หมดแล้ว <<ฟ้าสร้าง>> หนุมานเกราะเพชรมากประสบการณ์ หลวงปู่หริ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ฟ้าสร้าง, 24 พฤศจิกายน 2009.

  1. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    วัตถุมงคลที่เปิดให้บูชาตอนนี้ มีดังนี้ค่ะ

    ครูบาแม้ว
    1. มีดหมอมหาปราบ บูชา 299.-
    2. ตะกรุดรกแมวรุ่น 2 บูชา 299.-
    3. ผ้ายันต์พระยาจักรแก้ว บูชา 99.-

    ครูบาธร
    1. กลองสะท้อน บูชา 350.-

    ครูบาวัย
    1. ประคำมหาวิมุติ บูชา 199.-

    ครูบาอิ่นคำ
    1. พระรอดหลังฤาษี องค์ละ 100.-
     
  2. พิมาน

    พิมาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2009
    โพสต์:
    828
    ค่าพลัง:
    +3,953
    คุณ ฟ้าสร้างขอจองประคำเพิ่มอีก 1 เส้นครับ
     
  3. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    รูปวัดหลวงปู่ครุบาวัย สงบดีมากๆ ( ไปหลงอยุ่เกือบ 2 ชม.)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 04.jpg
      04.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.1 KB
      เปิดดู:
      64
    • 01.jpg
      01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.3 KB
      เปิดดู:
      39
    • 03.jpg
      03.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.4 KB
      เปิดดู:
      53
    • GetAttachment.aspx.jpg
      GetAttachment.aspx.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.7 KB
      เปิดดู:
      36
  4. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    รับทราบค่ะ
     
  5. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    หลวงปู่ครูบาศรีวัย โพธิวํโส

    หลวงปู่ครูบาศรีวัย โพธิวํโส
    วัดหนองเงือก ต.แม่แรง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน
    ศิษย์หลวงปู่ครูบาญานะ(คำแสน) วัดหนองเงือก พระอาจารย์ผู้สอนกรรมฐาน หลวงปู่ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า


    [​IMG]
     
  6. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ประวัติครูบาวัยค่ะ

    หลวงปู่ครูบาศรีวัย เกิดวันที่ ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ ในครอบครัวชาวยอง ณ.บ้านหนองเงือก ต.แม่แรง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน เมื่ออายุ ๑๒ ปีได้มาเป็นขโยม( เด็กวัด )อยู่กับหลวงปู่ครูบาณานะ(คำแสน) อดีตเจ้าอาวาส วัดหนองเงือก ผู้เป็นพระอาจารย์ใหญ่ในด้านสมถและวิปัสนากรรมฐานที่มีศิษยานุศิษย์เป็นที่นับถือศรัทธาของประชาชนทั่วไป อาทิ หลวงปู่ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า หลวงปู่ครูบาพรหม วัดหนองเงือก หลวงปู่ครูบาดวงดี วัดดอนหลวง และหลวงปู่ครูบาศรี อริยวํโส วัดป่าบุกผู้ซึ่งมีดวงธาตุเป็นลูกไฟพุ่งออกจากสังขาร
    ต่อหน้าศรัทธานับร้อยขณะปลงศพ


