วัตถุมงคลสายอธุยา สุพรรณบุรี..หลวงพ่อปาน หลวงพ่อสละ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อื่นๆ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย benay, 1 กันยายน 2008.

  1. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,210
    ค่าพลัง:
    +15,490
    เหรียญรุ่นแรก

    หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดศาลาปูน

    สวยครับ คงไม่ต้องบรรยายมากครับ หลวงพ่อท่านอายุ 90 กว่า เกือบร้อยแล้วครับผม หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อมให้ความเคารพหลวงพ่อท่านมากครับ

    ราคา 2,000 บาท พร้อมส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_5180.JPG
      IMG_5180.JPG
      ขนาดไฟล์:
      128.1 KB
      เปิดดู:
      118
    • IMG_5181.JPG
      IMG_5181.JPG
      ขนาดไฟล์:
      119.4 KB
      เปิดดู:
      70
  2. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,210
    ค่าพลัง:
    +15,490
    เก๊เพียบ หายาก มากพุทธคุณ

    พระขุนแผนเคลือบ หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ

    ผสมผงเก่าพระขุนแผน วัดใหญ่ชัยมงคลมากที่สุด

    หายาก เก๊ดี แต่ดูง่าย แยกได้ครับ


    พระขุนแผนที่มีผงกรุเก่าของวัดใหญ่ชัยมงคลมากที่สุด และประวัติการสร้างชัดเจนมากที่สุด เพราะมีการบันทึกไว้อย่างแจ่มแจ๋ว เดี๋ยวนี้หาของแท้ชมยากเต็มทีครับ มีรุ่นนี้รุ่นเดียวที่แทนของเก่าได้สบาย. ของเก่าถ้าไหวก็แค่ สองล้านไม่น่าเกิน ห้าล้านบาท แต่ของไหม่แบบขุนแผนเคลือบวัดพระญาตินี้ปี 2496 ราคาหลักหมื่นครับ.....พระมหานิยมที่ปรากฎชื่ออยู่ในใบประวัติการสร้างก็คือ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม ที่ละสังขารไปเมื่อไม่นานมานี้ และอีกองคืหนึ่ง พระเฉลิม ก็คือหลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ ผู้สืบสายตำราวัดพระญาติ องค์ปัจจุบันที่ท่านยังทรงสังขารอยู่ ลองไปสอบถามท่านได้ครับ เพราะหลวงพ่อเฉลิมท่านอยู่ในเหตุการณ์การสร้าง ท่านเคยบอกว่า พระขุนแผนวัดใหญ่ที่แตกหักมีจำนวนถึง 5 บาตรพระครับ พิธีปลุกเสกยิ่งใหญ่ หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ หลวงพ่อจงวัดหน้าต่างนอก ปลุกเสกให้อย่างดีเยี่ยม แค่ผงพระกรุเก่าก็มากเกินบรรยาย......เก๊ดีนะครับไม่เป็นอย่าเสี่ยง โดนกันจุกมามาก ก่อนเช่าหาดูให้ดีๆครับ องค์นี้ดูง่ายเบสิคครับ ประกันแท้ ตลอดชีวิตนี้ .....เอกสานอ้างอิงการสร้าง ที่วัดพระญาติมีติดให้อ่านนะครับของทางวัด......


    สวยมากครับ พิมพ์แขนอ่อน

    ราคา 14,500 บาทพร้อมส่ง



    ..................

    เช่าแล้วครับ

    ................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2012
  3. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,210
    ค่าพลัง:
    +15,490
    เหรียญรุ่นแรก ปี 2509

    หลวงพ่อวงศ์ วัดศาลาลอย

    อยุธยา ของดีมากประสบการร์ครับ ประวัติท่านหาอ่านได้ในเวปไซด์ทั่วไป

    รุ่นแรกหาชมยากมากครับ

    ราคา 3,500 บาท พร้อมส่ง





    ......

