ร่วมทำบุญบูชา มงคลสยบโลกธรรมยาตรานะจบกิจ 28 โพธิวงศ์เลิกรบเลิกเบียดเบียน(ไล่,ล่า..) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. PeacE123

    PeacE123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    3,179
    ค่าพลัง:
    +2,485
    จอง มหาตะกรุดหน่อพระพุทธเจ้า(พญาเต่าคำ) 1ดอกครับ เดี๋ยวผมกลับมาจากต่างประเทศช่วงสิ้นเดือนโอนให้นะครับ ขอบคุณครับ
     
  2. Natnoiz

    Natnoiz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +263
    ขอถามครับ
    1.การเอาหมูนอนตองมาไหว้ ทำเฉพาะเวลาบน ทำทุกวัน หรือทุกครั้งที่ใช้งาน
    2.หมูสุกจะสุกด้วยวิธีไหนก็ได้ใช่มั้ยครับ
    3.ใช้หมูชิ้นเดียวหรือหลายชิ้น ขนาดไหน
    4.ที่ว่าไปวางทาง 3 แพร่ง วางไว้ตรงไหนของทาง 3 แพร่งหรอครับ(ริมทาง กลางถนน หรือตรงไหน ไม่ทราบจริงๆครับ)
    5.แล้วถ้าไม่สามารถไปวางทาง 3 แพร่งได้จะทำอย่างไร

    ป.ล. จองเหรียญบาตรน้ำมนต์เจ้าขรัวเเสงกับสมิงพระกาฬตวาดฟ้าอย่างละ 1 ครับ ขอโอนสิ้นเดือนนะครับ (เมื่อคืนฝันว่ามีวัตถุมงคลที่เป็นเสือ แล้วลองอธิษฐานให้ปรากฏออกมาเป็นเสือจริงๆดู พอออกมาเป็นลูกเสือดำ น่าจะเพศเมีย :cool::cool::cool:)
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,134
    ค่าพลัง:
    +16,534
    ตอบรวบๆนะครับ หมูนอนตอง คือชิ้นเนื้อหมูวางบนใบตอง ส่วนมากจะใช้เป็นหมูต้มครับ แล้วก็ส่วนใหญ่จะวางเเค่ชิ้นเดียว นึกภาพตามนะ คือตัดใบตองมาเป็นรูปสี่เหลี่ยมเล็กๆ เเล้วก็เอาเนื้อหมูต้มสุกมาวาง ปกติจะใช้ชิ้นขนาดเล็กหรือใหญ่ มันก็ขึ้นอยู่กับคนไหว้ไม่ได้กำหนดไว้เเต่เเนะนำว่าอย่าเล็กจนน่าเกลียด

    ส่วนในกรณีให้วางทางสามเเพร่งนั้น เพราะเนื้อหมูที่ไหว้เเล้ว อะไรก็ตาม หากไม่ใช่เทพเจ้าหรือพระเนี่ยไม่สมควรนำกลับมากิน เราถือคติที่ว่าของเหลือจากพระหรือเทพเจ้าที่เราเคารพเนี่ยเอากลับมากินได้หลังจากไหว้เสร็จจะเป็นของมงคลอธิษฐานก่อนกินให้รักษาโรคเวรโรคกรรมได้ เเต่นอกเหนือจากนั้นไม่ควรนำมากิน

    ในกรณีวางทางสามแพร่งส่วนใหญ่นะ เมื่อเจอทางสามเเพร่งจะนิยมวางไว้ตรงมุมใดมุมหนึ่งเท่านั้นแล้วหันหลังเดินกลับเลย ไม่ต้องไปวางกลางถนนอะไรแบบนี้ เอาเเค่วางชิดมุมอย่าให้คนเดินเหยียบก็พอ ถ้าวางทางสามเเพร่งไม่ได้ใช้ลอยน้ำเอาก็ได้

