มาดูสมเด็จกัน

อาจารย์ wasabi อาจารย์ xlmen พี่ๆ เพื่อนๆ ผู้รู้ทั้งหลาย ช่วยวิเคราะห์ วิจารณ์ด้วยครับ ...ถ่ายรูปมาใหม่... ขอบคุณมากครับ

 

ช่วยดูให้กระผมสักองค์นะครับสมเด็จพิมพ์ใหญ่ วัดใหนครับ

เนื้อท่านแน่น หนึก นุ่ม ดีครับชอบเลยเก็บ เพราะหาดูแล้วแถวตลาดพระไม่มีเนื้อนี้
ที่สำคัญผมได้มาจากคนรู้จักกันครับ

 

พระเนื้อดิน ครับ

พระเนื้อดินครับ รบกวนพี่ Wasabi san และ พี่ XLmen ครับ ถ่ายมาแบบไม่ค่อยชัดครับ ส่วนองค์จริง เนื้อก็มีอายุพอสมควร ส่วนจะ แท้/เก๊ ยังงัยไม่ทราบครับ

 

นั่งศึกษามาหลายเดือน กว่าจะอ่านมาจนถึงหน้านี้ได้ ได้ความรู้มากๆครับ เป็นแนวทางในการศึกษาอีกด้านหนึ่ง ขอบคุฯ อ.wasabi san ที่บางครั้งPM ไปรบกวนก็ตอบคำถามได้กระจ่างครับ วันนี้นำพระมาให้อาจารย์ทุกท่านสวดสององค์ครับ ช่วยสวดเต็มที่นะครับจะได้นำไปเป็นแนวทางศึกษา

 

องค์นี้ดูเหมือนพิมพ์ฐานแซม วัดระฆังครับ
แต่เสียดายที่พิมพ์ทรงดูไม่คุ้นตาเท่าที่ควรครับ...ส่วนผงตะไบทองนั้นผมไม่แน่ใจว่าจะเป็นทองแท้หรือไม่ ?

ถ้าผงตะไบเป็นทองแท้ก็น่าจะมีลุ้นว่าอาจจะเป็นสมเด็จวังหน้าครับ....

ส่วนผิวเนื้อเป็นปูนเปลือกหอยมีความหนึกนุ่มใช้ได้เลยครับ...มวลสารค่อนข้างน้อยบ่งชี้ว่าน่าจะเป็นพระยุคหลังครับ...
ลักษณะผิวแตกลายงาบ่งบอกว่าเป็นพระที่ผ่านการลงรักร่องชาดปิดทองมาก่อนครับ...ถ้าดูจากผิวแตกลายงาที่เกิดจากรักถือว่าดูดีมีความพริ้วไหวใช้ได้เลยครับ....

สรุป พิมพ์ไม่คุ้นตา แต่ผิวเนื้อและการหดตัวดูดีทีเดียว ถ้าแท้ก็อาจจะเป็นสมเด็จวังหน้าครับ...เดี๋ยวรอคุณวาซาบิมาช่วยวินิจฉัยอีกทีดีกว่าครับเผื่อผมจะตากลับ 555+

 

องค์นี้เจตนาแกะพิมพ์ให้เหมือนพิมพ์เส้นด้ายฐานรางน้ำครับ....
สิ่งที่บ่งชี้ชัดว่าเจตนาถอดพิมพ์โดยแก้พิมพ์อีกทีก็คือ ช่วงเข่าใหญ่เกินไป และงอนเกินไปครับ....

ปกติถ้าเป็นพิมพ์เส้นด้ายแล้วเส้นเกือบจะทั้งหมดจะดูเส้นเล็กตลอดทั้งองค์...
จุดนี้นี่เองที่ทำให้เวลาถอดพิมพ์พระแท้ทำให้แม่พิมพ์ตื้นจัดกดพิมพ์ไม่ติด....ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีการทำอก เข่า ขา ให้หนากว่าแม่พิมพ์จริงเพื่อให้พิมพ์ออกมาติดชัดนั่นเองครับ

และที่สำคัญคือ พิมพ์เส้นด้ายนั้นน่าจะมีเฉพาะแต่ในกรุบางขุนพรหมเท่านั้นนะครับ....ถ้าเป็นพระกรุยังงัยซะก็น่าจะมีคราบกรุให้เห็นกันบ้างจะมากหรือน้อยก็น่าจะมีให้เห็นนะครับ

สำหรับองค์นี้โดยส่วนตัวผมว่ายังดูแปลกๆ อยู่นะครับ...
เดี๋ยวคงต้องรอคุณวาซาบิมาช่วยฟันธงให้อีกแรงแล้วหละครับ หุหุ


ส่วน 2 องค์นี้ผิวเนื้อดูกระด้างตาไปนิดครับ....
การยุบตัว หดตัวของมวลสารแทบไม่ปรากฎเลยครับ...เม็ดเกสรยังคงแดงสดอยู่ยังไม่แห้งเก่าพอครับ....