    เช่าแล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2012
  4. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,210
    ค่าพลัง:
    +15,490
    เมื่อเอ่ยชื่อ "พระหลวงพ่อโต วัดบางกระทิง" นักเล่นพระทุกยุคทุกสมัยต่างก็รู้จักมักคุ้นกับชื่อนี้เป็นอย่างดีเพราะกิตติศัพท์ ด้านอยู่ยงคงกระพัน จนคนโบราณให้สมญานามอีกชื่อหนึ่งว่า "พระคงกระบอง" ประกอบกับมีพระแตกกรุจากกรุนี้รวมถึงกรุอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีผู้รู้จักพระหลวงพ่อโตอย่างแพร่หลายพระหลวงพ่อโตเป็นพระศิลปะอยุธยาตอนต้น องค์พระล่ำสัน
    พระพักตร์โต จึงเรียกกันติดปากมาว่า "หลวงพ่อโต" นอกจากที่วัดบางกระทิงแล้วยังมีขึ้นอีกหลายกรุใน จ.อยุธยา รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ด้วยแต่ที่นิยมมากที่สุดและเป็นต้นแบบที่แท้ ต้องกรุวัดบางกระทิง มีด้วยกัน 2 พิมพ์คือ พิมพ์สมาธิและพิมพ์มารวิชัย มีด้วยกัน 2 เนื้อ คือ เนื้อดินและเนื้อชิน แต่นิยมเล่นหาเนื้อดินมากกว่า ในด้านพุทธคุณนั้นท่านเชื่อมั่นได้เลยว่าสามารถบูชาคู่กาย เพื่อหวังพึ่งพุทธคุณได้ 100 % เพราะจากอดีตจนถึงปัจจุบัน "แมลงวันยังไม่เคยได้ดื่มเลือดผู้ที่ใช้หลวงพ่อโตคู่กายเลย" แต่ด้านเมตตาก็มีไม่น้อย เรียกว่าครบเครื่อง ครับ

    พระกรุบางกระทิง พิมพ์มารวิชัย


    สภาพสวยล่ำบึ๊กครับ ดูง่ายสบายตาแบบ ไม่ต้องส่องแท้ตาปล่าวครับ


    พุธคุณสมัยปู่ย่าตายานิยมอย่างมากเพราะเป็นพระเครื่องที่มีประสบการด้านคงกระพันอย่างยอดเยี่ยมจึงได้รับฉายาว่า "พระทนกระบอง"


    เหมาะเอาไว้เป็นองค์ครูในการพิจารณาเนื้อพระครับ ศิลปะอยุธยาบริสุทธิ์ น่าสะสมครับ


    ราคาเบาๆ 3500 บาท

    สมกับคำว่า ''อมตะพระกรุ''ครับ


    รับประกันความแท้ตามมาตรฐานสากล รับประกันไม่อุด ไม่มีซ่อมครับ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_5197.JPG
      IMG_5197.JPG
      ขนาดไฟล์:
      99.5 KB
      เปิดดู:
      121
    • IMG_5198.JPG
      IMG_5198.JPG
      ขนาดไฟล์:
      117.2 KB
      เปิดดู:
      91
  5. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,210
    ค่าพลัง:
    +15,490
    ..............


    รูปหล่อโบราณ

    หลวงพ่อพิณ วัดมะขามโพลง

    อยุธยา


    รูปหล่อโบราณรุ่นเดียว รุ่นแรก ฐานสูง หายากมากครับ.....หลวงพ่อพิณ วัดมะขามโพลง.....ท่านมีพรรษาอยู่ในสมัยหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ หลวงพ่อพิณท่านค่อนข้างจะไม่ค่อยเปิดตัวในเรื่องของขลังมากนัก ที่ว่าไม่เปิดตัวคือความดังของท่านนั้นคับท้องถิ่น แต่ไม่กระจายออกนอกท้องที่มากนัก หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง ยังเป็นลูกศิษย์ของท่าน ถ้าจะกล่าวถึงประสบการร์นั้นก็มิได้ยิ่งหย่อนเรื่อง มหาอุตม์ และเหนียวเน้นๆ ตามแบบฉบับพระบ้านทุ่งภูธร ที่ไม่เหนียว ไม่อุด จะดังยาก แต่บังเอิญว่าท่านทั้งเหนียวทั้งอุตม์ เลยดัง และคนท้องถิ่นหวงกันมากทีเดียว.......


    พิมพ์ฐานสูง หายากครับสวยเดิมๆ


    ราคา สอบถามครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,210
    ค่าพลัง:
    +15,490
    พระเนื้อดิน หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว

    พิมพ์ทรงนก

    สภาพสวยเชียวครับ

    ไร้คำบรรยาย ชองเก่ามากประสบการณ์ พระไหม่ๆแพงกว่าเยอะ

    ราคา 2,700 ประกันแท้ตลอดชีพ พร้อมส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ฮคตส.jpg
      ฮคตส.jpg
      ขนาดไฟล์:
      803.6 KB
      เปิดดู:
      89
    • ฮชข.jpg
      ฮชข.jpg
      ขนาดไฟล์:
      877.8 KB
      เปิดดู:
      42
  7. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,210
    ค่าพลัง:
    +15,490
    เหนียวนำหน้า หลวงพ่อแพ วัดโตนด 2486

