รับตอบข้อสงสัยในการเจริญพระกรรมฐาน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Xorce, 26 พฤศจิกายน 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. บุญพิชิต

    บุญพิชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    686
    ค่าพลัง:
    +418
    คุณxorceที่เห็นจุดขาว ก้อนเมฆหรือวงกลมผู้เขียนเห็นในจิตฮะ อยากเรียนถามต่อดังนี้
    1.เมื่อวงกลมขาวๆเปลี่ยนเป็นสภาพโล่งๆแล้ว เราควรทำอย่างไรต่อฮะ
    2.เคยนั่งสมาธิแล้วเมื่อเห็นจุดขาวๆเคยพยายาม บังคับให้จุดขาวๆหมุนรอบตัวเอง แล้วมันก็หมุน ผู้เขียนปฏิบัติผิดวิธีหรือเปล่าฮะ
    3.ผู้เขียน ชอบงีบหลับตอนเที่ยงประมาณ20นาที เมื่อตื่นขึ้นก่อนจะลุกจากที่นอน ผู้เขี่ยนหลับตาทำสมาธิซักพัก ภายในจิตก็เห็นเป็นที่โล่งๆสีม่วง อยากถามว่า ที่เห็นเป็นอาการอะไรมันเกี่ยวกับสมาธิมั๊ยฮะ
    อนุโมทนาบุญฮะ
     
  2. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ บุญพิชิต ครับ

    1.ที่เห็นว่า ทุกๆอย่างโล่ง ว่าง เป็นสีขาวทั้งหมด อันนี้เป็นอรูปฌาณครับ

    2.การบังคับให้จุดขาวๆหมุน ก็เป็นการฝึกกสิณครับ

    3.ลองกำหนดให้เปลี่ยนจากสีม่วง เป็นโล่ง ว่างสีขาว ครับ
    อารมณ์จิตจะมีความเบา สว่าง โล่ง กว่าครับ
     
  3. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    ขอบคุณคับที่นำประสบการ์ณมาแบ่งปัน มีประโยชน์มากๆ ^^; คงไม่ต้องฝึกตามหลักการทุกอย่างก็ได้ ผมจะลอง วิธี ของพี่ x ดูคับ ขอบคุณคับ
     
  4. choosake

    choosake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +647
    รบกวน ถามครับ
    ผม ได้ไปอ่าน เจอ ที่โพส ว่า การเจริญ กสิณ 10 พร้อมกัน และนำมารวมกัน

    ผมจึงนำไปลองปฏิบัติ ดู แต่ว่า ผม เจริญ แค่ กสิณธาตุ (ปฐวี อาโป วาโย เตโช)
    แล้ว นำมารวมกัน ไม่ทราบ ว่าผิด วิธีการหรือเปล่าครับ แต่ได้ผลดี เป็น สมาธิเร็ว เหมือน มันมั่นคงกว่าหรือเปล่าครับ

    เมื่อผม นำมารวม แล้ว ก็ เปลี่ยนเป็น ภาพพระ แก้วใส เพื่อใช้เป็น มโนมยิทธิ ก็ได้ผลดี
    แต่อยากทราบว่า เป็น โทษ กสิณหรือเปล่า เปลี่ยน ดวงแก้ว เป็น ภาพพระ

    การเจริญ กสิณรวมกัน(เหมือน หมวดกสิณธาตุเป็นฐาน) ให้กำลังสูงกว่า การเจริญสมาธิพระแก้วใสหรือเปล่า(เหมือนเป็น กสิณแสงเป็นฐาน) ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ

    กสินธาตุรวม(4 กสิน) เปลี่ยนมาเป็น ภาพพระแก้วใส(กสินแสง + พุทธานุสติ)
    แบบนี้ ถูกหรือไม่ควร อย่างไร ชี้แนะด้วยครับ