    อีกกรณีหนึ่งคือควรทำเมื่อรับมา ถือคติเลี้ยงเขาให้อิ่มให้คุ้นเคยกับเรา เเล้วต่อจากนั้นก็พิจารณาตามความเหมาะสมว่าเราอยากจะให้ช่วงไหนบอกกล่าวตกลงกันเอาเอง หรือจะให้ช่วงที่บนบานศาลกล่าวเเละสำเร็จก็ได้ บอกกับเขาให้ชัดๆก่อน น่าจะตอบครบเเละครอบคลุมคำถาม ถ้าข้ามอะไรไปก็ถามอีกรอบนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2015
  4. Natnoiz

    Natnoiz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +263
    ทำแบบนี้ได้มั้ยครับ ปกติตักแยกอาหารที่เรากินให้สมิงพระกาฬ แล้วเวลาบนค่อยให้หมูนอนตอง ถ้าได้อาหารที่เราตักแบ่งก็ต้องไว้ที่ทาง 3 แพ่งด้วยหรือป่าวครับ
     
  5. oomdi

    oomdi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    405
    ค่าพลัง:
    +1,261
    สงสัยด้วยครับ ว่าถ้าได้สมิงพระกาฬมาต้องตั้งชื่อไหมครับ เวลาบนเวลาเรียกใช้งานจะได้เรียกชื่อ หรือว่าให้เรียกสมิงพระกาฬหรือเรียกท่าน แบบวัตถุมงคลประเภทอื่นไปเลย
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,134
    ค่าพลัง:
    +16,534
    ความรู้วันละนิด (ภาวนา)

    จากที่พูดค้างไว้ในคราวก่อน ถึงบุญที่จะทำให้ได้เป็นเทวดา อันได้แก่บุญกิริยาวัตถุ 3 ประการ วันนี้ก็จะกล่าวถึงเรื่องสุดท้าย ในเรื่องของการภาวนา

    ภาวนามัย ก็คือการทำบุญชำระจิตใจให้สะอาด ด้วยการฝึกอบรมจิตให้มีพื้นฐานประกอบด้วยบุญ

    คนเราเมื่อพูดถึงการภาวนามักจะนึกถึงการทำสมาธิ ซึ่งก็มิผิด เพราะการทำสมาธิเจริญภาวนานั้นก็เป็นวิธีอบรบจิตชำระจิตเช่นกัน ซึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็กล่าวยืนยันไว้เเล้ว ว่า"ภิกษุทั้งหลายจงเจริญสมาธิ เพราะเมื่อภิกษุมีจิตตั้งมั่นเเล้ว สิ่งทั้งปวงย่อมปรากฏตามความเป็นจริง"

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญ ท่านเรียกสิ่งนี้ว่าสัมมาสมาธิ ซึ่งก็แปลง่ายๆว่า มีจิตตั้งมั่นชอบตามที่สมเด็จพระผู้มีพระภาคท่านสอนไว้

    ซึ่งการปฏิบัติสัมมาสมาธินั้น ก็เพื่อใช้เป็นฐานเป็นกำลังของปัญญาซึ่งมีความจำเป็นเมื่อเราจะใช้พิสูจน์ค้นหาความเป็นจริงทั้งหลาย รวมไปถึงการเข้าถึงเทวโลกเเละพรหมโลกชั้นต่างๆ

    วันนี้จะกล่าวกันถึงเรื่องสัมมาสมาธิ พ่ออาจารย์ท่านเเยกเเยะไว้ว่าองค์ประกอบที่มารวมกันเป็นสัมมาสมาธิก็คือฌานนั่นเอง

    หากกล่าวถึงฌานนั้น หลายๆคนอาจมองว่ายากแต่ท่านว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยาก ใครก็สามารถเข้าออกฌานกันได้ทุกคน เพราะฌานนี้คือภาวะหนึ่งของดวงจิตที่เพ่งอารมณ์หนึ่งๆจนแน่วแน่ ซึ่งฌานในสัมมาสมาธินี้ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่ารูปฌาน มีอยู่ 4 ระดับ คือ
    - ปฐมฌาน
    - ทุติยฌาน
    - ตติยฌาน
    - จตุตถฌาน

