พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

ปิด

เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ สวยกริบ พร้อมจาร สภาพนี้หายากแล้วครับ

เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.2511
พระเกจิ ‘หลวงพ่อสง่า’
วัดหนองม่วง จ.ราชบุรี


“พระครูอนุรักษ์วรคุณ” พระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคมชื่อดังลุ่มน้ำแม่กลอง หรือที่รู้จักกันดีในนาม “หลวงพ่อสง่า อนุปุพโพ” พระเกจิดังเมืองโอ่งแห่งวัดหนองม่วง อ.บางแพ จ.ราชบุรี

จัดสร้างวัตถุมงคลไว้ที่โดดเด่นหลายอย่าง แต่ที่โดดเด่นเป็นที่เลื่องลือคือเหรียญหลวงพ่อสง่ารุ่นแรก จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2511

ลักษณะเป็นเหรียญกลมรูปไข่ มีหูห่วง จัดสร้างเป็นเนื้อเดียว คือเนื้อทองแดงผิวไฟ

หลวงพ่อสง่าปลุกเสกเองที่วัดหนองม่วง ตอนแรก พร้อมกับปั๊มทำเป็นเหรียญ ไม่มีการระบุ พ.ศ. แต่ครั้นพอทำไปได้จำนวนหนึ่ง หลวงพ่อท่านก็หยุด ให้ช่างแก้ไขใส่บล็อกเป็นเลขปี พ.ศ.2511 ไว้ที่ด้านหลัง

ดังนั้น เหรียญรุ่นนี้ ที่ไม่มีตัวเลขระบุปี พ.ศ. จึงมีจำนวนน้อยมาก

ด้านหน้าเหรียญ ตรงกลางเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อสง่าครึ่งองค์หันหน้าตรง ด้านล่างใต้รูปเหมือน เขียนคำว่า “พ.ศ.๒๕๑๑ พระครูอนุรักษ์วรคุณ วัดหนองม่วง” บริเวณรอบขอบเหรียญเป็นอักขระยันต์

ด้านหลังเบริเวณตรงกลางเป็นอักขระยันต์ประจำตัวหลวงพ่อสง่า ขอบโค้งด้านบนไปจนถึงขอบโค้งด้านล่างเป็นอักขระยันต์

ร่ำลือกันว่าโดดเด่น เป็นที่เลื่องลือ พุทธคุณรอบด้าน เป็นเหรียญดีที่อนาคตไกลอีกเหรียญของราชบุรี

เหรียญนี้สภาพสวยแชมป์เลี่ยมเก็บเก่าอย่างดี จารชัดเจน ตะก่อนต้องมี2-3หมื่น

บูชา 17,000 บาท รับประกันแท้ สวยแชมป์

 

ปิดครับ

หนุมานชมภูนุช หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน ปี 2544

รุ่นพระเจ้า 5 พระองค์ เนื้อผงพุทธคุณผสมว่าน 108 ตัวจริงเสียงจริงหายากครับ...พิธีพุทธาภิเษก 5 พิธีใหญ่ ของวัดสุทัศน์ฯ ปี 2543-2544 การปลุกเสกได้เชิญพระสงฆ์ที่มีอายุพรรษาเกินร้อยปีมาร่วมปลุกเสก 1.หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อายุ 106 ปี 2.หลวงปู่ลมัย ฐิตมโน อายุ 101 ปี 3.หลวงปู่เหมือน ฐานุตุตโม อายุ 104 ปี 4.หลวงปู่กอง จันทวโส อายุ 103 ปี 5.หลวงปู่อิง โชติโญ อายุ 115 ปี

•••หลวงปู่หมุนบอกว่าวัตถุมงคลรุ่นนี้พลังมาก ถ้าไปรบก็จะชนะ ถ้าประกอบธุรกิจก็จะประสบความสำเร็จ ถ้าค้าขายก็ขายดี โชคดีทุกอย่าง หนุมานชมภูนุชสภาพสวยสมบูรณ์ครับ เจ้าของเก็บเก่ามี 5 ตน แบ่งมา 2 ครับ

สนใจทัก




หนุมานชมภูนุช รุ่น พระเจ้า 5 พระองค์ เนื้อผงพุทธคุณผสมว่าน 108 หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล พิธีพุทธาภิเษก วัดสุทัศน์ 5 ครั้ง ปี พ.ศ.2543- 2544