    ออ ทุกวันนี้ แถบ ไม่ได้ ภาวนาเลยครับ ไม่ผิดใช่ไหมครับ

    ขอบคุณครับ
     
  5. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ choosake ครับ

    ผม ได้ไปอ่าน เจอ ที่โพส ว่า การเจริญ กสิณ 10 พร้อมกัน และนำมารวมกัน

    ผมจึงนำไปลองปฏิบัติ ดู แต่ว่า ผม เจริญ แค่ กสิณธาตุ (ปฐวี อาโป วาโย เตโช)
    แล้ว นำมารวมกัน ไม่ทราบ ว่าผิด วิธีการหรือเปล่าครับ แต่ได้ผลดี เป็น สมาธิเร็ว เหมือน มันมั่นคงกว่าหรือเปล่าครับ

    เอาให้ครบ10กอง เลยสิครับ ใช้เวลาไม่นานนักหรอกครับ

    เมื่อผม นำมารวม แล้ว ก็ เปลี่ยนเป็น ภาพพระ แก้วใส เพื่อใช้เป็น มโนมยิทธิ ก็ได้ผลดี
    แต่อยากทราบว่า เป็น โทษ กสิณหรือเปล่า เปลี่ยน ดวงแก้ว เป็น ภาพพระ

    ไม่เป็นกสิณโทษครับ

    การเจริญ กสิณรวมกัน(เหมือน หมวดกสิณธาตุเป็นฐาน) ให้กำลังสูงกว่า การเจริญสมาธิพระแก้วใสหรือเปล่า(เหมือนเป็น กสิณแสงเป็นฐาน) ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ

    ถ้าในด้านของกำลัง ผมคิดว่าภาพพระเป็นเพชร จะสูงกว่า
    เพราะมีพระพุทธบารมีรวมอยู่ด้วย

    กสินธาตุรวม(4 กสิน) เปลี่ยนมาเป็น ภาพพระแก้วใส(กสินแสง + พุทธานุสติ)
    แบบนี้ ถูกหรือไม่ควร อย่างไร ชี้แนะด้วยครับ

    ทำได้เลยครับ เป็นเรื่องของความคล่องในการเปลี่ยนกองกสิณ

    ออ ทุกวันนี้ แถบ ไม่ได้ ภาวนาเลยครับ ไม่ผิดใช่ไหมครับ

    ภาวนานี่หมายถึง พุทโธ หรือ นะมะพะธะ ใช่ไหมครับ
    คำภาวนาจะหายไป ถ้าจิตเป็นฌาณสูงๆครับ

    ยินดีเสมอครับ
    เวลามีข้อสงสัยลองตั้งจิตถามต่อพระท่านสิครับ
    แล้วเราค่อยนำมาพิจารณาตอีกที ก็จะได้คำตอบที่มีอรรถสมบูรณ์ครบถ้วนชัดเจนครับ
    <!-- / message -->
     
  6. oze

    oze Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +94
    ใครเคยเป็นบ้างครับ

    เวลาทำสมาธิแล้วมีเสียงกระซิบว่า ให้เราตามดูลมหายใจ
     
  7. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    เมื่อคืนนี้ จิตจะหลุดออกจากร่าง รู้สึกมันเหมือนกับทั้งโดนดันให้ออกและ ในขณะที่จิตผมจะออกนั้น ผมก็รู้สึกว่ามันท่าจะไม่ดีกลัวว่าจะ พุ้งไปที่อื่นเลยกำหนดภาพพระ เพราะตอนนั้น อยู่ในอารมณ์ที่ว่างเปล่า พอกำหนดภาพพระก็เหมือนกับ มีอะไรดึงกลับเข้ามาแล้วลมหายใจก็ปรากฏอีกครั้ง ตอนที่จิตจะออกนั้นรู้สึกแปลกๆครับบอกไม่ถูกเลยแต่รู้สึกดีมากๆ
    คล้ายๆกับ คนที่จะกระโดดร่ม กระโดดไปแล้วแต่ โดนดึงกลับมา สงสัยเป็นเพราะ ความกลัวอารมณ์กลัว กระมั้ง เพราะผมกำหนดลมหายใจตลอดเวลาอย่างที่ ป๋าx บอก เมื่อคืนนี้ รู้สึกอึดอัดและ ก็ แผ่เมตตาใน สมาธิไปด้วยเพื่อคลายความตึงเครื่องสลับกันไป ได้ผล ตอนที่ผมนอนทำสมาธิ เพราะผมนอนทำสมาธิมันรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่มีหลุดเลยแม้แต่น้อย จนจิตมันมีแรงมากพอที่จะดันออกไป แต่ผมก็พลาดเพราะว่า กลัว ว่ามันจะไปที่ไหนแล้วกังวลว่ามันจะกลับมารึเปล่า เฮ้อ ผมควรทำไงดีแต่ตอนนี้ก็ ดูลมตลอดเวลาเลยครับ ความรู้สึกก็คล้ายๆเมื่อคืนแต่เบากว่า เหมือนมีอะไรไต่ที่จมูกและ แกล้มด้วย ในลำคอก็รู้สึกเย็นเหมือนจุดเยือกแข็งเลย ตัวโล่ง สบายมากๆ
     