    ซึ่งการปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงสมาธิก็นับเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะขั้นตอนนั้นมีหลากหลายมาก ต้องดูที่อุปนิสัยของผู้ปฏิบัติ ซึ่งเเต่ละคนนั้นย่อมไม่เหมือนกัน ด้วยสิ่งมีชีวิตต่างๆนั้น มีจริตเป็นของตัวเอง วันนี้เราจึงมาเรียนรู้กันเรื่องจริตเสียก่อน เรียกว่าจริยา 6 อันประกอบด้วย
    1. ราคจริต คนประเภทนี้คือคนที่มีพฤติกรรมหนักไปทางราคะมาก กล่าวคือเป็นคนรักสวย รักงาม ชอบการเเต่งตัวประดับประดา คนประเภทนี้จะเหมาะกับการเจริญอสุภกรรมฐานและกายคตาสติ
    อสุภกรรมฐาน คือการฝึกจิตโดยจับจ้องพิจารณาสิ่งที่ไม่งาม ไม่เจริญหูเจริญตาทั้งหลาย เช่นพิจารณาซากศพในสภาพต่างๆตั้งเเต่ตาย ใกล้เน่า เน่าเฟะ ไล่เรียงไปตามลำดับ
    กายคตาสติ วิธีนี้คือการพิจารณากายตน พิจารณาถึงสิ่งไม่งามไม่เจริญหูเจริญตาทั้งหลายในร่างกายตน ในอวัยวะต่างของร่างกายไล่พิจารณาไปทีละชนิด

    2. โทสจริต คนประเภทนี้คือคนเจ้าอารมณ์ มักโกรธหรือโมโหง่าย ใจร้อน หงุดหงิด ฉุนเฉียว เกรี้ยวกราด การปฏิบัติสมาธิ จึงควรใช้การฝึกด้วยพรหมวิหารและกสิณ
    พรหมวิหาร คือการอบรมอารมณ์พื้นฐานแห่งตนเองให้อยู่ในคุณธรรม 4 ประการ ประกอบด้วย
    - เมตตา มีความรักใคร่ มีไมตรีจิตต่อผู้อื่น
    - กรุณา มีความเอื้อเฟื้อ ความสงสาร เห็นอกเห็นใจผู้อื่น ให้ความอนุเคราะห์เกื้อกูลช่วยเหลือกัน
    - มุทิตา มีความยินดีชื่นชมผู้อื่น เมื่อเก็นเขาไปได้ดีประสบความสำเร็จ
    - อุเบกขา วางใจให้เป็นกลางยุติธรรมมั่นคงปราศจากความลำเอียง
    กสิณ หมายถึงดวงวัตถุ วิธีนี้เหล่าพระเกจิคณาจารย์เเต่โบราณมักนิยมใช้กัน โดยใช้การเพ่งสิ่งหนึ่งสิ่งใด เพื่อชักจูงจิตใจให้มั่นคงจนเกิดอารมณ์ที่เป็นสมาธิขึ้นมา ซึ่งกสิณนั้นมีอยู่ 10 ประเภท ได้แก่
    - ปฐวีกสิณ คือกสิณดิน หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่กับธาตุดิน
    - อาโปกสิณ คือกสิณน้ำ หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่กับธาตุน้ำ
    - เตโชกสิณ คือกสิณไฟ หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่กับธาตุไฟ
    - วาโยกสิณ คือกสิณลม หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่กับธาตุลม
    - นีลกสิณ คือกสิณสีเขียว หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่กับวัตถุที่มีสีเขียว
    - ปีตกสิณ คือกสิณสีเหลือง หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่กับวัตถุที่มีสีเหลือง
    - โลหิตกสิณ คือกสิณสีแดง หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่กับวัตถุที่มีสีเเดง
    - โอทาตกสิณ คือกสิณสีขาว หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่กับวัตถุที่มีสีขาว
    - อาโลกกสิณ คือกสิณแสงสว่าง หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่กับวัตถุที่ส่องแสงสว่าง
    - อากาสกสิณ คือกสิณความว่างเปล่า หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่ช่องว่างเเละความว่างเปล่า