    หลวงปู่ครูบาศรีวัยนั้นท่านเป็นผู้มีบุญบารมีสูง ขณะที่อายุ ๑๒ ปีได้มาเป็นขโยมวัดรับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่ครูบาญานะในช่วงท้ายของชีวิต หลวงปู่ครูบาญานะคงเห็นแววของเด็กชายศรีวัยว่าภายภาคหน้าจะได้เป็นกำลังของพระศาสนาจึงได้อบรมสั่งสอนกรรมฐานให้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเด็กชายศรีวัยเป็นเด็กที่มีบุญมากบารมีจิตใจสะอาดมั่นคงจึงทำให้พระกรรมฐานเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วจนสำเร็จรูปฌาน๔ตั้งแต่ยังมิได้บวชเณร จนกระทั่งหลวงปู่ครูบาญานะได้มรณภาพลงในปีพศ.๒๔๙๐ เด็กชายศรีวัยจึงได้บวชทดแทนคุณท่านเมื่ออายุ ๑๔ ปี บวชแล้วก็ได้ศึกษาพระกรรมฐานต่อกับหลวงปู่ครูบาพรหม วัดหนองเงือก (ศิษย์หลวงปู่ครูบาญานะที่เป็นเจ้าอาวาสลำดับต่อมา) และยังได้ศึกษาเพิ่มเติมในด้านกรรมฐานรวมทั้งพระเวทย์กับหลวงปู่ครูบาดวงดี วัดดอนหลวงและหลวงปู่ครูบาศรี อริยวํโส วัดป่าบุก ซึ่งเก่งมาก นอกจากนั้นยังได้รับถวายวิชาอาคมโดยเฉพาะวิชาหอระมานเกือกฝุ่น(หนุมานคลุกฝุ่น)จากพ่อหนานนันทาชาวจ.แพร่ และได้เดินทางร่ำเรียนวิชาถึงเมืองยองเลยไปถึงแคว้นสิบสองปันนาประเทศจีนซึ่งพูดภาษาเหมือนยองบ้านหนองเงือก
    หลวงปู่ครูบาศรีวัยเป็นพระผู้มีบุณบารมีสูงมาก จนสามารถสื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆได้ อาทิ นำศิษยานุศิษย์นั่งเจริญพระกรรมฐานจนกระทั่งรัศมีดวงธาตุเปล่งออกจากพระธาตุเจดีย์ต่อหน้าศรัทธาญาติโยมจำนวนมาก โดยศิษย์บางท่านถ่ายภาพไว้ได้ พระธาตุเจดีย์นี้เป็นเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุพระแก้วและพระธาตุ๑๐๑องค์ที่คณะของหลวงปู่ครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า อัญเชิญมาจากวัดนครเจดีย์ โดยพระแก้วและพระธาตุนี้ได้เลือกผู้มีบุญบารมีที่สามารถสืบทอดกันดูแลรักษาองค์ท่านไว้แล้วซึ่งก็คือหลวงปู่ครูบาศรีวัย ตามประวัติดังนี้

    ประวัติวัดนครเจดีย์ (หนองเจดีย์) วัดนครเจดีย์ สมัยก่อนนั้นก็เป็นวัดรกร้าง หาใครเข้าไปอยู่ได้ยาก กลัวงู กลัวเสือ กลัวผีไปทุกๆ ชนิด ที่วัดหนองเจดีย์ (วัดนครเจดีย์) มีพระเจดีย์ร้างอยู่องค์หนึ่ง พระเจดีย์องค์นี้อยู่ในลักษณะทรุดโทรมหักพัง กองอิฐถูกผู้โลภหวังจะหาทรัพย์สมบัติโบราณทำลายขุดจนดูไม่ออกว่าพระเจดีย์นี้มีรูปลักษณ์แบบใดกันแน่ ต่อมาเมื่อ หลวงปู่พระสุพรหมยานเถร หรือ ท่านครูบาพรหมา ได้ผ่านไปทางพระเจดีย์ร้างนี้ ก็กำหนดรู้ด้วยวาระจิตว่า ใต้ฐานเจดีย์ทิศตะวันออกมีพระพุทธรูปสำคัญอยู่องค์หนึ่ง ทั้งยังมีพระบรมธาตุอันศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย ดังนั้น หลวงปู่จึงได้ให้ญาติโยมวัดผู้อุปัฏฐากไปขุดค้นตรงบริเวณดังกล่าว ก็ได้พบกับพระแก้วมรกตองค์หนึ่งงดงามมาก พร้อมกับพระบรมธาตุในผอบอีก ๑๐๑ องค์ หลวงปู่พระสุพรหมยานเถรได้อัญเชิญมาวางในที่อันควร จากนั้นได้ทำการสรงน้ำ (คือล้างดินทรายออกจากองค์พระแก้วมรกต) ก็ปรากฏเป็นแสงสว่างเขียวงามตาไปทั่วบริเวณ