  8. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ขอบารมีพระก่อน เสร็จแล้วก็อย่ากลัวครับ
    ต้องไม่กลัวถึงจะออกมาได้

    อีกวิธีนึงก็ขอบารมีพระ แล้วก็หลับไปเลย แล้วจังหวะที่มันตัดหลับ จิตจะออกมาเองครับ
     
  9. choosake

    choosake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +647
    ยินดีเสมอครับ
    เวลามีข้อสงสัยลองตั้งจิตถามต่อพระท่านสิครับ

    แล้วเราค่อยนำมาพิจารณาตอีกที ก็จะได้คำตอบที่มีอรรถสมบูรณ์ครบถ้วนชัดเจนครับ

    <!-- / message -->
    เคย ครับ แต่เนื่องจาก ว่า ยังไม่หมั่นใจ ในตัวเอง เท่าไหร่ ทำให้เกิดความ สงสัย จนเป็นนิวรณ์ ได้ครับ <!-- / message --><!-- sig -->
     
  10. ทดแทน

    ทดแทน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    580
    ค่าพลัง:
    +116
    อยากทราบว่าคำภาวนาในการทำสมาธิภาวนาว่า นิพพาน ได้หรือป่าวครั แล้วจะเป็นผลอย่างไรบ้างครับ
    และอยากสอบถามเรื่องการฝึกกสินน้ำหน่อยครับว่ามีรายละเอียดและการฝึกอย่างไรครับ
     
  11. Maxzimon

    Maxzimon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +204
    อยากจะบอกว่าที่ผมเลิกนั่งกรรมฐานนั้นจริงครับ ผมเลิก ครับ เพราะตอนนี้ ผมกำลังปล่อยตัวเองตามธรรมชาติมากกว่า ผมใส่ใจเรื่องธรรมชาติ รู้สึกถึงธรรมชาติ กรรมฐานนั้นขึ้นอยู่กับใจมากกว่า หากเราใส่ใจในสิ่งที่ปฏิบัติย่อมสร้างสมาธิให้จิตได้เสมอครับ ผมเชื่อว่าอย่างนั้นตามที่ผมสัมผัสได้จาก ธรรมชาตินะครับ เพราะช่วงนี้หากจะเรียกว่าสมาธิจากการนั่งสมาธิ หรือทำสมาธินั้นไม่ใช่ครับ เพียงแต่เป็นการรับสัมผัสจากธรรมชาติเสียมากกว่า รู้สึกสบายกว่าการนั่งสมาธิเยอะครับ ใจมันนิ่งกว่ามาก รู้สึกรู้อะไรมากกว่าที่เคยเยอะครับ

    ขอขอบคุณที่แนะนำ และขออนุโมทนาที่ใส่ใจในการสร้างบุญครับ เมื่อไหร่ที่ผมเห็นว่ามันผิดนั้นด้วยหลักการของผม ผมจะกลับมานั่งเหมือนเดิม
     
  12. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ ทดแทนครับ

    สามารถภาวนาว่า นิพพานได้ครับ
    หลวงพ่อฤาษี ท่านแนะนำว่าให้เปลี่ยนเป็นภาวนาว่า นิพพานัง สุขัง
    พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง
    จัดเป็นอุปสมานุสติกรรมฐาน คือการระลึกถึงพระนิพพานเป็นอารมณ์
    บ่งบอกว่าอารมณ์พระนิพพานนี้ เป็นสุขอย่างยิ่ง หาสิ่งใดเปรียบด้วยมิได้
    การที่เราภาวนาเอาไว้เสมอ จะทำให้จิตไม่คลาดเคลื่อนจากพระนิพพาน
    ถ้าตายเมื่อไหร่มีสุคติภูมิเป็นที่ไป ตราบจนกว่าจะเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน


    กสิณน้ำนั้น เรียกว่าอาโปกสิณ
    วิธีการฝึกก็คือ ให้เราจินตนาการถึงรูปน้ำเป็นอารมณ์
    การจินตนาการถึงรูปน้ำ แนะนำว่าให้จินตนาการ นึกถึงภาพของลูกบอลน้ำ
    ลูกบอลน้ำนั้น ให้เรานึกภาพว่าเป็นลูกกลมๆ ที่ทำจากน้ำทั้งลูก เมื่อนิ้วของเราสัมผัสกับลูกบอลนี้ ย่อมสัมผัสได้กับความชึมชื่นชุ่มเย็น ไหลลื่นของน้ำ
    จากนั้นให้เราจินตนาการว่าลูกบอลน้ำ นี้ค่อยๆเปลี่ยนจากลูกบอลน้ำธรรมดา กลายเป็นลูกบอลน้ำสีขาว
    เมื่อลูกบอลเป็นลูกบอลน้ำสีขาวแล้ว ให้จินตนาการต่อไปว่าลูกบอลน้ำนั้นเปลี่ยนเป็นลูกบอลน้ำเนื้อแก้ว มีความใส สามารถเห็นได้ว่ามีความโปร่ง ใสเหมือนแก้วจริงๆ
    จากนั้นให้เราจินตนาการต่อไปว่า ลูกบอลแก้ว ที่ทำจากน้ำนี้ ค่อยๆเปล่งแสงสว่าง เปล่งประกายระยิบระยับจนกลายเป็นเนื้อเพชรใส เป็นเนื้อเพชรใสสว่าง มีความงดงาม มีประกายระยิบระยับทั่วทั้งลูก
    เป็นลูกบอลเพชรทั้งลูก แต่ยังสามารถสัมผัสได้ถึงความเหลว ความเย็นของน้ำเหมือนเดิม
    จากนั้นให้เรากำหนดจิตว่า
    ขอให้ข้าพเจ้าสามารถเข้าถึงซึ่งกสิณน้ำเป้นเพชร นี้ได้ทุกครั้ง ทุกเวลา ทุกสถานที่ ที่ข้าพเจ้าต้องการ ตราบเท่าเข้าถึงซึ่งพระนิพพานด้วยเทอญ
    อธิษฐานตั้งจิตมั่นไปสามครั้ง
    แล้วพยายามประคองภาพลูกบอลน้ำเป็นเพชร เอาไว้ให้ได้ตลอดเวลา ทั้งหลับตา ลืมตา
    หลังจากนั้นก็ปฏิบัติในกสิณกองอื่นๆต่อไปจนกระทั่งครบทั้งสิบกองครับ

    ขอให้เข้าถึงกสิณทั้งสิบกองได้โดยง่ายนะครับ
     
  13. ทดแทน

    ทดแทน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    580
    ค่าพลัง:
    +116
    อยากทราบเกี่ยวกับการฝึกกสินน้ำครับว่าต้องทำอย่างไงบ้างครับ
     
  14. ทดแทน

    ทดแทน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    580
    ค่าพลัง:
    +116
    ผมอยากทราบว่าต้องแพ่งน้ำด้วยใช้ป่าวครับ อยากทราบว่ามีขั้นตอนยังไงบ้างครับ
     
  15. Maxzimon

    Maxzimon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +204
    ขอขอบคุณมากครับที่ช่วยแนะนำเรื่องการถอดจิตให้ แต่ที่ผมยังไม่ค่อยศรัทธาในพระพุทธเจ้ามากเท่าไหร่นักเพราะผมเชื่อในทุกศาสนา เชื่อในศาสดาทุกคนเพราะพวกเขาเหล่านั้นสอนให้คนละซึ่งความชั่ว แม้ว่าตามหลักปรัชญาของขงจื้อจะไม่มีกล่าวไว้ว่าทุกคนควรทำดี แต่ก็สื่อนัยของการลดละความชั่วไว้เยอะครับ (ผมเป็นคนขี้สงสัยครับ จึงทำให้อ่านอะไรต่อมิอะไรเยอะ)