    เหรียญพระอธิการแพรุ่นแรก


    วัดโตนด อยุธยา ปี 2486


    สุดยอดพระคณาจารย์มหาอุดหยุดลุกปืนอีกท่านครับส่วนมากพระคณาจารย์เก่าๆสายอยุธยาถ้าไม่เหนียวจริงไม่สร้างวัตถุมงคลให้ประจานตัวเองเป็นแน่ครับ เพราะสมัยก่อนนั้น คนจริงเยอะ ไม่ใช่เล่นๆแบบสมัยนี้ เขาลองกันจริง ฟันจริง ยิงจริง และถ้าหลวงพ่อท่านไม่แน่จริง คงจะไม่เล่นหากันมาจนทุกวันนี้นับได้หลายสิบปีครับ เป็นพระท้องที่ภูธร ที่รับรองได้ว่าแจ่มแจ๊ว ไม่แพ้พระหลักก้แล้วกัน เหรียญรุ่นนี้เป็นเหรียยเก่าที่น่าเก็บอีกเหรียญนึงของสายอยุธยาที่กำลังจะออกสู่ส่วนกลางครับ

    หายากครับ

    นานๆมาที ราคา ...3,900.... บาท พร้อมส่ง



    ปิดให้พี่ j999 ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ฮยบ.jpg
      ฮยบ.jpg
      ขนาดไฟล์:
      103.4 KB
      เปิดดู:
      90
    • ฮยบล.jpg
      ฮยบล.jpg
      ขนาดไฟล์:
      92.3 KB
      เปิดดู:
      89
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2013
  8. su_sopa

    su_sopa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,708
    ค่าพลัง:
    +546
    รวย รวย รวย ตลอดปี 56 นี้เทอญcatt3​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,210
    ค่าพลัง:
    +15,490


    รวยได้ครึ่งอาจารย์ต้อใผมก้ดีใจแล้วครับ อิอิ สาธุ
     
  10. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,210
    ค่าพลัง:
    +15,490
    ปีไหม่อันสดใส 2556 นี้ ขออาราธนาบารมีแห่งพระสมเด็จองค์ปฐมอัปปมาโณ บารมีแห่งพระพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ในภัทรกัปนี้ ครู พระอุปัชฌาย์ อาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พี่ๆ เพื่อนๆ เคารพบูชา หลวงพ่อทรง หลวงพ่อพัก หลวงพ่อนุ่ม หลวงพ่อกุ่ม หลวงพ่อเต่า หลวงพ่อภู และครูบูรพาจารย์เมืองอ่างทอง จงช่วยประทานพร ขอให้พี่ๆพบแต่ความสุข พบแต่สิ่งดีๆ. ปราศจากสิ่งแล้วร้ายทั้งปวง ด้วยเทอญ. สาธุ. สวัสดีปีไหม่ครับผม...........เบ็น วิเศษฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,210
    ค่าพลัง:
    +15,490
    หลวงปู่ทวด หลวงปู่หมุนครับ


    เนื้อดำเข้ม มีแร่ประปราย

    องค์จริงสวยกว่ารูปครับ

    1800 บาท พร้อมส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ฮ45.jpg
      ฮ45.jpg
      ขนาดไฟล์:
      88.8 KB
      เปิดดู:
      65
    • ฮ44.jpg
      ฮ44.jpg
      ขนาดไฟล์:
      90.3 KB
      เปิดดู:
      90
  12. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,968
    ค่าพลัง:
    +5,381
    ขอจองตามpmครับ------
     
  13. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,210
    ค่าพลัง:
    +15,490
    รับทราบครับผม ขอบคุณครับ
     
  14. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,968
    ค่าพลัง:
    +5,381
    ได้โอนเงิน เมี่อ ๔มค. เวลาประมาณ๑๓.๑๒น. เป็นค่าพระ ๑.รายการที่อยู่ดูในpmครับ
     
  15. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,210
    ค่าพลัง:
    +15,490
    รับทราบครับผม ขอบคุณครับ
     
  16. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,210
    ค่าพลัง:
    +15,490
    ข้อมูลประวัติหลวงปู่ไข่ ธัมมรังสี

    เกิด วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ.2430 ณ บ้านเลน เป็นบุตรของ นายกอน-นางอิ่ม คล้ายสุบรรณ

