มีข่าวมหากุศลจากวัดป่าบ้านตาด (องค์หลวงตามหาบัว) มาแจ้งให้ทราบ

"คนที่จนธรรมะ ถึงจะมีข้าวของบ้านช่องใหญ่โตขนาดไหน ก็ทุกข์จิตทุกข์ใจอยู่อย่างนั้น"

.....พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร

ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น

 

ท่านทั้งหลาย อย่าทิ้งหลักการประพฤติปฏิบัติ
คือ การพูดน้อย นอนน้อย กินน้อย การสงบระงับ
ไมคลุกคลีหมู่คณะ การเดินจงกรมเป็นประจำ
การนั่งสมาธิ เป็นประจำ..

หลวงพ่อชา สุภทฺโท..

ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น

 

พวกที่เป็นพระสงฆ์องค์เณร ก็ควรฝึกหัดทำภาวนา อย่าอยู่โดยเปล่าประโยชน์ กินข้าวปลาของชาวบ้านแล้ว อย่าขี้ทิ้งเปล่า ข้าวเม็ด น้ำหยด ต้องทดแทนคุณของเขาให้ได้ ทำภาวนาให้ถึงที่สุด จะได้สงบกาย สงบวาจา สงบใจ ตามสติกำลังของตน…

หลวงปู่หลุย จันทสาโร

ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น

 

ความอยากเป็นทุกข์ อยากน้อยทุกข์น้อย
อยากมากทุกข์มาก ไม่อยากไม่ทุกข์
ผู้มีสุขคือ ผู้หมดความอยาก..

หลวงปู่สาย เขมธัมโม

ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น

 

มีคุณธรรมสูง ยิ่งอ่อนน้อมถ่อมตน
เปรียบเสมือนรวงข้าว ยิ่งอุดมสมบูรณ์ รวงยิ่งอ่อน โน้มลงต่ำ
ผู้มีทิฏฐิมานะ ความถือตัวมาก ยิ่งมีความแข็งกระด้าง
เปรียบเสมือนรวงข้าวที่เมล็ดข้าวฝ่อลีบ รวงข้าวย่อมชี้ขึ้นฟ้าอยู่อย่างนั้น

“หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ” “เทพเจ้าลุ่มน้ำโขง”

ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น

 

ให้พากันแสวงหาของจริง
ไม่มีศีล หาศีลมาใส่
ไม่มีธรรมะ หาธรรมะมาใส่
นี่แหละคือการแสวงหาที่แท้จริง

“หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ” “เทพเจ้าลุ่มน้ำโขง”

ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น

 

มาเป็นคนดีกันเถิด อย่าเป็นคนชั่วเลย
ด้วยการแสดงกตัญญูกตเวทีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์

ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี
ความอกตัญญูจึงเป็นเครื่องหมายของคนชั่ว
มาเป็นคนดีกันเถิด อย่าเป็นคนชั่วเลย.

รสแห่งความเมตตาชุ่มเย็นนัก (หน้า ๗๐ )
พระราชนิพนธ์เพื่อความสวัสดีแห่งชีวิต
และพระคติธรรมเพื่อเป็นแสงส่องใจ
สมเด็จพระญาณสังวรฯ

ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น

 

“ชีวิตของเราทุกๆคนในโลกจะอยู่ก็ไม่กี่วันเที่ยงแท้จะแตกดับอยู่แล้ว รีบขวนขวายหาคุณงามความดีในเมื่อมีชีวิตอยู่
หาได้มากน้อยเป็นของเรา”

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น

 

"สาระสำคัญของการให้ คือได้เห็นผู้อื่นพ้นทุกข์จากการให้ของเรา"

พระอุดมประชาทร(หลวงพ่ออลงกต ติกขปัญโญ)

ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น

 

"ต่อให้ทุกข์ที่สุด ก็ต้องผ่านพ้นไปจนได้เราลองนั่งมองอดีต เรายังผ่านทุกข์มาได้ตั้งหลายทุกข์"

พระธรรมสิงหบุราจารย์(หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม)

ที่มา https://www.facebook.com/Thammaphormaekruarjahn?fref=ts

 

"..ทุก ๆ เช้า อาตมาก็จะออกมากวาดลานวัด ร่วมกับพระลูกวัดอื่น ๆ ด้วย ถามว่าอาตมาอายุเยอะแล้วทำไมยังมากวาดลานวัดอีก อาตมาไม่ทำเดี๋ยวพระรูปอื่นจะไม่ทำกัน เราทำเป็นแบบอย่าง โดยการกวาดลานวัดเป็นกิจวัตร จริงๆ มันก็เป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วย สุขภาพจึงแข็งแรงไม่มีโรคภัยไข้เจ็บให้เป็นทุกข์.."

หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป

ที่มา https://www.facebook.com/Thammaphormaekruarjahn?fref=ts

 

" อยากพ้นทุกข์ก็ให้ทำเอา พระพุทธเจ้าพระองค์ใดก็ประทานให้เราไม่ได้ ถ้าอยากได้ก็ให้ลงมือทำด้วยตนเอง ความเกียจคร้านบ่เคยทำให้ใครเป็นอริยะ มีแต่จะทำให้คนนั้นเป็นอะริแย่ คือแย่ลงไปเรื่อยๆหาความดีให้ตนเองไม่ได้ "

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน ตำบลผาน้อย อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย

ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น

 

การสวดมนต์ ของหลวงปู่มั่นนั้น ท่านสวดมาก สวดนานเป็นชั่วโมงๆ และสวดเป็นประจำทุกคืนมิได้ขาด สูตรยาวๆ เช่น ธรรมจักร (ธัมมจักรกัปปวัตตนสูตร) และมหาสมัย ท่านสวดเป็นประจำ ในกรณีพิเศษ เช่น เมื่อคราวท่านกับหลวงปู่เสาร์ไปวิเวกที่ท่าแขก ฝั่งประเทศลาว และชาวบ้านเกิดโรคฝีดาษกันทั้งหมู่บ้าน ท่านแผ่เมตตาใหญ่ในรอบ ๒๔ ชั่วโมงต่อ ๓ ครั้ง คือ เวลากลางวัน ตอนบ่ายขณะนั่งภาวนาครั้งหนึ่ง ตอนก่อนนอนครั้งหนึ่ง ตอนตื่นนอนครั้งหนึ่ง ส่วนการแผ่เมตตาปลีกย่อยประจำนิสัยนั้น มิได้นับอ่านว่าวันหนึ่งกี่สิบครั้ง และท่านกล่าวถึงอานุภาพของการสวดมนต์ไหว้พระว่า พุทธมนต์นั้นใครสวดก็ตามจะเป็นกิจวัตรของพระสงฆ์ เช้า-เย็น หรือชาวพุทธทุกคนสวดพุทธคุณ:
• ระลึกในใจ มีอานุภาพแผ่ไปได้หมื่นจักรวาล
• พูดหรือออกเสียงพอฟังได้ มีอานุภาพแผ่ไปได้แสนจักรวาล
• สวดมนต์เช้า-เย็นธรรมดา มีอานุภาพแผ่ไปได้แสนโกฏิจักรวาล
• สวดเต็มเสียง สุดกู่ มีอานุภาพแผ่ไปได้อนันตจักรวาล
• แม้สัตว์ที่อาศัยอยู่ในสามภพและที่สุดอเวจี มหานรก ยังได้รับความสุข
เมื่อแว่วเสียงพุทธมนต์ ผ่านลงไปชั่วขณะหนึ่งครู่หนึ่ง ดีกว่าหาความสุขไม่ได้เลยตลอดกาล

จาก“ประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ”
โดยหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
“รําลึกวันวาน”โดยหลวงตาทองคํา จารุวฺณโณ

ที่มา facebook.com/พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว-ญาณสมฺปนฺโน-ภูผาแดงฯ

 

คนเราจะเป็นสุข..เมื่อรู้จัก"พอดี"

ไม่มีใครได้อะไรตลอดไป...หรือเสียอะไรตลอดไป
ไม่มีใครหรือสิ่งไหนอยู่ตลอดไป โดยไม่สูญสิ้น
ขอเพียงแค่รู้จักพอดี.."ทุกคนจะเป็นสุข"

หลวงปู่บุดดา ถาวโร

ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น

 

ผู้เจริญแล้ว ย่อมไม่เบียดเบียนใคร .........