    ผมเข้าใจดีถึงความแข็งแกร่งของจิต แต่ทุกสิ่งย่อมมีแตกดับเสมอ เพราะทุกสิ่งย่อมมีการเริ่มใหม่ ดังที่กล่าวไว้ว่า "ทุกสิ่งไม่เที่ยง" ความอ่อนแอของจิตก็ย่อมมีอยู่เช่นกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2009
  16. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    เมื่อคืนก่อนจิตจะออกจากร่าง แต่มีคำถามครุนเครืออยู่ในใจ ถึงอยากให้ป๋า x แนะนำหน่อย ว่า ตอนที่จิตป๋าx ออกจากร่างครั้งแรก ใช้เวลานานรึเปล่าครับกว่าจะกลับเข้าร่าง นี้ เป็นข้อสงสัยทำให้ยังเข้าไม่ถึงธรรมะทางพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ใครถึงอรูปณาน หรือตั้งแต่อรูปณานไปก็เข้าถึงพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง แล้ว ส่วน ทิพษ์จักษุณานนั้น เป็นของแถมที่ได้มาโดยการปฏิบัติ
    ถ้าหากถอดจิตไป สวรรค์ ผมเคยดูพุทธประวัติ พระพุทธเจ้า อยู่บนสวรรค์ไปเยี่ยมพระมารดา 6นาทีบนสวรรค์เท่ากับ3เดือนบนโลกมนุษย์ แล้วถ้าหากผมไปที่นั้นมันก็นานใช่ไหมคับ ถ้าอย่างนั้นผมก็ยังมีห่วงทางโลก ถ้าหากผมกลับมาแล้วไม่ต้องตกงานหรือห้องเช่าโดนยึด เหรอครับ นี่แหละคือ ปัญหาที่ทำให้ผมไปไม่ถึงสักที(ถ้าหากบวชก็คงไม่มีปัญหาอะไร ) อ่อผมก็ทำวิปัสนาไปด้วยนะครับ ปลงอสุภะด้วย ไม่ได้กลัวตายหรอกครับ แต่กลัวว่าจะกลับมากินเวลานานไปหน่อยผ่านไป2-3เดือนหลังจากที่กลับมาจากการถอดจิตจะต้อง กินแกลบซะล่ะมากกว่า ^^; ขอบคุณคับป๋า x (ความจริงแล้วผมก็รู้นะครับว่า ถอดจิตไม่กี่ชม.เอง แต่ มันเพ้อเจ้อและก็อยากได้คำยืนยันจากผู้ปฏิบัติคนอื่นๆหน่ะครับ) เดี๋ยวช่วงสงกรานต์ กลับบ้านไปถามหลวงพ่อดีกว่า อิอิ ^^;)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 มีนาคม 2009
  17. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    ผมขออภัยล่วงหน้าก่อนนะครับที่ใช้คำพูดอาจจะรุนแรงไปบ้าง