    อุปสมบท อายุ 21 ปี ณ วัดโบสถ์ อ.สองพี่น้อง

    มรณภาพ ปี 2515

    หลวงพ่อไข่ เกิดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2430 ตรงกับวันพุธ ขึ้น 8 ค่ำ เดือนอ้าย ปีกุน บ้านบางเลน ตำบลกฤษณา
    อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตร นายกอน นางอุ่ม มารดาของหลวงพ่อไข่เป็นชาววัง เป็นผู้แสดงละครอยู่ในวังบูรพา (ต่อมากลายเป็นโรงภาพยนตร์ และเป็นย่านการค้าอันโอ่อ่าแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ) ท่านเบื่อชีวิตการแสดงจึงลาออกมาจากวัง มาอยู่กับญาติที่บ้านบางเลน
    ขณะนั้นบิดาของหลวงพ่อไข่ กำลังเป็นหนุ่มรุ่นคะนองเป็นนักต่อสู่ตัวฉกาจของท้องที่นั้น ไม่เคยโกงใคร แต่ใครโกงไม่ได้ เคยต่อสู้กับนักเลงหัวไม้ต่างถิ่นอย่างถึงพริกถึงขิง อันเป็นแบบฉบับของชีวิตลูกทุ่ง เมื่อสังคมกับเหล่านักเลงก็ไม่เว้นที่จะหันเข้าหาสิ่งเสพติด เหล้ายาปลาปิ้งแม้แต่ฝิ่น
    บิดาของหลวงพ่อไข่เรียนรู้อย่างเจนจบ แต่แปลกหาได้ติดเหมือนเพื่อนๆ ก็หาไม่บุพเพสันนิวาสให้มาแต่งงานกับหญิงชาววัง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของชั่วเลิกหมดอย่างเด็ดขาด ไม่หวนกลับไปแตะต้องมันอีกเลย
    ที่นาของบิดาหลวงพ่อไข่อยู่ที่บ้านบางทองหลาง ห่างจากบ้านมาก ถึงเวลาทำนาจะต้องอพยพครอบครัวไปทำนาทำไร่ที่บางทองหลาง บิดาของหลวงพ่อไข่ทำงานด้วยความขยันขันแข็ง ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค มารดาก็ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ลืมชีวิตที่เคยสุขสบายในวัง คิดว่าอยู่ทุ่งนาอันเวิ้งว้าง มีแต่สายลมกับแสงแดด ไม่มีสิ่งอะไรที่จะให้ความรื่นรมย์ได้เลย ท่านไม่เคยบ่นแม้แต่น้อย ช่วยเป็นแรงงานได้เป็นอย่างดี ผิวเริ่มคล้ำเพราะต้องกรำแดดกรำฝน แต่หาได้ปริปากอะไรแม้แต่น้อยไม่
    เมื่อคลอดบุตรออกมาก็ทำหน้าที่แม่บ้านที่ดี ทั้งเลี้ยงลูกและทำงานหาได้ย่อท้อไม่ มีทายาทคลานตามกันมาถึง 7 คน คือ
    1. นายสั้น คล้ายสุบรรณ
    2. นายขาว คล้ายสุบรรณ
    3. หลวงพ่อไข่ ธมฺมรงฺสี
    4. นางโม คล้ายสุบรรณ
    5. นางวอน คล้ายสุบรรณ
    6. นายโฉม คล้ายสุบรรณ
    7. นายจิ๋ว คล้ายสุบรรณ
    หลวงพ่อไข่ ถึงแม้จะเป็นบุตรคนที่ 3 แต่มีความคิดดี ทำงานด้วยความขยันขันแข็ง เวลาทำงานต้องทำอย่างจริงจัง
    ทำเหลาะๆ แหละๆ ไม่ได้ พี่ๆ น้องๆ เมื่อมาช่วยกันไถนาจะต้องไถให้เต็มคันนาจึงจะหยุดได้ ไม่ยอมให้ทำครึ่งๆกลางๆ เป็นการแสดงให้เห็นถึงนิสัยเอาการเอางานและเอาจริงเอาจัง จึงทำให้บิดา-มารดารักใคร่หลวงพ่อไข่เป็นอันมาก ให้ความไว้วางใจได้ด้านการทำงานเป็นอย่าวดี
    จากการทำงานอย่างไม่ย่นย่อ ทำให้ฐานะของครอบครัวหลวงพ่อไข่ดีกว่าหลายๆ ครอบครัวในตำบลนั้น แต่เป็นที่น่าเสียดายหลวงพ่อไข่ไม่ได้เรียนหนังสือตั้งแต่เล็กๆ จึงทำให้หลวงพ่อไข่ไม่รู้หนังสือเลย
    3. อุปสมบท
    เมื่อหลวงพ่อไข่ อายุได้ 21 ปี ตรงกับ พ.ศ. 2451 บิดามารดาเห็นว่าหลวงพ่อไข่ ควรจะได้อุปสมบทตามประเพณีและ
    เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณบิดามารดา จึงไปอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดโบสถ์ ดอนลำแพน ตำบลบางตาเถร อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมี พระอาจารย์สน เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ ดอนลำแพน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์พรหม วัดบางเลน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ส่วนพระอนุสาวนาจารย์จำไม่ได้ อุปสมบทแล้วหลวงพ่อไข่มาจำพรรษาที่วัดบางเลนอันเป็นวัดถิ่นกำเนิดของท่าน