    [​IMG]

    ส่วนพระบรมธาตุ ๑๐๑ องค์ หลวงปู่ได้ทำการอัญเชิญสรงน้ำด้วยเครื่องหอม น้ำอบ และแก่นจันทน์ พอตกกลางคืน ก็ปรากฏว่ามีแสงสีสว่างจ้าทุกคืน อัญเชิญประดิษฐานไว้สักการะ ความอัศจรรย์กับพระบรมธาตุศักดิ์สิทธิ์ จะเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน ผู้เขียน (คุณโชติ) ได้กราบเรียนถามศิษย์ใกล้ชิดของท่านคือ ครูบาเขื่อนคำ อัตตสันโต เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ก็ได้รับคำยืนยันว่า เป็นความจริงนะโยม ครูบาพรหมาท่านเก็บรักษาบูชาของทั้งสองอย่างอยู่ไม่นานนัก เพราะท่านกำหนดรู้ถึงความไม่ปลอดภัยของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองอย่างนี้

    ดังนั้น ท่านครูบาพรหมาจึงได้นำอัญเชิญพระแก้วมรกตและพระบรมธาตุทั้ง ๑๐๑ องค์ ตรงไปยังวัดป่าเหียง เพื่อทำการอัญเชิญบรรจุในพระเจดีย์ พอไปถึงวัดป่าเหียง ท่านครูบาพรหมาต้องผิดหวัง เพราะว่าท่านเจ้าอาวาสท่านปฏิเสธที่จะรับของอันมีค่านี้ไว้ เนื่องจากวัดป่าเหียงมีเจดีย์บรรจุธาตุเรีบยร้อนแล้ว ท่านเจ้าอาวาสวัดป่าเหียงก็ได้แนะนำให้ท่านครูบาพรหมาอัญเชิญไปบรรจุ ณ วัดหนองเงือกทันที” เพราะขณะนั้นวัดหนองเงือกกำลังก่อสร้างพระเจดีย์ เมื่อครูบาพรหมารีบนำพระแก้วมรกต และพระบรมธาตุไปที่วัดหนองเงือก ท่านเจ้าอาวาสวัดหนองเงือก ก็รับเอาไว้ด้วยปีติยินดี แล้วได้ทำการอัญเชิญประดิษฐานลง ณ พระเจดีย์ดังกล่าว เพื่อเป็นที่สักการบูชาของคณะศรัทธาญาติโยมต่อไป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • wow1.jpg
      wow1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.6 KB
      เปิดดู:
      1,948
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2009
  7. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ประคำมหาวิมุตติ

    [​IMG]


    โมรปริตรสูตร บทสวดป้องกันภัยจากผู้คิดร้าย

    บทขัดโมระปะริตตัง

    ปูเรนตัมโพธิสัมภาเร นิพพัตตัง โมระโยนิยัง
    เยนะ สังวิหิตารักขัง มะหาสัตตัง วะเนจะรา
    จิรัสสัง วายะมันตาปิ เนวะ สักขิงสุ คัณหิตุง
    พรัหมะมันตันติ อักขาตัง ปะริตตันตัมภะณามะ เห ฯ

    แปลบทขัดโมระปะริตตัง

    พวกพรานไพร แม้พยายามอยู่ช้านานไม่อาจนั่นเทียว เพื่อจะจับพระมหาสัตว์ ผู้บังเกิดแล้วในกำเนิดแห่งนกยูง
    ผู้ยังโพธิสมภารให้บริบูรณ์อยู่ มีความรักษาอันตนจัดแจงดีแล้ว ด้วยพระปริตรอันใด เราทั้งหลาย
    จงสวดพระปริตรอันนั้น ที่พระพุทธเจ้าทรงเรียกว่า พรหมมนตร์ เทอญ.

