของหลวงปู่ทิม,
    4. พลอยเสก หลวงปู่ทิม
    5. หมอนหนุนหัว ของหลวงปู่ทิม พลอยเสก (หมอนที่ใช้หนุนมาตั้งแต่บวชใหม่ๆ) และบอกว่า นี่แหละของดี เพราะหมอนมีความหมายถึงการหนุนดวง สำหรับคนดวงตก หมายถึงการค้ำดวง จากคำบอกเล่า ของครูดุก พัทยา ผู้เคยบวชร่วมสมัยกับพระอาจารย์กิม ซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อตาของคุณมาโนช ผู้สร้างพระชุดนี้ครับ

    เมื่อแล้วเสร็จคุณมาโนช ได้นำไปถวายให้พระอาจารย์สายกรรมฐาน เมตตาอธิษฐานจิตในวาระแรก
    รายนามพระอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระชุดวัดบ่อวิน
    1.หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร
    2.หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
    3.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    4.หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล
    5.พระอาจารย์วัน วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม
    6.หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั่ง
    7.หลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม
    8.หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก
    หลังจากนั้นก็นำเข้าพิธีต่างๆ ในแถบภาคตะวันออกอีกไม่ต่ำกว่า 9 พิธี

    วาระสุดท้าย
    ได้นำไปถวายให้ หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ เมตตาอย่างมาก ปลุกเสกเดี่ยวให้ ตั้งแต่เมื่อ
    วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2517 จนถึง วันที่ 29 กรฎาคม พ.ศ.2518 เป็นระยะเวลานานมากถึง 9 เดือน 20 วัน ถือว่าเป็นพระของหลวงปู่ที่มีประวัติการปลุกเสกชัดเจนและมากด้วยคุณค่าอย่าง แท้จริง

    พระเครื่องพิมพ์นี้นั้นแบบพิมพ์ถูกแกะมาอย่างมีเอกลักษณ์ นับว่าเป็นของดีราคาเบาน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งครับ

    ถือว่าเป็นพระของหลวงปู่ที่มีประวัติการปลุกเสกชัดเจนและมากด้วยคุณค่า อีกทั้งเข้าพิธีปลุกเสกอีกครั้งในพิธีทำบุญ ๑๐๐ วันหลวงปู่ทิมโดยหลวงปู่แก้ว เกสาโร ปลุกเสกอีกครั้งหนึ่งครับ

    เล่นพระสวยพระดีมีมาตรฐาน เล่นแบบสบายใจพร้อมบัตรรับรองพระแท้

    พระไม่ดีไม่แท้ไม่นำมาลงให้ศึกษากันผิดๆครับ

    บูชาพระไม่ต้องเสี่ยงพร้อมใบเซอร์ พลังชาตรี 13

    รับประกันพระแท้ไม่มีกำหนด องค์ใหนเก็ บวกให้ 2000 บาท
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  9. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    พระสิวลี เนื้อผงจินดามณี หลวงปู่แก้ว วัดละหารไร่ สภาพสวย

    เนื้อผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม/ผสมผงจินดามณี

    หลวงปู่แก้ว เกสาโร ท่านเป็นพระเกจิที่เก่งมากขนาดหลวงปู่ทิมยังให้ความเชื่อถือท่าน "ท่านแก้วสำเร็จธาตุ" เป็นคำพูดที่หลวงปู่ทิมได้กล่วาเอาไว้
    พระที่ท่านทำแทบทุกรุ่นเป็นที่ยอมรับของวงการ มีการเล่นหาเก็บสะสมในวงกว้างเป็นมาตราฐาน เก็บไว้ครับไม่ผิดหวัง


    องค์จริงเสียงจริงแทบจะไม่มีให้เห็นกันครับ สภาพสวยพระสิวลี เนื้อผงพราย/จินดามณี หลวงปู่แก้ว ยอดพุทธคุณประสบการณืเยี่ยม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  10. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    ผ้ายันต์พัดโบก

    สุดยอดวิชาพัดโบก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

    “วิชาทำพัดโบก”

    “หลวงพ่อกราด วัดชากกอไผ่” และ “ฆราวาส สาย”

    หลวงพ่อทิมเล่าเรียนและศึกษาวิชาอาคมอยู่กับหลวงพ่อกราดถึง 2 ปี
    จนเชี่ยวชาญในวิชาอาคมต่างๆ จากหลวงพ่อกราดเป็นพิเศษ บางครั้งท่านจะเห็นหลวงพ่อกราดแสดงฤทธิ์ให้เห็น
    อย่างจะจะหลายครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งชาวบ้านแถบนั้นได้นำเอาตะกั่วถ้ำชามามอบให้หลวงพ่อกราดเพื่อลงตะกรุดโทน
    จะได้นำไปติดตัวตอนเป็นทหาร หลวงพ่อกราดก็บอกว่า อีก 7 วันมาเอา เมื่อครบ 7 วันชายผู้นั้นก็ไปหา
    หลวงพ่อกราดเพื่อรับตะกรุดโทน ขณะนั้นหลวงพ่อกราดนั่งอยู่บนกุฏิพอเห็นชายผู้นั้นท่านจึงเอ่ยว่า ไอ้ทิดตะกรุด
    ของเอ็งตกอยู่ข้างล่าง ลงไปหยิบให้ทีสิ พอชายผู้นั้นหยิบขึ้นมาแล้ว หลวงพ่อกราดก็ใช้ฉมวกสำหรับแทงปลา
    อันแหลมคม พุ่งอย่างแรงไปที่กลางหลังของชายที่กำลังถือตะกรุดอยู่ เสียงดังสนั่น ชายผู้นั้นถึงกับล้มทั้งยืนหน้าซีด
    ไม่มีสีเลือด นั่งอยู่กับพื้นพูดอะไรไม่ออก หลวงพ่อกราดจึงตะโกนไปว่า อะไรว่า อยากได้ของดียังใจเสาะอีก
    เดี๋ยวเอาของคืนเสียเลย

    หลวงพ่อกราดท่านเป็นพระยุคเดียวกับหลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่าย ซึ่งหลวงพ่อวงศ์ท่าน
    เป็นพระมีอาคมสูงเคยไปปลุกเสกในงานหนึ่ง ซึ่งในงานนี้มีหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม นั่งปลุกเสกอยู่ข้างๆ
    จนหลวงพ่อคงเมื่อพิธีเลิกแล้วถึงกับพูดกับอาจารย์เภาว่า "ไม่รู้ว่าพระที่นั่งข้างฉันอยู่วัดไหน กระแสจิต
    แรงกล้าเหลือเกิน ฉันจับสายสิญจน์ทีไรสะดุ้งทุกที” นี่ย่อมแสดงถึงความมีอำนาจจิตอันแรงกล้าของหลวงพ่อวงศ์

    อดีตก่อนนั้นการสื่อสารยังไม่มีเหมือนกับในยุคนี้ ยามที่วัดหลวงพ่อวงศ์มีงาน หลวงพ่อวงศ์จะเสกหุ่นพยนต์
    มาตามหลวงพ่อกราดไปช่วยที่วัด หรือบางครั้งหลวงพ่อกราดก็เสกอีกาไปบอกข่าวให้แก่หลวงพ่อวงศ์ จนเป็นที่เลื่องลือ
    ของชาวบ้านในยุคนั้นเป็นอย่างมาก หลวงพ่อวงศ์นี้คนจีนแถวปากน้ำระยองนับถือท่านมากทีเดียว ท่านเป็นพระสงฆ์
    ที่มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ รูปร่างท่านอ้วนท้วน สมบูรณ์ ใจดี ชอบช่วยเหลืออนุเคราะห์ผู้อื่นมาก ท่านเป็นพระหมอที่มีความ
    เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรเป็นพิเศษ เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสังข์เฒ่า