สรุป ผิวเนื้อดูบาดคม บาดตาไปนิดคิดว่าน่าจะเป็นพระใหม่สร้างขึ้นในภายหลังครับ

 

รูปขยายใหญ่ไม่ชัดนะครับ.....เอาเป็นว่าผมขอผ่านนะครับ....


รูปขยายใหญ่ไม่ชัดนะครับ.....เอาเป็นว่าผมขอผ่านนะครับ....
(องค์ขวาพิมพ์เส้นดายฐานรางน้ำ ฝีมือแกะพิมพ์คล้ายหลวงวิจารมากครับ...เสียดายที่เห็นตะคุ่ม ตะคุ่ม ด้านหลังดูดีน่าจะมีลุ้นเหมือนกันครับ)

 

รบกวนพี่ๆ wasabi Xlmen และ พ่อเลี้ยง อังคาร99 บุพนิมิตร และท่านอื่นๆ ขอความคิดเห็นองค์นี้หน่อยนะครับ งานเข้าแบบนี้ ขอละเอียดหน่อยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ
ขอพรให้ทุกคนมีความสุขนะครับ

 

ขอขอบคุณ ท่าน xlmen มากน่ะครับ แต่รอท่านอาจารย์วาซาบิมา comment แบบฟันธงละกัน แต่องนี้พ่อผมได้มานานมากแล้ว ผมขอแสดงว่าความคิดเห็นหน่อยน่ะครับ คือที่ผิวไม่มีร่องรอยความเก่า เนื้อหามีสีขาวจัด อาจเป็นเพราะเจ้าของพระเดิมนำพระไปต้ม(วิธิคนโบราณ จากหนังสืออาจารย์ พน นิลผึ่ง) ทำให้ไม่มีรอ่งรอยความเก่าที่ผิวองค์พระ ที่ผมคิดว่าไปต้มก็เพราะการลงรักล่องจาดมีการกระจายอยู่ตามรองของรอยแตกลายงา ทั้วทั้งองค์ และตามซอกฐานยังมีปรากฎให้เห็นบ้าง ส่วนผมตะไบทองเป็นทองแท้น่ะครับ เพราะตอนไปเลี่ยมทองถามร้านมา

น้อมรับทุกความคิดเห็น เพราะผมเชื่อว่าพระอยู่ที่ใจ และใจอยู่ที่พระ ก็ไม่มีสิ่งใดต้องกลัวแล้วครับ
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยน่ะครับ

 

พระผงสมเด็จเนื้อขาวองค์นี้ผสมมวลสารและผงพุทธคุณ 5 ชนิดอย่างเห็นได้ชัด ตามประว้ติเท่าที่ทราบ น่าจะเป็นพระชุดเดียวกับวัดพระแก้ว หรือพระวังหน้าครับ เคยจำได้ใช่ไหมครับว่า พระสมเด็จไกรเซอร์ก็มีทองคำลักษณะนี้ปรากฏอยู่บ้างเช่นกัน และน่าจะสร้างเนื่องในวโรกาสสำคัญ องค์นี้การแตกลายงาเป็นธรรมชาติครับ แท้ครับ

 

พระฝีมือครับ ตามที่คุณxlmen เข้าใจครับ

 

ใช่ครับ มีความหนึกนุ่มในองค์พระแน่นอนครับ เพราะองค์นี้เป็นพระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ ที่นำพิมพ์วัดระฆังมาปรับพิมพ์ครับ องค์นี้เป็นพระแท้ สวยงามมากครับ มาดูชัดๆ


พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่

ไม่ให้เสียโอกาส ผมก็ต้องนำภาพคู่แฝดต่างวัดมาเทียบให้ดูเลยก็แล้วกัน


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพใหญ่



แกะพิมพ์ฐานคล้ายไหมครับ คุณดูกันเอาเอง จะได้แยกออก

 

เอาเฉพาะพระแท้นะครับ

องค์พระนาคปรก องค์นี้เป็นดินภาคกลาง องค์นี้ขึ้นที่สุพรรณบุรี พระพิมพ์นี้เรื่องว่า พระนาคปรก กรุวัดลาวทอง จ.สุพรรณบุรี เป็นพระน่าเก็บอีกกรุหนึ่ง ไม่ค่อยได้เห็นเนื้อดินสักเท่าไหร่ กรุนี้หายากแล้วครับ องค์นี้เด่นด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด กันคุ้มภัย และเมตตามหานิยมเป็นเลิศ