ถ้าเขาชั่วก็ชั่วของเขา ถ้าเขาไม่ยอมกลับตัว มันก็ตัวของเขา
เขาทำตัวเขาเอง เรื่องของเขา ช่างเขาเถิด เราอย่าเก็บมาทุกข์ใจ

ผู้เจริญย่อมไม่เบียดเบียนใคร ไม่อาฆาตใคร ไม่พยาบาทใคร
ให้อภัยแก่คนทุกจำพวก ไม่เอาเรื่องเอาราวอะไรกับใครเลย
ต้องพร้อมที่จะให้อภัยอยู่เสมอ อย่างนี้ใจเราสบาย

หลวงปู่ท่อน ญาณธโร

ที่มา https://www.facebook.com/phutthaphoom

 

...อันนี้จะยกตัวอย่าง เช่นว่า เราที่เป็นชาวพุทธนิยมบวชลูก บวชหลาน เมื่อลูกหลานบวชเป็นพระก็ตาม บวชเป็นเณรก็ตาม ถ้าบวชเข้ามาอยู่ในร่มผ้ากาสาวพัสตร์แล้ว ก็ชื่อว่าเป็นผู้มีศีล แม้แต่บิดามารดาก็ต้องมากราบ กราบลูกของตนที่บวชนั่น ที่อยู่ในผ้าเหลืองนั่น นี่แสดงให้เห็นว่าผู้มีศีลนั้น มีคุณงามความดี หรือว่าศีลนี้มีอำนาจวาสนา แม้แต่นายร้อย นายพล นายพัน พระราชา มหากษัตริย์ ก็มากราบผู้มีศีล จะอยู่ในวรรณะไหนก็ตาม ถ้ามาบวชแล้วถือว่าเป็นวรรณะที่สูง เป็นคนที่มีลาภ มียศ สูงกว่าพระมหากษัตริย์ อันนี้แหละคือศีล....

พระเทพสังวรญาณ (หลวงตาพวง สุขินทริโย) วัดศรีธรรมาราม จ. ยโสธร

ที่มา facebook.com/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น

 

"สวดมนต์เป็นนิจ อธิษฐานจิตเป็นประจำ อโหสิกรรมก่อน แล้วค่อยแผ่เมตตา"
"สวดมนต์เป็นยาทา วิปัสสนาเป็นยากิน"

หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม

ที่มา https://www.facebook.com/Thammaphormaekruarjahn?fref=ts

 

หลวงปู่ฝากไว้

"ขอให้ลูกหลานทุกคน จงรีบสร้างความดีใส่ตน เพราะสักวันหนึ่งเราต้องจากโลกนี้ไป"

หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป

ที่มา https://www.facebook.com/Thammaphormaekruarjahn?fref=ts

 

“ชาติบ้านเมือง คือ ชีวิต เลือดเนื้อ และสมบัติของเราทุกคน และการดำรงรักษาชาติประเทศนั้น มิใช่หน้าที่ของบุคคลผู้ใดหมู่ใดโดยเฉพาะ หากแต่เป็นหน้าที่ของทุกๆฝ่าย ทุกๆคน ที่จะต้องร่วมมือกระทำ พร้อมกันไปโดยสอดคล้องเกื้อกูลกัน”

พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ที่มา facebook.com/pages/ศูนย์เผยแผ่ธรรมะออนไลน์กัณฑกะ/

 

พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชทานในพิธีพระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้าน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๑๘

"คนไทยทุกคนไม่ใช่อยู่ที่ธงที่จะปลิวสะพัดอยู่ข้างหน้า อยู่ที่ใจที่เป็นไทยที่รู้ว่าประเทศไทยนี้มีความสำคัญอย่างไร ได้อยู่เป็นเอกราชมาเป็นเวลานับร้อย ๆ ปี และได้อำนวยให้เรามีความสุข มีเกียรติได้ และจะมีเกียรติได้อีกต่อไป ฉะนั้นก็ขอให้ทุกคนระลึกถึงว่าทุกคนมีหน้าที่ทั้งนั้นที่จะรักษาความเป็นไทยนี้ไว้ทั้งในใจ และทั้งในหมู่คณะ ทั้งชาติ"

https://www.facebook.com/watpabaantaad.luangta?fref=ts