    มีอยู่วันหนึ่งขณะที่ท่านกำลังนั่งโขกหมากรุกอยู่กับพระในวัด ได้มีคนจีนที่ปากน้ำระยองมาหาท่านเพื่อ
    ขอให้ท่านทำน้ำมนต์ คนจีนผู้นั้นได้เดินไปหาหลวงพ่อวงศ์พร้อมกับน้ำใส่ขวดถือไปด้วย หลวงพ่อวงศ์พูดว่า
    น้ำในขวดใช้ได้แล้วเอากลับไปบ้านเถิด ทั้งๆ ที่ตามองไปที่กระดานหมากรุก คนจีนผู้นั้นเห็นเช่นนั้น
    จึงเกิดความเสื่อมศรัทธาและลาหลวงพ่อวงศ์กลับทันที เมื่อเดินทางมาระยะหนึ่งจึงหยิบขวดน้ำมนต์มาดูและ
    ตัดสินใจเททิ้งทันที แต่ปรากฏว่าเทเท่าไรๆ น้ำมนต์ก็ไม่ไหลออกจากขวด พอตั้งขวดให้อยู่ในสภาพตั้งตรง
    น้ำในขวดก็ยังอยู่เหมือนเดิม ทำความตกอกตกใจให้คนจีนผู้นั้นเป็นอย่างมากถึงกับยกมือไหว้ไปทางวัดบ้านค่าย
    พร้อมทั้งขอขมาท่าน เมื่อกลับมาถึงปากน้ำระยองแล้วจึงได้นำเรื่องราวของหลวงพ่อวงศ์ที่ตนเองประสบมาเล่า
    ให้บรรดาพรรคพวกฟัง ปรากฏว่าวัดหลวงพ่อวงศ์ได้มีผู้ไปหาท่านเพื่อขอของดีจากหลวงพ่อวงศ์เป็นอย่างมาก
    ทีเดียวในยุคนั้น หลวงพ่อวงศ์นี้เมื่อเวลามรณภาพปรากฏว่าได้มี นกบินมาที่เมรุเผาศพท่านเป็นจำนวนมาก
    เสมือนกับนกเหล่านี้จะมาไว้อาลัยให้แก่หลวงพ่อวงศ์ เมื่อเผาเสร็จแล้วนกเหล่านี้ก็บินหายไปไม่เหลือแม้
    กระทั่งตัวเดียว

    สำหรับ หลวงพ่อกราด วัดชากกอไผ่ ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อทิมก็มีอิทธิฤทธิ์ไม่แพ้
    หลวงพ่อวงศ์เช่นกัน เนื่องจากหลวงพ่อกราดเป็นพระที่ชอบสูบกัญชา ลักษณะภายนอกเหมือนพระวิกลจริต
    จึงถูกคนช่างฟ้องนำไปฟ้องหลวงพ่อขาว วัดทับมา ซึ่งเป็นเจ้าคณะแขวงในสมัยนั้น หลวงพ่อขาว
    จึงลงมาสอบสวนหลวงพ่อกราดด้วยตนเอง หลวงพ่อกราดก็ให้โยมวัดรินเหล้ามาแก้วหนึ่งแล้วนำมาถวาย
    หลวงพ่อขาว หลวงพ่อขาวรับไว้แล้วยกขึ้นดื่มทันที เมื่อหลวงพ่อขาวดื่มไปได้ครึ่งแก้วจึงวางแก้วเหล้าลง
    แล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “เออ...ข้ารู้แล้ว เอ็งไม่ผิดหรอก" ปรากฏว่าเหล้าที่หลวงพ่อขาวได้รับจาก
    หลวงพ่อกราดไปนั้นกลายเป็นน้ำฝนอย่างน่าอัศจรรย์” หลวงพ่อกราดจึงพูดว่า คนเขาลือว่ากระผม
    สูบกัญชามันก็เป็นเช่นเดียวกับเหล้าที่ท่านได้ดื่มไปเมื่อสักครู่นี้แหละครับ

    เมื่อเรียนวิชาอาคมกับหลวงพ่อกราดจนเชี่ยวชาญแล้ว หลวงพ่อทิมก็ลาหลวงพ่อกราดสู่วัดละหารไร่
    ก่อนกลับหลวงพ่อกราดได้แนะนำว่า ถ้ายังคิดอยากจะเรียนวิชาอย่างอื่นอีก ก็ให้ไปหาฆราวาสผู้หนึ่ง ชื่อ
    สาย อยู่บ้านส้อง จังหวัดปราจีนบุรี ฆราวาสคนนี้เก่งมากอยู่ในป่าเป็นนิจ ขอให้ลองไปหาดูและถ้าเจอ
    ก็ให้บอกว่าข้าเป็นผู้แนะนำมา หลวงพ่อทิมก็รับคำหลวงพ่อกราดผู้เป็นอาจารย์แล้วก็เดินทางกลับวัดละหารไร่ทันที
    หลังจากออกพรรษาแล้วท่านก็เดินทางไปบ้านส้องเพื่อหาฆราวาสที่ชื่อสาย แต่ก็หาไม่พบ ท่านจึงเดินทางไป
    อำเภอพนัสนิคม เพื่อไปหา หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดนามะตูม
    อยู่ถึง 3 พรรษา หลังจากนั้นท่านก็ลาหลวงพ่อโด่เพื่อเดินทางไปบ้านส้องอีก โดยบุกป่าฝ่าดงไปในกลางป่า
    อย่างลำบากลำบนแต่ท่านก็ไม่ย่อท้อต่อความลำบากเลย จนมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งอยู่ในป่าลึก ท่านได้เห็น
    ผู้เฒ่าคนหนึ่งอายุประมาณ 70 ปีแต่ยังแข็งแรงมาก คนเดียวมีเมียเกือบ 20 คน รวมทั้งลูกๆ ของผู้เฒ่านี้อีก
    40-50 คน หลวงพ่อทิมก็เดินเข้าไปไถ่ถาม ถามไปถามมาจึงทราบว่า ผู้เฒ่าผู้นี้ชื่อสาย ท่านจึง
    บอกว่าหลวงพ่อกราด แห่งวัดชากกอไผ่ได้แนะนำมาเพื่อขอเล่าเรียนวิชา เมื่อฆราวาสสายได้ยินดังนั้นจึงนิมนต์
    หลวงพ่อทิมขึ้นบนบ้านและก็ได้สอนวิชาต่างๆ ให้หลวงพ่อทิมจนหมดสิ้นอย่างไม่ปิดบัง ส่วนมากจะเป็นวิชาหนัก
    ไปทางเมตตามหานิยมต่างๆ วิชาทำสีผึ้ง วิชาลงตะกรุดสาลิกา สำหรับวิชาทำสีผึ้งนั้นผู้เฒ่าสายสอนจน
    ให้เห็นจริง โดยการเอาสีผึ้งนี้ไปป้ายลูกไก่ที่อยู่ในอ้อมอกแม่ไก่ ปรากฏว่าลูกไก่ถึงกับเดินตามผู้ที่มีสีผึ้งนี้ทันที
    สำหรับตะกรุดสาลิกานี้หลวงพ่อทิมสามารถเรียนจนเสกให้ตะกรุดนี้ลอยน้ำขึ้นมาและวิ่งวนในบาตร