    3. โมหจริต บุคคลประเภทนี้เป็นคนที่มีอุปนิสัยหลง งมงาย ซึ่งการปฏิบัติสมาธิจะต้องใช้วิธี อานาปานสติและสุตะ
    อานาปานสติ เป็นการฝึกความรู้สึก โดยกำหนดความรู้สึกตัวให้ติดอยู่กับลมหายใจ หายใจเข้าก็รู้สึก หายใจออกก็รู้สึก
    สุตะ หมายถึงการรับฟังด้วยการเรียนการถามเอาความรู้จากผู้มีปํญญาสูงส่งพอจะชี้แนะตนได้

    4. สัทธาจริต คนประเภทนี้คือคนที่ขี้ใจอ่อน เชื่อคนง่าย การปฏิบัติสมาธิจะต้องเลือกด้วยวิธิถือเอาอนุสสติ
    อนุสสติ เป็นการปฏิบัติเพื่อเกื้อกูลจิตใจ ซึ่งมีหลายวิธีมาก ทั้งพุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ สีลานุสติ จาคานุสติ เทวตานุสติ ต้องใช้สิ่งเหล่านี้เป็นอารมณ์กรรมฐาน

    5. พุทธิจริต คนเหล่านี้มีปกติวิสัยเป็นคนช่างคิด ช่างพิจารณาไตร่ตรอง ช่างซักถามชอบเหตุผล การปฏิบัติสมาธิของคนเหล่านี้จะต้องใช้วิธี มรณสติ อุปสมานุสติ จตุธาตุวัฏฐาน
    มรณสติ คือการระลึกถึงความตายว่าสามารถเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ สิ่งมีชีวิตมีความตายได้ทุกกาลทุกเมื่อ ไม่เเน่นอน เกิดได้ทุกทั่วตัวสรรพสัตว์แม้กระทั่งกับตัวเราเอง
    อุปสมานุสติ คือการระลึกถึงธรรมผูกใจอยู่กับธรรมอันเป็นเครื่องระงับกิเลสเเละความทุกข์ทั้งหลาย
    จตุธาตุวัฏฐาน เป็นการพิจารณาธาตุทั้ง 4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่จะประกอบขึ้นมาเป็นร่างกาย พิจารณาไปว่าสิ่งมีชีวิตนั้น เกิดมาเเล้วเป็นอย่างไร เกิดมาเเล้วรับภาระอะไรบ้าง ตอนดับเป็นอย่างไร พิจารณา พิจารณาลงไป ให้เห็นความแปรปรวนความเป้นไปต่างๆนานา ที่เป็นเช่นนี้อย่างไร เพราะอะไร

    6. วิตกจริต บุคคลประเภทนี้คือคนที่เป็นคนเจ้าคิด วิตกกังวล ฟุ้งซ่านอยู่เเต่ในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ยังไม่เกิดขึ้น กับสิ่งที่ล่วงผ่านไปแล้วแก้ไขไม่ได้ การฝึกสมาธิของคนประเภทนี้ต้องใช้วิธีอานาปานสติ และกสิณแบบต่างๆตามลักษณะอารมณ์
    อานาปานสติ เป็นการฝึกด้วยการเล่นลมหายใจเป็นการฝึกความรู้สึก โดยกำหนดความรู้สึกตัวให้ติดอยู่กับลมหายใจ หายใจเข้าก็รู้สึก หายใจออกก็รู้สึก หลักอานาปานสตินั้นเป็นการอบรมลมหายใจให้มีคุณภาพเเละมีความละเอียดประณีตสม่ำเสมอ ซึ่งวิธีนี้เป็นการพัฒนากำลังเเห่งจิตให้ถึงสมาธิได้ดีที่สุด จิตมีกำลังมากที่สุด มีความประณีตไปได้ไกลที่สุด คุณลักษณะที่เด่นที่สุดของอานาปานสตินั้น คือการอบรมจิตให้ระลึกได้คือมีสติ ไปสู่ขั้นที่จิตมีความมั่นคงมีกำลังบริสุทธิ์คือสมาธิพร้อมที่จะทำงานด้วยความหยั่งรู้ปรากฏการณ์ต่างๆอย่างเเจ้งชัดตามความเป็นจริงคือปัญญา
    กสิณ หมายถึงดวงวัตถุ วิธีนี้เหล่าพระเกจิคณาจารย์เเต่โบราณมักนิยมใช้กัน โดยใช้การเพ่งสิ่งหนึ่งสิ่งใด เพื่อชักจูงจิตใจให้มั่นคงจนเกิดอารมณ์ที่เป็นสมาธิขึ้นมา ซึ่งกสิณนั้นมีอยู่ 10 ประเภท ได้แก่
    - ปฐวีกสิณ คือกสิณดิน หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่กับธาตุดิน
    - อาโปกสิณ คือกสิณน้ำ หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่กับธาตุน้ำ
    - เตโชกสิณ คือกสิณไฟ หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่กับธาตุไฟ
    - วาโยกสิณ คือกสิณลม หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่กับธาตุลม
    - นีลกสิณ คือกสิณสีเขียว หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่กับวัตถุที่มีสีเขียว
    - ปีตกสิณ คือกสิณสีเหลือง หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่กับวัตถุที่มีสีเหลือง
    - โลหิตกสิณ คือกสิณสีแดง หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่กับวัตถุที่มีสีเเดง
    - โอทาตกสิณ คือกสิณสีขาว หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่กับวัตถุที่มีสีขาว
    - อาโลกกสิณ คือกสิณแสงสว่าง หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่กับวัตถุที่ส่องแสงสว่าง
    - อากาสกสิณ คือกสิณความว่างเปล่า หมายถึงการทำอารมณ์ให้เพ่งจดจ่ออยู่ช่องว่างเเละความว่างเปล่า