    บทโมระปะริตตัง

    • อุเทตะยัง จักขุมา เอกะราชา
      หะริสสะวัณโณ ปะถะวิปปะภาโส
      ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะถะวิปปะภาสัง
      ตะยาชชะ คุตตา วิหะเรมุ ทิวะสัง

      พระอาทิตย์ผู้เป็นดวงตาของโลก ผู้ยิ่งใหญ่พระองค์นี้ เสด็จอุทัยขึ้นทรงพระรัศมีสีทองสาดส่องปฐพี ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าขอนมัสการพระอาทิตย์ผู้ทรงรัศมีสีทองสาดส่อง ปฐพีพระองค์นั้น พระองค์ได้คุ้มครองข้าพระองค์ในวันนี้แล้ว ขอให้ข้าพระองค์มีชีวิตยั่งยืนอยู่ตลอดวัน

      ๒. เย พฺราหฺมะณา เวทะคู สัพพะธัมเม
      เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ
      นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา
      นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา
      อิมัง โส ปะริตตัง กัตฺวา โมโร จะระติ เอสะนา

      พระพุทธเจ้าเหล่าใด ทรงรู้แจ้งธรรมทั้งปวง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าเหล่านั้น ขอพระพุทธเจ้าเหล่านั้น จงคุ้มครองข้าพเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระพุทธจ้าทั้งหลาย ขอนอบน้อมแด่พระโพธิญาณ ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้าผู้หลุดพ้นแล้ว ขอนอบน้อมแด่วิมุตติธรรม เมื่อนกยูงนั้นสาธยายพระปริตรอย่างนี้แล้ว จึงออกเสวงหาอาหาร

      ๓. อะเปตะยัง จักขุมา เอกะราชา
      หะริสสะวัณโณ ปะถะวิปปะภาโส
      ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะถะวิปปะภาสัง
      ตะยาชชะ คุตตา วิหะเรมุ รัตติง

      พระอาทิตย์ผู้เป็นดวงตาของโลก ผู้ยิ่งใหญ่พระองค์นี้ เสด็จอัสดงคตทรงพระรัศมีสีทองสาดส่องปฐพี ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าขอนมัสการพระอาทิตย์ผู้ทรงรัศมีสีทองสาดส่อง ปฐพีพระองค์นั้น พระองค์ได้คุ้มครองข้าพระองค์ในวันนี้แล้ว ขอให้ข้าพระองค์มีชีวิตยั่งยืนอยู่ตลอดราตรี

      ๔. เย พฺราหฺมะณา เวทะคู สัพพะธัมเม
      เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ
      นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา
      นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา
      อิมัง โส ปะริตตัง กัตฺวา โมโร วาสะมะกัปปะยิ

      พระพุทธเจ้าเหล่าใด ทรงรู้แจ้งธรรมทั้งปวง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าเหล่านั้น ขอพระพุทธเจ้าเหล่านั้น จงคุ้มครองข้าพเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระพุทธจ้าทั้งหลาย ขอนอบน้อมแด่พระโพธิญาณ ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้าผู้หลุดพ้นแล้ว ขอนอบน้อมแด่วิมุตติธรรม เมื่อนกยูงนั้นสาธยายพระปริตรอย่างนี้แล้วจึงสำเร็จความอยู่แล
    ตำนานโมระปริตร : มนต์คาถาของนกยูงทอง

    พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นนกยูง มีขนสีเหลืองเหมือนทอง จึงมีชื่อว่านกยูงทอง อาศัยอยู่บนภูเขาแห่งหนึ่ง ตามปรกตินกยูงทอง พอถึงเวลาเช้าก็จะไปจับบนยอดภูเขา บ่ายหน้าไปทางทิศตะวันออก แลดูดงอาทิตย์ที่แรกขึ้น แล้วเจริญมนต์ว่า อุเทตะยัญจักขุมา เอกราชา เป็นต้น ซึ่งมีความหมายว่า พระอาทิตย์เป็นดวงตาของโลก เป็นเอกราช มีสีเหมือนทอง ส่องพื้นพิภพให้สว่าง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมนมัสการพระอาทิตย์ ขอให้คุ้มครองข้าพเจ้าให้เป็นสุขตลอดวัน ข้าพเจ้าขอมนัสการผู้รู้ธรรม ขอให้รักษาข้าพเจ้า ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย จงมีแด่พระโพธิญาณ จงมีแด่ท่านผู้พ้นทุกข์ ดังนี้ พอเจริญมนต์เสร็จแล้วก็ไปหาอาหาร การเจริญมนต์ของนกยูงทองตอนนี้เพื่อคุ้มครองป้องกันตนในเวลากลางวัน ครั้นเวลาเย็นกลับมาจากหาอาหารแล้วก็ขึ้นไปจับยอดไม้บนเขา บ่ายหน้าไปทางทิศตะวันตก แลดูดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตก เจริญมนต์ว่า อะเปตะยัญจักขุมา เอกราชา เป็นต้น ซึ่งมีใจความว่า ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระอาทิตย์อันเป็นดวงตาของโลก เป็นเอกราช มีสีเหมือนทอง กำลังจะตกไปแล้ว ขอให้คุ้มครองข้าพเจ้าให้เป็นสุขตลอดคืน เป็นต้น การเจริญมนต์ของนกยูงตอนเย็นนี้เพื่อคุ้มครองป้องกันตนในเวลากลางคืน จริยาวัตรดังกล่าวนี่ นกยูงได้ทำเป็นเนืองนิตย์ทุกวันทุกคืน จึงอยู่เป็นสุขปราศจากอันตรายตลอดมา

    อยู่มาวันหนึ่ง พระนางเขมาอัครมเหสีของพระเจ้าพาราณสี ทรงสุบินเห็นนกยูงทองแสดงธรรมให้ฟังอย่างไพเราะจับใจ ครั้นตื่นขึ้นก็กราบทูลพระราชาสวามี และทูลประสงค์จะฟังธรรม ของนกยูงทองที่ทรงสุบินนั้น พระราชสามีเที่ยวสืบถามเหล่าพรานไพรก็ทรงทราบจากลูกชายของพรานคนหนึ่งซึ่งพ่อของเขาได้บอกก่อนตายว่า มีนกยูงสีทองตัวหนึ่งอาศัยที่ภูเขาโน้น พระราชาจึงสั่งให้จับมาถวาย แต่อย่าทำให้ถึงตาย พรานไพรก็เอาบ่วงไปดักในที่ที่นกยูงทองเที่ยวหากิน เมื่อยกยูงทองเหยียบที่บ่วง บ่วงไม่สามารถทำอะไรนกยูงทองได้สักครั้งเพราะอำนาจมนต์ที่นกยูงทองเจริญอยู่เป็นนิตย์ นายพรานพยายามดักอยู่ถึงเจ็ดปีก็จับไม่ได้จนตัวตายไป พระนางเขมาราชเทวเมื่อไม่ได้สมความปรารถนาก็เศร้าโศก ซูบผอมตรอมพระทัยจนสิ้นพระชนม์ พระราชาพิโรธเป็นกำลังที่มเหสีต้องสิ้นพระชนม์ลงเพราะนกยูงทองนี้ จึงทรงจองเวรให้อาลักษณ์จารึกหนังสือไว้บนแผ่นทองบรรจุลงในหีบเพื่อให้คนรุ่นหลังได้อ่านก่อนท่านสวรรคตว่ามีนกยูงทองตัวหนึ่งอาศัยอยู่บนภูเขา ถ้าใครได้กินเนื้อนกยูงทองตัวนี้จะอายุยืนไม่แก่ตาย