    ผ้ายันต์พัดโบก สุดยอดวิชาผ้ายันต์ หลวงปู่ทิมปลุกเสก ปี 2518
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  11. tee5555

    tee5555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,223
    ค่าพลัง:
    +976
    รบกวนสอบถามพี่พลังชาตรี13 ครับ ขุนแผนบรมครู32 องค์นี้แท้ไหมครับผม ทำไมผงตะไบไม่ค่อยมีเลยครับ รบกวนด้วยนะครับผม ขอบคุณครับผม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    เหรียญกรมหลวงชุมพรปากน้ำประแสร์ ปี ๒๕๑๒

    สุดยอดของดีของเมืองไทย มีเสด็จเตี่ยติดตัวไม่ต้องกลัวสิ่งใด

    เหรียญกรมหลวงชุมพรปากน้ำประแสร์ ปี ๒๕๑๒ เหรียญกรมหลวงชุมพรเนื่องในวันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๑๒ ที่ตำบล ปากน้ำประแสร์ อ.แกลง จ.ระยองได้มีพิธีเททอง หล่อรูปเหมือน เสด็จเตี่ย หรือ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งราชนาวีไทย โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเททอง โดยพระองค์เอง โดยสร้างรูปหล่อเหมือนขนาดเท่าองค์จริง และ พระรูปเหมือนขนาดแขวนห้อยคอ พร้อมทั้งเหรียญรูปเหมือน ของท่าน กรมหลวงชุมพร เขตต์อุดมศักดิ์ . สำหรับ ประวัติคร่าวๆ ของ ท่านกรมหลวงชุมพร เขตต์อุดมศักดิ์ หรือ เสด็จเตี่ย บิดาแห่งราชนาวีไทย ท่านยังเป็นศิษย์ที่ได้รับการสืบทอดพุทธาคมมาจาก หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน และ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ที่เราทราบกันดีอยู่แล้วนะครับ ว่าท่านมี วิชาอาคม ที่ไม่ธรรมดา จริงๆ.
    โดยได้มีการนิมนต์พระเกจิอาจารย์ชื่อดังในเขตจังหวัดระยอง และ พื้นที่ใกล้เคียง มาร่วมงานพุทธาภิเษกอย่างมากมาย โดยเฉพาะมีท่านพระครูภาวนาภิรัต หรือ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ มาร่วมงาน ปลุกเสก พิธีใหญ่ ลป.ทิม วัดระหารไร่ ปลุกเสกร่วมกับพระคณาจารย์ ๑๐๘ รูป.ครับ


    บันทึก ของ เสด็จในกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ เจอบันทึกนี้ ให้เอาคำต่อไปนี้ของกูไปประกาศให้คนรับรู้ว่า กู กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้เป็นโอรสของพระปิยะมหาราช ขอประกาศให้พวกมึงรับรู้ไว้ว่า แผ่นดินสยามนี้ บรรพบุรุษได้เอาเนื้อเอาชีวิตเข้าแลกไว้ ไอ้อีผู้ใดมัน คิดบังอาจทำลายแผ่นดิน ทำลายชาติ ทำลายศาสนา พระมหากษัตริย์ ฤากระทำการทุจริต ก่อให้เกิดความเดือนร้อนต่อส่วนรวม จงหยุดคิดการกระทำนั้นเสียโดยเร็ว ก่อนที่กูจะสั่งทหารผลาญสิ้นทั้งโคตรให้หมดเสนียดของแผ่นดินสยาม อันเป็นที่รักของกู ตราบใดที่คำว่าอาภากร ยังยืนหยัดอยู่ในโลก กูจะรักษาแผ่นดินสยามของกู ลูกหลานทั้งหลาย แผ่นดินใดให้กำเนิดเรามา แผ่นดินใดให้ที่ซุกหัวนอน ให้ความร่มเย็นเป็นสุข มิให้อนาทรร้อนใจ จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น กลับ รคนั้นโรคนี้ ให้หายขาดได้ เมื่อผู้คนพากันรู้ว่า เจ้าพ่อรักษาโรคได้ฉมังนัก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  13. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    สมเด็จคะแนนยันต์เฑาะห์ หลวงปู่ทิม ออกวัดละหารไร่ ปี2515

    ขุนพลจิ๋วแห่งบ้านค่าย ด้วยเนื้อมวลสารผงพรายที่เข็มขลัง

    สมเด็จคะแนนยันต์เฑาะห์ หลวงปู่ทิม ออกวัดละหารไร่ ปี2515 โดยท่านเล้ง เขาน้อย เป็นผู้จัดสร้างในครั้งที่ไปคุมดูงานแกะพิมพ์พระแก้วพระพุทธบาทสี่รอย โดยหลวงตาบางท่านมาให้ช่วยแกะพิมพ์สมเด็จหลังยันต์สามยันต์ห้าในช่วงเวลานั้น
    โดยที่คุณเล้ง เขาน้อย ได้ไปมีโอกาศกราบใหว้หลวงปู่ทิม ที่วัดละหารไร่ ได้พบว่าหลวงปู่ทิมท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีจริยวัตรที่น่าเสื่อมใสมากๆจึงเกิดศรัทธาหลวงปู่ท่านมาก จึงได้ทำการขอหลวงปู่ทิมท่านจัดสร้างสมเด็จองค์จิ๋วโดยมีด้านหลังเป็นยันต์เฑาะห์ไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งหลวงปู่ทิมท่านก็ได้อนุญาตโดยยังมอบผงวิเศษต่างๆให้ผสมมี "ผงพรายกุมาร" เป็นสำคัญและผงของสมเด็จหลังยันต์ห้า/และยันต์สาม/อีกทั้งผงพุทธคุณต่างๆของหลวงปู่มาให้ผสมเป็นมวลสาร เมื่อผสมและกดพิมพ์ได้เป็นสมเด็จองค์จิ๋วยันต์เฑาะห์เสร็จก็นำมาให้หลวงตาบางท่านนำไปถวายหลวงปู่ทิมปลุกเสก

    ณ.วัดละหารไร่ เมื่อหลวงตาบางท่านนำมาถวายหลวงปู่ทิม หลวงปู่เมตตาปลุกเสกให้เป็นเวลานานมากถึง 1 ไตรมาส (3 เดือน) เมื่อปลุกเสกเสร็จสมเด็จคะแนนองค์จิ๋วยันต์เฑาะห์ จึงได้บรรจุไปด้วยพุทธานุภาพอันเป็นสาระธรรมที่สุงอย่างยิ่งทั้งมวลสารและพุทธคุณผงวิเศษต่างๆที่นำมาผสมเป็นมวลสาร ดังหลวงปู่ทิมท่านเคยกล่าวไว้ว่าพระสมเด็จเป็นเรื่องของผู้ที่มีบุญบารมีสุงจึงได้ครอบครอง