    4. การศึกษาภาวะ
    ดังได้กล่าวมาแล้วว่าหลวงพ่อไข่ไม่ได้อยู่วัด จึงไม่ได้เรียนหนังสือ ทำอย่างไรหลวงพ่อจึงจะท่องบทสวดมนต์ได้หลวงพ่อไม่ยอมงอมืองอเท้าเริ่มเรียนหนังสือไทยกับ หลวงพ่อเอี่ยม ทันที เพราะต้องการจะท่องบทสวดมนต์หรือเจ็ดตำนานให้ได้ หากไม่เรียนหนังสือก็ยากที่จะท่องได้
    ท่านจึงตั้งหน้าตั้งตาเรียนหนังสือไทยอย่างจริงจังชนิดหามรุ่งหามค่ำ เวลาเมื่อนอนท่องหนังสือเกรงว่าจะนอนหลับง่ายๆ จึงไปเสาะหากะลามะพร้าวมาใบหนึ่งที่มีก้นแหลมเอามาทำเป็นหมอนหนุน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้หลับง่ายๆ เป็นการทรมานตัวเองเพื่อจะอ่านหนังสือให้ออก
    ดูจะเป็นเรื่องที่ออกจะเหลือเชื่อสักหน่อย ในไม่ช้าหลวงพ่อไข่ก็อ่านหนังสือออกได้ในเวลาอันรวดเร็ว และเป็นสิ่งที่น่าประหลาดไม่น้อย หลวงพ่อไข่สามารถที่จะท่องบทสวดมนต์เจ็ดจำนานได้อย่างคล่องแคล่วไม่ผิดพลาด
    พอออกพรรษาหลวงพ่อยังไม่คิดจะลาสิกขา หลวงพ่อเฝ้าท่องบ่นปาฏิโมกข์รวมทั้งสิบสองจำนานด้วยความแม่นยำ การท่องบทปาฏิโมกข์หลวงพ่อไข่ใช้ต่อเอาจากหลวงพ่อเอี่ยม ท่านต่อให้วันละ 2-3 แผ่นใบลาน หลวงพ่อไข่เอาไปท่องทั้งวันทั้งคืน พอรุ่งขึ้นท่านก็ท่องได้ไปขอต่อกับหลวงพ่อเอี่ยม
    จนกระทั่งหลวงพ่อเอี่ยมสงสัยอุทานออกมาว่า "อะไรว่ะ เพิ่งต่อไปเมื่อวานนี้เอง ท่องได้แล้วหรือ" สงสัยจึงถามว่าท่านท่องบทปาฏิโมกข์ที่ต่อไปเมื่อวันวานและอันก่อนๆ ได้แล้วหรือ
    หลวงพ่อไข่ตอบว่า ได้แล้วครับ หลวงพ่อเอี่ยม จึงบอกว่า " ไหน ลองท่องให้ดูหน่อยซิ " แล้วหลวงพ่อก็ท่องบทปาฏิโมกข์เท่าที่ต่อมาให้หลวงพ่อเอี่ยมฟัง โดยไม่มีการติดขัดเลยแม้แต่น้อย ยังความแปลกใจให้แก่หลวงพ่อเอี่ยมเป็นอันมาก
    ทั้งนี้ย่อมเป็นการแสดงว่าสมองของหลวงพ่อไข่มีความอัจฉริยะเพียงใด ความจำดีเยี่ยม ในไม่ช้าหลวงพ่อไข่ก็มีความสามารถเรียนได้ทั้งหนังสือไทย และหนังสือขอม พูดแล้วไม่น่าเชื่อหลวงพ่อไข่กับเป็นกำลังสำคัญในการสอนหนังสือใหญ่ (ขอม) ให้แก่พระภิกษุสามเณรที่บวชใหม่ต่อไป
    ทางด้านวิปัสสนากรรมฐาน หลวงพ่อไข่มีความสนใจเป็นอันมาก เล่าเรียนจากหลวงพี่เอี่ยม และ หลวงพ่อสน เพราะความจำของท่านเป็นเลิศ จึงทำให้ท่านเรียนได้ไม่ยากนัก
    สำหรับหลวงพ่อสนนั้นท่านมีความสามารถเป็นพิเศษสามารถใช้พลังจิตตึงต้นซุงให้เคลื่อนไหวตามของท่านมาอย่างง่ายดาย โดยมิได้ออกแรงดึงเท่าใดนัก เป็นสิ่งน่ามหัศจรรย์
    หลวงพ่อไข่ จำพรรษาที่วัดบางเลนเรื่อยมา เรื่องคิดจะลาสิกขานั้นมิได้คิดเลยแม้แต่น้อย หลวงพ่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาวัดเนอย่างยิ่งจนเป็นที่กล่าวขวัญประชาชนให้ความเคารพนับถือรักใคร่พรดะภิกษุหนุ่มเป็นอันมาก หลวงพ่อเคร่งครัดต่อระเบียบวินัยสงฆ์เป็นอย่างยิ่ง จึงทำให้วัดมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
    จวบจนกระทั่งอาจารย์ของท่านล่วงลับไปหมด ไม่มีเจ้าอาวาสคณะสงฆ์จึงแต่งตั้งให้หลวงพ่อไข่ขึ้นรักษาการในจำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางเลน เมื่อ พ.ศ. 2470 และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสในการต่อมา
    " ไม่ได้อยู่วัด ไม่ได้เรียนหนังสือ จึงไม่รู้หนังสือ
    " พออุปสมบทเริมเรียนหนังสือ สมองดี รู้ไว
    " พรรษาแรกท่องเจ็ดตำนานได้คล่องแคล่ว
    " พรรษาสองท่องปาฏิโมกข์ไม่ผิดพลาด
    " สร้างเสนาสนะโดยไม่มีการเรี่ยไร เงินของท่านมีเท่าไหร่สร้างวัดหมด

    วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยม

    เหรียญรุ่น 1 และรุ่น 2 ของท่านสร้างในปีเดียวกัน คือ พ.ศ.2502 เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อข้อศอกจะกางมาก มีสร้างเฉพาะเนื้ออัลปาก้าเท่านั้น

    เหรียญรุ่น 3 สร้างปี 2509 เฉพาะเนื้ออัลปาก้าเท่านั้น

    ส่วนเครื่องรางของขลัง มีผ้ายันต์ เสื้อยันต์ ตะกรุดโทน ขนาดความยาว 3.5-4 นิ้ว มีเนื้อทองแดงและเนื้อตะกั่วไม่มีการถักเชือก

    พุทธคุณที่เล่าสืบทอดกันมา

    วัตถุมงคลของท่านเด่นทางคงกระพันชาตรี และมหาอุตม์ ยิงไม่เข้า





    เหรียญดีที่ไม่ต้องการแรงเชียร์ ของคนท้องที่นับถือและเคารพหลวงพ่อท่านสุดๆ

    เหรียญบล็อค ม สั้นครับ ประสบการณ์แน่นมากครับ ผมลงพื้นที่มาเอง คนท้องที่หวงมาก เหรียญรุ่นแรกปี 2502 สวยๆหลักแสน เป็นเหรียญเบอร์ 1 ของบางปลาม้าครับ


    สวยครับ บล็อคนี้หายาก ราคากำลังขยับ

    3500 บาท พร้อมส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,210
    ค่าพลัง:
    +15,490
    เหรียญรุ่น 3

    หลวงพ่อเพชร วัดนนทรีย์

    เหรียญรุ่นนี้เหรียญประสบการร์ดี แถมหายากมากเสียด้วยครับ

    ไม่เจอมานาน

    สวยจี๊ดเดิมๆครับ


    2500 บาทพร้อมส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_5339.JPG
      IMG_5339.JPG
      ขนาดไฟล์:
      119 KB
      เปิดดู:
      46
    • IMG_5340.JPG
      IMG_5340.JPG
      ขนาดไฟล์:
      134 KB
      เปิดดู:
      40
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2013
  18. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,210
    ค่าพลัง:
    +15,490
    เหรียญหล่โบราณในตำนาน ที่หาชมยากมาก

    หลวงพ่อม่วง วัดโบสถ์

    หลวงพ่อม่วง วัดโบสถ์ คนอยุธยา ยิ่งเป็นแถบ มหาราช บางปะหัน จะทราบกันดีว่าท่านเป็นเกจิยุคโบราณ เป็นพระอาจารย์ใหญ่แถบนั้นหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติท่านก็นับถือหลวงพ่อม่วงมาก แม้แต่ก๋งจาบ สุดยอดฆารวาสอีกองค์หนึ่งของอยุธยาผู้สืบสายวิชาสายวัดประดูทรงธรรม ยังต้องพายเรือมาเรียนวิชา เป้นประจำ ข้อมูลอันนี้มิได้แต่งเขียนมาให้ท่านเวียนหัวและขายของ เพราะผมมิได้ขาย แต่เอามาให้ท่านได้เชยชมกัน หลายท่านตีเป้นที่โน่น ที่นี่ ความจริงแล้วเหรียยหล่อสองหน้าแบบนี้ จำลักษณะให้ดีครับ มีที่นี่ที่เดียวคือ วัดโบสถ์ แห่งอำเภอมหาราช แห่งนี้ และยิ่งเป้นการยืนยันซ้ำเข้าไปอีก เพราะว่ามีการทำรูปเหรียญหล่อแบบนี้ออกมาอีกหลายครั้ง โดยการปั๊ม เชื่อมหู (ของเก่าจะเป็นหล่อโบราณ) จัดสร้างโดยพระครูประจักษ์สุตคุณ ประมาณปี 2495 ซึ่งท่านมีความนับถือในบารมีแห่งองคืหลวงพ่อเป้นอย่างมาก จึงได้จัดสร้างขึ้นมา หลวงพ่อม่วงท่านเป้นพระอาจารย์ใหญ่ในแถบมหาราชนี้ และเหรียญหล่อของท่านได้จัดสร้างขึ้นจาการประมาณการของคนท้องถิ่น น่าจะประมาณ 2450 ปลายๆ ถึง 2460 ต้นๆ เหรียญลักษณะนี้มีอีกหลายสำนัก แต่ไม่เหมือนกันในรายละเอียด ถือเป็นเหรียญที่หาชมของจริงยากยิ่งครับ ส่วนมากที่พบไม่ใช่ที่นี่ แต่เป็นที่อื่น อย่าถามว่าคนท้องถิ่นนับถือท่านมากขนาดใหน เอาเป้นว่า นับถือท่านกันมาเกินร้อยปี จากรุ่นสู่รุ่น ท่านจะเชื่อผมไหม..........