    เหมือนกับว่าคุณไม่แยแสกับเรื่องที่นั่งสมาธิ ก็เพราะเวลานั่งรู้สึกอึดอัด ก็เลยไม่นั่งมันซะเลยจะดีกว่า(แต่ก่อนผมก็เคยนะแต่ ผมปฏิบัติไปเรื่อยๆมันทำให้ผมได้รู้อะไรหลายๆอย่าง บางท่านก็ได้ไปพระนิพพานก็เพราะ นั่งสมาธิ หรือกรรฐานนี่แหละ บางคนก็เป้นพระอรหัน ) และการนั่งสมาธินี่แหละเป็นอานิสงค์ยิ่งกว่า ทำบุญหลายๆอย่างรวมกันซะอีก ได้ทั้งปัญญา สติ และสมาธิ แจ่มใส ชีวิตก็ดีขึ้น ถ้าหากมองพิจารณาดูแล้วมองเหตุและผล มันมาอย่างไรเป็นอย่างไร นั้นถือว่า มีความรู้ และ มีปัญญาเป็นอาวุธต่อสู้กับ อกุศลกรรม
    จริงอยู่ คนเราไม่เชื่อไม่ศรัทธา ก็เพราะว่าไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง แต่ ถ้าหากไม่มีแรงศรัทธาแล้วหากเราปฏิบัติโดยไม่ได้ศรัทธา มันก็จะไม่มีความหมาย หรือทำแล้วก็ไม่เกิด ก็อย่างที่เค้ากล่าวว่า ทำบุญไม่ขึ้นนั่นแล มันอยู่ที่ความตั้งใจและก็แรงศรัทธา อย่างเช่น รุ่นพี่ที่มันชอบไถตังเรา เราก็ไม่ชอบ เราจะไหว้ เคารพนับถือ เขารึเปล่าล่ะ ตอบได้เลยว่าไม่ไหว้หรอก หรือ น้าที่ทำตัวไม่ดีกับเราด่าเราตะคอกเราก็ไม่ชอบเหม็นขี้หน้า ถามว่า เราจะยกมือไหว้น้าคนนี้ไหม ถ้าหากอยู่กับผู้ใหญ่คนอื่นๆอาจจะไหว้ แต่ในใจลึกๆแล้ว กลับตรงกันข้าม ก็เพราะไม่ได้ศรัทธา หรือไม่เชื่อนั่นเอง

    หรือ คนทั่วๆไปที่เราไม่รู้จัก อยู่ดีๆเราจะยกมือไหว้พวกเค้าไหม ก็ไม่ไหว้ เพราะว่าไหว้ทำไม ไหว้แล้วได้อะไร

    เชกเช่น นั่งสมาธิทำไม นั่งแล้วได้อะไร ตอบได้เลยว่า นั่งแล้วได้สติ ได้ปัญญา ได้สมาธิ ถ้าหากเข้าขั้นมีบุญบารมีเก่า ก็อาจจะสามารถเข้าถึงพระธรรม ได้ อาจจะเหนือกว่าปุตุชน และ ยิ่งไปกว่านั้นสติปัญญาดีมีความเฉียบแหลมทั้งความคิดและสติไหวพริบดีขึ้น แม้กระทั้งประสาททั้งหลายก็รับรู้ได้ดีขึ้น อารมแจ่มใส่ เบิกบาน ดั่งคำกล่าว ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
    ผมเข้าใจนะ ผมก็เคยเป็นมาก่อน
    แต่ถ้าหากปล่อยไป ทำบ้างไม่ทำบ้าง มันก็เหมือนกับคนที่ ไม่จริงจัง ปล่อยไปเลยตามเลย ผมเป้นคุณผมจะเสียดายเวลามากๆ เพราะไม่รู้จะตายเมื่อไหร่ และ เวลาเป็นสิ่งสำคัญ จึงต้องทำบุญปฏิบัติธรรมถือศีลให้มาก แม้กระทั้งผมยังรู้ตัวว่าตอนนี้ ทำทั้งบุญและบาป แต่ก็ยังรักษาศีลปฏิบัติทำจนเกือบจะได้เข้าถึงพระพุทธศาสนา
    อ่อ ที่พูดมานี้ เอาเหตุและผลมาพูดนะ ไม่ได้ชักจูงแต่อย่างใด ก็แล้วแต่จะพิจารณา
    แต่คำพูดคุณมันทำให้ผมตะหงิดใจอยากจะพูด
    ยกตัวอย่างเช่น องค์คุรีมาร ถ้าเจอคนชักจูงในทางที่ไม่ดีเค้าก็เชื่อในทางที่ไม่ดีแล้วตัวเองคิดนั้นว่าดี แต่ก็ยังกลับใจมาเชื่อในพระพุทธศาสนาแล้วลาพระนิพพานในชาตินั้นเป็นชาติสุดท้าย ไม่เกิดไม่เวี่ยนว่ายในวัฏสงสารอีกต่อไป มีแต่ความสุขอยู่บนพระนิพพาน