    ขุนพลจิ๋วแห่งบ้านค่าย ด้วยเนื้อมวลสารผงพรายที่เข็มขลัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  14. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ พระปิดตา เนื้อว่านเหลือง ออกวัดสุวรรณรังสรรค์ ปี พ.ศ.2516 มีเกจิร่วมปลุกเสกหลายรูปอาทิ เช่น
    1. หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    2. หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า
    3. หลวงปู่หอม วัดซากหมาก....
    ซึ่งล้วนเป็นสุดยอดคณาจารณ์ของจังหวัดระยองในยุคนั้นครับ พระปิดตานี้สร้าง พร้อมเหรียญวัดยายร้า "เจริญพร" (ซึ่งเวลานี้สวยๆราคาทะลุหลักหมื่นไปแล้ว) ท่านเจ้าอาวาส ซึ่งมีความเคารพนับถือในหลวงปู่ทิมมาก ได้ขออนุญาต หลวงปู่ทิม สร้างจัดงานพุทธาภิเษกขึ้น หลวงปู่ทิม ท่านได้เมตตาปลุกเสก ให้เป็นกรณีพิเศษพร้อมด้วย เกจิอาจารย์ชื่อดัง นั่งปรก ๓ รูป ได้แก่ หลวงปู่ทิม หลวงพ่อชื่น และหลวงพ่อหอม เพื่อออกให้ประชาชนได้บูชา เพื่อหารายได้ ไว้ใช้ในการทนุบำรุง วัดยายร้า


    ในส่วนของพระปิดตา หลวงปู่ทิม ท่านเมตตามอบผงพรายกุมารให้กับท่านเจ้าอาวาสวัดสุวรรณรังสรรค์จำนวนหนึ่ง เพื่อผสมเป็นมวลสารด้วย การพิมพ์พระในยุคนั้น ได้ให้ช่างแกะบล็อก อย่างสวยงาม แต่การผสมมวลสาร พระลูกวัด สามเณร เด็กวัด ช่วยกันทำ เวลาปั๊มเสร็จแล้วนำไปผึ่งแดด ทำให้เนื้อหดอย่างรวดเร็ว บางองค์ ยันต์ด้านหลัง จะเห็นรอยหดตัวอย่างชัดเจน ราคายังน่าเก็บ สำหรับพระผสมผงพรายกุมารสำนักนี้ครับ
    เนื้อว่านเหลืองอุปเท่ห์ ในการบูชาพุทธคุณจะเด่นในเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ การค้าการขายมีความเจริญรุ่งเรืองไม่จบสิ้น ติดต่อธุระกิจดีมากๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  15. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ สมเด็จพิมพ์อกร่อง ปี 2513
    สมเด็จ ปรกโพธิ์ พิมพ์ใหญ่ เนื้อผงธูป วัดไผ่ล้อมปี 2513

    ประวัติพระเครื่องสมเด็จพิมพ์อกร่อง วัดไผ่ล้อม อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
    หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ เป็นเจ้าพิธีปลุกเสก หลวงปู่ทิมมอบผงจินดามณีให้สำหรับจัดสร้าง 1 กระป๋อง และเมตตาปลุกเสกให้ถึง 2 ครั้ง ปี พ.ศ.2513 เพื่อแจกเป็นที่ระลึกในงานผูกพัทธสีมาของวัดไผ่ล้อมในปี พ.ศ.2514


    ในครั้งเริ่มแรก พระอาจารย์จำปี วิปุโล(จำรัสแสง) ได้รับมอบหมายจาก พระอาจารย์พูน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ให้เริ่มทำการสะสมว่านนานาชนิด มีทั้งว่านประเภทคงกระพันชาตรี, เมตตามหานิยม, ป้องกันสัตว์ร้ายเขี้ยวงาทุกชนิด แร่ธาตุต่างๆหลายชนิด มีแร่บังขนิฏสีเขียว, สีดำ, สีมันปู, แร่ดอกมะขาม จ.กาญจนบุรี, แร่พลวงเงิน, แร่พลวงทอง, พลอยจันทบุรี สีนิล, ชินปรอทสังฆวานร, โมราท้องรุ้ง, เสาตะลุงช้างเผือก, กระดูกหัวกะโหลกช้างทรง, เพชรน้ำค้าง, ศิลาน้ำค้าง, เหล็กทรหด, เหล็กน้ำพี้,เหล็กยอดเจดีย์, สัมฤทธิ์, ข้าวตอกพระร่วง, ข้าวสุกลอยน้ำ, ข้าวสารดำ, ข้าวรอดเพชรหลีก, ไคลประตูเมือง,ไคลเจดีย์,ไคลเสมา9 แห่ง, ดินโป่ง 9 โป่ง 9 สี, ดินบริสุทธิ์ กลางมหาสมุทร, ดินกรุซุ้มกอทุ่งเศรษฐี เมืองกำแพงเพชร, ดินกรุสุโขทัย, ดินกรุอยุธยา, ดินท่า 9 ท่า, อีกทั้งยังได้เก็บรวบรวมผงพระเครื่องต่างๆทุกยุคทุกสมัยที่ชำรุด มีสมัยเชียงแสน, สุโขทัย, อู่ทอง, ลพบุรี, พิจิตร, พิษณุโลก, กำแพงเพชร, สุพรรณบุรี, อยุธยา,รัตนโกสินทร์, ผงพระ 25 พุทธศตวรรษ
    ส่วนผงวิเศษ ต่างๆที่เก็บสะสมไว้อีกมากมาย เช่นผงปฐมอักขระ,ผงไตรสรณาคม, ผงพระพุทธคุณ, พระธรรมคุณ, พระสังฆคุณ, ผงพระเจ้า ห้าพระองค์, ผงพระเจ้า 16 พระองค์, ผงตรีนิสิงเห, ผงอิทธิเจ, ผงปถมัง, ผงมหาราช, ผงสังตโลก, ผงมหาอุตม์หลวงพ่อวงศ์, ผงพระเกสรหลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่าย, ผงพระสมเด็จวัดระฆังที่หลวงปู่นาคมอบให้, ผงเก่าและสีผึ้งเขียว ของหลวงปู่ทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง ระยอง, ผงหลวงพ่อเพ่ง วัดละหารใหญ่ ระยอง, ผงพญางิ้วดำ, กาฝาก, กาหลง, กาฝากรักซ้อน, กาฝากมะยม, กาฝากมะรุม, กาฝากมะขาม, กาฝากมะนาว, กาฝากลั่นทม, เถาวัลย์หลง, เครือสาวหลง, ว่านสาวหลง, ไม้รู้นอนเก้าอย่าง, ยอดรัก, ยอดสวาท, กัลปังหา, ทรายเงิน, ทรายทอง, ว่าน 108, เกสรดอกไม้108, น้ำมนต์บ่อขุนไกรอันศักดิ์สิทธิ์ จึงได้นำมาผสมสร้างเป็นองค์พระ


    ก่อนที่จะเริ่มกดพิมพ์พระ ได้ทำพิธีบวงสรวงเทพเทวา ครูบาอาจารย์เสร็จแล้วจึงกดพิมพ์เป็นปฐมฤกษ์ โดยพระอาจารย์จำปี วิปุโล เมื่อวันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีระกา ตรงกับวันที่ 22 มีนาคม 2512 เวลา 09.09 น.ในราศีเมษ มหัทธโนแห่งฤกษ์ คือฤกษ์ที่มั่งคั่งสมบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สินเงินทองและเทพเทวารักษาดี