ส่วนประวัติลองหาเพิ่มเติมเองนะครับ

 

ถอดพิมพ์ พระฝีมือ



พิมพ์เส้นด้าย


สำหรับพระสมเด็จพิมพ์เส้นด้ายใหญ่ องค์นี้เห็นไม่ชัด แต่น่าสนใจ องค์นี้มีลุ้นครับ ภาพไม่ชัดตอบยากครับ

 

เนื้อไม่ใช่อย่างนี้ครับ องค์นี้ทำล้อพระเก่า ไม่มีฝีมือครับ

 

ขอคุณครับ อาจารย์วาซาบิ ขอถามต่ออีกซักหน่อยน่ะครับ
คืออยากทราบว่าพระสมเด็จพิมฐานแซมองนี้ทันสมัยท่านสมเด็จพุฒาจารย์โต ป่าวอ่ะครับ

ขอรบกวนอีกทีน่ะครับ
คือผมได้พระสมเด็จจากก๋งมาอ่ะครับ
องนี้แปลกมาก แปลกจิงๆๆ
ดูเอาเองละกันน่ะครับ
แต่บอกได้ว่ารากไม้(คล้ายรากไทร)เป็นของจริงน่ะครับ ตอนประมาณ4-5ปีที่แล้วเห็นก๋งห้อยอยุ่ รากไม้ขึ้นจากกลางอกพระขึ้นไม่มากแต่พอประมาณปีที่แล้วก๋งผมทำพระหล่นแตก ท่านแลยไม่ได้แขวนแล้วผมเลยขอท่านมา ตอนนี้มาดูอีกที รากไม้ขึ้นรัดองพระไว้ ผมก็งง เลยตัดออกไปบ้าง ทองนั้นผมติดเอง เป็นทองใหม่น่ะครับ พระแตกแล้วน่ะครับ ก๋งเลยเอากาวตาช้างติดไว้ด้หลัง ยังไงก็ comment กันทีน่ะครับ (ถ้าผมไม่เจอกับตัวยังไม่เชื่อเลย ยังไงก็ต้องคิดว่า แม่งแหกตากันชัดๆๆ)

คราบสีดำๆๆเป็นเพราะโดนขี้ธูปบนหิงพระ จิงๆพระองนี้เนื่อขาวมาก

comment กันหน่อยน่ะครับ จะแรงยังไงผมก็ไม่โกรธ เพราะเรื่องแบบนี้ผมเองยังไม่อยากเชื่อเลย

ขอบพระคุณเป็นอย่างมากเลยน่ะครับสำหรับ comment ครับ

 

ช่วยดูให้หน่อยครับ ไม่เป็นจริง

ต้องขอขอบระคุณสำหรับ ความรู้ที่ท่านมอบให้มา
เท่าที่ทราบ พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ลุงพุฒิ ที่ ดร.อรรคเดช ได้ทำการศึกษาพิมพ์หนึ่ง น่าจะเป็นพิมพ์วัดระฆังยุคปลายครับ
พิมพ์นี้มีการประกวดอยู่เหมือนกัน
ประวัติพระองค์นี้ ที่ได้มาได้มาจากเพื่อน หักเดิม และมีคราบสกปรกออกดำ ปิดผิวหมด เลยล้างด้วยน้ำร้อน ไม่พอล้างด้วยน้ำมะนาวสด อีก 2 รอบ ก็ประมาณนั้น แล้วที่เห็นเป็นคราบออกมันๆ จะเป็นการซับเหงื่อเล็กน้อย ประกอบกับใส่ประจำ เป็นคนเหงื่อเยอะ
ฐานลาดเอียงตามมาตราฐาน 60-45 ต้องเป็นทุกองค์หรือไม่ครับ เม็ดแดงที่เศษอิฐกำแพงนั้น อยู่ที่รอยหักซุ้มปลายเกศครับ
และเส้นสายที่มีรูปลักษณ์การม้วนตัวเหมือนขนมจีน เศษเกสร เศษผงพุทธคุณ ปูนเปลือกหอย รอยยุบ ย่น ระดับพื้นผนังหลังองค์พระ เมื่อเทียบกับความสูงพื้นนอกเส้นซุ้มองค์พระ ยังไม่ขั้นถึงอายุ หรือเก๊ฝีมือครับ ฟันธงได้หรือไม่ครับว่าดี หรือไม่ดี (ตรงๆ)

ผมยังมีองค์ที่เก๊มือโคตะระครับ ของพี่ชาย องค์ใหญ่ (บน 4.5 ซม. x ล่าง 5.5 ซม. x สูง 7.5 ซม.x หนา 1 ซม.) หลังยันต์ดวง กว่าจะแต่งเติมสี PROP ต่างๆ แล้วทำให้แห้งก็...พอดู ดูเลยหล่ะกัน ถ้าองค์นี้แท้...ผมก็เลิกเล่นพระครับ

 

อืมมม....หล่นแตก...หรือถูกอะไรทับครับเนี่ย.....
ดูแล้วชอบลึกๆครับ....ดูดุดัน ขลังดีครับ...เชียร์ให้แท้ครับท่านฯ.....