    พระราชาองค์ต่อมาผู้สืบสันตติวงศ์ทรงอ่านแผ่นทองนั้น สำคัญว่าเป็นจริงจึงสั่งให้พรานไปดักจับแต่ก็ไม่เคยสมพระราชประสงค์ จนนายพรานคนหนึ่งสังเกตุว่า ทำไมหนอบ่วงจึงไม่สามารถรูดรัดเท้านกยูงทองตัวนี้ เมื่อสะกดรอยติดตามดูก็เห็นนกยูงทองนั้นเจริญมนต์ทุกเช้าทุกเย็น จึงแน่ใจว่าเพราะเหตุนี้เองจึงทำให้นกยูงทองไม่ติดบ่วง แล้วนายพรานก็คิดอุบายขึ้นมาได้จึงไปจับนางนกยูงตัวหนึ่งมาฝึกให้รู้อาณัติสัญญาณ เช่นดีดนิ้วมือนกยูงก็ร้อง ถ้าปรบมือนางนกยูงก็ฟ้อนรำ เมื่อฝึกสอนจนชำนาญแล้ว จึงอุ้มนางนกยูงไปแต่มืดก่อนพระอาทิตย์ขึ้น แล้วดักบ่วงไว้ก่อนที่นกยูงทองจะเจริญมนต์ พอเสร็จดีดนิ้วมือขึ้น นางนกยูงจึงส่งเสียงด้วยสำเนียงไพเราะจำใจพอนกยูงทอง ได้ยินเสียงร้องของนางนกยูงก็รุ่มร้อนด้วยอำนาจกิเลสจนลืมเจริญมนต์ รีบโผบินไปยังที่นางนกยูงอยู่ กระทั่งติดบ่วงในที่สุด เมื่อนายพรานดักนกยูงทองได้แล้วจึงรีบนำไปถวายพระเจ้าแผ่นดิน พระเจ้าแผ่นดินทรงพอพระราชหฤทัยมากที่จะได้เสวยเนื้อนกยูงทองนี้จะได้ไม่แก่ตายตามคำจารึกนั้น แต่ก่อนจะเสวยจึงใครจะสนทนากับนกยูงทองเสียก่อน จึงจัดที่ให้นกยูงทองจับ เมื่อนกยูงทองจับเข้าที่นั้นแล้ว นกยูงทองจึงทรงทูลถามเหตุที่พระเจ้าแผ่นดินทรงให้นายพรานไปดักจับ พระเจ้าแผ่นดินก็ตรัสเล่าให้ตามที่ปรากฎในจารึกนั้น นกยูงทองจึงทูลว่า ทำไมพระองค์จึงเชื่อดังนั้น ถ้าเนื้อของข้าพเจ้าวิเศษจริงถึงกับทำให้คนกินไม่แก่ไม่ตายจริง ทำไมข้าพเจ้ายังต้องจะตายเพราะถูกจับมาฆ่าเอาเนื้อให้ท่านกิน ไฉนผู้กินเนื้อข้าพเจ้าจะไม่ตายเล่า ขอพระองค์ได้เชื่อตามนั้นเลย กรรมหนักจะตกแก่พระองค์ แล้วนกยูงทองก็แสดงอานิสงฆ์ของการไม่เบียดเบียนสัตว์ จนพระเจ้าแผ่นดินทรงเลื่อมใส รับสั่งให้ปล่อยนกยูงทองนี้ไป แล้วออกหมายประกาศไม่ให้ผู้ใดทำร้ายสัตว์ทุกชนิดในพระราชอาณาเขตของพระองค์ มนต์บทนี้จึงถือกันว่า ทำให้แคล้วคลาดหลุดพ้นจากภัยพิบัติทั้งปวงฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2009
  8. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    สาธุ:cool:
     