    เมื่อ พิมพ์พระเสร็จแล้ว ก็ได้ทำพิธีปลุกเสก โดยพระอาจารย์จำปี วิปุโล ได้นิมนต์พระภิกษุภายในวัดมาร่วมสวดบริกรรมพระปริต มีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณพระ 5 รูปสวดพระธรรมจักร 108 ตลอดคืน รวม 15 คืน เริ่มปลุกเสกเมื่อวันเสาร์แรม 5 ค่ำเดือน 9 อยู่ในพรรษา ตรงกับวันที่ 22 สิงหาคม 2513 จนถึงวันที่ 5 กันยายน 2513 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 10 ปีจอ รวม 15 คืน
    เป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างมาก เพราะว่าการทำพิธีครั้งนี้ตรงกับวันเสาร์ 5 ทั้งหมด คือตั้งแต่เริ่มพิมพ์ เริ่มปลุกเสก และวันสุดท้ายที่ปลุกเสกเดี่ยว ก็ตรงกับวันเสาร์อีกเช่นกัน ที่น่าอัศจรรย์อีกอย่างก็คือเมื่อทำพิธีปลุกเสกถึงเวลาตีห้าดับเทียนชัย ได้มีฝนตกซู่ลงมาประมาณ 1 นาที แล้วก็หยุดตกซึ่งจะเป็นอย่างนี้ทุกคืน

    วัตถุ มงคลที่จัดสร้างในครั้งนี้ได้ทำพิธีปลุกเสกใหญ่อีกครั้งหนึ่งโดย นิมนต์พระคณาจารย์ที่มีอาคมขลังขมังเวท 9 รูป นั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดคืน ดังมีรายนามดังต่อไปนี้

    1. หลวงปู่ทิม (พระ ครูภาวนาภิรัติ) วัดละหารไร่ จ.ระยอง,

    2. หลวงพ่อลัด(พระวิจิตร) วัดหนองกระบอก จ.ระยอง,
    3. หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า จ.ระยอง,
    4. หลวงพ่อโต่ง วัดบ้านเพ จ.ระยอง,
    5. หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือ จ.ระยอง,
    6. หลวงพ่อหอม วัดชากหมากป่าเรไร จ.ระยอง,
    7. หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี,
    8. หลวงพ่อสมชาย วัดแม่นางปลื้ม จ.อยุธยา,
    9. หลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม จ.อยุธยา

    มีสิ่งที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมากในการปลุกเสกพระเครื่อง ครั้งนี้ คือ ขณะที่หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ นั่งบริกรรมภาวนาอยู่นั้น ช่างภาพถ่ายรูปไม่ติด คือแฟลชไม่ขึ้น ถ่ายอยู่หลายครั้งก็ไม่สำเร็จผล ต้องขออนุญาตท่านก่อนจึงได้ถ่ายติด ในระหว่างที่หลวงปู่ทิม นั่งบริกรรมภาวนาอยู่นั้น ถ้าท่านหลับตาลงครั้งใด ไฟฟ้าจะดับทันที เป็นอย่างนี้ถึง ๓ ครั้ง ดังนั้นท่านจึงต้องบริกรรมภาวนาลืมตาตลอดคืน ไม่ได้พักเลย จนกว่าเสร็จพิธีคือสว่าง (ในวันที่ทำพิธีปลุกเสกนั้นได้เริ่มพิธีตั้งแต่ 18.00 น.จนถึง 22.00 น. หลังจากนั้นพระเกจิอาจารย์ทั้งแปดรูปก็ได้กลับวัด เหลือแต่หลวงปู่ทิมที่ยังไม่ได้กลับ หลังจากนั่งพักผ่อนไม่นาน หลวงปู่ทิมจึงได้ก้าวขึ้นไปนั่งบนธรรมมาสน์อีกครั้ง ได้เริ่มนั่งปลุกเสกเดี่ยวต่อไป)

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  16. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    พระผงรูปเหมือนหลวงปู่ทิม ออกวัดหนองกาน้ำ หลวงปู่ทิม ปี 2516

    หลวงปู่ทิมปลุกเสก เดี่ยว 3 ไตรมาส (ผงพรายกุมาร)

    สำหรับแฟนพันธุ์แท้หลวงปู่ทิม (พิมพ์ใหญ่หายากสุดๆ)
    บูชาพระแท้เปี่ยมด้วยพุทธคุณสบายใจกับ พลังชาตรี 13
    พระผงรูปเหมือน พิมพ์ใหญ่ หลวงปู่ทิม ปลุกเสก ออกที่วัดหนองกาน้ำ จังหวัดชลบุรี เนื้อผงพรายกุมารและผงวิเศษของหลวงปู่ทิมและหลวงตาบางที่ท่านได้เก็บสะสมไว้ จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2515-2516 ปลุกเสกโดย หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จัดสร้างโดยหลวงตาบาง แห่งวัดหนองกาน้ำ พระผงรูปเหมือนรุ่นนี้จัดสร้างพร้อมกับ พระสมเด็จหลังยันต์ห้า,หลังยันต์สาม และพระปิดตา ของวัดหนองกาน้ำ



    ผงวิเศษที่หลวงปู่ทิมเมตตามอบให้ หลวงตาบาง

    1. ผงพรายกุมาร
    2. ผงปถมัง (มีอานุภาพทางคงกระพันชาตรี เป็นมหาจังงัง กำบังกายได้ ถ้านำผงนี้ติดตัว คนอื่นจะไม่เห็นเราได้)
    3. ผงมหาราช (เด่นทางเสน่ห์ ใช้ได้สารพัด 108)
    4. ผงพุทธคุณ (มีอุปเท่ห์คล้ายกับผงมหาราช มีอานุภาพสูงในทางป้องกันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร ฯลฯ)
    5. ผงตรีนิสิงเห (ซึ่งผงวิเศษที่ลบขึ้นนี้ มีคุณวิเศษและประสิทธิภาพสูงมาก เมื่อนำมาผสมสร้างวัตถุมงคล ก็ทำให้วัตถุมงคลนั้นๆมีพลานุภาพสูงยิ่งๆขึ้น และยิ่งได้รับการประจุกระแสจิตจากพระผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ ก็ยิ่งทำให้วัตถุมงคลนั้นๆมีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ยิ่งๆขึ้นไปอีก สามารถนำมาอธิษฐานได้ดั่งใจต้องการ...")
    6. ผงอิทธิเจ (มีอานุภาพสูงทางเมตตา มหานิยม หากนำไปให้ผู้หญิงกิน ผู้หญิงจะลุ่มหลงและระลึกนึกถึงผู้ที่เอาผงนี้ให้กินอยู่เสมอจนทนไม่ได้ จนต้องมาอยู่กินกับชายผู้นั้นในที่สุด ซึ่งหลวงปู่ทิมได้สาปแช่งเอาไว้ หากใครเอาผงไปใช้ในทางที่ผิด)



    ประวัติการจัดสร้าง
    หลวงตาบาง ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดหนองกาน้ำ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้เดินทางไปหาหลวงตารอด ที่วัดละหารไร่ เพื่อปรึกษาจะสร้างพระสมเด็จ และพระปิดตา เพื่อหาทุนสร้างศาลาและโบสถ์ที่วัดแห่งหนึ่ง ท่านทั้งสองได้ขออนุญาตหลวงปู่ทิมเพื่อจัดสร้าง หลวงปู่ทิมให้ก็ให้สร้างตามคำขอ พร้อมทั้งได้มอบผงพุทธคุณ/ผงพรายกุมารนำไปผสม เพื่อจัดสร้างพระจำนวนหนึ่ง หลวงตาบางท่านได้เดินทางไปถวายให้ หลวงปู่ทิมเมตตาปลุกเสกเดี่ยว 3 ไตรมาส เมื่อถึงกำหนดเวลา หลวงตาบางก็ได้เดินทางมารับพระผงรูปเหมือน/พระสมเด็จและพระปิดตาจากหลวงปู่ทิม เนื้อองค์พระรุ่นนี้ที่พบเห็นจะพบเป็น เนื้อออกสีน้ำตาล สีเหลืองอ่อน เหลือเข้ม(ว่านเหลือง) สีดำ (ว่านไพรดำ) บางองค์พบว่ามีพลอยเสกอยู่ด้วย