หนุมานชมภูนุช วัดซับลำใย พระอาจารย์ตั้วจัดสร้าง หลวงปู่หมุนปลุกเสก และที่สำคัญมีผงชมภูนุช เป็นผงที่พระอาจารย์ตั้ว ได้มาจากพระอาจารย์ไพลิน ว่ากันว่า ผงนี้ทำให้พระสึกไปมีเมียมาเยอะแล้ว
หลวงปู่หมุนจึงได้ให้ผสมว่านลงไปเพื่อลดความเมตตาลงมิฉะนั้นกลัวจะผิดศีลกัน ท่านจึงให้เพิ่มด้านโชคลาภให้หนักแทน แต่ความเมตตาไม่ได้ลดลงเลย แต่ท่านห้ามใช้ในทางผิดศีลธรรม
ส่วนรูปแบบหนุมานจะเหมาะกับผู้ที่รับราชการด้วยนะครับ จะเจริญก้าวหน้ามาก สรุปว่าพุทธคุณครบทุกด้านครับ

พุทธาภิเษก 5 ครั้งใหญ่ของวัดสุทัศน์ ในปี 2543 -2544 การปลุกเสกนั้น ได้นิมนต์ พระเกจิที่มีอายุ เกิน 100 ปี 5 รูป ด้วยกันคือ

1. หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อายุ 106 ปี
2. หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน อายุ 101 ปี
3. หลวงปู่อิง โชติโญ อายุ 115 ปี
4. หลวงปู่กอง จันทวโส อายุ 103 ปี
5. หลวงปู่เหมือน ฐานุตตโม อายุ 104 ปี

พิธีปลุกเสก 5 วาระ ปี 2543-2544

ครั้งที่ 1 ทำพิธีพุทธาภิเษกที่อุโบสถ วัดสุทัศน์ กทม. 16 มีนาคม 2543 โดยมีหลวงปู่หมุน,หลวงปู่ละมัย วัดโพธิ์เย็น เพชรบูรณ์ (อายุ 101 ปี),หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ลพบุรี,หลวงปู่หลุย วัดราชโยธา,หลวงปู่ผล วัดโนนทอง ลพบุรี,หลวงพ่อจันทร์ วัดนางหนู,หลวงพ่อสินธิ์ชัย วัดโพธิ์เย็น เพชรบูรณ์,หลวงพ่อถนอม คณะ 2 วัดสุทัศน์ฯร่วมกันทำพิธีพุทธาภิเษก ในเวลา 02.30 น. ของวันพิธีพุทธาภิเษก ในฤกษ์เสาร์ ๕

ครั้งที่ 2 ฤกษ์เสาร์ 5 ณ วัดป่าหนองหล่ม เมืองสระแก้ว วันที่ 8 เมษายน 2543 หลวงปู่หมุน เป็นประธานพิธีร่วมกับ หลวงปู่กอง อายุ 102 ปี วัดสระมณฑล อยุธยา,หลวงปู่ละมัย วัดโพธิ์เย็น เพชรบูรณ์ อายุ 101 ปี , ครูบาเที่ยงธรรม สำนักเวฬุวรรณ จ.ศรีสะเกษ , หลวงพ่อสมจิตร(อิน) วัดบ้านด่าน ศิษย์เอกหลวงพ่อเอีย และ หลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน พระอาจารย์ผู้อยู่เหนือกาลเวลา ผู้ที่มีพลังจิตสูงด้านกสิณไฟนักบุญแห่งบ้านละลม อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ มาอธิษฐาน กำหนดจิตอธิฐานปลุกเสกโดยในพิธีนี้ได้มีพระเกจิอาจารย์ ร่วมในพิธีพุทธาภิเษก 4ท่าน โดยได้ประจำทิศทั้ง 4ทิศ

ครั้งที่ 3 ที่วัดซับลำใย เมืองลพบุรี ในวันที่ 9 เมษายน 2543 ทำพิธีพุทธาภิเษกโดยหลวงปู่หมุน อธิษฐานปลุกเสก

ครั้งที่ 4 วัดสุทัศน์ฯ กทม. ในวันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน 2543 เวลา 09.19น. ที่อุโบสถวัดสุทัศน์เทพวราราม กรุงเทพมหานคร

ครั้งที 5 วัดสุทัศน์ กทม. หลวงปู่หมุนปลุกเสก กุมภาพันธ์ 2544

อีกวาจาสิทธิ์ของหลวงปู่หมุน ที่ได้กล่าวไว้ก่อนละสังขาร ซึ่งลูกศิษย์และชาวบ้านต่างจดจำได้ติดหู คือ