  9. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    [​IMG]

    ภาพอัศจรรย์นี้หลวงปู่ครูบาวัยท่านนำคณะสงฆ์นั่งอธิษฐานจิตสักการะพระธาตุเจดีย์จนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปรากฏเป็นดวงแก้วรังสี ​

    [​IMG]

    โปรดสังเกตหลวงปู่นำประคำมหาวิมุตติและหอระมานมาเสกในศาลาข้างพระธาตุเจดีย์ โดยสามารถเห็นธาตุเจดีย์ตลอดเวลาเพื่ออัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตย์อยู่ในพระธาตุเจดีย์ลงประสิทธิในประคำมหาวิมุตติและหอระมาน จึงพูดได้ว่าประคำมหาวิมุติเป็นประคำที่ดีที่สุดในยุคนี้ ทั้งความหมายและองค์ผู้ปลุกเสก รวมถึงความศักดิ์สิทธิ์ที่บังเกิด​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_2098.jpg
      IMG_2098.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.2 KB
      เปิดดู:
      1,559
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2009
  10. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
    หอระมาน ( หนุมาณ ) ก็น่าจะเสร็จเร็วๆนี้
     
  11. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ข้อมูลเพิ่มเติมหาก๊อปมาให้อ่านค่ะ

    ท่านเสกเหรียญรุ่นแรก เมื่อประมาณปีพศ.๒๕๑๘ ประสบการณ์มากมายขนาดยิงไม่ออกอ่ะครับ ผมไปกราบท่านครั้งก่อนชาวบ้านเล่าให้ฟัง แต่วันนั้นจะมืดแล้วมัวแต่รีบกลับเลยไม่ทันถ่ายรูปคนที่เล่า อีกอย่างคนที่เล่าก็กึ่มๆแล้วพวกเพื่อนในวงเค้าเริ่มงองแงกับผม ชักจะคุยไม่รู้เรื่องแระ ผมเลยกลับก่อน แต่ให้ลูกน้องจดเบอร์โทรเค้ามา หลวงปู่ครูบาวัยท่านกรรมฐานแก่กล้าครับ คุณเคยได้ยินเรื่องลืมตาเสกมั๊ย? คนที่ลืมตาเสกได้อำนาจฌาณสมาธิต้องกล้าแข็งเป็นพิเศษเรียกทางพระว่ามีตบะเดชสูง หลวงปู่ครูบาวัยท่านแสดงให้ผมดูหมด เมื่อท่านเสกหอระมานและประคำมหาวิมุตติ

    [​IMG]

    ลืมตาเสกยังไม่เท่าไร ปากยังสวดว่าพุทธมนต์อีกด้วย ในชีวิตผม
    เคยเห็นทำได้อีกองค์หนึ่งคือท่านพ่อสีนวล วัดเกวียนหัก อ.ขลุง
    จ.จันทบุรี ของของท่านก็แน่นอนแบบเดียวกัน

    [​IMG]
    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2009
  12. maxkyman

    maxkyman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,473
    ค่าพลัง:
    +6,406
    ผมศรัทธา หลวงปู่ครูบาอินมากๆครับ
     
  13. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ครูบาอิน วัดฟ้าหรั่งค่ะ

    [​IMG]
     
  14. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ครูบาธรหรือครูบาลายค่ะ


    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]
     
  15. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    [​IMG]
    ความเป็นมาและพุทธคุณ