    เป็นพระที่หายากสุดๆครับในพิมพ์พระชุดนี้ท่านจะไม่ค่อยเคยเห็น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  17. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    เหรียญทรงผนวช เหรียญอันทรงคุณค่าชาวไทย
    เหรียญทรงผนวช

    เหรียญที่ระลึกในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันทรงคุณค่าและได้รัความนิยมอย่างสูงย้อนไปในปี พ.ศ.2499 “ สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ พระสังฆราช ” ผู้ที่ทรงนิยมนับถือโดยวิสาสะอันสนิท และทรงถือว่ามีคุณูปการส่วนพระองค์มากทรงประชวรลงพระอาการเป็นที่น่าวิตก แต่ด้วยเดชะบุญได้หายประชวรอย่างน่าประหลาด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงมีพระราชดำริว่า ถ้าได้ทรงผนวชโดย สมเด็จพระสังฆราชทรงเป็นพระอุปัชฌาย์แล้ว จะสมพระราชประสงค์ในอันที่จะได้ทรงแสดงพระราชคารวะและศรัทธาในพระองค์ท่าน เป็นอย่างดี แล้วในวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2499 พระองค์ทรงผนวช เป็น พระภิกษุในพระบวรพุทธศาสนา ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีพระสมณนามว่า “ ภูมิพโล ” และทรงจำพรรษา ณ พระตำหนักปั้นหยา วัดบวรนิเวศวรวิหาร

    เหรียญนี้จัดสร้างในปี พ.ศ.2508 ซึ่งเป็นปีที่พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในโอกาสที่มีพระชนมายุเสมอด้วย สมเด็จพระราชบิดา เจ้าฟ้า มหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ โดยทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการกุศล 4 อย่าง อันเรียกว่า “ จาตุรงคมงคล ” และได้มีการจัดพิมพ์ “ หนังสือจาตุรงคมงคล ” แจ้งหมายกำหนดการและกำหนดการพระราชกรณียกิจสำคัญที่ทรงปฏิบัติ ปรากฏในหัวข้อเรื่องที่ 4 ตอนหนึ่งเอ่ยถึงที่มาของ “ เหรียญทรงผนวช ” ไว้ดังนี้

    อนึ่ง ทางวัดบวรนิเวศวิหารได้ขอพระบรมราชานุญาตสร้างเหรียญพระบรมรูปทรงผนวช ซึ่ง มีพระเจดีย์อยู่อีกด้านหนึ่ง เพื่อเป็นอนุสรณ์ในงานจาตุรงคมงคลนี้ เหรียญที่สร้างขึ้นนี้มีรูปกลมขนาดเหรียญบาท ด้านที่มีพระบรมรูปทรงผนวช มีพระปรมาภิไธยซึ่งเป็นลายพระหัตถเลขาทรงไว้ในสมุดทะเบียนวัดว่า “ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.ภูมิพโล ” อยู่ภายใต้พระบรมรูป (ถ่ายทำจากลายพระหัตถ์ตามจริง) เบื้องบนมีอักษรว่า “ ทรงผนวช ๒๔๙๙ ” ส่วนอีกด้านหนึ่งมีรูปพระเจดีย์มีรูปพระเจดีย์วัดบวรนิเวศวิหาร มีอักษรเป็นวงกลมที่ขอบเหรียญว่า “ เสด็จฯ สมโภชพระเจดีย์ทองบวรนิเวศ ๒๙ สิงห์ ๒๕๐๘ ในมงคลสมัยพระชนมายุเสมอสมเด็จพระราชบิดา...

    พระนาม ภูมิพลอดุลยเดช หมายถึง ผู้ทรง กำลังอำนาจ ไม่มีอะไรจะเทียมในแผ่นดิน ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ที่ทรงแผ่พระมหากรุณาธิคุณ แก่เหล่าอาณาประชาราษฎร์ ให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข โดยไม่มีอำนาจใดจะมาบดบังได้

    เหรียญในหลวง ทรงผนวช เป็น พระบารมีปกเกล้า แก่ ผู้มีไว้สักการะบูชา เป็นยิ่งนัก นับแต่วันที่พระองค์ทรงครองราชย์ ไทยทั้งชาติร่มเย็นเป็นสุขศรี สำนึกว่าพระมหาบารมี คุ้มชีวี คุ้มหล้าประชาไทย เกิดมาชาตินี้ มิเสียชาติ อยู่ใต้เบื้องบาทมิหม่นหมอง ขอพระเกียรติเกรียงไกรในสากล ภูมิพลจักรีวงศ์ทรงพระเจริญ

    พระเกจิอาจารย์ในพิธีการพุทธาภิเสก


    1. สมเด็จพระญาณสังวร พระสังฆราช
    2. หลวงปู่ดี วัดเหนือ จังหวัดกาญจนบุรี
    3. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉีมพรี
    4. อาจารย์นำ วัดดอนศาลา พัทลุง
    5. หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม

    อีกเหรียญนึงที่ทรงคุณค่าในพุทธานุภาพยิ่งมีประสบการณืยาวๆครับท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  18. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    พระร่วงหน้าพระธาตุ ปี 2517 พิธีพระพนัสบดี จ.ชลบุรี

    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่/ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ร่วมปลุกเสก

    พระร่วงยืนหน้าพระธาตุ ปี๒๕๑๗ เนื้อชินตะกั่ว

    พิมพ์สร้างเลียนพิมพ์จากพระร่วงยืนกรุเก่าหน้าพระธาตุ พนัสนิคม ชลบุรี ที่เป็นกรุเก่าแก่เมืองชล อายุกว่าพันปี ที่หายากมากๆ และ ราคาหลักแสน...มีการสร้างวัตถุมงคลที่ระลึกขึ้นอีกครั้งในปี๒๕๑๗ มี พระพนัสบดี ขนาดบูชา...เหรียญพระพนัสบดีขนาดห้อยคอ..และ พระร่วงหน้าพระธาตุ แบบปั๊ม เนื้อชินตะกั่ว...

    พิธีมหาพุทธาพิเษกจัดขึ้นที่ ณ.อุโบสถวัดหน้าพระธาตุ ต.หน้าพระธาตุ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ในวันเสาร์ที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๗.. โดยสมเด็จฯพระพุทธโฆษาจารย์ วัดราชบพิธ กทม. เป็นผู้จุด และ ดับเทียนชัย.. มีคณาจารย์เข้าร่วมพิธีปลุกเสกหลายท่าน อาทิ
    ๑.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี จ.กทม.