"..ของๆฉันสร้างเองกับมือ ใครมีไว้บูชาจะ หมุนโชคลาภร่ำรวยตลอดเวลา ทำมาค้าขึ้น ไม่มีวันจนประกอบสัมมาอาชีพใดก็รุ่งเรือง เจริญลาภยศสรรเสริญ จะมีชื่อเสียงหอมขจรขจาย
ขอให้เป็นคนดี คิดดี ทำดี ละเว้นชั่ว คุณพระจะรักษา เทวดาจะคุ้มครอง แม้นว่าฉันจะตายไป ของๆ ฉันจะขลังกว่านี้อีกหลายร้อยเท่า น้ำลาย ไอปาก ลมปราณที่ประจุลงไปด้วยพลังจิตอันเข้มขลังของฉัน
ย่อมเป็น หนึ่งบ่เป็นสอง ครบเครื่องเป็นองค์พระที่ดีทั้งนอก ดีทั้งใน ฝากไว้ในแผ่นดิน ให้เลื่องชื่อลือนาม ลือเรื่องถึงเมืองแมน "

คำบูชาหลวงปู่หมุน
ตั้งนะโม 3 จบ
นะโม หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล จะ มหาเถโร ชัยยะสิทโธ มหิทธิโก เถรัสสะ อานุภาเวนะ สัพพะโสตถี ภะวัน ตุ เม (ว่า 3 จบ)
คาถาประจำองค์หลวงปู่หมุน
" ตัวกูลูกพระพุทธองค์ ครูสิทธิ์ ครูธงค์ อาอาจไม่ประมาทครู พบรอยก้มดู เจอครูกราบไหว้"

อาราธนาพระ ขอโชคลาภ เเละแคล้วคลาด ปลอดภัย
นะโมพุทธายะ นะชาลีติ ประสิทธิลาภา อิมะมะมามา มะอะอุ อุอะมะ ยะธาพุทโมนะ นะมะพะธะ
บทบริกรรมสั้นๆ เรียกโชคลาภได้ผลดีนักแลครับ
อิมะมะมามา (ให้ว่า 7 จบ)
หรือจะจุดธูป 16 ดอก ถวายตัวเป็นศิษย์ จะได้ผลเร็วขึ้น จัดหมากพลู บายศรีพรหม 1 คู่ ถวายด้วยยิ่งดี
สมัยที่องค์หลวงปู่ยังทรงขันธ์อยู่นั้น ท่านชอบฉันอาหารพื้นบ้านธรรมดาๆ เช่น ข้าวเหนียว ปลาย่าง ปลาดุกย่าง น้ำพริกพร้อมผักสด น้ำโค๊กหรือแป๊บชี่ ข้าวจี่ ข้ามหลาม เป็นต้น

 

พระพุทธชินราช วัดสนามนอก ปี 2514

วัดสนามนอก อ.บางกรวย นนทบุรี

องค์นี้ลงรักปิดทองพิมพ์เต็มองค์ เลี่ยมมาแบบเก่าสร้างเนื่องในงานผูกพันธสีมา ปี2514 เนื้อผงเก่า หลังยันต์

มีพิธีพุทธาภิเษกที่ใหญ่พอสมควร มีหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี,หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ,หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ ,หลวงพ่อทองสุขวัดสะพานสูง หลวงพ่อสมภพ วัดสารีโข ปลุกเสก ถือเป็นของดีราคาเบา รับประกันแท้

บูชา 450 บาท

 

ปิด

ตะกรุดชุด หลวงพ่อจง

ตะกรุดแขวนเอว 3 ดอก ตะกรุดมีจารชัดเจนแบบไม่ต้องไปคลี่ดู เก่า มาพร้อมสายผ้าเดิมๆ ตะกรุด 3 ดอก ใหญ่ ,กลาง,เล็ก รับประกันแท้

บูชา 3,500 บาท

 

ปิดครับ

พระแจกกรรมการแบบนี้ การทำพิถีพิถัน สวยงามมากๆ ครับ ตรงวงกลมขาวๆด้านหลังเศียรพระสามสมัยนั้น เป็นเนื้อผงพุทธคุณพิเศษที่ ไม่ใช่เนื้อเดียวกันกับพระผงทั้งองค์ คือเป็นการเหมือนทำร่องใว้ เพื่อใส่ผงต่างหาก กล่าวว่า ผงนี้ คือผงพุทธคุณของหลวงปู่ดู่โดยตรง ถ้าส่ององค์จริงจะเห็นชัดเจน