    ซึ่งขั้นตอนต่างๆ ทั้ง 6 ลักษณะของจริตมนุษย์นั้น เป็นสิ่งที่ผู้จะเรียนสมาธิทำกรรมฐานควรรู้ไว้เพื่อจะได้ใช้เป็นเเนวทางฝึกปฏิบัติให้ถูก ด้วยการสังเกตุตนเอง ว่าเป็นบุคคลเช่นไร ตรงกับจริตประเภทไหน ควรจะฝึกสมาธิด้วยวิธีใด ทั้งนี้ก็เพื่อความเจริญก้าวหน้าของสมาธิตนเองนั่นเอง จะได้ไม่กล่าวได้ว่าฝึกอยู่เเต่หาความเจริญขึ้นมิได้ตามลำดับ

    วันนี้ก็จะจบเรื่องสมาธิไว้เเต่เพียงเท่านี้เเล้วครั้งต่อไปก็จะมาต่อภาค 2 กัน ยังไม่จบนะครับติดตามกันต่อ อ่านเเละจดจำไว้ หากเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็อย่าได้ละเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2015
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,134
    ค่าพลัง:
    +16,534

    เหมือนจะเเจ้งไว้เเล้วว่าไม่ต้องเลี้ยงเเบบกุมารทอง ไม่รู้ว่าลืมพิมพ์รึเปล่า คนละชนิดกัน เพราะฉะนั้นชื่อหรือเรียกกินนั้นไม่จำเป็น การเรียกกินให้เรียกตอนบนกับตอนนำไปครั้งเเรกก็พอ ส่วนการเรียกขานนั้นจะเรียกว่าพ่อเสือ พี่เสือ หรือพ่อสมิง ก็เเล้วเเต่ตามที่เราจะเรียก แต่หากอยากตั้งชื่อจริงๆเเล้วก็อธิษฐานบอกกล่าวเขาเสียเเต่ในครั้งเเรกว่าเราจะเรียกเขาว่าอะไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2015
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,134
    ค่าพลัง:
    +16,534
    สมิงพระกาฬ

    ต้องบอกว่ามีคำถามเข้ามาเรื่อยๆจริงๆ เห็นว่าเป็นประโยชน์จึงเเจ้งไว้ให้ทราบ
    - สมิงพระกาฬนั้นสามารถพกเข้าได้ทุกที่รวมถึงที่อโคจร
    - หากไม่ประสงค์จะห้อยคอจะนำมาทำสายคล้องเอวหรือทำเป็นพวงกุญเเจก็ได้ ไม่มีข้อห้ามว่าต้องห้อยคอเสมอไป
    - เวลาไว้หมูนอนตอง ให้จุดธูป16ดอก ปักไว้ที่เนื้อหมู หรือหาที่ปักดีๆก็ได้
     