    ๒.หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง
    ๓.หลวงปู่เหมือน วัดกำแพง จ.ชลบุรี
    ๔.หลวงปู่โต วัดบ้านกล้วย จ.นครราชสีมา
    ๕.ท่านเจ้าคุณธีระ (ศิษย์เอกหลวงพ่อสด) วัดปากน้ำ จ.กทม.
    ๖.พระปรมาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิราชาธิวาส จ.กทม.
    ๗.หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว จ.ฉะเชิงเทรา
    ๘.หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี
    ๙.หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม
    ๑๐.หลวงพ่อวิเชียร วัดเครือวัลย์ จ.ชลบุรี
    ๑๑.หลวงพ่อวรรณ วัดพลับ จ.ชลบุรี
    ๑๒.หลวงพ่อทองหยิบ วัดโบสถ์ จ.ชลบุรี
    ๑๓.หลวงพ่อม่น วัดเนินตามาก จ.ชลบุรี
    ๑๔หลวงพ่อแร่ วัดเซิดสำราญ จ.ชลบุรี
    ๑๕.หลวงพ่อเที่ยง วัดกลางทุมมาวาส จ.ชลบุรี.ฯลฯ.

    พระร่วงยืนหน้าพระธาตุ จ.ชลบุรี ปี๒๕๑๗ ขนาดขององค์พระสูง 5.5 ซม. เป็นแบบปั๊มตัดขอบ เนื้อชินตะกั่ว พิธีใหญ่ "หลวงปู่ทิม/หลวงปู่โต๊ะปลุกเสก"


    ชลบุรีใช่มีแต่เพียงพระเครื่องใหม่ ๆ ดังกล่าวแล้วว่าเป็นเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน
    ดังนั้น ส่วนหนึ่งของชลบุรีจึงถูกบันทึกไว้ในหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ว่าเป็น เมืองพระรถเมรี ถ้าใครคุ้นเคยกับนิทานพื้นบ้านคงเข้าใจ ส่วนหนึ่งดังว่านั้นปัจจุบันเป็นอำเภอมีชื่อว่า พนัสนิคม

    พนัส แปลว่า ป่า แน่นอนว่าสมัยก่อนที่แห่งนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้และหมู่สัตว์น้อยใหญ่ เป็นเหตุจูงใจให้ผู้คนอพยพเข้าไปอยู่อาศัยเพื่อทำมาหากิน รวมถึงชาวลาวโซ่งที่อพยพมาจากเวียงจันทน์ ประเทศลาว

    มีชาวพุทธที่ไหน มีวัดที่นั่น พนัสนิคมจึงปรากฏวัดเก่าโบราณหลายแห่งพร้อมกับพระเครื่องยุคตั้งเมืองทั้งเนื้อดิน ชิน และผง แต่ที่ครองความนิยมอันดับหนึ่งและมีประสบการณ์มากต้องยกให้พระเนื้อชินที่รู้จักกันในนาม พระร่วงหน้าพระธาตุ

    พระพิมพ์นี้ปัจจุบันเป็นที่นิยมและหายากมาก ยิ่งสภาพสมบูรณ์แล้วยิ่งยากใหญ่ด้วยเนื้อเป็นตะกั่วผสมตามแบบสมัยนิยมของโบราณาจารย์ จึงไม่ค่อยทนกับสภาพแวดล้อมเท่าไรนัก แต่ความต้องการที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการสร้างใหม่แบบล้อพิมพ์ขึ้นมาโดยอาศัยเหตุจากอิทธิฤทธิ์ของ พระพนัสบดี

    พระพนัสบดีถูกค้นพบได้อย่างอัศจรรย์ที่สุดเมื่อราว ๆ ปี พ.ศ. 2471 โดยผู้พบคือก๋งแดงและคุณยายน้อย บัวเข็ม ทั้งสองท่านมีอาชีพพายเรือไปตามคลองขายของเล็ก ๆ น้อย ๆ และแลกสินค้ากับข้าวเปลือก ทั้งสองมีฐานะยากจนมาก

    วันหนึ่งขณะก๋งแดงและคุณยายน้อยพายเรือบ่ายหน้าไปทางวัดโบสถ์ พอเรือมาถึงโคกใหญ่ละแวกบ้านคลองแพ่งตำบลหน้าพระธาตุ ก็เกิดมหัศจรรย์ขึ้นกลางลำน้ำคือน้ำในคลองได้หมุนวนเป็นวงเชี่ยวกราก ส่งผลให้เรือลำเล็กทำท่าจะล่มลง เมื่อสุดวิสัยจะบังคับเรือ คุณยายน้อยจึงตัดสินใจปักพายลงข้างตลิ่งเพื่อทรงตัว

    ครั้นพายกระแทกลงในดินคุณยายก็รู้สึกได้ว่าไม้พายไปกระทบวัตถุแข็งบางอย่างเข้าอย่างแรง จึงเหลียวไปดูก็เห็นส่วนหนึ่งของวัตถุนั้นโผล่พ้นดินโคลนออกมาหน่อย คุณยายน้อยเลยคุ้ยเอาของสิ่งนั้นขึ้นมาจึงได้เห็นว่าเป็นพระพุทธรูปสีดำ

    ทั้งสองตื่นเต้นดีใจเป็นอันมากพากันเลิกขายของจ้ำฝีพายกลับบ้านอย่างปีติลิงโลด ถึงแล้วก็ทำความสะอาดองค์พระชะล้างดินโคลนออก พากันหาดอกไม้ธูปเทียนมาทำการสักการะบูชา และปิดปากเงียบไม่ยอมบอกใครถึงเรื่องนี้เพราะกลัวคนร้ายจะมาโจรกรรม

    เมื่อพระพุทธรูปองค์นี้มาอยู่กับก๋งแดงและคุณยายน้อยก็เกิดเหตุประหลาดกล่าวคือทั้งสองขายของได้อย่างเทน้ำเทท่า จะหยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด สุขภาพก็ดีวันดีคืน ความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เมื่อเป็นดังนี้ท่านทั้งสองก็เชื่อมั่นว่าต้องเป็นเพราะอภินิหารจากพระองค์ดำนี้แน่ ๆ จึงเรียกนามท่านโดยเคารพว่า หลวงพ่อสัมฤทธิ์ คือปรารถนาสิ่งใดก็สัมฤทธิ์ผล

    สมประสงค์ทุกอย่าง

    ต่อมาในปี พ.ศ. 2494 ได้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่อาคารทำการของเทศบาลเมืองพนัสนิคมซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ ๆ ยังไม่ทันได้ทำพิธีมอบและเปิดอาคารเลย เหตุเพราะอาคารนี้เป็นไม้ล้วนและสร้างถึงสองชั้นทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว อีกทั้งกระป๋องสีและกระป๋องทินเนอร์ก็ยังอยู่ภายในอาคารจึงเป็นเชื้อไฟอย่างดี

    บ้านที่ประดิษฐานหลวงพ่อสัมฤทธิ์หรือพระพนัสบดีนั้นอยู่ตรงข้ามเรือนไม้นี้ห่างกันไม่กี่เมตรเท่านั้น เมื่อเกิดไฟไหม้ก็เป็นธรรมชาติที่จะเกิดลมใหญ่ด้วยอากาศร้อนลอยขึ้นที่สูงอากาศเย็นจึงไหลเข้ามาแทนที่ เกิดเป็นลมหวนหอบเอาลูกไฟและสะเก็ดไฟไปตกใส่หลังคาเรือนของชาวบ้านละแวกนั้นซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นหลังคามุงจากทั้งสิ้น

    มหาภัยครั้งนี้ได้ลุกลามมาจนจวนเจียนจะถึงบ้านที่ประดิษฐานพระพนัสบดี ซึ่งในตอนนั้นผู้ครอบครององค์พระเป็นลูกชายของก๋งแดงและคุณยายน้อยชื่อ นายอ๋อง ทั้งเปลวไฟและควันดำทำนายอ๋องตกตะลึงสำลักควันไปไหนไม่ได้ทำอะไรไม่ถูกละล้าละลังอยู่อย่างนั้น