 

ปิด

ชั่วโมงนี้ หลวงพ่อเกษม กระแสท่านแรงมากจริงๆ

เหรียญนี้ บล๊อควงเดือน นิยมหูขีด รับประกันแท้ ตอกโค๊ตชัดเจน




เหรียญพลับพลา หลวงพ่อเกษม เขมโก ปี17 ออกวัดพลับพลา

ปี2517 นับเป็นปีประวัติศาสตร์ของเหรียญที่นิยมสูงสุดของหลวงพ่อเกษม เกจิดังแห่งเมืองลำปาง นั้นคือเหรียญกองพันลำปาง ออกวันที่ 23 ตุลาคม 2517 โดยขณะนี้เหรียญทองคำมูลค่าแตะที่หลักล้านบาท เหรียญทองแดงแตะที่แสนแล้ว

ในเดือนเดียวกัน ปีเดียวกัน ยังมีเหรียญดีที่คนมองข้าม ราคาย่อมเยาว์ที่ พระเกจิ อยากแนะนำ อีกทั้งคนออกแบบแกะพิมพ์ก็เป็น ช่างคนเดียวกันคือ ช่างเกษม มงคลเจริญ และหลวงพ่อเกษมยังเมตตาปลุกเสกเต็มกำลังในกับเหรียญนี้ นั้นคือ เหรียญวัดพลับพลา 2517

เมื่อปี พ.ศ. 2517 วัดพลับพลา อ.เมือง จ. นนทบุรี กำลังดำเนินการสร้างพระอุโบสถ แต่ขาดทุนทรัพย์ จึงคิดไปขอพึ่งบารมีหลวงพ่อเกษม ขอสร้างเหรียญ และพระผง รุ่นสร้างโบสถ์วัดพลับพลา และหลวงพ่อได้อนุญาตให้สร้างตามประสงค์เมื่อวันที่ 20สิงหาคม พ.ศ.2517 ทางวัดพลับพลา โดย หลวงพ่อพระครูสิรินนทคุณ เจ้าอาวาส จึงได้ดำเนินการจัดสร้างพระด้วยกัน ๓ แบบ
1 เหรียญ
2พระผงรูปเหมือน
3 พระผงปิดตาเล็ก

เมื่อสร้างเสร็จแล้วได้นำขึ้นไปให้ หลวงพ่อเกษมปลุกเสก เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมพ.ศ.2517 เวลา 19.39 น. ณ สุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง ในพิธีมนต์ครั้งนี้ได้มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นซึ่งท่านพระครูสิรินนทคุณได้ บันทึกไวัดังนี้

“ในวันปลุกเสกนั้นเป็นเวลากลางคืน ทางเหนือหมดฝนแล้วได้ เวลาหลวงพ่อเกษมเดินออกจากกุฏิที่พักของท่าน พอมาถึงศาลามุงแฝก (หญ้าคา) ปะรำพิธีปลุกเสก ข้าพเจ้ากับคณะกรรมการ และทุกคนในที่นั้น ได้ยินเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยง ชาวลำปางจึงตั้งชื่อพระรุ่นนี้ว่า รุ่นฟ้าลั่น ปัจจุบันนี้ชาวลำปางเก่าๆยังจำชื่อรุ่นฟ้าลั่นได้ พระชุดนี้เริ่มออกจำหน่ายจ่ายแจก ในวันที่ 9 ตุลาคม 2517 ที่วัดพลับพลา จังหวัดนนทบุรี ได้เงินสมทบจากพระชุดนี้จนสร้างพระอุโบสถวัดพลับพลาสำเร็จ”

 

คาถาเรียกเงินทองของหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา ลพบุรี

"โอมละลวย มหาละลวย มะอะอุ สิวังพรหมา จิตตังมานิมามา ทองหนึ่งทอง ทองสองทอง โอมมหาจินดา เงินทองไหลมานิมามา"

พระคาถานี้ให้ท่องทุกวันก่อนนอน ระลึกถึงบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ และหลวงพ่อกบเจ้าของคาถา ห้ามลักทรัพย์อย่างเด็ดขาด แล้วคาถาจึงขลัง









หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา







หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา







หลวงพ่อกบ วัดเขาสาลิกา วัดเขาสาริกา ตำบลสนามแจง อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี

หลวงพ่อกบ เป็นพระภิกษุสงฆ์ที่พุทธศาสนิกชนทั่วไปได้ให้ความเคารพ และเลื่อมใสศรัทธา ชีวประวัติของท่านไม่ได้บันทึกไว้ชัดเจน เป็นแต่เพียงการเล่าขานสืบต่อกันมาว่า ท่านธุดงค์มาปักกลดอยู่ที่ชายป่าด้านเขาสาริกา เมื่อประมาณปลายปี ๒๔๓๐ โดยที่ไม่มีใครทราบวาท่านมาจากไหน ท่านมีชื่อว่าอะไร และท่านเป็นคนจังหวัดใดหลายคนอยากทราบ ได้พยายามถามท่าน ท่านมักจะตอบว่า “ กูจะไปรู้ได้อย่างไร แม้แต่มึงเอง มึงยังไม่รู้ว่ามึงเป็นใครมาจากไหน และมึงจะไปไหนต่อ ” ซึ่งเป็นคำตอบที่นอกจากจะไม่เข้าใจแล้วยังสร้าง ความงุนงงให้กับผู้ถามเพิ่มขึ้นไปอีก จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครทราบประวัติที่แท้จริงของท่าน







หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา





ที่มาของนาม “ หลวงพ่อกบ ”

หลวงพ่อกบ จำพรรษาอยู่ที่วัดเขาสาริกา ผ่านไปหลายปี ชื่อเสียงของท่านโด่งดังมาก ครั้งหนึ่งช่วงออกพรรษาปี พ.ศ.ใดไม่ชัดเจน มีกฐินจากกรุงเทพฯ มาทอดที่วัดภายหลังเสร็จสิ้น จากพิธีถวายกฐิน ญาติโยมจากกรุงเทพฯ จำนวนหนึ่งจำเป็นต้องค้างแรมที่วัด หลวงพ่อท่านเมตตาให้ค้างแรมในกุฏิ คืนนั้นหลายคนนอนไม่หลับ เพราะไม่ได้ทานข้าวเย็น เนื่องจากที่วัดจัดให้มีไม่พอ เวลาผ่านไปประมาณ ๓ ทุ่ม ก็บังเกิดปรากฏการณ์แปลกประหลาด ท้องฟ้าที่เคยแจ่มใส พลันก็เกิดเมฆดำทะมึนก่อตัวขึ้น สักครู่เสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า พร้อมฝนห่าใหญ่ก็เทลงมา สายน้ำไหลเจิ่งนอง ประสานเสียงร้องของกบดังไปทั่ว มองลงไปที่ลานหน้ากุฏิ เต็มไปด้วยกบตัวใหญ่ๆ กระโดดโลดเต้นไปมา







หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา





“ พวกเอ็งหิวไหมว๊ะ ” เสียงเอ่ยถามของหลวงพ่อ ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกัน ” หิวขอรับ ” “ ถ้างั้นเอ็งรอเดี๋ยว กูจะลงไปแทงกบมาให้พวกเอ็งทำต้มยำกิน ” ว่าแล้วท่านก็คว้าฉมวกลงกุฏิไปอย่างรวดเร็ว พวกเขามองตามลงไปเห็นหลวงพ่อกำลังใช้ฉมวกทิ่มแทงกบตัวแล้วตัวเล่า อนิจจา!!! ศรัทธาของพวกเขาเริ่มเหือดหายไป แต่ด้วยความหิว คืนนั้นต้มยำกบหม้อใหญ่ก็ถูกกินจนเกือบหมดเช้าวันรุ่งขึ้น มีคนหนึ่งสงสัยว่า ต้มยำกบที่เขากินเมื่อคืนเป็นกบจริงๆ หรือเปล่า เขาจึงย่องเข้าไปดูในโรงครัว เมื่อเปิดฝาหม้อดู เขาก็ต้องผงะ ตกตะลึงด้วยความอัศจรรย์ใจ ด้วยว่า สิ่งที่เห็นอยู่ในหม้อหาใช่กบไม่ แต่เป็นยอดกระถิน และใบมะขามอยู่เกือบครึ่งค่อนหม้อ เหตุการณ์นี้ถูกนำมาเล่าต่อๆ กันมาว่า หลวงพ่อท่านสร้างปาฏิหาริย์เสกใบไม้ให้กลายเป็นกบ จนกลายมาเป็นที่มาของนามท่าน “ หลวงพ่อกบ ”