    ตะกรุดกาสะท้อน(กันสะท้อน)ของล้านนาในยุคปัจจุบัน ปริวรรตมาจาก
    ตะกลุดกลองสะท้อนของแคว้นสิบสองปันนา ที่ลูกกลองทำจากไม้ลมแล้งตายพราย นำมาแกะและเจาะรู จากนั้นนำแผ่นโลหะลงอักขระคาถากันสะท้อนม้วนบรรจุลงภายใน ปิดทับด้วยชันโรงใต้ดินโดยทุกขั้นตอนมีคาถาเสกกำกับ จากนั้นเสกหนุนธาตุ 108 คาบ ปิดแผ่นทองเสริมสิริมงคล ตำราว่าไว้ใช้ทางมหาอำนาจข่ามคงกันและแก้การปองร้ายจากศัตรูที่จะมาทำร้ายเราไม่ว่าด้วยวิธีใด
    ทำคูณไสย ใส่ความกลั่นแกล้งหรือกระทั่งใช้อาวุธทำร้ายให้สะท้อนกลับไปโดนตัวผู้ทำ ส่วนผู้บูชาตะกรุดกลองสะท้อนกลับดีขึ้น เปรียบเหมือนการตีกลองไม้ที่ตีลงกลองไม่เจ็บยิ่งตีกลองยิ่งดัง ส่วนไม้ที่ตีจะสะท้อนกลับมาทางคนตี


    คาถาบูชาตะกรุดกลองสะท้อน

    ( ตั้งนะโม 3 จบ ) โมก ขะ วา ตัง วะ ขะ สะ วัง มิ ( 3 จบ)<!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1935.jpg
      IMG_1935.jpg
      ขนาดไฟล์:
      97.9 KB
      เปิดดู:
      1,917
  16. โก๋เอี่ยม

    โก๋เอี่ยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,784
    ค่าพลัง:
    +730
  17. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ครูบาแม้วท่านจะลงมาสงเคราะห์ญาติโยมที่ กทม.อีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม 2553 พี่ๆท่านใดที่พลาดโอกาสครั้งที่แล้ว หรือพี่ที่มาแล้วเมื่อครั้งก่อนและยังมีข้อข้องใจ อยากถามครูบาท่านหรือจะพาเพื่อนๆ ญาติพี่น้องมาตรวจและแก้เคราะห์กรรมหรือจะมาทำบุญโดยนำกลด 3 ฤดูหรือปัจจัยมาถวายท่านเพื่อใช้ในการจัดเข้ากรรม (ปฎิบัติกรรมฐาน) ในวันที่ 11-17 มกราคม 2553 ณ ป่าช้าวัดขุนคงและวัดช้างคำร้าง ก็เชิญมากราบท่านได้ที่ วัดทุ่งครุ ถ.ประชาอุทิศ 84 แขวงเขตทุ่งครุ กทม. เหมือนเดิม โทรสอบถามเส้นทางได้ที่ 080-181-0220 นะคะ
     
  18. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    ระวังคนเหนือบุกนะพี่;aa8
     
  19. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    พี่ๆท่านใดจะมาทำบุญถวายกลด 3 ฤดูหรือปัจจัยกับครูบาท่านเพื่อใช้ในการจัดเข้ากรรม (ปฎิบัติกรรมฐาน) ในวันที่ 11-17 มกราคม 2553 ณ ป่าช้าวัดขุนคงและวัดช้างคำร้าง เชิญได้เลยนะค่ะ วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม ตั้งแต่ 9.30 น.ค่ะ
     
  20. ฟ้าสร้าง

    ฟ้าสร้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,917
    ค่าพลัง:
    +1,995
    วัตถุมงคลที่เปิดให้บูชาตอนนี้ มีดังนี้ค่ะ

    <!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->ครูบาแม้ว
    1. มีดหมอมหาปราบ บูชา 299.-
    2. ตะกรุดรกแมวรุ่น 2 บูชา 299.-
    3. ผ้ายันต์พระยาจักรแก้ว บูชา 99.-

    ครูบาธร
    1. กลองสะท้อน บูชา 350.-

    ครูบาวัย
    1. ประคำมหาวิมุติ บูชา 199.-

    ครูบาอิ่นคำ
    1. พระรอดหลังฤาษี องค์ละ 100.-
     

แชร์หน้านี้

Loading...