    ญาตินายอ๋องคนหนึ่งได้สติรีบถามว่าเอาหลวงพ่อสัมฤทธิ์ไปไว้ที่ไหน นายอ๋องจึงนึกขึ้นได้รีบวิ่งเข้าห้องไปอุ้มเอาพระออกมาและเอาท่านลงสรงน้ำตั้งจิตอธิษฐานขอให้ท่านช่วยเหลือให้รอดพ้นจากมหันตภัยในครั้งนี้ แล้วรีบนำน้ำนั้นไปสาดรอบ ๆ บริเวณบ้านของตน

    เพียงครู่เดียวเหมือนปาฎิหาริย์ บังเกิดลมพายุหอบใหญ่พัดเอาเปลวไฟและควันตีออกจากทิศที่เป็นบ้านของนายอ๋องหวนไฟกลับไปทางอื่นอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างเฮโลเข้ามาขอน้ำมนต์จากนายอ๋องไปรดรอบ ๆ บ้านตนเองบ้าง และน่าอัศจรรย์ที่ลมประหลาดนั้นก็เกิดขึ้นเช่นกันทำให้ชาวบ้านแถบนั้นไม่ต้องสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเลย

    ด้วยความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่งเช่นนี้ชาวพนัสนิคมจึงถือว่าหลวงพ่อสัมฤทธิ์เป็นพระพุทธรูปที่ทรงคุณค่าเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจแน่นแฟ้นจึงปรารถนาจะสร้างองค์พระจำลองขึ้นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้กราบไหว้บูชา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  19. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    พระร่วงโรจน์ฤทธิ์ เนื้อตะกั่ว หลวงปู่แก้ว เกสาโร วัดละหารไร่
    หลวงปู่แก้ว ท่านเป็นพระคู่บารมีของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หลวงปู่ทิมท่านเคยบอกว่า ท่านแก้วเสกก็เหมือนท่านเสก ใช้ได้เหมือนกัน พลังสมาธิพุทธคุณในการนั่งปลุกเสกนั้นจะเห็นได้จากรูปถ่ายที่ถ่ายภาพเก็บมาได้ว่า จะมีไฟลุกจะจมูกของท่านเป็นทางยาวครับ
    จนหลวงปู่ทิมได้กล่าวถึงหลวงปู่แก้วหลายครั้งว่า " ท่านแก้วเขาสำเร็จธาตุ "


    คนชาวบ้านค่ายต่างก็ทราบกันดีว่าหลวงปู่แก้วนั้นมีวิชาอาคมที่แก่กล้ามาก ซึ่งตอนท่านบวชนั้นหลวงพ่อเริ่ม เป็นผู้ปรงผมให้หลวงปู่แก้ว หลวงพ่อเริ่มได้หันมาบอกหลวงปู่ทิมว่า " ท่านทิมคนอะไรเหนียวจริงๆ " ฉันนึกว่าคนสมัยนี้ที่มีวิชาถึงขั้นจะไม่มีแล้ว

    เคยมีชาวบ้านแถววัดละหารไร่นำพระของหลวงปู่ทิมไปลองปืนในเขตวัด พอหลวงปู่แก้วท่านทราบเรื่องก็ไม่พอใจที่คนลองไม่เคารพครูอาจารย์ เลยได้ลงเดินไปที่ตอไม้หลังวัดและนั่งลงฉี่ที่ตอไม้นั้น ท่านฉี่เส็รจแล้วพูดว่าไม่ต้องไปลองยิงของ "คุณพ่อ" หรอกถ้าจะลองมายิงตอฉี่ให้ออกเสียก่อน ที่จะไปลองของคุณพ่อ (ชื่อที่หลวงปู่แก้วเรียกหลวงปู่ทิม) พวกนักลองก็ลองยิงไปที่ตอฉี่หลวงปู่แก้วยิงกี่นัดกี่นัดก็ไม่ออกแม้แต่นัดเดียวครับ

    แนะนำพระดีพุทธคุณสูงแห่งวัดละหารไร่อีกองค์หนึ่งครับ

    ประวัติกดเลย หลวงปู่แก้ว วัดระหารไร่ จ.ระยอง ท่านเป็นอีกหนึ่งเกจิดังของระยอง ซึ่งแม้แต่หลวงปู่ทิมได้กล่าวถึงหลวงปู่แก้วหลายครั้งว่า " ท่านแก้วเขาสำเร็จธาตุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020
  20. พลังชาตรี 13

    พลังชาตรี 13 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,473
    ค่าพลัง:
    +1,853
    เหรียญหลวงปู่แก้ว เกสาโร วัดละหารไร่ จ.ระยอง ปี พ.ศ.๒๕๒๖ พิมพ์ใหญ่

    พระเครื่องของหลวงปู่แก้ว นั้นมีเมตตามหานิยมสูงยิ่ง ในด้านโชคลาภก็ดีเยี่ยม และในด้านแคล้วคลาดคงกระพันชาตรีก็เยี่ยมยอด หาพระเครื่องอื่นใดเทียบได้ยาก ครับท่าน

    หลวงปู่แก้ว แห่งวัดละหารไร่ ท่านเป็นพระคู่บารมีของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หลวงปู่ทิมท่านเคยบอกว่า ท่านแก้วเสกก็เหมือนท่านเสก ใช้ได้เหมือนกัน พลังสมาธิพุทธคุณในการนั่งปลุกเสกนั้นจะเห็นได้จากรูปถ่ายที่ถ่ายภาพเก็บมาได้ว่า จะมีไฟลุกจะจมูกของท่านเป็นทางยาวครับ
    จนหลวงปู่ทิมได้กล่าวถึงหลวงปู่แก้วหลายครั้งว่า " ท่านแก้วเขาสำเร็จธาตุ "


    คนชาวบ้านค่ายต่างก็ทราบกันดีว่าหลวงปู่แก้วนั้นมีวิชาอาคมที่แก่กล้ามาก ซึ่งตอนท่านบวชนั้นหลวงพ่อเริ่ม เป็นผู้ปรงผมให้หลวงปู่แก้ว หลวงพ่อเริ่มได้หันมาบอกหลวงปู่ทิมว่า " ท่านทิมคนอะไรเหนียวจริงๆ " ฉันนึกว่าคนสมัยนี้ที่มีวิชาถึงขั้นจะไม่มีแล้ว

    เคยมีชาวบ้านแถววัดละหารไร่นำพระของหลวงปู่ทิมไปลองปืนในเขตวัด พอหลวงปู่แก้วท่านทราบเรื่องก็ไม่พอใจที่คนลองไม่เคารพครูอาจารย์ เลยได้ลงเดินไปที่ตอไม้หลังวัดและนั่งลงฉี่ที่ตอไม้นั้น ท่านฉี่เส็รจแล้วพูดว่าไม่ต้องไปลองยิงของ "คุณพ่อ" หรอกถ้าจะลองมายิงตอฉี่ให้ออกเสียก่อน ที่จะไปลองของคุณพ่อ (ชื่อที่หลวงปู่แก้วเรียกหลวงปู่ทิม) พวกนักลองก็ลองยิงไปที่ตอฉี่หลวงปู่แก้วยิงกี่นัดกี่นัดก็ไม่ออกแม้แต่นัดเดียวครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2020

แชร์หน้านี้

Loading...