    ก็ลองคิดดูถ้าหาก องค์คุรีมาร หากไม่ได้พระพุทธเจ้ามาโปรดสัตว์ และก็ไม่ได้เจอพระพุทธเจ้า ถึงยังไงก็ได้เจอแม่ของเค้าเพราะทหารหลวงจะมาจับ แม่เค้ารักลูกมากเลยจะมาเตือน เค้าก็คงจักฆ่าแม่เสียเพื่อให้ได้สำเร็จวิชาดั่งคำอาจารย์แล้วเป็นอย่างไรต่อเล่า ลองตรองดู ตายไปก็ไปอบายภูมิตกลงไปขุมมหานรกเพราะฆ่า พระอรหัน หรือแม่ของตัวเอง ทุกทรมาร ไปหลายกัป กว่าจะได้มาปฏิสนธิมาเป็นคนอีกก็อีกนานแสนนาน


    เรื่องเล่า เยอะแยะมากมายในทางพระพุทธศาสนา และบางเรื่องก็เป็นเรื่องที่ยืนยันได้สำหรับคนที่ไม่เชื่อ ส่วนตัวผมนั้นเชื่อเพราะผมได้สัมผัสในทางโลกมาแล้วว่าด้วยอภินิหารอิทฤษต่างๆก็เคยเห็นมาแล้ว ก็เหลือแต่เพียงทางธรรมที่ผมกำลังปฏิบัติอยู่นี่เอง ผมเห็นคุณเข้ามาตอบคำถามบ่อยๆเหมือนจะยังไม่ค่อยเชื่อ ก็สุดแล้วแต่ ละบุคคล ขออภัยที่บางคำพูดแรงเกินไป ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 มีนาคม 2009
  18. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    ขอยกตัวอย่าง กระทู้นี้นะครับลองเข้าไปอ่านดูครับ
    http://palungjit.org/showthread.php?t=178106
    การเจริญสติต้องทำโดยต่อเนื่องทุกเวลา...หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม


    การเจริญสติต้องทำโดยต่อเนื่องทุกเวลา ทุกลมหายใจเข้าออก
    เราจะได้มีสติสัมปชัญญะทุกเวลา
    ด้วยการกำหนดทุก ๆ อิริยาบถ
    มันยาก...ที่เราไม่เคยทำ
    ถ้าเราทำ...แล้วมันก็ง่าย
    เรารีบเดินก็ยิ่งถึง ยิ่งหยุดก็ไม่ถึง

    ญาติโยมทั้งหลาย ไม่มีอะไรยากที่สุดในโลก
    ถ้าเราสร้างความเพียรปฏิบัติได้
    มันก็เกิดเป็นของง่ายและสำเร็จได้


    ถ้าใจเราหดหู่เหี่ยวแห้ง ขาดสติสัมปชัญญะแล้ว
    ใจก็ไม่สู้ งานก็ไม่เสร็จ อุปสรรคก็มีมาก
    เรียกว่า ปัญหาเกิดขึ้นแก่ญาติโยมเป็นส่วนใหญ่

    เรามีปัญหาด้วยกันทุกคน ไม่ต้องถามว่า ไปทำงานมีปัญหาไหม
    เลิกถามได้ เพราะงานดีต้องมีปัญหา
    เข้าในหลักที่ว่า มารไม่มีบารมีไม่เกิด

    ชีวิตคือการต่อสู้ทุกกระเบียดนิ้ว
    ต้องต่อสู้ไปเถิดจะประเสริฐในอนาคต

    การเจริญวิปัสสนากรรมฐานเพื่อมาฝึกจิต
    ให้มีขันติ ความอดทน ฝึกให้ได้กุศล
    ฝึกให้เห็นความจริงผุดออกมาจากจิตใจของตน
    เรียกว่า ชีวิตจริงในสังคมของผู้ปฏิบัติธรรม จะเกิดประโยชน์มาก


    คนที่เขาปฏิบัติได้ดีแล้ว เขาจะไม่พูดไร้เหตุผล
    จะพูดแต่สิ่งที่เป็นกุศล จะพูดแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อกันเท่านั้น