    ด้านล่างนี้เป็นข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม

    วัดโบสถ์ (มหาราช) ตั้งอยู่เลขที่ ๕๓ บ้านไทย หมู่ที่ ๔ ตำบลมหาราช สร้างขึ้นเป็นวัดตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. ๒๒๒๐ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ ๔๘ ไร่ ๘๖ ตารางวาพื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่มอยู่ริมแม่น้ำลพบุรี อาคารเสนาสนะต่าง ๆ มี อุโบสถกว้าง ๗ เมตรยาว ๑๕.๕๐ เมตร ศาลาการเปรียญกว้าง ๑๔ เมตร ยาว ๒๔ เมตร เป็นอาคารไม้ หอสวดมนต์กว้าง ๘.๕๐ เมตร ยาว ๑๕.๕๐ เมตร เป็นอาคารไม้ กุฎีสงฆ์ จำนวน ๗ หลัง เป็นอาคารไม้สำหรับปูชนียวัตถุมีพระประธานในอุโบสถ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. ๒๒๒๕วัดโบสถ์แห่งนี้มีพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่ง นามว่าหลวงพ่อม่วง ในปี พ.ศ. ๒๔๓๕ หลวงพ่อม่วงได้เป็นเจ้าอาวาส ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ปฏิบัติวิปัสสนารักษาศีล ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดเก่งในทางคาถาอาคมอยู่ยงคงกระพัน ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง

    ด้านล่างนี้เป้นข้อมูลของ อาจารย์เมธี ไทยนิกร อีกผู้หนึ่งที่ล้วงลึกเรื่องราวของเกจิอาจารย์แบบ ลงพื้นที่จริงทำจริง และท่านทำด้วยความมุ่งมั่นครับ

    อนึ่ง เพื่อความเข้าใจอันดี จึงขอแทรกไว้ตรงนี้สักเล็กน้อยว่า หลวงพ่อม่วง วัดประดู่ทรงธรรม เป็นคนละองค์กับ หลวงพ่อม่วง วัดโบสถ์ อดีตเจ้าคณะแขวงนครใหญ่ (หรือ อ.มหาราช ในปัจจุบัน) ทั้งยังเป็นคนละรุ่นกันอีกต่างหาก เนื่องจาก หลวงพ่อม่วง องค์หลัง เพิ่งจะถึงมรณภาพเมื่อ พ.ศ.2475 (ขณะมีอายุราว 105 ปี) แต่ หลวงพ่อม่วง องค์แรกเข้าใจว่าน่าจะวายชนม์ไปตั้งแต่ก่อน พ.ศ.2420 ดังกล่าวแล้ว

    มูลเหตุที่ทำให้ใครบางคนสับสนนั้น น่าจะเนื่องมาจาก หลวงพ่อกลั่น ก็ได้ชื่อว่าเป็นศิษย์ หลวงพ่อม่วง องค์หลัง ซึ่งขอเรียกว่า หลวงพ่อม่วงเล็ก เพื่อความเข้าใจอันดี เพราะมีคำบอกเล่ากันสืบมาว่า หลวงพ่อกลั่น ได้ไปศึกษาวิชากรรมฐานกับท่านองค์นี้ หลังจากที่อุปสมบทแล้วเป็นประจำ ซ้ำยังมีเค้าเงื่อนที่ชวนให้เชื่อว่า ก่อนหน้านั้น หลวงพ่อม่วง เล็ก ก็เคยมาเล่าเรียนกับ หลวงพ่อม่วง ใหญ่ ที่ วัดประดู่ทรงธรรม (รุ่นไล่เลี่ยกับ หลวงพ่อศรี) หรือหากจะพูดอีกทีก็คือ หลวงพ่อม่วง เล็ก เป็นลูกศิษย์ของ หลวงพ่อม่วง ใหญ่ ไม่เช่นนั้นก็ต้องมีความสัมพันธ์ทางใดทางหนึ่งกับ วัดประดู่ทรงธรรม อยู่ดี เรื่องที่ช่วยสนับสนุนเรื่องนี้ให้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ก็คือกรณีของ อาจารย์จาบ สุวรรณ ลูกศิษย์ของท่าน หลวงพ่อม่วง เล็ก ซึ่งมาเป็นอาจารย์สอนกรรมฐานประจำสำนัก วัดประดู่ทรงธรรม แต่กระนั้นก็ยังเทียวไปเทียวมาระหว่างวัดที่ว่าเป็นประจำ (โดยใช้เรือต่อเป็นทั้งพาหนะและที่พักอาศัย คล้ายกับกรณีของ อาจารย์เฮง ไพรวัลย์ ที่ดูเหมือนจะชอบอยู่เรือมากกว่าอยู่เรือน)