มูลเหตุแห่งความศรัทธา

ด้วยปฏิปทาอันแปลกประหลาดของหลวงพ่อกบ รวมทั้งปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ หลวงพ่อกบ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่น่าฉงน และไม่สามารถหาคำอธิบายได้ เป็นมูลเหตุแห่งความศรัทธา ที่คนทั่วไปเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่า หลวงพ่อกบ ท่านเป็นผู้ทรงศีลที่มีฌานสมาบัติขั้นสูง และมีพลังเร้นลับ สามารถทำในสิ่งที่คนทั่วไปยากที่จะเข้าใจได้จึงขอนำเรื่องราวดังกล่าว มาเล่าสู่กันฟังพอสังเขป





ปกติหลวงพ่อกบ จะบำเพ็ญเพียรภาวนาในท่านั่งยองๆ เป็นเวลายาวนานติดต่อกัน คราวละ ๗ – ๑๕ วัน โดยที่ท่านไม่ลุกไปไหนเลย ไม่ฉันอาหาร น้ำ หรือแม้แต่การถ่ายหนักเบา เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งสร้างความอัศจรรย์ใจแก่ผู้พบเห็นเข้าใจกันว่า ปฏิปทาอันเหลือเชื่อของท่านเกิดขึ้นได้ เพราะท่านสามารถถอดจิตออกจากกายได้ ทำให้กายไม่รับรู้ต่อสภาพความหิว และความเจ็บปวดใดๆ







หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา





- นั่งท่ายองๆ ไม่ว่าจะสวดมนต์ หรือทำกิจวัตรใดๆ และนอนตะแคงขวาเป็นประจำ

- นุ่งสบงเก่าๆ ผืนเดียว ไม่ห่อจีวร ที่คอแขวนลูกกระพรวน

- อยู่แต่ในวัดไม่เคยเดินออกไปไหนเลย

- ใช้น้ำชา และต้มเครื่องเทศเป็นยารักษาโรค ชื่อเสียงของท่านถูกกล่าวขานปากต่อปาก ผู้คนจำนวนมากมารับการรักษาจากท่าน เป็นเรื่องที่ชี้ให้เห็นถึงปฏิปทาที่เต็มไปด้วยความเมตตาอย่างสูงของท่าน







ปรากฏการณ์แปลกประหลาด

- มีผู้คนจากจังหวัดต่างๆ มานมัสการ และทำบุญกับหลวงพ่อกบอย่างล้นหลามมิได้ขาดพวกเขาเหล่านั้นรู้จักหลวงพ่อได้อย่างไร ทั้งๆ ที่หลวงพ่ออยู่แต่ในวัด และชาวบ้านเขาสาลิกาก็ไม่เคยออกไปแจกซองกฐิน หรือซองผ้าป่าที่ไหนเลย ถนนหนทางเข้าวัดในขณะนั้นก็ยังไม่มี มันเป็นไป ได้อย่างไร เมื่อสอบถามดูพวกเขาเหล่านั้นพูดทำนองเดียวกันว่า ได้พบเห็นหลวงพ่อกบไปบิณฑบาตที่บ้านตน ด้วยความศรัทธาจึงพากันติดตามถามหา จนมาพบท่าน และทุกอย่างเป็นจริงตามที่หลวงพ่อกบบอกไว้ทุกประการ











- บ่อยครั้งมีผู้พบเห็นท่านในเวลาเดียวกันถึง๒แห่ง เชื่อกันว่า ท่านสามารถถอดกายทิพย์ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ ได้

- ”น้ำชา และต้มเครื่องเทศ” สามารถทำให้โรคภัยไข้เจ็บของชาวบ้านหายได้อย่างไร เป็นคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้ เป็นไปได้ หรือไม่ ว่า หลวงพ่อกบ ให้พลังจิตช่วยในการรักษา

- พลังเมตตาบารมี หลวงพ่อกบ เป็นคนเฉยๆ หากมีคนมานมัสการท่าน ท่านเพียงแต่เงยหน้าขึ้นมาดู ไม่ค่อยโอภาปราศรัยด้วย แต่ก็เป็นเรื่องแปลกทุกคนที่มาหาท่านต่างยอมรับว่า รู้สึกศรัทธา และปลื้มปีติสุข เมื่อได้พบกับหลวงพ่อกบ







หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา





หลวงพ่อกบ ท่านละสังขารเมื่อวันที่ ๑๗ธันวาคม ๒๔๙๖ในวันนั้นหลวงพ่อโอภาสีได้ขึ้นมาที่วัด และรับเป็นประธานในงานเผาสรีระของท่าน หลวงพ่อโอภาสีทราบได้อย่างไร ? ชาวบ้านต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า " ไม่มีใครส่งข่าวไปบอกท่าน” เพราะหนทางไกล การคมนาคมสมัยนั้นลำบากมาก ในเรื่องนี้เข้าใจกันว่า หลวงพ่อโอภาสี ท่านคงทราบได้ด้วยฌานเช่นเดียวกัน การละสังขารของหลวงพ่อกบ ยังความโศกเศร้าเสียใจให้กับผู้คนจำนวนมาก

ทุกสิ่ง ทุกอย่างแห่งความดี และความเมตตาอารีของท่านยังคงฝังอยู่ในความทรงจำของเหล่าพุทธศาสนิกชนอย่างไม่มีวันลืม ตราบจนทุกวันนี้







หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา





อ่านเพิ่มเติม...อานุภาพแห่งพุทธคุณ " ๕ อันดับพระเครื่อง





ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพและเจ้าของบทความ ที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้

Cr.SaRaN WiKi

http://www.itti-patihan.com/

เพื่อเผยแผ่กิตติคุณครูบาอาจารย์เป็นสังฆบูชา


รูปกระดาษเก่าไม่ทราบปี รับประกันเก่าจริงครับ

 

ปิด 2 เหรียญ



เหรียญหลวงพ่อปานหลังพระพุทธ วัดบางนมโค อยุธยา ปี 2522 เนื้อทองแดง หลวงพ่อฤาษีลิงดำปลุกเสก สภาพเหรียญสวยมาก พ.ศ.ลึก แกะใบหน้าของหลวงพ่อดูมีชีวิตชีวา นับได้ว่าเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่หายาก แต่ราคายังเบาๆ รับประกันแท้ มี 3 เหรียญๆ ละ 650 บาท ยกหมด 1,750 บาท

 

ปิด

rา แกะ

รับประกัน rา แท้

บูชา 350 บาท

 

สมเด็จโต หล่อโบราณ

หลวงปู่นาค วัดระฆังสร้าง ปี 2495

บูชา 550 บาท

 

พระผงเจ้าสัว หลังหลวงปู่ทิม วัดพระขาว

ออกปี 2541มีเกศาชัดเจน รับประกันแท้

บูชา 350 บาท

 

ปิดครับ

หนุมาน หลวงพ่อแปะ วัดศาลากุน จ.นนทบุรี
( ศิษย์เอก หลวงพ่อสุ่น ).. ตัวนี้คนแกะคนเดียวกันกับของหลวงพ่อกุน

หนุมานตัวจริงเสียงจริงครับ หนุมานหลวงพ่อสุนเป็นตำนานไปแล้ว ไม่ต้องไปหา เก๊เพียบ ส่วนหนุมานหลวงพ่อแปะตัวจริงๆก็หายากมากเหมือนกัน ส่วนใหญ่หนุมานหลวงพ่อสุ่นเก๊ๆก็จะยัดเป็นหลวงพ่อแปะกันทั้งนั้น หลวงพ่อแปะท่านเป็นศิษย์ผู้สืบทอดพุทธาคมการสร้างหนุมานโดยตรงแท้ๆมาจากหลวงพ่อสุ่นเลย ทุกอย่างสร้างตามขั้นตอนตามตำราไม่มีผิดเพี้ยน ไม่ว่าจากรากไม้ซ้อนที่นำมาแกะ ก็เป็นต้มเดิมที่หลวงพ่อสุ่นท่านปลุก และเสกน้ำมนต์รดไว้ครั้นก่อน มาถึงสมัยหลวงพ่อแปะท่านก็เสกน้ำมนต์รดต่อมาอย่างต่อเนื่องทุกวันไม่มีขาดเรียกว่าขลังตั้งแต่ไม้แล้วครับ จำนวนสร้างหลวงพ่อท่านสร้างไว้ค่อนข้างน้อยมาก ไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อย เครื่องรางหนุมานที่ขึ้นชื่อที่สุดนั้น เห็นจะเป็นหนุมานจากหลวงพ่อสุ่น ซึ่งในวงการนักสะสมเครื่องรางของขลังนั้นพูดกันจน
ติดปากเลยว่า "เสือหลวงพ่อปาน หนุมานพ่อสุ่น" และหนุนมาน
ของหลวงพ่อส่นนั้นถึงกับได้รับ สมญานามว่า "ขุนกระบี่ ฤทธิ์
เกริกไกร หนึ่งในสยาม" เพราะในเรื่องหนุมานไม่มีใครจะเกิน
หลวงพ่อสุน วัดศาลากุน เกาะเกร็ด นนทบุรี ไปได้จริงๆ จนถือ
เป็นสุดยอดของขลังที่ นักสะสมใฝ่หาไว้มาครอบครองบูชา