    การเจริญสติปัฏฐานสี่ไม่มีอะไรยากถ้าทำได้ แต่เราไม่ยอมทำ
    ไม่ยอมกำหนด ไม่ยอมตั้งสติ ก็หาว่าปฏิบัติธรรมไม่ได้ผล
    ถ้าเราลงมือทำจริง ต้องได้เหตุผลที่แท้แน่นอนในเรื่องจริงของตัวเอง


    การเจริญสติต้องกำหนดตลอดเวลา
    เอาสติแนบที่จิต เป็นการสอนตัวเอง เป็นการฝึกอบรมตัวเอง
    คนอื่นจะมาอบรมตัวเราคงไม่ได้
    เราเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งของตัวเอง สอนตัวเองได้


    ตัวยากก็คือตัวขี้เกียจ มันจึงไม่อยากทำ ไม่อยากปฏิบัติ
    ไปไหนก็เดือดร้อนที่นั่น คือตัวยากแท้...แต่ไม่เคย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 มีนาคม 2009
  19. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    ผมก็สวดมนต์ทุกครั้งและก็ทุกวันครับบางวันไม่มีเวลาสวดก็ สวดในใจครับ ส่วนขอบารมีนั้นผมขออยู่ตลอดเวลาคับ เวลาที่นึกและขอบารมีท่านจะขนลุกเกรียวเลย จะเป็นทุกครั้งที่อธิฐานขอบารมีท่าน ส่วนก่อนจะนั่งผมก็ ท่องบทสวด แผ่เมตตาใหญ่ ชินบัญชร และก็บทบวงสรวง ชุมนุมเทวดา ''ปุริมัญจะ ทิสัง ราชา ฯลฯ'' ทุกครั้งครับ บางวันเหนื่อยจากการทำงานก็ท่องและสวดมนต์ก่อนแล้วก็นอนสมาธิ เพราะ เหนื่อย จากการทำงาน
    ไอที่กลัวไม่ได้กลัวตายครับ กลัวกลับมาแล้วตกงาน บ้านเช่าโดนยึด ต่างหากครับ เพราะกลัวว่าจะใช้เวลานานไหมแค่นั้นเองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 มีนาคม 2009
  20. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ Maxzimon ครับ

    แต่ที่ผมยังไม่ค่อยศรัทธาในพระพุทธเจ้ามากเท่าไหร่นักเพราะผมเชื่อในทุกศาสนา เชื่อในศาสดาทุกคนเพราะพวกเขาเหล่านั้นสอนให้คนละซึ่งความชั่ว แม้ว่าตามหลักปรัชญาของขงจื้อจะไม่มีกล่าวไว้ว่าทุกคนควรทำดี แต่ก็สื่อนัยของการลดละความชั่วไว้เยอะครับ (ผมเป็นคนขี้สงสัยครับ จึงทำให้อ่านอะไรต่อมิอะไรเยอะ)

    ความลังเลสงสัยนี้มีบ่อเกิดมาจากอวิชชา คือความไม่รู้
    ในที่นี้คือการไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้า ทรงดีจริงหรือไม่
    เมื่อเกิดความคลางแคลงใจในพระพุทธเจ้า ก็ย่อมส่งผลให้การปฏิบัติสมาธิไม่มีความเจริญก้าวหน้า
    ดังนั้นแม้ว่าเราจะสงสัยในพระพุทธเจ้าก็จริงอยู่
    แต่ณ ขณะที่เรากำลังจะพิสูจน์ว่าสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสมานั้นมีความจริงเท็จประการใด
    ณ ขณะนั้น เราจำเป็นที่จะต้องศรัทธาในพระพุทธเจ้าเสียก่อน อย่างน่อยก็ชั่วคราว
    เมื่อเราศรัทธาในพระพุทธเจ้าแล้ว ไม่ว่าจะขณะจิตใด ขณะจิต หนึ่ง
    ขณะนั้น เราสามารถที่จะเห็นแจ้งตามคำที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้ชอบแล้ว

    ดังนั้นหากเราปรารถนาที่จะพิสูจน์วาสิ่งที่พระพุทธงค์ทรงตรัส ว่ามีความจริงเท็จประการใด
    เราจำเป็นที่จะต้องมีความเชื่อ ความศรัทธา เป็นทุนเดิม อยู่บ้างครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...