    ผู้ที่เล่าเรื่องนี้ให้ฟังคือ นายผิว เฉลิมจันทร์ (ปัจจุบันอายุ 94 ปี) หลานของ หลวงพ่อเล็ก (ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลวงตา เพราะเป็นพี่ของยาย) โดย ลุงผิว คนนี้เล่าว่า เวลาที่ อาจารย์จาบ ไปหา หลวงพ่อม่วง ครั้งใด มักจะใช้บริเวณหน้าบ้าน กำนันเงื้อม (ซึ่งอยู่เยื้องวัดโบสถ์ขึ้นไปเล็กน้อย) เป็นที่จอดเรือทุกครั้ง โดยในระหว่างที่ยังพักอยู่ที่นั่น มักจะไปนั่งกรรมฐานกับ หลวงพ่อม่วง (เล็ก) ในโบสถ์แทบทุกคืน จึงถือเป็นศิษย์ฆราวาสที่ใกล้ชิดกว่าใคร เพราะฝักใฝ่ในเรื่องกรรมฐานเหมือนอาจารย์ไม่ผิด

    สำหรับ อาจารย์จาบ ท่านนี้ คงจะทราบกันดีอยู่แล้วกระมังว่า นอกจากจะเป็นตา (แท้ๆ) ของ หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม ซึ่งกำลังมีชื่อเสียงโด่งดังอยู่ในปัจจุบัน ยังเป็นอาจารย์ของ หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราฯ หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง หลวงพ่อแทน วัด (สร้อยฟ้า) ธรรมเสน และใครต่อใครอีกหลายองค์หลายคน

    อนึ่ง ไหนๆ ได้เอ่ยถึง หลวงพ่อม่วง (เล็ก) ขึ้นมา ก็น่าจะกล่าวถึงประวัติของท่านสักเล็กน้อยเป็นไร แม้จะน่าเสียดายว่าค่อนข้างมืดมนเลือนรางเต็มที แต่ก็คงจะดีกว่าปล่อยให้สูญหายไปตามกาลเวลากระมัง

    ประวัติ (สังเขป) ของท่านมีอยู่ว่า โยมบิดา-มารดาเป็นชาวนา ตั้งบ้านเรือนอยู่ในพื้นที่บ้านไทย แขวงนครใหญ่ เมืองกรุงเก่า ไม่ไกลจากวัดโบสถ์นัก เกิด เมื่อราว พ.ศ.2371 (แก่กว่า หลวงพ่อกลั่น ประมาณ 20 ปี) ถึงมรณภาพเมื่อ พ.ศ.2475 ถือเป็นพระเถระประเภท รัตตัญญู (หรือรู้ราตรี) องค์หนึ่งของวงการคณะสงฆ์เมืองกรุงเก่าในสมัยนั้น ที่สำคัญชาวบ้านในพื้นที่ยังนับถือศรัทธาอย่างมาก เนื่องจากไม่เพียงแค่มีตำแหน่งทางการปกครอง สูงถึงระดับเจ้าคณะแขวง (หรือเจ้าคณะอำเภอ) เท่านั้น แต่ปฏิปทาของท่านยังน่าเลื่อมใส โดยเฉพาะในเรื่องความมักน้อยสันโดษ ไม่ยึดติดกับลาภยศหรืออามิสต่างๆ อย่างเช่นกรณีที่ชอบอยู่กุฏิหลังเล็กที่มุงด้วยจาก มากกว่ากุฏิไม้สักหลังใหญ่ เวลาใครไปหาแต่ละทีแทบจะไม่มีที่ให้แขกนั่งพูดคุย

    ( ย่อจาก ลานโพธิ์ ฉบับที่ 1041 เดือนกุมภาพันธ์ 2553 )


    ราคา xx,xxx บาท พร้อมส่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. gunnnose

    gunnnose เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +155
    สอบถามพี่เบนได้ไหมครับ
    ขุนแผนหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ มีพิมพ์แบบนี้ไหมครับ
    องค์นี้เป็นอย่างไรครับ
    องค์นี้เป็นพระของผมเองครับ เต็มที่เลยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. benay

    benay เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    12,210
    ค่าพลัง:
    +15,490

    ตอบให้แล้วครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...