"นะมัง เพลิง โมมัง ปากกระบอก ยะ มิให้ออก อุดรังโธอุด ธังอัดอะสังวิสุ โรปุสะพุพะ มะอะอุ โอมยะพุทธา ทะโยสตรี สตรี นิสังโห"
คาถากำกับหนุมาน

องค์นี้สวยตามรูป ศิลป์นิยมแกะด้วยสิ่ว เจ้าของเดิมแปะด้วยสีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบและทองคำเปลวที่ใช้ปิดรูปเหมือน หลวงพ่อสุ่น ติดหนุมานก่อนเลี่ยมพลาสติกและเลี่ยมทองคำแท้ บูชามานานก่อน แกะทองออกไป รับประกันสวย แท้ พิจารณาตามรูปได้เลยครับ

 

พระพิธีดีที่สุดในยุค

ปี2500 มีการปลุกเสกพระที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่ก่อนคนอาจจะมองข้ามว่าพระสร้างเยอะ ราคาไม่แพง ตอนนี้ ไม่ใช่ละครับ เพราะคนเก็บก็เก็บจริงๆ จนพระแท้เริ่มหมด พระเก๊จึงออกมา แถมราคาก็็็ไม่ใช่จะร้อยสองร้อยแล้วนะครับ

บูชา 500 บาท

 

ปิด

เหรียญ 7 รอบ หลวงพ่อเกษม พร้อมกล่องเดิม

บูชา 650 บาท

 

ปิด

 

เหรียญหลวงพ่ออยู่ วัดรัตนชัย (จีน) เนื้อทองแดง รมดำ สร้างปี 2518

เหรียญนี้ถูกนำเข้าปลุกเสก ในพิธีจตุรพิธพรชัย ปี 2518 ซึ่ง เป็นเหรียญที่ปลุกเสกพร้อมๆ เหรียญจตุรพิธพรชัย 9 คณาจารย์ ได้แก่ หลวงพ่อนอ วัดกลาง, หลวงพ่อถิร วัดป่าเรไรย์, หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค, หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู, หลวงพ่อออด วัดบ้านช้าง, หลวงพ่อโกย วัดพนัญเชิง, หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง, หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม จัดเป็นของดีราคาเบา



รายนามพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก
1. พระครูสังวรวิมล (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี อ.บางกอกใหญ่ จ.กรุงเทพฯ
2. พระครูประสาทวิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลาง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
3. พระรักขิตวันมุนี (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเรไรย์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
4. พระโบราณคณิสสร (หลวงพ่อใหญ่) วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
5. พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง) วัดโบสถ์โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี
6. พระครูสันทัดธรรมคุณ (หลวงพ่อออด) วัดบ้านช้าง อ.วังน้อย จ.อยุธยา
7. พระครูกัลยานุกูล (หลวงพ่อเส่ง) วัดกัลยาณมิตร อ.ธนบุรี จ.กรุงเทพฯ
8. หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
9. พระครูอดุลวรวิทย์ (หลวงพ่อไวทย์) วัดบางซ้าย อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา
10. หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา
11. พระราชสุวรรณโสภณ(หลวงพ่อโกย) วัดพนัญเชิง อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
12. พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี
13. พระครูสังฆรักษ์ (หลวงพ่อเฉลิม) วัดพระญาติการาม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
14. พระครูภัทรกิจโกศล (หลวงพ่อหวล) วัดพุทไธสวรรค์ อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
15. หลวงพ่อโปร่ง วัดขุนทิพย์ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
16. หลวงพ่อสมบูรณ์ วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ (ศิษย์ก้นกุฎิของหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค มาในนามของท่าน)

รับประกันแท้