  9. อรหโตพุทโธ

    อรหโตพุทโธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2015
    โพสต์:
    498
    ค่าพลัง:
    +1,017
    พระสำเร็จทันใจกรอบพลาสติกที่เลี่ยมกันน้ำ ร้าว แตก เป็นริ้วๆ โดยเฉพาะตรงบาตร
     
  10. ยอดกตัญญู

    ยอดกตัญญู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +329
    ที่ได้บูชาไป เจ้าขรัวแสงของผมเพิ่งเลี่ยมไม่นานกรอบพลาสติดหนาก็ปะทุร้าวๆเหมือนกัน
     
  11. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ขอแจ้งยกเลิกการจองสมิงพระกาฬครับ
    เนื่องจาก คิดดูแล้วน่าจะไม่ใช่แนวผมครับ

    เดี๋ยวรอดูของที่เหมาะใจมากกว่าครับ
    ต้องขออภัยด้วยครับ
     
  12. Natnoiz

    Natnoiz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +263
    สาบานเสียงสูง (สาบ๊าน) ความน่าเชื่อถือลดลง 80% ครับ 555555+
     
  13. ธัญญ์นิธิ

    ธัญญ์นิธิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,794
    ค่าพลัง:
    +6,030
    ขอร่วมบุญ พระขุนแผนพรายกุมารบูชาครู (ครูใหญ่ท่านยานาค) 1 องค์ครับ
     
  14. chaiwatana

    chaiwatana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +279
    บูชาพระขุนแผน 1 องค์
     
  15. Natnoiz

    Natnoiz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +263
    จองพระขุนแผนพรายกุมารบูชาครู และขอยกเลิกการจองสมิงพระกาฬครับ เนื่องจากงบจำกัด
     
  16. sos1234

    sos1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2011
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,131
    ขอจองร่วมบุญ พระขุนแผนพรายกุมารบูชาครู 1 องค์ครับ
     
  17. PeacE123

    PeacE123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    3,179
    ค่าพลัง:
    +2,485
    ร่วมบุญ พระขุนแผนพรายกุมารบูชาครู (ครูใหญ่ท่านยานาค) 1 องค์ครับ
     
  18. อรหโตพุทโธ

    อรหโตพุทโธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2015
    โพสต์:
    498
    ค่าพลัง:
    +1,017
    ขอร่วมบุญ ขุนแผนพรายกุมารบูชาครู 1 องค์
    ***ปล.ขอยกเลิกการจองสมิงพระกาฬ กับ ขรัวแสงก่อนนะครับ.งบจำกัดเช่นกันครับ...
     
  19. THATCHAKON

    THATCHAKON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,248
    ค่าพลัง:
    +3,250
    ขอจองขุนแผน 1 องค์ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2015
  20. ยอดกตัญญู

    ยอดกตัญญู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +329
    ขอสอบถามครับ
    ตะกรุดที่บูชามาคราวก่อน ที่พี่แนะนำผมว่าเป็นตะกรุดไตรมาสปีก่อนชื่อตะกรุดอะไรครับ พอดีเลี่ยมไว้เเล้วให้น้าเอาไปบูชานึกว่าเป็นของทางเสน่ห์แต่น้ากลับถูกหวยทั้งๆที่ไม่เคยถูกเขาบอกผมว่าฝันเห็นกษัตริย์ตัวเขียวๆเอานิ้วมาจิ้มที่หน้าผากลากมือเป็นตัวเลขเขาก็ไปแทง
    ตามที่รู้สึกแล้วเขาบอกผมว่าเขาไม่ค่อยได้แขวนส่วนมากจะถอดใส่พานไว้ ทุกวันโกนวันพระมักจะมีเเสงสว่างส่องออกมาจากพานประจำคนในบ้านก็เห็นกันเกือบทุกคน ผมจำได้ว่าเป็นตะกรุดเปล่าๆไม่มีอุดผงอะไร จำได้แค่พี่บอกว่าพ่อครูท่านเสกไตรมาสแต่ชื่อจำไม่ได้ ถ้ามีคาถาบูชาผมขอด้วยนะครับกำลังจะขอกลับมาอาราธนาเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...