 

ทันยุคของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โตฯครับ ทำไมผมมั่นใจนัก ก็ขอตอบให้คุณสบายใจว่า พิมพ์นี้ผมเองก็มีเก็บไว้เช่นกัน พิมพ์จะลึกกว่าพิมพ์ฐานแซมพิมพ์อื่น บางท่านว่าคล้ายเลข 8 มีหยัก พระอยู่ในมือคุณ คุณลองส่องเองก็จะทราบครับ




เรื่องอิทธปาฏิหารย์ของพระสมเด็จมีมากมาย ส่วนจะเกิดกับผู้ใดนั้น ขึ้นอยู่กับศรัทธาของผู้นั้น จากภาพที่เห็น ผมตอบไม่ได้ว่าเป็นพระสมเด็จพิมพ์อะไร เพราะเนื้อพระถูกแปรสภาพไปแล้ว แต่ได้เห็นการพันผูกของเถาไม้แล้ว เชื่อว่าไม่ได้สร้างขึ้นแน่นอนครับ อาจเป็นเหตุปัจจัยบางอย่างที่ท่านต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง เช่น องค์พระมีเทวดารักษาอยู่ ท่านจึงแสดงอิทธิปาฏิหารย์ให้เห็น และเพื่อไม่ให้องค์พระแยกออกจากกัน โดยให้มีเถาไม้พันเอาไว้ หรืออาจจะเป็นชานหมากของหลวงปู่โตที่ผสมเอาไว้ ด้วยบุญฤทธิ์ทำให้เศษชานหมากนั้นมีการเจริญเติบโตเป็นใยแห เพื่อคลุมองค์พระที่ชำรุดก็เป็นได้ ใครจะไปรู้นะครับ

ผมก็มีเรื่องจะเล่าเช่นกันครับ

เมื่อ 2 วันที่แล้ว ผมนำพระที่คล้องเป็นประจำอีกองค์ คือหลวงพ่อปาน พิมพ์ขี่ไก่หางพวง มาสรงน้ำทำความสะอาด พอเสร็จจะเทน้ำทิ้ง เหลือบไปเห็นเศษทองคำที่ตกอยู่ในน้ำ ตอนแรกคิดว่าทองคำแปลว แต่พอหยิบขึ้นมา กลายเป็นทองที่เขาร่อนหาในแม่น้ำ ผมแปลกใจในสิ่งที่เห็น จึงเรียกแฟนมาดู สรุปว่า ทองที่เห็นมีน้ำหนัก ไม่ใช่ทองคำเปลว จากนั้นก็คิดอยู่ว่าจะเก็บรักษาอย่างไรดี ถ้าจะเก็บไว้ที่ร่วมกับพระธาตุจะดีไหม คิดอยู่นาน ผมตัดสินใจว่าท่านมาเนื่องด้วยหลวงพ่อปานท่าน ก็ต้องบรรจุไว้ที่พระอุระขององค์พระ ที่หลวงพ่อปานท่านสร้างจึงจะถูก ตอนนี้ประดับไว้ที่พระอุระเรียบร้อยแล้วครับ

อิทธิปาฏิหารย์มีจริง แต่อย่ายึดติดมากนะครับ

อิทธิปาฏิหารย์ ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์

 

อิทธิปาฏิหารย์มีจริง แต่อย่ายึดติดมากนะครับ
อิทธิปาฏิหารย์ ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์<!-- google_ad_section_end --> <<จากคุณ วาซาบิ
----------------------------------------------
คุณวาซาบิตอบมาได้ดีมากครับ...ผมเห็นด้วยเลยครับ...ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ (ที่อธิบายทางวิทยาศาสตร์) หรือสิ่งที่เหนือธรรมชาติ (วิสัยของผู้ทรงฌาณ) สิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นถ้าทำให้ศรัทธาของเราตั้งมั่น...เรื่องที่จะมาหาเหตุผลก็คงจะไม่จำเป็นแล้วหละครับ....